วันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2566

เส้นทางเจ้าสาว #4

 
 
 


==================

เพื่อนๆ พอจะรู้จักปาร์ตี้สละโสดกันบ้างรึเปล่าคะ? ถ้าจะให้พูดไป มันก็คงคล้ายกับปาร์ตี้เลี้ยงส่งเพื่อนร่วมงาน หรือว่าปาร์ตี้ฉลองเรียนจบนั่นแหละ เรื่องเหล้าเรื่องเบียร์มันก็มีเหมือนๆ กัน เพียงแต่ว่าดีกรีความร้อนแรงนั้น มันผิดกันแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ว่าได้ ที่ผ่านมากุ๊กเคยคิดนะคะว่าปาร์ตี้สละโสดของสาวไทยอย่างเราๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นการไปปิดร้านอาหารอร่อยๆ นั่งดื่มกันให้เมาหัวทิ่ม แล้วก็แหกปากร้องคาราโอเกะเพลงคริสติน่า-มาช่ากันแบบคอแทบแตก ไอ้จะให้ไปสุดเหวี่ยงสุดสวิงริงโก้เที่ยวบาร์เปลือยแบบสาวๆ ฝรั่งเค้าน่ะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก แต่ที่ไหนได้... มันเป็นไปแล้วค่ะ!

ศุกร์ที่ 28 ตุลาคม สองสัปดาห์ก่อนวันแต่งงาน นั่นคือวันปาร์ตี้ป่าช้าแตกที่ลืมไม่ลงสำหรับแก๊ง 5 สาวเรา ซึ่งประกอบไปด้วยตัวกุ๊กเอง, ยัยมินจอมแสบ, ยัยเอ๋ท้องป่อง, น้องแอน น้องสาวยัยเอ๋ แล้วก็เจ๊แก้ว พี่สาวจอมเฮี้ยบของกุ๊ก พวกเรา 4 คนนัดมารวมตัวกันที่คอนโดของเจ๊แก้ว แล้วนั่งแท็กซี่ไปลงที่หน้าปากซอยใกล้ๆ กับสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ พอเดินเข้าซอยไปประมาณไม่ถึง 10 นาที ก็เจอยัยมินยืนโบกมือหยอยๆ อยู่หน้าร้าน ป้ายชื่อร้านไดคัตเป็นตัวหนังสือสีทองขนาดใหญ่ อ่านได้ใจความว่า 'ELEGANTZ' สารภาพตามตรงว่าถึงตอนนั้นกุ๊กเองก็ยังไม่รู้เลยค่ะว่างานนี้เราจะทำอะไรกันบ้าง ได้แต่ปล่อยให้สองเพื่อนซี้เป็นคนจัดการตามใจชอบเลย

ตัวอาคารดูเหมือนผับทั่วๆ ไปที่เคยเห็นกันจนชินตาตามย่านร้านเที่ยวกลางคืน ภายนอกตกแต่งแบบสไตล์โมเดิร์นนิดๆ สีขาวสะอาดตา บ่งบอกให้รู้ว่าคงพึ่งเปิดบริการได้ไม่กี่ปี ป้ายไฟ LED หน้าร้านกระพริบบอกชัดเจนเป็นคำว่า 'Hen Night' อืม ยัยมินนี่ก็ช่างเลือกวันเหมือนกันนะเนี่ย พอเราเข้าไปด้านในก็พบว่า ภายในร้านมีลูกค้าผู้หญิงอยู่แน่นร้านพอสมควร ทั้งวัยรุ่นสาวๆ พนักงานออฟฟิศทั่วไป จนถึงรุ่นที่อายุไล่เลี่ยกับพี่หน่อยก็มี (แฮะๆ) ตัวร้านแบ่งพื้นที่ของแต่ละโต๊ะอย่างเป็นสัดส่วน เก้าอี้เคาท์เตอร์บาร์แบบโค้งล้อมเป็นวงกลม พื้นที่ว่างตรงกลางมีโต๊ะทรงกลมทั้งกว้างทั้งหนาตั้งคั่นอยู่ บริเวณกลางร้านเป็นเหมือนเวทีขนาดยาว มีพื้นที่ว่างสำหรับให้สาวๆ ออกไปเต้นกันสนุกๆ บรรยากาศในร้านกำลังเริ่มคึกคักได้ที่เลย ไฟผับกระพริบวิบวัมไปมาเป็นจังหวะตามเสียงเพลง เราเลือกนั่งที่โต๊ะริมเกือบๆ จะอยู่ด้านในสุดเพื่อความเป็นส่วนตัว เสียงดนตรีดังกระหึ่มจนบางครั้งแทบจะต้องตะโกนเพื่อที่จะได้ยินเสียงพูดของคนข้างๆ พร้อมๆ กับที่วงสนทนาของเราก็เริ่มโหวกเหวกครึกครื้นขึ้นเรื่อยๆ ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป จะมีก็แต่ยัยเอ๋คนเดียวนี่แหละค่ะที่สั่งน้ำอัดลมมาดื่ม เพราะกำลังท้องกำลังไส้ใกล้จะครบ 3 เดือนแล้ว

“ร้านนี้เก๋ดีนะมิน ว่าแต่มึงเคยมาบ่อยแล้วเหรอวะ ก่อนหน้านี้ไม่เห็นชวนกูมาเลย” กุ๊กเอ่ยถามมิน หันไปมองรอบๆ เห็นสาวๆ แต่ละโต๊ะต่างลุกขึ้นเต้นโยกย้ายไปกับจังหวะเสียงเพลงของป๊อบดีว่ายุค 90 ซึ่งแน่นอนว่าโต๊ะของเราก็ไม่พลาดเช่นกัน 'ประวัติศาสตร์ในวันนี้จะแตกต่างจากวันนั้น... รักของเราจะทันสมัยยย' เสียงยัยมิน ยัยเอ๋ แล้วก็เจ๊แก้ว ร้องประสานเสียงขึ้นมาพร้อมๆ กันเมื่อถึงท่อนฮุค ขนาดคนนิ่งๆ อย่างเจ๊แก้ว พอเหล้าเข้าปากมากๆ ก็ยังเก็บอาการไว้ไม่อยู่ ร้องกรี๊ดกร๊าดเมื่อเจอเพลงโปรดถูกใจ กุ๊กเห็นแล้วก็ได้แต่แอบขำเบาๆ

“เออ มึง ตะกี้ว่าไงนะ?” ยัยมินถามหลังจากพึ่งลงมานั่งพักเหนื่อย
“กูถามว่ามึงเคยมาร้านนี้บ่อยแล้วเหรอ? ร้านเก๋ดี”
“อ๋อ เออ 3-4 รอบแล้วมึง อีนกมันพามานานละ เดี๋ยวก่อน... เดี๋ยวมึงรอดึกๆ ก่อน มีเด็ดกว่านี้อีก คอยดู” ยัยมินพูดแล้วก็กระดกเหล้าเข้าปากไปอีกอึกใหญ่
“เจ๊เมาแล้วเหรออออ” กุ๊กเปลี่ยนมาถามพี่แก้วที่กำลังกระโดดโลดเต้นไปกับเพลงของทาทา
“ยังงงงย่ะ แค่กำลังคึกเฉยๆ”
“เอ๊าะเหรออออ?”
“เอออออออออออออ” แล้วเราสองพี่น้องก็ออกท่าออกทางไปด้วยกัน

“ว่าไง หายเงียบไปเลยนะเรา” กุ๊กพิมพ์ไลน์ส่งไปแซวพี่โจ้ที่หายต๋อมไปเลยตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ดูท่าว่าคงจะกำลังสนุกสุดเหวี่ยงอยู่เหมือนกัน ซักพักก็มีข้อความตอบกลับมา
“เพลินไปหน่อย 555+ เมายังอ้วน?”
“เละ! ดีนะไม่เอารถมากัน กลับกี่โมงอะ”
“ไม่ถึงเช้าหรอกมั้ง” อื้อหือ อีพี่โจ้มันตอบมาได้น่าตบมากๆ นี่ใจคอจะไม่กลับบ้านกลับช่องเลยเรอะ
“โห จัดเต็มไปป่าว? นึกว่าตี 2 ตี3”
“อ้าว ก็  ปาร์ตี้อ้ะ 555+”
“ตามสบายย่ะ แค่นี้นะ” กุ๊กพิมพ์จบแล้วก็หันมาร่วมแหกปากร้องเพลงไปกับพวกสาวๆ

เวลาพึ่งจะผ่านไปไม่ถึง 4 ทุ่มครึ่ง แต่โต๊ะของเราก็เริ่มเมาได้ที่แล้ว หันไปดูรอบๆ สาวๆ โต๊ะอื่นก็ดูจะมีอาการไม่ต่างกัน ทุกคนกำลังสนุกสนานกันแบบเต็มที่ เหมือนอยู่ในปาร์ตี้ยาอีที่กำลังเมาจัดๆ ไม่เว้นแม้แต่ยัยเอ๋ที่ซดแต่เป๊บซี่เข้าไปคนเดียว 2 ขวด ก็ยังออกอาการตึงๆ แปลกๆ หน้าแดงซ่านแบบเห็นได้ชัด ขณะที่ตัวกุ๊กเองก็แอบรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเบาๆ อยู่เหมือนกัน จนกระทั่งช่วง 5 ทุ่มกว่าๆ ดีเจหนุ่มรูปหล่อก็เดินขึ้นมาบนเวทีด้านใน ไม่ไกลจากโต๊ะของพวกเราเท่าไหร่ พอหยิบไมค์ขึ้นมาซาวด์เสียงเรียบร้อยแล้วก็เริ่มประกาศถึงกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นทันที

“สวัสดีครับ สวัสดีคุณสุภาพสตรีสวยๆ และน่ารักทุกท่านที่มาในวันนี้นะฮะ ทั้งรุ่นที่ยังสดๆ ซิงๆ เอ๊าะๆ กันอยู่ แล้วก็รวมไปถึงรุ่นขิงแก่แม่ม่ายลูกสองด้วย” ดีเจหนุ่มเอ่ยทักทายเรียกเสียงกรี๊ดชอบใจจากลูกค้าสาวๆ ในร้านดังสนั่น
“โชว์พิเศษจากหนุ่มๆ ของเราในวันนี้นะฮะ รับรองว่าถูกอกถูกใจคุณสาวๆ ในร้านอย่างแน่นอน เพราะเรียกได้ว่ามากันครบทีมทั้งหนุ่มหล่อหน้าใสสไตล์เคป็อบ รวมถึงหนุ่มลูกครึ่งที่ทั้งหล่อทั้งล่ำ เรียกได้ว่าน่ากินไม่แพ้ดาราฮอลลีวู้ดเลยทีเดียว และที่สำคัญนะครับ ใครที่เป็นแฟนคลับของน้องจอห์นนี่นะครับ เตรียมเสียงกรี๊ดเอาไว้ให้ดีๆ เลย เพราะว่าวันนี้น้องจอห์นนี่เค้ามีโชว์พิเศษเตรียมเอาไว้ให้ชมกันแน่นอน! เอาล่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลานะครับ ขอเชิญพบกับโชว์พิเศษจากหนุ่มๆ นักเต้นของเราได้แล้วคร้าบบบบบ” ดีเจหนุ่มประกาศจบก็ผายมือส่งสัญญาณออกไป ก่อนที่หนุ่มๆ ในชุดสูทหน้าตาหล่อเหลารูปร่างกำยำสมส่วนประมาณ 10 กว่าคน จะเดินเรียงแถวหน้ากระดานออกมาบนเวทีกลางร้าน เรียกเสียงกรี๊ดถล่มจากลูกค้าสาวๆ จนดังสนั่น โดยเฉพาะหนุ่มหล่อล่ำบึ้กที่ชื่อจอห์นนี่ซึ่งดูจะได้รับความนิยมจากลูกค้าในร้านไม่น้อย

“โชว์อะไรวะแก เต้นเหรอ?” กุ๊กเอ่ยถามยัยมินไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เพราะเดาไม่ถูกจริงๆ
“เออน่ะ ดูๆ ไปเดี๋ยวก็รู้ แต่กูว่าคนขวาหล่อสุดว่ะมึง” พอยัยมินพูดจบ ดีเจหนุ่มก็เริ่มเปิดเพลงแดนซ์จังหวะมันๆ ขึ้นมาจนดังกระหึ่ม แล้วหนุ่มๆ สุดหล่อที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาของสาวๆ ในร้าน ก็เริ่มขยับตัวและออกลีลาเต้นตามจังหวะเพลงอย่างถึงใจ อืม มันคงจะเหมือนเวลาหนุ่มๆ ไปเที่ยวตามร้านดื่มแล้วมีโคโยตี้สาวๆ มาเต้นให้ดูเป็นอาหารตาสินะ ต่างกันแค่ตรงหน้านี้คือกองทัพหนุ่มหน้าตาดี ที่กำลังออกสเต็ปลีลาให้สาวๆ ลวนลามทางสายตาอยู่ จนกระทั่งพ่อหนุ่มหุ่นฟิตหน้าตาคล้ายคนจีน จะออกแรงกระตุกฉีกเสื้อสูทจนขาดวิ่น เผยให้เห็นมัดกล้ามอกที่เต่งตึง กับหน้าท้องแน่นๆ น่าหยิก เอ้ย! วินาทีนั้นแหละค่ะ กุ๊กถึงเริ่มนึกออกว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นตรงหน้า นี่มันระบำเปลื้องผ้านี่นา!! กรี๊ดดดดดดดดดด! ยัยมินนะยัยมิน พาชั้นมาดูอะไรของแกยะ!? ถึงกุ๊กจะเคยเห็นฉากพวกนี้จากหนังอย่างเมจิค ไมค์มาบ้าง แต่พูดตรงๆ เลยนะคะ ชาตินี้ไม่เคยคิดฝันว่าจะได้มาเห็นของจริงต่อหน้าต่อตาแบบนี้เลยเนี่ย! ได้แต่ยืนอึ้งแข็งเป็นหิน ลำคอแห้งผากไปหมด

หันไปดูทางเจ๊แก้วเองก็กำลังออกอาการตะลึงทำอะไรไม่ถูก ยืนอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น เช่นเดียวกับน้องแอนที่ดูจะเหวอพอๆ กัน จนแทบไม่กล้าสบสายตามองใคร ในขณะที่ยัยมินกับยัยเอ๋ต่างร้องกรี๊ดกร๊าดโบกไม้โบกมือเรียกหนุ่มๆ ให้เข้ามาเต้นใกล้ๆ อย่างชอบใจ ก่อนที่หนุ่มลูกครึ่งกล้ามใหญ่ผิวขาวอมชมพู ซึ่งมารู้ทีหลังว่าชื่อนายเดเร็ก จะค่อยๆ กระแซะๆ จนเข้ามาชิดกับโต๊ะเราในที่สุด รูปร่างของเดเร็กต้องบอกว่าฟิตปั๋งสุดๆ เลยล่ะค่ะ กล้ามแขนแน่นๆ หน้าอกเด้งบึ้บบั้บๆ ขณะที่กล้ามท้องก็เต็มไปด้วยมัดกล้าม ชักนำสายตาให้มองต่ำลงไปยังแผงขนรำไรที่หายลับเข้าไปใต้กางเกงสแล็คสีดำรัดน่องขาตัวนั้น อืมมม กุ๊กเห็นแล้วก็ได้แต่กลืนน้ำลายเบาๆ แอบนึกทะลึ่งจินตนาการภาพใต้กางเกงของหนุ่มตาน้ำข้าวอยู่คนเดียวเงียบๆ

“ว่าไงล่ะมึง? มองเป้าเค้าไม่หยุดเลยนะอีกุ๊ก” เสียงยัยเอ๋ร้องแซวขึ้นมาจากข้างหลัง ตายล่ะ! นี่มันแอบสังเกตอาการกุ๊กตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
“ห่า! มึงก็คิดได้เนอะเอ๋” กุ๊กรีบปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ข้างในนี่อายม้วนเลยค่ะ
“อย่าๆๆ กูเห็นมึงจ้องน้องเค้าอยู่นานละ ชอบสเป็คแบบนี้ก็ไม่บอก” เสียงยัยมินร้องแซวขึ้นอีกคน
“อ้าวกุ๊ก แล้วแกเอาพี่โจ้ไปโยนทิ้งไหนวะเนี่ย” ขนาดเจ๊แก้วยังมาร่วมแซวถล่มกุ๊กซะจนหน้าแหกยับเยิน
“น้องคะ เพื่อนพี่เค้ากำลังจะเป็นเจ้าสาว นี่ก็ปาร์ตี้สั่งลาสถานะคนโสดของเค้าแล้ว ยังไงช่วยบริการเพื่อนพี่ให้ถึงใจหน่อยนะ” ยัยมินร้องบอก ยัดแบงค์ร้อยสองใบเข้าไปเสียบกับกางเกงของชายหนุ่ม พร้อมกับชี้มาที่มงกฏพลาสติกสีขาวบนหัวกุ๊ก เดเร็กได้ยินแบบนั้นแล้วก็ยิ้มร่า แล้วพุ่งตรงเข้ามาเต้นยั่วยวนตรงหน้ากุ๊กทันที โอยยยย กุ๊กจะหนีไปไหนก็ไม่ได้ ได้แต่เบื้อนหน้าหลบด้วยความอาย ไม่กล้าสบตามองตรงๆ

“ไม่ต้องเขินนะครับ คิดซะว่าเป็นบริการพิเศษจากทางร้าน สำหรับเจ้าสาวสวยๆ อย่างพี่เลย” เดเร็กพูดจบก็ค่อยๆ ขยับเดาะบั้นเอวไปมา ซ้ายทีขวาทีให้ช่วงล่างที่แน่นเปรี๊ยะ มาโยกย้ายส่ายอยู่ตรงหน้ากุ๊ก กุ๊กพยายามใช้สองมือปิดตาไว้แน่น เลยโดนเดเร็กคว้าจูงข้อมือไปวางไว้กลางเป้า
“ว้ายยยยยยยยย!” กุ๊กร้องเสียงหลงทันทีที่ฝ่ามือสัมผัสเข้ากับหน้าขาแกร่ง ซึ่งเฉียดแก่นกายของน้องเค้าไปเพียงไม่กี่เซ็นฯ เรียกเสียงกรี๊ดจากเพื่อนๆ ในโต๊ะดังลั่น ดูซิยัยพวกนี้ แทนที่จะช่วยเรา กลับยิ่งยุยิ่งแกล้งกันเข้าไปอีก เฮ้อ เจ๊แก้วก็ดันเป็นไปกับเค้าด้วย

กุ๊กพยายามขืนมือเอาไว้นิ่งๆ แต่ก็สู้แรงเดเร็กที่พาลากไปมาไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องยอมวางมือแหมะอยู่กลางเป้ากางเกงของเดเร็ก แล้วเค้าก็ค่อยๆ ออกแรงดึงมือของกุ๊กให้ลูบขึ้นลูบลงไปมาตรงส่วนนั้นเบาๆ อึ๋ย กุ๊กรู้สึกได้เลยว่ามันมีอะไรแข็งๆ ตุงๆ เป็นลำอยู่กลางเป้า ไม่ต้องมองเห็นก็พอจะนึกภาพของมันออกเลยว่าจะใหญ่และยาวแค่ไหน ขนาดของมันดูจะสั้นกว่าของพี่โจ้อยู่นิดนึง แต่เหมือนด้านข้างจะอวบแน่นกว่า กุ๊กลูบสำรวจไปมาจนทั่ว โดยไม่ทันรู้ตัวเลยว่าสองมือของตัวเองนั้นเป็นอิสระจากมือของเดเร็กตั้งนานแล้ว พอตั้งสติได้ปั๊บกุ๊กจึงรีบชะงักมือกลับทันที เดเร็กเห็นแบบนั้นก็เลยค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นเต้นอีกรอบ พอจังหวะได้ที่ก็ออกแรงกระตุกกางเกงสแล็คขายาวแบบทีเดียวหลุดพรวด จนเหลือเพียงกางเกงในตัวจิ๋วแบบบิกินีสีแดงสด ที่คอยปกปิดของลับซึ่งทั้งยาวทั้งใหญ่เอาไว้แทบจะไม่มิด

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!” เสียงสาวๆ ประสานขึ้นมาพร้อมกัน ทั้งด้วยความตกใจ ชอบใจ และหื่นกระหาย ไม่รู้ว่าในหัวของพวกเราแต่ละคนตอนนี้จะคิดอะไรอยู่กันบ้าง แต่ที่แน่ๆ ในหัวของกุ๊กน่ะมีแต่ภาพเป้ากางเกงในของนายเดเร็กที่กำลังแกว่งไปมาอยู่ตรงหน้านี่แหละค่ะ กลืนน้ำลายอึกใหญ่ดังเอื๊อกจนเกือบจะสำลักออกมา เดเร็กเต้นอยู่ครู่หนึ่งก็กวักมือหยอยๆ โบกเรียกเพื่อนนักเต้นอีกคนให้เดินเข้ามา หนุ่มนักเต้นผิวสีแทน หน้าคมแบบไทยๆ จึงเดินเข้ามาพร้อมกับกระป๋องวิปครีมในมือ เนื้อตัวของพ่อหนุ่มคนนี้ก็โล่งโจ้งไม่ต่างอะไรจากเดเร็กเลย เพียงแต่ว่ามีผ้าขนหนูผืนเล็กพันห่อปกปิดท่อนล่างเอาไว้แบบพอให้เห็นวับๆ แวมๆ

“วันนี้งานปาร์ตี้สละโสดของสาวๆ เค้าแหละ” เดเร็กว่าพลางชี้มาที่กลุ่มของพวกเรา
“อ้าว ยินดีด้วยนะครับ คนไหนคือเจ้าสาวล่ะเนี่ย” ชายหนุ่มคนที่สองเอ่ยถามขึ้นพลางส่งรอยยิ้มพราวสเน่ห์ติดมาด้วย กุ๊กยกมือขึ้นไว้ระดับไหล่แทนคำตอบ แล้วรีบหันไปชงเครื่องดื่มที่โต๊ะเพื่อจะได้ไม่ต้องสบสายตาด้วย
“สวัสดีครับ ผมชินนะครับ ส่วนนี่เดเร็ก อืมม... จะให้เราเรียกคุณเจ้าสาวคนสวยว่ายังไงดีครับ” หนุ่มไทยร่ายยาว
“เอ่อ... เรียกกุ๊กก็ได้ค่ะ” กุ๊กตอบไปเขินๆ ชินฟังแล้วก็ยิ้มยิงฟัน ดึงมือกุ๊กขึ้นมาจูบเบาๆ โห เล่นเอาเคลิ้มเลยค่ะ นึกว่ากำลังคุยอยู่กับพระเอกจากในซีรีส์เกาหลีซะอีก เพียงแต่พระเอกคนนี้ดันนุ่งผ้าขนหนูติดตัวแค่ผืนเดียวนี่สิ

ชินกับเดเร็กค่อยๆ ปีนขึ้นมายืนคู่กันบนโต๊ะ แล้วเริ่มออกลีลา เต้นยั่วยวนซะจนพวกเราละสายตาไปไหนไม่ได้ คนที่ออกอาการชอบใจที่สุดก็คงหนีไม่พ้นยัยมินกับยัยเอ๋นั่นแหละค่ะ ยิ่งยัยมินนี่นะ ทั้งจับ ทั้งลูบ ลวนลามเดเร็กอย่างกับคนอดอยากปากแห้ง เดเร็กเองก็ตามใจ ค่อยๆ เต้นรูดกางเกงในตัวจิ๋วของตัวเอง ดึงรั้งจนสายของมันแทบจะขาดหลุดออกจากหน้าขา แต่ก็ยังคงแกล้งดึงยั่วอยู่แบบนั้นอีกครู่หนึ่ง กุ๊กรู้เลยว่าในหัวของทุกคนตอนนี้ต่างลุ้นให้เจ้ากางเกงในที่แสนจะเกะกะหลุดออกมาเสียที และแล้ววินาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อเดเร็กออกแรงกระตุกบิกินีตัวจิ๋วเบาๆ จนมันขาดผึง ส่งให้ท่อนเนื้อแข็งอวบ ขนาดน้องๆ ขวดโค้กบัดดี้ ก็ปรากฏสู่สายตาของพวกเราทั้ง 5 คน เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ได้อีกชุดใหญ่

อาวุธของเดเร็กอวบใหญ่แบบสุดๆ จริงๆ ค่ะ กุ๊กเห็นแล้วก็อดนึกเปรียบเทียบกับท่อนลำของพี่โจ้ไม่ได้ อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าความยาวของมันพอฟัดพอเหวี่ยงกัน แต่ความอวบนี่สิ ชนะขาดแบบไม่ต้องพูดถึง นึกไม่ออกจริงๆ ว่าท่อนเนื้ออ้วนหนาแบบนี้ มันจะเข้าไปอยู่ในตัวของสาวๆ ได้อย่างไร เดเร็กจูงมือยัยมินให้มาจับลูบคลำท่อนเนื้อแกร่ง ซึ่งยัยมินก็ช่างก๋ากั่นนัก ทั้งรูดทั้งจับท่อนลำของเค้าอย่างสนุกมือ ประเดี๋ยวก็สลับไปลูบไล้บริเวณพวงไข่ห้อยยานสีแดงคล้ำ ดูไปดูมาก็คล้ายกับต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงเหมือนกันนะเนี่ย เดเร็กหมุนส่ายไปมาเพื่อให้สาวๆ ทุกคนได้สัมผัสท่อนเนื้อของตัวเองแบบทั่วถึง ทั้งยัยมินยัยเอ๋ เจ๊แก้วน้องแอนต่างผลัดกันจับเล่นอย่างสนุกมือ พอวนมาถึงคิวของกุ๊กบ้าง ก็เลยต้องยอมทำตามเขาไป ใช้มือซ้ายแตะๆ ลูบๆ เร็วๆ แล้วก็รีบชักมือออก แต่ถึงกระนั้นก็ยังรับรู้ได้ถึงความอวบแน่นที่กระตุกสู้มือ

ทางฝั่งของชินเองก็เหมือนจะไม่อยากน้อยหน้าเพื่อน กระตุกผ้าขนหนูที่พาดเอวไว้ทีเดียวหลุด ส่งท่อนเนื้อยาวใหญ่สูสีกันออกมาประชันโฉมอย่างไม่อายฟ้าดิน ส่วนคนที่อายกลับกลายเป็นพวกกุ๊กเสียเอง แต่ถึงจะอายก็ยังขอลองจับของเค้าดูนะ แฮะๆ บรรยากาศในร้านตอนนี้กำลังพีคถึงขีดสุด เมื่อหนุ่มๆ นักเต้นเริ่มปลดเปลื้องอาภรณ์ที่ปกปิดตามตัวออกไปจนหมดทีละคน ทีละคน เสียงเชียร์จากสาวๆ ในร้าน ยิ่งช่วยกระตุ้นเร้าให้หนุ่มๆ ซึ่งคึกคักด้วยฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์อ่อนๆ ยิ่งกล้าแสดงลวดลายและลีลายั่วยวนอย่างเต็มที่ ใช่ค่ะ ยาปลุกเซ็กส์ มันคือส่วนผสมที่ถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องดื่มในร้าน ทั้งในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนถึงน้ำอัดลมที่ยัยเอ๋กระดกดื่มไปหลายขวดนั่นแหละ มันคือตัวสร้างบรรยากาศที่ไม่มีลูกค้าคนไหนรับรู้ถึงความจริงข้อนี้อยู่เลย เพราะทุกคนกำลังถูกฤทธิ์ยาปลุกเร้าให้เตลิดเพลิดเพลินไปกับเหตุการณ์ตรงหน้า สาวๆ ที่ดูเรียบร้อยๆ ในชีวิตประจำวัน ก็กลายมาเป็นสาวเฮ้วสุดซ่า กล้าจับกล้าจีบแก๊งค์หนุ่มๆ นักเต้นอย่างไม่มียางอาย แม้แต่เจ๊แก้วและน้องแอนที่ดูเงียบๆ ในทีแรก ถึงตอนนี้ก็เริ่มกล้าที่จะสัมผัสกับมัดกล้ามแน่นๆ ของชินกันหมดแล้ว

ชินขยับลงมานั่งคั่นกลางระหว่างเจ๊แก้วกับน้องแอน ใช้สองมือโอบคอโน้มตัวสองสาวให้เข้ามาซบที่ไหล่ แก้มของเจ๊แก้วแดงเรื่อ สายตาปรือเยิ้มเป็นประกาย ลมหายใจติดขัดไม่เป็นจังหวะ ส่วนมือขวานั้นเล่า กลับเลื้อยไต่คล่องแคล่วอย่างกับงู ลูบสัมผัสเข้ากับกล้ามอกเต่งตึง ไม่ต่างอะไรจากหนุ่มๆ ที่กำลังใช้มือลูบไล้ไปบนผิวกระโปรงรถสปอร์ตราคาแพงด้วยความหลงใหล ตั้งแต่เกิดมา 30 ปี กุ๊กพึ่งจะเคยเห็นเจ๊แก้ว ออกอาการเพ้อผู้ชายแบบควบคุมไม่ได้ก็ครั้งนี้นี่แหละ เจ๊แก้วค่อยๆ ลูบมือลงไปตามแผงหน้าท้องแกร่ง ลูบแยกเลื้อยผ่านไปตามหน้าขา ก่อนที่จะคว้าหมับเข้าตรงกลางกล่องดวงใจเข้าเต็มเปา แล้วค่อยๆ ออกแรงรูดมือเข้ากับท่อนลำช้าๆ เหมือนกับเด็กที่กำลังสำรวจของเล่นชิ้นใหม่อย่างพินิจพิเคราะห์

“อืออออ ใหญ่จังเลยยย” เจ๊แก้วพร่ำเพ้อออกมา ขณะกำลังใช้มือสาวรูดท่อนเนื้อเร็วขึ้น เร็วขึ้น น้องแอนเองได้แต่ซบหน้าเข้ากับอกของชิน สูดหายใจแรงๆ เพื่อดมกลิ่นกายของชายหนุ่มเข้าไปจนชุ่มปอด ชินใช้มือประคองใบหน้าของแอนขึ้นมาสบตากัน ก่อนจะค่อยๆ โน้มคอลงไปประกบปากจูบกันดังจ๊วบจ๊าบอย่างดูดดื่ม

ทางฝั่งกุ๊กเองตอนนี้ก็เริ่มจะคุมสติตัวเองไม่อยู่แล้วค่ะ ทางซ้ายก็เจ๊แก้วกับน้องแอนกำลังนัวเนียกับพ่อหนุ่มชิน ขณะที่อีกข้าง ยัยมินกับยัยเอ๋ก็ช่วยกันทั้งรูดทั้งคลึงท่อนเนื้อบานอวบของเดเร็กจนปลายหัวของมันโผล่บานโร่เหมือนกับดอกเห็ด ดูจั๊กกะจี้พิลึก สภาพของยัยมินตอนนี้ก็ดูไม่ได้เอาเสียเลย ชุดเดรสสั้นของมัน ช่วงบนถูกถลกลงไปกองคาไว้ที่เอว ยกทรงถูกดันเปิด เผยให้เห็นหน้าอกขาวๆ โผล่ออกมาเต็มสองตา ยัยมินเองกำลังประกบจูบปากแลกลิ้นกับเดเร็กอย่างถึงอกถึงใจ มือนึงก็รูดท่อนเนื้อไปด้วยจนไม่ได้สังเกตสภาพเสื้อผ้าของตัวเองที่ตอนนี้มันโป๊เต็มทีแล้ว ยัยเอ๋นี่ก็ช่างเหลือเกิน เอาแต่เล่นสนุกอยู่กับเจ้าแท่งหรรษาตรงหน้าอยู่นั่นแหละ กุ๊กเองเริ่มคิดว่ามันชักจะยังไงๆ อยู่นา พอจะหันไปเรียกเจ๊แก้ว ก็เลยได้เห็นภาพสุดช็อคแบบเต็มสองตา เล่นเอาตัวแข็งไปเลย

ภาพที่เห็นตรงหน้าคือร่างของหนุ่มชินซึ่งกำลังเปลือยเปล่า นั่งจูบปากอย่างดูดดื่มอยู่กับน้องแอน โดยที่ตรงหว่างขามีเจ๊แก้ว กำลังก้มลงไปใช้ปากให้อย่างถึงกึ๋น โอ้โหไม่น่าเชื่อ!  พี่สาวสุดเฮี้ยบจอมจู้จี้ของกุ๊กคนนี้เนี่ยนะ ที่กำลังก้มลงไปใช้ปากรูดท่อนเอ็นของผู้ชายแปลกหน้า ซึ่งพึ่งเคยเจอกันแค่ไม่ถึงชั่วโมงดี เจ๊แก้วค่อยๆ ใช้ลิ้นเลียไปมารอบๆ ปลายลำของมันจนทั่ว ก่อนที่จะผงกหัวอ้าอมท่อนเนื้อยาวใหญ่เข้าไปจนเกือบสุดลำ แล้วค่อยๆ ห่อปากดูดจนแก้มตอบ รูดแท่งเนื้อจนมันหลุดออกมาดังโบ๊ะ แล้วก็ก้มลงไปทำอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างไม่รู้เบื่อ น้องแอนที่เห็นแบบนั้น ก็เลยค่อยๆ ขยับโน้มตัวลงมา เหมือนจะขอลองทำบ้าง

เจ๊แก้วขยับตัวออกมานิดนึงเพื่อเปิดทางให้น้องแอนเข้าไปได้ใกล้ๆ ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ใช้มือสัมผัสลูบไล้มันอย่างกล้าๆ กลัวๆ พอเริ่มที่จะมั่นใจแล้วก็ค่อยๆ ใช้มือซ้ายกำรูดไปมา จับท่อนเนื้อมาจ่ออยู่ตรงหน้า แล้วค่อยๆ อ้าปากอมมันเข้าไปจนหมด อืม ดูท่าทางน้องแอนเองก็พอจะมีประสบการณ์อยู่บ้างนะเนี่ย ตอนแรกกุ๊กคิดว่าน้องยังเวอร์จิ้นซิงๆ ซะอีก จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องปกติของสาวๆ สมัยนี้นั่นแหละเนาะ เสียงดูดจ๊วบจ๊วบดังระงมไปทั่ว ฝั่งนึงก็น้องแอน อีกฝั่งนึงก็ยัยเอ๋ จนกุ๊กไม่รู้จะหันไปมองทางไหนดี ตรงบริเวณหว่างขาร้อนวูบวาบไปหมด ซักพักก็มีหนุ่มนักเต้นอีกคนหนึ่งในชุดวันเกิด เดินถือถาดเค้กวานิลลาชิ้นเล็กๆ ปักป้ายเอาไว้ว่า 'Bachelorette' มาด้วย กุ๊กรู้ทันทีว่านั่นเป็นเค้กของโต๊ะเราแน่ๆ ยัยมินคงแอบไปบอกพนักงานเค้าไว้แล้วสินะเนี่ย ชายหนุ่มหน้าตี๋วางเค้กลงบนโต๊ะ แล้วยิ้มทักทายให้กุ๊กเบาๆ

“คุณกุ๊กใช่มั้ยครับ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้น
“คะะ.... คะ?”
“ผมอั๋นนะครับ ส่วนนี่... เป็นของขวัญพิเศษจากทางร้านเราครับ” หนุ่มนักเต้นพูดจบก็จับน้องชายที่กำลังแข็งปั๋งของตัวเอง จิ้มลงไปบนเค้กจนมันเละเปื้อนท่อนลำไปทั่ว อั๋นเงยหน้าขึ้นมาสบตากับกุ๊กแว้บนึง แอ่นลำกล้องชี้หน้ากุ๊กอย่างท้าทาย
“ทานให้อร่อยนะครับ” โอ้-มาย-ก็อด!! จะให้กุ๊กกินเค้กที่ติดอยู่บนนี้เนี่ยนะ จะบ้าเหรอ!? อยู่ๆ จะมาให้สาวใสอย่างกุ๊กทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงแบบนั้นได้ไงยะ ทุเรศ! กุ๊กรับไม่ได้! ถึงในหัวจะพูดบ่นไปแบบนั้น แต่มือเจ้ากรรมมันดันคว้าหมับเข้ากลางท่อนลำของเค้าไปแล้วน่ะสิคะ แฮะๆๆ กุ๊กไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ ก็อาวุธของเค้ามันมาจ่ออยู่ตรงหน้ากุ๊กแบบนี้  ถ้าไม่เอามือจับไว้มันก็ทิ่มหน้ากุ๊กกันพอดีน่ะสิ แฮ่!



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น