วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ฟูมฟักรสรักให้เมียสาว เสียวคูณสอง #3


 

หลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างเป้กับต้น เริ่มห่างเหินออกไปเรื่อยๆ สอดคล้องกับระยะทางที่อยู่ห่างไกลกันคนละสถานที่ คนละมุมเมือง จนสุดท้ายต่างฝ่ายต่างก็ค่อยๆ เงียบหายไปด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งความห่างเหินเหล่านี้ ก็ส่งผลกระทบกระเทือนมาถึงความสัมพันธ์บนเตียงระหว่างเป้กับบอยผู้เป็นสามี ที่ต้องขาดรสชาติจากผู้ช่วยคนโปรดไปอย่างไม่เต็มใจนัก

โดยเป้ตัดสินใจที่จะไม่เล่าเหตุการณ์บางส่วนให้หนุ่มบอยฟัง โดยเฉพาะเรื่องที่เธอเคยใช้ปากโม้กควยให้หนุ่มต้นจนเสร็จกิจน้ำแตกคารถ เพราะส่วนนึงเธอก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอับอาย ที่แอบเผลอใจไปมีอะไรกับชายหนุ่มรุ่นน้อง แม้ว่าจะแค่เพียงภายนอกก็ตาม

ขณะที่ในใจลึกๆ นั้นเป้ก็รู้ดีว่า ถ้าเธอเกิดเล่าเรื่องนี้ออกไป บอยเองก็คงจะต้องหมกมุ่นวนเวียนอยู่กับความคิดเรื่องนี้ในหัว และยิ่งพยายามผลักดันให้เธอได้ลองไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นจริงๆ จังๆ แน่ๆ ซึ่งเธอคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะทำอะไรแบบนั้นเท่าไหร่

แรกๆ หนุ่มบอยก็ยังคงพยายามชักชวนให้ภรรยาสวมบทบาทร่วมรักกับหนุ่มต้นในจินตนาการเหมือนเดิม แต่ฝ่ายภรรยาสาวนั้นกลับรู้สึกไม่ค่อยโอเคกับมันซักเท่าไหร่ เนื่องจากเป้นั้นตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะเลิกคิดทะลึ่งใส่หนุ่มรุ่นน้องซักที เพราะไหนๆ เธอกับต้นก็ไม่ค่อยจะได้ติดต่ออะไรกันอยู่แล้ว รวมถึงอยากที่จะลืมเลือน เรื่องที่เคยเผลอไผลแอบทำอะไรกับชายหนุ่มบนรถไปด้วยในคราวเดียว เธอจึงตัดสินใจเอ่ยปากบอกกับสามีออกไปตรงๆ ถึงความอึดอัดในใจ

พอบอยเห็นว่าฝั่งเป้นั้นเริ่มที่จะไม่สนุกด้วยแล้ว ชายหนุ่มจึงต้องจำยอมเลิกล้มความตั้งใจนี้ไปในที่สุด และเซ็กส์ของคนทั้งคู่ ก็เลยย้อนกลับไปสู่ความเรียบง่าย และพาลให้รสชาติของมันค่อยๆ จืดชืดลงเหมือนเดิม ซึ่งตัวเป้เอง แม้ว่าจะแอบรู้สึกคิดถึงชายหนุ่มรุ่นน้องอยู่บ้าง แต่เธอก็ยังรู้สึกดีใจที่ชีวิตคู่ของเธอ กำลังค่อยๆ ฟื้นฟู และใกล้จะกลับสู่สภาวะปกติสุขในอีกไม่ช้า...

ถ้าไม่ติดว่ายังมีผู้ชายอีกคนนึง... ซึ่งกำลังจะก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญ และทำให้ชีวิตของเธอต้องยุ่งเหยิงเสียก่อน...

ผู้ชายคนที่ว่านี้ก็คือ โจ้ หนุ่มรุ่นน้องรูปหล่อกลุ่มเดียวกับบอย ซึ่งเป้เองก็รู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะเคยได้ต่อปากต่อคำ แว้ดๆ ใส่กันอยู่บ่อยๆ สมัยเรียน ด้วยความที่หนุ่มโจ้เองก็ทั้งปากดียียวน ในขณะที่สาวเป้เองนั้นก็ห้าวเป้งไม่แพ้ใคร จนสุดท้ายทั้งคู่ก็กลายมาเป็นคู่กัดกันโดยปริยาย

หลังจากที่เรียนจบ ทั้งเป้กับโจ้ก็เริ่มที่จะห่างๆ กันไปตามเรื่องตามราว แม้จะยังคงมีการคุยเล่นจิกด่ากันในไลน์อยู่เป็นระยะๆ แต่จะได้เจอหน้ากันทีก็เฉพาะเวลาที่กลุ่มบอยและเพื่อนๆ นัดกินเลี้ยงกันตามโอกาสต่างๆ หรือนานๆ ที หนุ่มโจ้ก็จะแวะมานั่งดื่มนั่งคุยกับบอยที่บ้านของเธอบ้าง แต่ก็ไม่ได้บ่อยอะไรเท่าไหร่ ซึ่งทุกครั้งที่เจอหน้ากัน ทั้งคู่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องเปิดปากจิกกัดกันทุกที

จนกระทั่งช่วงหลังๆ ตั้งแต่ที่ต้นเฟดหายออกไป หนุ่มโจ้ก็เริ่มที่จะโผล่เข้ามามีบทบาทให้เป้ได้เห็นหน้าคร่าตาอยู่บ่อยๆ จากที่เคยแวะเวียนมาที่บ้านแค่ราวๆ เดือนละครั้ง ตัวเลขก็เริ่มขยับขึ้นมาเป็น 4 ครั้งบ้าง 5 ครั้งบ้าง จนสุดท้ายก็กลายมาเป็นอาทิตย์ละครั้ง-สองครั้ง ซึ่งตอนนั้นเธอเองก็ยังไม่ได้นึกเอะใจสงสัยอะไรเท่าไหร่ เพราะคิดไปว่าโจ้คงตั้งใจมาหาบอย มากกว่าที่จะมาเจอหน้าเธอ

ในบางครั้งเป้เองก็ยังมีไปร่วมแจม นั่งดื่มนั่งคุยเล่นกับสองหนุ่มด้วยกันอย่างออกรส เพราะต่างฝ่ายต่างก็รู้นิสัยใจคอกันดี เวลาที่หนุ่มรุ่นน้องพูดชงยั่วเย้ามา สาวรุ่นพี่ก็มักจะคอยตบมุกด้วยการด่าสวนกลับไปอย่างรู้กัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็หนีไม่พ้นมุกตลกทะลึ่งโปกฮาตามประสาชายหนุ่มกลัดมันนั่นแหละ

พอคุยไปคุยมา เป้กับโจ้ก็เลยเริ่มที่จะสนิทสนมกันมากขึ้น ฝ่ายโจ้ก็มักจะคอยแชทมาชวนคุย ชวนหยอกเย้า หาเรื่องกัดกันเล่นๆ อยู่เป็นระยะๆ สาวเป้เองที่กำลังเหงาๆ เคว้งๆ จากต้น ก็เลยได้เจ้าหนุ่มรุ่นน้องจอมทะเล้นคนนี้ มาเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาไปแทนโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเธอเองก็เพียงคิดแค่ว่าได้มีเพื่อนคุยเล่น ไว้คอยระบายคลายเครียดเพิ่มขึ้นอีกคนนึงเท่านั้นเอง

สิ่งหนึ่งที่เป้สังเกตได้จากการคุยกันครั้งหลังๆ ก็คือ ตั้งแต่เรียนจบ โจ้ก็ดูจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นพอสมควร บุคลิกดูสุภาพ สะอาดสะอ้าน  ความคิดความอ่านก็ดูจะเป็นผู้ใหญ่มากกว่าแต่ก่อน ซึ่งส่วนนึงก็คงเป็นเพราะอาชีพ AE ที่ชายหนุ่มทำอยู่ ที่ต้องคอยดูแลบุคลิกภาพตัวเองให้ดูน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้าอยู่เสมอ

จึงทำให้ภาพลักษณ์ของหนุ่มโจ้ในตอนนี้ ดูเป็นหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ที่น่าหลงใหลคนนึง ยิ่งด้วยความที่โจ้เองเป็นคนช่างฉอเลาะอยู่แล้ว คำพูดคำจาที่ออกมา ก็เลยยิ่งไหลลื่นชวนฟังเข้าไปอีก ถ้าไม่ติดว่านิสัยกวนตีนจะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงน่ะนะ....

=======================================

“ฮัลโหล พี่เป้เหรอฮะ?” เสียงคุ้นเคยของโจ้ เอ่ยทักขึ้นมาทันทีที่เป้กดรับโทรศัพท์
“ก็แล้วแกโทรหาใครล่ะยะ?” เป้พูดสวนกลับไปเสียงดุ
“อ้าวนี่พี่เป้เหรอเนี่ย? เห็นเสียงแก่ๆ ผมนึกว่าแม่พี่รับสายซะอีก” หนุ่มโจ้พูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ

“อีนี่! ชั้นอยู่ที่ทำงานย่ะ จะมาม่งมาแม่บ้าบออะไร” หญิงสาวโวยด่ากลับไปแบบทันควัน
“หู่ยยย อย่าพึ่งโมโหดิ ล้อเล่นนิดเดียวเอง” ชายหนุ่มแกล้งพูดเสียงจ๋อย
“สรุปมีเรื่องอะไร จะโทรมากวนประสาทกันแค่นี้อ่ะนะ จะได้วางแล้ว” เป้ทำท่าจะตัดบทดื้อๆ
“เดี๋ยวๆๆ ใจเย็นก่อนดิคร้าบเจ๊ นี่ผมอุตส่าห์โทรมาเพราะหวังจะขอคำปรึกษาเลยนะ”

“ปรึกษาอะไรของแกยะ? ถ้าเป็นเรื่องทะลึ่งอ่ะไม่ต้องพูดต่อเลยนะ” สาวเป้รีบพูดดักคอไว้ก่อน
“ใช่ที่ไหนเล่า... คือว่าผมอยากจะปรับห้องคอนโดใหม่น่ะพี่ แต่ยังคิดไม่ออกว่าควรต้องปรับต้องเพิ่มอะไรเข้าไปบ้าง รู้แค่ว่าอยากแบ่งพื้นที่สำหรับทำงานให้มันเป็นสัดส่วนกว่านี้หน่อย ก็เลยอยากจะลองมาปรึกษาพี่ดูเนี่ย ไหนๆ ก็จบอินทีเรียมาอยู่แล้ว”

“ฟังดูยุ่งยากอ้ะ ปฏิเสธได้มะเนี่ย” เป้แกล้งพูดขำๆ
“เฮ้ยย ช่วยน้องหน่อยดิ้ แค่แนะนำเฉยๆ เอง”
“แล้วมีค่าขนมให้ป่าว?”
“อื้อหือ.... นี่ใจคอจะคิดเงินผมจริงๆ อ้ะ?”

“อ้าวแหงดิ เรื่องอะไรชั้นต้องช่วยแกฟรีๆ เล่า”
“โหย ใจดำชิบ... พี่ไม่เคยได้ยินเหรอที่โบราณเค้าบอกว่า If you're good at something, always do it for free น่ะ”
“Never do it for free ย่ะอีมั่ว! แล้วนั่นมันประโยคจากหนังแบทแมนชัดๆ ไม่ใช่สุภาษิตที่ไหนซะหน่อย”
“แหม มันก็เหมือนกันแหละน่า”

“เหมือนกับผีน่ะสิ แล้วตกลงนี่ยังไง ถ้าแกไม่โอเคชั้นจะได้วางสายแล้วนา”
“เออๆ จ่ายก็ได้ จำไว้เลยนะ”
“ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ ฮิฮิ... แล้วนี่มีรูปห้องตัวเองรึเปล่า ส่งมาให้ดูหน่อย จะได้ช่วยดูให้คร่าวๆ”
“มีๆๆ งั้นเดี๋ยวผมส่งไปให้ในไลน์นะพี่” พูดจบชายหนุ่มก็วางสายไปดื้อๆ ทิ้งให้สาวรุ่นพี่ได้แต่บ่นงึมงำอยู่คนเดียว

พอคู่สนทนาส่งรูปมาให้ เป้จึงกดดูรูปทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 4-5 รูป ซึ่งเป็นเพียงภาพถ่ายโฟกัสเฉพาะมุมห้องต่างๆ ซึ่งก็ยังไม่สามารถมองเห็นภาพรวมทั้งหมดของห้องได้แบบชัดเจนเท่าไหร่ หญิงสาวจึงตัดสินใจพิมพ์บอกชายหนุ่มรุ่นน้องไปว่าจะขอเข้าไปดูที่ห้องด้วยตัวเองในเย็นวันนั้นเลย เนื่องจากเธอเองก็ไม่ได้ติดธุระอะไรอยู่แล้ว ซึ่งหนุ่มโจ้เองก็รีบเออออตอบรับทันที

ก่อนที่หญิงสาวจะหันกลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเองต่อ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า... การเอ่ยปากขอเข้าไปดูห้องในครั้งนั้น จะทำให้ชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล...

=======================================

พอช่วงบ่ายๆ  เป้จึงโทรไปเล่าเรื่องคอนโดของโจ้ให้บอยฟัง พร้อมกับเอ่ยชวนสามีให้ไปเป็นเพื่อน แต่หนุ่มบอยกลับรีบปฏิเสธ โดยอ้างว่าติดประชุม และจะขอตามไปทีหลังแทน พร้อมกับสัญญาว่าจะพาเธอไปหาอะไรอร่อยๆ ทานหลังจากนั้น ซึ่งสาวเป้ก็โอเค ไม่ได้ว่าอะไร แม้จะแอบเซ็งๆ นิดหน่อย พอเลิกงาน เธอจึงโทรนัดแนะกับโจ้ แล้วขับรถไปหาชายหนุ่มที่คอนโดย่านลาดพร้าวตามลำพัง

ซึ่งตอนที่เป้กำลังเดินตามหนุ่มโจ้ขึ้นห้องไปนั้น เธอเองก็ยังไม่ทันได้รู้สึกอะไรเท่าไหร่  แต่พอวินาทีที่ก้าวขาเข้าไปอยู่ในห้องปั๊บ หญิงสาวก็เหมือนจะนึกขึ้นมาได้ ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในห้องร่วมกับชายหนุ่มวัยฉกรรจ์แบบสองต่อสอง หนำซ้ำยังเป็นเจ้ารุ่นน้องที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของความเจ้าชู้แบบสุดๆ อีกด้วย พอคิดแบบนี้แล้ว สาวเป้ก็เริ่มที่จะรู้สึกหวั่นๆ ขึ้นมา ว่าจะมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นที่ห้องนี้รึเปล่า

ถึงแม้ว่าเป้จะพยายามสงวนท่าที และระมัดระวังตัวแบบเต็มที่ แต่โจ้เองกลับยังคงทำตัวเหมือนปกติเช่นเคย ไม่ได้แสดงท่าทีมีพิรุธใดๆ ออกมาให้เธอต้องหนักใจ ซึ่งแม้ชายหนุ่มจะยังคงพูดจาเล่นมุกทะลึ่งตึงตังไปบ้างตามประสา แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นน่าเกลียดจนเกินกว่าที่เธอจะรับได้ สาวเป้จึงเริ่มที่จะคลายความกังวลใจลงไป และเริ่มต้นหันเหความสนใจไปอยู่ที่ตัวห้องคอนโดแทน

สาวรุ่นพี่เดินสำรวจพื้นที่รอบๆ ห้องจนสาแก่ใจ ใช้มือถือถ่ายรูปเก็บภาพบริเวณที่ตัวเองสนใจเอาไว้จนครบ ก่อนที่หนุ่มบอยผู้เป็นสามีจะโทรเข้ามาพอดี พร้อมกับแจ้งข่าวร้ายให้ทราบว่ายังคงติดประชุมงานกันไม่เสร็จ และคงจะไม่ได้ไปหาทั้งคู่แล้ว สาวเป้ที่ได้ยินจึงรีบบ่นกลับไปแบบชุดใหญ่ ข้อหาที่ปล่อยให้เธอเสียเวลารอทานข้าวจนท้องกิ่ว สุดท้ายแล้ว เป้กับโจ้ก็เลยต้องมานั่งทานพิซซ่าที่เหลืออยู่ในตู้เย็นกันแค่สองคนในห้อง...

พิซซ่าฮาวายเอี้ยนขอบชีสแผ่นหนานุ่ม รวมถึงเครื่องเคียงต่างๆ พ่วงตบท้ายด้วยเบียร์เย็นๆ อีกคนละกระป๋อง ทำให้อาหารมื้อนี้พอจะสร้างความสุขให้หญิงสาวได้บ้าง แม้ว่าจะแอบเซ็งๆ ที่ไม่ได้ไปทานชาบูร้านโปรดกับสามีอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ตอนแรกก็ตาม

พอท้องอิ่มก็ยิ้มได้ หนุ่มสาวจึงเอนกายนั่งคุยเล่นรำลึกถึงความหลังสมัยเรียนด้วยกัน สาวเป้แกล้งขุดเอาเรื่องที่ชายหนุ่มรุ่นน้องเคยอกหักจากเพื่อนสาวของตัวเองมายั่วเย้าอย่างสนุกปาก ก่อนที่จะโดนหนุ่มโจ้เอาคืนด้วยการกล่าวหาว่าเธอเคยไปถ้ำมองเขาอาบน้ำที่หอ หญิงสาวฟังปุ๊บ ภาพในอดีตก็ผุดขึ้นมาในหัวเธอทันทีโดยอัตโนมัติ

รูปร่างของท่อนลำอวบแน่นทรงกระบอกที่ห้อยต่องแต่งอยู่กลางลำตัวของโจ้ ปลายหัวบานอ้าเป็นสีแดงสดน่าสยดสยอง แม้ถึงวันนี้เป้ก็ยังพอที่จะนึกภาพมันออกลางๆ เล่นเอาเธอถึงกับเขินอายจนใบหน้าร้อนวูบวาบไปหมด หลงคิดว่าหนุ่มรุ่นน้องจะลืมเลือนเรื่องนี้ไปแล้วซะอีก เธอจึงได้แต่แกล้งร้องโวยวายกลบเกลื่อนเพื่อแก้เขิน ด้วยการพูดแซวว่าอาวุธประจำกายของชายหนุ่มนั้นเล็กจิ๋วไม่ต่างอะไรจากหนอนชาเขียวในโฆษณา

โจ้ที่ได้ฟังแบบนั้นจึงแสร้งออกอาการของขึ้น ทำท่าว่าจะงัดเอาของดีของตัวเองออกมาโชว์ให้เป้ดู จนสาวรุ่นพี่ต้องรีบยกไม้ยกมือร้องห้ามปรามด้วยความเขินอาย ก่อนที่จะพยายามชวนเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น เพราะเริ่มรู้สึกว่าบทสนทนามันชักจะทะลึ่งตึงตังกันมากเกินไปหน่อย

แต่พอเปลี่ยนไปคุยเล่นกันได้ไม่ทันไร หนุ่มโจ้ก็ค่อยๆ ขยับตัวเข้ามานั่งประกบชิดเธอแบบกะทันหัน สายตาก็จ้องสบตาอย่างลึกซึ้ง ทำท่าทีเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

“พี่เป้ครับ... ผมรู้ว่ามาบอกเอาตอนนี้มันก็สายไปแล้ว แต่ยังไงผมก็ยังอยากบอกพี่อยู่ดีนะครับ”  โจ้ว่าพร้อมกับยื่นมือมากุมมือเธอไว้ แน่น จนเป้รู้สึกได้ถึงไออุ่นที่ส่งผ่านมาทางฝ่ามือ
“ผมชอบพี่นะครับ ชอบมาตั้งนานแล้ว” น้ำเสียงและสีหน้าของโจ้ดูจริงจัง ไม่มีวี่แววของการล้อเล่นใดๆ เหลืออยู่ สาวเป้ได้ฟังแบบนี้ก็ถึงกับอึ้งตะลึงไปเลย  และกว่าที่เธอจะตั้งตัวได้  ชายหนุ่มก็เอื้อมมือมาคว้าตัวเธอเข้าไปกอดไว้เรียบร้อยแล้ว

“โจ้..... อย่า....”  เป้พยายามจะเอ่ยปากร้องห้าม แต่เสียงในลำคอกลับขาดหายไปโดยไม่รู้ตัว ความตื่นเต้นที่เกิดขึ้น ทำให้ร่างกายของเธอเปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อที่ผุดไหลออกมาไม่หยุดหย่อน ในหัววิ่งหมุนวนไปมาด้วยความตื่นตระหนก เรี่ยวแรงขาดหายจนไร้แรงต่อต้านใดๆ

พอโจ้เห็นว่าเธอไม่ได้มีอาการต่อต้านเท่าไหร่ ก็เลยยิ่งได้ใจขึ้นไปอีก ปากก็พร่ำบอกว่าชอบเป้ไม่หยุดหย่อน พร้อมกับขยับตัวโน้มหน้าเข้ามาจนใกล้ ใบหน้าของทั้งคู่ตอนนี้อยู่ห่างกันแค่เพียงไม่ถึงคืบ จนเป้รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่พ่นกระทบผิวหน้าตัวเองอย่างแผ่วเบา ก่อนที่ริมฝีปากของโจ้ จะเคลื่อนตัวเข้ามาประกบล็อคเข้ากับริมฝีปากของเธอในที่สุด....

เป้เผลอส่งเสียงร้องอู้อี้ๆ ออกมาด้วยความตกใจ รีบหุบเม้มปากตัวเองเอาไว้แน่น เพราะรู้สึกได้ว่าโจ้กำลังพยายามสอดลิ้นเข้ามาในปาก แต่จนแล้วจนรอด หญิงสาวก็ต้านทานอารมณ์หื่นอันรุนแรงของชายหนุ่มไว้ไม่ไหว ริมฝีปากค่อยๆ ถูกง้างออกทีละนิด พร้อมๆ กับที่ปลายลิ้นลื่นไหลก็สอดคว้านเข้ามาพัวพันกับลิ้นของเธอในที่สุด

ทันทีที่ลิ้นของทั้งคู่สัมผัสกัน ในหัวของเป้ก็พลันว่างเปล่าขึ้นมาทันที ได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อ ปล่อยให้โจ้เร่งรุกไล่ บดปากจู่โจมราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว มันเป็นรสจูบที่รุนแรงและเร่าร้อน แตกต่างไปจากรสจูบอันอ่อนโยนของบอย หรือแม้แต่รสหวานละมุนลิ้นที่เธอเคยได้รับจากต้น มันเป็นรสชาติของความ... หื่นกระหาย...

จังหวะการประกบบดปากของโจ้ ทั้งหนักแน่นและมูมมาม... ทั้งสอดทั้งคว้าน... จนเป้ตัวอ่อนปวกเปียกเป็นขี้ผึ้งลนไฟ รู้สึกเหนียวเหนอะหนะจากคราบน้ำลายที่ผสานเข้าด้วยกัน จนไหลเยิ้มออกมาตามมุมปาก เช่นเดียวกับร่องหลืบบริเวณหว่างขาด้านล่างของเธอ ที่ดูจะชุ่มชื้นไม่แพ้กัน...

ก่อนที่เสียงระฆังหมดยกจะดังขึ้นมา ทันทีที่โจ้เอื้อมมือบีบหมับเข้าไปที่หน้าอกของเป้ อาการเสียวสะท้านที่พุ่งวาบขึ้นมา เหมือนจะช่วยเตือนสติหญิงสาวที่กำลังหลุดลอยให้คืนกลับเข้าที่ เป้รวบรวมกำลังที่ยังพอเหลืออยู่ ใช้สองมือออกแรงดันตัวโจ้จนกระเด็นออก พร้อมกับขยับตัวลุกหนีกลับบ้านทันที โจ้ที่ตั้งหลักได้ก็รีบอาสาเดินลงไปส่ง ซึ่งเธอเองก็ไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้ เพราะจำเป็นต้องใช้คีย์การ์ดจากเจ้าของห้องในการเปิดประตูกระจกด้านล่าง

เมื่อทั้งคู่เดินลงมาถึงลานจอดรถด้านล่าง สาวเป้ก็รีบก้าวผลุนขึ้นรถพร้อมกับเอ่ยลาโจ้แบบเร็วๆ ลวกๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเธอเองกำลังรู้สึกยังไงอยู่ ไม่รู้ว่าควรจะโกรธ ตกใจ ดีใจ หรืออยากร้องกรี๊ดออกมากันแน่ หัวสมองว่างเปล่าด้วยพิษของความสับสนที่กำลังปะทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง มันเกิดอะไรขึ้น?  ชายหนุ่มพึ่งจะสารภาพว่าชอบเธอ? แถมพูดไม่พูดเปล่า ยังกล้าประกบจูบปาก... ลวนลามเธออีก... ทั้งๆ ที่เคยแต่จิกกัดด่ากันจนไฟแลบมาตลอดเนี่ยนะ??

เป้ขับรถกลับมาถึงบ้านโดยที่ตัวเองก็ยังหาคำตอบและคำอธิบายให้กับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นไม่ได้ แต่เธอก็พยายามที่จะลืมๆ มันไปชั่วคราว เพราะไม่อยากแสดงอาการแปลกๆ อะไรออกมาให้สามีผิดสังเกต

พอเปิดประตูเข้าบ้านปั๊บ เธอก็เจอเข้ากับหนุ่มบอยที่กำลังนอนเอกเขนกดูทีวีอยู่บนโซฟาห้องรับแขกพอดี เป้เอ่ยทักทายชายหนุ่มไปตามเรื่องตามราว ในขณะที่บอยเองก็แค่ซักถามเรื่องห้องคอนโดนิดๆ หน่อยๆ ก่อนที่หญิงสาวจะขอปลีกตัวมาอาบน้ำ เพราะกลัวว่าตัวเองจะเผลอแสดงพิรุธออกไป

ช่วงจังหวะที่กำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าอยู่ในห้องน้ำนั้นเอง คุณแม่ยังสาวจึงได้พบว่าสภาพกางเกงในที่ตัวเองพึ่งจะสวมใส่นั้น มันมีคราบน้ำเหนียวๆ เลอะๆ ซึมติดอยู่ที่บริเวณตรงกลางเป้า จนมองเห็นเป็นดวงๆ ซึ่งไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่า คงเป็นผลข้างเคียงจากตอนที่เธอถูกหนุ่มรุ่นน้องระดมจูบที่ห้องนั่นเอง โอ้! ตายแล้ว... นี่เธอเผลอตัวเกิดอารมณ์ได้ถึงขนาดนี้เลยหรือเนี่ย?

เป้ใช้มือขยำกางเกงในจนกลายเป็นก้อนกลมๆ แล้วยัดซุกเอาไว้ด้านในของตะกร้าจนลึก เพราะกลัวว่าหนุ่มบอยจะมาเห็นเข้า หลังจากนั้นจึงรีบเข้าไปอาบน้ำล้างตัว ใช้โฟมอาบน้ำชำระคราบความเปียกชื้นที่เกาะติดอยู่กลางกลีบสาวจนสะอาดสะอ้าน เพื่อหวังที่จะชะล้างความรู้สึกอึดอัดแปลกๆ ให้หลุดพ้นออกไปจากตัวเร็วๆ แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่...

ในหัวของเธอยังคงฉายภาพเหตุการณ์สุดสยิวที่พึ่งจะเกิดขึ้น วนเวียนซ้ำไปซ้ำมาไม่ยอมหยุด ความรู้สึกร้อนรุ่มหวิวๆ ในอก ค่อยๆ ไล่เลื้อยลงต่ำไปเกาะกุมอยู่ที่บริเวณร่องหลืบกลางลำตัว จนเป้รู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด ยิ่งพอนึกไปถึงตอนที่โจ้กำลังบดลิ้นเข้ามาในปากแบบหนักๆ นึกไปถึงรสสัมผัสตอนที่โดนชายหนุ่มบีบบี้เต้านมตัวเอง ตรงหว่างขาของเธอก็บังเกิดอาการร้อนรุ่มและเหนียวหนืด ไม่ต่างอะไรจากปากปล่องภูเขาไฟที่กำลังจะมีลาวาปะทุขึ้นมา

และก่อนที่จะทันรู้สึกตัว เป้ก็เผลอใช้มือขยับสายฝักบัว ค่อยๆ จ่อมันฉีดเข้าไปที่บริเวณปากร่องหีของตัวเอง เพื่อหวังจะดับความร้อนรุ่มที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ภายในกาย...

หญิงสาวใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่ ค่อยๆ กดแหวกกลีบเนื้อคู่งามที่กำลังปิดสนิทให้เผยออ้าออก ติ่งเนื้อเม็ดกลมมนจึงโดดเด้งชูชันออกมาจากหลืบร่อง จนมองเห็นได้อย่างชัดเจน เป็นจังหวะเดียวกับที่สายน้ำชุดแรก พุ่งกระทบเข้ากับโหนกเนื้อบริเวณแคมหีของเธอพอดิบพอดี

สัมผัสอันนุ่มนวลของกระแสน้ำที่โลมไล้เม็ดทับทิบแบบเน้นๆ ก่อเกิดเป็นความเสียวซ่านปนสุขที่แล่นแปร๊บๆ ไปทั่วเรือนร่างของหญิงสาว มันเป็นความรู้สึกหวิวๆ นุ่มนวลชวนฝัน คล้ายกับว่ามีใครกำลังใช้ลิ้นปาดเลียที่บริเวณร่องเสียวของเธอด้วยความอ่อนโยนและแผ่วเบา ใครบางคน... ที่หน้าตาช่างละม้ายคล้ายคลึงกับโจ้เหลือเกิน...

เนื้อตัวของเป้สั่นไหววูบวาบด้วยความเสียวสะท้าน โพรงเนื้อนุ่มๆ ภายในเริ่มออกอาการบีบขมิบตุบๆ เป็นจังหวะ รู้สึกได้ถึงน้ำหล่อลื่นที่กำลังไหลซึมออกมาจากภายใน ข้างนอกว่าเปียกปอนแล้ว... แต่ข้างในกลับเปียกชื้นยิ่งกว่า...

ในหัวเธอตอนนี้ มีแต่ภาพใบหน้าของชายหนุ่มรุ่นน้องลอยละล่องไปมาอยู่เต็มไปหมด นึกถึงรสจูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อน แรงบดจากริมฝีปาก และปลายลิ้นที่พริ้วไหวไหลลื่น ก่อนที่จะนึกย้อนไปถึงดุ้นเอ็นหัวบานใหญ่ ที่เคยได้เห็นแบบเต็มๆ ตาเมื่อครั้งสมัยเรียน ซึ่งจนถึงทุกวันนี้เธอก็ยังไม่สามารถลบเลือนภาพนี้ออกไปจากหัวตัวเองได้

พอยิ่งนึก อารมณ์ของเป้ก็ยิ่งคึกคักขึ้นมา จนเธอถึงขั้นเผลอจินตนาการด้วยความสงสัยว่า มันจะเป็นยังไงกันนะ ถ้าเจ้าท่อนควยลำยาวอวบอ้วนแท่งนี้... มันเกิดมุดชำแรกเข้าไปในตัวของเธอแบบมิดด้ามมิดโคน.... อืมมม ยิ่งคิด ร่องหลืบของหญิงสาวก็ยิ่งเปียกเยิ้มเจิ่งนองเข้าไปอีก รู้สึกคันยุบยิบที่บริเวณร่องเนื้อสาวจนต้องเผลอใช้นิ้วสอดเข้าไปเกาขยุกขยิกด้านใน

ลมหายใจของเธอเริ่มขาดหายเป็นห้วงๆ มีแต่ความรู้สึกร้อนวูบวาบที่แล่นขึ้นมาเกาะกุมเนื้อตัว ความเย็นชุ่มชื้นของสายน้ำ กลับกระตุ้นให้ร่างกายของหญิงสาวยิ่งร้อนรุ่มอย่างไม่มีที่สิ้นสุด อารมณ์ความเสียวที่ครอบงำ ทำให้เป้ลืมเลือนเรื่องของความรู้สึกผิดและอับอายใดๆ ไปจนหมดสิ้น ปล่อยให้นิ้วกลางเรียวยาว สอดเข้าสอดออกร่องรูของตัวเองอย่างไหลลื่น ขณะที่อีกมือก็จับฝักบัวฉีดจ่อไปที่เม็ดทับทิมแดงสวยไปด้วยพร้อมๆ กัน

สองขาของเป้แบะอ้าออกกว้าง เกร็งแอ่นสะโพกเข้าฟาดฟันกับกระแสน้ำที่พรั่งพรูออกมาอย่างถึงพริกถึงขิง หมู่มวลความรู้สึกค่อยๆ ก่อตัวขึ้นเป็นรูปเป็นร่างอย่างช้าๆ ทบทวีเข้าด้วยกันจนกลายเป็นเหมือนกับบอลลูนลูกยักษ์ที่กำลังบวมเป่ง และพร้อมที่จะระเบิดโพล๊ะออกมาในทุกๆ เสี้ยววินาที ขอเพียงแค่มีใครไปสะกิดถูกมันเบาๆ

และเมื่ออารมณ์ความเสียวถูกบีบคั้นจนถึงขึ้นขีดสุด ร่างของเป้ก็พลันเกร็งกระตุกสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ สูดปากร้องครางฮือออกมายาวๆ รู้สึกเสียวจี๊ดขึ้นมาถึงขั้วหัวใจ แข้งขาอ่อนเปลี้ยจนแทบจะยืนไม่อยู่ ต้องใช้มือซ้ายยันกำแพงเพื่อตั้งหลักไม่ให้ทรุดร่วงลงไปกองกับพื้น เกิดอาการโหวงๆ หน่วงๆ ขึ้นมาที่บริเวณกลางตัว  ร่องหลืบภายในก็ออกอาการกระตุกตอดไม่หยุด แก้มก้นเกร็งขมิบหงึกๆ ได้ไม่กี่ที ก่อนที่น้ำเสียวสีขาวใส จะพุ่งพรวดทะลักออกมา ไหลนองเต็มง่ามขาไปหมด

ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ ความรู้สึกเสียววูบวาบเหล่านั้นจึงค่อยๆ คลี่คลายลง จนเปลี่ยนเป็นความรู้สึกโล่งเบาสบายในที่สุด ภาพท่อนเนื้อดุ้นยาวใหญ่ของโจ้ จึงค่อยๆ เลือนหายไปอย่างช้าๆ พอความหื่นเริ่มผ่อนคลายลง ความรู้สึกผิดก็รีบเข้ามาเกาะกุมแทนที่... สาวเป้มองภาพนิ้วกลางที่มีคราบเมือกใสๆ เกาะเยิ้มติดอยู่ เกิดความรู้สึกทั้งอับอายและรู้สึกแย่ไปพร้อมๆ กัน ที่เผลอปล่อยตัวปล่อยใจ สำเร็จความใคร่ให้ตัวเองโดยที่จินตนาการนึกภาพถึงหนุ่มรุ่นน้องไปด้วย

หญิงสาวพยายามสลัดความรู้สึกผิดทิ้งไปให้เร็วที่สุด แต่ก็ดูเหมือนจะยากเย็นเต็มที แม้กระทั่งตอนที่หนุ่มบอยปีนขึ้นเตียงมานอนกอดเธอนั้น ในหัวของเป้ก็ดันมองเห็นเป็นภาพตอนที่โจ้กำลังใช้มือกอดร่างของเธอซ้อนทับขึ้นมา และกว่าที่เธอจะข่มตานอนหลับลงไปได้ ก็ปาเข้าไปอีกเป็นชั่วโมง...

=======================================

หลังจากเหตุการณ์ในคราวนั้น โจ้ก็เริ่มที่จะหาโอกาสนัดเจอกับเป้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ โดยหยิบยกเอาเรื่องการปรับปรุงห้องคอนโด มาใช้เป็นข้ออ้างในการผูกมัดหญิงสาว ให้ต้องจำใจยอมมาเจอหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเป้เองก็พยายามที่จะระมัดระวังตัว และจะยอมนัดพบกับชายหนุ่มก็แค่เฉพาะที่ร้านกาแฟหรือร้านอาหารในช่วงกลางวัน ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่านเท่านั้น เพราะยังแอบกังวลว่า หากเผลอไปนั่งคุยกันในที่เปลี่ยวๆ หรือที่ห้องคอนโดแบบสองต่อสอง เธอก็อาจจะโดนหนุ่มรุ่นน้อง รวบหัวรวบหางปลุกปล้ำเอาแบบเมื่อคราวที่แล้วได้

ซึ่งแม้ว่าจะเป็นการนัดเจอกันในที่สาธารณะ แต่หนุ่มโจ้ก็ยังใจกล้าและหน้าด้านพอที่จะสารภาพความในใจออกมาให้เธอฟังได้อย่างไม่รู้เบื่อ ซึ่งสาวเป้ที่นั่งฟังอยู่ก็ได้แต่คอยตอบปฏิเสธเลี่ยงๆ กลับไป ไม่รู้ว่าจะบอกปฏิเสธออกไปยังไงให้ชัดเจน เพราะเจ้าหนุ่มรุ่นน้องคนนี้ก็ช่างดื้อด้านดึงดันดีเหลือเกิน ซ้ำเธอยังไม่กล้าที่จะเอาเรื่องนี้ไปบอกให้บอยรู้ด้วย เพราะกลัวว่ามันจะไปกระทบกับมิตรภาพของทั้งสามีและรุ่นน้อง จนเข้าหน้ากันไม่ติดขึ้นมา

เมื่อไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง เป้ก็เลยได้แต่คอยให้คำปรึกษาเรื่องคอนโดกับโจ้ไปเรื่อยๆ โดยที่ต้องคอยแบ่งสมาธิอีกครึ่งนึง เพื่อคอยขีดเส้นคั่น เว้นระดับความสัมพันธ์ของเธอกับโจ้ ไม่ให้ถลำลึกเกินเลยไปมากกว่านี้

ซึ่งแม้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะดูคล้ายคลึงกับเรื่องราวของเป้กับต้นอยู่ไม่น้อย แต่หญิงสาวเองก็ยังไม่กล้าที่จะเปิดใจเข้าไปคลุกคลีใกล้ชิดกับหนุ่มโจ้ซักเท่าไหร่ เนื่องจากเหตุการณ์ในครั้งแรกนั้น มันมีจุดเริ่มต้นมาจากหนุ่มบอยที่เป็นตัวตั้งตัวตี เป็นคนคอยคิดแผนการให้ทุกอย่าง ก็เลยทำให้เป้ค่อนข้างที่จะรู้สึกปลอดภัย เพราะรู้ว่ายังมีคนคอยดูแลควบคุมสถานการณ์ให้อีกทีหนึ่ง

ไม่เหมือนกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ที่เธอกำลังถูกชายหนุ่มรุ่นน้องไล่ตามคุกคามอย่างหนัก ทั้งตามจีบตามตื้อ พยายามที่จะร่นระยะห่างระหว่างทั้งคู่ให้แคบลงเรื่อยๆ คอยโทรมาชวนคุยเล่นเรื่อยเปื่อย สลับกับการส่งข้อความออดอ้อนคิดถึงมาหาเธออยู่เป็นระยะๆ จนหญิงสาวเริ่มรู้สึกว่าชายหนุ่มแทบจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องคอนโดเลยซักเท่าไหร่

ยิ่งนานวัน เป้ก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความยากลำบาก ในการที่จะต้านทานเสน่ห์ของชายหนุ่มรุ่นน้อง ซึ่งกำลังค่อยๆ คุกคามเข้ามาครอบงำเธอมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความที่โจ้เป็นคนคารมดี ยียวน และกวนตีนเก่ง ทำให้เวลาที่เขาแชทมาชวนคุยเล่น เธอก็มักจะเผลอตัว คุยโต้ตอบกลับไปซะจนยืดยาวเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ตลอด

เป้เองนั้นค่อนข้างประทับใจกับภาพลักษณ์ของหนุ่มโจ้ที่ดูดีกว่าตอนสมัยเรียนค่อนข้างมาก ทั้งบุคลิกคำพูดคำจา ความคิดความอ่าน รวมถึงหน้าที่การงานที่โก้หรู ก็เลยทำให้ภาพลักษณ์ของชายหนุ่มในสายตาเธอ ดูมีเสน่ห์ขึ้นมาแบบทันตาเห็น และทั้งๆ ที่ตัวเขาเองก็มีสาวๆ สวยๆ หน้าตาน่ารักมาให้เลือกควงแขนอยู่ไม่ซ้ำหน้า แต่เขากลับเลือกที่จะมาเสียเวลาตามตื้อตามจีบแม่บ้านหน้าตาธรรมดาๆ อย่างเธอ พอคิดแบบนี้แล้ว สาวเป้ก็เลยอดรู้สึกปลื้มใจไม่ได้...

แต่เธอก็ได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกปลาบปลื้มนี้ฝังเอาไว้ข้างในใจลึกๆ เพราะถึงยังไงเธอเองก็ยังมีหนุ่มบอยเป็นคู่ชีวิตที่แสนดีอยู่แล้วทั้งคน รวมทั้งยังรู้ดีด้วยว่าผู้ชายเจ้าชู้แบบโจ้นั้น ท้ายที่สุดแล้วก็คงไม่ได้มาคิดอะไรจริงจังกับผู้หญิงที่มีคู่ครองเป็นตัวเป็นตนแล้วอย่างเธอ ซึ่งที่ชายหนุ่มทำไปทั้งหมดนี้ก็คงแค่นึกสนุก หวังหาเศษหาเลยไปตามประสาเท่านั้นเอง

และที่สำคัญที่สุดก็คือ เวลาที่เจอหน้ากันทีไร สาวเป้ก็มักจะเผลอนึกถึงภาพตอนที่เธอแอบตกเบ็ดช่วยตัวเอง โดยมีหนุ่มโจ้สวมบทบาทเป็นพระเอกในจินตนาการ และพาเธอลอยขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดเสร็จกิจไปซะทุกที...

ก่อนที่จุดเปลี่ยนทางความรู้สึกจะเดินทางมาถึง... เมื่อโจ้ขอติดสอยห้อยตามมาเที่ยวงานลอยกระทงที่ภูเขาทอง ร่วมกับครอบครัวของเป้ ซึ่งตลอดเวลาที่เดินเล่นกันนั้น ชายหนุ่มก็เอาแต่คอยตามประกบติดเธอเหมือนเป็นเงาตามตัว จนหญิงสาวแอบนึกเคืองเล็กๆ ที่ชายหนุ่มรุ่นน้องกล้าทำอะไรประเจิดประเจ้อขนาดนี้

ในขณะที่ฝ่ายสามีอย่างบอยนั้น ก็ดันง่วนอยู่กับการดูแลน้องโอมลูกชายอย่างเต็มที่ จนไม่ทันได้สังเกตเลยว่าเจ้ารุ่นน้องตัวแสบนั้น กำลังแอบลวนลามภรรยาตัวเองผ่านทางสายตาไปถึงไหนต่อไหน ซึ่งเป้เองก็ยังไม่อยากรีบโวยวายให้เสียบรรยากาศ ได้แต่เก็บความรู้สึกขุ่นข้องหมองใจเอาไว้คนเดียวเงียบๆ โดยมีหนุ่มโจ้เดินตามประกบคู่มาอย่างไม่รู้สึกรู้สาใดๆ

แต่พอเดินๆ ไปเรื่อยๆ แล้ว หญิงสาวกลับเริ่มรู้สึกสนุกและเพลิดเพลินกับบรรยากาศรอบๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ภาพความรู้สึกสมัยที่ตัวเองเคยเดินเล่นกระหนุงกระหนิงกับบอยเมื่อตอนที่จีบกันใหม่ๆ เริ่มย้อนกลับคืนมาอีกครั้ง เพียงแต่ว่าในค่ำคืนนี้ คนที่เดินเล่นอยู่เคียงข้างเธอนั้นกลับไม่ใช่หนุ่มบอย แต่เป็นโจ้...

ลมหายใจอุ่นๆ ของโจ้ พุ่งกระทบต้นคอของเป้จากทางด้านหลัง ขณะที่เขากำลังประคับประคองสองแขนของเธอเพื่อช่วยเล็งยิงเป้า... ภาพแผ่นหลังกับไหล่กว้างๆ ของชายหนุ่มรุ่นน้อง ที่เธอใช้ยึดเกาะตอนที่เดินอยู่ในบ้านผีสิง รู้สึกได้ถึงไออุ่นจากฝ่ามือหนาๆ ที่คอยเกาะกุมพาเธอเดินออกมาจนถึงปลายทาง... รสสัมผัสที่เกิดขึ้น ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจเธอปั่นป่วนขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว

การที่เธอมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับโจ้ในคืนนี้ ทำให้ความรู้สึกต่างๆ ที่ยังคงกล้าๆ กลัว เริ่มที่จะผ่อนคลายลงไปบ้าง ทั้งคู่ใช้เวลาเดินเล่นเข้าซุ้มนู้นซุ้มนี้ด้วยกัน ไม่ต่างอะไรจากคู่รักหนุ่มสาวที่เดินขวักไขว่สวนไปมาอยู่บริเวณรอบๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าแต่ละคู่นั้น จะมีอาการใจเต้นตูมตามเหมือนกับสาวเป้ในตอนนี้หรือไม่... เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กสาววัยรุ่น ผู้ซึ่งกำลังเคลิบเคลิ้มมัวเมาไปกับรสชาติแห่งความสุขจากเดทแรกในชีวิตของตัวเอง

เคลิบเคลิ้ม... ทั้งๆ ที่สามีก็เดินตามหลังอยู่ไม่ห่าง....

ด้วยจังหวะและความบังเอิญที่แสนจะลงล็อค จนทำให้เป้ต้องมาเดินตัวติดอยู่กับชายหนุ่มรุ่นน้อง รวมไปถึงท่าทีที่ดูปกติจนผิดสังเกตได้ของหนุ่มบอย ก็ทำให้หญิงสาวอดคิดระแวงไม่ได้ว่า หรือนี่จะเป็นแผนการอะไรบางอย่างที่สามีเธอกับหนุ่มรุ่นน้อง แอบตกลงกันไว้ก่อนแล้ว เพื่อหวังที่จะใช้มันเป็นเครื่องช่วยกระตุ้นอารมณ์ความตื่นเต้นบนเตียงให้กลับมาซู่ซ่า เหมือนอย่างเมื่อคราวของต้นก็เป็นได้

ยิ่งดูไปเป้ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันยิ่งเข้าเค้ามากขึ้นทุกที แต่ถึงกระนั้น เธอเองก็ยังไม่มีหลักฐานอะไรมากพอที่จะหยิบยกไปปรักปรำเอาผิดกับสองหนุ่มได้ สุดท้ายเธอก็เลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย และถือโอกาสตีเนียนตามน้ำ เดินเล่นกระหนุงกระหนิงกับโจ้ไปเลยแบบเต็มที่ ซึ่งถ้าเกิดว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนของสามีเธอจริงๆ ชายหนุ่มก็จะได้ตื่นเต้นสมใจปรารถนา แต่ถ้าเกิดว่ามันไม่ใช่ขึ้นมา... ก็คิดซะว่าเป็นการตักตวงหาความสุขเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเธอไปก็แล้วกัน

หลังจากการไปเที่ยวในครั้งนั้น ทั้งเป้และโจ้ ก็ยิ่งดูจะสนิทสนมกันมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ชายหนุ่มคอยแชทมาหาเธอไม่ขาดในแต่ละวัน ในขณะที่หญิงสาวเองก็เริ่มนึกสนุก คอยหยอกเย้าตอบโต้กลับไปอย่างรู้กัน และบางทียังกลายเป็นฝ่ายชวนโจ้คุยเรื่อยเปื่อยด้วยตัวเอง โดยไม่ทันได้นึกระวังตัวเลยว่า สามีของเธอนั้นจะแอบสังเกตเห็นพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่

แต่จนแล้วจนรอด หนุ่มบอยก็ไม่เคยพูดทักท้วงเรื่องที่เธอติดแชทเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งก็คงไม่น่าแปลกใจอะไรเท่าไหร่ ในเมื่อชายหนุ่มเองก็กำลังติดพันกับโปรเจ็คงานใหญ่ที่บริษัท จนแทบจะไม่มีเวลาสวีทหวานอะไรกับภรรยาเลยด้วยซ้ำ พอกลับมาบ้าน หัวถึงหมอนแล้วก็แทบจะนอนหลับปุ๋ยไปเลย ซึ่งสาวเป้เองก็ไม่ได้นึกน้อยใจอะไรเช่นกัน เพราะเธอนั้นกำลังหลงใหลอยู่กับหนุ่มรุ่นน้อง จนไม่เหลือที่ว่างให้ความเหงาได้เข้ามากล้ำกรายในหัวใจ...

จนกระทั่งวันนึง... โจ้ก็เอ่ยปากชวนเป้ไปทานข้าวเย็นด้วยกันแบบสองต่อสอง โดยแอบขอร้องแกมบังคับให้เธอเก็บเป็นความลับจากหนุ่มบอยด้วย... ซึ่งพอเป้ได้ฟัง หญิงสาวก็รู้ชัดทันทีเลยว่า หนุ่มโจ้นั้นกำลังเริ่มที่จะเดินหน้าจีบเธอแบบเต็มตัวแล้ว และถ้าเธอเกิดตอบรับคำเชิญนี้ไปแล้วล่ะก็ นี่ก็จะถือเป็นการแอบหนีไปเที่ยวกับผู้ชายแบบสองต่อสองเป็นครั้งแรกในชีวิต โดยที่สามีอย่างบอยไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วย...

เป้พยายามชั่งใจคิดซ้ำไปซ้ำมาอย่างถี่ถ้วน ทั้งลังเล ทั้งสับสน รู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ใจนึงก็รู้สึกผิด ที่ตัวเองกำลังเผลอไผลเริ่มไถลนอกใจสามีออกไปเรื่อยๆ แต่อีกใจนึงก็กลับคิดเข้าข้างตัวเองไปว่า อะไรๆ มันก็คงจะไม่ได้ต่างไปจากเรื่องราวของต้นซักเท่าไหร่

ด้วยความที่หนุ่มบอยนั้นเคยพูดกรอกหูเป้ เรื่องที่อยากเห็นต้นมาจีบมากิ๊กกับเธออยู่นานสองนาน ซ้ำยังคอยยุยงส่งเสริมและสนับสนุนให้เธอลองเปิดใจรับความรู้สึกของชายหนุ่มมาตลอด ทำให้หญิงสาวพอจะรับมือกับความสัมพันธ์แปลกๆ เหล่านี้ได้ดีขึ้น รู้สึกมั่นใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และทำให้ความรู้สึกผิดที่เคยมีอยู่นั้น ค่อยๆ เบาบางลงไป หลงเหลือไว้เพียงแค่ความทรงจำดีๆ ในเรื่องของชีวิตเซ็กส์ที่ซู่ซ่า และมีชีวิตชีวาแบบหน้ามือเป็นหลังมือ

จากที่เธอไม่เคยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องบนเตียงซักเท่าไหร่ พอมีเรื่องราวของต้นเข้ามาเกี่ยวพันด้วย มันก็ทำให้เป้เริ่มที่จะหลงใหล และสนุกเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมพิศดารบนเตียง ที่มุมหนึ่งก็น่าเขินอาย แต่อีกมุมหนึ่งนั้นก็น่าลิ้มลองไปพร้อมๆ กัน มันเป็นการผลักดันเธอให้ก้าวข้ามขีดจำกัดทางศีลธรรมที่เคยตีกรอบเอาไว้ อย่างน่าเหลือเชื่อ และทำให้เป้กล้าที่จะเปิดรับความสุขทางเพศมากขึ้น ในแบบที่ตัวเองก็ไม่เคยคิดจินตนาการถึง...

ความสุขที่ยังคงตกค้างอยู่ในห้วงความทรงจำเหล่านี้ ยังคงเป็นสิ่งที่หญิงสาวเฝ้าโหยหาอยู่ในใจลึกๆ มาโดยตลอด แม้ว่าจะเธอเคยทำปากแข็ง บอกปฏิเสธสามีไปว่ารู้สึกอึดอัด และไม่อยากทำอีกแล้วก็ตาม แต่พอนานวันเข้า เธอก็เริ่มที่จะออกอาการหงุดหงิดงุ่นง่าน เมื่อเซ็กส์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน มันมีแต่จะจืดชืดและเหี่ยวแห้งลงทุกวันๆ...

จนแทบจะกลายเป็นแค่กิจกรรมที่ต้องทำๆ ให้ครบตามหน้าที่ของคู่ชีวิตก็เท่านั้นเอง....

ความอึดอัดที่สะสมมาเรื่อยๆ ทำให้เป้ค่อนข้างเอนเอียงเข้าหาโจ้มากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะรู้ดีว่าสิ่งที่เธอกำลังจะทำอยู่ มันแทบไม่ต่างอะไรจากการยื่นมือเข้าไปเล่นกับไฟ เหมือนลูกเจี๊ยบที่คิดทะลึ่งกระโดดลงไปซ่าในบ่อจระเข้ โดยรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองจะต้องเจอกับผลลัพธ์ร้ายๆ ยังไงบ้าง และทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่แล้วว่าการเผลอไปใกล้ชิดสนิทสนมกับเสือผู้หญิงแบบโจ้นั้น มีแต่จะทำให้ตัวเองต้องน้ำตาตกใน... แต่สุดท้ายเธอก็ยังเลือกที่จะเชื่อในความรู้สึกมากกว่าที่จะใช้เหตุผลไตร่ตรองอยู่ดี

ก่อนที่เป้จะตัดสินใจตอบรับคำชวนของโจ้ไปในที่สุด....

=======================================

เป้ตัดสินใจโกหกบอยไปว่าเธอมีนัดทานข้าวกับกลุ่มเพื่อนสาวที่บริษัท ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้นึกสงสัยอะไร แค่พูดเตือนๆ ให้ระวังเรื่องที่ดื่มแล้วยังต้องขับรถกลับบ้านเท่านั้น ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เธอต้องโกหกปิดบังสามีตัวเองนั้น นอกจากเรื่องที่เธอรู้สึกกระดากปากที่ต้องกลืนน้ำลายตัวเองแล้ว

อีกส่วนนึงก็ยังมีเรื่องของความสบายใจ ความเป็นอิสระ ที่เธอจะไม่ต้องคอยเกรงใจ หรือคอยมารายงานสถานการณ์ต่างๆ ให้สามีฟังทีหลัง ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับต้นคราวก่อนนั้น บางครั้งเธอเองก็ไม่กล้าที่จะปล่อยอารมณ์ปล่อยใจออกไปซักเท่าไหร่ รู้สึกเก้ๆ กังๆ กั๊กๆ เพราะลึกๆ แล้วเธอก็รู้ดีว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ยังคงถูกสามีเฝ้าจับตามองดูอยู่ไม่ห่าง เวลาจะทำอะไรก็ต้องคอยนึกเกรงอกเกรงใจ และต่างฝ่ายต่างก็อึดอัดกันเปล่าๆ

ด้วยเหตุนี้ เป้จึงตัดสินใจที่ลองเดินหน้าสานสัมพันธ์กับโจ้ไปก่อนคร่าวๆ เพื่อที่จะได้รู้ว่าที่สุดแล้ว ทุกอย่างมันจะลงตัวราบรื่นอย่างที่เธอคิดไว้หรือไม่ เพราะถ้าเกิดว่าอะไรๆ มันไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ทั้งเธอและโจ้ก็จะได้รีบยุติความสัมพันธ์ได้แบบทันท่วงที หรือถ้าสุดท้ายแล้ว เกิดทุกอย่างมันออกมาโอเคจริงๆ ถึงตอนนั้นแล้วเธอค่อยสารภาพกับหนุ่มบอยทีหลังก็ยังไม่สาย เพราะถึงยังไง ฝ่ายหลังเองก็น่าจะไม่ได้นึกคัดค้านอะไรอยู่แล้ว

เป้ไปถึงที่ร้านช้ากว่าเวลานัดราวๆ 10 นาที พอเห็นหนุ่มโจ้โบกไม้โบกมือเรียกเธอจากที่โต๊ะแล้ว เธอก็รู้สึกใจสั่นหวิวๆ ขึ้นมาแปลกๆ มันเป็นบรรยากาศการพูดคุยที่ดูจะแตกต่างไปจากครั้งก่อนๆ ที่แล้วมา ทำนองเพลงซึ้งๆ จากวงดนตรีที่กำลังเล่นสดอยู่ ทำให้ใจของเป้ล่องลอยเคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศที่กำลังเกิดขึ้น เมื่อรวมเข้ากับรสชาติของอาหารและเครื่องดื่มที่ถูกปาก ก็ยิ่งทำให้ค่ำคืนนี้ดูน่าประทับใจยิ่งขึ้นไปอีก

เป้หัวเราะไปกับมุกตลกบ้าๆ บอๆ ปนหื่นของโจ้เป็นระยะๆ ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ทานเข้าไป จึงทำให้เธอกล้าที่จะปล่อยตัว ยอมให้โจ้ยื่นมือมาเกาะกุมมือของเธอไว้แบบหลวมๆ โดยไม่ได้แสดงท่าทีขัดขืนใดๆ ออกมา แม้จะแอบรู้สึกเขินๆ นิดๆ ข้างใน ขณะที่สายตาของชายหนุ่มก็ค่อยๆ เปลี่ยนจากทะลึ่งทะเล้น กลายมาเป็นสายตาแบบเดียวกับที่เธอเคยเห็น เมื่อตอนอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องคอนโด...

หนุ่มรุ่นน้องใช้ฝ่ามือถูไถไปมาบนหลังมือของสาวรุ่นพี่เบาๆ สายตาก็ยังจับจ้องสะกดค้างอยู่อย่างนั้น ทำท่าคล้ายกับว่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ยอมพูดมันออกมาเสียที บรรยากาศที่กำลังสุกงอมได้ที่ พาลให้เป้ชักจะเริ่มรู้สึกเขินๆ ขึ้นมา ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวๆ วูบวาบ เม็ดเหงื่อค่อยๆ ผุดไหลซึมขึ้นมาเกาะเป็นกระจุก เธอกลัวว่าโจ้จะแอบสังเกตเห็นอาการตื่นตระหนกที่ว่านี้ จึงตัดสินใจเอ่ยปากขอตัวเข้าห้องน้ำเสียก่อน

หลังจากหลบไปตั้งหลัก ล้างหน้าล้างตาได้ครู่ใหญ่ๆ สาวเป้ก็กลับมานั่งประจำที่ตรงข้ามเจ้ารุ่นน้องตัวแสบอีกครั้ง พอเห็นชายหนุ่มทำหน้ายิ้มกรุ้มกริ่มชอบใจแปลกๆ เธอจึงรีบโวยวายออกไป เพราะคิดว่าตัวเองกำลังถูกล้อเลียนอยู่

ทั้งสองคนนั่งคุยเล่นกันอีกพักใหญ่ๆ ก่อนที่หญิงสาวจะเริ่มรู้สึกหนักๆ มึนหัวขึ้นมาตะหงิดๆ แอบนึกตกใจที่มีอาการมึนเมาเร็วกว่าปกติ ทั้งๆ ที่จำได้ว่าตัวเองพึ่งจะดื่มไปแค่เพียงแก้วสองแก้วเท่านั้น ร่างกายของเธอค่อยๆ ร้อนวูบวาบขึ้นมา รู้สึกได้ว่าใจเต้นสั่นหวิวๆ แปลกๆ ลมหายใจติดขัดขาดช่วงไปหมด ริมฝีปากแห้งผากไร้ความชุ่นชื้น แต่บริเวณตรงกลางหว่างขาของเธอนั้นกลับรู้สึกเหนียวเหนอะหนะขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ

หญิงสาวทั้งเหนียว ทั้งคันตรงบริเวณหว่างขา จนเธออดไม่ได้ที่จะต้องแอบนั่งไขว้ บดเบียดหน้าขาถูกันไปมา เพื่อคลายความรู้สึกคันยุบยิบให้เบาบางลงไป แต่กลับกลายเป็นว่า ยิ่งเธอบดเบียดถูไถมากขึ้นเท่าไหร่ ก็เหมือนกับว่าร่องสาวของเธอนั้นจะยิ่งเฉอะแฉะ และยิ่งเกิดอาการเสี้ยนคันมากขึ้นเท่านั้น

ผิวกายปะทุ ร้อนระอุเหมือนกับมีไฟแผดเผาอยู่ภายในตัว หน้าผากมีเม็ดเหงื่อผุดซึมขึ้นมาชุ่มโชกยิ่งกว่าเมื่อครู่เสียอีก ในหัวของเป้ตอนนี้ก็ดูจะเบลอๆ โหวงๆ จนเริ่มจะคิดอะไรไม่ออก... นอกจากเรื่องทะลึ่งตึงตัง...

หญิงสาวนั่งกระสับกระส่ายอยู่อีกครู่ใหญ่ๆ พอหนุ่มโจ้เอ่ยปากชวนเธอให้ไปนั่งข้างๆ ร่างกายของเธอก็ตอบสนองคำชวนของชายหนุ่มไปแบบอัตโนมัติ ปล่อยให้โจ้ใช้มือโอบไหล่ดึงตัวเธอเข้ามานั่งแนบชิด จนผิวกายเบียดเสียดเข้าหากัน ซึ่งแม้แต่ตัวเธอเองก็ยังอดแปลกใจไม่ได้ มันเหมือนกับว่าตัวเองเป็นเพียงแค่ผู้สังเกตการณ์อยู่ภายใน แล้วมีใครอีกคนที่กำลังบังคับร่างกายของเธอให้ขยับเคลื่อนไหวไปเองตามใจชอบ

โจ้ที่กำลังได้ใจจึงยิ่งกอดจูบซุกไซร้เรือนร่างของหญิงสาวอย่างเมามัน แม้ว่าเป้จะพยายามใช้เรี่ยวแรงที่มีอยู่น้อยนิดคอยปัดป้อง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถต้านทานความหื่นกระหายของชายหนุ่มวัยกลัดมันคนนี้ได้เลย เขาจ้องสบตากับเธอด้วยสีหน้าจริงจังลึกซึ้ง ซึ่งเป้เองก็เผลอจ้องมองตอบกลับไป เหมือนรอดูว่าชายหนุ่มกำลังจะทำอะไรต่อไป

แล้วก่อนที่สมองของเธอจะตั้งตัวได้ทัน หนุ่มโจ้ก็ก้มหน้าลงมาประกบจูบ สอดลิ้นเข้ามาในปากเธอเรียบร้อยแล้ว...

รสจูบอันเร่าร้อน ที่เคยค้างคาจากเมื่อครั้งก่อน ค่อยๆ ไหลย้อนเข้ามาในปากของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว ปลายลิ้นซุกซนของชายหนุ่ม ทั้งรุกไล่ และเล้าโลม ราวกับจะฉุดกระชากลากลิ้นของเธอให้หลุดติดปากไปด้วย ความเสียวสยิวที่เกิดขึ้น ทำให้เป้เผลอตัวขยับลิ้นสู้กับโจ้โดยไม่รู้ตัว สิ่งเดียวที่เธอคิดได้ในตอนนั้น ก็เพียงแค่ว่าอยากจะหาทางตั้งหลักรับความรู้สึก ก่อนที่ตัวเองจะเผลอขาดใจตายไปเสียก่อน

แต่พอด้านบนเริ่มที่จะตั้งหลักได้ สองมือของหนุ่มรุ่นน้องก็ดันขยับเข้ามาจู่โจมหน้าอกของเธอเสียอีก พอเจอแบบนี้เข้า สาวเป้เลยตกใจ รีบใช้สองมือผลักอกโจ้ออก เพราะกลัวว่าใครในร้านจะมาเห็นเข้า หญิงสาวนั่งหอบหายใจเหนื่อยๆ รู้สึกเนื้อตัวเหนียวเหนอะหนะจากคราบเหงื่อที่ไหลโซมกาย เช่นเดียวกับบริเวณหลืบร่องกลางตัว ที่เปียกเยิ้มไปด้วยคราบน้ำหล่อลื่น ซึ่งผุดไหลออกมาไม่หยุดหย่อน..

ชายหนุ่มที่อ่านความคิดของสาวรุ่นพี่ได้ จึงเอ่ยปากชวนเธอออกไปนั่งคุยกันเงียบๆ แค่สองคนข้างนอก หญิงสาวฟังแล้วก็นิ่งไปครู่หนึ่ง แม้ว่าในหัวของเธอจะเข้าใจแจ่มแจ้งดีว่า คำพูดเชิญชวนของหนุ่มรุ่นน้องนั้นมันหมายความว่ายังไง แต่เธอกลับพยักหน้าตอบรับคำชวนนั้น โดยที่แทบจะไม่ทันได้นึกคิดไตร่ตรองเลยด้วยซ้ำ พอเช็คบิลกันเสร็จ ทั้งคู่ก็พากันลุกขึ้น โดยที่เป้ก็ยอมให้โจ้เป็นฝ่ายจูงมือเธอเดินออกไปข้างนอกแบบง่ายๆ

โจ้พาเธอเข้าไปหลบในห้องน้ำบริเวณลานจอดรถด้วยความเร่งรีบ พอกดล็อคประตูเสร็จแล้วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เปิดฉากเล้าโลมร่างกายของเป้ทันทีด้วยความหื่นกระหาย ขณะที่ทางฝั่งของหญิงสาวนั้น ในหัวเธอตอนนี้ก็ไม่มีเรื่องใดๆ มาคิดให้รกสมองอีกต่อไป อารมณ์หื่นที่ถูกปลุกเร้า บวกกับความมึนเมา ทำให้เธอยอมปล่อยตัวปล่อยใจ เสพรับรสสัมผัสที่หนุ่มรุ่นน้องมอบให้อย่างเต็มที่

ริมฝีปากประกบจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม มือซ้ายของโจ้ก็คอยคลึงเคล้าขยำเต้านมเธอไปด้วยอย่างเมามันสมใจ ส่วนอีกมือก็คอยเลื้อยไต่ซุกซนอยู่ที่บริเวณแก้มก้นกลมกลึงด้านหลัง ก่อนจะบีบขยำเข้าไปแบบเต็มกำมือ สติสตังของเป้ตอนนี้ลอยหายออกจากร่างไปชั่วคราว เธอแทบไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่ากระโปรงและกางเกงใน ถูกถลกรูดออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ กว่าที่เธอจะรู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่เห็นโจ้คุกเข่าลงไปเพ่งจ้องกลีบแคมอวบอูมของตัวเองนั่นแหละ

หญิงสาวพยายามร้องห้ามบอกให้ชายหนุ่มเลิกมอง แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ แทนที่ชายหนุ่มจะเลิกมอง กลับแกล้งยื่นหน้าเข้ามาจนชิดใกล้ ก่อนที่จะค่อยๆ ตวัดลิ้นปาดเข้ามาที่บริเวณกลีบแคมของเธอเสียงดังแผล่บบบบ.....บบบบ เป้ถึงกับหลุดปากร้องซี้ดซ้าดออกไปทันที เมื่อปลายลิ้นสากๆ สัมผัสเข้ากับกลีบเนื้อสาวด้านนอกของตัวเอง ชายหนุ่มทั้งดูดทั้งเลีย จนน้ำหล่อลื่นเธอเปียกเยิ้มไหลนองลงมาเลอะเต็มง่ามขา ก่อนที่จะค่อยๆ เพิ่มระดับการจู่โจมด้วยการสอดนิ้วชี้กับนิ้วกลางมุดทิ่มเข้ามาด้านใน พร้อมกับเขี่ยแยงเบ็ดให้เธอไปด้วย

พอโดนเข้าแบบนี้ สาวเป้ก็ถึงกับสติแตกไปเลย  แหกปากร้องครางออกมาเสียงดังอย่างลืมตัว จนต้องรีบใช้สองมืออุดปากตัวเองเอาไว้ เพื่อที่จะระงับข่มเสียงครวญครางซึ่งหลุดลอดออกมาอย่างต่อเนื่อง น้ำหูน้ำตาเธอไหลพรากๆ จากความเสียวที่กำลังทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นลีลาการใช้นิ้วและปากที่เป้ไม่เคยพบเจอในชีวิต มันทั้งคล่องแคล่ว หนักแน่น และช่ำชอง ซ้ำยังหื่นกระหาย ราวกับว่ากำลังฉุดดึงเธอให้ก้าวข้ามไปสู่ดินแดนพิศวง ที่เธอไม่เคยรับรู้มาก่อน...

ความคิดเรื่องถูกผิด ถูกโยนทิ้งกองไว้ที่พื้นไว้ตั้งนานแล้ว ที่หลงเหลืออยู่ตอนนี้ ก็มีเพียงแค่ความรู้สึกเสียวซ่านที่กำลังแล่นวูบวาบ ลูบไล้ลวนลามไปทั่วตัว...

ทั้งปลายลิ้น และปลายนิ้ว สลับสับเปลี่ยนกันเข้าจู่โจมร่องหีของเป้อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดเธอก็ทนฝืนกลั้นเอาไว้ไม่ไหว ต้องยอมปลดปล่อยความเสียวในตัว ให้พุ่งทะลักทลายออกมาผ่านทางหว่างขา ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเก แหกปากร้องกรี๊ดออกมาอย่างไม่อาจห้ามอกห้ามใจได้ หญิงสาวรู้สึกเหมือนร่างกายลอยเคว้งคว้างหมุนวนอยู่กลางอากาศ ร่องรักภายในของเธอเต้นขมิบตุบๆ เป็นจังหวะ ปล่อยน้ำรักพุ่งปรี๊ดกระฉอกออกมาเลอะปากเลอะจมูกของชายหนุ่มรุ่นน้องจนเปียกปอนไปทั่ว

พอโจ้จูงมือพาเป้ขึ้นสวรรค์ไปแล้ว ชายหนุ่มก็รีบเดินหน้าต่อทันที ด้วยการรูดซิปกางเกงตัวเองลง ปล่อยท่อนควยอวบอ้วนยาวใหญ่ ให้เด้งผึงดีดออกมาโชว์หราอยู่ตรงหน้าสาวรุ่นพี่ ความใหญ่ยักษ์อลังการของมันทำให้เธอเผลอลืมตัว จับจ้องดุ้นเนื้อกลางตัวอยู่อย่างนั้นราวกับโดนมนต์สะกด ใจก็นึกหวั่นๆ กลัวว่าชายหนุ่มจะอ้อนขอเอาเธอในห้องน้ำขึ้นมา เพราะรู้ดีว่าอารมณ์ของตัวเองในตอนนั้น มันพุ่งทะยานขึ้นสูงจนเธอเองชักจะไม่มั่นใจแล้วว่า ตัวเองจะกล้าปฏิเสธคำขอของชายหนุ่มได้รึเปล่า...

แต่โชคดีก็เหมือนว่าจะเข้าข้างเธอ เพราะขณะที่โจ้กำลังยืนจดๆ จ้องๆ อยู่นั้น โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของชายหนุ่มก็เกิดสั่นไหวขึ้นมายาวนานจนสังเกตได้ เป้เห็นหนุ่มโจ้ทำท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ต้องยอมจำใจยุติกิจกามไว้แต่เพียงเท่านี้ สาวเป้ได้แต่นึกขอบคุณบุคคลปริศนาที่โทรมาได้แบบถูกจังหวะ และช่วยให้เธอรอดพ้นจากการเสียเอกราชให้ชายหนุ่มไปได้แบบหวุดหวิด

แต่ถึงกระนั้นแล้ว เจ้าหนุ่มรุ่นน้องก็ยังแอบแสดงท่าทีหื่นกามทิ้งท้ายเอาไว้ได้อย่างเจ็บแสบ ด้วยการคว้าเอากางเกงในของเธอไปกำไว้แน่น พร้อมกับเอ่ยปากร้องขอเอามันกลับบ้านไปด้วย พอเจอแบบนี้สาวเป้ก็เลยเขินแตก รีบยื้อแย่งขอคืนจากชายหนุ่มเป็นพัลวัน แต่ถึงยังไงก็มิอาจสู้แรงหื่นของโจ้ได้ ก็เลยได้แต่จำใจปล่อยเลยตามเลย ให้ชายหนุ่มยัดกางเกงในตัวจิ๋วของเธอซุกเข้ากระเป๋ากางเกงไปอย่างสบายอารมณ์

เสร็จแล้วทั้งคู่ก็รีบแต่งเนื้อแต่งตัว จัดเสื้อผ้าอาภรณ์ให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะรีบพากันเดินกลับมาขึ้นรถด้วยความเร่งรีบ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน ด้วยอารมณ์ที่ยังคุกรุ่น...

ระหว่างทางที่ขับรถกลับบ้าน เป้ก็พยายามที่จะสงบใจ ข่มความตื่นเต้นจากเหตุการณ์สุดวาบหวิวที่พึ่งจะเกิดขึ้นกับตัวแบบสดๆ ร้อนๆ มันเป็นความตื่นเต้นและวาบหวิว แบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อครั้งที่เธอใช้เวลาร่ำลากับต้นที่ลานจอดรถสองต่อสอง

ผิดกันที่ครั้งนั้น... เธอเองที่เป็นฝ่ายใช้ปากดูดควยให้หนุ่มรุ่นน้องได้สุขสมน้ำแตกคาปาก ในขณะที่ครั้งนี้... หนุ่มโจ้อาสาเป็นฝ่ายใช้ปากบดขยี้ร่องหีของเธอจนตัวกระตุกขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดแทน ซึ่งแน่นอนว่า ความรู้สึกในฐานะผู้รับ นั้นย่อมฟินยิ่งกว่าการเป็นผู้ให้มากมายหลายเท่านัก...

=======================================

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น เป็นเหมือนการเปิดประตูความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาวให้เปิดกว้างยิ่งกว่าเดิม มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เป้มองเห็นความรู้สึกดีๆ ที่ตัวเองมีให้กับโจ้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และเริ่มที่จะแน่ใจแล้วว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ กำลังค่อยๆ หลุดหลงออกนอกเส้นทางจากคำว่ารุ่นพี่-รุ่นน้อง ไปสู่ปลายทางของคำว่า 'ชู้รัก' มากขึ้นเรื่อยๆ

แม้จะยังไม่ถึงขั้น 'ความรัก' แต่ก็ดูจะเกินเลยจากคำว่า 'ชอบพอ' ไปมากมายพอสมควร และอาจจะติดอยู่กึ่งกลางระหว่างคำว่า 'หลง' กับคำว่า 'ผูกพัน' ก็เป็นได้...
 
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มีแต่จะยิ่งถลำลึกลงไปทุกที โจ้เริ่มที่ชวนเป้พูดคุยเรื่องทะลึ่งตึงตังมากขึ้นเรื่อยๆ มีการแกล้งกระเซ้าเย้าแหย่พูดชมถึงเรือนร่างของหญิงสาวรุ่นพี่ ให้เธอได้เขินอายอยู่เป็นพัก ซ้ำยังเหิมเกริมถึงขั้นกล้าส่งภาพ ท่อนเอ็นแข็งอวบของตัวเองมาให้เธอดูผ่านไลน์อีกด้วย

รูปท่อนลำแข็งตุงกางเกงในของโจ้ ทำเอาลมหายใจของสาวเป้ถึงกับปั่นป่วนไม่เป็นจังหวะ บริเวณปลายหัวแดงมนนั้นแทบจะโผล่พ้นขอบกางเกงในออกมาอยู่รอมร่อ หญิงสาวเผลอกลืนน้ำลายเอื๊อกๆ ด้วยความตื่นเต้น พอชายหนุ่มออดอ้อนขอดูรูปเธอบ้าง สาวรุ่นพี่จึงใจอ่อน ยอมส่งรูปตัวเองที่อยู่ในชุดนอนแบบแอบโป๊นิดๆ กลับไปง่ายๆ

หลังจากนั้นจึงกลายเป็นสงครามแลกรูประหว่างหนุ่มสาวทั้งสองคน ต่างฝ่ายต่างส่งรูปวาบหวิวของตัวเองแลกกันคนละหมัด ก่อนที่หนุ่มโจ้จะปิดบัญชีด้วยการส่งภาพท่อนเนื้อเปลือยเปล่ามาให้เธอดูแบบชัดแจ๋วเต็มสองตา!

ขนาดว่าสาวเป้นั้นเคยเห็นของจริงมาแล้วถึงสองรอบ แต่พอเธอได้มาดูภาพนิ่งแบบชัดๆ เน้นๆ เต็มสองตาแบบนี้ มันก็ทำให้เธออดใจสั่นไม่ได้...

รูปถ่ายแบบโคลสอัพชัดแจ๋วเต็มหน้าจอ ทำให้ภาพท่อนเนื้ออวบอวนดูเบ่งบานมากกว่าปกติ  ตรงบริเวณปลายหัวเป็นสีแดงแจ๋บานโร่เหมือนดอกเห็ด ดูน่าเกลียดน่ากลัวพิลึก ขนาดความหนาของท่อนเนื้อดูแล้วอวบแน่นไม่แพ้กล้วยหอมผลโตๆ เลยซักนิด

สาวเป้จ้องมองภาพท่อนควยหัวบานอวบของชายหนุ่มรุ่นน้องอย่างสนใจใคร่รู้ เผลอกลืนน้ำลายเข้าไปอีกหนึ่งอึกใหญ่ รู้สึกเหนียวคอไปหมด หญิงสาวใจเต้นตุบๆ แอบรู้สึกสะใจนิดๆ ที่ตัวเองได้เป็นฝ่ายถ้ำมองสำรวจอาวุธประจำกายของชายหนุ่มอยู่ฝ่ายเดียว

พอโจ้พิมพ์อ้อนขอให้เธอส่งรูปตัวเองไปอีก เป้จึงออกอาการอิดออดเล็กน้อย แต่แล้วกลับเกิดความรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ ที่ได้รับรู้ว่าคู่สนทนากำลังปึ๋งปั๋งโด่เด่ เกิดอารมณ์ขึ้นมาเพราะว่าได้เห็นรูปวาบหวิวของเธอ สุดท้ายเธอจึงลองส่งรูปไปเพิ่ม เพื่อหวังกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่ายให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยที่ไม่ลืมกำชับไปว่าห้ามให้ใครได้เห็นเด็ดขาด ไม่นาน หนุ่มโจ้ก็กดโฟนเข้ามาหาเธอตรงๆ

แรกๆ ทั้งคู่ก็ยังแค่คุยๆ แซวๆ กันเล่นธรรมดา แต่ไปๆ มาๆ หนุ่มโจ้กลับเกิดอารมณ์หื่นแตก และเริ่มต้นใช้มือรูดช่วยตัวเองให้เธอฟังขึ้นมาซะอย่างนั้น! เล่นเอาสาวเป้ถึงกับหน้าชาไปเลย ได้ยินเสียงหอบหายใจหื่นๆ สลับกับเสียงครางซี้ดซ้าด บางจังหวะยังจ่อโทรศัพท์ไปไว้ใกล้ๆ หว่างขา เพื่อให้เธอได้ยินเสียงรูดท่อนเนื้อดังแจ๊ะๆ อย่างชัดเจนอีกด้วย หญิงสาวใจสั่นโครมครามเต้นไม่เป็นจังหวะ เนื้อตัวร้อนวูบวาบ แทบไม่เชื่อหูตัวเองว่ากำลังถูกชายหนุ่มรุ่นน้องโทรเล่นเซ็กส์โฟนกับเธออยู่

ก่อนที่ชายหนุ่มรุ่นน้องจะออกอาการครวญครางเสียงสั่น เมื่อความเสียวพุ่งทะยานขึ้นถึงจุดสุดยอด หนุ่มโจ้หอบหายใจออกมาแบบเหนื่อยๆ ก่อนจะพูดตัดบทแล้วชิงวางหูไปเลยดื้อๆ ทิ้งให้สาวเป้ที่กำลังงงๆ ได้แต่นั่งอึ้งอยู่อย่างนั้นคนเดียวในสภาพเนื้อตัวเปียกปอนชุ่มโชก ทั้งๆ ที่เธอพึ่งจะอาบน้ำเสร็จมาหมาดๆ

อารมณ์ที่ถูกโจ้สะกิดเขี่ยให้คุกรุ่น กระตุ้นให้เนื้อตัวของเธอร้อนวูบวาบ อย่างกับถูกพิษของไฟสวาทแผดเผาอยู่ภายใน จนเธอต้องตัดสินใจกลับเข้าไปอาบน้ำอีกครั้ง เพื่อหวังที่จะดับความร้อนรุ่มซึ่มกำลังลุกลามไปทั่วร่างกาย

เป้ใช้มือซ้ายกำฝักบัวคู่ใจเอาไว้มั่น ขณะที่มือขวาก็คอยลูบไล้ ชำระล้างคราบอารมณ์พิศวาสที่ยังตกค้างอยู่ตามตัว ในใจก็นึกละอายที่ต้องมาแอบช่วยตัวเองเพราะผู้ชายคนอื่นอยู่แบบนี้ ในขณะที่สามีของตัวเองก็กำลังนั่งเล่นกับลูกอยู่ที่ชั้นล่าง แต่สุดท้ายหญิงสาวก็ต้องยอมพ่ายแพ้ต่ออารมณ์ความอยากที่เข้าครอบงำเธออยู่ดี ได้แต่ปล่อยตัวปล่อยใจ ระบายความอัดอั้นที่มีอยู่ ให้หลุดร่อนออกไปตามแรงของสายน้ำที่กำลังพรั่งพรู...

=======================================


เมื่อกำแพงความเขินอายถูกพังทลายลงไปจนหมดแล้ว ทั้งเป้และโจ้ จึงมีโอกาสได้ใช้เวลาหาความสุขร่วมกันบ่อยขึ้น ได้ไปเที่ยว... ไปเดินเล่น... ไปดูหนัง... หรือทานข้าวด้วยกันสองต่อสอง ซึ่งชายหนุ่มก็มักจะมีโบนัสพิเศษ... แถมให้เธอเกือบทุกครั้งที่ได้เจอกัน...

ทั้งด้วยปลายนิ้ว... และริมฝีปาก...

ยิ่งหนุ่มบอยติดงานและไม่ค่อยมีเวลาให้เป้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งกลายเป็นการเปิดโอกาสให้โจ้ได้เข้ามายุ่มย่ามวุ่นวายกับพื้นที่ในหัวใจของเป้มากขึ้นเท่านั้น จนเธอเริ่มกลัวว่าตัวเองจะเผลอมีใจให้กับเจ้ารุ่นน้องตัวแสบไปโดยไม่รู้ตัว ได้แต่พยายามหลอกตัวเองว่าเธอนั้นไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเขาเป็นพิเศษ มันก็แค่ความสัมพันธ์นอกกายที่เธอใช้เพื่อระบายคลายเหงาบนเตียงเท่านั้น

เพราะถ้าเกิดเธอยอมรับว่าตัวเองเริ่มที่จะรู้สึกเกินเลยกับโจ้มากไปกว่านี้ล่ะก็... นั่นก็หมายความว่า เธอนั้นกำลังนอกใจหนุ่มบอยผู้เป็นสามีโดยสมบูรณ์ ซึ่งหัวเด็ดตีนขาด เธอก็ไม่มีทางทำใจยอมรับความจริงในข้อนี้ได้แน่ๆ...

หญิงสาวปล่อยตัวปล่อยใจให้ชายหนุ่มคลึงเคล้นเรือนร่างของตัวเองอยู่ร่วมๆ เดือน ก่อนที่เจ้าหนุ่มรุ่นน้องจะตัดสินใจเดินหน้าลุยขึ้นไปอีกหนึ่งสเต็ป ด้วยการเอ่ยปากชวนเธอให้ไปดูห้องคอนโดด้วยกันแบบสองต่อสองอีกครั้ง ซึ่งตั้งแต่ที่เกิดเหตุการณ์โดนลวนลามจูบปากไปคราวก่อน หญิงสาวเองก็ยังไม่มีโอกาสได้กลับไปเยี่ยมเยียนที่นั่นอีกเลย

มันเป็นอีกครั้งที่สาวเป้ต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก ว่าเธอจะเลือกหยุดความสัมพันธ์เอาไว้เพียงแค่ในระดับนี้ ซึ่งเธอเองยังพอจะควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้ หรือจะยอมเสี่ยงเดินหน้าต่อไป ทั้งที่รู้ดีว่าปลายทางนั้นมีอะไรที่รอคอยเธออยู่...

ซึ่งสุดท้ายแล้ว... เธอก็ตัดสินใจเลือกที่จะเดินหน้าต่อไปอีก ด้วยเพราะว่าร่างกายของเธอนั้นมันเริ่มเสพติดรสสัมผัสจากชายหนุ่มรุ่นน้อง จนยากที่จะถอนตัวออกไปได้ง่ายๆ ลีลาคลึงเคล้าปลุกเร้าที่ผ่านมา มันทำให้สาวเป้ถึงกับห้ามอกห้ามใจไม่ไหว เฝ้าแต่สงสัยใคร่รู้ว่าถ้าเกิดเธอยอมเดินหน้าปล่อยตัวปล่อยใจไปกับหนุ่มโจ้แบบสุดๆ นั้น มันจะทำให้เธอเสียวซ่านถึงใจขนาดไหนกันนะ...?

วินาทีที่เธอเดินตามหลังโจ้ขึ้นไปที่ห้องคอนโดห้องเดิมนั้น... มันแทบไม่ต่างอะไรจากห้วงสุดท้ายในชีวิตของนักโทษที่กำลังเดินหน้าเข้าสู่แดนประหาร ซึ่งต่างก็รู้ดีว่า ตัวตนเดิมๆ ที่ตัวเองคุ้นเคยนั้น มันกำลังจะค่อยๆ หลุดลอยออกไปจากร่างในอีกไม่ช้านี้...

=======================================


หนุ่มโจ้ใช้เวลาพูดคุยเรื่องปรับปรุงห้องคอนโดแค่ราวๆ 10 กว่านาที ก่อนที่จะเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นการรุกไล่ลวนลามหญิงสาวรุ่นพี่ อย่างที่ใจปรารถนามานานสองนาน ข้างฝ่ายสาวเป้เองที่แม้จะเตรียมใจไว้ระดับนึงแล้ว แต่พอเจอท่าทีของชายหนุ่มรุ่นน้อง ที่ทั้งดิบหยาบ ทั้งหื่นกระหาย มือไม้ทั้งสองข้างก็ช่างซุกซนจนเธอเองก็ชักเริ่มที่จะนึกหวั่นๆ ขึ้นมา จึงพยายามแสดงท่าทีปัดป้องออกไปบ้างเพื่อปรามๆ รุ่นน้องให้เบามือลงหน่อย

แต่ชายหนุ่มหาได้สนใจไม่ กลับใช้มือรวบตัวเธอเข้ามากอด พร้อมกับพรมจูบซุกไซร้ซอกคอและติ่งหูของเธอ จนหญิงสาวถึงกับตัวอ่อนปวกเปียก หมดแรงต้านทานใดๆ ได้อีกต่อไป... สติสตังหลุดลอยไปกับรสสัมผัส ที่เดี๋ยวก็โดนตรงนั้นที ตรงนี้ที จนเธอตั้งหลักรับความเสียวได้ไม่ทัน

หนุ่มโจ้ชิงจังหวะปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ของสาวรุ่นพี่ออกทันทีด้วยความรวดเร็ว เพียงแค่ครู่เดียว สาวเป้ก็ตกอยู่ในสภาพที่ร่างกายเกือบเปลือยเปล่า เสื้อเชิ้ตกับเสื้อกล้ามด้านบนถูกถลกหลุดลุ่ยจะหลุดมิหลุดแหล่ มีเพียงกางเกงในผ้ายืดสีดำตัวจิ๋วที่ยังปกปิดโหนกเนื้อสาวของเธออยู่ โดยมีหนุ่มโจ้ก้มหน้าก้มตาเลียหีให้เธอผ่านเนื้อผ้ากางเกงในจนมันเปียกเยิ้มไปหมด ก่อนที่ชายหนุ่มจะออกแรงรูดมันออกไปจากข้อเท้าของเธอในเวลาต่อมา เรือนร่างขาวโพลนของหญิงสาว จึงปรากฏออกมาต่อหน้าชายหนุ่มรุ่นน้อง ผู้ซึ่งกำลังหิวโหยรสชาติเนื้อสาวเป็นที่สุด

หญิงสาวเผลอร้องอุทานออกมา เมื่อเห็นว่าเจ้าหนุ่มรุ่นน้องกำลังแหกแหวกแคมหีของเธอเพื่อเพ่งมองให้เห็นชัดๆ แบบเต็มสองตา ก่อนที่จะออกแรงตวัดลิ้นปาดเลียเข้าไปตรงกลางร่องเสียวของเธอแบบเต็มๆ พร้อมกับใช้นิ้วโป้งบดบี้คลึงเม็ดแตดบวมเป่งของเธอไปด้วย ใช้นิ้วกลางเรียวยาว สอดแยงเข้าไปสำรวจโพรงรักภายในร่างกายของเธอ  สาวรุ่นพี่เจอเข้าไปแบบนี้ ก็ได้แต่แหกปากร้องครวญครางออกมาแบบสุดเสียง

มันเป็นลีลาจู่โจมที่เธอติดอกติดใจ หลงใหลจนหัวปักหัวปำ ทั้งปลายนิ้วและปลายลิ้นต่างสอดประสาน เคลื่อนไหวสลับเข้าหากันอย่างต่อเนื่อง จนเธอเสียวแล้วเสียวอีก อารมณ์หื่นพุ่งทะยานจนน้ำหล่อลื่นพรั่งพรูออกมาเปียกเยิ้มใบหน้าของชายหนุ่มเป็นคราบมันวาว

หนุ่มโจ้ลงลิ้นตกเบ็ดให้สาวรุ่นพี่อีกครู่หนึ่ง ก่อนที่จะค่อยๆ ถอนตัวออก ใช้มือรูดกางเกงตัวเอง ทั้งด้านในและด้านนอกออกไปจากหน้าขา แอ่นลำควยแข็งปั๋งเข้าไปจ่อไว้ที่ใบหน้าของหญิงสาวอย่างท้าทาย พร้อมกับเอ่ยปากออดอ้อนขอให้เธอใช้ปากให้

สาวเป้จับจ้องไปที่อาวุธประจำกายอันใหญ่โตมโหฬารของโจ้แล้วก็เกิดนึกกลัวขึ้นมาในใจ ขนาดของมันนั้นทั้งใหญ่และยาวกว่าแก่นกายของสามีเธออยู่ไม่น้อย สีของท่อนลำออกแดงๆ คล้ำๆ  อมน้ำตาล ในขณะที่ขอบเงี่ยงหัวบานใหญ่นั้นเล่า กลับมีสีสันค่อนไปทางสีแดงอมชมพู ดูสดใสผิดกันแบบคนละเรื่อง ที่บริเวณปลายร่องมีน้ำหล่อลื่นใสๆ ผุดเยิ้มออกมาหยดเป็นสาย

ความอลังการของมันทำให้หญิงสาวรีบส่ายหัวปฏิเสธอย่างหนักแน่น แม้ชายหนุ่มจะพยายามออดอ้อนอย่างไรก็ไม่เป็นผล จนสุดท้ายก็ต้องยอมถอดใจ และเปลี่ยนมาใช้การเล้าโลมอื่นๆ เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของเธอต่อ ก้มหน้าลงไปประกบดูดปากแลกลิ้นกันอย่างเร่าร้อนและรุนแรง ซึ่งสาวเป้เองที่กำลังเคลิบเคลิ้ม ก็เผลอตวัดลิ้นสู้กลับไปอย่างลืมตัว สองมือของชายหนุ่มก็ปะป่าย สำรวจเรือนร่างของเธอไปด้วยอย่างซุกซน

ทั้งคู่ดูดปากกันอยู่อีกพักใหญ่ๆ ชายหนุ่มก็ใช้มือดันตัวสาวรุ่นพี่ให้ลงไปนอนหงายบนเบาะโซฟา หยิบถุงยางมาสวมใส่จนเรียบร้อย ก่อนจะกดจ่อท่อนควยเข้าไปที่ปากร่องอันเปียกเยิ้มของเธอ สายตาของทั้งคู่สบตากันทันทีโดยไม่ได้นัดหมาย แววตาของชายหนุ่มดูยั่วเย้าและซุกซน คล้ายกับเด็กน้อยที่กำลังรอคำอนุญาตจากผู้ใหญ่ ให้ซุกซนได้เต็มที่

สาวเป้นึกทบทวนความรู้สึกตัวเองอีกทีเป็นครั้งสุดท้าย หวนนึกย้อนไปถึงภาพความทรงจำอันแสนอบอุ่นที่เธอมีร่วมกับบอย นึกถึงหน้าลูกชายตัวน้อย พอนึกถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ความรู้สึกผิดก็เริ่มย้อนคืนกลับมาอีก ซึ่งหนุ่มโจ้ที่รอคอยคำตอบอยู่ก็เหมือนจะอ่านใจเธอออก จึงค่อยๆ ขยับตัวกดถูท่อนควยให้ครูดไปโดนติ่งเสียวด้านนอกของเธอเบาๆ อย่างจงใจ

รสสัมผัสหวิวๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณหว่างขา ทำให้ภาพความทรงจำบนเตียงที่มีกับบอยซ้อนทับขึ้นมาแทนที่ ความรู้สึกค้างคาที่เธอเคยฝืนเก็บกดมันไว้เป็นเดือนๆ พอมาโดนหนุ่มโจ้นัวเนียมากๆ เข้า ก็ทำให้สาวเป้ต้องยอมพ่ายแพ้แก่อารมณ์ความอยาก ตัดสินใจปล่อยเลยตามเลย โดยไม่คิดจะขัดขืนอีกต่อไป ไหนๆ เธอก็ยอมให้เขาล่วงเกินมาจนถึงขนาดนี้แล้ว ถ้ายอมมากกว่านี้อีกซักหน่อยจะเป็นไรกัน

หญิงสาวค่อยๆ หลับตาลง พยักหน้าเบาๆ เป็นสัญญาณ บ่งบอกว่าเธอพร้อมแล้วที่จะรับชายหนุ่มเข้ามาเป็นผัวคนที่สอง โจ้เห็นแบบนั้นแล้วจึงค่อยๆ ออกแรงกดท่อนควยมุดเข้าไปในโพรงหีของเธอช้าๆ ความคับแน่นด้านใน ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเสียวแปล๊บขึ้นมาที่หัวควย

“โอ๊ยยย...! โจ้ เบาๆ ก่อน พี่เจ็บ!” หญิงสาวหลุดปากร้องกรี๊ดออกมา เมื่อโดนท่อนควยกดสอดเข้าไปได้ครึ่งลำ รู้สึกเหมือนหีตัวเองกำลังฉีกขาดเป็นสองท่อน ทั้งจุกทั้งแน่น จนไม่คิดว่าจะรับมันเข้ามาได้อีก แต่เจ้าท่อนเนื้ออวบอ้วนกลับมุดหายเข้าไปได้เรื่อยๆ จวบจนสุดโคน

“อูยยย ทนนิดนึงนะครับพี่ จะสุดแล้ว” ชายหนุ่มพยายามพูดปลอบใจ ขณะที่กำลังกดสอดท่อนลำมุดลึกเข้าไปอีก
“อื๊ออออ....! โอ๊ยยยยย... โอ๊ยๆๆ มันแน่น....” สาวเป้ดิ้นเร่าๆ ไปมาอย่างร้อนรน ด้วยความที่ถูกดันติดโซฟา ทำให้เธอไม่สามารถขยับหนีไปไหนได้อีก ความรู้สึกของเธอในตอนนี้ราวกับกำลังโดนท่อนเหล็กอุ่นๆ ขนาดใหญ่ เสียบทิ่มเข้ามาในช่องท้อง มันแหกคว้านร่างของเธอรุนแรงซะยิ่งกว่าเมื่อครั้งที่เคยเสียความบริสุทธิ์ให้กับหนุ่มบอยเป็นครั้งแรกเสียอีก

ชายหนุ่มกดดุ้นเนื้อมุดสอดเข้าไปจนสุดลำ แล้วจึงเริ่มออกแรงเด้าควยมุดเข้าออกร่องหีของหญิงสาว จนเธอผวาใช้มือจิกแผ่นหลังของเขาเอาไว้แน่น เป้รู้สึกถึงอาการตึงเปรี๊ยะที่บริเวณง่ามขา เวลาที่ท่อนลำมุดเข้าเสียดสีมาแต่ละครั้ง เล่นเอาหญิงสาวถึงกับเสียวแปล๊บๆ เหมือนว่าหีเธอกำลังจะฉีก ความใหญ่โตของมันพุ่งเข้ากระทุ้งอย่างหนักหน่วงกระทบกับผนังมดลูกด้านใน ทำเอาสาวเป้ถึงกับจุกแน่นไปหมด

พอเริ่มจะตั้งหลักได้ หนุ่มโจ้ก็ยิ่งออกแรงกดกระแทกควยหนักขึ้นไปอีก เสียงของท่อนเนื้อที่ตอกทิ่มลงไปในโพรง ตีกระทบหน้าขาเสียงดังเป็นจังหวะ  ปั่บ....... ปั่บ..... ปั่บ........ปั่บ... ปั่บ...ปั่บ...ปั่บ..ปั่บ..ปั่บ สลับกับเสียงร้องโหยหวนของสาวรุ่นพี่ที่กำลังใกล้จะสติแตกเต็มที

ร่างของทั้งคู่ชุ่มโชกไปด้วยหยาดเหงื่อที่ผุดซึมออกมา สาวเป้รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังล่องลอยออกไปในที่ไกลแสนไกล ลืมความรู้สึกผิดชอบถูกผิด ได้แต่เสพรับความสุขเสียวที่เกิดขึ้นอย่างเป็นจังหวะ แรงกระทุ้งกระแทกที่ทิ่มแทงเข้ามา ทำให้ภาพของหนุ่มบอยในหัวเธอ ค่อยๆ จืดจางหายไปเรื่อยๆ

ก่อนที่หนุ่มโจ้จะจับเธอเปลี่ยนท่า ดึงตัวเธอให้ปีนขึ้นมาคร่อมอมท่อนเอ็นเข้าไปจากด้านบน หญิงสาวแอบรู้สึกกระดากอายอยู่ไม่น้อย ที่ต้องมาเป็นฝ่ายร่อนสะโพกขย่มควยให้กับชายหนุ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่เย็ดกัน แต่ถึงกระนั้นแล้ว ความเงี่ยนก็ไม่เคยปราณีใคร และสาวเป้เองก็ไม่อาจต้านทานความเสียวที่ได้รับจากท่านี้ได้

เป้ทั้งร่อน ทั้งขย่ม ใช้หีอ้าอมควยชายหนุ่มเข้าไปจนมิดด้าม แหกปากร้องครวญครางออกมาดังๆ ด้วยความสะใจ ท่านี้ทำให้เธอเป็นฝ่ายคุมจังหวะ พาอารมณ์ของทั้งคู่ให้พุ่งทะยานไปยังทิศทางที่เธอปรารถนา ยิ่งเมื่อเห็นชายหนุ่มรุ่นน้องสูดปากครางซี้ดๆ ออกมาด้วยความเสียวซ่าน ก็ยิ่งทำให้สาวเป้อารมณ์กระเจิดกระเจิง เพลิดเพลินมากขึ้นไปอีก

หญิงสาวร่อนขย่มอยู่อย่างนี้ราวๆ 10นาที ก็พาตัวเองล่องลอยขึ้นไปจนใกล้ที่จะถึงฝั่งฝัน ใบหน้าเรียบๆ ของเธอเริ่มบิดเบี้ยวเหยเก คิ้วขมวดยับยู่ยี่ หลับตาเม้มกัดริมฝีปากตัวเอง ในขณะที่หนุ่มโจ้ก็ช่วยกระตุ้นดูดนมให้เธอไปด้วย ในหัวของเธอตอนนี้ลืมเลือนเรื่องอื่นไปหมดสิ้นแล้ว คิดเพียงแค่อยากเร่งร่อนขย่มหี ปลดปล่อยความรู้สึกเสียวซ่านภายในออกมาให้หมดสิ้น

“ฮือออ.... ฮืออ... โอ๊ยยย..... พี่.... จะไม่ไหวแล้วนะ....” สาวเป้ร้องครางส่งสัญญาณให้ชายหนุ่มได้ยิน หนุ่มโจ้จึงใช้สองมือจับยึดสะโพกของเธอแนบเข้าหาตัว พร้อมกับเร่งกระเด้าควยเสยหีเธออย่างรุนแรง จนร่างของหญิงสาวกระเด้งกระดอนไปมาตามแรงกระแทก เธอแหกปากร้องกรี๊ดๆ ออกมาสุดเสียง แข่งกับเสียงของท่อนเนื้อที่อัดกระทบกันดัง ปั่บบบ....... ปั่บบบ.... ปั่บบบบ.....!! ก่อนที่ร่างของเธอจะสั่นสะท้าน กระตุกเฮือกๆ เมื่อถึงจุดสุดยอด

“โอ๊ยยยย.... ไม่ไหวแล้ว....วววววว.... ” หญิงสาวหวีดร้องออกมาเสียงดังลั่น ผวาตัวกอดชายหนุ่มเอาไว้แน่น กระดกบั้นเอวบดอัดท่อนลำยิกๆๆ จนมันแทบจะหักคารู ภาพในหัวเธอตอนนี้กลายเป็นสีขาวโพลนไปหมดแล้ว สองมือตะกุยตะกายจิกข่วนแผ่นหลังของชายหนุ่มอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ร่องหลืบด้านในออกอาการบีบรัดตุบๆ รีดน้ำเงี่ยนสาวให้พุ่งทะลักทลายออกมาจนเลอะนองไปทั่วหน้าขาของทั้งคู่ ก่อนที่เป้จะทิ้งตัวลงไปนอนหอบหายใจหนักๆ คาอกของโจ้ด้วยความเหนื่อยอ่อน

มันเป็นการพุ่งเข้าเส้นชัยรวดเดียวอย่างราบรื่น โดยที่ไม่มีอาการสะดุดให้หงุดหงิดหัวใจ ซึ่งก็ห่างหายไปนานเสียจนเป้เองแทบจะลืมเลือนความรู้สึกเหล่านี้ไปแล้ว...  ใจนึงก็รู้สึกอับอายที่ตัวเองแอบมาสุขสมกับรสชาติของชายชู้ แต่อีกใจนึงก็รู้สึกหลงใหลไปกับลีลาอันสุดแสนจะเร่าร้อน ที่หนุ่มโจ้ประเคนให้เธอจนน้ำแตกน้ำแตนถึงสวรรค์กันไป

หญิงสาวรู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุนติ้วๆ ภาพที่เห็นตรงหน้าตอนนี้ดูสั่นไหว ราวกับว่าเธอกำลังถูกเหวี่ยงไปมาอยู่ในห้อง ลีลาการกระเด้าเย็ดของหนุ่มรุ่นน้อง เล่นงานจนเธอถึงกับตาลายไปเลย

โจ้ปล่อยให้เป้ได้พักหายใจอยู่อีกครู่ใหญ่ๆ แล้วจึงค่อยๆ ประคองร่างของหญิงสาวให้นอนหงายลงไปบนโซฟา ก่อนจะกดสอดท่อนควยมุดกลับเข้าไปในโพรงหีเป้อีกรอบ พร้อมกับออกแรงกระเด้าควยเย็ดหีเธอหนักๆ เรียกเสียงครางกระเส่าจากปากของหญิงสาวรุ่นพี่ได้อีกครั้งหนึ่ง

ชายหนุ่มกระทุ้งเน้นๆ ด้วยความรุนแรงอยู่ประมาณ 5 นาที ก่อนที่จะถอนควยออกมาจากหีเธอดังผั้วะ จังหวะที่หัวเงี่ยงครูดกับปากร่อง เล่นเอาสาวเป้เสียวจนเผลอแอ่นสะโพกตัวลอย โจ้รูดถุงยางที่สวมอยู่ทิ้งไป ใช้มือสาวรูดท่อนลำของตัวเองได้อีกไม่กี่ที ก็ปล่อยน้ำเชื้อพุ่งกระฉูดเลอะเต็มหน้าท้องขาวๆ ของสาวเป้ แล้วล้มตัวลงไปนอนกอดเธออย่างหมดแรงอีกคน

ทั้งคู่นอนพักเอาแรงจนเริ่มจะหายเหนื่อย จึงค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้น สาวเป้นั้นถึงกับขาสั่นแทบเดินไม่ไหว จนต้องปล่อยให้ชายหนุ่มเป็นฝ่ายช่วยพยุงพาเธอประคองเดิน พากันจูงมือเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวในห้องน้ำด้วยกัน

“ดีมั้ยครับ?” โจ้เอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทะเล้น สาวเป้ฟังแล้วก็อมยิ้มเขินๆ พร้อมกับพยักหน้าเบาๆ เป็นคำตอบ
“แล้วพี่เสียใจรึเปล่า?” ชายหนุ่มเปลี่ยนมาถามคำถามที่ทำให้เธอต้องสะอึก
“เรื่องนี้น่ะเหรอ?” เป้ถามกลับพลางจ้องสบตาเขาไปด้วย
“อื้อ... เรื่องที่มีอะไรกับผมน่ะ” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับใช้มือลูบผมเธอเบาๆ

หญิงสาวนิ่งคิดทบทวนความรู้สึกตัวเองอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง มันเป็นความจริงที่ชายหนุ่มสามารถมอบความสุขทางกายให้เธอได้อย่างเต็มอิ่ม เป็นความสุขในเรื่องเพศรสที่เคยขาดหายไป เนื่องจากบอยไม่สามารถเติมเต็มให้เธอได้ และความสุขล้นที่เกิดขึ้นนั้น มันก็ท่วมท้นเสียจนกลบเอาความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นในช่วงแรกๆ ของการร่วมรัก ให้จมหายไปกับเกลียวคลื่นแห่งความเสียวซ่าน

และเมื่อพายุอารมณ์ค่อยๆ ลดความรุนแรง จนสลายตัวลง หญิงสาวจึงเริ่มที่จะรู้สึกรังเกียจตัวเองขึ้นมา...

“ถ้าพี่ตอบว่าไม่ได้เสียใจ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกผิด โจ้จะมองว่าพี่เป็นผู้หญิงไม่ดีป่ะ?” เป้ตอบออกไปตรงข้ามกับความรู้สึกของตัวเอง เนื่องจากเธอไม่ต้องการที่จะแสดงความอ่อนแอออกมาให้ชายหนุ่มรุ่นน้องได้เห็น เพราะกลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถควบคุมความสัมพันธ์ครั้งนี้ให้เป็นไปตามที่เธอต้องการได้

“ไม่หรอกครับ...” ชายหนุ่มปลอบเธอด้วยสีหน้าอ่อนโยนพร้อมกับพูดต่อ
“ผมแค่กลัวว่าตัวเองจะทำให้พี่สองคนมีปัญหากัน”

คำพูดของโจ้ทำให้เป้นึกย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างเธอกับชายหนุ่มคนอื่นๆ ทั้งกับที่เธอเคยมีให้ต้น และล่าสุดสดๆ ร้อนๆ บนโซฟากับหนุ่มโจ้ เมื่อมองย้อนกลับไปเรื่อยๆ ก็พบว่ามันมีที่มาจากความต้องการของบอยผู้เป็นสามีนั่นเอง แต่ถึงกระนั้นแล้วเธอก็ยังอดรู้สึกแย่กับตัวเองไม่ได้...

“พี่ยังรักพี่บอยอยู่เหมือนเดิม ยังอยากใช้ชีวิตคู่ร่วมกันกับพี่เค้าในฐานะของพ่อแม่ลูกเหมือนที่ผ่านมา แต่กับโจ้... เรื่องของพี่กับโจ้มันเป็นเรื่องความสัมพันธ์บนเตียง มันเป็นความสุขทางกายบางอย่างที่พี่บอยเค้าทำให้พี่ไม่ได้มาเป็นปีแล้ว....” หญิงสาวพยายามพูดอธิบายความรู้สึกลึกๆ ของตัวเองออกมาให้ชายหนุ่มฟัง เพื่อหวังว่ามันจะช่วยบรรเทาความรู้สึกผิดบาปที่เกิดขึ้นในใจเธอให้เบาบางลงไปได้บ้าง...

ซึ่งพอโจ้เอ่ยถามถึงความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาแล้ว หญิงสาวก็รีบยืนกรานหนักแน่นทันทีว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้น คงจะไม่อาจเกินเลยไปจากคำว่าคู่นอนได้อีก... ทั้งที่เป้ก็รู้ดีว่าใจจริงของเธอนั้น มันเริ่มที่จะโอนเอียงไปหาชายหนุ่มรุ่นน้องมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นความผูกพันลึกซึ้งขึ้นมา แต่เธอก็ยังคงทำใจรับความจริงข้อนี้ไม่ได้อยู่ดี และยิ่งไม่อยากให้ชายหนุ่มล่วงรู้ถึงความรู้สึกของตัวเองเช่นเดียวกัน

เพราะเธอกลัว... กลัวว่าหากตัวเองเผยความรู้สึกดีๆ ออกมา แล้ววันนึงชายหนุ่มรุ่นน้องจะเหยียบย่ำมันทิ้ง ก่อนจะเดินหายออกไปจากชีวิตของเธอตามประสาผู้ชายเจ้าชู้คนนึง...

หนุ่มโจ้ฟังแล้วก็เข้าใจ ไม่ได้คาดคั้นเอาความอะไรกับเธออีก ต่างช่วยกันอาบน้ำอาบท่า ก่อนจะแต่งตัวแล้วพากันลงไปหาอะไรทานข้างล่างด้วยกันสองคน พออิ่มแล้วทั้งคู่ก็พากันขึ้นมานั่งซบไหล่นอนดูทีวีข้างๆ กันบนห้อง ก่อนที่ชายหนุ่มจะเกิดอารมณ์ และเอ่ยปากขอลงลิ้นชิมรสสาวของเธออีกรอบ

คราวนี้หญิงสาวเริ่มรู้สึกอายน้อยลงกว่าครั้งแรก และกล้าที่จะนอนแหกแข้งแหกขาให้หนุ่มรุ่นน้องใช้ลิ้นชอนไชคว้านร่องหีของตัวเองได้อย่างถนัดถนี่ จนสาวเป้ตัวเกร็ง น้ำแตกขึ้นสวรรค์ไปเป็นครั้งที่สองของวัน ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เธอเคยเสร็จเบิ้ล ไล่ๆ ติดๆ กันแบบนี้ก็ตั้งแต่เมื่อคราวที่โดนหนุ่มบอยเปิดซิงนั่นแหละ

ก่อนที่ชายหนุ่มจะยอมปล่อยให้หญิงสาวได้กลับออกไปจากห้อง...

ความรู้สึกสับสนพลุ่งพล่านอยู่ในหัวของเป้มาตลอดทาง หญิงสาวแอบรู้สึกประหม่าและตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย เมื่อต้องเข้าหน้าพูดคุยทักทายกับสามี หลังจากที่พึ่งจะแอบหนีไปนอกกายเขามาหมาดๆ แต่เธอก็ยังพยายามเก็บอาการอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งชายหนุ่มเองก็ไม่ได้ซักไซร้อะไรมากมาย สาวเป้แวะเข้าไปกอดไปคุยเล่นกับลูกชายครู่นึง ก่อนที่หญิงสาวจะขอตัวขึ้นไปอาบน้ำนอนเร็วกว่าปกติ โดยอ้างว่ารู้สึกเวียนหัวไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่

สายน้ำจากฝักบัวที่สาดกระทบใบหน้า พาให้หยาดน้ำใสๆ ในเบ้าตาของเธอ ค่อยๆ ไหลรินออกมาไม่ขาด....




ติดใจ

 

 ดิฉันอายุ 32 ปีค่ะ ทำงานด้านการเงินในหน่วยงานพัฒนาชนบทของจังหวัดเล็กๆทางภาคเหนือ แต่งงานแล้ว มีลูกสาวอายุ 4 ขวบ 1 คน กำลังน่ารักเชียวสามีดิฉันเป็นครู เขาสอนหนังสืออยู่ต่างอำเภอ ซึ่งไม่ไกลจากตัวจังหวัดนัก ฐานะการเงินก็พอกินพอใช้ไม่ลำบากนัก โชคดีที่มีบ้านของแม่ให้อยู่ฟรี แถมรับเลี้ยงหลานให้ด้วย ชีวิตก็ดำเนินมาเรื่อยๆค่ะ มาระยะหลังนี่เริ่มมีปัญหาจากสามีค่ะ เขาเล่นพนันบอลแล้วเสียตลอด ต้องมาเอาเงินจากดิฉัน แถมยังติดหนี้เจ้ามือจนโดนขู่ ดิฉันต้องกู้เงินญาติเอาไปจ่ายให้ เขาก็ไม่เข็ดยังเล่นต่อโดยหมุนเงินจากโรงเรียนไปเล่นจนเกิดปัญหา เลยโดนบัตรสนเท่ห์ร้องเรียนเขาโดนตั้งกรรมการสอบ ต้องหาเงินใช้คืน ภาระต้องตกอยู่กับดิฉันที่ต้องหากู้เงินมาคืน ตัวเขาก็เอาแต่กินเหล้าดับทุกข์ ดิฉันต้องหวานอมขมกลืนเจียดเงินเดือนให้เขาส่วนหนึ่งควบคู่กับผ่อนเงินที่กู้มา ที่ทำงานดิฉันก็รู้กันหมด แต่ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร? แล้วก็เหมือนชะตาเล่นตลก ดิฉันได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่ดิฉันคาดไม่ถึง เขาคนนั้นเป็นเพื่อนกับหัวหน้าของดิฉัน

เขาอายุราว 40 เศษๆ เป็นวิศวกรที่ขึ้นมาคุมงานจากกรุงเทพฯ บริษัทของเขาประมูลงานในหน่วยงานของดิฉันได้และส่งเขามาเป็น Project Manager และต้องมาติดต่องานกับหน่วยงานของดิฉันบ่อยๆ ยิ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับหัวหน้าด้วย ก็เลยเข้านอกออกในได้สบาย หัวหน้าเรียกเขาว่า”ไอ้ชัย” ส่วนดิฉันเรียกเขาว่า”คุณชัย”ค่ะ

 คุณชัยกินเหล้ากับหัวหน้าบ่อยๆ หลังเลิกงาน บางทีดิฉันกับพี่ๆในแผนกก็ไปร่วมโต๊ะด้วย เขาเป็นคนน่ารักนิสัยดี มีครอบครัวอยู่กรุงเทพฯ แต่เวลามาทำงานที่นี่ก็เหมือนคนโสดหัวหน้าคงพูดถึงเรื่องราวของดิฉันให้เขาฟังบ้าง พักหลังเขาก็มักจะให้เงินดิฉันบ้างเล็กๆน้อยๆ เวลาเข้ามารับเงินตามงวดงาน บอกว่าเป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆที่ช่วยอำนวยความสะดวก ทั้งที่จริงแล้วดิฉันก็ทำตามหน้าที่ แถมยังเป็นเพื่อนของหัวหน้าอีก ตอนหลังดิฉันก็เลยชวนเขาไปทานข้าวบ้างเป็นการตอบแทน ก็ยิ่งได้คุยสนิทกันมากขึ้นจนกล้าเล่าปัญหาส่วนตัวของดิฉันให้เขาฟัง เขาก็ช่วยเหลือดิฉันมากขึ้น จนดิฉันลดหนี้ได้บางส่วนและสบายใจขึ้นแล้วเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นในวันหนึ่งตอนสิ้นเดือน ซึ่งทั้งค่างวดงานถูกเบิกจ่ายและเงินเดือนออก คุณชัยและหัวหน้าพาดิฉันและพี่ๆในแผนกไปเลี้ยงวันนั้นพวกเราสนุกมาก คุณชัยยกลังไวน์จากกรุงเทพฯมาเปิด ดิฉันดื่มไปพอควร ไวน์อร่อยมากไม่ถึงกับเมาแต่ก็มึนๆ พวกเราทานจนเกือบสี่ทุ่ม หัวหน้าก็ขอตัวกลับก่อนเพราะต้องเข้ากรุงเทพฯแต่เช้า พี่ๆก็ทยอยกันกลับ เหลือดิฉันกับคุณชัยที่อาสาพาดิฉันไปส่งระหว่างทางเขาถามดิฉันว่าอยากฟังเพลงต่อไหม? ความมึนผนวกกับอารมณ์สนุกก็เลยตอบตกลง ดิฉันโทรศัพท์บอกที่บ้านว่าติดงานเลี้ยงกลับดึก เขาเลยพาดิฉันไปนั่งฟังเพลงที่คอฟฟี่ช็อปชั้นล่างของโรงแรมที่เขาพักเรานั่งติดกันบนโซฟาในมุมหนึ่งของร้าน เพลงสบายๆ คุณชัยสั่งไวน์อีกยี่ห้อหนึ่งมาให้ดิฉันลอง  อร่อยอีกเหมือนกัน ก็เลยคุยและถูกเนื้อต้องตัวกันอย่างเป็นกันเองความจริงต้องสารภาพว่าดิฉันแอบชอบเขาอยู่ลึกๆ ทั้งยังรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณที่เขาให้หยิบยืมเงินมาใช้หนี้ และถูกอัธยาศัย ดิฉันก็เลยจงใจนั่งเบียดติดกับเขา และปล่อยให้เขาจับมือถือแขน..โอบเอว ปล่อยอารมณ์เต็มที่ดนตรีเปลี่ยนมาเป็นเพลงจังหวะสโลว์ ไฟหรี่จนสลัว เขาชวนดิฉันออกไปเต้นในจังหวะช้าๆ โอบดิฉันเคลื่อนไปอย่างแผ่วเบาตามจังหวะของดนตรี ร่างของดิฉันแนบสนิทกับเขา รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ปล่อยให้เขาโอบร่างดิฉันกระชับแน่น ลมหายใจอุ่นๆรดต้นคอดิฉัน หน้าอกและหน้าท้องดิฉันเบียดกับเขา รู้สึกได้ถึงลำความแข็งที่เสียดสีอย่างแผ่วเบาแถวหน้าขา ดิฉันขนลุกซู่เมื่อเขาเลื่อนมือมาโอบสะโพกแล้วกดให้เนินสวาทของดิฉันแนบเข้าหาลำความแข็งหว่างหน้าขาของเขาดิฉันไม่ได้ขัดขืน ความรู้สึกตอนนั้นเพลิดเพลินไปกับการกระทำของเขา ทำให้เขาได้ใจหอมแก้มดิฉันอย่างแผ่วเบา แล้วลูบมือมาที่แก้มก้นกดแนบหาตัวเขาแน่น โดยที่ไม่รู้ตัวดิฉันก็ส่ายเอวช้าๆบดเนินสวาทของดิฉันเข้าเสียดสีกับท่อนลำแกร่งอย่างต่อเนื่อง อารมณ์ดิฉันตอนนั้นกระเจิดกระเจิง กอดเบียดเสียดสีกับเขาอยู่จนเพลงจบ พอกลับมาที่โต๊ะเขาสั่งเช็คบิล โอบกอดดิฉันพาไปที่ลิฟท์ ดิฉันปล่อยให้เขาพาไปโดยไม่ขัดขืน เขากดลิฟท์ขึ้นไปที่ห้องพัก พร้อมกับประคองกอดดิฉันตลอดเวลา ดิฉันหลับตานิ่งปล่อยให้เขาจูบหน้าผาก สูดกลิ่นหอมอย่างเต็มที่หลังจากเข้าห้อง เขาก็ล็อคประตูห้อง เข้าโอบกอดดิฉันด้านหลัง เนื้อตัวแนบกันสนิท เขาพลิกใบหน้าดิฉันมาประคองจูบไปทั่ว จูบริมฝีปากอย่างนุ่มนวล จนดิฉันต้องเผยอริมฝีปาก ให้ลิ้นเขาเข้ามาแทรก ลิ้นเราทั้งสองควานไปทั่วปาก จากนั้นเขาก้มหน้าไปสูดดมความหอม จากข้างแก้มกับปอยผม สูดกลิ่นหอมที่ซอกคอจนดิฉันสยิว  ลมหายใจอุ่นๆรดต้นคอทำให้ดิฉันขนลุกซู่ฐานนมดิฉันที่ซ่อนอยู่ในเสื้อ โผล่ให้เห็นเพียงครึ่งเต้ากระเพื่อมเป็นจังหวะตามแรงหายใจ เขาเห็นแล้วคงอดใจไม่ไหว ตาวาวมองร่องอกขาวๆ ชมว่าดิฉันสวยจัง มือซ้ายเขาโอบกอดเอวดิฉันไว้ มือขวาก็เลื่อนลงไปลูบไล้ตามเนื้อผ้าที่แนบกับร่างของของดิฉันไปทั่ว จนดิฉันตัวสั่นเลือดแห่งกลกามร้อนผะผ่าว ความเสียวซ่านกระจายทั่วทั้งตัว มือเขาลูบไล้เบาๆ ที่ลอนสะโพก แล้วเลื่อนมือลงต่ำ ลูบไล้เบาๆ บนโคกสวาทที่นูนดุนกระโปรงออกมา แล้วคลึงโหนกนูนนอกผ้าของดิฉันเล่น  ดิฉันสะดุ้งแต่ก็ปล่อยให้เขาลูบไล้ไปทั่ว เขายิ่งได้ใจคลำคลึงโคกนูนจนดิฉันตัวอ่อนอายุ 30 ต้นๆของดิฉันกำลังอัดแน่นด้วยเชื้อเพลิงแห่งราคะ เมื่อถูกจุดโดยไฟแห่งตัณหา มันก็ลุกโชนขึ้นมาจนดิฉันอยู่ในสภาพลืมตัวลืมใจ ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ลืมลูกลืมสามี ลืมประเพณีและศีลธรรม ดิฉันมีแต่คำว่าเสียวซ่าน ต้องการความสุขที่กำลังจะระเบิดออกมา ฉันยังรู้สึกได้ถึงลำควยที่ลุกโชนอยู่ในกางเกงของเขา ดิฉันตัวสั่นนิดๆ ก้มมองดูมือเขาลูบคลำเนินหีของดิฉัน พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่เขาถลกกระโปรงของดิฉันขึ้น มือล้วงเข้าไปในกระโปรง ลูบไล้โคกหีที่นูนดุนกางเกงในตัวจิ๋วของดิฉัน นิ้วของเขาแหย่เข้าไปตามช่องแคบนอกกางเกงใน จนดิฉันต้องบิดตัวไปมาด้วยความเสียว เขาก็ค่อยๆถอดกระโปรงดิฉันออก เหลือแต่ยกทรงกับกางเกงในบางตัวจิ๋ว อวดเอวคอด สะโพกผายและเนินอกขาวกลมกลึง จากนั้นเขาโอบมือไปด้านหน้าค่อยๆปลดตะขอยกทรงแบบตะขอหน้าออกจากร่างทันทีที่ยกทรงหลุด เต้าขาวนวลสองข้างของดิฉันก็โดดเด่นชัดเจน นมอวบใหญ่ตั้งเต้าเต่งตึงงดงาม  ไม่มีรอยตำหนิสักนิด หัวนมสีชมพูบนยอดที่อวบอิ่ม เชิดปลายงอน ตอนนั้นดิฉันกำลังกระสันจนน้ำเงี่ยนฉ่ำรูหีไปหมดแล้ว เขาจะทำอะไรก็ทำเป็นยอมหมด ความรู้สึกเดือดพล่าน อารมณ์ปั่นป่วน รู้สึกเหมือนกับจะหน้ามืดใจหวิวๆ แม้ดิฉันจะมีลูกมีสามีแล้ว แต่ไม่ถึงกับชอกช้ำมากนัก หน้าท้องยังราบเรียบ นมยังตั้งเต้า ผิวขาวผ่อง ดิฉันเห็นเขาตะลึง จ้องเรือนร่างดิฉันด้วยสายตาที่หื่นกระหาย เขาจับดิฉันนอนลงบนเตียง ดิฉันอายมาก พยายามเอามือปิดบังเนินหีและสองเต้าไว้แต่มันไม่มิด ร่างของดิฉันตอนนั้นพาดขวางเตียง ก้นอยู่ตรงขอบ ขาห้อยระพื้น เขาเอื้อมมือมาลูบที่แก้มดิฉันเบาๆ แล้วค่อยเคลื่อนมาที่ทรวงอก ดิฉันปล่อยให้เขาดึงมือที่ปิดหน้าอกออก แล้วเขาก็กุมบีบเต้านมเบาๆ ดิฉันไม่เคยต้องมือชายอื่นนอกจากสามีมาก่อน สัมผัสแรกรู้สึกวูบวาบ แต่พยายามระงับใจ เขาก้มเอาริมปากทาบจูบหัวนม แล้วหัวนมก็หายเข้าไปให้เขาดูดความหอมหวาน เพียงแค่นั้นดิฉันก็ถึงกับตัวสั่นสะท้านจนน้ำเงี่ยนไหลซึมในช่องหีแล้ว ดิฉันครางด้วยความกระสันปั่นป่วนใจ ยอมรับว่าเสียวก็เสียว แต่ความรักนวลสงวนตัวทำให้ดิฉันพยายามจะปิดป้อง แต่เขาเก่งเหลือกิน ปลายลิ้นและริมฝีปากของเขาทำให้ดิฉันนอนตัวอ่อนปล่อยให้เขาดูดดื่มจนหนำใจ เขาค่อยๆลดตัวลงมาจูบตั้งแต่ฐานอก หน้าท้องและดึงมือดิฉันที่ปิดเนินหีออกใจของดิฉันแทบขาด..เมื่อเขาซุกหน้าเข้าไปตรงเนินหีที่โหนกนูนภายใต้กางเกงในลูกไม้บางของดิฉัน

 เขาคลุกเคล้าจมูกกับเส้นหมอยดำขลับที่ปรกร่องแคมไว้พอประมาณ เขารั้งกางเกงในของดิฉันให้เป้าเบี่ยงไปข้างหนึ่ง เพื่อเปิดให้หีลอดออกมา แล้วใช้ลิ้นลูบไล้แคมหีทั้งสองข้างที่ปลิ้นออกมา เขาแบะแคมหีของดิฉันให้อ้าออก ไต่ลิ้นวนเวียนอยู่ภายนอกจนดิฉันแทบขาดใจ ยิ่งพอเขาเอาปากประกบกลางร่องหี ดิฉันถึงกับสะท้าน แอ่นตัวถ่างขาออกรับ ร่องแคมหีเลยอ้ากว้างจนสามารถเอาลิ้นเข้าไปได้ลิ้นสากๆของเขาควานเข้าไปภายในช่องหี ริมฝีปากของเขาเม้มตรงร่องกลีบ สลับกับการเลียเม็ดติ่งแตดและดูดมันจนร่างดิฉันดิ้นพราดๆ เหมือนจะขาดใจเสียให้ได้ มือกำผ้าปูที่นอนแน่นความรู้สึกตอนนั้นคือ ลืมหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง สองมือของเขาจับเข่าดิฉันอ้าออกจนกว้าง ดิฉันเสียวมากตัวสั่นระริก เสียวจนหัวใจแทบวาย หลั่งน้ำเงี่ยนไหลนองออกจากช่องหี เขาจูบไซ้บริเวณนี้อยู่นาน จนดิฉันตัวงอ ขมิบหี แอ่นก้นลอย ร่อนไปมา


 "โอว..อาอาอา..อ๊าา..."


ดิฉันเสร็จถึงสวรรค์คาปากของเขาแล้ว แต่ก็อยากจะให้เขาทำต่อให้สมใจอยากเสียเหลือเกิน และเขาคงสังเกตท่าทีออกจึงผละลุกขึ้นยืน ยิ้มอย่างพอใจ เขาเลื่อนมือมาจับขอบกางเกงในฉันรูดออก ฉันขยับสะโพกยกก้นช่วย พอกางเกงในหลุดเขามองอย่างเต็มตา เนินหีของดิฉันโหนกออกมาจากใต้ท้องน้อยจนเห็นได้ชัด ฝั่งแคมทั้งสองข้างที่ขาวอูมเบียดกันอย่างสนิท มีปุยขนดำมันราวเส้นไหมปกคลุมตามแนวร่องแคมหายลงไปในง่ามขา แล้วเขาก็ถอดกางเกงออก แทรกตัวเข้ามาตรงกลาง ดิฉันจึงเห็นท่อนควยของเขาที่ใหญ่ยาวจนน่ากลัว ตอนนั้นดิฉันอารมณ์กำลังปั่นป่วน รู้สึกกระสันจนน้ำเงี่ยนฉ่ำช่องหี เขาจะทำอะไรก็ได้ยอมหมด เขาจับสองขาดิฉันตรงหัวเข่าช้อนขึ้นมาวางพาดบนต้นขา ยกขาขาวอวบของดิฉันแบะออกดันขึ้นเบาๆ ในขณะที่ลำควย ร้อนผ่าวของเขาก็พาดอยู่บนโคกหี เขาขยับแยงนิ้วเข้าไปบดขยี้เม็ดแตด ดิฉันก็สะดุ้ง เผลอสูดปากซี้ด ส่ายก้นไปมาด้วยความเสียว ยิ้มให้เขาอย่างอายๆสักพักเขาก็หยุด แล้วใช้นิ้วปาดน้ำหล่อลื่นของดิฉันที่หลั่งออกมา ชะโลมตั้งแต่หัวถอกจนทั่วลำควยเขาจับสองขาดิฉันกางออกจนแคมอ้ากว้าง ดิฉันใจสั่นระทึกหรี่ตาดู เขาใช้มือขวากดหัวถอกอุ่นๆเข้ากลางช่องหีที่อ้าแดงฉ่ำ เขายัดหัวถอกเข้าที่กลางร่องแคมแล้วดันเบา ๆ ถึงหัวถอกของเขายังไม่เข้าไปในรูหี แต่ก็ถากไปมาตามร่องแคม เสียดสีกับติ่งแตดจนดิฉันต้องกอดเขา แล้วยักย้ายส่ายเอวด้วยความเสียว เขาก็ก้มลงมองพร้อมกับดันลำควยเข้ารูหีจนมิดหัวถอก แล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นมาประกบปากจูบดิฉันอย่างเร่าร้อนแม้รูหีดิฉันจะเคยผ่านหัวถอกของสามีมาหลายครั้ง แต่ก็มีขนาดเล็กกว่ากันมาก ถึงจะมีน้ำเงี่ยนหล่อลื่นก็ยังฝืดและคับ จนดิฉันต้องเอามือยันร่างเขาไว้เบาๆ เขาคงรู้จึงปล่อยหัวถอกคาอยู่อย่างนั้น แล้วโน้มตัวลงมาดูดนมทั้งสองข้างพัลวัน ส่วนมือก็ลูบไล้ไปมาที่ช่วงสะโพก และเอาปลายนิ้วล้วงเข้าไปขยี้ปลายติ่งแตดที่ขี่บนท่อนควย จนดิฉันสูดปากครางซี้ด....เขาประกบปากลง ดิฉันก็เผยอปากรับรอยจูบกับเขาด้วยความเต็มใจ รสจูบของเขารุนแรงแต่ซาบซึ้งลิ้นพันกันวุ่นวายไปหมด ใจเต้นแรงเมื่อเขาเริ่มกดควยเข้ามา จนรู้สึกว่าปากรูหีของดิฉันอ้าอมหัวถอกเขาไว้จนตึง ดิฉันเผลอตัวแอ่นก้นขึ้นมารับอย่างลืมตัว ทำให้ลำควยของเขาดันลึกเข้ามาอีกรสสวาทจากหัวถอกที่แผ่บานจนคับตึงในรูหี ทำให้ดิฉันลืมตัว ผวาขึ้นกอดคอเขาไว้ด้วยความกระสัน ตวัดสองขารัดเอวเขาจนก้นแอ่นลอยขึ้นมา ท่อนล่างเขาก็เลยดันลำควยของเขามุดเข้ารูหีดิฉันได้ครึ่งลำดิฉันระดมจูบใบหน้าเขาด้วยความเงี่ยนสุดประมาณ พลางครวญครางไม่ขาดปาก เขาควานลิ้นไปทั่วปากดิฉัน ส่วนท่อนล่างค่อยๆดันเข้าทีละน้อยจนลำควยมุดเข้าไปมากขึ้น ดิฉันรู้สึกอึดอัดเพราะคับแข้งคับขา..กลัวเขาจะเอาเข้าไม่ได้ แต่เขาขยับตัวชักเข้าชักออก ค่อยๆดันลำควยแกร่งเข้ารูหีมาทีละน้อยๆและในที่สุด รูหีของดิฉันดิฉันก็อมลำควยของเขาจนมิดติดโคน ดิฉันกอดเขาไว้แน่นพร้อมกับส่ายก้น ขมิบรูหีตอดรัดท่อนควยจนเขาสูดปากครางอูย  เขาโหย่งตัวขึ้นมากระเด้าเย็ดค่อยๆแล้วแรงขึ้นๆ ทำให้ดิฉันสะเทือนไปทั้งร่าง จนนมกระเพื่อมตามแรงโยกของเขา


ไม่นานนัก ดิฉันรู้สึกหูอื้อ ไม่ว่าอะไรมันจะดีหรือเลว ดิฉันก็แอ่นก้นร่อนไปกับลีลาการเย็ดของเขา ยอมรับว่าตอนนั้นลืมความอายและคุณสมบัติของลูกผู้หญิงจนหมดสิ้น ส่งเสียงครางออกมาอย่างเต็มที่ ร่างเคลื่อนไหวไปตามลีลาการเย็ดของเขาอย่างเร่าร้อน เขาเก่งมาก จนถึงขนาดที่ทำให้ดิฉันใจแทบจะขาดรอนๆ

 และมีความรู้สึกเป็นสุขเสียวรูหีเหลือเกินมันผิดกับการเย็ดของสามีดิฉันลิบลับ ดิฉันยอมรับว่าสามีดิฉันก็ให้ความสุขแก่ดิฉันมาก แต่มันยังไม่ถึงขนาดนี้ ไม่มีทางเทียบได้เลย แรงเย็ดกระหน่ำของเขาเป็นไปยังกับพายุบุแคม แทนที่ดิฉันจะเจ็บปวดหรือหวาดกลัว กลับกลายเป็นปราถนาจะให้เขาทำรุนแรงมากขึ้นกว่านี้อีกดิฉันเองก็โต้ตอบการบุกของเขาทุกท่าทุกทาง แอ่นก้นส่ายไหวไปมา สะโพกว่อนร่อนเหมือนกับจะบินแล้วเขาก็ลุกขึ้นมาจับสองขาดิฉันงอดัน ขึ้นจนหัวเข่าแตะนมแล้วแบะออก ช้อนขาพับดิฉันไว้ในวงแขน แล้วกระชุ่นดันหัวถอกมุดเข้าในรูหีของดิฉัน เสียงการกระทบกระแทกดังเป็นระยะๆ สักพัก เขาก็ค่อยๆ ผ่อนลงช้าๆ จนในที่สุดก็หยุดนิ่ง เขากลับลงนอนพิงหัวเตียง จับดิฉันลุกขึ้นนั่งยองๆคร่อมตัวเขา ดิฉันต้องถ่างขา สองแคมอ้าจนกว้าง จับหัวถอกของเขาจ่อตรงรูหี แล้วหย่อนตัวลงให้หัวถอกมุดเข้าในรูหีช้าๆ ปากรูหีค่อยๆอมลำควยของเขาเข้าไปทีละนิดๆ น้ำเงี่ยนจากรูหีของดิฉันหล่อลื่นให้ลำควยเข้าสะดวกกว่าครั้งเเรกจนมิดหมดลำ จากนั้นเขาก็บอกให้ดิฉันยกก้นให้รูหีรูดลำควยขึ้นลงแรกๆ ดิฉันเอียงอายกระอักกระอ่วนใจ แต่รสชาติที่ได้รับมันทำให้ความอายหมดสิ้น จากช้าๆก็กลายเป็นเร็วขึ้นตามลำดับ ดิฉันจับสองไหล่ของเขาแล้วยกตูดร่อน ให้ช่องหีและติ่งแตดบดขยี้กับลำควยแกร่ง จนหัวสั่นหัวคลอน มันบอกไม่ถูกว่าเงี่ยนขนาดไหน...ถ้าไม่ประสบกับตัวเองความอายหมดไปแล้ว มีแต่ความเสียว ดิฉันเร่งความเร็วเท่าที่แรงมีทั้งหมด ขย่มรูหีบดกระแทกลำควยดิฉันส่งเสียงครางออกมาอย่างเต็มที่เมื่อถูกเขาดูดนมและสอดมือเข้ามาบี้ปลายแตด รูหีของดิฉันโดนควยยาวใหญ่ของเขากระแทกกระทั้นเข้าออก ดิฉันถูกโจมตีทั้งบนล่างจนสุดกระสันร้อง ว้ายยย..กดร่างลงให้รูหีอมลำควยของเขาจนมิดหมดลำ ตัวสั่นระริกพร้อมกับที่เขาก็ผวาเข้ากอดดิฉันแน่น พุ่งน้ำกามทะลักเข้าในท้องน้อยดิฉัน มันอุ่นวาบจนต้องขมิบรูหีตอดลำควยมิบๆ ดิฉันเสร็จไปถึง 3 ครั้ง มันเป็นความสุขสุดชีวิตที่ดิฉันได้รับ หลังจากที่ทำความสะอาดร่างกายแล้ว ดิฉันยังคงนอนแก้ผ้าอวดโคกหีขาวผ่อง ถ่างขาออก ปล่อยให้เขาลูบไล้ไปทั่วร่าง ปลายนิ้วของเขาเกลี่ยน้ำหล่อลื่นที่หยาดล้นออกมาตามร่องแคมหีของดิฉัน พร้อมกับเอามือลูบหีและลูบหมอยเล่นเบาๆมือ ดิฉันก็ลูบคลำท่อนควยเล่น...ในขณะที่นิ้วกลางของเขาก็ยังทำงานเหมือนเดิม เราไม่ได้พูดอะไรกัน นอกจากบางขณะที่สบตากัน ดิฉันก็จะหน้าแดง เผยอตัวขึ้นจูบแก้มจูบปากเขาอย่างเอียงอาย แต่เอวและตะโพกของดิฉันเริ่มส่ายไปมา ซ้ายบ้างขวาบ้าง บางครั้งก็แอ่นเด้งไปหน้าบ้างหลังบ้าง รับกับจังหวะที่นิ้วกลางขยับเข้าขยับออกช่องรูหี ท่อนควยในมือของดิฉัน เริ่มมีชีวิตขึ้นอีกครั้ง ดิฉันเริ่มกระท่อกเบาๆ กำถอกอย่างนุ่มนวล ไม่เร่งหรือช้าจนเกินไป ปลิ้นหัวถอกออกมา เอาปลายนิ้วลูบเบาๆ เขาถึงกับตัวงอสูดปากครางอูย เผลอแอ่นก้นกระเด้ามือดิฉันอย่างลืมตัว ดิฉันขยับตัวกลับลงมาต่ำ จ้องหัวควยที่ผลุบเข้าผลุบออกในมือควยใหญ่กระดกเด่ ดิฉันกลืนน้ำลายหายใจแรง ความรู้สึกเหมือนกำลังกระหาย อยากลิ้มชิมรสท่อนควยของเขา ริมฝีปากแดงของดิฉันอ้าเผยอ แลบลิ้นสีชมพูออกมาเลียหัวควยของเขาเล่น ปลายลิ้นแตะๆที่ใต้หัวถอกบริเวณเส้นสองสลึง แล้วไล้ปลายลิ้นไปรอบคอกระจัง อ้าปากพลิกปลายลิ้นเลียรอบหัวถอก ตวัดกลืนเอาลำควยของเขาเข้าไว้ในปากอันอ่อนนุ่มอย่างช้าๆ ดิฉันรู้สึกเสียวกระสันบอกไม่ถูก หลับตาครางในลำคอ ผงกหัวเอาปากอมรูดลำควยแล้วก็คายออก ดิฉันเอาปลายลิ้นที่อ่อนนุ่มเลียไปรอบลำควย สลับกับอมเข้าไปแล้วดูดอย่างหิวกระหายจนแก้มบุ๋ม  ถึงควยของเขาจะใหญ่จนดิฉันอมได้แค่ครึ่งลำ แต่ดิฉันก็ใช้มือขวาช่วยกระท่อกไปด้วย มือของเขาเอื้อมไปจับนมดิฉันเคล้าคลึง อีกมือจับก็ศีรษะดิฉันกระเด้าควยเข้าออกในปากของดิฉันเป็นจังหวะๆ ดิฉันเหลือบขึ้นมองหน้าเขาด้วยสายตาที่หรี่ปรือด้วยความกระสันสวาท เขารั้งตัวดิฉันขึ้นทาบทับบนตัวเขา ปากบางของดิฉันถูกเขาประทับจูบ ลิ้นต่อลิ้นสัมผัสกันอย่างดูดดื่ม ดิฉันเบียดตัวให้หัวนมที่ชูชันเสียดสีกับแผงอกเขาอย่างเสียวกระสัน มือของเขาควานลงไปกุมโคกหีของดิฉันไว้เต็มฝ่ามือ นิ้วของเขาก็ค่อยๆแยงเข้าไปในซอกแคมหี จนมันกระทบกับยอดติ่งแตดตรงกลางแคม เขาเขี่ยสะกิดเบาๆ ดิฉันเสียวสะดุ้งวาบ บิดเอวร่อนโคกหีสู้มือระริก มันทั้งเสียวซ่านทั้งรัญจวนใจอย่างบอกไม่ถูกเขาดึงตัวดิฉันสูงขึ้นอีก เต้าอวบขาวตั้งชันอยู่ตรงหน้า ดิฉันโอบแขนกอดคอดึงโน้มใบหน้าเขาลงซุกไซ้ระหว่างเต้านมทั้งสอง เขาวนปากไปรอบเต้าสลับดูดปลายอกจนหัวนมแข็งแดงกล่ำ ดิฉันสยิวแอ่นอกให้เขาดูดนมอย่างมีความสุขมือของเขาอีกข้างสอดขึ้นมาเคล้าคลึงเต้าที่เหลือ คีบหัวนมไว้ในร่องนิ้วหนีบบี้จนชูชันขึ้นมา ดิฉันก็แอ่นอกครางอูยๆ อย่างเร้าอารมณ์ที่สุด ปล่อยให้เขาดูดนมบี้นมของดิฉันทั้งสองข้างสลับกันไปมาอย่างเพลิดเพลินจนหนำใจดิฉันเงี่ยนเต็มที่ น้ำรักหยาดล้นออกมาตามร่องแคมหี มองเขาด้วยสายตาอันหยาดเยิ้มก่อนก้มลงจูบลิ้นกระหวัดเกี่ยวพันกันอย่างดูดดื่ม มือของเขาลูบไล้ก้อนเนื้อสะโพกที่หนั่นแน่นแล้วหมุนตัวดิฉันให้หันตัวลงโก้งโค้งโก่งตูดผายขึ้นมา ฟุบหน้าลงกับที่นอนตูดของดิฉันกลมเนียนสวย กลีบแคมหีอวบทั้งสองข้างปลิ้นย้อยมาข้างหลัง เขาลูบมือตามรอยผ่าวกเข้าไป กรีดนิ้วตามร่องแคมจนสะกิดเม็ดแตดแดงที่กำลังลุกตั้งด้วยความเงี่ยน ดิฉันตัวสั่นระริก ครวญครางด้วยความเสียวกระสันต์จนสุดหัวใจตัว เกร็งมือหงิก กำผ้าปูที่นอน แล้วร้องโอย..ก้นกระดกงึกๆ ขมิบรูหียวบ ๆ รอรับควยของเขาด้วยความเสียวซ่านดาลใจท่าทางเขาก็เงี่ยนเต็มที่เช่นกัน เขาขยับเข้าประกบข้างหลัง มือจับหัวควยจ่อปากรูหีอ้าแดงที่เผยอรอรับลำควยของเขาอย่างสุดเงี่ยน เขาจับหัวควยถูไถตามร่องหีขึ้นลงแล้วยัดหัวควยกระเด้ามุดเข้าในรูหีแดงจนมิดเงี่ยง แล้วค่อยๆดันเข้าไปครึ่งลำ ก่อนถอยออกมาเล็กน้อย แล้วกระเด้าใหม่สองสามครั้งหนอกควยกับหนอกหีก็ประกบกันแน่น เขาละมือมาดึงสะโพกกลมของดิฉันให้บดแน่นเข้าหาควย ก้นอวบกลมเต่งตึงแน่นยามโก้งโค้งเช่นนี้ชวนให้กระเด้าเย็ดยิ่งนัก ดิฉันขยับสะโพกร่อนตูดผายส่ายรับการกระเด้าลำควยของเขา หีใหญ่อ้าออกอมควยแนบแน่น สองแคมปลิ้นเข้าออกตามจังหวะกระเด้าเย็ดอย่างน่าดูน้ำเงี่ยนไหลย้อยเป็นทางเปรอะเต็มโคกหี เขาขยับจับเอวคอดกิ่วของดิฉันดึงรั้งเข้าหาตัวอย่างสนุก  ดิฉันส่ายหียั่ว เขาก็บดควยกระแทก เสียงหนอกควยกระทบง่ามตูดผสานเสียงน้ำเงี่ยนในรูดังเฉาะแฉะ สองเต้ากลมของดิฉันไหวระริก..ยามที่เขากระเด้าลำควยอารมณ์ของดิฉันถึงขีดสุด รูหีขมิบตอดรัดท่อนควยจนเขาครางอู้ ดิฉันถึงสวรรค์พร้อมกับที่เขาปล่อยน้ำเงี่ยนที่อัดอั้นอยู่ในลำควยเข้าไปในรูหีของดิฉันทันที พร้อมกับซอยกระเด้าเย็ดหีต่ออีกสักพัก เขาหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน ก่อนซบลงด้านหลังของดิฉันซึ่งตอนนี้นอนราบลงที่พื้นคืนนั้นกว่าจะแยกจากกัน เขานัวเนียวนเวียนกับร่างกายดิฉันจนดิฉันแทบทนไม่ไหว ต้องผืนใจตัวเองให้เขาออกมาส่งบ้านก่อนจะดึกจนที่บ้านสงสัย แต่แน่นอนดิฉันคงต้องหาโอกาสเย็ดกับเขาอีกหลายต่อหลายครั้งอย่างแน่นอน

แม่เพื่อนเปลี่ยนมาเป็นเมีย

 
ในวัยเด็กผมมีเพื่อนที่ผมสนิทมากๆอยู่คนนึงชื่อว่า อาร์ต อายุแก่กว่าผม 1 ปี เราโตมาด้วยเพราะเป็นเพื่อนที่อยู่บ้านติดกัน เราทั้งคู่โตมาในค่ายทหาร เรียนโรงเรียนเดียวกัน กลับมาก็ขี่จักยานเที่ยวเล่นด้วยกันทุกวันในช่วงปิดเทอมเราทั้งคู่ก็ชอบที่จะชวนกันไปเที่ยวเล่นแทบจะไม่ได้อยู่บ้าน แม่ของอาร์ตทำงานเป็นพยาบาล ส่วนแม่ของผมทำงานเป็นแม่บ้าน ส่วนพ่อของเราทั้ง 2 คนเป็นทหาร ผมจำได้ว่าตอนที่ผมกำลังจะขึ้น ชั้น ม.ปลาย พ่อของผมกำลังจะติดนายทหาร ทำให้พ่อต้องย้ายไปเอาตำแหน่งที่อีกค่ายนึงทำให้ครอบครัวของเราต้องย้ายบ้าน หลังจากที่ผมรู้เรื่องได้เพียงไม่กี่วัน



จากวันนั้นก็ผ่านไปประมาณ 10 ปี มีอยู๋วันนึงที่ผมกำลังเดินซื้อของที่ห้องใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง ผมเห็นหญิงสาววัยกลางคนกำลังยืนมองผม เหมือนเป็นคนคุ้นเคย แล้วอยู่ๆ หญิงสาวคนนั้นก็เดินมาหาผม

“ใช้น้องเอ็มไหม” หญิงสาวคนนั้นถามผม

“ใช้ครับ” ผมตอบกลับไป

“จำป้าได้ไหม นี่ป้าวรรณ เอง” หญิงคนนั้นตอบกลับมา

“่อ๋อๆ จำได้ครับ เอ็มก็มองอยู่นานว่าทำไมหน้าคุ้นๆจัง” ผมตอบกลับไป

“เป็นไงสบายดีไหม ไม่ได้เจอกันนานเลย 10 ปีได้แล้วมั้ง” ป้าวรรณ ถาม

“สบายดีมากครับ แล้วป้าละครับเป็นไงบ้าง” ผมถามกลับ

“ป้าก็เลื่อยๆแหละ ว่าแต่ป้าขอ Line เอ็มหน่อยสิมีอะไรอยากคุยเยอะเลยแต่วันนี้ป้ารีบ” ป้าวรรณถามผม

หลังจากที่ผมให้ LIne กับป้าวรรณไป เธอก็รีบเดินไปเลือกซื้อของต่อทันที แล้วเราก็แยกย้ายกันตรงนั้น เมื่อก่อนป้า วรรณ เป็นผู้หญิงที่สวยคนนึงเลยก็ว่าได้ ถึงจะไม่ใช้ผู้หญิงที่ผิวขาวมากนัก แต่ก็เป็นคนที่มีทรวดทรงที่อวบอั๋นคนนึง เธอก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่ผมรู้สึกชอบมากๆในวัยเด็กของผม ถึงแม้ว่าวันนี้จะผ่านมาเป็นเวลา 10 ปี หุ่นของป้า วรรณ ก็จะแตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อยตามอายุที่มากขึ้นในวัย 47 ปี

สองสามวันหลังจากที่ผมเจอกับป้าวรรณโดยบังเอิญ เราทั้ง 2 คนเริ่มติดต่อพูดคุยกันทาง Line มากขึ้น เวลาผ่านไปสักพัก ป้า วรรณ ก็ส่งข้อความชวนผมไปซื้อของที่ห้องแห่งหนึ่งที่เจอเธอในวันนั้น ตอนนั้นผมคิดในใจพูดกับตัวเองว่า จริงหรือที่ป้าจะชวนผมไปเที่ยวกัน 2 คนผมไม่อยากจะเชื่อตัวเองที่ผมได้เห็นข้อความที่ ป้า วรรณ ส่งมา พอถึงวันที่เราได้นัดกันใว้ เรานัดเจอกันที่หน้าร้านเสื้อผ้าแห่งนึงในห้างนั้น ผมยืนรอประมาณ 5 นาทีผมก็เห็น ป้า วรรณ เดินมา

“วันนี้ป้าจะมาซื้ออะไรหรอครับ” ผมถามป้าวรรณ

“ป้าว่าจะซื้อเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวนิดหน่อย” เธอตอบผมกลับมา

ระหว่างที่เดินเลือกซื้อของอยู่ ผมก็ขอเดินแยกตัวไปเข้าห้องน้ำระหว่างที่ผมเดินกับมาผมก็ได้ยินเสียง Line ของผมดังขึ้น แล้วผมก็เปิดดูข้อความที่ส่งมา ข้อความที่ส่งมานั้นเป็นสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้รับซึ่งมันก็คือ รูปป้า วรรณ กำลังเซลฟี่ โดยที่กำลังใส่เสื้อชั้นในสีแดงตัวเดียวทำให้ผมได้เห็นห้าอกที่ใหญ่มหึมาที่พร้อมกับคำถามที่ว่า

“เป็นยังไงบ้าง” ข้อความที่ป้า วรรณ ถามผม

ผมได้แต่ยืนอึ้งด้วยความตกใจทำอะไรไม่ถูกอยู่ประมาณเกือบๆนาที แล้วป้า วรรณ ก็เดินมาหาผม

“ทำไมไม่ตอบมาละ คำถามที่ถามไป” ป้าวรรณ ถามผม

“ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไง” ผมยืนอั้มอึ้งเพราะ ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง

“ป้าก็อยากให้ เอ็ม เลือกชุดให้ป้าหน่อย” ป้าวรรณบอกผม

“แต่….” ผมกำลังจะตอบ “ไปกันเถอะ” ป้าวรรณพูดตัดบททันที แล้วเธอก็เดินจูงมือผมไปที่ลานจอดรถ

“รถเธอคันไหน พาป้าไปที่แห่งนึงหน่อยสิ” ป้าวรรณพูดขึ้นมาถามผม

แล้วเธอก็เดินตามผมแล้วให้ผมขับรถไปตามเส้นทางที่เธอบอก ระหว่างทางที่อยู่บนรถเราไม่ได้พูดอะไรออกไปมันเป็นบรรยากาศที่เงียบสงบและน่าอึดอัด

“ในสายตาที่คนอื่นมองเมื่อกี้นี้เราคงเหมือนแม่ลูกหรือเปล่าล่ะหรือคนในครอบครัวกันมากเลยนะ” ป้าวรรณถามผม

“อืม…… ไม่รู้สิ” ผมตอบไป

“บางทีป้าก็อยากรู้ว่าเราเหมือนคู่รักกันหรือเปล่านะ” ป้าวรรณพูดขึ้นมา

ผมถึงกับตกใจในสิ่งที่ปากพูดออกมาเอากระดาษไปมองหน้าด้วยสีหน้าที่งุนงง

“ขอโทษด้วยนะ สาวแก่กับป้าคงทำให้เอ็มไม่พอใจแน่เลย เอ็ม คงลำบากใจน่าดูในสิ่งที่ป้าพูดออกไปเมื่อกี้” ป้าวรรณพูดออกมา

“เดี๋ยวครับ ไม่หรอกครับไม่ใช่แบบนั้น” ทันทีที่ผมพูดจบป้าวรรณก็ยิ้มออกมา เรานั้งจ้องหน้ากัน ตอนที่รถกำลังติดไฟแดง

“นี่ เอ็ม เมื่อก่อน เอ็มชอบแอบมองน้าใช้ไหมเวลาที่มาหาอาร์ต” ป้าวรรณถามผม

ผมนิ่งเงียบแล้วตอบไปว่า “ครับ”

“จ๊ะ ไม่เป็นไรหลอกป้าไม่ได้ว่าอะไรเอ็มหลอกจ๊ะ แต่ว่า ป้าอยากจะถามอะไรสักอย่าง เอ็ม ยังคิดกับน้าเหมือนตอนั้นอยู่ไหม” ป้าวรรณถามผมออกมาตรงๆ

ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ผมได้แต่มองหน้าของป้าวรรณด้วยสีหน้าที่ตกใจและมีความงงผสมกันไป แล้วอยู่ๆป้าวรรณก็เอามือเธอมาจับที่มือของผม พร้อมกับมองหน้าผมด้วยสีหน้าที่มีรอยยิ้ม ทันทีที่ผมขับรถถึงบ้านของป้าวรรณเธอให้ผมลงจากรถแล้วเข้าไปในบ้านแล้วเราทั้งคู่ก็เข้าไปที่ห้องพระ ผมเห็นรูปของอาร์ต และ สามีของเธอที่เสียไปแล้ว

หลังจากนั้นเธอก็เดินจึงมือผ้าผมไปที่ห้องนอน แล้วใช้มือของเธอลูบที่หน้าอกผม แล้วก็ ยื่นหน้าของเธอออกมา ใช้ปากของเธอจูบเข้ามาที่ปากของผม ความรู้สึกรับรู้ได้ถึงความสัมผัสนุ่มที่ริมฝีปาก

“เป็นยังไง” เธอถามผม

แล้วเธอก็ค่อยๆจูบผมอีกครั้ง “อายหรอ” เธอถามผม อีกครั้ง แล้วเธอก็เริ่มจูบผมอีกทีหลังจากนั้นเธอก็เอาลิ้นของเธอเลียที่ปากผมช้าๆ

“เอ็ม เธอแลบลิ้นออกมาสิ” ป้าววรรณพูดขึ้นมา

ทำตามที่เธอบอกแล้วเธอก็ใช้ลิ้นของเธอมาเลียที่ลิ้นของผม เล่าเรื่องจูบกันสลับกับแลกลิ้นกันประมาณ 2-3 นาที

แล้วเธอก็บอกผมถอดเสื้อผ้าออกแล้วนอนที่เตียง ผมทำตามที่เธอ บอกแล้วหนังจากนั้น เธอก็ถอดเสื้อผู้ออก เธอมีผิวสีแทนสวยนมขนาดใหญ่หัวนมสีน้ำตาล ด้านล่างของเธอมีเส้นขนที่รำไร ทำให้เห็นหีของเธอได้อย่างชัดเจน แล้วเธอก็เดินมาที่เตียงที่ผมกำลังนอนอยู่

“เอ็ม นี่เป็นครั้งแรกของ เอ็มใช้ไหม” เธอถามผม

แล้วเธอก็มานั่งค่อมที่บริเวณหัวเข่าของผม พร้อมกับใช้มือ ข้างซ้ายของเธอกับที่ควยที่แข็งตัวเต็มที่ของผมทันที

“สาวแก่อย่างป้า ทำให้ควยเธอแข็งขนาดนี้เลยหรอ ดีใจจังเลย” ป้าวรรณพูดไปพร้อมกับใช้มือของเธอจับที่ควยของผมพร้อมกับรูดขึ้นลงไปด้วย

“ดีจังเลย” เธอพูดออกมาพร้อมกับตอนที่ควยของผมกำลังกระตุก

“เอ็มอยากให้ป้าทำอะไรดี” เธอพูดออกมาพร้อมกับเอาตัวของเธอมาลูบไล้บนร่างกายของตัวผม

“ชอบไหม เสียวช้ไหม” เธอถามผม “ครับ” ผมตอบเธอกลับไป

แล้วเธอก็ก้มมาจูบผมอีกครั้งนึง พร้อมกับใช้ลิ้นของเธอเลียที่หูของผม เธอใช้ลิ้นของเธอเลียต่ำลงมาเลื่อยๆจนถึงควยที่แข็งตั้งของผม เธอเลียให้ผมไปถึงไข่

“ชอบไหม เอ็มเสียวไหม” เธอถามผม

“ครับ” ผมตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่น

“ควยเอ็มแข็งมากเลย” เธอพูดออกมาขณะที่เธอเลื่อนตัวขึ่นมานอนข้างๆผมพร้อมกับใช้มือของเธอชักขึ้นลงควยของผมไปด้วย

“เสียวจังเลยครับป้า” ผมพูดออกมา

“จะแตกแล้วหรอ” เธอพูดในขณะที่เธอกำลังใช้มือชักให้ผม

“เอ็มอยากเสียวกว่านี้ออกไหม” เธอถาม

เธอก้มหน้าของเธอแล้วใช้ลิ้นของเธอมาเลียที่หัวนมของผมพร้อมกับใช้มือชักให้ผมไปพร้อมๆกัน

“เป็นไงบ้าง จะแตกแล้วหรอ ป้าว่าเอ็มกำลังจะแตกแล้วนะ เธอคงยังไม่อยากแตกแน่ๆ” เธอหยุดำหลังจากที่เธอพูดจบ หลังจากนั้นเธอก็เลื่อนตัวเองลงมาอีกครั้ง แต่รอบนี้เธอไม่รอช้าที่จะเอาควยของผมเข้าไปในปากเธอ เธอใช้ปากของเธอทำให้ผมต่อทันที

“ปล่อยมาเลย ปล่อยให้แตกใส่ปากป้าได้เลย” ป้าวรรณพูด

“ครับ ใกล้จะแตกแล้วครับ” ผมพูดออกมา

“ป้า เอ็มจะไม่ไหวแล้ว” ผมพูดออกมาหลังจากที่เธอทำต่อไม่กี่ที เธอยิ่งทำเร็วขึ้นไปอีกเธอ “ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว” ผมปล่อยน้ำของผมทันทีที่ผมพูดจบ

“น้ำของ เอ็ม ทั้งข้นทั้งหวานเลย” ป้าวรรณพูดออกมาหลังจากที่เธอหยุดอมให้ผม

“ควยยังแข็งอยู่แบบนี้ คราวนี้มาลองทำแบบนี้กันดูเถอะ” ทันทีที่เธอพูดจบเธอก็ดึงมือของผมให้ผมขึ้นมานั่ง พร้อมกับเธอกางขาของเธอ พร้อมกับ เลื่อนตัวเองขึ้นมาบนตัวผมแล้วก็เอาควยของผมสอดใส่เข้าไปในหีของเธอ มันเข้ายากนิดหน่อยเพราะว่าหีของเธอยังฟิตอยู่พอสมควร หลังจากที่เข้าจนมิด เธอก็เริ่มขยับเอวของเธอ

“เสียวไหมจ๊ะ” เธอถามผม

“ครับเสียวมาก หีของป้า ยังฟิตมากๆครับ” ผมตอบป้าวรรณ

แ้วเธอก็ค่อยๆขย่มผมแรงขึ้นไปอย่างช้าๆ

“สุดยอดเลย เสียวสุดยอดไปเลย หีของป้าฟิตมากเลย” ผมบอกป้าวรรณอีกครั้ง

“ดูสิ ดูตอยที่ ป้าขย่ม ควยเธอเข้าไปในหีของป้า” เธอพูดออกมา

“ควยของเอ็มก็ใหญ๋ เข้าไปลึกจริงๆ เย็ดมันมากๆเลย” เธอบอกผมย้ำอีกครั้ง

หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนมาเป็นนั่งยองๆ แล้วให้ผมนั้นเด้งเอวแทงสวนขึ้นไป

“ดีมากเลย เย็ดแรงๆเลย” เธอสั่งให้ผมทำ ผมกับป้าวรรณ ผลัดกันทำให้สักพัก

“จะแตกแล้วหรอ สีหน้าแบบนี้แตกในป้าได้เลยนะ ถ้าเอ็มไม่ลังเกียจ” ป้าวรรณพูดออกมา

“ป้าเอ็มจะแตกแล้วจริงๆครับ” ผมตอบไป

ผมเย็ดป้าวรรณต่อไม่กี่ทีผมก็ได้ปล่อยน้ำของผมเข้าไปในร่างกายของเธอ ตัวป้าวรรณก็เสร็จพร้อมๆกับผม ตอนที่ผมเอาควยออกมาจากหีของเธอ น้ำของผมและเธอก็ไหลย้อนออกมาเต็มผ้าปูเตียง

ตนั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมกับป้าวรรณมีsex กัน แล้วก็เป็น sex ที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของผมอีกด้วยครับ



แม่ให้ผมเป็นผัวคนใหม่

 

เมื่อกลางปีที่ผ่านมาแม่ของผมจับได้ว่าพ่อของผมนั้นไปมีเมียน้อยเมียน้อยของพ่อผมนั้นเป็นนักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่ในจังหวัดที่ผมอาศัยอยู่ในปัจจุบัน ปัจจุบันพ่อผมทำงานเป็นข้าราชการทหารอายุ 55 ปี  ส่วนแม่ของผม ปัจจุบันมีอายุ 50 ปี  มีอาชีพเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้ามือสองที่ตลาดนัดแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดที่ผมได้อาศัยอยู่ ส่วนตัวผมชื่อ กุ๊ก อายุ 25 ปี ปัจจุบันได้มาช่วยแม่ขายเสื้อผ้าที่ตลาดนัดเพราะเนื่องจากว่าช่วงโควิดที่ผ่านมาบริษัทที่ผมทำงาน ได้เลิกจ้างพนักงานส่วนหนึ่งออกตัวผมเป็นหนึ่งในนั้น

เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแม่ผมทั้งเสียใจและแค้นพ่อกับเมียน้อยของเขามากเพราะเนื่องจากว่าเมียน้อยของพ่อได้ส่งคลิปที่พ่อกับเมียน้อยของพ่อกำลังมีเซ็กส์กันอย่างถึงพริกถึงขิง ได้ส่งมาให้แม่ผมดู พร้อมกับข้อความเยาะเย้ยแม่ผม


“เมื่อไหร่จะเลิกกับผัวล่ะ เธอมันทั้งแก่แถมยังเอาไม่มันผัวเธอถึงมาติดฉันไม่ยอมกลับบ้านแบบนี้ นี่ไงหลักฐานดูไปซะแล้วเลิกกับผัวของเธอได้แล้วอีแก่” ข้อความที่เมียน้อยได้ส่งมา

แม่ผมเดือดกับคลิปและข้อความนี้เป็นอย่างมากจนโทรไปด่าพ่อของผมและเมียน้อยคนนั้น

คืนนั้นเวลาประมาณ 3ทุ่มกว่าๆ แม่ก็เดินมาเรียกผมที่ห้องนอนบอกกับผมว่ามีธุระด่วนให้ขับรถพาไป ทำธุระซึ่งตอนนั้นผมก็กำลังดูฟุตบอล อยู่แต่ในเมื่อแม่ขอความช่วยเหลือผมก็ไม่สามารถปฏิเสธได้

ตอนที่ผมกำลังขับรถออกจากบ้านมาได้ประมาณ 5 นาที

“กุ๊กช่วยแม่อย่างนึงสิ เรื่องนี้สำคัญกับแม่มากกุ๊กเห็นคลิปที่พ่อกับอีเมียน้อยคนนั้นส่งมาแล้วใช่ไหม แม่ต้องการให้กุ๊กช่วยทำตัวเป็นผัวใหม่แม่แล้วมีเซ็กส์กับแม่แล้วถ่ายคลิปสั้นๆ ส่งไปให้พ่อดูหน่อย” แม่พูด

“เดี๋ยวแม่จะให้กุ๊กทำแบบนั้นกุ๊กทำไม่ได้หรอก พ่อต้องจำเสียงกุ๊กได้แน่ๆ” ผมตอบแม่กับ

“แม่คิดไว้แล้วกุ๊กไม่ต้องพูดอะไรกุ๊กแค่ทำ กลับแม่แล้วก็ถ่ายคลิปแค่นั้นพอ” แม่ตอบผมกลับมาด้วยเสียงนิ่มๆ

และท่าทีที่นิ่งเงียบ

“แม่คิดดีดีนะอย่าทำเรื่องแบบนี้เลยมันไม่ดีหรอกเชื่อกุ๊กสิเรากลับบ้านกันเถอะ” ผมพยายามทักท้วงแม่อีกครั้ง

“ ก็ได้ถ้ากุ๊กไม่ทำแม่จะหาคนอื่นมาทำแทน” แม่ผมตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ โอเคโอเค กุ๊กยอมก็ได้” ผมตอบแม่กลับไปด้วยเสียงอ่อยๆ

แล้วแม่ก็ให้ผมขับรถไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ทางชานเมืองหลังจากที่เปิดห้องเสร็จเราก็เดินเข้าห้องทันที

หลังจากนั้นแม่ก็ขอตัวไปอาบน้ำ ส่วนผมก็อาบต่อจากที่แม่อาบเสร็จทันที

หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ เห็นแม่ของผมนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟา ผมเลยเดินไปนั่งข้างๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า

“แม่คิดดีแล้วใช่ไหม เรายังถอนตัวทันนะ ที่จะไม่ทำเรื่องนี้” ผมถามย้ำใหม่อีกครั้ง

“อืม แม่คิดดีแล้วเราแม่ก็ไม่ล้มเลิกความคิดแบบนี้แม่ไม่ยอมให้สองคนมาหยามแม่แบบนี้หรอก กุ๊กช่วยแม่ได้ไงคนเดียวเท่านั้น” แม่ตอบผมกลับมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึก

“แล้วเราต้องทำยังไง” ผมถาม แม่กลับ

“แม่ว่ากุ๊กถ่ายเป็นคลิปสั้นๆก็พอไม่ต้องเยอะให้พ่อเรารับรู้ว่าแม่ก็มีคนอื่นแล้วเหมือนกัน ในเมื่อพ่อเอากับคนอื่นได้แม่เขาสามารถเอากับคนอื่นได้เหมือนที่พ่อทำ” แม่ตอบผมกลับมา ด้วยน้ำเสียงที่มีความโกรธแค้นพ่อของผม

แล้วแม่ก็ส่งโทรศัพท์มือถือของแม่ยื่นมาให้ผมทันทีที่แม่พูดจบ

แล้วผมกับแม่เราสองคนก็เดินไปที่เตียงนอน ผมถอดผ้าเช็ดตัวออกทันทีพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ของแม่ขึ้นมาพร้อมกับส่งสัญญาณบอกแม่ว่าผมกำลังกด ถ่ายวิดีโอหลังจากนั้นแม่ก็ขึ้นคอมบนตัวผมแล้วค่อยๆก้มตนเองเอาควยของผมเข้าปากช้าๆแม่เริ่มใช้ลิ้นเลียที่หัวควยส่วนมือที่จับลำควยนั้น ก็ค่อยๆ ชักขึ้นลงช้าๆ ตอนนั้นผมรู้สึกเสียวอย่างมากจนหายใจแรงกับครางอกมาเบาๆ ผมกดถ่ายไปประมาณ 10 ถึง 20 วิ ก็กดปุ่มหยุดอัดวิดีโอชั่วคราว 

หลังจากนั้นผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายวิดีโออีกครั้ง ตอนนั้นแม่ก็เริ่มถอดผ้าเช็ดตัวของแม่ออก ขนาดหน้าอกของแม่ทั้งใหญ่และยานหัวนมสีดำตัดกับผิวสีขาวของแม่ส่วนด้านล่างของแม่ มีขนหมอยบางๆปกคลุมอยู่แคมของแม่ยังปิดสนิท แล้วแม่ก็ขึ้นคอมบนตัวผมพร้อมกับเอามือของแม่จับที่ลำควยของผมแล้วจับมันสอดใส่เข้าไปในรูหีของแม่ ควยของผมมันเข้าไปได้อย่างง่ายดายข้างในของหีแม่ มันทั้งอุ่นและเปียกชุ่มไปด้วยน้ำเงี่ยนของแม่ แล้วแม่ก็เริ่มขย่มควยผมอย่างช้าๆ

“อ่า อ่า อ่า” เสียงแม่ค้าออกมา

ส่วนตัวผมตอนรู้สึกเสียวอย่างมากแต่ไม่สามารถส่งเสียงครางออกมาได้เพราะกลัวว่าความจะแตกว่าชายในคลิปนั้นเป็นตัวของตัวเอง

แม่เริ่มขย่มเร็วขึ้นเรื่อย เร็วขึ้นตามจังหวะและอารมณ์ของแม่ที่เพิ่มมากขึ้น

“เสียวหีจัง เสียวมาก ควยใหญ่ๆแบบนี้เย็ดมันมาก” แม่ส่งเสียงพูดออกมา

“อ่า อ่า อ่า เสียวหีมากคะที่รัก เมียเสียวหีมากๆ” แม่พูดครางออกมาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากนั้นผมก็กดหยุดอัดวิดีโออีกครั้ง แล้วผมก็ใช้มือทั้งสองข้างจับที่เต้านมของแม่ หัวนมของแม่แข็งปั๋งเด้งสู้นิ้วที่ผมเขี่ยเล่น

ตอนที่แม่ขย่มควยผม ตัวผมก็มีจังหวะที่กระแทกเด้งเอวสวนขึ้น สีหน้าของแม่บ่งบอกว่าแม่ทั้งเสียงและสนุกไปพร้อมๆกัน ในตอนนั้นแม่ขย่มควยผมนานหลายนาที

“เย็ดแม่แรงๆเลยน้ำแม่จะแตกแล้ว แรงๆอีกเร็วๆอีก” แม่พูดออกมา

หลังจากนั้นไม่ถึงนาทีแม่ก็ถึงจุดสุดยอด ตัวแม่สั่นสะท้านไปทั้งตัว

“ถ้า กุ๊กจะแตกกุ๊กอย่าลืมถ่ายตอนที่กุ๊กแตกในนะ” แม่บอกผมหลังจากที่น้ำแตก

หลังจากนั้นผมก็จับแม่มาในท่าปกติแล้วจับขาแม่กางออกเป็นตัววีผมก็ไม่รอช้าที่กระแทกเอวเย็ดแม่ต่อเนื่อง

ไม่กี่อึดใจหลังจากนั้นหลังจากนั้น ผมก็คว้าโทรศัพท์แม่ขึ้นมา พร้อมกับกดถ่ายอีกครั้งตอนนี้ผมน้ำแตกและปล่อยน้ำเข้าไปในร่างกายของแม่ ตอนที่ผมเอาควยออกจากหี น้ำของผมมันก็ค่อยๆไหลสวนออกมา ไหลย้อยลงมาถึงรูตูด

ผมถึงกับนอนหมดแรงข้างๆแม่ แล้วแม่ก็อัดวิดีโออีกครั้ง

“ดูนี่ซะผัวใหม่กูเย็ดมันส์กว่ามึง 100 เท่าทั้งใหญ่ทั้งยาวทั้งแรงดีไม่เหมือนมึงหรอก จำไว้กูมีผัวใหม่แล้วมึงไม่ต้องกลับมาหากูกับลูกจงไปใช้ชีวิตอยู่กับอีเมียน้อยของมึงเถอะ” หลังจากที่แม่พูดจบก็ส่งคลิปที่ถ่ายเมื่อกี้ให้พ่อของผมทันที นี่คือเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ถ้ามีความคืบหน้าอะไรต่อไปผมจับมาเล่าให้กับเพื่อนๆได้อ่านกันอีกครับ

จุดจบยอดนักเย็ด #4


“สนุกดีเนอะ ไม่คิดว่าคุณชานุพงศ์ จะพูดสนุกขนาดนี้” เสียงกุ๊กเอ่ยขึ้นหลังจากเราเดินออกจากห้องประชุมในสถาบันศศินทร์
“ก็ดีมั้ง ไม่รู้ว่ะ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่กูสนใจเท่าไหร่ด้วยมั้ง” ผมตอบไปตามตรง
“อ้าว! แล้วลุงมานั่งฟังทำไมอ่ะ”
“เอ๊า อีกุ๊ก! ก็มึงเป็นคนชวนกูมาเองไม่ใช่เหรอครับ”
“น่าๆๆ คิดซะว่ามาเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศไงลุง ยังไงช่วงนี้ลุงก็ว่างอยู่แล้ว ป่ะๆ ไปหาหนมกินกันดีกว่า เดี๋ยวหนูให้ลุงเลี้ยงเอง”
“ไม่ได้ว่างโว้ย! แล้วไง จะกินอะไร?”
“ไปเดินดูตรงพารากอนมั้ยล่ะ เห็นเขาว่ามีร้านเค้กอร่อยๆ มาเปิดใหม่อยู่ นะๆๆๆ” เสียงมันอ้อนเหมือนเด็กๆ จนผมเองก็อดที่จะตามใจมันไม่ได้

เราขับรถไปจอดไว้ที่พารากอนแล้วลงไปเดินดูร้านขนมที่ชั้น G ซึ่งยังไม่ค่อยมีคนพลุ่งพล่านเท่าไหร่ในช่วงบ่ายๆ ผมปล่อยให้ไอ้กุ๊กเดินนำ ก่อนที่เราจะไปหยุดกันที่ร้านKyo Roll En ผมสั่งไอศครีมรสชาโคลมาถ้วยนึง ส่วนยัยกุ๊กพอรู้ว่ามีคนเลี้ยงก็ล่อทั้งซอฟท์ครีมรสชาโคลเบิ้ลด้วยไอศครีมชาเขียวมัจฉะ ผมนั่งมองหน้ามันตักไอศครีมกินอย่างเพลิดเพลินจนอดแซวไม่ได้

“เฮ้ยกุ๊ก กูถามมึงจริงๆ เหอะ” ผมเอ่ยปากถาม
“หืมมม?” มันครางตอบเบาๆ ไอศครีมยังเปื้อนเลอะริมฝีปากอยู่เลย
“กินจุแบบนี้ ไม่กลัวจะอ้วนจนหาแฟนไม่ได้เหรอวะ?”
“โห ลุงใจร้ายว่ะ.... ก็ไม่ได้อยากอ้วนเหมือนกันแหละ แต่มันอดกินไม่ได้นี่นา”
“จะกินก็ไม่ได้ว่าหรอก แต่ทำไมมึงไม่หาเวลาไปออกกำลังกายวะ เดี๋ยวนี้ฟิตเนสมันก็เปิดเยอะแยะ”
“เปลืองเงินดิ เงินเดือนหนูไม่ได้เยอะเท่ากะค่าคอมลุงนา ถ้าต้องจ่ายค่าฟิตเนสเดือนละ 2,000 อีก ก็ไม่ได้เก็บเงินกันพอดี”
“มึงอย่ามาอ้างๆ แล้วไง จะบอกว่าถ้าไม่ต้องเสียเงินเล่นจะยอมไปรึไง?”
“ก็เออดิ้” มันตอบหน้าตาเฉยพลางตักไอศครีมเข้าปากสบายใจเฉิบ

“เมื่อก่อนหนูก็ผอมกับเค้าเหมือนกันนะลุง” มันว่าจบแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดรูปตอนเด็กของตัวเองสมัยม.ต้นกับม.ปลายให้ดู เออว่ะ! มันผอมจริงๆ ด้วยคุณ ดูไปดูมาแทบไม่ต่างอะไรกับน้องแก้วพี่สาวของมันตอนนี้เลย แม้จะดูคล้ายทอมบอยหัวโปกหน่อยๆ แต่ก็เห็นชัดๆ เลยว่าร่างบางแตกต่างจากที่เห็นในตอนนี้อยู่ไกลโข ผมมองอยู่พักนึงจึงพูดต่อ
“งั้นถ้ากูบอกว่าฟิตเนสที่คอนโดกูเค้ามีโปรให้พาเพื่อนไปเล่นฟรีได้คนนึง มึงจะลากสังขารไปเล่นมั้ยล่ะ?”

“เฮ้ย ลุงพูดจริงดิ!?” เสียงยัยกุ๊กอุทาน ไม่รู้ว่าเพราะดีใจหรือเสียใจกันแน่
“เออ ทำไม ไม่อยากไปขึ้นมาเลยทีนี้”
“ไปๆๆ คอนโดลุงตรงลาดพร้าวอ่ะนะ”
“เออ”
“มีของให้เล่นเยอะเปล่า?”
“เล่นฟรีแล้วยังจะเลือกอีกนะมึง ก็มีพวกลู่วิ่ง จักรยาน ดัมเบลนิดหน่อย ถ้ามึงขี้เกียจนักก็มีสระว่ายน้ำให้ว่ายอ่ะ”
“เฮ้ยยยยย ไปด้วยยยย” มันร้องดีใจเหมือนเด็กๆ
“ว่าแต่ แล้วลุงไม่พาสาวๆ ไปเล่นแทนเหรอ ไหงมาชวนหนูล่ะ? หรือว่า..... แอบหลงสเน่ห์หนูแล้วล่ะสิ”
“เพราะสาวๆ คนอื่นเค้าไม่อ้วนเหมือนมึงต่างหากโว้ย” ผมพูดจบก็ตักไอศครีมเข้าปากอย่างสะใจ

ช่วงหลังๆ มานี้ผมเลยมักจะมีสาวหมวยร่างอ้วน ติดสอยห้อยตามนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถกลับมาที่คอนโดด้วยกันตลอด พอเล่นไปได้ระยะนึงผมเลยซื้อคีย์การ์ดสำรอง เอาไว้สำหรับให้มันมาเล่นคนเดียวเวลาที่ผมมีนัดกับน้องมิ้นท์ ซึ่งต้องบอกว่าตอนนี้ก็เหลืออีกไม่กี่สเต็ปแล้ว ที่เราสองคนจะได้บ่ะๆ โอ้บ่ะๆ กันอย่างสาสมใจ เพราะทุกวันนี้เราก็มักจะคุยโฟนเสียวด้วยกันบ่อยๆ จนต่างคนต่างน้ำแตกสบายตัวกันไปทุกครั้งเวลาที่เราเงี่ยน แม้ว่าช่วงหลังๆ เธอจะเริ่มยุ่งเพราะต้องเดินสายไปร่วมกิจกรรมกับกองประกวดนางงามของเธอแล้วก็ตาม แต่เราก็ยังพยายามหาโอกาสคุยกันเรื่อยๆ ตามแต่ที่เวลาจะมีให้กัน

ขณะที่อีกด้านนึง ผมก็เริ่มสนิทกับยัยกุ๊กไก่มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความที่ต้องไปรับไปส่งมันเหมือนลูกสาวคนนึง แม้ว่ามันจะยังคงกวนตีนผมเหมือนเดิม มีอยู่วันนึง จำได้เลยว่าวันนั้นเป็นวันศุกร์สิ้นเดือน ผมเห็นมันเซ็งๆ เศร้าๆ แปลกๆ ตั้งแต่เช้า พอตกเย็นเลยลองถามไถ่มันดูระหว่างที่กำลังขับรถไปเล่นฟิตเนสที่คอนโดเหมือนเดิม ก่อนจะได้คำตอบที่ทำให้ผมอดแปลกใจไม่ได้

“หนูว่าหนูอกหักว่ะลุง...”
“ห๊ะ? ยังไงนะ? สรุปมึงอกหักรึไม่อกหัก??”
“ก็... ก็.... อกหักมั้ง ไม่รู้ดิ”
“เอ๊า มึงไม่รู้แล้วใครจะรู้วะ พูดให้เคลียร์ๆ ดิ๊” ผมรีบซักมันต่อด้วยความสงสัย เพราะนึกไม่ถึงจริงๆ ว่ายัยเด็กง้องแง้งอย่างมันจะแอบคบกับใครอยู่ตอนนี้ โดยที่ไม่มีใครรู้เรื่องซักนิด
“ก็แบบ... คือหนูอ่ะเคยสนิทกันกับเพื่อนคนนึงใช่มั้ย แล้วเราก็เหมือนจะคุยๆ กันแบบจีบๆ กันอ่ะ แล้ว... แล้วเค้าก็ไปเรียนต่อเมืองนอกไง หลังๆ ก็เลยได้คุยกันผ่านสไกป์บ้างนิดๆ หน่อยๆ”
“แล้วไง คือเค้าไปมีเมียฝรั่ง?”
“คือไม่ใช่... เนี่ย ลุงก็อย่าพึ่งขัดดิ” มันแอบบ่นนิดๆ ผมก็เลยพยักหน้าเออออให้มันเล่าต่อให้จบ

“แล้วเหมือนหลังๆ เค้าจะห่างๆ เงียบๆ ไป หนูก็คิดว่าเค้าคงเรียนหนักแหละ แต่พอวันก่อนเห็นเค้าอัพรูปขึ้นเฟสบุ๊ค เป็นรูปคู่กับสาวอ่ะลุง แล้วเค้าสวยด้วยนะ โห คือแบบ มันจี๊ดอ่ะ”
“เฮ้ย ญาติเค้ารึเปล่า น้องสาวเค้าไรงี้”
“ไม่ใช่ดิ! น้องสาวเค้าหนูก็รู้จัก พอเข้าไปอ่านคอมเมนท์นะ โห เพื่อนเค้ามาแซวกันตรึมเลย หนูรู้เลยว่าเนี่ยเค้าคบกันแล้วแน่ๆ” ไอ้กุ๊กลืมตัวพูดอย่างมีอารมณ์

“แล้วได้คุยกับเค้าอีกรึเปล่า?”
“ไม่ได้คุยอ่ะ ใครจะไปกล้าคุยล่ะ กลัวแฟนเค้าอยู่ด้วยจะยิ่งกลายเป็นหมาหัวเน่าเข้าไปอีก”
“อืมมม.... แต่คือตอนแรกเราก็ไม่ได้ตกลงคบเป็นแฟนกันจริงจังป่ะ แค่คุยๆ กัน”
“ก็ใช่แหละ แต่แบบ โห มันก็แอบหวังป่ะวะ คุยกันมาเป็นปีๆ ขนาดนี้ แม่ง เผลอแป๊บเดียวหนีไปมีแฟนแล้ว เออ ก็กุ๊กมันไม่ผอม ไม่สวยเหมือนคนอื่นนี่หว่า ฮึ่ก.. ” น้ำเสียงกุ๊กสั่นๆ เหมือนจะร้องไห้ ผมเองก็ไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้มาก่อนเลยได้แต่เอามือลูบหัวปลอบมันเบาๆ  มันเองก็ยิ่งเอาหัวถูมือผมเหมือนชอบใจ ผมเลยตัดสินใจชวนมันไปนั่งกินเบียร์บนห้องแทนที่จะไปเล่นฟิตเนสแทน

นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ผมพายัยกุ๊กขึ้นมาในห้องตัวเองแบบสองต่อสอง แม้ว่าก่อนหน้านี้มันจะเคยมานั่งกินเบียร์กับผมและเพื่อนๆ ที่ทำงานบ้างแล้ว 2-3 ครั้ง ผมรินเบียร์โฮการ์เด้นเย็นเจี๊ยบใส่แก้วไพน์อันใหญ่ แล้วยื่นส่งให้มันรับไปนั่งจิบที่โซฟาเงียบๆ รสชาติของมันก็พอจะทำให้ชื่นใจได้บ้าง แม้ว่าจะไม่อร่อยเหมือนไปกินสดๆ ที่ร้านก็ตาม

“เสียใจมั้ยเนี่ย?” ผมเอ่ยถามทำลายความเงียบขึ้นมา
“โห.... ยังต้องถามอีกเหรอ”
“เอ้า ก็เห็นเราดูเป็นเด็กบ้าพลัง มุ่งแต่งาน ก็เลยนึกว่าไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เหมือนคนอื่นเค้า”
“แหม มันก็ต้องมีมุมแบบนั้นบ้างมั้ยอ่ะลุง หนูอยู่คนเดียวมาเป็นปีๆ มันก็ต้องอดเหงาไม่ได้เหมือนกันนะ ไม่ได้มีคนคุยเยอะเหมือนลุงนี่”
“อ้าว อย่าแขวะกูดิ นี่เราข้างเดียวกันนา”
“ฮือออ... ขอโทษษษษ” กุ๊กพูดเสียงอ่อย เหมือนเริ่มจะเมาด้วยฤทธิ์เบียร์ที่กระดกไปเกือบหมดแก้ว

“เค้าไม่สนใจเรา เราก็อย่าไปสนใจเค้าดิวะ หาใหม่ไปเลย ไม่เห็นยาก”
“ลุงเห็นหนูหน้าเหมือนชมพู่อารยารึไง มันจะได้หากันง่ายขนาดนั้น ตัวก็บวมขนาดนี้”
“มึงก็ลดสิวะ ออกกำลังกายกับกูเรื่อยๆ เดี๋ยวแม่งก็ผอมเองนั่นแหละ หน้าตามึงก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ ถ้าหุ่นดีๆ หน่อยเดี๋ยวก็มีคนเข้ามาคุยเองแหละ” ผมบอกชมมันตรงๆ มันฟังแล้วก็ออกอาการเขินนิดๆ เพราะทุกทีก็มักจะลงเอยด้วยการด่าข้ามหัวกันไปมาซะมากกว่า

เรานั่งดื่มกันไปอีกเกือบๆ สองชั่วโมง ต่างคนต่างเล่าประสบการณ์ความรักของตัวเองในแบบที่ไม่เคยคิดว่าจะเปิดเผยซึ่งกันและกันได้ โดยเฉพาะกับคนที่เป็นคู่กัดแบบเราสองคน  ผมเองก็พึ่งรู้จากปากมันนี่แหละว่าอยู่มาจนจะอายุ 30 แล้ว มันก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์บนเตียงกับใครๆ มาก่อน เรียกง่ายๆ ว่ายังซิงสนิทอยู่เลย ยิ่งคุยกันก็ยิ่งมันปาก จนเวลาล่วงเลยมาเกือบจะ 4 ทุ่ม หลังจากเบียร์หมดไป 5 ขวด สภาพของผมกับกุ๊กตอนนี้ก็ต้องบอกว่าป้อแป้ไปตามๆ กัน ผมเองตอนแรกตั้งใจว่าจะขับรถไปส่งมันที่คอนโดพี่ แต่ดูสภาพตัวเองตอนนี้รับรองว่าขับรถออกไปอาจไม่ถึงที่หมายแน่ๆ ไหนจะเรื่องด่านที่ชอบมาตั้งดักแถวนี้อีกล่ะ เลยบอกให้กุ๊กโทรบอกพี่สาวตัวเองหน่อยไม่ให้เป็นห่วง

“ฮัลโหล เจ๊เหรอออ... เค้ากลับช้านิดนึงนะ... อืมมม พอดีอยู่ห้องเพื่อน... เดี๋ยวดึกๆ มันไปส่ง” ผมรอจนมันวางหูแล้วก็เอ่ยทัก
“เฮ้ย  ไหงไปบอกว่าอยู่ห้องเพื่อนวะ เดี๋ยวเค้าเห็นกูไปส่งก็งงหรอก”
“โธ่ลุงงง... ถ้าบอกเจ๊ว่าหนูมานั่งเมาอยู่กับผู้ชายสองคน... เจ๊ก็ฟ้องป๊าอ่ะดิ ฮึ...หัวขาดพอดี” ผมฟังแล้วก็อดขำไม่ได้
“ทำไมวะ เค้ากลัวว่ามึงจะโดนกูล่อรึไง?”
“เอ๊า.... ใครจะไปรุ้ ผู้ชายเมาๆ มันก็เอาได้หมดแหละ ยิ่งหื่นๆ แบบลุงน่ะ” มันพูดจบก็เอนคอก่อนจะค่อยๆ หลับไปบนโซฟา ผมเห็นมันนอนไม่สบายตัวก็เลยพยุงมันขึ้นไปนอนให้สบายๆ บนเตียง กว่าจะหิ้วปีกไปถึงก็เล่นเอาเหนื่อยไม่ใช่เล่น เพราะตัวมันก็ไม่ใช่เบาๆ ยัยกุ๊กทิ้งตัวลงนอนกับเตียง พลิกตัวตะแคงกอดหมอนข้างหลับไปโดยไม่สนใจผมที่นอนหอบอยู่ข้างๆ ผมเองก็มึนหัวไม่แพ้กัน เลยล้มตัวนอนหลับไปข้างๆ มัน กว่าจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นอีกทีก็ล่อไปเกือบเที่ยงคืนแล้ว

ผมหันไปมองเห็นกุ๊กยังคงนอนหลับไม่ได้สติอยู่ มันนอนหงายหลับอย่างสบายใจ ดูท่าทางจะนอนดิ้นไม่เบานะยัยนี่  ผมจ้องพินิจพิเคราะห์ใบหน้าหมวยๆ ของมันอยู่ครู่หนึ่ง อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกว่าจริงๆ แล้วมันเองก็เป็นคนที่หน้าตาน่ารักแบบหมวยๆ ตามประสาคนมีเชื้อจีนนั่นแหละ ผิวขาวผ่องเป็นใย ปากนิดจมูกหน่อย ยิ่งช่วงหลังๆ ที่มันเริ่มออกกำลังกายจนน้ำหนักลดไปเหลือแค่ 60 นิดๆ ก็ยิ่งพอจะมองเห็นความน่ารักที่มีอยู่ในตัวมันชัดเจนขึ้น เสื้อแขนยาวสีเขียวขี้ม้ายี่ห้อ H&M ของมัน เปิดถลกเพราะแรงดิ้น เผยให้เห็นพุงขาวๆ ไปถึงสะดือบุ๋ม เลื่อนสายตาขึ้นไปอีกนิดคือทรวงอกอวบอิ่ม ที่กระเพื่อมขึ้นลงไปตามจังหวะการหายใจ

ผมเองพอเห็นแบบนี้แล้วแก่นกายก็อดปึ๋งปั๋งขึ้นมาไม่ได้ แม้จะไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับมันมาก่อน แต่พอได้มานอนเบียดเสียดแนบชิดกันบนเตียงแบบนี้แล้ว สัญชาตญาณลึกๆ ก็พร้อมที่จะตื่นขึ้นมา ผมค่อยๆ เอื้อมมือไปถลกชายเสื้อของมันเบาๆ เลื่อนเปิดขึ้นไปจนเห็นยกทรงแบบสปอร์ตบรายี่ห้อวาโก้สีเทาที่ปิดบังเต้านมขาวอวบของเธอไว้ อ๊ะๆ อ้าว นี่ผมเผลอเรียกแทนตัวยัยกุ๊กว่าเธอ แทนคำว่ามันไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?

ผมค่อยๆ ใช้มือซ้ายลูบสัมผัสอย่างแผ่วเบาผ่านเนื้อผ้ายกทรง อืมม นมเธอนิ่มเด้งสู้มือดีจัง ลองใช้ฝ่ามือบีบคลึงไปตามฐานเต้า จนกุ๊กเริ่มที่จะมีอาการส่งเสียงครางลอดออกมาเบาๆ ผมซุกไซร้ลำคอขาวเนียนของเธอ ได้กลิ่นแป้งจางๆ ลอยออกมา ยิ่งผมด้านหลังของเธอตัดสั้นเกรียนตรงบริเวณท้ายทอย ยิ่งชวนให้ผมดอมดมซุกซนเข้าไปอีก คราวนี้กุ๊กเหมือนจะเริ่มรู้สึกตัว เธอแหงนหน้าหันมามองช้าๆ อย่างคนไม่มีแรง สบตากับผมนิดนึง ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ

“อือออ.... พี่... ไม่เอา...” แล้วกุ๊กก็หลับตาและหลับไปอีกครั้งด้วยความเมามาย ผมเองพอได้ยินแบบนั้นก็ชะงักไปแป๊บนึง ถ้าเป็นปกติผมคงจะไม่สนใจคำร้องห้าม ยิ่งเจ้าตัวหลับไหลไม่ได้สติแบบนี้ด้วย แต่ไม่รู้สิ สำหรับกุ๊กแล้วมันมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างไปจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านมา อาจจะด้วยความที่เราสนิทสนมกันแบบพี่น้องมาตั้งแต่แรก พอมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แม้ว่าจะมีอารมณ์พอสมควร แต่มันกลับแฝงไปด้วยความรู้สึกผิดที่จะไปละเมิดขืนใจขืนอารมณ์เธอ ทั้งๆ ที่ยังไม่พร้อม พอคิดแบบนั้นแล้วผมจึงล้มตัวลงนอน เอามือกอดเธอไว้จากด้านหลังแล้วหลับไปในที่สุด

ผมรู้สึกตัวอีกทีตอนเกือบ 10 โมงเช้า ตื่นมาอีกทีไม่เจอกุ๊กอยู่ในห้องแล้ว เข้าใจว่าเธอคงตื่นก่อนผมและกลับไปตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่รู้ว่าเธอจำได้รึเปล่าว่าเมื่อคืนผมแอบลวนลามเธอไปเล็กน้อย พอนึกขึ้นได้ก็กุลีกุจรคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา กะจะส่งไลน์ไปขอโทษขอโพยก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เปิดหน้าต่างแชทปุ๊บก็เจอข้อความที่กุ๊กส่งมาหาตั้งแต่ 8 โมงครึ่ง

“ถึงบ้านแล้ว เมื่อคืนขอบคุณนะพี่โจ้ แล้วก็ขอบคุณที่ไม่รังแกกุ๊กด้วย” ข้อความของเธอแฝงไว้ด้วยน้ำเสียงประทับใจเล็กๆ เธอไม่ได้ใช้คำเรียกผมว่าลุงเหมือนทุกที พออ่านแล้วก็อดรู้สึกเขินกระดากไม่ได้ เลยพิมพ์ข้อความส่งตอบไป
“ถึงบ้านกี่โมงเนี่ย?” ซักพักก็มีข้อความตอบจากเธอกลับมา
“8 โมงเช้า โดนเจ๊ด่าหูชาเลย ฮือ” ผมอ่านแล้วก็อมยิ้มกับความน่าเอ็นดูของเธอ

หลังจากนั้นเป็นต้นมา ความสัมพันธ์ของเราสองคนก็ยิ่งดูจะสนิทสนมจนเกินจากคำว่าพี่น้องที่ทำงานปกติ ผมเริ่มชวนเธอไปเที่ยว ไปเดินห้างกันสองคนขึ้นบ่อยขึ้น แม้ว่าจะยังไม่ได้แสดงท่าทีแบบคนจีบกันอย่างโจ่งแจ้งจริงๆ จังๆ แต่เราต่างก็พอจะรู้อยู่ลึกๆ ว่ามีความรู้สึกอะไรบางอย่างเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น กุ๊กเองก็ดูจะชอบพอผมอยู่ไม่น้อย เรายังคงชอบที่จะทะเลาะถกเถียงกันเวลาอยู่ที่ทำงาน แต่ก็มักจะคอยระบายปรึกษาปัญหาชีวิตให้กันและกันฟังอยู่เสมอ ยิ่งช่วงหลังๆ มานี้ กลายเป็นว่าผมแทบจะได้คุยกับกุ๊กมากกว่าที่ได้คุยกับน้องมิ้นท์คนสวยซะอีก เวลาผ่านไปเกือบเดือน เราก็สนิทกันจนเรียกได้ว่าแทบจะเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจของกันและกันที่สุดแล้วในตอนนี้ แม้ว่าจะยังมีกำแพงบางๆ กั้นอยู่ด้วยคำว่าพี่น้องก็ตาม



จุดจบยอดนักเย็ด #3


 
ผมคุยกับเธอแทบทุกวัน ไม่เว้นแม้แต่ช่วงที่ทำงานอยู่ในออฟฟิศ จนยัยกุ๊กเริ่มสังเกตเห็น และแน่นอนครับว่ามันต้องปากสว่างตะโกนแซวเหมือนเดิม

“ว้ายยยย เจ้าข้าเอ๊ย ลุงมีเมียใหม่แล้วจ้าา!”
“เมียเมอบ้านเอ็งเดะ แค่คุยๆ กันเฉยๆ เฟ้ย ยังไม่ได้เป็นแฟน”
“อ๊ะเหรออออ ก็แหม เห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เวลาคุยทุกวันเลย หนูก็นึกว่าลุงงาบไปเรียบร้อยแล้วน่ะสิค้า”
“โว๊ะ! ไอ้บ้า คนนะไม่ใช่จระเข้ จะได้งาบไปทั่ว” กุ๊กได้ฟังแล้วก็หัวเราะตาหยีชอบใจ
“แล้วมึงอ่ะ โตป่านนี้ไม่รู้จักหาผัวหาแฟนกับเค้าบ้าง เอาแต่เพ้อดาราฝรั่งอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวก็ได้ขึ้นคานหรอกมึง”
“แน๊! อย่ามาว่ากัปตันอมริกาเค้านะ! เค้าจะเป็นเมียกัปตันนนนน” เสียงยัยกุ๊กเริ่มง้องแง้งปัญญาอ่อนอีกแล้ว
“นี่มึงฮิปสเตอร์จริงเหรอวะเนี่ย ร้องซะอย่างกะติ่งดารานักร้องในอินเตอร์เน็ต วู้!”

มีอยู่วันนึง ขณะที่ผมกำลังเดินดูแมททีเรียลตัวอย่างงานกับกุ๊กสองคนที่พารากอน ผมก็บังเอิญปะหน้าเข้ากับหญิงสาวหน้าตาคุ้นเคย ที่กำลังเข็นรถเด็กอ่อนพร้อมๆ กับจูงลูกอีกคนอยู่ข้างๆ ตัว
“พี่เป้!” ผมร้องทักขึ้นกระทันหัน จนเธอต้องหันมองหาที่มาของเสียง
“อ้าว...! โจ้... มาเดินเล่นเหรอ?” เธอทักตอบ น้ำเสียงแฝงอาการสั่นไหวเล็กๆ ด้วยความตกใจ ใบหน้าหมวยๆ ของเธอยังคงดูไม่เปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยเห็นเมื่อสมัยก่อน แว่นตากรอบหนาสีดำที่คุ้นเคยก็ยังคงสวมอยู่บนหน้าเธอเหมือนเดิม

“อ๋อ...! ผมมาเดินดูของกับน้องที่ทำงานครับ” ผมตอบพลางบุ้ยใบ้ชี้ไปทางกุ๊ก ซึ่งก็ยกมือไหว้ตอบงงๆ ก่อนที่มันจะขอตัวแยกไปเดินดูของล่วงหน้า
“แล้วนี่ พี่บอยมาด้วยมั้ยครับเนี่ย?” พี่บอยคือรุ่นพี่ที่ผมสนิทสนมด้วยคนหนึ่ง ซึ่งก็คือสามีเธอนั่นเอง
“บอยเค้าไปจ่ายบิลที่แบงค์น่ะจ้ะ พี่ก็กำลังจะไปหาเค้าเนี่ย”
“อ๋อ ครับๆ แล้วนี่น้องโอมกี่ขวบแล้วครับเนี่ย โหโตขึ้นเยอะเลย” ผมทักถึงลูกชายของเธอซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้นประถม
“กี่ขวบแล้วครับ? ไหน หกขวบแล้วใช่มั้ยเอ่ย เก่งมาก” เธอพูดเชียร์ลูกชายตัวน้อย ซึ่งยืนหลบจดๆ จ้องๆ อยู่ข้างหลังแม่พลางชูนิ้วมือตอบ
“น้องเอมก็น่ารักเหมือนแม่เลยนะครับ” ผมเอ่ยปากชมออกไปแบบไม่ได้คิดอะไร แต่ดันไปสะกิดต่อมความทรงจำบางอย่างจนพี่เป้เริ่มแสดงท่าทีอึดอัด จนผมเองก็ไม่อยากจะรบกวนเธอ เลยขอตัวไปตามกุ๊กต่อ

ผมแอบมองภรรยาของรุ่นพี่จูงลูกเดินห่างออกไปเรื่อยๆ จนลับสายตา อดไม่ได้ที่จะแอบสำรวจสะโพกผายๆ คู่นั้นของเธอที่นูนเด่นทะลุผ้ากระโปรงออกมา สะโพกที่ผมเคยยึดจับขณะออกแรงบดกระเด้าหีเธอจนน้ำแตกในท่าด็อกกี้ อืมมม จะว่าไปแล้วก็ถือเป็นความทรงจำดีๆ ครั้งนึงในชีวิตล่ะนะ แม้ว่าทุกวันนี้เราจะไม่มีโอกาสได้แลกรสสัมผัสกันอีกแล้วก็ตาม อืม ครั้งสุดท้ายนี่ผ่านมาตั้งกี่ปีแล้วน้อ

“ใครอ่ะพี่? กิ๊กเก่าเหรอ?” ยัยกุ๊กถามทันทีเมื่อเจอหน้า
“กิ๊กห่าอะไร นั่นเมียรุ่นพี่กู”
“อ๋อออ.... ก็เห็นคุยกันอยู่นาน นึกว่าจะมีซัมติ๊งซัมติงสเปเชี่ยลซะอีก” คำแซวของไอ้กุ๊กเล่นเอาผมอดเสียววาบไม่ได้ เพราะที่มันพูดน่ะเป็นเรื่องจริงล้วนๆ เลยนะนั่น พอกลับถึงห้อง ผมเลยตรงเข้าไปเปิดแม็คบุ๊ค เข้าเฟสบุ๊คเซิร์ชหาชื่อเธอทันที ผมลองกดดูรูปเธอด้วยอารมณ์คิดถึง เห็นรูปล่าสุดที่เธออัพขึ้นเป็นรูปครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า ทั้งพี่บอยสามี ลูกชายและลูกสาวอย่างน้องโอมกับน้องเอม รวมถึงตัวเธอที่กำลังยืนยิ้มหวานอยู่ข้างๆ

ผมเห็นแล้วก็หยิบเอามือถือขึ้นมา เปิดดูรูปที่เธอเคยส่งมาให้ผมช่วงที่เราเคยคุยๆ กิ๊กกันอยู่ ร่างเปลือยเปล่าขาวโพลน เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน มองเห็นตั้งแต่เต้านมอวบขาวและหัวนมสีน้ำตาลอ่อนๆ ไล่ยาวมาถึงร่องสะดือบุ๋มสวย และท้ายสุดคือพงขนไรอ่อนยาวปรกพอประมาณ กลีบแคมขนาดฝ่ามือประกบติดปิดของสงวนของเธอที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน พอเลื่อนไปดูอีกรูปก็เห็นเป็นภาพซูมโคลสอัพสองขาที่กำลังอ้าออก เปิดเผยถึงกลีบแคมที่ถูกสองนิ้วแบะอ้า ตรงกลางคือปากรูสวรรค์ที่กำลังมีน้ำซึมออกมานิดๆ พอดูไปดูมา ผมเลยลุกไปหยิบดีวีดีแล้วเปิดมันเล่นทันที ก่อนที่ภาพและเสียงในดิสก์จะเริ่มรันกับโปรแกรม

“อ๋าาาาาา...... าาาาา...... โจ้.......... พี่เสียวววว....วววว” เสียงของรุ่นพี่สาวที่พึ่งเจอหน้ากันเมื่อตอนบ่าย กำลังร้องครวญครางดังสนั่นอยู่ในวิดีโอ ภาพบนจอแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังคุกเข่าคร่อมหน้า แหกแข้งแหกขาให้ผมใช้ลิ้นกับร่องเสียวของเธออย่างสาแก่ใจ สองขาของเธอถ่างอ้า บดสะโพกเบาๆ สู้กับลิ้นผมที่กำลังควานลึกเข้าไปตามร่อง น้ำรักของเธอไหลนองเปรอะทั่วใบหน้าผม ร่างงามๆ แอ่นตัวเป็นจังหวะ หน้าเริ่ดขึ้นฟ้าด้วยความเสียวที่กำลังได้รับ ผมเลียจนคิดว่าเธอคงเงี่ยนได้ที่แล้วจึงจับเธอเอนตัวนอนหงาย ยกขาเธอโล้ไปด้านบนจนก้นเธอลอยเด่นอยู่ตรงหน้า
พี่เป้พยายามดิ้นหนีเพราะอายที่ถูกผมจับจ้องแคมหีของเธอแบบชัดๆ ต่อหน้าต่อตา ผมจึงก้มไปลงลิ้นให้เธออีกครั้ง จนเธอดิ้นเร่าๆ ก่อนที่จะหมดแรงต่อต้านในที่สุด ผมลากลิ้นปาดร่องเสียวของเธอผ่านรูที่ประตูหลัง สลับกับการใช้นิ้วบี้คลึงเม็ดเสียวเบาๆ สร้างความสยิวกระสันต์ให้กับเธอจนต้องร้องครางฮือออกมา พอเห็นว่าเธอเริ่มไม่มีท่าทีขัดขืนแล้วผมจึงหันไปหยิบเควายเจลข้างเตียงมาชะโลมนิ้วมือจนเยิ้ม ตามด้วยควยอวบแข็งในถุงยาง ก่อนจะค่อยๆ ปาดเจลเหนียวหนืดไปที่รูก้นของเธอจนมันวาว แล้วใช้นิ้วกลางแหย่ดุนเบาๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้เธอ

พี่เป้เองคงรู้ดีว่าเธอกำลังจะโดนอะไร แต่ความเสียวกระสันต์ที่ถูกผมปลุกปั่นมามันก็มากเกินกว่าที่เธอจะออกอาการขัดขืนต่อได้อีก เธอเอาแต่ร้องครางเบาๆ ว่าอย่าๆ ในขณะที่ผมจับเธอพลิกร่างหันหลัง แล้วเตรียมสอดท่อนควยเข้าไปที่ประตูหลังของเธอ ปากรูของมันตอนนี้ค่อยๆ ขยายตัวออก เพื่อเปิดทางให้หัวควยบานๆ ของผม มุดเข้าไปช้าๆ เควายเจลนี่มันหล่อลื่นได้สุดยอดจริงๆ นะครับ ขนาดว่าประตูหลังแน่นๆ ที่ไม่เคยถูกใครกระทุ้งมาก่อน ยังลื่นปรื๊ดจนอ้าอมท่อนควยของผมให้ไหลเข้าไปอย่างง่ายดาย

“อุ...... อู๊ยย.....ยยยยยย....ซี้ดดด....ดดด” เสียงเธอร้องสูดปากคล้ายกับกินของเผ็ดมากๆ เข้าไป ในจังหวะที่ผมพยายามสาวควยเข้าออกช้าๆ เธอดูจะยังไม่ชินกับรสสัมผัสที่ได้รับเป็นครั้งแรก
“ฮืออออออ...... โจ้..... มันแน่นนน....นนน”
“แป๊บเดียวนะครับพี่... เดี๋ยวก็เสียวแล้ว” ผมพูดปลอบเธอออกไป ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วใครกันแน่ที่จะเป็นฝ่ายเสียว ผมหรือเธอ?

ซักพักช่องรูหลังของเธอก็เริ่มที่จะปรับตัวให้ชินกับท่อนเนื้ออวบใหญ่ซึ่งคอยมุดเข้าออกได้ในระดับนึง พี่เป้หวีดเสียงครางอย่างเก็บอารมณ์ไม่ได้ เมื่อโดนผมกระเด้าเย็ดก้นเธอในท่าหมา กลีบเนื้อตรงปากรูหลังของเธออ้าบานออกยู่ไปตามจังหวะการสาวควย สองมือของผมก็ไม่ยอมอยู่นิ่ง ใช้มือซ้ายล้วงควักเขี่ยแตดเธออย่างหนัก ส่วนอีกมือก็บดบี้ขยำหน้าอกเธอไปพร้อมๆ กัน

“อ๋าาาาาา......... อ๋าาาาาาาาาาา.....าาาาา...” เสียงโหยหวนของสาวรุ่นพี่ ที่กำลังปล่อยตัวปล่อยใจให้ผมเย็ดก้นอยู่สร้างความสะใจและเงี่ยนง่านในอารมณ์ให้กับตัวผม ทั้งคนที่กำลังแสดงบทรักอยู่ในคลิป รวมถึงคนที่กำลังนั่งรูดควยชักว่าวตามอยู่หน้าจอ อืมมมมมม พี่เป้นี่เป็นผู้หญิงที่สุดยอดจริงๆ แม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนที่สวยโดดเด่นแต่ก็จัดเป็นผู้หญิงน่ารัก นิสัยดี ออกห้าวๆ นิดๆ เต็มไปด้วยสเน่ห์มัดใจจนทำให้มีหนุ่มๆ ในคณะแวะเวียนมาจีบเธอมากมาย ก่อนที่จะเป็นพี่บอย รุ่นพี่คนสนิทของผมนี่แหละ ที่คว้าหัวใจเธอมาครองจนได้ในที่สุด ใครจะไปนึกล่ะครับว่าผมจะได้มีโอกาสเย็ดเธอตัวเป็นๆ แบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่บอยผัวเธอยอมเปิดโอกาสให้

เธอเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวเลยนะเนี่ย ที่ผมอดนึกเสียดายไม่ได้ที่ต้องห่างๆ กับเธอไปในตอนหลัง เพราะดันตกปากรับคำกับพี่บอยไปอย่างหนักแน่น จนไม่มีโอกาสได้หวนกลับไปสนุกด้วยกันอีก แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยผมก็ยังมีคลิปของเธอเอาไว้ดูแก้คิดถึงอยู่แบบตอนนี้ไง อาห์ ภาพบนจอตอนนี้ฉายให้เห็นสภาพคุณแม่ยังสาว กำลังถูกผมเย็ดก้นอย่างเมามัน เต้านมของเธอแกว่งกระเด็นไปมา ส่ายหน้าสะบัดด้วยความเสียวซ่าน ปากก็ร้องครวญคราง

“โอ๊ยยยย.... โจ้! มันเจ็บ!.... ก้นพี่..... จะฉีกแล้วว! ฮืออออ....”
“แป๊บเดียวนะครับพี่ แป๊บเดียว” ผมซอยก้นเธออยู่พักนึง พอเห็นว่าเธอยังคงมีอาการเจ็บมากกว่าที่จะเสียว จึงยอมถอดใจ ถอนควยออกมาจากก้นเธอช้าๆ สภาพรูก้นของเธอตอนนี้แหกอ้าจนจำสภาพเดิมไม่ได้ มันกลายเป็นรูโบ๋ บริเวณปากขอบเป็นรอยสีแดงแจ๋อย่างน่าหวาดเสียว ผมค่อยๆ เปลี่ยนมาสอดควยเข้าทางประตูหน้าของเธอแทน โน้มตัวเธอเอนมาด้านหลัง ขณะที่ตัวเองก็ค่อยๆ เอนหลังนอนหงายลงกับเตียง จนกลายเป็นว่าเธอกำลังนั่งขย่มควยผมอยู่ในท่ารีเวิร์สคาวเกิร์ลในที่สุด

“อูยยยยย.... อืมมมมม์.... ” พี่เป้กัดฟันปล่อยเสียงครางหลุดลอดมาเบาๆ เธอค่อยๆ บดสะโพกโล้ไปมาช้าๆ เหมือนคนกำลังขี่ม้า ผมชอบท่านี้ตรงที่มันได้เห็นอาการของสาวๆ ที่กำลังขึ้นขี่ ออกแรงร่อนก้นขย่มควยเราด้วยลีลาของเธอ แก้มก้นของพี่เป้อ้าออกทุกครั้งที่สะโพกของเธอบดโล้เอนมาข้างหลัง เผยให้สภาพประตูหลังของเธอที่ยับเยิน ยิ่งทำให้ผมอดสะใจไม่ได้ ที่ได้เย็ดรุ่นพี่คนเก่งที่ใครๆ ก็หมายปองซะจนหมดสภาพได้ขนาดนี้ บั้นเอวบางๆ ขาวเนียนของเธอควบขี่ท่อนควยผมไปมาอย่างกับเด็กโล้ชิงช้า มันแกว่งเอนไปด้านหน้าเสียดสีกับคราบน้ำเงี่ยนที่เปรอะเลอะดังพรืดๆ ประเดี๋ยวก็โยกโล้บดไปด้านหลังอีกพรืด พี่เป้เม้มปากแน่นหลับตาปี๋สีหน้าแสดงออกถึงความชอบใจ

“ควยผมสะใจมั้ยครับพี่?”
“หืมมมม?”
“พี่เป้ถูกใจควยผมมั้ยครับ?” ผมถามซ้ำด้วยคำหยาบ เพราะรู้ดีว่าเธอเป็นคนเรียบร้อย และแทบไม่เคยพูดคำพวกนี้กับพี่บอยมาก่อนเวลามีอะไรกัน
“อืออออออ.... อืออออออ” เธอครางตอบผมเบาๆ
“เทียบกับพี่บอยแล้ว... ของใครดีกว่ากันครับ”
“อืมมมม์..... ไม่เอานะโจ้... ถามอะไรน่าเกลียด.... อาาาห์...” เธอพยายามปฏิเสธเสียงสั่นทั้งๆ ที่งยังขย่มควยผมอยู่
“นะครับพี่... บอกหน่อยนะ รู้กันแค่เราสองคนเอง บอกมาเถอะ ผมเย็ดมันกว่าใช่ม้า?” ผมแกล้งกระเซ้าถามเธอต่อ ช่วยเด้งเอวสวนควยเข้าไปในหีเธอให้ลึกขึ้นถึงใจ
“ฮือออ.... ออออ …. อึ่... อื้อออ.. โจ้.... โจ้เย็ดเก่งกว่า... พอใจรึยัง” คำตอบของเธอทำเอาผมอดอมยิ้มไม่ได้ ไม่ใช่เพราะว่าเธอพูดชมที่ผมเก่งกว่านะครับ อันนั้นน่ะผมรู้ดีอยู่แล้ว แต่ดีใจที่ตะล่อมให้สาวเรียบร้อยแบบเธอ พูดคำหยาบๆ ออกมาตรงๆ ได้ต่างหาก

“พี่เป้... ขย่มแบบนี้ เดี๋ยวผมจะแตกเอานะครับ อูยยยยย”
“ฮือออ... โจ้.. พี่..... พี่ก็ไม่ไหวแล้วนะ อืออออ....”
“งั้นพี่เป้แตกพร้อมผมนะครับ ฮึบ” พูดจบผมกับพี่เป้ก็ร่วมแรงร่วมใจกันออกแรงกระเด้าเย็ดควยบดหีกันอย่างถึงใจ เสียงหน้าท้องกระทบแก้มก้นดังสนั่นลั่นห้อง จังหวะที่เธอกำลังเกร็งตัวจะกระตุกเพราะถึงจุดสุดยอดนั้น ผมก็โน้มคอดึงตัวเธอมาจูบแลกลิ้นแบบกวางเหลียวหลัง เร่งเย็ดหีเธอปั้บๆๆๆ ใช้มือขวาเขี่ยขยี้แตดเธอไปด้วยจนน้ำหีเธอทะลักพรั่งพรูออกมาเป็นสายน้ำพุ เปียกเลอะที่นอนไปหมด ผมรูดตามคลิปได้อีกแป๊บเดียว ท่อนควยในมือก็กระตุกหงึกๆ พ่นพิษออกมาจนเลอะกระดาษทิชชู่ที่ถือรองไว้จนเปียกเยิ้ม

ช่วงหลังๆ ผมแทบไม่มีโอกาสได้เจอะเจอกับสาวๆ หน้าใหม่ๆ เพื่อมาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความเสียวเท่าไหร่นัก เนื่องด้วยหนึ่งคือออฟฟิศกำลังใกล้จะถึงช่วงประเมินงานเพื่อปรับโครงสร้างเงินเดือนของพนักงานแต่ละฝ่าย และสองคือแค่คุยกับน้องมิ้นท์คนเดียวก็ทำให้ผมชุ่มชื่นหัวใจมากพอแล้ว เพราะทุกวันนี้เราพัฒนาความสัมพันธ์จนเริ่มที่จะมีการแลกเปลี่ยนรูปภาพเสียวๆ ในไลน์ รวมไปถึงการโฟนคุยเพื่อกระตุ้นอารมณ์อีกฝ่ายไปด้วย

“พี่คิดถึงมิ้นท์จังเลย รู้มั้ยครับ”
“จริงเหรอคะเนี่ย แหมไหนบอกช่วงนี้งานยุ่งไงคะ ไม่เอาเวลาไปคิดงานล่ะ ฮี่”
“โธ่ ก็ทำไงได้ล่ะครับ ก็มิ้นท์ทั้งสวย... ทั้งเซ็กซี่แบบนี้ แค่นึกถึงทีไร พี่ก็ปวดกางเกงทุกทีเลย...”
“ว้าย! พี่โจ้อ่ะ ทะลึ่ง!.... แล้วยังไงคะ คิดถึงมิ้นท์แล้วแอบทำอะไรคนเดียวรึเปล่า...?”
“ว้า เขินจัง โดนจับได้ซะแล้ว.... มิ้นท์รู้มั้ยครับว่าตอนนี้ พี่กำลังรูดมันเบาๆ อยู่เลย ยิ่งได้ยินเสียงมิ้นท์... ก็ยิ่งเสียว”
“หืมมมมมม ใครน้าซนจริงๆ มาแอบฟังเสียงมิ้นท์แล้วช่วยตัวเองเฉยเลย ว่าแต่แอบแข็งอยู่รึเปล่าเนี่ย ฮิฮิ?”
“เดี๋ยวมิ้นท์ลองดูด้วยตัวเองดีกว่า”

ผมพูดจบก็กดถ่ายภาพควยตัวเองที่กำลังผงกหงึกๆ ส่งไปให้เธอดู เธอเงียบไปพักนึงจนผมแอบใจหาย ก่อนที่จะส่งภาพตัวเองกลับมาสองภาพ ภาพแรกเป็นภาพเรียวขาขาวๆ ของเธอ ด้านบนมีหมอนสีขาวใบใหญ่ปิดของสงวนของเธอไว้จนมิด ส่วนอีกภาพนึงที่ทำให้ผมต้องควยแข็งกว่าเดิม ก็คือภาพสองเต้าเปลือยเปล่าของเธอแบบเต็มๆ ตา แม้จะไม่เห็นหน้าแต่ก็รู้ได้ทันทีว่าใช่เธอแน่นอน ด้วยความที่เงี่ยนจนทนไม่ไหวแล้ว ผมเลยตัดสินใจชวนเธอวิดีโอคอลไปเลยตรงๆ

“มิ้นท์ครับ มิ้นท์รู้มั้ยว่าพี่เสียวควยจนจะทนไม่ไหวแล้วนะ”
“อืมมมมมม์ มิ้นท์ก็เสียวเหมือนกัน..... ดูสิหีเปียกไปหมดแล้วเนี่ย” เธอพูดแล้วก็จ่อกล้องไปที่ร่องเสียวกลางตัวซึ่งเปียกเยิ้มทั่วหน้าขา มือซ้ายของเธอก็กำลังเขี่ยเม็ดเสียวของตัวเองไปด้วย เราโฟนเสียวกันจนใกล้จะเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่
“อูยยยยยย..... มิ้นท์จ๋า..... มิ้นท์จะเสร็จรึยัง...?”
“อาาาาาาาห์......เสร็จแล้วค่ะ....... มิ้นท์เสร็จแล้วค่ะะะ.....โอ๊ยพี่... น้ำจะแตก.....กกก” เสียงเธอครางหนักๆ เร่งให้ผมต้องรีบสาวควยเพื่อเตรียมกระฉูดน้ำแตกตามเธอ

ตื๊ดดดดดดดดดดดดดดดด จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของผมก็สั่นขึ้นมา เล่นเอาผมแทบหงายหลังตกเตียงในจังหวะที่กำลังจะน้ำแตกอยู่แล้ว หน้าจอแสดงให้เห็นว่ามีใครบางคนกำลังโทรเข้ามาอยู่
“อีห่ากุ๊กกกกกกกก” ผมสบถเบาๆ กับตัวเอง ปกติแล้วมันจะไม่ค่อยโทรเข้าเครื่องผมเวลาดึกๆ แบบนี้ ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญอะไรจริงๆ เกี่ยวกับงาน ผมเลยตัดสินใจขอตัวจากมิ้นท์ครู่นึงเพื่อรับสายมัน

“ฮัลโหล ว่าไงไอ้อ้วน?”
“ลุง นอนยัง? คุยได้ป่าว?”
“เออ ก็กำลังคุยกับมึงอยู่เนี่ย”
“เอ้อๆ หนูจะถามว่าพรุ่งนี้สายๆ ลุงว่างมั้ย? จะชวนไปฟังสัมมนาดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งที่ศศินทร์อ่ะ”
“โอ๊ย มึงค่อยชวนพรุ่งนี้ก็ได้ม้างง”
“ไม่ได้ดิลุง หนูจะตอบลงทะเบียนเค้าอยู่เนี่ย งานมันเริ่ม 10 โมงเช้า บอกพรุ่งนี้ลุงจะตื่นทันเหรอ ตกลงว่างป่าว ตอบบบบ”
“เออๆ ไปก็ได้ จะหาคนขับรถให้ล่ะสิมึง”
“ฮิฮิ โอเคงั้นหนูลงทะเบียนเลยนะ บายยยย” แล้วยัยตัวแสบก็ตัดสายไป ทิ้งให้ผมต้องนั่งควยเหี่ยวอารมณ์ค้างจากกิจกรรมเมื่อครู่แบบเซ็งๆ