วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ฟูมฟักรสรักให้เมียสาว เสียวคูณสอง #2


หลังจากที่เป้แต่งงานกับบอย แฟนหนุ่มรุ่นพี่ได้ราวๆ 2-3 ปี อาการผิดปกติบางอย่าง ก็เริ่มคืบคลานเข้ามาทักทายกิจกามความรักของทั้งคู่อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว นั่นก็คือการที่อาวุธประจำกายของบอย ไม่ค่อยจะปึ๋งปั๋งซู่ซ่าเหมือนเดิมซักเท่าไหร่ บางทีก็แข็งตัวเป็นช่วงสั้นๆ บางครั้งแค่เริ่มเย็ดกันไปได้ไม่เท่าไหร่ หนุ่มบอยก็ชิงน้ำแตกเสร็จกิจไปเสียก่อน จนต้องเปลี่ยนมาใช้นิ้วและปาก ช่วยตกเบ็ดเพื่อส่งสาวเป้ให้ตามขึ้นสวรรค์ไปแทน

ซึ่งด้วยความที่หญิงสาวเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องพวกนี้กับใครมาก่อน เธอจึงค่อนข้างที่จะอับจนหนทาง และไม่รู้จริงๆ ว่าไอ้เจ้าอาการห่อเหี่ยวเกี๊ยวหดของสามีเนี่ย มันเป็นผลมาจากอะไรกันแน่ ได้แต่เก็บความหงุดหงิดจากปัญหาที่เกิดขึ้นเอาไว้ในใจลึกๆ ไม่กล้าแสดงมันออกมา เพราะกลัวว่าจะไปกระทบกระเทือนจิตใจของผู้เป็นสามีเสียก่อน เพราะนอกจากเรื่องนี้แล้ว ชีวิตคู่ของทั้งสองคนก็ดูจะราบรื่นเสมอต้นเสมอปลายเป็นอย่างดี

ยิ่งโดยเฉพาะช่วงที่เธอท้องลูกชายคนแรกใหม่ๆ นั้น สาวเป้เองก็แทบจะไม่ได้สนใจให้ความสำคัญกับเรื่องบนเตียงเลยซักเท่าไหร่ เพราะเธอนั้นแทบจะไม่มีเวลาทำอะไรเลยนอกจากเลี้ยงลูก เลี้ยงลูก แล้วก็เลี้ยงลูก แค่การต้องคอยเช็ดอึเช็ดอ้วก ตื่นมากล่อมลูกนอนตอนตี 2-3 ทุกคืนๆ ก็เป็นภาระหน้าที่มากพอแล้ว จึงทำให้เซ็กส์ของทั้งคู่ เหมือนถูกจำกัดสิทธิ์การใช้งานไปโดยปริยาย

แต่ถึงเป้เองจะไม่ได้แสดงท่าทางเดือดเนื้อร้อนใจใดๆ ออกมา แต่ทางฝั่งของบอยนั้นเล่า นับวันจะยิ่งออกอาการเคร่งเครียดกับอาการหย่อนสมรรภาพของตัวเองมากขึ้นทุกที และส่งผลให้เวลาที่ทั้งคู่มีอะไรกัน สามีหนุ่มก็มักจะมีท่าทีอึดอัด และชักจะไม่ค่อยมีความสุขกับกิจกรรมบนเตียงเหมือนแต่ก่อน และทำให้สาวเป้เองก็เริ่มจะอดสงสารสามีตัวเองไม่ได้

จนกระทั่งตาบอยดันเกิดบรรเจิดไอเดียแผลงๆ ขึ้นมา ด้วยการเอ่ยปากให้ภรรยาสาวลองไปกุ๊กกิ๊กกับหนุ่มๆ คนอื่นขึ้นมาซะดื้อๆ เพื่อหวังจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ตื่นเต้นของทั้งคู่ให้กลับคืนมาอีกครั้ง ถึงตอนนั้นแหละ.. สาวเป้จึงชักจะเริ่มรู้สึกสงสารตัวเองขึ้นมาแทน

มันเป็นความคิดสุดแสนจะแปลกประหลาด ที่ทำเอาสาวห้าวอย่างเธอถึงกับหน้าชาขึ้นมา เมื่อนึกภาพว่าตัวเองจะต้องไปแสดงท่าทีออดอ้อนออเซาะผู้ชายคนอื่น ซึ่งไม่ใช่สามีของตัวเองแบบนั้น ซึ่งหนุ่มคนที่ว่านี้ก็คือเจ้าต้น กราฟฟิกรุ่นน้องคนใหม่ที่ออฟฟิศของเป้ ซึ่งนอกจากจะหน้าตาดีแล้ว ยังค่อนข้างจะสนิทสนมกับเธออยู่พอสมควร

ซึ่งทันทีที่บอยได้รู้เรื่องนี้เข้า  แทนที่ผู้เป็นสามีจะออกอาการหึงหวง กลับเอ่ยปากยุยง ทั้งกล่อมทั้งตะล่อมให้เธอลองไปคบต้นเป็นกิ๊กขึ้นมาซะอย่างนั้น!

=======================================

“เป้จ๋าาา” เสียงบอยร้องออดอ้อนหวานแหววมาแต่ไกล
“ว่างาย?” เป้ขานรับกลับไปด้วยเสียงยียวนกวนประสาทไม่แพ้กัน เพราะเธอรู้ดีว่าน้ำเสียงออดอ้อนของสามีแบบนี้คงจะหนีไม่พ้นเรื่องทะลึ่งๆ อีกเป็นแน่

“เรื่องน้องต้นน่ะ... เป็นไงบ้าง? ตกลงน้องเค้ายังตามจีบเป้อยู่อีกอ๊ะป่าว?” หนุ่มบอยโพล่งขึ้นมาดังคาด
“จีบเจิบอะไรเล่า! บอยนี่ก็เพ้อเจ้อไม่เลิก ก็บอกแล้วไงว่าแค่สนิทกันเฉยๆ จะหึงอะไรนักหนาเนี่ย หืมม?” เธอตอบกลับไปน้ำเสียงขุ่นๆ นึกรำคาญใจที่สามีตัวแสบยังไม่ยอมเลิกพูดเรื่องนี้เสียที

“บ้า... ไม่ได้หึง ก็แค่ถามๆ ดู ก็เห็นบอกว่าสนิทกัน แต่ไหงช่วงนี้ดูเงียบๆ ไป ไม่เห็นมีอะไรมาเล่าให้เราฟังมั่งเลย”
“อ้าว... ก็มันไม่มีอะไรจะเล่านี่นา ก็ไม่ได้อะไรกันจริงๆ อ้ะ” เป้ตอบกลับไปซื่อๆ
“เหรอๆ... ก็ดีแระ นึกว่าจะแอบไปกุ๊กกิ๊กกันลับหลังเราซะอีก” บอยแกล้งพูดดักคอด้วยน้ำเสียงระรื่น เป้เห็นท่าทางของสามีตัวเองแล้วก็นึกหมั่นไส้ เลยแกล้งตามน้ำไปด้วยแบบเนียนๆ

“ก็แล้วถ้าแอบไปจริงๆ บอยจะรับได้ป่ะล่ะ?” หญิงสาวพูดแล้วอมยิ้มเจ้าเล่ห์
“ห๊ะ!? นี่จะบอกว่า... แอบไปกันมาแล้วเหรอ...? เฮ้ย...! เล่าต่อดิ้ เร็วๆ” หนุ่มบอยที่ได้ยินก็ออกอาการหูผึ่งตาโต รีบเร่งเร้าบอกให้ภรรยาสาวเล่าต่อทันที จนเธออดขำกับอาการตื่นเต้นของผู้เป็นสามีไม่ได้

“ก็... วันก่อนใช่ป่ะ ที่เป้บอกว่าเป้ไปกินกับน้องๆ ที่แผนกมาอ่ะ” เป้เริ่มต้นเล่าย้อนความ
“อือ” บอยรีบพยักหน้าอือออตาม
“แต่จริงๆ แล้วคือ คนอื่นเค้าไม่ว่างกัน บางคนก็ติดงานมั่ง บางคนก็มีนัดซ้อน สุดท้าย... มันเลยเหลือแค่เป้กับต้นสองคนที่ไปเว่ย...” พอเธอพูดประโยคนี้จบ ก็แอบสังเกตเห็นบอยกำลังกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกพอดิบพอดี

“ตอนแรกก็กะว่าแค่จะไปกินข้าวเย็นกันเฉยๆ แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านนั่นแหละ แต่พอดีเห็นว่ามันดึกมากแล้ว ก็เลยตัดสินใจขับรถไปส่งน้องเค้าที่หอดีกว่า แล้วพอไปถึงหน้าหอ ต้นเค้าก็ชวนเป้ขึ้นไปนั่งพักเหนื่อยข้างบนอ่ะ”
“แล้ว.. แล้วเป้ไปเปล่า?” บอยถามกลับด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ออกอาการเหมือนคนกำลังตื่นเต้น

“คือจริงๆ เป้ก็ไม่ได้กะจะขึ้นไปหรอกนะ แต่มันปวดฉี่ขึ้นมาพอดีอ่ะบอย ก็เลยว่าจะขอแค่แวะเข้าไปฉี่ แล้วจะได้รีบลงมา ไม่กล้าอยู่นาน แต่พอเข้าห้องน้ำทำธุระอะไรเสร็จ ตอนที่จะขอตัวกลับ... น้องเค้าดันดึงเป้เข้าไปกอดเว่ย! เป้งี้ตัวแข็งทื่อเลยอ้ะ..” หญิงสาวพูดจบก็รีบก้มหน้าหลบตาสามี

“หา? นี่เค้าลวนลามเป้เหรอ!?” บอยถามออกมาด้วยท่าทีตกใจ แต่ในความตกใจนั้นกลับแฝงเอาไว้ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ ฝ่ายเป้ที่ได้ยินก็เอาแต่ก้มหน้านิ่งไม่ตอบอะไร เหมือนเด็กนักเรียนที่กำลังสารภาพความผิดกับคุณครู
“อย่านิ่งแบบนี้สิเป้...” หนุ่มบอยพยายามคาดคั้นเอาคำตอบออกมาให้ได้

“บอย... บอยสัญญากับเป้ก่อนนะ ว่าถ้าเป้เล่าต่อแล้ว บอยจะไม่โกรธ” เป้พูดด้วยเสียงเบาหวิว ใบหน้าเคร่งเครียดราวกับจะร้องไห้ บอยเองพอเห็นแบบนั้นก็รีบเอามือประคองไหล่ภรรยาไว้ พร้อมกับจ้องสบตาด้วยสีหน้าอ่อนโยน
“เป้ไม่ต้องกังวลนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บอยก็ยังรักเป้เหมือนเดิมแหละ” คำยืนยันจากปากของสามีช่วยมอบความกล้าให้กับเป้ได้พอสมควร เธอสูดลมหายใจลึกๆ อยู่สองสามที ก่อนที่จะกลั้นใจพูดต่อ

“ก็พอต้นเค้ากอดเป้ใช่ป่ะ... แล้วเค้าก็พยายามจะโน้มตัวลงมาจูบอ่ะ” เป้เล่าออกมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก บอยจึงพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงตอบรับ
“แล้ว... จังหวะที่ใบหน้าเค้าขยับเข้ามาใกล้...” เธอหยุดเว้นช่วงอีกครั้ง สังเกตเห็นหยดเหงื่อที่ผุดซึมขึ้นมาบนหน้าผากของสามีเป็นเม็ดๆ เต็มไปหมด

“พอต้นกำลังเผยอปากจะเข้ามาจูบเป้... แล้วจู่ๆ... ก็มีเอเลี่ยนพุ่งทะลุออกมาจากปากต้นเว่ย!” เป้พูดพร้อมกับทำท่าทางประกอบ เล่นเอาหนุ่มบอยที่กำลังตั้งใจฟัง ตั้งใจลุ้นอยู่ ถึงกับหลุดปากร้องอุทานออกมาด้วยความงุนงง
“ห๊ะ!? เอเลี่ยน??.... เดี๋ยวนะ... นี่เธอมั่วขึ้นมาเหรอเนี่ย?”
“อ้าว! รู้ได้ไงอ่ะ? นี่นึกว่าเล่าได้เนียนแล้วนะเนี่ย” เธอรับสารภาพแบบง่ายๆ พร้อมกับยิ้มยิงฟันใส่หน้าทะเล้น

“ไม่รู้ก็บ้าแล้ว โว้ะ! ไอ้เราก็นึกว่าจริงจัง ที่แท้ก็โม้เป็นตุเป็นตะ” บอยบ่นงุบงิบๆ เสียงเซ็งๆ
“แหมมมม... พ่อคุณค้า นี่ใจคออยากให้เมียไปมีกิ๊กจริงๆ รึไงคะ พอฟังเค้าเล่าแล้วถึงได้ออกอาการ 'จู๋โด่' ซะขนาดนี้ หืมม” หญิงสาวแกล้งพูดแซวพลางชี้ไม้ชี้มือไปที่เป้ากางเกงนอนของสามีหนุ่ม
“บ้า! ไม่เกี่ยวเฟ้ย แค่ปวดฉี่เฉยๆ เหอะ” หนุ่มบอยรีบพูดแก้ตัว พร้อมกับเอียงตัวหลบด้วยความเขินที่ถูกจับไต๋ได้

สาวเป้ที่เห็นแบบนั้น ก็เลยอดนึกกังวลขึ้นมาไม่ได้ เมื่อเห็นว่าสามีตัวเอง ดันเกิดอารมณ์ขึ้นมาเพราะเรื่องพวกนี้ ซึ่งหลังจากที่ฝืนใจแข็งยืนกรานปฏิเสธมานานสองนาน ในที่สุดเป้ก็ทนเสียงรบเร้าออดอ้อนของหนุ่มบอยไม่ไหว และตัดสินใจที่จะยอมทำตามความต้องการของสามี ด้วยการลองไปเที่ยวกับต้นดูซักครั้ง เพื่อหวังว่าเจ้าอาการเพี้ยนๆ ของสามีเธอในช่วงหลัง มันจะทุเลาลงไปบ้าง..

=======================================

“นี่... ถามจริงๆ นะ บอยไม่หึงไม่หวงมั่งเหรอ? ที่จะให้เป้ไปดูหนังกับต้นสองคนน่ะ” เป้กระซิบถามผู้เป็นสามีซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ ด้วยความกังวล ภายหลังจากที่เธอตัดสินใจยอมรับคำชวนไปดูหนังกับหนุ่มรุ่นน้องสองต่อสอง
“อือ...ออ เป้ยังกังวลอยู่อีกเหรอ?” หนุ่มบอยตอบเสียงออกงัวเงียนิดๆ
“อืม...” เธอครางตอบเบาๆ
“ไม่ต้องคิดมาหรอก ก็แค่ลองไปเที่ยวกับน้องเค้าสนุกๆ ซักวันนึง คิดซะว่าเปลี่ยนบรรยากาศก็ได้”

“แต่ว่า... งี้มันก็เหมือนกับเป้แอบหนีไปมีกิ๊กลับหลังบอยเลยอ่ะดิ” เป้ระบายความรู้สึกอึดอัดในใจออกมา
“บ้า เป้จะแอบไปลับหลังเราได้ไง ก็ในเมื่อเราเป็นคนบอกให้เป้ไปเองอ่ะ” ชายหนุ่มตอบกลับมาพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แนบแน่นขึ้นไปอีก
“อือ... แต่เป้ว่ามันยังไงๆ ก็ไม่รู้...” หญิงสาวยังคงคาใจไม่หาย

“อย่าคิดมากเลยนะคนดี นอนเถอะ ดึกมากแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าเราต้องตื่นไปทำงานอีก” บอยชิงพูดตัดบทก่อนจะหนีเข้าห้วงนิทราไปคนเดียว ทิ้งให้ภรรยาสาวได้แต่พยายามข่มตานอนด้วยความยากลำบากตามลำพัง จนกระทั่งเผลอหลับไปในอ้อมกอดของสามีโดยไม่รู้ตัว

พอเช้าวันต่อมา เป้เองก็ยังไม่สามารถสลัดอาการสับสนออกไปจากหัวได้ซักเท่าไหร่ รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นเด็กนักเรียนตัวน้อย ที่กำลังจะลองแอบนอกลู่นอกทาง หัดโดดเรียนเป็นครั้งแรก เพียงแต่การโดดเรียนในครั้งนี้... ดันเป็นการเดินออกทางหน้าประตูโรงเรียนแบบโทงๆ โดยมีคุณครูฝ่ายปกครองอาสาเป็นคนเปิดประตูให้น่ะสิ...

และแม้ว่าผู้เป็นสามีอย่างบอยจะยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ จนเธอพอจะแน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายเต็มใจปล่อยให้ตัวเองไปเที่ยวกับหนุ่มรุ่นน้องจริงๆ แต่กลับมีอีกปัญหานึงที่ผุดขึ้นมาแทนที่ นั่นก็คือ แล้วเธอจะทำตัวกับต้นยังไงล่ะเนี่ย? ด้วยความที่นี่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเดทแรกในรอบสิบกว่าปี ที่เป้จะได้ออกไปดูหนังสองต่อสอง กับผู้ชายซึ่งไม่ใช่สามีของตัวเองแบบจริงๆ จังๆ

พอคิดแบบนี้แล้วเป้ก็อดตลกตัวเองไม่ได้ ทั้งๆ ที่เธอก็ออกจะสนิทสนมกับหนุ่มต้นอยู่ไม่น้อย และที่ผ่านมาทั้งคู่ก็เคยพูดคุยเปิดอกกันมาพอสมควรในฐานะพี่ๆ น้องๆ ที่ทำงาน แต่พอจะต้องมาเริ่มต้นพูดคุยกันใหม่ในสถานะของชายหนุ่ม-หญิงสาวธรรมดาๆ แล้ว เธอก็กลับรู้สึกเก้ๆ กังๆ ขัดๆ เขินๆ ขึ้นมาชอบกล ซึ่งอาการที่ว่านี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่กับเธอเท่านั้น แต่ยังลามไปติดที่หนุ่มต้นอีกด้วย และทำให้ตลอดทั้งวันนั้น ทั้งสองคนแทบจะคุยงานกันไม่รู้เรื่องเลยซักนิด

ความเขินอายที่เกิดขึ้น ทำให้เมื่อทั้งสองไปถึงโรงหนัง ต่างฝ่ายต่างก็เอาแต่จับจ้องเพ่งสมาธิไปที่หน้าจอโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา จนเป้เริ่มใจชื้นขึ้นมาว่าอะไรๆ  นั้นก็อาจจะไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เธอคิดนัก และเหตุการณ์ต่างๆ ก็คงจะผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่แล้วจู่ๆ... ต้นก็ขยับตัวโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนเธอแอบตกใจ ก่อนที่จะใช้มือป้องปากกระซิบข้างหูเธอเบาๆ โดยพยายามไม่ให้คนอื่นได้ยิน

“พี่เป้ ผมขอจับมือได้มั้ย?” คำพูดของต้นเล่นเอาสาวเป้ถึงกับอึ้งไปเลย ใบหน้าร้อนผ่าวๆ ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไม่นึกว่าหนุ่มรุ่นน้องจะกล้ารุกเร็วขนาดนี้ ทั้งที่ตอนก่อนเข้าโรง เธอก็เคยแอบคิดๆ ไว้เล่นๆ ว่าอาจจะต้องมาเจอกับสถานการณ์ล่อแหลมแบบนี้ได้ แต่พอถึงเวลาต้องมาเจอจริงๆ เธอกลับทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าแม้แต่จะตอบปฏิเสธออกไป

“นะครับพี่” ต้นเอ่ยขอซ้ำ ก่อนจะยื่นมือไปกุมมือสาวรุ่นพี่ด้วยความรวดเร็ว เป้รู้สึกว่ามือตัวเองเย็นยะเยือก ไม่มีแรง ท่อนแขนเกิดหนักอึ้ง มือสั่นไปหมด ใจนึงก็รู้สึกเขินอยากจะสะบัดมือหนีไปให้พ้นๆ แต่อีกใจนึงก็กลับรู้สึกถึงความอบอุ่นจากฝ่ามือของอีกฝ่ายที่ส่งผ่านมา สุดท้ายก็เลยได้แต่ปล่อยให้เขานั่งกุมมือของเธอไว้อย่างนั้นจนกระทั่งหนังจบ โดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก

หญิงสาวรุ่นพี่พยายามฝืนตั้งใจดูหนังต่อไปเงียบๆ ทั้งที่ในหัวนั้นเบลอซะจนแทบจะดูหนังไม่รู้เรื่อง พอตัวหนังสือเครดิตลอยขึ้นมา เธอจึงเหมือนจะได้สติ รีบดึงมือตัวเองให้หลุดพ้นจากการจองจำของชายหนุ่มรุ่นน้องทันทีด้วยความเขินอาย ขยับลุกออกจากที่นั่งแล้วเดินจ้ำออกจากโรงด้วยความเร่งรีบ นึกกลัวไปว่าจะเจอคนรู้จักขึ้นมาอย่างกะทันหัน โดยมีหนุ่มต้นเดินก้าวตามหลังมาแบบติดๆ

พอเดินมาถึงที่ลานจอดรถ อาการเขินเกร็งของเธอจึงค่อยๆ จางหายลงไปบ้าง พอหันกลับไปมองด้านหลังก็เห็นหนุ่มต้นยืนยิ้มๆ อยู่ข้างหลังไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่ เธอจึงได้แต่ส่งยิ้มตอบกลับไปเขินๆ เมื่อนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่พึ่งจะเกิดขึ้นในโรงหมาดๆ เป้เอ่ยปากชวนต้นขึ้นรถ เพื่อที่จะขับไปส่งใกล้ๆ หอ แต่ชายหนุ่มกลับส่ายหน้าเบาๆ

“ไม่เป็นไรครับพี่ เดี๋ยวผมว่าจะแวะลงไปซื้อของกินไว้ติดห้องอีกหน่อย” ต้นเอ่ยปฏิเสธอย่างสุภาพ
“เฮ้ย เดี๋ยวพี่รอก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจ” เป้ยังพยายามเอ่ยชวนรุ่นน้องอีกรอบ
“ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ พี่เป้กลับเถอะ ดึกแล้ว แฟนกับลูกรอแย่แล้วมั้ง” คำพูดของต้นที่เอ่ยถึงสามี ทำให้เป้นึกย้อนไปถึงเรื่องที่บอยเคยพูดยุๆ เรื่องที่จะปล่อยให้ต้นเข้ามาจีบเธอขึ้นมา

“เออต้น... พี่ถามอะไรหน่อยสิ เข้ามาคุยกันในรถก่อนมั้ย ยุงเยอะ” เป้เอ่ยปากชวนต้นให้เข้าไปนั่งคุยกันข้างใน
“ว่าไงครับพี่?” ต้นเอ่ยถามขณะเอื้อมมือปิดประตูรถ สาวรุ่นพี่จึงสตาร์ทเครื่อง เปิดแอร์เย็นฉ่ำ แล้วจึงเข้าประเด็น
“ทำไมเมื่อกี้ต้นถึงขอจับมือพี่ในโรงหนังล่ะ?” คำถามของเธอดูจะสร้างความอึดอัดใจให้กับชายหนุ่มอยู่พอสมควร เขาได้แต่นั่งอึกๆ อักๆ เหมือนกำลังพยายามคิดสรรหาถ้อยคำดีๆ เพื่อที่จะตอบเธอ

“คือ... ผม... ผมชอบพี่เป้ครับ” ต้นสารภาพความรู้สึกลึกๆ ในใจออกมาในที่สุด เธอเองน่ะพอรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอดใจสั่นไม่ได้ เมื่อตอนที่ได้ยินถ้อยคำจากปากของเขาชัดๆ เต็มสองหูแบบนี้
“ผมรู้ครับว่ามันไม่ควร เพราะพี่เองก็มีแฟนอยู่แล้ว แต่ผมห้ามใจไม่ได้จริงๆ” ชายหนุ่มยังคงพรั่งพรูความรู้สึกออกมาไม่หยุด

“เอ่อ... ต้นพูดจริงเหรอ?” เป้เอ่ยถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“จริงครับ.. ผมชอบพี่เป้จริงๆ นะครับ” ต้นรีบตอบกลับมาทันควันด้วยความหนักแน่น ทำให้เธอต้องยอมเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันแสนจะอึดอัดที่เกิดขึ้น โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงไปไหนได้อีก

“แต่ว่า... พี่ก็ไม่ใช่สาวๆ สวยๆ แล้วนะต้น... อีกไม่กี่เดือนพี่ก็จะ 32 อยู่แล้ว อายุรึก็ห่างจากต้นตั้ง 6 - 7 ปี ที่สำคัญก็คือ พี่เองก็มีครอบครัวแล้ว... มีลูกแล้ว... ต้นคิดดีแล้วเหรอที่จะมาเสียเวลากับพี่อยู่แบบนี้” หญิงสาวพยายามพูดเตือนรุ่นน้องออกไปตรงๆ หนุ่มหล่อวัยเบญจเพสก้มหน้านิ่งไป สีหน้าดูจะสลดลงไปพอสมควร

“แล้วที่ผ่านมา... พี่เป้... ไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมเลยเหรอครับ?” ต้นเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับคำถามจี้ใจดำ
“มันก็ไม่ใช่อย่างนั้น คือพี่... พี่ก็ไม่รู้จะตอบยังไงว่ะต้น ที่ผ่านมา ต้นเองก็เป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นรุ่นน้องที่ดีกับพี่มาตลอด... พี่เองก็รักต้นเหมือนน้องชายแท้ๆ คนนึง”
“แล้วในฐานะผู้ชายล่ะครับ พี่เป้คิดยังไงกับผม?” สาวเป้ชักจะเริ่มจนมุมกับคำถามของหนุ่มต้น ได้แต่นั่งนิ่งไม่รู้จะตอบออกไปยังไงดี

“ไม่เป็นไรครับพี่ พี่เป้ไม่ต้องพยายามหาคำตอบให้ผมสบายใจหรอก... ถ้ายังไง เดี๋ยวผมขอตัวไปซื้อของก่อนนะ ดึกแล้ว เดี๋ยวซูเปอร์มันปิดซะก่อน” ต้นพูดตัดบทดื้อๆ ก่อนจะเปิดประตูออกไปโดยไม่รอคำตอบ เป้จึงต้องจำยอมขับรถกลับบ้าน ด้วยอารมณ์ที่ยังคงปั่นป่วนค้างคาอยู่ภายใน

พอถึงบ้าน ภรรยาสาวก็ถูกสามีหนุ่มที่รอคอยอยู่ จู่โจมด้วยคำถามเจาะใจทันที  ซึ่งเธอเองก็ยอมเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างไปตามตรง ทั้งเรื่องที่ต้นขอจับมือ และเรื่องที่หนุ่มรุ่นน้องมาสารภาพความรู้สึก ซึ่งเธอเองก็ตัดสินใจไปแล้วว่าจะพูดเคลียร์กับต้นไปเลยตรงๆ เพราะไม่อยากให้ความหวังล้มๆ แล้งๆ จนเขาต้องมาเสียเวลากับเธออยู่แบบนี้

แต่แทนที่บอยจะเห็นดีเห็นงามด้วย กลับรีบเอ่ยปากร้องห้ามทันที ซ้ำยังกล้าอนุญาตให้เป้ ยอมไปกิ๊กกั๊กกับหนุ่มต้นจริงๆ จังๆ ซะอีก โดยอ้างว่าจะได้เป็นการบริหารเสน่ห์ เพื่อช่วยกระตุ้นให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ กลับมากระชุ่มกระชวยและคึกคักเหมือนเดิม เล่นเอาเป้แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ที่สามียอมให้เธอไปสนิทสนมใกล้ชิดกับหนุ่มอื่นแบบนี้

แต่พอบอยเริ่มอ้างไปถึงเหตุผลเรื่อง อาการปึ๋งปั๋งของเจ้าท่อนเนื้อกลางตัว ที่เกิดขึ้นเพราะความหึงหวงแล้ว มันก็ทำให้เธอเริ่มที่จะใจอ่อนขึ้นมา เพราะรู้ดีว่าที่ผ่านมา สามีของเธอนั้นกลัดกลุ้มใจถึงเรื่องปัญหาเสื่อมสมรรถภาพของตัวเองอยู่ไม่น้อย พอเห็นท่าทางดีใจของบอยแบบนี้แล้ว เธอก็เลยไม่กล้าไปขัดความรู้สึกของเค้าเท่าไหร่

สุดท้ายแล้ว... เป้ก็เลยโดนบอยที่กำลังหื่นได้ที่ ไล่ปลุกไล่ปล้ำจนขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดไปในห้องน้ำนั่นเอง...

แต่ที่ทำให้เป้แอบแปลกใจก็คือ ยิ่งบอยออกอาการหึงหวงเธอกับต้นมากเท่าไหร่ เจ้าท่อนเนื้อประจำกายของบอยก็ดูจะยิ่งปึ๋งปั๋งคึกคักมากขึ้นเท่านั้น ทั้งลีลาปลุกเร้า ตลอดจนถึงเรี่ยวแรงในการกระแทกกระทั้นก็ดูจะกลับคืนมาอย่างน่าอัศจรรย์ จนแม้แต่เธอเองก็ยังเผลอมีอารมณ์ร่วม และพลอยตื่นเต้นตามไปด้วย

สามีหนุ่มกระแทกไป ปากก็ร้องพร่ำเพ้อถึงชื่อของต้นไปด้วย คอยพูดบิวท์อารมณ์ภรรยาตัวเองว่ากำลังโดนหนุ่มรุ่นน้องกระแทกเอวใส่ไม่หยุด สาวเป้ที่โดนพูดกล่อมเป่าหูไปเรื่อยๆ แม้ตอนแรกจะรู้สึกกระดากอายอยู่ไม่น้อย แต่ความเสียวที่ถูกเร่งเร้าทำให้เธอต้องยอมร้องเรียกชื่อของต้นออกมาในที่สุด...

พอโดนบิวท์ โดนกระแทกไปเรื่อยๆ มันก็ทำให้เธออดที่จะรู้สึกเสียวตามจินตนาการไม่ได้  ยิ่งเรียก บอยก็ยิ่งกระแทกแรงขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็กลายเป็นว่า ยิ่งเสียวยิ่งมันจนลืมความอายไปเลย

“อืมมมม.... อาาาา..... อ๊าาาาา...อ๊ะะ... ต้น..... ต้นนน.... เค้าไม่ไหวแล้วนะ...” เป้แหกปากร้องครวญครางเรียกชื่อต้น ขณะที่ตัวเองกำลังจะถึงจุดสุดยอดในอีกไม่กี่อึดใจ ร่องหีขมิบตอดตุบๆๆ ยิบๆ ฝ่ายบอยที่ได้ยินก็ยิ่งคึก เร่งกระแทกลำควยแข็งปั๋งใส่ร่องเสียวของภรรยา เกิดเป็นเสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่น ป้าบ...! ป้าบบบ...! ป้าบบบ..บบบบบ...!

“เอาเลยเป้ แตกเลย แตกกับต้นนะ” สามีหนุ่มร้องครางละล่ำละลักอย่างสมบทบาท ท่อนลำอวบอ้วนมุดเข้ามุดออกคว้านหมุนวนเป็นวงกลม จนหญิงสาวรู้สึกจุกเสียดไปถึงท้องน้อย ก่อนที่อารมณ์ทั้งหมดจะพุ่งทะยานขึ้นไปถึงขีดสุด แล้วระเบิดโพล๊ะออกมาจนทุกอย่างกลายเป็นสีขาวโพลน...

“อ๊ะะะะ.... อ๊ะะะ.... อ๊าาาาา...!” สาวเป้หวีดร้องออกมาเสียงดังลั่นห้อง รู้สึกร้อนวูบวาบที่กลางหว่างขา อาการเสียวสยิวแล่นผ่านขึ้นมาจากปลายเท้า ไล่ลามขึ้นมาจนถึงใบหน้า ลมหายใจติดขัดไปหมด เนื้อตัวกระตุกเฮือกอย่างควบคุมไม่ได้ ร่องรักภายในขมิบตอดควยสามีถี่ยิบๆ ปล่อยน้ำรักพรั่งพรูออกมาชโลมท่อนลำจนเปียกเป็นมันเงา

มันเป็นการถึงจุดสุดยอดที่รุนแรงที่สุดครั้งนึงในชีวิตของเธอ... ด้วยความที่อาวุธประจำกายของหนุ่มบอยนั้น มันค่อนข้างจะแข็งตัวผิดจากปกติอยู่พอสมควร เลยทำให้เป้รู้สึกเสียววูบวาบ คับแน่นร่องหีไปหมด รสสัมผัสที่ไม่คุ้นชิน ราวกับเป็นท่อนควยของคนแปลกหน้า ทำให้จินตนาการที่ถูกบอยพูดปลุกเร้า เริ่มที่จะชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ...

ช่วงจังหวะที่กำลังตะเกียกตะกายจะถึงฝั่งฝันอยู่นั้น ในหัวของเป้ก็พลันนึกไปถึงภาพใบหน้าของต้น ซ้อนทับกับใบหน้าของบอยโดยไม่รู้ตัว... ซึ่งก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดเข้าไปอีกในภายหลัง เมื่อรู้ว่าตัวเองพึ่งจะเสร็จสมอารมณ์หมายถึงขีดสุด จากจินตนาการที่มีต่อรุ่นน้องที่ทำงาน...

หนุ่มบอยเร่งกระเด้าก้นยิกๆ ใส่ภรรยาได้อีกไม่กี่ที ก็ออกอาการตัวสั่นเกร็ง ก่อนที่จะกระฉูดน้ำเชื้อพุ่งเข้าใส่ท้องหญิงสาวเต็มๆ จนเธอรู้สึกแน่นท่วมไปหมด... ทั้งคู่ค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งพักกับพื้น หอบหายใจตัวโยน ต่างคนต่างสบตากันยิ้มๆ ก่อนที่จะพากันไปล้างเนื้อล้างตัวจนสะอาดหมดจด แล้วจึงพากันขึ้นเตียงนอนด้วยความเหนื่อยอ่อน

คู่สามีภรรยาพากันนอนคุยถึงเรื่องที่พึ่งจะเกิดขึ้นสดๆ หมาดๆ โดยบอยยืนกรานว่าความรู้สึกต่างๆ ของเค้าจะยังคงเดิมโดยไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และมีแต่จะยิ่งรักเป้มากขึ้นไปอีก  แม้ว่าเธอกับต้นจะ 'สนิทสนม' กันแค่ไหนก็ตาม...

สาวเป้ฟังแล้วก็ยังแอบสับสนอยู่ในใจลึกๆ เพราะตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา เธอนั้นไม่เคยคิดจินตนาการถึงภาพที่ตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่นซึ่งไม่ใช่บอยเลยแม้แต่ครั้งเดียว อย่าว่าแต่จะมีอะไรกันเลย... แค่นึกว่าจะไปสนิทสนมกับใครในเชิงชู้สาวก็ยังไม่เคยเลยซักครั้ง จนกระทั่งมาโดนสามีกล่อมเอาในห้องน้ำเมื่อกี้นี่แหละ...

แต่บอยก็ยังคงยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ และอยากให้ภรรยาสาวลองเปิดใจรับความรู้สึกดีๆ ที่รุ่นน้องมีให้ โดยไม่ต้องไปคิดกังวลอะไรให้มันมากความ ซึ่งเป้เองก็ได้แต่อ้อมแอ้มแบ่งรับแบ่งสู้ และยอมรับปากว่าจะลองทำตามใจสามีดูก็ได้ แม้จะยังกล้าๆ กลัวๆ ก็ตาม...

=======================================

น่าแปลกที่พอได้ลองไปเที่ยว ไปใช้เวลาเดินเล่นด้วยกันจริงๆ แล้ว กลับกลายเป็นเธอเองนั่นแหละ ที่ดันรู้สึกมีความสุขแปลกๆ ขึ้นมาซะเอง

แรกๆ เป้ก็ยังแอบขัดเขินนิดๆ บวกกับยังรู้สึกผิดต่อสามีด้วย ที่ตัวเองหนีมาใช้เวลาอยู่กับผู้ชายคนอื่นแบบนี้ แต่พอผ่านไปเรื่อยๆ ความรู้สึกเหล่านั้นมันกลับค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นความรู้สึกแบบเดียวกับที่หนุ่มสาวเค้าเป็นกัน เวลาที่พึ่งคุยจีบกันใหม่ๆ คือมันมีส่วนผสมของความเขินอาย.. ความตื่นเต้น.. ความประหม่า.. ต้องคอยลุ้น คอยวางมาด กังวลว่าพูดเรื่องนี้แล้วอีกคนจะรู้สึกยังไง เค้าจะยังอยากคุยต่อมั้ย หรือพอไม่ได้เจอหน้ากันก็แอบคิดถึงนิดๆ

ถ้าจะอธิบายให้ถูกก็คือ มันเป็นความรู้สึกในแบบเดียวกับที่หญิงสาวเคยรู้สึก เหมือนเมื่อครั้งที่ได้รู้จักกับบอยใหม่ๆ นั่นเอง... ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้ มันก็รุนแรงพอที่จะสั่นคลอนความเชื่อที่เป้เคยยึดถือในเรื่องของการมีกิ๊ก ให้เปลี่ยนแปลงไปในแบบหน้ามือเป็นหลังมือ...

ซึ่งสาวเป้เองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ ว่าไอ้ความรู้สึกที่ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ความหลงชั่วครั้งชั่วคราวธรรมดาๆ หรือเป็นเพียงความรู้สึกดีๆ เวลาที่มีคนมาคอยดูแลเทคแคร์อยู่ใกล้ๆ ซึ่งยังไงๆ ก็คงจะไปเทียบอะไรกับความรักและความผูกพันที่เธอมีให้กับบอยไม่ได้แน่ๆ แต่อย่างน้อยมันก็ยังเป็นความรู้สึกดีๆ ในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่เธอได้รับเวลาอยู่ใกล้ชิดกับต้น

ข้างฝ่ายบอยเอง แทนที่จะออกอาการหึงหวงหรือห้ามปราม กลับยิ่งคึกคักและคอยส่งเสริมเธอเข้าไปอีก  ทุกครั้งเวลาที่มีอะไรกัน ก็มักจะหยิบยกเอาชื่อของต้น ขึ้นมามีส่วนร่วมกับกิจกรรมของทั้งคู่เสมอ บางทีก็สมมติว่าหนุ่มต้นกำลังแอบดูอยู่ใกล้ๆ หรือบางทีก็นึกพิเรนทร์ ให้ภรรยาสาวลองจินตนาการว่าตัวเองกำลังเย็ดกับต้นเลยด้วยซ้ำ

ซึ่งในตอนแรกๆ นั้นเป้ก็ยังก็เขินๆ ไม่กล้าตอบสนองอะไรซักเท่าไหร่ ด้วยความที่เธอเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายที่มีประสบการณ์ช่ำชองทางกามโลกีย์ จู่ๆ จะให้มาแหกปากร้องครวญครางเรียกชื่อผู้ชายคนอื่นต่อหน้าสามีตัวเอง มันก็เลยรู้สึกทะแม่งๆ ชอบกล แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ต้องยอมแพ้ให้กับลูกตื้อของสามีจนได้ และเมื่อมีครั้งที่สองแล้ว... ครั้งที่สามจึงตามมาได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าไหร่

ยิ่งพอมีประสบการณ์บ่อยขึ้น เป้ก็ยิ่งเริ่มกล้าที่จะปล่อยลีลา พูดจายั่วยวนแกล้งสามีได้สะดวกปากขึ้นไปอีก บางทีก็ตั้งใจแกล้งร้องเรียกชื่อต้นออกมาดังๆ เวลาที่โดนหนุ่มบอยกระเด้าเย็ด... สลับกับแกล้งออกอาการเสียวซ่านร่านแตกแบบเต็มที่ไม่มียั้ง เพื่อหวังจะยั่วให้ฝ่ายสามีหนุ่มหึงจนอกแตกตายกันไปข้าง

ส่วนบอยนั้นก็กลับเกิดไอเดียบรรเจิดไม่แพ้กัน ไปหาของเล่นเซ็กส์ทอยเป็นควยปลอมขนาดไม่ใหญ่ไม่ยาวเท่าไหร่ เพื่อเอามาใช้สร้างบรรยากาศเวลาที่ทั้งคู่เย็ดกัน โดยมักจะคอยพูดกระตุ้นให้ภรรยาสาวร่วมจินตนาการไปด้วยว่าดิลโด้ท่อนนั้นก็คือท่อนควยอุ่นๆ ของต้นนั่นเอง

ของเล่นชิ้นนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับภรรยาสาวได้เป็นอย่างมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรก ที่เธอได้มีโอกาสลองใช้เซ็กส์ทอยอย่างจริงๆ จังๆ หลังจากที่เคยได้ยินได้เห็นจากในอินเตอร์เน็ตมานานหลายปีแล้ว แถมยังไม่ใช่การใช้งานในรูปแบบธรรมดาๆ แต่ยังเป็นการจำลองเหตุการณ์สวิงกิ้งอันเร่าร้อนอีกด้วย!

มันเป็นความรู้สึกเสียวซ่านรูปแบบใหม่ที่เป้พึ่งเคยสัมผัส เมื่อได้รับรู้ว่าเรื่องเซ็กส์ ไม่จำเป็นที่จะต้องผูกมัดเอาไว้แค่เพียงชาย-หญิงสองคนเท่านั้น แต่ยังสามารถแบ่งปันความสุขเหล่านี้ร่วมกับคนอื่นๆ ได้อีก...

จังหวะที่บอยกระแทกอัดเธอจากทางด้านหลัง ส่วนปากของเธอก็อ้าอมดูดควยปลอมไปด้วยอย่างเมามันในอารมณ์ โดยคิดจินตนาการไปว่ากำลังใช้ปากดูดควยให้ต้นอยู่ สติสตังของเป้จึงเตลิดเปิดเปิงไปจนกู่ไม่กลับ เซ็กส์แฟนตาซีของทั้งคู่มีแต่จะยิ่งเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ โดยมีต้นเป็นตัวช่วย คอยเสริมสร้างความสนุกให้กับคนทั้งคู่โดยไม่รู้ตัว อย่างที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เคยกล่าวเอาไว้ว่า 'จินตนาการสำคัญกว่าความรู้' นั่นเอง...

=======================================

“ปล่อยพี่นะต้น! โอ๊ย! ซะ... ซี้ดดด...ส์ อย่าเลียตรงนั้น มันเสียวววว” สาวเป้ครวญครางออกมาเสียงกระเส่า ขณะที่กำลังนอนเอนหลังอยู่บนเตียงท่อนล่างเปลือยเปล่า แหกแข้งแหกขาให้หนุ่มบอยซึ่งกำลังสวมบทบาทเป็นต้น ใช้ปากละเลงเลียไปที่เนินเนื้อสาวของเธออย่างเมามัน ทั้งดูดทั้งเม้มจนปุ่มกระสันแทบจะหลุดลอยติดริมฝีปากออกไปด้วย

ช่วงหลังๆ ทั้งคู่มักจะชอบสวมบทบาทสถานการณ์สมมติ โดยทำทีเป็นว่าเป้กำลังถูกต้นปลุกปล้ำขืนใจ ซึ่งแรกๆ เธอก็จะแกล้งดิ้นรนขัดขืนพอเป็นพิธี บางทีก็มีแกล้งแหกปากกรี๊ดกร๊าดเบาๆ เพื่อความสมจริง ซึ่งหนุ่มบอยที่ได้ยินก็จะยิ่งออกอาการปึ๋งปั๋งคึกคัก และยิ่งออกแรงปลุกปล้ำภรรยารุนแรงกว่าเดิม

ก่อนที่หนุ่มต้น(ตัวปลอม) จะลวนลามปลุกเร้าอารมณ์ของเธอจนพุ่งทะยานถึงขีดสุด สติสตังเตลิดเปิดเปิง จนกลายเป็นการสมยอม ปล่อยให้หนุ่มรุ่นน้องได้ตะบันเย็ดเธอด้วยความเต็มใจในที่สุด

“อุ๊.. อู๊ยยยย ซี้ดดดดส์ โอ๊ย.... อย่าคว้านซี่ ทำไมถึงดื้อแบบนี้นะ อื้อออ... อ๊ะ..! ตรงนั้นแหละ อืมม...มม” เป้ใช้สองมือดันศีรษะของสามีให้ขยับลงต่ำ แหกสองขาของตัวเองให้อ้ากว้างกว่าเดิม เพื่อช่วยให้อีกฝ่ายเลียลึกเข้าไปถึงด้านในได้สะดวกยิ่งขึ้น

“แผล่บ... แผล่บบบ.. เสียวดีมั้ยครับพี่เป้” บอยถามเสียงหื่น ขณะกำลังสอดลิ้นกดเข้าไปด้านในโพรงหีเธอ
“อ๊ะ...! โอ๊ยย...ยยย ดี... ดีมากเลยต้น ต... ตรงนั้นแหละ แรงๆ เลย...” เป้บิดตัวดิ้นเร่าๆ ก้นกระดกลอยแทบไม่ติดเตียง ปากก็ร้องสั่งการไปด้วย ในขณะที่ลิ้นปลาไหลของบอยเองก็ทั้งคว้านทั้งดุน สลับกับการดูดกลืนน้ำหล่อลื่นเสียงดังซ้วบบ... ซ้วบบบ..บบบ

ชายหนุ่มใช้ปากเล่นกับหว่างขาของหญิงสาวซะจนแฉะฉ่ำหนำใจ ก่อนที่จะขยับตัวขึ้นมาทาบทับร่างเธอ ถลกชายเสื้อยืดตัวหลวมขึ้นไปจนเต้านมขาวอวบเด้งดึ๋งหลุดออกมา ใช้มือบีบคลึงมันเบาๆ ก่อนที่จะจรดทาบท่อนเนื้ออวบแข็งทิ่มเข้ามาที่หน้าปากประตูอันเปียกลื่น แล้วออกแรงกดพรวดเข้าไปทีเดียวเกือบมิดด้าม

“โอ๊ะ... โอ๊ย...! โอ๊ยๆ... บะ... เบาๆ ก่อนนะ มันแน่น...” เป้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ใช้มือตีลงไปบนไหล่บอย เพื่อเตือนให้เขาทำเบาๆ
“อูยยย พี่เป้ครับ หีพี่ฟิตสุดๆ ไปเลย” บอยเองชักจะติดลมบน หลุดปากพูดคำหยาบออกมาอย่างลืมตัว น้ำเสียงและสีหน้าแสดงถึงความหื่นกระหายแบบสุดๆ ซึ่งปกติแล้วหญิงสาวจะไม่ค่อยชอบให้เขาพูดคำหยาบคายกับเธอซักเท่าไหร่ แต่สำหรับวันนั้น มันกลับกระตุ้นอารมณ์เธอให้เงี่ยนง่านขึ้นไปอีก

“อูยย.. ต้นขาาา... ของต้นใหญ่เหลือเกิน... พี่จุกไปหมด โอ๊ยยย...ยยย” ภรรยาสาวใส่ทั้งจริตและลีลา ร้องครางออกไปอย่างเต็มที่ เพื่อหวังจะแกล้งยั่วให้สามีหึงเล่นๆ แต่มันกลับไปกระตุ้นอารมณ์อีกด้านของชายหนุ่มขึ้นมาซะนี่...
“นี่แน่ะ! นี่แน่ะ! เรียกผมว่าผัวสิครับ เร็วๆ!” บอยเร่งเร้าสั่งการเสียงสั่น ด้วยอารมณ์อินจัด ซึ่งเป้เองก็จัดให้อย่างสมใจ ร้องครางเสียงกระเส่าอย่างหมดอาย

“อ๊ะ! อ๋าาา ผัวขา... โอ๊ยยย ซี้ดดดส์... แรงๆ เลยค่ะ โอ๊ยย... อย่างน้านน” เป้กรีดร้องสะบัดหน้าไปมาอย่างมีอารมณ์
“เป็นไงคะ? ควยผัวเย็ดมันดีมั้ยจ๊ะที่รัก?” บอยยิ่งเร่งอัดกระแทกท่อนลำเข้ามาเสียงดังสนั่น ปั้บ... ปั้บ...บบบ ปั้บ..
“โอ๊ยดีค่ะ... ดีที่สุดเลย โอ๊ยยยย เมียเสียววว” ยิ่งเขากระแทก เธอก็ยิ่งร้อง... ยิ่งเธอร้อง เขาก็ยิ่งกระแทกจนจุกหี

“อุ๊ อูยยย พี่เป้ อย่าลืมดูดควยผัวอีกคนด้วยนะครับ ดูดแรงๆ เลย ซี้ดดดส์” บอยพูดพร้อมกับยื่นส่งดิลโด้ไปจ่อปากเธอ ซึ่งหญิงสาวก็รับเข้าไปอมไว้เต็มปากอย่างว่าง่าย ทั้งเม้มทั้งรูดห่อปาก ราวกับจะกลืนกินมันเข้าไปทั้งท่อนลำ ในหัวก็จินตนาการไปถึงภาพชายหนุ่มคู่ขาทั้งสองคน ที่กำลังรุมกระเด้าเย็ดเธออยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

อารมณ์ของเป้ในตอนนี้กำลังหื่นแตกแบบสุดๆ ถึงขนาดที่ว่า ถ้าเกิดชายหนุ่มแกล้งหยุดชะงักไม่ยอมเย็ดต่อ แล้วในห้องตอนนี้ มีหนุ่มต้นนั่งอยู่ด้วยล่ะก็... เธอก็คงจะหน้ามืดตามัว ร้องเรียกหาให้หนุ่มรุ่นน้องเข้ามารับช่วงเย็ดเธอต่อเพื่อไม่ให้อารมณ์สะดุดอย่างแน่นอน...

เป้โดนบอยกระแทกได้ไม่เท่าไหร่ ก็เริ่มรู้สึกเสียวๆ หน่วงๆ ขึ้นมาบริเวณหว่างขา รู้สึกเนื้อตัวมันเบาๆ หวิวๆ ไปหมด ได้แต่ร้องอู้อี้ๆ พึมพำอยู่ในลำคอ เพราะมีควยปลอมอุดแน่นอยู่เต็มปาก พอจังหวะที่ใกล้จะลอยขึ้นสวรรค์นั้นเอง เธอจึงรีบคายท่อนเนื้อซิลิโคนทิ้ง พร้อมกับแหกปากหวีดร้องออกมาเสียงดังอย่างสุดกลั้น

“อ๊ะ! อ๋ายยย..... อ๋าาาาาา!.... ต้น เค้าเสร็จแล้ววววว...วววว” เป้ดิ้นเร่าๆ บิดตัวไปมาขณะที่กำลังน้ำแตกถึงจุดสุดยอด สองมือขยุ้มจิกผ้าปูเพื่อระบายอารมณ์เสียวซ่าน ในขณะที่สองขาโดนล็อคค้างติดอยู่บนบ่าของบอย ซึ่งกำลังเร่งโหมกระแทกอัดควยเข้ามาไม่ยั้ง เล่นเอาน้ำหีน้ำเงี่ยนเปรอะกระฉอกเลอะสองข้างทาง
“อูยยย... เมียจ๋า ผัวก็จะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน” อาการถึงจุดสุดยอดของหญิงสาวยิ่งเร่งเร้าอารมณ์ของชายหนุ่มให้พุ่งตามเข้าเส้นชัยไปแบบติดๆ

บอยเร่งซอยอัดท่อนลำเข้ามาแบบสั้นๆ ถี่ยิบๆ ได้ไม่ถึงนาที ก่อนจะสูดปากร้องครางอู้ๆ ใบหน้าบิดเบี้ยว บั้นเอวเกร็งกระดกเป็นจังหวะ ไม่อาจฝืนทนกลั้นความเสียวที่มีได้อีกต่อไป  ก่อนจะถอนควยออกมาชักแตกลงบนหน้าท้องของภรรยาจนน้ำเงี่ยนขาวขุ่นไหลนองเยิ้มไปทั่ว ถือเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจรักอันแสนจะบรรเจิดไปอีกหนึ่งคืน....

=======================================

ยิ่งนานวัน จินตนาการในเรื่องเพศของหนุ่มบอยก็ดูจะยิ่งหนักข้อขึ้นทุกทีๆ เวลาที่ทั้งคู่เย็ดกัน บอยก็มักจะเอ่ยปากยุยงให้ภรรยาสาวลองไป 'กุ๊กกิ๊ก' กับหนุ่มต้นจริงๆ จังๆ ทุกที พร้อมทั้งยังยืนยันหนักแน่นให้เป้สบายใจว่าตัวเองจะไม่หึง ไม่โกรธ หรือไปพาลหาเรื่องเอากับต้นทีหลัง จนกลายเป็นเรื่องราวลุกลามใหญ่โต

ซึ่งแม้ว่าคำพูดของบอยจะทำให้เป้รู้สึกอุ่นใจอยู่บ้าง แต่เธอก็มักจะตอบเลี่ยงๆ ไปตลอด เนื่องจากยังไม่กล้านอกกายและนอกใจสามีขนาดนั้น เพราะแค่ที่ไปเที่ยว ไปดูหนังกับต้นอยู่ทุกวันนี้ เธอก็รู้สึกแปร่งๆ มากพอแล้ว ไอ้ครั้นจะให้ไปยอมทอดกายมีอะไรด้วย เธอก็คงทำใจยอมรับไม่ได้แน่ๆ

เป้จึงยืนกราน ขอสวมบทบาทสาวใจแตก แค่เฉพาะเวลาที่อยู่บนเตียงด้วยกันสองคนเท่านั้น เนื่องจากเธอเองก็ไม่ได้หมกมุ่นอะไรกับเรื่องพวกนี้มากมายเท่าไหร่ ขอเพียงแค่ต่างคนต่างช่วยประคับประคองกันจนสุขสมอารมณ์หมาย แค่นี้ก็พอใจแล้ว ซึ่งฝั่งบอยก็โอเค ไม่ได้รบเร้าอะไรภรรยาอีก...

ซึ่งไอ้เจ้ากิจกรรมประหลาดๆ บนเตียงเหล่านี้นี่เอง ที่ช่วยกระตุ้นลีลารักบนเตียงของทั้งคู่ ให้กลับมาซู่ซ่ามีชีวิตชีวาเหมือนเดิมอีกครั้ง....

แต่อย่างที่เค้าว่าไว้ 'ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา' ความสัมพันธ์ระหว่างเป้ บอย และต้น(ในจินตนาการ) ก็ย่อมมีวันที่จะต้องจบลงเช่นเดียวกัน ทันทีที่เป้ได้รู้ข่าวว่าชายหนุ่มรุ่นน้องกำลังจะลาออก และย้ายกลับไปอยู่ที่ภูเก็ต ทำให้เธออดที่จะรู้สึกใจหายไม่ได้ ทั้งเศร้าทั้งเสียดาย ไม่อยากให้ความสุขที่เคยได้รับต้องขาดหายไป แต่ตัวเองก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

พอถึงวันสุดท้ายที่เลี้ยงส่งต้น เป้จึงตั้งใจว่าจะขอเคลียร์ความรู้สึกของตัวเองที่ค้างคาอยู่ในใจให้หมดเปลือกไปเลย แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีโอกาสได้เปิดประเด็นซักที จนกระทั่งพอหลังจากที่กินเลี้ยงร้องเพลงอะไรกันเสร็จ หนุ่มต้นก็อาสาขับรถมาส่งสาวรุ่นพี่ที่กำลังมึนๆ เมาๆ ได้ที่ ซึ่งพอใกล้จะถึงที่หมาย ชายหนุ่มก็ตัดสินใจขับเลี้ยวเข้าไปจอดที่ห้างโลตัสใกล้ๆ เพื่อขอคุยอะไรบางอย่างกับเธอ...

“พี่เป้ ดีขึ้นรึยังครับ?” ต้นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง เมื่อเห็นสีหน้าง่วงๆ ตาปรือของเป้
“อืมม ยังมึนๆ อยู่นิดนึงอ่ะ เดี๋ยวถึงบ้าน อาบน้ำอาบท่าแล้วก็คงจะดีขึ้นแหละ” เธอตอบกลับไปจากที่นั่งข้างคนขับ ลิ้นพันกันเล็กน้อยด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ในเลือด
“แล้วพรุ่งนี้ต้นบินกี่โมงอ่ะ?” เป้เอ่ยถามขึ้นมาบ้าง
“อืม ก็ราวๆ 3 โมงอ่ะครับพี่” ต้นที่ยังสติดีเต็มร้อยตอบกลับมาเบาๆ

“อืม... ไว้ถ้าเหงาๆ ก็อย่าลืมแวะกลับมาเยี่ยมพี่ๆ ที่ออฟฟิศบ้างนะ” หญิงสาวพูดออกไปยิ้มๆ
“ครับพี่ ถ้าสะดวกแล้วผมค่อยแวะขึ้นมาเนาะ” ชายหนุ่มตอบกลับมา สายตาก็จ้องมองเหม่อออกไปที่ลานจอดรถด้านนอก ความเงียบค่อยๆ แผ่ตัวปกคลุมรอบๆ ร่างของทั้งสองคนอย่างช้าๆ มันค่อยๆ ผสานตัวเข้าหากันจนกลายเป็นบรรยากาศของความอึดอัดใจเล็กๆ หนุ่มต้นเองก็ยังไม่กล้าเปิดปากพูดความรู้สึกของตัวเองออกไป ทั้งที่ตั้งใจเอาไว้แล้วแท้ๆ

“ต้น...” สาวรุ่นพี่ตัดสินใจเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์ด้วยตัวเอง เอ่ยปากพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
“ครับพี่?” ต้นแค่ขานรับกลับมาสั้นๆ
“ต้นมีอะไรอยากคุยกับพี่รึเปล่า?” ในที่สุดเป้ก็ตัดสินใจถามเข้าประเด็นตรงๆ หลังจากที่แอบกลั้นใจรออยู่นาน คำถามของเป้ทำให้ต้นต้องหันกลับมาจ้องตาเธออีกครั้ง สายตาของทั้งคู่จับจ้องสะท้อนกันอยู่ครู่ใหญ่ๆ ก่อนที่ชายหนุ่มตรงหน้าจะเอ่ยปากขึ้น

“ผมชอบพี่เป้นะครับ...” คำพูดของต้นทำให้เป้ใจเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าเขาจะเคยมาสารภาพความในใจกับเธอไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่พอได้มาฟังซ้ำอีกครั้ง มันก็ยังทำให้เธอแอบรู้สึกปลื้มใจอยู่ดี
“อือ” หญิงสาวครางตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นเทาเล็กน้อย
“พี่เป้คิดยังไงกับผมบ้าง บอกหน่อยได้มั้ย?” ต้นรุกเร้าถามถึงความรู้สึกของเธอบ้าง เป้กลืนน้ำลายอึกใหญ่ แล้วจึงตอบกลับไปเบาๆ

“พี่ก็... รู้สึกดีกับต้นเหมือนกันนะ...” ใบหน้าของต้นดูจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่จะค่อยๆ ถูกเกลียวคลื่นของความเหงาหงอยเศร้าสร้อย โถมกลืนจนมันจมหายลงไปอีก
“แต่...?” ต้นเอ่ยปากพูดดักคอขึ้นมา
“แต่ว่าพี่เองก็มีสามีอยู่แล้ว คงจะไปให้ความหวังอะไรกับต้นมากกว่านี้ไม่ได้หรอก” เป้พูดสิ่งที่คิดออกไปตรงๆ แม้ว่ามันจะเป็นความคิดที่ฝืนขัดกับความรู้สึกลึกๆ ของตัวเองอยู่ แต่อย่างน้อยมันก็เป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดแล้วกับสถานการณ์ที่แสนจะหมิ่นเหม่นี้

“ครับพี่ ผมเข้าใจ...” ต้นขานรับเบาๆ ด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย ก่อนจะเงียบกันไปพักใหญ่ๆ
“ที่ผมตัดสินใจย้ายกลับไปอยู่บ้าน... นอกจากเหตุผลเรื่องสุขภาพของเตี่ยแล้ว อีกส่วนนึง ก็เพราะอยากจะช่วยให้ตัวเองตัดใจจากพี่เป้ได้เร็วขึ้นนั่นแหละครับ...” ต้นเอ่ยปากขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ซึมลึกลงไปกว่าเดิม สีหน้าของชายหนุ่มดูราวกับกำลังจะร้องไห้อยู่รอมร่อ

พอหญิงสาวเห็นแบบนั้น ในใจก็อดนึกสงสารชายหนุ่มขึ้นมาไม่ได้ จึงเผลอตัวขยับเข้าไปโอบไหล่กอดเค้าไว้เบาๆ เพื่อปลอบใจ โดยที่ต้นเองก็เอื้อมมือมากอดตอบเช่นกัน สัมผัสจากฝ่ามือของชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกหวิวๆ แปลกๆ
“ไม่เป็นไรนะต้น ถ้าต้นเหงาๆ ก็ค่อยแวะขึ้นมาหาพี่ไง” เป้พยายามพูดปลอบใจให้ต้นรู้สึกดีขึ้น รู้สึกได้ถึงอ้อมกอดที่รัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะหายใจไม่ออก

“อือ... ต้น พี่อึดอัดนา...” หญิงสาวกระซิบบอกให้รุ่นน้องรู้ตัว แต่ต้นกลับยังกอดเธอไว้อย่างนั้น สายตาก็จ้องสบกันราวกับถูกมนต์สะกด แล้วจู่ๆ ต้นก็เปิดปากจู่โจมด้วยถ้อยคำที่ทำให้เป้ถึงกับสะดุ้ง
“พี่เป้... ผมขอจูบพี่ซักครั้ง... จะได้มั้ยครับ?” น้ำเสียงของต้นดูหนักแน่นจริงจัง ไม่มีท่าทีล้อเล่นแฝงไว้แต่อย่างใด
“หา?” สาวรุ่นพี่อุทานออกไปอย่างตั้งตัวไม่ติด

“ได้มั้ยครับพี่ แค่ครั้งเดียวก็พอ...” ต้นยืนกรานด้วยสีหน้าเว้าวอน จนเธอเริ่มรู้สึกอึดอัด ไม่รู้จะพูดปฏิเสธออกไปยังไง ด้วยความที่ไม่อยากจะทำร้ายความรู้สึกดีๆ ที่รุ่นน้องมีให้ เพราะที่ผ่านมาชายหนุ่มก็คอยดูแลเทคแคร์เธอเป็นอย่างดี... เธอจึงตัดสินใจ...

“อือ... แค่ครั้งเดียวนะ” เป้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ต้นรีบพยักหน้าหงึกๆ เหมือนเด็กๆ และยังไม่ทันที่เธอจะได้ตั้งตัวอะไร ต้นก็รีบโน้มหน้าเข้ามา เผยอปากจุ๊บลงไปที่ริมฝีปากของเธอทันที รสสัมผัสที่เกิดขึ้นเพียงชั่วเสี้ยววินาที เล่นเอาหญิงสาวถึงกับตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ
“อุ๊! อื้อ!...อออ” เป้ได้แต่หลับตาปี๋ ร้องครางอู้อี้ เมื่อต้นเริ่มออกแรงจูบบดปากหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

สองมือของชายหนุ่มที่ว่างอยู่ก็ดูจะซุกซนจนเกินขอบเขตของกติกาที่ตั้งกันเอาไว้เมื่อครู่ ฝ่ามือหนาใหญ่ค่อยๆ ประกบสัมผัสลงมาที่หน้าอกอวบหยุ่น ก่อนจะค่อยๆ บีบขยำมันเบาๆ ด้วยความนุ่มนวล ปลายลิ้นของต้นก็คอยรุกไล่พัวพันกับลิ้นของเป้ไม่หยุดหย่อน เล่นเอาหญิงสาวถึงกับเคลิบเคลิ้ม ในหัวขาวโพลนว่างเปล่า ไม่รู้ว่าควรจะต่อต้าน หรือว่าควรจะสมยอมกันแน่ ได้แต่ปล่อยให้หนุ่มรุ่นน้องชักจูงอารมณ์ไปเรื่อยๆ ตามใจที่ใจปรารถนา

พอเห็นว่าเป้ไม่ได้ขัดขืนอะไร หนุ่มต้นที่กำลังได้ใจเต็มที่ จึงค่อยๆ เอื้อมมือมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอในที่สุด พอกระดุมเสื้อหลุดผึงออกไป 2-3 เม็ด สติสตังของเป้จึงเริ่มที่จะคืนกลับมา เธอรีบใช้สองมือดันตัวพร้อมกับถอนปากออก รีบร้องห้ามต้นทันที

“พอแล้วนะต้น... ไม่เอาแล้วนะ” เป้ร้องห้ามด้วยเสียงอันดังพอสมควร
“ผมฝืนไม่ไหวแล้วครับ ผมขอนะพี่เป้” ต้นพยายามจะยื่นหน้าเข้ามาจูบปากเธออีก สองมือก็พยายามสอดล้วงเข้ามาจับนมเธอด้านใน เป้ขืนตัวดิ้นหลบใช้สองมือดันร่างของชายหนุ่มออก ปากก็ยังคงร้องห้าม พยายามหาทางควบคุมสถานการณ์ให้ได้

“ต้น... ต้น ไม่เอาสิ อย่าทำแบบนี้” แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะหน้ามืดจนไม่ฟังเสียงทักท้วงใดๆ เอาแต่ก้มหน้าซุกไซร้ซอกคอของเธอไม่ยอมหยุด ปลายนิ้วก็เขี่ยดันจนยกทรงเริ่มที่จะหลุดลุ่ยออกจากฐานที่มั่นทีละนิดๆ จนหน้าอกหน้าใจแทบจะโผล่พ้นออกมาอยู่รอมร่อ เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของทั้งคู่เริ่มจะหลุดจากการควบคุมออกไปเรื่อยๆ หญิงสาวจึงตัดสินใจตามน้ำไปเลย เพื่อหวังที่จะยุติสถานการณ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด

“ให้พี่... ใช้มือช่วยต้นพอนะ” คำพูดของเป้ทำให้หนุ่มต้นหยุดมือทันที เงยหน้าขึ้นมามองเธอเหมือนกำลังคิดตัดสินใจอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะยอมพยักหน้าตอบรับในที่สุด
“ก็ได้ครับ” ต้นพูดพร้อมกับค่อยๆ ปลดเข็มขัด รูดซิปกางเกงยีนส์ พร้อมกับถลกถอดมันลงไปกองอยู่ตรงหน้าขา กางเกงในรัดรูปสีขาว บริเวณกลางเป้ามีท่อนเนื้ออวบอูมโด่เด่ ยื่นออกมาเป็นลำ เป้เห็นแล้วก็ได้แต่กลืนน้ำลายเอื้อกๆ สายตาจับจ้องค้างอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งต้นค่อยๆ ใช้มือดึงรั้งขอบกางเกงในขึ้น ค่อยๆ ถลกรูดมันลงช้าๆ พาให้เจ้าดอกเห็ดหัวบานโค้งมน โผล่พ้นขอบกางเกงออกมาในที่สุด

“อุ๊ย!” เป้หลุดปากอุทานออกมา พร้อมกับรีบหันหน้าหลบด้วยความเขิน ไม่กล้าจ้องมองภาพตรงหน้า ได้แต่นั่งรออยู่เงียบๆ ด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ ก่อนที่ต้นจะเป็นฝ่ายยื่นมือมาเกาะกุมมือเธอไว้ ค่อยๆ พาลากจูงให้ไปจับสัมผัสเข้ากับลำควยแข็งอวบ ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางหว่างขาของเขาจนได้ ความรู้สึกร้อนวูบวาบจากปลายนิ้ว วิ่งผ่านฝ่ามือเรื่อยมาจนถึงท่อนแขน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่หญิงสาวมีโอกาสได้สัมผัสกับดุ้นเนื้อของชายอื่น ซึ่งไม่ใช่ของสามีตัวเอง

เป้นั่งหลับตาปี๋ตัวแข็งทื่อด้วยความตื่นเต้น ในขณะที่มือขวาเจ้ากรรม กลับยังคงลูบไล้มันอยู่อย่างนั้นเพราะความอยากรู้อยากเห็น รสสัมผัสที่แตกต่างไปจากเดิม ทำให้เธออดที่จะหันหน้ากลับมามองสำรวจรูปร่างหน้าตาของแท่งเนื้อในมือไม่ได้

หน้าตาของมันดูคล้ายกับเห็ดโคนอ้วนๆ ดอกใหญ่ ท่อนลำตรงกลางมีสีแดงอมน้ำตาลออกคล้ำเข้ม ขณะที่บริเวณปลายหัวที่บานอ้าออก กลับเป็นสีแดงอมชมพูดูสีสันสดใสมีน้ำใสๆ ไหลซึมออกมาเล็กน้อย ขนาดของมันจะดูยาวกว่าของสามีเธออยู่พอสมควร แต่ที่น่าตกใจที่สุดก็คือความอวบของมันนี่สิ ดูไปดูมาช่างอวบแน่นไม่แพ้กล้วยหอมลูกโตๆ เลยซักนิด ทั้งอวบทั้งล่ำขนาดนี้ แล้วมันจะใส่เข้ามาในตัวเธอได้ยังไงกันนะ? หญิงสาวยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหวิวๆ ในใจขึ้นมา...

เป้กำท่อนเนื้อในมือเอาไว้จนแน่น ก่อนที่จะค่อยๆ รูดคลึงมันขึ้นลงช้าๆ ไล่ตั้งแต่ปลายหัว รูดลงมาจนถึงสุดโคนด้านล่าง ความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นทำให้ต้นถึงกับสูดปากร้องซี้ดออกมา ใบหน้ายับย่นเกร็งอย่างมีอารมณ์ พอเห็นชายหนุ่มออกอาการแบบนี้ เป้จึงยิ่งมั่นใจขึ้น เร่งถอกกระแทกมือแรงขึ้นไปอีก ใช้นิ้วโป้งกดบี้คลึงลงไปที่ปลายหัวควยหนักๆ เพื่อช่วยกระตุ้นอารมณ์อีกทาง

“ให้ผมช่วยพี่บ้างนะครับ” ต้นเอ่ยปากพร้อมกับใช้มือลูบไล้หน้าขาเป้เลื่อนสูงขึ้นไปจนถึงบริเวณกลางเป้า พอเขี่ยคลึงจนหนำใจแล้วจึงเริ่มรูดซิปปลดกระดุมกางเกงออก ที่ผ่านมาชายหนุ่มมักจะมีท่าทีนิ่งๆ ขี้อายนิดๆ วางฟอร์มหน่อยๆ จนเป้เองก็นึกภาพไม่ออกว่าเวลาที่เขาหื่นนั้นมันจะเป็นยังไง... ซึ่งเธอก็พึ่งจะมารู้เอาตอนนี้นี่เอง
“อือ... อย่ายุกยิกซี่ มันจั๊กจี้” เป้พูดบ่นรุ่นน้องไปเบาๆ โดยไม่ได้ตั้งใจที่จะห้ามปรามอะไรจริงจังนัก

ปลายนิ้วของต้นทั้งสอดทั้งแซะกลีบร่องของเป้ผ่านเนื้อผ้ากางเกงในลื่นๆ จนเธอเริ่มที่จะรู้สึกได้ถึงความเหนียวซึมที่เกิดขึ้นบริเวณหว่างขา รู้สึกร้อนผ่าวๆ ไปทั่วทั้งร่าง ลมหายใจชักจะเริ่มติดๆ ขัดๆ ขึ้นมา ซึ่งเมื่อดูจากลีลาแล้วก็พอจะรู้ได้ว่า ต้นเองก็คงจะไม่ใช่หนุ่มใสๆ ซิงๆ อย่างที่เป้เคยคิดเอาไว้แน่ๆ

ต้นใช้นิ้วกลางเขี่ยแง้มขอบกางเกงใน ค่อยๆ กดนิ้วถูไถเข้ามาจ่อที่หน้าปากร่องหีลื่นๆ ของเป้ ก่อนจะออกแรงดันจนนิ้วชี้เรียวยาว มุดหายเข้าไปได้ครึ่งข้อลำ ความเปียกชื้นที่เกิดขึ้นภายใน ยิ่งช่วยให้ต้นสามารถสอดนิ้วเข้าไปได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าไหร่

“อะ... อือออ อย่าดิต้น... ไหนตอนแรกบอกว่าแค่จูบไง” เป้ร้องห้ามด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า รู้สึกน้ำลายเหนียวคอไปหมด ทั้งที่ปากร้องห้ามปราม แต่มือของเธอกลับคอยจับรูดท่อนลำของต้นไม่ยอมหยุด
“อืมม พี่เป้ครับ ผมเสียวมากเลย... พี่เป้จะว่าอะไรมั้ย ถ้าผมจะขอให้พี่ช่วยอะไรหน่อย...” ต้นเอ่ยปากแล้วหยุดเว้นทิ้งช่วงนิดนึง หญิงสาวพอจะรู้อยู่แล้วว่ารุ่นน้องกำลังพูดอะไร แต่ก็ยังแกล้งทำเป็นนั่งนิ่ง จ้องหน้าตนตาแป๋ว รอให้เขาเป็นคนเอ่ยประโยคนั้นออกมาด้วยตัวเอง

“พี่เป้... ใช้ปากให้ผมหน่อยได้มั้ย?” คำพูดของต้นทำเอาเธอหน้าชา เมื่อได้ยินหนุ่มรุ่นน้องหน้าใสอ้อนขอตรงๆ
“เฮ้ย...! จะดีเหรอต้น?” เป้ถามออกไปเหมือนแบ่งรับแบ่งสู้ อาการมึนเมาทำให้เธอลดความเขินอายลงไปได้มากพอสมควร ที่สำคัญ มันดันไปช่วยกระตุ้นปลุกเร้าอารมณ์หื่นในตัวเธอ ให้ตื่นขึ้นมาอย่างเงียบๆ

“ช่วยผมหน่อยนะครับพี่ ผมทนไม่ไหวแล้ว” ต้นออดอ้อนขออย่างน่าสงสาร ในใจเป้สับสนไปหมด แม้ว่าความจริงแล้วเธอควรจะเร่งมือสาวรูดท่อนลำให้ชายหนุ่มน้ำแตกไปเลยไวๆ แต่ความเมาบวกกับอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้าจนได้ที่ ทำให้เธอตัดสินใจ ค่อยๆ ก้มหน้าลงไปจนแนบชิดกับหน้าขาของต้นในที่สุด....

กลิ่นคาวจากน้ำหล่อลื่นของชายหนุ่ม ลอยคลุ้งปะปนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่ เป้ค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ พยายามไม่คิดอะไรฟุ้งซ่าน กลั้นใจยอมเปิดปาก แล้วอ้าอมท่อนควยของต้นเข้าไปแบบเต็มปาก รสชาติเค็มๆ ฝาดๆ แว้บขึ้นมาในห้วงความคิด มันเป็นรสชาติแปลกๆ ที่แตกต่างไปจากท่อนลำของบอยคนละแบบ ซึ่งเธอเองก็อธิบายไม่ถูก

กลิ่นกายที่ไม่คุ้นชิน กระตุ้นอารมณ์หื่นของหญิงสาวให้บดบังเรื่องความถูกผิดไปชั่วขณะ ใบหน้าร้อนผ่าวๆ รู้สึกเหนียวคอไปหมด ในหัวเธอก็กำลังสับสนว่าทุกอย่างมันดูจะข้ามขั้นเร็วเกินไปมั้ย...? จากที่พึ่งจะเคยได้จูบกันเป็นครั้งแรก แป๊บๆ ก็กลายเป็นการใช้มือช่วย แล้วพอรู้ตัวอีกที นี่เธอกำลังใช้ปากให้ต้นแล้วเหรอเนี่ย?

สาวเป้ใช้มือซ้ายช่วยรูดถอกท่อนลำขึ้นลงแรงๆ พร้อมกับคอยผงกหัวเม้มปากดูดกลืนท่อนเนื้อมันแผลบไปด้วยจนแก้มตอบ หนุ่มต้นที่โดนเข้าไปแบบนี้ก็ได้แต่นั่งเสียวจนตัวเกร็ง สองมือจับยึดศีรษะของเธอไว้แน่นเพื่อช่วยประคองจังหวะ ขณะที่เป้ก็ใช้ลิ้นวนครอบบริเวณปลายหัวไปมาแบบที่เคยทำให้สามี เล่นเอาหนุ่มรุ่นน้องถึงกับออกอาการตัวสั่น สูดปากร้องซี้ดซ้าด แหงนหน้าหลับตาพริ้มอย่างชอบอกชอบใจ เมื่อสาวรุ่นพี่ที่ตัวเค้าหลงใหล กำลังก้มหน้าก้มตาโม้กควยให้อย่างขะมักเขม้น

เป้ใช้ปากดูดให้ต้นได้ไม่ถึง 5 นาที ชายหนุ่มก็ทนเสียวไม่ไหว ใช้มือจับยึดศีรษะเธอไว้แน่นพร้อมกับกระดกก้นอัดควยเข้ามาแบบรัวๆ ก่อนที่จะกระฉูดน้ำรักพุ่งเข้าเลอะเต็มปาก จนหญิงสาวแทบจะสำลักออกมา กลิ่นคาวแปร่งๆ ลอยขึ้นจมูกจนเธอรู้สึกพะอืดพะอมไปหมด

เป้รอจนต้นเริ่มที่จะผ่อนคลายจากอาการเสียวซ่าน แล้วจึงค่อยๆ ถอนปากออกมา พยายามไม่ให้น้ำรักหยดเลอะลงบนรถ ก่อนจะรีบบ้วนทิ้งออกไปนอกรถทันที รสชาติแหยงๆ แหยะๆ ยังคงเกาะติดอยู่บนลิ้นเธอไม่จางหาย ก่อนที่จะเริ่มมีรถขับเข้ามาในลานจอดรถมากขึ้นเรื่อยๆ พอเห็นว่าคนชักจะเยอะ เป้จึงบอกให้ต้นสตาร์ทเครื่องแล้วขับรถกลับบ้านทันที เพราะกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเข้าซะก่อน

พอกลับมาถึงบ้าน ก็เจอหนุ่มบอยที่กำลังเดินออกมารอต้อนรับทันทีด้วยสีหน้าเริงร่า เป้รีบร้องบอกให้บอยขับรถไปส่งรุ่นน้องขึ้นแท็กซี่ที่หน้าปากซอย พร้อมกับกระโดดขึ้นไปนั่งประกบติดข้างๆ สามีทันที เพราะกลัวว่าจะมีใครซักคนหลุดปากพูดอะไรประหลาดๆ ออกมาเสียก่อน

เธอนั่งอยู่ในรถเป็นเพื่อนบอย รอจนกระทั่งต้นเรียกแท็กซี่ได้ แล้วจึงสตาร์ทรถเตรียมที่จะกลับเข้าบ้าน ต้นหันมาโบกมือหยอยๆ ให้เป็นครั้งสุดท้าย ด้วยสีหน้าแปลกๆ ซึ่งเธอเองก็อ่านไม่ออก พอเห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกใจหายขึ้นมาอีกครั้ง แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา หนุ่มบอยที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เหมือนอ่านความรู้สึกของเธอได้ จึงพยายามพูดปลอบใจ

“เหงามั้ยเป้? น้องเค้าจะไม่อยู่แล้ว” บอยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“อือ เหงาดิ ก็สนิทกันมาขนาดนี้” เป้ตอบออกไปตามตรง
“ไม่เป็นไรนะ ยังไงเป้ก็ยังมีเราอยู่ด้วยทั้งคน” ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ อย่างใจดี จนภรรยาสาวเผลออมยิ้มตามไปด้วย
“จ้า เค้ารักบอยนะ” เป้พูดพร้อมกับยื่นมือไปลูบแก้มสามีเบาๆ อย่างนึกขอบคุณ

“แต่ว่าเดี๋ยวถึงบ้านแล้วอย่าลืมเล่าเรื่องสนุกๆ ให้เราฟังด้วยนะ” ชายหนุ่มพูดหักอารมณ์ดื้อๆ เสร็จแล้วก็ฉีกยิ้มกว้างด้วยใบหน้าทะเล้น ก่อนที่จะต้องเผลอหลุดปากร้องโอดโอยออกมา เพราะโดนสาวเป้หยิกเข้าไปที่แก้มเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้

เฮ้อออออ.... สามีเรานี่น้อ ทำไมถึงได้หื่นขนาดนี้นะ...? หญิงสาวนึกรำพึงรำพันในใจเบาๆ คนเดียว




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น