วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อ้อมแฟนผม ตอนที่ 11


หลังจากวันนั้นเธอก็ทำงานโคโยตี้อีกแค่ 2-3ครั้งเต้นธรรมดาๆ แล้วเธอก็เลิกครับ เพราะเคลียร์เรื่องทางบ้านเสร็จแล้วทำให้ผมมีโอกาสได้พาเธอมาเที่ยวห้องผมบ่อยๆ จนสนิทกับเพื่อนผมมากขึ้น(บางทีไปที่ห้องแล้วไม่เจอเพื่อนผมก็จะ XXX เธอที่ห้องผมเลยครับแต่ก็ไม่บ่อยจนค่ำวันศุกร์หนึ่ง ผมได้พาเธอมาที่ห้องตามปกติ เห็นประตูห้องปิดไว้แต่ไม่ได้ล็อกผมเลยพาอ้อมเข้ามาในห้องแบบเงียบๆ กะว่าจะให้เพื่อนตกใจเล่นผมเดินเข้าไปด้านหลังไอ้กล้า เพื่อนตัวอ้วนของผมที่กำลังเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ผมแกล้งจับเก้าอี้มันหมุนมาทางด้านที่ผมกับอ้อมยืนอยู่แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นไอ้กล้ามันกำท่อนอวบสั้นของมันอยู่ในมืออ้อมหันหน้าปิดตาอย่างเขินอาย ผมหัวเราะมันใหญ่ แล้วเงยหน้ามองที่จอคอมอ้าวนั้นหนังโป๊นิหว่า แต่...มันคุ้นๆ ดูไปอีกนิดจึงนึกออกนี่มันหนังตอนที่อ้อมโดนพวกวัยรุ่นที่สวนสาธารณะลวนลามนี่นา หันไปมองอ้อมเธอก็ตกใจอึ้งไปเหมือนกัน ผมจึงให้มันลบออกจากเครื่องไปแล้วเล่าเรื่องให้ไอ้กล้าฟัง พร้อมกำชับไม่ให้บอกใคร ไอ้เพื่อนตัวดีมันดันแกล้งพูดขึ้นมาถามหาค่าปิดปากผมหันไปมองหน้าอ้อม เธอนิ่งอยู่ครับผมจึงหันกลับไปปรามมัน “มึงชักว่าวกับหนังแฟนกูอย่าบอกนะว่ามึงจะขอเอาอ้อมอ่ะ” มันยิ้มครับ แล้วมองมาที่อ้อม “อ้อมคนสวยว่าไงจ๊ะจะปิดปากพี่ด้วยอะไรดี” อ้อมคิดอยู่แปปนึง ชำเลืองมามองหน้าผม แล้วตอบกลับไปว่า “อ่ะ อ้อมจะยอมเป็นแฟนพี่กล้าวันนึง แต่ห้ามทำอะไรเกินเลยนะแค่เป็นแฟนวันนึงเฉยๆ” ไอ้กล้ามันครุ่นคิดแล้วตอบกลับมาว่าตกลง เป็นวันพรุ่งนี้เลยแล้วกันนะ แล้วมันก็หันมาทางผม “พรุ่งนี้กูขอออกเดทกับแฟนมึงนะโว้ย”ผมได้แต่เออออไป ก็เธอเป็นคนต้นคิดนี่ครับ
คืนนั้นหลังจากส่งเธอกลับห้องผมก็มานั่งกินเหล้ากับเพื่อนๆต่อช่วงนี้ไอ้เอกเพื่อนสุดหล่อของผมมันกลับบ้านต่างจังหวัดครับเลยมีผมกับไอ้กล้ากินกันสองคน แต่ผมสังเกตเห็นไอ้กล้าไม่ค่อยกินเหล้าเลยครับมีแต่ผมที่กระดกแก้วเอาๆ ตื่นมาอีกทีก็สายมากแล้วครับ ลุกขึ้นจากที่นอนออกมาดูเวลา10.30. แล้ว แต่เอ..ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กทางหลังห้องเลยเดินไปดูเห็นอ้อมกับไอ้กล้าช่วยกันทำอาหารครับ พอเห็นผมทั้งสองก็หันมาทักทายผมเลยเดินไปโอบไหล่อ้อม เธอสะบัดออกเบาๆครับ แล้วเธอก็พูดว่า “ทำอะไรน่ะแฟนฉันยืนอยู่ตรงนี้นะ” ไอ้กล้าหัวเราะชอบใจผมเลยเคาะกบาลมันไปทีนึงแล้วเดินกลับเข้ามาสักพักสองคนนั้นก็ยกกับข้าวเข้ามากินกับผมผมเพิ่งสังเกตว่าวันนี้อ้อมดูแต่งตัวเปรี้ยวซึ่งปกติเธอจะแต่งตัวรัดกุมเวลาออกมานอกบ้าน แต่วันนี้เธอใส่เสื้อสายเดี่ยวสีขาวตอนออกจากบ้านคงใส่เสื้อตัวเล็กๆปิดมาด้วยแต่คงมาถอดออกที่ห้องเสื้อสายเดียวเธอค่อนข้างบางทีเดียวมองเห็นยกทรงสีชมพูแจ๊ดได้ชัดเจนแถมคอเสื้อค่อนข้างกว้าง เห็นเต้าเบียดชิดกันนูนขึ้นมาเลยส่วนท่อนล่างเธอใส่กระโปรงยีนตัวเล็กนิดเดียว สั้นมากเลยครับแค่คืบเดียวเองผมเลยทักเธอเรื่องกระโปรงครับ “สั้นขนาดนี้ใส่กางเกงข้างในมั้ยเนี่ย” เธอบอกกลับมา“มีสิ ก็กางเกงในไง” แล้วเธอก็ทำเป็นเชิด ไอ้กล้านั่งหัวเราะ ตอนกินข้าวนี่เธอกับไอ้กล้าผลัดกันป้อนข้าวกันสนุกเลย ปล่อยให้ผมนั่งกระวนกระวายอยู่คนเดียวกินข้าวเสร็จไอ้กล้าเลยออกไอเดียว่าไปเที่ยวชลบุรีกัน ก็ตกลงกันหมดจึงเริ่มเดินทาง ตลอดทางที่อยู่บนรถบัสสองคนนั้นนั่งซบไหล่กันตลอดปล่อยให้ผมนั่งเซ็งอยู่คนเดียวครับ แล้วก็คุยอะไรกันกระหนุงกระหนิงอยู่ได้จนบางครั้งผมหมั่นไส้ไปคุยแทรกกับเขาด้วย พอมาถึงเราก็หาที่พักเลือกเป็นห้องๆเดียวครับ เข้าไปนั่งพักกินน้ำกินท่ากันในห้องสักพักก็ออกไปเดินเที่ยวกันจนเริ่มใกล้ค่ำก็ลงไปลุยกันในทะเล ทั้งสามคนก็เล่นกันอย่างสนุกสนานอ้อมเธอใส่เสื้อตัวเดิมกับกางเกงขาสั้นลงเล่นน้ำ พอเสื้อเธอเปียกแล้วผมเห็นไอ้กล้ามันมองนมเธอตาแทบไม่กระพริบเลยครับผมหมั่นไส้เธอบนรถผมเลยจับเธออุ้มโยนไปทางไอ้กล้า มันรับอ้อมพัลวัลเลยครับแล้วเราสองคนก็ลุมแกล้งเธอ ผลักไปทางโน้นที ทางนี้ที บางทีผมก็ดึงเธอมากอดเธอพยายามผละผมออก ผมก็ทำเป็นขืน พอเธอเผลอก็ผลักไปทางไอ้กล้าไอ้กล้าคว้าเอวเธอไปกอดบ้าง แต่มันกอดนานเลยครับกว่าจะปล่อยบางทีมันก็แกล้งทำเป็นจับก้นเธอ อ้อมเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรครับจนกระทั่งเริ่มหนาวกันแล้วจึงเดินกลับห้อง ระหว่างทางก็ซื้อเหล้า กับแกล้มเข้าไปกินกันที่ห้อง พอมาถึงก็มุ่งไปที่ห้องน้ำกันไอ้กล้ามันบอกว่าให้มาล้างตัวพร้อมกันเลย ผมกับอ้อมเลยตามมันเข้าห้องน้ำแต่เจ้าเพื่อนตัวดีของผมนี่มันสุดๆจริงๆครับ มันเล่นถอดออกหมดเลยแถมยังหันหน้ามาทางผมกับอ้อมอีก มันเอามือรูดท่อนอวบของมันเบาๆ “ล้าง ค.ให้แฟนหน่อยซิจ๊ะอ้อม มันโดนน้ำเค็มอ่ะ” ผมมองหน้าเธอ เธอเก้ๆกังๆ แต่ก็ใช้ขันราดน้ำสาดใส่ท่อนอวบของมันมันหัวเราะ แล้วชมว่าอ้อมเธอมีไหวพริบดีนะนี่ ลีลาคงใช่ย่อยนะผมก็เลยถอดเสื้อผ้าออกหมดบ้างแล้วบอกให้เธอล้างตัวให้ เธอล้างอย่างไม่ขัดขืนครับล้างทั้งตัว ทั้งท่อนเอ็นของผม จนไอ้กล้ามันบอกว่าอิจฉาพอผมกับไอ้กล้าล้างตัวเสร็จก็ออกมาจากห้องน้ำปล่อยให้อ้อมเธอล้างตัวไปคนเดียวจบตอน 11 ครับ




อ้อมแฟนผม ตอนที่ 10


หลังจากคืนแรกที่อ้อมได้ทำงานโคโยตี้ ซึ่งเป็นคืนวันศุกร์หลังจากนั้นเธอก็ไปอีกในวันเสาร์และวันศุกร์ต่อมาซึ่งเป็นการเต้นโชว์แขกแบบธรรมดาไม่มีการถึงเนื้อถึงตัวโดยผมก็ตามไปดูด้วยแต่วันนี้นะสิครับที่ผมหวั่นอยู่ในใจซึ่งเป็นวันเสาร์ที่เธอต้องเต้นยั่วพวกฝรั่งแค่คิดก็ทำให้ไอ้หนูของผมแข็งโด่แล้วพอถึงเวลาค่ำๆผมก็เลยไปส่งเธอที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่กรุ๊ปทัวร์นั้นไปพักอยู่พอมาถึงหน้าโรงแรมก็เจอเพื่อนๆนักเต้นของเธอเกาะกลุ่มกันอยู่ผมเลยปล่อยอ้อมให้เข้าไปเตรียมตัวกับเพื่อนๆ ส่วนผมก็ออกมาหาอะไรกินนั่งรอเธอจนถึง 3 ทุ่มครึ่งผมจึงเข้าไปในโรงแรมได้ยินเสียงมาจากห้องที่จัดงานผมเลยเดินไปดูมองซ้ายมองขวาไม่ยักกะมีคนเฝ้าผมเลยแว่บเข้าไปในงานพอเข้ามาในห้องก็มีเสียงเพลงดัง ห้องปิดไฟมืดหมดยกเว้นบนเวทีซึ่งมีสาวๆเต้นกันอยู่ 3 คนเต้นโดยไม่มีเสื้อชั้นในครับมีแค่ดาวปิดหัวนมไว้เท่านั้นส่วนท่อนล่างก็ใส่กางเกงในลายลูกไม้กันทุกคน สังเกตดีๆบางคนก็เห็นขนแพลมออกมาแต่ไม่ยักกะมีอ้อมอยู่บนเวทีด้วยผมมองไปรอบๆงานเห็นสาวเต้นหลายคนนั่งโต๊ะกับพวกฝรั่ง จนมาหยุดที่โต๊ะนึงผมเห็นอ้อมแฟนผมเธอกำลังนั่งตักป้อนเหล้าให้กับฝรั่งตัวโตอยู่เธออยู่ในชุดใส่เสื้อชั้นในสีดำ คลุมด้วยผ้าสีดำบางๆปิดตามไหล่และชั้นในกางเกงขาสั้นสีดำแววรัดรูปจนเห็นเป็นโคกขึ้นมาเลย โดยมือของฝรั่งโอบด้านหลังลูบไล้ตามแผ่นหลังของเธอตลอดเวลา มองไปที่อีกโต๊ะเห็นนิโกรคนนึงกำลังดูดปากลิ้นพัวพันกันกับสาวโคโยตี้อย่างออกรสดูแล้วเธอน่าจะอายุ 30 ได้แล้ว หุ่นเธอนี่สุดๆไปเลยครับ นมใหญ่ก้นงอนผิวขาวจั๊วะ ไอ้มืดไม่รอช้าก้มลงซุกหน้าที่หว่างอกสองมือคว้าเต้านม จับบีบ เคล้นคลึง จนหัวนมเธอชูเม็ดยอดชันเต่งตึงไอ้มืดมันอ้าปากงับ ดูดสลับซ้ายทีขวาทีฝรั่งผิวขาวข้างๆอีกคนก็ซุกมือเข้าไปถอดกางเกง ดึงลงมาทีเดียวทั้งสองชิ้นเลยแล้วมันก็เอามือของมันเข้าไปล้วงสำรวจพงหญ้า แล้วสอดนิ้วเข้าไป 2 นิ้ว ชักเข้าชักออกอย่างเป็นจังหวะ “อาาาา......พี่...อูยยยย....เสียว...ซี๊ดดดด”เธอส่งเสียงร้องครางออกมาอย่างลืมตัว ส่วนผมยืนตัวเกร็งมองตาไม่กระพริบแต่ที่เกร็งยิ่งกว่าคือไอ้หนูของผม จนผมต้องเอามือลูบปลอบใจมัน มองไปที่อีกโต๊ะค่อนข้างมืดเลยครับมองเลยค่อยๆขยับเดินไปหาจุดโฟกัส ภาพที่เห็นคือ สาวผิวคล้ำหน้าตาไม่สวยเท่าไหร่แต่ผมเพรียวมาก ก้มหน้าก้มตาดูดเลียแท่งของฝรั่งแก่คนนึงผมขาวทั้งหัวเลยครับ เธอตวัดลิ้นดูดที่ปลายหัวถอกพร้อมกับใช้ปากอมควยเข้าๆออกๆ จังหวะนั้นมีชายคนนึงน่าจะเป็นคนเอเชียเข้ามาประกบด้านหลังเธอโดยมันไม่ได้ใส่เสื้อผ้าสักชิ้น มันขยับขึ้นคร่อมแล้วจ่อท่อนขนาดกลางที่กำลังแข็งเต็มที่สัมผัสกับกลีบเนื้อนุ่มๆ ก่อนที่จะออกแรงดันเข้าไปในรูสวาทอย่างเบาๆ แล้วค่อยๆเอามือจับกดกลีบเนื้อแคมเปิดแบะออกท่อนควยเสียบดันเข้าไปในรูหีทันที “อ้า ซี๊ดดดด...”เธอบิดอย่างสุดตัวด้วยความเสียวซ่าบซ่านที่มันมอบให้อย่างเมามันส์แต่เธอก็ไม่ยอมคายท่อนใหญ่ของฝรั่งแก่คนนั้น คนเอเชียมันพยายามเคลื่อนไหวเบาๆ และค่อยๆดันลงลึกแรงเข้าไปทีละน้อยจนเข้าไปมิดโคนแล้วเริ่มโยกจากช้าๆ แล้วค่อยๆเร็วขึ้นจนได้ยินเสียงกระแทกกระทุ้งดังพั่บๆๆๆเห็นร่างเธอสั้นไหว เด้งไปตามจังหวะกระแทกของมัน “โอ๊ยเสียวจังเลย มันมากเลยค่ะ”เสียงเธอร้องโดยไม่สนใจว่ามันจะฟังรู้เรื่องหรือเปล่าแล้วไอ้คนเอเชียมันก็เร่งจังหวะเร็วขึ้นๆ จนมันตัวเกร็งกอดเธอแน่นแล้วมันก็ดึงท่อนของมันออกมา ดึงถุงยางที่เต็มไปด้วยอสุจิของมันออกส่วนไอ้ฝรั่งแก่มันก็กดหัวเธอขึ้นลงอย่างเร็ว พักเดียวมันก็ปล่อยน้ำของมันเข้าไปเต็มปากเธอเธอกลืนน้ำของมันลงคอไปหมดเลยครับ ผมดูมานานจนทนไม่ไหวแว่บเข้าไปในห้องน้ำเอาออกไปน้ำนึงแล้วจึงเดินกลับมาในงานมองหาอ้อม เห็นเธอยังนั่งอยู่กับคนเดิมครับแต่ดูเธอมีอาการแปลกๆ เชิดหน้าขึ้น หลับตาพริ้มผมมองต่ำลงมาเห็นมือไอ้ฝรั่งมันซุกเข้าไปในกางเกงเธอยุกยิกๆจากนั้นมันก็ค่อยๆไซร้แถวๆซอกคอเธอจนเธอเคลิ้มไปกันใหญ่ ผมนึกในใจว่านี่แฟนผมจะโดนท่อนยักทำซะรูบานมั้ยเนี่ย จนไอ้หนูของผมมันลุกขึ้นมาอีกครั้งไอ้ฝรั่งนั่นมันเอาลิ้นมันเลียที่ติ่งหูอ้อม แล้วก็เลียต่อจนแทบจะกินหูของเธอไปเลยผมเห็นอาการเธอตอนนั้น ตัวสั่น อ่อนปวกเปียกไปหมดไอ้ฝรั่งนั่นมันขยับหน้ามาหอมแก้มเธอแล้วค่อยๆเลื่อนมาที่ริมฝีปากมันประกบปากเบาๆกับเธอ มือข้างนึงก็ล้วงในกาวเกงเธออีกข้างก็เลื่อนไปปลดเสื้อชั้นในเธอ อ้อมเธอยังพอมีสติรีบคว้ามือมันไม่ให้ดึงออกมันเลยประกบปากเธอแน่นขึ้น พยายามดันลิ้นของมันข้ไปในปากเธอมือของมันที่ล้วงในกางเกงเธออยู่ก็เริ่งจังหวะเร็วขึ้นจนเธอมืออ่อนยอมให้มันถอดยกทรงออกโดยดีมันขยับมือด้านที่ปลดยกทรงมากุมเต้าของเธอ แล้วมันก็จับหัวนมเธอบีบเบาๆภาพที่ผมเห็นตอนนี้กลายเป็นเธอปล่อยให้มันทำอะไรเธอก็ได้ อะไรประมาณนั้นแล้วเธอก็ยอมเอาลิ้นของเธอไปพัวพันกับมันอย่างดูดดื่มแล้วไอ้ฝรั่งคนนั้นก็ก้มลงไปที่เนินอกเธอ ไซร้จูบลงบนร่างกายเธออย่างแผ่วเบาจนเธอขนลุกซู่ไปทั้งตัวจากนั้นมันก็เงยหน้าขึ้นกระซิบอะไรสักอย่างกับเธอ หลังจากฟังมันจบเธอก็ก้มหน้าลงไปโดยที่ไอ้ฝรั่งมันถอดกางเกงออกจนเปลือยท่อนใหญ่มหึมาของมันเด้งมาชนแก้มเธอ เธอเงยหน้ายิ้มกับมัน มันจึงก้มลงมาดูดปากกแลกลิ้นกันพักนึง แล้วเธอก็ก้มลงไป เอามือจับท่อนยัก แล้วรูดขึ้น รูดลงช้าๆปากเธองับที่ลูกกระโปกของมันเต็มปากเต็มคำ มันคงชอบมากมันเลยเอามือมาเสยผมเธอแล้วจับแก้มเธออย่างกะแฟนกันผมซึ่งเป็นแฟนตัวจริงได้แต่ยืนอิจฉา แล้วเธอก็อมหัวหยักของมันดูดเป็นจังหวะกับการใช้มือรูด จากช้าเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆเธอดูดแรงขึ้นๆจนแก้มบุ๋มลงไป มือก็สาวแบบไม่ยั้งจนมันทำท่าจะเสร็จอ้อมเธอก็ถอนปากออกมาโดยที่มือยังชักอยู่ สุดท้ายน้ำของมันก็พุ่งออกมากระฉูดโดนหน้าเธอบางส่วนเลยครับ แล้วเอก็เช็ดหน้าเช็ดตา เดินหายไปด้านหลังผมเลยเดินออกจากห้องนั้นโทรหาเธอ เธอก็บอกว่าเสร็จงานแล้วกำลังจะออกไป ผมรออยู่สัก20 นาที เธอก็ออกมา ผมเลยพาเธอไปส่งที่บ้านเธอตามเคย โดยไม่ได้ถามเธอว่างานวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง จบตอนที่ 10 ครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามครับหวังว่าจะเป็นกำลังใจให้ต่อนะครับ






อ้อมแฟนผม ตอนที่ 9


หลังจากพาเธอไปสมัครงานแล้ว ทั้งสัปดาห์เราก็ไม่ได้เจอกัน คุยกันแต่ทางโทรศัพท์ ล่วงมาจนถึงวันศุกร์วันที่เธอต้องเริ่มงานวันแรกผมนัดกับเธอเจอกันแถวๆผับที่เธอทำงาน ตอนนั้น 2 ทุ่มได้แล้วครับเพิ่งเลิกงานกันมาทั้งคู่ ดูอ้อมเธอตื่นเต้นอยู่มากเลย ผมก็พูดให้กำลังใจเธออยู่นาน เธอก็ขอตัวเข้าไปทำงาน ผมเลยเดินเต็ดเตร่อยู่สักพักจนถึงสามทุ่มกว่าๆจึงเดินเข้าไปในร้าน ปรากฏว่าวันนี้เป็นวันพิเศษอะไรสักอย่าง ถามเด็กหน้าประตูเขาบอกว่าจะมีโชว์พิเศษด้วย แล้วมันก็ถามผมถึงบัตร V.i.p. ผมก็บอกไม่มี มันเลยบอกให้ไปตรงเขตคนที่ไม่มีบัตร ซึ่งผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างไกลเวทีพอสมควรเลยทีเดียว เวทีที่ร้านจัดวันนี้จะเป็นแบบทางเดินยาว เหมือนที่นางแบบเดิน พวก v.i.p. โต๊ะจะอยู่รอบๆติดด้านข้างและด้านหน้าของเวทีที่ไม่สูงนัก แถมยังมีเขตกั้นคนที่ไม่มีบัตร v.i.p. อีกตะหาก จนเวลาประมาณ 4 ทุ่มนิดๆ โชว์ชุดพิเศษที่เค้าว่าก็เริ่มขึ้น ผมรออย่างใจจดใจจ่อว่าจะมีอ้อมด้วยหรือเปล่า เริ่มด้วยสาวๆเดินออกมาเต้นทีละคนๆแต่ละคนก็ใส่กางเกงขาสั้น เป็นยีนบ้าง เป็นผ้าต่างๆ ซึ่งแต่ละตัวสั้นและรัดเนินของแต่ละคนมาก ส่วนด้านบนเป็นเสื้อยืดตัวเล็กโชว์สะดือ แต่ละคนก็คละสีกันไป ผมมองดูไปเรื่อยๆ นับได้สัก 7 คน และแล้วคนสุดท้ายที่เดินออกมาเป็นคนที่ 8 ก็คืออ้อมแฟนผมนั่นเอง เธอมาในชุดกางเกงยีนขาสั้นสีดำ เสื้อเธอสีขาวครับบางมาก มองไกลๆยังเห็นเสื้อชั้นในสีดำที่ตัดกับเสื้อยืดด้านนอก พอออกมาครบแต่ละคนก็เต้นไปตามจังหวะเพลง เริ่มเพลงแรกก็ช้าๆครับ แต่ว่าแต่ละคนจะต้องผลัดกันมาทำท่ายั่วยวนหน้าสุด ผมดูไปใจเต้นไปเลยครับ บางคนทำเป็นเลิกเสื้อขึ้นโชว์เสื้อชั้นใน บางคนมาเต้นท่านั่งอ้าขาให้คนดู แต่พอมาถึงคิวอ้อม เธอกลับเต้นธรรมดาๆมากครับเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ พอต่อเพลงที่สองคราวนี้เดินกันมาเป็นคู่ๆเรียงแถวกันมาครับ หันหน้าเข้าหากันแล้วเต้น ไม่เต้นปล่าวครับ มีแลกกันถอดกางเกงออก เห็นแต่ละคนใส่บีกินี่ แบบสายผูกสีต่างๆกันออกไป แขกลุกขึ้นปรบมือกันฮือฮาไปหมด อ้อมก็โดนถอดด้วยครับ ดูเธอเขินๆอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยสถานการณ์เธอก็ต้องทำตามทุกคนครับ พอเข้าเพลงที่สามเพลงนี้ลดจังหวะลงมาช้ามีครั้ง แต่คราวนี้โคโยตี้แต่ละคนต้องลงมาที่โต๊ะแขก v.i.p. แล้วเต้นยั่วยวนใส่ ผมเห็นอ้อมเธอเดินไปกับเพื่อนคนที่ถอดกางเกงเธอที่โต๊ะๆนึง มีแต่พวกคนมีอายุทั้งนั้นเลยครับคาดว่า 50+ ทุกคน สงสัยจะเงินหนาครับ ช่วงแรกก็เต้นเฉยๆ เห็นเธอถอดเสื้อยืดออกเผยให้เห็นเนินอกขาวเนียนภายใต้เสื้อชั้นในบีกินี่ แต่ผมเห็นว่าคงไม่มีอะไรก็เลยมองสาวๆคนอื่นๆอย่างเพลินตาเลยครับ มีอยู่คนนึงไปนั่งบนตักแขกแบบหันหน้าเข้าหา แล้วเต้นส่ายไปมาต่อหน้าคนทั้งผับ ส่วนเพื่อนร่วมโต๊ะก็เดินเข้ามาถอดเสื้อยืดสาวคนนั้นออก เสียงฮือฮาดังขึ้นอีก แต่สาวคนนั้นก็ไม่ได้ถอยเลยครับ เธอยิ่งดันหน้าอกของเธอที่มีแต่เสื้อชั้นในสีแดงเข้าหาใบหน้าของแขกคนนั้น เขาก็เลยซุกหน้าลงที่ระหว่างนมอวบทั้งสองข้าง ส่ายหัวไปมาพร้อมสูดกลิ่นกายเข้าไปเต็มที่ หันไปดูอีกคน คนนี้สูงยาวเข่าดี เต้นท่าที่ยืนแล้วก้มเอามือแตะเท้า แล้วค่อยๆลูบจากขาขึ้นมาด้านบนโดยหันหลังให้กับแขก ผมมองก้นเธอช่างงามอะไรเช่นนี้ อยากจะเอาเจ้าท่อนแข็งที่อยู่ภายใต้กางเกงออกมาช่วยตัวเองเต็มที หลังจากนั้นก็จะให้แขก v.i.p. 8 คนที่สมัครใจมาเต้นคู่กับโคโยตี้แต่ละคน ผมงี้ก็ลุ้นอยู่ว่าขออย่าให้อ้อมเจอพวกมือไวใจกล้าเลย พอได้ครบคู่แล้ว ก็เริ่มเต้นกัน ผมเห็นไอ้คนที่คู่กับอ้อมเป็นคนที่อยู่โต๊ะที่เธอไปเต้นยั่วยวนแหละครับ อายุประมาณ50 ผมก็คิดในใจว่ามันคงไม่มีแรงเต้นมากหรอกเดี๋ยวมันคงกลับไปนั่งแล้ว หันสายตาไปที่คู่อื่น เห็นมีหนุ่มใหญ่ร่างบึ๊กเต้นกับคู่ตัวเองแบบถึงเนื้อถึงตัวโดยผู้หญิงอยู่ด้านหน้า เขาโยกอยู่ด้านหลัง ในท่ายืนแอ่นท่อนเข้ากระแทกกับก้นเธอ แล้วมันก็จับเอวสาวคนนั้นแล้วดันท่อนของมันเบียดร่องก้นเน้นๆสองสามรอบ แล้วหมุนตัวเธอขึ้นไปอุ้มแล้ววางบนโต๊ะเพื่อนๆมัน คราวนี้เลยกลายเป็นมือใครต่อใครก็ไม่รู้จับโน่นจับนี่เธออยู่ครู่เดียวชายคนนั้นก็ดึงเธอเดินออกมาจากโต๊ะในสภาพเหลือแต่กางเกงในบีกินี่ ส่วนเสื้อชั้นในหายไปแล้ว เธอเอามือปิดสองเต้นเป็นการใหญ่ แต่ชายร่างบึ๊กคนนั้นก็ดึงเธอไปกอดโดยมันอยู่ด้านหลังอีกแล้วเด้งหน้าเบียดก้นสาวแบบเดิม แต่คราวนี้มันไซร้คอเธอด้วย ดูเธอออกอาการสยิวเหมือนกัน ส่วนมือมันก็สอดเข้าไปกุมสองเต้าของเธอ เหมือนเธอจะดึงออกแต่ก็สู้แรงมันไม่ได้ก็เลยปล่อยให้มันจับ มองไปที่อีกคนเป็นสาวผิวคล้ำ รูปร่างสูงผอม กำลังโดนชายวัย40กว่าๆสามคนลุมล้อมเต้นด้วย คนนี้เหมือนเธอเล่นด้วยครับ เล่นถอดเสื้อชั้นในออกเองเลย แล้วก็เต้นยั่วท่ามกลางชายสามคน มีคนนึงดึงเธอไปเข้าหา แล้วก้มลงดูดหัวนมสีคล้ำของเธอ ส่วนอีกคนเข้าทางด้านหลัง ก้มลงดึงสายกางเกงในบีกินี่ออก แล้วโยนไปข้างๆ เธอหันหลังมาคว้าขวางไว้ไม่ทัน กลายเป็นสาวคนนี้เปลือยไปเลยครับ แล้วคนด้านหลังมันก็ใช้ลิ้นเลียแก้มก้นเธอ มือก็ลูบขาอ่อนจนเธอชักจะอยู่ไม่นิ่ง อีกคนก็ไม่อยู่เลย เข้าไปประกบจูบปากเธอ มือก็ล้วงแถวๆนาผืนน้อย ผมมองไปเพลินจนนึกขึ้นมาได้หันไปมองที่อ้อมแฟนผม เห็นเธอโดนพวกเฒ่าหัวงูโต๊ะเดิมสองคนกำลังเต้นอยู่กับเธอดูเธอระวังตัวมาก แต่แล้วไอ้เฒ่ามือไวคนนึงก็ดึงสายกางเกงในบีกินี่เธอออก แล้วเก็บโยนให้เพื่อนมันที่โต๊ะ อ้อมเธอตกใจใหญ่เอามือปิดด้านล่าง แต่ความจริงเธอก็ยังไม่โป๊หรอก เพราะเธอใส่กางเกงในลายลูกไม้ด้านในอีกที แต่สองคนนั้นก็พยายามหาโอกาสถอดบนถอดล่างเธออยู่ตลอด แต่อ้อมก็ยังเอาตัวรอดมาได้จนจบรอบนี้ รอบสุดท้ายก็คือแต่ละคนจะต้องเดินเรียงแถวผ่านแขกโต๊ะ v.i.p. ทุกโต๊ะ ผมเห็นหลายคนเดินเปลือยเลยครับ บางคนก็เปลือยบน บางคนเปลือยล่าง ผมนึกในใจว่าโชคดีที่แฟนผมยังอยู่ครบทั้งบนล่าง แต่ตอนเดินผ่านพวกแขกก็มีจับโน่นจับนี่ตลอด อ้อมเองผมเห็นเธอก็โดนจับก้นตลอดทางเพราะเธอเอามือบังแต่ด้านหน้า พอพวกเธอเข้าไปด้านในแล้ว ผมก็เลยออกจากร้านมารอรับ แล้วพาเธอไปส่งห้อง เธอบอกว่าเสาร์หน้าจะมีกรุ๊ปทัวร์ของฝรั่งมา เธอจะได้ค่าตัวเยอะเลย เธอบอกว่าจะไปทำเพราะจะได้เงินเร็วๆไม่ต้องเปลืองตัวบ่อยๆ ผมก็ได้แต่เตือนเธอให้ระวังแหละครับ มือใหม่หัดพิมครับ ขาดตกพกพร่องตรงไหนชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ


วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558

รักยม ตอนที่ 75 - ร่านรัก


......................................



   เนยนักศึกษาสาวสวยปีหนึ่งเดินเฉิดฉายคล้ายเจตนาอวดเรือนร่างนางแบบสวยงามน่าฟัดไปตามทางเดินยามค่ำคืน ชุดนักศึกษาที่สวมใส่นั้นรัดสั้นเปิดเผยสัดส่วนวับแวมยั่วเย้าจนหนุ่ม ๆ ต้องมองตามจนเหลียวหลังกันทุกคนไป  สายตาหื่นกระหายวาววับมองดูท่อนขาขาวเพรียว สะโพกผึ่งผาย และทรวงอกอวบอิ่มจนเป้ากางเกงตุงเด่ เรียกได้ว่าเพียงแค่เดินไปไม่ไกลนัก เนยก็โดนหนุ่ม ๆ ฝันจินตนาการร่วมรักอย่างเร่าร้อนไปแล้วเกือบร้อยครั้ง

   ในสายตาของผู้ชายแล้ว เนยที่ชอบอวดสัดส่วนเนื้อหนังมังสานั้นคงไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องอะไร พวกเขาบางคนถึงกับเชื่อด้วยซ้ำว่าเนยคงจะเสียตัวไปนานแล้ว และจะต้องเชี่ยวชาญชำนาญการเรื่องเซ็กส์เป็นอย่างยิ่ง หากทว่าในความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม เนยนั้นเป็นเพียงน้องใหม่ที่เพิ่งแหย่เท้าเหยียบย่างเข้ามาสัมผัสความเร่าร้อนในกองเพลิงสีดำที่ยากจะถอนตัวออก

   หากคิดตามหลักการทั่วไปแล้ว มันเป็นเรื่องแปลกอย่างยิ่ง ที่สาวสวยระดับดารานางแบบอย่างเนยจะยอมให้เด็กชายแปลกหน้าไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามีเซ็กส์กับเธอ หากทว่าเรื่องแปลกนี้กลับกำลังจะบังเกิดขึ้นด้วยหลายสาเหตุที่ผสมปนเปกัน

   สิ่งแรกเลยก็คือเนยได้มีประสบการณ์สัมผัสลิ้มรสชาติแห่งความหฤหรรษ์ไปแล้ว ถึงแม้จะตกอยู่ในภาพมายาจนงุนงงไม่รู้ตัวว่าเป็นความจริงหรือฝัน แต่ร่างกายของเธอจดจำได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังเรียกหาการเติมเต็มทางด้านนี้ออกมาอย่างเต็มที่ หรือพูดให้ชัดก็คือฮอร์โมนการสืบพันธุ์ของเธอกำลังทำงานอย่างเต็มที่ เลือดลมสูบฉีดไปทั่วจนร้อนผ่าวเปี่ยมด้วยความต้องการทางเพศ

   อย่างที่สองก็คือเอกในร่างของเด็กชายนั้นเปรียบได้กับยาเสน่ห์มีชีวิต รูปร่างหน้าตาของเขาล้วนแล้วแต่ดึงดูดเพศตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย กลิ่นกายของเขาที่ขับออกมานั้นยังแอบแฝงสารเคมีที่ดึงดูดกระตุ้นอารมณ์เพศหญิง และที่ร้ายกาจที่สุดก็คือไอไสยเวทย์เข้มข้นที่สามารถสะกดกระตุ้นจิตใจของสตรีจนเธอพลุ่งพล่านได้โดยที่เขาไม่ต้องบังคับใช้

   ส่วนเรื่องสุดท้ายที่กระตุ้นจนเนยแทบไม่สงสัยด้วยซ้ำว่าทำไมเธอต้องยอมเสียตัวให้เด็กชายก็คือ การถูกเติมเต็มด้วยคำสั่งซึ่งตรงกับความต้องการเบื้องลึกของเธออย่างเหมาะเจาะ

   ความจริงแล้วเธอเองก็ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าทำไมเธอจึงชอบจินตนาการอะไรแบบนั้น เธอรู้แค่ว่าเพียงคิดจินตนาการถึงมัน อารมณ์ทางเพศของเธอก็จะตื่นตัวขึ้นมาทันที และจินตนาการนั้นก็คือ การมีกิจกรรมเซ็กส์แบบนอกสถานที่

   คำสั่งที่ว่าให้มีเซ็กส์กับเด็กชายนอกสถานที่เป็นจำนวน 9 ครั้ง บังเอิญกระเทาะเปลือกขุดเอาความต้องการดำมืดของเธอขึ้นมาได้อย่างพอดิบพอดี และเธอเองก็ไม่ได้รังเกียจเด็กชายที่อ่อนวัยกว่าคนนี้ จิตใจของเธอจึงเปิดรับเด็กชายให้เป็นคนพิเศษโดยไม่รู้ตัว อีกทั้งยังแทบลืมเลือนความหวาดกลัวกับวิญญาณไปเสียแล้วด้วยซ้ำ

   "มาทางนี้จ้ะหนึ่ง"

   เนยพูดเสียงหวานฉ่ำพลางดึงมือของเด็กชายเดินหายเข้าไปในพงหญ้าข้างทาง อารมณ์ของเธอกำลังตื่นเต้นระทึกไปกับเลือดสาวที่แอบแฝงความร้อนร่าน เรียกได้ว่าเพียงแค่นึกว่าจะได้ลองทำตามจินตนาการขึ้นมาจริง ๆ ตรงนั้นของเธอก็แฉะขึ้นมาเสียแล้ว

   หนึ่งสาวมหาลัยหนึ่งเด็กชายวัยมัธยมลัดเลาะฝ่าความมืดไปไม่นานนัก เนยก็จูงมือเด็กชายเปิดประตูไม้เก่าผุพังเข้าไปในอาคารหลังคาสูงลิ่วหลังหนึ่ง น่าแปลกที่มีเสียงคุยและหัวเราะของผู้คนมากมายดังเซ็งแซ่ออกมา หากทว่าด้านหลังประตูนั้นกลับมีแค่เพียงความมืดและกลิ่นอับชื้นเล็กน้อย

   เมื่อเอกในร่างเด็กชายเดินตามขึ้นไปด้วยความสงสัย เขาก็มองเห็นแสงสว่างแวบลอดผ่านช่องว่างหนึ่งเข้ามา และนั่นทำให้เขาได้ทราบว่านี่เป็นโรงอาหารของมหาวิทยาลัย หากแนบดวงตามองลอดไปด้านนอกก็จะมองเห็นโต๊ะรับประทานอาหารที่มีหนุ่มสาววัยนักศึกษานั่งรับประทานอาหาร หรือไม่ก็นั่งทำการบ้านติววิชาเรียนกันอยู่

   ส่วนที่เนยนำพาเข้ามานั้นก็คือส่วนของร้านค้าที่ถูกปิดปรับปรุง ข้างในจึงมืดมิดเงียบสนิทในขณะอีกฝั่งของฉากกั้นนั้นกลับสว่างไสวเต็มไปด้วยชีวิตชีวา สถานที่ของเนยนั้นเรียกได้ว่าตอบโจทย์ได้ดีไม่น้อย

   "ที่นี่แหละ ในนี้เป็นห้องครัว เพิ่งปิดปรับปรุงอาทิตย์ที่แล้ว ข้างนอกเป็นโรงอาหารในมหาลัย ขายถึงสามทุ่ม"

   เนยอธิบายพลางมองดูใบหน้าของเด็กชายในความมืดสลัว เวลานี้เธอกำลังรู้สึกตื่นเต้นไปพร้อมกับร้อนรุ่ม และปัญหาใหญ่ของเธอก็คือเธอยังไม่เคยมีประสบการณ์ทางด้านนี้มาก่อน จึงยังไม่ทราบว่าควรเริ่มต้นอย่างไร หรือหากจะให้อาศัยเด็กชายที่อ่อนวัยกว่า เธอก็ไม่ค่อยเชื่อนักว่าน้องหนึ่งที่น่ารักน่าหยิกคนนี้จะเคยมีประสบการณ์มาก่อน

   "อุ๊ย หนึ่ง ... ใจร้อนจัง ... อยู่ ๆ มากอดพี่ทำไมเนี่ย"

   ขณะกำลังครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรดี เนยก็สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อโดนเด็กชายที่คิดว่าไร้เดียงสาสวมกอดมาจากทางด้านหลัง กระนั้นนอกจากท่าทีขัดขืนเล็ก ๆ ไปตามจริตสตรีแล้ว ก็ไม่มีอาการต่อต้านอะไรอีก

   "ก็พี่ตัวหอมนี่ครับ แถมยังนุ่มนิ่มด้วย"

   เอกในร่างเด็กชายสวมบทบาทได้อย่างยอดเยี่ยมจนเนยยิ้ม แต่หลังจากนั้นก็ต้องส่งเสียงร้องอุ๊ย เพราะสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่ง และร้อนผ่าวซึ่งบดเบียดอยู่กับสะโพกด้านนอกกระโปรงนักศึกษา

   "ลามกใหญ่แล้วนะเรา เอาอะไรมาโดนก้นพี่น่ะนายหนึ่ง"

   เนยพูดพลางแอ่นก้นดันไปด้านหลังเบียดเข้าหาดุ้นเอ็นด้วยอารมณ์ปราถนา ในขณะที่เด็กชายก็ขยับส่ายเล็กน้อยเพื่อบดคลึงปลุกเร้าอารมณ์ของสาวสวยให้ปั่นป่วนกว่าเดิม แล้วพูดอ้อนด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร

   "ก็พี่เนยของผมสวยมากเลยนี่ครับ เมื่อกี้ผมเห็นหนุ่ม ๆ มองพี่เนยกันตาเป็นมัน ผมเห็นแล้วหงุดหงิด"

   "เอ๊ พี่เป็นของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่จ๊ะ ... หึงพี่เหรอหนึ่ง ... อืมมมม"

   เนยรับฟังเสียงออดอ้อนแล้วก็แอบยิ้มกริ่ม ก่อนจะแอ่นเอียงลำคอขาวผ่องเปิดทางให้เด็กชายซุกไซร้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบให้คนพิเศษของตัวเองแสดงความหึงหวงออกมา เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าเธอมีความสำคัญในใจของชายคนนั้น และเอกก็เขาใจถึงหลักการข้อนี้ดีจึงสวมบทบาทเด็กชายขี้หวงเพื่อเอาอกเอาใจได้อย่างแนบเนียนยิ่ง

   "หึงซิคับ หึงมากด้วย หึงจนตรงนั้นของผมมันแข็งโป๊กขึ้นมาเลย"

   "อืมมมมม ... อือออ ... เด็กบ้า ... ทำไมหึงแล้วตรงนั้นมันแข็งล่ะ"

   "ก็มันอยากมุดเข้าไปอยู่ในตัวของพี่เนยสุดสวยไงล่ะครับ"

   "พูดลามปามใหญ่แล้วนะนายหนึ่ง เป็นเด็กเป็นเล็กมาพูดแบบนี้ได้ไงเดี๋ยวเถอะ"

   "เป็นเด็กก็มีหัวใจนะครับพี่เนย เป็นแฟนผมนะ"

   เอกออดอ้อนไม่หยุด ทั้งยังจัดการถลกกระโปรงนักศึกษาขึ้นไปแล้วแอ่นเบียดเป้ากางเกงถูไถอัดใส่ ร่องก้นของเนยอย่างหนักหน่วง เนยจึงเสียววูบส่งเสียงครางและแอ่นขยับสะโพกก้นเข้าหาเป็นการตอบรับ

   "... อื้อ เป็นก็เป็น มาถึงขั้นนี้แล้วนี่นา อยากทำอะไรก็ทำซิ พี่ยอมหมดแหละ"

   สาวสวยตอบเสียงหวานพลางจับมือทั้งสองข้างของเด็กชายที่โอบหน้าท้องเรียบเนียน แล้วลากมาวางแหมะลงบนทรวงอกอวบของตนเองด้วยท่าทีเชื้อเชิญ เพราะความจริงแล้วเธอเองก็กำลังร้อนและแฉะได้ที่อยู่แล้ว

   "อ๊ะ ... อูยยสสส ... หนึ่งจ๋า ... อืมมมม ... หนึ่ง ... ดีจัง"

   เสียงครางสุขสมแผ่วดังไปพร้อมกับร่างงามที่กระตุกสั่นเล็กน้อย เนยหลับตาพริ้มปล่อยตัวปล่อยใจดื่มด่ำความรู้สึกหฤหรรษ์อย่างเต็มที่ เธอรู้สึกดีที่เด็กชายกระทำอย่างทะนุถนอม เธอชอบรสเสียวที่แผ่ซ่านวาบหวานเมื่อทรวงอกโดนบีบขยำ

   การเล้าโลมเริ่มต้นด้วยความเชื่องช้าเนิบนาบ รอจนร่างกายของเนยเริ่มร้อนขึ้นจนมีเม็ดเหงื่อซึม เด็กชายก็เริ่มแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาออกทีละเม็ดไปพร้อมกับแอ่นเป้ากางเกงเบียดใส่สะโพกผึ่งผาย

   ยกทรงที่ไม่ทราบว่าเป็นสีอะไรโดนปลดออกแล้ววางลงบนโต๊ะใกล้ตัว ก่อนที่เด็กชายจะตะปบขย้ำใส่เนื้อเต่งล้นทะลักมือแล้วขยำขยี้หนักหน่วงขึ้น แม้แต่ปลายถันก็โดนบีบขยี้สะกิดเขี่ยอย่างช่ำชอง จนเนยแอ่นตัวเริ่ดส่งเสียงครางซี้ดออกมาชุดใหญ่

   ความเสียวที่พลุ่งพล่านทั่วร่างนั้นรุนแรงมากอยู่แล้ว แต่เมื่อเนยหรี่ตามองลอดผ่านรูเล็ก ๆ ออกไปเห็นผู้คนมากมายในโรงอาหารด้านนอก ความตื่นเต้นสีดำมืดที่ทับถมอยู่ในก้นบึ้งก็กลายเป็นเดือดพล่านขึ้นไปอีกนับสิบเท่าร้อยเท่า

   ราวกับเด็กชายจะรู้ว่าเธอพลุ่งพล่านด้วยเรื่องอะไร เขาเดินหน้าผลักดันเธอเดินมาหยุดที่ผนังกั้น ซึ่งน่าจะเป็นผ้าคลุมหนังผืนใหญ่ ใบหน้าของเนยจึงอยู่ห่างจากรูโหว่นั้นเพียงแค่คืบ

   "หนึ่งจะทำอะไรน่ะ"

   "ผมว่าพี่น่าจะชอบแบบนี้ไงครับ ผู้ชายพวกนั้นน่าจะอยากขยำนมพี่เนยเหมือนที่ผมกำลังทำ พวกเขาน่าจะอยากจับพี่เนยเย็ดแบบนี้ด้วย"

   เด็กชายพูดพลางจัดแจงจับเธอให้ก้มหน้าโก้งโค้งใช้มือยันกับขอบปูนที่สูงกว่าเอวเล็กน้อย จากนั้นเนยก็ต้องรู้สึกเย็นวูบเมื่อเด็กชายสอดนิ้วลอดเข้าไปในกระโปรงแล้วเกี่ยวรูดเอากางเกงในจนหลุดออกไปจากร่าง

   "ไปเรียนมาจากที่ไหนเนี่ยนายหนึ่ง"

   "ผมก็เคยดูหนังโป๊มาบ้างซิครับพี่สาวคนสวย"

   เขาพูดพลางถลกชายกระโปรงขึ้นไปด้านบน จากนั้นเนยก็ต้องกัดฟันด้วยความเสียววูบเมื่อแก้มก้นทั้งสองข้างโดนบีบขยำหนักหน่วง แล้วตามด้วยสัมผัสของบางอย่างที่เปียกชื้นนุ่มนิ่มซึ่งแตะระรัวลงไปบนกลีบเสียว

   "อ๊าาาาาา .... อ๊ายยยย ... หนึ่ง ... อ๊ะ ... อ๊ออยยยยย .... หนึ่งจ๋า ... ซี้ดดดสสสสสสสส"

   สัมผัสที่แหย่ระรัวเข้าไปในร่องเสียวนั้นทำให้เนยร่ำร้องแทบไม่เป็นภาษา เธอหลับตาปี๋ตัวกระตุกเฮือกตลอดเวลา แต่ว่าสะโพกนั้นทำได้แค่ส่ายวนไปมาเล็กน้อย เพราะโดนเด็กชายจับล๊อคเอาไว้อย่างแน่นหนา

   เนยอาจจะยังด้อยประสบการณ์ แต่ก็พอจะเดาได้ว่าเด็กชายกำลังใช้ลิ้นเลียตรงส่วนนั้นให้ หากทว่าความเสียวนั้นกลับหนักหน่วงรุนแรงยิ่งกว่าที่เธอเคยคิดจินตนาการไว้มากมายนัก เพียงโดนดูดเม้มไม่ถึงหนึ่งนาที ร่างงามก็กระตุกเฮือกอย่างแรงเพราะไปถึงจุดสุดยอดด้วยลีลาลิ้นของเด็กชาย

   ภายหลังจุดสุดยอดนั้น เนยถึงกับหอบกระเส่าทิ้งแนบใบหน้าลงไปกับขอบปูน ในขณะที่สองขาซึ่งสั่นพึ่บพั่บนั้นยังคงโดนเด็กชายช่วยจับประคองเอาไว้อยู่ในท่ายืนโก้งโค้งเช่นเดิม

   "พี่เนยอย่าส่งเสียงดังนะครับ เดี๋ยวคนข้างนอกได้ยิน ผมจะใส่เข้าไปแล้วนะ"

   เสียงเตือนของเด็กชายทำให้เนยตื่นตัวขึ้นมา เธอรีบเงยหน้าขึ้นมองผ่านรูเล็ก ๆ บนผืนผ้าใบด้วยความตื่นเต้นระทึก และจังหวะนั้นเองที่ความใหญ่โตของเด็กชายก็เริ่มสอดใส่เข้ามาจากทางด้านหลังโดยไม่บอกกล่าว ดาวยั่วตัวแม่ประจำมหาลัยตัวกระตุกถี่ยิบเพราะความคับแน่นตรงท้องน้อย

   เนยร้องครางเสียงดังสุดเสียว แต่ยังดีที่ด้านนอกนั้นเสียงดังยิ่งกว่าหลายเท่า จึงยังไม่มีใครได้ยิน เวลานี้สติของเนยเริ่มกลายเป็นขาวโพลน ความเสียวหฤหรรษ์ที่เด็กชายปรนเปรอให้นั้นกำลังเข้าครอบงำร่างงามของเธอจนหมดสิ้น โดยเฉพาะเมื่อเขาเอื้อมมือมาบีบเคล้นสองเต้าของเธออย่างเมามันไปพร้อมกับการกดซอยกระเด้าเอวใส่เธอยุกยิกต่อเนื่อง

   เธอทราบว่าของเขายังเข้ามาได้ไม่สุดลำ แต่ไม่ทราบว่ายังเหลืออีกมากแค่ไหน หากทว่าเพียงแค่นี้ก็ทำให้เธอต้องเริ่มแอ่นร่อนสะโพกเปิดทางให้เด็กชายตักตวงความสาวของเธออย่างสุดชีวิตแล้ว

   แรงกระแทกแผ่วเบาในช่วงแรกเริ่มหนักหน่วงขึ้นทีละน้อย ดุ้นเอ็นยาวใหญ่ค่อย ๆ มุดแหวกความฟิตแน่นของร่องเสียวเข้ามามากขึ้น ทั้งยังมุดทะลวงเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ จนเนยแทบอยากจะกรีดร้องระบายความเสียวออกมา

   เนยกระตุกเฮือกอีกครั้ง เมื่อมีเสียงกึกดังขึ้นภายในเมื่อของเด็กชายสอดใส่เข้ามาจนสุดทางและชนกับอะไรบางอย่างในนั้น ความเสียวร้อนแรงทำให้เนยแทบคลั่ง เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าโพรงสวาทของเธอกำลังตอดรัดดุ้นเอ็นของเด็กชายอย่างหนักหน่วงร้อนแรง ในขณะที่เด็กชายกดแช่เอาไว้แล้วหันมาบีบขยำเต้านมของเธอเล่นแทนครู่หนึ่ง

   หลังจากปล่อยให้โพรงสวาทของเธอได้ปรับตัว เด็กชายก็เริ่มเคลื่อนไหว ดุ้นเอ็นที่คับแน่นเต็มร่องโดนสาวออกไปจนสุด จากนั้นก็กระแทกกลับเข้ามาดังปั้กจนเนยอ้าปากเหวอน้ำลายไหลเยิ้ม หากทว่าความหฤหรรษ์ที่กำลังตามมานั้นกลับร้อนแรงยิ่งกว่า

   เสียงปั้กปั้กดังต่อเนื่องถี่ยิบ เพราะเด็กชายเริ่มขยับกระเด้าราวกับลูกสูบ สองมือจับยึดสะโพกผายไว้แน่น ในขณะที่สะโพกแกร่งขยับวูบไหวกระแทกใส่ระรัวกระหน่ำชุดใหญ่เข้าใส่อย่างต่อเนื่องรุนแรงเร้าอารมณ์ และมีบ้างที่เขาขยับเอื้อมมือไปบีบเคล้นขยี้สองเต้านมอวบที่แกว่งไปมาตามแรงเหวี่ยง

   เนยอยากจะปลดปล่อยเสียงครางออกมาให้สุดเสียง แต่ก็เกรงว่าจะทำให้คนด้านนอกรับรู้ เธอจึงหลับตาปี๋ อ้าปากกัดข้อมือตัวเองเอาไว้ ขณะที่เด็กชายยังคงเดินหน้ากระเด้าถี่ยิบ

   ร่างขาวโพลนกลายเป็นชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เธอสะบัดหน้าไปมาราวกับว่ากำลังจะขาดใจตาย ซึ่งก็อาจจะเป็นเช่นนั้นจริง เพราะว่าการกระเด้าของเด็กชายทำให้เธอเสร็จสมไปอีกครั้งแล้ว แต่ว่าบั้นเอวแข็งแกร่งยังคงกระเด้ากระหน่ำอย่างต่อเนื่องไม่เปิดโอกาสให้เธอหยุดพัก

   อาการบิดเกร็งถึงจุดสุดยอดคล้ายโดนหล่อเลี้ยงเอาไว้ให้อยู่บนจุดสูงสุดตลอดเวลา ความเสียวจึงแล่นพล่านไปถึงก้านสมอง มีบ้างบางจังหวะที่อารมณ์ของเธอไต่ระดับลงไป แต่เมื่อโดนกระตุ้นต่อเนื่อง ก็ไต่ระดับขึ้นไปถึงจุดสุดยอดใหม่ เธอรู้สึกว่าตัวเองสุขล้นจนแทบสำลักอยู่ราวสิบกว่านาที ก่อนที่เด็กชายจะบีบบี้เต้านมของเธอจนแทบแหลก แล้วกระแทกเสยดุ้นเอ็นใส่เธอสุดแรง

   เสียงครางกระเส่าของเขามาพร้อมกับจุดสุดยอดเป็นรอบที่เท่าไหร่ของเธอก็ไม่รู้ แต่คราวนี้เธอรับรู้ได้ถึงน้ำกามร้อนผ่าวปริมาณมหาศาลที่ทะลักหลั่งเข้ามาในร่างเป็นระลอก

   ความสุขล้นทำให้หัวของเธอหมุนติ้วมึนงง เธอจำได้แค่ว่าเด็กชายปล่อยให้เธอได้พักเหนื่อยไม่กี่นาที ก็ช่วยจัดการสวมใส่เสื้อผ้าให้ แล้วประคองเธอเดินออกไปจากด้านหลังโรงอาหาร ก่อนจะถามหาสถานที่ถัดไป เนยจึงพูดบอกทางด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง แล้วชี้ทางไปยังด้านหลังรูปปั้นขนาดใหญ่ เวลานี้เธอตระหนักได้ในทันทีว่า เธอเผลอไผลติดใจหลงไหลในรสกามของเด็กชายจนถอนตัวไม่ได้เสียแล้ว

......................................

   ธาตุดินที่หลั่งไหลออกมาจากร่างของเนยนั้นโดนซึมซับเก็บเข้าไปในร่างของเอกอย่างรวดเร็วยิ่ง ปริมาณของมันอาจจะไม่ได้มากมายเทียบเท่าสาว ๆ ในสังกัดของเขา แต่อย่างน้อยก็ยังถือว่าสามารถช่วยปรับสมดุลย์ได้บ้าง

   แม้จะยังไม่เห็นผลในทันที ร่างกายของเขายังคงเป็นเด็กชายอยู่เช่นเดิม แต่ก็สัมผัสได้ถึงความสมดุลย์ของมนตราที่ดีขึ้นในร่างกายตนเอง เวลานี้เอกจึงค่อยสบายใจขึ้นมาอีกสักหน่อย เพราะคำนวณแล้วหากหาคนที่มีพลังธาตุดินแบบเนยให้ได้สักสี่ถึงห้าคนก็น่าจะเพียงพอ

   "บนนี้เหรอครับพี่เนย"

   เอกหันไปถามเนยซึ่งตอนนี้กำลังเดินจับแขนเขาไว้อย่างแนบแน่น ดวงตาของเธอฉ่ำเยิ้มด้วยไฟรักร้อนแรงที่ยังคุโชนไม่รู้ดับ และนั่นคืออาการของผู้หญิงที่หลงไหลต่อรสแห่งความใคร่อันดำมืด

   เนยไม่ตอบคำถาม แต่เลือกที่จะโผเข้ามากอดรัดร่างเด็กชายของเอกเอาไว้อย่างแน่นหนา แล้วเสนอปากจูบราวกับอดอยากมานานแสนนาน ทั้งที่เมื่อครู่พวกเขาเพิ่งตระเวนไปตามที่ต่าง ๆ และร่วมรักกันมาแล้วหลายรอบ เริ่มจากโรงอาหาร หลังรูปปั้น ห้องน้ำชาย สนามบอล ลานจอดรถ ริมรั้วมหาลัย และในป้อมยามร้าง รวมเป็นเจ็ดแห่ง

   สถานที่แห่งที่แปดคือกลางสะพานลอยที่เปลี่ยวร้างไร้ผู้คน เนยเป็นคนเลือกสถานที่นี้ด้วยตัวเอง เพราะเธอทราบดีว่าในเวลากลางวันสะพานลอยนี้จะพลุกพล่านเต็มไปด้วยนักศึกษา แต่ในเวลากลางคืนนั้นไม่ค่อยจะมีใครผ่านไปมานัก ถึงแม้จะมีรถวิ่งผ่านอยู่ด้านล่าง แต่ก็มีป้ายจราจรขวางเอาไว้หนึ่งชั้น หากไม่ตั้งใจจอดรถแล้วมองขึ้นมาจริง ๆ ก็ยากจะเห็นเหตุการณ์บนสะพานลอยได้

   สาวสวยในชุดนักศึกษาที่ผ่านการถอดเข้าออกหลายครั้งจนไม่ค่อยเรียบร้อยนักขยับร่างบดปากจูบใส่ ลิ้นน้อย ๆ แหย่แยงเข้ามาพัวพันอย่างเร่าร้อน สองแขนโอบกระหวัดรัดอย่างแน่นหนาราวกับว่าไม่อยากพรากจากเขาแม้แต่วินาทีเดียว

   เอกโอบกอดตอบพร้อมกับดูดเม้มริมฝีปากบางอย่างดุเดือด เขามองซ้ายมองขวาแล้วพบว่าน่าจะปลอดภัยจึงตอบสนองอารมณ์หื่นของเนยอย่างเต็มที่ เพราะสถานที่แปลกใหม่อย่างเช่นบนสะพานลอยแบบนี้ก็ทำให้เขาตื่นเต้นลุ้นระทึกได้อย่างแปลกประหลาด

   หนุ่มสาวแลกลิ้นกระตุ้นตัณหากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เอกจะจับกระโปรงนักศึกษาถลกขึ้นไปพร้อมกับยกขาข้างหนึ่งของเนยขึ้นมาพาดเอว จากนั้นก็รูดกางเกงปลดปล่อยดุ้นเอ็นออกมาชูคอผงาดเตรียมสอดใส่ ซึ่งทางเนยเองก็พร้อมอยู่แล้ว เพราะไม่ได้ใส่กางเกงในมาตั้งแต่ตอนอยู่โรงอาหาร

   เอกถอนปากออกมาแล้วมองดูดวงตาหรี่ปรือของเนย ใบหน้าอันแดงก่ำนั้นจ้องมองมาอย่างเว้าวอน เขาจึงค่อย ๆ ทรุดร่างลงนั่งวางร่างงามที่ผู้ชายฝันหาลงบนพื้นของสะพานลอยอย่างนิ่มนวล

   กระดุมเสื้อนักศึกษาโดนปลดออกทีละเม็ด เปิดเผยผิวขาวละลานตาและทรวงอกอวบที่เด้งชูชัน เขาขยับตัวจับสองขาขาวเพรียวแยกถ่างออกจากกันพร้อมกับเดินหน้าสอดใส่อีกครั้ง

   ขณะที่สะโพกเริ่มโยกเคลื่อนไหว เอกก็ไม่ได้อยู่นิ่ง เขาอ้าปากซุกไซร้ไปตามซอกคอ สลับกับดูดเม้มทรวงอกอย่างหนักหน่วงจนเนยตัวกระตุกแล้วกระตุกอีก และคราวนี้เธอกำลังปลดปล่อยเสียงครางออกมาอย่างเต็มที่

   เสียงรถนานาประเภทวิ่งผ่านใต้สะพานไป แต่ก็ไม่มึใครจะสังเกตเห็นว่าบนสะพานลอยจะมีหนุ่มสาวร้อนรักทำอะไรกันอยู่ ไม่มีใครมองเห็นว่าร่างนางแบบที่สวยผุดผ่องกำลังดิ้นพล่านร่ำร้องสุดกระสัน ไม่มีใครมองเห็นว่าเธอกำลังส่ายเด้งสะโพกและแอ่นทรวงอกเสนอเข้าหาร่างของชายหนุ่มด้วยความร้อนร่านเพียงใด และไม่มีใครสักคนที่ได้ยินเสียงหวีดร้องสุขสมของเธอคนนี้

   "มีคนกำลังจะขึ้นมาบนสะพาน รีบใส่เสื้อผ้าก่อนเลยครับพี่เนย"

   หลังเสร็จสิ้นกามกิจไปอีกหนึ่งรอบ เอกที่มีสายตาเฉียบคมก็สังเกตเห็นเงาร่างของใครบางคนเดินขึ้นมาทางตีนสะพานอีกด้านหนึ่ง เขาจึงรีบส่งเสียงเรียกสติเนยที่นอนหมดแรงสลบเหมือดเคลิบเคลิ้มในรสเสียวพร้อมกับช่วยพยุงยกเธอขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า แต่ดูเหมือนว่าเนยจะหมดแรงจริงจังจึงไม่ตอบสนองแม้แต่น้อย เอกจึงได้แต่รีบจัดการทั้งหมดด้วยตนเอง แล้วจัดแจงให้เนยที่ยังสวมใส่เสื้อผ้าได้ไม่เรียบร้อยนักให้ยืนพิงตัวเองเหมือนคู่หนุ่มสาวกำลังจู่จี๋กัน

   เอกยิ้มด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะรู้ว่ากำลังฝืนสภาพร่างกายของเนยอยู่บ้าง การร่วมรักเก้าครั้งในสถานที่ต่างกันนั้น เป็นไปตามพิธีกรรมของการดูดซับพลังธาตุ ซึ่งตำราโบราณกว่าว่าเป็นจำนวนมงคลที่สามารถซึมซับพลังได้มากที่สุด ดังนั้นแม้ว่าเนยจะอ่อยเปลี้ยเต็มที แต่เขาก็ยังต้องฝืนนำพาเธอไปร่วมรักยังสถานที่แห่งใหม่อีกหนึ่งครั้งให้ครบถ้วนกระบวนความ

   "คราวนี้ไปต่อกันที่ไหนดีครับพี่เนย"

   เอกถามขอความเห็น เพราะเนยนั้นดูจะรู้เรื่องสถานที่กระทำกามกิจอยู่ไม่น้อย เพียงแต่ว่าคราวนี้เธอเพียงมองเขาด้วยดวงตาหวานเยิ้มแล้วเกาะแขนซบไหล่เดินไปด้วยกันโดยไม่พูดไม่จาออกมาพักใหญ่ เหมือนยังนึกไม่ออก

   "... ที่ไหนก็ได้จ้ะ ขอแค่เป็นหนึ่ง จะเป็นที่ไหนก็ได้"

   เด็กชายอมยิ้มน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ ประคองให้สาวสวยเดินลงบันไดของสะพานลอยอย่างช้า ๆ ในขณะเดียวกันก็สอดส่ายสายตามองหาสถานที่แห่งใหม่ ก่อนจะหยุดสายตาไปที่รถแท็กซี่ซึ่งจอดรอผู้โดยสารอยู่ใต้สะพานลอย แล้วหันไปพูดกระซิบเสียงหื่นบอกเนยว่า

   "ผมมีที่นึงจะเสนอ แต่คราวนี้มีคนดูด้วยนะหนึ่งคน"

...........................................................


   รถแท็กซี่สีเหลืองกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งพุ่งทะยานไปตามท้องถนนตามคำสั่งของคนขับวัยครึ่งร้อย จากประสบการณ์ขับรถแท็กซี่ที่ผ่านมาเกือบครึ่งชีวิต ทำให้ลุงมานพเคยเจอเหตุการณ์คล้ายกันมาแล้วหลายครั้ง

   หนุ่มสาวร้อนรักให้เงินก้อนหนึ่ง สั่งให้เขาวิ่งรถไปเรื่อย ๆ แล้วมั่วเซ็กส์กันในรถ ซึ่งส่วนใหญ่อาจจะแค่เล้าโลมจนชุ่มฉ่ำ แล้วให้ไปส่งต่อที่โรงแรมม่านรูด เพียงแต่สาวร่านสวาทที่มากับหนุ่มน้อยวัยมัธยมในครั้งนี้สวยสะพรั่งเกินไป จนลุงมานพรู้สึกเสียดายและตื่นเต้นกระสันอยากเห็นเรือนร่างงามที่อยู่ใต้ชุดนักศึกษานั้นแทบแย่

   "ขับวนไปเรื่อย ๆ เลยครับลุง หาถนนที่ไม่สว่างมาก เดี๋ยวเสร็จเรื่องแล้วผมจะให้ทิปอีก ดูได้ตามสบายเลยครับ ผมไม่หวง"

   เด็กชายหน้าตาหล่อเหลาคนนั้นบอกก่อนขึ้นรถพร้อมกับยื่นเงินจำนวนที่ลุงมานพไม่กล้าปฏิเสธ ซึ่งความจริงลุงมานพเพียงแค่อยากเล่นตัวเรียกเงินมากกว่านี้ แต่เมื่อมองเห็นความขาวโพลนสวยสดของนักศึกษาสาวที่ไม่แพ้นางแบบบนหน้าจอทีวีแล้ว ลุงมานพก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอดังอึก แล้วรีบตอบตกลงทันที ก่อนที่เด็กชายจะเปลี่ยนใจไปเรียกรถแท็กซี่คันอื่นจนอดดูหนังสดไปโดยใช่ที่

   "อืออออ อย่านะ ไม่เอา ... นายเป็นใคร ... จะทำอะไรเรานะ"

   ลุงมานพถึงกับหูผึ่งควยแข็งโด่เมื่อได้ยินเสียงครวญครางอ่อนแรง ทั้งยังมองเห็นท่าทีต่อต้านแข็งขืนที่แสดงออกมาของนักศึกษาสาวสวยผ่านทางกระจกมองหลัง เวลานี้ร่างงามถูกจับนั่งบนตักของเด็กชาย และเด็กชายกำลังค่อย ๆ เล้าโลมใช้มือลวนลามลูบไล้ไปตามแขนขาเรียวงาม พร้อมกับใช้จมูกซุกไซร้ไปตามซอกคอจนสาวสวยตัวกระตุก

   'ไอ้ห่า เด็กนี่มันฉุดมาปล้ำนี่หว่า นึกว่าเต็มใจ แต่อีนี่ก็แม่งแต่งตัวน่าเยสขนาดนี้ก็สมควรล่ะวะ นมจะหลุดออกมาจากเสื้ออยู่แล้วนั่น'

   ลุงคนขับร่ำร้องในใจด้วยความรู้สึกเสียดายไปพร้อมกับตื่นเต้นงุ่นง่าน เรือนร่างงดงามที่ถูกเล้าโลมอยู่นั้นแสดงท่าทีอย่างเด่นชัดว่าไม่ได้สมยอม หากทว่าแขนขากลับขยับไปมาด้วยความป้อแป้ไร้เรี่ยวแรง ลุงมานพจึงฟันธงในทันทีว่าสาวสวยคงจะโดนวางยาปลุกเซ็กส์อะไรสักอย่างเป็นแน่แท้ ไม่เช่นนั้นคงจะไม่ร้องห้ามไปพร้อมกับตัวกระตุกร้องครางสุดเสียวแบบนี้

   เอี๊ยด!!! รถแท็กซี่แตะเบรคแรงกว่าปกติหนึ่งครั้ง เพราะเผลอมองด้านหลังจนลืมดูสัญญาณไฟแดงตรงสี่แยก แต่ต่อให้ฝ่าไฟแดงไปก็ไม่เป็นไร เพราะถนนเส้นนี้เป็นถนนเส้นที่ไม่ค่อยมีคนผ่านไปมามากนัก แม้แต่ตอนนี้ก็ไม่มีรถคันอื่นวิ่งข้ามแยกตามสัญญาณไฟเขียวแต่อย่างใด

   ลุงมานพย่อมไม่ได้รีบร้อนแต่อย่างใด การจอดนิ่ง ๆ นั้นดีกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะทำให้สามารถเอี้ยวตัวมองดูเหตุการณ์ด้านหลังได้อย่างเปิดเผย อย่างน้อยเด็กชายก็บอกตั้งแต่แรกว่าให้ดูได้ตามสบาย ดังนั้นจึงไม่ต้องเกรงใจอะไรให้มากความ

   "อูยยสสส เอามือออกไปนะ ... อย่า ... อะ ... อูววสสสส ... อย่า ... ปล่อยเนยไปเถอะนะ ... อ๊ะ อูยยสสส"

   นักศึกษาสาวคนสวยที่อยู่ในอ้อมกอดยังคงพยายามดิ้นรนขลุกขลักอ่อนแรง สองมือของเธอพยายามขยับปัดมือมารของเด็กชายที่ลูบไล้ไปทั่วร่าง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะทำอะไรไม่ได้มากนัก มือมารคู่นั้นจึงขยับรีดเร้นไปตามผิวกายขาวสะพรั่งเสพความนุ่มนิ่มเต่งตึงได้อย่างสบายอารมณ์

   ลุงมานพกลืนน้ำลายลงคออีกอึกใหญ่ เมื่อเห็นว่าสาวสวยที่หลับตาพริ้มอยู่นั้นสวยมากจริง ๆ มองไปไม่แพ้พวกดาราบนหน้าจอทีวีสักเท่าไหร่ ทรวดทรงองค์เอวก็เร้าอารมณ์สุดยอดจนลุงรู้สึกอยากขอเข้าไปร่วมด้วยสักครั้ง โดยเฉพาะเมื่อได้รู้สึกว่านี่ไม่น่าจะเป็นการสมยอม แต่เป็นการขืนใจ

   ลุงคนขับแลบลิ้นออกมาด้วยความกระหาย เมื่อมองเห็นมือของเด็กชายตะปบลงไปบีบขยี้นมเต้าจากด้านนอกเสื้อนักศึกษาจนบี้แบน ด้านสาวสวยเองก็ตัวกระตุกส่งเสียงร่ำร้องสุขสม ถึงแม้ว่ามือของเธอจะทำท่าเหมือนปัดป้องตัวเอง แต่ปฏิกิริยาของร่างกายนั้นจะอย่างไรก็ดูเหมือนกำลังตอบสนองต่อการเล้าโลมอย่างเต็มที่

   "หึ หึ เรื่องอะไรจะปล่อยให้โง่ วันนี้จะเปิดซิงดาวมหาลัยบนรถแท็กซี่นี่แหละ"

   "ไม่นะ .... ชั้นขอร้องล่ะ ... อย่า ... อูยยสสสส ... ได้โปรด ... อ๊ายยยย ... ไม่เอานะ"

   เด็กชายหัวเราะเสียงหื่นพร้อมกับตะปบมือรีดเร้นไปตามเนื้อตัวเต่งตึงไม่หยุดหย่อน ส่วนด้านนักศึกษาสาวนั้นก็แสดงอาการดิ้นรนสลับกับตอบสนองอย่างเร่าร้อนอย่างต่อเนื่อง

   "ลุงครับไฟเขียวแล้วนะ"

   เด็กชายเงยหน้าจากซอกคอหอมกรุ่นของสาวสวยแล้วฉีกยิ้มให้ ลุงมานพจึงสะดุ้งเล็กน้อย แล้วรีบหันไปขับรถวิ่งผ่านสี่แยกต่อไป แต่สายตาคู่นั้นยังคงคอยจับจ้องมองดูกิจกามบนเบาะหลังผ่านทางกระจกอยู่แทบจะตลอดเวลา และตอนนี้มือข้างหนึ่งของลุงมานพกำลังลูบคลำลงไปที่เป้ากางเกงของตนเองด้วยความหื่นกระหายสุดจะทานทาน

   'อื้อหือ ... นมใหญ่ชิบหาย แถมยังขาวด้วย แม่คุณเอ๊ย น่าเย็ดอะไรขนาดนี้วะ'

   มือที่กุมเป้ากางเกงตนเองขยำลงไปแรงขึ้น เมื่อสาวสวยโดนมือมารปลดกระดุมเสื้อออกจนหมด ทรวงอกที่เหลือเพียงยกทรงแบบครึ่งเต้าสีดำจึงเด้งผึงออกมาสะท้อนกับแสงไฟริมทางเปิดเผยความขาวเนียนวิบวับล่อตาล่อใจจนลุงมานพเริ่มตื่นเต้นจนลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อเจ้าเด็กหนุ่มคนนั้นได้ทำการปลดเปลื้องยกทรงออกตามที่แอบเชียร์ไว้ในใจ

   "อย่าค่ะ ... ไม่เอานะ ... อูยยสสสส ... ซี้ดดสสสสสสส .... อย่า ... อูววสสสส"

   สาวสวยหลับตาพริ้มร่ำร้องไม่หยุด แต่ลุงมานพหาได้สนใจไม่ เพราะปทุมถันคู่งามที่ไร้สิ่งใดปิดบังกำลังเด้งไปมาอยู่ด้านหลัง ความขาวกระจ่างและรูปทรงที่สวยงามสมวัยทำให้ลุงมานพต้องกลืนน้ำลายลงคอไปอีกหลายอึก ไม่เช่นนั้นคงต้องย้อยออกมาจากมุมปากเพราะกระหายเป็นแน่

   'อีนี่โคตรสวยเลยโว้ย ... อูยยสสส ... ดีมากไอ้หนุ่ม ... จับมือไว้แบบนั้นแหละ ลุงจะได้เห็นนมชัด ๆ หน่อย'

   ลุงมานพส่งเสียงร่ำร้องขอบคุณด้วยความกระสัน ก่อนจะเรียกสติหักพวงมาลัยเลี้ยวไปตามทางโค้ง ตอนนี้สาวสวยกำลังพยายามจะขยับมือมาปกปิดทรวงอกอวบเปลือย แต่ว่าเด็กชายกลับยึดรั้งเอาไว้ แล้วเงยหน้ามาส่งยิ้มให้เหมือนจะสื่อว่าเขาตั้งใจให้ลุงมองโดยเฉพาะ

   สาวสวยโดนล๊อคแขนแอ่นอวดนมเต้าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ลมหายใจของลุงมานพจะถี่กระชั้นเร็วขึ้น เพราะสองมือมารตะปบลงไปบนสองเต้าอวบตูม แล้วบีบขยี้อย่างแรงจนมันบิดเบี้ยว เจ้าของเนื้อเต่งจึงส่งเสียงครางซี้ดออกมาพร้อมกับอาการกระตุกสั่นสะท้าน จากนั้นลำคอขาวผ่องก็โดนเด็กชายซุกจมูกและปากลงไปดูดงับฝากริ้วรอยสีแดงทิ้งเอาไว้บนนั้นทีละรอย

   ลุงมานพรีบหักรถไปจอดข้างทางโดยพลัน เพราะไม่สามารถแบ่งแยกสมาธิได้อีก และเมื่อรถจอดสนิทก็รีบขยับตัวเองเอียงคอมองมาด้านหลังเบิกตากว้างจนแทบถลนเพื่อมองดูเรือนร่างของสาวสวยคราวลูก

   'อูยสสสสส อิจฉาไอ้เด็กนี่ชิบหาย อยากบีบนมใหญ่ ๆ แบบนี้บ้างจังโว้ยยยย อูยสสสส ซี้ดดสสส น่าเย็ดชิบ'

   ลุงมานพร่ำร้องพลางล้วงมือเข้าไปในกางเกงแล้วบีบขยำลำควยช่วยตัวเอง น้ำหล่อลื่นผุดทะลักออกมาจนลำควยสีดำคล้ำเป็นมันปลาบ หนังหุ้มโดนรูดถอกถี่ยิบตามแรงกระสันของจินตนาการ ลุงมานพกำลังจินตนาการว่าตนเองเป็นเจ้าเด็กชายที่น่าอิจฉาคนนั้น และมือที่กำลังบีบเคล้นขยี้รีดเร้นไปตามเนื้อเต่งนั้นก็คือมือของตนเอง ในขณะที่ใบหน้าซึ่งซุกไซร้สูดดมความหอมหวานจนเพลิดเพลินอร่อยลิ้นนั้นก็คือใบหน้าของตนเอง

   เสียงหอบหายใจยิ่งมายิ่งเร่งกระชั้น ปากหนาส่งเสียงสูดปากซี้ดซ้าดไม่หยุด มือหยาบกร้านรูดถอกยุกยิกระรัว ดวงตาของลุงมานพเริ่มกลายเป็นแดงฉานด้วยความหื่นกลัดมัน และนาทีนั้นลุงมานพก็บังเกิดความคิดอันรุนแรงอย่างหนึ่งขึ้นมา

   'จัดการไอ้เด็กนี่ แล้วแย่งนังหนูคนสวยมาเย็ดดีกว่า'

   เมื่ออารมณ์พลุ่งพล่านจนเกินขีดจำกัด อารมณ์ดำมืดก็เข้าครอบงำ ลุงมานพหมายจะหันไปหยิบมีดพร้าที่พกไว้ข้างที่นั่งคนขับมาข่มขู่ ตั้งใจว่าจะทำให้ไอ้เด็กคนนี้ตกใจ ตนเองจะได้จัดการนักศึกษาสาวคนสวยได้ตามต้องการ หากทว่าเพียงแค่ความคิดชั่วร้ายปรากฎขึ้น เด็กชายที่เอาแต่ก้มหน้าซุกไซร้ซอกคอสาวสวยก็เงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาที่เย็นชาราวกับพลัดหล่นลงไปในบ่อน้ำแข็ง

   ลุงคนขับแท็กซี่รู้สึกเหมือนโดนสาดด้วยถังน้ำแข็ง ไฟราคะที่พลุ่งพล่านจนดุ้นเอ็นเหนียวเหนอะมอดดับลงไปในพริบตา เวลานั้นลุงมานพแทบจะส่งเสียงแผดร้องออกมาเพราะรู้สึกเหมือนกำลังจะโดนฆ่าฟัน

   การเคลื่อนไหวของลุงมานพกลายเป็นนิ่งค้าง แต่เด็กชายที่จ้องมองมาด้วยสายตาเย็นชายังคงขยับสองมือบีบเคล้นขยี้ไปตามผิวกายเต่งตึงนุ่มนิ่มไม่หยุด ลุงมานพซึ่งรู้สึกแขนขาเย็นเยียบจนหน้าซีดจึงค่อย ๆ หมุนตัวลงไปนั่งช้า ๆ แล้วค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจอันขมึงตึงเครียดออกมาทีละน้อย

   'ไอ้เด็กเปรตนี่ตาน่ากลัวชิบหาย เหมือนจะโดนฆ่าทิ้งเลยกู'

   ร่างของชายวัยกลางคนยังคงสั่นเทิ้มหวาดผวา ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองดูกระจกเพราะหวาดเกรงต่อสายตาของเด็กชาย ทั้งยังไม่กล้าแม้แต่จะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวอยู่หลายนาที ทั้งที่ด้านหลังนั้นเสียงครางของสาวสวยค่อย ๆ ดังกระเส่าเร่าร้อนขึ้นทีละน้อย และนี่ก็เพียงเพราะเขาเกรงว่าจะทำให้เด็กชายอารมณ์เสียขึ้นมา

   "ดูแต่ตา มืออย่าต้อง"

   ในที่สุดเด็กชายก็พูดอะไรบางอย่าง และเสียงนั้นก็เหมือนคำสั่งอภัยโทษ ลุงมานพถึงกับทอดถอนใจแล้วนั่งผ่อนคลายหลังจากเกร็งเคร่งเครียดอยู่เนิ่นนาน แต่เพียงครู่เดียวก็ต้องสะดุ้งโหยงตื่นตกใจอีกครั้ง เพราะเด็กชายปีนป่ายจากด้านหลังมานั่งตรงที่นั่งด้านคนขับโดยไม่บอกกล่าว

   ขณะที่กำลังจะร้องขอชีวิต เด็กชายก็ปรับเก้าอี้นั่งให้เอนนอนจนสุด ลุงมานพจึงได้แต่อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกด้วยไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร แต่เมื่อมองเห็นนักศึกษาสาวสวยขยับร่างเกือบเปลือยเปล่ามานอนอยู่ในท่าโก้งโค้งคลานสี่ขาแอ่นก้นโด่งหันไปทางหน้ารถก็ค่อยรู้สึกคลายใจลง

   "เงี่ยนจนทนไม่ไหวแล้วล่ะซิท่า"

   เด็กชายพูดพลางหัวเราะเสียงหื่น ขณะขยับไปประกบก้มลงไปทาบทับร่างงาม แล้วจับดุ้นเอ็นยาวใหญ่สอดใส่เข้าไปจากทางด้านหลัง

   ปั่บ ปั่บ ปั่บ เสียงหนั่นเนื้อกระทบกระแทกดังหนักหน่วง รถแท็กซี่ที่จอดนิ่งเด้งยวบหน้าทีหลังที หน้าขาของเด็กชายกระแทกใส่แก้นก้นขาวละลานตาของสาวสวยเด้งกระเพื่อมเป็นริ้วคลื่น ควยยักษ์วิ่งผลุบโผล่มุดเข้ามุดออกอยู่ในร่องรูอย่างเมามัน

   สาวสวยร่ำร้องโอดครวญส่งเสียง อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ไปตามจังหวะกระแทกกระทั้น แต่ก็ยังไม่วายแอ่นเด้งสะโพกผึ่งผายเข้าต้านรับอย่างรู้จังหวะจะโคน นมเต้าขนาดสามสิบหกนิ้วทั้งสองข้างแกว่งไกวกระดอนเด้งหน้าเด้งหลังจนคนที่ดูอยู่ด้านข้างเกิดอาการควยบวมเป่งขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

   'อีนี่แม่งก็ร่านนี่หว่า เมื่อกี้ทำเป็นร้องห้ามอย่าทำอย่าทำ ตอนนี้แม่งร่อนยิ่งกว่ากะหรี่อีก'

   ลุงมานพบ่นพึมพำในใจแต่ไม่กล้าพูดออกมา กระนั้นก็ยังใจกล้าพอที่จะรูดกางเกงลงเล็กน้อยแล้วชักเอาควยสีดำคล้ำออกมารูดถอกระบายอารมณ์งุ่นง่าน แม้ในใจจะยังสงสัยว่าทำไมแม่นักศึกษาสาวถึงเปลี่ยนเป็นสาวร้อนได้ง่ายดายนัก แต่ภาพวาบหวามที่อยู่ตรงหน้านั้นเร้าใจยิ่งกว่าจนแทบไม่อยากเสียเวลาคิด

   ใบหน้าสวยเฉี่ยวสะบัดแอ่นเริ่ด เสียงร่ำร้องครวญครางกระเส่าดังถี่ยิบออกมาจากริมฝีปากซึ่งมีน้ำลายเอ่อย้อยออกมา เธอกำลังปลดปล่อยอารมณ์เสพรับรสชาตหฤหรรษ์ที่รุกเร้าทะลวงเข้าใส่โดยไม่สนใจต่ออะไรทั้งสิ้น

   ด้านเด็กชายก็คึกยิ่งกว่าม้าป่าในฤดูผสมพันธุ์ บั้นเอวแกร่งเด้งกระแทกบดคว้านบ้างหนักหน่วง บ้างแผ่วเบา บ้างซ้าย บ้างขวา บ้างหมุนคว้างทะลวงใส่โพรงสวาทคับแน่นอย่างเมามันสะใจในอารมณ์ รถแท็กซี่กลางเก่ากลางใหม่จึงยิ่งสั่นคลอนเด้งสะเทือนอย่างบ้าคลั่งราวกับจะหลุดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

   'อูยยสสสส แม่งอิจฉาโว้ย ดูหอยยังใหม่อยู่เลย นมแม่งก็จะเด้งดีอะไรขนาดนั้นวะ'

   ลุงมานพครุ่นคิดพลางเร่งสาวมือรูดถอกลำควยตัวเองถี่ยิบ ในหัวคิดจินตนาการไปว่ากำลังสอดใส่กระเด้าอยู่ในรูเสียวที่ทั้งคับทั้งแน่นของสาวมหาลัย ฝันว่ากำลังโดนโพรงสวาทนุ่มตอดหนึบหนับรีดดูดน้ำกามอย่างรุนแรง

   เมื่อเด็กชายสอดมือสองข้างลอดใต้วงแขนไปตะปบขยี้สองเต้าอวบอย่างเมามัน ลุงมานพก็จิกมือตัวเองลงบนต้นขาแล้วนึกฝันไปว่ากำลังเป็นคนบีบขยำรีดเร้นไปตามหนั่นเนื้อเต่งตึงของวัยสาวขบเผาะ

   เสียงครางอูวสุดเสียวสามเสียงแว่วดังผสานกัน โดยเฉพาะสุ้มเสียงของเนยที่ร่ำร้องครวญครางออกมาดังสุด เพราะทั้งเสียวซาบซ่าน ทั้งตื่นเต้นระทึกไปกับบทเสียวที่มีผู้ชมดูอยู่ด้านข้าง นี่เป็นฉากในฝันฉากหนึ่งที่เธอเคยคิดจินตนาการเมื่อเกิดอารมณ์วาบหวิว และวันนี้ฝันของเธอก็ได้กลายเป็นจริงแล้ว

   "ซี้ดดดสสสส หนึ่งจ๋า อูวววววว ซี้ดดสสสสสสส อย่าหยุดนะ ซี้ดดสสสสส เสียวววว อูววสสสส"

   ในที่สุดเนยก็หลุดเผลอเรียกชื่อออกมา ความจริงแล้วเธอกับเด็กชายวางแผนว่าจะแสดงละคร ทำเหมือนไม่รู้จักกัน โดยให้เนยสวมบทสาวมหาลัยโดนวางยาปลุกเซ็กส์ลากมาข่มขืนโดยไม่ยินยอม กระนั้นต่อให้หลุดเรียกชื่อออกมาตอนนี้ คนขับรถแท็กซี่ก็ใช่ว่าจะคิดสนใจ
    
   "อ๊ากกกซซซซ ลุงไม่ไหวแล้ว เสียวโว้ยยยยยยย"

   ลุงมานพแหกปากร่ำร้องออกมาเป็นคนแรก ควยดำคล้ำโดนมือหยาบรูดถอกถี่ยิบในห้วงสุดท้ายแห่งอารมณ์กระสัน ก่อนที่ปลายหัวบานร่าจะกระตุกหงึกฉีดพ่นน้ำกามกระฉูดออกมาอย่างแรง จนเลาะเปรอะเต็มพวงมาลัยรถ

   ด้านเด็กชายที่กำลังกระหน่ำรักใส่สาวสวยอย่างเมามันก็เร่งเครื่องเร็วขึ้นอีก สองมือปลดปล่อยเต้านมให้แกว่งไกวไปตามแรงกระแทก สลับมาจับล๊อคที่สะโพกอย่างแน่นหนาแล้วออกแรงกระชากดึงไปพร้อมกับจังหวะการกระแทกเอว

   เสียงเนื้อกระแทกเนื้อที่หนักแน่นกว่าเดิมดังขึ้นถี่ยิบ สาวสวยร่ำร้องสะบัดหน้าไปมาปริ่มว่าจะขาดใจตาย เธอเพิ่งจะเสร็จสมไปแล้วหนึ่งรอบ แต่บทรักของเด็กชายยังคงหนักหน่วงไม่รั้งออมลงแม้แต่น้อย ความสุขเสียวที่ทะลักล้นนั้นมากมายเกินจะเคยคิดจินตนาการ

   รถแท็กซี่ที่จอดอยู่ในริมถนนอันมืดมิดเริ่มส่งเสียงประท้วงเอี๊ยดอ๊าดใกล้พังทลายเต็มที แต่ยังดีที่แรงตอดรัดในโพรงสวาทนั้นปลุกเร้าจนเด็กชายเริ่มหอบกระเส่า

   เนยเริ่มรับรู้ได้ถึงอาการเปลี่ยนแปลงของคู่รัก เธอจึงรีดเร้นเรี่ยวแรงขยับแอ่นเด้งหน้าเด้งหลังช่วยเพิ่มความหฤหรรษ์ให้แก่ชายหนุ่ม เสียงครางของทั้งคู่จึงยิ่งมายิ่งเร่าร้อน จังหวะเคลื่อนไหวของสะโพกทั้งสองเริ่มสอดประสานกัน จวบจนกระทั่งทั้งคู่ตัวกระตุกเกร็งส่งเสียงร่ำร้องครวญครางออกมาอย่างพร้อมเพรียง

   ความหฤหรรษ์ที่มาเยี่ยมเยือนทำให้เนยหวีดร้องสุดเสียง ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนคว่ำหน้าหมดเรี่ยวหมดแรงอ่อนระทวยสลบเหมือดไปในทันที ส่วนชายหนุ่มที่เพิ่งเสร็จสมปลดปล่อยน้ำกามเข้าไปในร่องเสียวจนเต็มรักนั้นเพียงทิ้งตัวลงไปนอนทับสาวสวยจากด้านหลังโดยที่ดุ้นเอ็นไม่มีการอ่อนตัวลงแม้แต่น้อย

   ภายนอกนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวอันใด หากทว่าข้างในนั้นโพรงสวาทกำลังทำงานอย่างหนักหน่วง ทั้งดูดทั้งตอดรีดเร้นสูบเอาน้ำกามขาวข้นออกจากปลายควยที่กดลึกเข้าไปถึงโพรงมดลูกอย่างเต็มที่

   เด็กชายหลับตาลงสงบนิ่งควบคุมเปิดรับกระแสพลังธาตุดินที่ไหลหลั่งออกมาจากร่างสาวสวย เขาสัมผัสได้ว่าพลังธาตุดินที่สะสมในร่างของเนยนั้นแทบจะกลายเป็นว่างเปล่า และคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสักเดือนกว่าที่จะกลับมามีปริมาณเท่าเดิม

   เมื่อได้พลังธาตุดินมาเติมเต็ม สมดุลย์ของธาตุทั้งเจ็ดก็ดีขึ้นไม่น้อย เอกคิดว่าเขาน่าจะสามารถใช้มนตราพื้นฐานบางบทในระยะเวลาสั้น ๆ ได้บ้างแล้ว แต่สำหรับมนตรายาก ๆ นั้นยังคงต้องปรับสมดุลย์ให้ดีกว่านี้ ส่วนร่างกายวัยเด็กนั้นยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงอันใดให้เห็น อย่างน้อยตัวเขาเองก็ไม่รู้สึก

   "เหวอ!!!"

   คนขับแท็กซี่ที่อยู่ด้านข้างกลับมองเห็นบางอย่าง ช่วงเวลานั้นดวงตาสุกสว่างสดใสของเด็กชายได้กลายเป็นมืดมิดเปี่ยมอาถรรพ์วูบหนึ่ง และนั่นก็ทำให้คนขับแท็กซี่ต้องส่งเสียงร้องเหวอ แล้วถอยกรูดออกห่างจนติดกับประตูรถ

   "เห็นแล้วก็เก็บไว้เงียบ ๆ ด้วยล่ะลุง ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน"

   เด็กชายหันมายิ้มเจ้าเล่ห์พลางพูดด้วยน้ำเสียงที่คล้ายหยอกล้อ คล้ายข่มขู่ ลุงมานพจึงยิ้มเจื่อน ๆ แล้วพยักหน้าตกลงเอาไว้ก่อน ส่วนจะเอาไปพูดอีกหรือไม่ก็ค่อยดูกันอีกที

   "ผมขอพักแวบนึงนะลุง เดี๋ยวลุงช่วยขับพากลับไปที่มหาลัยด้วย"

   พูดจบเด็กชายก็สอดสองมือเข้าไปใต้ร่างสาวสวยบีบคลึงเต้าคู่สวยแผ่วเบา แล้วซบหน้าลงหลับตาคล้ายนอนหลับ ลุงมานพจึงค่อยคลายจากความหวาดเกรง แล้วขยับมืออันสั่นเทาไปควานหากระดาษทิชชู่มาเช็ดคราบน้ำกามของตนที่เลอะอยู่บนพวงมาลัยรถ จากนั้นจึงค่อย ๆ ดึงกางเกงขึ้นมานั่งพิงเอนกายด้วยความเหน็ดเหนื่อย

   กระนั้นไม่นานนักเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นจนลุงมานพสะดุ้งโหยงรีบหยิบฉวยกดรับให้เร็วสุดชีวิต แล้วพูดตอบด้วยเสียงแผ่วเบาที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะเกรงว่าจะเสียงดังจนเด็กชายอารมณ์เสีย

   "ฮาโหล ... เออ ... กูมานพ ... นั่นใครวะ?"

   "... หา ... มานิตย์ไหนวะ ... อ๋อ ไอ้นิด ... เออ มึงว่าไง?"

   "... หือ จะมาเรียนกรุงเทพ ... ขออยู่บ้านกูเหรอวะ เออได้ซิวะ มาเลย ... จะมาวันไหน?"

   "เออ มีห้องว่างไม่ต้องเกรงใจ ... อะไรนะ ... โมไหนของมึง ... อ๋อ หนูโมร้านตัดผม ลูกแม่อุ้มน่ะเรอะ มึงถามทำไม?"

   "เออ หนูโมมันก็อยู่ของมันตลอดแหละ ... สวยซิวะ สวยน่าเย็ดกว่าแม่มันอีก คนแถวนั้นพูดถึงตลอด ... มึงอย่าหวังจะเด็กดอกฟ้าเลยมึงไอ้นิตเอ๊ย ..."

   "ไว้เจอกันโว้ย ตอนนี้ลุงมีธุระ แค่นี้แหละนะ ..."

   ลุงมานพสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ครู่หนึ่ง ก็หันไปเห็นเด็กชายลืมตามองมา ด้วยเกรงว่าจะคุยเสียงดังจนสร้างความขุ่นเคือง ลุงมานพจึงรีบตัดบทแล้ววางสาย ก่อนจะหันไปผงกศรีษะให้เหมือนจะบอกว่าขอโทษที่เสียงดัง

   "นี่ลุง"

   "มะ มีอะไรให้ลุงรับใช้ครับคุณ"

   "ที่ลุงพูดเมื่อกี้ ... ผู้หญิงชื่อโมนั่นน่ะ ... เธอเป็นใคร?"

   "... หนูโมน่ะเหรอ ... เอ่อ เป็นลูกสาวของช่างตัดผมชื่อสิท แม่ชื่ออุ้ม ตอนนี้สาวมหาลัย สวยเชียวล่ะคุณ ผู้ชายในซอยแต่ละคนอยากจับมันเย็ดทำเมียทั้งนั้น"

   "สวยขนาดไหน? เทียบกับผู้หญิงคนนี้เป็นยังไง? บอกมาตรง ๆ นะลุง ไม่ต้องพูดเอาใจ"

   เด็กชายถามพลางหันหน้ามองไปทางเนยที่ยังคงนอนสลบไสลอยู่ ลุงมานพทีแรกตั้งใจจะพูดเอาใจบอกว่าเนยสวยกว่า แต่เมื่อโดนพูดทักทางจึงค่อย ๆ หันไปมองสำรวจดูเนยอีกรอบ แล้วยกมือขึ้นเกาคางทำท่าครุ่นคิด

   "เทียบยากนะคุณ ... น่าจะพอกันมั้ง นังหนูคนนี้สวยเฉี่ยวแรง ๆ แต่หนูโมเขาสวยอีกแบบ ลุงก็บอกไม่ถูก เอาเป็นว่าถ้าลุงต้องเลือกคนเดียวลุงก็เลือกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะเอาใคร"

   "แสดงว่าสวยมากทีเดียว เพราะคนนี้ก็เป็นนางแบบ แถมสวยระดับเป็นดาวมหาลัยได้ด้วย เสียก็แต่ในมหาลัยมีคนอื่นที่สวยกว่า"

   "ละ แล้วคุณจะถามถึงหนูโมมันทำไมล่ะคุณ? หรือว่าคุณรู้จักด้วย?"

   "... อืม ... ลุงรู้มั้ย ... สำหรับคนที่เคยร่ำเรียนวิชาพยากรณ์ทำนายทายทัก คนนั้นมักจะมีลางสังหรณ์บอกเหตุอะไรบางอย่างล่วงหน้า"

   "เอ่อ ลุงไม่เข้าใจ คุณเป็นหมอดูเหรอ"

   "ฮ่า ฮ่า อาจจะใช่ก็ได้นะลุง เอาเป็นว่าผมมีลางสังหรณ์ อีกไม่นานนัก ผมจะได้มีอะไรกับผู้หญิงชื่อโมคนนั้น"

   เด็กชายส่งเสียงหัวเราะแล้วพูดในสิ่งที่ลุงมานพไม่ค่อยเข้าใจนักก่อนจะก้มหน้าลงไปฟุบหลับตาต่อ แต่หากจะบอกว่าเด็กชายคนนี้ไม่เต็มเต็งก็ยังไม่กล้าคิดแบบนั้น เพราะลุงมานพสัมผัสได้ว่าเด็กชายคนนี้ไม่ธรรมดา ลุงมานพจึงเกิดภาพจินตนาการอันวาบหวามถึงฉากรักร้อนแรงบนรถแท็กซี่จนควยบวมเป่งขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแต่จินตนาการในครั้งนี้ผู้หญิงกลับเป็นหญิงสาวชื่อโมที่กำลังพูดถึงกัน

..........................................

รักยม ตอนที่ 74 - พลุ่งพล่าน





   "พี่เอกอ่ะ หนีไปเที่ยวที่ไหนอีกแล้วเนี่ย"

   เด็กหญิงเมญ่า หรือเมย์เด็กสาววัยสิบสี่ปีส่งเสียงบ่นอุบขณะมองดูข้อความบนโทรศัพท์มือถือ นั่นเป็นข้อความจากพี่เอกที่ส่งมาบอกว่ามีธุระด่วนอาจจะหายไปสักสามถึงสี่วัน ซึ่งเธอเองก็ได้ทำการโทรศัพท์กลับไปทันทีที่ได้รับข้อความ แต่กลับกลายเป็นว่าไม่สามารถติดต่อได้

   เด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมต้นอ่านข้อความซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ ก่อนจะกดปิดแล้วโยนโทรศัพท์มือถือลงไปในกระเป๋าสะพาย เธอหยุดยืนคิดเล็กน้อย ขณะที่หนุ่ม ๆ รอบกายในย่านการค้ากำลังแอบมองสำรวจเรือนร่างอวบอิ่มเกินวัยด้วยสายตาวาววับ ซึ่งนั่นก็นับเป็นเรื่องปกติที่เธอเคยชินเสียแล้ว

   เมย์นั้นจัดเป็นเด็กสาวที่สวยยั่วราคะเกินวัย ผิวกายของเธอขาวผ่อง ใบหน้าสวยหวาน โดยเฉพาะส่วนทรวงอกที่ชูชันเด้งเด่นหราราวกับอยู่ในวัยมหาลัย จึงไม่แปลกที่เพศตรงข้ามจะต้องแอบมองจนบังเกิดจิตราคะ

   ความจริงแล้วเด็กสาวเพิ่งเลิกเรียน เธอเพิ่งแยกทางกับต่ายเพื่อนสนิท ตั้งใจจะรีบมาซื้อขนมของชอบ ก่อนจะแวะไปรับน้องสาว แล้วกลับบ้านเพื่อไปหาพี่ชายสุดที่รัก แต่เมื่อพี่ชายส่งข้อความมาบอกว่าจะไม่อยู่บ้าน แผนการณ์ของเธอจึงกลายเป็นเคว้งคว้างขึ้นมา เธอไม่ทราบว่าจะรีบกลับไปทำอะไรที่บ้าน

   "น้องสาวคนสวยไปดูหนังกับพี่มั้ยครับ?"

   ขณะกำลังคิดเพลิน ๆ ก็ปรากฎชายหนุ่มใส่ชุดช่างกลห้าคนเดินเข้ามาหาพร้อมกับสายตากรุ้มกริ่มลามก โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาแอบเหลือบสายตาลงต่ำมองดูทรวงอกของเธอเป็นระยะ เมย์จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วตอบปฏิเสธอย่างสุภาพ

   "ขอโทษค่ะ หนูรอแฟนอยู่"

   เธอปฏิเสธแล้วเดินหนีไปทางอื่น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีหนุ่ม ๆ คิดมาขายขนมจีบ เธอจึงไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร เพียงแค่ตอบปฏิเสธให้ชัดเจน แล้วเดินหนีไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายแสดงอาการดื้อดึง ซึ่งก็มักจะได้ผลเสมอ แต่คราวนี้กลับไม่ได้ผลนัก เพราะอีกฝ่ายยังคอยเดินตามอยู่ห่าง ๆ ทำท่าเหมือนไม่เชื่อว่าเธอกำลังรอแฟน

   เด็กสาวรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้างที่มีคนแอบเดินตาม แต่ว่าในสถานที่แบบนี้น่าจะไม่มีอันตรายอะไร เธอจึงตัดสินใจเดินเล่นในย่านการค้าต่อ เพราะโรงเรียนของน้องสาวยังไม่ถึงเวลาเลิก เธอพยายามไม่สนใจสายตาหื่นกระหายที่จ้องมองมา ทั้งยังต้องคอยปฏิเสธการเข้ามาจีบของหนุ่ม ๆ หลายครั้ง จนเธอเริ่มเกิดความคิดประท้วงพี่ชายตัวเองขึ้นมาอย่างหนึ่งว่า หากเธอหากิ๊กวัยเดียวกันสักคน พี่ชายจะออกอาการหึงบ้างหรือไม่

   ความคิดอุตริเล็ก ๆ เพิ่งบังเกิด เมย์ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กผู้หญิงวัยประถมคนหนึ่ง เธอจึงเดินเข้าไปใกล้ด้วยความสงสัย ก่อนจะพบว่าเด็กสาวคนนั้นยืนร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ เงยหน้ามองดูลูกโป่งสีแดงสดที่ติดค้างอยู่กับกิ่งไม้สูงจากพื้นมากพอสมควร

   เมย์เกิดความคิดอยากช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรได้ ต่อให้เป็นผู้ใหญ่ก็ยังเอื้อมไม่ถึง จะมองหาที่เหยียบขึ้นไปหยิบให้ดูเหมือนจะไม่มี และในขณะที่เธอกำลังจะส่ายหน้าเลิกล้มความคิดช่วยเหลือนั้นเอง ก็สังเกตเห็นเงาของเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังปีนป่ายขึ้นไปบนต้นไม้

   เธอยกมือขึ้นป้องปากด้วยความลุ้นระทึกเกรงว่าเด็กชายจะร่วงตกลงมา แต่ก็ยังแอบลุ้นให้เขาทำได้สำเร็จ และเพียงเวลาไม่นานเขาก็ทำได้สำเร็จ เด็กชายปีนป่ายไปตามกิ่งไม้ใหญ่หยิบเอาลูกโป่งสีแดงสดไว้ในมือท่ามกลางความยินดีของคนที่มองดูอยู่จากด้านล่าง และทันใดนั้นเอง ทุกคนก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตื่นตกใจ ผู้หญิงบางคนถึงกับส่งเสียงร้องวี้ดออกมา เพราะเด็กชายคนนั้นกระโดดลงมาจากกิ่งไม้ที่สูงมากกว่าสามเมตร

   เมย์เป็นคนหนึ่งที่เผลอส่งเสียงร้องวี้ดออกมา เพราะนั่นเป็นความสูงที่นับได้ว่าอันตรายถึงขั้นกระดูกแตกหัก หากทว่าเวลานั้นเธอกลับต้องลืมตาโพลงมองดูร่างที่ร่วงหล่นลงมาด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด นั่นเป็นเด็กชายวัยเดียวกันกับเธอที่ดูหล่อเหลาน่ามอง และที่น่าประหลาดก็คือใบหน้านั้นมีส่วนคล้ายคลึงกับพี่เอกสุดที่รักของเธออยู่หลายส่วน เพียงแต่อ่อนวัยกว่าเป็นสิบปี

   ตุบ ... เสียงรองเท้ากระแทกลงบนพื้นเบากว่าที่ผู้คนคาดคิดไว้ เด็กชายร่วงลงมาแล้วย่อเขาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืนยื่นลูกโป่งให้เด็กสาวโดยไม่มีท่าทีว่าจะบาดเจ็บอะไร บรรดาไทยมุงจึงพากันยืนอ้าปากค้างด้วยความงุนงงไม่เข้าใจ ว่าเด็กชายทำได้อย่างไร

   เสียงปรบมือและคำชมเชยดังขึ้นเมื่อทุกคนได้สติคืนมา หากทว่าเมย์ยังไม่ได้สติ เธอยังคงจับจ้องมองดูเด็กชายคนนั้นด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด หัวใจของเธอเต้นระทึกคล้ายกับตอนพบหน้าพี่เอกสุดที่รัก อะไรบางอย่างทำให้เธอรู้สึกว่าเธอคุ้นเคยและผูกพันธุ์กับเด็กชายคนนี้อย่างยิ่ง

   เมย์รู้สึกหน้าแดงวูบเล็กน้อย เมื่อเธอเผลอยิ้มให้เด็กชายคนนั้น ตอนที่เขาหันมามองสบตากับเธอเป็นครั้งแรก ทีแรกแววตาของเด็กชายนั้นคล้ายกับแตกตื่นประหลาดใจ จากนั้นเพียงครู่เดียวเขาก็ขมวดคิ้ว แล้วหมุนตัวเดินจากไป ทำท่าเหมือนไม่สนใจในความสวยน่ารักของเธอเลยแม้แต่น้อย และนั่นทำให้เธอรู้สึกแปลกประหลาดใจไม่น้อย

   นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนไม่โดนความสวยน่ารักของเธอสะกด ต่อให้เก็บอาการเก่งแค่ไหน แต่เมย์คุ้นชินกับการโดนผู้ชายมองจนตาค้างด้วยความลุ่มหลงในแวบแรกเสมอมา ไม่เคยเลยที่จะมีใครมองเธอแล้วแสดงท่าทีเย็นชาไม่สนใจใยดีแบบนี้ เด็กสาวจึงรู้สึกไม่ยินยอมพร้อมใจ และเดินตามหลังเด็กชายไปโดยไม่รู้ตัว

   น่าแปลกที่ช่วงแรกนั้นเด็กชายเดินทอดน่องแบบสบาย ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ เขาก็เริ่มเดินเร็วขึ้น ทั้งยังซอกแซกไปตามเส้นทางยิบย่อยของย่านการค้าเหมือนกับคิดจะสลัดคนติดตามให้หลุด เมย์เองก็รู้สึกว่าเขาน่าจะรู้ตัวแล้วว่าโดนตามอยู่ แต่ว่าความคิดอยากรู้ และอยากเอาชนะทำให้เธอพยายามตามเขาไปเรื่อย ๆ โดยที่ตัวเองก็บอกไม่ได้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร

   เด็กชายคนนั้นยิ่งรวดเร็ว เธอก็ยิ่งโดนทิ้งห่าง สุดท้ายเมย์ก็พบว่าตนเองหลงอยู่ในซอยเปลี่ยวร้างผู้คน ซึ่งไม่ทราบว่าอยู่ตรงส่วนไหนของย่านการค้า และทันใดนั้นเองมือของเธอก็โดนฉุดกระชากไปกระแทกกับผนังกำแพงคราหนึ่งจนต้องว้ายออกมา

   "ว้ายย!!!"

   "จะรีบไปไหนจ๊ะน้องสาวคนสวย กำลังหาที่เปลี่ยว ๆ ให้พวกพี่ตามมาเยสเหรอจ๊ะ"

   เมย์เงยหน้ามองก็ได้พบว่าที่ยืนล้อมกรอบเธออยู่ก็คือเด็กช่างทั้งห้าคนที่เข้ามาทักเธอในตอนแรก พวกเขายังคงแอบเดินตามเธอมาตลอดจนกระทั่งเมย์เผลอเดินเข้ามาในซอยเปลี่ยวจึงค่อยออกมาฉกฉวยโอกาส ตอนนี้เมย์จึงหน้าซีดรู้สึกว่าตนเองหาเรื่องใส่ตัวเข้าแล้ว

   "แม่ง เห็นแล้วโคตรเงี่ยนเลยว่ะ เด็กโรงเรียนลูกคุณหนู สวยชิบหาย ใส่ชุด ม ต้น แต่ทำไมนมใหญ่ขนาดนี้"

   "กูอยากเย็ดลูกคุณหนูมานานแล้วว่ะ เมื่อกี้มองไกล ๆ ควยกูก็แข็งปั๋งแล้วตอนนี้ควยกูเหมือนจะระเบิดเลย"

   "ปากสวยหน้าสวยแบบนี้ ขอกูเด้าให้แตกคาปากก่อนนะเว้ย"

   "งั้นกูขอเย็ดตูดอีนางฟ้านี่ก็แล้วกัน"

   เด็กช่างกลทั้งห้าที่ยืนห้อมล้อมพากันพูดจาด้วยความคึกคะนอง พวกมันมองดูความสวยงามละลานตาของเด็กสาวด้วยความรู้สึกหื่นกระหายจนคอแห้งผาก โดยเฉพาะเมื่อเด็กสาวที่สวยหมือนนางฟ้าคนนี้สวมใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนสตรีชื่อดังที่มีแต่ลูกคุณหนู ความหื่นของพวกมันก็ยิ่งพลุ่งพล่านจนเป้ากางเกงพองเป่ง

   "ช่วยด้วย อุ๊บบ ..."

   เมย์เห็นท่าไม่ดีก็รีบหวีดร้องส่งเสียงเรียกให้คนช่วย แต่ร้องออกมาได้คำเดียวก็โดนมือข้างหนึ่งพุ่งเข้ามาปิดปากเอาไว้จนเสียงขาดหาย เธอจึงพยายามดิ้นหมายจะหนีออกจากวงล้อม แต่เรี่ยวแรงของเด็กสาวหรือจะสู้ชายฉกรรจ์อารมณ์หื่นห้าคนได้ เพียงพริบตาเดียวร่างงามก็โดนกดนิ่งอยู่กับกำแพง ปากเธอโดนปิด สองมือโดนจับกดลงบนกำแพงจนกระดุกกระดิกไม่ได้

   เด็กสาวยังคงพยายามส่งเสียงร้อง หากมีแต่เพียงเสียงอู้อี้ที่ดังออกมาแผ่วเบา ดวงตากลมโตมองดูสีหน้าอันหื่นกระหายกลัดมันของชายฉกรรจ์ทั้งห้าด้วยความรู้สึกหดหู่หมดหวัง พริบตานั้นเธอนึกถึงพี่เอกสุดที่รักของเธอ หวังว่าเขาจะมาช่วยเธอแบบเดียวกับที่เคยช่วยพี่หญิง หากทว่าที่น่าแปลกก็คือ ในใจส่วนลึกกลับเรียกร้องหาเด็กผู้ชายที่เธอวิ่งตามมาด้วยอีกทางหนึ่ง

   "... เรามาตกลงกันดีกว่านะคนสวย ... เอาเป็นว่าพวกพี่จะให้น้องช่วยใช้ปากโม้กควยให้พวกพี่พร้อมกัน ถ้าน้องทำให้พวกพี่น้ำแตกได้ทั้งห้าคน พี่สัญญาว่าจะปล่อยเราไป"

   หนึ่งในเด็กช่างที่ปิดปากเมย์ยิ้มหื่นพร้อมกับยื่นข้อเสนอที่ไม่น่าเชื่อถือออกมา ซึ่งเมย์เองก็ไม่ได้คิดจะเชื่อคำพูดไร้สาระแบบนี้ เธอคิดว่าคนพวกนี้กำลังจะอยากเล่นสนุก ต่อให้เธอยอมทำให้ พวกมันก็จะยังข่มขืนรุมโทรมเธอในภายหลังอยู่ดี แต่ปัญหาก็คือหากเธอไม่ยอมทำ เธอก็จะโดนรุมข่มขืนตอนนี้ทันทีโดยไม่มีใครมาช่วยได้ ดังนั้นหากถ่วงเวลาออกไปได้สักหน่อยก็น่าจะดีกว่า

   เด็กช่างคนนั้นปล่อยมือออกจากปาก เมื่อเมย์พยักหน้าทำท่าเหมือนจะยอมรับข้อเสนอ จากนั้นมือทั้งสองข้างก็โดนปล่อยจนเธอเป็นอิสระ ในขณะที่เด็กช่างทั้งห้านั้นหันไปถอดรูดกางเกงออก อวดดุ้นเอ็นที่แข็งปั๋งแต่มีขนาดแตกต่างกันห้าดุ้นชี้ตรงเด่มายังเหยื่อแสนสวย

   เมย์มองซ้ายมองขวาแต่ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีใครเข้ามาในซอยเปลี่ยวนี้ เธอจึงค่อย ๆ กลั้นใจลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น เวลานี้ดุ้นเอ็นดำคล้ำทั้งห้าจึงชี้โด่เด่อยู่ระดับเดียวกับใบหน้าแสนสวย

   "รีบดูดซิจ๊ะน้องสาว"
   "ดูดของกูก่อนนะอีกะหรี่"
   "เอามือมึงมาชักว่าวด้วยอย่าให้เสียเวลา"
   "วันนี้ล่ะมึง กูจะได้เย็ดอีเด็กโรงเรียนคุณหนูอย่างที่ฝันแล้วโว้ย"

   พวกมันทั้งห้าพากันส่งเสียงด้วยความคึกคัก บางคนใช้มือรูดถอกดุ้นเอ็นเพื่อระบายความเงี่ยนขณะรอคอย เมย์ได้แต่พยายามถ่วงเวลาเล็กน้อย แล้วหลับตาไม่อยากเห็นภาพอดสู ขณะเอื้อมมือขึ้นไปเพื่อทำตามที่อีกฝ่ายต้องการ

   ทันใดนั้นเสียงหัวเราะของพวกเด็กช่างทั้งห้ากลับขาดหาย แม้แต่เมย์ที่นั่งคุกเข่าอย่างอดสูก็รู้สึกหนาววูบตัวสั่นเทิ้มต้องเบิกตาโพลงขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว เธอไม่ทราบว่าความรู้สึกแบบนี้คืออะไร แต่เธอสามารถบอกได้ว่ามันเป็นความรู้สึกที่สยองผองเกล้ามากที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยเจอมา

   เด็กช่างทั้งห้าเองก็ดูเหมือนจะรู้สึกเช่นเดียวกัน สีหน้าคึกคะนองหื่นกามเมื่อครู่ล้วนเลือนหายไปหมดสิ้น ที่หลงเหลืออยู่บนใบหน้าคือแววตาขลาดเขลาและใบหน้าซีดเซียว แม้แต่ดุ้นเอ็นที่แข็งปั๋งก็ค่อย ๆ ห่อเหี่ยวหดตัวลงทีละน้อย โดยที่พวกมันทั้งห้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น พวกมันแค่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกบ และกำลังโดนพญาอสรพิษตัวใหญ่จับจ้องเตรียมกัดกิน

   ไม่มีใครกล้าขยับร่างแม้แต่น้อย เมย์จึงเป็นคนแรกที่มองเห็นเพราะหันหน้าออกไปด้านนอก ในขณะที่เด็กช่างทั้งห้านั้นหันหน้าเข้าหากำแพง ที่ตรงนั้น เด็กผู้ชายที่ปีนต้นไม้ไปเก็บลูกโป่งสีแดงกำลังยืนมองมาด้วยใบหน้าเย็นชา หากทว่าเมย์กลับสัมผัสได้ถึงความโกรธเกรี้ยวราวกับภูเขาไฟใกล้ระเบิดในดวงตาคู่นั้น และอะไรบางอย่างในดวงตานั้นกำลังทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวไปพร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัวแรง

   "พวกมึงมายุ่งกับเมียกูแบบนี้ อยากตายกันมากใช่มั้ย?"

   น้ำเสียงเรียบเฉยแฝงอารมณ์โกรธเกรี้ยวนั้นทำให้เด็กช่างทั้งห้าสะดุ้งโหยง พวกมันรีบหันหลังมามอง แล้วถอยกรูดไปยืนพิงผนังกำแพงด้วยท่าทางสั่นกลัว หากทว่าเมื่อพวกมันมีเวลาได้รวบรวมสติ และมองเห็นเพียงเด็กชายวัยมัธยมต้นอยู่เบื้องหน้าเพียงคนเดียว ความหวาดกลัวก็เริ่มลดทอนลงไป ความกล้าบ้าบิ่นเริ่มกลับคืนมาอีกครั้ง พวกมันไม่เห็นเหตุผลสักข้อว่าตัวเองต้องกลัวเด็กตัวกระเปี๊ยกคนนี้

   "เป็นเด็กอย่ามาเสือกเรื่องผู้ใหญ่โว้ย ไปไกล ๆ เลยมึงไม่งั้นกูจะกระ ..."

   หนึ่งในเด็กช่างพยายามรวบรวมความกล้า และกล่าวท้าทายต่อเด็กชาย หากทว่าเพียงแค่เด็กชายปรายตามองมา เด็กช่างคนนั้นก็เกิดอาการขวัญหนีดีฝ่อจนไม่สามารถพูดคำว่ากระทืบให้จบลงได้ แววตานั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว

   ตอนนี้ไม่มีใครพูดอะไรอีก เด็กช่างทั้งห้าที่เคยตีรันฟันแทงไปทั่วต่างรู้สึกหวาดกลัว พวกมันไม่ทราบว่าทำไมต้องกลัวเด็กที่อ่อนวัยกว่าเพียงคนเดียว แต่ว่าพวกมันยอมรับว่ากำลังกลัว และนี่ไม่ใช่อาการหวาดกลัวธรรมดา แต่เป็นความกลัวที่เย็นเยียบที่สุด และดำมืดที่สุดเท่าที่พวกมันจะนึกฝันได้

   ความเงียบถูกทำลายลงเมื่อมีเสียงคนย่ำเท้าเข้ามาในซอยเปลี่ยว นั่นเป็นเด็กช่างอีกสิบกว่าคนที่ตามเข้ามาเพราะพรรคพวกส่งข้อความบอกตำแหน่งให้ และข้อความที่ว่านั้นก็ช่างเร้าใจจนทุกคนต้องรีบวิ่งมาโดยด่วน ข้อความนั้นเขียนว่า 'รุมโทรมเด็กโว้ย โคตรสวยใครช้าอดเยส'

   ภาพที่เห็นทำให้กลุ่มเด็กช่างที่มาใหม่รู้สึกแปลกประหลาดใจยิ่ง เพราะพรรคพวกทั้งห้ากำลังยืนสั่นกลัวเบียดกับกำแพงทำท่าเหมือนกำลังจะตะกายหนีอะไรบางอย่าง ทั้งยังมีเด็กชายวัยมัธยมต้นคนหนึ่งยืนท้าทายอยู่ แต่แล้วความแปลกใจนั้นก็หายไปในทันทีเมื่อหันไปมองเห็นเด็กสาวแสนสวยในชุดนักเรียนมัธยมต้นนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น เหยื่อของพวกมันวันนี้ช่างสวยสุดยอดยิ่งกว่าครั้งใด สวยเสียจนทุกสายตาถลึงจ้องมองไปทางเดียวกัน

   "ทำเหี้ยอะไรของพวกมึงวะ กูก็นึกว่าพวกมึงเปิดงานก่อนแล้ว แล้วไอ้เด็กผู้ชายนี่น้องใครวะ จะเอามาฝึกเอาหญิงเหรอวะ"

   หนึ่งในเด็กช่างที่มาใหม่ส่งเสียงหัวเราะร่วนกับท่าทางแปลกประหลาดของพวกทั้งห้า จากนั้นก็มองซ้ายมองขวาด้วยความสงสัย เพราะพรรคพวกทั้งห้าที่มาก่อนนั้นต่างก็รีบวิ่งเผ่นมายืนสั่นกลัวอยู่เบื้องหลังกลุ่มใหญ่ โดยไม่ใส่ใจต่อเด็กสาวแสนสวย และเด็กชายปริศนาคนนั้น

   "... มันเป็นแฟนกับอีนางนั่น ... มันมาช่วย ..."

   หนึ่งในห้าคนแรกเมื่อได้ไปยืนหลบอยู่หลังพรรคพวกที่มีมากขึ้น ความกลัวก็เริ่มลดน้อยถอยลง แต่ว่าเสียงที่พูดออกมาก็ยังกระท่อนกระแท่นเหมือนอาการเกร็งและหวาดกลัวจะยังอยู่

   คำพูดและท่าทางของห้าคนนั้นทำให้พวกมาใหม่แสดงท่าทีงุนงงครู่ใหญ่ ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น เพราะนั่นนับเป็นเรื่องตลกและเสื่อมเสียอย่างร้ายกาจ เด็กช่างที่ใหญ่สุดในเขตนี้ห้าคน กลับกลัวเด็กชายแค่คนเดียวจนตัวสั่นเทิ้มแบบนี้

   "แฟนมึงเหรอวะไอ้หนู ใจกล้าดีนี่หว่า เอาแบบนี้ เดี๋ยวกูจะให้มึงเอาด้วยก็แล้วกัน แต่ขอกูตบหัวให้หายซ่าก่อน"

   คนมาใหม่ที่ดูจะเป็นหัวหน้ากลุ่มหัวเราะร่วน พลางเดินเข้าไปหาแล้วเงื้อมมือหมายจะตบหัวเด็กชายเพื่อแสดงให้เห็นว่าใครใหญ่กว่าใคร หากทว่าฝ่ามือที่ตบฟาดไปนั้นกลับวืดไม่โดนสิ่งใด ร่างของเด็กชายขยับวูบหนึ่ง ศรีษะขยับเป็นวงกลมหลบฝ่ามือพร้อมกับหันหน้ามา และเวลาเดียวกันนั้นกำปั้นของเด็กชายก็เหวี่ยงแหวกอากาศดังขวับโดยที่ไม่มีใครมองทัน

   กร๊อบ!!! เสียงกระดูกหักดังขึ้นอย่าสยดสยอง เมื่อกำปั้นของเด็กชายกระแทกเข้ากับบริเวณกรามด้านซ้ายของหัวหน้ากลุ่ม ร่างสูงใหญ่ถึงกับทรุดฮวบลงไปดิ้นพล่านทุรนทุราย ไม่มีเสียงกรีดร้องเจ็บปวดอันใด หากทว่าเลือดที่ไหลออกมาจากปาก รวมถึงเศษฟันสีขาวที่ร่วงหล่นออกมานั้นทำให้ทุกคนเริ่มตระหนักได้ว่าพวกพ้องเจ็บหนักถึงเพียงไหน

   "ไม่ใช่แฟน แต่เป็นเมียกู"

   เด็กชายเพิ่งต่อยเด็กช่างตัวใหญ่กว่าเกือบเท่าตัวล้มคว่ำในหมัดเดียว ก็หันหน้าเดินเข้าไปหากลุ่มเด็กช่างเกือบยี่สิบคนแล้วพูดข่มขู่ เด็กช่างทั้งหมดแม้จะหวาดกลัว แต่ว่าจำนวนที่มีมากกว่านั้นทำให้ความกลัวลดทอนลงไป แต่ละคนต่างหยิบฉวยเอาอาวุธออกมาถือกระชับไว้ แล้วส่งเสียงเฮวิ่งเข้าหาเด็กชาย

   ไม้บรรทัดเหล็กที่คมกริบฟาดวูบนำมาก่อน แต่เด็กชายไม่สนใจความคมกล้า กระโจนพุ่งตัวถีบเท้าเข้าหาทรวงอกของมันคนนั้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นเสียงกร๊อบก็ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ปลิวลิ่วไปกระแทกเพื่อนที่ตามมาด้านหลังแล้วนอนสลบเหมือดเพราะกระดูกหน้าอกแตกร้าว

   ความแตกตื่นที่เห็นเพื่อนโดนเตะปลิว ทำให้มีดพับเล่มหนึ่งสะบัดไปมาด้วยความลนลาน และเพียงพริบตาเดียวมีดเล่มนั้นก็หลุดมือลอยขึ้นไปบนฟ้า เพราะเด็กชายหยิบฉวยคว้าเอาไม้บรรทัดเหล็กมาฟันฉับเข้าที่ข้อมือจนจมลึกไปครึ่งหนึ่งของความหนา

   เสียงแผดร้องเจ็บปวดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกสิ่งเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป เด็กช่างที่ผ่านสมรภูมิต่อยตีมาไม่น้อย เมื่อเจอกับอีกฝ่ายที่เป็นเหมือนเทพสงคราม กลับต้องกลายสภาพไปเป็นเหมือนเด็กน้อยที่ไม่รู้ความ ไม่มีใครออกอาวุธได้มากกว่าหนึ่งครั้ง บางคนก็แทบไม่ได้ออกอาวุธเลยแม้แต่ครั้งเดียว อาวุธประจำตัวที่พกพามาเพียงยื่นออกไป ก็โดนอีกฝ่ายหยิบฉวยไปใช้อย่างรวดเร็ว

   เสียงแผดร้องเจ็บปวดดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เสียงกระดูกแตกหัก เลือดแดงฉานสาดกระเซ็นราวกับเม็ดฝน เด็กชายคล้ายเสือร้ายที่กระโจนเข้าดงกระต่ายป่า ทุกคราวที่ขย้ำลงมือเป็นต้องมีคนส่งเสียงแผดร้องนอนหมดสภาพ เด็กช่างที่เหลือโดนความหวาดกลัวเล่นงานจนสองตาแดงฉาน แต่ความกลัวเกินไปทำให้ไม่กล้าวิ่งหนี ได้แต่แหกปากร่ำร้องพุ่งกระโจนเข้าหากองไฟ

   ร่างสูงใหญ่ของเด็กช่างคนสุดท้ายล้มตึงลงไปนอนแน่นิ่งเพราะโดนตีเข่าเข้าปลายคาง เลือดสีแดงสดไหลรินออกจากมุมปากพร้อมกับเศษฟันที่แตกหักแล้วสลบเหมือดไป เวลานี้จึงหลงเหลือแต่เพียงเด็กชายที่ยืนอยู่เพียงลำพังโดยไม่มีริ้วรอยบาดเจ็บแต่อย่างใด

   เมญ่านั่งจ้องมองภาพนั้นแทบตาไม่กระพริบ หัวใจของเธอเต้นระรัวเร็วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เด็กชายคนนั้นคล้ายกับเทพสงคราม การลงมือแต่ละครั้งนั้นโหดเหี้ยมเด็ดขาดน่าสยดสยอง หากทว่าเมื่อนึกไปว่าเขาเป็นฮีโร่มาช่วยเหลือเธอ ความอบอุ่นบางอย่างก็พลุ่งพล่านไปทั่วร่างอย่างไม่มีสาเหตุ

   ดวงตากลมโตจับจ้องมองดูเด็กชายแน่วนิ่ง ไม่มีอาการเหน็ดเหนื่อยให้เห็น มีแต่เพียงเหงื่อที่ซึมออกมาจนเสื้อเปียกชุ่ม แล้วแต่งแต้มด้วยสีแดงฉานของเลือดเป็นหย่อมใหญ่ เธอจับจ้องมองดูหยดเลือดที่เกาะติดตรงข้ามแก้มของเด็กชาย รับรู้ได้ถึงความรู้สึกดิบเถื่อนอันแปลกประหลาดที่แอบแฝงอยู่ในร่างนั้น

   "แย่แฮะ ... พลังลดไปเยอะ กะไม่ค่อยถูก ยังดีที่เรียนแม่ไม้มวยไทยมา ... ชิ เสื้อเปื้อนหมด"

   เด็กชายยืนนิ่งมองดูสภาพโดยรอบหนึ่งครั้ง ก่อนจะทอดถอนหายใจบ่น แล้วขยับยกแขนถอดเสื้อผ้า อวดร่างเปลือยท่อนบนที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงสมส่วนของบุรุษเพศ ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาเด็กสาวที่ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น และเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับยื่นมือออกมา เมย์ก็เกิดอาการสะดุ้งโหยงตื่นกลัวขึ้นมา

   เธอหน้าแดงซ่านเขินอายต่อปฏิกิริยาของตัวเอง เพราะมือข้างนั้นเพียงแค่ยื่นออกมาหมายช่วยพยุงให้ลุกขึ้นยืน หากทว่าเธอกลับเผลอนึกคิดไปไกลถึงไหนต่อไหน

   เมย์จับมือเด็กชายแล้วลุกขึ้นยืนส่ายโงนเงนเพราะสองขายังไร้เรี่ยวแรง จากนั้นก็ส่งเสียงร้องว้ายเบา ๆ เมื่อเด็กชายคว้าร่างของเธอไปสวมกอดอย่างแนบแน่นโดยไม่บอกกล่าว

   "อืมมมม"

   เด็กสาวส่งเสียงครางแผ่วเบาด้วยความรู้สึกเร่าร้อน ร่างกายของเธอกลับไม่แสดงปฏิกิริยาต่อต้านกับอ้อมกอดอันแข็งแกร่งนี้ กลิ่นเหงื่อของเด็กชายทำให้อารมณ์ของเธอพลุ่งพล่านปั่นป่วน สัมผัสของปลายถันที่บดเบียดกับร่างเปลือยของเด็กชายส่งผ่านความเสียววาบหวิวแผ่ซ่านราวลูกคลื่น หากทว่าที่ทำให้เธอรู้สึกปั่นป่วนที่สุด กลับเป็นความรู้สึกคิดถึงคะนึงหาที่ถ่ายทอดออกมาทางอ้อมกอด เธอรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นคนรักที่พลัดพลากจากกันนานหลายปีก็มิปาน

   เมย์พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว เพียงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกสุขสมอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมา แม้แต่ตอนที่เขาประกบจูบลงมาอย่างดุดัน เธอก็ไม่มีท่าทีจะต่อต้านหรือหลีกหนีแม้แต่น้อย อีกทั้งยังโอบสองแขนกอดรัดร่างแกร่งของเด็กชายเอาไว้อย่างแน่นหนาเป็นการตอบสนองเสียด้วยซ้ำ

   นั่นเป็นรสจูบที่ดุเดือดร้อนแรงที่สุดเท่าที่เธอเคยพบเจอ ริมฝีปากนั้นบดลงมาอย่างหนักหน่วง ลิ้นของเขาแทรกเข้ามาตวัดพัวพันระรัวรุนแรงราวกับจะประกาศความเป็นเจ้าของให้คนอื่นรับทราบ

   ฝ่ามือบอบบางทั้งสองขยับคว้าสะเปะสะปะไปตามแผ่นหลังแกร่ง บางครั้งก็เลื่อนต่ำลงไปบีบขยำสะโพกหนาของอีกฝ่ายอย่างหนักหน่วงเพื่อระบายอารมณ์ ในขณะที่ฝ่ายเด็กชายก็ไม่น้อยหน้า เดินผลักจนแผ่นหลังของเมย์ชิดผนัง มือข้างหนึ่งขยับตะปบขยำทรวงอกอวบแล้วบีบขยี้จนเธอตัวกระตุกสั่น ในขณะที่มืออีกข้างนั้นจับช้อนขาเรียวงามข้างหนึ่งขึ้นมาพาดกับสะโพก แล้วล้วงมือลงไปขยำใส่แก้มก้นอย่างหนักหน่วง

   เสียงร้องโอดครวญเจ็บปวดของพวกเด็กช่างเงียบลงโดยพลัน คนที่หมดสติไปแล้วก็แล้วไป แต่คนที่ยังไม่หมดสติก็ไม่มีอารมณ์ร่ำร้องโอดโอยอีก เพราะโดนภาพวาบหวามของเด็กชายและเด็กสาวสะกดไว้จนอารมณ์พลุ่งพล่าน

   เสียงดูดปากและเสียงหอบหายใจครวญครางดังกระเส่าในซอยเปลี่ยว เมย์โดนกระตุ้นเร้าจนสติหลุดลอย เธอหลับตาพริ้มเอื้อมมือถอดกางเกงขาสั้นของเด็กชายลงไปเล็กน้อยตามความเคยชินในแบบที่เคยทำกับพี่เอก เธอกำลังต้องการต้องการมากกว่านี้

   เด็กชายเองก็ตอบสนองให้ไม่แพ้กัน เสื้อนักเรียนของเมย์โดนถลกขึ้นจนเห็นยกทรงลายการ์ตูนสีสวย จากนั้นยกทรงก็โดนถลกตามเสื้อขึ้นไปจนทรวงอกอวบใหญ่เกินวัยเด้งทะลักออกมาอวดยั่วน้ำลาย

   "ซี้ดดดสสสสส อืมมมมมมมม โอออวววววววว อูววววววววว"

   เมย์ส่งเสียงครางสุดเสียวออกมาทันที เมื่อเขาปลดปล่อยริมฝีปากของเธอให้เป็นอิสระ แล้วก้มต่ำลงไปอ้าปากงับดูดเลียใส่สองเต้ากลมดิกเสียงดังจ๊วบ

   ความดุดันดิบเถื่อนของการเล้าโลมสร้างความตื่นเต้นกระสันอันแปลกใหม่ เมย์แอ่นหน้าเริ่ดกดศีรษะของเด็กชายเข้าหาตัวเองอย่างร้อนร่าน คล้ายจะเสนอให้เขาโลมเลียทรวงอกด้วยความเผ็ดร้อนตะกลุมตะกลามยิ่งกว่านี้ ไม่มีเวลาไหนที่เธอเกิดความต้องการร้อนแรงถึงเพียงนี้อีกแล้ว

   เมย์รับรู้ได้ว่ากางเกงในตัวเก่งกำลังโดนรูดออกไปจากร่าง และเธอก็ตอบสนองด้วยการขยับขาให้เขาถอดได้ง่ายขึ้น จากนั้นก็ล้วงมือลงไปคว้าหมับเข้ากับดุ้นเอ็นอันเขื่องที่แข็งกระด้างและร้อนผ่าวเหมือนแท่งเหล็ก

   ความเสียวสยิวแล่นพล่านจากฝ่ามือมาถึงสมอง ความใหญ่โตของมันทำให้เธอทราบว่าเด็กชายคนนี้มีอาวุธร้ายกาจเทียบเท่ากับพี่เอก แต่อะไรบางอย่างที่ดิบเถื่อนแปลกใหม่นั้นกระตุ้นจนเธอรู้สึกเร้าใจยิ่งกว่า

   กระโปรงนักเรียนโดนถลกขึ้นอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับขาเพรียวที่ขยับขึ้นไปพาดกับสะโพกของเขา และนั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเกมกามกำลังจะดำเนินไปยังขั้นถัดไป

   เมย์ใจหายวาบร้องห้ามออกมาแผ่วเบา เพราะรู้สึกได้ถึงความร้อนระอุที่จรดจ่ออยู่กับร่องเสียวพร้อมแหวกทะลวงเข้ามาเสพสม หากทว่าแทนที่ร่างกายของเธอจะปฏิเสธปัดป้อง เธอกลับยกขาอีกข้างขึ้นพาดสะโพกของเขา เพื่อเปิดทางให้เขาสอดแทรกเข้ามาได้ง่ายดายขึ้น อีกทั้งยังกอดรัดรั้งร่างของเด็กชายเอาไว้อย่างแน่นหนา ราวกับเกรงกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจถอยหนีไป

   ลีลารักอันเร่าร้อนของเด็กชายและเด็กสาวทำให้เด็กช่างที่เจ็บไม่หนักมากทานทนไม่ไหว บางคนต้องถลึงตามองดูเด็กสาว แล้วใช้มือบีบขยำเป้ากางเกงอย่างหนักหน่วงเพื่อระบายอารมณ์หื่นกระสันที่ล้นทะลัก บางคนที่บาดเจ็บมากเกินไปจนไม่มีอารมณ์หื่น ก็ยังต้องจ้องมองดูราวกับโดนสะกด

   อารมณ์ที่พลุ่งพล่านถึงขีดสุดทำให้เมย์เสนอจูบแสนร้อนแรงให้ สองมือของเธอจิกขย้ำลงบนแผ่นหลังหนักหน่วงเป็นรอยจ้ำ ในขณะที่สะโพกนั้นส่ายเด้งร่อนเสนอเข้าหาความเป็นชายของเขาด้วยความร้อนร่าน กิริยาของเธอสื่อออกมาเป็นที่แน่ชัดว่า เธอกำลังต้องการเขามากเพียงใด แต่แล้วสักครู่หนึ่งเด็กสาวก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง

   เด็กชายที่รุกเร้าจู่โจมด้วยความดิบเถื่อนเร่าร้อนตั้งแต่เริ่มกลายเป็นหยุดนิ่งไม่ยอมเคลื่อนไหว ทุกส่วนของเขาไม่ยอมเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย แม้แต่ส่วนล่างที่จรดจ่ออยู่กับร่องรูก็ยังหยุดนิ่ง

   เมญ่าค่อย ๆ หยุดนิ่งลงทีละน้อย เพราะความนิ่งของอีกฝ่าย เวลานี้เธอรู้สึกอับอายเหมือนกับว่าตัวเองกลายเป็นกะหรี่ที่เสนอร่างให้อีกฝ่ายเชยชม จึงต้องจับจ้องมองใบหน้าของเด็กชายด้วยความหงุดหงิดสงสัย

   แววตาของเด็กชายทำให้เธอยิ่งรู้สึกงุนงง ดวงตาคู่นั้นแฝงความร้อนแรงแห่งราคะอย่างเต็มเปี่ยม เขามีความต้องการร่วมรักกับเธออย่างไม่ต้องสงสัย หากทว่าในเวลาเดียวกันกลับแฝงเร้นไปด้วยความความลังเลสับสน คล้ายกับว่าอยากเดินหน้าต่อ แต่มีปัญหาบางประการทำให้ไม่สามารถกระทำได้

   "เราหยุดแค่นี้ก่อนนะ"

   เด็กชายพูดเสียงกระซิบบอกแผ่วเบา เด็กสาวที่กำลังใบหน้าแดงก่ำจึงอ้ำอึ้งไปครู่ใหญ่ ก่อนจะพยักหน้าตอบด้วยความเขินอาย เพราะสำนึกได้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ในสภาวะที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

   เขาค่อย ๆ ปล่อยสองขาของเธอลงยืนพิงกำแพงเอาไว้ จากนั้นก็ก้มลงไปหยิบเอากางเกงในมาสวมใส่ให้อย่างทะนุถนอมจนเธอรู้สึกอบอุ่นหวั่นไหว ยกทรงและเสื้อนักเรียนก็โดนเขาจัดแจงสวมใส่ให้ทีละชิ้นจนเรียบร้อย

   "... ขอบคุณค่ะ"

   เมย์บอกแบบเขิน ๆ แต่รู้สึกดียิ่ง สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกขัดใจในเวลานี้ก็คือ การที่เขาไม่สานต่อเรื่องราวให้จบ และทิ้งให้เธออารมณ์ค้างเติ่งแบบนี้ แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกขอบคุณเด็กชาย ที่ทำให้เธอไม่เผลอกระทำผิดนอกใจต่อพี่ชายสุดที่รักของเธอเข้า

   เด็กชายพยักหน้ารับแล้วปล่อยให้เธอยืนแบบนั้น ก่อนจะเดินสำรวจสถานที่รอบหนึ่ง และก้มลงไปถอดเสื้อของเด็กช่างคนหนึ่งขึ้นมาสวมใส่แทนที่เสื้อยืดเปื้อนเลือดที่ถอดวางอยู่บนพื้น

   "จำเอาไว้ให้ดี ถ้ากูเห็นพวกมึงทำเรื่องแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สอง ... พวกมึงจะเจอยิ่งกว่าลงนรกแน่"

   เมื่อสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย เด็กชายก็กวาดตามองดูทุกคนอีกครั้ง แล้วพูดข่มขู่จนคนที่ยังไม่สลบหน้าซีดเผือด จากนั้นเขาก็เดินมาจับมือของเมญ่า แล้วเดินพาออกไปจากสถานที่แห่งนี้โดยไม่คิดแยแสสนใจต่อสิ่งใดอีก

   "... ขอบคุณนะที่ช่วย ... เราชื่อเมย์นะ ... นายชื่ออะไรล่ะ?"

   เมย์เดินตามมาครู่หนึ่งก็อดใจถามออกมาไม่ได้ ใบหน้าของเธอยังคงแดงก่ำเปี่ยมไปด้วยแรงปราถนาต่อรสรัก แต่ว่าเธอไม่สะดวกต่อการร้องขอ ทั้งยังรู้สึกสับสนวุ่นวายไม่อยากนอกใจพี่ชายสุดที่รัก และปัญหาใหญ่ที่เธอขบคิดไม่เข้าใจก็คือ เหตุใดเขาจึงไม่ยอมฉวยโอกาสกระทำให้จบเรื่องจบราว

   เด็กชายไม่ตอบ แต่หันมามองดูเธอด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เมย์รู้สึกคุ้นตาอยู่บ้าง หากทว่ายังนึกไม่ออกว่าเคยเห็นจากที่ไหน รู้แต่ว่าเธอรู้สึกดีและผูกพันธ์กับรอยยิ้มแบบนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อเขารวบร่างของเธอไปกอดอย่างแน่นหนา พร้อมกับการประกบปากจูบอย่างดุดันจนเธอตัวอ่อนระทวย

   เมย์ตอบสนองด้วยความเร่าร้อนยินดี เธอเผลอดีใจที่เขาทำท่าเหมือนจะสานต่อให้จบ หากทว่าเขาเพียงบดจูบอย่างหนักหน่วงครู่เดียวก็ปลดปล่อยให้เธอยืนหอบกระเส่าหน้าแดง แล้วพูดยิ้มถือดีออกมาว่า

   "ผมชื่อหนึ่ง จำไว้ให้ดีล่ะ เพราะเจอกันคราวหน้า พวกเราจะได้กลายเป็นผัวเมียกันจริง ๆ แน่"

................................................



......................................

   "เจองานเข้าตลอดเลยแฮะ ดีนะไม่เผลอทำกับเมย์ไปด้วยอีกคน ไม่งั้นตัวหดกว่านี้อีกคงแย่ ธาตุดิน เราต้องหาธาตุดินก่อน"

   เอกในร่างเด็กชายหนึ่งส่งเสียงบ่นอุบขณะเดินขึ้นไปตามทางระเบียงหน้าหอพักชั้นห้าในมหาวิทยาลัย เขาเพิ่งซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่มาสวมใส่ ตามแฟชั่นนิยมของเด็กวัยรุ่นทั่วไป เพราะเสื้อของเด็กช่างที่แย่งมาสวมใส่แทนเสื้อเปื้อนเลือดมันเหม็นเหงื่อเหลือทน

   หลังจากที่เขาเผลอไหลมีอะไรกับน้องหญิงไปหลายยก เขาก็ตระหนักว่าร่างของตัวเองหดเล็กลงไปอีกเล็กน้อย จึงพยายามตั้งใจว่าจะไม่ออกนอกลู่นอกทางอีก อย่างน้อยก็จนกว่าตามเก็บสาวธาตุดินได้ครบจนธาตุทั้งเจ็ดเกิดความสมดุลย์

   การพบเจอกับน้องเมย์นั้นเป็นเรื่องไม่คาดฝัน เขามาที่ย่านการค้าแห่งนี้เพราะต้องการหาอะไรรองท้อง ก่อนจะเริ่มแผนการณ์บางอย่าง และแผนนั้นก็เพิ่งเกิดขึ้นมาสด ๆ ร้อน ๆ หลังจากที่เขาแอบเห็นบทสนทนากลุ่มก๊วนเพื่อนสนิทของน้องหญิงในโทรศัพท์ของเธอเอง

   เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอกับสาว ๆ ของตัวเอง แต่เมื่อเก็บลูกโป่งให้แล้วกระโดดลงมาจากต้นไม้ ก็พบว่าน้องเมย์กำลังยืนมองเขาตาแป๋ว ดังนั้นเขาจึงทำเป็นไม่สนใจและเดินหนี เพราะเกรงว่าจะอดคิดถึงไม่ไหว แล้วทำแบบเดียวกับน้องหญิงอีก

   โชคร้ายที่น้องเมย์กลับเดินตามเขามาทั้งที่ไม่สมควร ทั้งยังพยายามตามติดไปจนถึงซอยเปลี่ยว ตอนนั้นเขาแน่ใจว่าสลัดหลุดได้แล้ว แต่ว่าได้ยินเสียงร้องของเมย์ดังขึ้นเสียก่อน จึงค่อยได้ฉุกคิดว่าเกิดเรื่องผิดท่าขึ้น

   มันเป็นความผิดของเขาล้วน ๆ ที่ชักนำให้น้องเมย์ตามมาในซอยเปลี่ยวจนโดนวัยรุ่นพวกนั้นกักตัวไว้เพื่อรุมโทรม ดังนั้นเมื่อกลับมาเจอภาพน้องเมย์กำลังนั่งคุกเข่า โดยไอ้พวกเด็กเวรห้าคนยืนอวดดุ้นเล็ก ๆ อยู่ ไฟแห่งความโกรธก็พวยพุ่งจนคุมไม่อยุ่

   การลงมือกับเด็กเวรพวกนั้นอาจดูเหมือนโหดร้ายอยู่บ้าง แต่หากลองคิดว่าน้องเมย์จะโดนอะไรหากช่วยไม่ทัน เขากลับคิดว่านั่นยังไม่สาสมเสียด้วยซ้ำ และดีแค่ไหนแล้วที่เขาไม่อัดหนักจนตาย เพราะควบคุมเรี่ยวแรงได้ไม่เต็มที่

   พลังกายในร่างเด็กนั้นเทียบไม่ได้กับร่างผู้ใหญ่ ซึ่งความจริงหากเป็นก่อนหน้าที่เขาจะได้เข้าไปฝึกฝน การรับมือกับเด็กเวรพวกนั้นคงย่ำแย่กว่านี้ แต่เมื่อเขามีประสบการณ์ ผ่านการฝึกฝน ผ่านสนามรบมาแล้ว เด็กเวรพวกนั้นก็เหมือนลูกเจี๊ยบไร้มือไร้ตีน อยากจะอัดเมื่อไหร่ก็อัด อยากจะกระทืบเมื่อไหร่ก็กระทืบได้ตามใจ

   การจัดการกับเด็กพวกนั้นถือว่าเป็นงานง่ายเหมือนยกฝ่ามือ แต่ที่ย่ำแย่ก็คืออารมณ์พลุ่งพล่านเพราะความคิดถึงผสมกับความหึงหวง ทำให้เขาเผลอไผลทำเรื่องไม่สมควร เขาเกือบจะจัดการรวบหัวรวบหางน้องเมย์ไปอีกคนเสียแล้ว

   ยังดีที่เขารวบรวมสติและหยุดลงได้ก่อน จากนั้นจึงพาน้องเมย์ไปส่งที่ปลอดภัย แล้วรีบแยกตัวออกมาเพราะใกล้เวลานัดหมาย แต่เมื่อลองคิดไป การที่เขาทำแบบนี้อาจจะดีสำหรับอนาคต อย่างน้อยเมื่อเขาเก็บธาตุดินได้เพียงพอ เมื่อต้องไปหาน้องเมย์ในร่างเด็ก เขาคิดว่าน่าจะไม่ยากที่จะมีอะไรกับเธอ

   เขาอาจจะรู้สึกหึงหวงตัวเองอยู่บ้าง แต่เขาไม่โทษน้องเมย์ในเรื่องนี้ เพราะทราบดีว่าแม้จะยังอยู่ในร่างเด็ก แต่ว่าพลังและจิตวิญญาณของเขายังคงทรงพลังอำนาจและมีส่วนกระตุ้นเร้าอารมณ์ของหญิงสาวทุกคน โดนเฉพาะผู้หญิงที่เคยร่วมรักด้วย

   น้องหญิงเป็นตัวอย่างที่ดีคนหนึ่ง น้องเมย์ก็เป็นแบบเดียวกัน และด้วยความบังเอิญของเหตุการณ์ทำให้การพบกันระหว่างเขาและเมย์เป็นไปในรูปแบบที่เมย์ใฝ่ฝันโดยไม่น่าเชื่อ

   ในส่วนลึกของจิตใจนั้น เมย์ก็เป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่น เธออยากมีคนรักเป็นเด็กชายวัยเดียวกัน และการปรากฎตัวของเอกในร่างเด็กตอนช่วยปีนต้นไม้หยิบลูกโป่งให้เด็กนั้น ได้กระตุ้นจิตใจส่วนนี้ขึ้นมา

   อีกส่วนหนึ่งก็คือ เมย์ใฝ่ฝันมาตลอด ว่าอยากมีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยเหลือเธอ แบบที่เอกเคยช่วยหญิง เมื่อมีเด็กชายมาช่วยเธอให้รอดจากการโดนรุมโทรม จิตใจของเธอจึงยิ่งรับเอาเด็กชายเข้าไปเป็นฮีโร่ของตัวเองโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

   ส่วนสุดท้ายก็คือ ธรรมชาติของผู้หญิงธาตุความมืด ไม่ว่าโดนพื้นฐานจิตใจจะเป็นเช่นไร แต่พลังธาตุในร่างจะตอบสนองต่อความความแข็งแกร่งอันรุนแรงดิบเถื่อน ธาตุมืดไม่เคยที่จะไม่ตอบสนองต่อเลือดและความรุนแรง การระบายความโกรธใส่อันธพาลพวกนั้นจึงทำให้พลังธาตุของเด็กสาวพลุ่งพล่านเกิดการตอบสนอง และเมื่อเผชิญเข้ากับการเล้าโลมแบบดิบเถื่อนเข้าไปอีก เด็กสาวจึงเผลอตัวเผลอใจตอบสนองออกมาจนถึงขีดสุด

   ยังดีที่เมื่อครู่เขาหักห้ามใจได้ทัน และแยกตัวออกมาจากน้องเมย์ได้ โดยที่เขาได้ให้เบอร์โทรเบอร์ใหม่ที่เพิ่งเปลี่ยนมาสด ๆ ร้อน ๆ ไปแทน ไม่เช่นนั้นหากให้เบอร์เก่าตอนเป็นนายเอก น้องเมย์คงต้องสงสัยเรื่องความเกี่ยวข้องกับเด็กชายหนึ่งอย่างแน่นอน

  ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   เอกหยุดยืนที่หน้าห้องหมายเลข 546 ของอาคารหอพักหมายเลขสาม ก่อนจะยื่นมือออกไปเคาะประตูห้อง แล้วยืนรอคอยอย่างใจเย็น เขามองเห็นเงาวูบวาบเล็กน้อยตรงช่องมองบนบานประตู จากนั้นบานประตูก็ขยับเปิดออกแต่ยังมีโซ่คล้องไว้อีกหนึ่งชั้นเพื่อป้องกันอันตราย

   จากนั้นใบหน้าสวยเฉี่ยวของนักศึกษาสาวหุ่นน่าฟัดแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดก็โผล่ออกมาให้เห็น นี่คือเบอร์ห้องของน้องเนย ที่เขาเห็นในบทสนทนาบนโทรศัพท์มือถือนั่นเอง

   ในบทสนทนานั้นมีอยู่ด้วยกันสามคน คือน้องหญิง น้องฟ้า และน้องเนย โดยน้องเนยพยายามถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ว่าน้องหญิง และน้องฟ้าตอบไม่ได้ เนยจึงรู้สึกหวาด ๆ กลัว ๆ นึกว่าโดนผีหลอก และชวนให้เพื่อนมานอนเป็นเพื่อนที่ห้อง เนยจึงพิมพ์บอกเบอร์ห้องตัวเองเพราะยังไม่เคยพาเพื่อนไปที่ห้อง

   “เคาะผิดห้องหรือเปล่าคะน้อง?”

   “ผมก็ไม่แน่ใจครับ ผมแค่สงสัยอะไรบางอย่าง”

   เอกในร่างเด็กชายพยายามตอบแบบคลุมเครือ ทั้งยังเพ่งตาขมวดคิ้วมองดูไปด้านหลังของเนยทำท่าเสมือนว่ามองเห็นอะไรบางอย่างอยู่ด้านหลังนั้น และท่าทีนั้นก็ทำให้เนยซึ่งหวาดระแวงอยู่แล้ว ต้องหันหลังขวับไปมองด้านหลังด้วยความรู้สึกขนพองสยองเกล้า

   ความจริงแล้วเนยไม่ใช่คนกลัวผี แต่ว่าเหตุการณ์ในค่ำคืนที่ผ่านมามันสับสนเกินไป เธอรู้สึกตัวตื่นในห้องของฟ้าด้วยสภาพเปลือยเปล่า ตามเนื้อตัวมีแต่รอยจ้ำแดงเหมือนโดนปลุกปล้ำข่มขืน แต่ลองถามเพื่อนสาวทั้งสองคนแล้ว พวกเธอกลับตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเธอไม่ได้เข้าห้องฟ้า แต่เป็นเนยเองที่ขอยืมห้องของฟ้าไปนอนพัก และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เนยเริ่มสงสัยว่าปรากฎการณ์เหนือธรรมขาติอะไรแกล้งเธออยู่หรือไม่

   “สงสัยอะไร? แล้วเธอมองเห็นอะไรหรือเปล่าน่ะ?”

   “… ผมขอถามพี่สาวก่อนก็แล้วกันครับ ว่าช่วงนี้พี่สาวได้เจอเรื่องแปลก ๆ บ้างหรือเปล่า”

   “เรื่องแปลกแบบไหนล่ะ”

   “ยกตัวอย่างเช่น เกิดอะไรแปลก ๆ แล้วจำไม่ได้ คล้ายจริงคล้ายฝัน โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเซ็กส์แปลก ๆ แล้วก็รู้สึกแบบนี้คนเดียว ถามคนอื่นก็ไม่มีใครรู้เห็นด้วย”

   เอกทำท่าเคร่งขรึมแล้วตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง เนยที่กำลังนึกสงสัยอยู่แล้วจึงยิ่งขนลุกวูบวาบด้วยความกลัว เธอถึงกับรีบปิดประตูดังปึง ปลดสายโซ่คล้องประตู แล้วเปิดออก เพราะกลัวว่าหากอยู่ในห้องคนเดียวแล้วจะเป็นอันตรายขึ้นมา

   “เธอเป็นใคร?”

   เนยแจ้นออกมานอกห้องแล้วมองกลับเข้าไปในห้องเผื่อว่าจะเห็นอะไรบางอย่าง พลางถามเด็กชายด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้านขลาดเขลา แต่เด็กชายกลับยังคงเงยหน้ามองดูผ่านไปด้านหลังเธอ ทำท่าทำทางเหมือนกับมองเห็นอะไรบางอย่างลอยอยู่เหนือศีรษะของเธอก็มิปาน

   “นี่ เธอมองอะไร ชั้นกลัวนะ”

   สาวสวยพูดพลางถอยกรูดไปพิงกับกำแพง ด้วยความคิดเพียงอย่างเดียวว่า หากมีตัวอะไรบางอย่างอยู่จริง อย่างน้อยกำแพงอาจจะไล่มันออกได้

   “ไม่ต้องกลัวหรอกครับพี่สาว เขาอยู่คนละมิติกับพวกเรา เขาปรากฎออกมาได้แค่บางช่วงเวลาที่เหมาะสม ตอนนี้เรามานั่งคุยกันดี ๆ ก่อนดีกว่า”

   เด็กชายยังคงแสดงท่าทีสำรวมเคร่งขรึมจับจ้องมองดูเหนือศีรษะของเนยไม่ลดละ แต่ปากยังพูดปลอบใจแล้วถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องหน้าตาเฉย แต่เจ้าของห้องที่ไม่ได้ออกปากเชิญเข้าห้องก็ไม่มีเวลาถือสา เธอเพียงแค่รีบปิดประตูห้อง แล้วตามเด็กชายเข้าไป ทำท่าเหมือนกับว่าเด็กชายได้กลายเป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวของเธอไปเสียแล้ว

   “พี่สาวโดนผู้ชายคนนั้นทำอะไรไปบ้างครับ?”

   เด็กชายเดินเข้ามาในห้อง มองสำรวจรอบหนึ่ง แล้วหันมาเงยหน้ามองขึ้นไปเหนือศีรษะของเนยอีกครั้ง พร้อมกับถามด้ยน้ำเสียงจริงจัง เนยจึงแทบอยากจะร้องกรี๊ดออกมาดัง ๆ เพราะเธอเริ่มปักใจเชื่อเสียแล้วว่ามีอะไรบางอย่างอยู่เหนือศีรษะของเธอจริง ๆ เด็กชายแปลกหน้าคนนี้ไม่สมควรจะเป็นนักต้มตุ๋นมาหลอกลวงเธอ

   “เอ่อ ... เธอเห็นเค้าจริง ๆ เหรอ? เธอเป็นใครกัน”

   “ผมชื่อหนึ่งครับ ตระกูลของผมเป็นหมอผี ผมพอมีวิชาติดตัวอยู่บ้าง ที่ผมมาเคาะประตูห้อง เพราะว่าผมเห็นสิ่งที่ไม่ควรอยู่ในที่นี้”

   “พี่ชื่อเนยนะ ... เธอเห็นเค้าจริง ๆ เหรอ?”

   เนยถามซ้ำ ส่วนเด็กชายเพียงพยักหน้ารับนิ่งเงียบ เนยจึงค่อย ๆ กลืนน้ำลายลงคอ แล้วเล่าเรื่องราวอันแสนสับสนอลหม่านของเธอออกมา ในขณะที่เด็กชายนั้นนั่งนิ่งในท่าขัดสมาธิให้ความรู้สึกเคร่งขรึมเหมือนมีตบะสูงล้ำ เนยยิ่งมาจึงยิ่งรู้สึกเชื่อถือเด็กชายมากขึ้นจนหมดใจ

   “เท่าที่ฟังมา ผมคิดว่าเขาน่าจะเป็นวิญญาณผูกพันธ์มาแต่ชาติปางก่อน เขาอาจจะเคยเป็นสามีของพี่สาว หรือเคยหลงรักพี่สาวอย่างใดอย่างหนึ่ง เขาไม่สามารถสลัดบ่วงกามนี้ออกไปได้ จึงคอยตามติดพี่สาว วันดีคืนดีเมื่อสะสมพลังอำนาจวิญญาณเข้มแข็งพอ ก็จะปรากฎร่างออกมาร่วมรักกับพี่สาว”

   เด็กชายอธิบายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในขณะที่เนยเย็นวาบไปทั้งร่าง เวลานี้เธอปักใจเชื่อไปแล้ว ว่าเธอโดนผีสางลักหลับไปจริง ๆ ประโยคคำพูดที่ใช้กับเด็กชายจึงกลายเป็นเคารพหวังพึ่งพิงโดยไม่รู้ตัว

   “แล้ว ... แล้วต้องทำยังไงล่ะคะ ถึงจะไล่ผีตัวนี้ออกไปได้”
  
   “ส่วนใหญ่แล้วก็มีอยู่สองทางครับ ทางแรกคือพูดคุยเจรจากันให้รู้เรื่อง ถ้าตกลงกันได้ก็แยกย้ายกันด้วยดี ส่วนอีกทางก็คือหักหาญกันด้วยมนตรา หากสำเร็จก็แล้วไป แต่หากไม่สำเร็จ เขาอาจจะกลายเป็นวิญญาณอาฆาตที่ร้ายกาจกว่าเดิม วิธีหลังนี้ผมคงช่วยไม่ได้ เพราะตบะยังไม่แก่กล้าพอ”

   เด็กชายพูดหน้านิ่งไม่ทุกข์ร้อน ส่วนสาวสวยนั้นหัวสมองขาวโพลนไปหมดแล้ว เธอแทบไม่อยากนึกภาพว่าหากโดนวิญญาณอาฆาตติดตามตัวจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นจึงตัดสินใจเลือกทางแรกมากกว่า

   “แล้วต้องทำยังไงล่ะ จะให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เหรอ ได้นะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะรีบไปทำให้เลย”

   “ผมตอบให้ไม่ได้หรอกครับ แต่เอาเป็นว่าผมจะถามกับเขาให้ก็แล้วกัน ... ขอกระดาษแผ่นใหญ่ ๆ กับปากกา แล้วก็ถ้วยแก้วเล็ก ๆ สักใบได้มั้ยครับพี่สาว”

   เด็กชายตอบพลางยิ้มให้อย่างอบอุ่นเหมือนจะปลอบประโลม เนยจึงรู้สึกอุ่นใจขึ้นเล็กน้อย รู้สึกว่าอย่างน้อยนี่ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงที่แก้ไขไม่ได้ เธอจึงรีบไปควานหาข้าวของที่เด็กชายบอกมาให้ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าเขาจะเอามาทำอะไร

   “ทำอะไรคะ”

   เนยอดถามไม่ได้ เมื่อมองเห็นเด็กชายนั่งเขียนตัวอักษรไทย เริ่มตั้งแต่ ก.ไก่ ไปถึง ฮ.นกฮูก ตามด้วยตัวเลขศูนย์ถึงเก้าบนแผ่นกระดานที่เธอจัดให้ จากนั้นเขาก็นำถ้วยแก้วใบเล็กไปวางไว้บนช่องว่างบนแผ่นกระดาษ แล้วพนมมือทำปากขมุบขมิบเหมือนบริกรรมคาถาสักอย่าง

   เด็กชายร่ายบริกรรมคาถาอยู่พักใหญ่ ก่อนจะยกมือขึ้นเหนือถ้วยแก้วโดยไม่ได้แตะสัมผัส และทันใดนั้นเองที่เนยต้องสะดุ้งโหยง เพราะถ้วยแก้วนั้นขยับสั่นไหวไปมาเหมือนมีตัวอะไรอยู่ข้างในถ้วยแก้ว

   “อัญเชิญวิญญานให้แล้ว พี่สาวเคยเล่นผีถ้วยแก้วมั้ยครับ?”

   เนยรับฟังแล้วพยักหน้าแบบหวาด ๆ เธอเคยเล่นอะไรแบบนี้ในสมัยเด็ก ๆ แต่ไม่เคยมีความเชื่อว่าผีถ้วยแก้วจะมีจริง จวบจนกระทั่งเวลานี้

   การเล่นผีถ้วยแก้ว คือการเขียนตัวอักษรบนกระดาษให้ครบ แล้วผู้เล่นจะล้อมวงเอามือแตะถ้วยแก้ว จากนั้นก็จะถามคำถาม แล้วถ้วยแก้วก็จะขยับไปตามตำแหน่งตัวอักษรเพื่อตอบคำถามให้ โดยมีความเชื่อว่าผีเป็นคนขยับถ้วยแก้ว แต่เนยรู้ดีว่าการละเล่นในวัยเด็กนั้น บางครั้งก็เป็นเธอเองที่แอบกดขยับถ้วยแก้ว

   “สิ่งควรระวังก็คือ อย่าเปิดถ้วยแก้วออกเด็ดขาด จากนั้นพี่สาวต้องวางนิ้วลงบนถ้วย ห้ามเอานิ้วออกจนกว่าจะเชิญเขาออก แล้วถามคำถามชัด ๆ ทีละประโยคอย่างสุภาพ แล้วรอคอยคำตอบ เชิญครับ เอานิ้ววางลงไปบนถ้วยได้เลย”

   เด็กชายอธิบายซำ้อีกครั้ง แล้วผายมือเชิญ เนยจึงทำตัวไม่ถูก เพราะทั้งกลัวทั้งอยากรู้ เธอกลัวว่าจะทำให้ถ้วยแก้วล้มคว่ำ ตอนนี้เธอเชื่ออย่างสุดใจ ว่าจะต้องมีอะไรบางอย่างอยู่ในถ้วยแก้ว

   เมื่อเห็นว่าสาวสวยไม่กล้ายื่นมือออกมา เด็กชายจึงยิ้มละมุน ยื่นมือไปคว้าจับมือนุ่มนิ่มสั่นเทาขึ้นมาวางปลายนิ้วลงบนถ้วยแก้ว ส่วนเนยนั้นกำลังหลับตาปี๋ไม่กล้ามองดูภาพของนิ้วตัวเองตอนแตะลงบนถ้วยแก้ว

   เธอไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือไม่ แต่ว่าถ้วยแก้วนั้นให้ความรู้สึกเย็นกว่าปกติ และนั่นทำให้เธอเกร็งมือแข็งไม่กล้าขยับเขยื้อน แต่ยังดีที่เด็กชายช่วยวางมืออบอุ่นลงบนมือของเธออีกต่อหนึ่ง ความหวาดเกรงจึงลดน้อยลงไปไม่น้อย

   “ไม่เป็นอะไรครับ ใจเย็น ๆ ลองพูดคุยกับเขาดี ๆ ผมรับรองไม่มีอันตรายหรอก อยากรู้อะไรก็ลองถามเลยครับ”

   เด็กชายพูดปลอบใจพลางบีบกุมมือของเธอไว้ เนยจึงค่อย ๆ รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ทราบว่าจะถามอะไรดี จึงต้องนั่งคิดอยู่อีกพักใหญ่

   “คุณชื่ออะไรคะ”

   เนยถามแบบเน้นคำชัด ๆ ช้า ๆ  ด้วยความเกร็ง และเมื่อเธอถามหมดประโยคก็แทบจะร้องกรี๊ดออกมา เพราะถ้วยแก้วที่เธอใช้นิ้วแตะแผ่วเบานั้นสั่นน้อย ๆ แล้วเริ่มขยับเขยื้อนเหมือนมีชีวิต เธอแน่ใจว่านี่ไม่ได้เป็นเพราะเธอออกแรง และยิ่งต้องไม่ใช่เพราะเด็กชาย เนื่องจากไม่มีส่วนไหนของเด็กชายเลยที่แตะสัมผัสกับถ้วยแก้ว หรือหากเด็กชายออกแรงกดลงมา มือของเธอก็ต้องรู้สึกก่อน

   สาวสวยก้มหน้ามองดูถ้วยแก้วด้วยใจระทึกแทบไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีก ในขณะที่เด็กชายนั้นแอบลอบมองดูทรวงอกอวบอิ่มขาวโพลนผ่านร่องกระดุมแล้วยิ้มในใจ การเคลื่อนไหวของถ้วยแก้วนั้นเป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่เขายังคงสามารถกระทำได้ ต่อให้ใช้พลังมนตราไม่ได้ แต่ลูกเล่นในการส่งผ่านพลังมนตราไปขยับสิ่งของแค่นี้ถือว่าง่ายมาก

   “ถอดเสื้อผ้าออกหนึ่งชิ้น ต่อหนึ่งคำถาม”

   ถ้วยแก้ววิ่งไปที่ตัวอักษร ก เป็นลำดับแรก ตามด้วยสระอู แล้วขยับไปมาทีละตัว ก่อนจะกลับไปหยุดนิ่งที่จุดเริ่ม รวมแล้วเป็นประโยคที่ทำให้เนยต้องขมวดคิ้วอยากด่าทอผีสางสุดลามกตนนี้ขึ้นมาจับใจ แต่ก็ได้แค่คิดไม่กล้าด่าทออกมา

   เนยหันไปมองดูเด็กชายเพื่อสอบถามความเห็น แต่เด็กชายได้แต่ส่ายหน้าเหมือนจนปัญญา เนยจึงพ่นลมหายใจออกมายาวเหยียด แล้วตัดสินใจตอบรับคำเรียกร้อง ทั้งนี้เพราะเธอรู้สึกว่าเด็กชายน่าจะไม่เป็นอันตราย และเธอก็อยากจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย จะได้ไม่ต้องมามัวหวาดกลัวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

   สาวสวยขยับตัวเล็กน้อย โดยไม่ลืมที่จะค้างปลายนิ้วเอาไว้บนถ้วยแก้ว เวลานี้เธอมีเสื้อผ้าอยู่สี่ชิ้น เสื้อ กระโปรง ยกทรง และกางเกงใน ดังนั้นเธอคงถามได้แค่สี่คำถามเป็นอย่างมาก

   เนยคิดพลางมองดูเด็กชายด้วยความรู้สึกขัดเขิน ก่อนจะขยับยกสะโพกขึ้นล้วงมืออีกข้างไปเกี่ยวกางเกงในลายลูกไม้สีดำสนิทออกมาด้วยความยากลำบากเล็กน้อยเพราะใช้มือได้เพียงข้างเดียว แต่สุดท้ายก็ถอดจนหลุดออกมาทางปลายขาได้สำเร็จ

   เธอขยับลงนั่งพับเพียบเล็กน้อย และความรู้สึกร้อนวูบแปลกประหลาดก็บังเกิดขึ้น เมื่อมองเห็นว่าเด็กชายกำลังแอบมองดูท่อนขาเรียวงามของเธออยู่ หรือไม่แน่ว่าเด็กชายอาจจะอยากมองดูลึกเข้าไปมากกว่านั้นก็เป็นได้

   ‘คิกคิก เด็กหนอเด็ก นึกว่าจะละทางโลกแล้ว ที่แท้ก็ยังแอบสนใจเราเหมือนกันนี่นา แต่ก็น่ารักดีนะเด็กคนนี้’

   เนยเริ่มยิ้มออกและผ่อนคลายกว่าเดิม ทั้งยังรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ที่อีกฝ่ายไม่ได้เป็นพระอิฐพระปูนไร้ความรู้สึกไร้อารมณ์ เธอยังแอบขยับขาแยกออกจากกันเล็กน้อยเพื่อให้ชายกระโปรงร่นขึ้นมาด้านบนเพื่อยั่วเด็กชาย แต่ทันใดนั้นเองถ้วยแก้วก็ขยับเคลื่อนไหวจากจุดเริ่มต้นไปที่ตัวอักษร น หนู แล้วเคลื่อนไหวต่อไป

   “นที?”

   สาวสวยส่งเสียงทวนคำ นั่นน่าจะเป็นชื่อของผีหื่นตนนี้ และเธอก็ยังรู้สึกพลาดท่าเล็กน้อย เพราะตั้งใจจะเปลี่ยนคำถามที่ไม่จำเป็นออก แต่เมื่อผีชิงตอบไปก่อนแบบนี้ นั่นก็หมายความว่าเธอต้องถอดเสื้อผ้าอีกชิ้น จึงจะตอบคำถามได้

   “นายต้องการอะไร นายนที”

   เนยทดลองถามหยั่งเชิงเผื่อว่าเมื่อครู่จะไม่นับเป็นหนึ่ง แต่ว่าถ้วยแก้วยังคงไม่ขยับ เธอจึงต้องเบ้ปาก แล้วเอื้อมมือทำท่าจะปลดตะขอยกทรงที่อยู่ด้านหน้าออก เหลือเสื้อนักศึกษาเอาไว้ อย่างน้อยก็ไม่เปลือยเกินไป แต่แล้วการเคลื่อนไหวนั้นก็หยุดชะงักเล็กน้อย เพราะเธออยากกลั่นแกล้งเด็กชายคนนี้ขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหต

   “หนึ่งครับ ช่วยพี่ถอดยกทรงออกมาหน่อยซิ อยู่ท่านี้มันถอดยากน่ะ”

   เนยหันไปทำท่าขอความช่วยเหลือ ทั้งที่ความจริงแล้วเธอล้วงมือวูบเดียวก็ปลดตะขอและยกทรงออกได้แล้ว แต่ว่าเธอเลือกที่จะขยับไปนั่งข้าง ๆ เด็กชาย แล้วแอ่นตัวตรงอวดทรวงอกอวบเต่งอย่างเต็มที่

   “ไม่ดีมั้งครับพี่สาว"

   เด็กชายทำหน้าเหวอ แล้วทำท่าเหมือนขัดเขินไร้เดียงสา เนยยิ่งมองดูก็ยิ่งถูกใจจนแทบลืมกลัวผีไป เธอใฝ่ฝันอยากจะมีน้องชายน่ารักน่าหยิกมานานแล้ว และเด็กชายคนนี้ก็ดูน่ารักถูกใจเธอมากทีเดียว

   “ไม่เป็นอะไรหรอก ช่วยพี่หน่อยนะ”

   เนยพูดคะยั้นคะยอ รอคอยให้เด็กชายช่วยปลดให้ เธอเกือบส่งเสียงหัวเราะคิกออกมาให้กับความไร้เดียงสาของเด็กชาย เมื่อเขาปล่อยมือออกไป แล้วขยับไปนั่งด้านหลัง พร้อมกับล้วงมือลอดเสื้อนักศึกษาเข้าไป หากทว่าเสี้ยววินาทีถัดมาก็ต้องส่งเสียงครางอืมด้วยความเสียวซ่านอันแปลกประหลาด เพียงสัมผัสผิวเผินที่แผ่นหลังอะไรบางอย่างในตัวเธอก็เริ่มตื่นขึ้นมาเสียแล้ว

   “เอ่อ ผมหาตะขอไม่เจอครับพี่สาว”

   เด็กชายส่งเสียงถามไถ่ ในขณะที่สาวสวยกำลังรู้สึกวาบหวิวพึงพอใจจนขนลุก เธอยกมืออีกข้างที่ว่างอยู่ขึ้นมาปิดป้องปากตัวเองไม่ให้เผลอครางออกมา ก่อนจะค่อย ๆ พยายามรวบรวมสติ ส่งเสียงพูดอันสั่นสะท้านออกมา

   “ตะขออยู่ด้านหน้าจ้ะน้องหนึ่ง อืมมม”

   เธอรู้สึกเสียดายเล็กน้อย เมื่อมือของเด็กชายขยับออกจากแผ่นหลัง แต่หลังจากนั้นก็ต้องกลั้นหายใจเกร็งรอคอย เพราะมือของเด็กชายกำลังขยับสะเปะสะปะล้วงอ้อมแตะลงไปที่เอวคอด แล้วลูบไล้ผ่านหน้าท้องขึ้นมาหยุดที่ฐานเต้านม

   มือของเขาหยุดชะงัก เพราะเสื้อนักศึกษาของเนยรัดติ้วเกินไป บริเวณหน้าท้องอาจจะพอมีพื้นที่เล็กน้อย แต่ว่าตรงทรวงอกนั้นมีก้อนเนื้อไซส์สามสิบหกนิ้วอัดอยู่จนเต็มพื้นที่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่มือของใครจะแทรกขึ้นมาได้

   "อืมมม ปลดกระดุมเสื้อก่อนซิหนึ่ง ... อือออออ ... อะ ... อืมมม"

   เนยพูดเสียงสั่นสลับกับเผยอปากคราง เด็กชายเองก็เชื่อฟังคำสั่งเป็นอย่างดี มือทั้งสองข้างขยับไปมาอย่างเชื่องช้า ปลดประดุมเสื้อออกไปทีละเม็ด แต่บางครั้งมือนั้นคล้ายตั้งใจคล้ายไม่ตั้งใจ แตะสัมผัสเข้ากับเนื้อนิ่มจนเจ้าตัวรู้สึกเสียวสยิวลุ้นระทึก กว่าที่สาบเสื้อนักศึกษาจะหลุดลุ่ยออกหมด เนยก็หน้าแดงก่ำเสียแล้ว

   "ตะขออยู่ด้านหน้า อุ๊ยย หนึ่ง ไม่ใช่ตรงนั้น ... อูยยยสสสส หนึ่ง ... ไม่ใช่ ... อุ๊ยย อย่าบีบซิ"

   สาวสวยส่งเสียงสั่นเมื่อเด็กชายล้วงมือทั้งสองข้างอ้อมมาวางแหมะลงบนเต้าอวบและยกทรงแบบครึ่งเต้าอย่างแผ่วเบา เธอไม่ทราบว่าเด็กชายไม่รู้ความหรือว่าเจตนา เพราะมือของเขาไม่ได้เฉียดใกล้ตะขอที่อยู่กลางร่องอกเลยแม้แต่น้อย  

   "ขอโทษครับพี่สาว คือมันนุ่มมาก ... ผมก็เลย ..."

   เอกที่อยู่ด้านหลังสวมบทบาทเด็กชายไร้เดียงสา พูดเสียงกระท่อนกระแท่นและหายใจหนักหน่วง ในขณะที่มือทั้งสองข้างทำการบีบขยำเต้าเต่งพร้อกมับยกทรงลงไปทีละน้อยเหมือนหักห้ามใจไม่อยู่

   การเล้าโลมที่เหมือนไร้เดียงสานั้น ทำให้เนยรู้สึกดีอย่างยิ่ง เธอจึงไม่ยับยั้งขัดขืน ปล่อยตัวปล่อยกายไปตามความสยิวซาบซ่าน ปล่อยให้เด็กชายที่เธอคิดว่าใสซื่อกระทำการเรียนรู้บนร่างกายของเธอเองต่อไป

   "อืมมมมม ซี้ดดสสสสส หนึ่งจ๋า ตะขออยู่ตรงกลาง ... อ๊ะ ... อูยยยสสส"

   เนยส่งเสียงครางกระเส่าแนะนำเด็กชาย แต่ยิ่งแนะนำก็ยิ่งเหมือนจะไปผิดจุด มือของเด็กชายแทนที่จะไปถึงตะขอเกี่ยว กลับล้วงเข้าไปในยกทรงแล้วขยี้ปลายถันทั้งสองข้างกระตุ้นจนแข็งเต่งขึ้นมาแทน

   "ผมขอชะโงกหน้าไปดูหน่อยนะครับ ว่าตะขออยู่ตรงไหน"

   เด็กชายพูดพลางขยับยกตัวขึ้นชะโงกหน้ามองดูสองเต้าจากด้านบน ในขณะที่ด้านล่างนั้นแกล้งแอ่นบดดุ้นเอ็นที่พองตัวเต็มกางเกงเข้ากับแผ่นหลังจนเนยสะดุ้งโหยงกับความใหญ่โตและแข็งแกร่งนั้น

   เธอนึกได้ว่าควรยกมือขึ้นปิดไว้ เด็กชายจะได้มองไม่เห็นปลายถัน หากทว่าอีกใจหนึ่งกลับรู้สึกตื่นเต้นคึกคัก อยากเปิดเผยสัดส่วนเนื้อตัวให้เด็กชายได้มองเห็น

   เอกยิ้มกริ่มขณะก้มมองดูปลายถันสีชมพูของเนย เขาใช้ปลายนิ้วหนีบหัวนมแรง ๆ กระตุ้นความเสียวจนร่างงามแอ่นกระตุก จากนั้นจึงค่อย ๆ ละมือออกจากสองเต้า แล้วปลดตะขอยกทรงออกท่ามกลางความรู้สึกโล่งใจและเสียดายของเนย

   เนยนั่งมองดูเด็กชายด้วยดวงตาฉ่ำเยิ้ม เธอชอบเมื่อเห็นสายตาซุกซนคู่นั้นจ้องมองความขาวโพลนตรงส่วนที่สาบเสื้อแบะอ้าออกจากกัน เธอถึงกับยิ้มกริ่มเมื่อเห็นเด็กชายฉวยโอกาสหยิบฉวยยกทรงครึ่งเต้าสีดำของเธอติดมือไปด้วย อีกทั้งยังยกขึ้นสูดดมกลิ่นแล้วทำหน้าเขินเมื่อเธอจ้องมองไป

   "ขอโทษครับ มันหอมมาก ผมก็เลย ..."

   เด็กชายขอโทษขอโพยด้วยท่าทางลนลานไร้เดียงสา เนยจึงยิ่งรู้สึกอยากจะโผไปกอดรัดเด็กชายตัวแสบคนนี้สักรอบให้หายมันเขี้ยว ไม่ได้รู้เลยสักนิดว่าท่าทีไร้เดียงสานี้ มาจากการแสดงอันแนบเนียนทั้งสิ้น

   "ถ้าชอบก็ดมไปซิ ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย"

   เนยตอบด้วยท่าทีขัดเขิน ในขณะที่เด็กชายก็แสดงท่าทีใสซื่อหยิบยกทรงที่ยังอุ่นกลิ่นกายสาวขึ้นสูดดมตามที่เธอบอกหน้าตาเฉย เนยจึงเผลอเสียวสยิวที่ปลายถัน เผลอจินตนาการไปว่าเด็กชายกำลังดมเต้านมของเธออยู่ แต่แล้วขณะที่เธอกำลังอยู่ในอารมณ์พลุ่งพล่าน ถ้วยแก้วก็ขยับเคลื่อนไหวอีกครั้ง และคราวนี้เธออ่านตัวอักษรออกมาได้ว่า

   "ต้องการแก้แค้น"

   คำตอบที่ไม่ชัดเจนแบบนี้ทำให้เนยรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากนัก เมื่อนึกได้ว่าเธอต้องถอดเสื้อผ้าออกอีกหนึ่งชิ้น และนั่นหมายความว่าเธอจะได้เห็นแววตาซุกซนของเด็กชายอีกครั้ง แต่ปัญหาก็คือ เธอจะถอดชิ้นไหนดี

   "บอกมาให้ชัดหน่อยซิ ว่าต้องทำยังไง ถึงจะยอมไปเกิดน่ะ"

   เนยส่งเสียงถามถ้วยแก้วด้วยความรำคาญใจ ในขณะเดียวกันก็ส่งสายตาหวานฉ่ำมองดูเด็กชาย พร้อมกับค่อย ๆ ปลดเปลื้องเสื้อนักศึกษาออกจากแขนข้างที่ว่างอยู่ แล้วไปค้างคาอยู่บนแขนข้างที่ยังต้องใช้นิ้วจิ้มบนถ้วยแก้ว

   สาวสวยยกมือข้างที่ว่างอยู่ขึ้นปิดประคองทรวงอกอวบแบบพอเป็นพิธี ในขณะที่ดวงตาคู่สวยจับจ้องมองดูเด็กชายแทบไม่กระพริบ ยิ่งมองเห็นเด็กชายจ้องเนื้อตัวของเธอตาแทบไม่กระพริบ อารมณ์ของเธอก็ยิ่งพลุ่งพล่านปั่นป่วนจนฉ่ำแฉะ เธอถึงกับต้องแกล้งขยับมือออกไปดึงชายกระโปรงพร้อมกับแอ่นตัวตรงเพราะอยากอวดสัดส่วนให้เด็กชายได้เห็นเต็มตา

   เนยนั่งดื่มด่ำอารมณ์ฉ่ำเยิ้มได้ไม่นานนัก เจ้าถ้วยแก้วก็ขยับเคลื่อนไหวลากนิ้วของเธอไปตามตัวอักษรต่าง ๆ อีกครั้ง และคราวนี้ประโยคที่ออกมาก็คือ

   "กูอยากเห็นมึงกับไอ้เด็กนี่เย็ดกันในที่สาธารณะที่มีคนเยอะ ๆ ที่ไหนก็ได้ 9 แห่งที่ไม่ซ้ำกัน ก่อนเที่ยงคืน"

   เนื่องจากประโยคนี้ค่อนข้างยาว เนยจึงจดลงไปบนกระดาษทีละตัวอักษร แล้วค่อยอ่านรวดเดียวเมื่อถ้วยแก้ววิ่งกลับไปที่ตำแหน่งเริ่มต้น และเมื่ออ่านจบใบหน้าของเธอก็แดงซ่านขณะหันไปมองดูเด็กชาย เธอไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร เธอรู้แค่ว่าไม่ได้รู้สึกอยากต่อต้านคำสั่งนี้ ทั้งยังรู้สึกอยากเชื้อเชิญให้เด็กชายรีบลงมือกระทำเสียด้วยซ้ำ

   เอกสวมบทบาทเด็กชายไร้เดียงสา แสร้งทำเป็นแตกตื่นลนลานอีกครั้ง แต่เขาทราบว่าแผนการณ์ของเขาสำเร็จด้วยดียิ่ง การแสร้งหลอกว่ามีผี และสื่อสารผ่านผีถ้วยแก้วล้วนแล้วแต่เป็นกลโกง สาวฮอตประจำมหาลัยคนนี้พร้อมที่จะให้เด็กชายแปลกหน้าอย่างเขาจัดการตามแต่ต้องการแล้ว

...............................................

รักยม ตอนที่ 73 - พี่สาวครับ




   เสียงหายใจฟืดฟาดหนักหน่วงของชายสูงวัยรูปร่างอ้วนท้วมลงพุงคนหนึ่งดังขึ้นทีละน้อย ไม่นานนักเสียงนั้นก็เริ่มจะดังกว่าเสียงพัดลมดูดอากาศในลิฟต์โดยสารของคอนโดหรูราคาแพง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครหันมามองสนใจคุณลุงคนนี้มากนัก เพราะสายตากำลังจดจ้องอยู่บนเรือนร่างงามของสาวสวยนางหนึ่ง

   นักศึกษาสาวแสนสวยในชุดนิสิตรัดติ้วที่ยืนตรงกลางลิฟต์กำลังทำให้ทุกคนในที่นี้ใจสั่นเต้นระรัว สำหรับชายสูงวัยใกล้เตะปี๊บไม่ดังผู้นี้ก็ยังมีผลกระทบมากไม่น้อย อวัยวะส่วนล่างที่ไม่ได้ใช้งานมานานตามวัยที่สูงขึ้นเริ่มกระดุกกระดิกพองตัวขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ คุณลุงยังรู้สึกโชคดีอยู่บ้างที่ไม่ได้เป็นโรคหัวใจ ไม่เช่นนั้นแล้วอาการใจสั่นเลือดลมสูบฉีดที่เป็นในตอนนี้อาจทำให้หัวใจวายตายก่อนวัยอันควรได้

   ชายวัยทำงานในชุดสูทอีกคนหนึ่งลอบกลืนน้ำลายลงคอ แล้วเอื้อมมือขึ้นมาปลดเนคไทให้หลวมออกเล็กน้อยเพื่อคลายความอึดอัดคับข้อง ดวงตาหลังกรอบแว่นหนาเตอะแทบจะจ้องถมึงขณะมองความสวยหวานของใบหน้าด้านข้าง

   ดวงตาคู่นั้นกวาดไล่ลงไปเก็บภาพสัดส่วนอันสวยงามของนักศึกษาสาวโดยไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เพราะเพียงเสื้อผ้าที่รัดติ้วอยู่นั้นก็ทำให้เขาตื่นตัวอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เสื้อนักศึกษาของสาวรุ่นคนนี้กลับเปียกชุ่มจนแนบลู่ไปกับผิวขาวโพลนเข้าไปอีก ความเป็นชายในเป้ากางเกงจึงกลายเป็นตึงเปรี๊ยะปวดแปลบแทบอยากปลดซิปกางเกงปล่อยให้มันได้ออกมาระบายบ้าง

   ชายหนุ่มวัยมหาลัยอีกคนหนึ่งที่มากับแฟนสาวรุ่นเดียวกันนั้นอยู่ในสภาวะที่ยากลำบากที่สุด แฟนสาวของเขากำลังจ้องเขม็งมองมาด้วยความหึงหวงไม่พอใจที่มองผู้หญิงคนอื่นมากเกินไป กระนั้นชายหนุ่มก็ยังอดใจไม่ไหว เขายอมทนเจ็บให้แฟนสาวหยิกแขน เพียงเพื่อแอบมองดูสัดส่วนอวบอัดบึ้บบั้บน่าฟัดนั้นแวบหนึ่ง และภาพนั้นก็ได้ทำให้ความเป็นชายแข็งโด่ดันกางเกงนักศึกษาออกมาเป็นลำ

   สุดท้ายบุรุษต่างวัยทั้งสามถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย เมื่อนักศึกษาสาวแสนสวยเป้าหมายสายตาเดินออกไปจากลิฟต์ เธอจูงมือเด็กชายหน้าตาหล่อเหลาที่เนื้อตัวเปียกปอนอีกคนหนึ่งเดินตามออกไปด้วย นั่นแลดูคล้ายกับพี่สาวน้องชายอยู่บ้าง พวกเขาจึงอดคิดไม่ได้ว่าหากตนเองมีพี่สาวสวยน่าฟัดขนาดนี้คงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย

   กระนั้นทั้งสามก็ยังไม่ปล่อยให้ตนเองเสียโอกาส พวกเขาจับจ้องมองจดจำภาพสะโพกก้นกลมดิกที่สะบัดไหวและภาพท่อนขาขาวเรียวขณะเดินจากไป เรียกได้ว่าถึงจะไม่มีวาสนาได้เชยชมนางฟ้าเดินดินคนนี้ แต่อย่างน้อยก็ขอให้ได้เสพสมในจินตนาการก็ยังดี

    กระทั่งเมื่อประตูลิฟต์ปิดลง บุรุษทั้งสามต่างก็หันมามองหน้าอย่างรู้กันแล้วถอนหายใจเผื่อระบายความตึงเครียดที่เป้ากางเกง พวกเขาทั้งสามต่างทราบดีว่ามิใช่เขาคนเดียวที่กำลังแอบลอบมองดูสัดส่วนเนื้อตัวของนักศึกษาสาวที่สวยสดราวกับนางฟ้าเดินดินคนนี้ และทราบดีว่าคงไม่ใช่เขาคนเดียวที่ต้องรีบไปหาที่ระบายอารมณ์หื่นหลังออกจากลิฟต์

.....................................

   “พี่เอกคะ ... อยู่มั้ยคะ?”

   น้องหญิงผลักประตูห้องเข้าไปพร้อมกับส่งเสียงเรียก เพราะเธอตั้งใจรีบกลับจากมหาลัยเพื่อมาหาพี่เอกของเธอโดยเฉพาะ หากทว่ามายังไม่ทันถึงก็ได้รับข้อความบอกว่าพี่เอกของเธอจะไม่อยู่หลายวัน และเมื่อโทรไปหาก็พบว่าอีกฝ่ายปิดเครื่องไปเสียแล้ว เธอจึงรีบเร่งกลับมายังคอนโดนให้เร็วกว่าเดิม หากทว่าก็ยังดูเหมือนจะไม่ทันอยู่ดี เพราะไม่มีใครอยู่ในห้องแม้แต่คนเดียว

   “พี่เอกนะพี่เอก แอบหนีเที่ยวไปที่ไหนอีกแล้ว ... อืม น้องหนึ่ง เอาเสื้อผ้าไปเข้าเครื่องซักอบแห้งตรงนั้นนะ ประมาณสองชั่วโมงก็จะแห้งเอง ตอนนี้ก็ไปอาบน้ำในนี้ก่อน เดี๋ยวพี่หญิงจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วหาอะไรมาให้ใส่ชั่วคราวก่อน"

   เธอเบะปากด้วยความขัดใจ ก่อนจะหันมาพูดกับเด็กชายที่คล้ายกับพี่เอกด้วยใบหน้าแดงซ่านเล็กน้อย ความจริงแล้วเธอพยายามยิ้มแบบเก็บอารมณ์คล้ายกับพี่สาวดูแลน้องชาย หากทว่าเมื่อสายตาเหลือบไปมองเห็นเป้ากางเกงที่ตุงขึ้นมาเป็นลำยาว ความรู้สึกร้อนวูบวาบก็พลุ่งพล่านไปทั่วร่างอีกครั้ง เพราะว่าสิ่งนั้นของเด็กชายเพิ่งจะมุดเข้าไปในร่างของเธอแบบไม่ทันได้ตั้งเนื้อตั้งตัว ถึงแม้ว่าจะเพียงแค่ครึ่งเดียวและไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้นก็ตามที

   เธอลอบด่าทอตนเองในใจด้วยความรู้สึกผิดต่อพี่เอก และไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะมีสถานการณ์เช่นนี้ ถึงแม้ก่อนหน้าเธอจะเคยโดนผู้ชายปลุกปล้ำลวนลามมาบ้าง แต่ทุกครั้งนั้นเธอไม่ได้รู้สึกเต็มใจเลยแม้สักครั้งเดียว ถึงแม้ว่าจะโดนยาปลุกเซ็กส์เข้าไปจนสติเกือบหลุดบ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอยินยอมพร้อมใจ หากทว่ากับเด็กชายคนนี้ เธอกลับเปิดใจยอมรับเขาราวกับว่าเขาเป็นพี่เอกชายคนรักของเธอ ... เด็กชายคนนี้เหมือนกับพี่เอกมากเกินไปแล้ว

   “ครับพี่สาวคนสวย แต่ผมว่าเรามาอาบน้ำด้วยกันดีกว่านะครับ"

   เอกในคราบของเด็กชายชื่อหนึ่งหันไปยิ้มเจ้าเล่ห์ให้แฟนสาวที่ยังไม่รู้ตัวจริงของเขา ก่อนจะยกมือขึ้นถอดเสื้อยืดสีขาวหม่นเก่าขาดออก แล้วโยนใส่เข้าไปในเครื่องซักอบเสื้อผ้า เขาเจตนาอวดรูปร่างที่ดูแข็งแรงปราดเปรียวเกินวัยให้เธอเห็น

   เมื่อครู่ที่อยู่ด้านล่างนั้นความคิดถึงที่เก็บกดไว้ทำให้เขาเผลอขาดสติเกินไป นั่นทำให้เขาเกือบทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ คำเตือนของรักยมที่บอกว่าห้ามมีอะไรกับผู้หญิงธาตุอื่นนอกจากธาตุดินนั้นอย่างไรก็ต้องทำตาม ไม่เช่นนั้นแล้วจะเกิดผลกระทบที่แก้ไขไม่ได้

   กระนั้นเมื่อเขาได้หยุดคิดสักหน่อย เอกก็พบว่าเขาไม่อาจหักใจไปจากน้องหญิงที่เขายังคงคิดถึงไม่ได้ เขาจึงตามเธอขึ้นมาบนห้องแต่โดยดี เพื่อสานต่อความคิดถึงให้สมอยากเสียก่อน แล้วจึงค่อยจากไปหาหญิงสาวธาตุดินเพื่อฟื้นฟูพลัง

   การกระทำนี้อาจจะคล้ายเล่นกับไฟอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังยอมทำตัวเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟ เพราะหากสามารถควบคุมการกระทำบางอย่างได้ การดูดพลังธาตุก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งก็คือการถอนดุ้นเอ็นออกมาขณะที่เขาหรือเธอกำลังจะถึงจุดสุดยอด หรือไม่ก็บังคับตัวเองไม่ให้สอดใส่ก็น่าจะเพียงพอ

   เมื่อครู่ในตู้โทรศัพท์นั้น ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็วจนสองฝ่ายตั้งตัวไม่ทัน เขาสอดใส่เข้าไปเพียงครึ่งลำ ขณะที่เธอเสร็จสม ผลก็คือมีพลังธาตุแสงรั่วไหลเข้ามาในร่างของเขาเพียงเล็กน้อยราวหนึ่งในสิบของปกติ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าหากไม่สอดใส่ให้เต็มที่การซึมซับดูดกลืนก็จะไม่ได้ผลเท่าที่ควรตามข้อกำหนดพิธีกรรม

   สิ่งที่เขาควรทำก็คือตั้งสติคอยถอนรั้งตัวเองออกมาให้ทันท่วงที ... และเมื่อมีทางเลี่ยงเช่นนี้แล้ว เอกจึงคลายจากความตื่นกลัว และกลับกลายมาเป็นนายเอกจอมหื่นคนเดิมอีกครั้ง เพียงแต่เลือกแสดงออกมาในคราบของเด็กชายจอมทะเล้นเท่านั้น

   ท่าทางทะลึ่งทะเล้นของเด็กชายทำให้หญิงยิ่งสับสนปั่นป่วน เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ก็รู้สึกราวกับว่าเด็กชายคนนี้คือพี่เอกของเธอ ต่างกันก็แต่เพียงรูปร่างของเด็กชายและผู้ใหญ่เท่านั้น

   “นี่นายหนึ่ง เรานี่จะทะเล้นมากไปแล้วนะ พี่หญิงมีแฟนแล้วค่ะ เมื่อกี้ในตู้โทรศัพท์พี่สาวคนนี้จะถือว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีกแล้ว ที่ชวนมานี่ก็แค่ไม่อยากให้น้องหนึ่งตากฝนไม่สบายแค่นั้นแหละ”

   น้องหญิงพยายามรวบรวมสติเพื่อพูดปฏิเสธ แต่ว่าประโยคคำพูดนั้นกลับไม่ค่อยเต็มเสียง เหมือนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองนักว่านี่คือสิ่งที่เธอคิดจริงหรือเปล่า

   
   “โธ่ พี่สาวคนสวยเอาเปรียบกันนี่นา เมื่อกี้ผมอุตส่าห์ช่วยจนพี่สาวเสร็จไปหนึ่งรอบแล้วนะ แต่ผมยังไม่เสร็จเลย อย่างน้อยก็ต้องช่วยให้ผมเสร็จก่อนซิ ไม่งั้นถือว่าขี้โกงเอาเปรียบเด็ก”

   เด็กชายพยายามพูดโน้มน้าวไปแบบน้ำขุ่น ๆ จนสาวสวยไม่ทราบว่าตัวเองควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี ซึ่งความจริงนี่ถือเป็นการละลาบละล้วงมากเกินไปสักหน่อย หากทว่าเธอเองกลับไม่รู้สึกโกรธเคืองอย่างที่ควรเป็น ทั้งยังแอบเผลอคิดไปด้วยซ้ำว่าอยากช่วยปลดปล่อยให้เด็กชายที่น่าหยิกน่าตีคนนี้อยู่บ้างเหมือนกัน

   “แน่ะ ไม่เห็นจะเกี่ยวกันซักหน่อยนะนายหนึ่ง คนเราอยู่ดี ๆ จะมาขอมีอะไรกันได้ยังไง เราไม่ได้เป็นแฟนกันซักหน่อย พี่ก็มีแฟนของพี่ ส่วนเธอก็น่าจะมีแฟนมั้งท่าทางชำนาญขนาดนั้นน่ะ”

   “ก็เราเป็นกิ๊กกันไงครับพี่สาวคนสวย ผมรักพี่ด้วยนะ ก็พี่สวยเหมือนนางฟ้าเลยนี่นา พี่ก็รักผมด้วยนี่นา ผมยังไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนสวยเท่าพี่สาวเลยจริง ๆ นะสาบานเลยเอ้า”

   “อย่ามาขี้ตู่ซิจ๊ะ เราเป็นกิ๊กกันตอนไหน แล้วพี่ไปรักเราเมื่อไหร่ พี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

   “อ้าว ก็เมื่อกี้ในตู้โทรศัพท์พี่สาวยอมให้ผมปล้ำ แถมยังร่อนเอวสู้ซะขนาดนั้นจะยังบอกไม่รักผมอีกเหรอครับ”

   “เด็กบ้า!!”

   เด็กชายพูดเสียงทะเล้นแล้วทำท่าโยกเอวกระเด้าใส่อากาศ สาวสวยจึงส่งเสียงต่อว่าขณะที่ใบหน้าแดงก่ำ เพราะเผลอนึกภาพช่วงที่ตนเองเผลอมีอารมณ์ร่วมไปกับเด็กชายในตู้โทรศัพท์ขึ้นมา

   อีกทั้งเขายังไม่พูดเปล่า พอเห็นเธอแสดงท่าทีลังเลออกมา ก็เดินเข้ามาหาด้วยสายตาวิบวับจนเธอถอยหนีด้วยความหวาดผวา หากทว่าด้วยความไม่ระวังจึงทำให้ถอยไปสะดุดโซฟาแล้วล้มหงายหลังลงไปนอนหงาย ก่อนจะโดนเด็กชายขยับขึ้นมานั่งคร่อมทับด้วยความรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ติด

   “ไม่รู้ล่ะ สรุปว่าพี่สาวต้องช่วยทำให้ผมเสร็จ จะได้หายกัน ไม่งั้นผมจะปล้ำพี่สาวล่ะนะ”

   เด็กชายพูดพลางจับข้อมือทั้งสองข้างของน้องหญิงกดลงไปบนโซฟา เธอจึงพยายามฝืนแรงขัดขืน แต่กลับไม่สามารถสู้เรี่ยวแรงที่มีเหลือเฟือของเด็กชายคนนี้ได้ สุดท้ายจึงได้แต่นอนหอบหายใจกระเส่ามองดูเด็กชายด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด เพราะยิ่งมอง ยิ่งพูดคุย ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังพูดคุยกับพี่เอกของเธออยู่

   “ไม่เอานะนายหนึ่ง ปล่อยพี่เลยนะ ไม่งั้นพี่จะโกรธเธอไปตลอดชาติเลย ... อย่านะ ... ว้ายยย ... อึ๋ยยยยย ... อืมมม”

   น้องหญิงพยายามรวบรวมสติแล้วพูดต่อรอง หากทว่าเด็กชายดูจะไม่อยากเสียเวลาอีก เขาทิ้งร่างลงมานอนทับแล้วอ้าปากงับที่ลำคอขาวผ่อง ก่อนจะเริ่มออกแรงดูดงับซุกไซร้โลมเลียด้วยลีลานิ่มนวล

   สาวสวยใจหายวาบไม่นึกว่าจะโดนโจมตีรวดเร็วเช่นนี้ แต่ที่รวดเร็วกว่ากลับเป็บร่างกายของเธอ เพราะเวลานี้มันกำลังตอบสนองต่อการจูบไซร้ของเด็กหนุ่มโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องสั่งการ

   ไม่ว่าปากและจมูกของเด็กชายจะซุกไซร้ลงไปที่ตำแหน่งใด กระแสความเสียวซ่านก็ระเบิดวาบตรงตำแหน่งนั้นแล้วแผ่ซ่านไปทั่วร่างจนขนลุกซู่ สาวสวยจึงได้แต่ส่งเสียงครางด้วยความสุขสม ไปพร้อมกับการแอ่นเอียงเปิดทางให้เด็กหนุ่มได้เสพความหอมหวานของเธอเท่าที่เขาจะพอใจ

   “พี่สาวตัวหอมน่าฟัดทั้งตัวเลยครับ”

   เอกสวมรอยเป็นเด็กชายจอมหื่นได้อย่างแนบเนียนยิ่ง ซึ่งความจริงโดยนิสัยพื้นฐานของเขาก็เป็นคนขี้เล่นอยู่แล้ว เมื่อมาอยู่ในร่างเด็กแล้วพูดจาด้วยท่าทางทะลึ่งทะเล้นก็เลยกลายเป็นสมบทบาทโดยไม่ต้องแกล้งดัดมากนัก

   เขาฝังจมูกลงไปที่ซอกคอพร้อมกับยิ้มพอใจต่ออาการกระตุกสะท้านของน้องหญิง เขาทราบดีว่านี่เป็นความพิเศษที่ไม่มีใครเหมือนของเธอ นี่คือสิ่งที่มาพร้อมกับเรือนร่างที่สวยงามกว่าใครในสามโลก มันคือคำสาปจากองค์เทพีที่อิจฉาในความงามไร้ที่ติของนางอัปสรนางนี้ และนั่นคือคำสาปที่ไม่ว่าจะเกิดใหม่อีกกี่ชาติก็จะไม่เลือนหายไป หากจะลบล้างก็มีเพียงต้องทำให้องค์เทพีนั้นยินดีปลดคำสาปให้เท่านั้น

   คำสาปนี้เรียกว่าคำสาปแห่งความใคร่ น้องหญิงซึ่งเคยเป็นนางอัปสรที่งามที่สุด โดนคำสาปที่ทำให้เธอมีเสน่ห์ดึงดูดบุรุษยิ่งกว่าผู้ใด เมื่อคำสาปนั้นผนวกกับรูปร่างหน้าตาที่งดงามที่สุดอยู่แล้ว ผลที่ได้จึงยิ่งทบทวีคูณขึ้นอีกหลายเท่า

   ดอกไม้ที่งดงามมากเกินไปย่อมมีแต่คนหมายปอง เสน่ห์ที่มีอย่างล้นเหลือจะกระตุ้นความใคร่ของผู้คนรอบกาย และชักนำให้เข้าสู่ด้านมืดยอมกระทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองเสพสมกับร่างงาม ด้วยเหตุนี้น้องหญิงจึงมักโชคร้ายโดนหมายตาบ่อยครั้ง

   แต่ที่สร้างความหนักหนาสาหัสต่อเธอมากที่สุดกลับเป็นอีกอย่างหนึ่ง คำสาปนั้นไม่เพียงทำให้บุรุษทุกคนปราถนาในตัวเธอ หากทว่ายังทำให้เธอตอบสนองและปราถนาต่อบุรุษทุกผู้โดยไม่มีแบ่งแยก ไม่ว่าบุรุษเหล่านั้นจะน่าเกลียดอัปลักษณ์เพียงใด ร่างกายของเธอก็จะเกิดอารมณ์ตอบสนองได้โดยง่าย ราวกับโดนยาปลุกเซ็กส์อยู่ตลอดเวลา

   หากพูดให้ง่ายก็คือ ไม่ว่าใครที่อยากลิ้มลองร่างงามนี้ ขอเพียงแค่ใจกล้าลงมือปลุกปล้ำสักเล็กน้อย ร่างของเธอก็จะตอบสนองมีอารมณ์ร่วมอย่างรุนแรงได้ภายในเวลาไม่นาน ยกตัวอย่างเช่นสิ่งที่เขากำลังกระทำอยู่นี้เป็นต้น

   เพียงใช้ปากจูบเม้มซุกไซร้ซอกคอเล็กน้อย สาวสวยก็หน้าแดงก่ำ หอบครางอ่อนระทวยหมดเรี่ยวหมดแรง และหากเขาจะลงมือให้หนักหน่วงต่อเนื่องกว่านี้สักเล็กน้อยโดยไม่สนคำทัดทาน เขาก็เชื่อมั่นว่าน้องหญิงจะต้องเสียตัวให้เขาในร่างของเด็กชายหนึ่งอย่างแน่นอน

   “อืมมมม ซี้ดดดสสสส อือออออ อย่า ... นายหนึ่ง ... อืมมม อ๊ายยย ... ซี้ดดสสส”

   การจูบไซร้ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกร้อนแรงนั้นทำให้เธอหัวหมุนติ้ว ความรู้สึกคุ้นเคยเหมือนกับรสจูบของพี่เอกทำให้เธอเผลอยกมือขึ้นกอดรัดรอบคอของเด็กชาย แล้วลูบไล้ฝ่ามือเนียนนุ่มไปตามแผ่นหลังกำยำด้วยกิริยาร้อนแรง

   เสียงครางอือแห่งความสุขสมดังขึ้นทีละน้อย สวนทางกับสติของสาวสวยที่เริ่มหดหายไปอย่างรวดเร็วอย่างที่เอกคาดการไว้ เพียงแต่เขาเดาถูกเพียงครึ่งเดียว น้องหญิงตอบสนองต่อรสรักเพราะคำสาปนั้นถูกต้องครึ่งหนึ่ง เพียงแต่นั่นเป็นการตอบสนองในระดับร่างกายเลือดเนื้อ

   หากทว่าที่เขาลืมคิดคำนวณก็คือการตอบสนองในระดับจิตวิญญาณที่ร้อนแรงยิ่งกว่า การร่วมรักด้วยมนตรามาหลายครั้งทำให้จิตวิญญาณของเขาและเธอเกิดการหลอมรวมผสมจนคุ้นชิน ทุกครั้งที่เข้ามาอยู่ใกล้กันก็จะบังเกิดเป็นแรงดึงดูดเข้าหากันเหมือนแม่เหล็กต่างขั้ว และนั่นยังส่งผลรุนแรงยิ่งกว่าการตอบสนองทางร่างเลือดเนื้อเสียอีก

   "อืมมมม .... อืออออออ ..... อืมมมมม .... อืออออออ"

   เสียงครวญครางกระเส่าดังอย่างต่อเนื่อง สาบเสื้อนักศึกษาที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนโดนแบะอ้าออกอย่างรวดเร็วและเงียบงัน กว่าจะรู้ตัวอีกครั้งก็ตอนที่เสียวแปลบจนสะดุ้งโหยงเพราะโดนเด็กชายอ้าปากงับดูดเลียปลายถันดังจ๊วบ

   "อื้อออ .... อะ อย่าาา ... อืมมมม ... ไม่เอา ... อูยยยสสสส ... อูวววว ... ซี้ดดดสสส"    

   ริมฝีปากบางเผยอครางส่งเสียงห้าม หากทว่าสองมือกลับกดที่หลังศีรษะของเด็กหนุ่มเข้าหาทรวงอกตัวเอง เด็กชายจึงได้โอกาสลากลิ้นเลียสลับไปบนเต้าอวบทั้งซ้ายและขวา ก่อนจะอ้าปากงับแล้วดูดเลียที่ปลายถันสีชมพูอ่อนเน้นระรัวจนสาวสวยตัวกระตุกถี่ยิบ

   ความหอมหวานที่มากับอารมณ์ดิบทำให้เอกยิ่งหื่นกระหาย เขาดูดเสพความเต่งแน่นอวบหยุ่น สลับกับใช้สองมือเคล้นขยี้ใส่แรงขึ้นและแรงขึ้น ก่อนจะล้วงมือข้างหนึ่งมุดลงไปปลดถอดกระโปรงนักศึกษาและกางเกงในออกจากร่างงาม โดยที่สาวสวยเผลอตัวยกสะโพกเปิดทางให้อย่างง่ายดาย

   เด็กชายตะปบมือขยี้ลงบนเนินสวาทที่เปียกฉ่ำไปด้วยน้ำฝนและน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติ ใบหน้าสวยหวานจึงกลายเป็นบิดเบี้ยวเหยเก สะโพกผึ่งผายบ้างเด้งขึ้นบ้างร่อนลงไปตามลีลาของปลายนิ้วที่สอดแยงทะลวงใส่

   น้องหญิงหลับตาปี๋กอดเด็กชายแนบแน่น และเมื่อหลับตาลงจนมองไม่เห็นรูปลักษณ์ภายนอก เธอก็ยิ่งรู้สึกสนิทสนมคุ้นเคยกับกลิ่นกายรวมไปถึงการเคลื่อนไหวที่แทบไม่ต่างกับพี่เอกของเธอ ความคิดที่จะป้องกันตนเองที่แทบไม่เหลืออยู่แล้วจึงยิ่งสูญสลายหายวับไป

   นักศึกษาสาวดาวเด่นจากรั้วมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศ กัดเม้มริมฝีปากแน่น พลางขมวดคิ้ว
จนใบหน้าสวยหวานปานนางฟ้าบิดเบี้ยวเหยเก เรือนร่างเกือบเปลือยขาวผ่องผุดผาดร่อนสะโพกโยกไหวไปมาด้วยความกระสันเสียว

   สองขาขาวเพรียวบ้างอ้าออก บ้างหุบหนีบใส่มือที่ขยับเคลื่อนไหวไม่หยุดยั้ง หญิงสาวที่เพิ่งสลัดเสื้อคอซองของนักเรียนมัธยมปลาย มาสวมใส่เสื้อนักศึกษาได้เพียงไม่นาน ส่งเสียงร่ำร้องครวญครางแว่วหวาน เร่งเร้าความกระสันให้กับบุรุษเพศที่กำลังร่วมรักอยู่จนพลุ่งพล่านแล้วพลุ่งพล่านอีก

   เสียง เจ๊าะ แจ๊ะ แว่วดังเบา ๆ พร้อมกับธารน้ำรักที่หลั่งไหลออกมาจากร่องหลืบสาวสวย หยาดน้ำหยดย้อยหลั่งรินลงไปตามง่ามขาขาวเพรียวของหญิงสาวอย่างไม่ขาดสาย มันเลอะชุ่มลงไปบนโซฟาที่สองร่างนอนทับอยู่ และยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้งลง เพราะฝ่ามือที่พริ้วไหวของเด็กชายยังคงบรรเลงลีลารักเข้าใส่อย่างสุดฝีมือ

   “อูยยยส .... ซี้ดดสสสส .... น้องหนึ่ง .... อูยยย อย่าหยุดนะหนึ่ง ... พี่ไม่ไหวแล้ว โอย อื๊ออออออออ อ๊ายยยยยย”

   เมื่อร่างงามโดนเล้าโลมอย่างต่อเนื่องอีกครู่หนึ่ง เธอก็เริ่มมองเห็นสวรรค์ลอยล่องอยู่รำไร ริมฝีปากบางสวยอ้าออกส่งเสียงซี้ดซ้าด ร่ำร้องเรียกหาชื่อของเด็กชายที่เพิ่งพบหน้ากันอย่างไม่ขาดปาก เธอเลียลิ้นวนไปมารอบปากอย่างหิวกระหายจนน้ำลายใส ๆ ไหลย้อยออกไปทางมุมปากอย่างไม่อาจควบคุมได้ และเพียงไม่นานนักร่องสวาทร้อนฉ่าของเธอก็มิอาจทานทนรับจังหวะแห่งกามที่เด็กชายปรนเปรอให้อย่างหนักหน่วงรุนแรงได้อีกต่อไป

    ร่างบางกระตุกเฮือกสะท้านอย่างรุนแรงจนนมเต้าเด้งหลุดออกจากปากของเด็กชาย สาวสวยรู้สึกหัวหมุนติ้ว มองเห็นแต่สีสันขาวโพลนระยิบระยับ ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเหยเก ร่างกายกระตุกเฮือก ๆ ถี่ยิบ ส่งเสียงหวีดร้องคร่ำครวญออกมาสุดเสียงเท่าที่จะทำได้

   น้องหญิงนอนตาปรือรู้สึกสติแทบหลุดลอยออกจากร่างสู่สรวงสวรรค์ หากทว่าเพียงครู่เดียวก็หล่นตุบกลับมาบนโซฟาตัวเดิม และเมื่อรู้ตัวอีกครั้งก็พบว่าเด็กชายกำลังจับสองขาของเธอถ่างอ้าออก ทำท่าเหมือนกำลังจะสอดใส่เข้ามาในร่างของเธอ

   "อย่า!!!"

   เมื่อได้ระบายอารมณ์จนเสร็จสม สติที่เลือนหายไปก็กลับคืนมาส่วนหนึ่ง เธอขยับร่างถอยหนีพร้อมกับผลักสองมือออกด้วยความตื่นตกใจเมื่อเขาทำท่าจะกดสิ่งนั้นเข้ามาในร่าง เด็กชายดูเหมือนจะไม่ทันระวังจึงแทบหงายหลังล้มกลิ้งลงไปกองบนพื้น

   น้องหญิงที่ใบหน้าแดงก่ำด้วยอารมณ์รักนั่งชันเข่าหยิบหมอนมาปิดบังเรือนร่างงามของตัวเองอย่างเร่งรีบ เธอด่าทอตนเองในใจอีกครั้งที่พลั้งเผลอมีอารมณ์ร่วมกับเด็กชายแปลกหน้าอย่างรุนแรง แต่ก็ยังรู้สึกดีที่เด็กชายไม่ได้แสดงท่าทีใช้กำลังเข้าปลุกปล้ำ เขาเพียงลุกขึ้นมายืนเกาศีรษะแล้วยิ้มแห้ง ๆ เหมือนเด็กน้อยที่กลัวพี่สาวดุด่า

   "ทำไมเหรอครับพี่สาว? พี่ก็มีความสุขเหมือนกับผมนี่นา"

   "... เราไม่ควรทำแบบนี้นะหนึ่ง ... เราไม่ได้เป็นคนรักกัน พี่ก็มีคนที่พี่รักแล้ว พี่ไม่อยากนอกใจเขา"

   แม้ว่าสุ้มเสียงจะยังสั่นระริกไร้เรี่ยวแรง หากทว่าสีหน้าและแววตาที่แสดงออกไปนั้นดูจะมั่นคงไม่น้อย เธอพยายามหักห้ามอารมณ์ใคร่ของตนเอง เพราะไม่อยากนอกใจคนที่เธอรัก เวลานี้เธอจึงตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยอมเปลืองตัวอีกต่อไป หากอีกฝ่ายยังดื้อดึงคิดปลุกปล้ำอีกเธอก็จะขัดขืนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

   "... พี่สาวขี้โกงอ่ะ แล้วผมจะทำยังไงล่ะเนี่ย อุตส่าห์ช่วยพี่สาวให้เสร็จตั้งสองครั้ง แต่ผมยังไม่เสร็จเลยสักครั้ง แบบนี้ผมก็อารมณ์ค้างโด่เด่ทั้งวันเลยซิเนี่ย"

   ที่คาดไม่ถึงก็คือเด็กชายกลับไม่ดื้อด้านใช้กำลังเข้าปลุกปล้ำอย่างที่เธอคิด เขาเพียงทำหน้ามุ่ยแล้วทรุดตัวลงไปนั่งบนโซฟาทั้งที่แก่นกายยังแข็งโด่เด่ราวกับเสาธง

   น้องหญิงมองดูท่าทางของเด็กชายแล้วก็เผลอส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมา เพราะนั่นดูเหมือนน้องชายที่กำลังงอนพี่สาว ความไม่ดื้อดึงของเด็กชายทำให้ความคิดป้องกันตัวของเธอลดน้อยลงไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกลายไปเป็นความรู้สึกเอ็นดูของพี่สาว

   "ก็ใช้มือช่วยตัวเองไปก่อนซิจ๊ะ"

   "โห พี่สาวอ่ะใจร้าย ช่วยตัวเองมันไม่ได้อารมณ์อ่ะดิ พี่สาวคงไม่เคยอารมณ์ค้างล่ะซิ ไม่รู้หรอกว่ามันทรมาณแค่ไหน อืม ๆ ช่างเถอะ ผมไปลองช่วยตัวเองในห้องน้ำก็ได้"

   เด็กชายพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อพร้อมกับมองมาตาแป๋วเหมือนลูกแมวน้อยเพื่อเรียกคะแนนสงสาร ก่อนจะเดินเปลือยโทง ๆ หายเข้าไปในห้องน้ำ น้องหญิงที่เพิ่งถูกเขาปลุกปล้ำจนเก็บเสร็จจึงกลายเป็นฝ่ายรู้สึกผิดได้อย่างน่าประหลาด เธอจึงนั่งกอดหมอนนิ่งเงียบอีกครู่ใหญ่ ก่อนจะทอดถอนหายใจออกมา

   "นิดเดียวคงไม่เป็นอะไรมั้ง ... ขอโทษนะคะพี่เอก"

......................................

   เอกในร่างเด็กชายปิดประตูห้องน้ำโดยไม่ได้ใส่กลอน แล้วเปิดฝักบัวล้างเนื้อล้างตัวแบบไม่ใส่ใจนัก เขาไม่ได้ถอดใจยอมแพ้ที่จะใช้ร่างเด็กชายตะล่อมร่วมรักกับน้องหญิง หากทว่าที่เขาถอยออกมานี้ เป็นเพียงการถอยเพื่อการรุกครั้งใหม่

   ไม่มีใครเข้าใจนิสัยของน้องหญิงดีไปกว่าเขาอีก ลูกคุณหนูที่ถูกเลี้ยงดูมาในสังคมไฮโซคนนี้หากลองตัดสินใจอะไรแล้ว เธอจะค่อนข้างดื้อดึงกับการตัดสินใจนั้น หากเธอตัดสินใจว่าจะไม่ยอมให้เขาอีก ต่อให้เขาปลุกปล้ำจนสำเร็จความใคร่ได้ ก็คงจะกลายเป็นตราบาปในใจของเธอ

   ดังนั้นเขาจึงทดลองใช้สิ่งที่เรียกว่าคะแนนสงสาร ลูกคุณหนูอย่างน้องหญิงนั้นมองโลกนี้สวยงามกว่าคนทั่วไปอยู่บ้าง แทนที่จะใช้กำลังปลุกปล้ำ เขาจึงใช้ร่างเด็กชายทำตัวน่าเวทนาแทน ทั้งนี้เพื่อเรียกคะแนนสงสารจากสาวสวย ตอนนี้เขาจึงได้แต่รอคอยเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก ... เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้เขาเผยรอยยิ้มออกมา หากทว่ายังคงเก๊กท่ายืนอาบน้ำนิ่งเงียบไม่พูดตอบหรือทำอะไรเป็นการตอบเสียงเคาะประตูนั้น

   "... หนึ่ง ... โกรธพี่อยู่เหรอจ๊ะ?"

   เสียงหวานใสของน้องหญิงดังมาจากอีกฝั่งของประตูห้องน้ำ เอกจึงยิ่งยิ้มกริ่มมั่นใจว่าแผนการณ์ของตัวเองสำเร็จแล้วครึ่งหนึ่ง แต่เขายังต้องแกล้งยืนนิ่งเงียบทำทีเหมือนน้องชายที่งอนพี่สาวอีกสักระยะ

   เวลาผ่านไปเกือบสองนาทีอย่างเงียบงันจนเอกเริ่มไม่แน่ใจว่าแผนของเขาล่มแล้วหรือไม่ แต่เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออกเขาก็ยิ้มอย่างลิงโลดโดยที่ยังคงยืนหันหลังให้ประตู ตอนนี้เขายืนหันหน้าเข้าหาฝักบัว แล้วแสร้งทำทีเป็นว่ากำลังช่วยตัวเองอย่างน่าสงสาร

   "นี่ ... ถ้าหนึ่งสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร ... พี่จะช่วยก็ได้นะ โอเคมั้ย?"

   "... ก็ได้ครับ แต่พี่สาวคนสวยต้องช่วยให้ผมเสร็จสองครั้งนะ จะได้หายกัน"

   เด็กชายพูดพลางหมุนร่างเปลือยไปมองดู ก่อนจะหยุดชะงักเหม่อมองดูความสวยงามของเรือนร่างอวบอิ่มที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กรัดพันอยู่รอบกาย แก่นกายของเขากระตุกหงึกเบ่งตัวพองขึ้นมาทันทีเธอเดินเข้ามาพร้อมกับปิดประตูห้องน้ำ

   "จ้ะ สองครั้งก็สองครั้ง หันหน้าไปทางโน้นซิ พี่เขินนะ มองกันแบบนี้น่ะ"

   น้องหญิงเบือนสายตาหนีไปทางอื่นด้วยใบหน้าแดงก่ำ นั่นเป็นใบหน้าเปี่ยมอารมณ์ที่สามารถทำให้ผู้ชายทุกคนคลั่งได้ แม้แต่เอกในร่างเด็กชายเองก็ไม่เว้น หากทว่าเขายังพอควบคุมสติตัวเองได้อยู่ เขาสวมบทบาทน้องชายที่เชื่อฟังคำสั่งพี่สาวคนสวย

   "อูยยสสส ... พี่สาวถอดผ้าขนหนูออกด้วยซิครับ ... ซี้ดดดสสส พี่สาวชักว่าวเก่งจัง"

   เด็กชายส่งเสียงครางอูยแผ่วเบา เมื่อเขาหันหลังให้ร่างนุ่มนิ่มก็เข้ามาสวมกอดจากทางด้านหลัง เธอแนบร่างบดเบียดเข้ากับแผ่นหลังของเขาโดยมีผ้าขนหนูขวางกั้นไว้เพียงชั้นเดียว ริมฝีปากบางแตะสัมผัสกับใบหูแล้วเป่าลมหายใจเข้าใส่ ส่วนมือนุ่มทั้งสองข้างนั้นสอดลอดใต้แขนของเด็กชาย เอื้อมมาคว้าหมับเข้ากับดุ้นเอ็นของเด็กชายที่พองตัวเป่ง แล้วบีบคลึงรูดถอกเบา ๆ ด้วยลีลาช่ำชอง

   "ไม่ถอดหรอก พี่ทำให้เราได้แค่นี้แหละจ้ะนายหนึ่ง"

   "ขี้โกงอ่ะ ทีผมยังแก้ผ้าปล้ำกับพี่เลย ... ถอดนะครับ ผมอยากโดนนมเต้าใหญ่ ๆ ของพี่สาวเบียดข้างหลัง เกิดมาผมยังไม่เคยเห็นนมผู้หญิงคนไหนใหญ่แล้วก็สวยเด้งแบบนี้เลย"

   สาวสวยพูดปฏิเสธคำขอของเด็กชายแทบจะในทันที แต่เด็กชายก็ยังไม่ละความพยายาม สาวสวยจึงแอบยิ้มน้อย ๆ เพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ชื่นชอบคำชม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมเปลืองตัวไปตามคารมของเด็กชายเสียเมื่อไหร่

   "ไม่จ้ะ ยืนเฉย ๆ เลย ไม่งั้นพี่จะไม่ทำให้แล้วนะ"

   เธอพูดกระซิบบอกเด็กชายที่ข้างใบหู ก่อนจะอ้าปากงับแล้วเลียไล้ด้วยความมันเขี้ยวจนเด็กชายเสียวสยิว แม้แต่เธอเองก็ยังแปลกใจที่เผลอทำให้เขาขนาดนี้ ทั้งที่ตั้งใจจะแค่ใช้มือช่วยปลดเปลื้องอารมณ์ใคร่ให้

   นี่คงต้องโทษสัญชาตญาณการสมสู่ของเธอที่มีมากเกินไป เพียงกอดแนบกับร่างของเด็กชาย บีบคลึงสัมผัสกับแก่นกายอวบใหญ่ของเขาอารมณ์ของเธอก็กระเจิดกระเจิงขึ้นมาอีกครั้ง อีกทั้งกลิ่นตัวของเขาก็ให้ความรู้สึกคุ้นเคยคลับคล้ายกับกลิ่นกายของชายคนรักจนแยกไม่ออก

   "อูยยสสส ก็ได้ครับ ... สำหรับเด็กวัดฐานะต่ำต้อยไม่มีใครสนใจอย่างผมน่ะ แค่มีนางฟ้ามาชักว่าวให้ก็เป็นบุญจะแย่แล้ว ผมสำนึกตัวดีครับพี่สาว"

   เด็กชายแอ่นเอวร้องครางเสียวซี้ดไปตามลีลาของฝ่ามือที่แผ่วพลิ้วของสาวสวย กระนั้นก็ยังแอบหยอดคำพูดเรียกคะแนนความสงสาร เขาทราบว่าหากดื้อดึงใช้กำลัง เขาอาจจะได้ร่างกายเธอ แต่ก็ไม่ใช่แนวทางของเขา ดังนั้นเขาจึงพยายามเล่นจุดอ่อนเรียกคะแนนความสงสารจากเธออีกครั้ง ด้วยการพยายามทำตัวต่ำต้อยติดดิน

   "เธอเป็นเด็กวัดเหรอนายหนึ่ง?"

   "ซี้ดดดสสส ... ครับผม อูยสส พี่สาวเก่งจัง"

   "อย่าพูดดูถูกตัวเองแบบนั้น รู้มั้ยแฟนพี่ก็เป็นเด็กวัดเหมือนกัน แต่ว่าเค้าสามารถพาตัวเองขึ้นมาได้ พี่เชื่อว่าหนึ่งก็ต้องทำได้เหมือนกัน"

   "ผมไม่ได้ดูถูกตัวเองซะหน่อย ผมก็แค่พูดความจริง พี่สาวเองก็ยังรังเกียจผมเลยไม่ใช่เหรอครับ"

   เอกในร่างเด็กชายเห็นน้องหญิงเริ่มลังเล ก็เลยรีบหยอดคำพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ เพื่อกระตุ้นเรียกคะแนนความสงสารให้กับตัวเองอีกหน่อย และดูเหมือนว่าจะได้ผลไม่น้อย เพราะเพียงครู่เดียวสาวสวยก็ถอยร่างออกห่างเล็กน้อย แล้วกอดแนบร่างเข้ามาใหม่จากด้านหลัง และคราวนี้เขาสัมผัสได้ถึงเนื้อหนังเต่งตึงของเธอได้โดยไม่มีผ้าขนหนูขวางกั้นเอาไว้แล้ว

   "พี่ไม่ได้รังเกียจเราซักหน่อย เลิกดูถูกตัวเองได้แล้ว โอเคมั้ยจ๊ะ?"

   น้องหญิงพูดกระซิบที่ข้างใบหูของเด็กชายอีกครั้ง ก่อนจะอ้าปากงับแล้วแลบลิ้นเลียใส่อย่างดุดัน อีกทั้งหน้าอกอวบอิ่มที่เบียดอยู่กับแผ่นหลังของเด็กชายก็ไม่ได้เบียดอยู่เฉย ๆ แต่ยังขยับเสียดสีกับอีกฝ่ายโดยที่ยังไม่เข้าใจตัวเองด้วยซ้ำ ว่าที่ทำไปแบบนี้เพียงเพื่อปลอบเด็กชาย หรือเพื่อระบายความร้อนแรงของอารมณ์ตนเองกันแน่

   "ครับผม ... ซี้ดดดสส อูยยย นุ่มจัง ... ผมอิจฉาแฟนพี่สาวจัง ที่ได้เย็ดกับนางฟ้าแบบพี่บ่อย ๆ อูยยสสส ทั้งสวย ทั้งเก่ง อูยยยสสส ผมอยากได้เมียแบบพี่สักคนจัง จะได้จับเย็ดเช้าเย็ดเย็นเลย"

   ชายหนุ่มสวมบทบาทเป็นน้องชายที่ว่านอนสอนง่ายได้อย่างแนบเนียน เขาไม่ได้ใช้กำลังปลุกปล้ำ หากทว่าใช้วิธีการทางจิตวิทยาชักนำจนสาวสวยพลั้งเผลอ ทั้งยังเน้นพูดชมเป็นระยะด้วยอีกทาง

   "... อย่ามาทำพูดหยาบคาบกับพี่นะ ... อืมมมม"

   น้องหญิงได้รับฟังคำหยาบคายก็ยิ่งหน้าแดงก่ำ สองมือของเธอขยับเล้าโลมรูดถอกดุ้นเอ็นรวดเร็วขึ้น บางครั้งก็ใช้มือล้วงลงไปลูบคลำพวกไข่ของเด็กชายตามอารมณ์ที่ร้อนขึ้นทีละน้อย เธอพบว่าตอนนี้ร่างกายของเธอกำลังต้องการการสอดใส่บ้างแล้ว และหากว่าเวลานี้คนที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอคือพี่เอกแล้วล่ะก็ เธอคงจะจับเขาลงไปนั่งบนพื้นแล้วขยับไปคร่อมขย่มด้วยตนเองอย่างแน่นอน

   อย่างไรก็ตามเธอย่อมไม่สามารถพูดบอกเด็กชายออกไปได้ว่าเธอต้องการ ร่างกายของเธอจึงแสดงออกอย่างอ้อมค้อมด้วยการแอ่นเบียดโคกสวาทโหนกนูนถูไถไปกับร่างของเด็กชาย ในขณะที่ริมฝีปากก็ส่งเสียงหอบครางขณะระดมจูบงับดูดไซร้ไปกับซอกคอของเด็กชายด้วยกิริยาเร่าร้อน

   เอกแอบยิ้มน้อย ๆ เมื่อสังเกตเห็นอาการของแฟนสาว แต่ว่าเขายังเลือกที่จะเก็บไว้ไม่พูดออกมา ปล่อยให้เธอใช้มือชักว่าวให้เขาไปอีกพักใหญ่ เพื่อให้อารมณ์ของเธอเดือดพล่านกว่านี้อีกสักหน่อย

   ฝ่ามือนุ่มนิ่มของสาวสวยขยับลูบไล้ไม่หยุดยั้งได้อีกราวสิบห้านาทีก็เริ่มขยับช้าลงเพราะเมื่อยมือ และอาจเพราะเธอกำลังใบหน้าแดงก่ำเต็มไปด้วยอารมณ์ใคร่จนมือไม้อ่อนแรง ซึ่งหากเป็นชายหนุ่มทั่วไปคงต้องน้ำแตกไปแล้วสักสองรอบ แต่ว่าเอกไม่ได้อ่อนด้อยถึงเพียงนั้น

   "ถ้าพี่สาวเมื่อยแล้วก็เปลี่ยนท่าหน่อยก็ได้นะครับ"

   เอกเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้ว เขาจึงจับมือของสาวสวยออก แล้วหันหน้าไปมองเรือนร่างงามดุจสวรรค์สร้างที่เปลือยเปล่า เธอมองสบตากับเขาด้วยแววตาฉ่ำเยิ้มครู่หนึ่ง ก่อนจะเบือนสายตาหลบไปทางอื่น คล้ายกับว่ากำลังต่อสู้กับความต้องการอันดำมืดในเลือดเนื้อของตนเอง

   "ผมขอเย็ดหลอก ๆ ล่ะกันนะครับ แค่ถูไถข้างนอก ผมไม่ใส่เข้าไปเด็ดขาด ถ้าพี่ไม่อนุญาต"

   พูดจบเด็กชายก็จับประคองสาวสวยลงไปนอนหงายแผ่หราบนพื้นห้องน้ำโดยที่เธอไม่ได้ขัดขืนปัดป้อง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเธอกำลังมีความต้องการเต็มที่ และสองก็คือเขาบอกว่าจะไม่สอดใส่เข้ามาในร่างทำให้เธอรู้สึกต่อต้านน้อยลง

   ยังไม่ทันทราบว่าเด็กชายจะทำอะไรกับเธอ สองขาขาวเพรียวก็โดนเขาจับถ่างอ้าออก พร้อมกับทรุดลงมานั่งที่กลางหว่างขา เธอขยับใช้ศอกยันพื้นยกศีรษะก้มลงมองด้านล่างด้วยความรู้สึกหวั่นไหว ใจหนึ่งก็รู้สึกผิดที่ดูเหมือนกำลังทำเรื่องนอกใจต่อชายคนรัก กระนั้นอีกใจกลับแอบคาดหวังให้เด็กชายใช้กำลังสอดใส่เข้ามาปลดปล่อยความอัดอั้นของเธอเสียเลย

   อย่างไรก็ตามเด็กชายไม่ได้ทำอย่างที่เธอคิด เขาเพียงจับเอาดุ้นเอ็นอันเขื่องมาวางพาดไว้บนร่องเสียวชื้นฉ่ำ แล้วขยับเอวซอยยิกใช้ความแข็งกระด้างของความปูดโปนตะปุ่มตะป่ำถูไถไปตามร่องเสียวจากด้านนอกโดยไม่ได้สอดใส่เข้าไปภายใน หากทว่านั่นก็เสียวมากควรจนเธอตัวสะท้านเฮือกเป็นระยะ

   "อืมมมม อืออออออ ... หนึ่ง .... ซี้ดดดสสสส อืมมมมมม ... เสียว ... อูยยสสสสส"

   "หอยพี่สวยมากเลยครับพี่นางฟ้า ทั้งโหนก ทั้งนูน สีชมพูสวย แถมยังปิดเหมือนยังไม่เคยโดนเย็ดเลยด้วย ... ผมขอเย็ดได้มั้ยครับพี่นางฟ้า"

   "... อย่า ... ไม่เอานะ ... อืมมม ... ซี้ดดดสสสส อย่านะหนึ่ง ... อูยยสสสส ... อย่านะ"

   เอกสูดปากร้องซี้ดพลางขยับถูไถดุ้นเอ็นที่วางพาดบนร่องหลืบ เขาพยายามตะล่อมขอด้วยความอดทน ทั้งที่รู้ดีว่าหากเขาฉวยโอกาสสอดใส่เข้าไปเลยก็คงทำได้ แต่ยิ่งถูไถก็ยิ่งรู้สึกอัดอั้นด้วยความเสียวที่ไม่สุด ความอดทนที่มีก็เลยเริ่มน้อยลงไปทุกที

   น้องหญิงหลับตาพริ้มนอนหงายกับพื้นด้วยความสับสน เธอสูดปากครางซี้ดซ้าดด้วยความเสียวซ่านตลอดเวลา เพราะในท่วงท่านี้ทำให้อารมณ์อัดอั้นของเธอยิ่งทวีรุนแรงหนักกว่าเดิม มันคล้ายกับการร่วมรักแบบก้ำกึ่ง จะเสียวก็เสียวไม่สุด ความรู้สึกก็เลยกลายเป็นค้างคาน่าหงุดหงิด

   ถึงแม้เธอจะพูดตอบปฏิเสธด้วยน้ำเสียงราวกับละเมอ หากทว่าสะโพกกลับเด้งร่อนแอ่นกลับสวาทเบียดเข้าหาดุ้นเอ็นที่ถูไถอยู่ทีละน้อย เมื่อเธอเคลื่อนเข้าหา การเคลื่อนไหวของดุ้นเอ็นที่ถูไถไปตามแนวราบจึงเริ่มสะดุด บางครั้งส่วนปลายหัวที่บานร่าจึงสะดุดกึกชนเข้ากับปากร่องจนเธอสะดุ้งโหยงสูดปากซี้ด แต่ว่าเขาก็ยังไม่ฉวยโอกาสกดแทรกเข้าไปในร่องเสียวอย่างที่แอบคาดหวัง

   เอกขยับสะโพกซอยยิกด้วยความรู้สึกเหมือนจะกลั้นไม่อยู่ ยิ่งเห็นท่าทางร้อนร่านของแฟนสาวก็ยิ่งอยากสอดใส่ปลดปล่อยความเงี่ยนกระสันเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว หากทว่าการหยุดยั้งตัวเองเพื่อแข่งความอดทนกับเธอก็สร้างความตื่นเต้นให้เขาไม่น้อย เขาจึงกลั้นใจค่อย ๆ ขยับควบคุมบั้นเอวไม่ให้สอดใส่เข้าไปในร่องเสียวของเธอ

   หลังจากการกระเด้าเอวถูไถที่ด้านนอกอย่างน่าอัดอั้นผ่านไปราวห้านาที ก็ปรากฎผู้ที่อดรนทนไม่ไหวขึ้นมา เอกในร่างเด็กชายเริ่มจะควบคุมสติไม่อยู่ บางครั้งเขาเผลอออกแรงกดดุ้นเอ็นแทรกเข้าไปในร่องเสียวเล็กน้อย ก่อนจะรีบกลั้นใจขยับเสยออกจากร่องรูจนสาวสวยตัวกระตุกสะท้าน และเมื่อเขาทำเช่นนี้ได้ราวสี่ถึงห้าครั้ง ฝ่ายที่อดรนทนไม่ไหวก่อนก็คือเจ้าของร่องเสียว

   "... หนึ่ง ... จะใส่เข้ามาก็ได้นะ ... อูยยสสสส อืมมมม"

   น้องหญิงยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองด้วยความเขิน ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอับอาย เธอกำลังรู้สึกสับสนอย่างที่สุด ทั้งที่รู้ว่าไม่ควร แต่กลับไม่สามารถสกัดกั้นอารมณ์กระสันของตัวเองเอาไว้ได้ เธอรู้แค่ว่าตอนนี้เธอกำลังอยากมีเซ็กส์กับเด็กชายแปลกหน้าที่เพิ่งพบหน้ากันครั้งแรกคนนี้เหลือเกิน

   "พี่นางฟ้าว่าอะไรนะครับ? จะให้ผมเย็ดพี่นางฟ้าเหรอครับ? พี่ยอมเป็นเมียผมเหรอ?"

   เอกในร่างเด็กชายแอบยิ้มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหื่นกาม ก่อนจะจับดุ้นเอ็นไปจรดจ่อที่ปากรูเสียวแล้วจับมันบดคลึงปาดเขี่ยไปตามติ่งแตดที่เปียกชื้นเพื่อกระตุ้นอารมณ์หื่นของเธอให้พุ่งพรวดมากกว่าเดิม

    "... อืม ..."

   คำพูดหยาบโลนของเด็กชายทำให้เธอนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ยังพ่ายแพ้ให้กับความเงี่ยนร่านของตนเอง เธอส่งเสียงตอบพร้อมกับพยักหน้าเพื่อยืนยันให้เด็กชายเดินหน้าต่อได้ ทั้งที่ยังคงยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองเอาไว้ และในเวลาเดียวกันนั้นสะโพกของเธอก็เริ่มเด้งร่อนไปมาอย่างร้อนร่านลืมตัว

    "งั้นผมก็ขอเย็ดพี่เป็นเมียล่ะนะครับพี่นางฟ้าสุดสวย"

   เมื่อได้รับคำอนุญาตเด็กชายก็ยิ้มกริ่ม จับดุ้นเอ็นสีคล้ำอวบใหญ่กดเข้าหากลีบเสียวที่เปียกแฉะเยิ้ม เขารอคอยจังหวะที่สะโพกของเธอเด้งขึ้นมา แล้วโถมร่างเด้งเอวกดพรวดเดียวมิดเข้าไปครึ่งลำจนสาวสวยตัวกระตุกเฮือก

   "... ซ๊้ดดดสสส ... อืมมมม ... หนึ่ง ... อือออออ ... เสียว ... ซี้ดดดสสสส"

   น้องหญิงตัวเกร็งจิกมือลงไปบนพื้นกระเบื้องของห้องน้ำ ขนาดที่อวบใหญ่ไม่แพ้แฟนหนุ่มทำให้รับรู้ได้ถึงความจุกแน่นภายใน หากทว่านั่นไม่ใช่ความรู้สึกเจ็บ เธอรับรู้ได้แต่เพียงความเสียวซ่านสะท้านทรวงจนใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเหยเก ในบางจังหวะเธอถึงกับรู้สึกว่าของเด็กชายคนนี้กำลังทำให้เธอเสียวยิ่งกว่าของพี่เอกเสียอีก

   เด็กชายสูดปากด้วยความตื่นเต้นสะใจครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนดึงบั้นเอวออกมาเล็กน้อย รอจนเธอเด้งร่อนเอวเข้าหา แล้วค่อยเด้งเอวกระแทกสวนเข้าไปสุดแรงจนดุ้นเอ็นมุดผลุบหายเข้าไปในร่องเสียวจนสุดลำ และนั่นก็ทำให้สาวสวยตัวกระตุกสูดปากร้องซี้ดเสียงหลงออกมา

   "หนึ่ง ... ซี้ดดดสสส ... พี่เสียว ... อูยยสสส ... เสียว ... ซี้ดดดสสส ... หนึ่ง ... อืมมมมมม"

   เสียงครางกระเส่าของสาวสวยทำให้อารมณ์หื่นของเอกพุ่งพรวดจนแทบควบคุมไม่อยู่ เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะสามารถกระทำอย่างที่ตั้งใจไว้ได้หรือไม่ เขาจะสามารถถอนดุ้นเอ็นออกมาก่อนที่จะเสร็จสมได้หรือไม่ ในเมื่อร่องหลืบสวรรค์สร้างร่องนี้กำลังดูดตอดอย่างรุนแรงจนเขาแทบน้ำแตกอยู่รอมร่อ

   อารมณ์อันหลากหลายพรั่งพรูเข้ามาจนยากจะแยกแยะ ตอนนี้เขาเหมือนกับชายแปลกหน้าที่มาเล่นชู้กับแฟนตัวเอง และดูเหมือนว่าแฟนของเขากำลังเสียวซี้ดสะใจขณะนอกใจเขาอยู่ด้วย นั่นจึงทำให้เขาทั้งเงี่ยนงุ่นง่านสะใจต่อชัยชนะที่สามารถล่อลวงเธอให้เสียท่าได้ แต่ขณะเดียวกันก็หึงหวงโกรธเคืองในความใจง่ายของแฟนสาว แต่โดยรวมแล้วเขาคิดว่าเขาเข้าใจเธอ ความรู้สึกเงี่ยนง่านจึงพลุ่งพล่านมากกว่า

   ด้านน้องหญิงก็กำลังสับสนไม่แพ้กัน เธอทั้งรู้สึกผิดต่อตนเอง รู้สึกผิดต่อพี่เอกที่เธอรัก หากทว่าร่างกายของเธอกลับปฏิเสธเด็กชายไม่ลง ทั้งยังโดนเขากระตุ้นจนเสียวซ่านคุมอารมณ์ไม่อยู่ เธอแทบไม่รู้สึกต่อต้านเขาเลยด้วยซ้ำ ราวกับว่าเด็กชายคนนี้คือพี่เอกที่ปลอมตัวมา สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกแย่ในตอนนี้มีแค่สิ่งที่เรียกว่าจารีตและศีลธรรมเท่านั้น

   "หนึ่ง ... อย่าอยู่นิ่งซิ ... อูยยสสส .... หนึ่ง ... ขยับเร็ว ๆ ... ซี้ดดสส"

   แม้จะรู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่ไฟราคะในร่างกำลังพลุ่งพล่านสุดจะทานทนไหว เธอเอ่ยปากร้องขอความเห็นใจให้เด็กชายขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว พร้อมกับแอ่นเด้งสะโพกโยกร่อนเข้าหาดุ้นเอ็นด้วยความร้อนร่าน

   "ได้เลยครับพี่นางฟ้าคนสวย"

   เด็กชายยิ้มรับน้อย ๆ ก่อนจะเริ่มขยับเอวเนิบนาบ เสียบแทงดุ้นเอ็นวิ่งเข้าวิ่งออกร่องหลืบที่ฟิตคับแน่นเสมือนว่ายังไม่เคยมีใครล่วงล้ำ ดุ้นเอ็นของเขาแทงพรวดเร็วขึ้นทีละน้อย กลีบเสียวที่ยังปิดเม้มสนิทเริ่มเปิดอ้ายับยู่พลิกไปมาจนผิดรูป

   "โอวววสสส ... หนึ่ง ... ซี้ดดสสส ... อาา ... อือออออ ... หนึ่ง ... พี่เสียว ... ซี้ดดดสส หนึ่ง ... หนึ่ง"

   น้องหญิงร่ำร้องเสียงหลงเมื่อเด็กชายโน้มตัวลงมากอดพร้อมกับขยับโยกเอวกระแทกถี่ยิบ ความกระสันร่านทำให้เธอเผลอโอบแขนไปกอดรัดรอบศีรษะของเด็กชายแล้วกดเข้าหาร่างพร้อมกับควานหาริมฝีปากของเขาเพื่อจูบระบายความเสียวตามความเคยชิน หากทว่าด้วยร่างกายที่เล็กกว่าเล็กน้อยทำให้ศีรษะของเด็กชายไม่สูงพอจะจูบปากของเธอ

   ใบหน้าของเด็กชายซุกจมลงไปกลางร่องนมพอดิบพอดี เธอจึงได้แต่แลบลิ้นเลียรอบปากตนเอง แล้วแอ่นสะโพกเด้งรับแรงกระแทก และแอ่นอกอวบเข้าหาปากของเด็กชายด้วยความร้อนร่าน

   'อื้อ หือ เพิ่งสังเกตเห็น พอเราตัวเล็กลง นมน้องหญิงมันจะใหญ่โตสะบึ้มอะไรขนาดนี้เนี่ย'

   เอกร่ำร้องในใจด้วยความตื่นเต้นกระสัน เพราะเวลานี้ร่างกายของเขาเล็กลงกลายเป็นเด็กน้อย อะไรที่เคยใหญ่โตจนล้นทะลักมืออยู่แล้วของน้องหญิงจึงยิ่งล้นทะลักกว่าเดิม เรียกได้ว่าซุกหน้าแล้วขยับไปทางไหนก็มีแต่ความนุ่มนิ่มหอมกรุ่นรายล้อมอยู่จากทุกทิศทาง นี่จึงเปรียบเสมือนสรวงสวรรค์ก็มิปาน

   ปั้ก ปั้ก ปั้ก เสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังถี่ยิบระรัวเร็ว น้องหญิงดิ้นพล่านสะบัดหน้าเริ่ดแอ่นไปมา ท่อนขาขาวเพรียวตวัดรัดเข้าที่สะโพกของเด็กชายอย่างแน่นหนาราวกับเกรงว่าเขาจะถอดถอนร่างออกไป ร่องรักที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำเงี่ยนของหนุ่มสาวทั้งตอดรัดทั้งขมิบดูดกระหน่ำอย่างรุนแรงจนเด็กชายต้องกัดฟันกรอดสุดเสียว

   หากทว่าท่ามกลางความหฤหรรษ์นั้นเอกกลับเริ่มรับรู้ได้ถึงวิกฤตการณ์ที่ใกล้เข้ามา คราวแรกเขาเพียงตั้งใจจะกระเด้าน้องหญิงให้พอหายคิดถึง แล้วถอนออกมาเพื่อปลดปล่อยด้านนอก จะได้ไม่เกิดการไหลเวียนดึงดูดของธาตุแสงเข้าสู่ร่างตามพิธีกรรมปกติ หากทว่าเวลานี้เขาโดนตอดหนุบหนับหนักหน่วงจนใกล้แตกแล้ว แต่เขาไม่อาจถอนร่างออกมาได้ เพราะว่าเรี่ยวแรงในร่างเด็กของเขาไม่มากเท่าสองขาของเธอที่ตวัดรัดอยู่

   "ซี้ดดสสส ... พี่นางฟ้าปล่อยขาก่อนเร็ว ผมจะทนไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวแตกในใส่พี่นะครับ อูยยสสส ... พี่สาว ..."

   เอกเลือกวิธีการบอกกล่าวออกไปตรง ๆ เพราะคิดว่าน้องหญิงของเขาก็คงไม่อยากโดนแตกในเหมือนกัน เขาคาดว่าเมื่อเธอได้ยินเขาแล้วเธอคงจะยอมปล่อยขาที่รัดรอบเอวออก เพื่อให้เขาถอนดึงออกมาน้ำแตกด้านนอก หากทว่าเขาคิดผิดถนัด

   ใบหน้าของสาวสวยให้ความรู้สึกเหมือนสติหลุดลอยเพราะสุขสมจนเกินขีดจำกัด และนี่เป็นเพราะเอกคาดคำนวณบางอย่างผิดพลาดไปตั้งแต่ต้น การไม่สามารถใช้มนตราได้ในขณะนี้นับว่าเข้าใจถูกต้องแล้ว หากทว่าสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือต่อให้เขาไม่ใช้มนตรา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าในร่างของเขาจะไร้ซึ่งพลังมนตรา

   การใช้งานไม่ได้ หมายความว่าควบคุมไม่ได้ และเมื่อควบคุมไม่ได้ ทุกอย่างก็เกิดไปตามธรรมชาติของพลัง กระแสพลังราคะสีดำมืดที่ข้นขลั่กไร้การควบคุมได้หลั่งไหลเข้าไปในร่างของน้องหญิงราวกับเขื่อนแตก แต่ยังดีที่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายอันใดต่อร่างกายโดยตรง

   กระนั้นนี่ก็เป็นรูปแบบของพลังที่เอกเคยใช้กำราบภูติผีปีศาจที่เป็นสตรีมาแล้วมากมาย ยกตัวอย่างเช่นราตรีที่แฝงตัวอยู่ในความฝัน และสรรพคุณของมันก็มิได้มีอะไรมาก นอกจากการปลุกกระตุ้นให้กามสุขทั้งหกพุ่งถึงขีดสุด สมองจะหลั่งสารทำให้รู้สึกมีความสุขอย่างที่สุดออกมาพร้อมกัน กระทั่งหมดเรี่ยวแรงยอมรับความพ่ายแพ้

   ดวงตาจะมองเห็นสิ่งที่สวยงามที่สุดในโลก หูจะได้ยินเสียงที่ไพเราะที่สุด จมูกจะสูดดมได้กลิ่นที่หอมหวลที่สุด ลิ้นจะสัมผัสได้ถึงรสที่อร่อยเลิศที่สุด ร่างกายทุกส่วนจะตื่นตัวสัมผัสได้ถึงความสุขเสียวอย่างที่สุด แม้แต่จิตใจก็ยังจะรู้สึกได้ถึงความสุขอันเต็มเปี่ยม

   ผลลัพธ์โดยรวมที่ได้ก็คือน้องหญิงกำลังโดนความสุขสุดยอดทั้งหกประการกระหน่ำเล่นงานจนแทบทานรับไว้ไม่ไหว ร่างกายของเธอกระตุกเฮือกรุนแรงด้วยความหฤหรรษ์ยิ่งกว่าครั้งใดที่เคยพบเจอ สติของเธอจึงกลายเป็นมึนเบลอเหมือนโดนยาหลอนประสาท และยาปลุกเซ็กส์อย่างแรงเข้าไปพร้อมกันหลายขนาน ดังนั้นจึงอย่าได้หวังว่าเธอจะยอมปล่อยให้เขาถอนดุ้นเอ็นออกไปจากร่างของเธอเด็ดขาด

   "อูยยสสส ... ซี้ดดดดดด ... อื๊อออออออ .... อูยสสสสส ... อะ อ๊ายยยยยยยยย"

   หลังจากอ้าปากเหวอจนหมดสวย สาวสวยก็เริ่มตัวกระตุกเกร็งอย่างรุนแรง จุดสุดยอดแห่งความใคร่แผ่ซ่านแปลบปลาบกระหน่ำเล่นงานเข้าใส่ร่างบางรอบแล้วรอบเล่า เธอส่งเสียงหวีดร้องเด้งผวากอดรัดบั้นเอวของเด็กชายไว้อย่างแนบแน่น ราวกับว่าอยากให้ร่างของเขาสอดแทรกกระหน่ำเข้ามาให้ลึกล้ำกว่านี้จนกระทั่งหลอมรวมเข้ากับร่างกายเธอ

   เมื่อเป็นเช่นนี้คนที่แส่หาเรื่องก็เลยได้แต่ต้องกัดฟันกรอดพยายามอดกลั้นมิให้แตกกระฉูดออกมาในร่อง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มรู้สึกถึงข้อเสียของร่องรักสวรรค์สร้างของน้องหญิง นอกจากจะตอดรัดและขมิบอย่างแนบแน่นราวกับไม่เคยโดนทะลุทะลวงมาก่อนแล้ว มันยังกระตุ้นอารมณ์หื่นของเขาได้ยิ่งกว่าการร่วมรักกับผู้หญิงคนไหน การอดกลั้นในครั้งนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในการทดสอบที่โหดร้ายที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเผชิญมา

   กระแสความหฤหรรษ์ทำให้น้องหญิงลอยคว้างอยู่ในห้วงของจุดสุดยอดเกือบสามนาที และนั่นก็เป็นช่วงเวลาแห่งความอัดอั้นทรมาณของเอกอย่างที่สุด แต่ยังดีที่เขาผ่านมันมาได้ เมื่อเวลาผ่านไปอีกครู่หนึ่ง อาการกระตุกเกร็งของเธอก็เริ่มผ่อนคลาย แม้ในร่องหลืบจะยังขมิบตอดระรัวหากทว่านั่นก็ไม่หนักหน่วงเท่าช่วงก่อนหน้า เอกจึงลอบผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งอกออกมาพรืดใหญ่

   "พี่นางฟ้าปล่อยผมก่อนเร็วเข้า ผมจะอั้นไว้ไม่ไหวแล้วนะ เดี๋ยวผมก็แตกในใส่ให้ท้องป่องซะหรอก"

   เอกรีบขยับตัวลุกขึ้นอยู่ในท่านั่ง แล้วส่งเสียงแกมขู่เมื่อเห็นน้องหญิงปรือตาขึ้นมามองดูเขา หากทว่าดวงตาของเธอดูฉ่ำเยิ้มเหม่อลอยชอบกล อีกทั้งยังไม่มีทีท่าว่าเธอจะยอมปล่อยสองขาที่ตวัดรัดรอบเอวของเขาอย่างแน่นหนาออกเลยแม้แต่น้อย เขาจึงเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมาบ้างแล้ว

   เท่าที่ผ่านมานั้นผู้หญิงทุกคนต่างก็หมอบราบหมดเรี่ยวแรงให้กับมนตราบทนี้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือภูติเทพจากไหน และนี่เป็นครั้งแรกที่เอกเจอกับผู้หญิงที่ไม่หมดแรงหลังจากโดนกระตุ้นด้วยกามสุขทั้งหก อีกทั้งยังสามารถขยับเขยื้อนร่างเด้งโผขึ้นมาอยู่ในท่านั่งแล้วโอบแขนกอดรอบคอของเขาเอาไว้ พร้อมกับบดปากจูบแลกลิ้นกับเขาได้

   ภายใต้ความเลอะเลือนของสตินั้น น้องหญิงปรือตามองดูด้วยแววตาร้อนแรง ประสบการณ์ที่ได้ผ่านความหฤหรรษ์สุดยอดยิ่งกว่าครั้งใดในชีวิตทำให้เธอในสภาพที่ขับเคลื่อนด้วยสัญชาตญาณ และเวลานี้เธอกำลังรู้สึกเหมือนตนเองเป็นสัตว์ตัวเมียในฤดูผสมพันธุ์ตัวหนึ่ง

   สาวสวยเด้งร่างโผขึ้นมาจูบสอดลิ้นเข้าไปพัวพันกับเด็กชายเพื่อเติมเต็มให้กับความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ในร่าง ก่อนจะโผร่างกดทับลงไปจนร่างเด็กชายล้มลงไปนอนหงาย กลายเป็นเธออยู่บนเขาอยู่ล่าง เธอกลายเป็นฝ่ายรุกและเด็กชายกลายเป็นฝ่ายรับ

   แม้จะเพิ่งเสร็จสมไปหนึ่งยก หากทว่าเธอยังไม่รู้สึกเพียงพอ ความเขินอายตะขิดตะขวงเลือนหายไปหมดสิ้น เวลานี้ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยความกระสัน เธอเรียกหาความรู้สึกสุขสุดยอดเช่นที่เพิ่งได้ประสบมาอีกสักครั้ง ร่างบางที่นั่งคร่อมทับดุ้นของเด็กชายอยู่แล้ว จึงเริ่มส่ายเด้งขย่มใส่ดุ้นเอ็นอย่างหนักหน่วงเร่าร้อน จนเธอแหงนหน้าเริ่ดสูดปากร้องซี้ดออกมาสุดเสียง

   เอกที่ตกเป็นฝ่ายรับโดยไม่ทันตั้งตัวได้แต่เบิกตามองดู ลีลาการขย่มตออันร้อนร่านของน้องหญิง ความเสียวซ่านที่มาจากการตอดรัดหนักหน่วงทำให้เขาแทบลืมเลือนไปว่าห้ามแตกในใส่ร่องของสาวสวย และเมื่อเขานึกขึ้นมาได้ แล้วยื่นมือขึ้นไปหมายจะอุ้มยกร่างของน้องหญิงให้ลุกขึ้น ก็กลายเป็นโดนสาวสวยคว้ามือทั้งสองข้างของเขาให้ไปขย้ำที่ทรวงอกของเธอพร้อมกับส่งเสียงอ้อนวอนออกมาเสียก่อน

   "อูยยสสส ... หนึ่งช่วยพี่ด้วย ขยำนมพี่ที ... ซี้ดดสสส ... อูยยสสส ... อืมมมมม"

   น้องหญิงส่งเสียงครวญครางพลางยกมือขึ้นจิกขยี้ไปที่ศีรษะตนเองด้วยความเร่าร้อน เสน่ห์ราคะที่เฉิดฉายออกมาทำให้เอกไม่กล้าผลักไสร่างงามให้ออกไป ฝ่ามือทั้งสองข้างจึงกลายเป็นขยำขยี้ทรวงอกอวบตามที่เธอร้องขอ ในขณะที่เขาเองต้องกัดฟันกรอดพยายามอัดอั้นไม่ปลดปล่อยน้ำกามตามที่ร่องหลืบกำลังพยายามรีดเร้นตอดหนึบ

   สาวสวยร่ำร้องด้วยความพึงพอใจขณะโหมเร่งขย่มกระแทกใส่ดุ้นเอ็นเร็วถี่ขึ้น เสียงแจ๊ะ ๆ ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อร่างบางโยกขึ้นลงถี่ยิบแบบไม่ลืมหูลืมตา และคราวนี้ก็เป็นดั่งเช่นครั้งก่อนหน้า กระแสพลังราคะสีดำมืดหลั่งไหลเข้าไปสร้างความหฤหรรษ์ให้แก่ร่างงามจนเธอแอ่นกายหวีดร้องออกมาสุดเสียง

   ที่แตกต่างไปจากครั้งก่อนหน้าก็คือคราวนี้มีเสียงครางกระเส่าของเด็กชายดังตามมาด้วย สุดท้ายเขาก็อดทนต่อลีลาเชิงกามและแรงตอดรัดของร่องเสียวสวรรค์สร้างไม่ไหว ดุ้นเอ็นอันเขื่องกระตุกหงึกอย่างรุนแรงก่อนจะกระฉูดน้ำกามหลั่งไหลทะลักเข้าไปในร่องของสาวสวยจนเอ่อเยิ้มออกมาตามขอบช่องว่าง

   ร่างงามแอ่นเริ่ดกระตุกเฮือกเป็นระยะไปตามจังหวะของคลื่นความสุขที่แผ่ซ่านอยู่ในร่าง นี่เป็นอีกครั้งที่น้องหญิงโดนกระตุ้นด้วยกามสุขทั้งหกแต่ยังไม่สลบเหมือดไป อีกทั้งยังดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่อิ่มหนำเสียด้วยซ้ำ เพราะเพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีหลังจากที่เสร็จสม เธอก็ทิ้งตัวลงไปแนบทับแล้วบดจูบกับเด็กชาย พร้อมกับส่ายสะโพกบดเข้าใส่ดุ้นเอ็นที่ยังคงแข็งตัวตระหง่านดั่งท่อนไม้

   เอกนอนหลับตาร่ำร้องว่าผิดท่าในใจ เพราะเขาสัมผัสได้ถึงกระแสพลังธาตุแสงที่หลั่งไหลเข้ามาในร่างตามกระบวนการปกติ หากทว่าเวลานี้เขายังไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอันใดกับร่างกายในทางลบ

   ความโล่งใจทำให้เอกอดใจไม่ไหว เขาสลัดความหวาดเกรงต่อสภาพเสียสมดุลย์ทิ้งไปก่อนชั่วคราว แล้วหันมาจับพลิกร่างงามลงไปนอนหงายบนพื้นห้องน้ำ ส่วนเขานั้นพลิกขึ้นไปอยู่ด้านบนเพื่อคุมเกมแทน

   ไม่ทันฝ่ามือของเด็กชายก็ตะปบขย้ำใส่เนื้อตัวขาวโพลนของสาวสวยอย่างหนักหน่วง สะโพกเริ่มขยับโยกกระแทกกระเด้าเสพกามกับร่องเสียวฉ่ำเยิ้มของเธอถี่ยิบ

   เสียงครางของหนึ่งเด็กชาย และหนึ่งสาวรุ่นจึงเริ่มดังกระเส่าสะท้อนก้องอยู่ภายในห้องน้ำอีกต่อไปโดยที่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร ... และดูเหมือนว่าทั้งสองจะไม่ทันสังเกตเห็นเลยว่า เวลานี้ร่างของเด็กชายนั้นดูจะอ่อนวัยลงกว่าเดิมไปอีกประมาณหนึ่งขวบปีแล้ว

.....................................