..........บรรยากาศในเมืองช่างน่าอึดอัดสำหรับเด็กหนุ่มที่มาจากท้องทุ่งยิ่งนัก
นายเข่งจะรู้สึกเงียบเหงา
หลังจากที่แม่ได้กลับบ้านนอก
ปล่อยให้นายเข่งต้องอยู่กับเตี่ย
ที่มันไม่ค่อยจะสนิทมากนัก
เพราะสมัยเป็นเด็กๆ
เตี่ยจะเคยไปเยี่ยมมันกับแม่บ่อยๆ
แต่ต่อๆมาก็เงียบหายไป
เพียงส่งเงินค่าเลี้ยงดูแม่ลูก
ที่เตี่ยยังส่งให้เป็นประจำทุกเดือน
นายเข่งจึงสนิทกับเตี่ยทางเรื่องการเงิน
ค่าเลี้ยงดูเท่านั้น
แต่เตี่ยนายเข่งกับรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นายเข่งมาเลี้ยงดู
ในฐานะลูกผ็ชายที่จะต้องสืบสกุลต่อไป
ปู่ของนายเข่งก็มีลูกชายคนเดียวคือเตี่ยมัน
เพราะฉนั้นเตี่ยจึงรู้สึกยินดีจนออกหน้า
กิจการของเตี่ยเริ่มขยายมากขึ้น
เพียงเพื่อทำไว้ให้ลูก
มีสินค้าหลายตัวที่ร้านของเตี่ยรับเป็นเอเย่นโดยตรง
ที่อยู่ก็ขยายออกเป็นสี่คูหา
สินค้าเต็มไปหมด
.........ทุกๆเย็นเตี่ยจะให้ทุกคนมากินข้าวพร้อมกัน
เตี่ยใช้เวลานี้ในการสอนเรื่องการค้าให้ลูกชาย
หลายๆวันที่ต้องนั่งคุยกันกินข้าวด้วยกัน
ทำให้นายเข่งเริ่มสนิทกับเตี่ยและภรรยาของเตี่ย
รวมถึงหมวยน้อยตัวแสบในความคิดของนายเข่ง
เพราะเรื่องหมวยน้อยได้รู้เห็นการกระทำของมันกับแม่ก่อนที่แม่จะกลับบ้าน
และคงเรื่องนี้เองที่ทำให้หมวยน้อยไม่ค่อยจะใกล้ชิดนายเข่ง
ไม่ใช่เป็นการกลัว
แต่ในใจเด็กน้อยม่รู้จะวางตัวหรืดตีสีหน้าอย่างไรเวลาเผชิญหน้านายเข่ง
พี่ชายต่างแม่ของแก
..........นายเข่งเป็นคนทะลึ่งตึงตังก็จริงแต่สติปัญญาก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร
มันจบมัธยมต้นด้วยเกรด
สามกว่า
ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าสมองมันก็ไม่ด้อยกว่าความทะลึ่ง
เตี่ยจะรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่นายเข่งสามารถตอบปัญหาที่เตี่ยนำมาคุยให้ฟังและถามความคิดเห็น
ลูกชาย
นายเข่งจึงรู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวจริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมวยน้อนคงจะเริ่มลืมเรื่องที่ได้เห็นคืนนั้นแล้ว
ความที่เป็นเด็กร่าเริงก็เริ่มสนิทกับนายเข่งมากขึ้นบ้าง
แต่ก็จะเป็นเฉพาะตอนที่เผชิญหน้ากันจังๆเท่านั้น
.........ผู้ที่รู้สึกอึดัดกับเรื่องในครอบครัวกับเป็นแม่ของหมวยน้อย
ที่พยายามหาเหตุผลของการไม่ยอมรับของลูกสาวกับลูกของสามี
แม่กิมมักจะคอยตะล่อมลูกสาวให้ใกล้ชิดกับ
เฮียเข่ง มากกว่าที่เป็น
แต่ก็ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร
.........”เข่งอย่าไปสนใจยัยหมวยเลยนะ
น้าก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอารัย
เห็นมันตึงๆกับเข่งน่ะ
อีกหน่อยก็คงดีขึ้นหรอก”
“ไม่เป็นไรครับ
ผมก็ไม่รู้จะคุยอาไรกับหมวยน่ะ
คงคุยไม่สนุกมั๊ง
หมวยเลยไม่ค่อยอยากคุยด้วย”
“เอาไว้วันหลังน้าจะชวนมาคุยด้วยกันที่ห้องแล้วกันนะ
น้าก็อยากรู้ว่าชีวิตบ้านนอกเป็นยังงัยน่ะ”
“ได้ครับ
ชีวิตบ้านนอกสนุกครับ
เผื่อหมวยอยากรู้ด้วยก็ได้”
นายเข่งก็เลยเป็นแขกของห้องน้ากิมกับหมวยน้อยในตอนหัวค่ำก่อนกินข้าว
และเป็นเวลาที่หมวยน้อยต้องทำการบ้าน
นายเข่งก็เลยต้องเป็นติวเตอร์ไปโดยปริยาย
มีน้ากิมเป็นผู้กำกับ
หมวยน้อยจึงจำยอมต้องตามใจแม่
และอีกอย่างในใจก็ไม่ได้โกรธเกลียดเฮียเข่งเลย
จะนึกนิยมชมชอบในรูปร่างท่าทางเฮียเข่งด้วยซ้ำไป
“เฮ้...ยัยหมวย
พี่ชายแกหล่อชะมัดเลย
ขอเป็นแฟนเราได้ป่าว”
เพื่อนๆมักจะแซวหมวยน้อยบ่อยๆเพราะรู้ว่าเป็นพี่ชายหมวย
“ก็ไปบอกเฮียเค้าเองสิ
ว่าอยากเป็นแฟน”
“เธอก็ช่วยเป็นแม่สื่อให้หน่อยสิ”
“ไม่เอา
ไม่อยากยุ่งด้วยหรอก”
หมวยตอบบ่ายเบี่ยง
ในใจนึกถึงท่าทางที่เห็นเฮียทำอาไรกับแม่เฮีย
ถึงแม้จะไม่ได้เห็นอาไรอย่างถนัดตา
แต่ด้วยเห็นว่าการกระทำนั้นมันเป็นการกระทำที่แปลกๆ
ร่างเปลือยทั้งคู่กอดก่ายกัน
อาการของเฮียที่ทาบทับบนร่างเปลือยของแม่เฮีย
การขยับก้นขึ้นลง
กระแทกกระทั้นบนร่างของแม่เฮีย
เสียวร้องครางของแม่เฮีย
ทำให้หมวยน้อยอยากได้คำตอบ
แต่ก็จำเป็นต้องเก็บข้อสงสัยไว้ในใจ
เป็นสาเหตุที่หมวยน้อยยังไม่กล้าใกล้ชิดกับเฮียเข่ง
........หลายอาทิตย์ที่นายเข่งไม่ได้กลับบ้าน
เพราะเตี่ยมักจะออกไปหาลูกค้า
และมักจะให้นายเข่งช่วยอยู่ดูแลร้าน
และเป็นเพื่อนน้ากิมกับหมวยน้อย
ยิ่งทำให้นายเข่งรู้สึกอึดอัด
ความเงี่ยนที่ไม่เคยต้องเก็บก็ต้องเก็บ
อาศัยนางทั้งห้าช่วยปลดเปลื้องความใคร่ที่อัดแน่นเต็มอก
ถึงแม่ว่าจะไม่ค่อยได้ใช้มือช่วย
เพราะป่าริมทุ่งเป็นที่ระบายอย่างดี
แต่ยามจำเป็นมันก็ใช้เป็นประโยชน์แก้ขัดได้บ้าง
นายเข่งยังไม่รู้หนทางที่จะระบายความอึดอัดนี้ได้
เพราะไม่คุ้นกับสถานที่
ไม่รู้ว่าจะไปทำที่ไหน
อย่างไร
แม้กระทั่งหมวยน้อยมันก็ยังไม่กล้าคิดว่าถ้าจะจัดการแก้เงี่ยนจะทำยังงัย
ทั้งที่มันแน่ใจว่าถ้าจะหลอกเอารูหีน้อยๆของหมวยน้อยมาสวมหัวควยมันไม่ใช่เรื่องยาก
เพราะนายเข่งพอจะรู้ว่าเด็กผู้หญิงจะคิดอย่างไรกับการได้เห็นภาพคนเย็ดกัน
มันรู้ถึงความสงสัยของเด็กผู้หญิง
มันรู้ถึงความคิดอยากรู้อยากลองลองของเด็กผู้หญิงวัยหมวยน้อยเป็นอย่างดี
บางครั้งมันก็เอาเหตุผลต่างๆของหมวยน้อยที่ไม่อยากใกล้ชิดมัน
เอาไปจินตนาการในการรูดควยจนน้ำแตกหลายครั้ง
...........
“อยู่บ้านโน้นเข่งมีแฟนรึยัง
รูปหล่อแบบนี้สงสัยแฟนเยอะสิท่า”
แม่หมวยน้อยเริ่มคุย
หมยน้อยนั่งทำการบ้านข้างๆ
“เอ้อ.....ก็....ก็มีครับ....”
นายเข่งก้มหน้ายอมรับ
ไม่กล้าพูดเท็จ
“สงสัยมีเมียด้วยนะแม่
อิอิ” หมวยน้อยหันมาแซว
อย่างไม่ได้คิดอารัย
แต่นายเข่งเสียววูบ
“ปะ...ป่าว...ไม่มี....ไม่มี...”
นายเข่งไม่ได้ปฎิเสธ
แต่ไม่มีจริงๆ เพราะไม่ได้แต่งงานกับใคร
“แล้วมาอยู่ที่นี่ล่ะ
มีแฟนใหม่แล้วยัง” แม่หมวยน้อยถามต่อ
“มีแน่ๆแม่
สาวๆกรี๊ดกร๊าดกันน่าดู
ต้องมีเยอะด้วย”
หมวยน้อนแย่งตอบแทนนายเข่ง
นายเข่งได้แต่นั่งยิ้มๆ
“เอ๊....หมวยเนี่ย....เรื่องของคนโตๆแล้วนะ
ตัวเองยังเพิ่ง ม.ต้น
ริอ่านรู้เรื่องฟง...เรื่องแฟน”
แม่ดุจนหมวยน้อยหน้างอ
“น้องหมวยก็โตแล้วนะครับ
ที่บ้านผม อายุแค่น้องหมวยมีแฟนกันแล้วครับ”
นายเข่งอธิบายแก้ต่างน้องสาวต่างแม่
...........นายเข่งนึกถึงร่างน้อยๆของเพื่อนๆตอนเด็กๆที่แก้ผ่เย็ดกันตั้งแต่อายุน้อยกว่ายัยหมวยเสียอีก
มันนึกถึงเอกเล็กๆแหลมๆหัวนมแดงๆ
นึกถึงเนินหีที่บางคนหมอยยังไม่ขึ้น
บางคนเพิ่งเริ่มขึ้นก็เล่นเย็ดกันแล้ว
มันนึกถึงเรื่องนี้ทำให้ลำควยมันเริ่มพองตัว
ด้วยขนาดที่ใหญ่ยาวทำให้เป้ากางเกงตุงมองเห็นเป็นลำยาว
แม่น้องหมวยเหลือบเห็นก่อนที่นายเข่งจะขยับนั่งปิดบังรูปร่างลำควยในกางเกง
ในใจแม่กิมถึงกับเสียววูบ
เนื่องจากเตี่ยนายเข่งไม่ค่อยจะทำการบ้าน
เพราะมัวแต่มุ่งทำงานอย่างสุดตัวจนลืมนึกถึงเรื่องในมุ้ง
ปล่อยให้แม่ลูกอยู่กันอย่างสบาย
แต่ในความสบายกายไม่ได้ช่วยให้แม่กิมสบายใจ
จนบางครั้งต้องช่วยตัวเองบ่อยๆ
...........
เตี่ยต้องเดินทางไปธุรกิจหลายวัน
หลังมอบหมายงานให้ลูกชายแล้ว
เตี่ยก็ออกเดินทางด้วยรถยนต์ที่มีคนขับไปด้วย
หลังปิดร้าน
ที่ปิดเร็วกว่าปกติ
ลูกจ้างแยกย้ายกันกลับบ้าน
รวมถึงแม่บ้านทีทำอาหารแล้วก็ขอกลับบ้านเหมือนกัน
ทั้งร้านจึงเหลือแค่สามคน
แม่ลูกกับลูกเลี้ยง
ทั้งสามนั่งคุยกันเหมือนทุกๆคืน
น้องหมวยเริ่มใกล้ชิดกับเฮียมากขึ้นแม่กิมก็คุยกับนายเข่งอย่างออกรสมากขึ้น
จนกระทั่งคืนนี้
แม่กิมถึงกับชวนนายเข่งนอนด้วยกันที่ห้อง
โดยอ้างว่าอยู่สองคนแม่ลูกมันกลัวๆ
นายเข่งยังไม่ทันตอบรับทันที
เพราะมันดูจะน่าเกลียด
แต่หมวยน้อยกลับตอบแทนเฮียเข่ง
.........
“นอนที่นี่ก็ดีนะคะ
เพราะอยู่หลายคนอุ่นใจดีกว่า
นะแม่นะ”
“จ๊ะ...”
แม่กิมรับยิ้มๆ
“แต่อย่าเล่นอารัยแบบเฮียเล่นกับแม่เฮียนะ”
หมวยน้อยลุกขึ้นเดินออกไปห้องน้ำ
กล่าวกับเฮียเข่ง
“เอ๊ะ....เล่นอารัยกันหรอ”
แม่กิมสงสัย
“เอ้ออ.....เอ้อออ.....แค่...แค่นอนกอดกันน่ะครับ”
ยามจำเป็นก็ต้องขยักไว้บ้าง
สารภาพเพียงครึ่งเดียว
“อ๋ออ....ไม่เห็นเป็นอารัยเลย
ยัยหมวยก็ชอบนอนกอดแม่น่ะ
ยังมีห้ามคนอื่นนอนกอดแม่ด้วยแน่ะ”
แม่กิมมองนายเข่งยิ้มๆ
จนนายเข่งเขินๆ
“ก็...ก็ได้ครับ
ถ้า...ถ้าน้ากิมรู้สึกกลัว
ผมนอนเป็นเพื่อนได้ครับ”
หมวยน้อยเดินกลับเข้ามาในห้อง
รับรู้ว่าเฮียเข่งจะนอนเป็นเพื่อน
ในใจหมวยถึงกับเต็นแรง
เงาร่างของเฮียกับแม่เฮียคอยตามหลอกหลอนตลอดเวลา
ถึงแม้ว่าการมานอนเป็นเพื่อนของเฮีย
คงไม่มีอารัยเกิดขึ้น
.........เฮ้ออออ....อารัยจะเกิด...มันก็ต้องเกิด.....และอารัยๆมันก็เกิดขึ้นได้ทั้งน๊านนนนนนน......
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น