วันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2566

ฟูมฟักรสรักให้เมียสาว เสียวคูณสอง #12

 
 
 
ห้องคอนโดหรูขนาด 50 ตารางเมตรย่านลาดพร้าว กำลังถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสังเวียนรักอันเร่าร้อนระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของห้อง...

ลึกเข้าไปในห้องนอน มีร่างเปลือยเปล่าของสาวหมวยหน้าตาจิ้มลิ้มผมยาวประบ่า เรือนร่างอวบอิ่มของเธอกำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนเตียง สองแขนถูกดึงรั้งไปทางด้านหลัง จนร่างของเธอแอ่นโค้งราวกับคันธนู ได้แต่แอ่นเด้งสะโพกไปมา ให้ชายหนุ่มผู้เป็นที่รักได้อัดกระแทกโหนกเนื้อของเธอจากทางด้านหลังอย่างถึงอกถึงใจ

ผิวกายของสองหนุ่มสาวตีกระทบกันเสียงดังสนั่น ปั้บ! ปั้บ! ปั้บ! ตัดสลับกับเสียงครวญครางที่ดังออกมาเป็นระลอกๆ แบบขาดๆ หายๆ เนื่องจากริมฝีปากของเธอนั้น กำลังถูกประกบจูบปากโดยหญิงสาวรุ่นพี่อีกคนหนึ่งซึ่งกำลังนั่งคุกเข่าหันหน้าเข้าหาเธอ โดยที่หญิงสาวคนนั้นเองก็กำลังถูกชายอื่นอัดกระทุ้งร่างของเธอจากทางด้านหลังอยู่เช่นเดียวกัน!

ทั้งบอย... เป้... โจ้... และกุ๊ก... หนุ่มสาวทั้งสี่ ต่างอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆ มาห่อหุ้มกายเอาไว้ มีเพียงผิวเนื้อของกันและกันเท่านั้น ที่กำลังทาบทับประสานเข้าหากันเป็นจังหวะต่อเนื่อง

ปลายลิ้นของสองสาวฉกตวัดพัวพันกันราวกับเถาวัลย์ที่กำลังพยายามเลื้อยรัดต้นไม้ใหญ่ ต่างฝ่ายต่างดูดกินน้ำหวานจากริมฝีปากของกันและกัน ซึมซับเอารสชาติหอมหวานจากปลายลิ้นอันชุ่มฉ่ำ ในขณะที่ร่างกายท่อนล่างก็คอยตักตวงความสุขจากท่อนเนื้อของชายหนุ่มผู้เป็นที่รักของตัวเองไปพร้อมๆ กัน

ภาพท่อนเนื้ออวบอ้วนที่กำลังมุดแทรกเข้าออกอยู่ในกลีบร่องสาว แต่ละครั้งที่มันกดทะยานคว้านลึกเข้าไปด้านใน กลีบเนื้ออ่อนตรงบริเวณปากทางทั้งสองข้าง ก็จะบานปลิ้นยวบยาบไปมาราวกับว่ามันกำลังหายใจอยู่ ร่องเนื้อสีแดงสดดูตัดกับสีของท่อนลำที่ดำคล้ำเป็นสีน้ำตาลเข้ม อวัยวะทั้งสองชิ้นต่างกระโจนเข้าฟาดฟันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร พอปลายหอกแทงพรวดเข้าไปกระทบกับผนังมดลูกจนสุดปลายโคนแล้วก็พลันถอนตัวออกจนเกือบจะหลุดออกมา ก่อนที่จะกดทิ่มกลับเข้าไปอีก ทำซ้ำอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ

เนื้ออ่อนบริเวณหว่างขาของสองสาว ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นที่ราบลุ่มอันชุ่มชื้น จากคราบของน้ำหล่อลื่นที่เอ่อซึมออกมาจากอุโมงค์ถ้ำ เปียกเยิ้มเปรอะเปื้อนไปถึงพงหญ้ากระจุกเล็กๆ ด้านบน และยังไม่มีทีท่าว่ามันจะหยุดไหลนองออกมาง่ายๆ ตราบเท่าที่ดุ้นเนื้อด้ามใหญ่ ยังคงคอยตอกกระแทกกระทุ้งอยู่แบบนี้ หยาดน้ำใสๆ ไหลหยดลงมาตามน่องขา มองเห็นเป็นสายยาวๆ ราวกับหยาดน้ำตา เป็นน้ำตาที่หลั่งรินออกมาเพราะความสุขเสียวแบบสุดกู่

เต้านมขาวอวบเต่งตึงทั้งสองคู่ ตอนนี้กำลังกระเด้งกระดอนเบียดอัดเข้าหากันจนมันบุบบี้ ผิดรูปผิดทรงไปหมด สัมผัสที่เกิดขึ้นจากการเสียดสีตรงบริเวณปลายยอดเม็ดทับทิม สร้างความรู้สึกจั๊กจี้ระคนปนเสียวรัญจวนใจให้กับสองสาวต่างวัย ยิ่งออกแรงดูดปากแลกลิ้นกันหนักหน่วงขึ้นไปอีก เสียงครวญดังอื้ออึงอยู่ในลำคอ

มันเป็นการผสมผสานกันระหว่างรสสัมผัสอ่อนหวานนุ่มนวลของหญิงสาว กับลีลาการกระแทกอันหนักแน่นถึงใจของชายหนุ่ม ก่อเกิดเป็นความรู้สึกเสียวซ่านสะท้านทรวง จนสาวรุ่นพี่ไม่อาจสะกดกลั้นอารมณ์วาบหวิวในกายได้อีกต่อไป ออกแรงดิ้นสะบัดถอนปากพ้นจากการจองจำของสาวรุ่นน้อง ก่อนที่จะหวีดร้องครวญครางกระสันเสียวออกมาแบบเต็มเสียง

“อ๊ะ อ๋อย.. ยยย ซี้ดดดส์ อาห์ บอย มะ.. ไม่ไหวแล้ว ระ.. แรงๆ เลย ตรงนั้นแหละ อ่ะ...  อ๋าาาาา!!” สาวเป้เป็นฝ่ายชิงออกอาการถึงจุดไปก่อนเป็นคนแรก สะบัดหน้าหลับตาปี๋ เม้มขบริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น โพรงเนื้อสาวออกอาการขมิบตอดรัดเจ้าดุ้นเอ็นที่ยังคงเสียบค้างอยู่ด้านในแบบรัวๆ

ปฏิกิริยาถึงจุดสุดยอดของเธอ กระตุ้นอารมณ์ให้หนุ่มบอยที่กำลังกระเด้าเย็ดอยู่ด้านหลังเกิดความเงี่ยนง่านขึ้นมา ยิ่งเกร็งบั้นเด้า กระดกซอยควยอัดร่องหีของเธอเร็วระรัว จนร่างของหญิงสาวถึงกับสั่นกระเพื่อมไปตามแรงกระแทก กลายเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับหนุ่มสาวรุ่นน้องอีกคู่ที่กำลังจับจ้องสังเกตอาการของพวกเค้าอยู่ สายตาของทั้งคู่จับจ้องสะท้อนเป็นประกายด้วยความสนอกสนใจ

“อือ... เป้จ๋า เราจะออกแล้วนะ... โอ๊ะ... โอ้ว! โอ้ววว ซี้ดส์” เพียงไม่กี่นาที ชายหนุ่มรุ่นพี่ก็เดินทางมาจนถึงฝั่งฝันตามภรรยาไปแบบติดๆ แหงนหน้าสูดปากซี้ดซ้าดอย่างถึงใจ ปล่อยน้ำกามระเบิดพุ่งพรวดเข้าไปในร่างของภรรยาแบบหมดจดไม่เหลือซักหยด พอได้ระบายอารมณ์หงี่จนตัวเบาสบายแล้ว ชายหนุ่มจึงล้มตัวลงทาบทับแผ่นหลังของหญิงสาวอย่างอ่อนแรง ก่อนที่ทั้งคู่จะนอนแผ่หลาหมดสภาพไปด้วยกัน

ทางฝั่งของโจ้กับกุ๊ก เมื่อได้เห็นภาพลีลารักจากสามีภรรยารุ่นพี่ทั้งสองคนไป จึงยิ่งบังเกิดอารมณ์วาบหวิวร้อนรุ่มทั้งกายและใจขึ้นมาแบบเฉียบพลัน เจ้าหนุ่มที่กำลังประกบเสียบอยู่ทางด้านหลัง จึงค่อยๆ ขยับตัวเปลี่ยนท่วงท่า เอนกายลงไปนอนหงายกับที่นอน รั้งร่างของภรรยาให้เอนหงายตามมาจนทาบทับเข้ากับร่างของตัวเอง สอดมือเข้าไปเคล้นคลึงเต้านมอวบหยุ่น พร้อมกับออกแรงกระเด้งเอวเสยควยทิ่มสวนเข้าไปจากทางด้านล่าง ท่วงท่านี้ทำให้ท่อนเนื้อของชายหนุ่มสามารถสอดลึกเข้าไปได้ยิ่งกว่าเดิม

“อุ๊... อู๊ย... ยยยย พี่โจ้... อ๊ะ อ๋อย... ยะ อย่างนั้นแหละ อ๋อย...สสส ซี้ดส์” กุ๊กร้องครางเสียงดังลั่น พยายามบดแอ่นสะโพกและโคกหีเข้าหาร่างของอีกฝ่าย ทั้งๆ ที่ยังคงอยู่ในสภาพเอนหงายไปทางด้านหลัง สองขาของเธอถูกจับฉีกอ้าออกกว้างจนเป็นรูปตัวเอ็ม กลีบแคมตรงกลางหว่างขาปลิ้นอ้าทะลักออกข้าง ที่ร่องรูตรงกลางมีดุ้นเนื้อสีคล้ำแท่งหนาอวบของโจ้ กำลังมุดคว้านเข้าออกเร็วจี๋ราวกับกระบอกลูกสูบ

“ควยพี่อร่อยสะใจมั้ยจ๊ะ? เสียวหีดีมั้ย?” หนุ่มโจ้เอ่ยถามปลุกเร้า พร้อมกับเร่งกระเด้าอัดควยเข้ากับหนอกหีเธอ เสียงดัง ปั้บ! ปั้บ!! ปั้บ!!! แบบเน้นๆ
“อ๊ะ... อ๋อย.. เสียวพี่... มันเสียว โอ๊ย... หนูจะ.. ส.. ว้าย!!” สาวกุ๊กยังพูดไม่จบก็ต้องร้องอุทานขึ้นมา เมื่อโดนปลายลิ้นชื้นๆ ของสาวรุ่นพี่ ตวัดเลียลงไปที่เม็ดเสียวของเธอแบบตรงๆ

สาวเป้บดริมฝีปากลากเลียลงไปตรงปากร่องของสาวรุ่นน้องแบบเน้นๆ บางจังหวะยังพลาดไปถูกเข้ากับท่อนเนื้อของหนุ่มโจ้ที่กำลังกระเด้าเย็ดภรรยาอยู่ ซึ่งสาวรุ่นพี่ก็ไม่ได้นึกรังเกียจอะไร กลับตั้งหน้าตั้งตาเลียทั้งหีและลำควยของอีกฝ่ายไปพร้อมๆ กัน

“พี่เป้... ยะ... อย่าสิคะ อึ๋ย... สสส ซี้ดส์ อ๋อย... พี่โจ้! ฮือออ” สาวรุ่นน้องร้องครางเรียกชื่ออีกฝ่ายสลับไปมา เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเกร็งตัวรับความสุขจากทางไหนก่อนกันแน่ ด้านบนก็ถูกปลายลิ้นบดอัดเม็ดแตดเน้นๆ จนหีสั่น ส่วนทางด้านล่างนั้นก็โดนท่อนควยของสามี ตอกกระทุ้งเข้าออกจนจุกหน่วงไปทั้งตัว

“แผล่บ.. บบบ.. บบบ ชอบมั้ยกุ๊ก? แผล่บ... บบบ ช่วยกันแบบนี้ดีกว่ามั้ย?” สาวรุ่นพี่เอ่ยถามทั้งๆ ที่คราบน้ำเงี่ยนยังเลอะมุมปาก
“อูย.. ยยย ชอบสิครับ เสียวควยสุดๆ ไปเลย... นั่นแหละครับ เลียตรงไข่ด้วยครับพี่เป้” หนุ่มโจ้ชิงตอบตัดหน้าภรรยา
“ชั้นถามกุ๊กย่ะ... ไม่ใช่แก ตาโจ้” สาวเป้เอ็ดเข้า พร้อมกับงับลงไปเบาๆ ที่ถุงไข่ของอีกฝ่ายด้วยความหมั่นไส้
“อ๋อยๆ เบาๆ ครับพี่ ซี้ดส์..”

“ฮือ... อออ อ่ะ... อาห์ โอ๊ย พี่โจ้... หนู... หนูไม่ไหวแล้ว อ๋าง... งงงงงง!!” เมื่อโดนรุมเข้าพร้อมกันแบบนี้ ในที่สุดสาวกุ๊กก็ฝืนทนไม่ไหวอีกต่อไป  หญิงสาวแหกปากร้องโหยหวน สองขาฉีกกว้างค้างอยู่กลางอากาศ ปลายเท้าจิกเกร็ง แอ่นเนินหีกระตุกพรวดๆ จนตัวสั่นไปทั้งร่าง ก่อนที่จะระเบิดอารมณ์ความเงี่ยนที่สั่งสมเอาไว้ แตกทะลักออกมาจากภายใน จนน้ำเงี่ยนหีแตกชุ่มอาบลำควยของสามี กระเด็นเปรอะเลอะเต็มปากของสาวรุ่นพี่ที่ยังคงดูดเลียคราบน้ำหวานจากเธอไม่หยุด ส่วนหนุ่มโจ้เองก็ยังคงเด้งควยกระเด้าใส่อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

“อ๊ะ อ๋า.. าาา อ๊าว.. ววว ซี้ดส์... อาห์ อ๋อย... ยยยย!! พะ... พี่เป้ พะ.. พอแล้วว.. วววว อ๋อย ไม่ไหวแล้ว... ววว!!” กุ๊กร้องลั่น ร่างกระตุกสั่นไปทั้งตัวด้วยความรุนแรง เมื่อโดนขยี้อารมณ์ซ้ำอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเธอจะทะยานถึงจุดสุดยอดไปแล้วก็ตาม ปลายลิ้นกับลำควยของทั้งคู่ ยังคงรุมบดขยี้จี้ใจสาวกุ๊กอย่างหนักหน่วง เล่นเอาหญิงสาวถึงกับเงี่ยนแตก กรีดร้องออกมาแบบสุดเสียง พร้อมกับพุ่งทะยานถึงจุดสุดยอดแบบติดๆ กันในเวลาเพียงไม่ถึงนาที

สองหนุ่มสาวช่วยกันรุมเล่นงานสาวกุ๊กจนหมดสภาพขึ้นสวรรค์ไปอีกคนโดยมีร่างของหนุ่มบอยนั่งพักจิบน้ำมองอยู่ใกล้ๆ เป็นการให้กำลังใจ

สาวกุ๊กนอนหงายท้องแข้งขาอ่อนปวกเปียก หอบแฮ่กๆ จนอกกระเพื่อมทับอยู่บนร่างของสามีอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง แต่ชายหนุ่มเองยังไม่สาสมใจ จับพลิกร่างของภรรยาให้ลงมานอนตะแคงหันข้าง ช้อนขาขวาของเธอยกค้างกลางอากาศ เกร็งสะโพกอัดส่งท่อนลำเข้าใส่ร่องสาวของเธอแบบหนักๆ ปั้บ... บบ! ปั้บ.. บบบบ! ปั้บ.. บบบบบ!!!

“ฮื่อ...ออ อุ๊บ... กุ๊กจ๋า พี่จะแตกแล้วนา... กุ๊กกินน้ำพี่นะคนดี” โจ้พูดพร้อมกับเร่งกระทุ้งหีภรรยาเร็วขึ้น แรงขึ้น
“อึ่ก อื้อ... อื้มมมม” หญิงสาวครางยาวๆ แทนคำตอบ

หนุ่มโจ้แทงต่อได้ไม่นานก็เหมือนกับจะทนเสียวไม่ไหว ออกอาการหยุดชะงัก รีบถอนท่อนลำดีดผั้วะหลุดออกมาจากกลีบสาวของภรรยา พลิกร่างของเธอให้อยู่ในท่านอนหงาย ปีนขึ้นไปคุกเข่าคร่อมอก ใช้มือสาวควยเบาๆ ไม่กี่ที น้ำเงี่ยนเหนียวหนืดสีขาวขุ่นก็พุ่งทะลักเข้าปากของสาวกุ๊กที่อ้ารออยู่

หญิงสาวหลับตาปี๋ รู้สึกได้ถึงหยดน้ำอุ่นๆ ที่พุ่งกระฉอกเข้ามาติดอยู่ในโพรงปากและลิ้นของเธอ สาวกุ๊กรีบกลั้นใจ กลืนมันลงคอไปในอึดใจเดียว เพื่อจะได้ไม่ต้องทนเสียเวลาอยู่กับรสชาติคาวๆ ที่แสนจะฝืดคอนี้

“แหวะ! ขมอ่ะ ฝืดคอไปหมดเลย” สาวกุ๊กทำหน้าแหยๆ เจื่อนๆ พยายามจะยันกายลุกขึ้นไปหยิบขวดน้ำมาดื่ม แต่กลับแข้งขาอ่อน หงายท้องลงไปนอนแผ่อยู่บนที่นอนเหมือนเดิม เรียกเสียงหัวเราะออกมาดังๆ จากผู้เป็นสามี
“เฮ้ย! อะไรกัน นี่ถึงกับลุกไม่ขึ้นเลยเหรอเนี่ย?” หนุ่มโจ้หลุดปากแซวออกมา
“เออ! ก็พี่นั่นแหละ ทำหนูเป็นแบบนี้แล้วยังมีหน้ามาหัวเราะอีก” สาวกุ๊กโวยวายหน้างอ

“อย่าไปเอาอะไรกับมันเล๊ยกุ๊ก ไอ้นี่มันบ้าๆ บอๆ” หนุ่มบอยว่าพลางเอื้อมไปฉุดดึงเธอขึ้นมานั่งพัก ก่อนจะยื่นส่งขวดน้ำดื่มให้เธอ
“ขอบคุณค่ะพี่บอย” สาวกุ๊กรับมาแบบเขินๆ ขยับผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างตัวเองไว้ไม่ให้มันโป๊ หนุ่มรุ่นพี่จึงรีบเบือนหน้าหลบตามมารยาท ด้วยรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นค่อนข้างอึดอัดและเขินอายตัวเองอยู่พอสมควร

นับตั้งแต่วันแรกที่ทั้งสี่คนได้มีโอกาสแบ่งปันประสบการณ์ความเสียวร่วมกันบนเตียง นี่ก็ถือเป็นการสวิงกิ้งกันเป็นครั้งที่สามของพวกเค้าแล้ว ซึ่งผ่านมาจนถึงตอนนี้... ทั้งสองคู่ก็ยังคงไม่มีโอกาสได้ลองสลับคู่กันแบบจริงๆ จังๆ ซักที ซึ่งต้นเหตุของมันก็มีที่มาจากอาการเขินอายประหม่า ที่สาวกุ๊กมีต่อหนุ่มรุ่นพี่คนนี้นั่นเอง

แม้ว่ากุ๊กนั้นจะตัดสินใจยอมลองสลับคู่กับรุ่นพี่ทั้งสองคนดูแล้ว แต่พอถึงเวลาที่ทั้งสี่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม ในตอนที่สาวกุ๊กกำลังจะได้ลองมีอะไรกับหนุ่มบอยดูจริงๆ หญิงสาวก็มักจะเกิดอาการประหม่าลนลานขึ้นมา จนพาลทำให้อีกฝ่ายเองก็ไม่กล้าเดินหน้าต่อเหมือนกัน ซึ่งก็น่าแปลกที่อาการที่ว่านี้ ดันมาเกิดขึ้นเฉพาะกับแค่พี่บอยคนเดียว ซึ่งพอลองเปลี่ยนมาเป็นสาวเป้ที่เข้ามาช่วยปลุกเร้าอารมณ์ของเธอแล้ว หญิงสาวกลับยินยอมพร้อมใจ... ปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยไปกับบรรยากาศอันสุดแสนจะวาบหวามที่เกิดขึ้น

ทั้งสองครอบครัวจึงได้แค่ลองสวิงกันแบบไม่แลกคู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ว่าสาวกุ๊กนั้นจะยอมเปิดใจเมื่อไหร่เหมือนกัน...

=======================================

หนึ่งเดือนต่อมา...

“กุ๊กจ๋า เสาร์อาทิตย์นี้ เราไปเที่ยวทะเลชิลๆ พักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อยมั้ย?” หนุ่มโจ้เอ่ยปากชวนภรรยา
“อือ... ก็ดีนะพี่โจ้ ไม่ได้ไปเที่ยวไหนกันพักนึงแล้ว ไปทะเลก็ดีเหมือนกัน จะได้ถือโอกาสพักชาร์จแบตให้ตัวเองบ้าง” สาวกุ๊กตอบเห็นดีเห็นงามด้วย

“งั้นไปไหนดี? เอาแบบสวยๆ หรืออยากได้ใกล้ๆ?”
“ขอใกล้ๆ ดีกว่าพี่ ไปไกลๆ ถึงจะบินไปก็ได้พักแค่ไม่กี่วัน หนูว่าพวกหัวหินก็พอมั้ง ไปนั่งกินอะไรอร่อยๆ ที่ร้านชาวเลก็โอเคนะ”
“อือๆ หัวหินก็ได้ เออ.. ว่าแต่จะลองชวนพวกพี่บอยดูมั้ย? เผื่อว่าพี่เค้าก็ไม่ได้ไปไหนเหมือนกัน จะได้ชวนไปเที่ยวด้วยกันเลย” โจ้เอ่ยเสนออีกเรื่องหนึ่ง ภรรยาสาวฟังแล้วนิ่งไปครู่นึง ก่อนที่จะตอบกลับมา

“พี่โจ้จะชวนพวกพี่เค้าไปเที่ยวหรือไปทำอะไรกันแน่ หนูรู้ทันนา” สาวกุ๊กกล่าวดักคอ
“แฮะๆ  ก็ชวนไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศกันเฉยๆ นั่นแหละ ถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นก็ให้เป็นเรื่องของบรรยากาศไง” สามีหนุ่มแก้ตัวเขินๆ
“ก็ตามใจ ลองชวนพวกพี่เค้าดูดิ ถ้าเค้าโอเคหนูก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก”

“งั้นพี่โทรเลยนะ” หนุ่มโจ้ว่าพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออก
“เฮ้ย! เร็วไปเปล่า? ยังไม่ทันได้เลือกที่พักอะไรเลย” สาวกุ๊กถึงกับเหวอไปเลยเมื่อเห็นสามีออกอาการกระตือรือร้นขนาดนี้ ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร แค่ชูนิ้วโป้งและยิ้มๆ ให้ พอได้ยินเสียงสัญญาณกดรับสายแล้ว ชายหนุ่มจึงหันไปสนใจที่คู่สนทนาทางโทรศัพท์แทน

“ฮัลโหล พี่บอยเหรอพี่?” หนุ่มรุ่นน้องเอ่ยประโยคทักทายอันคุ้นเคย
“ก็กูน่ะสิ มึงคิดว่าโทรหาใครล่ะ?” อีกฝ่ายตอบล้อเลียนกลับมา
“โธ่พี่ อย่าพึ่งกวนดิ...เสาร์นี้ไปไหนเปล่า หยุดสองวันอ่ะ? ไปเที่ยวกับผมมั้ย หัวหินๆ”

“ไปทำไมวะหัวหิน? ไม่เห็นมีห่าอะไร” บอยแย้ง
“ก็ไปพักผ่อน ชิลๆ เปลี่ยนบรรยากาศไง” โจ้พูดโน้มน้าวพร้อมกับเผลอขยับมืออย่างลืมตัว ตามสัญชาตญาณของยอด AE มือทอง
“อยากเปลี่ยนที่เอาอ่ะดิมึง” หนุ่มรุ่นพี่ตอกกลับมาสั้นๆ
“เอ๊อ ทำไมพี่กับกุ๊กถึงรู้ทันผมกันหมดเลยวะ ไม่หนุกเลย... เบื่อ!”

“ไอ้ห่า ก็คนอย่างมึงอ่ะ จะคิดอะไรได้อีก ในหัวก็มีอยู่เรื่องเดียวนี่แหละ”
“แล้วตกลงว่าพี่จะไปมั้ยล่ะ?”
“ไป”
“เอ๊า! แล้วพี่จะแย้งผมทำไมเนี่ย?”

“กูมาคิดๆ ดูแล้ว นานๆ ที ก็ถือโอกาสไปเที่ยวสวีทกับเป้กันสองคนบ้างก็ดีเหมือนกัน”
“อ้าว แล้วน้องโอมน้องเอมล่ะ ไม่พาไปด้วยเหรอ?” หนุ่มรุ่นน้องถามกลับไป
“คงไม่ได้พาไปอ่ะ เสาร์อาทิตย์นี้โอมมีไปเข้าค่ายภาษาอังกฤษกับโรงเรียน น่าจะกลับมาวันอาทิตย์เย็นๆ ส่วนเอมนี่ว่าจะให้อยู่บ้านกับพี่เลี้ยงแล้วก็หลานสาวเป้เค้าแหละ ยังไงทริปแบบนี้มันก็ไม่เหมาะจะพาลูกไปอยู่แล้ว”

“อ้าวนี่น้องเค้ามาพักบ้านพี่แล้วเหรอ?”
“เออ มาพักได้ 3-4 วันแล้วแหละ นิสัยก็โอเคนะ ร่าเริงดี ยัยเอมติดแจเลยช่วงนี้ เดินตามเค้าตลอด ก็เลยว่าจะให้อยู่สนิทๆ กันไปก่อน”
“สวยป่ะพี่?” หนุ่มโจ้ถามกระเซ้า เล่นเอาสาวกุ๊กที่แอบฟังอยู่ถึงกับหันขวับมองตาม
“เฮ้อ... ไอ้หอก เด็กอายุ 17 เอง คุกนะมึง” บอยถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความเหนื่อยใจ

“ผมก็ถามไปงั้นแหละพี่ ล้อเล่นน่า งั้นตกลงวันเสาร์นี้ เราขับรถไปกันเช้าๆ หน่อยแล้วกันเนาะ รถจะได้ไม่ติดมาก ถึงที่พักไวด้วย”
“แล้วตกลงมึงจะจองที่พักที่ไหน?”
“ผมยังไม่ได้คิดเลยพี่ โทรมาชวนพี่ก่อนเนี่ย”
“เออๆ เอาที่ไหนก็ตามใจมึงละกัน ค่อยโทรบอกกูก็ได้”

“เออใช่ พูดเรื่องนี้แล้วนึกขึ้นได้ กูจะบอกว่า หลังจากนี้... เราคงมาทำอะไรแปลกๆ ที่บ้านกันได้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่แล้วว่ะ เดี๋ยวเด็กมันมาเห็นเข้าแล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่” บอยเล่าสถานการณ์ทางบ้านให้ฟัง
“อืม ไม่เป็นไรหรอกพี่ ยังไงค่อยไว้นัดเจอกันที่ห้องผมก็ได้ หรือไม่ก็ไปเปิดห้องโรงแรมเอาสบายๆ ไม่ต้องคิดมาก” โจ้ตอบ
“เออ เรื่องนั้นก็ไว้ว่ากันทีหลังแล้วกัน งั้นแค่นี้ก่อนนะ” บอยพูดตัดบทแล้ววางสายไป

เมื่อถึงวันเสาร์ ทั้งสองครอบครัวตัดสินใจที่จะขับรถของตัวเองไปเจอกันระหว่างทาง โดยนัดหมายกันที่ร้านอาหารริมเขื่อน ตรงแถวๆ แม่กลอง เพื่อที่จะแวะทานมื้อเช้าร่วมกันที่นั่น

หนุ่มโจ้กับสาวกุ๊กมาถึงที่ร้านก่อนในตอน 9 โมงครึ่ง ด้วยความที่ร้านพึ่งจะเปิดตอน 9 โมงนิดๆ ภายในร้านจึงยังไม่ค่อยมีลูกค้าซักเท่าไหร่ นอกจากโต๊ะของทั้งคู่แล้ว ก็มีเพียงครอบครัวพ่อแม่ลูกอีกเพียงโต๊ะเดียวเท่านั้น พวกเค้านั่งรออยู่อีกไม่ถึง 15 นาที หนุ่มบอยกับสาวเป้ก็ตามมาถึงที่หมาย

“เฮ้ย รอนานยังวะ?” บอยเอ่ยทักทาย พร้อมกับขยับเก้าอี้นั่ง
“แป๊บเดียวพี่ พึ่งมาเหมือนกัน สั่งอะไรเพิ่มมั้ย ตะกี้ผมสั่งปลาหมึกย่างแล้วก็ปลาทูทอดน้ำปลาไป แล้วก็มีปูทะเลไข่หลน ส่วนพวกต้มๆ ก็มีต้มส้มปลาทูอีกอย่างนึง” โจ้ร่ายยาวให้ฟัง

“เออ จริงๆ ก็พอแล้วนะ ไม่งั้นก็เอาพวกผัดๆ เผ็ดๆ อีกซักอย่างมั้ยล่ะ?” หนุ่มบอยเสนอ
“ได้นะพี่ เอาเป็นนี่มั้ยล่ะ ฉู่ฉี่ปลาทู” โจ้ตอบทันควัน
“เฮ้ย! ทำไมมึงสั่งแต่ปลาทูวะ? เป็นแมวรึไง? เอาอย่างอื่นมั่งดิ นี่ก็ได้ หอยหลอดผัดฉ่า” หนุ่มบอยจิ้มเข้าไปที่เมนูในมือ

“อ้าว... ก็มาแม่กลอง มันก็ต้องกินปลาทูสิพี่” โจ้ยังพยายามแถ
“ใครเค้าบอกให้กินอย่างเดียวล่ะยะ?” เป้แย้งขึ้นมาบ้าง
“หนูก็บอกแล้ว พี่ก็ไม่ฟัง” สาวกุ๊กไม่รอช้า รีบพูดซ้ำเติมอีกคน
“เอ๊า! ไหงมารุมกันซะงั้น เอาหอยหลอดก็ได้พี่ น้องๆ ของหอยหลอดผัดฉ่าเพิ่มอีกจานนึง” หนุ่มโจ้ตะโกนสั่งพนักงาน

ทั้งสี่ใช้เวลาจัดการกับอาหารตรงหน้าอยู่เกือบชั่วโมง แล้วจึงเตรียมจะสั่งเช็คบิล ระหว่างที่รอเงินทอนนั้น หนุ่มโจ้จึงถือโอกาสพูดเปิดประเด็นขึ้นมาเสียก่อน

“เออ พี่บอย ช่วงที่เราจะขับรถไปที่พักกันเนี่ย ผมว่าเราน่าจะลองให้พี่เป้กับกุ๊ก สลับไปนั่งรถอีกคันดูนะพี่” โจ้เอ่ยขึ้นมาแบบโต้งๆ
“ห๊ะ!?” ทั้งสามคนที่เหลืออุทานขึ้นมาพร้อมๆ กัน

“ทำไมอ่ะ น่าสนุกดีออก ระหว่างทางจะได้ไม่เบื่อไง” หนุ่มรุ่นน้องพูดหน้าระรื่น
“สนุกตรงไหนไม่ทราบยะ?” เป้พูดขัดคอ
“พี่สนุกอยู่คนเดียวน่ะสิ” กุ๊กรีบรับลูกตาม

“ไม่เห็นเป็นไรเลย ไหนๆ เราก็กะมาเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศกันอยู่แล้ว ทำไมไม่ลองเปลี่ยนเพื่อนร่วมทางดูบ้างล่ะ เผื่อว่าจะได้สนิทสนมกันมากขึ้นไง แล้วอีกอย่าง... พี่บอยกับกุ๊กจะได้ละลายพฤติกรรม ไม่ต้องมานั่งอึดอัดเกร็งๆ กันอยู่แบบนี้” คำตอบของโจ้ทำให้อีกสามคนนิ่งอึ้งไป เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมานั้นก็พอจะฟังเข้าเค้าอยู่บ้าง

“ไอ้ห่า แล้วให้กูไปนั่งอยู่กับกุ๊กสองคน กุ๊กเค้าไม่อึดอัดตายเหรอวะ?” บอยชิงเป็นฝ่ายบ่นออกมาคนแรก
“แหม พี่บอย ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ หนูก็ไม่ได้รังเกียจอะไรพี่ซักหน่อย” กุ๊กที่ฟังอยู่จึงรีบพูดแก้ตัว
“แต่พี่ว่า... จุดประสงค์จริงๆ ของอีตาโจ้คือกะทำเพื่อความสนุกมากกว่าล่ะมั้ง” สาวเป้ที่รอจังหวะอยู่จึงพูดปิดท้าย

“ปัดโธ่... พี่เป้ครับ พี่ก็เลิกมองผมในแง่ร้ายได้แล้ว ผมอุตส่าห์หาไอเดียมาช่วยพี่บอยกับกุ๊กเค้าเลยนะ” ชายหนุ่มตัดพ้ออ้อนขอความเห็นใจ แต่อีกฝ่ายกลับยิ่งหมั่นไส้ขึ้นไปอีก
“หราาาา?” สาวรุ่นพี่ทำเสียงล้อเลียนเหมือนไม่เชื่อ

“เออ ถ้ามึงว่างั้นก็ลองดูก็ได้ ยังไงก็แค่ขับรถไปชั่วโมงกว่า เดี๋ยวก็ถึงที่พักแล้ว” สุดท้ายหนุ่มบอยก็ยอมเออออตามจนได้ เพราะรู้ดีว่าแย้งไปก็ป่วยการเปล่าๆ ในเมื่ออีกฝ่ายตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
“งั้นก็... ตกลงตามนี้เนาะ เดี๋ยวเราวิ่งเส้นทางหลวง 35 แล้วไปเจอกันที่นั่น ไปถึงแล้วก็เปิดห้อง พักเหนื่อย แล้วค่อยดูว่าจะไปเดินเล่นริมหาดหรืออะไรก็ว่ากันอีกที” โจ้กล่าวสรุปทิ้งท้ายอีกที ส่วนสาวเป้เมื่อเห็นสามีตอบตกลงไปแล้ว เธอจึงไม่ได้แย้งอะไรออกไป

และหลังจากที่ตัดสินใจกันได้แล้ว ทั้งสี่คนจึงได้เริ่มต้นแผนการสลับคู่กันตั้งแต่ยังไม่ทันจะถึงที่พักเลยด้วยซ้ำ ซึ่งคนที่ออกอาการตื่นเต้นกับแผนการในครั้งนี้มากที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นสาวกุ๊กนั่นเอง...

“นี่ ถามจริงเถอะ คิดอะไรอยู่เหรอโจ้ ถึงได้เสนอให้มาสลับคู่กันแบบนี้เนี่ย?” เป้เอ่ยถามโจ้หลังจากที่ทั้งคู่ขึ้นรถมาด้วยกันแล้ว
“อ้าว ก็ไม่มีอะไรนี่นา ผมก็บอกพี่ไปหมดแล้วในร้านอ่ะ พี่ยังไม่เชื่ออีกเหรอ ว่าผมอยากให้สองคนนั้นเค้าสนิทกันน่ะ?”
“ก็เชื่อ... แต่ว่า พี่แปลกใจนี่นา จู่ๆ แกก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย คนอื่นเค้าก็งงกันหมด”
“ก็แหม... ถ้าบอกล่วงหน้า กุ๊กเค้าก็คงบ่นจนผมหูชาอ่ะดิพี่” เจ้าหนุ่มตอบหน้าตาเฉย

“เออ เอาเถอะ ก็หวังว่าความคิดของแกมันจะเข้าท่าแล้วกันนะ ไม่ใช่ว่าไปถึงแล้วสองคนนั้นเค้าดันยิ่งอ้ำอึ้งหนักเข้าไปอีก” สาวเป้ถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงปัญหาของอีกฝั่ง
“โอ๊ย! ไม่ต้องไปกังวลหรอกครับ เชื่อผมเหอะ เดี๋ยวก็ดีเองแหละ กุ๊กเค้าปลื้มพี่บอยซะขนาดนั้น พี่บอยกล่อมอะไรมาเค้าก็เชื่ออยู่แล้วแหละ” ชายหนุ่มตอบมาทันควัน

“ก็คงงั้นมั้ง... ว่าแต่พี่บอยขับไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย ทำไมแกขับช้างี้อ่ะโจ้?”
“อ้าว ก็ผมอยากมีเวลาอยู่ด้วยกันกับพี่สองคนนานๆ นี่ครับ อิอิ”
“วุ้ย! อีบ้า รีบๆ ขับให้มันไวๆ เลย มันจะได้ถึงซักที” สาวรุ่นพี่ดุเสียงดัง ขณะที่อีกฝ่ายกลับหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี

ในขณะที่หนุ่มโจ้หัวเราะอยู่นั้น... ทางฝั่งของสาวกุ๊กเองก็กำลังเผชิญหน้ากับบรรยากาศอึดอัดเล็กๆ บนรถของหนุ่มบอย ตั้งแต่ออกเดินทางมาจากร้านอาหาร ทั้งสองคนแทบจะพูดคุยกันได้แบบนับคำได้ ต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรยังไงกันดี

หญิงสาวอดนึกกังวลไปล่วงหน้าไม่ได้ ใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ พยายามนึกหาคำพูดแก้ตัวไปตลอดเส้นทาง เพราะรู้ดีว่าทั้งเธอและบอยนั้นต่างก็รู้สึกอึดอัดที่ต้องมานั่งอยู่ด้วยกันสองต่อสองแบบนี้ จะหันหน้าไปหาใครมาช่วยก็ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่เธอดันไปออกอาการบ่ายเบี่ยง พยายามหลีกเลี่ยงไม่ยอมมีอะไรกับบอยเหมือนอย่างเหตุการณ์ที่ผ่านๆ มา

“ถ้าพี่ทำอะไรให้กุ๊กอึดอัดหรือไม่สบายใจ กุ๊กบอกพี่ได้เลยนะ พี่จะได้ลองหาทางแก้ไขให้กุ๊กสบายใจขึ้น” หนุ่มบอยกลั้นใจพูดยิ้มๆ
“พี่บอยหมายถึงเรื่องอะไรคะ?”
“ก็... เรื่องที่กุ๊กดูอึดอัดเกร็งๆ เวลาที่เราสองคน เอ่อ... ต้องเข้าหน้ากันในห้องนอนน่ะ” หนุ่มรุ่นพี่พูดตะกุกตะกัก

“แต่พี่ก็พอเข้าใจนะ... ว่าไอ้โจ้น่ะมันก็เก่งซะขนาดนั้น จู่ๆ จะให้กุ๊กต้องลองเปลี่ยนมาจับคู่กับพี่ที่ไม่ค่อยจะเก่ง มันก็คงไม่น่าประทับใจซักเท่าไหร่ แถมเผลอๆ เรื่องทั้งหมดนี่ไอ้โจ้มันอาจจะไม่ได้ถามความคิดเห็นกุ๊กก่อนด้วยซ้ำ” หนุ่มบอยพูดเปรยๆ เป็นเชิงตัดพ้อ
“ไม่ใช่พี่บอยหรอกค่ะที่หนูกังวล... แต่เป็นตัวพี่โจ้ต่างหาก” กุ๊กรีบแย้งให้อีกฝ่ายสบายใจ

“หนูกลัวว่า.. ถ้าเกิดหนูตัดสินใจที่จะลองมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นดูจริงๆ แล้วเกิดว่าพี่โจ้มันงี่เง่า เกิดรับไม่ได้ขึ้นมา ถึงตอนนั้นแล้วทุกอย่างจะย้อนกลับคืนมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ กลัวว่าชีวิตคู่ระหว่างหนูกับพี่โจ้ มันอาจจะ.. เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หนูไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลย” สาวกุ๊กสารภาพความกังวลในใจให้ฟัง หนุ่มบอยฟังแล้วก็นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะค่อยๆ เผยรอยยิ้มอบอุ่นออกมาด้วยความเอ็นดู

“คือ... พี่เองก็สัญญาไม่ได้หรอกนะ ว่าถึงตอนนั้นแล้วทุกอย่างมันจะยังคงเป็นเหมือนเดิมอีก ความรู้สึกที่มีให้กันมันจะยังคงเดิมอยู่มั้ย? หรือว่าความคิดของโจ้จะเปลี่ยนแปลงไปยังไง? เรื่องนั้นพี่เองก็คงให้คำตอบอะไรไม่ได้ แต่เรื่องนึงที่พี่พอจะแนะนำได้ก็คือ ถึงยังไงซะ... ชีวิตคู่ของคนเรามันก็ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว

ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่แต่งงานกันมา พี่เป้เองก็เปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้านี้ไม่ใช่น้อย เช่นเดียวกับตัวพี่เองที่มันก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปเหมือนกัน อะไรบางอย่างที่เราเคยรู้สึกแบบนึง พอถึงวันนี้มันกลับรู้สึกอีกแบบนึง แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ พอมันเปลี่ยนไปแล้ว เราสองคนจะยังคงยอมรับมันได้ พร้อมที่จะรักในสิ่งที่อีกคนนึงเป็น แม้ว่ามันจะแตกต่างออกไปจากเดิมก็ตาม พี่ว่านั่นแหละ คือแก่นของคำว่าชีวิตคู่นะ สุดท้ายแล้วมันก็อยู่ที่การปรับตัวเข้าหากัน และยอมรับในสิ่งที่อีกคนเป็นให้ได้”

หนุ่มรุ่นพี่เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าและแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความจริงใจ มันเป็นคำพูดที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด และทำให้เธอยิ่งรู้สึกเชื่อใจชายหนุ่มคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเปรียบเทียบกับคำพูดเชิญชวนของสามีเธอแล้ว แม้จุดประสงค์จะไปจบลงที่การสลับแลกคู่เหมือนกัน แต่ถ้อยคำและเหตุผลที่เชื้อเชิญนั้นกลับหนักแน่นแตกต่างกันไปแบบคนละเรื่อง ซึ่งไอ้ความเป็นผู้ใหญ่ในจุดนี้นี่แหละ ที่ทำให้สาวกุ๊กแอบรู้สึกประทับใจกับความคิดของหนุ่มรุ่นพี่อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

“แล้วตอนที่พี่บอยตัดสินใจให้พี่เป้ลองไปคบกับคนอื่นๆ เนี่ย... พี่บอยกังวลหรือกลัวบ้างมั้ยคะ?” สาวกุ๊กเอ่ยถามอย่างสนใจใคร่รู้
“กลัวสิ ทั้งกลัวทั้งกังวลเลยล่ะ ใจนึงมันก็คิดระแวงไปว่าเป้เค้าอาจจะหลงไปกับผู้ชายคนอื่นๆ และเตลิดจนไม่ยอมกลับมาคบกับพี่อีกก็ได้ แต่อีกใจนึงมันก็ยังรู้สึกเชื่อใจลึกๆ นะ ว่าผู้หญิงคนนี้เค้าจะไม่มีวันทอดทิ้งเราไปไหน แม้ว่าเราจะตัดสินใจทำสิ่งที่ผิดพลาดยังไงก็ตาม ฟังดูหลงตัวเองเนอะ แต่ตอนนั้นก็คิดอย่างนี้จริงๆ นะ แฮะๆ” หนุ่มบอยตอบไปพร้อมกับหัวเราะเขินๆ

“เจ๋งอ่า... กุ๊กอยากให้ตัวเองกับพี่โจ้เชื่อใจกันแบบนั้นได้มั่งจัง...” สาวรุ่นน้องเอ่ยชมด้วยดวงตาเป็นประกายเคลิบเคลิ้ม
“จริงๆ พี่ว่าโจ้มันก็เชื่อใจกุ๊กนะ มันถึงได้กล้าเอ่ยถึงเรื่องสลับคู่แบบนี้ไง ไอ้โจ้เองมันก็เคยมีบทเรียนมาพอสมควรแล้ว พี่ว่ามันคงจะไม่ทำอะไรผิดพลาดซ้ำสองเหมือนอย่างตัวพี่หรอก” หนุ่มรุ่นพี่พยายามชี้ประเด็นให้เธอคล้อยตาม

“แต่ว่า... เวลาที่พี่โจ้พูด... ไม่รู้สิ กุ๊กชอบเข้าใจไปว่าพี่โจ้เค้าทำเพราะแค่อยากเห็นกุ๊กไปมีอะไรกับคนอื่นสนองตัณหาตัวเองทุกที ไม่ได้คิดเรื่องเชื่อใจอะไรพวกนี้ในหัวเลยซักนิด”
“เฮ้ย... ตอนแรกพี่ก็เป็นแบบนั้นเลย ฮ่าๆๆ” หนุ่มบอยสารภาพ
“โอ๊ย! ทุเรศอ่ะพี่บอย ไอ้เราก็อุตส่าห์นึกชื่นชมซะดิบดี ที่แท้ผู้ชายก็เหมือนๆ กันหมดเลย” หญิงสาวพูดกลั้วหัวเราะ

“แล้ว... ตอนที่ทำแบบนั้น พี่บอยไม่รู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบอีพี่โจ้มันมั่งเหรอคะ? ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้เข้าไปร่วมกับเค้าด้วย”
“อืม... มมม ก็ไม่นะ พี่ว่าเรื่องนี้มันเอามาวัดเป็นบัญญัติไตรยางศ์ไม่ได้หรอก ว่าคนนั้นได้มากกว่า คนนี้ได้น้อยกว่า ในเมื่อมันเป็นเรื่องของความสัมพันธ์หรือความรู้สึกน่ะ ในเมื่อพี่เองก็รู้สึกดีที่ได้เห็นเป้เค้ามีความสุข ตัวพี่เองก็พลอยมีความสุขไปด้วย ส่วนไอ้โจ้นี่ก็ยิ่งแฮปปี้อยู่แล้ว...

หรืออย่างเรื่องที่เราตัดสินใจลองเปลี่ยนคู่กันเนี่ย ถ้ามองเผินๆ มันเหมือนว่าน่าจะโอเคนะ ไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบใคร แต่พอมองดีๆ คนที่เสียเปรียบที่สุดก็คือกุ๊กนั่นแหละ เพราะอย่างเป้กับโจ้นั่นเค้าก็ผูกพันกันอยู่แล้ว ส่วนพี่เอง... ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะเลยเถิดมาถึงเรื่องสลับคู่แบบนี้อยู่แล้ว แค่ตั้งใจว่าอยากให้โจ้กับเป้เค้ากลับไปสานสัมพันธ์กันเท่านั้นเอง ที่เหลือมันก็คือโบนัสของพี่นั่นแหละ” หนุ่มบอยอธิบายเป็นฉากๆ

“อืม... ถ้างั้น... หนูถามอะไรอีกอย่างได้มั้ยอ่ะ?” สาวกุ๊กที่นิ่งฟังอยู่นานเอ่ยถามขึ้น
“เอาสิ” บอยพยักหน้ารับเบาๆ
“พี่รู้สึกยังไงมั่ง? ตอนที่รู้ว่าต้องมาจับคู่กับหนูเนี่ย” คำถามของเธอทำให้ชายหนุ่มรุ่นพี่อดประหลาดใจจนเผลอหันหน้ามามองไม่ได้
“หมายถึงยังไง? รู้สึกดีหรือไม่ดียังไงน่ะเหรอ?” ชายหนุ่มถามกลับเหมือนไม่แน่ใจ

“ก็รวมๆ อ่ะค่ะ อึดอัดมั้ย? กังวลอะไรบ้างรึเปล่า อย่างของหนูเอง หนูบอกเลยนะว่าโคตรเครียดเลย เพราะที่ผ่านมา.. หนูแทบไม่เคยคิดกับพี่ในเรื่องนี้มาก่อนเลยอ่ะ คือจริงๆ หนูก็รู้สึกปลื้มๆ พี่นะ เพราะว่าพี่บอยเป็นคนเก่ง เป็นผู้ชายใจดี ดูอบอุ่นอย่างกับพวกโอปป้าซีรีส์เกาหลีเลยอ่ะ แต่ก็ไม่กล้าไปคิดอะไรเกินเลยจากคำว่าพี่น้องหรอก” สาวกุ๊กอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ

“อืม... ถ้าหมายถึงแบบนั้น พี่ก็มีแอบเกร็งๆ เหมือนกันแหละ คือพี่เองก็ไม่ใช่ว่าจะมีประสบการณ์อะไรกับเรื่องพวกนี้มากเท่าไหร่ไง ที่ผ่านๆ มา ก็ตกอยู่ในสถานะของคนดูจากวงนอกซะมากกว่า แล้วยิ่งกุ๊กเองก็เป็นเหมือนน้องสาวคนสนิทของพี่คนนึง พอรู้ว่าจะต้องมาใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัวกันแบบนี้ ก็เลยไม่ค่อยมั่นใจว่าพี่จะทำให้กุ๊กมีความสุขได้ซักเท่าไหร่”
“โธ่... พี่บอยก็คิดมากไปแล้ว” สาวกุ๊กพูดเสียงอ่อย

“แต่พี่ก็ดีใจนะ ที่อย่างน้อยกุ๊กก็ยังรู้สึกโอเคกับพี่อยู่บ้าง ไม่งั้นแล้วพี่คงจะไปต่อไม่ถูกเหมือนกัน กลัวว่ากุ๊กจะนึกรังเกียจเอา”
“แฮะๆ แล้วพี่โอเคกับหนูใช่เปล่า?”
“เฮ้ย โอเคสิ กุ๊กหน้าตาน่ารักจะตาย นิสัยดี ร่าเริง น่าทะนุถนอม เป็นใครก็ต้องโอเคทั้งนั้นแหละ” หนุ่มรุ่นพี่เอ่ยปากชมจนหญิงสาวถึงกับเขินแก้มแดง

หนุ่มบอยหมายความตามที่พูดจริงๆ หญิงสาวรุ่นน้องวันนี้สวมเอี๊ยมยีนส์ขายาวทับกับเสื้อยืดสีขาวสะอาดสะอ้าน ทำให้เธอดูอ่อนเยาว์กว่าปกติ เส้นผมดำขลับของเธอถูกเกล้ารวบไว้เป็นทรงกลมด้านหลัง รองพื้นบางๆ กับเครื่องสำอางที่ถูกแต่งแต้มบนผิว ขับให้ใบหน้าหวานๆ ของเธอดูโดดเด่นสะดุดตาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปกติแล้วหญิงสาวจะไม่ค่อยได้สนใจแต่งหน้าแต่งตาตัวเองซักเท่าไหร่ แต่พอรู้ว่าจะต้องใช้เวลาอยู่บนรถกับบอยเพียงสองคน เธอจึงแอบหลบเข้าไปเติมเครื่องสำอางในห้องน้ำเพื่อเพิ่มความมั่นใจ

“ก็เห็นมีอีพี่โจ้นี่แหละค่ะ ที่ไม่โอเคอยู่คนเดียว” กุ๊กพยายามพูดแก้เขิน
“เชื่อพี่เหอะ ตั้งแต่รู้จักกับมันมา พี่ยังไม่เคยเห็นมันรักใครเท่ากุ๊กมาก่อนเลย ไม่ดิ... ยังไม่เคยเห็นมันรักใครมาก่อนด้วยซ้ำ” คำตอบของบอยทำเอาสาวกุ๊กเผลอยิ้มแป้นอย่างชอบใจ ก่อนที่จะนึกอะไรขึ้นมาได้

“แล้วกับพี่เป้ล่ะคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามถึงภรรยาของอีกฝ่าย
“เอ่อ... อันนั้นไม่นับสิ นั่นเมียพี่ แต่กุ๊กเข้าใจที่พี่กำลังจะบอกใช่มั้ย?” บอยรู้สึกจนมุมขึ้นมากะทันหัน
“เข้าใจค่ะพี่ แต่แหม... นิสัยอย่างพี่โจ้มันก็ดูไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่เลยนี่นา”

“ไม่งั้นก็ลอง... แกล้งๆ ยั่วให้มันหึงดูดิ พี่ว่าไอ้โจ้มันอาจจะเป็นฝ่ายมาง้อกุ๊กแทนก็ได้นะ อย่างตอนที่เป้เค้าแกล้งสวีทกับโจ้ ยั่วให้พี่เห็นนะ โห... เจ็บจี๊ดเลยอ่ะ มันทั้งหึงแทบใจจะขาด  แต่ก็ทำให้ได้รู้ว่าตัวเองน่ะรักเป้มากแค่ไหน ได้รู้ว่าเค้าคือคนที่มีความหมายที่สุดในชีวิตของเรา เป็นผู้หญิงที่ทั้งสวย ทั้งมีเสน่ห์ จนเราไม่อยากปล่อยให้เค้าหลุดมือไปกับชายอื่น พอเป็นแบบนั้นแล้วก็เลยต้องพยายามทำคะแนนเอาอกเอาใจเป้เค้ามากขึ้น ให้ตัวเองมั่นใจว่าเราน่ะยังเป็นที่หนึ่งในใจเค้าเหมือนเดิม” บอยอธิบาย

“แต่หนูกลัวว่าของหนูมันจะออกมาตรงกันข้ามน่ะสิคะ อีพี่โจ้มันอาจจะเตลิดจนไม่กลับมาเลยก็ได้” สาวกุ๊กว่า ก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน
“ขอบคุณนะคะพี่บอย หนูสบายใจขึ้นเยอะเลยแหละ” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณด้วยแววตาชื่นชม
“ไม่เป็นไรจ้ะ พี่เองก็โล่งใจเหมือนกัน ที่กุ๊กก็ไม่ได้รังเกียจอะไรพี่” ชายหนุ่มเอ่ยรับคำ

หนุ่มบอยกับสาวกุ๊กขับรถมาถึงที่พักก่อนเป็นคู่แรก ทั้งสองคนเข้าไปจัดการลงชื่อพักที่จองไว้ ก่อนจะขนกระเป๋าเข้าไปเก็บข้างใน

'บ้านปะการังขาว หัวหิน' เป็นบ้านพักตากอากาศขนาดกลาง ตั้งอยู่ติดกับเขาตะเกียบ ห่างจากตลาดโต้รุ่งมาไม่เท่าไหร่ ตัวบ้านเป็นบ้านชั้นเดียว แบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และหนึ่งห้องนั่งเล่น มีอ่างน้ำวนอยู่ริมระเบียงด้านนอก แม้ว่าจะไม่ใช่โรงแรมหรูหราระดับ 5 ดาว ที่มีการตกแต่งหรือบริการโดดเด่นอะไร แต่ด้วยความที่มันค่อนข้างเงียบสงบ แบ่งสัดส่วนพื้นที่ของบ้านแต่ละหลังออกจากกันอย่างชัดเจน แถมยังเดินทางสะดวก และราคาไม่แพงมาก ทำให้หนุ่มโจ้ตัดสินใจเลือกจองที่พักเอาไว้ที่นี่นั่นเอง

“ฮัลโหลเป้ เราถึงแล้วนะ ของเป้อีกนานมั้ย?” ชายหนุ่มโทรหาภรรยาตัวเองหลังจากเก็บของเสร็จ
“อ๋อ... อือ เค้าจะถึงแล้วล่ะ บอยรออยู่ที่นั่นก่อนก็ได้ น่าจะอีกแป๊บเดียว” ภรรยาสาวตอบกลับมาในทันที
“โอเคๆ งั้นถึงแล้วก็โทรมาแล้วกันนะ” บอยพูดเสร็จก็กดตัดสายไป

บอยกับกุ๊กนั่งๆ นอนๆ ดูทีวีรอทั้งคู่อยู่อีกเกือบ 15 นาที เสียงโทรศัพท์มือถือของบอยก็ดังขึ้น หน้าจอแสดงรายชื่อว่าเป็นสาวเป้โทรมานั่นเอง หญิงสาวพึ่งจะมาถึงหน้าที่พัก จึงตัดสินใจโทรหาสามีเพื่อถามถึงตำแหน่งของบ้านหลังที่ทั้งคู่พักอยู่ ผ่านไปไม่ถึง 3 นาที ทั้งคู่ก็มาปรากฏกายอยู่ที่หน้าประตูบ้านในที่สุด

หนุ่มบอยแอบสังเกตเห็นร่องรอยยับยู่ยี่บนชุดเดรสเชิ้ตยีนส์สีฟ้าอ่อนที่ภรรยาสวมใส่ ทั้งๆ ที่ตอนออกจากบ้าน จนถึงช่วงที่ทั้งคู่แวะทานมื้อเช้าด้วยกันตอนสายๆ นั้น สภาพของมันยังดูเรียบเนียนกว่านี้อยู่พอสมควร ใบหน้าของเธอยังคงมีสีแดงจางๆ หลงเหลือติดอยู่บนแก้ม แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มเองก็ไม่ได้เอ่ยทักท้วงอะไรออกไป รอจนทั้งคู่แยกเข้ามาอยู่ในห้องนอนกันตามลำพังแล้วหนุ่มบอยจึงค่อยเปิดประเด็นขึ้นมา

“อะแฮ่ม... ทำไมมากันช้าจังเอ่ย?” หนุ่มบอยเปิดฉากตะล่อมแบบอ้อมๆ ทิ้งตัวนั่งลงไปบนเตียงเดี่ยวขนาดคิงไซส์
“ก็อีโจ้มันมัวแต่ขับหลงอยู่อ่ะดิ เลยช้าเนี่ย” เป้ตอบขณะที่กำลังรื้อของในกระเป๋าออกมาวางบนโต๊ะ
“อ๋อ... เหรอ... ไปหลงกันอีท่าไหนล่ะ เสื้อผ้าถึงได้ยับซะขนาดนั้น” สามีหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ภรรยาสาวหันขวับกลับมามองตาม แล้วทำหน้ายิ้มแหยๆ

“อ้าว... รู้ด้วยเหรอ?” เป้ออกอาการตื่นๆ นิดหน่อย
“โว๊ะ! ไม่รู้ก็บ้าแล้ว มาช้าซะขนาดนี้ แถมเสื้อก็ยับยู่ยี่อีก นี่ตกลงแอบไปจัดกับไอ้โจ้กันก่อนแล้วเหรอเนี่ย?” บอยโวยเบาๆ
“ยางงง หูย อย่างอนดิ เป้ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ก็แค่...” หญิงสาวเอ่ยแล้วเว้นช่วงค้างไป
“ก็แค่อาราย?” บอยถามจี้ใจดำ แอบลุ้นระทึกไปกับคำตอบของเธอด้วยใจที่สั่นระรัว

“ก็แค่โจ้มัน... เอ่อ ใช้นิ้วให้เราบนรถเท่านั้นเอง แฮะๆ...” สาวเป้สารภาพเสียงอ่อย
“โหย... แล้วเสร็จมั้ยเนี่ย?” บอยสัมภาษณ์ต่อ
“โอ้ย ไม่ไหวหรอกสว่างโร่แบบนี้ ใครจะไปกล้าทำนานๆ ต่อให้รถมันติดฟิล์มก็เหอะ” เธอตอบมาตรงๆ

“นี่มันทำอะไรเป้ไปแล้วมั่งเนี่ย?”
“ก็ไม่ได้อะไรมากหรอก ขับรถอยู่ดีๆ อีโจ้มันเกิดหื่นขึ้นมา ก็เลยแอบจอดหลบข้างทางตรงซอยเปลี่ยวๆ แล้วก็มาอ้อนมานัวเรา จับนู่นจับนี่ แล้วมันก็ใช้นิ้วให้เราอย่างที่บอก ก็... จังหวะที่บอยโทรมาพอดีนั่นแหละ” คำตอบของเป้ทำเอาหนุ่มบอยถึงกับหึงหวงแบบสุดๆ เลือดลมพลุ่งพล่าน รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งร่าง โดยเฉพาะดุ้นเนื้อตรงกลางตัวที่กระดกหงึกๆ อย่างไม่อาจห้ามใจ

“นี่ถ้าเราไม่โทรไปพอดี ป่านนี้เป้คงจัดกับมันในรถไปแล้วใช่มั้ยเนี่ย ฮึ?”
“บ้า... ไม่หรอก มันไม่ถนัด กลางวันแสกๆ ด้วย ใครจะไปกล้าทำอะไรน่าเกลียดแบบนั้น” สาวเป้แก้ตัว
“นี่ขนาดไม่กล้ายังนั่งให้มันตกเบ็ดคารถเลยเนี่ยนะ” สามีหนุ่มพูดแซวจนภรรยาเขินหน้าแดง

“พอเลย ออกไปรอข้างนอกเลย เค้าจะเปลี่ยนกางเกงในแล้ว” หญิงสาวพูดตัดบท
“โห... ถึงขนาดต้องเปลี่ยนกางเกงในเลยเหรอ นี่เปียกไปถึงขนาดไหนแล้วเนี่ย?” บอยอุทานออกมาเบาๆ ก่อนจะโดนเธอขว้างผ้าเช็ดตัวใส่หน้าเพื่อให้เงียบเสียที

=======================================

ทั้งสี่ใช้เวลานั่งๆ นอนๆ ตากแอร์เล่นไพ่ดูทีวีฆ่าเวลาไปพลางๆ จนถึงประมาณ 3 โมงครึ่ง จึงพากันออกไปเดินเล่นสำรวจบริเวณรอบๆ ที่พักของตัวเอง มองไปทางซ้ายและขวาเห็นบ้านหลังอื่นๆ อยู่ห่างถัดไปจากหลังที่พวกเขาอยู่ราวๆ 10 เมตรได้ แต่ละหลังมีกำแพงกั้นแยกออกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อความเป็นส่วนตัวของนักท่องเที่ยวที่มาพัก

หนุ่มบอยลองกวาดสายตาไปทางขวามือ มองเห็นเขาตะเกียบตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่เบื้องหน้า ที่บริเวณชายหาดมีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำทะเลกันอยู่ประปราย ท้องฟ้าเวลานี้ค่อนข้างปลอดโปร่ง แดดบนหัวตอนนี้ไม่ค่อยร้อนแรงซักเท่าไหร่ มีลมทะเลพัดคลอหวิวๆ พอให้ชื่นใจ เป้และกุ๊กจึงตัดสินใจเปลี่ยนชุดลงไปเล่นน้ำทะเลด้วยกัน โดยที่หนุ่มๆ นั้นขอนอนเฝ้าของอยู่บนเก้าอี้ชายหาด ปล่อยให้สาวๆ ได้ลงไปเล่นน้ำกันตามสะดวก หลังจากที่รอพวกเธอถ่ายเซลฟี่รูปหมู่กันจนหนำใจแล้ว

สองสาวต่างสวมใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นคู่กับรองเท้าแตะคล้ายๆ กัน สาวเป้นั้นอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวยาวหลวมโคร่ง ด้านล่างเป็นกางเกงขาสั้นสีดำยาวเลยเข่า มัดผมรวบไว้ด้านหลัง ผิวขาวๆ ของเธอสะท้อนต้องกระทบกับแสงแดด ยิ่งทำให้หญิงสาวดูขาวผ่องเป็นใยขึ้นไปอีก

ฝั่งของสาวกุ๊กนั้นสวมเสื้อยืดคอวีสีดำเข้ารูป ช่วยขับเน้นทรวดทรงให้โดดเด่นโดยที่เจ้าตัวก็ไม่ทันได้นึกถึงในจุดนี้ กางเกงยีนส์ขาสั้นของเธอ แม้จะไม่ถึงกับสั้นกุดจนดูโป๊ แต่ก็ยังดูสั้นกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อลองเทียบกับกางเกงของสาวรุ่นพี่ น่องขาขาวอวบของเธอจึงตกเป็นเป้าให้หนุ่มๆ ในบริเวณหาด รวมไปถึงสองหนุ่มทั้งบอยและโจ้ ได้ลวนลามทางสายตาอย่างเพลิดเพลิน

“เมียมึงนี่... ดูไปดูมาก็น่ารักดีนะ” หนุ่มบอยเอ่ยลอยๆ กับโจ้ สายตาก็จับจ้องไปที่เรือนร่างของสาวกุ๊ก เส้นผมของเธอเปียกชื้นนิดๆ ดูเซ็กซี่ขึ้นมาจากทีแรก เสื้อยืดที่ปกติก็กระชับเข้ารูปอยู่แล้ว พอถูกน้ำทะเลเข้า ยิ่งทำให้มันกระชับรับกับหน้าอกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จนมองเห็นเป็นรอยเส้นยกทรงโผล่ออกมาอย่างชัดเจน น่องขาขาวอวบ ดูเนียนแน่นน่าสัมผัสลูบไล้ไปทั้งปลีน่อง ชายหนุ่มมัวแต่มุ่งความสนใจไปที่สาวกุ๊ก จนแทบจะลืมมองภรรยาตัวเองที่กำลังเล่นน้ำอยู่ข้างๆ สาวรุ่นน้องไปเลย

“ผมก็ว่างั้นแหละพี่” โจ้ตอบโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอโทรศัพท์
“เออ แล้วนี่มึงโอเคใช่มั้ย ถ้าเกิดว่าคืนนี้กูกับกุ๊กจะ... จะเดินหน้าไปมากขึ้นกว่าเดิม” คำพูดของหนุ่มบอย กระชากเรียกความสนใจจากหนุ่มรุ่นน้องได้ในที่สุด

“ผมอ่ะไม่มีปัญหาหรอก ถ้าพี่แฮปปี้ กุ๊กแฮปปี้ ก็โอเค” โจ้ตอบเรียบๆ
“อืม กูก็ยังไม่แน่ใจหรอก แต่คิดว่าอะไรๆ มันน่าจะดีขึ้นกว่าวันก่อนมั้ง” บอยพูดแบบไม่ฟันธง
“ลองดูอ่ะพี่ ทริปนี้ผมเปิดโอกาสให้พี่ลุยได้เต็มที่เลย ถ้ากุ๊กเค้ายอมพี่ก็ไม่ต้องยั้งแล้ว เดี๋ยวผมจะหาทางช่วยอีกแรงนึง เออ... แต่ยังไงขอไว้นิดนึงนะพี่บอย งวดนี้พี่ใส่ถุงหรือแตกนอกก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะพลาดท้องขึ้นมา” โจ้เอ่ยขอ

“อ้าว แต่ก่อนนี้มึงบอกว่าเค้ากินยาคุมกันไว้ตลอดไม่ใช่เหรอ?” บอยถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
“ก็ใช่แหละพี่ แต่ช่วงนี้เค้าไม่ได้กินแล้วไง เว้นมาจะ 2-3 อาทิตย์แล้ว”
“ทำไมจู่ๆ ถึงหยุดขึ้นมาวะ?”

“เอ๊า! ก็พี่นั่นแหละ ชอบมาพูดกดดันผมกับกุ๊กเรื่องอยากให้มีลูกกันไวๆ เนี่ย... กุ๊กเค้าเลยเกิดนึกอยากลองมีจริงๆ จังๆ ขึ้นมา ก็เลยมารบเร้าอ้อนของดยาคุมไปก่อน ไอ้ผมเองก็กล้าขัดเค้าซะที่ไหน ก็เลยต้องยอม... นี่ก็พยายามลองปั๊มลูกกันมาเรื่อยๆ เนี่ย” โจ้อธิบาย
“ไอ้ห่า... รู้ทั้งรู้ว่าเสี่ยง แต่มึงก็ดันชวนกูมาทริปทำลูกเนี่ยนะ?” บอยเอ็ดเข้าให้
“เอาน่าพี่... ไหนๆ ก่อนหน้านี้เราก็ช่วยๆ กันบิวท์มาตลอดอยู่แล้ว ก็แค่... ระวังๆ ไว้หน่อย ก็เท่านั้นเอง” หนุ่มรุ่นน้องเอ่ยแบบง่ายๆ

“เฮ้อ... ตามใจมึงแล้วกัน เกิดกุ๊กเค้าอาละวาดขึ้นมา กูไม่ช่วยรับหน้านะโว้ย บอกไว้ก่อน” บอยออกตัว
“โอ๊ย! ไม่หรอกมั้ง หรือว่าพี่จะให้ผมใช้ตัวช่วยกันเหนียวมั้ยล่ะ?” โจ้เอ่ยถึงยาปลุกเซ็กส์ที่ชายหนุ่มพกติดตัวมาด้วย
“ไม่ต้องหรอก ปล่อยไปตามสถานการณ์ก็พอ กูอยากให้กุ๊กเค้าเลือกที่จะลองเองด้วย ไม่อยากไปบังคับใจเค้าทางอ้อม แล้วก็อีกอย่าง  กูแค่ตั้งใจว่าจะมาพักผ่อนชิลๆ กับเมีย ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องพาสาวมาเชือดแบบมึงซักหน่อย” บอยพูดแซะรุ่นน้องไปหนึ่งดอก

“อ่ะ ตามใจ แล้วยาในส่วนของพี่เองอ่ะ เอาป่าว? หรือว่าไม่ต้องใช้แล้ว” โจ้เปลี่ยนมาพูดถึงเรื่องสมรรถภาพของหนุ่มรุ่นพี่บ้าง
“เอาสิวะ! ไอ้ห่า... เกิดถึงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มแล้วเกิดแป้กขึ้นมา อายน้องมันตายห่าเลย” บอยตอบ
“ปัดโธ๊... ไอ้ผมก็นึกว่าพี่จะแน่ ที่แท้ก็เหมือนเดิม” โจ้ว่าพร้อมกับหัวเราะชอบใจ

จนกระทั่งเกือบๆ 5 โมงเย็น ทั้งสี่จึงกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดกันที่บ้าน ก่อนที่จะพากันไปทานมื้อเย็นที่ร้านชาวเลตามที่สาวกุ๊กตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก

สองสาวสั่งอาหารทะเลชุดใหญ่มาทานกันแบบไม่กลัวอ้วน ทั้งปลากระพงทอดน้ำปลา, หอยเชลล์อบเนย, ต้มยำชาวเล, ทะเลเผารวมมิตร ทานคู่กับเมนูข้าวผัดปลาเค็มขึ้นชื่อของทางร้าน จนอิ่มหนำพุงกางไปตามๆ กัน จากนั้นจึงแวะไปเดินเล่นทานผลไม้ ทานขนมกันที่ตลาดถนนคนเดินอีกครู่ใหญ่ๆ ก่อนจะพากันกลับเข้าที่พักช่วงประมาณทุ่มครึ่ง

ทั้งสี่คนเปลี่ยนชุดมานั่งจิบเบียร์คุยเล่นกันที่อ่างน้ำวนตรงริมระเบียงเหนือชายหาด

หนุ่มๆ สวมกางเกงว่ายน้ำขาสั้นเข้ารูป ลำตัวท่อนบนเปลือยเปล่า ส่วนสองสาวขอโชว์ความเซ็กซี่เล็กๆ โดยเป้เลือกสวมชุดว่ายน้ำทูพีซสีน้ำเงินเข้มลายจุดสีขาว คลุมทับไว้ด้วยเสื้อคลุมผ้าตาข่ายแขนยาวสีดำด้านนอก เพื่อไม่ให้ดูโป๊จนเกินไป ขณะที่ฝั่งของสาวกุ๊กนั้นดูค่อนข้างจะมั่นใจกว่า กล้าเปิดเผยสัดส่วนอวบอัดในชุดทูพีซสีดำสนิท ท่อนบนเป็นทรงบิกินีทั่วไป  ส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงบิกินีแบบสปอร์ตเข้าชุดสีเดียวกัน ผิวกายขาวๆ ของเธอตัดกับสีดำสนิทของชุดว่ายน้ำดูโดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก

คู่สามีภรรยารุ่นพี่หย่อนกายลงไปนั่งแช่น้ำเล่นฟองกันอยู่ในอ่าง ขณะที่หนุ่มโจ้และสาวกุ๊ก เลือกที่จะนั่งเบียดกันอยู่ตรงบริเวณขอบอ่างด้านบน หย่อนปลายเท้าลงไปแช่น้ำเล่น พร้อมกับจิบเบียร์ดื่มด้วยความเพลิดเพลิน

ท้องฟ้าคืนนี้เปิดโล่ง มองออกไปเห็นกลุ่มดาวที่กำลังส่องแสงระยิบระยับวับวาวอยู่ไกลลิบๆ สายลมบางๆ พัดโบกหวิวๆ ต้องกระทบเข้ากับผิวกาย พาให้ใจรู้สึกหนาวๆ เคว้งๆ ขึ้นมาในทันใด ความที่เธอสวมใส่เพียงบิกินี ยิ่งทำให้เธอกลายเป็นเป้าให้สายลมพัดเชือดเฉือนท่อนแขนของเธออย่างไม่นึกปราณี หญิงสาวขยับกายเข้าไปซุกเบียดแนบกับอกของสามีเพื่อข่มความหนาวเย็น ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงเอื้อมมือมาโอบไหล่ภรรยาเอาไว้ พร้อมกับรั้งร่างเธอให้แนบชิดเข้ามาอีก

“หนาวเนอะ” โจ้เอ่ยกระซิบเบาๆ ข้างหูเธอ
“อื้อ” สาวกุ๊กหลับตาครางตอบเบาๆ พร้อมกับเอนศีรษะพิงซบกัน

หนุ่มบอยมองภาพสองหนุ่มสาวออดอ้อนพลอดรักกันก็อดนึกยินดีไปกับทั้งคู่ไม่ได้ เมื่อได้เห็นเจ้าหนุ่มน้องรักจอมแสบของตัวเอง แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา มีภรรยาที่น่ารักน่าเอ็นดู และเป็นคู่ที่เหมาะสมกันไม่แพ้คู่ของตัวเค้ากับเป้เลยแม้แต่น้อย

“ดูไอ้โจ้ดิ... แม่งออเซาะกระหนุงกระหนิงกับเมียไม่เกรงใจเราเลย” บอยเอามือป้องปากกระซิบกับภรรยาที่นั่งเบียดไหล่ชนไหล่อยู่ข้างๆ หญิงสาวฟังแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร หันมาจ้องหน้าสามียิ้มๆ อย่างมีเลศนัย ก่อนที่ชายหนุ่มจะรู้สึกได้ว่ามือของเธอนั้น กำลังขยุกขยิกอยู่ตรงกลางเป้ากางเกงของเขาอยู่ใต้น้ำ

“เอ้ย... ทำไรอะเรา?” ชายหนุ่มกระซิบถามไปแบบงงๆ ในขณะที่สาวเป้ก็คอยส่งสายตาหวานเยิ้มแปลกๆ กลับคืนมาตลอด
“ก็... เราก็สวีทแข่งกับมันมั่งไง” หญิงสาวพูดติดตลก มือขวาก็ยังคอยลูบคลึงดุ้นเนื้อของสามีเล่น จนมันชักจะเริ่มออกอาการตื่นตัวขึ้นมาทีละน้อยๆ รู้สึกตัวอีกที ดุ้นเนื้อของชายหนุ่มก็ปึ๋งปั๋งคับตุงกางเกงออกมาเป็นแท่ง

“อุ๊บ.. เป้...” หนุ่มบอยครางเรียกชื่อภรรยาเบาๆ เมื่อโดนฝ่ามือของภรรยา สอดล้วงเข้าไปเขี่ยเล่นที่บริเวณปลายดอกเห็ด ก่อนจะรูดท่อนลำเล่นช้าๆ ชายหนุ่มนั้นถึงกับอึ้งไปเลย เมื่อจู่ๆ ภรรยาสุดที่รักผู้มีนิสัยเรียบร้อย หวงตัว กลับกล้าที่จะเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกปลุกเร้าอารมณ์ของเขาต่อหน้าต่อตาน้องๆ ทั้งสองคนในสถานที่กลางแจ้งและเปิดโล่งแบบนี้

“ชู่.... เบาๆ สิ เดี๋ยวน้องมันก็รู้หมดหรอก” หญิงสาวพูดเตือน ด้วยความที่กระแสน้ำในอ่างหมุนวนจนเกิดเป็นฟองฟูฟ่องลอยอยู่ที่บริเวณชั้นผิวด้านบน ทำให้ทั้งโจ้และกุ๊ก ไม่สามารถมองเห็นการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นใต้น้ำได้เลย

“ชักหนาวแล้ว ลงไปแช่น้ำเล่นกันเถอะ” จู่ๆ หนุ่มโจ้ก็ออกอาการหนาวสั่นขึ้นมา พร้อมกับชักชวนภรรยาให้ลงไปแช่ตัวในน้ำอุ่นด้วยกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะค่อยๆ หย่อนตัวลงไปนั่งแช่อยู่ฝั่งตรงข้ามของคู่สามีภรรยารุ่นพี่ สาวเป้พอเห็นแบบนั้นแล้วจึงจำต้องยอมหยุดมือโดยอัตโนมัติ เพราะกลัวจะถูกอีกฝ่ายจับได้เสียก่อน

หลังจากแช่น้ำอุ่นกันจนหนำใจแล้ว สองครอบครัวก็พากันไปเปลี่ยนชุดเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วย้ายมาต่อกันที่เครื่องคาราโอเกะในห้องนั่งเล่นรวม ผลัดกันถือไมค์แหกปากร้องเพลง เดี่ยวบ้าง... คู่บ้าง... สลับกันไปมา เป็นที่สนุกสนานถูกใจของทุกคน

“ไม่เอานะเกรงใจ ไม่ดีหรอกเกรงใจ ไม่เอานะเกรงใจ ไม่ดีหรอกเกรงใจ” สองหนุ่มทั้งร้องทั้งเต้น ออกลีลาโชว์ท่าโหนรถเมล์สุดฮิตกับเพลง 'เกรงใจ' ของคู่ดูโอแร็ปเตอร์อย่างพร้อมเพรียง เรียกเสียงกรี๊ดจากสองสาวดังกระหึ่ม

“Hey! One-Two-Three ไม่ได้เป็นคนที่เกเร แค่อยากจะบอกไม่ได้เจ้าชู้ ถ้าเธอเข้าใจก็โอเค ถ้าไม่เข้าใจคงเดินเซ พะวงมึนงงและโลเล ถ้าโดนเธอตอกคงเข้าอารมณ์เหมือน D-a-r-k” คราวนี้หนุ่มโจ้ขอโชว์ลูกคออ้อนแฟน กับเพลงฮิตตลอดกาลของเหล่าเพลย์บอยจอมเจ้าชู้

“กระแซะๆๆๆ เข้ามาซิ ขยับๆๆๆ เข้ามาสิ” เสียงใสๆ ของกุ๊กดังคลอไปกับเสียงดนตรี หญิงสาวกำลังเมามันในอารมณ์ ร้องเพลงออกท่าออกทางอย่างสนุกถึงใจ ส่ายสะโพกโยกย้ายเข้าไปแนบชิดกับร่างของนักร้องคู่ขาอย่างสาวเป้ตามเนื้อร้องในเพลง เล่นเอาสองหนุ่มทั้งโจ้และบอยอดกลืนน้ำลายเอื้อกๆ กับลีลายั่วเย้าของทั้งคู่ไม่ได้ สองสาวพอเห็นว่าหนุ่มๆ กำลังจับจ้องตาเป็นมัน ก็เลยยิ่งออกท่าทาง ทั้งเด้งทั้งโยกหนักข้อขึ้นไปอีก

สายตาของทั้งคู่จ้องประสานสบตากันอย่างยั่วยวน ปล่อยอารมณ์ปล่อยใจไปกับเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่ม สาวกุ๊กที่กำลังคึกคะนองไปกับท่วงทำนองเพลงอยู่นั้น จึงไม่ทันได้สนใจสถานการณ์รอบๆ ตัวเท่าไหร่ พอรู้สึกตัวอีก ก็พบว่าสาวรุ่นพี่นั้นมายืนประชิดร่างของเธออยู่เบื้องหน้าแล้ว และก่อนที่เธอจะทนได้พูดอะไร สาวเป้ก็ขยับเข้ามาใกล้ พร้อมกับประทับจุมพิตลงมาที่ริมฝีปากของเธอ

“อึ... อื้อ!?” สาวกุ๊กถึงกับดวงตาเบิกโพลง ตื่นตระหนกตกใจไปกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจว่าจู่ๆ สาวรุ่นพี่จะเกิดคิดพิศวาส นึกอยากจะลองเล่นบทเลสเบี้ยนกับเธอขึ้นมาได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอทั้งสองคนจะเคยมีประสบการณ์ใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัวกันมาก่อน แต่นั่นก็เป็นเพราะเหตุการณ์นั้นกำลังเกิดขึ้นต่อเนื่องบนเตียง เป็นไปตามจังหวะและอารมณ์ที่คุกรุ่นของทั้งสองคู่ ไม่ใช่ว่ากำลังจับไมค์แหกปากร้องเพลงกันอยู่แบบนี้

ปลายลิ้นของสาวรุ่นพี่รุกไล่ประชิดกับลิ้นของอีกฝ่ายอย่างไม่เปิดโอกาสให้ได้ตั้งตัว สาวกุ๊กนั้นได้แต่ยืนตัวแข็งหลับตาปี๋ ตกเป็นเป้านิ่งให้อีกฝ่ายได้ทะลวงลิ้นจู่โจมโพรงปากของเธอตามใจชอบ จนสติสตังของสาวรุ่นน้องเตลิดเปิดเปิงไปไกล ใบหน้าแดงระเรื่อ ลมหายใจติดขัดขาดห้วง เนื้อตัวสั่นริกๆ ความรู้สึกทั้งขัดเขิน... ทั้งเคลิบเคลิ้ม... ตีกันจนสับสนวุ่นวายไปหมด

การจูบกับผู้หญิงด้วยกันมันให้อารมณ์ที่แปลกใหม่ แตกต่างไปจากการจูบกับสามีหนุ่มแบบคนละเรื่อง รสจูบของสาวรุ่นพี่นั้นทั้งวาบหวาม เร่าร้อน แต่ก็แฝงความนุ่มนวลอยู่ในที แถมยังทิ้งรสชาติหอมหวานนิดๆ ติดอยู่ที่ปลายลิ้นอีกด้วย สาวกุ๊กโดนเป้รุกไล่ต้อนด้วยปลายลิ้นจนถึงกับเคลิบเคลิ้มตาลอย เผลอสอดลิ้นเข้าไปพัวพันกับลิ้นของสาวรุ่นพี่อย่างลืมตัว

“เฮ้ย... มึงแอบทำอะไรเมียกูป่าววะ? ทำไมเป้ถึงได้เซ็กส์ขนาดนี้เนี่ย?” บอยที่อึ้งอยู่นาน หันไปกระซิบถามหนุ่มรุ่นน้อง
“อ้าว จับได้ซะแระ จะไม่ให้เซ็กส์ได้ยังไง ผมใส่ยาลงไปในแก้วเบียร์พี่เป้ตั้งเยอะแน่ะ” โจ้พูดหน้าตาย
“ไอ้สันขวาน... มึงจะวางยาเป้ทำห่าอะไรอีกวะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ยังไงเป้เค้าก็ยอมมึงอยู่แล้ว”

“อ้าว ก็พี่บอกผมไม่ให้วางยากุ๊กนี่นา แต่ไม่ได้ห้ามไปถึงพี่เป้ซักหน่อย” โจ้แถหน้าด้านๆ
“สัส... มึงเป็นศรีธนญชัยรึไง ดูดิ๊ เตลิดไปถึงไหนแล้วเนี่ย” บอยด่าพร้อมกับชี้ชวนให้ดูสองสาวที่กำลังดูดปากกันอยู่อย่างเร่าร้อน
“ก็ดีแล้วนี่พี่ นานๆ จะได้เห็นพี่เป้เป็นฝ่ายรุกคนอื่นบ้าง เสียวดีออก พี่ไม่ชอบเหรอ?” โจ้ถามกลับ ขณะเดินไปปิดม่านที่ประตู
“เชี่ย... ไม่เห็นต้องถามเลยมึง” บอยสบถออกมาเบาๆ ก่อนจะหันไปจับจ้องการกระทำของสองสาวต่อด้วยความระทึก

เสียงดนตรีจากเพลงยังคงดังคลอไปเรื่อยๆ ในขณะที่นักร้องสาวทั้งสองคน กลับลงไปนอนคลุกวงในกันอยู่บนโซฟายาว รู้ตัวอีกที... สองสาวก็ตกอยู่ในสภาพหวุดหวิดล่อนจ้อน มีเพียงชุดชั้นในตัวน้อยๆ ที่คอยปกปิดร่างกายของทั้งคู่เอาไว้อยู่

สองเต้าขาวๆ ภายใต้ยกทรงลูกไม้ของกุ๊ก กำลังถูกอุ้งมือของสาวรุ่นพี่ บีบขยำเค้นคลึงไปมาอย่างมันมือ ปลายนิ้วก็คอยเขี่ยสะกิดที่ยอดปทุมถันของเธอเพื่อปลุกอารมณ์หื่นภายในตัว ด้วยความที่ต่างก็เป็นผู้หญิงด้วยกัน จึงทำให้สาวเป้นั้นรู้จุดรู้ใจ และรู้ดีว่าควรที่จะสัมผัสลูบไล้ตรงส่วนไหน ออกแรงหนักเบาเพียงใด จึงจะทำให้สาวรุ่นน้องออกอาการเสียวซ่าน จนต้องยอมเปิดเผยความต้องการในใจออกมาจนหมดเปลือก

“อืม.. มมมม ฮื่อออ” กุ๊กพ่นลมหายใจ ครางฮือออกมายาวๆ เนื่องจากริมฝีปากของเธอนั้นกำลังถูกสาวรุ่นพี่ประกบอุดไว้ด้วยรสจูบ สาวเป้สอดมือขวาล้วงผ่านเข้าไปทางขอบกางเกงในของอีกฝ่าย ไม่ถึงเสี้ยววินาที ร่างของสาวรุ่นน้องก็ออกอาการตัวสั่นกระตุก หน้านิ่วคิ้วขมวด เหมือนกำลังฝืนเกร็งสู้กับรสสัมผัสที่เกิดขึ้นเบื้องล่าง กางเกงในลูกไม้ค่อยๆ ขยับร่นหล่นลงไปกองอยู่ตรงหน้าขา เผยให้เห็นสภาพปากร่องสาวของเธอ ที่กำลังถูกปลายนิ้วของสาวรุ่นพี่บดคลึงเม็ดเสียวเล่นอยู่ในขณะนี้

“อุ๊... ซี้ดดส์ อือ... พี่เป้ขา... อุ๊ย... อย่าค่ะ” สาวกุ๊กถอนริมฝีปากออกมา พยายามร้องครางอ้อนวอน แต่สาวรุ่นพี่ก็ไม่ได้นึกเห็นอกเห็นใจเธอเลยแม้แต่น้อย มือซ้ายยังคงคอยบีบคลึงเต้านมอวบอิ่ม ขณะที่มือขวาก็ค่อยๆ สอดนิ้วแยงเข้าไปที่ร่องรูด้านในเบาๆ

กุ๊กโดนเป้ไล่ปล้ำปลุกอารมณ์จนชักจะเริ่มทนไม่ไหว เนื้อตัวร้อนวูบวาบ เลือดลมสูบฉีดขึ้นมาจนใบหน้าแดงระเรื่ออย่างชัดเจน ร่องหลืบตรงบริเวณหว่างขา ถูกปลายนิ้วเรียวยาวมุดคว้านสำรวจลงไปจนเจอเข้ากับบ่อน้ำพุร้อน หยาดน้ำหล่อลื่นใสๆ ค่อยๆ ไหลซึมทะลักออกมาจากภายใน มองเห็นเป็นคราบน้ำใสๆ ไหลเยิ้มเต็มหน้าขา

“อู๊ย.. สสส ซี้ดส์ พี่เป้ขา.. พะ.. พอก่อนค่ะ... หนูเสียวววว” สาวกุ๊กครางหน้าสั่น เมื่อโดนสาวเป้เร่งแยงนิ้วตกเบ็ดให้เธอจนหยาดน้ำเงี่ยนแตกกระจายเป็นสาย

สองหนุ่มที่ยืนเอ๋ออยู่พักใหญ่ๆ ในที่สุดก็เหมือนจะตั้งหลักได้ ค่อยๆ ขยับตัวเข้ามายืนประกบร่างของสองสาว พร้อมๆ กับปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกไปด้วย ร่างเปลือยเปล่าของทั้งคู่เรียกความสนใจจากสาวเป้ได้อย่างจัง หญิงสาวหยุดการกระทำของตัวเองในทันที พร้อมกับหันมาจับจ้องมองที่อาวุธประจำกายของทั้งคู่ด้วยความสนใจ

ดุ้นเนื้อขนาด 5 x 5 ของบอยกำลังแข็งตัวแบบสุดๆ ท่อนลำสีแดงอมน้ำตาลดูจะเบ่งบวมยิ่งกว่าครั้งไหนๆ คล้ายกับว่ามันกำลังจะระเบิดออกมาในอีกไม่กี่นาทีนี้ ขณะที่อีกด้าน แท่งเนื้อยักษ์ใหญ่ขนาด 7 x 6 นิ้วของโจ้นั้นก็ยังคงดูน่ากลัวไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่ามันจะเคยทิ่มทะลุทะลวงเข้าร่างของเธอมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งที่ได้เห็น หญิงสาวก็มักจะออกอาการเสียววูบวาบไปทั่วทั้งท้องน้อยอยู่ดี

“เราไปต่อกันข้างในห้องนอนมั้ยเป้ จะได้ถนัดๆ” บอยเสนอความคิดเห็น ซึ่งภรรยาสาวก็พยักหน้ารับแต่โดยดี หนุ่มโจ้ที่ยืนรอจังหวะอยู่ จึงรีบประคองร่างภรรยาตัวเอง พาเดินเข้าไปในห้องนอนด้วยกัน ซึ่งสาวกุ๊กนั้นก็ไม่ได้ออกอาการขัดขืนแต่อย่างใด เนื่องจากอารมณ์ของเธอนั้นกำลังคุกรุ่นได้ที่ จากการถูกสาวเป้ปลุกเร้าอย่างดุเดือดเมื่อสักครู่

โจ้ประคองวางร่างของภรรยาลงไปบนเตียงด้วยความนุ่มนวล หญิงสาวพยายามใช้สองมือปกปิดร่างกายของตัวเองไว้อย่างเต็มความสามารถ สภาพชุดชั้นในของเธอก็ช่างดูหมิ่นเหม่ใกล้จะหลุดมิหลุดแหล่ กางเกงชั้นในม้วนลงมากองขาอยู่ที่น่องขา ยกทรงถูกถลกปลิ้นขึ้นไปกองอยู่เหนือเนินอก ก่อนที่สุดท้ายแล้วทั้งสองชิ้นจะถูกหนุ่มโจ้ปลดเปลื้องออกไปอย่างง่ายดาย และพอฝั่งของสาวเป้จัดการกับเสื้อผ้าสองชิ้นสุดท้ายของตัวเองเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งสี่คนต้อนนี้จึงอยู่ในสภาพชุดวันเกิด เปลือยเปล่าล่อนจ้อนกันถ้วนหน้า

หนุ่มโจ้สบตากับหนุ่มบอยเหมือนพยายามส่งซิกอะไรบางอย่าง ทั้งคู่จ้องตากันจนแน่ใจแล้ว หนุ่มบอยจึงค่อยๆ ก้าวขึ้นไปนั่งบนเตียงเคียงข้างกับร่างของกุ๊ก สาวรุ่นน้องออกอาการตื่นเต้นนิดๆ แต่ก็ไม่ถึงกับขยับตัวถอยหนี เธอเพียงแค่เบือนหน้าหลบ ไม่กล้ามองตาหนุ่มรุ่นพี่เพราะยังคงแอบเขินชายหนุ่มอยู่เล็กน้อย

“กุ๊กครับ... กุ๊กไม่รังเกียจพี่ใช่มั้ย?” หนุ่มบอยเอ่ยอย่างสุภาพ หญิงสาวนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเบาๆ โดยไม่สบตา
“ค.. ค่ะพี่” สาวกุ๊กตอบกลับมาเสียงสั่น พวงแก้มกลายเป็นสีแดงเข้มแบบจัดๆ พอสิ้นคำพูดของเธอแล้ว หนุ่มบอยจึงเอื้อมมือคว้าจับเข้าที่ไหล่ของเธอในทันที ชายหนุ่มออกแรงดึงรั้งร่างของเธอให้หันหน้าเข้าหา และทำให้หญิงสาวจำต้องยอมหันหน้ากลับมามองตาชายหนุ่มโดยอัตโนมัติ

ทั้งสองจ้องหน้าสบตากันอย่างเขินอาย แม้ชายหนุ่มรุ่นพี่จะเป็นฝ่ายรุกเข้าใส่ แต่ในใจของทั้งคู่นั้นก็ตื่นเต้นตูมตามไม่แพ้กัน สายตาของบอยสะท้อนเป็นประกายคล้ายส่งผ่านความรู้สึกบางอย่าง ซึ่งสาวรุ่นน้องเองก็เหมือนจะเข้าใจ ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไรกัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะค่อยๆ หลับตา โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้กับใบหน้าเธอช้าๆ พร้อมกับเผยอปากออก ขยับใกล้เข้าไปเรื่อยๆ... เรื่อยๆ... ก่อนที่มันจะไปหยุดเข้าที่ริมฝีปากของสาวกุ๊ก ซึ่งอ้าเผยอรออยู่เช่นกัน

เสียงประกบจูบปากของทั้งคู่ดังจ๊วบจ๊าบ จ๊วบจ๊าบ สลับกันเป็นระยะๆ ต่างคนต่างหลับตาไม่กล้ามอง พยายามเสพรับรสสัมผัสจากริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ ปลายลิ้นของทั้งคู่ค่อยๆ เบียดเสียดเข้าหากัน รสชาติหอมหวานจากปากของสาวรุ่นน้อง ทำให้ดุ้นเนื้อของหนุ่มบอยยิ่งเกิดอาการตื่นตัว ปึ๋งปั๋งคึกคักขึ้นไปอีก

สาวกุ๊กหลับตาดูดปากแลกลิ้นกับหนุ่มบอยอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนที่เธอจะเริ่มรู้สึกว่ามีใครอีกคน กำลังลูบไล้สัมผัสผิวกายของเธออยู่ พอเธอลืมตาขึ้นมาจึงพบว่า หนุ่มโจ้ที่เคยยืนสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ ตอนนี้ได้ขยับมานั่งอยู่ทางด้านหลังเธอ พร้อมกับใช้สองมือสอดเข้ามาบีบเคล้นทรวงเต้าของเธอ จนมันบิดเบี้ยวผิดรูป

หนุ่มโจ้คอยๆ ดึงร่างของภรรยาให้เอนหงายพิงทับร่างของตัวเอง ในขณะที่หนุ่มรุ่นพี่ก็ยังคงคอยตามประกบดูดปากสาวกุ๊กอยู่ไม่ห่าง สาวเป้ที่ยืนมองสองหนุ่มรุมเล่นงานสาวรุ่นน้องอยู่ก็เกิดอดรนทนรออีกไม่ไหว ต้องขอเข้าไปร่วมแจมช่วยปลุกอารมณ์เธอด้วยอีกคน

หญิงสาวใช้มือลูบตามน่องขาของสาวรุ่นน้อง ค่อยๆ ลูบไล้ไต่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนไปหยุดอยู่ตรงหน้าปากทางหว่างขาของเธอ ค่อยๆ ใช้มือลูบเขี่ยไปที่กลีบเนื้อสาวอันชุ่มชื้น ใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางแบะแยกถ่างสองกลีบให้เปิดอ้าออก ก่อนจะก้มหน้าลงไปดูดชิมรสสาวที่เนินเนื้อของกุ๊ก เสียงดัง ซ้วบ... บบบบบ! หนุ่มโจ้ที่เห็นดังนั้นจึงไม่ยอมน้อยหน้า ก้มลงไปดูดนมภรรยา ซ้ายที ขวาที สลับไปมาอย่างชื่นใจ

อารมณ์กำหนัดเข้าครอบงำทั้งสองครอบครัวจนลืมเลือนเรื่องความเขินอายไปจนหมดสิ้น โดยเฉพาะสองสาวทั้งเป้และกุ๊ก ที่คนนึงก็กำลังเงี่ยนง่านเพราะฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์ที่ทานเข้าไป ส่วนอีกคนนึงนั้นก็ยิ่งแย่หนัก เพราะถูกพี่ๆ ทั้งสามคนรุมกินโต๊ะจนแทบจะหมดสภาพอยู่แล้ว

จังหวะที่ทั้งสี่กำลังนัวๆ กันอยู่นั้นเอง หนุ่มโจ้ที่คอยประกบสาวกุ๊กอยู่จากทางด้านหลังก็แอบขยับตัวเล็กน้อย แอ่นสะโพก จับแท่งเนื้อที่กำลังแข็งตัวเต็มที่ กดจ่อสอดเข้าไปที่ปากรูเสียวของเธอด้วยความรวดเร็ว และกว่าที่หญิงสาวจะทันตั้งตัว ท่อนเนื้อของสามีก็ผลุบไหลทิ่มเข้าไปครึ่งลำเสียแล้ว

“อื้อ... อออ อื้มมมม!” กุ๊กครางฮือเสียงสั่น เมื่อโดนสามีหนุ่มเสยควยทิ่มเข้าหีเธอลึกขึ้นเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดมันก็เสียบเข้าไปได้จนสุดลำ กลีบสาวของเธอบานอ้าทะลักออกทางด้านข้าง มีแท่งเนื้อใหญ่ยักษ์ปักค้างกลางตัว ในขณะที่ด้านบนของเธอนั้น พอหนุ่มโจ้ผละออกจากหน้าอกภรรยา หนุ่มบอยที่รอจังหวะอยู่ก็รีบใช้มือเข้ามาทักทายมันอย่างตะกรุมตะกราม บีบหมับเข้าไปแบบเต็มไม้เต็มมือ

มันเป็นภาพที่แสนจะน่าตื่นตาตื่นใจ ดุ้นเอ็นคล้ำอวบค่อยๆ คลานต้วมเตี้ยมมุดแทรกเข้าไปในร่างของสาวรุ่นน้อง ต่อหน้าต่อตาสำหรับสาวเป้ที่กำลังเงี่ยนเซ็กส์แบบสุด

โอ.... ความใหญ่โตมหึมาของมันกำลังค่อยๆ บดขยี้คว้านลึกเข้าไปในร่องรูหีของหญิงสาว จนปากทางเข้าถึงกับยับเยินยู่ยี่หมดสภาพ ใบหน้าของสาวสวยบิดเร่าๆ คิ้วขมวดเกร็ง หน้าตาเหยเก อากัปกิริยาที่เกิดขึ้นของหญิงสาวตรงหน้า กระตุ้นอารมณ์หงี่เงี่ยนง่านในใจของสาวเป้ ให้เกิดนึกอิจฉาถึงความสุขเสียวที่สาวรุ่นน้องกำลังได้รับขึ้นมา

หญิงสาวรุ่นพี่ค่อยๆ แลบลิ้นออกมา ตวัดเลียไปที่เม็ดละมุดกลมแดงที่กำลังบวมเป่ง ลากลิ้นกดเลียแบบหนักๆ เน้นๆ บางจังหวะยังพลาดไปโดนท่อนเนื้อของหนุ่มโจ้ที่กำลังมุดเข้ามุดออกอยู่ในตัวเธอ แต่สาวเป้ก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเลียต่อไปไม่ยอมหยุด

สาวกุ๊กโดนจู่โจมเล่นงานทั้งบนและล่าง ปากก็ถูกหนุ่มบอยประกบจูบแลกลิ้นอย่างดูดดื่ม หน้าอกหน้าใจก็โดนหนุ่มรุ่นพี่ทั้งขยำทั้งขยี้ ส่วนโหนกเนื้อด้านล่างนั้นยิ่งหนักใหญ่ เพราะโดนทั้งปลายลิ้นนุ่มๆ ของสาวเป้กดเน้นๆ รัวๆ ที่ติ่งแตด พร้อมๆ กับที่โดนท่อนลำใหญ่ยักษ์ของหนุ่มโจ้ กดตอกกระแทกจนตัวสั่น เล่นเอาสาวกุ๊กถึงกับขนลุกซู่ๆ จะหนีไปไหนก็ไปไม่รอด ได้แต่นอนแอ้งแม้ง ปล่อยตัวปล่อยใจให้ทั้งสามได้เสพสุขกับเรือนร่างของเธอตามใจชอบ

เพียงไม่นาน หญิงสาวก็ออกอาการกระตุกเฮือกๆ เนื้อตัวสั่นสะท้าน ส่งเสียงร้องครวญครางอู้อี้อยู่ในลำคอ ก่อนที่ร่องหีจะเกร็งขมิบตอดควยสามี กระฉูดน้ำรักพุ่งปรี๊ดออกมาเลอะเต็มปากของสาวรุ่นพี่ ในเสี้ยววินาทีที่เธอได้เหยียบย่างเข้าไปถึงฝั่งฝัน

หลังจากนำทางสาวกุ๊กไปส่งจนถึงที่หมายแล้ว หนุ่มโจ้กับสาวเป้จึงค่อยๆ ขยับถอนตัวออกมา ปล่อยให้สาวรุ่นน้องได้มีเวลาอิงแอบแนบชิดกับร่างของหนุ่มบอยตามลำพังดูบ้าง ทรวงอกขาวๆ ของกุ๊กสั่นกระเพื่อมขึ้นลงไปตามจังหวะของการหายใจที่เหนื่อยหอบ

หนุ่มรุ่นพี่ใช้มือซ้ายลูบไล้ไปตามท่อนแขนของเธอเบาๆ เหมือนเป็นการให้กำลังใจ ในขณะที่มือขวาก็คอยประคองลูบหัวเธอไปด้วย สัมผัสอ่อนโยนที่เกิดขึ้นทำให้หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก มันเหมือนมีใครซักคนมาคอยอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้กับเธอ โดยเฉพาะในตอนที่เธอกำลังเหนื่อยล้า สติสตังเตลิดเปิดเปิง จนแทบจะหายใจไม่ทันอยู่แบบนี้

“โอเคมั้ยกุ๊ก? ยังไหวอยู่นะ?” บอยเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“วะ.. ไหวค่ะ พักอีกแป๊บเดียวก็หาย สบายมาก” สาวรุ่นน้องตอบพร้อมกับส่งยิ้มเขินๆ

ทั้งสองคนเผลอจ้องสบตากันอยู่ชั่วขณะ ต่างฝ่ายต่างไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงจ้องสบตากันอยู่อย่างนั้นเงียบๆ ประหนึ่งว่ากำลังถูกมนต์สะกดดึงดูดให้ไม่อาจถอนสายตาได้ ก่อนที่เสียงครางฮือของสาวเป้ จะช่วยคลายให้ทั้งคู่หลุดออกจาภวังค์ได้ในที่สุด

“อืม... มมม...” หญิงสาวครางออกมายาวๆ ในขณะที่กำลังนั่งหลับตา ปล่อยให้หนุ่มโจ้ได้ซุกไซร้ฟอนเฟ้นซอกคอขาวๆ ของเธอไปเรื่อยๆ จากทางด้านหลัง มือขวาของชายหนุ่มเกาะยึดกุมอยู่ที่ทรวงเต้าอวบอิ่ม ขณะที่มือซ้ายอีกข้างกำลังเขี่ยสะกิดอยู่ที่บริเวณเนินสาวไปพร้อมๆ กัน

หนุ่มรุ่นน้องอ้าปากงับเข้าไปที่ใบหูของสาวรุ่นพี่เบาๆ เล่นเอาสาวเป้ถึงกับตัวสั่นสะดุ้งด้วยความจั๊กจี้  กลีบสาวด้านล่างฉ่ำเยิ้มจนมองเห็นเป็นมันวาว เจ้าหนุ่มแสบเล้าโลมสาวรุ่นพี่อยู่อีกครู่นึงจึงหยุดมือ ขยับตัวลงไปนอนหงายบนเตียง พร้อมกับจูงมือสาวเป้ให้มาเกาะกุมดุ้นเนื้อที่ตั้งโด่เด่เป็นสง่าอยู่ตรงกลางตัว

หญิงสาวใช้มือซ้ายรูดสัมผัสท่อนลำอย่างชื่นชม สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่ปลายยอดดอกเห็ด รู้สึกเปรี้ยวปากขึ้นมาทันทีที่ได้เห็นหยาดน้ำใสๆ ผุดเยิ้มย้อยออกมาจากปลายหัวบาน สาวรุ่นพี่กลืนน้ำลายลงคออึกๆ ค่อยๆ ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้จนแทบจะชิดติดกับท่อนเนื้อ ก่อนที่เธอจะอ้าปากตวัดเลียเข้าไปที่ตรงหยดน้ำค้างเพื่อดูดชิมรสชาติให้ชื่นใจ รสชาติเค็มๆ คาวๆ ปะแล่มๆ วาบขึ้นมาในหัวเธอ ยิ่งกระตุ้นความหิวโหยในรสกามของหญิงสาวให้หนักข้อขึ้นไปอีก สาวเป้จึงรีบอ้าปากพร้อมกับฮุบเอาท่อนเนื้อกลืนเข้าไปครึ่งลำ

สาวรุ่นพี่พยายามโชว์ฝีไม้ลายมือแบบเต็มที่ ทั้งห่อปากรูด ดูดกลืนแท่งเนื้อเข้าไปจนเกือบจะสุดคอหอย สลับกับการใช้ลิ้นลากเลียรอบๆ หัวบาน ไล่จุมพิตต่ำลงมาจนถึงพวงไข่ ก่อนจะเลียไล่กลับขึ้นไปด้านบน แล้วจึงอ้าอมเน้นๆ ตรงบริเวณปลายหัว

“อุ๊... ซี้ดส์ ดีครับพี่ แบบนั้นแหละ” หนุ่มโจ้ครางฮือออกมา เผลอใช้สองมือเกาะกุมศีรษะของสาวรุ่นพี่เอาไว้เพื่อช่วยควบคุมจังหวะ สาวเป้ที่เครื่องติดแล้วจึงยิ่งออกแรงผงกศีรษะ โยกหัวดูดควยให้หนุ่มรุ่นน้องอย่างเต็มที่ ราวกับว่าตั้งใจจะรีดเอาน้ำกามของอีกฝ่ายให้พุ่งกระฉูดออกมาแบบทันทีทันใด

“อู๊ย... ยยย อูยยย ใจเย็นๆ ครับพี่ เดี๋ยวผมจะแตกซะก่อน” หนุ่มโจ้โดนดูดควยอยู่ไม่กี่นาทีก็ชักจะทนไม่ไหว เอ่ยปากร้องห้ามเสียงสั่น พลางใช้สองมือประคองสองแก้มของเธอให้ค่อยๆ ถอยห่างออกมาจากหว่างขา หญิงสาวเม้มปากรูดกับท่อนเนื้อจนกระทั่งปลายหัวบานดีดผึงหลุดออกมา เสียงดังโบ๊ะ! ชัดเต็มสองหู

“อือ... โจ้พี่ไม่ไหวแล้วนะ ทำเลยเถอะ พี่อยากจะแย่อยู่แล้ว” สาวเป้ร้องอ้อนวอนขอร่วมรักกับหนุ่มรุ่นน้องอย่างสิ้นไร้ซึ่งความอายใดๆ ความรู้สึกเงี่ยนง่านจากฤทธิ์ของยาปลุกได้ครอบงำจิตใจของหญิงสาว จนเธอลืมเลือนเรื่องของสามีและสาวรุ่นน้องที่กำลังนั่งจ้องอาการของเธออยู่ข้างๆ ไปจนหมดสิ้น สิ่งเดียวที่เธอสนใจในตอนนี้... ก็คือการนำพาแท่งเนื้อขนาดใหญ่ยักษ์ของชายหนุ่มรุ่นน้อง ให้กดทิ่มแทงเข้ามาในตัวเธอโดยเร็วไว

หนุ่มบอยและสาวกุ๊กนั้นถึงกับตื่นตะลึง เมื่อได้เห็นกิริยาท่าทางอันสุดแสนจะร่านสวาทของสาวเป้ ลีลาการดูดเลียแท่งเนื้อราวกับจะกลืนกินของเธอเมื่อสักครู่ มันได้ส่งผลกระทบมาถึงผู้ชมที่กำลังนั่งลุ้นแบบติดขอบสนามโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกทั้งหึงหวง ทั้งอิจฉา ได้พรั่งพรูทะลักออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เลือดลมในกายของทั้งคู่เดือดพล่านๆ รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้าและลำตัว เกิดอาการคันยุบยิบที่บริเวณหว่างขา ร่องเสียวของสาวกุ๊กขมิบตอดตุบๆ ด้วยอาการเสียวเกร็ง

สองมือของบอยและกุ๊กเกาะกุมมือของอีกฝ่ายเอาไว้แบบเงียบๆ โดยที่ทั้งคู่นั้นต่างก็ไม่ทันได้รู้ตัว เพราะมัวแต่กำลังลุ้นอยู่กับลีลาของอีกคู่ที่เหลือ ภาพกิจกามเบื้องหน้าที่กำลังเกิดขึ้นนั้น สาวเป้ในสภาพร่านรัก กำลังปีนป่ายคร่อมร่างของชายหนุ่มรุ่นน้องอย่างเร่งรีบ สองขาของเธอแหกอ้าออกกว้าง หย่อนสะโพกจ่อร่องรักทาบเข้ากับดุ้นเนื้อของชายหนุ่ม ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ออกแรงกดบดสะโพกลงมาช้าๆ กลีบแคมทั้งสองข้างจึงอ้าอมท่อนลำเข้าไปจนมันบวมตุ่ย

“อื้อ.. ออออ อ๊ะ อื้มมมม” สาวเป้เกร็งขมิบหี หน้านิ่วคิ้วขมวด ขณะที่ร่างของเธอกำลังค่อยๆ จมลงมาหาแท่งเนื้อของหนุ่มรุ่นน้องช้าๆ จนกระทั่งร่างของเธอและโจ้ได้ประสานเข้าหากันเป็นหนึ่งเดียวในที่สุด เมื่อแท่งรักเสียบมุดเข้าไปได้จนสุดลำแล้ว หญิงสาวจึงเริ่มต้นออกแรงขย่มบั้นท้ายเป็นจังหวะเบาๆ

“อู้ว... ขย่มแรงๆ เลยครับพี่เป้ อืม แรงๆ เลย ดูสิ พี่บอยจ้องตาเป็นมันเลย” เจ้าหนุ่มแสบเอ่ยกระเซ้าเย้ายวน แต่สาวเป้นั้นแทบไม่ได้ยินถ้อยคำใดๆ ของชายหนุ่ม ในหัวของเธอตอนนี้รับรู้แต่เพียงแค่รสสัมผัสอันเสียวซ่าน ที่กำลังเกิดขึ้นตรงกลางหว่างขาของเธอ สาวรุ่นพี่เร่งออกแรงขย่มหนักขึ้นเรื่อยๆ เสียงบั้นท้ายของเธอเด้งขึ้นลง กระทบเข้ากับหน้าขาของชายหนุ่มเกิดเป็นเสียงเนื้อตีกันดังสนั่น ปั้บ! ปั้บ! ปั้บ! ปั้บ!!

หลังจากเฝ้าชมหนังสดที่นำแสดงโดยคู่รักของตนอยู่นาน ในที่สุดทั้งบอยและกุ๊กก็ทนเก็บอาการงุ่นง่านไว้ไม่ไหวอีกต่อไป ชายหนุ่มรุ่นพี่หันหน้ามาสบตากับสาวรุ่นน้อง ก่อนที่จะเอ่ยปากขอร่วมรักกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ทั้งสุภาพและอ่อนโยนเหมือนเช่นเคย

“กุ๊กพร้อมแล้วใช่มั้ย?” หนุ่มบอยถามเอ่ยด้วยแววตาเป็นประกายหนักแน่น
“ค่ะพี่” สาวกุ๊กพยักหน้าตอบโดยไม่หลบตา
“งั้นพี่ขออนุญาตนะ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับใช้มือดันไหล่เธอให้นอนลงไปบนเตียง...



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น