ป้าข้างไร่ 1

 
พอผมเสียบควยเข้าไปแกครางออกมาเลยแล้วผมก็กระ
เด้าแรกๆแล้วก็เร็วๆป้าแกก็ครางออกมาแบบเสียงหลง
เลยแล้วสักพักผมก็เสร็จแตกในหีป้าแกเลยคือป้าแกหาย
ใจแรงมากคงหายใจไม่ทันแน่ๆแล้วผมกดึงควยออกมา
พร้อมกับน้ําควยพอดึงควยออกมาหีแกโบ๋เลยอเล้วป้าแก
ก็พูดว่าเสร็จแล้วใช่ไหมหนุ่มผมเลยตอบแกว่าคับแต่
ลูกชายแกยังไม่เสร็จแล้วมันก็จะเอาป้าต่อแล้วผมก็เลย
ใส่กางเกงแล้วเดินออกมาจากเต้นมานั่งเล่นแล้วสักพัก
ป้าแกก็เดินออกมาผมเลยถามป้าแกว่าลูกป้าละนอนหลับ
ไปแล้ว แล้วแกก็เดินมาคุยกับผมอีกรอบว่าอย่าบอกใคร
นะผมก็ตอบตกลงกับแกแล้วผมก็เข้านอน พอมาถึงตอน
เช้าผมกับป้าก็ทํางานรอลุงพอสักพักลุงก็ขับรถมาพร้อม
กับอุปกรณ์ แล้วลุงก็ถามผมว่าเป็นไงบ้างเมือคืนลูกชาย
ลุงมั่นงอแงไม่ผมเลยตอบไปว่าก็ไม่นะลุงแล้วแก็พูดว่าดี
เลย แล้งประมาณบ่าย2กว่าๆยุดีๆผมก็เงี่ยนขึ้นมาเพราะ
คิดเห็นเมื่อคืนผมเลยเดินไปหาป้าแล้วพูดกับป้าเบาๆว่า
ป้าผมอย่าเล่นเหมือนเมื่อคืนป่าแกหันหน้ามาหาผมทัน
แล้วแกก็บอกว่าไม่ได้จะเล่นแบบเมื่อคืนไม่ได้คือเมือคืน
ป้าตามใจลูกป้าเฉยๆ ผมเลยพูดเล่นอีกไม่ได้หรอป้าแกก็
ปฏิเสธไม่ยอมผมก็คุยกับป้ายนานจนลุงแกหันมาถามว่า
คุยอะไรกัน2คนนี้ป้าแกเลยพูดไปว่าไม่มรอะไรหรอกคุย
กันเล่นนะ แล้วผมก็พูดกับป้าต่อว่า เรืองเมื่อคืนถ้างุงรุ้จะ
เป็นไงน่า ป้าก็พูดว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับลุงนะ แล้วป้าแกก็
 พูดว่าก็ได้ตอนเย็นค่อยเอาก็แล้วกันให้ลุงหลับก่อน ผม
เลยบอกแกว่าไม่ ผมจะเอาตอนนี้ป้าแกเลยพูดขึ้นมาว่า
จะบ้าหรอผมเลยพูดว่าผมจะเอาตอนนี้ถ้าไม่ได้ผมจะเอา
เมื่อคืนไปบอกลุงแล้วปเาแกก็ถามผมว่าจะไปเอาทีไหนต
ตอนนี้ก็กลางวันแล้วลุงก็ยุ ผมเลยบอกป้าแกว่าเดียวป่า
ไปรอผมตรงที่อาบน้ําเลยเดียวผมตามไปแล้วป้าแกก็เดิน
ไปหาลุงแล้วก็บอกลุงว่าเดียวมาน่ะไปเยี้ยวก่อนแล้วป้า
แกก็เดินไปแล้วสัก5นาทีผมก็เดินไปบอกลุงเดียวผม
มานะคือผมปวดท้องหนักมาแล้วลุงก็บอกผมว่าถ้าเห็นป้า
ก็บอกป้าด้วยให้รีบกลับมาทํากับข้าวด้วย ผมก็บอกว่า
ได้ๆคับ แล้วผมก็เดินไปหาป้าแต๋วพอไปถึงป้าแปก็พูดว่า
จะทําอะไรก็รีบทําผมก็ไม่รอรอผมก็ดึงกางเกงผมลงแล้ว
ผมก็บอกให้ป้าอมควยให้ผมแต่ป้าก็ปฏิเสธผมเลยจับป่า
นังลงแล้วจับหัวมาชุกทีควยผมแล้วผมว่าป้าอมควยให้
ผมหน่อยถ้าป่าไม่รีบทําระวังผัวป้ามาเจอน่ะป้าแกก็เลย
อมควยให้ผมแกก็เอาปากลูดเข้าลูดออกควยผม แล้วสัก
พักผมก็บอกให้ป้าลุกขึ้นแล้วหันหลังมาแล้วผมก็บอกให้
แกก้มลงแล้วผมก็ดึงกางเกงแกลงคือแกใส่กางเกงวอมสี
ดําพอผมถึงกางเกงแกลงแล้วผมก็เอาควยไปจ่อทีหีแก
เลยแล้วผมก็ค่อยๆดันควยเข้าไปแต่มันก็จะฟิตๆหน่อย
น่ะป้าแกก็นึงเงียบแล้วผมก็ก็กระแทกเข้าไปแบบสุดลํา
แกก็หลงครางออกมาแล้วผมก็เร่งจังหวะเลยแกก็คราง
ตามจังหว่ะทีผมเย็ดแต่แกก็พยายามจะไม่ครางแต่ก็คราง
เหมือนเดิมเพราะควยผมใหญ่แล้วทําให้แกเสียวหี



ผมก็เยสไปสักพักผมก็แตกในหีป้าแกเหมือนเดิมแล้วผม
ก็ดึงควยออกแล้วป้าแกก็รีบใส่กางเกงแล้วเดินกลับไปที
พักแล้วผมก็เดินตามแกไปติดๆพอไปถึงลุงลุงแกก็บอก
ป้าว่าไปทํากับข้าวเย็นเลยส่วนผมก็ไปทํางานต่อคือกระ
ท้อมของเราได้ประมาณ80%แล้วเหลืออีกนิดหน่อยแล้ว
ประมาณ4โมงเย็นลุงแกก็บอกผมว่าไปอาบนําเลยก็ได้นะ
หนุ่มเดียวลุงขอดูกระท้องก่อนว่าจะทําอะไรเพิ่มพรุ่งนี้ก็
เสร็จแล้ว แล้วผมก็เดินออกมาทีแรกก็กะว่าจะไปอา
บน้ําแต่พอเห็นป้าแล้วมันอดใจไม่ไหวคือป้าจะทํากับข้าว
ทีข้างๆรถกระบะ ผมเลยเดินไปหาป้าแก แล้วป้าแกก็พูด
ว่าไม่ไปอาบนํ้าหรอผมเลยบอกว่ายังแล้วผมก็เดินอ้อมไป
ด้านหลังป้าในขณะที่ป้าแกกําลังก้มปรุงอาหารยุผมก็ดึง
กางเกงผมลงแล้วเดินไปใกล้ๆบ้าแล้วดึงกางเกงป่า
ลงแล้วจับเอวป้าแกไวข้างนึงอีกข้างนึงก็จับควยใส่หีป้า
เลยป้าแกก็สดุ้งแล้วแแก็บอกผมว่าอย่านะเดียวลุงมาเห็น
แต่ผมก็ไม่พังผมก็กระเด้าหีป้าต่อไปแล้วผมกระเด้า
แกแรงแล้วแกจะล้มแกเลยไปครัวทีเปิดประตูรถเลยแล้ว
แกก็ครางออกมาแบบเบาๆเพราะกลัวผัวแกมาเห็นทีทํา
กับข้าวไม่ไกลจากกระท้อมเลยประมาณสัก7-8เมตรเอว
แค่รถกระบะบังไว้เฉยๆคือผมทั้งตื่นเต้นแล้วเสียวควยมา
กกวลัวว่าลุงจะมาเห็นเหมือนกันผมก็กระแทกหีป้าแกไป
เรื่อยๆคือตูดขาวๆของแกเด่งดีมากทั้งนีมด้วยตูดแกเนียน
มากยิ่งดูยิงได้อารมณ์กําลังเยสป้าแกเพลินๆเลยแล้วลุง
แกก็เดินมาเกือบจะถึงหน้ารถแล้วผมหันไปเห็นก่อนผม
รีบดึงควยออกเลยแล้วผมก็ดึงกางเกงขึ้นทันทีส่วนป้าก็
รีบดึงกางเกงขึ้นเหมือนกันเกือบไม่ทันดึงกางเกงขึ้นเสร็จ
ลุงก็ก็มาถึงพอดีบอกเลยว่าตื่นเต้นสุดๆแล้วลุงก็ถามผม
ว่าไม่ไปอาบน้าหรอผมเลยพูดว่าอ่อผมมาชิมอาหารให้ป้า
คับพอดีป้าแกอยากให้รองชิมดูแล้วป้าแกก็หันมายืมแล้ว
ลุงก็พูดว่าไหนลองเอามาชิมหน่อยสิจะอร่อยแค่ไหนแล้ว
ผมก็เลยบอกว่าเดียวผมขอตัวไปอาน้าก่อนนะแล้วผมก็
เดินไปทีสระน้าผมก็ลงเล่นนําแล้วสักพักป้ากับลูกแกก็
เดินคือป้าแกใส่ผ้าถุงผืนเดียวมาเลยแล้วแกก็ลงมาอาบ
น้าส่วนลูกแกก็ลงเลยน้ากับมันบอกว่าอยากจะมาเล่นกับ
ผมแล้วป้าแกก็พูดว่าเอาตัวรอดเก่งนะเราแล้วแกก็ลงมาอ
ทบน้าที่ข้างสระแล้วผมก็ลอยไปหาแกป้าแกตกใจเพราะ
แกหันหลังให้ผมแล้วผมก้ถามแกว่าไม่ซักผ้าให้ผมแล้ว
หรอแล้วป้าแกก็บอกว่าก็เอามาให้ป้าสิเดียวป้าซักให้ผม
เลยผมเลยถอดกางเกงในให้แกซักแล้วผมก็บอกว่า
เสื้อผ้าผมอยู่ล้างบนป้าไปยิบเอาเลยไปแกก็เลยยิบ
มาแล้วแกก็นั่งซักผ้าให้ผมแต่แกนังในน้านั่งในท่ารูปตัว
เอ็มแกก็ซักผ้าขอแกไปแต่แกหันหลังให้ผมคือแกนั่งหัน
หน้าเข้าฝั่งทีทีแกนั่งซักผ้าจะเป็นคายๆหาดทางแต่มัน
เล็กๆแล้วน้าก็ยืนๆ



ยําก็ตื้นๆน้าก็จะประมาทวมหีแกพอดีแล้วจังหวะนั้นผมก็
ลอยน้ําไปหาแกแล้วผมก็เอาขาผมทั้งสองข้างไปคาบเอว
แกแล้วแกก็ถามผมจะทําอะไรอีกผมเลยบอกป้าว่าป้าลุก
ขึ้นหน่อยแล้วแกก็ลุงขึ้นแล้วผมก็บอกให้แกนั่งลงคือควย
ผมดเข็งโด่เลยตอนนั้นแล้วผมก็บอกว่าป้านังให้หน่อยสิ
ป้าแกก็เลยนั่งควยผมก็มุดเข้าหีแกพอผมก็นั่งแบบนัน
ส่วนป้าแกก็นั่งซักผ้าไปในขณะที่ป้าซักผ้าแกก็ขยับไป
มาแล้วหีก็ขึ้นลงๆทําให้แบบเสียวควยไปในตัวกําลัง
เพลินเลยลุงแกกําลังเดินมาเพราะป้าแกเห็นป้าแกก็บอก
ว่าให้ออกไปก่อนผมก็ไม่ออกป้าแกเลยลุกขึ้นแต่ผมก็ไม่
ออกควยผมก็ชี้โด่แบบนั้นลุงก็จะเดินมาถึงแล้วป้าแกเลย
ตัดสินใบนั่งลงแต่คราวนี้ไปแกนั่งตักผมเลยเพราะผมใน
ในท่าขัดสมาดแต่ควยไม่ได้เข้าหีนะคือควยผมถูกับร่อง
ตูดแกพอดีแล้วลุงก็ลงมาอาบน้าลุงก็ถามผมเย็นดีไหม
หนุ่มผมเลยตอบไปว่าเย็นสบายมากลุงคือลุงไม่รู้นะว่าป้า
นั่งทับผมยุคือผมอยู่ในท่านอนแล้วน้ามันท่วมตัวผมเหลือ
แต่ช่วงคอขึ้นไปลุงคงคิดว่าผมยืนส่วนที่ป้านั่งลงก็มีน้า
แล้วป้าแกเอาถุงคุมขาผมไว้คือทั้งตื่นเต้นและทั้งเสียว
แล้วจังหวะที่ลุงแกหันหลังให้ผมผมก็บอกป้าเอาควยใส่
หีแต่แกก็ไม่ทําจนลุงแกอาบเสร็จผมก็คิดว่าป้าจะนั่งควย
ให้ผมป้ากับลุกขึ้นแล้วเดินตามลุงแกไป พอหลังจากอาบ
น้าเสร็จ เราก็มากินข้าวแล้วลุงก็บอกว่าวันนี้ลุงจะนอนบน
กระท้อมถึงมันจะไม่เสร็บสมบูรณ์แต่ก็พอนอนได้เพราะ
มันน่าจะนอนสบายกว่าเต้นผมเลยคิดว่าป้าต้องนอนกับ
ผมแน่ๆป้าเลยพูดกับลุงว่าเดียวแม่นอนด้วยคนผมนี้หมด
หวังเลย แล้วหลังจากนั้นประมาณ2ทุ่มเราก็นอนส่วนผม
นอนในเต้น ผมก็นอนไม่หลับคิดอยู่อย่างเดียวว่าจะทํายัง
ไงดีให้ได้เยสป้าประมาณ5ทุ่มทุกคนก็นอนหลับหมดแต่
ผมยังไม่หลับแล้วผมก็เลยลุกออกจากเต้นแล้วไปที่กระ
ท้อมผมก็ไปปลุกป้าว่าป้าๆๆป้าแกก็สดุงขึ้นมาแล้วป้าแกก็
ถามผมว่ามาทํามัยผมเลยตอบป้าแกไปว่าผมอยากเอาป้า
แล้วผมก็ขึ้นค่อมป้าเลยป้าเลยบอกว่าตรงนี้ไม่ได้ไปที่อื่น
แล้วผมก็ลงจากกระท้อมแล้วป้าแกก็มาตามผมแล้วป้าก็
บอกไปทีอืนผมเลยถามว่าไปทีไหนป้าแกเลยว่าไปทีข้าง
ต้นไม้ข้างสระนั้นแล้วป้าแกก็เดินนําหน้าไปส่วนผมก็เดิน
ตามแกไปพอไปถึงผมก็บอกให้ป้าถอดผ้าถุงออกคือวัน
นั่นเป็นเดือนหงายมันก็จะสว่างหน่อย ป้าแกก็ถอดออ
กอแล้วนอนลงผมก็ไม่รอช้าถอดกางเกงออกทันทีแล้วผม
ก็ก้มลงไปทีหีป้าแกแล้วผมก็ลงลิ้นเลียหีป้าแกเงยทันทีป้า
แกก็ครางออกมาผมก็เลียแล้วผมเอานิ้วแย่หีแกไปด้วย
แยาไป2นิ้วยังรู้สึกว่าหลวมผมเลยเอา3นิ้วแย่เข้าไปเลย
ป้าแกก็ครางออกมาพร้อมกับจับหัวผมพอเลียไปสักพัก
ผมก็ขยับขาแกออกแล้วผมก็ขึาค่อมแกแล้วจับควยยัดใส่
หีแกแล้วผมก็กระเด้าหีแกแบบแรงๆพร้อมกับดูดนมไป
ด้วยแกนี้ครางไม่หยุดเลย



แกนี้ครางไม่หยุดแล้วสักพักผมก็จับแกเปลี่ยนท่าเป็น
ท่านอาตะแคงผมก็เยสป้าแกไปเรื่อยๆตูดแกนีมมากแล้ว
จบท้ายด้วยท่าหมาผมก็เยสแกไปสัก30นาทีผมก็เสร็จ
ไป2น้าส่วนป้าแกก็หลายน้ายุแล้วเราก็กลับมานอนพอมา
ตอนเช้าเราก็ทํางานไปสักพักกระท้อมก็เสร็จสมบูรณ์แล้
วงุงกับป้าแกเก็บข้างของเตรียมกลับบ้านแล้วจะกลับมา
ใหม่ผมนี้ไม่อยากให้ป้าแต๋วกลับประมาณเที่ยงวันพากัน
กินข้าวเสร็จป้ากับลุงก็ออกเดินทางกลับบ้านพร้อมให้ค่า
แรงผมแล้วป้าแต๋วก็เดินมาคุยกับผมว่าเดียวป้าจะมาใหม่
นะอีกไม่นานแล้วแกก็ยืมๆแล้วแกก็ขึ้นรถออกไปส่วนผม
ก็มองไปทางไหนก็คิดถแต่ป้าแกแล้วผมก็เดินมาทีไร่ของ
ผมก็มาเจอป้านิดป้าแท้ๆของผมนิแหละแล้วแกก็ถามว่า
ได้กี่บาทผมเลยบอกว่า1500คับป้าแกเลยพูดว่าได้เยอะ
จังผมก็เลยคุยต่อว่าผมฝีมือดีป้าแล้วป้าแกก็หัวเราะแล้ว
ผมมองป่านิดมองไปมองมาก็เหมือนป้าแต๋วเหมือนหุ่น
ทรงก็เหมือนกันเลยแล้วทําให้ผมคิดเลยแล้วป้าแกก็ไป
นังในร่องมันแล้วแกก็นั่งถางหญ้าไปผมก็นั่งคิดจะทํายังดี
นะจะได้เยสป้าแท้ๆแล้วผมก็คิดออกผมเดินออกมาจาก
ป้าแกไปเอายิบจอบแล้วผมก็ดึงเป้ากางเกงให้ขาดเลย
แล้วผมก็ถอดกางเกงในผมออกคือกางเกงผมขาดต่งเป้า
แล้วทีนี้ผมก็เดินไปหาป้าผมแล้วผมก็นั่งถางหญ้าข้าง
หลังแกแล้วสักพักป้าผมก็หันมาทีผมแล้วแอบมองไปที
เป้ากางเกงผมคือเหลือแต่ควสเพราะผมดึงขาดหมด
แล้วแต่ป้าแกก็ไม่ว่าอะไรพอสักพักควยผมก็เริ่มแข็งขึ้นๆ
จนมันชี้หน้าผมคทอป้าผมเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูด แกก็
นั่งดูควยผมไปแล้วผมก็ถามป่าผมว่าตอนเย็นกินเหล้า
ไหมเดียวผมเลี้ยงป้าผมก็บอกว่าป้าไม่กินหลอกแต่อย่าง
อืนป้ากินผมก็เลยถามป้าว่ากินอะไรป๋าก็เลยบอกว่าไป
กินเนื้อย่างดีกว่าผมก็เลยตอบว่าได้เดียวผมเลี้ยง พอ
ตอนเย็นเราก็นั่งกินเนื้อย่างกันตากับยายก็มานั่งกินด้วย
พอตากับยายกินเสร็จแกก็ขึ้นไปนอนเหลือผมกับป้า2คน
คือตอนกิากับตากับยายแกก็นั่งเรียบร้อยพอตากับยาย
ไปแกนั่งสันเค่าแล้วก็อ่าขาออกแบบตรงหีแกนูนดีมาก
แล้วกางเกงขามันกว้างแล้วทําให้ผมเห็นกางเกงในแกผม
นี้ควยแข็งเลยพอกินเสร็จประมาณสัก3ทุ่มป้าผมแกเดิน
มาหาผมแล้วแกก็บอกว่านวดหลังให้ป้าหน่อยสิ




ผมก็บอกว่าต้องมีค่าจ้างน่ะถ้าไม่ได้ค่าจ้างผมไม่ทําป้าแก
ก็ตอบว่าได้เลยแล้วป้าแกก็ไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนแท้
ชุดสีม่วงแบบเป็นผ้ามันผมเห็นแค่ชุดผมก็ควยแข็งแล้ว
แล้วป้าก็เดินเข้าไปในห้องแล้วแกก็บอกให้ผมตามไปแล้ว
แกก็นอนลงทีนอนแบบคว่ําหน้าแล้วแกก็บอกว่านวดให้
หลังให้ป้าหน่อยผมก็เริ่มนวดทีหลังแกแบบเบาๆแล้วสัก
พักผมก็ขึ้นค่อมหลังแกแล้วผมก็นวดไปทีเอวของแกแล้ว
ค่อยๆขยับลงมานวดที่ตูดผมก็กลัวแกจะว่าแต่แกก็นอน
นึงผมก็นวดไปทั่วตูดแกก็ไม่ว่าอะไรผมเลยนอนทับ
แกแล้วเอาควยถูร่องตูดแกแต่ป้าผมแกก็นอนนึงผมได้ใจ
ผมก็ถอดกางเกงออกเลยแล้วจับควยถูร่องตูดแกเลย
แล้วผมก็ค่อยๆดึงกางเกงในแกออกแก่ก็ไม่ว่าผมเลย
แปลกใจว่าทํามั่ยนึงจังผมเลยไปมองหน้าแกคือแกหลับ
ผมเลยมาถอดกางเกงในแกเลยจนเห็นหีหีป้าผมดําๆ
ขาวๆหมอยดกดําเพราะคนทํางานจะไม่ค่อยมีเวลากน่
หมอยผมก็จับขาป้าผมอ่าออกเลยแล้วผมก็ก้มลงไปเลีย
หีป้าผมทันทีหีแกหอมพร้อมกับหมอยขึ้นเต็มไปหมด
ดูแล้วมีอารมณ์มากผมเลียหีป้าผมไปสักพักผมก็ขึ้นค่อม
แกแล้วจับควยไปถูร่องหีแกถูขึ้นถูงงตูดแกออกหยอนๆ
นิดนึงแต่นี่มูแล้วผมก็เอาควยไปจ่อทีหีป้าแกแล้วค่อยๆ
ดันควยเข้าไปหีแกฟิตมากเพราะผัวแกเสียไปนานแล้ว
เข้าไปได้แค่ครึ่งควยป้าแกก็ตื่นแล้วป้าแกก็ถามผมว่าจะ
ทําอะไรผมก็ไม่ตอบผมเลยกระแทกควยเข้าไปเลยทันที
ป้าผมครางออกมาพร้อมกับบอกว่าอย่านะๆแต่พูดเบาๆ
กว่าตากับยายได้ยินแต่ผมก็ไม่ออกผมก็กระแทกแรงๆดัง
ตับๆๆๆๆแกก็ครางออกมาแล้วสักพักแกก็กระตุกๆคือแก
เสร็จแล้วคือตอนนี้ควยผมลืนมากเพราะน้ําแกออกแล้ว
ผมก็เย็ดแกไปแกก็ครางตามจังหวะผมแต่ตอนนี้แกไม่ขัด
ขืนแล้วแล้วสักพักผมก็จับแกโก่งตูดขึ้นแล้วเย็ดต่อคือตูด
แกกระเพื่อมไปหมดแล้วนมแกก็เด่งแต่นมแกเร่มหยอน
แล้วแต่นมแกใหญ่ขาวด้วยน่าดูมาก
ผมก็เยสป้าแกไปสักพักผมก็เสร็จในท่าหมาพร้อมกับ
แตกในหีป้าแกพอดึงควยออกมาหีแกแดงไปหมดพร้อม
กับน้ําควยเต็มรูหี
แล้วป่าผมก็พูดว่าเอาต่อหน่อยผมก็จัดต่อเลยคือคืนนั้น
จัดไปหลายน้าเลยหลังจากนั้นผมกับป้าก็เยสกันทุก
วัน....

ป้าข้างไร่

 

สวัสดีคับผมชื่อปาย อายุ18ปี ผมอาศัยอยู่กับตากับยาย และป้า
ป้าผมชื่อว่านิด อายุ48ปี สูง165 หนัก64 แกเลี้ยง
ผมมาตั้งแต่เด็กๆส่วนป้าผมมีผัวแต่ผัวแกเสียแล้วส่วนแม่
กับพ่อผมไปทํางานทีต่างประเทศ คือวันน้นผมก็ไปทําไร่
กับป้านิดเหมือนทุกวันแล้วมีป้าคนนึงซือทําไร่ยุข้างๆไร่
ผมนิแหละแต่แกเป็นคนต่างหมู่บ้านแกก็เดินมาถามป้าผม
ว่า ว่าจะขอหื้อรั้วไร่ผมออกเพราะแกจะเอารถมาในไร่น
แกจะมาทํากระท้อมในไร่ของแกเพราะทางของแก
รถ6ล้อไปไม่ได้เลยจะขอมาทางไร่ผม ก็คุยกันประมาณ
นี้ แล้วป่าผมก็ตอบตกลงส่วนป้าแกก็เตรียมทางให้รถ
เข้าไป
พอวันต่อมาป้าแกก็เดินมาหาป้าผมอีกเหมือนเดิมแล้วแก
ก็ถามว่าทีหมู่บ้านนี้พอจะมีคนงานไหม จะขอแรงมาช่วย
ทํากระท้อมสัก2-3วัน ป้าผมเลยตอบไปว่าแถวนี้ก็หายาก
เหมือนกัน ป้าแกก็เริ่มผมว่างั้นก็ให้ไอ้หนุ่มนี้ไปช่วยได้ ไหม
ป้าผมก็เลยพูดว่าแล้วแต่มันเลยถามกันเอาเลย ป้า แกก็มาคุยกับผม
ว่าไปช่วยป้าหน่อยน่ะหนุ่มผมก็ตอบ ตกลงกับแกแล้วผมก็ถามแกกลับ
ว่าจะให้ทําวันไหนแก เลยบอกว่าตอนนี้เลยเพราะอุปกรณ์ครบหมดแล้วเหลือ
แต่คนงาน แล้วป้าแกก็เดินนําหน้าไปในระหว่างเดินไป ผมก็ถามชื่อแกว่า
ป๋าชื่ออะไรป้าแกก็บอกว่าป๋าชื่อแต๋ว อายุ43ปี สูง167 หนัก60
เป็นหนุ่อวบๆนิดแต่ก็ถืวอว่าหุ่น ดีมากสําหรับผม สักพักผมก็เดินไปถึงตรงที่จะทํากระท้อ
ม มีป้ากับผัวแกและลูกชายแก ลูกชายแกอายุ14ปีแต่
เป็นคนไม่ค่อยเต็มเท่าไหร่เพราะมีลูกตอนอายุเยอะ แล้วแต่มีลูก2คน
คนนึงเรียนยุบี3แล้ว แล้วผมก็ลงมือทํา ช่วยกันทําจนถึง5โมงเย็น
ลุงแกก็บอกว่าวันนี้พอแค่นี้ ก่อนวันหลังค่อยเริ่มกันใหม่ แล้วผมก็ถามลุงแกว่าลุงจะ
กลับบ้านตอนนี้หรอคับลุงแกเลยตอบว่าป่าวหรอก

ปาวหรอกบ้านลงยุไกลกว่าจะไปจะมาก็สิ้นเมืองค่าน้ามัน
ผมเลยลุงว่าแล้วลุงจะนอนไหนลุงแกเลยบอกว่านอนทีนี้
แหละ ผมเลยถามแกต่อว่าแล้วจะกินยุยังไงแล้วแกก็ตอบ
ลุงเตรียมของมาครบแล้วทั้งของกินหรือทีนอนเวลาอาบ
น้ําก็อาบน้าสระเลยคือทีไรของลุงมีทั้งสระน้ําต้นไม้ล้อม
รอบน่ายุมาก แล้วป้าก็พูดกับผมว่ายุกินข้าวเย็นก่อนน่ะ
หนุ่มแล้วค่อยกับผมเลยตอบแกไปว่าผมมากลับบ้าน
เดียวป้าจะรอผมป้าแต๋วแกก็บอกว่าเดียวไปคุยกับป้าให้
แล้วลุงแกก็พูดขึ้นมาว่าหนุ่มก็นอนเป็นเพื่อนลุงหน่อยลุง
มาไกลลุงก็กลัวๆเหมือนกันเดียวลุงให้คาแรงเพิ่มแล้วป่า
แกก็เห็นเดียวผมก็นั่งคิดสักพักผมเลยตอบตกลงกับแก
ไปแต่ผมจะกลับไปอาบน้าแล้วค่อยมาใหม่แล้วป้าแต๋วก็
พูดว่าอาบทีนี้ก็ได้เรื่องเสื้อผ้าเดียวป้าซักให้ ผมก็เลยคิด
แต่ถ้าผมจะกลับกับป๋ากว่าจะไปกว่าจะมามันก็จะมืด
เพราะทีไร่ของผมกับป้าแกก็ไกลจากหมู่บ้านพอสมควร
และที่สําคัญคือทางไม่ค่อยดีไปมาลําบาก ผมเลยตอบ
ตกลงป้าแกแล้วผมก็โทรไปหาป้าผมให้กลับบ้านไปก่อน
เลยว่าผมจะนอนเป็นเพื่อนลุงป้าผมก็ตกลง ประมาณ17.
34น. ป้าก็คุยกับผมว่าไปอาบน้าดีกว่าหนุ่มกับมาจะได้มา
กินข้าวผมก็เลยถามลุงลุงไม่ไปอาบน้ําาหรอลุงบอกว่าอาบ
ก่อนเลยเดียวลุงทํากับข้าวรอ ทีแรกผมก็ว่าจะไปอาบ
พร้อมลุงแต่ป้าแกบอกว่าไปอาบตอนนี้แหละจะได้ซัก
เสื้อผ้าให้ ผมก็เลยเดินไปกับป้าและลูกชายป่า เดินมา
ประมาณ20เมตรห่างจากที่พักแต่ต้นไม่ก็เยอะไปหน่อย
ม่องกลับไปที่พักไม่เห็นลุงเลย พอไปถึงป้าแกก็สวมผ้าถุง
แล้วก็ถอดเสื้อออกทีละชิ้นจนถอดเสื้อในออกเสือในป่า
แกสีชมพูลายลูกไม้ด้วยผมก็แอบม่องๆป้าแกยุแล้วแกก็
ถอดกางเกงขายาวแกออกทีแรกผมก็นึกว่าจะถอดแค่นี้
แต่แกก็ถอดกางเกงในออกมาด้วยลายลูกไม้สีชมพู
เหมือนกันคือตอนนี้ผมเริ่มคิดกับป้าแกแล้วแล้วป้าแกก็
หันมาคุยกับผมว่าทํามัยไม่ลงไปอาบกับลูกป้าละผมเลย
ตอบว่าคับแล้วป้าแกก็พูดว่าลงไปเล่นกับน้องหน่อยน้เป็น
คนไม่ค่อยเต็มไม่ค่อยมีเพื่อนกับผมเลยถามแกว่าแล้ว
เสื้อผ้าละคับจะซักตอนไหนแล้วป้าแกก็พูดว่าถอดมาให้
ป้าเลยผมก็ถอดออกจนเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว



แล้วผมก็ลงไปเล่นน้ากับลูกแกส่วนป้าแกก็ลงอาบข้าง
สระแต่ผมก็แอบมองป้าแกอยู่ตลอดพอป้าแกอาบเสร็จ
แกขึ้นจากน้ําแล้วผ้าถุงเปียกน้ําแล้วบางๆเดียวทําให้เห็น
นมแกแบบชัดๆเลยนมแกใหญ่มากหัวนมก็ใหญ่แล้วผมก็
มองลงไปทีเนินของแกเห็นหมอยแกเลยผมนี้ควยแข็ง
เลยเนินหีของแกก็นูนดีมากแล้วแกก็หันหลังให้ผมตูดแก
ยิ่งน่าเยสเลยจนผมต้องเอามือไปสาวควยในน้าพอแกขึ้น
มาแกยังไมเช็ดตัวน่ะแกนั่งซักผ้าต่อเลยผมก็เล่นน้ากับ
ลูกแกแล้วแอบมองแกแล้วสาวควยไปด้วยจนผมกลั้นไม่
ไหวแต่ในน้าเลยแล้วสักพักป้าแกก็ลุกขึ้นเช็ดตัวแล้วก็ใส่
ผ้าถุงอีกตัวแล้วแกก็บอกว่าไปกินข้าวกันดีกว่าผมเลย
ถามป่าว่าแล้วมีเสื้อผ้าให้ผมไหม่ป้าแกเลยพูดว่าเดียวป้า
ไปดูทีรถให้เดินตามมาเลยผมกับลูกชายแกก็ขึ้นจา
กน้าแล้วก็เดินตามแกไปพอไปถึงรถป้าแกก็ไปหาเสือหา
ให้ผมแต่ก็ไม่มีเพราะลงแกเตรียมมาแค่นั้นส่วนของลง
แกผมก็ใส่ไม่ได้ลุงแกก็เลยพูดว่าเอาผ้าขนหนูนุ่งไปก่อน
ได้ไหมหนุ่มผมก็ต่อยไปว่าได้คับเพราะผมก็ไม่ได้ไปไหน
แล้วป้าแกก็เอาผ้าไปตากผมก็เอาผ้าเช็ดตัวนุ่งแล้วถอด
กางเกงในไปตากคทอผมไม่มีอะไรเลยมีแต่ผ้าเช็ดตัวผืน
เดียว แตาก็ไม่เป็นไรยุกันแค่4คนเองแล้วก็ยุกลางไร่ด้วย
ไม่มีใครมาหรอกหลักจากนั้นเราก็นั่งกินข้าวเสร็จแล้วผม
ก็ถามว่าไหนทีนอนละคับเราจะนอนกันตรงไหนป่าแก
เลยพูดว่านอนใจเต้นเพราะเป้าเตรียมเต้นมาผมก็ถามแก
ต่อมีกี่อันป้าแกก็บอกว่า2อันผมคิดว่าผมได้นอนกับลูก
แกแน่ๆหลังจากนั้นเราก็กางเต้นเตรียมตัวนอนลุงแกก็
บอกว่าวันนี้นอนกับพี่เขานะแต่ลูกแกก็ไม่ยอมแล้วลุงก็
บอกว่านอนกับแม่แต่ลูกชายแกก็ไม่ยอมอีกแล้วลูกแกก็
พูดว่างั้นเราก็นอนกัน3คนให้พี่เขานอนคนเดียวแต่
ลูกชายก็ไม่ยอบูอีกูบอกว่าจะนอนกับพอแค่2คนแต่ป้า
แต๋วแกก็บอกว่าไม่ได้เรานอนด้วยกัน3คนแหละแต่ก็ไม่
ยอมพ่อก็บอกว่าเรานอนด้วยกัน3คนแหละลูกแกก็ไม่ยอ
มอีกแล้วลูกแกร้องไห้ว่าจะนอนกับพอ2คนแต่ลูกกับป้า
ตามใจลูกแกมากงฺกแกเลยบอกว่างั้นแม่ก็นอนกับไอ้หนุ่
มก็แล้วกั้นป้าแกก็พูดเอาแบบนั้นก็ได้ ประมาณ2ทุ่มก็เริ่ม
กันเข้านอน ลุงกับลุกชายแกก็เข้าไปนอนแล้วป้าก็บอกว่า
งั้นเราก็เขานอนกันดีกว่าแล้วแกเข้าไปนอนในเต้นคือแก
ใส่ผ้าถุงกับเสื้อยืดส่วนผมก็มีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว แล้ว
ผมก็เข้าไปนอนข้างๆป้าแกป้าแกก็บอกว่าผ้าห่มมีผืน
เดียวนะเราแบ่งกันห่มแล้วแกก็นอนหันหลังให้ผม



แล้วแกก็นอนหันหลังให้ผมผมก็นอนห่มผ้าผืนเดียวกันกับ
แกพอสักพักผมได้ยินเสียงป้าหายใจสม่ําเสมอผมคิดว่า
แกต้องนอนหลับสนิดแล้วผมคิดเห็นตอนแกอาบน้ําแล้ว
ควยผมก็แข็งขึ้นมาผมอยากจะเยสป้าแกขึ้นมาทันทีเลย
ผมเลยค่อยๆเข้าไปกอดบ้าแกแต่แกก็นอนนึงผมเลย
ถึงผ้าเช็ดตัวออกควยผมนี้แข็งโด่เลยผมก็ค่อยๆไปถูตูด
แกคือผมเสียวมากผมทําอยู่สักพักผมเลยตัดสินใจดึง
ผ้าถุงแกขึ้นแต่แกก็นอนนึงผมเลยเอาควยผมไปถูร่องตูด
แกเสียวควยสุดๆแล้วสักพักผมก็ค่อยขยับควยไปทีหีหีป้า
แกหมอยขึ้นตามแคมเต็มไปหมดปายควยผมไปโดนหีแก
กับหมอยแกผมแทบจะน้ําแตกและแล้วน้าผมก็แตกจริงๆ
แตกเต็มหีป้าแต๋วเลยแต่ป้าแต๋วแกก็นอนนึงอยู่เหมือน
เดิมแต่ผมก็ยังเอาควยถูหีป้าแกอยู่เพราะผมเงี่ยนมากผม
ก็เอาควยถูตามร่องหีแกจนเปียกไปหมดผมเลยตัดสินใจ
ลองเอาควยดันเข้าหีดูแต่มันลื่นมากแล้วควยผมก็มุดเข้า
หีแกไปแต่ควยผมไม่ใหญ่แค่49เองแต่ก็ยาวพอได้พอหัว
ควยมุดเข้าไปให้หีป้าแกแล้วผมก็ค่อยๆขยับเอวไป
มาแบบช้าๆป้าแกก็เริ่มขยับตัวผมก็หยุดนึงแล้วสักพักแก
ก็นึงไปแล้วผมก็ขยับเอวต่อหีป้าแกก็ไม่ค่อยฟิตเท่าไหร่
บวกกับน้าว่าวยิงลืนๆหลวมๆเลยทําให้ป้าแกไม่ค่อยรู้สึก
แล้วผมก็เร่งจังหวะขึ้นไปเรื่อยๆจนผมเสร็จแตกในหีป้า
แกเลยแล้วผมก็ค่อยๆดึงควยออกมาแล้วผมก็เลยเอามือ
ไปจับทีหีป้าแกน้าควยเต็มหีป้าแกไปหมดจากทีเงียนก็
เริ่มกลัวแล้วผมเลยเอาผ้าเช็ดตัวเช็ดออกให้แกแล้วผมก็
ถึงผ้าถุงลงคืนแล้วผมก็นอน พอมาตอนเช้าผมตื่นขึ้นมา
ผมก็ไม่เห็นป้ายุในเต้นแล้วแล้วผมก็ออกมาแล้วไปใส่
เสื้อผ้าทีป้าแต๋วซักไว้ให้ผมแล้วป้าแกก็เดินมาหาผมแล้
วก็ชวนผมไปกินข้าวแสดงว่าผมลักหลับป้าแกแกคงไม่
รุ้แน่ๆผมเลยสบายใจเลย พอกินข้าวเสร็จพวกเราก็
ทํางานต่อจนังประมาณบ่าย2แล้วลุงก็บอกว่าลุงแกจะ
ต้องเข้าไปซื้อของเพราะของที่เตรียมมาไม่พอแล้วลุงแก
ก็บอกผมว่าพาดูแลด้วยหนุ่มเดียวลุงมาผมก็ถามแกว่ามา
ประมาณกีโมง แกเลยบอกว่าประมา5-6โมงเย็นนู้นแหละ แล้วแกก็ขับรถออกไป



แล้วป้าแต๋วแกก็เดินมาบอกผมว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อนเดียว
พรุ่งนี้ค่อยลุยต่อแล้วแกก็เดินไปหาลงแกในเต้นผมก็นั่ง
เล่นไปแล้วยๆผมก็ได้ยินเสียงเบาๆว่า จะทําแบบนี้กับแม่
ไม่ได้แล้วลูกแกก็ร้องไห้ขึ้นมาแล้วแกก็บอกว่าแม่ยอมก็
ได้แล้วป้าแกก็ตะโกนออกมาว่า หนุ่มไปอาบน้ําก่อนก็ได้
นะเดียวไปเล่นกับลูกป้าก่อน ผมก็เลยตอบไปว่าคับป๋า
แล้วป้าแกก็ลูดซิบเต้นแล้วเต็นก็เริ่มสั่นผมก็ส่งสัยผมก็
เลยค่อยๆแอบเกินไปดูเต้นมันจะมีชองรับแสงแต่ป้าแก
คงลืมลูดมังภาพที่ผมเห็นคือลูกแกกําลังขึ้นค่อมแกกําลัง
เย็ดแกยุแกก็หันหน้าหนีจากลูกแกนอนนึงแล้วสักพัก
ลูกชายแกก็ลุกขึ้นดึงควยออกจากหีหีป้าแกน้าควย
ลูกชายแกเต็มไปหมดผมเห็นแล้วผมเงี่ยนควยมาแต่ก็
สงสารป่าแกเพราะลูกป้าเป็นคนไม่ค่อยเต็มบัวคับแต่แก
แต่ป้าแกก็ยอมทุกอย่างเพื่อลูก หลังจากน้นป้าแกก็ใส่
เสื้อผ้าผมเลยรีบเดินออกไปผมเห็ภาพนันแล้วผมอดใบ
ไม่ไหวผมเลยไปชัวว้าวเอาน้าออก แล้วสักพักผมก็เดิน
กับมาที่พักป้าแกกับลูกชายแกยังไม่ออกจากเต้นเลยผม
กะว่าจะไปเรียกป้าแกเลยให้แกตกใจไปเลยเพราะผมก็
อยากเย็ดป้าแกเหมือนแต่ว่าควยผมมันเล็กกว่าว่าป้าแก
จะไม่เสียวเพราะควยลูกชายป้าแค่14ควยย49เลย เอา
ไปเอามาผมไม่ไปดีกว่าไปหาวิธีทําให้ควยใหญ่ดีกว่าเอา
ให้หลงไปเลย ผมก็กลับมาทีไร่ผมพอดีป้าผมมาไร่พอดี
ผมเลยขับรถกลับบ้านเลยแต่ป้าแต๋วไม่รุ้นะว่าผมกลับ
บ้านพอผมมมถึงบ้านผมไปซื้อน้ํามันมะกอกะเข็มเลยแล้ว
ผมก็เอามาฉีดเองผมก็รู้วิธีฉีดเพราะดูจากเน็ตพอฉีดเสร็จ
ผมก็กลับไปทีไร่ป้าแต๋วเลยพอไปถึงผมเริ่มแสบควยผม
มากแทบจะอยู่ไม่ได้ผมเลยรีบลงไปน้าเลยเพราะมัน
แสบและร้อนมาก พอสักพักผมก็เดินกลับมาที่พักแล้วป้า
แต๋วแกออกจากเต้นมาพอดีแล้วแกก็ถามผมว่าพึงอาบน้ํา
เสร็จหรอผมเลยตอบไปว่าใช่คับป้าแล้วป้าแก็คุยกับผม
ต่อว่าป้าก็จะไปอาบพอดีแล้วผมเลยถามป้าแกต่อ ว่าแล้ว
ลูกป้าป้าแกเลยว่าน้องหลับแล้วอ่อ พอประมาณ6โมงเย็น
ลุงแกโทรมาบอกว่ารถเสียวันนี้อาจจะไม่ได้ไปนะอยู่กัน
ได้ใช่ไหม ป้าเลยตอบว่าได้แล้วลุงแกก็บอกว่าคืนนี้แม่ก็
นอนกับลูกนะเดียวตอนเช้าพอจะรีบไป หลังจากนั้นเราก็
กินข้าว



กินข้าวเสร็จก็เตรียมตัวนอนแล้วป้าแต๋วแกก็บอกว่าวันนี้
ป้านอนกับน้องนะต้องดูแลน้องแล้วป้าแกก็เข้าไปนอนใน
เต้นกับลูกแกแล้วสักพักในเต้นก็เปิดไฟแล้วผมมองไป
เห็นป้าแกกําลังถอกเสื้อผ้าออกแล้วลุกแกก็ขึ้นค่อมป้าแก
เหมือนเดิมผมเลยเดินเข้าไปหาป้าแกในเต้นเลยทันทีป้า
แกตกใจมากแล้วลูกชายแกก็หันมาแล้วลูกชายก็พูดว่าพี
มาเล่นด้วยกันผมเลยถามป้าแกว่านี่คืออะไรป่าแต่ตอน
น้นป้าแกก็ถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้วกําลังโดนลูกชาย
แกยึดยุ แล้วป้าแกก็ตอบว่าป้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลูกป้า
เป็นอะไร2-3มีนี้บังคับป้าแล้วทําป่าแบบทีเห็นแล้วแกก็
น้าตาไหลออกมาแล้วแกก็บอกผมว่าอย่าไปบอกลุงเลย
นะป้าขอร้องถือซะว่าสงสารน้องป้าไม่อยากมีปัญหาแค่นี้
ก็เกินพอแล้ว ตอนนั้นผมก็ดูป้ากําลังถูกลูกชายเยสยุแต่
คุยผมก็แข็งมากตอนนันอยากจะเยสบ้าแกเหมือ
นกันแล้วสักพักลูกชายแกก็เสร็จแล้วมันก็หันมาหา
ผมแล้วมันก็พูดว่ามาเลยด้ยวกันป้าแกเลยบอกว่าพี่เขา
เล่นไม่ได้เล่นไก้แต่ลูกคนเดียวแล้วลูกชายก็พูดว่าไม่เอา
ผมอยากมีเพื่อนเล่นด้วยป้าแกก็ไม่ยอมลูกชายแกเลย
ร้องไห้ขึ้นมาแล้วแกก็ทําร้ายตัวเองป้าแกก็สงสาลูกป้าแก
ก็ร้องไห้ แล้วป้าแกก็พูดว่าเดียวให้พีเข้าเล่นด้วยก็ได้แล้ว
ป้าแกก็พูดว่าอย่าทําป้าแรงเด้อแล้วแกก็หันหน้าไปมอง
ด้านข้างแต่ผมก็นึงยุแล้วลูกชายแกก็พูดว่าพีเล่นกับผม
หน่อยคับแล้วก็จะร้องไห้แล้วป้าแกก็พูดกับผมว่าอย่า
บอกผัวป้าก็แล้วกันผมก็ไม่รอช้าผมก็เข้าไปใกล้ๆแล้วนั่ง
ลงจับขาป่าอ้าออกหีป้าแกยังมีน้าควยลูกยุเลยผมเลย
ถอดกางเกงออกผมมองดูควยผมมันใหญ่ขึ้นมามาก
ประมาณ56ได้แล้วผมก็เอาควยไปจ่อทีหีป้าแกแล้วผมก็
ค่อยๆดันควยเข้าไปป้าแกก็หลงครางออกมาเบาๆคือตอน
นี้หีแกฟิตมากแล้วผมก็กระแทกเข้าไปเลยป้าแกร้องออก
มาอ่า. . . . . แล้วแกก็พูดว่าทําเบาๆหน่อยป้าเจ็บผมเลย
ทําแกเบาๆแต่ควยผมมันพีตรูหีแกมากแก็ครางออกมา
เหมือนเดิมผมก็เร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆจนป้าแกครางออ
กมาแต่แกก็พยายามจะไม่ครางกลัวว่าเต็มใจแล้วก็ต่อ
หน้าลูกแต่ผมก็กระแทงแรงๆเพื่อจะให้แกครางแกกล้น
ไม่ไหวผมนิยิงชอบแล้วผมเน้นกระแทกอย่างเดียวแกก็
คราง อ่า. . . อ่า. . . อ่า ตามจังหวะทีผมเยสแกแล้วผมมอง
ไปดูควยลูกชายแกควยแข็งเลยแล้วผมเย็ดไปสีกพักผม
ก็ดึงควยออกแล้วบอกน้องว่าตาน้องแล้วแล้วลูกชายแกก็
 ขึ้นค่อมเยสป้าแกทันทีคือป้าแกไม่ครางเลยสักนิด มันก็
เยสไปสักพักแล้วมันก็บอกผมว่าตาพีแล้วผมก็เลยเข้า
แทนมัน

แบ่งปันประสบการณ์ที่ผ่านมา

 
 

 
ชีวิตคู่แต่งงานอยู่กินด้วยกันมานานมันก็ต้องมีความเคยชินต่อกัน..ผมกับเมียเราเข้าใจกันเราเลยหาสิ่งที่ตื่นเต้นความกระชุ่มกระชวยเสริมสร้างให้กับชีวิตคู่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่โกหกปิดบังกัน..ที่ผ่านมาผมให้เมียมีกิ๊กได้คือเพื่อนสนิทเธอเอง..จากการพูดทาบทามถึงความต้องการตอนนั่งดื่มด้วยกันมันเป็นเรื่องธรรมดาที่ภายในใจเพื่อนสนิทเมียจะคิดว่าผมลองใจหรือพูดแหย่เล่นอะไรประมาณนี้..ผมให้ความเชื่อมั่นว่าผมพูดจริงโดยให้เมียขึ้นรถไปกับเพื่อนเธอตอนออกมาจากร้าน..เวลาผ่านไปเพื่อนเมียโทรมาขอบคุณผมและสัญญารับปากผมว่าจะรักษาความลับเรื่องนี้ให้ดีที่สุดและจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้..ผมถามเพื่อนเมียตรงๆว่าเป็นไงบ้างไม่ต้องเกรงใจผม..เพื่อนเธอบอกเอากันเพิ่งเสร็จตื่นเต้นมากๆตอนนี้ออกมาโทรนอกห้อง..ซักพักต่อมาเมียส่งข้อความมาว่าคืนนี้ค้างนะ..เพื่อนเมียขับรถมาส่งเธอช่วงสายๆเธอก็บอกผมตรงๆว่าต่างตื่นเต้นเกร็งๆกันตอนเริ่มต้นและช่วงที่เกร็งมากๆคือตอนที่ควยมาจ่อเตรียมพร้อมและค่อยๆกดลงไป..หลังจากนั้นทุกอย่างมันก็เป็นไปตามธรรมชาติรวมตั้งแต่เมื่อคืนจนกลับเย็ดกันไป 3 ยก..หลังจากวันนั้นมาทั้งคู่ก็เย็ดกันตลอดส่วนตัวผมถ้ามีเวลาก็จะไปร่วมด้วยแต่ส่วนใหญ่ทั้งคู่จะเย็ดกันเองตามลำพังกันมากกว่า..เวลาผ่านไปผมกับเมียเรามาคุยกันถึงความตื่นเต้นแบบแอบลุ้นแอบโง่คือการให้เมียสวมบทแอบอ่อยคนใกล้ตัวที่เราเลือก..และแล้วเราก็ได้ตื่นเต้นแบบนี้จริงๆคือรุ่นน้องสนิทผมเอง….

จากที่ผมกับเมียเราตกลงเลือกรุ่นน้องผมด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นบุคลิคหน้าตานิสัยเมียผมเธอเลยโอเคผมคุยกับเมียว่าเธอต้องเป็นคนเริ่มก่อนที่ส่งสัญญาณให้รุ่นน้องผมคิดว่าจริงหรือเล่น…อาทิตย์กว่าๆต่อมาเพื่อนผมชวนผมไปเที่ยวสวนยางของมันค้างคืนเมียผมเธอไม่ได้ไปด้วยเพราะเธอติดงานเลี้ยงเพื่อนเธอจะมารับ..ผมไปสวนยางเพื่อนโชคดีที่มีสัญญาณโทรศัพท์ช่วงหัวค่ำผมก็เปิดเฟสเล่นเห็นเมียผมโฟสเฟสกับเพื่อนเธอผมเห็นชุดที่เมียผมใส่มันน่าจริงๆไม่รู้ตอนนั้นผมเกิดความคิดขึ้นมากระทันหันว่าอยากให้เมียผมกับรุ่นน้องผมเย็ดกันคืนนี้เลยผมตัดสินใจโทรไปหาเธอพูดคุยกับเมียผมถึงเรื่องนี้โดยผมบอกว่าจะโทรไปหารุ่นน้องผมว่ารบกวนขับรถรับเมียผมทีผมไม่อยู่อะไรทำนองนี้..ส่วนตัวแล้วทั้งคู่ก็สนิทกันนะรุ่นน้องผมเรียกเมียผมว่าเจ้…เมียผมถามผมว่าจะเริ่มอย่างไรดี..ผมบอกเรื่องแบบนี้ขอให้เธอกล้าเริ่มก่อนมันไม่ยากอยู่แล้ว..ตกลงผมโทรหารุ่นน้องผมตามแผนโดยบอกว่าโทรถามเจ้ก่อนว่าจะให้ไปรับตอนไหน…เวลาผ่านไปเที่ยงคืนกว่าๆเมียผมโทรมารีบพูดว่า..แวะเซเว่นเดี๋ยวไปเปิดห้อง..ผมรีบถามกลับไปว่าเป็นอย่างไง..เธอบอกไซร้กันในรถแล้วแค่นี้ก่อนนะ..แปดโมงเช้ากว่าๆเมียผมเธอไลน์มาบอกว่าเดี๋ยวเธอโทรเข้ามาให้ผมรับมุกด้วย..เธอโทรมาผมรู้ว่าเธอเปิดโฟนเธอทำเป็นถามผมว่าจะกลับกี่โมง..ผมบอกน่าจะช่วงบ่ายๆเลย..ไม่ถึง 5 นาทีเมียผมเธอส่งไลน์บอกว่า..จะเอากันต่อกลับก่อนเที่ยงนะ..

ช่วงเที่ยงกว่าๆเมียผมโทรมาบอกเพิ่งถึงบ้านถามผมว่าผมถึงไหนแล้ว..ผมบอกซักพักใหญ่ๆรอเพื่อนเพื่อนกำลังดูลูกน้องในไร่ผมรีบถามเธอด้วยความตื่นเต้นเกี่ยวกับเริ่มแรกมันเริ่มต้นอย่างไร..เมียผมเธอบอกว่างานเลี้ยงกลุ่มเพื่อนเธอก็ชวนกันไปต่อที่ผับเพิ่งจะถึงรุ่นน้องผมก็โทรเข้ามาพอดีเธอเลยเดินออกมาคุยด้านนอกก็เลยลองถามรุ่นน้องผมว่าติดธุระไหนหรือเปล่าถ้าสะดวกมานั่งดื่มที่นี่ก่อน..ตกลงรุ่นน้องผมมาเธอก็บอกเพื่อนๆว่าเป็นรุ่นน้องผมผมให้มารอรับกลับบ้านเพราะผมไม่อยู่..เพื่อนๆเธอก็เห็นดีด้วยเพราะจะได้ไม่ต้องวนขับรถส่งไปมา..เมียผมเธอบอกต่อว่ารุ่นน้องผมก็ดื่มมาบ้างแล้วเหมือนกัน..ด้วยที่ข้างในคนมันเยอะก็เลยนั่งติดๆกันเธอคิดในใจว่าเธอต้องวางตัวแบบเนียนๆไม่ทำเป็นถือตัวประกอบกับชุดที่เธอใส่ไปเวลานั่งมันจะเห็นน่องขาอ่อนแต่ตัวรุ่นน้องผมเหมือนจะเกรงใจเกร็งๆเธอเลยพูดแบบติดตลกว่าไม่กัดหลอกขยับมาใกล้ๆก็ได้..จากนั้นก็นั่งดื่มกันไปเพื่อนเธอในโต๊ะบางคนก็ลุกขึ้นเต้นปากก็ชวนเธอเต้นด้วยบอกนานๆมาปล่อยแก่ซักทีแต่เธอไม่เต้น..เวลาผ่านไปถึงช่วงเพลงช้าเธอก็เดินไปเข้าห้องน้ำออกมาก็เห็นรุ่นน้องผมเดินออกมาจากห้องน้ำชายเหมือนกันตอนนั้นก็ดื่มๆเข้าไปพอประมาณแล้วเธอเลยตัดสินใจพูดกับรุ่นน้องผมว่าอยากกลับยัง..รุ่นน้องบอกแล้วแต่เจ้เลยอย่างไรก็ได้เพราะไม่ได้มีธุระที่ไหน..ตอนนั้นเธอคิดถึงคำพูดผมว่าเธอต้องเป็นฝ่ายเริ่มเองเธอเลยตัดสินใจเป็นไงเป็นกันพูดกับรุ่นน้องว่า..กินต่อไหวป่ะ..รุ่นน้องผมบอกไหแล้วเจ้ไหวป่ะ..เมียผมเธอพูดต่อเดี๋ยวเราไปกินกัน..มันเป็นคำทิ้งท้ายที่เธอพูดกับรุ่นน้องผมจากนั้นก็เดินกลับมาที่โต๊ะไม่นานนักเพื่อนๆเธอก็ขอตัวแยกย้ายกันกลับ..ตอนเดินมาที่ลานจอดรถคำพูดที่เธอพูดทิ้งท้ายเอาไว้ตัวรุ่นน้องผมคงคิดอะไรภายในแน่แต่นิ่งไม่กล้าไปถามย้ำอะไรเธอ..ขึ้นมารถก็ทำมาคุยกันถึงเรื่องอื่นจนอีกไม่นานก็จะถึงบ้านผมแล้วมันเป็นช่วงเวลที่เธออึดอัดใจถ้าหมดช่วงนี้ก็จะไม่มีอะไรเธอเลยตัดสินใจขั้นสุดท้ายพูดออกมาว่า..นานๆจะออกมาแบบนี้ซักทียังกินต่อไหวป่ะ..รุ่นน้องผมรีบบอกว่า..ไหวเจ้จะไปนั่งกินที่ไหน..เมียผมเธอหันมามองหน้ารุ่นน้องผมพูดบอกว่า..เอาแบบสบายใจทั้งสองฝ่ายไม่ต้องไปบอกใครที่ไหนก็ได้..รุ่นน้องผมนิ่งไม่พูดอะไรจนรถต้องผ่านสนามกีฬารุ่นน้องผมเลี้ยวเข้าไปเมียผมก็นิ่งไม่ถามอะไรรถมาจอดใต้ต้นจามจุรีรุ่นน้องผมหันมาดึงเธอมาดูดปากไซร้ทันทีเมียผมเธอสารภาพว่าเธอตื่นเต้นมีอารมณ์ไซร้กันจนถึงขั้นยกเสื้อขึ้นดูดบีบเค้นนมส่วนหีก็ถูกใช้นิ้วจะแฉะตอนนั้นทั้งตัวเธอและลูกน้องผมต่างคนต่างเงี่ยนกันสุดๆแล้วรุ่นน้องผมชวนเธอข้ามไปเบาะหลังเธอกลัวมีรถเลี้ยวเข้ามาเลยบอกว่าไปเปิดห้องดีกว่า.จากนั้นก็แวะเซเว่นซื้อของกินเครื่องดื่ม..พอเข้าห้องได้รีบวางขอและยืนไซร้กันต่อและมาต่อที่เตียงตอนนั้นมันเล้าโลมกันมาตั้งแต่ในรถแล้วขึ้นเตียงได้รุ่นน้องผมถอดเสื้อผ้าเธอออกและเย็ดกับเธอเลยเร่งกระแทกท่าเดียวจนเสร็จ..จากนั้นก็มานอนคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น


เมียผมเธอบอกว่ารุ่นน้องผมเย็ดเสร็จแล้วคราวนี้ก็มากังวลมากเธอเลยพูดบอกว่าตัวเธอก็ผิดที่ไม่ยับยั้งชั่งใจเลยเถิดมาถึงขั้นนี้..เธอพูดต่อว่าไม่ต้องไปคิดมากเจ้ไม่พูดเราไม่พูดก็ไม่มีใครรู้วางตัวเป็นปกติทุกอย่าง..รุ่นน้องเปิดเบียร์กระป๋องชวนเธอดื่มตอนนั้นใส่ผ้าขนหนูกันอยู่ก็ดื่มพูดคุยกันไปเรื่อยๆจนรุ่นน้องผมพูดขึ้นมาว่า..ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาอยู่ตรงนี้..เธอถามว่าหมายถึงอะไร..รุ่นน้องผมยิ้มๆแต่ก็เหมือนไม่กล้าพูดเธอเลยบอกพูดมาเถอะมาขั้นนี้แล้ว..รุ่นน้องผมบอกมีอารมณ์ตั้งแต่นั่งใกล้ๆกับเธอในผับยอมรับว่าแอบมองน่องเธอและสารภาพต่อว่าตอนนั้นอยากให้เธอดื่มเยอะๆเพราะตอนมาส่งเธอจะได้มีโอกาสประคองตัวเธอถูกตัวเธอแต่ไม่คิดที่จะลวนลามทำอะไรเธอเพราะเธอเป็นเมียรุ่นพี่ที่สนิทกันแต่มีความหวังตอนที่คุยกันหน้าห้องน้ำแต่ก็ไม่ได้หวังอะไรมาก..คราวนี้รุ่นน้องผมย้อนถามเธอว่าทำไมเธอถึงยอม..เมียผมเธอก็พูดแบบกลางๆว่าอาจจะเป็นเพราะดื่มบวกกับความใกล้ชิดผู้หญิงบางทีก็บอกเหตุผลไม่ถูกเหมือนกัน..รุ่นน้องผมค่อยๆเอามือมาวางที่ตักเธอค่อยๆพูดว่าครั้งหน้าจะมีโอกาสแบบนี้อีกไหม..เมียผมเธอคิดในใจว่าตัวรุ่นน้องต้องพอใจตัวเธอแน่ๆเธอเลยตัดสินใจพูดออกมาว่า..เวลานี้ไม่ต้องไปคิดอะไรเยอะมีแค่เราสองคนก็ทำในสิ่งที่อยากทำไป..รุ่นน้องผมลุกเดินไปเข้าห้องน้ำออกมาเธอก็เดินไปเข้าห้องน้ำบ้างต่างรู้กันในใจว่าจะเริ่มยกสองกัน..เธอมาถึงที่เตียงรุ่นน้องผมก็ค่อยๆประกบปากดูดปากเธอยกนี้มันผ่านเส้นกั้นบางๆไปแล้วต่างคนต่างปล่อยอารมณ์เลียดูดให้กันนานตอนกระแทกเย็ดกันก็มีการถามพูดคุยว่าเสียวไหมเมียผมเธอก็ปล่อยฟิวร้องครางดังสลับขึ้นร่อนขย่มยกนี้เย็ดกันนานหลายท่ายิ่งช่วงที่รุ่นน้องใกล้เสร็จกระแทกแรงมากตัวเธอก็เสียวมากจนถึงพร้อมกัน


เมื่อเสร็จกันยกสองก็เพลียหลับกันไปมารู้สึกตัวตอนเช้าว่ารุ่นน้องผมค่อยๆบีบเค้นนมเธอเบาๆตอนนั้นเธอนอนหันหลังตะแคงอยู่แต่ก็รู้ได้ว่าควยรุ่นน้องผมมันแข็งทิ่มแถวก้นเธออยู่..เธอพลิกตัวหันมาถามรุ่นน้องผมว่าคึกอะไรแต่เช้ารุ่นน้องผมยิ้มๆ..เมียผมเธอลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำออกมารุ่นน้องผมถามเธอว่าจะกลับเลยหรือซักพักค่อยกลับ..เธอถามรุ่นน้องผมตรงๆว่าแล้วคิดอย่างไง..รุ่นน้องผมบอกอยากจะเอาเธออีกแต่ก็กังวลเกี่ยวกับผม..เท่านั้นหละที่เมียผมไลน์มาให้ผมรับมุกเธอตอนเธอโทรมา..เธอโทรมาวางสายจากผมได้ก็เรื่มไซร้กันเลยยกนี้เย็ดกันก็นานพอสมควรเย็ดกันเสร็จรุ่นน้องผมก็ขับรถออกไปซื้อของกินเข้ามากินในห้องนอนดูทีวีไปเรื่อยๆตอนนั้นใส่เสื้อผ้ากันเรียบร้อยแล้วจนเวลาผ่านไปเมียผมเธอเห็นว่ารุ่นน้องผมควยลุกในกางเกงเพราะมันตุงเธอเลยเอามือไปจับภายนอกกางเกงพูดแซวรุ่นน้องผมว่าอะไรมันจะว๊อนขนาดนี้รุ่นน้องผมทำหน้าอ้อนๆแล้วจับมือถือให้ล้วงเข้าไปในกางเกงเมียผมเธอก็จับควยรุ่นน้องผมเล่น..ถึงตอนนี้เธอก็พอมีอารมณ์แต่อยากโชว์ให้รุ่นน้องผมติดใจเธอบอกรุ่นน้องผมว่า..เพลียดูดให้พอนะ..เธอดูดควยแบบตั้งใจให้รุ่นน้องผมเสียวที่สุดจนรุ่นน้องผมบอกจะไม่ไหวแล้วเธอดูดอย่างแรงและชักให้รุ่นน้องผมแตกคามือเลย…นี่ก็คือสิ่งที่เมียผมเล่าให้ผมฟังข้อความบางอย่างก็มีเสริมแต่งเติมเพื่อให้ได้ฟิวในการอ่านแต่ก็เป็นจริงทุกประการ…ตั้งแต่วันนั้นมารุ่นน้องผมวางตัวปกติได้ดีมากและตัวผมเองก็ชอบฟิวนี้มากแบบแอบลุ้นแอบตื่นเต้นโดยวางตัวเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลยตัวเมียผมเองเธอก็ไม่ชอบอะไรที่มันขั้นตอนเยอะ..ยกตัวอย่างนั่งดื่มกันหลายคนเมียหาจังหวะสะกิดบอกผมขอตัวแป็บแค่นี้ผมก็รู้แล้วเมียผมนัดรุ่นน้องผมไปเย็ดกันที่เบาะหลังรถทั่งคู่เตรียมการล่วงหน้าไว้แล้วว่าให้จอดรถไกลๆหน่อย..ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเพราะมันตื่นเต้นท่าง่ายๆคือรุ่นน้องผมจะนั่งที่เบาะเมียผมจะขึ้นคร่อมหันหน้าเข้าหลังรถขย่มจนเสร็จพร้อมกันจะไม่มีขั้นตอนอะไรเยอะ..หรือบางทีเมียผมอยากใช้เวลานานๆแบบไม่เร่งรีบเธอจะขออนุญาตผมโกหกรุ่นน้องผมว่าเธอกลับมานอนค้างกับแม่แล้วนัดเย็ดกับรุ่นน้องผม..ปัจจุบันรุ่นน้องผมมีแฟนแล้วแต่ก็ยังแอบนัดเมียผมเย็ดกันอยู่แต่ก็จะไม่บ่อยเหมือนแรกๆ…ไว้ผมมีเวลาจะมาเขียนแบ่งปันเรื่องใหม่เรื่องเกิดขึ้นไม่นานนี้เอง..เมียขึ้นไปทำธุระที่กรุงเทพไปหาเพื่อนไม่ได้นัดล่วงหน้าเพื่อนกลับบ้านสวนทางกันแต่เจอหลานชายเพื่อนอยู่คนเดียว..เธอก็พาหลานเพื่อนไปดื่มเบียร์ผมยุให้เธออ่อยเย็ดกับหลานเพื่อนแต่เธอว่าผมบอกเห็นมันมาตั้งแต่เด็กๆแก้ผ้าไม่หลอกคิดได้ไง..สรุปเธอโทรมาช่วงเช้าบอกหลานเพื่อนมันไปเข้างานแล้วเดี๋ยวเธออาบน้ำก็จะขับรถกลับแล้ว..ผมก็บอกขับรถดีๆแต่ที่ไหนได้เมียผมพูดต่อว่า..เฮ้ย.!!!จะมองหน้ากันติดไหมเนี่ยเค้ากับไอ้โบว์เอากันเมื่อคืนมันหื่นมากเมื่อเช้าก่อนมันไปทำงานยังจับเค้ากระแทกเอาอีก

ความในใจของผมกับแม่

 


ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่ชื่นชอบเรื่องราวของ sex ระหว่างแม่กับลูกซึ่งเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับตัวผมและแม่ของผมที่ให้กำเนิดผมมา เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ผมขอเตือนคนที่รักไม่ได้กับเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ท่านหยุดอ่านและปิดเรื่องนี้ไปได้เลย


ผมขอท้าวความก่อนนะครับตัวผมเป็นคนที่ชอบดูหนัง AV  จนมีครั้งหลังหลังมาผมรู้สึกเฉยๆจนทำให้ผมต้องหาสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชีวิต ผมเริ่มดูหนัง AV ที่หลากหลายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น แนว  ทรีซั่ม สวิงกิ้ง รวมถึงสาวใหญ่ ซึ่งผมก็ไม่รู้ตัวเองตอนนั้นว่าผมกลับชอบแนวสาวใหญ่เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องแนวแม่ลูก เซ็กส์ในครอบครัว แต่กลับกันยิ่งดูมากยิ่งมีอารมณ์มาก จนมีช่วงเวลาที่ผมอยากจะมีประสบการณ์แบบนี้ไม่ใช่ชีวิตจริง ในความคิดของผมตอนนั้นมันค่อนข้างตีกันระหว่างความอยากและความถูกผิด ที่สำคัญผมก็ไม่รู้ว่าแม่ของผมจะยอมกับเรื่องแบบนี้หรือไม่ ผมว่ามันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับแม่คนนึงที่จะยอมมีเซ็กส์กับลูกของตนเองที่ให้กำเนิดมา ผมได้แต่จำภาพของใบหน้าของแม่ไปจินตนาการตอนช่วยตัวเอง เท่านั้น

หลังจากที่ผมเรียนจบผมได้สักพักคนรู้จักของแม่ก็ได้ติดต่อผมผ่านจากทางแม่ เพื่อต้องการให้ผมเข้าทำงานในบริษัทของเขาที่กำลังขาดคน ซึ่งก็เป็นความโชคดีที่ผมเรียนมาตรงสายงานที่เขาขาดอยู่ในช่วงเวลานั้น แล้วยิ่งบริษัทที่ผมทำงานนั้นใกล้ๆกับที่ทำงานของแม่ก็เป็นเรื่องโชคดีที่เราได้ประหยัดค่าน้ำมันรถเพราะว่าไม่ต้องขับรถไปทำงานกันคนละคัน ทำให้ทั้งผมและแม่ไปทำงานแล้วกลับบ้านพร้อมกันในทุกๆวัน

ซึ่งในทุกๆวันระหว่างที่ผมอยู่บนรถกับแม่ภายใต้แว่นตากันแดดที่ผมใส่สายตาของผมนั้นจะมองไปที่ขา และหน้าอกพี่ใหญ่มหึมาของแม่ มีอยู่วันหนึ่งที่พ่อของผมต้องไปทำงานต่างจังหวัดประมาณ 10 วัน
ทำให้ผมต้องใช้เวลาอยู่กับแม่เป็นเวลาหลายวัน ผมจำได้ว่ามีวันนึงระหว่างที่เรากำลังขับรถกลับจากทำงานตอนเย็นเหมือนปกติ วันนั้นมันเป็นอะไรก็ไม่รู้อยู่ๆเรื่องในหัวของผมมันตีกันมั่วไปหมดระหว่างเรื่องในจินตนาการความถูกผิด ผมก็หลุดปากออกมา

“แม่ มิกขออะไรแม่อย่างหนึ่งได้ไหม”

“ขออะไร แม่ล่ะ” แม่ถามผมกลับมาทันที

“มิกอยากมีเซ็กส์กับแม่ครับ” เราทั้งคู่นิ่งเงียบกันหลังจากที่ผมพูดไปแบบนั้น ซึ่งในหัวผมตอนนั้นก็คิดว่า กูพูดอะไรออกไปกูทำอะไรออกไป ทำไมกูถึงพูดเรื่องนี้ออกไป

“แม่ลืมมันไปเถอะ มิกไม่รู้ว่ามีพูดอะไรออกมาเหมือนกัน” ผมพูดออกไปทันทีที่ผมตั้งสติได้

แม่ได้แต่นั่งนิ่งเงียบไม่พูดอะไร จนใกล้จะถึงบ้านแม่ก็พูดขึ้นมาว่า “คิดแล้วใช่ไหมที่พูดออกมาแบบนั้น”

ผมพึ่งที่แม่พูดถามกลับมาแบบนี้ผมคิดในใจว่าผมจบแล้ว แม่จะมองผมยังไง ผมจะมีปัญหาใหญ่ตามมาแน่นอน ผมซวยแน่ๆ คำพวกนี้มันอยู่ในหัวผมในเวลานั้น

ผมเลยตอบแม่ก็แปลว่า “มิกก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าพูดอะไรออกไป ทำไมไม่เคยพูดแบบนั้นทำไมถึงถามแบบนั้น”

“ตั้งแต่เมื่อไหร่” แม่ถามผม

“ตั้งแต่เมื่อไหร่คืออะไรแม่อะไรคือตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมถามแม่กลับ

“เริ่มคิดอยากมีเซ็กกับแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่” แม่ถามผม แล้วแม่ก็พูดกับผมขึ้นต่ออีกว่า “ถ้ามีไม่มิกไม่คิด มิกคงไม่หลุดพูดออกมาหรอก ตอบแม่มาเดี๋ยวนี้”

“นานแล้วครับ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้” ผมตอบแม่ไปแบบนั้น

“OK  แม่เข้าใจละ” แม่พูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง

ซึ่งเป็นคำตอบที่ผมงงมากทำไมแม่กลับนิ่งในสิ่งที่ผมพูดออกไป ยิ่งทำให้ผมอึดอัดทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้แม่นั้นโกรธหรือไม่โกรธ หลังจากวันนั้นแม่กลับทำตัวนิ่งปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เวลาผ่านมาประมาณ 3 เดือน ระหว่างทางที่ขับรถกลับบ้านเหมือนปกติ อยู่ๆแม่ก็หักหัวรถเข้าโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ระหว่างทางกลับบ้าน

“เข้ามาทำไม” ผมถามแม่

“เรามีอะไรต้องคุยกันเรื่องนี้คุยที่บ้านไม่ได้” แม่ตอบผมกลับมา

หลังจากที่แม่เปิดห้องเสร็จแม่ก็ให้ผมลงจากรถตามแม่มาโดยแม่เข้าไปก่อนประมาณ 10 นาที ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป ผมเห็นแม่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่มุมห้อง

“มีอะไรหรอแม่ทำไมถึงต้องคุยกันที่โรงแรม” ผมถามแม่

“ก็มิกอยากทำแบบนี้ไม่ใช่หรอ” แม่ถามผมกลับมา

“ใช่แม่ มิกอยากมีเซ็กกับแม่ แต่มันก็อยู่ในจินตนาการของมิกที่ใช้ตอนช่วยตัวเอง” ผมตอบแม่

“งั้นก็ลองทำจริงๆสักทีสิ” แม่ตอบผมกลับมา

“แม่มั่นใจแล้วหรอ ที่เราทั้งคู่จะมีเซ็กส์กันแบบนี้” ผมถามแม่อีกครั้ง

“ถ้าไม่อยากก็กลับบ้าน แต่ถ้าจะทำแม่ให้แล้ว” แม่ตอบผม

ผมยืนอยู่ประมาณหลายนาที จนแม่ลุกยืนแล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม “สรุปจะทำไหม” แม่ถามผมเพื่อต้องการคำตอบ

“ครับๆ ทำครับ แต่มิกตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่รู้จะเริ่มยังไงดี” ผมตอบแม่ไป

แล้วอยู่แม่ก็พูดขึ้นมาว่า “มิกอยากทำแม่ยังไง มิกก็ทำที่มิกคิดสิตามที่มิกจินตนาการ”

แล้วแม่ก็เดินไปนั่งที่เตียงแล้วพูดขึ้นว่า “งั้นไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวแม่จะได้อาบต่อ”

หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จผมก็มานั่งรอที่เก้าอี้ตรงโต๊ะวางของปลายเตียง ประมาณ 10 นาทีแม่ก็อาบน้ำเสร็จแล้วเดินมานั่งที่เตียง แล้วก็มองหน้าผมใช้สายตามองเรียกผมมาให้นั่งข้างๆ ผมเลือกที่จะเดินไปนั่งข้างๆแม่ทันทีแล้วผมก็เริ่มจูบปากกับแม่ เราทั้งคู่โอบกอดไปพร้อมพร้อมกัน แล้วแม่ก็เอามือข้างนึงของแม่ไป จับที่ควยของผมที่กำลังตื่นตัวแข็งเป็นลำ แม่ใช้มือลูบคำไปทั้งลำควยมีบางจัวหวะที่ใช้มือจับบีบหัวควยของผมเพื่อปลุกอารมณ์ ให้มันเพิ่มมากขึ้นไปอีก แล้วแม่ก็เลื่อนตัวเองลงมาใช้ลิ้นของแม่ค่อยๆ เลียวนๆที่หัวควยของผม

“เสียวไหม” แม่ถาม

“เสียวมากแม่ ไม่เคยเสียวแบบนี้มาก่อนเลย” ผมตอบ

แล้วแม่ก็เริ่มอมควยของผมเข้าไปมากกว่าเดิม แม่ก็ค่อยเพิ่มจากครึ่งลำไปจนถึงโคนมีบางจังหวะที่แม่ใช้ลิ้นตวัดเลียที่ไข่ผมเสียวจนกระดกเอวเด้งสวนเข้าไปทันที สักพักแม่ก็เปลี่ยนอริยบทตัวเองมานอนอยู่บนเตียงพร้อมกับถอดผ้าขนหนูออกผมเห็นร่างกายแม่เปลือยเปล่ายังเต็มสองตานมของแม่เป็นทรงมะละกอหัวนมสีน้ำตาลชี้ตั้งเป็นเม็ดทั้งสองข้าง หีของแม่มีขนหมอยจะปิดอย่างมิดชิด ผมเริ่มใช้มือทั้งสองมือจัดไปที่เต้าขนาดนั้นก็มาของแม่แล้วเริ่มบีบนวดคลึงอย่างเมามัน แล้วผมก็เริ่มใช้ปากของผมโหลดไปที่หัวนมทั้งสองข้างแม่สลับกันไปมา

“เสียวจัง แม่ชอบจังเลย” แม่พูดออกมาตอนที่ผมใช้ลิ้นเลียที่หัวนมสลับไปมาทั้ง 2 เต้า

แล้วแม่ก็เริ่มคราง อือ อือ อือ พร้อมกับคำว่า เสียวจัง ออกมาบ้างเป็นบางครั้ง ตอนนี้สีหน้าของแม่บ่งบอกออกมาว่ากำลังเสียวอย่างมาก หัวนมของแม่แข็งขึ้นและตั้งขึ้นกว่าเดิม แม่หายใจแรงขึ้นกว่าปกติแม่หลับตาพิ้มไปด้วยความเสียว ที่ผมทำให้กับแม่

“แม่ชอบให้ลูกดูดนม ไหม แม่เสียวไหม” ผมถามแม่

“ชอบ แม่ชอบ ทำต่อไปอย่าพึ่งหยุด” แม่บอกผม

ส่วนอีกมือนึงของผม ผมเริ่มที่จะลูบคลำแล้วล้วงไปที่หีของแม่ แล้วก็เริ่มใช้นิ้วของผมลูบวนๆไปให้ทั่วๆบริเวณ แม่กางขาของแม่ออกโดยอัตโนมัติ แล้วผมก็เริ่มสอดใส่นิ้วชี้เข้าไปในหีของแม่ ในนั้นมันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำเงี่ยนของแม่ที่เริ่มไหลออกมาจนเปียกชุ่ม

โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย แม่ร้องหวยหวนออกมาไม่ขาดสาย น้ำเสียงของแม่เต็มไปด้วยความเสียว

“ขอมิกเลียหีแม่นะ” ผมก้มหน้าลงทันทีที่พูดจบ ผมไม่รอช้าที่จะใช้ลิ้นของผมเลียไปที่เม็ดแตดของผม หลังจากนั้นสักพักผมก็เริ่มสอดใส่ควยของผมเข้าไปในหีของแม่อย่างช้าๆ มันเข้าไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่หีของแม่ก็มีความฟิตอยู่พอสมควร

“โอ๊ยเสียวจังเลย” แม่พูดออกมาทันที่ที่ผมเอาควยของผมเข้าไปจนมิดแล้วเริ่มโยกเอวอย่างช้าๆ
แล้วผมก็เริ่มเร็วขึ้นตามจังหวะ เราทั้ง 2 คนจ้องหน้ามองตากัน

“โอ๊ยเสียวจังเลย” แม่ร้อง พร้อมกับเสียงครางที่ครางออกมาไม่ขาด

หลังจากที่เอาแม่ไปในท่ามิชชันนารีประมาณ 3-5 นาทีผมก็จับแม่พลิกตัวโดยให้แม่อยู่บนตัวผม แม่ไม่รอช้าที่จะขยับตัวเองควบควยของผมอย่าเมามัน แม่ ร้อง โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย ออกมาตลอดเวลา

“ควยลูกใหญ่แม่เย็ดมันจังเลย” แม่พูดออกมา แล้วก็ร้องคราง โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย ต่อไปไม่ขาด

แม่ขย่มให้ผมสักพักแม่พูดออกมาว่า “แม่จะเสร็จแล้ว” แม่ขย่มต่ออีกไม่ถึงนาที ตัวแม่กระตุกรัวๆ หีของแม่ตอดรัวควยผมรัวๆ นั่นคือสัญญาณที่แม่ไปถึงจุดสุดยอด แล้วแม่ก็ก้มหน้ามาจูบผมทันที ผมไม่รอช้าที่จะเด้งควยสวนขึ้นไปทันที ทันใดนั้นแม่ก็ร้อง โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย ออกมาไม่ขาดเสียง

“เอาอีก เอาแม่แรงๆอีก แม่กำลังมัน” แม่พูดออกมา

หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที ผมถามแม่ว่า “ แม่ทำท่าหมาได้ไหม” แม่พยักหน้าตอบกลับมา ผมไม่รอช้าที่จะเปลี่ยนท่าแล้วเอาแม่ในท่าหมา เสียวดัง ตับๆ ตับๆ พร้อมกับเสียง โอ๊ยๆ โอ๊ยๆ ที่แม่ร้องออกมาดังลั่นห้อง

“มิกจะแตกแล้วนะ แม่มิกจะแตกแล้ว” ผมพูด “แม่ก็ใกล้แล้วแตกพร้อมๆกันเลยลูก” หลังจากที่สิ้นเสียงแม่ผมก็ปล่อยน้ำของผมเข้าไปในร่างกายแม่ทันที พร้อมกับตัวแม่ก็เสร็จพร้อมกับผม

ผมกับแม่นอนหมดแรงกันอยู่บนเตียง

“เหมือนที่ลูกจินตนาการไว้ไหม” แม่ถามผม

“ยิ่งกว่าฝันอีกครับแม่” ผมตอบแม่ไป

“แม่หมดแรงจริงๆ ขอแม่หลับสักงีบ” แม่พูด

แล้วเราทั้งสองคนก็เผลอนอนหลับด้วยกันจนถึงเวลาก็มีเสียงโทรศัพท์โทรมาปลุกว่าหมดเวลาหลังจากนั้นผมก็แม่ก็อาบน้ำชำระล้างร่างกายครั้งแล้วขับรถกลับบ้านท่านที่

ความฝันที่เป็นจริง

หลังจากที่ผมได้เลิกกับแฟนได้สักพัก ก็ได้มีโอกาสติดต่อพูดคุยกับฟ้า แฟนเก่าตั้งแต่สมัยเรียน ฟ้าเป็นคนน่ารักมาก คมขำสไตล์สาวใต้ ผมอยากจะได้เธอมานานละตั้งแต่เป็นแฟน แต่ก็ไม่ได้มีโอกาส
หลังจากจบ เราก็ต่างคนต่างมีแฟนของตัวเอง
ผ่านไปเกือบสิบปี ผมก็เลิกรากับแฟนของผม และได้มีโอกาสติดต่อกับฟ้า ซึ่งก็ได้เลิกรากับแฟนแล้วเช่นเดียวกัน ผมเลยคิดว่านี่น่าจะเป็นโอกาสที่จะทำให้เรากลับมาคบกันอีกครั้ง และจะได้ทำความฝันที่รอคอยมานานให้เป็นจริง
วันหนึ่งผมต้องไปทำงานแถวระยองและต้องไปค้างคืน ผมก็ลองชวนฟ้าเผื่อฟลุ๊ค และสวรรค์ก็เป็นไปใจ ฟ้าตอบตกลง ผมเลยเตรียมหาถุงยางไว้แล้วพกติดตัวไว้เผื่อได้โอกาส
หลังจากทำงานเสร็จก็เย็นมากแล้วเลยชวนฟ้าไปนั่งกินข้าวริมทะเล ผมก็กินเบียร์ไปส่วนฟ้ากินได้แค่สปาย เรานั่งคุยนั่งกินกันจนดึกสักสี่ทุ่ม จึงไปหาที่พักแถวนั้น ที่ติดหาด และก็นั่งคุยกันริมหาดสักพักใหญ่ ผมก็ได้ถือโอกาสโอบกอดฟ้าไว้ในอ้อมกอด มันช่างมีความสุขมากเลย ทั้งกอดทั้งหอมแก้ม โอบไปโอบมาชักเกิดอารมณ์ตามธรรมชาติชายหญิง ซึ่งเดาว่าฟ้าก็คงมีอารมณ์อยู่เหมือนกัน
ผมจึงชวนฟ้าเข้าที่พัก หลังจากนั้นฟ้าก็ขอตัวอาบน้ำก่อน ผมตื่นเต้นมากเลยวันนี้ต้องได้เผด็จศึกแน่ๆ แล้วก็เตรียมถุงยางให้เรียบร้อยพร้อมใช้งานได้ทันที
หลังจากฟ้าอาบน้ำเสร็จ ผมก็ขอตัวเข้าไปอาบน้ำ รีบเลยทีเดียวพอเสร็จก็ออกมานั่งคุยกันที่เตียงอีก ผมก็ค่อยๆ โอบกอด หอมมากขึ้น จูบปาก ลูบไล้ภายนอกไปเรื่อยๆ ฟ้าก็เริ่มอ่อนระทวย ผมประคองฟ้านอนลงและจับหน้าอกจากภายนอก แม้จะเคยสัมผัสมาแล้วตอนสมัยเป็นแฟนแต่มันต่างกันเพราะตอนนี้มันจะได้ฟันฟ้าสมใจอยากแล้ว
ผมเร้าโลมภายนอกทั้งบนและล่าง ฟ้าได้แต่หลับตาหสนใจไม่เป็นจังหวะคงเสียวน่าดู ผมค่อยๆๆ บรรจงถอดเสื้อและยกทรง และกระกบปากดูดนม น่าดูดเหลือเกิน ผมทั้งดูดนม จูบปาก ไซร้ไปทั่วตัว ฟ้าก็เสียวแล้วเสียวอีก ผมจึงเริ่มถอดกางเกงออกเหลือไว้เพียงกางเกงใน แล้วก็ค่อยๆ ก้มลงไปหอมนาผืนน้อยของฟ้า มันช่างหอมดีแท้ ผมค่อยๆ เล้าโลมเพื่อกระตุ้นอารมณ์ฟ้าให้กระเจิดกระเจิง รู้สึกถึงความเปียกแฉะผ่านกางเกงในเลยทีเดียว แล้วก็ค่อยๆ บรรจงถอดกางเกงในฟ้าออก สิ่งที่รอคอยมานานใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว และผมก็ไม่รอช้าก้มลงละเลงลิ้น ปลุกอารมณ์ฟ้าเข้าไปอีก ครางนี้ฟ้าดิ้นพล่านเลย ผมเลียจนฟ้าเกือบจะเสร็จผมเลยหยุด เพื่อให้ฟ้าได้เงี่ยนสุดๆ แล้วผมก็รีบเอื้อมไปหยิบถุงยางที่เตรียมไว้มาใส่อย่างรวดเร็ว และมานั่งคุกเข่าเอาควยจ่อไปที่หีของฟ้าซึ่งมีน้ำเยิ้้มออกมาอย่างมากมาย และผมก็ไม่ลืมที่จะบอกฟ้าว่า ผมรักฟ้ามากเลยนะ คืนนี้มาเป็นของผมนะ ฟ้าก็ได้แต่ครางอืมๆ แทนการตอบรับ
ผมเริ่มบรรจงส่งควยผมเข้าไปในรูหีของฟ้า ฝันที่เป็นจริงก็ได้มาถึงสะที ผมตื่นเต้นสุดๆ ขนาดมีน้ำเยิ้มมากมายแต่หีฟ้าเข้ายากมากแน่นสุดๆ น่าจะโดนของเล็กมาเลยไม่มีบุบสลายเลย แต่มาเจอของใหญ่แบบผมก็ไม่รู้ว่าจะเป็นไงบ้าง ผมค่อยๆ สอดใส่เข้าไป ฟ้าก็เกร็งมือแน่บีบมือผมไว้ท่าทางจะเสียวสุดๆ ผมเลยกระซิบถามว่าเป็นไงบ้าง ฟ้าบอกเสียงมาก แน่นมากลเย ผมก็เลยเริ่มซอยเข้าออก ฟ้าก็ดึงผมเข้าไปกอดไปจูบปากอย่างหื่นกระหายคงเสียวมากจริงๆ สักพักฟ้าก็เกร็งตัวร้องครางมากขึ้นจนร่างกระตุก ช่องคลอดบีบตุ๊บๆ ช่างเป็นความประทับใจจริงๆ ที่ผมได้มีโอกาสทำให้ฟ้าได้ถึงจุดสุดยอดแบบแนบแน่นมาก ผมปล่อยฟ้าคลายอารมณ์เสียวสักพักแล้วขอให้ฟ้าเปลี่ยนท่าเป็นท่าหมา สุดยอดครับแน่นกว่าเดิมอีกจนผมโดนบีบแทบระเบิดเลย ฟ้าก็บอกแน่นมากเลยท่านี้เสียวใจจะขาด ผมก็จัดสิครับต้องทำให้ฟ้าประทับใจไม่ลืมเลือนเลย ฟ้าได้แต่ครางแล้วบอกเวียวตลอดเวลา สักพักผมก็น้ำแตกคาถุงนาง สุดยอดจริงๆ ครับกับความฝันที่รอคอย
ผมนอนแก้ผ้ากอดกับฟ้าเนื้อตัวอุ่นนิ่มหุ่นดีสวยน่ารักของฟ้า ทำให้ผมคึกคักขึ้นมาอีก ผมเลยขอฟ้าจะออกไปซื้อถุงยางมาเพิ่ม แต่ฟ้าบอกไม่เอาแล้วเสียว ผมเลยชวนฟ้าลุกไปอาบน้ำล้างตัวในห้องน้ำ
ผมถูสบู่ลูบไล้ไปทั่วร่างทั้งข้างบนและข้างล่างปลุกอารมณ์เสียวของฟ้าขึ้นมาอีก และขอฟ้าให้ถูสบู่ให้ผมบ้าง เป็นครั้งแรกที่ฟ้าได้จับของผม ซึ่งฟ้าก็พิจารณาอยู่นาน ผมเลยบอกนี่ไงที่ทำให้ฟ้าแน่นเสียวเมื่อกี้ ของผมแข็งตัวขี้โด่เด่อีกครั้ง ผมเลยขอฟ้าว่าของอีกรอบได้ไหม ท่าทางฟ้าคงยังเงี่ยนไม่หายและเห็นของใหญ่คาตาสัมผัสคามือแบบนี้ เลยตอบอืมเอียงอายตามภาษาคนน่ารัก ผมเลยพาฟ้ามาที่หน้ากระจก เพื่อจะได้มองเห็นกันและกันด้วย ผมให้ฟ้าโก้งโค้งหันตูดให้ผม มือก็เกาะเคาเตอร์ล้างหน้าไป ผมบอกขอสอดใส่จริงนะไม่ใสถุงยางแล้วนะฟ้าก็ตอบอืมคงจะเงี่ยนสุดๆ แล้ว ผมก็เริ่มสอดใส่จากด้านหลัง น้ำเยิ้มของฟ้ารอรับควยของผมอีกแล้ว ยังแน่นเหมือนเดิมเลยแม้จะเพิ่งผ่านศึกแรกไปก็ตาม ของฟ้าช่างสุดๆ จริงๆ ทำผมเริ่มหลงไหลกับหีของฟ้าแล้ว ยิ่งสอดใส่แบบสดๆ ไม่มีถุงยางมากั้นกลางมันยิ่งเพิ่มความเสียวให้ผมและฟ้าขึ้นไปอีก นอกจากจะน่ารักแล้วหียังแน่นอีกรักตายเลยงานนี้
ผมค่อยๆ เอาฟ้าจากด้านหลัง คราวนี้ดูฟ้าหายเกร็งหายกลัวแล้ว เลยใส่อารมณ์ได้เต็มที่ร้องครางไม่หยุดเลยทีเดียว พูดทั้งแน่นทั้งเสียวตลอดเวลา โยกไปสักพักฟ้าก็บอกแตกแล้ว ตัวฟ้าเกร็ง หีตอดรัดเหมือนเคย ผมจะแตกสะให้ได้ โยกไปสักพักผมก็ชักมาแตกด้านนอก และเราก็ไปทำความสะอาดกันอีกครั้ง และก็ออกไปนอนกอดกันยันเช้า และก็กลับบ้านเพราะผมยังมีงานต่อ สุดยอดเลยครับกับฝันที่เป็นจริง สองรอบติดๆ เสียวไม่หายเลย ส่วนฟ้าคงประทับใจผมมากเป็นแน่ๆ หน้าตาสดชื่นทีเดียว แน่นอนครับมันต้องมีครั้งต่อๆไปแน่ ไว้ผมจะมาเล่าต่อไปนะครับ




หลังจากที่ผมได้ทำตามความฝัน กับฟ้าแฟนเก่าที่แสนน่ารักของผม หลังจากครั้งแรกกับฟ้า (สองรอบ) ผมกับฟ้าก็ได้ไปมาหาสู่กันมากขึ้น หวังว่าจากแฟนเก่าจะได้มาเป็นแฟนกันตลอดไป
ผมไปรับส่งฟ้ามาทำงานทุกวันทั้งเช้าและเย็น ฟ้าแม้จะยอมเป็นของผมวันนั้น ด้วยอารมณ์มันพาไป แต่ฟ้าก็ยังคงเป็นฟ้า สาวน่ารักที่ยังคงสงวนตัวเสมอ ผมก็ได้แค่จับมือระหว่างไปรับส่ง
จนผมคิดแผนออกว่าจะจัดกับฟ้ายังไงได้อีก เช้าวันหนึ่งระหว่างไปส่งฟ้า เนื่องจากวันนั้นผมไปรับเร็วหน่อย จึงมีเวลาเหลือ ผมจึงบอกฟ้าว่าขอไปเอาของที่ทำงาน หน่อย พอดีลืมของไว้เพราะต้องเอาไปใช้หน้างาน
ที่ทำงานผมอยู่ไม่ไกลจากของฟ้ามากนัก ฟ้าจึงยอมที่จะแวะไปกับผม เนื่องจากผมเป็นคนที่มาเช้า ผมจึงได้ถือกุญแจเปิดที่ทำงาน ที่ทำงานผมเป็นตึกแถว 3 คูหา ผมก็ชวนฟ้าขึ้นไปดูที่ทำงานผม เพราะผมอาจหยิบของนาน
พอถึงห้องทำงานเป็นห้องสำหรับช่าง ผมก็แกล้งทำเป็นหาของ ปล่อยฟ้าดูบรรยากาศห้องไปก่อน ตอนนั้นยังไม่มีใครมา ผมได้จังหวะก็เลยเดินไปล็อคประตูห้อง เผื่อพลาดมีใครมาเช้า จากนั้นผมก็เดินไปโอบฟ้าจากด้านหลัง ฟ้าหอมจัง แล้วไซร้ซอกคอจุดเสียวของฟ้า
ฟ้าก็ถามทำอะไร ผมก็บอกว่าลองเปลี่ยนบรรยากาศ แล้วผมก็เล้าโลมต่อ ฟ้าพอโดนเล้าโลมก็ติดง่ายจัง แม้ชุดของฟ้าจะไม่เอื้อเลย เพราะฟ้าใส่กางเกงขายาวตามสไตล์สาวออฟฟิศ แต่ก็ไม่ได้เกินความสามารถของผม ประกอบกับความเงี่ยนที่ผมได้ปลุกของฟ้าให้มันขึ้นมา
ด้วยความไม่เอื้อในสถาที่ และเวลาที่ไม่มาก ผมจึงได้แค่ดึงกางเกงลงมาพอที่จะสอดใส่จากด้านหลัง อย่างว่าครับฟ้าชอบจากทางด้านหลัง เพราะรอบแรกที่ได้จัดด้านหลังฟ้าคงติดใจ และผมก็ติดใจสุดๆ เพราะของฟ้ามันแน่นมากๆ เลยในท่านั้น
พอดึงกางเกงและกางเกงในลงมาเสร็จ ผมกะว่าจะใช้นิ้วกระตุ้นหีของฟ้าอีกสักหน่อยเพื่อจะได้สอดเข้าง่ายๆ ปรากฎว่าเยิ้มเต็มมือเลยครับ ฟ้าคงอยากสุดๆ แล้วแน่ๆ ได้เปลี่ยนบรรยากาศมาตื่นเต้นในที่ทำงานแบบนี้ ผมเลยจัดเลย เสียบได้ลื่นสุดๆ
ฟ้าครางออกมาเลยตั้งแต่โดนเสียบ แต่ผมต้องบอกว่าเบาๆ หน่อย ฟ้าก็เลยต้องได้แต่ปิดปากคราง ผมก็จัดเต็มเลยครับกระแทกไม่ยั้งมันสุดๆ แน่นมากๆ ฟ้าเป็นผู้หญิงที่น่ารักแต่น่าจะมีความต้องการสูงอยู่เหมือนกัน
ผมล้วงมือไปบีบนมสร้างความเสียวให้ฟ้าเพิ่มเข้าไปอีก โยกได้สัก 10 นาทีผมก็ดึงออกมาแตกข้างนอก เพื่อจะได้ไม่มีอะไรไหลเยิ้มทำให้ชุดของฟ้าต้องเลอะ หลังจากได้มอบความสุขให้ฟ้าแล้วผมก็กอดและหอมแก้มฟ้า ฟ้าก็จูบปากผมเลย แล้วบอกว่าเสียวดีจัง
จากนั้นผมก็ไปส่งฟ้าที่ทำงานแล้วผมก็ไปทำงานต่อ ระหว่างทางขับรถผมก็นึกแผนต่อไปว่าจะหาโอกาสจัดความสุขให้ฟ้าได้ที่ไหนอีก …
ขอโทษเพื่อนสำหรับเรื่องรูปประกอบ ผมได้แค่หารูปที่ฟ้าเขาเคยถ่ายที่ดู X ที่สุดมาเท่านั้น ไม่สามารถถ่ายรูปประกอบขณะทำภาระกิจได้ จึงได้แต่มาเล่าเหตุการณ์ให้เพื่อนๆ ฟังเท่านั้น ขอโทษด้วยครับ

ฟ้าน่าจะคุ้นเคยกับการมีอะไรกับผมมากขึ้น ผมคิดว่าครั้งที่สามต้องตามมาโดยเร็ววัน และก็ตามคาดครับ หลังจากนั้นสักสองวัน ฟ้าได้วานผมให้ช่วยพาเขาไปบ้านหลังเก่าที่ทางแฟนเก่าได้ซื้อไว้แต่ยังไม่ได้ขายหลังจากเลิกกัน
ฟ้าอยากไปดูความเรียบร้อยจึงวานผมให้ไปส่งตอนเย็นหลังจากเลิกงาน บ้านเป็นทาวน์เฮาส์สองชั้นครับ เข้าไปผมก็ช่วยจัดบ้านนิดหน่อยปัดฝุ่นโซฟาอย่างดี เพื่อรอจัดบนโซฟาครับถ้าได้ตามแผน
และเนื่องจากอากาศค่อนข้างร้อนเราเลยได้เหงื่อกันนิดหน่อย จัดของได้สักครึ่งชั่วโมง ก็เลยมานั่งพักที่โซฟา เพื่อนๆ ครับกลิ่นตัวฟ้าตอนมีเหงื่ออ่อนๆ มันหอมเร้าใจมากเลย ผมก็เลยกอด และเริ่มเล้าโลมเลยครับ
อย่างว่า ฟ้าคงเริ่มคุ้นเคยและอาจติดใจผมไปแล้วก็ได้ ก็เลยมีอารมณ์คล้อยตามเร็วมากเลยครับ แต่ผมเห็นว่าตอนนี้มีเวลาเยอะ กว่าจะถึงเวลาไปส่งบ้านก็อีกนาน และทั้งสองครั้งที่ผ่านมา ฟ้ายังไม่เคยได้อมน้องชายของผมเลยได้แค่จับ
ผมเลยบอกฟ้าว่าขอเข้าห้องน้ำแปบ แล้วเลยเข้าไปล้างให้สะอาดหน่อย ฟ้าจะได้ประทับใจ ล้างเสร็จก็ออกมาแล้วมาเล้าโลมต่อ คราวนี้ถอดเสื้อผ้าออกหมดเลย ทั้งผมและฟ้า ไฟก็เปิด คราวนี้ผมได้เห็นทุกอย่างเต็มตา สวยไปหมด
ทั้งหน้าตา รูปร่าง และน้องสาวของฟ้า ผมก็ไซร้ไปทั้งตัวสูดดมกลิ่นกายที่หอมทุกส่วน และจูบหีของฟ้า ฟ้ารักษาความสะอาดดีมากเลยครับ ผมเลียได้สักพักเลยบอกฟ้าว่า อมให้ผมได้ไหม ฟ้าก็พยักหน้า
เอาละครับ นางฟ้าแสนน่ารักของผมที่ผมใฝ่ฝันมานานกำลังจะอมควยของผม ปากสวยๆ ค่อยๆอ้าออกเพื่ออมหัวเข้าไป ฟ้าบ่นอือๆ แล้วก็เงยหน้ามาบอกว่ามันเต็มปากเลย แล้วฟ้าก็ค่อยๆ อมเข้าออก ผมเสียวแทบตาย
มันอบอุ่นแล้วเสียวสุดๆ ผมให้ฟ้าใช้ลิ้นเลียหัวด้วย ฟ้าก็สุดยอดลิ้นที่นุ่มมันทำให้ผมแทบแตกเลย อมไปได้เวลาสักพัก จนผมรู้สึกพอใจละ คราวนี้ได้เวลาตอบแทนความสุขให้ฟ้าบ้างละ
มันเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศที่ไม่ซ้ำกันเลยทั้งสามครั้งของเรา ไม่ได้ตื่นเต้นกระมิดกระเมี้ยนเหมือนครั้งแรก และก็ไม่ได้ต้องรีบเร่งเหมือนครั้งที่สอง แถมตอนนี้ยังได้เห็นกันทุกสัดส่วน
ผมเลยใช้เวลาให้สะเกือบครึ่งชั่วโมง จนฟ้าบ่นว่าร้องจนเหนื่อยเลย แตกไปสี่ครั้ง ผมเดาเอานะ เพราะแต่ละครั้งฟ้าจะร้องดังและหีตอดตุ๊บๆ จริงๆ รู้สึกแน่นควยมากเลยตอนโดนตอด พอฟ้าแตก ผมก็ซอบต่อ ฟ้าเสียวแล้วเสียวอีก
ฟ้าน่ารักมากขึ้นตอนทำหน้าเสียวอยากการโดนเย็ด น้ำเอ่อมากจริงๆ ลื่นนุ่มนิ่ม อบอุ่นไปทั่วลำจริงๆ เป็นความสุขที่เกินบรรยาย ฟ้าทั้งน่ารัก ทั้งแน่นคับควยขนาดนี้ มันช่างเป็นบุญของผมจริงๆ ที่ได้ฟ้ามาเป็นเมียจนได้
เสียดายอย่างเดียวที่ไม่สามารถถ่ายรูปอะไรมาโชว์ได้ เอากันเสร็จก็พาฟ้าไปส่งบ้าน ตอนนั่งในรถซบผมแล้วซบผมอีก คงมีความสุขสุดๆ หลังจากนั้น ผมได้มีโอากาสพาฟ้าไปออฟฟิศตอนเช้า และมาบ้านนี้ตอนเย็น ได้จัดทั้งเช้าทั้งเย็นมีความสุขกันไปทั้งคู่
คิดถึงฟ้าทีไรเสียวหัวควยขึ้นมาตลอดเลย ผู้หญิงอะไรสุดยอดไปทุกอย่างจริงๆ ทั้งปากทั้งรู แถมน่ารักหุ่นดีอีกต่างหาก

คุณแม่แสนหวานกับคนงานข้างห้อง 2.ของต่ำ

 
 
 

ตะวันคล้อยต่ำใกล้ค่ำเต็มที  ห้องแถวเล็กๆต่างสว่างไสวไปด้วยแสงไฟไล่เรียงกันด้วยเพราะผู้คนก็ต่างกลับมาจากทำงาน  และเช่นเดียวกับห้องอื่น  ทา  หนุ่มแรงงานเขมรตัวดำมะเมี่ยมด้วยการกรำแดดและผอมแกร็นแต่เต็มไปด้วยมัดกล้ามจากการทำงานแบกหามในไซต์ก่อสร้างก็มาเปลี่ยนชุดนุ่งผ้าขาวม้าง่ายๆและพักผ่อนกินข้าวกับครอบครัวด้วยความเหน็ดเหนื่อย
“อร่อยมั้ยพี่”
“อือ...เป็นอะไร  จู่ๆมาถามแบบนี้มีอะไรรึเปล่าดวน”
“...” ลำดวนยิ้มกริ่ม  มองหน้าผัวอย่างมีเลศนัย “ผู้หญิงท้องข้างห้องเราน่ะมันมาปรึกษาดวนเรื่องน้ำนมด้วยนะ”
“นมใหญ่ขนาดนั้นยังจะมาถามอีกเหรอ”
“นั่นไงว่าละ  ชอบล่ะสิพี่  เห็นตอนมันย้ายมานี่จ้องตาเป็นมันเลย”
“เออ  ทั้งขาวทั้งอวบแถมนมใหญ่อย่างกับหัวเด็กขนาดนั้น  ถามคนที่นี่ดีกว่าว่าใครไม่มองบ้าง  ดูสิขนาดเด็กมันยังทนไม่ไหวต้องจับทำเมีย  ถ้าไม่เด็ดจริงเด็กมันคงไม่เอาจนท้องโย้ขนาดนี้หรอก”
“แล้วพี่ทาอยากได้มั้ยล่ะ” เมียสาวถามอย่างไม่แสดงอาการโกรธเคืองใดๆที่ผัวเอ่ยทะลึ่งกับผู้หญิงคนอื่นเลยสักนิด
“อยากสิ  ไม่ต้องพูดถึงหุ่นน่าล่อกับนมใหญ่ขนาดนั้น  แค่ดูลักษณะก็ตรงตามตำราแล้ว  หน้าผากกว้างหน้าอิ่มผิวก็ดี  ถ้าได้มันมาคงเสริมบารมาเราสองคนน่าดู”
“ก็ดวนว่าแล้วว่าพี่ชอบก็เลยบอกมันไปว่าพี่มีสูตรอาหารเรียกน้ำนม  มันก็สนใจนะ  แบบนี้คงง่ายเหมือนคนก่อนๆแหละ”
“ดวนนี่รู้ใจพี่จริงๆเลย  สมแล้วที่เป็นเมียพี่  ผิวพรรณมันก็ดีอย่างกับคุณหญิงคุณนาย  ดูๆไปมันก็น่าจะมีเงินด้วย  ไว้เราสูบมันให้หมดแล้วเผ่นอย่างเคยดีกว่า”
“อือ  ทำให้มันกราบแนบแทบตีนเลยนะพี่ทา  เวลาเห็นพี่ทำให้อีพวกคนสูงส่งแบบนี้หมดอนาคตแล้วมันสะใจจริงๆ  พวกคนแบบมันชอบเห็นเราเป็นต่างด้าว  กดขี่ข่มเหงสารพัด  ขอให้ถึงคราวพวกเราบ้างเถอะจะได้รู้กันว่าใครกันแน่ที่อยู่ต่ำกว่า”
“พี่จัดให้เลย  ลูกหลับรึยัง  เราจะได้ไปเตรียมอาหารสูตรพิเศษให้มันกินกัน”
“หลับกันไปตั้งแต่เย็นแล้วพี่  ป่ะ  เตรียมของกันเถอะ” สาวเขมรเอ่ยด้วยดวงตาวาวโรจน์ตื่นเต้นกับสิ่งที่จะได้ทำอย่างมาก  ไม่ว่าจะกี่ครั้งเธอก็ยังชอบจริงๆที่ได้ร่วมกับผัวเหยียบหัวคนอื่นให้จมดิน
สองคู่ผัวเมียเขมรพากันเดินไปยังหลังบ้านในส่วนซักล้างเล็กๆที่มีกำแพงกั้นไว้เป็นส่วนตัวของแต่ละห้องเพื่อไม่ให้รบกวนลูกๆโดยที่ลำดวนได้ถือชามเปล่าติดมือมาด้วย
สาวเขมรวางชามลงบนพื้นแล้วก้าวมายืนคร่อมให้ผ้าถุงครอบเอาไว้ก่อนจะถูกผัวจับถกผ้าถุงขึ้นจากด้านหลังให้เห็นก้นงอนสีแทนที่มีรอยสิวผุดประปรายก่อนจะจับกลีบแคมคล้ำย่นอ้าเปิด
สองผัวเมียเริ่มท่องคาถาภาษาเขมรด้วยกันอย่างคล่องแคล่วในขณะที่ลำดวนส่วยสะโพกวนส่วนสงวนที่ถูกผัวแหวกเปิดไว้เหนือชามเปล่า  จากนั้นเธอก็ถูกจัดให้อยู่ในท่าโก้งโค้งก่อนที่ทาจะควักลำเนื้อขนาดมาตรฐานออกมาผ่านรอยแยกผ้าขาวม้าแล้วจ่อเสียบใส่ร่องเมียอย่างคล่องแคล่ว
สวบบบ
“อา...” สาวเขมรสะดุ้งนิดๆ  แอ่นก้มถอยรับมันจนมิดด้ามก่อนจะถูกกระแทกใส่จนหัวสั่นหัวคลอน
ตับ!  ตับ!  ตับ!  ตับ!
“วันนี้คืนเดือนดับซะด้วย  เหมาะเลย  อีนั่นได้ของแรงแบบนี้คงไม่นานหรอกได้มาเป็นขี้ข้าดวนสมใจแน่”
“อืออออ  กูจะจิกหัวใช้เอาให้มันไม่ได้พักเลย  สวยกว่ากูดีนัก  ซี๊ดดดด”
“อูยยยย  เบาๆ  เดี๋ยวมันได้ยินแล้วจะอดสนุก  มาท่องคาถาต่อให้จบเถอะ”
จากนั้นเสียงภาษาเขมรอันแสนน่ากลัวก็ถูกกระซิบแผ่วจากปากทั้งสอง  แล้วจู่ๆก็เกิดลมแรงพัดวูบไหวขึ้นชั่วขณะก่อนที่ชายหนุ่มจะเร่งกระหน่ำสุดแรงเกิดแล้วระเบิดน้ำเชื้อข้นเข้าไปในร่องเมียอย่างท่วมท้น
ปับ!!  ปับ!!  ปับ!!  ปับ!!  ปับ!!  สวบบบบ
พรวดดด  พรวดดดด  พรวดดดด  พรวดดดด
ทารีบชักควยท่อนดำเมี่ยมวาววับออกมาทันทีเมื่อเสร็จสมใจแล้วบ่นพึมพำคาถาต่อในขณะที่ลำดวนค่อยๆนั่งยองๆลงเหนือชามเปล่า
แหมะ!  แหมะ!  หนืดดดดดดด
น้ำเชื้อข้นๆภายในโพรงสวาทของสาวเขมรถูกเบ่งให้ย้อยลงเติมในชามเรื่อยๆ  ขณะเดียวกันลำดวนก็ท่องคาถาคลอเบาๆกับเสียงผัว  เคล้ากับบรรยากาศที่มีสายลมชื้นๆพัดโบกอย่างรุนแรงให้ยิ่งดูน่าขนลุกขนชันขึ้นไปอีก
และเมื่อพิธีกรรมวิปริตจบลง  สายลมประหลาดก็พลันจางหายไปราวกับบรรยากาศอันสุดแสนแปรปรวนเมื่อครู่เป็นเพียงภาพจินตนาการเท่านั้น

ภายในห้องพักของสองแม่ลูกในยามเช้าตรู่  เอกรู้สึกได้ถึงความแฉะปนเสียวบริเวณลำเนื้อกลางหว่างขาจากโพรงปากอุ่นของใครบางคน  เขาไม่ได้เอ่ยขัด  เพียงแค่ปล่อยให้ใครคนนั้นใช้ปากปลุกเจ้ามังกรต่อไปกระทั่งมันตื่นผงาดเต็มที่
“อืมมมม  หัวเยิ้มแดงแจ๋เลย  น่าดูดจัง  ถ้าผัวยังแกล้งหลับต่ออีกเมียจะจับรีดน้ำออกเอาให้หมดตัวเลยนะคะ”
“ใจคอจะไม่ให้ผัวไปเรียนเลยรึไงเนี่ย” เขาลืมตาขึ้นมาตอบอย่างเสียไม่ได้  ขณะเดียวกันแม่วัวสาวก็ค่อยๆขยับตัวอุ้ยอ้ายลงไปนอนหงายถ่างขารออยู่ข้างๆตามกิจวัตรประจำวันของเธอ
“ไม่ไปเรียนก็ดีค่ะ  จะได้ไม่ต้องเจอยัยนั่น”
“อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน  ไม่คิดเลยนะว่าพอได้เป็นเมียแล้วจะขี้งอนขี้หึงแบบนี้”
“แล้วทำไมล่ะคะ  รับไม่ได้เหรอ” แก้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเง้างอนราวกับตนเองเป็นเพียงเด็กสาววัยเดียวกับชายหนุ่มข้างกาย
“ใครว่าล่ะ” เขาเอ่ยยิ้มๆ  เลื่อนตัวมาคุกเข่าก้มหน้าสูดกลิ่นสาวอันแสนหอมกลางหว่างขาเธอก่อนจะก้มลงไปจูบกลีบฉ่ำเยิ้มเบาๆ
“จุ๊บ!  งอนบ่อยแบบนี้ผัวจะง้อให้ลูกเต็มบ้านจนเลี้ยงไม่ไหวเลย”
“ซี๊ดดดดด  แค่คนเดียวในท้องก็เลี้ยงให้ได้ก่อนเถอะค่ะ...แต่ถ้ามีไว้เป็นเพื่อนกันก็ได้นะ...อืออออ” แก้วครางแผ่วในลำคอ  สองมือก็คอยจับผมเด็กชายขยุ้มระบายอารมณ์ขณะถูกเขาโลมเลียกลีบอูมฉ่ำสีเข้มคล้ำแสนอลังการ
“แผล็บ  แผล็บ  แผล็บ...ต้องอย่างนั้นสิ  หุ่นแบบแก้วน่ะถ้าให้มีแค่คนเดียวคงเสียดายของแย่  เกิดมาเป็นแม่พันธุ์ทั้งทีก็ต้องผลิตลูกให้คุ้มถึงจะถูก” เขาเอ่ยเสียงแหบพร่าอย่างมีอารมณ์ร่วมเต็มที่ก่อนจะก้มหน้าลงดูดซดกลีบเนื้องามๆจนสาวท้องต้องเอามือปิดปากและดิ้นพล่านด้วยความเสียวซ่าน
การตั้งท้องไม่เพียงจะเปลี่ยนหุ่นแม่พันธุ์สาวให้น่าฟัดเท่านั้นแต่มันยังกระตุ้นอารมณ์เธอให้เร่าร้อนง่ายขึ้นด้วย  เพียงไม่นานแก้วจึงได้ตะกายถึงฝั่งฝันด้วยลิ้นของเด็กชายและขับหลั่งเมือกกามแห่งความสุขออกมาให้เขาซดดับกระหายก่อนจะถูกรุกรานเต้ากลมตึงด้วยริมฝีปากที่พุ่งมาจู่โจมดูดมันอย่างหนักให้ร่องรอยช้ำรอบๆจุกเนื้อที่ยังไม่ทันจางหายกลับมีรอยเพิ่มขึ้นมาอีก
“อุ!  อูยยยย  ผัวขา  โอววววว”
“จ๊วบ  จ๊วบ  จ๊วบ  จ๊วบ...แค่คิดว่าเต้าใหญ่แบบนี้น้ำนมเมียจะไหลออกมามากแค่ไหนก็เสียวแล้ว  ถ้ามันไหลเมื่อไหร่ต้องรีบบอกผัวนะเมียจ๋า”
“ค-ค่ะ  อือออออ  ซี๊ดดดดด” แก้วยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกเด็กชายพุ่งปราดมาคุกเข่าประจำตำแหน่ง  กดเสียบควยท่อนโตเข้าไปในโพรงทวารอย่างคล่องแคล่วจนเธอต้องหน้าร้อนผ่าวอย่างคนเสียอาการ
สวบบบบบ  ตับ!  ตับ!  ตับ!  ตับ!
“มึงนี่มันเกิดมาเป็นตัวผลิตลูกชัดๆเลยว่ะ  อูยยยย  จะเอารูหลังหรือรูหน้าก็มันควยไปหมด  มึงเลิกคิดเลยนะว่ากูจะทิ้งมึงไปเอาอีปุ้มเป็นเมีย  กูไม่ทิ้งของพร้อมกินแบบมึงไปหาของที่ต้องรอให้สุกแบบอีปุ้มหรอก”
เขาสบถคำหยาบออกมาด้วยอารมณ์ดิบเถื่อน  แต่ด้วยเพราะแก้วถูกทำให้คุ้นเคยกับมันไปแล้ว  เธอจึงไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไร  ตรงกันข้ามกลับยิ่งกระตุ้นความต้องการให้มีมากขึ้นอีก
“ฮื่อออออ  ผัวขา  งั้นก็กินเมียให้เท่าที่อยากเลยนะคะ  จะมีลูกกี่คนก็ได้แค่ใช้ควยอันนี้ล่อเมียคนเดียวก็พอ  ซี๊ดดดด  เอามันร่องเมียจริงๆเลยผัวขา  อูยยยยย  เสียวข้างในไปหมดแล้ว  อูยยยยย  ต-แตกแล้ว  แตกแล้ว!!!”
เพียงไม่นานแก้วก็ร้องระงมอย่างลืมตัว  เธอเสร็จสมคาลำของเด็กชายด้วยความสุขสบายเปี่ยมล้นก่อนจะถูกเขาจับกระหน่ำใส่ก้นเหลวๆอันแสนขาวเนียนให้เกิดเสียงเข้าจังหวะชวนเสียว
ปั๊บ!  ปั๊บ!  ปั๊บ!  ปั๊บ!  ปั๊บ!  ปั๊บ!
“อุ!  โอ๊วววววว” แม่พันธุ์สาวถึงกับต้องรีบเอามือปิดปากก่อนดวงตาจะ เหลือกลอยอย่างไม่สามารถควบคุมความเสียวต่อไปไหว
ช่องคลอดหดรัดตัวเป็นระลอกสองให้เธอเสร็จสมถึงสวรรค์พร้อมกับปลดปล่อยของเหลวใสออกมาเป็นสายเปียกเต็มที่นอน
ซู่ววววววว
ปั๊บ!  ปั๊บ!  ปั๊บ!
“อีกนิดเดียว  กูขออีกนิดเดียว  อั๊ก!!!” เขาคำรามก่อนจะโหมกระหน่ำทิ้งท้ายแล้วหลั่งรินเมือกลื่นคาวใส่ในช่องทวารหนักจนอุ่นระอุ
พลั๊ก!!  พลั๊ก!!  พลั๊ก!!  พลั๊ก!!
“อา...”

เมื่อเสร็จสมในกามกิจ  เอกก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน  ทิ้งให้แก้วอยู่เปลี่ยวเหงาดังเช่นเคย  เพียงแต่วันนี้หญิงสาวมีเรื่องกังวลใจอยู่นั่นคือน้ำนม
แม้บทรักระหว่างเธอกับเขาจะไร้ที่ติอย่างเคยแต่จากการที่เขาจับดูดเต้าพร้อมกับเอ่ยคำพูดแสดงจุดมุ่งหมายกับเธอก็ทำให้แก้วอดผิดหวังไม่ได้ที่ทรวงถันทั้งสองข้างนั้นยังไม่มีน้ำนมมาสนองความต้องการให้ชายคนรัก
เธออยากมัดใจเขาจริงๆและยอมทุกสิ่งเพื่อให้ได้เป็นเมียที่รักคนเดียวของเขา  และไม่ว่าจะด้วยวิธีใด  เธอก็ยินดีที่จะทำมันจากใจ
ไม่ใช่แค่คิด  แก้วเตรียมจะจัดการอาบน้ำชำระคราบสวาทให้สะอาดเพื่อจะออกไปหาสาวเขมรข้างห้อง  แต่ยังไม่ทันได้ผลัดผ้าถุงไปอาบน้ำก็พลันมีเสียงเคาะซะก่อน
ก๊อก!!  ก๊อก!!  ก๊อก!!
“มีใครอยู่มั้ย”
เสียงผู้ชายทำให้แก้วสะดุ้งตกใจรีบจับผ้าถุงดึงขึ้นมาเหนือเนินอก  จัดการนุ่งปกปิดร่างกายอันอวบอัดที่ร่องสาวยังเปียกแฉะเหนียวเยิ้มไปด้วยน้ำกามเอาไว้ก่อนจะขานรับออกไป
“ค่ะๆ  ใครคะ”
“ผม  ทา  เป็นผัวลำดวนเองนะ  เห็นลำดวนว่าแก้วอยากจะมีน้ำนม  ผมเลยทำกับข้าวเพิ่มน้ำนมมาให้  เปิดประตูหน่อยสิ”
“ค่ะๆๆ” แก้วละล่ำละลัก  รีบตรงไปเปิดประตูด้วยความเกรงใจทั้งที่นุ่งผ้าถุงเพียงผืนเดียว
เพียงเจอหน้า  แก้วก็อดรู้สึกหวาดกลัวกับชายชาวเขมรที่ชื่อทาคนนี้ไม่ได้  ด้วยเพราะสายตาแสนเจ้าเล่ห์คล้ายกำลังคิดอะไรไม่ดีสักอย่างอยู่เสมอ  อีกทั้งหน้าตาก็ดูผอมตอบดำกร้านคล้ายคนติดยาแต่ร่างกายอันผ่ายผอมกลับมีแต่กล้ามเนื้อ  ดูแข็งแรงจนน่ากลัวว่าหากถูกจับรวบเข้าล่ะก็  เธอคงหมดสิทธิ์ดิ้นรนเป็นแน่
ไม่เพียงแค่ตัวคนเอามาให้เท่านั้นที่ไม่น่าไว้ใจ  แม้แต่หน้าตาของแกงในถ้วยที่ยื่นมาให้มันก็ทำให้แก้วหนักใจเช่นกันเพราะมันดูคล้ายแกงกะทิทั่วไปก็จริงแต่ดูเหมือนกะทิในถ้วยจะข้นหนืดกว่าปกติ  อีกทั้งยังมีสมุนไพรถูกใส่มาซะเต็มถ้วยจนดูเป็นแกงแบบน้ำขลุกขลิก  ไม่ได้ดูน่ากินเลยสักนิด
“นี่แกงที่ว่านะ  กินแค่วันละมื้อให้หมดชามติดๆกัน 7 วัน  ขนาดลำดวนที่แทบไม่มีนมยังเลี้ยงลูกสองคนไหว  ไม่ต้องพูดถึงแก้วเลย  ต่อให้ผู้ใหญ่คอแห้งหิวน้ำสักสิบคนก็มีพอให้กิน”
พูดไปมันก็เหลือบมองเต้าเต่งที่มีเพียงผ้าถุงปกปิดไว้ด้วยแววตาเจ้าเล่ห์  ทำเอาแก้วต้องรีบเอามือทาบอกปิดไว้และยื่นอีกมือไปรับถ้วยแกงมาแล้วเตรียมจะปิดประตู
“ขอบคุณค่ะ”
“เดี๋ยวก่อนสิ” มันเอามือดันประตูเอาไว้พร้อมกับก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด “แกงนี้มันช่วยเร่งน้ำนมได้ก็จริงแต่พอกินแล้วจะเจ็บนมมาก  ต้องมีคนนวดกระตุ้นให้ด้วยถึงจะดีที่สุด  มันจะช่วยให้นมออกดีขึ้นแล้วก็ไม่ทรมานมากด้วยนะ”
“...ไม่เป็นไรค่ะ  แค่แกงก็พอ” แก้วรีบปฏิเสธ  ไม่ต้องคิดก็รู้ว่ามันจะมาหลอกจับนมเธอแน่ๆ  บางทีเรื่องที่มันบอกอาจเป็นแค่คำขู่ให้กลัวก็เท่านั้น
“ถ้าทนไหวก็ไม่เป็นไร  แต่ว่ามีอีกเรื่องที่แก้วต้องรู้นะ  แกงนี้ห้ามผู้ชายกินไม่งั้นควยหดหมดสิทธิ์เอาตลอดชีวิต  และถ้ากินแกงนี้แล้วไม่กินจนครบ 7 วันก็อย่าหวังว่าจะมีน้ำนมอีกเลย  ถ้ายังไงก็คิดก่อนแล้วกันว่าจะกินจริงมั้ย” แรงงานเขมรเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
“...ค่ะ  ขอบคุณนะคะ” แก้วเอ่ยขอบคุณอีกครั้งก่อนจะปิดประตูลง
คำเตือนอย่างหลังที่ชายชาวเขมรเอ่ยเตือนนั้นมันดูจะเชื่อถือได้พอสมควรทีเดียว  เธอจึงแอบลังเลอยู่บ้างที่จะกินมันเข้าไป  แต่เมื่อนึกถึงผลที่ตามมาว่าเอกจะหลงเธอมากแค่ไหน  หญิงสาวก็แทบจะยกถ้วยแกงซดมันเดี๋ยวนั้นเลยทีเดียว

แก้วจัดการตักข้าวสวยร้อนๆมาเตรียมไว้ก่อนจะตักน้ำแกงสีเขียวออกขุ่นๆข้นเป็นเมือกมาราดข้าวแล้วกลั้นใจกินเข้าไป
เพียงสัมผัสเมื่อน้ำแกงแตะปลายลิ้นก็ทำให้แก้วคลื่นใส้  น่าแปลกที่แกงถ้วยนี้ไม่ได้มีกลิ่นอะไรเลยแต่เมื่ออยู่ในปากมันกลับส่งกลิ่นคาวออกมาคล้ายกับแกงที่ใส่เนื้อลงไปแต่ไม่ได้ต้มด้วยไฟแรงจนน้ำเดือด  อีกทั้งสัมผัสของน้ำแกงยังเหนียวๆลื่นๆเป็นเมือกๆไม่น่ากลืนลงคอสักนิด  แต่เพราะอยากมีน้ำนมให้ผัวเด็กของเธอดูดจึงกลั้นใจกินมันไปเรื่อยๆแม้แต่สมุนไพรมากมายในชามก็เอามาเคี้ยวกินจนหมดก่อนจะดื่มน้ำล้างปากให้หายคาวแล้วเอาถ้วยแกงไปคืนเจ้าของ
ก๊อก!  ก๊อก!  ก๊อก!
“ลำดวน  ลำดวนอยู่มั้ยคะ  เราเอาถ้วยมาคืนค่ะ”
“เออๆๆ  เดี๋ยวออกไป” เสียงตอบกลับห้วนๆดังออกมาก่อนประตูจะเปิดให้เห็นว่าสาวเขมรกำลังวุ่นวายป้อนข้าวลูกชายคนโตอยู่
“แกงอร่อยมากเลย  ฝากขอบคุณแฟนด้วยนะคะ”
“อือ  ไม่เป็นไรหรอก  เราเพื่อนบ้านกันอยู่แล้ว...กินหมดรึเปล่าเนี่ย  อย่าเททิ้งนะ  ของดีทั้งนั้น” ลำดวนทักเมื่อรับชามเปล่ากลับมา
“หมดๆ  เรากินหมดเลย  ว่าแต่ลำดวนพอจะรู้วิธีทำแกงมั้ย  เราเกรงใจน่ะถ้าต้องรบกวนแฟนลำดวนทำให้ทุกวันแบบนี้”
“ไม่รู้หรอก  พี่ทารู้วิธีทำคนเดียว” สาวเขมรตัดบท “แล้วพี่ทาได้บอกรึเปล่าว่ายานี้มีผลข้างเคียง  ถ้ากินแล้วจะคัดนมมากๆ  ต้องนวดเปิดท่อน้ำนมด้วยนะ  ตอนที่เรากินนะ  ถ้าไม่ได้พี่ทานวดให้คงเจ็บจนนอนไม่ลงแน่”
“บอกแล้วค่ะ  แต่คงไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวเราลองนวดเองดูก็คงได้”
“อย่าไปทำเองมั่วๆนะ  ถ้านวดไม่ดีจะเจ็บกว่าไม่นวดซะอีก  ให้พี่ทาช่วยก็ได้  ไม่เห็นเป็นไรเลย”
“ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ  ขอบคุณนะคะลำดวน” แก้วปฏิเสธด้วยเสียงอันนุ่มนวล  ให้ตายยังไงเธอก็ไม่ยอมถูกคนงานเขมรหน้าหื่นมาจับนมแน่
“อ่ะๆๆ  ถ้าไม่ไหวก็มาหาแล้วกัน  แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เราให้พี่ทาเอาแกงไปให้อีกนะ”
แก้วพยักหน้ารับ  กล่าวขอบคุณอีกครั้งก่อนจะแยกตัวกลับห้องโดยไม่ทันได้เห็นเลยว่าสาวเขมรแอบแสยะยิ้มเล็กๆขณะมองชามเปล่าในมือ

ยังไม่ทันพ้นกลางวันไปดี  แก้วก็เริ่มเข้าใจถึงสิ่งที่ถูกเตือนจากคู่ผัวเมียข้างห้อง  เธอเริ่มรู้สึกได้ว่าเต้านมทั้งสองข้างมันร้อนและขยายตัวขึ้นจนน่าอึดอัด  มันคัดตึงเจ็บระบมราวกับถูกฝูงผึ้งรุมต่อย  โดยเฉพาะบริเวณจุกเนื้อสีเข้มบนเนินนมที่บวมเป่งเบียดกับบรามันสร้างความเจ็บปวดอย่างมากจนต้องถอดออก
แก้วทรมานกับความรู้สึกนี้ได้ไม่นานก็จำใจบากหน้าไปเคาะห้องเพื่อนบ้านอีกครั้ง  และเหมือนฟ้าจะเป็นใจเมื่อเห็นว่า ทา หนุ่มเขมรหน้าเหี้ยมกำลังกินข้าวเที่ยงอยู่กับเมียพอดี
“อ้าว!  เข้ามาก่อนๆ  เจ็บนมใช่มั้ยแก้ว” มันเอ่ยทักตรงๆ  ทำเอาสาวทรงโตถึงกับหน้าชาด้วยความอายแต่ก็ต้องพยักหน้ารับ
“เราบอกแล้วว่ามันเจ็บมากก็ไม่เชื่อ  มาสิ  นอนลงเลย  เดี๋ยวให้พี่ทานวดให้” ลำดวนได้โอกาสก็ปูทางให้ผัวพร้อมกับจัดการปิดประตูปิดม่านให้มิดชิดจนแก้วรู้สึกประหม่ายืนนิ่งทำตัวไม่ถูก
“...”
“ไม่ต้องห่วงน่ะ  มาๆๆ  นอนลง  อย่าคิดเยอะพี่ทาต้องไปทำงานต่ออีกนะ” เธอจูงมือแก้วพาไปนอนบนฟูก  ข้างเด็กน้อยสองคนที่หลับกลางวันอยู่
ด้วยความเจ็บอย่างมาก  อีกทั้งยังเห็นว่ามีผู้หญิงอย่างลำดวนอยู่ด้วยจึงทำให้แก้วค่อนข้างจะรู้สึกปลอดภัยจนไม่ได้ต่อต้านขัดขืนเมื่อถูกหนุ่มเขมรนั่งลงข้างๆแล้วรวบจับบีบนมเธออย่างไม่มีการอารัมภบทใดๆ
หมับ!
“โอ้โห  นมตึงเชียว  นี่ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้ได้บวมแน่นะรู้มั้ย”
มันทัก  สองมือก็ค่อยๆบีบไล่ตั้งแต่ราวนมขึ้นมาถึงส่วนปลาย  จะมีก็เพียงเสื้อของแก้วเท่านั้นที่ขวางกั้นระหว่างมือสากๆด้านหนากับทรวงถันกลมตึงเนียนนุ่มเอาไว้
“...”
หญิงสาวไม่ได้พูดอะไร  เธอพยายามมีสติเอาไว้ไม่ให้ถูกมันล่วงเกินไปมากกว่านี้  ด้วยเพราะส่วนที่กำลังถูกรุกรานอยู่นั้นมันคือจุดอ่อนไวสัมผัสของเธอ  แต่หนุ่มเขมรเจ้าเล่ห์ก็ไม่ได้รีบร้อน  มันยังคงบีบนวดอย่างเป็นงานเป็นการไม่ได้แสดงความหื่นออกมาอย่างทุกที  อีกทั้งยังชวนคุยไม่หยุด
“เป็นยังไงบ้าง  แบบนี้เจ็บมั้ย”
“...” แก้วหลบสายตา  พยักหน้านิดๆด้วยความเขินอาย
“คราวหลังพอกินยาแล้วก็ต้องมานวดเปิดท่อน้ำนมนะจะได้ไม่เจ็บขนาดนี้  อีกอย่างพอมีนมแล้วจะได้ไหลดีไม่สะดุดด้วย”
“ค่ะ”
การดุด้วยน้ำเสียงจริงจังกับท่าทางเป็นงานเป็นการของหนุ่มเขมรทำให้แก้วก็รู้สึกผิดทันทีที่ตัวเองดื้อ  คิดแต่ว่าจะถูกลวนลามจากชายตรงหน้าทั้งๆที่เขาก็ดูจะไม่ได้แตะต้องส่วนอื่นเกินความจำเป็นเลย
“จำไว้นะ  กินยาไปแล้วห้ามหยุดกินและต้องมานวดทุกวัน  ผมรู้ว่าแก้วอายแต่ในเมื่อเลือกจะกินยาแล้วก็ต้องทนนะเข้าใจมั้ย”
“ค่ะ”
“เอาล่ะ  ถ้าอายอยู่ก็หลับตา  นวดจากนอกผ้าแบบนี้มันแทบไม่ได้ช่วยอะไรหรอก  เดี๋ยวผมจะล้วงเข้าไปนะโอเคมั้ย”
“...”
แก้วไม่ตอบ  ใจยังคงลังเลอยู่ว่ากรรมกรหนุ่มจะหลอกจับนมเธอรึเปล่า  แต่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจก็ถูกลำดวนที่มองอยู่ห่างๆมาช่วยจับถลกเสื้อขึ้นนำร่องให้ผัวจับบีบเข้าเต็มๆมือจนได้
“โอ้ย!  ตอบช้าจริงๆ  ผัวชั้นต้องไปทำงานต่อนะ  จะมาอายอะไรอีก  ชั้นก็อยู่ด้วยทั้งคน”
ด้วยเพราะแก้วใส่เสื้อยืดกับกางเกงผ้ายืดขายาวสำหรับคนท้องมาพอเจอไม้นี้จึงตกใจเหมือนกันที่ถูกเปิดเต้าหราให้หนุ่มเขมรเห็นแต่เพราะลำดวนเป็นคนเปิดและดูจะหงุดหงิดอยู่ด้วยจึงไม่กล้าเถียงได้แต่ยอมหลับตาลงด้วยความเขินอาย
ทาแสยะยิ้มให้เมียที่รู้งาน  มันถือโอกาสมองสำรวจเต้านมกลมตึงอลังการของว่าที่คุณแม่แล้วแอบเลียริมฝีปากด้วยความกระหาย  ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นหน้าอกใครที่จะมีลักษณะใหญ่โตกลมสวยอวบอิ่มอีกทั้งปลายถันยังชูชันเหยียดตึงถูกต้องตามตำรานรลักษณ์ได้อย่างนี้
“คุณแก้วเคยได้ยินเรื่องตำรานรลักษณ์มั้ยครับ”
“ไม่เคยค่ะ  ทำไมเหรอคะ”
“ผมพอจะดูคนออก  หน้าผากกว้างหน้าอิ่มแบบนี้แปลว่าเป็นคนมีวาสนา  อยู่ที่ไหนก็เจริญ  ปากแดงแบบไม่ต้องแต่ง  เขาว่าเป็นคนมีบุญ  มีทรัพย์สมบัติมาก  และที่สำคัญคือหน้าอกนี่”
“...” แก้วเงียบกริบ  รู้สึกอายที่จะถูกมันวิจารณ์เพราะรู้ดีว่าหน้าอกเธอนั้นใหญ่สะดุดตาชายอยู่แล้ว
“ตำราว่าไว้ผู้ใดมีอกกว้าง เนื้อที่ถันแต่งตึง สมบูรณ์ดีงาม ไม่ใหญ่ข้างเล็กข้าง ผู้นั้นเป็นคนเจ้าเสน่ห์ จะส่งเสริมคู่ครองให้ได้เป็นใหญ่  หน้าอกของคุณแก้วกลมตึงใหญ่เท่ากันทั้งสองข้างแบบนี้อีกหน่อยแฟนคงได้เป็นใหญ่เป็นโตอะไรสักอย่างแน่ๆ”
“ร-เหรอคะ”
“แน่นอนครับ” ความงดงามของมันทำเอาหนุ่มเขมรถึงกับผงาดแข็งขึ้นมาเป็นลำจนเมียต้องแอบเม้มปากชำเลืองมองยิ้มๆ  ฝ่ามือของเขาเลื่อนจากส่วนที่ถูกบดบังด้วยเนื้อผ้าไปจับเนื้อเต้าอุ่นๆแสนหยุ่นนุ่มทันทีอย่างไม่อาจห้ามใจไหว
หมับ  หนุบ
แก้วรู้สึกได้ว่าเต้านมของเธอได้ถูกรุกล้ำล่วงเกินเป็นที่เรียบร้อย  ความสากด้านจากมือที่กรำงานหนักมานานมันไม่เหมือนมือของเด็กชายที่จับแต่ปากกากับสมุดเพียงอย่างเดียวเลยสักนิด  อีกทั้งแรงบีบเคล้นนั่นมันก็เปี่ยมไปด้วยพลังต่างจากแรงของเด็กลิบลับ  จากที่เธอพยายามจะอดกลั้นอารมณ์ไว้จึงเริ่มสยิวซ่านและตอบสนองต่อสิ่งเร้าจนเริ่มไม่สบายตัวขึ้นมา
"ต้องใช้เวลานานมั้ยคะ"
“สักพักแหละ  เพิ่งจะครั้งแรก  ต้องนวดเปิดท่อน้ำนมก่อน  สำคัญนะ  นมจะไหลดีไม่ดีอยู่ที่ครั้งแรกเลย  เพราะงั้นถ้าเจ็บก็ทนหน่อยแล้วกัน”
“ค่ะ”
เมื่อเจอกับไม้นี้  แก้วก็ได้แต่นอนหลับตาพยายามทำใจนิ่งๆและฝืนอารมณ์สยิวเอาไว้ไม่ให้มันแสดงออกมาขณะถูกคนงานเขมรแสนหื่นเคล้นคลึงเต้านมตั้งแต่ส่วนฐานไล่ขึ้นมาถึงส่วนจุกเนื้อบวมเป่ง
ไอ้ทาได้ใจที่เห็นว่าแก้วยอมแล้ว  มันจึงจับหนีบยอดเต้าชูชันชี้หน้าดึงยืดเบาๆสลับกับเลื่อนฝ่ามือกลับลงไปเคล้นไล่ขึ้นมาเรื่อยๆอยู่อย่างนั้น
หนุบ  หนุบ  หนุบ
“อือ...” แก้วยังคงหลับตาขณะผ่อนลมหายใจหนักอย่างลืมตัวด้วยความเสียว  ใบหน้าสวยหวานแดงซ่านถึงใบหูพร้อมกับความรู้เหนอะหนะจากเมือกสาวที่ผุดซึมเปียกเต็มกลีบสาวที่ถูกรัดแนบด้วยกางเกงผ้ายืด  แต่เพียงแค่เธอครางก็ทำให้สองผัวเมียหันมายิ้มให้กัน
“ขอเน้นตรงหัวนมหน่อยนะ  บวมแบบนี้แปลว่ายังตันอยู่” พูดจบหนุ่มเขมรก็จับรวบเต้าทั้งสองเอาไว้ให้เต็มมือก่อนจะคีบจุกเนื้อสีน้ำตาลอ่อนด้วยนิ้วชี้กับนิ้วโป้งแล้วบีบขยี้หนักๆ
“อึก!!” แก้วถึงกับขมวดคิ้วมุ่นหลับตาปี๋  สะท้านเสียวกับการถูกรุกไปยังจุดไวสัมผัสอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว  เธอขนลุกซู่พร้อมกับหลั่งรินเมือกแห่งความสุขออกมาจนเหนียวชุ่มเต็มหว่างขา
แม้จะรู้ว่าไม่ควรมีอาการแบบนี้กับชายอื่น  แต่ก็เหมือนกับครั้งเมื่อถูกเอกแกล้งยั่วที่เธอไม่อาจคุมไฟราคะของตัวเองได้เลย  ยิ่งกำลังท้องกำลังใส้อยู่เช่นนี้ประสาทสัมผัสก็ยิ่งไว  สิ่งเดียวที่ทำได้คือเก็บอาการเอาไว้ไม่ให้สองผัวเมียรู้ว่าเธอถึงสวรรค์ไปแล้ว
หนุ่มเขมรไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้นด้วยเพราะเห็นว่าแก้วดูจะไม่ได้ตอบสนองอะไรนอกจากเผลอคราง  อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกจึงไม่อยากให้ไก่ตื่น  มันจึงทำไปเพียงตักตวงความสุขให้สมอยากด้วยการใช้นิ้วขยี้ยอดเต้าสาวท้องโตอยู่อีกพักใหญ่จนมันเริ่มอ่อนตัวนิ่มลงจึงปล่อยมือออกแล้วดึงเสื้อเธอลงมาตามเดิม
 “เสร็จแล้ว”
“...ขอบคุณค่ะ” แก้วเอ่ยเขินๆ  ก่อนจะถูกลำดวนจับมือช่วยพยุงลุกขึ้นแล้วเธอก็รีบเดินกลับห้องไปทันที
พอกลับมาถึงห้อง  แก้วก็ลองลูบเป้ากางเกงผ้ายืดอันชุ่มโชกไปด้วยเมือกกามแล้วอดรู้สึกอับอายกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้  ถือว่าโชคดีที่ใส่กางเกงสีดำไป  ถ้าหากว่าเธอใส่กางเกงสีอื่นไปล่ะก็  ไม่รู้ว่าจะขายหน้าแค่ไหนหากสองผัวเมียนั่นได้เห็นว่าเธอเสร็จถึงสวรรค์แค่เพราะถูกนวดหน้าอกเท่านั้น
แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่ามันได้ผล  เต้านมที่รู้สึกคัดตึงบวมแข็งกลับมานิ่มและสบายขึ้นจริงๆ  จากที่ไม่คิดจะไว้ใจหนุ่มคนงานเขมรข้างห้องจึงเริ่มจะเชื่อนิดๆแล้วว่าสิ่งที่มันพูดมานั้นคือเรื่องจริง
...แล้วแบบนี้ในครั้งต่อไปเธอจะต้องทนอับอายไปให้มันนวดอีกรึเปล่านะ...

คบเด็กข้างบ้าน #4 END

 

แม้ว่าพี่อ๊อฟนั้นจะหายออกจากบ้านไปเกือบๆ 20 นาทีแล้ว แต่สายตาของเราก็ยังคงเอาแต่จับจ้องมองเหม่ออยู่ที่ประตูบ้าน เหมือนกับกำลังรอคอยความเคลื่อนไหวบางอย่างจากหลังประตูบานนั้น แม้ว่าภาพที่เห็นนั้นจะค่อนข้างพร่ามัวจากหยาดน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นอยู่รอบๆ ดวงตาก็ตาม

เราได้แต่นั่งเข่าอ่อนหมดสิ้นเรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นจากพื้น นึกก่นด่าตัวเองที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ แทนที่จะเป็นฝ่ายเอ่ยปากยอมรับผิดไปตรงๆ กลับยิ่งพยายามดิ้นรนแก้ตัว จนทำให้เรื่องทุกอย่างมันเลวร้ายลงไปมากมายขนาดนี้

การได้เห็นพี่เค้าร้องไห้ ทำให้เรายิ่งรู้สึกรังเกียจตัวเองมากขึ้นไปอีก รู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ในหัวใจ เมื่อได้เห็นน้ำตาของผู้ชายที่ตนเองรักค่อยๆ หยดแหมะลงมาเป็นครั้งแรก ใช่ค่ะ ตั้งแต่รู้จักกันมา นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่เราได้เห็นพี่อ๊อฟร้องไห้แบบต่อหน้าต่อตา ซ้ำยังเป็นน้ำตาที่มาจากความเสียใจเพราะสิ่งที่เราทำไว้กับเค้าอีกต่างหาก ยิ่งเห็นก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะพูดแก้ตัวหรือปลอบใจแกยังไงดี ถ้าต้องมาเห็นพี่เค้าร้องไห้เสียใจแบบนี้ สู้ให้เค้าโวยวายด่าว่าเรามาตรงๆ เลยยังจะดีกว่า...

เรานั่งฟุบหน้าร้องไห้อยู่กับโซฟาจนเริ่มเหนื่อย ก่อนจะเผลอหลับไปทั้งๆ อย่างนั้น มาตื่นเอาอีกทีก็เกือบๆ 8 โมงเช้าวันเสาร์ หันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ ทุกอย่างก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิม ประตูบ้านยังคงปิดสนิท ถุงขนมที่วางอยู่บนโต๊ะเมื่อคืนก็ยังคงกองอยู่ที่เดิม เราค่อยๆ ลุกเดินขึ้นไปบนห้องนอนเงียบๆ ภายในห้องนั้นว่างเปล่า ไม่มีร่องรอยใดๆ ว่าพี่อ๊อฟได้ย้อนกลับเข้ามาที่นี่เมื่อคืนนี้

แสดงว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่ฝันร้าย... แต่มันคือความจริง...

ความจริงที่ว่าชีวิตคู่ของเราสองคนกำลังจะเดินทางมาถึงจุดจบ จากความผิดพลาดที่เราได้ก่อเอาไว้ เพราะหลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีทางเลยที่เราจะสามารถเข้าหน้ากับพี่เค้าได้อีกครั้ง แต่คิดไปคิดมา... เจอแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ก็สมน้ำหน้าตัวเองแล้วล่ะ ที่เลือกปล่อยให้ความอยากมันเข้ามาบดบังศีลธรรมจนหน้ามืดตามัวได้ขนาดนี้ แทนที่จะให้พี่เค้าต้องมาเสียเวลาฝืนทนอยู่กับคนเลวๆ แบบเรา สู้ปล่อยให้พี่เค้าได้มีโอกาสไปเจอกับผู้หญิงคนอื่นที่ดีกว่าเรา มันก็สมควรแล้วไม่ใช่เหรอ?

เราใช้หลังมือปาดเช็ดน้ำตาเบาๆ ก่อนที่จะเริ่มต้นเก็บกระเป๋าและจัดเตรียมข้าวของ ทั้งพวกเสื้อผ้า เครื่องใช้จุกจิก รวมถึงแม็คบุ๊คและอุปกรณ์ทำงานต่างๆ เพื่อเตรียมย้ายไปพักที่อื่น บอกตามตรงว่าในตอนนั้นน่ะ เราเองก็ยังไม่รู้หรอกค่ะ ว่าตัวเองกำลังจะเก็บข้าวของไปนอนที่ไหน รู้เพียงแค่ว่าตัวเองคงไม่สามารถบากหน้าทนอยู่ที่นี่ต่อไปได้อีก อย่างน้อยก็ในช่วงอาทิตย์-สองอาทิตย์นี้ ยังไงก็ต้องรีบย้ายออกมาก่อน

และหลังจากคิดทบทวนหาจุดหมายซ้ำไปซ้ำมาอยู่พักใหญ่ๆ ในที่สุดเราก็ตัดสินใจที่จะหลบไปขอพักอยู่ที่คอนโดพี่สาวเป็นการชั่วคราว ซึ่งแม้ว่าจะต้องถูกอีกฝ่ายสอบสวนถึงที่มาของปัญหาที่เกิดขึ้นแหงๆ แต่อย่างน้อยก็คงจะดีกว่าการเลือกไปพักอยู่กับพ่อแม่ของเราล่ะนะ เพราะสองรายนั้นน่ะมีแต่จะทำให้เรื่องมันวุ่นวายใหญ่โตขึ้นอีกหลายเท่าแน่ๆ

ก่อนไปเราก็เลยถือโอกาสแวะไปหานายโมที่บ้าน กะจะบอกให้อีกฝ่ายได้รู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และจะได้ระมัดระวังตัว ไม่ทะเล่อทะล่าโผล่เข้าไปทักทายพี่อ๊อฟแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ประเดี๋ยวจะได้โดนพี่เค้ากระทืบเอาง่ายๆ หรือหากร้ายแรงกว่านั้น ก็อาจจะทำให้พี่เค้าฟิวส์ขาดและพาลทำอะไรรุนแรงลงไปโดยไม่รู้ตัว แล้วคราวนี้ล่ะ เผลอๆ จะได้กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง วุ่นวายกันไปทั้งหมู่บ้าน

แต่ก็ตามประสานายโมล่ะค่ะ เวลาต้องการตัวก็มักจะหายหัวหายตัวไปตลอด

“โมมันยังไม่กลับเลยค่ะพี่ สงสัยไปค้างห้องเพื่อนมั้ง พี่พัชมีธุระอะไรด่วนรึเปล่า?” น้องส้มงัวเงียตอบก่อนจะปิดปากหาว
“เปล่าๆ ไม่มีอะไรจ้ะ พี่แค่จะแวะมายืมแผ่นโปรแกรมจากโมเฉยๆ น่ะ ส้มไปนอนต่อเถอะ ขอบใจมากนะ” เรารีบพูดตัดบท
“ค่ะๆ อืม ว่าแต่นี่พี่พัชกำลังจะไปเที่ยวเหรอคะ? หอบกระเป๋าพะรุงพะรังเลย” อีกฝ่ายเริ่มสังเกตถึงสัมภาระข้างกายของเราขึ้นมา
“อ๋อ... จ้ะ แวะไปทำโปรเจ็คท์กับเพื่อน 2-3 วันน่ะ งั้นพี่ไปก่อนนะ ไว้เจอกันจ้ะ” เราโกหกไปแบบลวกๆ
“สวัสดีค่ะพี่” ส้มยกมือไหว้ก่อนจะปิดประตูหลบเข้าบ้านไป ส่วนเราก็เดินออกมาเรียกแท็กซี่ข้างนอก

ระหว่างที่กำลังอยู่บนแท็กซี่ เราก็ลองโทรไปหานายโมดูอีก แต่โทรอยู่นานสองนานอีตานั่นก็ยังไม่ยอมรับสายซักที เฮ้อ... ช่วยไม่ได้ งั้นที่เหลือก็แล้วแต่เวรแต่กรรมของเธอแล้วกันนะโม เราตัดสินใจกดตัดสายทิ้งพร้อมกับแอบถอนหายใจเบาๆ เห็นสายตาของลุงคนขับแท็กซี่แอบเหลือบมองตามแว้บหนึ่ง ก่อนที่อีกฝ่ายจะรีบหันกลับไปมองถนนต่อ

รถแท็กซี่ขับมาจอดที่หน้าคอนโดแห่งหนึ่งในซอยอารีย์ พอมองออกไปก็เห็นร่างของพี่แวว พี่สาวเรามายืนรอรับอยู่ด้านหน้าคอนโดเรียบร้อยแล้ว

“ของมีแค่นี้เหรอ?” อีกฝ่ายเอ่ยถามทันทีที่เจอหน้า
“อืม” เราพยักหน้าตอบเนือยๆ
“ป่ะ งั้นขึ้นห้องก่อนแล้วกัน” พี่แววว่าพลางเดินนำหน้าเข้าไปในคอนโด พอเข้าลิฟท์ปั๊บเราทั้งคู่ก็เข้าสู่โหมดเดดแอร์ทันที

เราสองคนยืนมองหน้ากันอยู่ในลิฟท์เงียบๆ โดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ต่างฝ่ายต่างก็เหมือนหยุดรอให้อีกคนเป็นผู้เริ่มต้นบทสนทนาขึ้นมาก่อน

“พี่สบายดีใช่ป่าว?” เราชิงเป็นฝ่ายเปิดฉากทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน
“อืม ก็ดี แล้วแกล่ะว่าไง? ไปทะเลาะอะไรกับไอ้อ๊อฟมันอีก ถึงขนาดต้องหนีมาอยู่นี่” พี่แววเปิดฉากเข้าเรื่องโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
“เดี๋ยวหนูค่อยเล่าได้มั้ยอ่ะ ขอพักทำใจก่อน”
“อ่ะ... ตามใจ นี่แสดงว่าแกเป็นฝ่ายผิดใช่มั้ยเนี่ย? ถึงได้พูดอะไรไม่ออกแบบนี้” พี่แววเดาถูกเผง แต่เราก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป แค่ก้มหน้านิ่งๆ ยืนรอจนลิฟท์เปิดออก แล้วจึงเดินตามพี่แววเข้าไปในห้อง

ห้องของพี่แววยังคงเต็มไปด้วยข้าวของวางกองระเกะระกะเหมือนเช่นเคย ที่โต๊ะรับแขกกับโต๊ะกินข้าวก็มีแต่หนังสือกับแฟ้มเอกสารวางกองซ้อนกันเป็นตั้งๆ ก็อย่างว่าละนะสำหรับสาวโสดบ้างานอย่างพี่แววแล้ว ขอแค่ยังมีอินเตอร์เน็ตกับทีวีเอาไว้นอนดูซีรีส์เกาหลีเพลินๆ อยู่ที่ห้อง ข้าวของอย่างอื่นจะเป็นยังไงก็คงจะไม่สำคัญแล้ว

“เอากระเป๋าวางไว้ตรงนั้นก่อนก็ได้ เดี๋ยวค่อยเก็บของทีหลัง แล้วนี่กินอะไรมาแล้วใช่มั้ย?”
“ยังเลย พี่มีอะไรให้หนูกินมั้ยอ่ะ?”
“ไม่มีหรอก นี่ชั้นก็พึ่งตื่นตอนที่แกโทรมานี่แหละ งั้นรอแป๊บนึงแล้วกัน เดี๋ยวโทรสั่งผัดไทยข้างล่างเอาก็ได้”
“ของหนูเอาพิเศษนะ”
“ย่ะ!”

นั่งรอกันอยู่เกือบๆ 10 นาที ผัดไทยที่สั่งก็มาถึง และพอผ่านไปอีกราวๆ 20 นาทีต่อมา ผัดไทยที่เคยอยู่ในจานของเราทั้งคู่ก็หายวับไปราวกับเล่นกล

“ตกลงแกสองคนทะเลาะอะไรกันมา?” พี่แววเอ่ยถามพลางใช้ทิชชู่เช็ดคราบที่มุมปาก
“หนูก็ไม่รู้จะเริ่มเล่ายังไงดี คือ... ” เราตัดสินใจเล่าความจริงทั้งหมดให้พี่สาวตัวเองฟัง ตั้งแต่ตอนที่พึ่งได้รู้จักกับโมเป็นครั้งแรก จวบจนกระทั่งมาถึงเรื่องที่ถูกพี่อ๊อฟจับได้แบบคาหนังคาเขา ส่วนเรื่องที่มีอะไรกันก็แค่รวบรัดเล่าสั้นๆ โดยที่ไม่ได้ไปลงรายละเอียดอะไรมาก พี่แววนั่งนิ่งตั้งใจฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ก่อนที่จะเอ่ยปากแสดงความคิดเห็นขึ้นมา

“สรุปว่า... น้องเค้าแซ่บถึงใจไม่ใช่เล่นสินะเนี่ย” พี่แววเอ่ยแซวด้วยรอยยิ้มทะเล้น จนเราได้แต่บ่นอุบอิบ
“โหย! พี่อ้ะ! อย่ามัวแต่พูดเล่นดิ นี่หนูเครียดจริงจังอยู่นะ ตกลงพี่คิดว่าไง?”
“โอ๊ย! ไม่เห็นต้องคิดอะไรมากมายเลย แกน่ะผิดเต็มๆ ผิดเห็นๆ ถ้าชั้นเป็นไอ้อ๊อฟนะ ป่านนี้แกโดนชั้นประจานไปถึงไหนต่อไหนแล้ว” พี่แววทำเสียงดุ

“อือ หนูก็รู้ว่าหนูผิดแหละ แต่มันก็พลาดไปแล้วนี่นา จะให้ย้อนกลับไปแก้ไขอะไรตอนนี้มันก็ไม่ได้แล้ว” เราครางตัดพ้อ
“เอ๊า! แกก็รู้ตัวดีนี่นา แล้วจะหนีมาหลบอยู่ที่นี่ทำไมยะ? ทำไมไม่ไปเคลียร์กันให้รู้เรื่อง? ก็บอกมันไปสิว่าทีหลังจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว เอ่ยปากขอโทษน่ะทำเป็นมั้ย? จะเอาแต่ปล่อยให้มันคาราคาซังอยู่อย่างนี้อ่ะนะ?” พี่แววอัดกลับมาไม่ยั้ง แม้จะเป็นถ้อยคำจิกกัดเจ็บๆ คันๆ แต่เราก็ยังพอจะสัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่แฝงมาในข้อความเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน

“โธ่... พี่ก็รู้ว่าเวลาพี่อ๊อฟโมโหน่ะ น่ากลัวจะตาย ยิ่งเป็นเรื่องนี้ด้วย พูดตรงๆ นะ ถ้าเจอกันตอนนี้หนูก็คงไม่กล้ามองหน้า ไม่กล้าพูดอะไรกับเค้าอยู่ดีแหละ” เราระบายความกังวลในใจออกไปให้ฟัง ส่วนพี่แววที่ฟังอยู่ก็ได้แต่ส่ายหัวเบาๆ อย่างเอือมระอา
“เฮ้อ.... แกนี่ก็ช่างทำตัวเองแท้ๆ เออๆ ไม่ต้องคิดมาก ยังไงแกก็พักอยู่กับชั้นที่นี่ก่อนก็ได้ แล้วเดี๋ยวพออะไรๆ มันดีขึ้น ก็ค่อยว่ากันอีกที เผื่อไอ้อ๊อฟมันอารมณ์เย็นลงแล้วชั้นจะลองไปคุยๆ กับมันให้” พี่แววบ่นด้วยน้ำเสียงกึ่งๆ สมเพชนิดๆ

“มันจะดีเหรอพี่แวว? เดี๋ยวพี่อ๊อฟเค้าก็พาลมาโกรธพี่ด้วยหรอก” เราถามเหมือนไม่ค่อยจะมั่นใจเท่าไหร่ จนอีกฝ่ายชักเริ่มรำคาญ
“โอ๊ย! เรื่องของชั้นน่าแกไม่ต้องมาห่วงหรอก ห่วงแต่ตัวเองก่อนเหอะ นี่เอาเสื้อผ้งเสื้อผ้าอะไรมาครบแล้วใช่มั้ย?”
“อือ...” เราพยักหน้ารับ
“งั้นก็เก็บของไปก่อนแล้วกัน ชั้นจะอาบน้ำละ” พี่แววพูดตัดบทพร้อมกับลุกหนีไป

การได้ระบายปัญหาอัดอั้นตันใจออกไปให้ใครซักคนฟัง แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ช่วยให้ปัญหาเหล่านั้นคลี่คลายหรือแก้ไขอะไรได้ แต่อย่างน้อยๆ มันก็ยังพอจะช่วยให้เราไม่ต้องแบกรับกับความรู้สึกอึดอัดเหล่านั้นอยู่คนเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ฟังที่ว่านั้นคือพี่สาวแท้ๆ อย่างพี่แวว ซึ่งคอยเป็นที่ปรึกษาปัญหาชีวิตให้เรามาตั้งแต่เด็กๆ แม้ว่าคำแนะนำของพี่แกจะแฝงมาในรูปแบบของการจิกกัดซ้ำเติมก็ตาม

พอตกเย็น ช่วงที่พี่แววออกไปทำธุระข้างนอก เราจึงถือโอกาสลองโทรไปหาโมดูอีกรอบหนึ่ง ซึ่งคราวนี้เจ้าตัวก็ยอมกดรับสายในที่สุด

“ฮัลโหลครับพี่” เสียงปลายสายเอ่ยทักทายขึ้นมา แอบได้ยินเสียงคนคุยกันโหวกเหวก ลอดเข้ามาในโทรศัพท์
“โมเหรอ? ตอนนี้โมอยู่ที่ไหน?” เราเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกังวล
“อ๋อ ผมอยู่หอเพื่อนน่ะครับ พี่พัชมีอะไรรึเปล่า?” น้ำเสียงของโมคล้ายจะประหลาดใจเล็กๆ ที่จู่ๆ เราเกิดถามอะไรจุกจิกขึ้นมา

“พี่อยากปรึกษาเรื่องของเราหน่อย โมสะดวกคุยรึเปล่า?”
“อืม งั้นแป๊บนึงนะครับพี่ เดี๋ยวผมขอย้ายที่คุยหน่อย เสียงมันดังไปนิด..... โอเค ว่าไงครับพี่?”
“คือ... พี่อ๊อฟเค้ารู้เรื่องทั้งหมดแล้วนะ...” เราพูดออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“พี่หมายถึง เรื่องของผมกับพี่น่ะเหรอ?”

“ใช่ พี่เลยอยากโทรมาเตือนโมไว้ก่อน เผื่อจะได้เลี่ยงๆ อย่าพึ่งไปเจอหน้าพี่อ๊อฟเค้าตอนนี้ เดี๋ยวมันจะมีเรื่องขึ้นมา”
“อืม... ครับพี่ แล้วนี่พี่ยังอยู่ที่บ้านรึเปล่า?”
“เปล่าๆ ตอนนี้พี่มาพักอยู่กับพี่สาวน่ะ พึ่งขนของมาเมื่อเช้านี้เอง”

“นี่พี่อ๊อฟเค้าไล่พี่ออกจากบ้านเลยเหรอ?”
“ไม่หรอก นี่พี่ตัดสินใจออกมาเองแหละ พี่แค่ยังไม่พร้อมที่จะสู้หน้าเค้าตอนนี้เฉยๆ”
“ขอโทษนะพี่... ผมไม่คิดว่าเรื่องมันจะลุกลามใหญ่โตขนาดนี้”
“อืม ช่างมันเถอะ พี่ต่างหากที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจเอง” เราพูดก่นด่าตัวเอง ส่วนโมที่ฟังอยู่ก็ได้แต่นิ่งเงียบไปพักใหญ่ๆ

“แล้วนี่.... พี่จะทำไงต่อฮะ?” โมเอ่ยปากถามทำลายความเงียบขึ้นมา
“ก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ คงดูๆ ไปก่อน ถ้าสุดท้ายมันต้องจบก็คงต้องจบ คงไปยื้ออะไรไม่ได้แล้ว”
“พี่พัช ผมขอโทษจริงๆ นะ พี่อยากให้ผมเข้าไปช่วยพูดกับพี่อ๊อฟให้มั้ย?”
“เอ้ย! ไม่ต้องหรอก โมอย่าพึ่งคิดมากเลย เดี๋ยวพี่ค่อยไปคุยกับพี่เค้าเองแหละ ไม่ต้องห่วง” พอเราพูดจบ ต่างฝ่ายก็ต่างเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรกันต่อ ก่อนที่เราจะได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนเรียกหาโมดังลอดออกมาจากโทรศัพท์

“โมไปอยู่กับเพื่อนก่อนเถอะ พี่ไม่กวนแล้ว แค่นี้ก่อนนะ” เราชิงพูดตัดบทขึ้นมา
“อืม... งั้นไว้ผมค่อยโทรกลับอีกทีนะครับ” อีกฝ่ายเหมือนจะยังงุนงงอ้ำๆ อึ้งๆ ทำอะไรไม่ถูก
“จ้ะๆ แค่นี้นะ” เราพูดพร้อมกับกดวางสาย

=======================================

เวลาก็ดำเนินผ่านไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ที่เราย้ายมาอยู่กับพี่แววนั้น ถึงตรงนี้ก็ผ่านมาได้เกือบอาทิตย์นึงแล้ว  ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ความสัมพันธ์ของเรากับพี่อ๊อฟก็แทบจะเรียกได้ว่า ตัดขาดกันอย่างสมบูรณ์เลยก็ว่าได้

ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครโทรหาหรือติดต่อกัน ในฝั่งของเราน่ะรู้ดีว่าตัวเองยังคงรู้สึกผิด และไม่กล้าที่จะไปสู้หน้าหรือพูดจาอะไรกับพี่เค้าได้อีก ส่วนทางฝั่งของพี่อ๊อฟนั้นก็คงจะโกรธหรือเกลียด จนไม่อยากที่จะเห็นหน้า หรือได้ยินแม้แต่เสียงของเรา จึงเลือกที่จะหายตัวไปจากชีวิตของเราแบบนี้

พอคิดแบบนี้ทีไรเราก็อดรู้สึกแย่ไม่ได้ทุกที บางครั้งนอนๆ อยู่น้ำตามันก็เผลอไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ได้แต่นึกสมเพชในการกระทำของตัวเอง ที่มีส่วนทำให้ชีวิตคู่ต้องพังยับเยินลงไปแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประโยคแย่ๆ ที่เราใช้ประชดใส่เค้า เมื่อตอนที่เราสองคนทะเลาะกัน ถ้อยคำเหล่านั้นมันกลับกลายมาเป็นบ่วงบาศก์รัดคอ ที่คอยตามหลอกหลอนความรู้สึกของเราให้ย่ำแย่ลงไปอีกทุกครั้งที่เผลอไปนึกถึงช่วงเวลานั้น

ก็อย่างที่เค้าว่ากันไว้จริงๆ 'กว่าที่เราจะรู้ซึ้งถึงคุณค่าของอะไรบางอย่าง ก็ต่อเมื่อเรารู้ตัวว่าได้สูญเสียมันไปแล้วนั่นแหละ'

ตลอดระยะเวลาที่คบกันมา เราแทบไม่เคยรู้ตัวเลยว่าที่จริงแล้วตัวเองนั้นโชคดีแค่ไหนที่ได้ผู้ชายคนนี้มาเป็นคู่ชีวิต ทั้งการเทคแคร์ดูแลที่ไม่เคยขาดตกบกพร่อง จากวันแรกที่คบกันจวบจนกระทั่งถึงตอนนี้ ทั้งการเป็นที่ปรึกษาให้ทั้งปัญหาเรื่องงาน สุขภาพ ครอบครัว ตลอดจนถึงเรื่องชีวิตประจำวันต่างๆ ทั้งตอนที่เราตัดสินใจเลิกทำงานประจำ ซึ่งแม้ว่าคนที่บ้านจะคัดค้านยังไง แต่พี่เค้าก็ยังคอยสนับสนุนเรา แถมยังเป็นฝ่ายรับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้เราได้ตัดสินใจทำตามความฝันของตัวเองแบบเต็มที่

อาจเพราะพี่เค้าเป็นฝ่ายเดินเข้ามาจีบเราตั้งแต่ต้นด้วยล่ะมั้ง มันจึงทำให้เราเผลอมองเห็นคุณค่าของความรักที่พี่เค้ามอบให้ว่าเป็นของตาย ยังไงๆ พี่เค้าก็คงไม่มีทางทิ้งเราไปไหนได้ แถมช่วงที่พึ่งเริ่มคบกันใหม่ๆ เรายังแอบหลงตัวเอง คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายมีสิทธิ์เลือก จะบอกเลิกหรือทิ้งพี่เค้าไปเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วเป็นไงล่ะ... พอเวลาที่ใกล้จะต้องเลิกกันจริงๆ ถึงได้มานั่งฟูมฟายอยู่ตรงนี้

ไม่รู้ว่าพี่แววเห็นเราร้องไห้บ่อยๆ จนเกิดนึกสงสาร หรือว่าทนสมเพชไม่ไหวขึ้นมา สุดท้ายแล้วพี่เค้าจึงตัดสินใจขอคุยเปิดอกกับเราแบบตรงๆ

“นี่... เมื่อไหร่แกจะกลับไปคืนดีกับไอ้อ๊อฟซักทีห๊ะ? จะเอาแต่หลบอยู่ที่นี่ไปตลอดรึไง ชั้นอึดอัดนะ รู้ป่ะเนี่ย?” พี่แววเริ่มต้นเปิดหัวด้วยคำพูดเจ็บๆ ตามประสา
“หูย... พี่อ่ะ หนูเศร้าอยู่นะ อย่าพึ่งหาเรื่องด่าหนูตอนนี้ได้มั้ย?” เราพยายามยกข้ออ้างขึ้นมาพูดปกป้องตัวเอง

“นี่... หล่อน... ถ้าแกมาพักทำใจอยู่วันสองวันเนี่ย ชั้นก็จะไม่บ่นซักคำหรอกนะคะแม่คุณขา แต่นี่มันล่อเข้าไปจะอาทิตย์นึงอยู่แล้ว รายงานที่เรียนก็ไม่มีกระจิตกระใจทำ งานออกแบบก็ไม่คิดจะติดต่อหาลูกค้า ถามจริงเหอะ แกจะแบกคอมมาทำไมให้หนักเปล่าๆ ห๊ะ? เอาแต่นั่งเปื่อยๆ ทำหน้าเป็นหมาหงอยอยู่ที่ห้องทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ เดี๋ยวเกิดชั้นติดโรคซึมเศร้าหงอยเหงาของแกขึ้นมาจะทำยังไง? ขี้เกียจไปหาหมอนะโว้ย!” พี่แววได้ทีอัดใส่เราไม่ยั้งจนเราไม่รู้จะตอบโต้ยังไง

“พี่จะว่าอะไรหนูก็ว่าไปเหอะ ชีวิตหนูมันก็เฮงซวยแบบนี้แหละ หนูชินแล้ว...” เราพูดตัดบทห้วนๆ
“โถๆๆๆ แม่คุณ ก็ที่ชีวิตแกมันแย่เนี่ย ไม่ใช่เพราะแกเป็นคนไปสุมไฟก่อปัญหาขึ้นมาเองรึไงยะ?” อีกฝ่ายยังไม่ยอมเลิกราง่ายๆ
“อือ... รู้น่า แล้วจะให้ทำไง? ก็เรื่องมันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว” เราตอบไปตามตรงอย่างจนใจ

“ชั้นถามจริงๆ นะ แกทำใจได้แน่เหรอ ถ้าต้องเลิกกับไอ้อ๊อฟมันน่ะ” พี่สาวตัวแสบถามคำถามจี้ใจดำเราแบบตรงเป้าเผง
“ก็ถ้าพี่เค้าอยากเลิกจริงๆ มันก็สมควรกับสิ่งที่หนูทำลงไปแล้วนี่นา” เราตอบงุบงิบเหมือนยอมรับความจริงได้ ทั้งที่ในใจนั้นเจ็บจี๊ด
“ตอบไม่ตรงคำถามเลยว่ะ ชั้นถามว่าแกน่ะทำใจได้เหรอ?” อีกฝ่ายยังถามย้ำ
“ไม่รู้สิ.... หนูไม่รู้... คงไม่ได้หรอกมั้ง ฮือ...” เรานิ่งคิดแป๊บนึงก่อนจะยอมสารภาพไปตามตรง พร้อมกับทำท่าว่าจะปล่อยโฮออกมา
“เออ ก็แค่เนี้ย ทำมาลีลาเล่นตัวเป็นนางเอกอยู่ได้ วุ้ย!” พี่แววเหน็บ แล้วจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออก

“ฮัลโหล เออ ถือสายรอแป๊บนึงนะ ไอ้พัชมันจะคุยด้วย” พี่แววบอกกับคนที่ปลายสายก่อนจะยื่นส่งโทรศัพท์มาให้เราคุย เสร็จแล้วพี่แกก็เดินหนีไปที่อื่น พอเรารับโทรศัพท์มาดูจึงได้รู้ว่าคนที่อยู่ในสายตอนนี้ก็คือพี่อ๊อฟนั่นเอง
“ฮะ... ฮัลโหล พี่อ๊อฟเหรอ? นี่... นี่พัชเองนะ” เราหลุดทักออกไปแบบตะกุกตะกัก เนื่องจากยังไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ก่อน อีกฝ่ายฟังแล้วก็ยังคงนิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรกลับมา

“พี่อ๊อฟ... สบายดีมั้ย?” เราลองเอ่ยปากถามต่อไป แต่ก็เหมือนจะไม่คืบหน้าอะไรเท่าไหร่
“พี่อ๊อฟ... พี่อ๊อฟยังโกรธหนูอยู่เหรอ?” เงียบ... ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจซักแอะ
“พี่... พี่คุยกับหนูหน่อยได้มั้ย หนูขอร้อง” เราเอ่ยปากอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังคงไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก อีกฝ่ายยังคงไม่ยอมเปิดปากง่ายๆ... เออ เอาเข้าไป ไอ้เรารึอุตส่าห์กลั้นใจยอมเป็นฝ่ายเปิดปากชวนคุยก่อน แต่พี่แกก็ดันเอาแต่นั่งนิ่งเป็นบ้าเป็นใบ้อยู่แบบนี้

“โอเค... หนูขอโทษที่โทรมารบกวน งั้นแค่นี้นะคะ” เราตัดสินใจตัดบทเตรียมจะวางสาย ในเมื่ออีกฝ่ายไม่อยากคุยด้วยก็ไม่รู้ว่าจะยังหน้าด้านไปรบกวนเค้าอยู่ทำไม
“เดี๋ยว... พัช” เสียงเรียกของพี่อ๊อฟดังลอดออกมาในจังหวะที่เรากำลังจะกดวางหูพอดิบพอดี ในที่สุดพ่อคุณเค้าก็ยอมเปิดปากพูดขึ้นมาซักที เฮ้อ... ดูสิ เล่นปล่อยให้เรานั่งอึดอัดจนแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวอยู่แล้วนะเนี่ย

“นี่พัชอยู่ที่คอนโดแววเหรอ?”
“อือ” เราตอบเสียงสั่น พร้อมกับใช้หลังมือปาดคราบน้ำตาที่เริ่มจะเอ่อซึมออกมา
“อ้าว... ทำไมไม่อยู่บ้านล่ะ? นี่พี่อุตส่าห์ออกมานอนค้างที่บ้านไอ้ยอดมันเนี่ย กะว่าเธอจะได้ไม่ต้องย้ายออกไปไหนให้ลำบาก”
“ไม่เอาหรอก หนูเป็นคนผิดเอง ให้หนูย้ายออกมาแบบนี้แหละดีแล้ว”
“เฮ้อ....” พี่อ๊อฟฟังแล้วก็ถอนหายใจยาวๆ เหมือนหน่ายใจ

“ขอโทษค่ะ หนูคงทำให้พี่รำคาญใจอีกแล้ว”
“เปล่า พี่ไม่ได้รำคาญพัชหรอก พี่ก็แค่... เสียใจที่เรื่องมันออกมาเป็นแบบนี้ จริงๆ แล้วคืนนั้นพี่ไม่ได้ตั้งใจที่จะกดดันเธอขนาดนั้นหรอกนะ เพียงแต่พี่... พี่ลืมตัวไปหน่อย... พอกลับมาจากบ้านไอ้ยอดแล้วไม่เห็นเธอก็เริ่มจะใจแป้วขึ้นมา ยิ่งนานไปก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ กลัวว่าเธอจะทิ้งพี่ไปแล้วจริงๆ แต่จะโทรไปหาก็กลัวจะเข้าหน้ากันไม่ติด ก็เลยได้แต่ร้อนใจอยู่แบบนี้ แต่พอได้รู้จากยัยแววว่าเธอย้ายไปอยู่ด้วยก็เลยพอจะโล่งใจขึ้นมาบ้าง” พี่อ๊อฟระบายความรู้สึกในใจออกมาให้เราฟังตรงๆ

คำพูดที่ได้ยินมันทำให้เรารู้สึกอุ่นวาบไปทั่วทั้งร่าง เป็นเสมือนอ้อมกอดที่ช่วยส่งมอบความอบอุ่น ให้กับคนที่กำลังหลงทางและเคว้งคว้างไร้จุดหมายอย่างเราในตอนนี้... แม้ว่าเราสองคนจะกำลังมีปัญหาระหองระแหงจนแทบจะเลิกกันอยู่ในเร็ววันนี้ แต่พี่เค้าก็ยังคงอุตส่าห์ที่จะนึกเป็นห่วงคนผิดอย่างเราขึ้นมา ความอ่อนโยนที่พี่อ๊อฟแสดงออกมา มันทำให้เราถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ หยาดน้ำใสๆ ไหลพรั่งพรูออกมาราวกับเขื่อนแตก

“พี่.... หนูขอโทษจริงๆ อึ่ก... ฮือ... ออออ” คำพูดขอโทษหลุดออกจากปากเราอย่างง่ายดาย แทบจะพุ่งทะลุออกมาจากจิตใต้สำนึกลึกๆ ด้วยซ้ำ พี่อ๊อฟฟังแล้วก็คงอดสงสารเราไม่ได้ รีบเอ่ยถ้อยคำปลอบโยนปลอบใจกลับมาในทันใด
“พัช... อย่าร้องไห้เลยนะ พี่รักพัชนะรู้มั้ย...?”
“ฮือ... อออ หนูขอโทษ... พี่อย่าทิ้งหนูเลยนะ” เราร้องไห้ครวญครางอ้อนวอนอย่างหมดอาย
“พี่ไม่ทิ้งพัชหรอก... กลับมานะ... กลับมาบ้านเรา พี่จะไม่ต่อว่าอะไรเธออีกแล้ว...”
“อึ่ก... อื้อ... อื้อ!!” เราสะอึกสะอื้นตอบแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง

มันเป็นความรู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจแบบไม่น่าเชื่อ หลังจากที่ต้องทนทรมานอยู่กับความอึดอัดมานานเกือบสัปดาห์ ทั้งความรู้สึกผิดจากสิ่งที่ตัวเองได้ก่อ อาการเย็นชาบึ้งตึงของพี่อ๊อฟ ที่เงียบหายไปราวกับว่าไม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ ทุกอย่างมันรุมเล่นงานเข้ามาพร้อมๆ กันในทีเดียวจนเราแทบจะประสาทกิน กระทั่งพอได้มาคุยเปิดใจกับพี่อ๊อฟในวันนี้นี่แหละ เราถึงเริ่มที่จะผ่อนคลายความเครียดลงไปบ้าง

=======================================

“จะให้ชั้นเข้าไปส่งมั้ย?” พี่แววเอ่ยถามหลังจากขับรถพาเรามาส่งถึงหน้าประตูบ้าน
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องหรอก” เราส่ายหัวเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มแห้งๆ
“ตามใจ งั้นก็... คุยกันดีๆ แล้วกันนะ อย่าพึ่งใจร้อน ชั้นคุยกับไอ้อ๊อฟมันให้ก่อนหน้านี้แล้วว่าห้ามดุด่า ลงไม้ลงมือกับแกอีกเด็ดขาด เพราะงั้นแกก็อย่าไปทะลึ่งยั่วโมโหมันแล้วกัน” พี่สาวจอมแสบของเราหยอดทิ้งท้ายเอาไว้
“อือ รู้แล้วน่า... งั้นหนูไปละ ขอบคุณมากนะพี่” เราเอ่ยปากขอบคุณ ก่อนจะหอบพาร่างของตัวเองเดินฉับๆ เข้าไปหยุดอยู่หน้าประตูบ้าน

เราสูดลมหายใจลึกๆ อยู่ 2-3 ที ก่อนจะใช้มือหมุนลูกบิดแล้วดันประตูเข้าไป พอเข้ามาในบ้านปั๊บ สายตาก็พลันสบเข้ากับร่างของพี่อ๊อฟที่นั่งรออยู่บนโซฟาทันที ต่างฝ่ายต่างจ้องตากันเหมือนอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะพูดจาหรือทักทายอะไรกันดี

“อ้อ... พัชมาแล้วเหรอ...” พี่อ๊อฟเป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นมาเป็นคนแรก ก่อนจะลุกเดินเข้ามาช่วยเราหิ้วกระเป๋าเป้ไปวางเก็บไว้ให้
“เป็นไงบ้าง? ทำไมทำหน้าหงอยๆ แบบนั้นล่ะ?” พี่เค้าเอ่ยถามต่อเมื่อเห็นว่าเรายังคงนิ่งเงียบเหมือนเดิม ก็แหม... ไอ้เรามันคนทำผิด จะให้เจอหน้ากันแล้วแฮปปี้ดี๊ด๊าทันทีเลยมันก็ไม่เหมาะใช่มั้ยล่ะคะ ก็เลยยังรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ไม่รู้จะพูดยังไงออกไปดี

“พี่อ๊อฟ... เอ่อ... สบายดีนะ?” เราเอ่ยทักทายด้วยถ้อยคำง่ายๆ เท่าที่ในหัวจะคิดได้ในตอนนั้น
“อืม 2-3 วันมานี้ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ แล้วพัชล่ะ สบายดีนะ?”
“อือ....”
“ไปอยู่นู่น โดนไอ้แววมันบ่นอะไรอีกรึเปล่า?”
“อืม ไม่หรอก” เราตอบกลับไปสั้นๆ ก่อนที่ทั้งเราและพี่เค้าจะกลับเข้าสู่ช่วงเดดแอร์กันอีกรอบ

ทั้งๆ ที่เรานั้นโคตรจะดีใจที่ได้กลับมายืนอยู่ตรงหน้าพี่เค้าแบบนี้ แต่ปากมันกลับพูดอะไรไม่ออกจริงๆ พอเห็นว่าบรรยากาศมันชักจะไม่ได้การแล้ว เราจึงตัดสินใจรวบรวมความกล้าและพูดเข้าประเด็นตรงๆ ไปเลย โดยที่ไม่ต้องมาคอยอ้อมค้อมกันอีก

“หนูรู้ว่าต่อให้สัญญาอะไรไปตอนนี้ พี่ก็คงยากที่จะทำใจเชื่อหนูได้อยู่ดี แต่ถ้าพี่ให้โอกาสหนูซักครั้ง... หนูสัญญานะว่าจะไม่ทำผิดพลาดซ้ำสองอีก หนูจะเลิกยุ่งกับโมจริงๆ พี่ให้โอกาสหนูได้มั้ย?” เราเอ่ยพร้อมกับยกมือไหว้ เพื่อหวังจะขอโอกาสเริ่มต้นกันใหม่

พี่อ๊อฟฟังคำอ้อนวอนของเราก่อนจะนิ่งเงียบไปอีกพักใหญ่ๆ ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมา ก้อนความรู้สึกต่างๆ เริ่มปีนขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ หยดน้ำตาค่อยๆ เอ่อซึมจนล้นออกมาจากดวงตาของเราอีกครั้ง ก่อนที่พี่อ๊อฟจะยอมเปิดปากระบายความรู้สึกในใจออกมาให้ฟัง

“พัชรู้มั้ยว่าตลอดเวลาที่เราห่างกันไป... พี่เฝ้าคิดทบทวนซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุดเลยนะ ว่าชีวิตคู่ของเราที่ผ่านมาจริงๆ แล้วมันเป็นแค่ภาพลวงตารึเปล่า... พี่เริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่อยู่ด้วยกัน พัชเคยรักพี่จริงๆ บ้างมั้ย? หรือที่อยู่ๆ กันไปนี่เพราะพัชแค่ผูกพัน… สมเพช... สงสาร หรือว่านึกเห็นใจพี่ พอพี่คิดแบบนี้แล้วพี่ก็ตอบตัวเองไม่ได้จริงๆ ว่าพัชเคยรักพี่บ้างรึเปล่า ไม่รู้จริงๆ...” ถ้อยคำจากปากของพี่อ๊อฟฉายแววความรู้สึกผิดหวังออกมาอย่างชัดเจน แม้สีหน้าของคนพูดจะดูเรียบเฉย แต่แววตานั้นกลับแฝงไว้ซึ่งความเจ็บปวดรวดร้าวอยู่ภายใน

“มันมีบางช่วงที่พี่เคยคิดเหมือนกันนะ ว่าชีวิตคู่ของเรามันก็คงเดินมาได้จนสุดทางแค่นี้แหละ สุดท้ายแล้วเราก็คงจะต้องเลิกกันแน่ๆ ในเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างมันไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อพัชเองก็อาจจะหมดรักพี่ไปตั้งนานแล้วก็ได้ ตอนนั้นน่ะพี่เกือบจะถอดใจอยู่แล้วนะ... แต่เชื่อมั้ย? พอพี่ลองคิดทบทวนกับตัวเองดูดีๆ พี่ถึงได้ค้นพบความจริงข้อนึงที่ว่า... ต่อให้พัชจะไม่ได้รักพี่เหมือนเมื่อก่อน ไม่สิ... ต่อให้พัชจะไม่เคยรักพี่มาตั้งแต่ต้นเลยก็ตาม แต่พี่ก็ยังรักพัชเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน...”

พอพี่อ๊อฟพูดมาถึงตรงนี้เท่านั้นแหละค่ะ น้ำตาของเราก็ไหลทะลักพรากๆ ออกมาจนเหมือนเขื่อนแตก รีบกระโจนเข้าไปกอดร่างของพี่เค้าไว้พร้อมกับร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดกลั้น

“พี่... หนูขอโทษ หนูรักพี่นะ.... หนูจะไม่ทำให้พี่เสียใจอีกแล้ว” เราสะอึกสะอื้นฟูมฟายราวกับเด็กๆ
“สัญญาแล้วนะ ว่าจะไม่มีเรื่องพวกนี้อีกเป็นครั้งที่สอง” พี่อ๊อฟเอ่ยด้วยถ้อยคำเคลือบแคลงแต่ยังแฝงเอาไว้ด้วยน้ำเสียงที่ดูเชื่อมั่น
“สัญญา... จริงๆ” เราตอบกลับไปอย่างหนักแน่น

“เค้าไม่อยากให้เราเลิกกันนะ รู้ใช่มั้ย?” พี่เค้าเอ่ยย้ำเสียงสั่น สรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัวก็เริ่มกลับมาอ่อนหวานเหมือนก่อนหน้านี้
“อื้อ! หนูก็เหมือนกัน” เราใช้หลังมือปาดเช็ดน้ำตา ก่อนจะซุกหน้าเข้ากับอกของพี่อ๊อฟด้วยความซาบซึ้ง ซึ่งพี่เค้าก็รีบใช้สองมือโอบกอดร่างของเราไว้แทบจะในทันที ความรู้สึกอึดอัดกังวลที่สั่งสมมาตลอดสัปดาห์ก็พลันมลายหายไปจนหมดสิ้น

ลึกๆ ในใจเราน่ะรู้ดีแหละว่า แก้วที่เคยแตกไปแล้ว ต่อให้จับกลับมาต่อกันใหม่ สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้ประสานกันเป็นเนื้อเดียวอยู่ดี และความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ที่เคยแตกร้าว ก็ย่อมไม่กลับมาแนบสนิทเชื่อใจกันได้ร้อยเปอร์เซนต์เหมือนเดิม แต่สำหรับเราแล้วมันก็ไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก... ต่อให้มันจะมีรูรั่ว หรือรอยร้าวสักเท่าไหร่ ขอแค่เราทั้งคู่ยังพยายามประคับประคองความรักให้กันอยู่ ไม่ยอมถอดใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน มันก็คงจะเพียงพอแล้ว....

“หนูรักพี่นะ” มันเป็นประโยคที่กลั่นออกมาจากความรู้สึก โดยที่เราไม่ต้องพยายามปั้นแต่งใดๆ เพิ่มเติม และทำให้เราได้รับรู้จากก้นบึ้งของหัวใจ ว่าตัวเองนั้นรักผู้ชายคนนี้มากมายขนาดไหน
“อืม... มมมม” พี่อ๊อฟส่งเสียงครางยาวๆ ในลำคอแทนการตอบรับ ใช้มือขวาลูบหัวเราเบาๆ อย่างทะนุถนอม ก่อนจะก้มหน้าลงมาจูบอย่างอ่อนโยน

เราหลับตาลง เผยอปากจูบพี่เค้าตอบ ความรู้สึกอบอุ่นไหลซ่านซึมผ่านเข้าสู่ร่างกาย เมื่อริมฝีปากของเราทั้งคู่ประกบแนบสนิท ร่างของเราเอนคล้อยไปทางด้านหลังด้วยแรงกดจากน้ำหนักตัวของพี่อ๊อฟ ใช้สองแขนประคองโอบกอดร่างของพี่เค้าไว้เพื่อทรงตัว ขณะปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับรสจูบอันอ่อนหวานละมุนละไม

เรายืนจูบกันอยู่ครู่ใหญ่ๆ ก่อนที่พี่อ๊อฟจะจูงมือพาเราเดินขึ้นมาบนห้องนอน ค่อยๆ ปลดเปลื้องชุดเดรสกระโปรงของเราลงไปกองอยู่บนพื้น ก่อนที่พี่เค้าจะรูดเอาเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ของตัวเองออกจากร่างกายตามไปด้วย ร่างของเราทั้งคู่โผเข้าหากัน ประกบจูบปากกันอย่างดูดดื่ม ต่างฝ่ายต่างกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนพลิกกลิ้งลงไปกองอยู่บนเตียง

พี่อ๊อฟนั้นดูจะคึกคักสุดขีด เรือนร่างอันใหญ่โตของพี่เค้านอนคร่อมทับอยู่บนร่างของเรา ปากก็คอยประกบจูบ ส่วนมือก็เอื้อมมาบีบคลึงขยำเข้าที่เต้านมของเราไปด้วยอย่างเมามัน จนเราได้แต่ส่งเสียงครางอืมๆ อยู่ในลำคอด้วยความกระสันซ่านรัญจวนใจ ไม่นานยกทรงสีขาวก็ถูกปลดกระชากจนหลุดออก ปล่อยให้ทรวงอกเปลือยเปล่าได้สัมผัสเข้ากับไออุ่นจากฝ่ามือของพี่เค้าโดยตรง

ปลายนิ้วอุ่นๆ ของพี่อ๊อฟเริ่มที่จะเลื้อยลงต่ำโดยมีจุดหมายปลายทางคือเนินเนื้อสาวด้านล่างของเรา สองขาของเราเผลอขยับหนีบเข้าหากันแน่นตามสัญชาตญาณ แต่มือซ้ายของพี่เค้าก็ยังพุ่งทะลวงแทรกเข้ามาได้จนถึงกึ่งกลางหว่างขา ก่อนจะคว้าหมับจับเข้าที่กลางเป้าของเราแบบเต็มๆ

“อือ.... อื้อ... อออออ” เสียงครางของเราดังอู้อี้ฟังไม่รู้เรื่อง เรือนร่างกระตุกสั่นดิ้นพล่านๆ ไปมาสู้กับลีลาปลุกเร้าของอีกฝ่าย รู้สึกโหวงๆ หวิวๆ เมื่อโดนปลายนิ้วของพี่อ๊อฟบดคลึงที่บริเวณปุ่มกระสันย้ำๆ ซ้ำๆ พอพี่อ๊อฟเล้าโลมเราจนเปียกได้ที่แล้ว พี่เค้าก็ใช้มือรูดเอาปราการด่านสุดท้ายของเราออกด้วยความรวดเร็ว จนเราตกอยู่ในสภาพตัวเปล่าล่อนจ้อนในที่สุด

เราเผลอใช้สองมือปกปิดอวัยวะทั้งด้านบนและด้านล่างของตัวเองเอาไว้อย่างลืมตัว ทั้งๆ ที่เราสองคนก็เคยมีอะไรกันมาเป็นร้อยๆ พันๆ ครั้ง จนแทบจะจินตนาการถึงภาพเรือนร่างเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายอยู่ในหัวได้โดยไม่ต้องมองเลยด้วยซ้ำ แต่เรากลับรู้สึกเขินอายราวกับว่าพึ่งจะเคยได้มีประสบการณ์เรื่องนี้เป็นครั้งแรกขึ้นมาซะอย่างนั้น ไม่รู้สิ... บางทีอาจเป็นเพราะเราสองคนพึ่งจะกลับมาคืนดีกันได้หมาดๆ หลังจากทะเลาะกันรุนแรงด้วยล่ะมั้ง ก็เลยยังมีแอบรู้สึกขัดๆ เขินๆ อยู่บ้าง

พอเสื้อผ้าของเราหลุดออกปไหมดแล้ว ก็ถึงคราวของพี่อ๊อฟกันบ้าง พี่เค้ารูดกางเกงในของตัวเองพรืดเดียวหลุดออก ก่อนจะขยับเข้ามาทาบทับร่างของเราดังเดิม ใช้มือดันหน้าขาของเราให้เปิดอ้าออกกว้าง พร้อมกับจ่อแท่งเนื้อดุนเข้ามาที่ปากร่องสาวของเราเบาๆ

“อืม... มมม” เราหลุดครางออกไปเบาๆ ด้วยความหวาดเสียว พี่อ๊อฟมองหน้าเราแล้วก็อมยิ้มอย่างเอ็นดู
“ไม่ต้องเกร็งนะ เดี๋ยวเค้าจะค่อยๆ ทำเบาๆ” พี่อ๊อฟพยายามปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่เราก็ยังคงอดนึกระแวงไม่ได้อยู่ดี ในหัวมันก็แอบคิดกังวลเป็นการใหญ่ ไม่ใช่ว่ากลัวเจ็บหรอกนะคะ แต่กลัวว่าพี่เค้าจะรู้สึกได้ว่าอะไรๆ ด้านในมันดูไม่ค่อยจะเหมือนเดิมต่างหาก

ก็แหม... ไอ้ตรงนั้นของนายโมมันออกจะใหญ่โตขนาดนั้นนี่นา... แล้วจะไม่ให้เรากังวลกับสภาพความฟิตของตัวเองได้ยังไงล่ะคะ?

แต่โชคดีที่พี่อ๊อฟเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีหงุดหงิดหรือไม่พอใจอะไรออกมาให้เห็น พี่แกยังคงตั้งหน้าตั้งตาออกแรงกดท่อนเนื้อให้มุดทิ่มเข้ามาในร่างของเราอย่างใจจดใจจ่อ ทีละนิด... ทีละนิด... ยิ่งพอมาเจอกับความเปียกชื้นตรงบริเวณปากทางเข้าด้วยแล้ว ก็เลยทำให้ปลายหัวของดอกเห็ดค่อยๆ จมหายเข้าไปด้านในได้อย่างง่ายดาย

“อือ... ออออ ” เราถึงกับออกอาการเสียวเกร็งไปทั่วทั้งร่าง ได้แต่นอนหลับตาปี๋ ส่งเสียงร้องครางฮือๆ ออกมาเป็นจังหวะ ส่วนมือก็เผลอคว้าจิกเข้าไปที่แผ่นหลังของพี่อ๊อฟอย่างลืมตัว ซึ่งพอเห็นอาการของเราแบบนั้นแล้วพี่เค้าก็จะคอยหยุดชะลอเว้นช่วงให้เป็นระยะๆ เพื่อรอให้เราผ่อนคลายจากอาการจุกเกร็งเสียก่อน แล้วจึงค่อยๆ ออกแรงกดทิ่มเข้าไปใหม่

ช่องว่างแห่งความเหินห่างค่อยๆ ถูกบีบให้แคบลงๆ เรื่อยๆ... ค่อยๆ ขยับเดินหน้าเข้าหากันอย่างเชื่องช้า แต่มั่นคง... จนกระทั่งแก่นกายของพี่อ๊อฟสอดลึกเข้ามาได้จนสุดลำนั่นแหละ ร่างของเราทั้งคู่จึงถูกประกบเข้าจนแนบสนิท ไม่ต่างอะไรจากสิ่งของที่ถูกจับแยกออกเป็นสองซีก ซึ่งบัดนี้ได้หวนคืนกลับมาประสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง

พอตั้งหลักกันได้เรียบร้อยแล้ว พี่อ๊อฟจึงเริ่มต้นออกแรงตอกเสาเข็มใส่ร่างของเราแบบเบาๆ แต่ก็ยังหนักแน่นพอที่จะทำให้เราหลุดส่งเสียงครวญครางซี้ดซ้าดออกมาอย่างเผ็ดร้อน พอเราเริ่มที่จะปรับสภาพคุ้นเคยกับมันได้ อาการเสียวเกร็งในตอนแรกก็กลับกลายเป็นความรู้สึกเสียวสยิวจี๊ดๆ ตรงกลางหว่างขาขึ้นมาแทน รู้สึกได้เลยว่าตรงบริเวณนั้นมันเปียกชุ่มโชกจนไหลนองไปทั่ว

พี่อ๊อฟค่อยๆ เพิ่มความแรงทีละนิดๆ ก่อนจะติดเครื่องไล่โขยกใส่เราแบบหนักหน่วง จนร่างของเรากระเด้งกระดอนไปมาด้วยแรงกระแทก พร้อมๆ กับใช้สองมือบีบคลึงสองเต้าของเราไปด้วย

“อ่ะ... อาห์.. สสส ซี้ดส์... อาห์ โอ๊ยตัวเอง... เค้าเสียวจังเลย” เราครวญครางร้องบอกออกไปตามที่รู้สึก แม้ว่าอาวุธของพี่เค้าจะไม่ได้อลังการใหญ่โตเท่ากับของโม แต่เราก็ยังรู้สึกเสียววาบๆ เต็มอิ่มทุกครั้งที่มันขยับเข้าออกอยู่ภายในร่าง มันทำให้เราอดดีใจไม่ได้ ที่ได้รู้ว่าเซ็กส์ของเราทั้งคู่ยังคงราบรื่นเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน แม้ว่าเราจะเคยผ่านประสบการณ์โลดโผดโจนทะยานกับโมมาแล้วก็ตาม

สองขาของเราถูกพี่อ๊อฟจับไปวางพาดไว้บนไหล่ ทำให้ท่อนเนื้อที่กำลังแข็งตัวเต็มที่ กดทิ่มลึกเข้ามาจนแทบจะชนกับมดลูกด้านในของเรา จังหวะการกระแทกกระทั้นช่างดังสนั่นถึงอกถึงใจ ราวกับว่าพี่เค้าไปเก็บกดอัดอั้นมาจากไหนก็ไม่รู้ เออ... ก็คงจะเก็บกดจริงๆ ล่ะนะ เพราะถ้านับนิ้วดูนี่เราสองคนก็ไม่ได้มีอะไรกันมานานพอสมควรแล้ว ถ้าพี่เค้าจะหื่นหนักก็คงไม่แปลก

เสียงเนื้อของเราสองคนตีกระทบกันดังระรัว ปั้บ...! ปั้บ...! ปั้บ..!! สลับกับเสียงร้องครวญครางเป็นจังหวะที่หลุดลอดออกมาจากปากเรา ยิ่งพี่อ๊อฟออกแรงกระแทกรุนแรงเท่าไหร่ เสียงเนื้อที่กระทบกัน กับเสียงครวญครางก็ยิ่งดังโหยหวนมากขึ้นเท่านั้น

“อ้วน.... เค้า... เค้าขออยู่ข้างบนได้มั้ยอ่ะ?” เราเอ่ยปากร้องขอเมื่ออารมณ์รัญจวนเริ่มไต่ระดับขึ้นสูงได้ที่ ซึ่งพี่อ๊อฟเองก็ยอมทำตามคำขอของเราแต่โดยดี ค่อยๆ ขยับพลิกตัวลงไปเป็นฝ่ายนอนหงายด้านล่าง ก่อนจะช่วยฉุดดึงร่างของเราให้ลุกขึ้นไปนั่งคร่อมควบขี่อยู่ทางด้านบนแทนตัวเอง
“อือ.... ดีจังเลย... อ๊ะ! อาห์... สสส ซี้ดส์ อาห์” เราร้องครวญครางออกมาอย่างสะใจ ออกแรงขยับบั้นท้ายบดอัดเข้าใส่ร่างของพี่เค้าอย่างเอาเป็นเอาตาย

หากจะมองหาข้อดีที่ได้จากความสัมพันธ์ระหว่างเรากับโมที่ผ่านมา ก็เห็นจะเป็นเรื่องของลีลาบนเตียงที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติมมาจากโมนี่แหละค่ะ เราหยิบเอาประสบการณ์และบทเรียนต่างๆ ที่ได้รับ นำมาปรับใช้กับกิจกรรมบนเตียงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างเชี่ยวชาญและช่ำชอง ทั้งลีลาการร่อนขย่ม ทั้งการปลดปล่อยอารมณ์ความเสียวซ่านออกมาอย่างสุดขีดแบบไม่มีเม้ม จนแม้แต่พี่อ๊อฟเองก็คงแอบสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จนพาลให้ฝืนเก็บอารมณ์ต่อไปไม่ไหว

“อุ๊บ!... พัช เค้าใกล้จะเสร็จอยู่แล้วนะ อือ... อออ” พี่อ๊อฟร้องครวญออกมาเบาๆ ด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเก
“อือ... ออออ เค้าก็เหมือนกัน ซี้ดส์สสส... อือ... เค้ารักตัวเองนะ.... รักที่สุดเลย โอ๊ย... สสส ซี้ดส์... สสสส์” เราพรั่งพรูความรู้สึกในใจออกมา ทั้งๆ ที่กำลังออกแรงขย่มร่างของพี่เค้าอย่างเมามัน เกิดเป็นเสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นลั่นห้อง
“อูยยย... เค้าก็รักเธอเหมือนกัน ซี้ดส์...!” พี่อ๊อฟครวญครางตอบกลับมาเสียงสั่น ก่อนจะใช้มือโน้มร่างของเราลงไปจูบปากกันอย่างเร่าร้อน ต่างฝ่ายต่างออกแรงบดปากเข้าหากันราวกับจะกลืนกินร่างของอีกฝ่ายเข้าไปจนหมด

“โอ๊ย! ไม่ไหว... เค้าจะเสร็จ... เสร็จ.. แล้ววววววว! อ่ะ... อ๋าาาาาาาา!!!!” เราสะบัดหน้าหลุดออก ก่อนจะหวีดร้องเสียงดัง พร้อมกับระเบิดอารมณ์เสียวซ่านออกมาแบบถึงกึ๋น เรือนร่างสั่นกระตุกเฮือกๆ แบบควบคุมไม่ได้ เมื่อร่างกายพุ่งทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด

ความรู้สึกเสียวจี๊ดแล่นวาบผ่านเข้ามาจนเราไม่อาจเก็บกลั้นเสียงครางเอาไว้ ภาพตรงหน้าระเบิดแตกออกมาจนกลายเป็นสีขาวโพลนก่อนที่ทุกอย่างจะกลับกลายเป็นสีดำสนิท พร้อมๆ กับร่างของเราที่ค่อยๆร่วงหล่นลงไปนอนกองฟุบอยู่บนอกของพี่เค้า

จังหวะที่เรากำลังพยายามผ่อนคลายอาการเสียวเกร็งอยู่นั้น พี่อ๊อฟเองก็ถือโอกาสเด้งสะโพกสวนเข้าใส่ร่างของเราแบบเร็วระรัว ก่อนที่จะรีบพุ่งเข้าเส้นชัยตามเรามาแบบติดๆ ทิ้งกันแค่ไม่กี่ช่วงตัว

“อุ๊! สสสส... ซี้ดส์ อืมมมมม....” พี่เค้าสูดปากร้องครางซี้ดส์ๆ ออกมาเบาๆ ก่อนที่แท่งเนื้อด้านในจะออกอาการกระตุกตุบๆ พร้อมกับกระฉูดน้ำเชื้อเข้ามาแรงๆ จนเรารู้สึกอุ่นวาบไปทั่วท้องน้อย ดูท่าทางพี่เค้าจะเก็บกดมานานจริงๆ เพราะปริมาณที่พุ่งทะลักออกมานั้นมากมายจนมันเริ่มไหลล้นออกมาด้านนอก

มันเป็นการร่วมรักที่ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย เป็นเส้นตรง ไม่หวือหวา แต่ว่าอิ่มเอมทางความรู้สึก ไม่ได้เร่าร้อนรุนแรงราวกับสัตว์ป่า ไม่ได้รวดเร็วหรือยาวนานยืดเยื้อจนเกินไป เป็นเซ็กส์แบบเรียบๆ ที่แสนจะธรรมดาสามัญไม่ต่างอะไรจากที่คนส่วนใหญ่เค้ามีกัน แต่มันคือห้วงเวลาแห่งความสุขทางเพศที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเราเลยก็ว่าได้

พอต่างฝ่ายต่างเสร็จกิจสาสมใจแล้ว เราทั้งคู่ก็ทิ้งตัวลงนอนตะแคงข้างกันอย่างหมดเรี่ยวแรง ได้แต่นอนหอบหายใจแฮ่กๆ อย่างเหนื่อยอ่อนด้วยความสุขสมอยู่ข้างๆ กัน เราสองคนนอนกอดกันตัวกลม สายตาจ้องประสานกันอย่างลึกซึ้ง เรือนร่างมีแต่หยาดเหงื่อที่ผุดซึมออกมาเป็นสาย พี่อ๊อฟใช้ปลายนิ้วเขี่ยเส้นผมที่บังปรกหน้าผากของเราออกอย่างแผ่วเบา สายตาของพี่เค้าที่จ้องมาแฝงเอาไว้ด้วยความรู้สึกรักใคร่อยู่ภายใน

“ขอบคุณนะ...” เราเอ่ยขอบคุณออกไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง
“หืม?” พี่อ๊อฟเพียงครางตอบออกมาเบาๆ เหมือนยังไม่เข้าใจ
“ก็ที่ให้โอกาสเค้าอีกครั้งไง”
“อืม... ขอบคุณเหมือนกันที่ยังไม่ทิ้งเค้าไป” พี่อ๊อฟเอ่ยอย่างอ่อนโยน

“ตัวเองดีกับเค้าขนาดนี้ ใครจะกล้าทิ้งได้ลงเล่า” เราตอบเขินๆ
“แล้วนี่... อยากให้เค้าไปช่วยคุยกับน้องมันให้มั้ย?” พี่อ๊อฟเสนอตัวจะช่วย เราฟังแล้วก็ส่ายหน้าเบาๆ
“ให้เค้าไปคุยเองดีกว่า สัญญาเลยว่าคราวนี้จะจบจริงๆ อ้วนไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
“อืม... เอาที่ตัวสบายใจก็แล้วกัน” พี่อ๊อฟตอบพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น จนเรารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาถึงตัว ก่อนที่เราทั้งคู่จะหลับไปข้างๆ กัน

=======================================

หลังจากที่เคลียร์ใจกับพี่อ๊อฟจบแล้ว ทีนี้ก็เหลือปัญหาอีกแค่เรื่องเดียวที่รอให้เราเแก้ นั่นก็คือการยุติความสัมพันธ์ระหว่างเรากับโมแบบเด็ดขาด ซึ่งครั้งนี้เราตั้งใจเอาไว้แน่วแน่แล้วว่า จะต้องเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์ให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น และจะไม่ยอมเปิดโอกาสให้โมได้ทำอะไรตามใจตัวเองอีกต่อไป และเรื่องของเราทั้งคู่ก็จะได้กลายเป็นเพียงแค่อดีตที่จะไม่มีวันหวนคืนกลับมาอีก

แต่จนแล้วจนรอด เราก็ยังหาโอกาสเคลียร์กับโมไม่ได้ซักที เนื่องจากพักหลังๆ นั้นอีตาโมก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้อยู่ติดบ้านตัวเองสักเท่าไหร่ หรือถ้าจะพูดให้ถูกเลยก็คือตั้งแต่ที่เราย้ายกลับมาอยู่นี่ ก็ยังไม่เคยได้เจอหน้ามันเลยด้วยซ้ำ พอลองโทรไปหาก็ไม่มีคนรับสาย สุดท้ายก็เลยได้แต่เฝ้ารอโอกาสอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้เปิดอกคุยกันซักที

และหลังจากเฝ้ารอพ่อตัวดีอยู่นานเกือบสัปดาห์ จู่ๆ ในบ่ายวันนึง... เราก็เหลือบไปเห็นรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของนายโม มาจอดแหมะอยู่ที่หน้าบ้านหลังข้างๆ จนได้

เราไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยออกไปจากมือ รีบคว้ารองเท้าแตะขึ้นมาใส่ ก่อนจะเดินดุ่มๆ บุกเข้าไปเคาะประตูถึงหน้าบ้านโมแบบไม่รอช้า

'ก๊อก ก๊อก ก๊อก!' ยืนรออยู่เพียงไม่กี่อึดใจนายตัวแสบก็เป็นฝ่ายเดินมาเปิดประตูบ้านต้อนรับ ก่อนที่อีกฝ่ายจะออกอาการประหลาดใจที่ได้เห็นเรามายืนอยู่ตรงนี้

“อ้าว! พี่พัช? มาได้ไงครับเนี่ย?” โมถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจเล็กๆ
“ก็เดินมาจากบ้านนี่ไง” เราตอบหน้าตาย
“ไม่ๆ ผมหมายถึง... นี่พี่กลับมาอยู่ที่บ้านแล้วเหรอ? นี่คือคืนดีกับพี่เค้าแล้วเหรอฮะ?”
“อืม ก็ประมาณนั้นมั้ง....”

“เข้ามาคุยกันในบ้านก่อนมั้ยพี่?” โมเอ่ยปากเชิญชวนซึ่งเราก็ตกลงยอมตามไปแต่โดยดี ระหว่างที่เดินเข้าไปสายตาของเราก็คอยมองสำรวจรอบๆ ห้องไปด้วย มองเห็นเสื้อผ้ากับข้าวของบางอย่างถูกรื้อออกมาวางอยู่ข้างๆ กระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่เปิดอ้าอยู่
“พอดีผมแวะกลับมาขนของที่เหลือน่ะครับ” โมเอ่ยปากเมื่อเห็นท่าทางสนใจใคร่รู้ของเรา

“อ้าว นี่โมได้หอแล้วเหรอ?”
“พึ่งได้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี้เองครับ เป็นบ้านเช่าอยู่แถวๆ งามวงศ์วานนั่นแหละ ใกล้ห้าง ของกินเยอะดี สาวเยอะด้วย แฮะๆ”
“อืมๆ ดีใจด้วยจ้ะ ว่าแต่ทำไมไม่เลือกที่พักแถวๆ ท่าทรายล่ะ? จะได้ใกล้มหาฯลัยไปเลย”
“โหย ไม่ไหวอ่ะฮะ ใกล้มอมากไปมันยังไงๆ ไม่รู้ เดี๋ยวโจทย์ตามตัวเจอง่าย ฮ่าๆๆ” โมตอบพร้อมกับหัวเราะร่วน

“แล้วนี่... พี่พัชมาหาผม มีธุระอะไรรึเปล่าครับ?” โมเป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง
“คือ... ขอโทษที่เข้ามากวนตอนยุ่งๆ นะ แต่ว่าพี่มีเรื่องอยากเคลียร์กับโมให้มันชัดเจนเข้าใจตรงกัน” เราพูดเข้าประเด็นทันทีที่มีโอกาส ซึ่งโมเองก็เหมือนจะคาดเดาถึงจุดมุ่งหมายในการมาครั้งนี้ได้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
“ผมเข้าใจครับ พี่อยากเคลียร์เรื่องของเราสองคนใช่มั้ย?”
“อืม” เราพยักหน้ารับทันควัน

“พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมเข้าใจดี... ผมถึงตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่อื่นไง พี่กับพี่อ๊อฟจะได้ไม่ต้องมากลุ้มใจอะไรกับเรื่องของผมอีก แค่ได้ยินว่าพี่สองคนกลับมาดีกัน ผมก็ค่อยโล่งใจขึ้นมาบ้าง”
“อืม ขอบใจนะโม พี่รู้ดีว่าที่ผ่านมาเราสนิทกันแค่ไหน แต่พี่คิดว่าถ้าเราอยู่ใกล้กันต่อไป มันคงจะไม่ดีซักเท่าไหร่”
“ไม่เป็นไรครับ เพื่อพี่แล้วผมทำได้เสมอ เพียงแต่ว่า...”
“แต่...?”
“ผมขอกอดพี่เป็นครั้งสุดท้ายจะได้มั้ย?” โมเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเหมือนเด็กอ้อนขอของเล่น

นั่นไงคะ! หลังจากทำทีเป็นสงบเสงี่ยมอยู่ได้แค่ครู่เดียว สุดท้ายนายตัวแสบก็ออกลายจนได้

“บ้า ไม่เอา...” เราบอกปัดเพราะรู้ดีว่าในหัวของตานี่คิดอะไรอยู่ลึกๆ
“น่า นะครับพี่พัช ไหนๆ นี่ก็อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกันแบบนี้แล้ว ให้ผมได้มีความทรงจำดีๆ กับพี่ไว้ให้นึกถึงทีหลังบ้างไม่ได้เหรอ?”
“โอ๊ย... ไม่เอา โมไม่ต้องมานึกถึงคนแก่แบบพี่หรอก ไปหาสาวๆ สวยๆ รุ่นเดียวกับโมนู่นไป”

“โห่... พี่พัชใจร้ายอ่ะ นี่ผมอุตส่าห์ยอมหักดิบถอยห่างออกมาทั้งๆ ที่ยังตัดใจจากพี่ไม่ได้เลยนะ แต่นี่พี่จะไม่ยอมให้ผมได้แม้แต่อ้อมกอดสั่งลาซักครั้งเลยเหรอ?” โมชักจะเริ่มหาข้ออ้างพูดเข้าข้างตัวเองเป็นตุเป็นตะ เราฟังแล้วก็อดนึกเห็นใจน้องมันไม่ได้ เพราะเราเองก็มีส่วนแหละนะ ที่ทำให้น้องมันเผลอใจถลำลึกเข้ามาในความสัมพันธ์ต้องห้ามจนถอนตัวไม่ขึ้นแบบนี้
“แค่กอดจริงๆ นะ...” เราตัดสินใจยอมอ่อนข้อให้อย่างเลี่ยงไม่ได้ นายโมที่ได้ยินแบบนี้ก็ยิ้มร่ารับคำ พร้อมกับกางแขนพุ่งเข้ามาหาเราทันที

ซึ่งเรื่องมันก็คงจะไม่มีอะไรหรอกค่ะ ถ้าอีตาโมมันจะแค่ยืนกอดเราเฉยๆ โดยที่ไม่ได้เอาหน้าซุกไซร้ไปมาตามลำตัวของเราแบบนี้

“นี่... อย่าซี่...” เราบ่นอุบอิบ พยายามออกแรงดิ้นขัดขืนอย่างหมดท่า แทบไม่ต่างอะไรจากหนูตะเภาที่กำลังถูกงูเหลือมเข้ารัดเหยื่อ
“ผมคงคิดถึงพี่น่าดูเลย...” คำพูดหวานๆ ของโมช่างสวนทางกับการกระทำอันตะกรุมตะกราม ฝ่ามือหนาๆ ของโมเลื้อยเข้ามาบีบหมับเข้าที่หน้าอกของเราเต็มๆ ทั้งบีบ ทั้งขยี้อย่างมันเขี้ยว ส่วนมืออีกข้างก็ไต่เลื้อยลงไปเล่นงานตรงกลางหว่างขาของเราไปพร้อมๆ กัน

“อย่าพึ่งกลับเลยนะครับพี่ อยู่กับผมก่อนนะ” โมพูดอ้อนขอเราไม่หยุดหย่อน ก้มหน้าดอมดมซุกไซร้อยู่ที่ลำคอ ส่วนมือก็คอยลวนลามร่างกายของเราทั้งข้างบนและข้างล่างอย่างไม่หยุดนิ่ง
“โธ่เอ๊ย... ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะ” เราโอดครวญเสียงอ่อน เผลอขบกัดริมฝีปากอย่างลืมตัว พยายามคิดหาทางออกอย่างเร่งรีบและร้อนรน แต่การเล้าโลมของโมก็ทำให้ความคิดทุกอย่างค่อยๆ จางหายมลายสิ้นออกไปจนหมด

“อยู่กับผมเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ แล้วผมจะไม่มายุ่งวุ่นวายอะไรกับชีวิตพี่อีกแล้ว” คำพูดและแววตาของโมทำให้เราต้องคิดชั่งใจอย่างหนัก ในหัวก็เผลอนึกย้อนไปถึงความสุขที่เคยมีร่วมกันมาก่อนหน้านี้ ลีลาและรสชาติอันจัดจ้านบนเตียงที่โมเคยมอบให้ ซึ่งแม้จนถึงวันนี้ก็ยังไม่อาจลบเลือนหายไปจากใจได้เลย...

ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เห็นทีเราคงจะไม่รอดเงื้อมมือของโมอีกแน่ๆ เอ... หรือว่าเราควรจะเลือกเก็บความทรงจำสุดท้ายร่วมกับโมดีนะ? ถ้าตัดสินใจทำไปแบบนั้นแล้วมันจะผิดรึเปล่านะ...? แต่ว่าโมเองก็สัญญาว่าจะเลิกยุ่งด้วยนี่นา... ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงไม่น่าจะผิดจากความตั้งใจแรกของเราหรอกมั้ง.... อืมมมม

“นะครับพี่พัช...” คำพูดของโมดังก้องอยู่ในหัวของเราราวกับเสียงสะท้อน

และหลังจากลังเลชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ๆ ในที่สุดเราก็ตัดสินใจได้เสียที ส่วนไอ้ที่ว่าจะตัดสินใจยังไงนั้น เรื่องนี้เราขออุบเอาไว้ก็แล้วกันนะคะ ขอให้เป็นความลับที่รู้กันกับโมแค่สองคนก็พอ แฮะๆๆ....

=======================================

หลังจากที่เคลียร์ธุระปะปังกับโมจนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาที่เราจะกลับบ้านเสียที

“งั้นพี่ไปก่อนนะโม” เราเอ่ยลาแล้วเตรียมจะเดินออกไป
“เดี๋ยวครับพี่” โมเอ่ยเรียก พร้อมกับยื่นแผ่นซีดี 2-3 แผ่นมาให้เรารับไว้ พอมองดูดีๆ จึงเห็นว่าเป็นแผ่นโปรแกรมที่เราเคยให้โมยืมไว้เมื่อนานมาแล้วนี่เอง

“ผมยืมพี่มาดองไว้นานแล้ว ไม่มีโอกาสได้คืนซักที ยังไงก็ขอบคุณที่ให้ยืมนะครับ” โมเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม เราฟังแล้วก็แอบโล่งอกเล็กๆ เพราะตอนแรกหลงคิดไปว่าน้องมันจะยื้อเราไว้เสียอีก
“จ้ะ ขอบใจนะ” เราว่าแล้วหันหลังเดินออกไปที่ประตู โดยมีนายโมเดินตามมาส่ง แต่ยังไม่ทันที่มือของเราจะเอื้อมคว้าไปถึงลูกบิด เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาซะก่อน...

เราหันไปมองหน้าโมด้วยอารามตกใจ แต่อีกฝ่ายเองดูเหมือนจะไม่ค่อยแปลกใจเลยซักเท่าไหร่ ก่อนจะเอื้อมมือไปบิดเปิดล็อคประตูเพื่อต้อนรับแขกหน้าบ้าน ทั้งๆ ที่เรายังยืนนิ่งอ้ำอึ้งอยู่ตรงนั้น พอมองออกไปก็เห็นสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ในชุดเดรสกระโปรงบานสีแดง

“อ้าว มาเร็วจัง ไอซ์กินไรมายังง่ะ?” โมเอ่ยทักทายหญิงสาวตรงหน้าอย่างคุ้นเคย
“อือ กินแล้วอ่ะ มีแขกเหรอ?”
“อ๋อ นี่พี่พัช พี่ข้างบ้านเราอ่ะ เค้ามาถามหาแผ่นโปรแกรม พอดีเรายืมมาแล้วลืมคืนเค้า” นายโมยกเหตุผลมาอ้างโดยไม่ออกอาการลนลานแม้แต่น้อย เราเห็นแล้วอยากจะมอบรางวัลนักแสดงนำชายให้มันไปตรงนั้นเลย โอ้โห... เนียนเกิ๊นนนน

“โธ่เอ๊ย... โมอ่ะขี้ลืมอีกละ แล้วนี่เก็บของเสร็จรึยังเนี่ย?” น้องที่ชื่อไอซ์ทำเสียงบ่น พร้อมกับเอามือตีแขนโมเบาๆ อย่างสนิทสนม ดูท่าว่าสองคนนี้คงจะไม่ใช่แค่เพื่อนกันธรรมดาๆ แน่ๆ กิริยาท่าทางและแววตาของเด็กสาวที่แสดงออก มันชัดเจนซะจนแม้แต่คนที่พึ่งเคยได้เจอหน้ากันอย่างเราก็ยังดูออกได้ไม่ยาก

“อ้อ... เกือบลืมแนะนำเลย พี่พัช... นี่ไอซ์ 'แฟน' ผมครับ” นายโมตอบข้อสงสัยให้เราเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง แม้ว่าเราจะแอบอึ้งนิดๆ แต่ก็ยังพยายามปั้นหน้ายิ้มๆ และเอ่ยทักทายน้องไอซ์ไปตามปกติ
“จ้ะๆ ถ้างั้นพี่ไม่รบกวนเราสองคนแล้ว ขอตัวก่อนนะ” เราพูดพร้อมกับรีบหันหลังเดินหนีออกไปหน้าประตูรั้ว
“ครับพี่ ขอบคุณมากนะครับ” นายโมเอ่ยขอบคุณไล่หลัง ก่อนจะพาแฟนสาวเดินหายเข้าประตูบ้านไปด้วยกัน

เราเดินออกมาเงียบๆ ด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่ผสมปนเปกัน ใจนึงมันก็โล่งอกโล่งใจ ที่สุดท้ายแล้วสามารถจบปัญหาเรื่องของโมได้ แม้ว่าจะค่อนข้างวุ่นวายกว่าที่คิดเอาไว้ในตอนแรกเล็กน้อย ส่วนอีกใจนึงก็อดที่จะรู้สึกแอบหึง เอ้ย! แอบหมั่นไส้นายโมไม่ได้ ที่ยังไม่ทันที่เราจะก้าวพ้นประตูบ้าน อีตานี่ก็พาแฟนมาให้เรารู้จักซะแล้ว แล้วไอ้คำพูดที่บอกว่ายังตัดใจจากเราไม่ขาดเมื่อครู่นี้มันหมายความว่ายังไงกันยะ!?

เฮ้อ.... เอาเถอะ ถึงยังไงก็จบเรื่องเสียทีล่ะนะ

เราสูดลมหายใจเข้าออกๆ ลึกๆ อีกเป็นครั้งสุดท้าย ใช้มือผลักประตูรั้วหน้าบ้านโมจนเปิดออก ก่อนจะเดินก้าวออกไปโดยที่ไม่หันกลับมามองข้างหลังอีกเลย....



THE END



=======================================



จังหวะที่เรากำลังจะเปิดประตูเข้าบ้านตัวเองอยู่นั้น สายตาก็พลันเหลือบไปเห็นรถฮอนด้าซีวิคสีขาวที่ขับเข้ามาจอดหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านแบบพอดิบพอดี ก่อนที่คนขับจะเปิดประตูและก้าวออกมาจากรถ

เจ้าของรถเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเอาการทีเดียว คะเนด้วยสายตาดูแล้วน่าจะอ่อนกว่าเราอยู่นิดหน่อย เจ้าตัวยืนชะเง้อมองเข้ามาในบ้านเราแบบงงๆ เล็กน้อย ในมือก็ถือกระเช้าของขวัญซึ่งบรรจุไว้ด้วยของใช้ของเด็ก ทั้งผ้าอ้อมและนมผงติดมือมาด้วย ซึ่งดูยังไงๆ เราก็ไม่คุ้นหน้าคุ้นตากับแขกแปลกหน้าคนนี้เลยซักนิด จะว่าเป็นเพื่อนพี่อ๊อฟรึก็ไม่น่าจะใช่

“มาหาใครเหรอคะ?” เราเอ่ยถามออกไป
“เอ่อ... ที่นี่บ้านพี่บอยรึเปล่าครับ?”
“อ๋อหลังนี้ค่ะ” เราตอบพร้อมกับชี้นิ้วไปที่บ้านหลังถัดไปทางขวามือ
“อ๋อ! ขอโทษครับ ผมจำผิดหลัง” ชายคนนั้นพูดขอโทษขอโพยก่อนจะเลื่อนรถไปจอดไว้ที่หน้าบ้านหลังข้างๆ เสร็จแล้วก็เดินไปกดกริ่งยืนรออยู่ที่หน้าประตู ครู่เดียวพี่บอยเจ้าของบ้านก็โผล่หน้าออกมาต้อนรับ

“อ้าว! ไอ้โจ้! ไปไงมาไงวะมึง?” พี่บอยเอ่ยทักทายอย่างอารมณ์ดี
“พอดีแวะเอาของขวัญมาฝากหลานน่ะพี่” ชายหนุ่มที่ชื่อโจ้ตอบด้วยรอยยิ้ม ทั้งคู่พูดจาทักทายกันอยู่ครู่นึงก่อนที่พี่บอยจะชักชวนให้อีกฝ่ายเข้าไปนั่งพูดคุยกันต่อในบ้าน

เชื่อมั้ยคะว่าตลอดระยะเวลาที่ทั้งคู่ยืนคุยกัน จนกระทั่งเดินหายลับเข้าไปในบ้านนั้น... เราแอบสังเกตเห็นว่าหนุ่มโจ้นั้นดูจะแอบลอบชำเลืองมองมาที่เราแทบจะตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ ซึ่งสายตาที่มองมานั้นมันก็ทำให้เรารู้สึกเย็นวาบๆ ไปทั่วทั้งร่าง และเกิดหวั่นใจขึ้นมายังไงๆ ชอบกล

เราตระหนักได้แทบจะในทันทีเลยว่า มันคือสายตาที่ฉายแววของนักล่าจอมเจ้าเล่ห์ แบบเดียวกับที่นายโมเคยจ้องเราก่อนหน้านี้นั่นเอง....