วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

รักในวัสสานะ (Love in Rainy season)




คงเป็นด้วยความเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ สิ่งที่มนุษย์กระทำกับธรรมชาติเพื่อสนองความสะดวกสบายของตนเองทำให้ฤดูกาลบิดเบือน หน้าร้อนกลับฝนตก หน้าหนาวกลับน้ำท่วม ซึ่งบัดนี้ย่างเข้าหน้าฝนแล้ว แต่บรรยากาศในวันอาทิตย์เวลาบ่าย 4 โมงกว่า ๆ กลับยังร้อนระอุ
“แม่คะหนูไปว่ายน้ำนะคะ” เด็กสาวกล่าวเป็นพิธีก่อนจะเดินออกจากบ้านเพื่อขี่รถจักรยานไปยังสระว่ายน้ำในหมู่บ้าน
“อ้าว... แล้ววันนี้ต้นไม่ไปด้วยเหรอลูก”  คุณแม่ซึ่งนั่งดูทีวีหันไปถามลูกชายที่กำลังก้มหน้าก้มตาร้อยเชือกรองเท้าผ้าใบที่จะใส่ไปเรียนในวันรุ่งขึ้น เธอชื่อสายชล อายุ 40 ปี เป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เธอมีลูก 2 คน ส่วนสามีนั้นเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปเมื่อหลายปีก่อน ลูกคนโตเป็นผู้ชายชื่อว่า ต้นหนาว อายุ 17 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.6 ด้านหน้าตาต้นหนาวไม่ใช่คนหล่ออะไร ออกจะเป็นผู้ชายธรรมดา ๆ เค้าเป็นคนเรียนเก่งมีความรับผิดชอบ และระลึกเสมอว่าไม่มีคุณพ่อแล้วเค้าต้องเรียนให้ดีอนาคตจะได้เลี้ยงแม่เลี้ยงน้องได้ ส่วนลูกสาวนั้นเธอชื่อ ปลายฝน อายุน้อยกว่าต้นหนาว  1 ปี เธอเรียนอยู่ชั้น ม.5 ที่เดียวกันกับพี่ชายของเธอ ปลายฝนเป็นเด็กหน้าตาสวย ผิวขาว ถึงแม้จะชอบว่ายน้ำ แต่ก็จะว่ายแค่อาทิตย์ละครั้ง และเฉพาะตอนเย็นไปถึงเวลาสระปิดเท่านั้น
“ไม่ล่ะครับ ผมไม่ชอบว่ายน้ำ” ต้นหนาวตอบทั้ง ๆ ที่ยังคงก้มหน้าร้อยเชือกรองเท้า
“จะอ้างอะไรก็ให้มันเนียน ๆ หน่อย ตอน ม.ต้น เป็นนักกีฬาว่ายน้ำกลับไม่ชอบว่ายน้ำ”
“ก็เดี๋ยวนี้ผมไม่ชอบแล้วหนิครับแม่” ต้นหนาวยังคงเถียงไปข้าง ๆ คู ๆ ทั้งที่ในใจไม่ได้คิดเช่นนั้น
“เอาน่า ยังไงก็ไปดูปลายมันหน่อย น้องมันไปคนเดียว เวลากลับก็ค่ำมืด มันอันตราย” สายชลอธิบายถึงเหตุผลเพื่อให้ลูกชายไปว่ายน้ำกับน้องสาว ซึ่งเธอเองก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเด็กทั้ง 2 ที่ห่างเหินกันมาตั้งแต่ปลายฝนย้ายเข้ามาเรียนที่เดียวกับพี่ชายซึ่งเป็นโรงเรียนสหศึกษา โดยก่อนหน้านั้นขณะที่เธอยังเรียนอยู่โรงเรียนหญิงล้วน 2 พี่น้องต่างรักใคร่กันดี ทุกวันอาทิตย์จะไปว่ายน้ำด้วยกันเสมอโดยมีพี่ชายเป็นคนขี่จักรยานส่วนน้องสาวนั่งซ้อนท้าย แต่สายชลก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุอันใดจึงทำให้ทั้งคู่ไม่คุยกัน หรือคุยกันก็แค่เล็กน้อยเท่านั้นแบบถามคำตอบคำ
“ครับแม่ ไปก็ได้ แต่ผมขอทำธุระตรงนี้ก่อนนะครับ” ต้นหนาวยังคงตอบโดยไม่เงยหน้า ซึ่งสายชลเองก็ได้แต่ถอนหายใจ

<--------------->

ณ สระว่ายน้ำของหมู่บ้าน ต้นหนาวซึ่งเปลี่ยนชุดเป็นที่เรียบร้อยแล้วเดินนุ่งผ้าขนหนูผ่านบ่อล้างเท้ามองไปรอบ ๆ สระด้วยความคุ้นเคย แต่วันนี้ไม่เหมือนหลาย ๆ อาทิตย์ที่ผ่านมา ทั้ง ๆ ที่เป็นวันอาทิตย์แต่คนกลับน้อยมากจนนับได้ เค้าหันไปมองนาฬิกาที่ติดไว้ที่ผนังข้างสระ
“5 โมงกว่าทำไมคนโล่งจัง” ต้นหนาวบ่นกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะข้าง ๆ สระซึ่งมีกันสาดบังแดด มันทำเอาไว้ให้ผู้ปกครองคอยนั่งดูบุตรหลาน เค้าวางสัมภาระบนโต๊ะข้าง ๆ โต๊ะของปลายฝนก่อนจะนั่งลงวอร์มอัพแขนขาเบา ๆ ด้วยความที่เดินมาจากบ้านเป็นระยะทางพอสมควร ต้นหนาวจึงไม่ต้องอบอุ่นร่างกายอะไรมากมาย เพียงแต่ยืดเส้นยืดสายเพียงเล็กน้อยก่อนจะลงสระเพื่อว่ายน้ำตามปกติ เวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง โดยที่ทั้งคู่ต่างคนต่างว่ายบ้างหยุดพักบ้างแต่กลับไม่มีบทสนทนากันแม้แต่น้อย ทั้ง 2 ทำเสมือนเป็นคนไม่รู้จักกัน ไม่มีใครรู้ถึงความคิดของ 2 พี่น้องแม้แต่มารดาผู้ให้กำเนิด จากนั้นเพียงไม่นานนัก ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับว่าจะมีฝนตก ผู้คนซึ่งมีน้อยอยู่แล้วเริ่มทยอยขึ้นจากสระ แต่ปลายฝนกลับยังคงว่ายน้ำไปมาช้า ๆ โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เพียงเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ภายในสระว่ายน้ำขนาด 25 เมตรก็เหลือแต่เพียง 2 พี่น้อง ต้นหนาวหันหลังพิงเท้าแขนทั้ง 2 ข้างกับขอบสระเงยหน้ามองท้องฟ้า และแล้วฝนหยดแรกในฤดูก็ตกลงบนใบหน้าของเค้า แต่มันก็ตกเพียงแค่ปรอย ๆ
“นี่น่ะเหรอหน้าฝน” ต้นหนาวเอ่ยปากพูดกับท้องฟ้า และเหมือนกับสวรรค์จะได้รับรู้ถึงคำพูดของเค้า จู่ ๆ ฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา ทั้งต้นหนาวและปลายฝนรีบขึ้นจากน้ำมานั่งยังโต๊ะข้าง ๆ สระ ถึงคิดจะกลับบ้านมันก็สายไปเสียแล้ว บรรยากาศในตอนนี้มีทั้งฝนฟ้าคะนอง และฟ้าร้องดังสนั่นสลับกันไป คงไม่ได้ลงสระอีกแล้วสินะ ปลายฝนคิดกับตัวเองพลางถอดหมวกว่ายน้ำออก แล้วเงยหน้าใช้นิ้วมือเรียวงามของเธอสางผมเบา ๆ เวลาผ่านไป 2 พี่น้องได้แต่นั่งมองหยดน้ำที่ตกกระหน่ำลงในสระอย่างรุนแรงโดยไม่ได้พูดอะไรกัน เวลาอันน่าอึดอัดดำเนินไปกว่า 5 นาที และแล้วปลายฝนก็ลุกขึ้น เธอพาตัวเองมายืนข้าง ๆ พี่ชาย
“นั่งด้วยได้มั๊ย” นี่อาจเรียกได้ว่าเป็นคำสนทนาแรกที่เกิดขึ้นโดยไม่เกี่ยวกับเรื่องงานบ้านหรือสิ่งที่แม่ใช้ให้ทำ
“นั่งสิ” ต้นหนาวหันเงยหน้ามองน้องสาวก่อนจะเอ่ยปากเบา ๆ แล้วหันไปมองยังสระว่ายน้ำที่ว่างเปล่า ปลายฝนดึงเก้าอี้นั่งลงข้าง ๆ พี่ชายโดยมองไปยังสระว่ายน้ำเช่นกัน เวลายังคงผ่านไปเรื่อย ๆ โดยที่ฝนก็กระหน่ำตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา
“ทำไมพี่ไม่พูดกับหนู” เสียงเล็ก ๆ เล็ดออกจากปากของเด็กสาว มันเป็นคำพูดที่อัดอั้นไว้ในใจมานาน เธออยากจะถามแต่ก็ไม่กล้าเพราะความเย็นชาของพี่ชายที่เปลี่ยนไปจากเดิม
“พี่ไม่รู้จะพูดอะไร” ต้นหนาวพูดเสียงเย็นชาทั้ง ๆ ที่ยังมองเหม่อ
“ก็พี่เป็นอะไร ตั้งแต่หนูเข้าเรียนที่เดียวกับพี่ ๆ ก็เย็นชากับหนู มองเหมือนหนูไม่มีตัวตน” ปลายฝนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอขยับเก้าอี้เข้าหาพี่ชายพร้อมถามเสียงดังขึ้น
“พี่ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย ปลายโตแล้ว พี่ก็โตแล้วจะให้เราคุยกัน เล่นกันเป็นเหมือนเด็ก ๆ ได้ยังไง” ต้นหนาวหันหน้าตอบน้องสาวที่นั่งมองหน้าเค้าอยู่ด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
“โตแล้วยังไง โตแล้วพี่ต้องเย็นชากับหนูด้วยเหรอ พี่ไม่รักหนูเหมือนเมื่อก่อนแล้วใช่มั๊ย” ความอัดอั้นในใจของเด็กสาวค่อย ๆ ระเบิดออกมาพร้อมกับเสียงฟ้าผ่า
“ปลายไม่รู้หรอก...” เด็กหนุ่มก้มหน้าพูด
“ไม่รู้อะไร พี่จะให้หนูรู้อะไร” เด็กสาวยังคงพูดกระแทกเสียงแข่งกับเสียงฟ้า
“ไม่รู้หรอก... ว่าพี่รักปลายแค่ไหน” เสียงอันแผ่วเบาแทรกผ่านละอองน้ำฝนเข้าในโสดประสาทของเด็กสาวทำเอาเธอหน้าชา และนิ่งไปซักพัก
“แล้วทำไมพี่ต้องเย็นชาก็หนูด้วย”
“ปลายจำได้มั๊ย ตอนที่จะสอบเข้า ม.4”
“จำได้...” ปลายฝนขมวดคิ้วเล็กน้อย
“พี่บอกว่าให้ปลายเรียนโรงเรียนเดิม แต่ปลายบอกว่าจะย้ายมาอยู่โรงเรียนพี่”
“ก็แล้วทำไมล่ะ มันเกี่ยวอะไรกันด้วย”
“ปลายบอกว่าเรียนโรงเรียนสหดีออก จะได้มีแฟนกับเค้าบ้าง”
“...............” ปลายฝนเงียบไปทันที เธอจำได้ว่าเคยพูดออกไปเช่นนั้น แต่ทว่าคำพูดนั้นเธอหาคิดเป็นอย่างนั้นไม่
“ตอนนี้ปลายคงมีแฟนสมใจแล้วสินะ” เพียงสิ้นเสียงของพี่ชาย น้ำตาของน้องสาวก็หยดลงกระทบกับต้นขาที่เปลือยเปล่า นัยน์ตาของเด็กสาวค่อย ๆ แดงระเรื่อย
“พี่ไม่เคยเข้าใจหนูเลย” เสียงอันสั่นเครือเอ่ยออกจากปากที่เริ่มสั่นเทา
“ก็พี่...”
“ตลอดเวลาหนูไม่เคยมองใครเลย ทั้ง ๆ ที่มีคนมาจีบหนูตั้งมากมาย จนถึงตอนนี้หนูก็ยังไม่มีแฟน พี่คิดว่าหนูอยากจะเข้ามาเรียนที่เดียวกับพี่เพราะอยากจะหาแฟนงั้นเหรอ” ยิ่งพูดไป น้ำตาของเด็กสาวก็ยิ่งไหล
“พี่...”
“ทำไมหนูต้องหัดว่ายน้ำด้วย... ทำไมต้องมาที่นี่ทุกอาทิตย์ด้วย... ทำไมต้องเข้าเรียนที่เดียวกับพี่ด้วย!!!...”
“เอ่อ...”
“ก็เพราะหนูอยากอยู่กับพี่ หนูอยากใกล้ชิดพี่ หนูไม่อยากให้พี่ไปมีใครนอกจากหนู พี่ได้ยินมั๊ย! หนูรักพี่! พี่ได้ยินมั๊ย!” ปลายฝนพูดใส่อารมณ์ทั้งน้ำตา แววตาเธอแดงก่ำด้วยความเศร้า มันคือความโศกเศร้าภายในใจที่พี่ชายไม่เคยรู้เลยว่าเธอรักเค้าแค่ไหน เด็กสาวหุนหันลุกขึ้นหมายจะกลับไปยังโต๊ะของตัวเองเพื่อฝ่าสายฝนไปเปลี่ยนชุดกลับบ้าน แต่แล้วความรู้สึกที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะได้รับจากพี่ชายที่เธอแอบหลงรักมาตลอด ความรู้สึกของไออุ่นเข้าแนบกับแผ่นหลังของเธอ ความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดจาก 2 แขนที่เข้าสวมกอดเธอไว้จากด้านหลัง
“พี่ขอโทษ” ต้นหนาวลุกขึ้นสวมกอดน้องสาวพลางกระซิบข้างหูเบา ๆ
“เพราะปลายเป็นคนสวย แถมยังบอกว่าจะหาแฟนอีก แล้วจะให้พี่ทำยังไง”
“พี่ต้น...”
“ปลาย... พี่ขอโทษ”
“แล้วพี่ต้นรักหนูมั๊ย” ปลายฝนบิดตัวหันกลับมาพูดพร้อมเงยหน้ามองพี่ชาย ตอนนี้ในอ้อมแขนของต้นหนาวคือน้องสาวแท้ ๆ ตั้งแต่โตมา เด็กหนุ่มไม่เคยได้ใกล้ชิดกับน้องสาวขนาดนี้เลย ใบหน้าที่สวยราวกับนางฟ้าเบื้องหน้าทำเอาเค้าใจสั่น เด็กหนุ่มคลายมือขวาออกยกขึ้นใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาที่อาบแก้มแล้วบรรจงประทับจูบลงบนริมฝีปากน้อย ๆ ของน้องสาวอย่างนุ่มนวลเป็นคำตอบพร้อม ๆ กับสายฝนที่ค่อย ๆ เบาบางลง
“พี่รักปลายมากนะ แต่เราเป็นพี่น้องกัน พี่ต้องเก็บมันไว้ มันไม่มีทางที่พี่จะ...” ยังไม่ทันที่ต้นหนาวจะพูดจบ ปลายฝนก็ยกมือขึ้นปิดปากพี่ชาย
“ฝนซาแล้ว เล่นน้ำกัน แน่จริงก็จับหนูให้ได้สิ แบร่...” ปลายฝนไม่พูดเปล่า เธอแลบลิ้นเล็กน้อยแบบทะเล้นเป็นการท้าทาย พร้อมหมุนตัวออกจากวงแขนของเค้าแล้ววิ่งกระโดดลงน้ำไป
“ได้สิ ยัยจอมแก่น” นี่เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปีที่เด็กหนุ่มตอบน้องสาวด้วยหน้าตายิ้มแย้ม และแล้วทั้ง 2 ก็ว่ายน้ำไล่กันไปจนเกือบถึงมุมสระฝั่งตรงข้ามทางเข้าสระว่ายน้ำ แสงสปอร์ตไลท์ยังคงสาดส่องแต่ก็ไปได้ไม่ถึงดีนักทำให้บรรยากาศตรงจุดนั้นออกสลัวนิด ๆ
“พี่จับได้แล้วนะ แบบนี้หนีพี่ไม่ได้แล้ว”
“พี่ต้นขี้โกงหนิหน่า” 2 พี่น้องหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนนี้เด็กสาวอยู่ในท่ายืนพิงบันใดทางขึ้นสระน้ำ โดยมีพี่ชายจับราวบันใดไว้ทั้ง 2 ข้าง ด้วยความไม่ตั้งใจแต่มันก็ทำให้ร่างของทั้งคู่เบียดเสียดเข้าหากัน เต้าอวบกลมกลึงซึ่งมีเพียงฟองน้ำบาง ๆ ภายใต้ชุดว่ายน้ำกั้นไว้เบียดเข้าหาแผ่นอกที่เปลือยเปล่าของเค้า และเมื่อรู้สึกตัว ความเงียบก็เข้ามาแทนที่อีกครั้ง ต้นหนาวยกแขนขึ้นใช้มือลูบปอยผมน้องสาวเบา ๆ คงไม่มีคำพูดใดที่จะอธิบายความรู้สึกของคนทั้ง 2 ได้มากกว่าการกระทำ ต้นหนาวค่อย ๆ ก้มลงจุมพิตเรียวปากบาง ๆ ช้า ๆ โดยที่เปลือกตาของปลายฝนก็ค่อย ๆ หลับลง ริมฝีปากของพี่น้องเริ่มประกบเข้าหากัน และแม้ทั้งคู่จะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน แต่ธรรมชาติภายในตัวมนุษย์ก็เริ่มสอนว่าต้องทำอย่างไร ปลายลิ้นของเด็กหนุ่มค่อย ๆ แซะผ่านริมฝีปากนุ่ม ๆ ของน้องสาว โดยที่ปลายฝนเองก็เผยอรับมันอย่างเต็มใจ เรียวลิ้นของทั้ง 2 ค่อย ๆ สัมผัสผสานกันอย่างนุ่มนวล มือขวาที่เคยจับราวบันไดค่อย ๆ ลูบไล้มายังสีข้างก่อนจะไล้ขึ้นไปยังเต้าอวบอิ่ม
“อึ่มมมม...” เสียงครางในลำคอเริ่มเผยให้ได้ยินเมื่อต้นหนาวเริ่มบีบคลึงเต้านมของน้องสาวเบา ๆ จากที่เป็นแค่เพียงในจินตนาการที่เค้าคิด ไม่นึกเลยว่าจะได้สัมผัสมันจริง ๆ ในวันนี้ ดุ้นเนื้อในกางเกงว่ายน้ำเริ่มขยายขึ้นจนรู้สึกได้ มือซ้ายอีกข้างค่อย ๆ ลดต่ำลงมาประคองเข้ากับแก้มก้นอันกลมกลึง เด็กหนุ่มขยำมันพลางดึงเข้าหาตัว
“ซี๊ดดดส์...” ต้นหนาวถึงกับต้องละริมฝีปากออกมาเล็กน้อยเพื่อปลดปล่อยเสียงครางระบายความเสียวที่ส่งผ่านมาเมื่อลำควยที่บัดนี้แข็งเป็นท่อนไม้เบียดเข้ากับท้องน้อยของน้องสาว เค้าค่อย ๆ ย่อตัวบดมันเข้ากับเนินเนื้อของเธอพร้อม ๆ กับมือซ้ายที่ดึงรั้งตัวเธอเข้าหา ปลายฝนเองก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่กำลังพยายามบดเบียดเข้ากับเนินน้องของตัวเอง
“อึ่มมมม...” ไอ้นั่นของพี่ชายกำลังเบียดเข้ากับเนินหีของเรา เด็กสาวคิดทั้งที่ยังคงหลับตาพริ้ม เต้านมของเราก็กำลังถูกพี่ต้นบีบอยู่ มันเสียวอะไรอย่างนี้ ยิ่งคิดความเงี่ยนในตัวของเธอก็เริ่มแสดงปฏิกิริยาตอบสนอง ของเหลวลื่น ๆ ค่อย ๆ แทรกผ่านในหลืบเสียวของเธอออกมา ความรู้สึกเหมือนอยากจะเอาอะไรแยงเข้าไปค่อย ๆ ประทุขึ้น มันเป็นเหมือนทุกครั้งที่เธอช่วยตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่เคยใช้สิ่งใดสอดใส่ล่วงเกินมันเข้าไปเลยแม้แต่นิ้วมือของตัวเอง แต่ครั้งนี้เธอกลับรู้สึกอยากให้สิ่งที่กำลังถูไถเนินเนื้อของเธออยู่นั้นแทรกตัวผ่านเข้าไปซักครั้ง ไวเท่าความคิด และแล้วปลายฝนก็ส่งมือข้างซ้ายหงายมือสอดผ่านระหว่างตัวเธอกับพี่ชายเข้าไปจับดุ้นเนื้อนั้นเบา ๆ ต้นหนาวสะดุ้งเล็กน้อยกับการกระทำของน้องสาว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ทุกอย่างหยุดลง มือซึ่งกุมเต้าอวบอยู่ถูกลดลงมาเพื่อจับขอบขากางเกงว่ายน้ำแล้วงัดเอาลำควยออกมาด้านข้างให้น้องสาวได้จับมันอย่างถนัด แม้น้ำในสระจะค่อนข้างเย็นแต่ความรู้สึกของดุ้นเนื้อในมือมันช่างอุ่นอย่างประหลาด ถ้ามันได้แทรกผ่านรูหีของเราเข้าไปมันจะรู้สึกยังไงนะ คิดไปมือก็เริ่มถอกลำควยพี่ชายไปอย่างลืมตัวโดยไม่รู้ว่ามันคือการกระตุ้นความเงี่ยนให้ครุโชน
“อ้า...” น้องสาวที่แสนน่ารักของเรากำลังถอกควยเราอยู่หรือเนี่ย นี่มันไม่ใช่ความฝันใช่มั๊ย ความฝันที่จะได้ร่วมรักกับน้องสาวของตัวเอง ต้นหนาวจับมือปลายฝนที่กำลังถอกท่อนเอ็นเค้าอยู่ออกแล้วจับปลายนิ้วของเธอนั้นสอดเกี่ยวเข้ากับขอบขาชุดว่ายน้ำของเธอเองแล้วรั้งมันเบา ๆ เพื่อเปิดทางสวรรค์ ซึ่งปลายฝนก็ทำตามอย่างว่าง่าย นี่พี่ชายกำลังจะเอาไอ้นั่นสอดใส่เข้ามาในตัวเราแล้วสินะ เพียงแค่คิดร่องหีก็ขมิบรับโดยไม่รู้ตัว
“ซี๊ดดดส์...” เพียงต้นหนาวจับท่อนเนื้อใช้หัวควยถูกไถกับปากทางสวรรค์เบา ๆ ปลายฝนก็อดที่จะร้องครางออกมาไม่ได้ ตอนนี้ของ ๆ พี่กำลังถูกับปากรูหีของเรา ช่างเสียวอะไรอย่างนี้ ต้นหนาวเองก็เสียวหัวควยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้จะมองไม่เห็นว่าท่อนล่างของทั้ง 2 ได้สัมผัสกันอย่างไร แต่เค้าก็จินตนาการได้ถึงภาพที่หัวควยของตัวเองกำลังจะค่อย ๆ แทรกผ่านพูหีที่ปิดสนิทของน้องสาวที่เค้ารักอย่างช้า ๆ ต้นหนาวเริ่มใช้ส่วนหัวถูไถเข้ากับปากร่องหนักหน่วงขึ้นจนรู้สึกได้ถึงน้ำลื่น ๆ ที่ไหลออกมาปะปนกับน้ำในสระจนปลายควยเริ่มแทรกผ่านแคบเนื้อที่คับแคบช้า ๆ
“ซี๊ดดดส์... พี่ต้น... ปลายเสียว” ยิ่งได้ยินเสียงครางของน้องสาว ต้นหนาวก็ยิ่งทวีความเงี่ยน เค้าค่อย ๆ แอ่นเอวไปด้านหน้าช้า ๆ หมายจะส่งท่อนเอ็นให้แทรกผ่านเข้าไปในร่องเสียวของน้องสาวจนมิดในคราวเดียวแบบนุ่มนวล แต่ทว่า…
“คุณต้นครับ... ใช่คุณต้นรึป่าวครับ” เสียงคนทำความสะอาดสระว่ายน้ำตะโกนมายังอีกฟากของสระน้ำ ทำเอาทั้ง 2 สะดุ้งแยกออกจากกัน
“ครับ ๆ ผมเอง พี่แดงมีอะไรรึป่าว” ต้นหนาวรีบตอบแก้เกี้ยว พร้อมค่อย ๆ ว่ายน้ำเข้าไปหาโดยไม่ลืมที่จะเก็บเครื่องเคราให้เข้าที่
“คุณต้นอยู่กับคุณปลายใช่มั๊ยครับ”
“เอ่อใช่ ทำไมเหรอ”
“เอ่อ... คือ... วันนี้ผมอยากจะรีบกลับบ้านไปดูลูกน่ะครับ เมียผมไปหาแม่เค้าที่ต่างจังหวัด ก็เลยขอทางสโมสรกลับก่อน เจ้านายเค้าบอกว่าคงไม่มีใครมาแล้วเพราะฝนตก แล้วถ้าไม่มีคนและทำความสะอาดเสร็จก็กลับได้ พอดีผมเห็นเป็นคุณต้นเลยอยากจะขอกลับก่อนน่ะครับ”
“อ๋อได้สิ เดี๋ยวผมบอกให้ปลายขึ้นเลยก็ได้”
“ขอบคุณมากเลยครับคุณต้น”
“ไม่เป็นไรครับ ผมก็กำลังจะขึ้นอยู่พอดี” ต้นหนาวตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทั้ง ๆ ที่รู้สึกเสียดาย แล้วค่อย ๆ พาตัวเองขึ้นจากสระว่ายน้ำไปยังโต๊ะวางสัมภาระ
“พี่ต้น พี่แดงเค้าว่ายังไงเหรอ” ปลายฝนซึ่งขึ้นมาก่อนแล้วซักพี่ชายทันที
“ป่าวหรอก พี่เค้าแค่อยากจะให้เรารีบขึ้นจากสระเพื่อทำความสะอาดน่ะ”
“แล้ว... พี่เค้าเห็นเรารึป่าว”
“เห็น...” เพียงได้ยินคำตอบปลายฝนก็ถลึงตาด้วยความตกใจ แต่ยังไม่ทันที่เด็กสาวจะได้เอ่ยอะไร พี่ชายก็พูดเสริมต่อทันที
“เห็นอะไรเหรอ” ต้นหนาวพูดยิ้ม ๆ แหย่น้องสาว
“พี่บ้า... ไม่พูดด้วยแล้ว” ปลายฝนพูดอย่างงอน ๆ พร้อมทำจมูกย่นใส่ และแล้วทั้งคู่ก็เช็ดตัวพอหมาดแล้วใส่เสื้อผ้าทับชุดว่ายน้ำ นี่เป็นกิจวัตรหลังว่ายน้ำเสร็จที่ทั้ง 2 ทำกันคือกลับไปอาบน้ำที่บ้านไม่อาบที่สระว่ายน้ำ เพราะเคยได้ยินว่ามีการแอบดูในห้องอาบน้ำ
“วันนี้พี่ขี่นะ หนูจะซ้อน”
“ได้เลยน้องสาวของพี่” ต้นหนาวตอบด้วยรอยยิ้มอย่างจริงใจ เค้ารู้สึกโล่งอกที่ได้คุยกันเป็นปกติเหมือนเมื่อก่อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น