วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

รักในวัสสานะ (Love in Rainy season) จบ

ระยะทางจากสระว่ายน้ำไปยังบ้านของทั้งคู่ไม่ไกลนัก แสงจากหลอดไฟทางส่องเป็นช่วง ๆ สลับกับความสลัวของฟ้าที่เริ่มมืดลงในเวลาทุ่มกว่า ๆ
“พี่ต้น...” เสียงน้องสาวซึ่งนั่งซ้อนเอ่ยเรียกพร้อมกับโอบเอวและซบแก้มเข้ากับแผ่นหลังของพี่ชาย
“มีอะไรเหรอปลาย”
“หนูมีความสุขจัง รู้มั๊ยหนูไม่อยากให้รีบถึงบ้านเลย”
“อย่างนี้พี่ก็เมื่อยขาแย่สิ ปั่นยังไงก็ไม่ถึงบ้าน” พี่ชายพูดแหย่ทั้ง ๆ ที่ใจก็รู้สึกเช่นเดียวกันโดยแสดงออกจากการที่เค้าขี่จักรยานไปตามทางอย่างเชื่องช้า
“พี่ต้น...”
“อือ...”
“ตอนที่อยู่ในสระว่ายน้ำ... พี่ต้นรู้สึกยังไงเหรอ”
“...............” ต้นหนาวตอบไม่ได้กับคำถามที่ได้รับ ความรู้สึกมันช่างยากที่จะอธิบาย
“หนูรู้สึกเหมือนเรา 2 คนกำลังจะเป็นคน ๆ เดียวกัน จะไม่แยกจากกันอีก” มันเป็นคำพูดที่หาความรู้สึกใดมาเปรียบไม่ได้อีกแล้ว
“ปลาย... พี่รักปลาย พี่จะดูแลปลาย พี่จะดูแลแม่ เราจะไม่แยกจากกัน”
“หนูรักพี่ต้นที่สุดในโลกเลย” เสียงใส ๆ กับความรู้สึกถึงน้ำที่ไหลออกจากตาซึมเข้ากับเสื้อจนเปียกแผ่นหลังของต้นหนาว
“พี่ก็รักปลาย” สิ้นเสียงไม่ทันได้ถึง 30 วินาที รถจักรยานก็เข้ามาจอดในบ้าน 2 พี่น้องเดินขึ้นบ้านโดยที่สายชลไม่ทันได้สังเกตเห็นหรือได้ยินเพราะมัวแต่ยุ่งกับการทำกับข้าว

<--------------->

ปลายฝนซึ่งอยู่ในชุดว่ายน้ำมีผ้าขนหนูพาดบ่าเดินเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ชั้น 2 เพื่ออาบน้ำเหมือนทุกครั้ง ผ้าขนหนูถูกแขวน แต่เมื่อเธอกำลังจะปิดประตูกลับมีแรงผลักเล็กน้อยจากด้านนอก
“อ้าว... พี่ต้น ทำอะไรหนูจะอาบน้ำ” ปลายฝนเอียงหน้ามองผ่านช่องประตูที่เกือบจะปิดลง
“ชู่ววว...” เด็กหนุ่มยกนิ้วชี้ปิดปากตัวเองเป็นสัญญาณให้เธอเงียบอย่าเสียงดัง พร้อมกับแทรกตัวเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตูอย่างเบามือพร้อมกับแขวนผ้าขนหนูไว้ข้าง ๆ กัน
“อะไรเหรอพี่ต้น” น้องสาวคนดีถามหน้าตาตื่น
“เปล่าหรอก พี่แค่อยากอาบน้ำด้วย”
“โถ่ นึกว่ามีเรื่องอะไร”
“อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวแม่ก็ได้ยินหรอก”
“อ๋อ จริงด้วย” ปลายฝนพยักหน้าพูดกับตัวเองท่าทางคล้อยตาม
“แต่... เอ๋ แล้วหนูจะอาบยังไงล่ะ หนูก็โป๊หมดสิ หนูอายนะ” เด็กสาวฉุกคิดพูดพลางขมวดคิ้วแล้วยกแขนขึ้นบังหน้าอกตัวเอง
“นี่แหนะ... ในสระว่ายน้ำไม่เห็นอาย” ต้นหนาวพูดพร้อมใช้มือตีหน้าผากน้องสาวเบา ๆ
“ก็ในนี้มันสว่างนี่หน่า” เด็กสาวก้มหน้าพูดท่าทางเขินอาย
“ไหน... มา... ขอพี่กอดหน่อย” โดยไม่รอฟังคำตอบใด ๆ ต้นหนาวใช้ 2 มือโอบเข้ากับเอวที่คอดกิ่วพร้อมดึงร่างอันบอบบางเข้าหาตัว ไออุ่นจากพี่ชายช่างทำให้เด็กสาวมีความสุขนัก สมองเหมือนลืมเรื่องทุกอย่าง 2 มือของเธอยกขึ้นกอดรับความรักที่เธอตามหามาแสนนาน เพียงได้อยู่ในอ้อมกอดนี้ไม่กี่วินาทีแต่มันเหมือนจะลบรอยความทุกข์ที่ต้องเผชิญมากว่า 2 ปีไปจนหมดสิ้น ต้นหนาวเชยคางน้องสาวขึ้น สายตาทั้ง 2 ประสานกันอย่างลึกซึ้งเกินกว่าจะบรรยาย ในตอนนี้ความรู้สึกถึงความเป็นพี่น้องร่วมอุทรเดียวกันนั้นไม่มีอีกแล้ว มันมีแต่เพียงความรู้สึกรักกันฉันท์ชู้สาว และความรู้สึกอยากจะแสดงความรักต่อกันตามที่คู่รักชายหญิงพึงจะกระทำ นี่มันอาจจะเป็นอำนาจฝ่ายต่ำของราคะที่เกาะกินจิตใจของคนทั้ง 2 เพียงชั่ววูบ หรืออาจจะเป็นความรักแท้ที่เกิดผิดที่ผิดทางกับสายเลือดเดียวกันก็ไม่มีใครทราบได้ พี่ชายค่อย ๆ บรรจงจูบลงบนหน้าผากน้องสาวอย่างแผ่วเบา เปลือกตาเธอค่อย ๆ หลับลงอย่างช้า ๆ เพื่อดื่มด่ำกับสัมผัสรักที่พี่ชายมอบให้ ริมฝีปากของเด็กหนุ่มพรมจูบเลื่อนลงมายังพวกแก้มที่แดงระเรื่อจนกระทั่งกำลังจะถึงเรียวปากอันงดงามของน้องสาว เค้าหยุดชะงักงันพินิจมองหน้าเธอ
“พี่ต้น...” เด็กสาวเมื่อรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวที่นิ่งไปจึงลืมตาขึ้นมองพร้อมเอ่ยปาก
“ปลายโกรธพี่รึป่าวที่พี่ทำอย่างนี้” เสียงที่พูดถามนั้นเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคที่ทำให้ปลายฝนไม่เข้าใจ เธอส่ายพร้อมเอ่ยตอบ
“ถ้าพี่ทำกับคนอื่นปลายจะโกรธ”
“ปลาย...”
“ขา...”
“มันจะไม่มีวันนั้น วันที่พี่ทำให้ปลายโกรธ” สิ้นเสียงเด็กหนุ่มค่อย ๆ ก้มลงจูบลงบนริมฝีปากที่สวยที่สุดที่เค้าเคยเห็นมา 2 แขนที่เคยโอบกอดกันและกันเปลี่ยนเป็นลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง บทเพลงการจุมพิตร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อ 2 พี่น้องเริ่มบทเบียดปากเข้าหากันอย่างหนักหน่วงพร้อมด้วยเรียวลิ้นของพี่ชายที่แทรกผ่านเข้าไปสัมผัสกับปลายลิ้นของน้องสาว มันช่างละมุนดั่งเยลลี่ก็ไม่ปาน ต้นหนาวเริ่มใช้มือบีบบั้นทายงามงอนของน้องสาวพร้อมกับดึงมันเข้าหาตัวหวังเพื่อให้ลำควยซึ่งบัดนี้แข็งเตรียมที่จะใช้งานได้ถูไถเข้ากับเนินเนื้อตามสัญชาตญาณ ภาพครั้งเมื่อยังอยู่ที่สระว่ายน้ำผุดขึ้นมาในสมองของทั้ง 2 พร้อม ๆ กันโดยไม่ได้นัดหมาย ความรู้สึกถึงท่อนเนื้อที่บดเบียดเข้ากับหน้าท้องของเด็กสาวหวนให้นึกถึงคราวเมื่อหัวควยของพี่ชายกำลังจะชำแรกผ่านข้าไปภายในร่างของเธอ แต่จู่ ๆ ในหัวกลับหวนนึกถึงคำพูดของเพื่อนในกลุ่มที่เคยเล่าประสบการณ์ทางเพศให้ฟัง ว่าหากทำบางอย่างจะทำให้ผู้ชายรักผู้ชายหลง ปลายฝนละจากการจูบอันดูดดื่มเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่ชาย ไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมาจากปากของทั้ง 2 เด็กสาวจับแขนพี่ชายค่อย ๆ ออกแรงดึงพร้อมเดินถอยหลังจนถึงบริเวณชักโครกสีขาวสะอาดที่ปิดฝาอยู่ เธอค่อย ๆ นั่งลงทั้งที่แววตายังประสานกับต้นหนาว เพียงไม่นานสายตาก็ค่อย ๆ ลดระดับลงพร้อมกับใบหน้าที่ค่อย ๆ ก้ม ภาพของใบหน้าพี่ชายผ่านแผงอกและหน้าท้องลงมายังดุ้นเนื้อกลางลำตัวทำเอาเด็กสาวใจสั่น ปลายฝนยกมือขวาขึ้นลูบไล้ไปยังหน้าท้องของพี่ชายก่อนจะเลื่อนไล้ลงมายังเป้ากางเกงว่ายน้ำที่ภายในมีท่อนควยที่แข็งจนเห็นเป็นลำ
“อ้า...” เพียงแค่ปลายฝนลูบไล้ปลายนิ้วเข้ากับดุ้นเนื้อนอกกางเกง ต้นหนาวถึงกลับครางออกมาเบา ๆ เค้ารู้ทันทีว่าน้องสาวกำลังจะทำอะไร เด็กหนุ่มเงยหน้าหลับตาพริ้มเตรียมรับความเสียวพร้อม ๆ กับความรู้สึกของเชือกผูกกางเกงที่ถูกรูดดึงออก ขอบกางเกงบริเวณเอวถูกปลายนิ้วน้อย ๆ สอดเข้าทั้ง 2 ข้างแล้วดึงมันลงช้า ๆ จนไปกองอยู่ที่ปลายเท้า และแล้วลำควยขนาดเกือบ 6 นิ้วก็เป็นอิสระ มันกระตุกงึก ๆ ต่อหน้าเด็กสาวเป็นการท้าทาย
“ซี๊ดดดดส์...อู้ววววว” ต้นหนาวซึ่งหลับตาอยู่ถึงกับเป่าปากเมื่อรู้สึกได้ถึงสิ่งที่เข้ามากระทบแก่นกายของเค้า ความรู้สึกอุ่นนุ่มที่เข้าครอบบริเวณปลายหัวกับเรียวลิ้นที่ไล้เข้ากับเส้นสองสลึงของเค้า แรงดูดเบา ๆ ช่างกระตุ้นให้ท่อนควยกระตุกรับอย่างไม่ตั้งใจ
“โอ๊ย...” แล้วความเสียวก็สะดุดลงเล็กน้อยกับฟันของเด็กสาวที่เผอิญครูดเข้ากับคอหยัก ปลายฝนตกใจที่ได้ยินพี่ชายร้อย เธอรีบละจากสิ่งที่กระทำอยู่ทันที  
“พี่... หนูขอโทษ พี่เจ็บเหรอ” เด็กสาวเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ป่าวหรอก แค่ฟันปลายโดนของพี่นิดหน่อยน่ะ เจ็บไม่มากหรอก เสียวมากกว่า”
“ค่ะ หนูจะระวัง” ปลายฝนยิ้มออกเมื่อได้ยินว่าพี่เธอก็รู้สึกชอบ เธอค่อย ๆ บรรจงใช้ปากทำให้พี่ชายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทุกอิริยาบถของเธออยู่ในสายตาพี่ชายทั้งสิ้น
“ซี๊ดดดดส์...”  ยิ่งเห็นภาพเบื้องหน้าต้นหนาวก็ยิ่งทวีความเสียว ริมฝีปากสีชมพูน้อย ๆ กำลังโอบรัดเข้ากำลังควยของเค้า ยิ่งไปกว่านั้น ปากที่กำลังดูดควยของเค้าเข้าออกอยู่นี้เป็นปากของน้องสาวแท้ ๆ ที่โตมาด้วยกัน ภายในปากน้องสาวช่างอุ่นเรียวลิ้นนุ่ม ๆ สะบัดป่ายไปมากับหัวควยอย่างแผ่วเบา เพียงแค่นี้มันก็เป็นความเสียวสุขสุดยอดที่หาคำบรรยายไม่ได้อีกแล้ว แต่ทว่าความคิดของเด็กหนุ่มได้หยุดลงเมื่อนึกไปถึงครั้งเมื่อกำลังจะพาท่อนควยให้แทรกผ่านรูหีน้อย ๆ เข้าไป ความรู้สึกตื่นเต้นนั้นมันมากเสียยิ่งกว่าตอนนี้เท่าทวีคูณนัก ซึ่งไม่ต่างอะไรกับเด็กสาวความรู้สึกของดุ้นเนื้อที่มีชีวิตมันกำลังร้อนระอุอยู่ภายในปากของเธอ ยิ่งเธอโลมเลียหรือดูดมันเบา ๆ มันก็ยิ่งกระตุกเต้นสนองตอบ มันยิ่งพองใหญ่ขึ้นราวกับว่าจะยิ่งคับปากเธอเข้าไปทุกที แล้วถ้ามันได้เข้าไปกระตุกอยู่ภายในหลืบสวรรค์ของเธอเองมันจะทำให้เธอเสียวซักแค่ไหน ยังไม่ทันที่ความคิดจะหยุดลง ดุ้นเนื้อในปากของเธอก็ค่อย ๆ ถอยออกพร้อมกับสองมือของพี่ชายที่ช้อนใต้รักแร้ยกตัวเธอให้ยืนขึ้น ปลายฝนไม่ได้มีอาการขืนเกร็ง เธอปล่อยตัวไปตามแรงของพี่ชาย เพียงไม่กี่อึดใจสาวน้อยก็ไปยืนอวดเรือนร่างในชุดว่ายน้ำหน้ากระจกล้างหน้าบานใหญ่โดยมีต้นหนาวโอบกอดรอบเอวอย่างหลวม ๆ อยู่ด้านหลัง
“น้องพี่สวยมากเลยรู้มั๊ย” ต้นหนาวก้มลงกระซิบข้างหูน้องสาวก่อนจะฝักจมูกลงดอมดมความหอมของต้นคอปลายฝน เสียงอันแผ่วเบาผ่านกระทบกับไรขนบนใบหูและสัมผัสจากต้นคอทำเอาเธอเอียงคอขนลุกเกรียว ยิ่งไปกว่านั้นภาพบนกระจกเงาส่งให้ภายในจิตใจเธอยิ่งปั่นป่วน มือขวาของพี่ชายแท้ ๆ ค่อย ๆ ลูบไล้ผ่านหน้าท้องขึ้นมาเกาะกุมเต้าอวบของเธอ
“ซี๊ดดดดส์...” เสียงครางกระเส่ารอดริมฝีปากออกมาเบา ๆ เมื่อเต้าอวบถูกออกแรงเค้นคลึง ไม่นานมือซ้ายของเด็กหนุ่มก็เริ่มลูบลงไปยังกระเปาะส่วนกลาง มันนูนราวกับกระดองเต่าก็ไม่ปาน เพียงลูบไล้ภายนอกก็ส่งให้ปลายนิ้วรับสัมผัสของความนุ่มจากเนินเนื้อ ต้นหนาวที่ยังคงก้มดอมดมความหอมค่อย ๆ กรีดนิ้วกลางเข้ากับร่องหลืบของน้องสาว ถึงจะเป็นเพียงภายนอกชุดว่ายน้ำแต่ก็ทำเอาเด็กสาวสะดุ้ง ยอดมณีบนเต้าอวบของเธอชูชันด้วยความเสียวจนเธอสังเกตได้จากภาพตรงหน้า ซึ่งก็ไม่ต่างจากต้นหนาวที่รู้สึกได้ถึงความเต่งแข็งของหัวนมที่ดันสู้ผ่ามือของเค้า เด็กหนุ่มเหลือกตาขึ้นมองกระจกเล็กน้อยก็ได้พบกับภาพที่สุดแสนจะเย้ายวน ภาพของพี่ชายพี่โอบรัดน้องสาวไว้ในอ้อมกอด ซึ่งบัดนี้อ่อนระทวยด้วยรสสัมผัสของพี่ชาย เธอค่อย ๆ หลับตามพริ้มด้วยความซ่านสยิว เต้าอวบกับปลายปทุมถันที่ดันชุดว่ายน้ำจนออกมาเป็นเม็ด ยิ่งทำให้เธอยิ่งดูเซ็กซี่ จากฝ่ามือที่เค้นคลึงเปลี่ยนมาเป็นปลายนิ้วโป้งเขี่ยสะกิดเบา ๆ เข้ากับเม็ดเต่งดันออกมา
“ซี๊ดดดดดส์ อ้า...” เด็กสาวเริ่มแสดงปฏิกิริยาทันทีเมื่อปลายยอดถูกสัมผัส
“อ้า... พี่ต้น หนูเสียวจัง...” เสียงบอกเบา ๆ พร้อมกับเอียงหน้าเข้าหาใบหน้าพี่ชาย เมื่อต้นหนาวเริ่มใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้บี้เบา ๆ เข้ากับหัวนมที่เต่งชูชัน นี่ขนาดภายนอกชุดว่ายน้ำปลายฝนยังครางกระเส่าเพียงนี้หากได้สัมผัสโดยตรงกับเนื้อแท้ปลายจะเสียงได้ถึงขนาดไหน ไวเท่าความคิด มือที่เคยปฏิบัติกิจทั้ง 2 ข้าง  ค่อย ๆ ลูบไล้ขึ้นมายังสายคล้องแขนทั้ง 2 ข้างแล้วรูดมันลงอย่างช้า ๆ และแล้วเต้าอวบที่ขาวนวลก็ประจักษ์แก่ตาของเด็กหนุ่ม ไม่มีคำบรรยายใด ๆ ที่จะมาเปรียบกับความสวยงามและได้รูปทรงของปทุมถันคู่นี้ ต้นหนาวมองกระจกกับภาพมืออันสั่นเทาค่อย ๆ ยกขึ้น มันกำลังจะได้สัมผัสเข้ากับเต้านมที่สวยที่สุดที่เค้าเคยเห็นมา
“ซี๊ดดดส์... อ้า...” ปลายฝนซู๊ดปาก บิดร่างขนลุกเกรียวทันที เมื่อเต้าอวบอิ่มของเธอถูกบีบเบา ๆ รสสัมผัสของเนื้อแท้ ๆ จากฝ่ามือของพี่ชายที่กำลังเค้นคลึงมันช่างวิเศษ ภาพบนกระจกที่ต้นหนาวเห็น คือน้องสาวแสนสวยที่ร่างอ่อนระทวยกำลังแอ่นอกให้พี่ชายบีบเค้นปทุมถัน ยิ่งคลึงเด็กสาวก็ยิ่งครางด้วยความสยิว มันยิ่งทำให้อารมณ์ของต้นหนาวพุ่งพล่าน เด็กหนุ่มเริ่มเค้นคลึงเต้าอวบนั้นแรงขึ้น แต่ทว่าปลายฝนหาได้เกิดความเจ็บปวดไม่ มันยิ่งทวีความเสียวให้เพิ่มขึ้น
“ซี๊ดดดส์... พี่ต้น... ปลายเสียวเหลือเกิน... ซี๊ดดดส์” เด็กสาวพูดทั้ง ๆ ที่ยังหลับตาพริ้มรับความสุขในอ้อมกอดของพี่ชาย
“ปลาย...” เด็กหนุ่มกระซิบข้าง ๆ หูน้องสาว
“ขา...”
“ปลาย... ปลายสวยที่สุดเลยรู้มั้ย” เด็กหนุ่มค่อย ๆ เสพความงดงามกับภาพในกระจกเบื้องหน้า มือที่โอบเค้นกลับค่อย ๆ ใช้นิ้วบี้คลึงที่ปลายยอดสีชมพูอ่อนเบา ๆ
“ซี๊ดดดส์... พี่ต้น... มันเสียว... อ้า...” ยิ่งได้ยินปลายฝนพูด ต้นหนาวก็ยิ่งเงี่ยน ความสุขครั้งแรกของปลายกับพี่มันต้องไม่จบลงที่เต้าอวบเพียงเท่านี้ เด็กหนุ่มหวังใจว่าจะต้องทำให้น้องสาวสำลักความสุขที่เค้าจะมอบให้ เค้าต้องชดเชยที่เย็นชากับเธอมาเป็นเวลานาน ไวเท่าความคิด มือซ้ายของเด็กหนุ่มเริ่มลดลงเกี่ยวเข้ากับชุดไว้น้ำของปลายฝน เค้าค่อย ๆ ดึงมันลงอย่างนุ่มนวล ซึ่งปลายฝนเองก็รับรู้ได้จึงช่วยขยับจนมันหลุดลงไปกองอยู่กับพื้น และแล้วบัดนี้ร่างของ 2 พี่น้องก็เปลือยเปล่าไร้ซึ่งอาภรณ์ใด ๆ มาขวางกั้น การโอบรัดจากด้านหลังเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก ลำควยแข็งเบียดเข้ากับร่องก้นงอน มันให้ความรู้สึกวิเศษเหลือเกินเมื่อเทียบกับสัมผัสชุดไว้น้ำเมื่อครู่
“อ้า... ปลาย... พี่เสียวมากเลย” ต้นหนาวกระซิบเบา ๆ พร้อมกับกระเด้าเอวให้ลำควยถูไถกับร่องก้นน้องสาว โดยไม่ลืมที่จะเค้าคลึงพร้อมบีบบี้ยอดมณีไปด้วย มือซ้ายของเด็กหนุ่มลูบไล้ไปตามหน้าท้องอันแบนราบของเธอแล้วค่อย ๆ เลื่อนลงไปยังเนินกลางลำตัว ต้นหนาวรับรู้ได้ถึงไรขนบาง ๆ ที่ไม่มีความกระด้างเลยซักนิด ก่อนที่เค้าจะค่อย ๆ ใช้ปลายนิ้วกลางบรรจงกรีดลงไปกลาง 2 กลีบนูนที่ปิดสนิท เพียงปลายนิ้วผ่านลงไปความลื่นก็ไหลลงมาชโลม
“อ้า... พี่ต้น... ปลาย... ซี๊ดดดส์” ทันทีที่สะกิดโดนปุ่มเสียว ปลายฝนถึงกับสะดุ้งร้องคราง ต้นหนาวเองก็มีอารมณ์จนแทบจะทนไม่ไหว ยิ่งหมุนคลึงเม็ดละมุนเท่าไหร่ น้ำเหนียวในร่องหลืบก็ยิ่งหลั่งชโลมนิ้วเค้ามากเท่านั้น เสียงครางกระเส่าตลอดเวลาของน้องสาว และภาพเบื้องหน้าช่างยั่วยวนราคะนัก และแล้วต้นหนาวก็หมดความอดทน สิ่งที่เค้าต้องการในตอนนี้คือการเสพสังวาล การที่ได้นำลำควยที่แข็งจวนเจียนจะระเบิดแทรกเข้าไปในรูหีลื่น ๆ นี้ เพียงแค่เราจับลำควยจ่อให้ตรงร่องจากด้านหลังด้วยความลื่นของน้ำเงี่ยนมันคงไม่ยากที่ท่อนเนื้อจะแทรกเข้าไปจนสุด ต้นหนาวละมือขวาจากเต้าอวบดันหลังเบา ๆ ให้น้องสาวก้มลงเล็กน้อย ซึ่งปลายฝนที่เต็มไปด้วยความกำหนัดก็ทำตามอย่างว่าง่าย เธอวางศอกลงบนซิงก์โดยที่ยังคงหลับตา มือซ้ายของเด็กหนุ่มที่เคยถูไถปากรูหีเพื่อเรียกน้ำเงี่ยนเปลี่ยนมาประคองสะโพก แผ่นหลังกับก้นงอนงามสอดรับกันอย่างวิจิตร ต้นหนาวค่อย ๆ ประคองลำควยให้กับเข้าสู่ที่หมายช้า ๆ ทันทีที่ปลายดุ้นสัมผัสกับปากร่องที่ลื่นไปด้วยเมือก ปลายฝนก็สะดุ้งเม้มริมฝีปาก อีกไม่นานดุ้นเนื้อของพี่ชายจะชำแรกผ่านเข้ามาในตัวเราแล้วจริง ๆ สินะ ไม่สิ มาแล้ว พี่ชายกำลังดันมันเข้ามาแล้ว ปลายฝนคิดไปพร้อม ๆ กับที่ต้นหนาวค่อย ๆ แอ่นเอวเพื่อพาให้ปลายควยแทรกเข้าไปช้า ๆ แต่พลันบางสิ่งก็ยังวิ่งเข้ามายับยั้ง ต้นหนาวจับน้องสาวหมุนกลับมาพร้อมกับช้อนร่างน้อย ๆ ขึ้นไปนั่งยังซิงก์หน้ากระจกนั้น
“พี่ต้น...” เด็กสาวในร่างเปลือยเปล่างุนงงเล็กน้อย
“...............” ต้นหนาวไม่พูดสิ่งใด แต่ขยับตัวเข้าประชิดร่างของปลายฝน พรางใช้มือทั้ง 2 ข้างจับเข่าของเธอแยกออกแทรกตัวเข้าไปอยู่กลางหว่างขาของเธอ พร้อมกับโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน
“พี่ต้น... เป็นอะไร” ปลายฝนยกมือขึ้นประคองศีรษะพี่ชายเบา ๆ
“ถ้าวันนี้เราทำอะไรลงไป ต่อไปเราจะไม่ใช่พี่น้องกันอีกแล้วนะปลาย” ต้นหนาวคลายอ้อมแขนพูดพรางมองหน้าน้องสาว
“ปลายไม่สน ให้เราเป็นอะไรก็ได้ ขอให้ปลายได้อยู่กับพี่ต้น”
“ปลาย...” ต้นหนาวก้มลงจูบหน้าผากปลายฝนเบา ๆ ก่อนจะยืดตัวขึ้นมองน้องสาว ปลายฝนเอนหลังพิงกระจกช้า ๆ พร้อมกับยื่นมือลงมาจับลำควยพี่ชายให้จ่อเข้ากับปากทางสวรรค์ของตนอีกครั้ง ไม่มีสิ่งใดจะหยุดการกระทำของทั้งคู่ได้อีกแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้ง 2 ได้มองเห็นมัน ภาพเบื้องหน้าคือ ลำลึงค์ของพี่ชายที่กำลังจะแหวกแทรกตัวเข้าไปยังร่องเสียวของน้องสาวแท้ ๆ พูหีช่างโหนกนูน มีขนอุย ๆ ขึ้นประดับเพียงบาง ๆ ต้นหนาวยกขาทั้ง 2 ของน้องสาวให้วางชันขึ้นบนซิงก์ส่งให้กลีบกุหลาบแย้มเล็กน้อย เค้าค่อย ๆ จับปลายควยถูไถกับร่องเสียวและเม็ดละมุนที่เต็มไปด้วยเมือกลื่น
“ซี๊ดดดส์...” เมื่อปุ่มกระสันถูกรุกหนัก ปลายฝนถึงกับครางกระเส่า หรี่ตาเม้มริมฝีปากมองหน้าพี่ชาย มันช่างเป็นภาพที่เซ็กซี่และยั่วยวน
“พี่ต้น... ซี๊ดดดส์... ปลายไม่ไหวแล้ว... อ้า...”มือที่จับมือของพี่ชายอยู่ออกแรงดึงรั้งเข้าหาตัวเป็นสัญญาณว่าเธอพร้อมแล้วกับการเย็ดในครั้งนี้
“อูวววววว์..........” และแล้วลำควยที่ถูกชโลมไปด้วยน้ำลื่น ๆ จากรูหีก็ได้แทรกผ่านเข้าไปในร่องเสียวของน้องสาว เมื่อต้นหนาวกลั้นใจแอ่นเอวพาดุ้นเนื้อเดินหน้าผ่านในรูอันคับแคบนี้ มันช่างเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้ การโอบรัดในทุกทิศทางด้วยความหยุ่นนุ่ม มันเป็นสัมผัสที่เด็กหนุ่มไม่เคยได้รับจากที่ไหนมาก่อนในชีวิต แต่ด้วยความฟิตของรูหีที่ไม่เคยมีสิ่งใดล่วงล้ำเข้าไป ทำให้ลำควยของเด็กหนุ่มมุดผ่านเข้าไปได้เพียงครึ่งลำ แล้วเด็กสาวก็ต้องผวาเข้ากอดพี่ชายเมื่อรู้สึกว่าเค้ากำลังจะถอนมันออก ในใจเธอคิดเพียงว่าพี่ชายจะเอามันออกจากตัวเธอ
“โอ้ววววว์... ซี๊ดดดดส์...” ปลายฝนร้องคราง ขนลุกเกรียวสะท้านไปทั้งร่าง เมื่อต้นหนาวดันลำควยสวนเข้าไปใหม่จนมิด เนินหนอกของทั้ง 2 บดเข้าหากัน พร้อมกับการกอดรัดเพื่อรับความเสียวของทั้งคู่ ต้นหนาวรับรู้ได้ถึงการโอบรัดภายในของน้องสาว มันแทบจะรวมดุ้นเอ็นของเค้าให้เป็นหนึ่งเดียวกับร่องเสียวนี้ ความรู้สึกที่อยากจะเอาอะไรแยงเข้าไปในรูหีของตัวเองของปลายฝนมันได้ถูกแทนที่ด้วยท่อนควยของพี่ชายแล้ว มันรู้สึกเสียวซ่านไปทุกรูขุมขน แต่ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังอยากให้มัน หากแต่ไวเท่าความคิดที่ปลายฝนกำลังจะจินตนาการ ลำควยที่ฝังอยู่ในรูหีของเธอก็เริ่มทำงาน เด็กหนุ่มค่อย ๆ โยกมันเข้าออกช้า ๆ  
“ซี๊ดดดส์... ใช่... พี่ต้น... อ้า...” ปลายฝนเอนหลังร้องคราง มองหน้าพี่ชาย แต่ยังเอามือทั้ง 2 คล้องคอเค้าอยู่ ฝ่ายต้นหนาวก็เริ่มโยกเย็ดหีน้องสาว สิ่งที่เค้าใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กได้เป็นจริงขึ้นมาแล้ว เด็กหนุ่มก้มมองลำควยตัวเองมุดเข้าออกในรูหีน้องสาวพรางมองหน้าเธอสลับเป็นระยะ ความเงี่ยนที่สะสม กับรสสัมผัสยิ่งทำให้เค้ากระเด้าเย็ดแรงขึ้น แรงขึ้น
“อ้า... อ้า... อ้า... ปลายเสียว... อ้า... พี่ต้น...” ยิ่งต้นหนาวโยกเอวเย็ดเร็วขึ้นปลายฝนก็ยิ่งทวีความเสียว แรงเย็ดกระแทกส่งให้ปทุมถันของเธอกระเพื่อมไปตามจังหวะ ความงดงามนั้นอดไม่ได้ที่จะทำให้ต้นหนาวยกมือขึ้นบีบเคล้นมัน
“โอ้ววววส์... เสียว... เสียวเหลือเกินพี่ต้น...” เสียงกระเส่าของปลายฝนยิ่งทำให้ต้นหนาวคลั่ง เค้ายิ่งกระหน่ำซอยควยเข้าออกรูหีน้อย ๆ พร้อมขยำเต้าอวบอย่างเมามันส์
“พี่... พี่ต้น... ปลาย... ปลายกำลัง...” ปลายฝนที่โดนซอยเย็ดรูหีกำลังจะถึงสวรรค์โดยลำควยของพี่ชายเป็นครั้งแรก ร่างของเธอกำลังจะเกร็ง แต่ทันใดนั้น
“ก๊อก ๆ ๆ” เสียงเคาะประตูทำเอาทั้ง 2 สะดุ้ง แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่สามารถหยุดการเย็ดกันของ 2 พี่น้องนี้ได้แล้ว เค้าและเธอกำลังจะถึงสวรรค์ ต้นหนาวยังคงซอยเย็ดหีน้องสาวต่อไป
“ปลาย กลับมาพร้อมพี่ต้นรึป่าวลูก” สายชลผู้เป็นแม่เคาะประตูถามลูกสาว เพราะเห็นว่าจักรยานจอดอยู่หน้าบ้าน
“ปะ... ป่าวค่ะ... แม่...” เด็กสาวกลั้นใจตอบทั้ง ๆ ที่เสียวรูหีปานจะขาดใจ มันทั้งเสียวทั้งทั้งตื่นเต้นที่ต้องมาเย็ดกับพี่ชายแท้ ๆ โดยมีแม่อยู่ห่างแค่ประตูกั้น ซึ่งก็ไม่ต่างกับที่ต้นหนาวรู้สึก นี่เรากำลังเย็ดน้องสาวตัวเองทั้ง ๆ ที่แม่พูดอยู่ข้าง ๆ หู
“แม่ทำกับข้าวเสร็จแล้วนะ ลงไปกินด้วย” สายชลกล่าวพร้อมเดินห่างออกไป
“ค่ะ... แม่... ซี๊ดดดดส์” คำตอบที่แว่วมาตามหลังมีเสียงแปลก ๆ แต่สายชลก็ไม่ได้คิดอะไร เธอยังคงเดินลงไปยังชั้นล่าง  
“ไม่ไหวแล้ว... พี่ต้น... ปลายจะเสร็จ... แล้ว...”
“พี่ก็เหมือนกัน... ซี๊ดดดส์” ทั้งความเสียว และความตื่นเต้น ในที่สุดทั้ง 2 ก็กอดรัดกันปานจะรวมเป็นร่างเดียว น้ำควยของพี่ชายพุ่งกระฉูดเข้าในรูหีน้องสาว มันรุนแรงจนทำเอาปลายฝนสะท้านสำเร็จความใคร่ไปพร้อม ๆ กับพี่ชาย ความเสียวสยิวซ่านสะท้านไปทั่วทุกรูขุมขนบนร่างกายของทั้งคู่ ภายในโพรงหีขมิบตอดลำควยที่ยังคงส่งน้ำเงี่ยนพุ่งออกมาเป็นจังหวะ ทั้ง 2 โอบกอดซึมซับรับความสุขที่ไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิตของกันและกัน แต่ทว่า เมื่อความเงี่ยนของทั้งคู่ค่อย ๆ ถูกปลดปล่อยจนคลายไป ความเงียบเริ่มเข้ามาแทนที่ ศีลธรรมต่าง ๆ เริ่มแทรกเข้ามาในสายลม ขาของเด็กสาวที่เคยชันขึ้นวางบนขอบซิงก์ค่อย ๆ เลื่อนลง เวลาผ่านไปเกือบ 1 นาที ที่ไม่มีคำพูดใด ๆ จากปากของ 2 พี่น้อง มีแต่เพียงร่างที่โชกไปด้วยเหงื่อกอดกันอยู่
“ปลายรักพี่ต้นนะ” เสียงกระซิบบอกรักเบา ๆ มันทำให้ความมืดมนจางไป เมื่อได้ฟังต้นหนาวก็ยิ้มออกทันที พี่ชายบรรจงจุมพิตที่หน้าผากน้องสาวอีกครั้ง
“เราจะรักกันตลอดไปนะ ปลาย” คำพูดของพี่ชายทำเอาเด็กสาวยิ้มหน้าบานพร้อมพยักหน้ารับด้วยความเต็มใจ

<--------------->

“อ้าว ! ไหนปลายบอกว่าไม่ได้กลับมาพร้อมต้นไม่ใช่เหรอ” สายชลเอ่ยทักเมื่อเห็นต้นหนาว และปลายฝนเดินมาพร้อมกัน
“ผมกลับมาทีหลังปลายแป๊บนึงน่ะครับแม่” ต้นหนาวตอบพรางนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
“เหรอ เมื่อกี้แม่เห็นรถจักรยานจอดนึกว่ากลับมากันแล้ว เลยขึ้นไปจะเรียกลงมากินข้าว ก็ไม่เห็นต้นอยู่ในห้อง มีแต่ปลายอาบน้ำอยู่” สายชลผู้เป็นแม่ถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย
“อ๋อ ผมอยู่ที่ระเบียงน่ะครับ ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องอยู่” ต้นหนาวแถไปพรางมองไปที่น้องสาวที่กำลังคดข้าวใส่จาน ซึ่งเธอก็ยิ้ม ๆ เหมือนจะขำ
“กินข้าวได้แล้ว อย่ามันแต่คุยกัน” ปลายฝนวางจานข้าวตัวเอง พร้อมกับของพี่ชายลงบนโต๊ะอาหาร
“ขอบใจจ้า” ต้นหนาวยิ้มตอบรับด้วยน้ำเสียงมีความสุข
“ผีเข้ารึป่าว คู่นี้” สายชลบ่นด้วยสีหน้าคิ้วขมวดสงสัย
“มีอะไรเหรอคะแม่” ปลายฝนถาม ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าแม่สงสัยในพฤติกรรมของเธอกับพี่ชาย
“เปล่า ๆ ๆ อย่างนี้ก็ดีแล้ว เป็นพี่น้องกัน ต้องรักกัน กินข้าว ๆ” สายชลสลัดความสงสัยทิ้งเพราะคิดเสมอว่าสิ่งที่ดีที่สุดของครอบครัว คือ เรารักกัน และแล้ว ทั้ง 3 คนแม่ลูกก็ทานข้าวกันอย่างมีความสุข

THE END

รักในวัสสานะ (Love in Rainy season)




คงเป็นด้วยความเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ สิ่งที่มนุษย์กระทำกับธรรมชาติเพื่อสนองความสะดวกสบายของตนเองทำให้ฤดูกาลบิดเบือน หน้าร้อนกลับฝนตก หน้าหนาวกลับน้ำท่วม ซึ่งบัดนี้ย่างเข้าหน้าฝนแล้ว แต่บรรยากาศในวันอาทิตย์เวลาบ่าย 4 โมงกว่า ๆ กลับยังร้อนระอุ
“แม่คะหนูไปว่ายน้ำนะคะ” เด็กสาวกล่าวเป็นพิธีก่อนจะเดินออกจากบ้านเพื่อขี่รถจักรยานไปยังสระว่ายน้ำในหมู่บ้าน
“อ้าว... แล้ววันนี้ต้นไม่ไปด้วยเหรอลูก”  คุณแม่ซึ่งนั่งดูทีวีหันไปถามลูกชายที่กำลังก้มหน้าก้มตาร้อยเชือกรองเท้าผ้าใบที่จะใส่ไปเรียนในวันรุ่งขึ้น เธอชื่อสายชล อายุ 40 ปี เป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เธอมีลูก 2 คน ส่วนสามีนั้นเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปเมื่อหลายปีก่อน ลูกคนโตเป็นผู้ชายชื่อว่า ต้นหนาว อายุ 17 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.6 ด้านหน้าตาต้นหนาวไม่ใช่คนหล่ออะไร ออกจะเป็นผู้ชายธรรมดา ๆ เค้าเป็นคนเรียนเก่งมีความรับผิดชอบ และระลึกเสมอว่าไม่มีคุณพ่อแล้วเค้าต้องเรียนให้ดีอนาคตจะได้เลี้ยงแม่เลี้ยงน้องได้ ส่วนลูกสาวนั้นเธอชื่อ ปลายฝน อายุน้อยกว่าต้นหนาว  1 ปี เธอเรียนอยู่ชั้น ม.5 ที่เดียวกันกับพี่ชายของเธอ ปลายฝนเป็นเด็กหน้าตาสวย ผิวขาว ถึงแม้จะชอบว่ายน้ำ แต่ก็จะว่ายแค่อาทิตย์ละครั้ง และเฉพาะตอนเย็นไปถึงเวลาสระปิดเท่านั้น
“ไม่ล่ะครับ ผมไม่ชอบว่ายน้ำ” ต้นหนาวตอบทั้ง ๆ ที่ยังคงก้มหน้าร้อยเชือกรองเท้า
“จะอ้างอะไรก็ให้มันเนียน ๆ หน่อย ตอน ม.ต้น เป็นนักกีฬาว่ายน้ำกลับไม่ชอบว่ายน้ำ”
“ก็เดี๋ยวนี้ผมไม่ชอบแล้วหนิครับแม่” ต้นหนาวยังคงเถียงไปข้าง ๆ คู ๆ ทั้งที่ในใจไม่ได้คิดเช่นนั้น
“เอาน่า ยังไงก็ไปดูปลายมันหน่อย น้องมันไปคนเดียว เวลากลับก็ค่ำมืด มันอันตราย” สายชลอธิบายถึงเหตุผลเพื่อให้ลูกชายไปว่ายน้ำกับน้องสาว ซึ่งเธอเองก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเด็กทั้ง 2 ที่ห่างเหินกันมาตั้งแต่ปลายฝนย้ายเข้ามาเรียนที่เดียวกับพี่ชายซึ่งเป็นโรงเรียนสหศึกษา โดยก่อนหน้านั้นขณะที่เธอยังเรียนอยู่โรงเรียนหญิงล้วน 2 พี่น้องต่างรักใคร่กันดี ทุกวันอาทิตย์จะไปว่ายน้ำด้วยกันเสมอโดยมีพี่ชายเป็นคนขี่จักรยานส่วนน้องสาวนั่งซ้อนท้าย แต่สายชลก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุอันใดจึงทำให้ทั้งคู่ไม่คุยกัน หรือคุยกันก็แค่เล็กน้อยเท่านั้นแบบถามคำตอบคำ
“ครับแม่ ไปก็ได้ แต่ผมขอทำธุระตรงนี้ก่อนนะครับ” ต้นหนาวยังคงตอบโดยไม่เงยหน้า ซึ่งสายชลเองก็ได้แต่ถอนหายใจ

<--------------->

ณ สระว่ายน้ำของหมู่บ้าน ต้นหนาวซึ่งเปลี่ยนชุดเป็นที่เรียบร้อยแล้วเดินนุ่งผ้าขนหนูผ่านบ่อล้างเท้ามองไปรอบ ๆ สระด้วยความคุ้นเคย แต่วันนี้ไม่เหมือนหลาย ๆ อาทิตย์ที่ผ่านมา ทั้ง ๆ ที่เป็นวันอาทิตย์แต่คนกลับน้อยมากจนนับได้ เค้าหันไปมองนาฬิกาที่ติดไว้ที่ผนังข้างสระ
“5 โมงกว่าทำไมคนโล่งจัง” ต้นหนาวบ่นกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะข้าง ๆ สระซึ่งมีกันสาดบังแดด มันทำเอาไว้ให้ผู้ปกครองคอยนั่งดูบุตรหลาน เค้าวางสัมภาระบนโต๊ะข้าง ๆ โต๊ะของปลายฝนก่อนจะนั่งลงวอร์มอัพแขนขาเบา ๆ ด้วยความที่เดินมาจากบ้านเป็นระยะทางพอสมควร ต้นหนาวจึงไม่ต้องอบอุ่นร่างกายอะไรมากมาย เพียงแต่ยืดเส้นยืดสายเพียงเล็กน้อยก่อนจะลงสระเพื่อว่ายน้ำตามปกติ เวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง โดยที่ทั้งคู่ต่างคนต่างว่ายบ้างหยุดพักบ้างแต่กลับไม่มีบทสนทนากันแม้แต่น้อย ทั้ง 2 ทำเสมือนเป็นคนไม่รู้จักกัน ไม่มีใครรู้ถึงความคิดของ 2 พี่น้องแม้แต่มารดาผู้ให้กำเนิด จากนั้นเพียงไม่นานนัก ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับว่าจะมีฝนตก ผู้คนซึ่งมีน้อยอยู่แล้วเริ่มทยอยขึ้นจากสระ แต่ปลายฝนกลับยังคงว่ายน้ำไปมาช้า ๆ โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เพียงเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ภายในสระว่ายน้ำขนาด 25 เมตรก็เหลือแต่เพียง 2 พี่น้อง ต้นหนาวหันหลังพิงเท้าแขนทั้ง 2 ข้างกับขอบสระเงยหน้ามองท้องฟ้า และแล้วฝนหยดแรกในฤดูก็ตกลงบนใบหน้าของเค้า แต่มันก็ตกเพียงแค่ปรอย ๆ
“นี่น่ะเหรอหน้าฝน” ต้นหนาวเอ่ยปากพูดกับท้องฟ้า และเหมือนกับสวรรค์จะได้รับรู้ถึงคำพูดของเค้า จู่ ๆ ฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา ทั้งต้นหนาวและปลายฝนรีบขึ้นจากน้ำมานั่งยังโต๊ะข้าง ๆ สระ ถึงคิดจะกลับบ้านมันก็สายไปเสียแล้ว บรรยากาศในตอนนี้มีทั้งฝนฟ้าคะนอง และฟ้าร้องดังสนั่นสลับกันไป คงไม่ได้ลงสระอีกแล้วสินะ ปลายฝนคิดกับตัวเองพลางถอดหมวกว่ายน้ำออก แล้วเงยหน้าใช้นิ้วมือเรียวงามของเธอสางผมเบา ๆ เวลาผ่านไป 2 พี่น้องได้แต่นั่งมองหยดน้ำที่ตกกระหน่ำลงในสระอย่างรุนแรงโดยไม่ได้พูดอะไรกัน เวลาอันน่าอึดอัดดำเนินไปกว่า 5 นาที และแล้วปลายฝนก็ลุกขึ้น เธอพาตัวเองมายืนข้าง ๆ พี่ชาย
“นั่งด้วยได้มั๊ย” นี่อาจเรียกได้ว่าเป็นคำสนทนาแรกที่เกิดขึ้นโดยไม่เกี่ยวกับเรื่องงานบ้านหรือสิ่งที่แม่ใช้ให้ทำ
“นั่งสิ” ต้นหนาวหันเงยหน้ามองน้องสาวก่อนจะเอ่ยปากเบา ๆ แล้วหันไปมองยังสระว่ายน้ำที่ว่างเปล่า ปลายฝนดึงเก้าอี้นั่งลงข้าง ๆ พี่ชายโดยมองไปยังสระว่ายน้ำเช่นกัน เวลายังคงผ่านไปเรื่อย ๆ โดยที่ฝนก็กระหน่ำตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา
“ทำไมพี่ไม่พูดกับหนู” เสียงเล็ก ๆ เล็ดออกจากปากของเด็กสาว มันเป็นคำพูดที่อัดอั้นไว้ในใจมานาน เธออยากจะถามแต่ก็ไม่กล้าเพราะความเย็นชาของพี่ชายที่เปลี่ยนไปจากเดิม
“พี่ไม่รู้จะพูดอะไร” ต้นหนาวพูดเสียงเย็นชาทั้ง ๆ ที่ยังมองเหม่อ
“ก็พี่เป็นอะไร ตั้งแต่หนูเข้าเรียนที่เดียวกับพี่ ๆ ก็เย็นชากับหนู มองเหมือนหนูไม่มีตัวตน” ปลายฝนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอขยับเก้าอี้เข้าหาพี่ชายพร้อมถามเสียงดังขึ้น
“พี่ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย ปลายโตแล้ว พี่ก็โตแล้วจะให้เราคุยกัน เล่นกันเป็นเหมือนเด็ก ๆ ได้ยังไง” ต้นหนาวหันหน้าตอบน้องสาวที่นั่งมองหน้าเค้าอยู่ด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
“โตแล้วยังไง โตแล้วพี่ต้องเย็นชากับหนูด้วยเหรอ พี่ไม่รักหนูเหมือนเมื่อก่อนแล้วใช่มั๊ย” ความอัดอั้นในใจของเด็กสาวค่อย ๆ ระเบิดออกมาพร้อมกับเสียงฟ้าผ่า
“ปลายไม่รู้หรอก...” เด็กหนุ่มก้มหน้าพูด
“ไม่รู้อะไร พี่จะให้หนูรู้อะไร” เด็กสาวยังคงพูดกระแทกเสียงแข่งกับเสียงฟ้า
“ไม่รู้หรอก... ว่าพี่รักปลายแค่ไหน” เสียงอันแผ่วเบาแทรกผ่านละอองน้ำฝนเข้าในโสดประสาทของเด็กสาวทำเอาเธอหน้าชา และนิ่งไปซักพัก
“แล้วทำไมพี่ต้องเย็นชาก็หนูด้วย”
“ปลายจำได้มั๊ย ตอนที่จะสอบเข้า ม.4”
“จำได้...” ปลายฝนขมวดคิ้วเล็กน้อย
“พี่บอกว่าให้ปลายเรียนโรงเรียนเดิม แต่ปลายบอกว่าจะย้ายมาอยู่โรงเรียนพี่”
“ก็แล้วทำไมล่ะ มันเกี่ยวอะไรกันด้วย”
“ปลายบอกว่าเรียนโรงเรียนสหดีออก จะได้มีแฟนกับเค้าบ้าง”
“...............” ปลายฝนเงียบไปทันที เธอจำได้ว่าเคยพูดออกไปเช่นนั้น แต่ทว่าคำพูดนั้นเธอหาคิดเป็นอย่างนั้นไม่
“ตอนนี้ปลายคงมีแฟนสมใจแล้วสินะ” เพียงสิ้นเสียงของพี่ชาย น้ำตาของน้องสาวก็หยดลงกระทบกับต้นขาที่เปลือยเปล่า นัยน์ตาของเด็กสาวค่อย ๆ แดงระเรื่อย
“พี่ไม่เคยเข้าใจหนูเลย” เสียงอันสั่นเครือเอ่ยออกจากปากที่เริ่มสั่นเทา
“ก็พี่...”
“ตลอดเวลาหนูไม่เคยมองใครเลย ทั้ง ๆ ที่มีคนมาจีบหนูตั้งมากมาย จนถึงตอนนี้หนูก็ยังไม่มีแฟน พี่คิดว่าหนูอยากจะเข้ามาเรียนที่เดียวกับพี่เพราะอยากจะหาแฟนงั้นเหรอ” ยิ่งพูดไป น้ำตาของเด็กสาวก็ยิ่งไหล
“พี่...”
“ทำไมหนูต้องหัดว่ายน้ำด้วย... ทำไมต้องมาที่นี่ทุกอาทิตย์ด้วย... ทำไมต้องเข้าเรียนที่เดียวกับพี่ด้วย!!!...”
“เอ่อ...”
“ก็เพราะหนูอยากอยู่กับพี่ หนูอยากใกล้ชิดพี่ หนูไม่อยากให้พี่ไปมีใครนอกจากหนู พี่ได้ยินมั๊ย! หนูรักพี่! พี่ได้ยินมั๊ย!” ปลายฝนพูดใส่อารมณ์ทั้งน้ำตา แววตาเธอแดงก่ำด้วยความเศร้า มันคือความโศกเศร้าภายในใจที่พี่ชายไม่เคยรู้เลยว่าเธอรักเค้าแค่ไหน เด็กสาวหุนหันลุกขึ้นหมายจะกลับไปยังโต๊ะของตัวเองเพื่อฝ่าสายฝนไปเปลี่ยนชุดกลับบ้าน แต่แล้วความรู้สึกที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะได้รับจากพี่ชายที่เธอแอบหลงรักมาตลอด ความรู้สึกของไออุ่นเข้าแนบกับแผ่นหลังของเธอ ความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดจาก 2 แขนที่เข้าสวมกอดเธอไว้จากด้านหลัง
“พี่ขอโทษ” ต้นหนาวลุกขึ้นสวมกอดน้องสาวพลางกระซิบข้างหูเบา ๆ
“เพราะปลายเป็นคนสวย แถมยังบอกว่าจะหาแฟนอีก แล้วจะให้พี่ทำยังไง”
“พี่ต้น...”
“ปลาย... พี่ขอโทษ”
“แล้วพี่ต้นรักหนูมั๊ย” ปลายฝนบิดตัวหันกลับมาพูดพร้อมเงยหน้ามองพี่ชาย ตอนนี้ในอ้อมแขนของต้นหนาวคือน้องสาวแท้ ๆ ตั้งแต่โตมา เด็กหนุ่มไม่เคยได้ใกล้ชิดกับน้องสาวขนาดนี้เลย ใบหน้าที่สวยราวกับนางฟ้าเบื้องหน้าทำเอาเค้าใจสั่น เด็กหนุ่มคลายมือขวาออกยกขึ้นใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาที่อาบแก้มแล้วบรรจงประทับจูบลงบนริมฝีปากน้อย ๆ ของน้องสาวอย่างนุ่มนวลเป็นคำตอบพร้อม ๆ กับสายฝนที่ค่อย ๆ เบาบางลง
“พี่รักปลายมากนะ แต่เราเป็นพี่น้องกัน พี่ต้องเก็บมันไว้ มันไม่มีทางที่พี่จะ...” ยังไม่ทันที่ต้นหนาวจะพูดจบ ปลายฝนก็ยกมือขึ้นปิดปากพี่ชาย
“ฝนซาแล้ว เล่นน้ำกัน แน่จริงก็จับหนูให้ได้สิ แบร่...” ปลายฝนไม่พูดเปล่า เธอแลบลิ้นเล็กน้อยแบบทะเล้นเป็นการท้าทาย พร้อมหมุนตัวออกจากวงแขนของเค้าแล้ววิ่งกระโดดลงน้ำไป
“ได้สิ ยัยจอมแก่น” นี่เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปีที่เด็กหนุ่มตอบน้องสาวด้วยหน้าตายิ้มแย้ม และแล้วทั้ง 2 ก็ว่ายน้ำไล่กันไปจนเกือบถึงมุมสระฝั่งตรงข้ามทางเข้าสระว่ายน้ำ แสงสปอร์ตไลท์ยังคงสาดส่องแต่ก็ไปได้ไม่ถึงดีนักทำให้บรรยากาศตรงจุดนั้นออกสลัวนิด ๆ
“พี่จับได้แล้วนะ แบบนี้หนีพี่ไม่ได้แล้ว”
“พี่ต้นขี้โกงหนิหน่า” 2 พี่น้องหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนนี้เด็กสาวอยู่ในท่ายืนพิงบันใดทางขึ้นสระน้ำ โดยมีพี่ชายจับราวบันใดไว้ทั้ง 2 ข้าง ด้วยความไม่ตั้งใจแต่มันก็ทำให้ร่างของทั้งคู่เบียดเสียดเข้าหากัน เต้าอวบกลมกลึงซึ่งมีเพียงฟองน้ำบาง ๆ ภายใต้ชุดว่ายน้ำกั้นไว้เบียดเข้าหาแผ่นอกที่เปลือยเปล่าของเค้า และเมื่อรู้สึกตัว ความเงียบก็เข้ามาแทนที่อีกครั้ง ต้นหนาวยกแขนขึ้นใช้มือลูบปอยผมน้องสาวเบา ๆ คงไม่มีคำพูดใดที่จะอธิบายความรู้สึกของคนทั้ง 2 ได้มากกว่าการกระทำ ต้นหนาวค่อย ๆ ก้มลงจุมพิตเรียวปากบาง ๆ ช้า ๆ โดยที่เปลือกตาของปลายฝนก็ค่อย ๆ หลับลง ริมฝีปากของพี่น้องเริ่มประกบเข้าหากัน และแม้ทั้งคู่จะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน แต่ธรรมชาติภายในตัวมนุษย์ก็เริ่มสอนว่าต้องทำอย่างไร ปลายลิ้นของเด็กหนุ่มค่อย ๆ แซะผ่านริมฝีปากนุ่ม ๆ ของน้องสาว โดยที่ปลายฝนเองก็เผยอรับมันอย่างเต็มใจ เรียวลิ้นของทั้ง 2 ค่อย ๆ สัมผัสผสานกันอย่างนุ่มนวล มือขวาที่เคยจับราวบันไดค่อย ๆ ลูบไล้มายังสีข้างก่อนจะไล้ขึ้นไปยังเต้าอวบอิ่ม
“อึ่มมมม...” เสียงครางในลำคอเริ่มเผยให้ได้ยินเมื่อต้นหนาวเริ่มบีบคลึงเต้านมของน้องสาวเบา ๆ จากที่เป็นแค่เพียงในจินตนาการที่เค้าคิด ไม่นึกเลยว่าจะได้สัมผัสมันจริง ๆ ในวันนี้ ดุ้นเนื้อในกางเกงว่ายน้ำเริ่มขยายขึ้นจนรู้สึกได้ มือซ้ายอีกข้างค่อย ๆ ลดต่ำลงมาประคองเข้ากับแก้มก้นอันกลมกลึง เด็กหนุ่มขยำมันพลางดึงเข้าหาตัว
“ซี๊ดดดส์...” ต้นหนาวถึงกับต้องละริมฝีปากออกมาเล็กน้อยเพื่อปลดปล่อยเสียงครางระบายความเสียวที่ส่งผ่านมาเมื่อลำควยที่บัดนี้แข็งเป็นท่อนไม้เบียดเข้ากับท้องน้อยของน้องสาว เค้าค่อย ๆ ย่อตัวบดมันเข้ากับเนินเนื้อของเธอพร้อม ๆ กับมือซ้ายที่ดึงรั้งตัวเธอเข้าหา ปลายฝนเองก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่กำลังพยายามบดเบียดเข้ากับเนินน้องของตัวเอง
“อึ่มมมม...” ไอ้นั่นของพี่ชายกำลังเบียดเข้ากับเนินหีของเรา เด็กสาวคิดทั้งที่ยังคงหลับตาพริ้ม เต้านมของเราก็กำลังถูกพี่ต้นบีบอยู่ มันเสียวอะไรอย่างนี้ ยิ่งคิดความเงี่ยนในตัวของเธอก็เริ่มแสดงปฏิกิริยาตอบสนอง ของเหลวลื่น ๆ ค่อย ๆ แทรกผ่านในหลืบเสียวของเธอออกมา ความรู้สึกเหมือนอยากจะเอาอะไรแยงเข้าไปค่อย ๆ ประทุขึ้น มันเป็นเหมือนทุกครั้งที่เธอช่วยตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่เคยใช้สิ่งใดสอดใส่ล่วงเกินมันเข้าไปเลยแม้แต่นิ้วมือของตัวเอง แต่ครั้งนี้เธอกลับรู้สึกอยากให้สิ่งที่กำลังถูไถเนินเนื้อของเธออยู่นั้นแทรกตัวผ่านเข้าไปซักครั้ง ไวเท่าความคิด และแล้วปลายฝนก็ส่งมือข้างซ้ายหงายมือสอดผ่านระหว่างตัวเธอกับพี่ชายเข้าไปจับดุ้นเนื้อนั้นเบา ๆ ต้นหนาวสะดุ้งเล็กน้อยกับการกระทำของน้องสาว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ทุกอย่างหยุดลง มือซึ่งกุมเต้าอวบอยู่ถูกลดลงมาเพื่อจับขอบขากางเกงว่ายน้ำแล้วงัดเอาลำควยออกมาด้านข้างให้น้องสาวได้จับมันอย่างถนัด แม้น้ำในสระจะค่อนข้างเย็นแต่ความรู้สึกของดุ้นเนื้อในมือมันช่างอุ่นอย่างประหลาด ถ้ามันได้แทรกผ่านรูหีของเราเข้าไปมันจะรู้สึกยังไงนะ คิดไปมือก็เริ่มถอกลำควยพี่ชายไปอย่างลืมตัวโดยไม่รู้ว่ามันคือการกระตุ้นความเงี่ยนให้ครุโชน
“อ้า...” น้องสาวที่แสนน่ารักของเรากำลังถอกควยเราอยู่หรือเนี่ย นี่มันไม่ใช่ความฝันใช่มั๊ย ความฝันที่จะได้ร่วมรักกับน้องสาวของตัวเอง ต้นหนาวจับมือปลายฝนที่กำลังถอกท่อนเอ็นเค้าอยู่ออกแล้วจับปลายนิ้วของเธอนั้นสอดเกี่ยวเข้ากับขอบขาชุดว่ายน้ำของเธอเองแล้วรั้งมันเบา ๆ เพื่อเปิดทางสวรรค์ ซึ่งปลายฝนก็ทำตามอย่างว่าง่าย นี่พี่ชายกำลังจะเอาไอ้นั่นสอดใส่เข้ามาในตัวเราแล้วสินะ เพียงแค่คิดร่องหีก็ขมิบรับโดยไม่รู้ตัว
“ซี๊ดดดส์...” เพียงต้นหนาวจับท่อนเนื้อใช้หัวควยถูกไถกับปากทางสวรรค์เบา ๆ ปลายฝนก็อดที่จะร้องครางออกมาไม่ได้ ตอนนี้ของ ๆ พี่กำลังถูกับปากรูหีของเรา ช่างเสียวอะไรอย่างนี้ ต้นหนาวเองก็เสียวหัวควยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้จะมองไม่เห็นว่าท่อนล่างของทั้ง 2 ได้สัมผัสกันอย่างไร แต่เค้าก็จินตนาการได้ถึงภาพที่หัวควยของตัวเองกำลังจะค่อย ๆ แทรกผ่านพูหีที่ปิดสนิทของน้องสาวที่เค้ารักอย่างช้า ๆ ต้นหนาวเริ่มใช้ส่วนหัวถูไถเข้ากับปากร่องหนักหน่วงขึ้นจนรู้สึกได้ถึงน้ำลื่น ๆ ที่ไหลออกมาปะปนกับน้ำในสระจนปลายควยเริ่มแทรกผ่านแคบเนื้อที่คับแคบช้า ๆ
“ซี๊ดดดส์... พี่ต้น... ปลายเสียว” ยิ่งได้ยินเสียงครางของน้องสาว ต้นหนาวก็ยิ่งทวีความเงี่ยน เค้าค่อย ๆ แอ่นเอวไปด้านหน้าช้า ๆ หมายจะส่งท่อนเอ็นให้แทรกผ่านเข้าไปในร่องเสียวของน้องสาวจนมิดในคราวเดียวแบบนุ่มนวล แต่ทว่า…
“คุณต้นครับ... ใช่คุณต้นรึป่าวครับ” เสียงคนทำความสะอาดสระว่ายน้ำตะโกนมายังอีกฟากของสระน้ำ ทำเอาทั้ง 2 สะดุ้งแยกออกจากกัน
“ครับ ๆ ผมเอง พี่แดงมีอะไรรึป่าว” ต้นหนาวรีบตอบแก้เกี้ยว พร้อมค่อย ๆ ว่ายน้ำเข้าไปหาโดยไม่ลืมที่จะเก็บเครื่องเคราให้เข้าที่
“คุณต้นอยู่กับคุณปลายใช่มั๊ยครับ”
“เอ่อใช่ ทำไมเหรอ”
“เอ่อ... คือ... วันนี้ผมอยากจะรีบกลับบ้านไปดูลูกน่ะครับ เมียผมไปหาแม่เค้าที่ต่างจังหวัด ก็เลยขอทางสโมสรกลับก่อน เจ้านายเค้าบอกว่าคงไม่มีใครมาแล้วเพราะฝนตก แล้วถ้าไม่มีคนและทำความสะอาดเสร็จก็กลับได้ พอดีผมเห็นเป็นคุณต้นเลยอยากจะขอกลับก่อนน่ะครับ”
“อ๋อได้สิ เดี๋ยวผมบอกให้ปลายขึ้นเลยก็ได้”
“ขอบคุณมากเลยครับคุณต้น”
“ไม่เป็นไรครับ ผมก็กำลังจะขึ้นอยู่พอดี” ต้นหนาวตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทั้ง ๆ ที่รู้สึกเสียดาย แล้วค่อย ๆ พาตัวเองขึ้นจากสระว่ายน้ำไปยังโต๊ะวางสัมภาระ
“พี่ต้น พี่แดงเค้าว่ายังไงเหรอ” ปลายฝนซึ่งขึ้นมาก่อนแล้วซักพี่ชายทันที
“ป่าวหรอก พี่เค้าแค่อยากจะให้เรารีบขึ้นจากสระเพื่อทำความสะอาดน่ะ”
“แล้ว... พี่เค้าเห็นเรารึป่าว”
“เห็น...” เพียงได้ยินคำตอบปลายฝนก็ถลึงตาด้วยความตกใจ แต่ยังไม่ทันที่เด็กสาวจะได้เอ่ยอะไร พี่ชายก็พูดเสริมต่อทันที
“เห็นอะไรเหรอ” ต้นหนาวพูดยิ้ม ๆ แหย่น้องสาว
“พี่บ้า... ไม่พูดด้วยแล้ว” ปลายฝนพูดอย่างงอน ๆ พร้อมทำจมูกย่นใส่ และแล้วทั้งคู่ก็เช็ดตัวพอหมาดแล้วใส่เสื้อผ้าทับชุดว่ายน้ำ นี่เป็นกิจวัตรหลังว่ายน้ำเสร็จที่ทั้ง 2 ทำกันคือกลับไปอาบน้ำที่บ้านไม่อาบที่สระว่ายน้ำ เพราะเคยได้ยินว่ามีการแอบดูในห้องอาบน้ำ
“วันนี้พี่ขี่นะ หนูจะซ้อน”
“ได้เลยน้องสาวของพี่” ต้นหนาวตอบด้วยรอยยิ้มอย่างจริงใจ เค้ารู้สึกโล่งอกที่ได้คุยกันเป็นปกติเหมือนเมื่อก่อน

ร้านของชำ season2 #5

ไม่รู้เพราะอะไร พอผมเห็นภาพนั้น ผมกลับไม่อยากเอาน้องเค้าขึ้นมา ควยมันเหี่ยวไปซะดื้อๆ อย่างนั้น

มันมากเกินไปหรือเปล่า เรื่องตรงหน้าผมมันคืออะไร ผมอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไรอยู่ เหมือนสติสัมปะชัญญะ มันกลับมา ทำไมน้องเอ๋น่าสงสารจัง เกิดอะไรขึ้นนะ ผมมองหน้าน้องอีกครั้ง แล้วความรู้สึกใหม่ก็ก่อตัวขึ้นในอก ทำไมเหมือนน้องเค้าไม่ได้มีความสุขอย่างที่ท่าทาง หรือปากน้องเค้าพูดเลย เด็กตัวเล็กๆ แค่นี้ ทำไมกร้านโลกยิ่งนัก นี่มันเรื่องอะไรกันแน่

ผมรีบจับไอ้ตัวปัญหา ที่กำลังเหี่ยวลงเรื่อยๆ เข้าไปในที่ของมัน และรูดซิปเก็บ พลางเดิน กึ่งวิ่งออกมาจากตรงนั้น โดยที่ไม่ได้มองหันหลังกลับไปอีกเลย

ระหว่างเดินออกมา ผมก็ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ ว่า “มันเกิดอะไรขึ้น”

--------------------------------------------------------

“ทำไมวันนั้นพี่ไม่เอาหนู” หลังจากที่ผมและน้องเอ๋ใช้เวลาอยู่บนโต๊ะอาหารกันเงียบๆ เอ๋ก็ทำลายความเงียบลงด้วยคำถามนี้ พลางจ้องหน้าผมแบบต้องการคำตอบ

สามวันที่เอ๋มาอยู่ห้องผม น้องเอ๋ไม่ใช่คนช่างพูด เราจะพูดกันแค่ที่จำเป็น ชวนกินขนม บอกตำแหน่งสิ่งของ และส่วนใหญ่ก็เป็นผมที่พูดออกมา

“พี่ไปทำงานแล้วนะ เงินวางไว้บนโต๊ะ หาอะไรกินซะล่ะ” ผมให้น้องเค้าเฝ้าห้องให้ ผมออกไปทำงานแต่เช้า ประมาณ 8 โมง และกว่าจะกลับถึงบ้านก็ สอง-สามทุ่มไปแล้ว

กลับมาก็จะเห็นอาหารในจานที่เตรียมไว้เป็นอย่างดี วางไว้รอผมกินบนโต๊ะกลางของห้องนั่งเล่น แต่พอมองหาคนที่จัดเตรียมไว้ให้ ก็ไม่เจอใคร น้องเอ๋อาจจะหลับไปแล้ว บนเตียงในห้องนอนของผม ผมก็ปล่อยให้น้องเค้านอนไป ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปรบกวน

ผมเป็นคนบอกให้เธอนอนในห้อง ส่วนตัวผมจะนอนที่โซฟาเอง เอาจริงๆ ส่วนใหญ่ผมมักจะนอนที่โซฟานี่แหละ ในห้องไม่ค่อยได้นอนหรอก จะเป็นที่เก็บเสื้อผ้าซะมากกว่า วันนี้เป็นวันเสาร์ และเป็นวันแรกที่ผมต้องใช้ชีวิตกับน้องเอ๋ในห้องนี้ทั้งวัน ผมตื่นเต้นตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ นอนคิดนู่นนี่ กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนโซฟาจนหลับไปตอนไหนก็ไม่รุ้

ผมตื่นเช้ามาลืมตาเกาไข่ เหมือนเช้าวันเสาร์ปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ หัวผมไม่ได้หนุนหมอน แต่หนุนอยู่บนตักของสาวน้อยนางหนึ่ง เอ๋คงอาบน้ำแปรงฟันเสร็จแล้ว นั่งโซฟาเอาตักตัวเองมาให้ผมหนุนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตัวเธอหอมฉุยไปด้วยกลิ่นสบู่ นั่งดูการ์ตูนช่องเคเบิ้ลในทีวีขนาด 60 นิ้ว ที่แขวนอยู่บนผนัง

นี่ซิถึงจะเหมือนเด็กมัธยมปกติธรรมดา ผมมองเงยขึ้นไปที่หน้าของเธอ รอยยิ้มที่แต้มอยู่บนหน้าตอนนี้ ผมว่าดูจะน่ารักกว่า น้องเอ๋ที่ผมกระเซอะกระเซิงและหน้าที่เปรอะไปด้วยน้ำตาและน้ำลายในวันที่ผมเดินจากเธอมาในวันนั้น และไม่เคยกลับไปอีกเลยจนผมกลับมาอยู่ในกรุงเทพฯ

น้องเอ๋อยู่ในเสื้อยืดตัวเก่าโคร่งๆ ที่ผมบอกให้เธอเอาไปใส่ เสื้อยาวกว่าตัวน้องเอ๋เยอะแต่ก็ไม่ได้ยาวมากจนคลุมเข่าเธอได้ ตอนนั่งมันก็ร่นขึ้นมาประกอบกับที่หัวผมกำลังหนุนอยู่ มันก็คงร่นขึ้น ขยับขึ้นไปเรื่อยๆ จนตอนนี้หัวผมหนุนอยู่กับขาเธอเต็มๆ ไม่มีเสื้อมากันระหว่างต้นขาเนียนๆ กับหัวของผม หลังเอ๋พิงโซฟาตาก็จ้องอยู่ที่ทีวี พอผมวางตาจากหน้าสวยๆ ใสๆ ของเอ๋ ตาผมก็ไล่ต่ำลงมาเรื่อยๆ จนไปหยุดที่หน้าอกของเธอ จุกสองจุกที่ดันเสื้อยืดตัวโคร่งออกมา ท้าทายสายตา ก็ทำให้แก่นกายผมเตรียมพร้อมยืนตรงตามหน้าที่ในทุกๆ เช้า

วันที่มาเคาะห้องผม สาวน้อยคนนี้ไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลยซักอย่าง มีเพียงชุดนักเรียนที่ใส่ติดตัวมา แม้แต่ยกทรงก็ไม่ได้ใส่มา เพราะผมสามารถมองเห็นหัวนมที่ดันชุดนักเรียนออกมาได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องสังเกต และกระเป๋าสตางค์สีชมพูเก่าๆ ที่ถือติดมามาด้วย เอ๋วางทิ้งไว้ตรงตู้วางรองเท้าหน้าประตู เธอไม่เคยไปแตะต้องมันอีกเลย ตั้งแต่วันที่เธอเข้ามาในห้องนี้

ดูเหมือนว่าเอ๋จะยังไม่รู้ว่าผมตื่นแล้ว และจ้องหน้า และหัวนมเธอที่อวดสายตาผมอยู่ ผมก็เลยถือโอกาสเอาเปรียบเธอด้วยการลอบสังเกตเธออยู่อย่างนั้น นมบ้าง หน้าบ้าง จนผมมาผิดสังเกตเอาที่คอของเธอ เหมือนจะมีรอยเขียวๆ เป็นจ้ำๆ อยู่หลายจุด บางจุดก็ช้ำจนเหมือนจะเป็นแผลเป็นไปแล้ว

“พี่ตื่นแล้วหรอคะ” เอ๋ถามพลางคว้าหมอนใบเล็กสีเดียวกับโซฟามากอดเอาไว้ตรงอก แก้เขินเพราะรู้ว่า ผมกำลังลอบสำรวจร่างกายเธออยู่ แต่ก็ไม่ได้ขยับตัวไปไหนกลับปล่อยให้ผมนอนตักเธออยุ่อย่างนั้น
“พี่เมื่อยคอมั้ย พอดีว่าเอ๋อยากดูการ์ตูน แต่ที่นั่งที่ดูถนัดมีแต่ตรงนี้ก็เลยถือโอกาส เอาหัวพี่มาหนุนตกหนูแทนหมอน”

ฟังก็รู้ว่าเป็นข้ออ้าง ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ แต่ก็ยังนอนหนุนตักเธออย่างนั้น พลางแอบดูนู่นดูนี่ เงียบๆ ไปเรื่อยๆ
เอ๋ก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เลย หันหน้าหนี ทำท่าเหมือนตั้งใจดูทีวีต่อไป

ผมเริ่มรู้สึกว่าจังหวะการหายใจของเอ๋เปลี่ยนไป เหมือนจะหายใจหนักขึ้น และลึกขึ้นกว่าเดิม กลิ่นสาบสาวตรงหว่างขาก็โชยออกมา จนจมูกผมรู้สึกได้ พอมองขึ้นไปผมก็รู้สาเหตุ เพราะตอนนี้ เอ๋ก็แอบสำรวจร่างกายผมอยู่เหมือนกัน และตอนนี้ตาเธอก็ไปหยุดอยู่ที่ควยแท่งโตที่ยืนตรงหัวเปียกชุ่มอยู่ในกางเกงนอนบางๆ ที่ไม่มีกางเกงในกั้น เอ๋ละสายตาออกมาจากควยผม หายใจหนักๆ เธอมองก้มลงมาที่เจ้าของควย พอสายตาเรามาชนกัน ต่างคนต่างเขิน ผมรีบลุกขึ้นมายืนค่อมๆ เดินเหมือนคนปวดท้อง ไปอาบน้ำแต่งตัว

พอออกมาก็เจอข้าวผัดส่งกลิ่นหอม สองจานวางอยู่บนโต๊ะในโซนครัว พร้อมกับสาวน้อยตัวเล็กๆ น่ากิน… เอ้ย น่ารัก ที่ส่งกลิ่นหอมกว่าข้าวลอยมาเตะจมูกผม

“พี่คะ กินข้าวค่ะ ไม่รู้จะอร่อยถูกปากหรือเปล่านะ เอ๋ทำไม่ค่อยเก่งน่ะ” ผมก็ไม่รู้ว่าเอ๋ออกไปหาซื้อของมาทำอาหารได้อย่างไรในชุดแบบนั้น ป่านนี้ยามคอนโดฯ ผมไม่เงี่ยนควยแข็ง ชัดว่าวกันจนน้ำหมดตัวไม่มีแรงเฝ้ายามกันหมดทั้งตึกไปแล้วหรอ เพราะตัวผมเองควยก็ดันกางเกงในจนปวดหนึบๆ ไปหมดแล้วตอนนี้

“ทำไมวันนั้นพี่ไม่เอาหนู” เอ๋โพล่งออกมาหลังจากที่เราสองคนอิ่มจากข้าวผัดที่แสนอร่อย และนั่งผึ่งท้องกันเงียบๆ อยู่ที่โต๊ะอาหาร

“พี่.. เอ่อ.. น้องเอ๋ครับ.. ตะกี้เอ๋ถามว่าอะไรนะ” ผมได้ยินแหละ แต่ก็เกาหัวถามกลับแก้เกี้ยวไปอย่างนั้น

“เอ๋ถามว่า ทำไมวันนั้น พี่ไม่เย็ดเอ๋ล่ะคะ เพราะพี่ไม่เคยเย็ดตูดหรอ” เอ๋ตอบกลับมาด้วยเสียงที่ชัดเจนขึ้น และย้ำทุกคำให้แน่ใจว่าผมจะได้ยิน “หรือตูด กับหีเอ๋สภาพไม่สวยจนพี่ไม่อยากเย็ดแล้ว”

“ไม่จริงนะ เอ๋สวยมากๆ พี่บอกได้เลย ตรงนั้นเอ๋ก็ยังสวยนะ พี่ก็เห็นอยู่บ่อยๆ จริงๆ แล้วพี่ก็แอบมองเอ๋ตั้งแต่วันแรกที่ไปนั่งที่ร้านเลยนะ” ผมรีบตอบกลับไปด้วยความที่กลัวน้องเค้าเสียความมั่นใจ และจะเข้าใจผิด “ส่วนเรื่องเอาทางก้นเนี่ย พี่ไม่เคยนะ แต่ถ้าเป็นก้นเอ๋ พี่เต็มใจเอาแน่ๆ”

ตาโตๆ บนใบหน้าสวยรับกับผิวขาวเนียนแบบคนไทยเชื่อสายจีน จ้องตาผมไม่กระพริบ และยังคงรอคำตอบของคำถามแรกที่ถามผมมา

“พี่ก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันครับ” ผมพยายามกลั่นความรู้สึกในตอนนั้น ออกมาเป็นคำพูดเพื่ออธิบายให้สาวน้อยตรงหน้าฟัง “มันมีคำถามเกิดขึ้นข้างในใจพี่น่ะ” ผมนึกย้อนไปถึงวันที่เดินจากมา
“เอ๋.. เอ๋เต็มใจจริงๆ หรือเปล่า กับท่าทาง และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น”
“พี่ก็ไม่เข้าใจ แต่จิตสำนึกบอกพี่ว่า เอ๋ ไม่ได้เต็มใจ” ในที่สุดความรู้สึกในวันนั้นก็หลุดออกมาเป็นคำพูดได้

สาวน้อยตรงหน้าไม่พูดอะไร เธอเอื้อมมือมาจับมือผมบนโต๊ะอาหาร และฟุบหน้าไปกับแขนอีกข้างหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ เสียงสะอื้นไห้ดังขึ้น น้องเอ๋ปล่อยโฮออกมา ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาพูดหรืออธิบายอะไรให้ผมเข้าใจมากกว่าที่เป็นอยู่ ตอนนี้ผมงงกว่าเดิมอีกครับ

เกือบสิบนาที เสียงสะอื้นเริ่มจางลง
“เอ๋ขอนอนกอดพี่ได้มั้ยคะ” เสียงอู้อี้ที่ยังไม่หายสะอื้นดี ดังมาจากหน้าที่ฟุบอยู่บนโต๊ะ

“เอ่อ.. ได้ซิ” เอ๋ลุกขึ้นทันที และเดินจับแขนผมไปที่เตียงนอนในห้องนอนของผมเอง

เธอเดินนำขึ้นไปนั่งบนเตียงและเรียกให้ผมตามเธอขึ้นไป ผมขึ้นไปนั่งอยู่ข้างๆ เก้ๆ กังๆ จากนั้นเอ๋ก็บอกให้ผมให้นอนลงหนุนหมอน ส่วนตัวเธอก็ล้มตัวลงข้างๆ และซบลงมากับอกผมพลางก่ายขาและเอาแขนมาโอบกอดเอาไว้ ประหนึ่งว่าไม่ยอมให้หนีเธอไปไหน

เสียงสะอื้นแว่วมาเข้าหูผมอีกครั้ง แต่เป็นช่วงๆ ขาดๆ หายๆ ผมนอนให้น้องเอ๋ซบอยุ่อย่างนั้น ไม่กล้าลุก หรือขยับตัวไปไหน จนสุดท้ายผมหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้… รู้สึกตัวขึ้นมาเพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรมาขยุกขยิกอยู่ที่กางเกง ยังไม่ทันที่จะได้ยันตัวขึ้นมองว่าใครมาทำอะไร กางเกงบอลตัวบางๆ ที่ผมมักจะใส่เวลาอยู่บ้านคนเดียวก็โดนดึงเลิกออกพร้อมกางเกงใน ผมรีบลุกขึ้นนั่งเพื่อหาคนทำทันที แต่น้องเอ๋ไวกว่าผมมากนัก

เธอครอบปากน้อยๆ มาที่ไอ้จู๋ที่ตอนนี้เป็นเพียงหนอนตัวน้อยๆ ผมรู้สึกเสียววูบขึ้นมาเลย สัมผัสอุ่นๆ เปียกที่ไม่โดนมานาน ทำอะไรไม่ถูกครับ ได้แต่ท้าวแขนดูสาวน้อยที่ตอนนี้ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวอยู่เลย (จริงๆ ตอนแรกก็มีแค่เสื้อผมคลุมอยู่ตัวเดียวนั่นแหละ) กำลังดูดดุนหนอนน้อยที่เริ่มขยายตัวเป็นควยขนาดปกติชายไทย ไม่เล็กไม่ใหญ่

เอ๋นั่งอยู่ทางด้านขวา หันก้นกลมสวยมาให้ ผิวขาวเนียนไร้สิวฝ้าที่ขยับส่ายไปมาเพราะเจ้าตัวกำลังสาละวนอยู่กับควย ที่เธอทั้งจับ ทั้งดูดเล่นราวกับไอติมรสโปรด

“อีอั้ยอะ” (ดีมั้ยคะ) เอ๋เงยหน้าขึ้นหันกลับมามองหน้าผม ปากก็พูดทั้งๆ ที่คาบควยผมอยู่

“ดีครับเอ๋ พี่เสียวดีจัง เสียววูบๆ ตรงหัวน่ะ” ผมไม่ฝืนตัวเองแล้วครับตอนนี้ ปล่อยไปตามใจต้องการ
มือก็เอื้อมไปจับก้นที่ส่ายไหวๆ อยู่ตรงหน้า

เอ๋เห็นว่าผมพยายามจะจับก้น เธอก็ขยับตัวเข้ามาให้จับถนัดขึ้น ยิ่งผมเสียวเท่าไหร่ ผมก็ออกแรงบีบก้นเอ๋จนแดงเป็นรอยมือไปหมด เพราะความขาวที่ผมเคยจ้องไม่วางตาเมื่อวันที่ไปนั่งเล่นที่ร้านพี่ชาติ ผมลูบไปมาจนปลายนิ้วไปโดนพลูหีด้านหน้า ที่ย้อยมาข้างหลัง หีเอ๋แฉะมากอย่างกับเพิ่งโดนเลียมา ทุกครั้งที่ปลายนิ้วผมไปโดนแคม หรือแตดของน้องเอ๋ เธอก็จะสะดุ้งและดูดควยผมแรงขึ้นตามจังหวะการโดน

เอ๋ถอนปากออก ยันกายขึ้น เธอเอามือกระทอกควยให้ผมสุดลำที่แฉะไปด้วยน้ำลายของเธอ และน้ำเงี่ยนของผมเองผสมกัน เธอเอี้ยวกายหันหน้าแสนสวยมาทางผม ยิ้มของเอ๋มีเสน่มากครับตอนนี้ ไม่เหมือนวันนั้นเลย วันที่ยิ้มของเธอไม่ได้มีความสุขเจือมาด้วย

“พี่ แยงหีให้เอ๋หน่อย” พูดจบเธอก็ก้าวขาซ้ายมาคล่อมตัวผมไว้ ย้ายพลูหีที่ผมจับเล่นอยู่ซักครู่มาอวดเต็มตาอยู่ตรงหน้า ห่างไปไม่ถึงฝ่ามือ

พอขยับได้เข้าที่ เอ๋ก็โน้มตัวลงไปเล่นกับควยผมต่อ เอ๋ขยับปากขึ้นลงอย่างชำนาญ โยกตัวจนผมเสียวไปหมด มือก็ช่วยกระทอกเป็นจังหวะ จนผมเกือบจะทนไม่ไหว แต่ไม่รุ้ว่าจะทำยังไง เลยเอานิ้วกลางแหย่เข้าไปที่หีสวยๆ สีสดๆ ตรงหน้าทีเดียวทั้งนิ้วเพื่อลดความเสียวลง ถึงแม้ว่าหีของเอ๋จะผ่านควยพี่ชาติ มาอย่างนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ถือว่าสภาพยังไม่แย่เลยซักนิด อาจจะเพราะอายุที่ยังไม่เยอะ และผิวที่ขาวจนทำให้เนื้อโหนกหี หรือแม้แต่เนื้อด้านในก็มีแต่สีชมพู ไม่คล้ำอย่างที่ควรจะเป็น

พอเอ๋โดนผมเอาคืนบ้างจังหวะการดูดของเธอก็ช้าลง ผมความนิ้วไปรอบๆ ช้าๆ เร็วๆ สลับกันไป ทั่วๆ รูลึกลับตรงหน้า เหมือนสำรวจหาแหล่งน้ำเสียวจากสัตว์ป่าที่กระหายน้ำ เอ๋คงเสียวมากจนลืมทำหน้าที่ตรงหน้าไป เธอแช่ควยของผมไว้ในปากโดยไม่ได้ขยับขึ้นลงเหมือนตอนแรก พลางส่งเสียง อือๆ ออกมาให้ผมได้ใจมากขึ้น
ผมขยับนิ้วออกมา จนเกือบหลุดจากรูหีสวยๆ และเพิ่มจากนิ้วกลางนิ้วเดียวเป็น สองนิ้ว โดนใส่นิ้วนางเข้าไปด้วย และแยงกลับลงไปจังหวะเดิม

ผมคงไปโดนสวิทช์อะไรซักอย่างด้านในนั้นแน่ๆ เพราะตอนนี้เอ๋ตัวสั่นไปหมด จังหวะการโยกที่เกือบทำน้ำควยผมแตกก็กลับมา และยิ่งเพิ่มความเร็ว และรุนแรงมากกว่าเดิม ตอนนี้เอ๋เอาท่อนแขนสองข้างยันที่นอนไว้ และขยับปากขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เข้าสุดออกสุดความยาวของควย ความรู้สึกผมในตอนนี้ เหมือนกำลังโดนหีแน่นๆ ควบอยู่ไม่มีผิด

ด้วยความเสียวที่จี๊ดขึ้นมา ผมเลยตอบโต้สาวน้อยที่คล่อมร่างผมอยู่ด้วยการ ขยับนิ้วให้เร็วไม่ต่างจากที่เธอทำให้ผม ผมคลำหาจุดขรุขระด้านในผนังหีของน้องเอ๋ และเร่งกระตุกสองนิ้ว เหมือนที่ผมเคยเห็นพระเอกหนัง AV ญี่ปุ่นทำ

ตอนนี้ในห้องเงียบปราศจากเสียงไดๆ นอกจากเสียงแจะๆ และเสียงอือๆ ในลำคอเป็นจังหวะ จากปากสาวน้อยในวัยมัธยมที่เต็มไปด้วยน้ำลาย และน้ำเงี่ยน ที่กระแทกอยู่กับหนอกควย และนิ้วสองนิ้วของผมที่กระหน่ำรัวไปบนหีของสาวน้อยคนเดียวกัน ด้านในร่องของเอ๋บีบและคลายตัวอย่างรุนแรง น้ำหอมๆ ทะลักออกมาเปียกนิ้ว เปียกมือไปหมด บางส่วนไหลย้อยลงมาเปียกที่อกเสื้อผมเป็นดวงๆ เอ๋คงเสร็จไปแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ลดความเร็วในการโยกปากของเธอกับควยผมลงแม้แต่นิด จนผมทนไม่ไหวอีกต่อไป

“เอ๋ๆ พี่ไม่ไหวแล้ว จะแตกแล้ว” ผมตะโกนออกมาด้วยความเสียว หวังจะให้เธอถอนปากออกและชักให้เสร็จๆ เสียที

สาวน้อยไม่มีที่ท่าที่จะลดความเร็วลง มีแต่เร่งให้มากขึ้นกว่าเดิม จนผมกลั้นต่อไปไม่ไหว กระฉูดน้ำกามเข้าไปในปากในคอของเธอจนหมด ผมนอนหลับตาดิ้นเร่าๆ แขนขาป่ายไปทั่วที่นอน ด้วยความเสียว เพราะเอ๋ไม่ยอมลดความเร็วลง แต่ยังคงดูด และโยกหัวอยู่อย่างนั้น น้ำกามที่ล้นออกมาไหลย้อยลงมาเปรอะหมอย เปรอะโหนกควยจนแฉะ

เอ๋ถอนปากออก และเอามือมากระถอกควยผมต่อ พลางเลียเก็บน้ำสวาทที่ไหลเปรอะเปรื้อนไปทั่วบริเวณ สาวน้อยคนสวยบนตัวผมคงเมื่อยจึงวางก้นลงกับอกผม และก้มหน้าก้มตาดูดน้ำที่เหลือออกจากควย ไม่ให้พลาดแม้ซักหยาดหยดเดียว เอ๋ทำความสะอาดควยผมด้วยปากของเธอเสร็จ ก็ล้มตัวแนบลงกับตัวผม พร้อมเอาหน้าแนบควย แล้วประคองขึ้นมาจูบอย่างรักใคร่

“ปกติหนูไม่กินน้ำควยนะ แต่ของพี่มันอร่อยเหลือเกิน” เอ๋รำพันขึ้นมาเหมือนเธอคุยอยู่กับควยผม

น้องเอ๋ยันตัวขึ้น และคลานมาหอมแก้มผม แล้วล้มตัวลงกับไหล่พลางกระซิบข้างๆ หู
“หนูรักพี่นะ”

น้องเอ๋เล่าให้ฟังว่า เธอและพี่ชาติ ไม่ได้เป็นพ่อลูกกัน เจ๊อ้อยนั้นหย่ากับผัวคนเก่าตั้งแต่เอ๋ยังเด็กๆ และมาได้กับผัวใหม่ก็คือพี่ชาติและย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านที่เธออยู่ปัจจุบัน

เอ๋โดนพี่ชาติเอาตั้งแต่ เพิ่งขึ้นม.ต้นใหม่ๆ ไม่ได้โดนข่มขืนไดๆ ทั้งสิ้นเพราะตัวเจ๊อ้อยเองนั่นแหละ ที่เอาลูกสาวมาสังเวยให้พ่อเลี้ยง ส่วนตัวเจ๊อ้อยเองก็โดนน้องโอ๋ ที่เป็นลูกติดพี่ชาติเอาแทบทุกวัน บางวันน้องโอ๋ก็จะมาเย็ดกับเธอบ้าง แรกๆ ตัวเอ๋เองก็ไม่ชอบและรู้สึกขืนใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่กล้าขัดใจแม่บังเกิดเกล้าจึงต้องยอมมาเรื่อยๆ

ภาพที่ผมเห็นเป็นประจำที่ น้องเอ๋โดนเย็ดที่หน้าร้านอวดสายตาประชาชีนั้น เป็นภาพที่เกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปกติ จนหลังๆ เอ๋สารภาพกับผมว่า เธอกลายเป็นคนที่เสพติดการโดนเย็ดไปแล้ว วันไหนไม่โดนแทบจะนอนไม่หลับเลยทีเดียว จะมีที่เว้นว่างได้ก็คือวันที่เป็นประจำเดือนเท่านั้น

ป๊า หรือ พี่ชาติมักจะหาของเล่นหรือ ท่าทางใหม่ๆ มาลองกับเอ๋และแม่เสมอ เอาตูด เอาปาก หรือแม้แต่ซื้อไข่สั่นมายัดไว้ทั้งวันก็เคยมาแล้ว น้องเอ๋และแม่โดนสองพ่อลูกเย็ดนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งหีทั้งตูด ที่สองพ่อลูกชอบที่สุดก็น่าจะเป็นการรุมเย็ดสองรูพร้อมกัน เพราะสองแม่ลูกโดนแทบทุกวัน

บางครั้ง พี่ชาติก็พาเพื่อนมาสองสามคน มาช่วยกันรุมเธอกับแม่ หรือแม้แต่น้องโอ๋ ก็เคยพาครูที่โรงเรียนมาเอาเธอเพียงเพื่อแลกกับเกรดการเรียน บางวันเธอได้แต่นั่งกอดเข่าร้องไห้ เพราะไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิต ตอนโดนเอาก็เสียวหีเสียวตูดดี แต่พอเอาเสร็จเธอมานั่งนึกถึงสิ่งที่เป็นอยู่ ก็ได้แต่เสียใจและหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้
สายตาเจ๊อ้อยที่มองมา บางครั้งก็สงสารลูกสาวตัวเองจับใจ ที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ ก็ได้แต่ร่ำไห้อยู่กับลูกเพราะไร้ทางออกเช่นกัน

น้องเอ๋ยังบอกอีกว่า ดีแล้วที่วันนั้นผมไม่เอาน้องเอ๋ เพราะเคยมีลูกค้ามานั่งที่ร้านเป็นประจำคล้ายๆ เคสผม คือมาเพื่อดูพ่อลูกเอากัน บ่อยๆ เข้าก็จะถูกชักชวนให้มาช่วยกันรุมเธอ แต่… นั่นเป็นแผนของพี่ชาติเอง ที่จะเอาภาพลูกค้า ตอนกำลังเอากับลูกสาวของแกมาแบล็คเมล์ ว่าจะแจ้งความข้อหาพรากผู้เยาว์ หรือแม้กระทั่งคดีข่มขืน

ทุกๆ รายก็ต้องหาเงินมาอุดปากเพื่อไม่ให้ถึงขึ้นขึ้นโรงขึ้นศาล

“พี่เป็นคนที่สุภาพมากๆ ในใจหนูภาวนาไม่อยากให้พี่มาบ่อยๆ” น้องเอ๋กระซิบบอกอยู่ข้างๆ หู
“ปกติจะมีแต่ลูกค้าที่บ้ากาม หนูหยิบเบียร์ หยิบของไปให้ก็จะฉวยโอกาศล้วงหี ล้วงก้นหนูตลอด”
พูดไปเธอก็เอามือไปเล่นที่ควยผมที่ตอนนี้เริ่มจะมีแรงหลังจากปล่อยน้ำชุดใหญ่ออกไปกับปากของสาวน้อยคนนี้

“หนูดีใจมากที่พี่ไม่เอาหนูวันนั้น ถึงจะแอบเสียดายก็เถอะ อิอิ” เธอยิ้มทะเล้นๆ อยู่ข้างๆ หูและแอบขโมยหอมแก้มผมไปอีกหนึ่งที

“พี่รอแปปนะ” อยู่ดีๆ เธอก็ลุกออกไปทั้งๆ ที่ไร้เสื้อผ้าติดกาย ทิ้งให้ผมนอนเอ๋ออยู่คนเดียว เอ๋กลับมาพร้อมกระเป๋าสีชมพูที่เป็นสมบัติเพียงอย่างเดียวที่เธอติดตัวมาด้วย นอกจากชุดนักเรียน สาวน้อยเปิดมันออกและ หยิบแผ่นกระดาษที่สอดไว้ในนั้นขึ้นมาแผ่นนึง เธอคลี่มันและยื่นมาให้ผม

“หนูขอเย็ดพี่นะ” ผมยันตัวขึ้นมาจากการนอนหมดเรี่ยวหมดแรง ถอดเสื้อที่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อโยนทิ้งไปที่ข้างเตียงแบบไม่มอง แล้วยื่นแขนไปรับกระดาษมาอ่านดูคร่าวๆ ก็รู้ว่าเป็นใบยืนยันการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธู์ และในใบนี้ก็ยืนยันว่าผลตรวจออกมาเป็นเน็กกาทีฟ ในทุกๆ โรค ตอนนี้ผมงงๆ มองกระดาษที มองหน้าน้องเอ๋ที

“หลังจากวันที่พี่เดินหนีหนูมา ปล่อยให้ตูดหนูแฉะอยู่คนเดียว” เอ๋พูดทะลึ่งๆ พลางยิ้มเขินๆ
“หนูก็คิดอยู่ตลอดเวลาว่า หนูควรจะทำยังไงกับชีวิตดี เพราะสำหรับหนู มันไม่ไหวแล้ว มันควรจะจบได้ซักที”

เอ๋กลับมานั่งขัดสมาธิข้างๆ ตัวผมพลางเอายางรัดแกงที่หยิบติดมือมา เกล้าผมขึ้นไปและรัดเอาไว้อวดคอระหงขาวเนียนของเธอ

“หนูเห็นแต่หน้าพี่ และคิดว่า นี่คงเป็นทางออกของหนูที่ฟ้าส่งมา” ไม่พูดเปล่า เอ๋ยังยื่นมือมาบีบๆ คลำๆ กระทอกควยผมเล่นไปด้วยระหว่างที่คุยกัน

“หนูตรวจโรคมาแล้วนะ หนูไม่เป็นอะไรเลย หนูอยากเป็นเมียพี่” เอ๋มองหน้าผมอายๆ “ตอนแรกหนูคิดว่าพี่ไม่เอาหนู เพราะกลัวโรค หนูก็เลย...”

ผมก้มลงมองที่กระดาษแผ่นเดิมอีกที มันลงวันที่ไว้วันเดียวกับที่น้องเอ๋มาเคาะประตุห้อง ถือว่าสาวน้อยระเริงควยคนนี้ โชคดีเป็นอย่างมากที่ไม่มีโรคอะไรติดตัวมาด้วยเลยซักนิด เพราะจากประวัติที่เธอเล่าให้ผมฟัง มันไม่น่าจะรอดมาได้นานขนาดนี้

ผมพินิจดูสาวน้อยตรงหน้าอย่างละเอียด ทั้งภายนอก และภายใน พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้น และกำลังจะเกิดต่อไป
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะตอบว่าอะไร ปากอุ่นๆ ของเอ๋ก็ลงมาครอบหัวควยผมไว้อีกแล้ว คราวนี้เอ๋ขยับตัวมานั่งคุกเข่าที่หว่างขาผม และโน้มตัวลงมาใช้ปากดูดตรงส่วนหัวบาน มือขวาก็รูดเป็นจังหวะรับกับปากบางสวย ปากก็ดูด ลิ้นก็พันหัวควยไปมาอย่างชำนาญ

“เอ๋หยุดก่อน” ผมโน้มตัวเอาสองมือไปจับที่แก้มนวลของเอ๋ และยกมันขึ้นมาจากหว่างขาของผม ที่เธอกำลังบรรจงให้ความสุขกับมันอย่างเต็มที่

พอเอ๋เงยหน้าขึ้นมาสบตาผม น้ำใสๆ ก็เริ่มไหลรินจากตาทั้งสองข้าง “หนู.. หนู. หนูไปก็ได้ค่ะ” เธอห้ามน้ำตาไว้ไม่อยู่ ปล่อยโฮออกมาแบบไม่อายใคร มือสองข้างยกมาปิดหน้าไว้และร้องไห้ไปกับมัน ผมพยุงตัวเอ๋ขึ้นมาและสวมเธอไว้ในอ้อมกอดของผม หน้าอกกลมๆ ของเอ๋สัมผัสกับหน้าอกผมเต็มๆ มันอบอุ่น นิ่มนวลไปหมด
“ไม่ใช่นะเอ๋” ผมดึงเอ๋ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ทีนี้ผมดึงเธอให้ขึ้นมาขี่อยู่บนตักผมที่เหยียดขาออกไปทั้งสองข้าง

ควยที่ยังไม่แข็งดีนักของผม สัมผัสกับหีของเธอตรงๆ มันยิ่งทำให้แข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ
“เพียงแต่ว่า พี่ทนไม่ไหวแล้ว ขอเย็ดหีเอ๋แล้วนะ ไม่ต้องดูดแล้วล่ะ เสียเวลา” พูดจบผมก็จับเอวเธอยกขึ้นและขยับให้รูรักของเอ๋ตรงกับแท่งควยผม แล้วค่อยๆ ปล่อยมันลงมาช้าๆ

เอ๋แหงนหน้าเชิด ทำปากซึ๊ดซ๊าดเพื่อผ่อนคลายความเสียวที่กำลังได้รับ สัมผัสที่ควยผมกำลังชำแรกเข้าไปในหีเด็กน้อยวัยมัธยมคนนี้ มันคับแน่นไม่เหมือนคนที่ผ่านควยมานับแท่งไม่ถ้วน ความรุ้สึกที่ผมรอคอยมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเด็กน้อยวัยใสคนนี้ ที่ร้านขายของชำในวันแรกที่เราเจอกัน

เอ๋กอดผมแน่น เอามือจิกหลังจนเกือบเจ็บ เธอค่อยๆ กดเองลงมาให้ควยผมเข้าไปอยู่ในตัวเธอให้หมดความยาวของมัน พอเข้าไปหมดแล้ว เราสองคนจึงมองหน้ากันและเป่าปากออกมาพร้อมๆ กัน พอเห็นอย่างนั้น เราสองคนก็อดยิ้มไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

เก๋เอาหน้ามาซบกับไหล่ผมพลางปาดน้ำตาไปกับมัน “พี่บ้าาาา ทำอย่างนี้เอ๋เสียวนะ” พูดจบเอ๋ก็ขโมยหอมแก้มผมแบบไม่ทันตั้งตัวอีกครั้งนึง ร่องหีอุ่นๆ เริ่มยกตัวขึ้นช้าๆ พร้อมกับเสียงซู๊ดปากเบาๆ พอถึงจุดที่ใกล้จะหลุดออกจากควยผมที่เธอนั่งคล่อมอยู่ เอ๋ก็กดลงมาอย่างรวดเร็วทีเดียวหมดอัน เอ๋ทำอย่างนี้อยู่ประมาณ ยี่สิบครั้ง จากนั้นเธอก็กระหน่ำหีเข้ากับหน้าตักผมอย่างรวดเร็วแบบนับไม่ถ้วน

เธอเสร็จอีกครั้งสำหรับรอบนี้จากจังหวะที่ผมแอ่นตัวขึ้นรับกับแรงกระแทกที่เธอส่งมา หัวควยคงไปชนปากมดลูกน้องเอ๋ ทำเอาด้านในร่องหีนั้น ตอดรัด และขมิบน้ำออกมาจนผมรุ้สึกได้ว่าผ้าปูที่นอนใต้ก้นผมมีน้ำแฉะเจิ่งอยุ่

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เอ๋หยุด หรือชะลอจังหวะแม้แต่น้อย เอ๋กระแทกโหนกของเธอเข้ากับควยผมจนมันร้อนไปหมดจากการเสียดสี จนในที่สุด เอ๋ก็เสียน้ำให้กับผมอีกครั้งติดๆ กัน ตัวผมเองเพิ่งจะเสร็จไป คงยังไม่เสร็จรอบสองง่ายๆ แน่ รอบนี้เอ๋คงเสียวมาก จนกระแทกต่อไปไม่ไหว ได้แต่บดก้นของเธอกับหน้าขาผมไว้ มือที่คล้องคอก็ตะหวัดแน่นซบหน้าลงกับไหล่ ร่องสวาทบีบเกร็งเป็นจังหวะ จะชวนผมให้เสร็จตามเธอให้ได้ แต่ยังก่อนครับ ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล

ความเสียวคงคลายลงแล้วเอ๋ คลายแขนที่โอบกอดผมไว้ลงและ เคลื่อนใบหน้าออกจากไหล่ แต่ไม่ได้ไปไหนไกล ลิ้นนิ่มๆ ของสาวน้อยตัวเล็กๆ ตวัดเลียที่ปลายหูผม ทำเอาเสียววูบไปทั้งตัว แล้วเอ๋ก็กระซิบเบาๆ ข้างหู

“พี่ เย็ดตูดหนูนะ” สิ่งที่ได้ยินทำเอาผมเสียวกว่าลิ้นเธอที่เลียหูผมอยู่เสียอีก

พูดเสร็จเอ๋ก็ถอนร่องหีออกจากควยๆ อุ่นๆ ของผมทีเดียวดังบล๊อก เอ๋ลงมายืนที่พื้นแล้วเอาสองมือชันกับที่นอนไว้ แอ่นตูดงอนๆ เนียนๆ ขึ้นส่ายไปมายั่วให้ผมน้ำควยไหลเป็นสาย เห็นอย่างนั้นผมก็รีบลงมาจากเตียง ประคองอาวุธให้ตรงช่อง แล้วค่อยๆ แหย่ส่วนหัวเข้าไป

“อูยย พี่เบาๆ ค่อยๆ นะคะ เดี๋ยวตูดเอ๋ฉีกหมด” เอ๋พูดไปก็ส่ายตูดรับการรุกรานของสิ่งแปลกปลอมในรูก้นเธอให้มันกระดึบๆ เข้าไปง่ายขึ้น

ผมกัดฟันยัดอยู่นาน กว่าจะเข้าไปได้สุดหีวเงี่ยง เราสองคนพักเหนื่อยกันอยู่เฮีอกใหญ่ ก่อนที่ผมจะเอื้อมมือไปบีเค้นนมสวยๆ ที่ย้อยลงมาตามแรงโน้มถ่วง หวังให้เธอเสียวและขมิบน้ำรักออกมาให้ร่องสวาทร่องที่สองนี้มีน้ำหล่อลื่นมากขึ้น แต่ยิ่งผมเอื้อมมือไปให้ถึงนมของเอ๋ ควยที่คาตูดอยู่ตอนนี้ก็ค่อยๆ ขยับเข้าไปทีละน้อย เพราะการเคลือนไหวเข้าหาตัวเธอ

“พี่ เอาเข้ามาเรื่อยๆ เลย ไม่เจ็บแล้ว หัวบานมันผ่านเข้ามาแล้ว” เอ๋หันมามองด้วยสายตาเว้าวอน อยากโดนเย็ดตูดเต็มที

“อืมๆ ของพี่ดีจัง อูยๆ ไม่เจ็บแต่แน่นมาก” เอ๋ยังคงร้องไม่หยุด ผมพยายามดันเข้าไปเรื่อยๆ มือก็เคล้นนมสวยๆ ไปเพลินๆ ท่อนล่างก็แทงเข้าไปลึกขึ้นๆ

“อ้อออย” เสียงลากยาวจากความเสียวออกมาจากปากของน้องเอ๋ หนอกควยผมบดอยู่กับแก้มก้นของเธอ เพราะท่อนลำมันเข้าไปจนสุดความยาวแล้ว แต่ไม่ทันที่ผมจะได้พักหายใจ เอ๋ก็โยกสะโพกออกจากการรุกราน

ตอนแรกผมนึกว่าเธอจะเอาออกก็ตกใจ ไม่ทันตั้งตัวด้วยความกลัวหลุด ผมก็ขยับตามก้นงามๆ ไปโดยดันเอวไปข้างหน้าตามแรงขยับ

“อ้ะ อ้ะ อ๊าาา” เอ๋กระแทกกลับทันที และโยกหน้าโยกหลังอยู่อย่างนั้น กลายเป็นตัวผมที่โดนเธอเย็ดไปโดยปริยาย ผมได้แต่ยืนเกร็งตัว มือสองข้างจับเอวคอดๆ เอาไว้ กันตัวเองล้มเพราะเข่าที่ไร้แรงจะยืน พอสบโอกาสเอ๋เริ่มขยับช้าลง ผมก็ได้ที สาวควยออกมาจนเกือบหลุดและเสียบเข้าไปแค่หัว แต่รัวเอวใส่รูก้นของเอ๋ไม่ให้เธอได้ตั้งตัว ดึงมาจนเกือบหลุดและใส่เข้าไปใหม่แค่หัว

“โอ้ยๆๆ พี่ๆ โอ้ย ไม่เอาแบบนี้ เอ๋เสียว เอ๋คันตูด คันหีไปหมดแล้ว” เธอทิ้งตัวลกับขอบที่นอน มือหนึ่งบีบนมจนน่ากลัวว่ามันจะแตก อีกมือก็ล้วงควักรุหีที่ว่างอยู่ แคมบี้ไปบี้มา บางครั้งก็แหย่นิ้วเข้าไปสามนิ้ว แล้วชักเข้าชักออก

ตอนนี้เอ๋ดิ้นเร่าๆ เหมือนคนบ้า ตูดก็โดนผมซอยให้คันสุดๆ มือตัวเองก็ลัวงหี รูของเธอตอดรัดจนผมแทบหายใจไม่ออก ซอยอยู่เพลินๆ ผมก็แกล้งเอ๋อีกครั้งด้วยการกระแทกคอยเข้าไปหมดรู เอ่แหงนหน้าตาค้าง ตุดเธอเกร็งค้างอยุ่อย่างนั้น แต่ผมก็ไม่ปล่อยให้เธอได้พัก ทีนี้ผมเข้าสุดออกสุดกระแทกจนก้นที่โดนขนหมอยตรงโหนกเสียดสีแดงไปหมด

“เพี๊ยะ” มือผมฝาดไปที่ก้นน้องเอ๋ด้วยความหมั่นเขี้ยว ตอนนี้เอ๋กดหน้าลงกับที่นอน มือสองข้างกำผ้าปุที่นอนแน่น ยันตัวเองรับแรงกระแทกของผมอย่างเดียว ผมซอยอยู่อย่างนั้นกือบห้านาที มองดูเอ๋ ตะแคงหน้าออกมาหาอากาศหายใจ ตาลอย น้ำลายไหลที่มุมปาก ไม่รู้ว่าผมเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า แต่หน้าตาของเธอในวันนี้ ดูเต็มใจ และเรียกร้องทุกสิ่งทุกอย่างของผมด้วยความสมัครใจ ไม่เหมือนวันนั้น ที่หน้าตาของเธอก็เงี่ยนง่านไม่แพ้กัน แต่มันกลับเต็มไปด้วยความน่าสงสาร และความสับสน

ผมกลั้นต่อไปไม่ไหวแล้ว จับแขนเอ๋สองข้างดึงขึ้นมาและกระชากตัวเธอให้เข้ากับจังหวะการกระแทก

“เอ๋ๆ พี่ไม่ไหวแล้ว จะแตกแล้ว” ผมตะโกนออกไปแบบไม่อายใครแล้วในตอนนั้น
“พี่แตกเลยๆ เอ๋ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน แตกใส่รูตูดเอ๋เลย ผัวจ๋าาา เมียเสียววว” ยิ่งได้ยินน้องเอ๋เรียกผมว่าผัว เหมือนทุกอย่างมันขาดผึงตรงนั้น ผมปล่อยแขนเอ๋ และโน้มตัวลงไปกอดเธอ ในท่ายืนคร่อม กดควยกับก้นขาวๆ ที่มีรอยแดงเป็นจ้ำๆ ตรงหน้า ฉีดน้ำรักเข้าไปในก้นน้องเอ๋เป็นจังหวะ

“ร้อนๆ อูยน้ำควยผัวทำตูดเมียร้อนไปหมดแล้ว”
“ผัวเสียวววว เมียจ๋าาา” ผมกระซิบบอกเธอข้างๆ หู ควยก็ยังคาอยู่กับรูก้นเธอ ฉีดน้ำเข้าไปจนล้นทะลักออกมาด้านนอก เป็นฟองฝอดไปทั่วโคนควย

“เป็นเมียพี่นะ ผัวจะดูแลเมียคนนี้เอง” เอ๋ยิ้ม หันมามองผมด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ไม่ใช่ความไคร่อีกต่อไป ทั้งๆ ที่ร่างกายของเราสองคนก็ยังเชื่อมต่อกันอยู่ด้วยอวัยวะที่ธรรมชาติสร้างมันขึ้นมาให้คู่กัน ถึงแม้ว่าเราทั้งสองคนจะอุตริ หารูอื่นมาเชื่อมกัน แต่มันก็โอเคนะครับ เสียวไม่แพ้รู้ข้างหน้าเลยทีเดียว

น้องเอ๋ ถอนก้นออกจากควยที่เริ่มอ่อนตัวลงของผม เธอนั่งอย่างหมดเรี่ยวแรงที่ปลายเตียง กอดผมที่กำลังยืนอยู่เอาไว้แน่น เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตา

“หนูรักพี่นะ แต่ก่อนอื่น… พี่ชื่ออะไรคะ หนูยังไม่รุ้ชื่อพี่เลย”




ร้านของชำ season2 #4

“พี่คะ หนูขออยู่ด้วยซักพักนะคะ”

ผ่านมาสามวันแล้ว หลังจากที่ผมได้ยินประโยคคำถามนี้จากปากน้องเอ๋ที่หน้าประตูคอนโดฯ ตอนนั้นน่าจะเกือบเที่ยงคืนแล้วที่เธอมาเคาะห้อง และขอกันดื้อๆ แบบนี้ แต่ผมก็ไม่ได้ถามเหตุผล ไม่ได้ซักไซ้หาสาเหตุ เพียงแต่พยักหน้า เปิดประตูกว้าง และกวักมือให้น้องเข้ามาในห้อง เพราะคิดว่า น้องเอ๋ คงมีเหตุผลของตัวเค้าเอง


โครงการใหญ่ย่านชานเมืองที่เถ้าแก่ส่งผมไปดูสถานที่ และสำรวจวางแผนต่างๆ นาๆ เริ่มงานไปได้เกินครึ่งแล้ว ผมจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยุ่ใกล้ๆ โครงการอีกต่อไป ผมย้ายกลับมาอยู่บ้านในกรุงเทพ คอนโดที่ผมเรียกได้เต็มปากว่าบ้าน เพราะมันมาจากน้ำพักน้ำแรงจากการทำงาน หนักเอาเบาสุ้ ร่วมฝ่าฟันมากับเถ้าแก่ หุ้นส่วนที่สนิทใจที่สุดของผม

เป็นคอนโดขนาดกลางๆ ใจกลางเมือง สองห้องนอน หนึ่งห้องนั่งเล่น ครัวในตัว ไม่ถูกไม่แพง แต่ผมก็สามารถซื้อได้โดยไม่ลำบากอะไรนักด้วยเงินสด

ย้อนกลับไปตอนทีผมอยู่เซอร์เวย์สถานที่ แถวร้านขายของชำของครอบครัวน้องเอ๋ ที่ผมอาศัยเป็นแหล่งพักใจ พักกายให้หายเหนื่อย หาเพื่อนคุย หาสิ่งสวยงามดู อย่างที่ทุกคนน่าจะรู้กันอยู่แล้ว

ยิ่งผมสนิทกับครอบครัวนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีอะไรแปลกๆ ให้ผมดูมากขึ้น จนวันนั้น วันสุดท้ายที่ผมไปที่ร้าน

เวลาบ่ายแก่ๆ วันนั้น อยู่ดีๆ พี่ชาติก็ลุกมาปิดประตูร้าน ทั้งๆ ที่ผมยังนั่งกินเบียร์ดูนู่นดูนี่อยู่หน้าร้าน โดยไม่ได้บอกกล่าวอะไร ผมจำไม่ได้ว่าวันนั้นวันอะไร แต่น่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เพราะทั้งครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า ตอนแรกผมก็นึกว่าพี่ชาติแกปิดร้านแล้ววันนี้ อาจจะไปธุระส่วนตัวอะไรของแก ผมนั่งจัดการเบียร์ที่เหลืออยู่ตรงนั้นซักพักจึงลุกจากม้าหิน และกำลังจะกลับที่พัก แต่แกก็เปิดประตูบานเล็กเดินออกมาจากร้าน และจูงแขนผมให้กลับเข้าไปข้างในด้วยกัน

พอเดินเข้าไปข้างในเท่านั้นแหละครับ ภาพที่ผมเห็นในนั้นทำให้ควยผมที่ก่อนหน้านี้มันสงบนิ่งอยู่ในกางเกง กลับแข็งจนเกร็งปวดอึดอัดไปหมด ทุกคนในครอบครัวยกเว้นพี่ชาติ, ทั้งเจ๊อ้อย น้องเอ๋ และน้องโอ๋ลูกชายคนเล็กของบ้าน ไม่มีใครมีเสื้อผ้าติดตัวซักชิ้น ตัวลูกชายกำลังยืนประกบหลังแม่ของตัวเอง ที่ยืนโก้งโค้งเอามือยันกับตู้เย็นที่แช่เบียร์ไว้ให้ลูกค้า เมียพี่ชาติทำหน้าเหยเกเหมือนจะทรมาน แต่จริงๆ แล้ว ผมว่าพี่อ้อยแกพยายามจะกลั้นเสียงแห่งความเสียวไว้ซะมากกว่า

ควยอันเขื่องดูจะใหญ่และสีคล้ำเกินอายุกำลังวิ่งเข้าวิ่งออกหีแม่ตัวเองเป็นจังหวะ ท่าทางที่เด้งรับเข้าขากันได้ดี แสดงว่านี่คงไม่ใช่ครั้งแรกของคู่นี้แน่ แต่เป็นครั้งแรกของผมที่เห็นลูกชายและแม่เอากันสดๆ ตรงหน้า ทั้งน้องโอ๋ และเจ๊อ้อยกระเด้ากันเงียบๆ มีแต่เสียง อึ๊ๆ ตามจังหวะการกระแทก หรืออาจจะมีเสียงเป่าลมออกปากจากคนแม่เป็นบางครั้ง

ผมหันไปดูทางด้านน้องเอ๋ ก็เจอเธอนั่งอยู่บนแคร่ด้านในร้าน สาวน้อยคนสวย ที่ผมมักจะเห็นอยุ่ในชุดนักเรียน หรืออาจจะเปิดนู่นเปิดนี่ให้ดูบ่อยๆ ในบางครั้ง แต่ตอนนี้กลับไม่มีอะไรติดกายซักชิ้น นมสองเต้าใหญ่เกินวัยลอยเด่นขาวโพลนตัดกับสีของแคร่ไม้เก่าๆ สีแก่ๆ ดูเด่นอย่างกับเป็นฉากที่จัดเอาไว้ถ่ายแบบก็ไม่ปาน จะมีก็เพียงโบว์สีเข้มที่เป็นเครื่องแบบของโรงเรียนผูกอยู่ที่ผมยาวสลวยเท่านั้น ที่นับได้ว่าเป็นเครื่องแต่งกายที่ติดตัวสาวน้อยน่ารักน่าเอาคนนี้

น้องเอ๋กำลังนั่งชันเข่าเอานิ้วแหย่เข้าแหย่ออกหีตัวเอง พร้อมซู๊ดปากเป็นจังหวะเดียวกับนิ้ว
“ซี๊ดๆ อึ๊ยยย อืมมม” มือก็ล้วงควักไป สายตาก็เว้าวอนเฝ้ามองพ่อที่กำลังถอดกางเกงออก และเดินเข้าหาลูกสาวตัวเอง

เดินถึงตัวลูกสาว พี่ชาติก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง แกจับแก้มน้องเอ๋ด้วยมือทั้งสองข้างดึงเข้ามาใกล้กึ่งกลางตัวของแก ที่ระดับพอดีกันเพราะน้องเอ๋นั่งอยู่บนแคร่และพีชาติยืนอยู่กับพี้น พี่ชาติเอาควยอันยักษ์เท่าแขนเด็กตัวเล็กๆ กระเด้าใส่ปากแบบทีเดียวหมดดุ้น

พี่ชาติกระชากควยออกมาจนเกือบสุด แล้วก็แทงเข้าไปใหม่ ซ้ำๆ ด้วยสีหน้าสะใจ ลูกสาวแกตาเหลือกร้องอู้อี้ ย้ายมือจากหีตัวเองมาดันไว้ที่สะโพกของพ่อเพื่อไม่ให้กระเด้าแรงเกินไป ไม่ให้ควยตำคอหอย แต่ถึงอย่างนั้นน้ำหูน้ำตาก็ยังไหลนองเต็มหน้าไปหมด คงจะสำลักเพราะควยพี่ชาติเข้าลึกเกินไป และก็พาลทำให้หายใจไม่ออกไปด้วย

“อูย.. ดีๆ อย่างนั้นๆ ปากเอ๋นี่ดีจริงๆ ดีกว่าหีม๊าอีก อู้ยยย ป๊าเสียว เอ๋ ป๊าเสียว” พี่ชาติกระเด้าปากน้องเอ๋อยู่ได้เกือบสามนาที พอแกสมใจอยาก ก็ถอนควยที่มันเลื่อมไปด้วยน้ำลายออกมาและบอกให้น้องเอ๋ลุกขึ้นคลานสี่ขาอยุ่บนแคร่

ลูกสาวคนสวยพอควยหลุดออกจากปากก็หอบหายใจเฮือกใหญ่เพื่อสูดเอาอากาศเข้าไป น้องเอ๋คลานสี่ขาอยู่บนแคร่ ชันศอกสองข้าง และวางน้ำหนักตัวเองบนเข่า หันตูดหันหีออกมาพ้นขอบแคร่เพื่อความสะดวกของพี่ชาติ

พอได้ที่ พ่อ หรือ ผัวน้องเอ๋ตอนนี้ก็เดินไปด้านหลังและแทงควยของแกเข้าไปทีเดียวหมดลำ เหมือนตอนที่แทงควยเข้าปากตอนแรก ความยาวและแรงกระแทกทำเอาน้องเอ๋หลังแอ่น แหงนหน้าเริ่ด ไม่รู้เพราะเจ็บหรือเพราะเสียวมากกว่ากัน เอวคอดๆ ได้รูปแอ่นอวดความโค้งความเว้ารับกับตูดผาย น่าตี น่าเอาเป็นที่สุด พี่ชาติบดโหนกควยเข้ากับก้นของลูกสาวได้ซักพัก ก็เริ่มกระแทกเข้าสุดออกสุดติดๆ กัน ปากก็บอกลูกสาวว่าเสียวๆ ตลอดเวลา

“ป๊าๆๆ ซี๊ดดดด โอ้ย เอ๋เจ็บ เอาออกก่อน เบาๆ” น้องเอ๋ร้องเสียงลั่น แต่ท่าทางที่ผมเห็นดูไม่เหมือนกับที่ปากประท้วง เพราะเธอร่อนสะโพกสวนอัดกับโหนกควยพี่ชาติอย่างดุเดือดไม่แพ้กัน

หน้าที่เปรอะไปด้วยเหงื่อ และน้ำลายจากการโดนเย็ดปากเมื่อครู่ ยังไม่ทันได้เช็ด หรือล้างดีๆ ตอนนี้กลับเปียกมากกว่าเดิม ด้วยน้ำตาที่ไหลมาจากความเจ็บปนเสียว แต่มันไม่ทำให้น้องเอ๋ลดความน่ารักลงซักนิด ผมมองเพลินจนต้องควักควยตัวเองออกมาจากกางเกงที่ตุงแน่น มาชักตาม

เรื่องสาวควยตัวเองตามสองพ่อลูกนี่ ผมทำบ่อยจนเรียกว่าเป็นเรื่องปกติก็ว่าได้ แต่ในทุกๆ วันถึงผมจะเสร็จไปน้ำนึงที่ร้านของพี่ชาติแล้ว พอถึงที่พักผมก็ต้องจัดการตัวเองอีกรอบอยู่ดี เพราะภาพที่น้องเอ๋โดนเอานี่มันติดตา ติดใจผมมากจนทนไม่ได้ ถ้าไม่ทำนี่หลับไม่ลงจริงๆ

“ป๊าขา เอ๋ไม่เจ็บแล้ว พ่อเอาแรงๆ เลย” น้องเอ๋ที่ร่องหีสีชมพูดสดๆ ที่แคมกำลังปลิ้นเข้าออกเพราะโดนควยพ่อตัวเองกระแทกอย่างกับกะหรี่คนนึง น่าจะชินกับการกระแทกและเริ่มเสียวตาม ร้องบอกให้เร่งจังหวะเพื่อความเสียวที่มากขึ้น

หันไปหาแม่และลูกชาย ที่ได้ยินแต่เสียงเนื้อกระเทกเนื้อ ในระหว่างที่ผมมัวสนใจแต่น้องเอ๋อยู่ ตอนนี้น้องโอ๋หยุดกระเด้าแล้วยืนเกร็งตูดขมุบขมิบ กอดแม่จากด้านหลังแน่นจนกลัวว่าจะหายใจไม่ออก ท่าทางจะกำลังส่งน้ำเข้าหีแม่ให้หมดครบทุกหยาด เจ๊อ้อยยืนนิ่งกดตูดกับหน้าขาดูดน้ำลูกชายทางหี กะจะไม่ให้หยดออกมาข้างนอกเลยซักนิด

“โอ๊ะๆๆ ป๊าๆ ดีๆ เอ๋เสียวหี เสียวท้องน้อย” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมต้องหันกลับไปมอง ตอนนี้เอ๋โดนพี่ชาติอุ้มแตงซะแล้วครับ เดินไปทั่ว และกำลังเดินมาทางผมซะด้วย

สองพ่อลูกมายืนกระเด้ากันอยู่ข้างๆ ในระยะใกล้ จนผมเห็นก้นน้องเอ๋กระเพื่อมขึ้นลงจากการถูกกระหน่ำควยใส่ในทางลิงอุ้มแตง พี่ชาติยื่นมือข้างนึงมาจับข้อมือข้างที่ยังว่างอยู่ของผม และดึงไปที่หน้าอกของน้องเอ๋ พลางพยักหน้าบอกให้จับ

“บีบเลยคุณ ขยำเลย น้องเค้าชอบ” พี่ชาติไม่ได้พูดเปล่าๆ แต่แกจับมือผมไปขยำนมน้องเอ๋เลย

“ซีด ป๊าทำอะไรน่ะ เอ๋เสียวๆ แรงๆ ขยำแรงๆ” น้องเอ๋หลับตาส่ายหน้า ด้วยความเสียว
“พี่บีบแรงๆ เอาให้นมเอ๋เละเลย” เธอร้องบอกผมให้ช่วย

“น้องเอ๋ชอบคุณนะ รู้มั้ย มันบอกว่าอยากโดนคุณเอา รูไหนก็ได้ ให้หมดเลย” พี่ชาติพูดไปก็กระเด้าหีลูกสาวไป แรงกระแทกส่งมากับนมน้องเอ๋ที่ผมจับอยู่ ตอนนี้ผมอยากเย็ดน้องเอ๋มากๆ ถึงพี่ชาติจะไม่บอกก็เถอะ รูไหนผมก็เอา

พี่ชาติจับมือข้างที่ผมกำลังสาวควยอยู่ ไปจับที่ก้นน้อง พอผมจับและขยำก้นเต็มมือแล้ว แกตีก้นลูกสาวอีกข้างนึง ดังเพี๊ยะสนั่น ทำเอาแก้มก้นไหวตามแรงตี

“นี่แน่ะมึง เงี่ยนนักนะ” จากนั้นพี่ชาติก็จับเอานิ้วกลางผมไปวนๆ ที่รูตูดน้องเอ๋

“พี่ทำอะไร โอ้ยเอ๋เสียว ป๊าช่วยเอ๋ด้วย พี่เค้าจะเอาตูดเอ๋” เอ๋หันหน้ามาดู และหันกลับไปซบหน้าอยู่ที่อกพี่ชาติ ตัวน้องเอ๋ทั้งโยกเพราะแรงเย็ดจากพ่อ ทั้งสั่นไปทั้งตัวเหมือนคนเป็นไข้โดนน้ำสาด

ผมได้ใจที่เห็นเอ๋เป็นแบบนั้น ก็เริ่มดันนิ้วเข้าไปเรื่อยๆ จนได้ครึ่งนิ้วกลาง รูตูดเอ๋เอานิ้วเข้าไปไม่ยากนัก แสดงว่าน่าจะเคยโดนทางนี้มาไม่น้อยแล้ว แต่ก็ขมิบนิ้วผมจนเสียวนิ้ว อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเป็นควยจะเสียวแค่ไหน

“แตกๆ โอ้ยเอ๋แตก โอ้ยป๊าเอ๋เสียว” ผมเสือกนิ้วเข้าไปหมดความยาว แล้วควานน้อยๆ ในรูตูดน้องเอ๋ ถึงเอ๋จะไม่ตะโกนด้วยความเสียวออกมา ผมก็รู้ทันทีว่าน้องไปถึงสวรรค์แล้วแน่นอน เพราะแรงขมิบที่ตอนแรกว่าแรงมากแล้ว ตอนนี้ ขมิบจนนิ้วผมแทบไม่มีเลือดวิ่งไปเลี้ยง ไม่รู้ว่าเอ๋เสร็จเพราะนิ้วผมไปป้วนเปี้ยนอยู่ในรูตูดเธอ หรือควยของพี่ชาติที่กระเด้าไม่ได้หยุดแม้ซักนาทีในท่าลิงอุ้มแตงนี้

“เอาควยเสียบเลยพี่ อีนี่มันชอบโดนสองอันพร้อมกัน” เสียงน้องชายเธอดังมา มองไปที่ข้างตัวน้องโอ๋ก็เจอเจ๊อ้อยเมียพี่ชาตินั่งกองลงกับพื้นในสภาพไร้เรี่ยวแรงตรงที่เดิม ที่ที่โดนลูกชายปล่อยน้ำควยใส่ ส่วนตัวเจ้าของน้ำกำลังยืนสาวควยซึ๊ดปากอยู่เงียบๆ สายตาก็จ้องมองพี่สาวที่กำลังโดนพ่อตัวเอง กับผมรุมอยู่

พี่ชาติอุ้มน้องเอ๋ในท่าเดิม พลางเดินกลับไปที่แคร่ที่น้องเอ๋เพิ่งจะคลานลงสี่ขาให้พ่อตัวเองกระหน่ำหีแบบไม่ยั้ง
แกนั่งลงกับแคร่โดยที่ควยไม่ได้หลุดจากหีน้องเลย และหงายหลังลงไป พร้อมกอดเอ๋ไว้ให้ก้นเธอโด่งออกมา ดูงอนงามน่าเย็ดยิ่งนัก

“คุณๆ มาเลย เร็วๆ ผมจะไม่ไหวแล้ว อยากเสร็จเต็มที มาช่วยกันเย็ดน้องเค้า” พี่ชาติกวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา พร้อมแหวกรูตูดลูกสาวจนเห็นผนังสีอ่อนด้านใน ที่มีน้ำเยิ้มออกมา เป็นเครื่องหมายว่าพร้อมที่จะโดนชำแรกด้วยควยใครก็ตามที่พร้อมในตอนนี้

น้องเอ๋หันมามองผมด้วยสาวตาเว้าวอนเต็มที่ เหมือนอยากจะโดนควยผมจนทนไม่ไหวแล้ว

ร้านของชำ season2 #3


         “ไม่ได้ไปส่งน้องเอ๋เหรอครับพี่” ผมถามด้วยความสงสัย
                        เพราะก็ยังเห็นน้องเอ๋เดินมากับพี่ชาติ
         “ก็ไปถึงหน้าโรงเรียนแล้วนา แต่น้องเอ๋เซ้าซี้อยากกลับบ้าน
                        แล้วก็ดูท่าทางจะเรียนไม่ไหวเลยพากลับมาด้วย”
                        พี่ชาติตอบด้วยน้ำเสียงยานๆแบบยังเมาไม่สร้าง
                        โดยมีน้องเอ๋ลูกสาวแกเดินกอดเอวแกมาด้วยข้างๆ
                        ก็ดูยังหน้าแดงกร่ำด้วยกันทั้งคู่ ผมโล่งใจเป็นอย่างมาก
                        ไม่ใช่เพราะพี่ชาติไม่ถูกตำรวจจับเป่าแอลกอฮอล์
                        แต่โล่งเพราะไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
                        เวลาตอนนี้พึ่งจะเลยเที่ยงไปไม่นาน
                        พี่ชาติพยุงน้องเอ๋ที่กำลังกอดเอวแกอยู่กลับเข้าไปในร้าน
                        ผมก็พึ่งเห็นตอนแกเดินเลี้ยวเข้าร้าน
                        ว่าพี่ชาติแกไม่ได้กอดน้องเอ๋เฉยๆ
                        แต่มือแกกำลังล้งจับกางเกงในน้องเอ๋ลูกสาวแกต่างตาก
                        กระโปรงนักเรียนม.ปลายของน้องเอ๋ที่สั้นอยุ่แล้วทำให้ถึงแม้จะถูกถลกขึ้นแต่ก็ดูไม่มีอะไรผิดสักเกตุ
                        ผมเริ่มมองไล่ขึ้นไปตั้งแต่เหนือถุงเท้านักเรียนของน้องเอ๋ที่ดูขาวสะอาดตาพอๆกับกางเกงในของน้องเค้า
                        ขาที่ขาวเนียนจนขาวโพรนที่ผมเห็นแล้วมีอารมณ์ทุกที
                        ตอนนี้ส่วนที่ควรจะถูกปิดบังอยู่ในร่มผ้า
                        กลับถูกเปิดให้ออกมาสู้แสงแดดยามเที่ยงเศษๆ
                        มันขาวจนแทบจะเป็นสีเดียวกันกับกางเกงในของน้องเอ๋เลยทีเดียว
                        พอมองขึ้นถึงก้นของน้องเอ๋
                        เห็นมีขนหมอยโผล่แพลมๆออกมานอกขอบเยอะพอสมควร
                        นิ้วของพี่ชาติก็พยายามชอนใชเข้าไปในหีของลูกสาวแกผ่านขอบกางเกงใน
                        ดูแล้วน่าจะเข้าไปได้สักเกินครึ่งนิ้วแล้ว
                        ดูแกพยายามชักนิ้วเข้าออกตลอด
                        ทำให้ควยของผมแข็งตุงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยุ่
                        น้องเอ๋ชำเลืองสายตามาทางผม
                        ด้วยทางทางเชิดนิดๆแกมเมานิดหน่อย
                        แต่คงไม่นิดหน่อยเพราะดูน้องเอ๋ท่าทางเมาเอามากๆเสียด้วย
                        “ทำม่ะ ชอบดูไม่ใช่หรอ “
                        น้องเอ๋พูดออกมาอย่างนั้นผมถึงกับสะอึก
                        “มัวช้าอะไรอยู่เล่า มาช่วยกันพยุงน้องเอ๋สิ
                        คุณก็ชอบน้องเอ๋อยู่ไม่ใช่เหรอ”
                        พี่ชาติร้องสั่งผมทำเอาผมไม่รู้จะทำยังไงดี
                        ก็ทำตามที่พี่แกสั่งก็แล้วกัน ผมจึงรีบลุกจากม้าหินอ่อน
                        วิ่งไปช่วยพยุงน้องเอ๋ แต่ไม่ทันจะถึงตัวน้องเอ๋ด้วยซ้ำ
                        พี่ชาติกับน้องเอ๋ก็เดินไปถึงโต๊ะตัวประจำของพี่ชาติซะก่อน
                        “เดี๋ยวเอ๋มาจะคะป๊า จุ๊บ”
                        น้องเอ๋ยื่นหน้าไปจูบแก้มพี่ชาติพ่อของแก
                        ก่อนที่จะส่งสายตาหวานๆยั่วยวนผมแล้วสะพายเป้นักเรียนเดินขึ้นห้องแกไป
                        ปล่อยให้ผมยืนเก้อไม่รู้จะทำอะไรต่อไปดีจึงขอตัวกลับไปนั่งที่ม้าหินอ่อนดังเดิม
                        พร้อมกับหยิบเบียร์มาด้วย1ขวด
                        “พี่ชาติมาดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยสิครับ”
                        ผมร้องบอกพี่ชาติที่นั่งที่โต๊ะตัวประจำของแก
                        พี่ชาติที่ยังมีอาการกรึ่มนิดหน่อยไม่ตอบอะไรแต่ก็ถือแก้วเดินตรงมาทางผม
                        พร้อมกับเบียร์อีก2ขวด “เดี๋ยว3ขวดนี้ผมเลี้ยงเอง
                        เต็มที่เลยนา” “ขอบคุณมากครับพี่”
                        ผมรู้สึกว่าถ้าคนบ้านนี้เมาขึ้นมา
                        อะไรๆก็ดูจะง่ายไปซะหมดเลยทีเดียว
                        คงเหลือแต่เจ๊อ้อยที่ไม่รู้ว่าเป็นเหมือนผัวแกกับลูกแกหรือเปล่า
                        และตอนนี้แกก็ไม่อยู่
                        น้องเอ๋เดินลงมาแล้วพร้อมกับเสื้อนักเรียนอีกตัวทีตัวเล็กจนฟิตไม่ใส่บราด้วย
                        เห็นนมของน้องเอ๋ดันออกมาอย่างชัดเจน
                        กระโปรงที่ใส่ก็เป็นอีกตัว ไม่ใช่ตัวเมื่อกี๊
                        ตัวนี้สั้นกว่ามาก
                        สั้นแบบไม่น่าเชื่อว่าน้องเอ๋จะกล้าใส่กระโปรงตัวนี้ไปโรงเรียนจริงๆ
                        มันยาวลงมาแค่ปิดกางเกงในของน้องแกมิดเท่านั้นเอง
                        ผมให้ผมมองเห็นปลายกางเกงในของน้องเอ๋แว๊บๆมาแต่ไกล
                        กับชายเสื้อนักเรียนที่น้องเอ๋แกเหน็บในเอาไว้ก็ดูเรียนร้อยดี
                        แต่มันโผล่พ้นชายกระโปรงออกมานิดหน่อย
                        “น้องเอ๋ไปโรงเรียนเหรอครับ
                        “ผมถามด้วยความตกใจเพราะคิดว่าน้องเอ๋คงไม่กล้าแต่งตัวแบบนี้ไปโรงเรียนแน่นอนแต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน
                        “ไม่ไปมันแล้ว ขี้เกียจ ทำมะ อยากเห็นหน้าเอ๋นักไม่ใช่อ่อ
                        ดูซะซิ อยู่ตรงหน้าพี่แล้วนี่ไง”
                        ผมได้ยินน้องเอ๋ตอบแล้วรู้สึกว่าแกเมามากจริงๆ
                        แววตาแดงกร่ำกับแก้มแดงระเรื่อช่วยยืนยันว่าผมดูไม่ผิด
                        น้องเอ๋เมามาก
                        ขัดกับแว่นสายตาที่น้องแกใส่แบบคนละเรื่องกันเลย
                        แล้วน้องเอ๋ก็มานั่งร่วมโต๊ะกับผมกับพี่ชาติ
                        โดยที่ผมนั่งที่มุมเดิมหันข้างให้ร้านกับถาน
                        ส่วนพี่ชาตินั่งหันหน้าให้ร้านหันหลังให้ถนน
                        น้องเอ๋ยืนโน้มตัวลงมากระซิบข้างๆหูผม
                        “ขอนั่งตรงนี้ได้มั้ยคะ” “อ่า ครับ” ผมเหลืบมองก้นน้องเอ๋
                        กระโปรงน้องแกเปิดขึ้นตอนที่โน้มตัวลงจนเห็นกางเกงในสีขาวๆออกมาทั้งตัว
                        นี่ถ้ามีใครผ่านหน้าร้านตอนนี้
                        ต้องได้เห็นของดีกันเต็มๆตาทุกคนแน่ๆ
                        น้องเอ๋นั่งคั่นกลางผมกับพี่ชาติ
                        พอนั่งลงปุ๊บน้องเอ๋ก็หยิบแก้วของพ่อแกที่มีเบียร์เต็มแก้ว
                        ยกซดจนหมด ส่วนพี่ชาติเองก็ไม่รอช้า
                        โอบกอดขยำนมน้องเอ๋อย่างไม่เกรงใจใครทั้งสิ้นทันที
                        “นมน้องเอ๋นี่ใหญ่นุ่มเต็มมือดีจริงๆ ฮ่าๆ”
                        พี่ชาติพูดออกมาเต็มเสียงแต่ก็เหมือนพึมพัมในลำพอเพราะแกยังเมา
                        ส่วนน้องเอ๋พอวางแก้วลงเท่านั้นก็คว้าหมับไปควักเอาควยของพี่ชาติใต้ผ้าขาวม้าขึ้นมาชักทันที
                        ผมสามารถมองเห็นได้ถนอดเพราะโต๊ะหินอ่อนไม่ได้บัง
                        “ชอบมั้ยคะป๊า” “อา..เยี่ยมมาก” “เห็นฝีมือน้องเอ๋มั้ยล่า
                        คิคิ” “น้องเอ๋ฝีมือไม่ตกเลยจริงๆ” “ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณที่ชม”
                        ผมนั่งดื่มไป ดูสองพ่อลูกเล่นบทเซ็กกันไป ควยแข็งไป
                        อยากจะควักควยออกมาชักตอนนี้จริงๆ แต่ก็ห้ามใจไว้ก่อน
                        เพราะผมมั่นใจว่าต้องมีเด็ดกว่านี้อีกแน่ๆ จริงอย่างที่คิด
                        พี่ชาติเริ่มปลดกระดุมเสื้อนักเรียนน้องเอ๋ออกทีละเม็ด
                        ผมได้เห็นสองเต้าของน้องเอ๋อย่างเต็มตาอีกครั้ง
                        ครั้งนี้เห็นแบบใกล้ชิดเต็มที่
                        รับรองได้เลยว่าขนาดของน้องเอ๋นั้น
                        มือของพี่ชาติกับมือของผมพร้อมกันยังกุมนมของน้องเอ๋ไม่มิด
                        เพราะมันใหญ่จริงๆ “นมน้องเอ๋ถูกใจมั้ยคะป๊า”
                        “เยี่ยมจริงๆนมใหญ่กว่านมม๊าซะอีก” “จริงหรอคะป๊า”
                        น้องเอ๋ทำสีหน้าตื่นเต้นทางทางดีใจจนออกนอกหน้า “เอ๊ะ
                        ทำไมป้าไม่แตกสักที น้องเอ๋ชักนานแล้วนะคะ อ๋อ
                        เมื่อเช้าก็แตกไปแล้วแหละเนอะ”
                        น้องเอ๋พูดจบก็หัวเราะกันทั้งพ่อทั้งลูก
                        ส่วนผมก็หัวเราะเหอะๆตามไปด้วย ดื่มเบียร์ไปด้วย
                        อีกมือก็ลูบควยตัวเองให้บรรเทาความเงี่ยนลงไปบ้าง
                        แต่ยิ่งคลำก็ยิ่งเงี่ยน
                        จนรู้สึกอยากจะจับน้องเอ๋เย็ดตรงนั้นเลย
                        ไม่นานนักพี่ชาติมีอาการเกร็ง กระตุก คงจะน้ำแตก
                        น้องเอ๋เองพอจัดการกับควยของพ่อแกเรียบร้อย
                        ก็ทำท่าเหมือนจะลุกไปไหน ผมคิดผิด
                        น้องเอ๋แค่ยกก้นขึ้นแล้วจัดแจงถอดกางเกงในของตัวเองออกมา
                        ผมได้เห็นหีของน้องเอ๋ชัดๆแบบเต็มตาอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง
                        ครั้งนี้ใกล้กว่าเดิมเสียอีก มันทั้งขาวทั้งโหนก
                        มีหมอยปกคลุมกำลังพอดีเลยดีเดียว
                        จนแทบจะเผลอน้ำแตกออกมาตอนนั้น
                        น้องเอ๋ถอดกางเกงในออกมาแล้วใช้กางเกงในของแกเช็ดน้ำกามของพี่ชาติจนหมด
                        แกหันมาคุยกับผม”คิดว่าน้องเอ๋จะเลียกินอะดิ แหวะ
                        ไม่มีวันซะล่ะ” พอแกพูดเสร็จ
                        แกก็โยนยางเกงในตัวเองที่พึ่งเช็ดน้ำกามของพ่อแกเสร็จขึ้นมาบนโต๊ะ
                        “อะ ยกให้” ผมอึ้ง
                        แต่ก็ต้องรีบคว้ามาเก็บไว้ข้างล่างกลัวว่าใครจะมาเห็นเข้า
                        แต่ก็คิดในใจว่า
                        เย็นนี้คงน้ำแตกหลายน้ำแน่ๆเลยได้ของขวัญชิ้นเยี่ยมขนาดนี้
                        น้องเอ๋หลังจากที่โยนของให้ผมแกก็กระดกเบียร์จนหมดแก้วไปสามครั้งอย่างกับต้องการจะมอมตัวเองยังไงอย่างงั้น
                        ผมมองไปที่ควยของพี่ชาติ
                        ดูมันอ่อนลงแล้วแต่ก็เหมือนน้องเอ๋กำลังพยายามปลุกมันขึ้นมาอีก
                        แล้วพอมันแข็งขึ้นมา น้องเอ๋ก็ลุกขึ้นจริงๆ
                        ครั้งที่แล้วเธอยกก้นขึ้นเพื่อจะถอดกางเกงใน
                        ครั้งนี้ผมไม่คิดว่าเธอจะกล้าถอดกระโปรงนักเรียนของเธอ
                        เพราะนี่มันหน้าร้านและก็ถึ่งจะบ่ายๆนิดหน่อยเอง
                        ก็จริงอย่างที่ผมคิด น้องเอ๋ไม่ได้ถอดกระโปรง
                        แต่แกลุกเพื่อจะไปนั่งตักพี่ชาติ
                        น้องเอ๋จัดแจงประคองควยของพี่ชาติเองกับมือให้มันเข้าไปในหีของแกอย่างตรงเป้า
                        แล้วก็ทั้งโยกทั้งขย่มอย่างแม่แคร์ว่าใครจะมองยังไง
                        พี่ชาติเองก็ขยำนมน้องเอ๋แบบไม่วางมือ ผมทนไม่ไหวอีกแล้ว
                        ถึงตอนนี้ผมก็ไม่แคร์สายตาใคราเช่นกัน
                        จัดการควักควยที่แข็งเต็มทที่ออกมานอกกางเกง
                        แล้วใช้กางเกงในที่น้องเอ๋ให้มาตะกี๊ชักอย่างเสียวซ่านสุดเช่นกัน
                        น้องเอ๋ทั้งโยกทั้งขย่มควยของพี่ชาติด้วยทางทางเสียซ่านสุดๆ
                        ผมเองก็เสียวไม่แพ้กัน ผมน้ำแตกไปก่อนน้องเอ๋1น้ำ
                        พอเช็ดเสร็จผมก็เก็บควยเข้าในกางเกงเหมือนเดิม
                        น้องเอ๋พึ่งจะน้ำแตก
                        แล้วแกก็ถอดหีออกจากควยแล้วมานั่งที่เดิม
                        ผมอิจฉาพี่ชาติเต็มประดาที่แกได้ลิ้มรสหีของน้องเอ๋
                        แต่เบียร์ยังไม่หมด ผมคิดว่าคงมีอะไรมันๆกว่านี้แน่


พรหมลิขิต ผิดคิว16

วิภาวรรณสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงนอนให้ห้องของวีรพล ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก็พอนึกได้ลางๆ ว่านั่งอยู่กับเขาที่ระเบียงด้านนอกแล้วก็สติดับวูบไป นี่หล่อนสลบไสลไปนานหรือเปล่า เหลือบไปมองนาฬิกา ก็เป็นเวลาเกือบบ่ายโมง โอ!! เป็นเวลาน่าจะประมาณ 4 ชั่วโมงได้ที่หล่อนหมดสติไป เหลียวมองหาวีรพลก็ไม่เห็นเขา หล่อนลุกเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าชำระร่างกายส่องมองที่กระจกก็พบใบหน้าตัวมันซีดแทบจะไม่มีสีเลือด วิภาวรรณก็ครุ่นคิดว่าตัวเองเป็นอะไร ทำไมหมู่นี้รู้สึกว่าจะหน้ามืดเป็นลมบ่อยทั้งๆ ที่ก็พักผ่อนตามปกติ เมื่อสะสางล้างหน้าเรียบร้อยแล้วก็ออกจากห้องเดินออกไปที่ระเบียง มองเห็นวีรพลนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวนั่งเล่นที่ประจำของเขา ทีแรกนึกว่าเขานั่งอ่านเอกสารอย่างที่เห็นเมื่อเช้า แต่เดินเข้าไปอีกหน่อยวิภาวรรณก็ได้ยินเสียงใสกังวานของกีต้าร์คลาสสิค เพลงที่เขาเล่นอยู่ออกทำนองละตินใสหวานปนจังหวะแดนซ์หน่อยๆ ตามสไตล์เพลงสแปนิชหรือละติน วิภาวรรณเดินไปอย่างเงียบกริบไปนั่งข้างเขาด้านขวามือซึ่งอยู่ทางด้านท้ายของกีตาร์ วีรพลคงสนใจแต่กีตาร์อยู่จึงไม่สังเกตเห็นพอรู้สึกว่าหล่อนมานั่งข้างๆ โอบแขนด้านขวาและหน้าซบไหล่เขาก็หันกลับมามองหล่อน
“ตื่นแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้างครับ ทำไมอยู่ดีๆ ก็วูบไปซะอย่างนั้น”
“ภาก็ไม่รู้เหมือนกันคะ พล สองสามวันแล้ว ภารู้สึกว่าจะหน้ามืดบ่อยมากเลย แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้วคะ” สองแขนหล่อนกระชับข้างแขนเขาหน้าอกแนบประชิดกับลำแขนเขาใบหน้าหล่อนแนบบนไหล่ หน้าเขากับหล่อนห่างกันไม่กี่นิ้ว วีรพลชำเลืองตามองวิภาวรรณด้วยสายตาห่วงใย หยุดเล่นกีตาร์ยกแขนด้านขวาขึ้นมาโอบกอดวิภาวรรณ
“ผมตกใจแทบตาย พอให้ภาไปนอนพักก็เลยออกมานั่งคลายเครียด”
“ภาออกมาเห็นนึกว่าพลนั่งเอกสารเสียอีก พลเล่นกีตาร์เป็นด้วยเหรอ ตอนจัดของเข้าบ้าน ภาไม่เห็นกีตาร์สักตัว นึกว่าแต่จับเข็ม ถือมีดหมอ จรดปากกาเขียนใบสั่งยาเป็นอย่างเดียว นี่เล่นกีตาร์ก็เพราะด้วย”
“อ่ะ.. ไม่รู้อะไรซะแล้ว ตอนอยู่เชียงใหม่น่ะ ผมหัดเล่นจนแทบจะตั้งวงดนตรีได้เชียวนะ ถ้าผมตั้งวงออกอัลบั้มได้ละก็ เสกโลโซ แคลช หรือวงร็อคดังๆ ในเมืองไทย ผมว่าผมก็พอสู้เค้าได้ล่ะ หรือว่าทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ ไม่ได้โม้..............ฮ่ะๆๆ หึหึ... ผมเพิ่งเอามาจากกรุงเทพฯอ่ะ เมื่อตอนว่างๆ จากดูหนังสือหรือช่วงใกล้สอบที่มันเครียด ผมจะเอามาเล่นประจำ คิดว่าบางทีเบื่อๆ เครียดๆ มันก็น่าจะพอช่วยผ่อนคลายได้ ภาจะฟังมั้ยล่ะ ผมจะเล่นให้ฟังสักเพลงสองเพลง ฟังมั้ย” เขาหันไปจ้องหน้าถามหล่อน วิภาวรรณได้แต่ส่งยิ้มแล้วพยักหน้า หล่อนคงยังคลอเคลียกระชับข้างกายเขาอยู่ แล้ววีรพลก็ยกมือข้างขวาที่โอบหล่อนปล่อยหล่อนไปวางบนตัวกีตาร์ นิ้วก็เริ่มพลิ้วไปตามสาย มือด้านซ้ายก็ขยับปรับเปลี่ยนไปตามสายตามคอร์ดตามเมโลดี้ของเพลง มันเป็นเพลงสากล เสียงสายกีตาร์กังวานใสไปตามจังหวะที่เขากรีดนิ้วลง แล้วเสียงทุ้มกังวานน่าฟังของเขาก็เริ่มเปล่งเนื้อร้องของเพลง
Whenever I'm weary From the battles that rage in my head
You make sense of madness When my sanity hangs by a thread…
..............ฯลฯ.................
Until the day The oceans doesn't touch the sand
Now and forever I will be your man, Now and forever I will be your man..ฯ
ในท่อนสุดท้าย เสียงหวานๆ ใสของวิภาวรรณก็ประสานร้องกับเขาด้วยจนเพลงจบวิภาวรรณชำเลืองตามองเขาอย่างหวานซึ้ง วีรพลกรีดนิ้วตามสายลงเป็นช่วงสุดท้ายแล้วก็หันมาสบตาหล่อนที่อยู่แนบข้างอย่างหวานซึ้งตอบ
“ไม่น่าเชื่อว่าพลจะเล่นและร้องได้เพราะแบบนี้ ภาไม่เคยเห็นพลเล่นกีตาร์สักที เพิ่งมาเห็นครั้งนี้แหละ”
“ตอนผมเรียนมัธยม อยู่กับคุณลุงผมเห็นลุงแกเล่นซึงเพราะมากเลยอยากเล่นบ้าง แต่ก็เล่นไม่ได้เพราะเหมือนคุณลุงเลย อาศัยแต่กีตาร์พอที่จะเล่นคัฟเวอร์เพลงอื่นที่เขาฮิตกันได้ ผมเล่นได้ทุกแนวนะ เพื่อชีวิต ลูกทุ่ง สากล หรือจะเอาแบบสไตล์กีตาร์ฮีโร่ เฮฟวีเมทัล ก็เล่นได้”
“พลนี่ก็อารมณ์ศิลปินเหมือนกันนะนี่ แต่ภาขอห้าม ห้ามไปเล่นกล่อมใครเป็นอันขาด” วิภาวรรณทำเสียงเล็กเสียงน้อย ออดอ้อนแกมบังคับ บอกถึงความหึงหวงหรือแกล้งเย้าเขาเล่นก็ไม่ทราบ
“ฮ่ะๆๆ อารายกัน.... แค่นี้หวงเหรอ หึหึ.... สัญญาครับ ผมจะเล่นกล่อมภาคนเดียว” แล้ววีรพลก็โน้มหน้าเข้าหาหล่อนประทับจูบที่แก้มขาวที่อาจจะยังซีดอยู่บ้าง วิภาวรรณก็เอียงแก้มรับเขาอย่างเคลิบเคลิ้ม เขาช่างมีดีไปซะหมดเมื่อยามหล่อนอยู่ลำพังกับเขาทีไรเป็นต้องมีเรื่องให้หล่อนได้เคลิบเคลิ้มหลงใหลตามเขาไปซะทุกอย่าง ทำให้จิตใจวิภาวรรณแช่มชื่นขึ้น สีหน้าเริ่มมีเลือดฝาดระเรื่อ
“อืมม...ดูเหมือนอาการดีขึ้นแล้วนี่ เอ.......สงสัยผมต้องร้องเพลงกล่อมบ่อยๆซะละมั้งภาจะได้หายป่วย งั้นอีกซักเพลงนะ” วิภาวรรณได้แต่ยิ้ม ไม่ได้พูดจาโต้ตอบ แล้ววีรพลก็ดีดสายกีตาร์เล่นอีกเพลง เป็นเพลงที่เขาเคยได้ฟังแล้วประทับใจเมื่อคราวไปร้านแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับวิทยาลัยเกษตรแม่โจ้ เขาจำชื่อนักร้องได้ว่าชื่อ ธวัชชัย ชูเหมือน เสียงของนักร้องคนนี้ทุ้มหวานจนเขาชื่นชอบและเล่นแกะเพลงตามจนคล่อง ชื่อเพลงอดีตฝัน วีรพลเล่นกีตาร์พลางร้องเพลงไปจนจบ โดยที่วิภาวรรณยังขนาบข้างกายฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม
“ทำไมเล่นแต่เพลงหวานๆ ไหนบอกว่าแนวเฮฟวี่ก็เล่นได้”
“อ้าว... ยามนี้ผมคงจะเล่นแนวนั้นไม่ได้หรอก เดี๋ยวภาจะได้โยกหัวสั่นหัวคลอน คงน่าขำพิลึก ฮ่ะๆๆๆ” วิภาวรรณได้แต่ทุบต้นแขนเขาเบาๆ กับการเหน็บแนมหยอกล้อของเขา
“อ่ะ เอ่อ....คุณภา คุณหมอคะ อุ้ย....แหม.....มาสวีทหวานกันอยู่นี่เอง”
ทั้งสองสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของปิ่น วิภาวรรรีบขยับตัวออกห่างวีรพลไปอีกศอกหนึ่งนั่งตัวตรง ปรับหน้าให้เป็นปกติเรียบเฉย
“มีอะไรครับ พี่ปิ่น”
“ตอนนี้คนงานที่จะมาทำงาน รออยู่ข้างล่างคะ คุณหมอจะลงไปพบเลยมั้ยคะ”
“อ่อ ให้เค้าขึ้นมาที่นี่เลยดีกว่า อากาศกำลังร่มเย็นดี ข้างล่างมันอบอ้าวไปหน่อย แล้วพี่ปิ่นช่วยจัดน้ำท่ามาต้อนรับด้วยนะ”
“ค่ะๆ...เด๋วปิ่นจะตามขึ้นมาให้คะ” ปิ่นหันกลับเดินลงไปด้วยใบหน้ายิ้มระรื่นแอบลอบมองวิภาวรรณที่ตอนนี้ยังหน้าปั้นยากอยู่ สักครู่คนงานที่ว่าก็ขึ้นมานั่งบนพื้นระเบียงกว้างที่ยื่นออกมานอกบ้านชั้นบน ทุกคนไหว้วีรพลกับวิภาวรรณแล้วก็นั่งพับเพียบอยู่ต่อหน้าทั้งสอง
“นั่งตามสบายเถอะครับ แล้วค่อยว่ากันเรื่องงาน”
“คุณหมอคะ นี่ ศักดิ์ ชล หาญ โต้ง และก็นี่ ประกาย คะ นี่ทุกคนนี่คือคุณหมอวีรพล เจ้าของบ้านหลังนี้ และนี่ก็คุณนายวิภาวรรณเจ้าของบ้านหลังที่ชั้นทำงานหลังโน้น” ทั้งหมดไหว้วีรพลกับวิภาวรรณอีกครั้งหนึ่งตามคำแนะนำของปิ่น วีรพลกับวิภาวรรณก็รับไหว้ตอบ ทั้ง 5 คนที่มาวันนี้ ดูจากลักษณะยังเป็นวัยหนุ่มสาวประมาณ 20 ปลายๆ ท่าทางแข็งแรงทะมัดทะแมงแต่ว่าร่างเล็ก สันทัด เมื่อเทียบกับวีรพล
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก คืองี้ ผมอยากจะให้ทุกคนมาช่วยงานที่สวนของผมและก็ที่บ้าน ก็ไม่ได้ทำทุกวันหรอกครับเอาแค่อาทิตย์นึงไม่น้อยกว่า 3-4 วัน จะอยู่ประจำหรือว่าไปกลับก็แล้วแต่ทุกคนจะสมัครใจ ถ้าจะอยู่ประจำผมจะได้สร้างเรือนคนงานเพิ่มให้ ตอนนี้ผมอยากจะทำสวนกล้วยไม้ ผมมีแปลนที่ผมร่างไว้แล้ว สักครู่นะครับ” แล้ววีรพลก็เดินเข้าไปในบ้าน เดินออกมาพร้อมกระดาษแผ่นกว้างสองสามแผ่นที่ขีดเขียนด้วยปากกาเป็นเส้นลาย ดูเป็นระเบียบ
“คุณหมอคะ ทุกคนที่มานี่ส่วนมากก็ทำสวนมาก่อน แต่ว่ามีที่เนื้อที่ไม่มาก ก็เลยว่างงานกัน เรื่องทำสวนคงไม่มีปัญหา ถ้าจะให้อยู่ประจำคงจะเป็น ศักดิ์ โต้งและก็ประกายน่ะคะ ถ้าเรือนคนงานพร้อมเสร็จ ปิ่นพูดคุยก่อนหน้านี้ทุกคนก็ยินดีทำงานที่คุณหมอสั่งได้เลยคะ”
“ขอบคุณครับพี่ปิ่น อีกอย่าง ผมอยากให้พี่ปิ่นกับพี่โชค มาอยู่ประจำที่บ้าน เอ่อ. บ้านพี่ภาเลยน่ะครับ พี่ปิ่นจะพาครอบครัวมาอยู่ด้วยเลยก็ได้ ลูกพี่ปิ่นผมจะรับผิดชอบดูแลเรื่องเล่าเรียนให้เอง พี่โชคเป็นหัวหน้างานเรื่องทำสวนและหาคนขับรถให้พี่ภาสักคนหนึ่งหรือใครในนี้ขับรถได้ก็ขอไว้สักคนนึง ส่วนพี่ปิ่นกับประกายให้ดูแลงานบ้านทั้งสองหลัง ที่เหลือก็อยากจะให้ทำเรื่องสวนกล้วยไม้เป็นอันดับแรก เรื่องค่าจ้างและค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ผมจะขอมอบให้พี่ภาเป็นคนดูแลทั้งหมด เพราะพี่ภาเค้าเป็นคนดูแลบัญชีธนาคารให้ผมอยู่แล้ว เรื่องบัญชีรายรับรายจ่ายคงไม่มีปัญหา ตอนนี้ให้ประกายกับพี่ปิ่น พี่โชค อยู่บ้านพี่ภาไปก่อน แล้วทุกคนช่วยหาจ้างช่างมาทำเรือนคนงาน และก็ทำเรือนกล้วยไม้ เรือนคนงานเสร็จเมื่อไหร่ใครจะมาอยู่ประจำก็ให้บอกมา เรื่องค่าใช้จ่ายก่อสร้างทั้งหมดให้ทำบัญชีมอบให้พี่ภาดูแลนะครับ สวนผลไม้ที่เหลือเมื่อถึงฤดูก็ค่อยๆทำกันไป ไม่ต้องให้ดิบดีมากก็ได้ขอเพียงอย่าให้สวนรกเท่านั้นก็พอ จะขายหรือเก็บไว้ยังไงก็แล้วแต่ทุกคนจะเห็นว่าดีเท่านั้นแหละ งานที่ผมอยากให้ช่วยทำก็มีเท่านี้ใครจะมีอะไรซักถามเพิ่มเติมก็ได้ เชิญครับ อ้อ....และก็อีกอย่างผมอยากจะให้รื้อรั้วกั้นบ้านออกไปเลยดีกว่าผมขี้เกียจเดินอ้อมไปประตูรั้วหน้าบ้านพี่ภา เดินลัดไปบ้านพี่ภาแค่ไม่ถึงร้อยเมตรเอง พี่ภาว่ายังไงครับ”
วิภาวรรณนั่งจ้องมองวีรพลจัดแจงแบ่งงานคล่องปรื๋อ จนหล่อนเองก็แอบภูมิใจในตัวเขาไม่ได้ เมื่อตะกี้เขายังมีอารมณ์หวานโรแมนติกกับหล่อนอยู่เลย แต่พอเข้าเรื่องงานเขาก็ดูขึงขังเป็นเรื่องราว วางแผนงานได้อย่างเป็นระบบ คล่องแคล่ว ฉะฉาน เขาได้ความเป็นนักบริหารนักปกครองมาจากวีรวัฒน์แทบจะเหมือนหมด หล่อนได้แต่นั่งมองเขาอยู่ข้างๆอย่างอดปลื้มชื่นชมในใจไม่ได้ กำลังนั่งมองเขา ฟังเขาพูดไป พอเขาหันมาถามหล่อนถึงกับสะดุ้ง ปิ่นมองหน้าเจ้านายสาวเห็นท่าทางหล่อนก็แอบหัวเราะคิกคักคู่กับโชค วิภาวรรณปรับสีหน้าไม่ถูก เลิ่กลั่กๆ
“อ่ะ เอ่อ... ก็แล้วแต่คุณหมอก็แล้วกันคะ ถ้าคุณหมอว่าเหมาะภาก็ว่าตามนั้นคะ” วิภาวรรณยังตอบด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน ไม่ค่อยกล้าสบตาเขา
“แหม...คุณภา คุณหมอคิดถูกแล้วคะ ไหนๆ ก็จะเป็นแผ่นดินเดียวกันแล้ว เอารั้วออกเลยดีกว่า ปิ่นเคยบอกคุณภาแล้ว คุณหมอจะได้หมดห่วง เดินอ้อมไปประตูรั้วหน้าบ้านตั้งไกล เดินลัดไปบ้านคุณภาแค่นี้เอง ดีแล้วล่ะคะ จริงมั้ยคะ คุณหมอ...” วีรพลยิ้มพยักหน้า วิภาวรรณเหมือนโดนตอกย้ำให้เขินอายหนักเข้า ได้แต่ถลึงตาไปทางปิ่นทำปากขมุบขมิบเหมือนจะว่าอะไรสักอย่าง คนงานใหม่ 5 คนที่นั่งอยู่ต่อหน้าได้แต่ทำหน้าเลิ่กลั่กเพราะยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แล้ววีรพลก็พูดคุยซักซ้อมกับคนงานใหม่ทุกคนในเรื่องการรับผิดชอบงาน เขาให้ความเป็นกันเองพูดคุยด้วยสนุกสนาน ทำให้ทั้ง 5 คนรู้สึกสบายใจ ทีแรกนึกว่าจะต้องมานั่งหงอต่อหน้าเจ้านาย โดยทีแรกๆ ทุกคนคิดว่าเจ้าของบ้านน่าจะเป็นคนมีอายุ แต่พอมาเจอรู้ว่าเป็นหนุ่มหน้าคมสันหล่อเหลาแถมให้ความเป็นกันเอง ทุกคนก็พลอยคลายความประหม่ากลัว ทุกคนก็ต่างรับมอบหน้าที่ตามที่วีรพลสั่งแล้วทุกคนจึงลากลับ โดยจะมาทำงานในอีกสองวันข้างหน้า..........


“คุณภาจะไปบ้านคุณหมอเหรอคะ อุ้ย...ดูสิ แต่งตัวสวยหวานขนาดนี้ คุณหมอได้นอนหลับยิ้มหวานแน่ๆ ฮิฮิๆ” ปิ่นมองเห็นวิภาวรรณสวมชุดเสื้อคล้องคอสีชมพูหวานแหววเป็นเนื้อเดียวกับกระโปรงเนื้อบางละเอียด เป็นจีบพลิ้ว เป็นชุดสีสันที่วิภาวรรณชอบใส่ประจำ ยิ่งมองหล่อนในยามเย็นแสงแดดอ่อนๆ ระเรื่อแบบนี้ วิภาวรรณดูผิวขาวผ่องนวลอมชมพูสวยหวานบาดใจ ปิ่นทำตาล้อวิภาวรรณเจ้านายสาวที่สนิทคุ้นกันจนแทบจะเป็นเพื่อนหรือน้องมากกว่าแม่บ้านเสียอีก
“ก็คุณหมอบอกให้ไปนอนพักที่บ้าน คุณหมอกลัวภาจะไม่สบายเหมือนเมื่อตอนสายอีก ภาฝากให้ปิ่นเฝ้าบ้านด้วยละกัน”
“ค๊า...ไม่ต้องห่วงบ้านใกล้กันแค่นี้เอง รู้มั้ยคะคุณภา ปิ่นน่ะ อิจฉาคุณภานะเนี่ย คุณหมอเอาใจใส่ดูแลคุณภาทุกอย่างทั้งรักษาอาการป่วยทั้งร้องเพลงกล่อม แบบนี้คุณภาคงหายป่วยเป็นปลิดทิ้งแน่ๆ ยิ่งตอนนี้สั่งให้รื้อรั้วบ้านแล้ว เหมือนคุณหมอจะบอกนัยๆ ว่าไม่ช้านี้คุณภาคงไม่ต้องมาอยู่บ้านหลังนี้แล้วมั้ง ฮิฮิฮิ”
“บ้าน่า.... ปิ่น นี่ก็บ้านภา ทำไมภาจะมาอยู่ไม่ได้ภาไม่ทิ้งหรอก ไม่คุยกับปิ่นแล้ว ฝากดูบ้านด้วยนะจ๊ะ ไปล่ะ” ขืนอยู่ต่อไปวิภาวรรณคงมองหน้าปิ่นไม่ติดแน่ๆ ก็ปิ่นเล่นมองตาหล่อนล้อๆ แซวๆ อยู่เรื่อย วิภาวรรณจึงตัดบทห้วนๆ เดินจากไปซะอย่างนั้น ทิ้งให้ปิ่นอ้าปากค้าง แต่แล้วหล่อนก็ได้แต่ยิ้มอย่างชื่นชมยินดีที่นายสาวใหญ่จะมีคนรู้ใจมาคอยดูแลเอาใจใส่
วิภาวรรณเดินเข้าไปหาวีรพลที่ห้องทำงานชั้นล่าง เห็นเขานั่งอ่านเอกสารที่ดูค้างไว้เมื่อตอนสาย หล่อนรีบเดินไปหาเขา
“เอาอีกแล้ว ดูจะคร่ำเคร่งกับงานมากไปแล้วมังคะ พล ไม่เอา ภาไม่ยอมแล้ว ตั้งแต่คุยกับคนงานเสร็จก็เห็นพลมาขลุกอยู่แต่ห้องทำงาน เอาไว้ค่อยดูวันหลังก็ได้ นะคะ”
“แหม...ภา ก็ไม่รู้จะทำอะไรนิ ว่างๆ ก็หยิบจับมาดูบ้างไม่เห็นเสียหาย รับรองว่าผมไม่จะไม่คร่ำเคร่งหรอกน่า ว่าแต่ภาเถอะ อาการดีขึ้นหรือเปล่า เอ..รู้สึกภาจะทำตัวเหมือนเป็นแม่ผมไปทุกขณะเลยนะ”
“พล...!!!! นี่ภาเป็นห่วงพลนะคะ ยังมาหาว่าภาจุ้นจ้านเหรอ ก็ได้คะ งั้นภาไม่รบกวนล่ะ” วิภาวรรณพูดตัดพ้อเชิงน้อยใจ เพราะคำพูดที่ว่า “เป็นแม่” มันรู้สึกจะจี้หัวใจหล่อนมาก หันกลับกำลังเดินออกจากห้องทำงานของเขา ก็รู้สึกถึงร่างกำยำใหญ่สูงโปร่งตามมารวบกอดรั้งไว้
“ไม่เอาน่า ภา... ผมขอโทษ ผมไม่ได้ว่าภาจุ้นจ้านหรอกนะ ขอบคุณด้วยซ้ำที่เป็นห่วง ผมแค่ไม่อยากอยู่ว่างๆ น่ะ อีกนิดเดียวก็จะอ่านหมดแล้ว อย่าโกรธเลยน่า เดี๋ยวจะไม่สบายอีกนะ อืมม... ผมก็ลืมไปเลย พรุ่งนี้ภาไปโรงพยาบาลกับผมนะ เดี๋ยวผมจะขอตรวจให้ละเอียดว่าภาเป็นอะไร จะได้หายกังวลซะที ที่นี่เครื่องมือผมไม่ได้ติดมาด้วย”
“ภาเป็นห่วงพลนี่คะ อยากให้พลพักสบายๆ บ้าง ตอนนี้พลมีแต่เรื่องให้คิดหนัก ถึงภาจะไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องอะไรบ้าง ภามองตาก็รู้ว่าพลมีหลายเรื่องที่ยังกลุ้มอยู่ แค่นี้ภาก็อดห่วงไม่ได้แล้ว แล้วยังจะต้องมารับงานหลายอย่าง เดินทางไปโน่นมานี่จนแทบไม่ได้พักผ่อน เรื่องตรวจสุขภาพของภา คุณหมอธรณ์เขาแอดฯ รับภาไว้เป็นคนไข้แล้วคะ เขาไม่อยากให้พลรับภาระหลายอย่าง ภาก็เห็นด้วย ให้คุณหมอธรณ์เขาดูแลเรื่องสุขภาพภาก็ได้คะ พลแค่รับฟังผลจากคุณหมอธรณ์ก็พอ นะคะ ภาไม่เป็นอะไรมากหรอก ไม่ต้องห่วง”
“ไม่ห่วงได้ยังไง นี่ภาเป็นลมมา 2-3 ครั้งแล้วนะ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าผมไม่สามารถจะดูแลคนรักของตัวเองได้ ผมยิ่งไม่สบายใจ ถ้าภาเป็นอะไรไปโดยที่ผมไม่รู้ไม่ได้มีส่วนในการดูแล ตกลงครับเอางั้นก็ได้ เอาเป็นว่า....เดือนนี้ผมจะไม่ไปกรุงเทพฯ อีกแล้ว จนกว่าจะแน่ใจว่าภาไม่เป็นอะไรมาก และงานเอกสารผมจะให้ภาช่วยดูให้ มีอะไรเพิ่มเติมผมจะให้พี่ผ่องส่งงานมาให้ดูและคุยทางโทรศัพท์ก็พอ ภาสบายใจหรือยังครับ” เขายังโอบกอดวิภาวรรณจากด้านหลังพูดอยู่ข้างหูหล่อนกระชับร่างโอนเอนไปมาเป็นการปลอบโยนเอาใจ วิภาวรรณหันกลับมาประจันหน้าเขาส่งยิ้มถึงแม้จะดูซีดๆ เนือยๆ แต่ก็เริ่มดูดีขึ้นมาก
“คะ ขอเวลาให้ภาอีกสักระยะนะคะ ขอทำเรื่องร้านให้เสร็จ ภาจะมอบหมายให้ก้อยเขาดูแลเองทั้งหมด และก็เรื่องตัวแทนจำหน่ายร้านที่จะไปหาทำเลที่กรุงเทพฯ ภาจะทำหน้าที่แค่วางแผนขยายการตลาดก็พอ จากนั้นภาจะเคลียร์งานทุกอย่างและลาออกจากธนาคารมาช่วยงานพลที่บ้านคะ ภาไม่อยากเห็นพลต้องมารับภาระคนเดียวอีกแล้ว”
“ขอบคุณครับ ภา ได้ยินอย่างนี้ชื่นใจจัง ที่รัก รอให้ภาเคลียร์งานทุกอย่างหมด ผมจะพาไปกรุงเทพฯ ไปดูที่บ้านและที่ทำงาน ผมจะได้วางแผนงานให้ภาช่วยทำ ผมกะว่าเมื่อบริหารบริษัทจนอยู่ตัวแล้ว ยัยมีนโตพอที่จะรับช่วงต่อได้ ผมจะยกให้น้องทั้งหมดแล้วเรามาอยู่ที่นี่กันพ่อแม่ลูกอย่างที่ผมฝันไว้ ไม่ต้องดิ้นรนอะไรอีก ดีมั้ยครับ ภาจ๋า”
วิภาวรรณมองหน้าเขาอย่างซาบซึ้ง สวมกอดเขาแน่น แค่ชีวิตนี้มีเขาอยู่เคียงข้าง หล่อนก็จะไม่ขออะไรอีกแล้ว แล้ววีรพลเดินไปเก็บเอกสารจัดเข้าระเบียบ ปิดไฟห้องทำงานแล้วเดินมาประคองวิภาวรรณขึ้นชั้นบน
“ไปเถอะ วันนี้ผมจะเล่นกีต้าร์ร้องเพลงกล่อม หรือจะเอาสไตล์เฮฟวี่เมทัล ดีล่ะ โยกหัวให้มันหลุดไปเลย ฮ่ะๆๆๆ”
“ไม่เอา....ขอแบบคลาสิคๆ หวานๆ ดีกว่า จะได้นอนหลับสบาย ขืนเล่นเฮฟวี่ ภาปวดหัวมากกว่าเดิมแน่คะ” แล้วทั้งสองก็ประคองกันเข้าห้อง ประสานเสียงร้องเพลงไปเรื่อย จนดึก ต่างพากันหลับผล๊อยอยู่ในอ้อมกอดกันและกัน.........