วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557
แม่ผมอ้วน 4
สักพักแม่ได้สวมชุดนอนสั้นแค่เข่าสีชมพูบางเบาและคว้านคอค่อน ข้างลึกเดินลงมาจากห้องนอน กลิ่นกายแม่หอมกรุ่นไปทั้งตัวจากครีมบำรุงผิวและแป้งฝุ่นหอม แม่ลงมานั่งเคียงข้ามผม ตอนนั้นดึกมากแล้วราว ๆ ตี 2 แต่ผมไม่รู้สึกง่วงเลย ยิ่งแม่มานั่งใกล้ ๆ ยิ่งทำให้ผมใจเต้นตูมตาม มันรู้สึกเหมือนหญิงสาวที่ผมแอบชอบนั่งลงข้างๆ เลยครับ ผมมือสั่นโดยไม่รู้ตัว แต่ก็พยายามระงับความตื่นเต้นเอาไว้ เมื่อก่อนผมไม่เคยรู้สึกกับแม่อย่างนี้มาก่อนเลย นับตั้งแต่ที่ผมมีโอกาสได้แอบดูแม่อาบน้ำ แล้วยิ่งได้เห็นแม่ช่วยตัวเองเมื่อสักครู่ยิ่งทำให้จิตใจผมปั่นป่วนยิ่งขึ้น ผมยอมรับว่าผมอยากมี “อะไร” กับแม่ของผมมาก แม่คือนางฟ้าและนางในฝันของผมจริง ๆ แม่ขยับตัวมานั่งเบียดชิดกับผม กลิ่นกายของแม่โชยเข้าจมูกผมเต็ม ๆ ผมแอบสูดเข้าไปอย่างเต็มปอดด้วยความชื่นใจ หน้าอกอวบใหญ่ของแม่เบียดสีอยู่ที่แขนขวาของผมเบา ๆ แม่มองหน้าผมแล้วยิ้มก่อนจะถามผมว่า “เป็นไงจ๊ะ ดูหนังอยู่เหรอ แม่ดูด้วยคนนะ” ผมสบตาแม่ “ได้ครับ แล้วแม่ไม่ง่วงเหรอ ดื่มมามาก แถมอ้วกขนาดนั้น ไม่เพลียเหรอครับ”
“ไอ้เพลียก็เพลียอยู่หรอก ยังมึนหัวอยู่นิดหน่อยด้วย แต่แม่อยากคุยกับลูกมากกว่า พักนี้เราไม่ค่อยได้คุยกันเลย” .... “ครับแม่....ผมก็มัวแต่ยุ่ง ๆ เรื่องเรียน ส่วนแม่ก็งานเยอะ หาเวลาที่คุยกันจริง ๆ จัง ๆ แทบไม่มี” แม่ยิ้ม “แล้วลูกมีเรื่องอะไรคุยกับแม่หรือเปล่าล่ะ” ผมอ้ำอึ้ง แต่ตัดสินใจถามแม่ไปว่า “ที่แม่พูดเมื่อสักครู่นี้ที่บอกว่าอยากให้ผมดูแลแม่ตลอดไปน่ะ แม่หมายความว่าอย่างไรครับ เพาะผมรู้สึกว่าแม่พูดแปลก ๆ ผมเป็นลูกแม่ก็ต้องดูแลแม่ตลอดไปอยู่แล้ว เรามีกันแค่ 2 คน ผมจะทิ้งแม่ไปได้อย่างไร”
“ก็เพราะเรามีอยู่กันแค่ 2 คนน่ะซิจ๊ะ แม่ถึงบอกให้ลูกดูแลแม่ตลอดไป ตอนนี้ลูกก็โตเป็นหนุ่มขึ้นทุกัน แม่กลัวลูกจะไปติดเพื่อนฝูงจะทอดทิ้งแม่ให้อยู่คนเดียว แม่เหงารู้มั้ยจ๊ะลูกรัก” ผมมองหน้าแม่แล้วบอกแม่ไปว่า “ผมไม่มีวันทอดทิ้งให้แม่เหงาอยู่กับบ้านคนเดียวหรอกครับ เรื่องเพื่อนผมก็คบกันตามปกติ มีเที่ยวเตร่กันบ้างในวันหยุด แต่ผมสัญญาว่าผมจะไม่เสเพลติดเพื่อน ติดอบายมุข ทำให้แม่เดือนร้อนหรือเสียใจแน่นอนครับ”
แม่ยิ้มให้ผม น้ำตาแม่รื้นเอ่อมาจากดวงตาทั้งสอง “ขอบคุณมากค่ะลูก ขอบคุณมากค่ะคนดี” แล้วแม่ก็ดึงร่างผมเข้าไปโอบกอดซบลงกับอกอวบคู่นั้น กลิ่นกายของแม่ช่างเย้ายวนใจเหลือเกิน ใบหน้าผมเบียดอยู่กับเต้าที่หยุ่นนิ่ม พลันสายตาผมก็เห็นว่าแม่ไม่ได้สวมเสื้อใน เพราะเต้านมใหญ่อวบของแม่ทั้งสองข้างนั้นมันกลมกลึงปรากฏชัดเจนอยู่ใต้เนื้อ ผ้าชุดนอนที่บางเบานั้น โดยไม่มีรอยเป็นรูปเสื้อในดันขึ้นมาอย่างที่ควรจะเป็น ที่สำคัญหัวนมแม่ทั้ง 2 ข้างมันชูชันดันขึ้นมาเป็นเม็ดอย่างเด่นชัด มังกรน้อยผมตื่นอีกแล้ว ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะพ่นพิษไปเมื่อสักครู่นี้เอง
ใจผมอยากจะก้มลงไปดูดเสีย ให้รู้แล้วรู้รอด และอยากจะเอามือไปบีบ ไปบี้ ขยี้ขยำให้หนำใจ แต่ก็ไม่กล้า มันไม่ยากหรอกการที่จะขืนใจแม่ เพราะเราอยู่กันเพียง 2 คน แต่ผมไม่อยากเอาพฤติกรรมของสัตว์ป่ามาใช้กับแม่ อีกทั้งจิตใตสำนึกมันย้ำเตือนว่านี่คือแม่ของผม ถ้าท่านไม่ยินยอมพร้อมใจมันจะทำให้เรา 2 คน มองหน้ากันไม่ติด แล้วจะเกิดเป็นปัญหาใหญ่ต่อไปในภายหน้า แต่ถ้าท่าน “ยอม” ด้วยความสมัครใจ....มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะในใจของผมมันร่ำร้องอยู่แล้ว ความรู้สึกของผมจึงขัดแย้งกันเอง ใจหนึ่งก็คิดว่านี่คือแม่นะ อีกใจหนึ่งก็อยากให้แม่ “ยอม” ให้ผมได้มีอะไรกับท่าน มันคงจะมีความสุขมากทีเดียวถ้าเป็นจริง
ผม กระชับกอดรัดเอวให้มาชิดกับตัวผมมากขึ้น ใบหน้าเบียดกับเต้านมของแม่อย่างแนบแน่น แม่ก็ลูบหัวผมเบา ๆ มันสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น และความรักที่เต็มเปี่ยม ผมแกล้งเลื่อนแขนขึ้นมาสูงขึ้นจนท่อนแขนด้านบนเสียดสีกับเต้าทั้งสองของแม่ อยากจะเลื่อนให้ขึ้นไปถึงหัวนมแต่ใจมันไม่กล้า “ผมรักแม่จังเลยครับ” แม่หัวเราะเบา ๆ จนนมกระเพื่อม “แม่ก็รักลูกจ๊ะ” สักพักผมสังเกตุเห็นว่าหัวนมของแม่แข็งชูชันดันขึ้นมานอกผ้าเด่นชัดขึ้น นี่แสดงว่า.....แม่มีอารมณ์ร่วมกับการกระทำของผมกระนั้นหรือ...? ไม่รู้เข้าข้างตัวเองหรือเปล่านะ
ผมแกล้งเลื่อนใบหน้าขึ้นไปซบหัวไหล่ แม่ จมูกผมจึงห่างต้นคอของแม่เพียงไม่กี่เซนติเมตร ผมพ่นลมหายใจอุ่น ๆ ไปที่ซอกคอแม่เบา ๆ แล้วค่อย ๆ เลื่อนปากไปประทับที่ซอกคอของแม่ ขนที่แขนของแม่ลุกตั้งชันอย่างเห็นได้ชัด ผมจุ๊บปากที่ซอกคอแม่ แล้วก็เลื่อนขึ้นไปหอมแก้มแม่ ไล่มาที่ใบหู ผมได้ยินเสียงแม่กัดฟัน แม่คงมีอารมณ์กับการกระทำของผมจริง ๆ นั่นแหละ ผมเริ่มย่ามใจ และคิดไปไกลว่าความฝันผมอาจจะเป็นจริง ผมเอาจมูกซุกไซ้ที่ซอกคอแม่อีกครั้ง แม่แหงนคอเชิดให้ผมทำได้สะดวก แม่กอดผมแรงขึ้น ผมมองไปที่ชายเสื้อคลุมตอนนี้มันถลกขึ้นมาจนเห็นต้นขาอวบของแม่ ผมจึงเอามือวางแปะที่ต้นขาขาวอวบนั้นพร้อมกับลูบไล้เบา ๆ แม่เกร็งขาบิดไปมาเล็กน้อย ผมจูบที่แก้มแม่หนัก ๆ มือผมเลื่อนเข้าไปในชุดนอนช้า ๆ
แต่ทันใดนั้น..... สวรรค์ของผมก็มีอันพังทลายลงไป เพราะแม่เอามือมาตะปบมือผมที่กำลังเลื้อยเข้าไปหาร่องสวรรค์อันโหนกนูนของ แม่ แล้วก็ผละออกห่างจากผมไป แม่หน้าแดงซ่านแต่ไม่ได้ดุหรือว่าอะไรผม แม่เอ่ยขึ้นว่า “แม่รู้สึกง่วงและเพลียมากเลย แม่ว่าแม่ขึ้นไปนอนดีกว่า ลูกก็ควรนอนได้แล้วมันดึกมากแล้วนะ” ...... “ครับแม่.....” ผมทำเสียงอ่อย ๆ ก็แหม กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย แม่มาหยุดอารมณ์ของเราทั้งคู่เสียได้ น่าเสียดายจริง ๆ แต่ผมคิดว่าแม่คงจะหักห้ามใจตัวเองอย่างหนัก เพราะถ้าปล่อยใจให้เคลิ้มตามอารมณ์แม่ต้องเสร็จผมแน่
แม่ลุกขึ้นแล้ว ดึงผมให้ลุกตาม “ไป...ไปนอนได้แล้วคนดี” แม่เดินไปปิดโทรทัศน์ ผมยังคงเหลือบตามองตามเรือนร่างของแม่ สะโพกแม่ผายใหญ่และหนาน่าฟัดจริง ๆ ขณะที่แม่ก้มลงไปถอดปลั๊กโทรทัศน์นั้น ผมสังเกตเห็นว่าชุดนอนของแม่เปียกเป็นดวงใหญ่ที่บริเวณก้น แสดงว่า.....แม่มีน้ำหล่อลื่นของ “ความกำหนัด” หลั่งออกมา แม่เกิดอารมณ์กับผม ไชโย...ผมแอบดีใจเงียบ ๆ เพราะมันหมายถึงว่าผมมีโอกาสที่จะได้ทำ “อะไร” กับแม่อย่างที่ฝันจริง ๆ
“ไป ขึ้นห้องนอนได้แล้ว” แม่เดินมาที่ผมแล้วโอบที่เอวผมให้เดินขึ้นบันไดด้วยกัน ผมก็โอบกอดแม่ นมแม่เบียดชิดกับตัวผมอีกครั้ง ผมแกล้งเอามือแปะไปที่สะโพกผายใหญ่ของแม่ ซึ่งแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนเจ้ามังกรน้อยองผมดันกางเกงตุงขึ้นมาเป็นลำ แต่ผมไม่ได้ปกปิดจากสายตาของแม่ เพราะผมตั้งใจให้แม่เห็น ซึ่งผมเชื่อว่าแม่ก็คงเห็นอย่างถนัดตาด้วย พอขึ้นมาชั้นบนก็ถึงห้องนอนแม่ก่อน แม่บอกว่า “แม่มีความสุขมากที่ลูกเป็นห่วงเป็นใยแม่ขนาดนี้ แม่หวังว่าลูกจะทำให้แม่มีความสุขมากกว่านี้อีกนะ”
“ครับ ผมให้สัญญา” แม่ยิ้ม “ขอบใจอีกครั้งจ๊ะ โอเค ราตรีสวัสดิ์นะจ๊ะ พ่อหนุ่มน้อย” แม่เขย่งมาหอมแก้มผมดังฟอด ผนเลยฉวยโอกาสกอดแม่แล้วหอมแม่บ้าง ผมกอดรัดแม่แน่นจนนมแม่เบียดกับแผงออกของผม ที่สำคัญผมจงใจให้เจ้ามังกรน้อยบดเบียดกับหน้าท้องของแม่ด้วย
แม่รีบ ผละออกแล้วทุบอกผมเบา ๆ “คนบ้า....” แม่ก้มหน้าเหมือนกับจะอาย ๆ เล็กน้อย แล้วรีบเข้าห้องปิดประตูทันที ผมยืนยิ้มอย่างกระหยิ่มใจว่า คงอีกไม่นาน อีกไม่นานคงจะสมหวังแน่แล้วเรา คืนนั้นผมเข้าห้องไปชักว่าวโดยนึกถึงภาพของแม่ที่ช่วยตัวเอง กลิ่นกายของแม่ เต้านมของแม่ สะโพกของแม่ และเนินสวรรค์ของแม่ สรุปว่าผมชักไป 3 ทีติด ๆ กัน หลับสบายรวดเดียวยันเช้าเลยครับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น