วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2562

เปิดบริสุทธิ์


เขาไม่ยอมปล่อยเวลาให้เสียไปเลยแม้แต่เสี้ยววินาที  เพียงแค่แค็ทได้หย่อนก้นลงนั่ง ยังไม่ทันพูดอะไร ก็โดนเขาบุกเข้าจู่โจมกอดจูบจนตั้งตัวไม่ติดเลยทีเดียว....ไม่ว่าแค็ทจะเอียงหน้าไปทางไหน เขาก็ตามประกบจูบ ซุกไซ้โดยตลอด แค็ทเริ่มรู้สึกวาบหวิว หมดเรี่ยวแรง ขนลุกซู่ขึ้นเป็นระลอกๆ ตามจังหวะการลูบคลำของเขา ทั้งอกทั้งจิ๋มต่างก็ตั้งเต้าเต่งตึงอวบอูมขึ้นด้วยความเสียวอย่างบอกไม่ถูก ลมหายใจอุ่นๆ ตรงซอกคอทำให้แค็ทเคลิบเคลิ้มคล้อยตามการจูบ สัมผัสของเขา เราทั้งสองได้รับรู้ถึงรสชาติมหัศจรรย์ที่เร้าใจ เร้ากายอย่างประหลาดกับการที่ได้กอดจูบลูบคลำซึ่งกันและกัน มันสามารถสร้างอารมณ์ความต้องการให้คุกรุ่นรุนแรงขึ้นได้
.......หนุ่มเข้ารุกไล้มาที่ร่างแค็ทโดยไม่หยุดนิ่งเลย เค้าเลิกเสื้อของแค็ทขึ้นจนเห็นหน้าอกที่เปลือยเปล่าแบบโนบราทั้งสองข้างของแค็ท เค้าบีบขยำแล้วนวดคลึงไปมา จนคัดเต้าสู้มือ ใบหน้าของเขาก็ซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอตลอดเวลา
......จนแค็ทต้องเอียงคอห่อไหล่เอี้ยวตัวหนีด้วยความเสียวสยิว เค้าจึงหันมาเปลี่ยนลีลามาเป็นจูบปากและหอมแก้ม ก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาที่กลางร่องอก แล้วกระดกลิ้นเลียไล้ไปมาทั้งข้างซ้ายและข้างขวา พร้อมกับดูดจุกนมของแค็ทจนชูช่อตั้งชันทั้งสองข้าง ขณะเดียวกันมือของเขาก็ล้วงเข้ามาลูบคลำตรงกลุ่มขนบนเนินและร่องจิ๋มที่กำลังฉ่ำเยิ้มของแค็ท
.....นิ้วของเขาถูไถขึ้นลงตรงรอยแยกสองกลีบแคม เค้าแหย่แยงเข้าไปแล้วสะกิดเกาผนังภายใน ทำให้แค็ทต้องขมิบบีบเกร็งตรงร่องช่องจิ๋มเป็นระยะๆ ด้วยความเสียว อารมณ์ของแค็ทตอตนี้ รู้สึกล่องลอย วาบหวิวและร้อนรุ่มจนบอกไม่ถูกว่าจะพรรณนาเป็นอย่างไร
.... แค็ทรู้เพียงว่ากำลังหอบ หายใจลึกและแรง ขนลุกเกรียวไปทั่วร่าง เขาลูบคลำล้วงควักพร้อมกับขยับ การเลียไล้เลื่อนต่ำลงไปที่หลุมสะดือของแค็ท เขาเลียวนไปรอบๆ แล้วกระดกลิ้นลากผ่านหน้าท้องลงไปที่กลุ่มขน เค้าจูบดมกดคลึงไปมา แล้วขยับตัวเข้ามาแทรกตรงกลางหว่างขา ถอกกางเกงชาวเลของแค็ทออกอย่างรวดเร็ว เค้าจับขาของแค็ทเปิดอ้าถ่างออกกว้างแล้วแหวกกลีบบางแหย่ลิ้นยื่นเข้าไปกระดกเลีย ลากจากล่างขึ้นบนแล้ววนไปมาจนทั่ว เขาทำแบบนี้อยู่หลายครั้งจนแค็ทเริ่มจะทนไม่ไหว ต้องแอ่นเนินจิ๋มขึ้นรับพร้อมกับขบฟัน กัดกรามแน่น และทันที่ที่เขาเลียไล้ลากมาสะดุดปุ่มปม
......"...โอ๊ว...โอ๊วว...ไม่ไหวแล้ว.....อูวววว..เสียว...โอยยย...เสียวจริงๆ...." เสียวจนสะท้านไปทั่วร่าง และเมื่อเค้าเม้มดูดอย่างเมามัน แค็ทงี้ถึงกับตัวสั่น เกร็งกระตุกยึกยักเพราะความเสียวเป็นอย่างมาก ขนาดที่ว่าต้องเอี้ยวสะโพกเอียงหลบ เขาก็ตามมาประกบไม่หยุดยั้ง.
.........แค็ทเสียวแบบสุดๆ สะท้านจนทนต่อไปอีกไม่ไหว จึงลุกขึ้นนั่งแล้วผลักยันหัวของน้องเค้าออกไป  น้องหนุ่มรีบพลิกตัวลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าของเขาออกจนล่อนจ้อน เผยให้เห็นกระรอกน้อยนอนหลับหัวห้อยอยู่ แค็ทจึงเข้าไปจุ๊บปากปลุกเบาๆ
.... แค็ทจูจุ๊บและเลียปลุกเร้ากระรอกของเต้าจนมันงัวเงียตื่นขึ้นมา แต่ยังลืมตาตื่นตัวไม่เต็มที่ จึงบอกให้น้องเค้านอนลง แล้วแค็ทก็เริ่มต้นด้วยการสัมผัสกระรอกน้อยของเค้ารูดคลึงไปมา พร้อมกับก้มหน้าลงไปจูบที่แผ่นอก แล้วกระดกลิ้นเลียไล้ไปมาบนหัวนมทั้งสองข้างของเค้าแบบเดียวกันกับที่เค้าทำให้แค็ทเมื่อสักครู่นี้ แค็ททำให้จนนมของเค้าตั้งพานเป็นตุ่มไต ขนก็ลุก ไล่ตามเป็นทาง จนมองเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันกระรอกน้อยที่แค็ทจับรูดขึ้นลง ก็เริ่มลุกขึ้นตั้งพองตัวเบ่งบาน แถมปล่อยให้น้ำลายซึมเยิ้มออกมา
......แค็ทรีบจับแล้วหันมาจัดการกับกระรอกน้อยทันที แค็ทก้มลงจูบเม้มไล้เลียด้วยริมฝีปากและลิ้นไปรอบๆ ส่วนหัวของกระรอกน้อยที่กำลังเบ่งบานอย่างเต็มที่ แค็ทอมแล้วดูดรูดขึ้นลงเป็นจังหวะๆ สลับกับการไล้อมลึกแล้วเลียลากจากสุดโคน รูดขึ้นมาจนหลุดจากหัวบานส่วนปลาย แล้วจูบกลับเข้าไปใหม่พร้อมกับเลียไปที่สายเส้นสองสลึงอย่างรวดเร็ว จนกระรอกน้อยต้องเกร็งร่างก้นกระตุกเพราะความเสียว
...... แค็ทรีบขยับปรับท่วงท่า พลิกตัวลุกขึ้นมานั่งทาบทับที่ต้นขาของน้องเค้า พร้อมกับจับกำกระรอกที่ตื่นตัวตั้งตรงรูดขึ้นลงไปมาอีก 3-4 ครั้ง แล้วจับมาถูไถตรงร่องช่องฉ่ำเยิ้มของแค็ท
.....   เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าตรงช่องทางเรียบร้อยแล้ว แค็ทก็ค่อยๆ กดสะโพกลง ปล่อยให้กระรอกน้อยหนุ่มหัวมนมุดผลุบผ่านเข้าไปจนมิด แล้วนั่งทับแบบแนบสนิททิ้งไว้สักพัก จึงโยกตัวยกสะโพกรูดดึงขึ้น แล้วกดจิ๋มรูดดันขึ้น ขย่มซอยขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง
.......ขณะเดียวกันกับน้องหนุ่มก็เด้งสะโพกโยกขึ้นรับ แค็ทก็เลยตามไปบดขยี้ตอบโต้กลับ จนกระรอกน้อยของเขาเปียกชุ่ม ตัวมันขลับจากน้ำหล่อลื่นอันหยาดเยิ้มของแค็ท เราทั้งสองต่างก็ตอบสนองกันและกันอย่างสุดมันส์... เมื่อแค็ทขย่มกดช่องนำ กระรอกของเขาก็มุดอัดดันยันจมมิดและทุกครั้งที่แค็ทแนบชิด เค้าจะบิดซ้ายส่ายขวาโดยตลอด ทำให้แค็ทรู้สึกมีอาการซาบซ่า วาบหวิว สยิวจนเสียว แค็ทจึงหยุดแล้วนั่งทับกดแช่ไว้ เจ้ากระรอกหนุ่มของเค้าที่มุดอยู่ในตัวของแค็ทก็กระตุกร่างหนึบๆ รู้สึกได้ตลอดเวลา
....... แค็ทรีบปรับท่วงท่าหมุนตัวกลับ หันก้นให้เขาแล้วยกสะโพกรูดดึงขึ้นจนเกือบสุด แค็ทจึงกดกระแทกให้มันรูดกลับเข้าไปอีกครั้ง จนกระรอกหนุ่มมุดร่างเข้าไปจนสุดลำ แค็ทโขยกโยกกาย ย้ายไปย้ายมาในท่านี้อย่างเต็มที่ ด้วยความมันส์ปนความเสียวและเพียงประเดี๋ยวเดียวก็เริ่มมีอาการกระตุก เกร็ง
.......น้องหนุ่มจึงขยับตัวลุกขึ้นมาจับสะโพกให้แค็ทหยุด แล้วเค้าก็นั่งคุกเข่าพลิกแพลงเปลี่ยนท่าเป็นโก้งโค้งโดยไม่ให้แยกหลุดออกจากกัน  เขากระแทกกระรอกน้อยของเขา ซอยเข้าๆ ออกๆ อย่างรวดเร็วในช่องของแค็ทที่กำลังสุดเสียวสะท้านอย่างเต็มที่
..... "....โอววว.....อูยยยย..." แค็ทรู้สึกพอจำได้ว่า แค็ทฟุบหน้า ทิ้งตัวลงไปนอนแต่ยังคงแอ่นก้นเชิดขึ้นเพื่อรองรับความเสียวของกระรอกหนุ่มที่เค้าอัดดันเข้ามาเป็นระลอกๆ
...........ช่วงที่เสียวสุดยอดของแค็ทไม่รู้ว่าเกิดตอนไหน แค็ทรู้ตัวอีกทีก็มีอาการวูบวาบ หวิวๆ รู้สึกอึดอัดคับตึงแบบหน่วงๆ อยู่ในช่องท้องของแค็ท น้องหนุ่มยังคงปล่อยกระรอกของเค้าให้วิ่งเล่นเข้าๆ ออกๆ ภายในโพรงหลืบของแค็ทอย่างเมามัน
.....เค้ากระแทกกระทั้นแหวกกลีบอัดดันอย่างเต็มที่ ตัวแค็ทเองก็บิดเอวส่ายสะโพก โย้บั้นท้ายย้ายสวนกลับรับหน้าขาของเขาอย่างเมามันส์ เสียวเนื้อต่อเนื้อของเรากระทบกันดัง พั่บ...พั่บ...พั่บ...ตลอดเวลา และเมื่อเขากระแทกเข้ามาหนักๆ
..... จิ๋มของแค็ทก็เริ่มขมิบบีบรัด ภายในก็ดูดตอดอย่างหนัก เค้าคงรู้สึกตัวได้ถึงอาการที่เกิดขึ้นของแค็ท....เค้าโน้มตัวเข้ามาโอบกอดให้แค็ทนอนคว่ำแล้วพลิกร่างไปนอนตะแคง แต่เค้ายังคงแหย่แยงอัดดันอยู่ทางด้านหลังของแค็ท เขาจับสะโพกของแค็ทพร้อมกับขยับร่างของเค้าเข้าหา จนแค็ทรู้สึกกระชับแนบแน่นและดูเข้าที่เข้าทางกว่าที่เป็นเมื่อครู่นี้
....... เขาซอยเข้าออกสั้นๆ เป็นจังหวะแบบเนิบๆ ก่อนดึงออกจนเกือบหลุดแล้วอัดดันเข้ามาใหม่ และเมื่อเขาเร่งซอย กระรอกหนุ่มของเค้าก็ดิ้นหลุดออกไป เขาเลยลุกขึ้นแล้วขยับเข้ามานั่งตรงกลางหว่างขาของแค็ท เขาจับกระรอกของเค้าถูไถใส่ตรงกลางร่องจิ๋มแล้วขยับสะโพกโยกซอยก่อนโน้มตัวมาทาบทับร่างของแค็ท พร้อมกับกระแทกกดอัดเข้าไปจนแนบชิด กระรอกหนุ่มของเค้าก็ชำแรกแหวกกลีบบางเข้ามาในร่างของแค็ทอย่างรวดเร็วจนมิดสุด
.......... แค็ทถึงกับจุกเสียดที่หน้าท้องหนึบๆ ขึ้นมาทันที เพราะกระรอกของเค้า มุดเข้าไปในโพรงตรงปากอู่ของแค็ทอย่างจัง มันทั้งเจ็บ ทั้งเสียว ทั้งมันส์ ระคนกันไปหมด ยิ่งตอนที่เค้าขยับร่างร่อนสะโพกโยกคลึงด้วยแล้ว แค็ทงี้ขนลุกเกรียวที่รอบจิ๋ม ไล่ไปถึงง่ามก้นเลยทีเดียว
............. น้องหนุ่มจับขาของแค็ทให้ยกขึ้นพาดบ่า แล้วโยกตัวมาข้างหน้า เขาโขยกซอยเข้าออกอย่างหนักหน่วงอยู่สักพัก จึงอัดยัดกดแช่ไว้แล้วส่ายสะโพกหมุนวนไปมา ขนบนโหนกเนื้อหัวหน่าวของเขาก็บดบี้ขยี้เสียดสีกับปุ่มปมติ่งไตของแค็ทไปมา.....
…….. "....อูยย...อูยยย.....แค็ทเสียว....." แค็ทครางฮือๆ ออกมา เพราะมันเสียวทั้งข้างนอกและข้างในจริงๆ เขาบดคลึงดึงสะโพกโยกกระรอกกดกระแทกแหวกเข้าออกแบบเนิบๆ แต่หนักหน่วงจนร่างของแค็ทกระเพื่อมเคลื่อนตามเป็นจังหวะ เขาเริ่มใส่ลูกเล่นแบบแทงงัดขึ้นแล้วอัดกดลง บางครั้งเขาก็แทงเข้ามาตรงๆ ทำให้แค็ทต้องเกร็งกล้ามเนื้อร่องก้นขมิบบีบจิ๋มด้วยความเสียว
.......... น้องเค้าเก่งมากที่ใช้ลูกเล่นซอยทะแยงซ้ายทะแยงขวา บังคับให้แค็ทจำเป็นต้องส่ายสะโพกรับตามไปมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แค็ทยอมรับเลยละคะว่าความอึดของน้องเค้าเนี่ย มันทำให้แค็ท...โอยย...มันส์....มันส์....มันส์มากคะ มันเสียวสุขสมจนบอกไม่ถูก
...........เขาทำให้แค็ทต้องกระตุกร่างขมิบบีบเกร็งเป็นช่วงๆ ตลอดเวลา เค้าเอาขาของแค็ทลงจากบ่าพร้อมกับจับแบะถ่างให้อ้าออกจนกว้าง แล้วเค้าก็กดสะโพกลงอัดขยี้บดคลึงไปมา ก่อนจะดึงกระรอกออกอย่างช้าๆ จนแค็ทเผลอดีดก้นแอ่นจิ๋มตาม เค้าแทงสวนกลับเข้ามาอย่างแรงจนมิด แล้วกระดกซอยเข้าออกแบบถี่ยิบ ปากช่องร่องกลีบของแค็ทเริ่มเกร็งขมิบ กล้ามเนื้อภายในหนีบตอดบีบรัด ขณะเดียวกันเขาก็โหมกระหน่ำกระแทกกระทั้นกระรอกให้วิ่งเข้าวิ่งออกอย่างหนัก
........... จนร่างของแค็ทกระตุกยึกยัก ขนลุกซู่ไปทั่วตลอดทั้งเรือนร่าง ความเสียวสะท้านที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างของแค็ท ข้างในจิ๋มของแค็ทก็วูบวาบ ทั้งดูดทั้งตอด บีบรัดกระรอกของเขาอย่างหนักหน่วง จนรู้สึกอึดอัดคับแน่น ขณะที่เขากระตุกร่างแล้วโยกซอยต่อ แต่ไม่สามารถต้านทานอาการเร่าร้อนที่ประทุรุนแรงของแค็ทได้เลย มันเหมือนเป็นเชื้อเพลิงที่กระพือกำลังภายในของเขาให้สุดเสียว จนทนไม่ไหว ต้องรีบดึงกระรอกหนุ่มที่กำลังกระตุกปลุกน้ำรักออกมารูดขัดถู จนพวยพุ่งพรั่งพรูอย่างสุดกลั้นบนหน้าท้องของแค็ท..........

ลมร้อน 2

เช่นเดียวกับสองสาวซึ่งเมื่อกลับมาถึงที่พักไม่เห็นคนทั้งสอง จิ๋มก็รู้ดีว่าพี่สาวคงจะกำลังมีความสุขกับชัยรัตน์อยู่บนเตียงแล้ว   จิ๋มจึงชวนอี๊ดอาบน้ำด้วยกัน และพากันขึ้นเตียงหาความสุขบ้างดามประสาคนรักเพศเดียวกัน สรุปแล้วเพียงคืนแรกทั้งสี่คนก็เล่นเกมส์สวาทอย่างไม่น้อยหน้ากันทีเดียว

รุ่งขึ้น ทุกคนตื่นสายผิดปกติด้วยความอ่อนเพลีย เมื่อพบหน้ากันต่างก็ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เท่ากับเป็นการยอมรับถ้วนหน้าว่าต่างก็ใฝ่หารสสวาทตามแต่ใจปรารถนาที่ไม่จำเป็นจะต้องพูดอะไรกันมาก ทั้งหมดชวนกันออกเที่ยวเตร่อย่างสนุกสนานทั้งวัน จนกระทั่งหลังอาหารเย็นผ่านไปแล้ว ยามราตรีเริ่มมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง เปลวสวาทของทุกคนเริ่มโหมกระพือขึ้นตามลำดับ ต่างก็พาคู่ของตัวเองแยกย้ายเข้าห้องเสพสุข โดยไม่สนใจซึ่งก้นและกัน ชัยรัตน์กับเพ็ญพรพากันเปลื้องผ้าขึ้นตระกองกอดกันบนเตียงที่อ่อนนุ่ม เสพ สุขจากร่างกายของกันและกัน ครั้งแล้วครั้งเล่าจนกระทั่งเพลียหลับไปด้วยความสุข
ภายในอีกห้องหนึ่ง จิ๋มกับอี๊ดยังอยู่ในชุดธรรมดา ทั้งสองมองหน้ากันด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความกระหายในร่างที่อวบอิ่มซึ่งกันและกัน อี๊ดจึงออกปากชวนจิ๋มอาบน้ำพร้อมๆกันแล้วจึงมาขึ้นเตียง ซึ่งจิ๋มก็เห็นดีด้วย แต่ทันใดนั้นเธอก็นึกสนุกบางอย่างขึ้นมา
“เดี๋ยวจ้ะอี๊ค...มาเค้าจะช่วยถอดให้ตัว....”
“อืม...เอาซิจ๊ะ...ดีเหมือนกัน.. ช่วยกันถอด....”
จิ๋มมองหน้าอี๊ด ด้วยแววตาของความกระหาย เธอลูบมือเบาๆไปบนไหล่ของเพื่อนสาว ดึงร่างเธอให้เข้ามาชิดขึ้น จากช่วงไหล่มือของจิ๋มลูบผ่านมาทางด้านหน้า ผ่านจะงอยอกและก้อนเนื้อที่แข็งเป็นพวงซึ่งซ่อนอยู่ภายในเสื้อยืดรัดรูปไม่มียกทรงอยู่ภายใน อี๊ดถึงกับขนลุกชู่ห่อตัวเล็กน้อย มือจิ๋มบัดนี้ลอดเข้าไปใต้ชายเสื้อ ลูบไล้ช่วงเอวคอดกิ่ว หนักเข้าก็เปลี่ยนเป็นโอบกระชับเข้ามาแก้มต่อแก้มเคลียกันแผ่วเบา
เพียงแค่กลิ่นแก้มโชยเข้าจมูก จิ๋มก็เริ่มเกิดความต้องการในร่างเพื่อนสาวขึ้นมาทันที   จิ๋มรั้งร่างอี๊ดเข้ามากอดกระชับพร้อมกับจูบไซ้ตั้งแต่พวงแก้ม ถึงติ่งหู
“รสชาติดีนัก....มาเถอะจ้ะ....”
“อาบน้ำให้สบายก่อนไม่ดีเหรอ จะได้มีความสุขต้วยกันนานๆไงล่ะ..”
“ไม่เป็นไรหรอก อาบเสร็จก็ต่ออีกรอบไงล่ะจ๊ะ...มา...ขอจับอกหน่อย....”
“โอย....อี๊ดคงช้ำตายแน่แล้ว.... เมื่อคืนก็....ตั้งสาม....”
แค่อี้ดก็ไม่ขัดขืน นั่งลงที่ขอบเตียงโดยมีจิ๋มนั่งลงข้างๆ มือสาละวนอยู่กับเต้านมงามในเสื้อยืด จิ๋มทั้งคลึงและบีบเนินเบาๆ อี๊ดเสียวแปลบเมื่อหัวนมถูกคลึงแผ่วๆต้วยนิ้ว   ชายเสื้อยืดถูกดึงขึ้นสูงทุกที จนมันหลุดออกจากร่าง
อี๊ดไม่ยอมอยู่เฉย กระดุมเสื้อของจิ๋มถูกปลดออกทีละเม็ด จนแบะกว้างออก เผยให้เห็นก้อนเนื้อกลมสองก้อน อัดแน่นอยู่ในยกทรง จนแทบจะทะลักออกมา อกขอจิ๋มถึงแม้จะเล็กกว่าของอี๊ดแต่ก็กลมกะเปาะ ขนาดอุ้งมือพอดี เต่งตึงชูสล้างไม่เคลื่อนคล้อย  
เสื้อผ้าของสองสาวค่อยๆหลุดออกทีละชิ้น จิ๋มจับอี๊ดนอนหงาย ตัวเองเริ่มแสดงเป็นฝ่ายชายเข้าโลมไล้ท้นที ด้วยการประกบจูบอย่างเร่าร้อน ปากต่อปากดูดกันแน่น ต่ำลงมาอกงามของทั้งสองเบียดเสียดกันจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวจิ๋มไซ้บนใบหน้าลงมาที่ลำคอระหง เรื่อยลงมาถึงเนินอก มือเคล้นหนักหน่วงขณะที่ปากอมหัวนมดูดอย่างแรง อี๊ดแอ่นร่างผวากอดเพื่อนสาวไว้แน่น ต้วยความรัญจวน จูบนั้นเน้นลงมาถึงหน้าท้องที่กำลังแขม่วกิ่ว ลิ้นเฝ้าวนฉกจนเปียกชื้น จิ๋มพรมจูบไปจนทั่วถึงปลายเท้า ก่อนที่จะกลับขึ้นมาประกบร่างแนบสนิทอย่างเดิม เคลื่อนสะโพกเข้าประชิดจนหนอกต่อหนอกอัดกันแน่น โคกนูนทั้งสองกำลังเสียดสีบดขยี้ให้กันและกัน ทั้งคู่เสียวสะท้านจนร่างเกร็งกระตุก
“โอ....อี๊ดจำ...ร่างเธอช่างงามเหลือเกิน...อูย...เสียว...ซี๊ด...อี๊ดจ๋า...ออย.,.”
“จ้ะ...จิ๋มที่รัก..อี๊ดเสียวไปหมดแล้วล่ะ...ซี้ด...โอย...จิ๋ม...ช่วยอี๊ดเถอะ แยงซิจ้ะ...แยงใหจิ๋ม...โอย...ซี้ด...เป็นผัวอี๊ดซิจ๊ะ...โอย...”
จิ๋มอ้อมมือลงไปหว่างฃา ลัมผัสเข้ากับโคกหี ที่กำลังแอ่นรอมือเธออยู่ กรีดนิ้วเบาๆไปบนร่อง และเมื่อกดหนักๆ มันก็แทรกตัวผ่านร่องหีชุ่มชื้น เข้าไปอย่างง่ายดาย อี๊ดบิคตัวครางกระเส่าขมิบกล้ามเนื้อ ตอดรับนิ้วที่กำลังควานไปทั่วภายในกลีบอันอ่อนนุ่ม ดูเธอเริ่มหายใจฟืดฟาดทุรนทุรายหนักขึ้น มือขยำเต้านมกระทัดรัดของจิ๋ม ขยำขยี้อย่างแรงจนจิ๋มสูดปากหน้าบิดเบี้ยว
“โอ๊ย...จิ๋ม...ซี้ด...โอ๊ย...สูงอีกนิค....โอ๊ย....อุูยยส์...จ้ะ....,โอ๊ย....ตรงแล้ว...ซี้ด...”
“ตรงอะไรจ๊ะที่รัก...บอกชิจ๊ะ..เสียวไม๊...”
“อูย...จิ๋ม...มันตรง...อูย...มันตรงแตดอี๊ด...โอ๊ย...โอ๊ย...เสียวจ้ะ...ซี้ด....โอ๊ย....เสียวเต็มทนแล้ว....แยงซิจ๊ะ...โอย...แยงลึกๆ...อีก....อีกจ้ะ..โอ๊ย..อ๊าย...ซี้ด...เอาชิจ๊ะ...เอาให้ออก อี๊ดพร้อมแล้ว...โอ๊ย...เร่ง...อี๊ด...อี๊ด...จวนจะออกแล้ว...จิ๋ม....จิ๋มจ๋า....น้ำอี๊ดจะออก...โอ๊ย...อูยยส์...จิ๋มจ๋า...อูย...”
“ออกแล้วเหรอจ๊ะอี๊ด..ดีไม๊จ๊ะ..ออกอีกเถอะนะ...”
“โอย....ไม่ต้องหรอกจ้ะ...อี๊ดอยากจะทำจิ๋มมั่งแล้ว...อี๊ด...อี๊ด..อยากเลียให้จิ๋มน่ะ...มาชิจ๊ะ อี๊ดจะทำให้...”
“อี๊ดจะทำอะไรเหรอจ๊ะ...จะเลียอะไร...จิ๋มเองก็อยากแย่แล้ว...เอาซิ อี๊ด...เอาเลย...”
“ก็อี๊ดอยากเลียหีให้จิ๋มนะซิ..นอนลงซิจ๊ะ....อ้าหีออก....จะเลียให้ถืงใจเลย...มา...”
คำพูดของเพื่อนสาว ทำเอาจิ๋มเกิดอารมณ์อย่างรุนแรงขึ้นมาทันที เธอครางซี้ดซ๊าดลั่นไปหมด พลิกตัวลงนอนหงาย อ้าขาออกสุดล้า แต่อี๊ดย้งไม่พอใจจับขาเธอยกขึ้นอีกก่อนที่จะฝังหน้าลงบนโคกหีซึ่งกำลังแบะอ้า เยิ้มไปด้วยเมือก ลิ้นของอี๊ดทำหน้าที่พริ้วรัวอย่างไม่ยั้ง เล่นเอาจิ๋มแทบจะขาดใจเสียให้ได้เมื่อลิ้นนั้นบดเน้นลงที่เม็ดแตดอย่างจัง แต่บางครั้งก็ตวัดห่อแลบแปลบเข้าไป ในรู จิ๋มครางเหมือนคนละเมอ ใบหน้าสบัดไปมา นิ้วทั้งสิบจิกขยุ้มผ้าปูที่นอน แทบขาด โคกหีถูกแอ่นขึ้นรับการดูด
ความสุขสุดยอดกำลังจะใกล้เข้ามาแล้ว และเมื่ออี๊ดรู้ว่าเพื่อนสาวถึงจุดน้ำออก เธอก็ออกแรงดูดอย่างบ้าคลั่งเป็นครั้งสุดท้าย หนักหน่วงและเนิ่นนานจนส่งเพื่อนสาวขึ้นสวรรค์ไป แล้วเธอจึงคลายการดูดบง ทั้งคู่นอนพักจนหายเหนื่อยดีแล้ว ก็ประคองกันเข้าห้องน้ำ ชำระร่างกายให้แก่กัน จากนั้นก็ลงมาหาเครื่องดื่มจนกระชุ่มกระชวยขึ้นมาอีก จึงพยักหน้าชวนกันเข้าห้องนอน

เวลาผ่านไปดึกมากแล้ว ชัยรัตน์ลืมตาขึ้นมา เห็นเพ็ญพรยังคงหลับตา พริ้มอยู่ เขาจึงใส่เสื้อคลุมลุกออกไปห้องน้ำ เมื่อออกจากห้องน้ำพลันหูก็แว่วได้ยินเสียงครวญครางอย่างสุดกระ­สันต์รัญจวนดังแว่วออกมาจากห้องนอนของสองสาว ต้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาแนบหูเข้าฟังกับบานประตูทันที ยิ่ง ฟังดูยิ่งปลุกอารมณ์เขาให้คึกคักขึ้น จนมีความคิดขึ้นว่า แม้เขาเองจะผ่านผู้หญิงมามากแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่เคยลองเย็ดกับเลสเบี้ยนดูเลยสักที เพราะปกติผู้หญิงประเภทนี้จะไม่เล่นด้วย แต่สำหรับสองคนนี้ รู้สึกว่าสนิทสนมกับเขาเป็นอย่างดี ถ้าหากจะขอลองเย็ดดู อาจจะไม่ยาก ตามที่ได้ยินมาถ้าใครลองได้เย็ดเลสเบี้ยนแล้วจะติดใจมากกว่าผู้หญิงเต็มตัวเสียอีก เพราะความแข็งกระด้าง บวกกับรูหีที่แสนจะฟิตกระชับเหลือหลาย จะให้รสชาติที่แตกต่างออกไปชนิดลืมไม่ลงทีเดียว
เขาคิดแล้วก็ค่อยหมุนลูกบิดประตูจนเปิดแง้มออก ภาพที่เห็นทำเอาเขา ร้อนวูบวาบไปหมด ภาพของสองสาวที่เปลือยแน่นไปด้วยเนื้อหนั่น กำลังนอน กอดรัดกันอยู่อย่างเร่าร้อน จนไม่สนใจว่าประตูถูกเปิดออกแล้ว แม้เขาจะเดิน เข้าไปจนเกือบถึงเตียง ทั้งคู่ก็ยังคงเพลินจนไม่เห็นเขา ชัยรัตน์ยืนดูสักครู่ คงเป็นเพราะกลิ่นควันบุหรี่ ที่เขากำลังสูบ ทำให้จิ๋มซึ่งกำลังทำหน้าที่เป็นผู้ชายอยู่ข้างบนเหลียวกลับมามอง ทั้งคู่อุทานด้วยความตกใจ ตาค้างทำอะไรไม่ถูก ชัยรัตน์ยิ้มอย่างเป็นกันเอง
“ทำอะไรกันจ๊ะ   ...แหม ท่าทางสนุกจังเลย..พี่ไม่เคยเห็นขอดูด้วยนะจ๊ะ น่ารักจัง..เออ..ที่เขาว่าผู้หญิงกับผู้หญิงด้วยกันดีกว่าผู้ชายน่ะ..จริงหรือเปล่า?..”
ทั้งคู่ถืงกับอายม้วนโผเข้าซุกหน้าหากัน ได้ผล..ชัยรัตน์คิดในใจเมื่อเห็น อาการว่าทั้งคู่ไม่โวยวายแต่อย่างใด เขาไม่รอช้า แกล้งปล่อยให้เสื้อกลุมหลุดลุ่ยลงกับพื้น เดินไปที่หัวเตียงเพื่อดับบุหรี่ และมานั่งที่ข้างเตียง ซึ่งทั้งคู่คงซุกหน้า ไม่ยอมมองเขา
“ให้พี่เล่นด้วยกันได้ไม๊ล่ะ.. ลองเล่นดูสนุกๆน่ะ..ไม่มีอะไรหรอก เราจะได้เรียนรู้อะไรอีกหลายอย่างไงล่ะ..นะจ้ะ ขอเล่นต้วยกัน...ไม่ต้องอายน่า...กันเอง ทั้งนั้นไม่ใซ่ใครอื่น..”
ทั้งคู่ยังคงเฉย   อี๊ดอยู่ใกล้กว่าเพื่อน ดังนั้นเขาจึงลูบไล้เบาๆลงบนร่างเธอก่อน อี๊ดสะดุ้งเฮือกแต่ยังกงนอนเฉย เขาจับไหล่เธอดึงเบาๆ ร่างเธอก็หงาย ตามมีอ เขาทาบร่างลงบนเธอ อี๊ดอึกอัก แข็งทื่องอตัว พยายามจะหนี แต่ช้าไปเสียแล้ว ชัยรัตน์โน้มหน้าซุกไซ้ลงไปอย่างรวดเร็ว เป็นครั้งแรกของอี๊ดที่ถูกผู้ชายจริงๆสัมผัสร่างเปลือยของเธออย่างหมดทางเลี่ยง
ส่วนจิ๋มนั้นพลันนึกสนุกขึ้นมา เพราะปกติเธอชอบประเภทรุนแรงอยู่แล้ว เกิดมีความอยากที่จะเห็นเพื่อนสาวถูกผู้ชายเย็ดต่อหน้า เธอต้องการฟังเสียง ร้องและสีหน้าที่แสดงความเจ็บปวดในขณะที่ควยผู้ชายเสียบสอดเข้าไปในร่าง ของอี๊ด จิ๋มจึงลุกขึ้นนั่ง มองเห็นกางเกงในของชัยรัตน์กำลังตุงทีเดียว เธอเอื้อม มือไปจับขอบกางเกงพร้อมกับช่วยดึงมันออกจากร่างเขา แล้วเธอเองก็ถึงกับเบิกตากว้างเมื่อเห็นเจ้าท่อนควยอันมหึมา ที่กำลังลุกแข็งโด่ แม้เธอจะหวงในตัวอี๊ด แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะเห็นเธอถูกเย็ด
ส่วนชัยรัตน์ก็ไม่รอช้า เขาจ่อควยเข้ากับรูหีที่เปียกชุ่มอยู่แล้ว พยายามดันมันเข้าไปด้วยความลำบาก เพราะมันคับตื้อรัดควยแน่นไปหมด อี๊ดเริ่มดิ้นจนเขาต้องกดแขนเธอกับที่นอนแน่น
“โอว..อย่า..อย่าค่ะ. .โอย. .เจ็บ....โอย..อย่า..ไม่..อย่าทำอี๊ด..โอ๊ยอี๊ดเจ็บ.. พอ..พอ...เอาออกเถอะ...อี๊ดเจ็บทนไม่ไหว..ซี๊ด..โอย..โอย..”
ชัยรัตน์เกิดเมามันขึ้นมา เขาหูอื้อตาลายแล้ว ไม่ฟังแม้เธอจะร้องครวญคราง เขายิ่งตะบันดันควยใหญ่เข้าไป จนเกือบมิดด้าม อี๊ดแบะขาจนสุดล้า เธอ แทบจะขาดใจตาย เมื่อเขาเริ่มชักควยกระเด้า
ส่วนจิ๋มมองดูด้วยความตื่นเต้นและกระหายที่เห็นเพื่อนสาวนอนร้องโอคโอยอย่างสมใจ จิ๋มเกิดอารมณ์ทันทีระงับใจไม่อยู่แล้ว มือเลี่อนเข้าหารูหีตัวเองโดยไม่ตั้งใจ เธอมีความคิดอยากจะลองถูกเย็ดบ้าง นิ้วแยงเข้ารูหีตัวเองอีกมือหนึ่งเอื้อมไปคลำหีของอี๊ดที่อ้ารับควยจนปลิ้น
ชัยรัตน์กำลังกระเด้าอย่างมันอารมณ์หนักหน่วงขึ้นทุกที อี๊ดร้องออกมาทุกครั้งที่เขากระเด้าควยจนมิดลำ จิ๋มเคลื่อนร่างเข้าไปใกล้ลูบไล้ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างทั้งสอง ชัยรัตน์พอจะมองออกว่าจิ๋มคงจะต้องการควยเขาเหมือนกัน ดังนั้น เขาถอนควยจากรูหีอี๊ดซึ่งทำท่าว่าจะรับไม่ไหวอยู่แล้ว หันกลับมาคว้าร่างจิ๋มเข้าไปกอดจูบ เขาพลิกกายลงนอนหงายจับร่างจิ๋มให้ขึ้นทับข้างบน พยายามจับท่อนควยเข้ารูหีเธอจากด้านหลัง เมึ่อจ่อตรงรูเขาก็กระเด้าผ่านแคมเข้าไป จิ๋มทะลึ่งต้วพรวคอ้าปากค้าง
“โอ๊ย..ว้าย..พี่..โอย..เบา..อูย.. ซี๊ด..ทำไมเจ็บอย่างนี้...อูย..’’
ชัยรัตน์จ้บให้เธอขึ้นนั่งคร่อมยกสะโพกขึ้นสูง จ่อหัวบานใหญ่เข้ากับร่องหี และให้เธอกดสะโพกลงควบกุมการสอดใส่เอาเอง จิ๋มก็พยายามที่จะให้มันเคลื่อนลึกเข้าไปในรูของเธอ แต่มันก็ยังคงคับตื้อ อี๊ดชึ่งนั่งมองด้วยอารมณ์ที่ค้าง ตรงเข้าประคองกอคจิ๋มไว้ บีบเคล้นพวงนมและจูบปาก เพื่อช่วยเร่งอารมณ์ ทั้งคู่ยันร่างขึ้นจูบกัน โดยที่ควยชัยรัตน์ยังคงคารูหีอยู่มิคเงี่ยง เขาเห็นว่าทั้งสองยังสาละวนจูบกันอยู่อย่างเร่าร้อน คงจะร้องไม่ได้แน่ ด้งนั้นเขาตัดสินใจแอ่นควยกระเด้าขึ้นสุดแรง ควยลำโตแทรกพรวคเข้ารูหีจิ๋มเกือบมิด เธอผวารัดร่างอี๊ดเอาไว้แน่น ชัยรัตน์แอ่นควยกระเด้าตามติดอีกหลายที จนใบหน้าบูดเบี้ยว เหงื่อแตกท่วมตัว
“โอ๊ย....พี่ขา....อูย....เดี๋ยว....ซี้ด....จิ๋มไม่ไหว...ขอเอาออกก่อน.... มันแน่น....อูย....เอาออกก่อน....ให้จิ๋มพักเดี๋ยว...พื่เอาใส่อี๊ดก่อนเถอะ...อูย...ซี้ด”
“โอ....ไม่ค่ะ   อี๊ดก็ยังไม่ไหวเหมือนกัน...พักกันก่อนเถอะ...”
“เอาเถอะไม่เป็นไร...เราเล่นอย่างอื่นแทนก่อนก็ได้..มา..อี๊ดมานอนตรงนี้..จิ๋มอยู่ตรงนี้นะ..”
เขาจัดให้อี๊ดนอนเคียงข้างกับเขา ส่วนจิ๋มให้นอนต่ำลงไป ซึ่งจิ๋มก็ตื่นเด้น กับการที่ได้เล่นควยแข็งของเขา ชัยรัตน์เริ่มโลมเล้าอี๊ดท่อนบน และเขาก็จับควยยัดเข้าไปในปากจิ๋มซึ่งเธอก็ยอมดูดมันอย่างว่าง่าย...
อา...มันช่างมีความสุขเสียนี่กระไร
แต่แล้วก่อนที่ทั้งสามจะรู้ตัว ประตูก็ถูกเปิคออกอีก ผู้ที่โผล่เข้ามาก็คือเพ็ญพรนั่นเอง เธอตื่นขึ้นมาไม่เห็นชัยรัตน์จึงเดินออกมาดู ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำเอาเพ็ญพรถึงกับตะลึง ชัยรัตน์กำลังโลมไล้อี๊ดน้องสาวของเธออยู่ ส่วนจิ๋มก็ง่วนอยู่กับการดูดควยให้เขา ทั้งหมดชงักนิดหนึ่ง เมื่อมองเห็นเพ็ญพรเข้า จิ๋มนั้นความคิดไวกว่าเพื่อน เธอรีบหาทางออกเพื่อไม่ไห้เกิดเรื่อง เธอลุกขึ้นตรงไปหาเพ็ญพรด้วยร่างที่เปลือยเปล่า เพ็ญพรกำลังตะลึงอยู่ก็ถูกเธอฉุดมือให้เข้ามาและปิดประตู จูงเธอมาที่เตียง
“พี่เพ็ญสนุกกับเราเถอะ....จิ๋มอยากเห็นเรือนร่างพี่เพ็ญมานานแล้ว...ยอมจิ๋มเถอะนะ...”
เพ็ญพรอึกอักพูดไม่ออก ก็ถูกจิ๋มโน้มตัวให้ลงนอน พร้อมกันนั้นเธอก็ขึ้นทับทันที อ้าปากยังไม่ทันพูดเธอก็ถูกจิ๋มจูบเข้าให้ และพยายามจะแก้เสื้อคลุมเธอออก เพ็ญพรขัดขืนแต่จิ๋มก็ใช้ความชำนาญ เปลื้องเสื้อคลุมเธอออกจนได้ ร่างงามกำลังถูกฟ้อนเพน เพ็ญพรรับรู้ถึงรสสัมผ้สที่แปลกใหม่ เธอโอบกอดจิ๋มเข้าให้บ้าง ทั้งคู่เริ่มฟัดกันรุนแรงขึ้น เพ็ญพรถูกโลมเลียตั้งแต่อกลงไปจนถึงรูหี เธอครางกระเส่าด้วยความพอใจ   หันหน้ามองไปยังอีกเตียงหนึ่ง
บัดนี้เธอเห็นน้องสาวของเธอเอง กำลังถูกชัยรัตน์จับโก้งโค้งเย็ดทางด้านหลัง ทำเอาอารมณ์เธอเร่งร้อนยิ่งขึ้น ทั้งสองคู่ดำเนินเกมส์สวาทกันต่อไป จน กระทั่งอี๊ดน้ำออกกับชัยรัตน์ เพ็ญพรเองก็ถูกจิ๋มเลียจนออกเหมือนกัน ส่วนชัยรัตน์ยังค้างอยู่
“พี่เอาพี่เพ็ญให้พวกเราดูหน่อยซิ อยากเห็นจังเลย อยากดูตอนพี่ออกด้วยกัน เอาน่า...นะ...ทำให้คูหน่อยเถอะ...”
เพ็ญพรหน้าแดงวูบด้วยความอาย แต่ชัยรัตน์กลับนึกสนุก เขาเดินเข้าหาเพ็ญพรด้วยควยที่ชี้โด่ ขึ้นคร่อมจับมันยัดกระเค้าพรวดเดียวมิดด้าม ชักออกมาเกือบสุด แล้วก็สวนเข้าไปใหม่ เป็นที่พอใจของเด็กสาวทั้งสองเป็นยิ่งนัก   จิ๋มเร่งบอกให้ชัยรัตน์กระเด้าแรงขึ้น   ส่วนอี๊ดก็นั่งมองพี่สาวที่กำลังถูกควยใหญ่เย็ดอย่างสนุกสนาน
“เอาซิจ๊ะเพ็ญ...เต็มที่เลย...ให้น้องๆดูหน่อย...ผมจะเร่งละนะ...”
“ค่ะ....ค่ะ...เร่งซิคะ...ออกพร้อมๆเพ็ญเลย....ซี้ด....ดีจังค่ะ....โอย....อูวว์....เย็ดเพ็ญแรงๆเถอะคะ...ซี๊ด..อูย..โอย..จวนออกรึยังคะ...โอย...เพ็ญเสียวจ้ง..อี๋ย์...โอ๊ย...เร่งค่ะ...ที่ร้กขา....ของเพ็ญจะออกอยู่แล้ว..,.โอย....ที่รัก...โอย..โอย...ซี๊ด...เย็ดแรงๆ....โอว...โอว...ซี๊ด...โอย...โอย...ที่รัก....เพ็ญ....ออก....ออกแล้ว....ซี้ด...อูย...”
ชัยรัตน์กระแทกควยเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเพ็ญพรน้ำออก เขาเองก็สุคจะกลั้นต่อไปเหมือนกัน เขาชักควยอยจากรูหีเธอ พร้อมกันนั้นน้ำรักของเขาก็พรั่งพรูฉีดออกมาเป็นระลอกบนร่างของเพ็ญพร ซึ่งสองสาวนั่งจ้องอย่างจดจ่อและตื่นเต้นสุดขีด  
เมื่อพักสักครู่ ชัยรัตน์ก็จ้บทั้งจิ๋มและอี๊ดมาเย็ดจนน้ำออกทั้งสองคน โดยคราวนี้มีเพ็ญพรเป็นฝ่ายนั่งดูบ้าง
การพักผ่อนของทั้งสี่ก็จบลงด้วยความสุขตื่นเต้น ที่เกินคาดเอาไว้เสียอีก ถ้าใครอยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร   ก็ลองพาผู้หญิงไปตากอากาศชายทะเล พร้อมๆกันสามคน แล้วจะรู้ว่ามันดับเบิ้ลมันส์ขนาดไหน...

ลมร้อน




ยามสายของวันจันทร ทุกชีวิตกำลังเคลื่อนไหวแข่งกับเวลาภารกิจการงานอันน่าเบื่อ ซึ่งมันเหมือนกับยาขมของทุกๆคน หลังจากความสุขในวันหยุด ที่เพิ่งผ่านมาเหมือนกับสายฟ้าแลบ และทันใดนั้นรถบีเอ็มดับบลิวกระทัดรัดคล่องตัวก็เลี้ยวปราดเข้ามาหยุดอยู่ข้างตึก ราวกับแข่งกับพายุมา ประตูรถถูกเปิดผางออก พร้อมกับร่างของชายหนุ่มกระโดดลงมา ด้วยท่าทางที่ร้อนรน เขายกนาฬิกาขึ้นมอง
8 โมง 55 นาที เข้าไปแล้ว เขายิ่งลนลานครึ่งวิ่งครึ่งเดินหนีบเสื้อนอกที่ซอกแขน ส่วนมือนั้นติดกระดุมและขยับเน็กไทให้เข้าที่ เขาจะต้องรีบให้ถึงโต๊ะทำงานก่อน 9 โมงให้ได้ เพราะวันนี้จะเป็นวันแรกที่เขาได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นผู้จัดการบริษัท ชัยรัตน์ ชินทนนท์ คือชายหนุ่มที่ประสพความสำเร็จทั้งในด้านชีวิตการงานและส่วนตัว เขาเป็นชายหนุ่มวัย 30 ที่มีพรสวรรค์ในหลายๆด้าน ทั้งคุณสมบัติและรูปสมบัติเป็นที่ต้องตาของสาวๆ ทั้งตึกนี้ทีเดียว
ในเช้าวันนี้ชัยรัตน์เพิ่งจะกลับมาจากการฉลองตำแหน่งใหม่จากพัทยากับสาวสวยในบริษัทข้างเคียงถึงสองวันสองคืนเต็มๆและก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาเหลือเกินสำหรับเขาที่สามารถหาสาวๆในตึกนี้ไปเล่นเกมส์รักโดยไม่ซ้ำหน้าจนชื่อเสียงลือกระฉ่อน แต่ก็ยังมีบรรดาสาวน้อยใหญ่ เต็มใจที่จะได้ลองบทรักกับเขาตามคำร่ำลือนั้น ยกเว้นบรรดาสาวๆในบริษัทเดียวกันเท่านั้นที่ชัยรัตน์ไม่เคยแสดงออกในด้านชู้สาวเลย อาจจะเป็นเพราะเขาถึอคติไม่กินไก่วัดก็เป็นได้
เขาหย่อนตัวลงบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานพร้อมกับถอนหายใจยาวๆอย่าง โล่งอก พนักงานทุกคนเริ่มทำงานอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ภายในที่ทำงานที่จัดแบบญี่ปุ่น ชัยรัตน์นั่งอยู่ในห้องกระจกโปร่งใส ที่สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมของตึกชั้นนี้ ชัยรัตน์กวาดสายตามองพนักงานของเขาไปเรื่อยๆ และก็รู้สึกว่าทุกคนก็แอบมองเขาอยู่เหมือนกัน
ปกติชัยรัตน์คุ้นเคยและเป็นกันเองด้วยนิสัยที่อ่อนหวานกับทุกคนโดยเฉพาะถ้าเป็นผู้หญิงด้วยแล้วแทบจะเรียกว่าเป็นขวัญใจทีเดียว ด้วยลีลาการพูดจาที่มีเสน่ห์ไม่แสดงออกถึงเรื่องชู้สาวมากเกินไปยิ่งทำให้เป็นที่ไว้ใจของสาวๆในที่ทำงานทุกคน แต่ก็มีอยู่คนหนี้ง ซึ่งแม้ชัยรัตน์พยายามจะไม่คิดกับเธอเป็นอย่างอื่น นอกจากเพื่อนร่วมงาน แต่บางครั้งเขาก็ยอมรับกับตัวเองว่าเขาก็แอบสนใจเธออยู่เงียบๆเหมือนกัน
เพ็ญพรเธอช่างสวยหยาดเยิ้มและเย็นซึ้งมากขึ้นทุกครั้งที่เจาแอบมอง เธอ เพ็ญพรเข้าทำงานที่นี่ก่อนเขาเล็กน้อยแต่อายุเธออ่อนกว่าเขา แต่ก็อยู่ในวัยที่ความสาวกำลังเบ่งบานสะพรั่งคือ 23 ดูเธอเป็นสาวใหญ่ ที่สวยซึ้งเกินวัยเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะใบหน้าที่หวานหยาดเยิ้มชวนมองไม่เบื่อ ตลอดเวลาชัยรัตน์กับเพ็ญพร ก็เพียงแค่พูดคุยกันธรรมดา แต่เขามักสังเกตเห็นบ่อยครั้งที่สายตาอันหวานคมของเธอที่มองมายังเขาโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ทุกครั้งที่เขาสบสายตาเธอเข้า มันทำให้เขารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั่นเอง สายตาของเขาก็ประสานเข้ากับดวงตาที่หวานซึ้งของเธอเข้าจริงๆ ด้วยมโนภาพที่กำลังอยู่ในสมองเขา ทำให้เขาส่งยิ้มให้กับเธอโดยไม่รู้ตัว ดวงตาหวานคู่นั้นก้มหลบลงอย่างช้าๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ชวนให้วาบหวิว ชัยรัตน์ต้องรีบเบนสายตาไปทางอื่น
และไม่ไกลออกไปเท่าไหร่ จิ๋ม กับ อี๊ด สองสาวรุ่นที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ ไม่นาน กำลังนั่งคุยกันจุ๊กจิ๊กด้วยอารมณ์ระรื่น จิ๋มนั้นก็คือน้องสาวของเพ็ญพร เพิ่งจะเรียนจบ เมื่อเข้ามาทำงานก็สนิทกับอี๊ดและสนิทกันมากจนแยกกันไม่ออก แต่คนทั้งบริษัทก็รู้กันดีอยู่ว่าอี๊ดนั้นชอบผู้หญิงด้วยกัน และก็ไม่ต้องสงสัยกันเลยว่าทั้งคู่จะต้องเคยมีเพศสัมพันธ์แบบหญิงกับหญิงกันมาแล้ว
ชัยรัตน์นั่งครุ่นคิดไปต่างๆนานา จนเกิดมีความรู้สึกขึ้นมาว่า เขาต้องการ เหลือเกินที่อยากจะรู้จักเพ็ญพรให้ดีขึ้นกว่านี้ เขาจึงทำทีเรียกเธอเข้ามาในห้อง และนับเป็นโอกาสดีของเขาที่คนอื่นไม่มีโอกาสจะได้ยินว่าเขาพูดอะไรกับเธอเขาเอ่ยปากชวนเธอไปเลี้ยงอาหารเที่ยง และเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยของคนอื่น เขาจึงให้เพ็ญพรชวนน้องสาวและเพื่อนเลสเบี้ยนของเธอไปด้วย เพ็ญพรก็รู้สึกว่าจะตอบรับด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง
โอกาสอันนี้ทำให้ทั้งสี่เริ่มสนิทสนมกันขึ้นเป็นลำดับ มีการนัดเที่ยวด้วยกันบ่อยขึ้น และเมื่อนานเข้า ต่างก็ไม่มีอะไรจะปิดบังต่อกัน จิ๋มกับอี๊ดนั้นก็ยอมรับอย่างไม่ปิดบัง ว่าทั้งสองมีจิตใจตรงกัน คือชอบเพศเดียวกันมากกว่าเพศตรงข้าม แต่ก็ยังอายๆเขินๆที่จะยอมรับว่าเคยมีอะไรกัน และเมื่อชัยรัตน์สนิทกับเพ็ญพรมากขึ้น ถึงขนาดนัดไปไหนด้วยกันสองต่อสองได้ เพ็ญพรก็เปิดเผยให้ฟังว่า เธอนั้นเคยอกหักมาแล้วตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน โดยชอบพอกับลูกชายเสี่ยคนหนี้ง เมื่อเรียนจบพร้อมกัน เขาก็ไปเรียนต่อเมืองนอก และในคืนเลี้ยงส่งเขานั่นเองเขาก็เฝ้าวอน จนกระทั่งเธอยอมเสียตัวให้เขา
เธอเล่าว่าครั้งแรกในชีวิตสาวของเธอ มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเขาก็จบลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ตั้งแต่เขาจากไปแล้วเขาก็ไม่เคยที่จะติดต่อมาอีกเลย มารู้ข่าวจากเพื่อนว่าเขาไปมีแฟนใหม่อีกคนหนี้งเป็นลูกสาวพ่อค้าเหมือนกัน และได้แต่งงานกันที่เมืองนอกเมื่อไม่นานมานี้ เธอเองด้วยความช้ำใจจึงไม่คิดที่จะหาแฟนใหม่ จนกระทั่งความใกล้ชิดกับชัยรัตน์ค่อยๆเปลี่ยนจิตใจเธอ ชัยรัตน์เองแต่เดิมก็ไม่เคยคิดจริงจังกับผู้หญิงคนไหนเพราะเขาชอบที่จะหารสสวาทแปลกๆโดยไม่ซ้ำกัน จนกระทั่งเขาเริ่มสนใจเพ็ญพรด้วยความหวานซึ้งและการวางตัวที่ดูเคร่งขรึมดูเป็นสาวใหญ่ของเธอ
กับตัวเองแม้ว่าชัยรัตน์ยอมรับว่าเขานั้นชอบเพ็ญพรอย่างจริงใจ แต่นั่นมันก็ส่วนหนี้ง ความใคร่มันก็อีกส่วนหนี้งบ่อยครั้งที่เขานึกวาดภาพเพ็ญพรร่างเปลือยเปล่าอ่อนระทวยอยู่ในวงแขนของเขา แต่ชัยรัตน์ก็ไม่โง่ที่จะรีบร้อนเผด็จสวาทเธอ เขาต้องการให้มันค่อยๆสุกงอมทีละน้อย จนเธอพร้อมที่จะทอดกายรับและให้ความสุขแก่เขา
ในการพบปะบางครั้งเขาพยายามปลุกสวาทเธอทีละน้อยอย่างมีชั้นเชิง ใช้ร่างสัมผัสร่างอย่างแผ่วเบา ค่อยๆพาเธอเฅลิดออกไปไกลเข้าทุกที จนกระทั่ง ถึงการจูบลูบไล้อย่างเร่าร้อน ชัยรัตน์ ต้องการให้มันอยู่แค่นั้นก่อนเพื่อรอเวลาและโอกาสที่เหมาะสมกว่านี้
ในอาทิตย์หน้าจะมีวันหยุดที่ยาวนานถึงสามวันเขาจึงออกปากชวนเธอไปพักตากอากาศชายทะเล เพราะอากาศก็เริ่มร้อนอบอ้าวแล้ว เพื่อไม่เป็นการน่าเกลียดเขาจึงให้ชวนน้องสาวและอี๊ดคู่ขาซึ่งแยกกันไม่ออกไปด้วย ซึ่งทั้งสามไม่มีใครขัดข้อง ดังนั้นหลังจากเลิกงานเย็นวันศุกร์ทั้งสี่ก็มุ่งหน้าออกสู่ชายทะเลแถบตะวันออกทันที
 เพื่อให้บรรยากาศสนุกสนานมากขึ้น ชัยรัตน์เลือกที่จะเปิดบังกาโลอย่างดีมากกว่าที่จะพักในโรงแรมชั้นหนี้ง ดูเหมือนว่าทุกคนคงจะรู้อยู่แก่ใจ ว่าในสามคืนข้างหน้านี้ อะไรจะต้องเกิดขึ้นกับตนบัาง ช้ยรัตน์เองก็แน่ใจว่าการมาครั้งนี้ของเพ็ญพร เท่ากับว่าเป็นการยอมร่วมเตียงกับเขาอย่างเต็มใจแล้ว เนื่องจากเห็นอยู่ง่ายๆว่าเขาเป็นผู้ชายคนเดียวเท่านั้นในการมาครั้งนี้ บังกาโลมีเพียงสองห้องนอน จิ๋มกับอี๊ดนั้นต้องนอนด้วยกันอยู่แล้ว เพื่อที่จะเลสเบี้ยนกันให้ถึงใจ และคงไม่อยากให้ใครอื่นเข้าไปร่วมห้องด้วย
ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดเอาไว้ เมื่อเข้าที่พัก เด็กสาวทั้งสองก็พากันเข้าห้องเดียวกันด้วยอารมณ์ที่สนุกสนานหัวร่อต่อกระซิกกันตลอดเวลา เพ็ญพรนั้นมีท่าเขินอายอยู่บ้างแต่เมื่อเห็นว่าทั้งน้องสาวและคู่ขาของเธอไม่ได้สนใจเพ็ญพรเลยด้วยซ้ำ จึงทำให้เธอค่อยกล้าขึ้น โดยทั้งหมดทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แยกย้ายก้นเข้าห้อง
หลังจากที่อาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้าจนเป็นที่สดชื่นกันทั่วทุกคนแล้ว ทั้งหมดก็มาจับกลุ่มมองทิวทัศน์ยามเย็นกันอยู่ที่ห้องโถง สักพักหนี้งชัยรัตน์จึงออกปากชวนกันออกไปอาหารเย็นที่ร้านอาหารทะเลใกล้ๆแห่งหนี้ง กว่าอาหารมื้อนั้นจะผ่านพ้นไปก็มืดแล้ว วงสนทนาของทั้งสี่เริ่มกึกคักขึ้นตามลำดับ เมื่อเบียร์หมดไปแล้วหลายขวดจึงได้ชวนกันกลับที่พักอย่างเดิม จิ๋มดูเหมือนจะรู้ใจจึงชวนอี๊ดออกไปเดินเล่นที่ชายหาด โดยปล่อยให้พี่สาวอยู่คุยกับชัยรัตน์ตามลำพัง ทั้งคู่ก็ยังนั่งคุยกันอยู่ที่ห้องโถง จนเวลาล่วงเลยดึกเข้าไปทุกที เด็กสาวทั้งสองคนก็ยังไม่กลับ ด้วยอากาศทะเลที่ชวนเคลิ้มเพ็ญพรรู้สึกง่วงนอนขึ้นมา ชัยรัตน์เห็นได้ทีจึงรีบออกตัวโดยให้เธอเข้าไปนอนก่อน เขาเองรับอาสาจะนั่งคอยเด็กทั้งสองคนเอง
เพ็ญพรหายเข้าไปในห้องสักครู่ เธอก็กลับออกมา โดยมีเสื้อคลุมเพียงตัว เดียวเดินตรงไปยังห้องน้ำ สายตาที่หยาดเยิ้มเหลือบมามองชัยรัตน์แวบหนี้ง ชัยรัตน์เองถึงเลือดลมร้อนระอุไปทั้งร่าง ได้ยินเสียงน้ำที่ฉฺีดซ่ากระทบบนร่างเธอ ทำให้เขาหลับตานึกภาพของเรือนร่างที่กำลังเปลือยเปล่ายืนบิดอยู่ท่ามกลางสายน้ำจากฝักบัวที่เย็นฉํ่า มันทำให้เขาอยากจะเข้าไปเห็นเสียเหลือเกิน เสียงน้ำจากฝักบัวหยุดลงแล้ว มีเสียงร้องเพลงของเธอดังแว่วออกมาเบาๆ อารมณ์เธอคงจะผ่อนคลายเต็มที่แล้ว เขาเห็นจะทนต่อไปอีกไม่ได้แน่
เพ็ญพรหายเข้าไปในห้องอีกครั้งหนี้ง ชัยรัตน์ทิ้งช่วงเวลานิดหนี้งก่อนที่จะเดินตามเธอเข้าไป หยิบเสื้อคลุมและผ้าเช็ดตัวออกมา เพื่อจะอาบน้ำบ้าง โดยบอกให้เธอดับไฟนอนก่อน ชัยรัตน์ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำอย่างเนิ่นนาน เขาตัดสินใจไม่ถูก ลังเลว่าจะจัดการกับเพ็ญพรอย่างไรดี ใจหนี้งก็กลัวว่าเด็กสองคนจะกลับมาเห็นเข้า อีกใจหนี้งก็คิดว่าถึงเห็นก็คงจะไม่เป็นไร เพราะก็รู้ๆกันอยู่ทั้งนั้น
เสร็จจากอาบน้ำเขาค่อยๆเปิดประตูห้องเข้าไปอย่างเงียบกริบ ไฟในห้องดับมืดสนิท เขาเอื้อมมือเปิดไฟดวงเล็กๆที่มุมห้อง และพอหันกลับมาเขาก็เห็นเพ็ญพร เธอยังคงนั่งพิงพนักหัวเตียงอยู่ในชุดเสื้อคลุมนั่นเอง มองมาทางชัยรัตน์พร้อมกับยิ้มอายๆ
“อ้าว...ตายจริง นึกว่าหลับแล้วซะอีก...”
“อากาศมันสบายค่ะ....เพ็ญเลยไม่ง่วง...นั่งอยู่มืดๆเพลินดี...”
“ถ้างั้นผมปิดไฟดีกว่านะ...”
“ไม่ต้องค่ะ...อย่าดีกว่า....เดี๋ยวน่าเกลียด...”
“ผมว่าไม่หรอก ถ้าเปิดไฟตอนผมแต่งตัวน่ะซิ ยิ่งน่าเกลียดใหญ่...”
เพ็ญพรหัวเราะออกมาอย่างขบขันหน้าแดงเรื่อๆ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะฤทธิ์เบียร์ที่ยังค้างอยู่ก็ได้ และแทนที่ชัยรัตน์จะปิดไฟ เขากลับเดินมานั่งอยู่ที่เตียงตรงข้ามทั้งที่ใส่เสื้อคลุมอยู่ เขาเริ่มชวนเธอพูดคุย จนเธอหายประหม่า บางครั้งเห็นเธอนิ่ง และก้มหน้าอย่างเอียงอายก้บคำถามชนิดตรงจุดของเขา ชัยรัตน์ถือโอกาสที่เธอกำลังหน้าแดงซ่านนั้นย้ายที่มานั่งอยู่บนเตียงเดียวกับเธอ
เพ็ญพรขย้บหนีเล็กน้อยมองเขาอย่างอายๆ
“ต้าย....มานั่งทำไมตรงนี้....อยู่เตียงโน้นก็คุยกันได้ยิน เดี๋ยวใครมาหรอก....”
“ถึงจะคุยกันได้ยิน แต่มันก็ไม่เหมือนนั่งใกล้ๆเพ็ญ นอกจากจะได้ยินชัดขึ้นแล้วก็ยังมี..อ้า...มีกลิ่นหอม..”
“อุ้ย...ตายแล้ว... ไม่เอา”
ชัยรัตน์ไม่พูดเปล่าเขาเอียงหน้าเข้าไปหอมที่แก้มปลั่งนั้น เพ็ญพรเอามือขึ้นยันอกเขาเบาๆ ทำท่าขัดขืนเล็กน้อย แต่ร่างของเธอก็อยู่ชิดเขาเกินกว่าที่จะหลบเลี่ยงได้ จิ๋มูกของเขาเริ่มเกลี่ยไปบนผิวแก้มที่ร้อนผ่าว   มือโอบกระชับแน่นขึ้น เพ็ญพรเหมือนกับจะหมดเรี่ยวแรงเมื่อเขาซุกไซ้หนักขึ้น จากแก้มเลยเข้ามาจนถึงใบหู   ตาลงมายังซอกกอ เธอเริ่มหายใจแรงและขัดเป็นช่วงๆ ขยับปากจะห้ามเขาแต่ก็ต้องผวา เมื่อโดนเขาจูบปากอย่างหน้กแน่นจนมีเพียงเสียงครางที่ออกมาจากคอเท่านั้น แขนทั้งสองของเธอโอบเขาไว้อย่างไม่รู้ตัว
ร่างเธอถูกกระชับแน่นเข้าทุกทีจนสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากร่างของเขา มันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด   ก้อนเนื้อที่หน้าอกกำลังถูกเขาใช้แรงดึงให้เข้าเสียดสีกับอกของเขาถนัดขึ้นทุกทีแล้ว เธอสบัดหน้าออกหายใจซึ่งเป็น จังหวะเดียวกับที่เขาฝังจิ๋มูกลงบนลำคออันขาวผ่อง ทำเอาเธอระทวยไปทั้งร่าง
ทันใดนั้น เสียงประตูข้างล่างถูกเปิดออก พร้อมกับเสียงหัวเราะดังลั่นของเด็กทั้งสองที่กลับมา เพ็ญพรสดุ้งรีบผละออกจากอกของชัยรัตน์ที่ชักจะอารมณ์เสีย
“อุ้ยตาย....สองคนนั่นกลับมาแล้ว...รีบออกไปเถอะ”
“ผมว่าอย่าเลย   ทำเป็นเงียบไปเลยดีกว่าเขาจะได้นึกว่าเราหลับแล้ว และอีกอย่าง มีความสุขก้บผมเถอะนะที่รัก...มาซิจ๊ะ...มามีความสุขด้วยก้น” เขากระซิบที่ข้างหูเธอ
“อย่าดีกว่าค่ะ...มันน่าเกลียด... เพ็ญว่า...อุ้ย...ไม่...อืมม...”
เธอยังพูดไม่ทันจบ ริมผีปากงามก็ถูกปิดสนิทอีกครั้งหนี้ง  ครั้งนี้เธอรู้สึกว่ามันช่างดูดดื่มและเนิ่นนาน ความหอมหวานของเธอทั้งปาก และลิ้นกำลังถูกเขาดูดซึมจนเธอสั่นระทวยไปทั้งร่าง มือที่ประคองแก้มเธอไว้ บัดนี้มันเริ่มเคลื่อนลงต่ำไปลูบไล้อยู่ที่ต้นคอ และมันกำลังต่ำลงไปในของเสื้อคลุมของเธอจนมันหลุดลุ่ยออก   เปลือยช่วงไหล่ที่เนียนละมุน ขณะที่เธอยังคงถูกรสจูบสะกดจนเคลิบเคลิ้ม เพ็ญพรไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าเสื้อคลุมตัวนั้นถูกรูดออกไปจากร่างตั้งแต่เมื่อใด มารู้ตัวอีกทีหนี้งเสื้อคลุมของชัยรัตน์ก็หลุดออกจากร่างไปแล้วเช่นกัน  
บัดนี้เธอเหลือเพียงยกทรงรัดติ้วและกางเกงในตัวน้อยปกปิดร่างกายอยู่เท่านั้น ความรู้สึกวาบหวิจจนแทบไม่มีแรงที่จะนิ่งอยู่ได้ ตะขอยกทรงกำลังจะถูกปลดออกจากด้านหล้ง เพ็ญพรเย็นวาบไปทั่วทรวงอก เมื่อมันหลุดติดมือชัยรัตน์อออกมา อกสล้างของเธอบัดนี้เปลือยเปล่าสัมผัสโดยฝ่ามือของเขาอย่างนิ่มนวล เขาเฝ้าเคล้นคลึงไปบนเต้างามทั้งสองนั้น นานเท่านานก่อนที่จะฝังใบหน้าซุกไซ้จิ๋มูกลงระหว่างร่องอก เกลือกกลิ้งไปทั่วเนิน ปากมาหยุดอยู่ที่ยอดแข็งชูชันดูดดุนด้วยลิ้น จนเพ็ญพรเริ่มดิ้นบิดร่างท่อนบนไปมาด้วยความเสียวที่มันแล่นแปล็บเข้าไปในทรวง
เขาดึงร่างเธอให้ต่ำลงจนกระทั่งนอนราบลงบนที่นอน เพ็ญพรหลับตาพริ้มเธอรอคอยทุกอย่างที่มันกำลังจะเกิดขึ้นด้วยใจที่เต้นระทึก รอความสุขหรือมันอาจจะเป็นความเจ็บปวดที่ระคนความสุข ซึ่งเขาจะเป็นผู้นำมันเข้าสู่ร่างของเธอ
เพ็ญพรนอนเหยียดยาว หายใจระทวยบางครั้งก็ขาดเป็นห้วงจนอกงาม ทั้งคู่กระเพื่อมขึ้นลงยั่วอารมณ์เขายิ่งนัก เธอปล่อยให้เขาฟอนเฟ้นเรือนร่างท่อนบนของเธอ ด้วยใบหน้าที่ชุกไซ้ดมความหอมไปทุกซอกทุกมุม ที่ใจเขา ปรารถนา ร่างของเพ็ญพรเร้าไฟสวาทของชัยรัตน์ให้ลุกโชน จนรั้งไม่อยู่เสีย แล้ว เพ็ญพรเองก็วาบหวิวจวนเจียนจะขาดใจเสียให้ได้ เธอครางบิดตัวอีกครั้งหนี้งเมื่อใบหน้าของเขาเลื่อนต่ำลงไปทุกทีจนถึงแผ่นท้องที่เนียนลาด และแล้วร่างงามของเพ็ญพรก็เปลือยอยู่ท่ามกลางแสงไฟสลัว โดยมีใบหน้าชัยร้ตน์ เกลือกอยู่แถวหว่างขา เธอสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเขากำลังจะทำอะไรกับเธอ
“อูยยส์...ชัยร้ตน์ขา...”
เพ็ญพรครางออกมาอย่างลืมตัว เมื่อรู้สึกมีอะไรที่นุ่ม สั่นพริ้วตัวได้วน เวียนอยู่ทั่วโคกอันโหนกนูนนั้นและมันก็กำลังจะแทรกตัวเข้าไปตรงกลางร่องที่ ปิดสนิทแน่น สิ่งนั้นเฝ้าดุนเลียจนกลีบค่อยๆอ้าออกและเริ่มเปียกชุ่ม มักฉก กวัดเสียดสีเข้ากับจุดที่แทบจะทำให้หัวใจของเธอหยุดเต้น   นิ้วทั้งสิบของเพ็ญพรบัดนี้ขยุ้มอย่างลืมตัวลงบนห้วของเขา ขาเรียวทั้งคู่แบะออกจากกันบางครั้งเธอสุดจะทนทานได้กับความเสียวทีเสียดแทงเข้ามาในท้องน้อย จนเหมือนกับจุกเสียด เธอส่ายสะโพกทำให้โคกงามแอ่นขึ้น รับการเลียที่จัดเจนไปด้วยชั้นเชิง
“โอย...พอเถอะค่ะ...อูย...เพ็ญจะทนไม่ไหวแล้ว...ซี๊ด...โอย...ชัยรัตน์ ขา...โอย...”
ดูเขาจะไม่ยอมฟังเสียงกลับกระหน่ำลิ้นพริ้วสบัด จนบ่อของเธอบัดนี้ฉ่ำ เยิ้มไปด้วยเมือกแห่งอารมณ์สวาทที่พร้อมแล้วจะให้ความสุขแก่เขา ชัยรัตน์ ขยับร่างขึ้นเล็กน้อยเพื่อปลดกางเกงในของตัวเองออก เพ็ญพรถึงกับใจหายวาบ เมื่อสายตาเหลือบไปพบเอาท่อนเนื้อของเขาเข้า มันทั้งยาวและใหญ่เป็นลำตรง เส้นเลือดข้างใต้ดูโปนอย่างน่ากลัว คราวนี้เธอคงจะป่นปี้แน่ ยังนึกไม่ออกว่ามันจะเข้าไปในร่างของเธอได้อย่างไร ลูกชายเสี่ยซึ่งเป็นคนแรก ที่พิชิตความสาวของเธอ เมื่อหวนไปคิดถึงท่อนเนื้อของเขา ยังไม่ได้แม้ครึ่งเดียวของควยชัยรัตน์ คราวนี้แหละคงจะเป็นการเสียความสาวอย่างแท้จริงของเธอ มันคงจะต้องมีความเจ็บปวดผสมด้วย และจะต้องแตกต่างกับคราวก่อนอย่างแน่นอน
ร่างกำยำของชัยรัตน์   ค่อยๆเลื่อนขึ้นมาบนร่างเพ็ญพร เนื้อแนบเนื้อสนิทแน่น   พวงนมเธอแทบจะแหลกสลาย เมื่อยามที่เขาเกลือกร่างบดขยี้ เธอแสดงอาการกลัวอย่างเห็นได้ชัด ชัยรัตน์บรรจงจูบเพื่อปลอบใจเคลียเคล้าไปทั่วใบหน้าหวานซึ้ง ซึ่งบัดนี้พวงแก้มเปล่งแดงไปด้วยเลือดสาวที่ถูกปลุกจนร้อนระอุและพลุ่งพล่าน เธอคงหลับตาครวญคราง สองแขนรัดลำตัวเขา มือสัมผัสไปทั่วแผ่นหลัง
ชัยรัตน์ใช้มือลูบวนเวียนอีกครั้งตั้งแต่ช่วงไหล่ หนั่นเนื้อที่พุ่งชูชัน เรื่อยลงมาถึงสะโพกผาย และแล้วก็เลยลงมาหยุดอยู่ที่หว่างขา กรีดนิ้วผ่านช่องสวาท และเขาก็พบว่า บัดนี้ช่องสวาทของเพ็ญพรพร้อมแล้วที่จะให้ท่อนเนื้อของเขาชำแหละเข้าไป เขาจับขาเธอให้แยกออกจากกัน
เพ็ญพรมีอาการกระวนกระวายขึ้นจนเห็นได้ชัด เธอเริ่มกลัวอย่างจับใจ สะดุ้งเฮือกเมื่อเขาจ่อหัวอันบานใหญ่เข้ากับกลีบที่กำลังเยิ้ม   เธอหลับตากัดฟันแน่น ทุกส่วนของร่างกายเกร็งไปหมด
แต่ชัยรัตน์ผู้เต็มไปด้วยชั้นเชิง เขาไม่รีบร้อน เฝ้าวนเวียนถูไถปลายท่อนไปจนกลีบของเพ็ญพรเยิ้มฉ่ำละลอกแล้วละลอกเล่า เพ็ญพรเองเหมือนกับว่าความสุขทั้งมวลกำลังจะทะลักพรูออกมาเสียให้ได้ ใบหน้างามบิดส่ายร่างแอ่นผวา ไม่เป็นจังหวะ
ชัยรัตน์ใช้มือประคองจับท่อนยาวใหญ่ให้หัวจ่อเข่ากับร่อง ที่กำล้ง่ชุ่มไปด้วยเมือก เขาออกแรงดันมันให้อ้าออก หัวอันบานใหญ่แหวกว่ายแคมเข้าไปอย่างนิ่มกระชับ คราวนี้เพ็ญพรสะดุ้งสุดตัว ทั้งนิ้วและเล็บขยุ้มจิกแผ่นหลังชัยรัตน์แน่น พร้อมกับเสือกร่างกระเถิบขึ้น เธอกลัวเหลือเกินว่ามันจะเข้าไปไม่ได้หรือไม่มันก็คงจะแหวกหีเธอจนฉีกขาด
“โอ๊ย....พี่....พี่....พี่....โอ๊ย..ซี้ด โอ๊ย....เพ็ญเจ็บค่ะ....โอ๊ย...ซี้ด....โอ๊ย”
เพ็ญพรทั้งเจ็บทั้งกลัว จนเหงื่อเม็ดโป้งๆผุดออกมาไม่ขาดสาย ขยับโคก นูนเด่นหนี เพื่อผ่อนความเจ็บอยู่ตลอดเวลา ชัยรัตน์จึงเปลี่ยนเป็นค่อยๆผ่อน คลายความตึงเครียดของเธอ จริงๆแล้วรูของเพ็ญพรยังฟิตอยู่มากทีเดียวเท่าที่ เขาเคยผ่านๆมา แม้รู้ว่าเธอเคยถูกควยทะลวงมาครั้งหนึ่งแล้วก็ตาม แต่การทะลวงของควยเล็กกับควยใหญ่ มันต่างกันมาก
ชัยรัตน์เริ่มเล้าโลมเธอใหม่ ทุกซอกทุกมุมของร่างกายจนสังเกตเธอผ่อนคลายลงไปมากและตอบสนองเขามากขึ้นเป็นลำดับ คราวนี้ควยที่แข็งผงาดของเขาควานหาเป้าหมายได้เองโดยไม่ต้องนำทาง เมื่อมันตรงกับร่องที่เบ่งบานแย้มชุ่ม เขาก็ออกแรงดันมันเข้าไปใหม่ มันผ่านเข้าไปได้ จนมิคหัวที่บานใหญ่ เพ็ญพรคราวนเพียงแค่สูดปากและกัดฟันเกร็งเท่านั้น แม้เธอจะเจ็บ แต่มันก็เป็นความเจ็บที่เคลัาไปต้วยความสุขชนิดที่เธอไม่เคยได้รับมันมาก่อน เธอตัดสินใจแน่วแน่ว่าคราวนี้จะไม่ยับยั้งเขาอีกแล้ว เธอจะทนจนกว่าช่องสวาทของเธอ จะกลืนอมลำยาวของเขาเข้าในร่างจนหมด
“ซี้ด....ค่อยอีกนิดค่ะ..อูย...ของเพ็ญจะแย่อยู่แล้ว....อูย....ค่ะ....ซี้ด..โอ แน่นไปหมด....โอ๊ย....โอ๊ย....ซี้ด...ว้าย...เพ็ญตายแล้ว...ซี้ด....โอย...โอย...โอ๊ย.โอ๊ย....ชัยรัตน์ขา....โอย....กอดเพ็ญไว้....ซี้ด....”
เธอเหมือนกับคนละเมอ ทั้งดิ้นทั้งรัดร่างเขาไว้แน่น เมื่อควยอันใหญ่ยาวเดินหน้าเข้าไปไม่ได้หยุด เหลียวตาก้มลงมองเพ็ญพรถึงกับใจหายวาบ ที่เห็นแคมหีเธออ้าออกอมท่อนควยไว้คับเป่ง ถึงมันยังเข้าไม่มิดด้ามแต่ภายในเธอรู้สึกว่ามันแน่นตื้อจนร่างแทบจะระเบิด มันแน่นเข้าไปแน่นเข้าไปลึกหายเข้าร่างของเธอมากขึ้นทุกที และเมื่อเขากดสะโพกครั้งสุดท้าย มันก็ไม่มีเหลือให้เห็นอีกแล้ว!
หนอกต่อหนอกประกบแน่น ร่างเปลือยเสียดสีบดขยี้กันและกัน ชัยรัตน์ยังคงให้มันฝังจิ๋มแน่นอยู่ภายในร่างที่กำลังบิดเร่าๆด้วยความเสียวซ่าน เขาประกบจูบที่ปากเธออีกครั้ง เธอรู้สึกว่ากายท่อนล่างของเขาเริ่มขยับเป็นจังหวะช้าๆ มันเชื่องช้าจนเธอสามารถรู้ได้ถึงเส้นทางการสัมผัสเสียดสีระหว่างผนังในช่องสวาทเธอกับลำควยที่แสนงามนั้น
ชัยรัตน์เริ่มชักยาวกระเด้ารูหีเธอแล้ว เพ็ญพรพยายามกัดฟันทน เพราะทั้งเจ็บและทั้งเสียวซ่านสุดที่จะบรรยาย ช่องสวาทฃมิบตัวเป็นจังหวะพร้อมกับเร่งน้ำสวาทของการหล่อลื่นจนลำควยนั้นเยิ้มมันปลาบไปทั้งลำ เธอพยายามอ้าขาออกไปให้มากที่สุด เพื่อที่เขาจะได้ชักมันเข้าออกถนัดขึ้นทุกครั้งที่เขาพุ่งมันครูดแคมเธอเข้าไป เพ็ญพรถึงกับเสียวสะท้านไปทั้งร่าง จนต้องแอ่นก้นลอยขึ้นรับลำควยนั้น อย่างกลัวว่ามันจะเข้าไม่มิด สะโพกเขาส่ายเป็นจังหวะนิ่มนวล ลำควยควานเข้าไปจนทั่วรูที่รัดกระชับ
“ชัยรัตน์ขา..เพ็ญมีความสุขเหลือเกินแล้ว..อูย..ซี๊ด..โอ...ที่รัก...ของคุณ ช่างวิเศษเหลือเกิน.... เพ็ญแทบจะสำลักตายเพราะความสุขอยู่แล้ว..เร่งเถอะค่ะ... เพ็ญทนได้....โอ๊ย....อูย....ค่ะ..เร่งซิค่ะ อูย..ซี๊ด...อูวว์..เพ็ญ..เพ็ญ..อูย..เพ็ญจวน โอ๊ย..อีกซิค่ะ..อีก..ที่รักขา..เร่งเพ็ญซิค่ะ ซี้ด..เพ็ญกำลังจะ..โอย..จะมีความสุขกับคุณอยู่แล้ว..โอย..ค่ะ..ค่ะ..ค่ะ..โอ๊ย...เพ็ญตายแล้ว..โอ๊ย..โอ๊ย..กอดเพ็ญ..โอ๊ย.โอ๊ย โอ๊ย..เพ็ญ..อี๋.,ซี๊ด..อูย..ออย..โอ..ที่รัก....อูวว์....”
เพ็ญพรแอ่นร่างขึ้นเบียดกระชับแน่น กล้ามเนื้อทุกส่วนเกร็งกระตุกอยู่หลายครั้ง ลมหายใจหอบถี่ ทั้งคู่เงียบเสียงคงมีแต่เสียงลมหายใจฟืดฟาด ดัง สลับกันอย่างรุนแรง จนกระทั่งเชื่องช้าลง ชัยรัตน์เองก็ได้ฉีดน้ำรักพวยพุ่งเข้า ในร่างเธอจนหมดสิ้น ควยที่แข็งยังคงแช่อยู่ในบ่อสวาทเธอจนกระทั่งมันอ่อน ตัวลงเอง เขาจึงพลิกกายนอนหงายโดยมีเพ็ญพรซบอยู่กับอก
พายุสวาทผ่านพ้นไปแล้ว ทั้งคู่ดื่มด่ำไปต้วยความสุขที่เต็มอิ่ม น้ำรักของทั่งสองผสมผสานกันจนไหลนองออกมาภายนอก ชัยรัตน์ทำหน้าที่บรรจงเช็ดมันจนแห้งหมาด ร่างเปลือยของทั้งสองยังคงนอนก่ายกอดเคลียเคล้าอยู่ไปมา กระทั่งชัยรัตน์จับมือเธอให้มาสัมผัสกับท่อนเนื้อที่กำลังอ่อนตัว เพ็ญพรทำตามอย่างว่าง่ายและโดยไม่ต้องให้สอน เธอค่อยๆนวดเฟ้่นอย่างทนุถนอม มือที่อ่อนนุ่มรูดมันเล่นอย่างสนุกสนาน
แค่เพียงพักเดียว เธอก็ต้องก้มลงมองดูมันด้วยความแปลกใจที่รู้สึกว่ามันกำลังจะพองคับอุ้งมือเธอขึ้นทุกที เพ็ญพรถึงกับเบิกตาโพลง เมื่อเห็นหัวถอกที่เริ่มจะบานขยายตัวอีกแล้ว มันแข็งขึ้นมาครึ่งหนึ่ง น้บเป็นครั้งแรกที่เพ็ญพรได้มีโอกาสเห็นควยผู้ชายอย่างเต็มตา เธออยากจะเห็นว่าเมื่อมันแข็งเต็มที่ จะน่ากลัวสักขนาดไหน จึงเร่งมือรูดมันหนักและถี่ขึ้น ไม่ช้ามันก็กลับแข็งผงาดขึ้นมา กับมือเธอ แทบจะกำไม่รอบ ความยาวของมันนั้นน่ากลัวเป็นที่สุด มันเข้าไปในรูเธอได้อย่างไรหนอ
เธอเลื่อนใบหน้าต่ำลงมา นอนทับหน้าท้องของเขาเพื่อที่จะดูท่อนควยให้เต็มตา มือของชัยรัตน์ก็ลูบไล้อยู่บนหัวเธอ มิหนำซ้ำยังรู้สึกว่ามือออกแรงกดให้ที่ห้วทำให้ใบหน้าเธอเคลื่อนเข้าใกล้ทีละน้อย จนมันอยู่ตรงหน้าของเธอรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าว มือชัยรัตน์เลี่อนมาประคองมือเธอ ที่กำลังกำท่อนควยเขาเป็นจนปลายมันหันเข้าหาใบหน้างาม อีกมือหนึ่งก็กดหัวเธอให้ต่ำลงไปอีก
เพ็ญพรลำคอแห้งผาก ใจเต้นระทึก เธอรู้มาบ้างเหมือนกันว่าผู้หญิงสามารถให้ความสุขแก่ผู้ชายได้โดยทางปากเช่นกัน แต่เธอก็ยังไม่เคยลอง อาการของเขาแสดงว่าต้องการจะให้เธอใช้ปากกับลำควยเขาเป็นแน่ เพ็ญพรครึ่งกล้าครึ่งกลัว ริมฝีปากแห้งผากจรดเข้ากับปลายควย พรมจูบไต่ไปตลอดทั้งลำ พอเธอจะมีกวามกล้าขึ้นถึงขนาดเผยริมฝีปากอิ่มอ้าออก ปล่อยให้ท่อนหัวเข้าสู่ปากเธอช้าๆ รสชาติมันไม่เลวนักหรอก ม้นปลุกเร้าอารมณ์เธอเอง ได้ดีกว่าที่คิดเสียอีก
เพ็ญพรอมควยชัยรัตน์เข้าไปเกือบครึ่งลำ มันคับพองใหญ่กว่าเดิมขึ้นมาอีก เธอใช้ลิ้นดุนพร้อมกับออกแรงดูดจนแก้มตอบ รู้สึกมันคับปากสิ้นดี แถมเขายังแอ่นมันขึ้นสวนเข้าไป จนเกือบเข้าลำคอ เพ็ญพรผ่อนหายใจแทบไม่ทัน สักพักหนึ่งเธอเริ่มชินและรู้จักจังหวะการผ่อนหายใจ จึงเริ่มลงมือรูดมันขึ้นลงด้วยริมผีปาก
ชัยรัตน์ถึงกับบิดตัวและเกร็ง ยิ่งมองลงไปเห็นใบหน้าที่หวานเยิ้ม กำลังอมควยเขารูดเข้ารูดออก ยิ่งเป็นภาพที่รัญจวนใจแทบจะหลั่งน้ำรักออกมาในปากเธอเสียให้ได้ เขาต้องรีบดึงร่างเธอขึ้นมาให้คล่อมอยู่ข้างบน เพ็ญพรยิ้มอย่างอายๆเมื่อเขาจับขาทั้งสองข้างให้ถ่างคร่อมร่างเขา พร้อมกับดันร่างท่อนบนของเธอให้ขึ้นนั่งคร่อม
เพ็ญพรยกสะโพกขึ้นเองอย่างรู้เชิง หลับตาแหงนหน้าหายใจยาวๆ ในขณะที่มือเธอควานลงไปจับท่อนควยให้ตั้งขึ้น จ่อมันเข้าก้บรูหีของเธอ แหวกนำเข้าไปนิดหนึ่ง ค่อยๆกดร่างลงไป ท่อนควยจมหายเข้ากลีบเธออย่างยากลำบาก เพ็ญพรเร่งอารมณ์ตัวเองเพื่อเอาความเยิ้มออกมาช่วยให้มันเข้าง่ายขึ้น และเมื่ออมกลืนมันเข้าไปจนมิด ก็ยิ่งรู้ว่าในท่าเธออยูบนนี้ ลำควยยาวยิ่งเข้าไปในร่างลึกขึ้น มันตุงคับแน่นอยู่ที่ท้องน้อยจนเสียววูบวาบไปหมด สะโพกผายเริ่มเคลื่อนไหว เธอเสียวแปลบทุกครั้งที่ยกขึ้นและกดลง การเคลื่อนไหวของเธอถี่กระชั้นขึ้น และแทบจะขาดใจเสียใหัได้เมื่อโดยควยชัยรัตน์เด้งรับสวนเข้าอย่างจัง เพ็ญพรรักษาจังหวะไว้อย่างคงที่ ยิ่งทียิ่งสนุก ส่งเสียงออกมาอย่างลืมตัว
“อูย..อูย..เพ็ญเสียวจังค่ะ..โอ.. มันช่างใหญ่..โอย..ที่รักขา..อูวว์..ซี้ด... เพ็ญจวนอีกแล้วค่ะ..โอย..ซี้ด...ไม่ไหวแล้ว..อูย..ช่วยเพ็ญตัวยค่ะ..ซี้ด..ของเพ็ญ โอว..โอ้ว..ออก..ออกค่ะ..อูย..อูย..ซี้ด”
ร่างเพ็ญพรเกร็งกระตุก ฟุบร่างลงหาชัยรัตน์ พวงนมเบียดกับอกเขาแน่น เขารู้สีกว่ารูหีเธอตอดขมิบอย่างแรงสองสามครั้งก่อนที่เธอจะแน่นิ่งไปกับอกเขา เพ็ญพรหายใจระรวย
“โอย.. ของคุณยังค้างอยู่นี่...ไม่เป็นไรค่ะ..ให้เพ็ญทำให้นะ...มีความสุขกับเพ็ญซิจ๊ะ..ทื่รัก....’'
เพ็ญพรคร่อมร่างเขา ยกสะโพกกระเด้าต่อไปทำให้ชัยรัตน์พึงพอใจเป็น อย่างยิ่ง ยิ่งกระเด้าเธอก็เห็นเขากระสับกระส่ายมากขึ้นทุกที เพ็ญพรยิ่งภูมิใจตัวเองที่สามารถให้ความสุขแก่เขาด้วยเรือนร่างของเธอเอง
“โอ...เพ็ญจ๋า...ของผมจะทะลักอยู่แล้ว....โอ๊ย....เพ็ญจวนแลวนะ....โอ ....เพ็ญ....เพ็ญ....ของผมจะหลั่งแล้ว... โอเพ็ญ....ให้ผมมีความสุขในปากคุณ.....เพ็ญ....เพ็ญ....โอ....เดี๋ยวนี้เลยที่รัก....อูวว์....”
เพ็ญพรทำตามอย่างรวดเร็ว ยกสะโพกถอนควยที่กำลังมันเยิ้มออกจากรูของเธออย่างเสียดาย ร่นตัวลงไปพร้อมกับใช้ปากอมและดูดให้อย่างแรง เพียงการดูดสองสามครั้งเธอก็รู้สืกว่ามันเกร็งกระดุบพร้อมกับของเหลวบางอย่างก็พุ่งอุ่นวาบเข้าสู่ปากเธอ มันไหลผ่านลงไปตลอดลำคอ เธอกลืนกินโดยไม่รังเกียจจนหมดสิ้น และยังเฝ้าดูดเลียจนแห้งผาก  
และคืนนั้นทั้งคืนทั้งคู่ก็เฝ้าปรนเปรอความสุขกันและกันจนไม่รู้ว่ากี่ครั้งกี่หน

แหย่ สาวหลับ...


หลับสนิท...
ในกระบวนนักศึกษามหาวิทยาลัยคณะเดียวกัน ไม่มีใครเลยที่จะไม่รู้จักชิดชัย พิชัยยุทธ เขาเป็นดาราซัลโวฟุตบอลทีมมหาวิทยาลัย แถมยังเป็นนักเพาะกายสมัครเล่นที่มีส่วนสัดสมชายฉกรรจ์ ใบหน้าเขาเก๋มีเสน่ห์ประทับใจสาว เจ้าสำราญ ยิ้มง่าย ใครๆก็ชอบเขา
แต่เพื่อนๆน้อยคนนักที่จะรู้จักเขาอย่างถึงแก่นแท้ นอกจากที่สนิทกันจริงๆ เขาเป็นนักรักจากสำน้กบู๊ลิ้มแห่งหนึ่งในกลกามศาสตร์ เขาเป็นผู้ชายประเภทขายตัวแก่สาวร่านสวาทพี่มีผัวชรา ไม่สามารถปรนเปรอสวาทให้คุณเธออย่างสะใจ ก็หลบเลี่ยงมาพบเพื่อให้เขาทะลวงแทงจนอิ่มกาม เงินทองจึงไหลหลั่งมาเข้ากระเป๋าเขา จนเอาไปบำเรอสาวน้อยซึ่งส่วนมากก็เป็นนักศึกษาบางคนร่วมคณะเดียวกัน ถ้าเล็งผู้หญิงคนไหนไว้ในใจ เขาไม่เคยพลาด
อรสา เป็นเด็กสาวรุ่นน้อง เป็น คนหนึ่งที่เขาหมายตาไว้ หน้าตาเธอสวยบาดใจ มีเสน่ห์ล้ำลึก โดยเฉพาะรอยบุ๋มของลักยิ้มที่พวงแก้ม หุ่นเซ็กซี่น่ากอดรัดฟอนเฟ้น ชิดชัยพยายามประกบตัว เข้าหาในลักษณะพี่ชาย แต่อรสาก็ฉลาดพอพี่จะระมัดระวังตัว เพราะแว่วๆจากเพื่อนๆสาวด้วยกัน ว่าชิดชัยเป็นคนที่มีอันตรายอย่างน่ากลัว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มักจะเลี่ยงไม่ค่อยพ้น เพราะท่าทางที่เขาแสดงต่อเธอจะเป็นไปอย่างพี่ชาย ที่มีความเอ็นดูต่อน้องสาว เธอเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกัน เพราะบังเอิญมีบ้านอยู่เกือบจะติดกัน เขามาคอยรับคอยส่ง เมื่อชั่วโมงเรียนมีแค่ตอนบ่าย เขาก็มักจะชวนเธอไปดูหนัง ไปกินอาหารว่างตามคอฟฟี่ช๊อพต่างๆ
เมื่อโรงมหรสพฉายภาพยนตร์ประเภทที่เธอถูกใจ เขามักจะชวนเธอไปดูวันแรกๆซึ่งมีคนเบียดเสียดกันแน่น เขาจะคอยคุมหลังเธอ จับไหล่ทั้งสองเธอไว้ อกเขาแนบสนิทติดหลังเธอ บ่อยครั้งเข้าอารมณ์สาวก็เริ่มสั่นเสทือน เขาชวนเธอเข้าสถานฝึกสอนลีลาศ โดยอ้างว่าวันฉลองรับปริญญาบัณฑิตทุกคนจะต้องออกเต้นรำ เมื่อเขาอ้างเหตุผล อรสาก็คล้อยตาม
การฝึกสอนครั้งแ'รก ก็ใช้เทรนเนอร์ผู้หญิงด้วยกัน พอเธอได้หลายสเต็ป ชิดชัยก็ชวนออกโรงตามไนท์คลับ
แรกๆก็เป็นการแตะต้องเนื้อตัวอย่างแผ่วเบา ตัวห่างกัน แต่พอนานๆเข้าเธอรู้สึกว่าชิดชัยเริ่มกอดกระชับ มีการเสียดสีกัน สัมผัสกันในส่วนสำคัญที่มีความรู้สึกไวต่ออารมณ์เพศ อรสาชักหวั่นไหว นึกถึงคำเตือนของเพื่อนๆสนิทแต่มันก็ชักไม่ค่อยได้ผล ในขณะออกเต้นรำบนฟลอร์พี่มีแสงไฟสลัว ชิดชัยจะรัดรั้งร่างเธอจนหน้าอกเธอ เบียดเสียดกับอกเขา จนตัวเธอรู้สึกว่ามันร้อนเข้าไปถึงหัวใจ แก้มเขาเคลียแก้มเธอจนเธอเริ่มสยิว เมื่อตอนกลับนั่งแท็กซี่ เขาจะนั่งเบียดชิดติดเธอ ถ้ามีผลไม้ติดมือมากินในรถ เขาจะป้อนใส่ปาก หลังมือเขาเสียดต้องทรวงอกคล้ายไม่ตั้งใจ ถึงจะในเสื้อ แต่อรสาก็วาบหวิว
คืนหนึ่ง เมื่อชิดชัยพาเธอกลับบ้านหลังจากไปกินอาหารว่างที่คอฟฟี่ ช๊อพแห่งหนึ่งมาแล้ว อรสาพูดถึงการศึกษา เธอบอกว่า
“ใกล้สอบเข้ามาทุกทีแล้ว   สากลัวตกจังเลย”
“ทำไมล่ะ?”
“ความจำสาไม่ดีเลยค่ะ ดูตำรามาแหม็บๆรุ่งขึ้นลืมหมดเลย”
“พี่อยากให้สาเช็คประสาท เอายังงี้ พี่มียาติดตัวมาบ้าง พี่ใช้เป็นประจำ มันเป็นยาประเภทกระตุ้นความจำดีมาก สาลองเอาไปกินสักเม็ดก่อนก็ได้ ถ้าได้ผล พี่จะเอาให้อีก .สาเคยบอกพี่ว่าเข้านอนห้าทุ่มใช่ไหม พอจะนอนก็กินยานี่เม็ดหนึ่ง”
ชิดชัยล้วงหยิบยาในขวดเล็กเทใส่มือสามเม็ด
“มีกระดาษทิชชู่ไหม?”
“มีค่ะ”
อรสาหยิบกระดาษออกมา เขาเอายาวางบนกระดาษ   ห่อเรียบร้อย อรสารับใส่กระเป๋าถือ
คืนนั้น หลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย อรสาก็จับตำรามาดู แค่ห้าทุ่มก็เกิดง่วงเหงาหาวนอน ก็เตรียมขึ้นเตียง พอนึกถึงยาที่ชิดชัยให้ ก็กินเข้าไปหนึ่งเม็ด แล้วล้มตัวนอน เธอเป็นคนขี้ร้อน นอนเปิดหน้าต่างเป็นประจำ ไม่กี่นาที อรสาก็หลับสนิทเพราะฤทธิ์ยานอนหลับที่ชิดชัยจอมเจ้าเล่ห์ให้กิน
สองยามผ่านไปชั่วครู่ ชิดชัยก็แอบเข้ามาในบ้านอรสา   ปีนหน้าต่างเข้าห้องทันที
เธอนอนหงายท่าสบาย กรนเบาๆ แสดงว่าหลับสนิท    ชิดชัยมองบนโต๊ะเครื่องแป้ง เห็นยาเหลือสองเม็ด แสดงว่าเธอได้กินมันเข้าไปแล้ว เขาหันมามองร่างอรสา เธอสวมชุดนอนแพรบางใส มองเห็นเนื้อในถนัดชัดเจน เว้นแต่ตรงทรวงอกและตรงอวัยวะเพศ มีเศษผ้านุ่งปิดปกเท่านั้น เรือนร่างถูกสำรวจด้วยสายตาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ด้วยความตะลึงลาน เขาเคยผ่านเวทีกามมาโชกโชนทั้งสาวแก่แม่ม่ายผัวเผลอแต่ก็ไม่ประทับใจ
กับร่างของดรุณีวัยรุ่นคนนื้ อารมณ์ชิดชัยคึกคักขึ้นมาทันควัน เขาหย่อนตัวลงนั่งบนเตียง ใคร่สัมผัสลิ้มรสจนอาวุธประจำกายเริ่มขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว เกิดความใคร่ความกระสันขึ้นมาทันที เขาก้มลงกระซิบเรียกอร่สาข้างหูเบาๆเพื่อความแน่ใจว่าเธอหลับสนิทเพราะฤทธิ์ยา เธอสงบนิ่งไม่ติงกาย
ชิดชัยเอื้อมมือปลดผ้าคาดเสื้อคลุมของเธอออกกว้าง   มือลูบไล้ไปตามผิวกายส่วนหน้าท้อง เลื่อนขื้นมาจนถึงเต้านมที่เต่งตั้งซุกซ่อนอยู่ในเสื้อชั้นใน เขาปลดตะขอที่เกี่ยวอยู่ด้านหน้าออกข้าๆ ค่อยๆเผยบัวตูมสองดอก สะอาดขาวเกลี้ยงเกลา ป้านนมสีน้ำตาลอ่อน หัวมันแดงระเรื่อ เขาอดไม่ได้ที่จะซุกหน้าลงไปละเลงหัวเต้านม ซึ่งกลมแข็งแต่หยุ่น แล้วมือข้างหนึ่งก็ลูบไล้ กำบีบเบาๆจนหัวนมแข็งชูชันขึ้นมา   แล้วมือก็เลื่อนลูบไล้ผิวกายที่สะอาดหมดจดจนถึงหน้าท้องและต่ำลงไปปะทะกับความโคกนูนภายในกางเกงในตัวจิ๋ว เขาผละหน้าจากสูดกลิ่นของเต้านม แล้วมาจัดการเอาอาภรณ์ขิ้นสุดท้ายออกจากตัวอรสา เขาตื่นเต้นเมื่อเห็นเนินสวาท มันมีสัณฐานกว้าง อวบอูมเหมือนหอยโข่งขนาดเขื่อง ผิวขาวส่วนนั้นตัดกับขนสีดำประปรายบริเวณโคก
เขาสำรวจกระทั่งแคมที่ปิดสนิทเหมือนประตูปิดปากถ้ำ เมื่อ เขาใช้นิ้วสัมผัสตรงแคม มันแข็งแต่นิ่มมือ เป็นรอยผ่าลงไปถึงร่องก้น เขาใช้สองนิ้วแหวกแคมออกกว้าง จนแลเห็น ปุ่มกระสันชั้นใน เขาใช้นิ้วมืออีกข้างหนึ่งค่อยๆเขี่ยเบาๆอย่างถนอม ปุ่มนั้นเกิดแข็งตัวขึ้นมา เขาแตะต้องถูไถจนกระทั่งมีน้ำเหนียวๆ ซึมออกมาเล็กน้อย
ชิดชัยผละจากเตียง จัดการถอดเสื้อกางเกงของตนเองจนล่อนจ้อน ตาจ้องจับที่เครื่องเพศของอรสาอย่างขื่นชม แล้วเขาก็จับข้อเท้าทั้งสองข้างของเธอถ่างออกกว้าง ยกงอั้งฉากกับฟูกที่นอนอันหนานุ่มเมื่อเขาก้มดูที่ปากถ้ำ แคมเปิดอ้าเห็นแต่เพียงปุ่มกระสันต์ เขาขยับตัวขึ้นคร่อมร่าง โดย ไม่ให้ตัวเขาทับร่างของอรสา
เขาคำนวณในใจไว้แล้ว ถ้าหากเขาผลีผลาม เสือกท่อนลึงค์ขนาดเขื่องค่อนข้างยาว เข้าไปในรูสังวาสตอนนี้ มันจะสร้างความเจ็บปวดทรมานให้แก่เธอ เพราะขนาดเครื่องเพศไม่สมดุลกัน เขาจะต้องทำให้เกิดความหล่อลื่นขึ้นในรูเสียก่อน เป็นการบุกเบิกโดยการใช้นิ้วมือนำร่อง เขาเริ่มใช้นิ้วเขี่ยปุ่มกระสันต์เบาๆ ทั้งๆที่อรสาหลับสนิทแต่ธรรมชาติก็ผลิตน้ำเมือกเหนียวให้ซึมออกมาได้ นิ้วเขาถึงได้เคลื่อนเข้าไปใน รูร่องสวาท คุ้ยเขี่ยชักเข้าชักออกเบาๆ
จมูกก็จูบไซ้พรมลงไปทั่วใบหน้า แล้วเลื่อนลงมาที่เต้านม หัวนมแดงเรื่อเหมือนสีชมพูอ่อนถูกเขาขบยํ้า อรสามีอาการเคลื่อนไหวเล็กน้อย มันอาจเป็นเพราะเธอกำลังฝันว่าเธอกำลังตกอยู่ในอารมณ์พิศวาส   ร่างกายเธอก็เกิดอาการกระตุกสะท้านเสียว
นิ้วมือของชิดชัยทำงานอย่างสม่ำเสมอ ถึงจะมีนํ้าไหลซึมช่วยการหล่อลื่นมาบ้าง แต่เขารู้สึกว่ารูสังวาสมันยังฟิตจนคับนิ้ว ถ้าหากเขาใช้ท่อนลึงค์ตอนนี้บุกทลวงเข้า ไป คงจะสำเร็จได้ยากยิ่ง เขาคิดอย่างผู้ช้านาญเพลงกาม ว่าหากเขาขืนตบมือข้างเดียวแบบนี้ เขาเองจะเป็นฝ่ายหลั่งน้ำกามโดยไม่ได้รับรสชาติถึงจุดสุดยอด ชิดชัยจำเป็นต้องปลุกให้เธอตื่นมาช่วยกันประคับประคองการเสพกามให้ ลุล่วงไปด้วยกันทั้งสองคน เพราะฤทธิยานอนหลับก็ไม่รุนแรง หากถูกกระทบกระเทือนหนักเข้า ก็จะปลุกให้เธอตื่นขึ้นเอง เมื่อเหตุการณ์เข้าขั้น มาถึงขนาดนี้แล้ว อรสาก็ต้องตกอยู่ในภาวะจำยอมไปโดยปริยาย   มันจะเป็นการร่วมรสที่สุดแสนจะมันส์
ชิดชัยเร่งปลุกสวาทด้วยนิ้ว หย่อนตัวทาบทับร่างอรสา หน้าอกเขาเบียดเสียดกับเต้านมของเธอระดมจูบไซ้ตามซอกคอ แล้วใช้ลิ้นเลียแลบกราดไปทั่วริมฝีปากน่าจูบของอรสา พยายามจะพุ่งลิ้นฝ่าฟันที่ขาวเรียบเป็นระเบียบเข้าไปข้างใน หน้าอกเขาส่ายเบียดเต้านมเธอแทนมือ  
อรสาเริ่มไหวตัว ตายังหลับ แต่คิ้วเริ่มขมวด หน้าส่าย พอปากเธอเผยอ ชิดชัยก็พุ่งลิ้นเข้าไปควานหาลิ้นของเธอจนพบ เมื่อเห็นอรสาทำท่าจะตื่น เขาก็จับท่อนลึงค์จ่อตรงช่องสังวาส ถูไถปากแคมแล้วก็ค่อยๆ ดันหัวถอกซึ่งกลมโตเข้าไป มันลื่นเข้าไปแค่หัวเท่านั้น
คราวนี้อรสารู้สึกตัวตื่น  ครั้งแรกเธอตกใจมาก แต่เธออยู่ในภาวะที่เอะอะโวยวายหรือขัดขวางอะไรไม่ได้ ปากเธอถูกปิดสนิทด้วยปากของชิดชัยซึ่งบดขยี้อย่างทนุถนอม หน้าอกเธอถูกเบียดเสียดส่ายกับอกของเขา ส่วนรูที่เธอใช้ปัสสาวะ มีสิ่งหนึ่งจุกคาอยู่ อรสาพยายามดิ้นเมื่อรู้ตัวว่าตัวเธอกำลัง ถูกลักหลับโดยไม่รู้ว่าเป็นใคร สองแขนดันไหล่เขา ส่ายหน้าเบี่ยงหลบริมฝีปากเขา ที่กำลังจุดไฟราคะให้ลุกโพลง เธอถูกปลุกสวาทขณะหลับ มือที่ผลักไหล่ เขาเริ่มอ่อนแรง เพราะความเสียวกระสันเข้ามามีอำนาจเหนือกว่า ตัวเริ่มสั่นเทา แล้วมือที่ผลักต้นไหล่เขาก็เริ่มเปลี่ยนมาลูบไล้ตัวเขา อรสาไม่อยากจะคิดต่อไปอีกแล้วว่าใครบังอาจมาปลุกสวาทให้เธอ เมื่อเธอหลั่งน้ำสวาทออกมา ชิดชัยก็กดดันท่อนลึงค์เข้าไปอีก อรสาครางในลำคออย่างสุดเสียวแทบจะขาดใจ
ชิดชัยถอนริมฝีปากออกจากริมฝีปากเธอ อรสาไม่ทันเห็นหน้า เขาจูบกระซิบข้างหู
“พี่เอง น้องสา"
อรสาค่อยโล่งใจ เพราะถ้าเกิดเป็นคนร้ายที่หวังเข้ามาขะโมยของในบ้าน แล้วถือโอกาสจะข่มขืนเธออย่างนี้ เธอจะต้องเสียใจไปจนวันดาย แต่เมื่อเป็นชิดชัย ที่อรสาก็มีจิตใจเคลบเคลิ้มเป็นทุนอยู่แล้วเธอก็ปล่อยให้เรื่องมันเลยตามเลย แต่ไม่วายบ่นเบา ๆ
“พี่ไม่น่าฆ่าสาเลย”
ชิดชัยพึมพัมขณะเขากำลังจูบไซ้ซอกหู
“พี่รักสา รักที่สุดในโลก”
อรสาไม่มีโอกาสตัดพ้อต่อว่าเขาได้อีก เพราะตัวเธอเองรู้สึกว่ากำลังเร่าร้อนด้วยฤทธิ์ราคะที่เขาปลุกสวาทเธอให้ตื่นตัวจนลุกโชน   แต่เธอรู้สึกเจ็บที่ช่องสังวาส เมื่อชิดชัยกดดันท่อนลึงค์เข้าไปอีก แต่มันก็เสียวจนเธอไม่กล้ายับยั้ง
ชิดชัยขยับตัวขึ้น สองมือบีบเคล้นเคล้าเต้านม จนอรสาตัวแอ่นครวญเสียงแผ่ว ปากก็บดขยี้พุ่งลิ้นเข้าไปพัลวัลก้บลิ้นของอรสา อรสากอดรัดตัวเขาแนบแน่น ก้นของเขาเริ่มขยับเขยื้อน เมื่อรู้สึกว่าอรสาหลั่งน้ำเมือกเหนียวออกมาอีก เขาก็กดท่อนเนื้อแข็งแกร่งทั้งยาวและใหญ่ทะลวงเข้าไปอีก จนขาทั้งสองข้างของอรสา แบะถ่างออกไปอีก ปลายเท้าไม่อยูนิ่ง เขาพยายามเร่งเร้าการปลุกสวาทอรสาทวีขึ้น จนท่อนเนื้อของเขาค่อยๆจมลงไปในรูสังวาสเกือบค่อนลำ เขาเริ่มชักออกชักเข้า กระเด้าช้าๆ ยิ่งไฟราคะ ในตัวอรสาร้อนแรงยิ่งขื้นเท่าไหร่ ท่อนลึงค์ของเขาก็เข้าไปได้ลึกจนเกือบจะมิด ตัวอรสาบิดเป็นเกลียวทุรนทุราย ใบหน้าบูดเบี้ยวเหยเก คล้ายกับถูกทรมาน เพราะมันเป็นความเสียวกระสันผสมความเจ็บแสบตรงช่องคลอด
เขาพยายามที่จะไม่รุนแรงกับอรสา ผู้ยังไม่เคยเสียพรหมจรรย์ให้ชายใด ความนุ่มนวล รู้จักเร่งเร้าอารมณ์ผ่อนสั้นผ่อนยาว ทำให้อรสาแทบสำลักความกระสันเสียว เธอหลั่งน้ำเมือกออกมาเรื่อยๆช่วยให้ท่อนลึงค์ของเขาจมหายไปในรูสังวาสจนมิด เขาเองรู้สึกตัวว่าความอดกลั้นที่จะหลั่งน้ำกามให้ออกช้านั้น ทำท่าจะไม่เป็นผล เขาขยับตัวคุกเข่า ตั้งหลัก สองมือจับยึดหัวไหล่อรสาไว้ เริ่มซอยถี่ขึ้น จากช้าๆแล้วเร่งสตีมเร็วขึ้นทุกที จนตัวอรสาไหวโยน ดิ้นกระแด่วแทบจะขาดใจ
“โอ๊ย...พี่ขา.พี่....สาจะขาดใจตายอยู่แล้ว”
ปากก็อดที่จะส่งเสียงครวญครางซี้ดซ้าดไม่ได้ ยิ่งเมื่อชิดชัยกระแทกถี่ยิบ เร็วจี๋แถมโยกย้ายส่ายก้นไปมา   เธอก็ร้องออกมาอย่างฟังไม่ได้ศัพท์ จนกระทั่งเขาพุ่งน้ำกามฉีดแรงเข้าไปถึงมดดูก อรสาถึงกับผวาร้อง
'‘โอย..พี่...สาตายแล้ว ”
อรสารู้สึกเหมือนจะขาดใจ มันเป็นรสชาติที่เธอได้ลิ้มรสเป็นครั้งแรกในชีวิตสาว มันมีทั้งความสุขระคนความปวดร้าวเจ็บแสบ เขายังซอยไม่หยุดยั้ง เธอดิ้นกระสับกระส่ายไปทั้ง ตัว ครวญครางโอดโอยแทบไม่หยุดปาก มันเหมือนกับเธอได้ลิ้มรสอาหารที่ถูกปาก มีทั้งเผ็ดทั้งร้อนซาบซ่านไปทั้งตัว รูสังวาสของเธอคับติ๋วที่อมท่อนลึงค์จนแทบจะระเปบิด
ชิดชัยเริ่มขลอการกระแทกช้าลง จนหยุดนิ่ง สองแขนโอบกอดกวัดร่างสาวน้อยทรงเซ็กซี่อย่างประทับใจ ท่าทางเขาเหน็ดเหนื่อย แต่ก็ยังเคลียคลออยู่ที่ซอกคอใบหน้าของอรสา จนกระทั่งกระทบกับน้ำตาของเธอที่ไหลซึมออกมา เขาทำท่าตกใจ
“น้องสา...โกรธพี่...ช้ำใจ...เสียดายความบริสุทธิ์....”
เขาถามอรสาทีละประโยค อรสาไม่ตอบ ส่ายหน้าอย่างเดียว
“งั้นสา....ร้องไห้ท่าไม พี่รักสาจริงๆ สาบานได้”
อรสากลับโน้มคอเขาลงมาจูบ
“สาระบมไปทั้งตัว โดยเฉพาะตรงฉัน”
ชิดชัยพยักหน้าแสดงว่าเข้าใจ เขาขยับก้นเด่รียมชักท่อนลึงค์ออก แต่อรสากลับยกก้นตาม อรสารีบพูดอย่างเอียงอาย
“ตอนนี้สาอดทนได้แล้วค่ะ”
ชิดชัยยิ้ม อรสาอดทนต่อความเจ็บปวด แต่รสสวาททำให้เธอกลัวๆกล้าๆ
“ขอพี่ดูของสาเดี๋ยวนะ”
เขาถอนท่อนลึงค์ออก แล้วถอยหลังไปทางปลายเท้า ก้มดูตรงแคมสวาท มีเลือดซึมออกมาปนกับน้ำอสุจิของเขาและน้ำเมือกของเธอด้วย สองแคมมีร่องรอยฟกช้ำ เขาเอาหลังมือแตะไปที่ปากถ้ำ มันร้อนผะผ่าวซึ่งเกิดจากการเสียดสีของท่อนลึงค์ของเขากับเนื้อแคมอ่อนวึ่งยังไม่เคยถูกบุกทะลวงมาก่อน เขาเงยมองอรสาอย่างสงสาร
"สาเจ็บมากไหม?”
อรสาไม่ตอบ กลับเม้มปาก ขยับตัวลุก ชิดชัยเข้าช่วยประคอง
“ทำไมล่ะ?”
“สาจะไปอาบน้ำ....พี่จ้องดูอะไร ก็ไม่รู้"
ประโยคหลังเธอพูดพร้อมกับค้อนเขา ชิดชัยยิ้ม ช่วยประคองให้อรสาลุกขึ้นจากเตียง พออรสาคว้าเสื้อคลุม เขากลับดึงออก พาเธอไปที่ห้องน้ำ เมื่อเธอเข้าไปแล้ว เขาก็ปิดประตูรออยู่ภายนอก
เสียงรดน้ำครู่ใหญ่ อรสาก็เปิดประตูโผล่แค่หน้าออกมา
"ช่วยหยิบผ้าขนหนูสีฟ้านั่นให้สาหน่อยพี่”
ชิดชัยหยิบผ้าส่งให้ อรสาปิดประตู สักครู่ก็พันกายด้วยผ้าขนหนู กระโจมอกเดินออกมา ชิดชัยขอเข้าห้องน้า ทำความสอาดท่อนเนื้อส่วนเกินของเขา ทั้งๆที่ตกห้อย มันก็อวบอ้วนยาวพอดู
เมื่อเขาออกมา อรสายังคงนั่งขอบเตียง ผ้าขนหนูยังพันตัวอยู่ เขาเดินแก้ผ้ามายืนตรงหน้าอรสาเหลือบมองอวัยวะของเขาที่ทำให้เธอได้รสชาดต่างๆอย่างสะท้าน
"พี่เนี่ย หน้าด้าน กางกุงกางเกงก็ไม่นุ่ง"
ชิดชัยก้มจับต้นแขนอรสาให้ลุกยืนขึ้น
"สาไล่พี่กลับ ใช่ไม๊?"
"แน้...สาไม่ได้พูดสักหน่อย”
เขาแสร้งพูด เพื่อหยั่งความรู้สึกของสาวน้อย ประสบการณ์บอกกับตัวเองว่า อรสาได้รับความเจ็บปวดก็จริงอยู่ แต่ในขณะเดียวกันอารมณ์ใคร่ของกามารมณ์ยังไม่ทันจางไปจากหัวใจของดรุณีวัยรุ่น เขาเองก็อยากที่จะลิ้มรสสวาทจากเธออีกเป็นครั้งที่สอง ชิดชัยก้มลงประทับจูบ พรมไปทั่วใบหน้าอย่างแผ่วๆ แล้วริมฝีปากของคนทั้งสองก็ประกบกัน ลิ้นต่อลิ้นม้วนกันเป็นพัลวัล มือที่จับไหล่เธอไว้มาแกะปมผ้าขนหนูออกหลุดล่วงลงกับพื้น สองเต้านมถูกกำเคล้าคลึงเบาๆ อรสาถึงกับกอดรัดร่างเขาไว้แน่น ริมฝีปากบดขยื้กันไปมา
แล้วมือของชิดชัยก็เลื่อนลูบไล้มาตามแผ่นหลังจนถึงแก้มก้น ลูบคลำบีบเบาๆ เป็นการกระตุ้นสวาทไฟราคะในดวงจิตของสาวน้อย ที่เพิ่งได้ลิ้มรสสวาทเริ่มคุขึ้นมาอีก เธอลืมความปวดร้าวเจ็บแสบเมื่อสักครู่ไปจนหมด มีแต่ความกระหายหิวสวาท ร่างเธอสั่นสยิวปรารถนาที่จะลิ้มรสสวาททีมีทั้งความเผ็ดร้อนจนแสบทรวงขึ้นมาอีก
ชิดชัยโน้มร่างอรสาให้นอนหงายลงบนเตียง โดยสองขาของเธอตกห้อย ปากยังไม่ยอมถอนออกจากกัน สองมือเขาขยำเต้านม เคล้าคลึง .ใช้ฝ่ามือละเลงจนหัวนมแข็งขึ้น อรสาทำท่าอ่อนระโหยโรยแรง เมื่อเขาถอนริมฝีปาก เขาบอกเธอ
“คราวนี้พี่จะแผ่วเบากับสาที่สุด ไม่ให้รุนแรงจนสาเจ็บปวดอย่างตะกี้อีก"
แล้วชิดชัยเลื่อนมาซุกไซ้ที่สองเต้านม จูบไล้ลงมาจนถึงหน้าท้องซึ่งอรสาแขม่วเป็นคลื่น เขาจับขาสองข้างของเธอขื้น วางฝ่าเท้าเธอกับขอบเตียง จับต้นขาเธอแยกถ่างพอประมาณ หน้าของเขาคลุกเคล้าที่โคกสวาท อรสาถึงกับเอื้อมมือมารั้งเขา
“พี่...สกปรก ไม่ดีหรอก”
เขาเงยหน้าสพตาสาวน้อยที่มีประกายฉํ่าเยิ้มบอกอารมณ์กำหนัด
"สาเจ็บปวดทรมานมาพอแล้ว ขอให้สานอนอยู่เฉยๆ พิ่จะทำให้สาได้รับความสุขอีกครั้ง ไน่ว่าส่วนไหนของสา พี่ไม่เคยรังเกียจ”
คราวนี้เขาไม่ได้ซุกหน้าที่ตรงลานกำเหนิดเท่านั้น เขาพุ่งลิ้นเข้าไประรัวที่ปุ่มกระสันต์ของเธอ อรสาถึงกับสะดุ้งจนก้นลอย เขาแตะขาเธอให้แหกกว้างออกไปอีก ลิ้นที่เลียไล้ปุ่มกระสันต์ระรัวจนก้นเธอส่าย เสียงซู๊ดซ้าดดังจากปากสาวน้อยอีก แล้วเธอก็หลังน้ำเหนียวๆ ออกมา เขาพุ่งลิ้นเข้าไปภายในถ้ำสวาท กวาดล้วงเข้าไปในรู ผลุบเข้าผลุบออกจนก้นเธอลอยจากที่นอนส่ายไปมาด้วยความเสียวสุดกลั้น น้ำรักหลั่งทะลักออกมา เขาไม่ได้แสดงความรังเกียจแม้แต่น้อย บริเวณปากแคมชื้นฉ่ำไปด้วยน้ำเหนียวๆเป็นเมือก
อรสาทนไม่ไหวที่จะปล่อยให้เขาทำให้เธอเสียวแต่ผู้เดียว เอื้อมมือมาไขว่คว้าร่างเขา ดึงขื้นมาพร้อมกับกอดรดเขาไว้
ชิดชัยรู้ดีว่าเธอไม่ต้องการให้จิตใจเธอสั่นเสียวแต่ผู้เดียว แต่ต้องการให้เขาร่วมรสอย่างเมื่อครู่ เขาไม่รอช้าจับท่อนลึงค์ขนาดเขื่องยัดเข้าไปในรูสังวาสทันที มันไถลลื่นสะดวกกว่าครั้งแรก เขาใช้สองแขนช้อนใต้ขาพ้บของเธอโน้มไปข้างหน้า เขายืนกระเด้าอย่างสบาย แถมโยกย้ายก้นส่ายไปมา ผสมกับอรสายกก้นขื้นส่ายตาม  
การเล่นเสียวคราวนี้อรสาได้รสชาติหวานชื่น เสพสุขสมอย่างเดียว เพราะรูที่ฟิตแต่แรกนั้น มันได้ขยายเพราะการบุกทะลวงครั้งแรกแล้ว เขาชักออกด้นเข้าช้าๆบ้าง เร่งเร้าบ้างแล้วแต่จังหวะลีลา อรสาเสียวซ่านไปทุกๆขุมขน เกือบครึ่งชั่วโมงอรสาหลั่งน้ำรักออกมาบ่อยๆคราวนี้เมื่อท่อนลึงค์จมหายเข้าไปในรูสังวาสจนหมดแล้ว เธอจึงไม่เจ็บแสบเท่าไรนัก ได้แต่ครางซี้ดๆตลอดเวลา
ในที่สุดพอเขาจะถึงจุดสุดยอด ชิดชัยก็เร่งกระเด้าถี่ยิบ ส่ายก้นโยกย้ายประกอบ แล้วก็พุ่งน้ำกามพรวดเข้าไปเต็มแรงจนอรสาผวากอด เสียงเครือ
“โอย...อูย...พี่ขา....”
ชิดชัยกระเด้าถี่พร้อมกับก้มลงดูแคมนอกสองข้างผลุบผลับตามท่อนลึงค์ของเขาเข้าๆออกๆไปด้วยพลังเขามีอยู่ทั้งหมดเท่าไหร่ เขาเร่งจี๋จนอรสาตัวสั่นพาลจะช็อคตาย
เมื่อเขาหยุดนิ่ง อรสาก็เอาขากระหวัดรัดเอวเขาไว้ อมท่อนลึงค์ใว้อย่างไม่ยอมให้ถอนจากรูสวาทออกไป...

ถล่ม พรหมจรรย์


14 ปี ความสาวที่ร้อนระอุ

ที่คอร์ตเทนนิส.....
มลรัฐนิวแฮมไชร์ เมืองนิว­อิงแลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือสุดของสหรัฐอเมริกา มีครอบครัวหนึ่งประกอบด้วยพ่อแม่และบุตรสาว คือ แองเจล่า
แองเจล่าอายุเพิ่งจะเลย 14 ปีเมื่อคริสต์มาสผ่านมานี้เอง แต่ความเจริญเติบโตของร่างกายทำให้แลดูเหมือนสาววัย 17-18 เรือนร่างอวบอัดสมส่วนไปตลอดทั้งตัว หน้าอกพุ่งราวกับสาวๆ เอวคอดกิ่ว รับกับตะโพกผาย ก้นกลมกลึง หลายคนออกปากชมว่าโตขึ้นจะสวยหาคนจับยาก แองเจล่าพึงพอใจปลื้มใจจนระเริงตัว
วันหยุดของโรงเรียน เด็กน้อยเริ่มมาฝืกเล่นเทนนิสที่คอร์ต “ออลก้า” อยู่ห่างบ้านเพียงไม่ถึงกิโลเมตร โดยใช้จักรยานคู่ชีพเป็นพาหนะ เธอพยายามทำตัวเป็นสาวด้วยการคลุกคลีกับเพื่อนรุ่นพี่และเด็กรุ่นหนุ่ม เธอจึงเป็นน้องใหม่ของ “ออลกัา” คอร์ตเทนนิส
ทั้งๆที่รู้ว่าวันนี้ทางคอร์ตขอหยุดหนึ่งวัน แต่เด็กน้อยก็อุตส่าห์มา โดยนุ่งกางเกงขาสั้นสีขาวสวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน สะพายถุงแร็คเก็ตออกจากบ้าน เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องมีคนมาเล่นบ้าง เมื่อมาถึงคอร์ต“ออลก้า” ก็ปรากฏว่ามีคนมาเล่นบ้างเหมือนกัน คอร์ตหนึ่งเป็นพวกหนุ่มสาว มีเพียง 4-5 คน ส่วนอีกคอร์ตหนึ่งยังว่าง แล้วเธอก็เห็นทอม แอนดรูส์ เทรนเนอร์รูปหล่อหนุ่มฉกรรจ์   แองฯทั้งพอใจและไม่พอใจสำหรับเทรนเนอร์คนนี้ ที่พอใจก็เพราะเขามีเรือนร่างที่กำยำ สูงใหญ่ได้ส่วนสัด ใบหน้ามีเสน่ห์คมคาย แต่ส่วนที่เธอไม่ค่อยจะพีงใจก็คือทอมมองเห็นเธอเป็นเด็กเล็กๆ เสียงทอมร้องทักอย่างแจ่มใส
“หนูน้อยจะมาซ้อมเทนนิสเหรอ ก็เขาบอกแล้วว่าวันนี้เป็นวันหยุด”
แองฯเริ่มไม่พอใจ ทำหน้ากระเง้ากระงอดเมื่อถูกเรียกว่าหนูน้อย ค้อนประหลับประเหลือก ทอมถึงกับหัวเราะ เดินเข้ามายืนตรงหน้า
“อะไรกัน   มาถึงก็ค้อนเอาๆ เกลียดฉันนักหรือ”
แองฯทำหน้าบึ้ง เม้มปาก สักครู่ถึงตอบ
“เค้าไม่ใช่เด็กๆนะยะ มาเรียกแต่หนูน้อยอยู่ได้”
เทรนเนอร์อย่างทอมผ่านโลกมาโชกโชน เขามองเห็นความไม่เดียงสาของแองฯ แต่ในขณะเดียวกันก็พิจารณาเรือนร่างของแองฯอย่างขบคิด ในใจกำลังคิดจะสอนเกมพิศวาสให้เธอ เขาเข้ามาจับศีรษะแองฯสั่นอย่างเอ็นดู แต่ก็มีความหมาย
“ขอโทษ ๆ ต่อไปนี้ ฉันจะเรียกเธอว่า แองฯสาวน้อยผู้น่ารักที่สุดในโลก”
เท่านั้นเอง แองเจล่าก็ยิ้มแก้มแทบปริ เริ่มมีจริตจกร้านขึ้นมาทันที
“หนูนึกว่าจะมีคนมาเล่นบ้าง ก็ลองมาดู”
“ไม่เป็นไร ฉันจะช่วยเป็นคู่เล่นให้ ขอเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวสักครู่นะสาวน้อย”
ความจริงทอมเตรียมจะออกไปเที่ยว แต่เพื่อเป็นการเอาใจเด็กน้อยใจใหญ่ และหวังผลข้างหน้า เขาก็เริ่มเอาใจ
เพียงห้านาทีเขาก็อยู่ในชุดนักกีฬา พร้อมกับถือแร็กเก็ตวิ่งออกจากที่พักเข้ามา
จากนั้น ทอมกับแองฯก็ลงสนาม เริ่มเสิร์ฟลูก การเล่นครั้งนี้ ทอมซึ่งเป็นนักเทนนิสจนได้เป็นเทรนเนอร์มักจะตีถูกผิดบ่อยๆ เพราะเขาไม่ค่อยจะมองลูกเทนนิสเท่าไรนัก เขามัวแต่สนใจลูกที่ใหญ่กว่าเทนนิสสองลูกบนหน้าอกแองฯที่เต้นกระเพื่อม
“ว้า เทรนเนอร์ตีลูกยังไง ยังกับคนเล่นไม่เป็น” .
ทอมตอบไม่ได้ คราวนี้เขาทำท่าตั้งใจ โยกย้ายลูกจนแองฯวิ่งไล่แทบไม่ทัน และครั้งหนึ่งที่ทอมแกล้งโยกลูก แองฯถลาเข้ามาจะตี แต่เกิดสดุดขาตัวเองถึงกับล้ม พอลุกขึ้นก็รู้สึกปวดข้อเท้าถึงกับนิ่วหน้า ทอมก็เลยวิ่งเข้ามา ทรุดตัวลงนั้งยองๆ
‘‘เป็นไงแองฯ?"
“รู้สักข้อเท้าจะแพลง ก็ทอมเล่นแกล้งหนูนี่”
ทอมหัวเราะ แล้วบีบนวดข้อเท้าข้างขวาที่เคล็ดของแองฯเบาๆ ทำให้แองฯค่อยคลายปวดลงบ้าง แต่ขณะเดียวกันสายตาก็บังเอิญมาพบกับหว่างขาของทอม อวัยวะที่ซ่อนอยู่ภายในเป้ากางเกงรัดเน้นให้เห็นเป็นท่อนลำขนาดเขื่อง ประกอบด้วยส่วนกลมๆ เธอพิจารณาจนทอมสังเกตเห็นแต่ ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเสีย มือที่บีบข้อเท้าข้างหนึ่งนั้น อีกมือก็บีบนวดตามน่อง แล้วขึ้นไปจนถึงใต้ขาพับ หัวเข่า เลยสูงขึ้นไป ขยำเบาๆ พร้อมกับแกล้งถ่างขาที่บีบออก เขามองลอดขากางเกงแองฯเข้าไปบ้าง พยายามบีบเข้าไป แต่ขากางเกงแคบ ฝ่ามือเขาจึงล้วงเข้าไปไม่ได้
แองฯเริ่มรู้สึกผิดปกติขึ้นในใจ แต่ก็สะกดไว้ เพราะชักกระดากอาย
“ค่อยยังชั่วแล้วทอม ขอบคุณมาก”
ทอมเลยลุกขึ้นรั้งแขนแองฯ แต่เมื่อแองฯยืนสบัดขาและก้าวเท้า ก็ทำหน้านิ่ว
“อู๊ย....” แองฯครางพร้อมกับเอื้อมมือมาแตะตะโพกข้างเดียวกัน แสดงว่าเจ็บตะโพก “ช่วยจูงจักรยานมาให้หนูที กลับบ้านล่ะ เลิกแล้ว”
สมองทอมกำลังกำหนดแผนการไว้ในใจ เมื่อเด็กวานวืนนี้อยากเป็นสาว เขาก็จะต้องหาทางถล่มพรหมจรรย์เสียให้รู้สำนัก เมื่อโอกาสต่างๆก็อำนวย
“อย่าเพิ่งกลับเลย   ฉ้นจะนวดให้   ตอนนี้จะไปอาศัยคลีนิคที่ไหนก็ไม่ได้เพราะเป็นวันหยุด”
ทอมไม่รอฟังคำตอบแองเจล่า เขาช้อนร่างของแองฯขึ้นปะทะอกเขา เดินไปในห้อง แทนที่จะเข้าห้องพักนักกีฬา เขากลับพาแองฯเข้าห้องพักส่วนตัวของเขา โดยแองฯไม่ทันคาดคิด
ทอมวางแองฯลงบนเตียงนอน หันมาปิดประตูล๊อคกลอน . แล้วเข้ามาคุกเข่าตรงหน้าเธอ บีบนวดข้อเท้า แล้วจับขาเธอเหยียดออก   บีบนวดตามท่อนขา สูงขึ้นไปจนฝ่ามือเขาไปแตะต้องส่วนอวบนูนเหนือหว่างขาเหมือนไม่ตั้งใจ เขายกเท้าเธอสูงแล้วนวดใต้โคนขา เขาทำอย่างตั้งอกตั้งใจ สักครู่หันมาบอก
“นอนให้สบายสาวน้อยผู้น่ารัก”
แองฯรู้สึกว่าเป็นคำพูดที่หวานถูกใจ เธอมองเทรนเนอร์อย่างพึงใจขื้นมา แต่เมื่อเขายืนแล้วยกขาเธอขึ้นสูง มือหนึ่งบีบจับที่ข้อเท้า ส่วนอีกมือหนึ่งนวดเฟ้นจากโคนขาจนประชิดหว่างขาเธอสันมือเขาป้วนเปี้ยนอยู่ตรงส่วนสำคัญ บางครั้งเธอสะดุ้ง อารมณ์เริ่มรู้สืกหวั่นไหวพิกลขึ้นมา แล้วเขาวางเท้าของเธอลงกับพื้น เอื้อมมือมาจับเอวเธอ ทำท่าจะพลิก แองฯสงสัย
"นั่นทอมจะทำอะไร?”
“ตะโพกเธอเจ็บ ฉันจะนวดให้”
แองฯเลยพลิกนอนควํ่า แต่สองขายังห้อยอยู่ข้างเตียง
บัดนี้ก้นกลมๆ ซึ่งประกอบด้วยเนื้อสองก้อนอยู่ตรงหน้าเขา ทอมคุกเข่าบีบขยำเบาๆ    มันแข็งเหมือนหินผสมสำลี คล้ายลูกบอลที่สูบลมจนเกือบจะได้ที่ เขานวดเฟ้นขยำหนักเบาสลับกัน
“นวดแบบนี้ไม่ได้ผลหรอก อยู่เฉยๆก็แล้วกัน”
แองฯตกใจเมื่อทอมเอื้อมมือมาปลดตะขอกางเกงที่หน้าท้องของเธอ แล้วลากซิบลงไป เธอตะปบมือเขาไว้
“ทอม แบบนื้หนูก็โป๊น่ะซิ!”
“โธ่เอ๊ยสาวน้อย นี่เทรนเนอร์ เป็นผู้ใหญ่แล้ว อายทำไมกัน”
แองเจอล่าเลยไม่กล้าขัดขืน ปล่อยให้ทอมรูดกางเกงขาสั้นออก ก้มหน้ากับฝ่ามือซ่อนความอาย
ทอมถอดไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน รูดจากขาแองฯออกไป เขาจ้องมองก้อนเนื้อกลมขาวเนืยนเหมือนละเลงด้วยครีม สะอาดเกลี้ยงเกลาเบียดเสียดสนิทกันแน่น จิตใจเขาเริ่มระทึก ค่อยๆเอื้อมมือไปสัมผัส ฝ่ามือคลึงตรงที่แองฯบอกว่าเจ็บ ส่วนอีกมือหนึ่งลูบไล้ก้อนเนื้ออีกก้อนหนึ่งอย่างแผ่วเบา บางครั้งก็บีบนวดขยำ ท่อนเนื้อในกางเกงของเขาเริ่มขยับลำตัวขึ้น
แองฯเริ่มสั่นไหว ความรู้สึกประหลาดเกิดขึ้น ขนลุกซู่ บอกไม่ถูกว่าจิตใจเริ่มเต้นแรงทำไม แองฯสะท้าน เมื่อรู้สึกว่ามือทั้งสองของทอมเลื่อนขึ้นมาลูบไล้ตามเรือนร่างเธอขึ้นมา สอดมือเข้าไปในเสื้อยืด จนกระทั่งกระทบกับหน้าอก เพราะเธอนอนแนบลำตัว ติดกับที่นอน เธอจึงขยับโหย่งหน้าอกขึ้นโดยไม่รู้ตัว มือเขาแกะยกทรงเธอออก แล้วล้วงเข้าไปกำนมสองข้างของเธอไว้ เขาบีบเบาๆ สองนิ้วเขี่ย หัวนมเธอจนแข็งชัน แองฯเริ่มคราง
“ทอม...คุณทำอะไรหนู?”
ทอมเจนจัดเรื่องโลกีย์ เขารู้ดีว่าบัดนี้ลูกไก่น้อยๆในกำมือเขาตัวสั่นเทา ไม่ยอมดิ้นหาอิสรภาพแล้ว แต่เขาไม่กล้าหักโหมรุนแรงถึงแม้จะเกิดการกำหนัดขึ้นมา แองเจล่าเปรียบเสมือนแก้วที่เปราะบางยังไม่เคยใช้ หากจะเทน้ำร้อนจัดพรวดพราดลงไป มันย่อมแตกได้ง่าย เขาจะต้อง จุดไฟราคะเติมเชื้อทีละน้อยจนลุกโชนได้ที่ เขาจึงจะเริ่มปฎิบัติงานกามกิจ
แองฯรู้สึกว่าเขาเอนกายนอนเคียงข้างเธอ พลิกเธอให้หงายมาทางเขา แองฯโอนอ่อนตามเหมือนขี้ผึ้งเมื่อถูกไฟรน อยากรู้เหมือนกันว่าทอมจะมีบทบาทอะไรกับเธอต่อไป พอพลิกหน้ามาทางเขาแว่บหนึ่งแองฯเห็นทอมตัวเปลือยเปล่า แองฯรีบหสับตาปี๋ ปล่อยตัวปล่อยใจให้วาบหวิวไปดามลีลาของเขา
ทอมประคองใบหน้าแองฯเข้ามา เผยอตัวลุกขื้น แล้วก้มลงจุมฟิตประทับลงไปบนแก้วแก้มนวลปลั่ง แล้วเรื่อยมาประกบที่ริมฝีปากแองฯเหมือนกลีบกุหลาบที่เผยอรับอย่างชวนเขิญ ลิ้นต่อลิ้นสัมผัสกันระรัว มือเขาบีบเคล้าเต้านมซึ่งโตเขื่องกว่าผลแอปเปิ้ลเล็กน้อย เป็นไตแข็งแต่หยุ่นยั่วเย้ากามารมณ์
แองฯหลับตาพริ้ม ได้แต่ครวญครางออกจากลำคออย่างเสียวกระสันสุดทน
มือทอมเริ่มป้ายพริ้วไปทั่วเต้านม แล้วเคลื่อนย้ายลงไปจนถึงหน้าท้อง ซึ่งแขม่วเป็นคลื่น มือเขาเลื่อนต่ำลงไปอีกจนสัมผัสกับเนินโคกซึ่งมีสันฐานกว้างเกือบเต็มฝ่ามือ ทอมลูบไล้แล้วนวดขยำ
“อูย...อูวส์...”
เสียงแองฯครางไม่ได้ศัพท์ ก้นตัวเองเคลื่อนลอยจากที่นอนไม่รู้สึกตัว เธอรู้สึกว่าทอมเอานิ้วมือกรีดตรงร่อง ของแคมที่เบียดติดกันสนิท
ระหว่างที่เขากรีดนิ้วตามร่องแคม เขารู้สึกว่ามันแข็งแต่นิ่ม   เขาละจากริมฝีปาก ลากลิ้นลงมาดูดหัวนมที่แข็งชูชัน จนเด็กสาวบิดตัวเป็นเกลียว เขาอยากดูเนินสวรรค์ของเธอ   เขาจึงไล่ลิ้นเสียลงมาผ่านหน้าท้อง จนเผยอหน้ามองที่โลกบริสุทธิ์ผุดผ่องเต็มตา
มันอวบนูนเป็นกระเปาะ มีไรขนชั้นบางๆ สองแคมเป็นสีชมพูเรื่อประกบชิดกัน แสดงว่าพรหมจรรย์ของเธอยังคงรักษาอยู่ไม่ด่างพร้อย ทอมเอื้อมจับขาแองฯใหถ่างออก   ทำให้แคมสวรรค์แย้มเปิดอ้าเห็นเนื้อแดงสด ปนน้ำเมือกที่เธอหลั่งซึมปริ่มปากรู และเหนือร่องชั้นใน ปุ่มกระสันแพลมออกมา เขาใช้สองนิ้วแหวกแคมให้กว้างออก ก้มหน้าประชิดลงไปที่เนินโคก พุ่งลิ้นไปตรงรอยผ่าที่ขยายอ้า มันสัมฝัสกับปุ่มกระสันซึ่งแข็งตัว แองฯถึงกับสะดุ้ง อุทานด้วยความเสียวกระสันต์  
“โอ๊ย:.."
ก้นลอยสั่นสะท้าน ทอมรัวลิ้นที่ปุ่มกระสันต์แล้วควานกวาดไปที่ปากแคมใน. แล้วก็มาเขี่ยดุนที่จงอยปุ่มสวาท จนรู้สึกว่ามีน้ำเมือกเหนียวๆ ซึมเยิ้มออกมา แล้วทอมก็พุ่งลิ้นเซาะรูเข้าไปข้างใน ระรัวเหมือนลิ้นงู
เด็กสาวกรีดร้องด้วยความเสียวซ่าน ร่างสั่นพริ้ว เมื่อเขาใช้ปากดูดปุ่มสวาทที่แข็งตัว
“ทอม...โอย...”
เธอ?บหัวทอมไว้แน่น แทนที่จะดึงเขาเคลื่อนออก กลับขยำด้วยความสุดเสียว แถมยังแอ่น ก้นรับโดยอัตโนมัติ
ในขณะที่พุ่งลิ้นเข้าไปในรูสังวาสของเด็กสาวบริสุทธิ์อย่างแองเจล่านั้น เขารู้ด้วยการสัมผัสของลิ้นว่ารูเด็กสาวมันเล็ก เขาจะต้องใช้ลิ้นนำร่องให้รูขยายใหญ่กว่าปกติ มิฉะนั้นลำลึงค์ค่อนข้างใหญ่ของเขาจะไม่สามารถล่วงล้ำเข้าไปได้ สำหรับรูโยนีที่ไม่เคยมีมนุษย์ไหนมาแตะต้อง
ความเสียวกระสันต์ของแองฯรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ   ขาเธอขยับอ้าออก จนปากถํ้าสวาทแบะแยก เพื่อให้ลิ้นของทอมพุ่งเข้าไประรัวได้สดวก แล้วเธอก็หลั่งน้ำเมือกเหนียวๆออก ซึมมาไม่หยุดหย่อน   มันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ที่เธอเข้าใจเมื่อถูกปฎิบัติเป็นครั้งแรก นุ่มนวลละมุนละไม
เมื่อทอมเห็นว่าไฟราคะที่เขาเติมเชื้อลงไปทีละน้อยลุกโพลงได้ที่แล้ว เขาก็ผละหันตัวมาประกบร่างเด็กสาว ซึ่งมีหน้าตาบูดเบี้ยวเหยเก เขาประทับจูบลงไปทั่วเต้านม ทั้งดูดและเอาหน้าละเลงคลุกเคล้า แล้วเลื่อนมาประกบริมฝีปาก ม้วนลิ้นเป็นพัลวัลในปากแองฯ
เขาใช้เข่าสองข้างแหกขาเธอกว้าง เอื้อมมือมาช้อนใต้ขาพับเธอ ยกขึ้นโน้มไปทางท่อนบนของเธอ แต่แยกถ่างอนแบะอ้า ก้นเด็กสาวลอยจากที่นอน เขาคุกเข่า เอื้อมมือประคองท่อนลึงค์มหึมาจ่อตรงรูกว้าง ยัดหัวบานเข้าไป เพียงแต่หัวมิดเข้าไปเท่านั้น
แองฯถึงกับสะดุ้งผวาครางเสียงกระเส่า
“โอ๊ย....ทอม....”
ทอมปิดปากเธอด้วยปากเขา เขาจะต้องเร่งเร้าอารมณ์สาวน้อยให้หนักขึ้น เพราะรูของสาวน้อยยังไม่สู้ขยายเท่าไหร่ เมื่อเขาเอามือแหวกแคมของแองฯให้เปิดกว้าง เขาก็เสือกท่อนลึงค์เข้าไปได้อีกหน่อย   คราวนี้แองฯไม่ถึงกับสะดุ้ง เขาก็ค่อยๆเคลื่อนมันเข้าไป แล้วถอนออกและดันเข้าไปใหม่ คราวนี้ค่อยลึกเข้าไปกว่าเดิม ทอมไม่หยุดยั้งการเร่งเร้า   นอกจากเคล้นเต้านมซึ่งกลมใหญ่ขนาดฝ่ามือกำแล้ว ยังเอานิ้วเอื้อมลงมาเขี่ยปุ่มกระสันต์อีก   จนน้ำเมือกเหนียวซึมออกมา ก็ได้จังหวะเขาเลื่อนยัดลำลึงค์เข้าไปในรูอีก มิหนำซ้ำก้นของเขายังขยับส่ายเพื่อให้ท่อนลึงค์ควานรูให้กว้างขึ้น
แอนต์รู้สึกว่าแคมทั้งสองข้างแทบจะฉีกจากกัน เพราะท่อนเนื้อของทอมที่แยงเข้าไปนั้นมันใหญ่เหลือขนาด เธอเจ็บปวต รู้สึกทรมาน แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ต้องสะกดกลั้น เพราะทำให้เธอมีความสุขอย่างท่วมท้นหัวใจ ก้นเธอพลอยส่ายโยกย้ายตามไปด้วย และทอมก็ไม่ได้รุนแรงขยํ้าเธอเหมือนเสือหิว ความปวดร้าวจึงผ่อนคลายไปบ้าง สองมือเธอกอดรัดเขาไว้แน่นยิ่งกว่างูรัดเสียงเธอซี้ดซ้าดโอดโอยระคนกัน สายตาชุ่มฉํ่าด้วยอารมณ์พิศวาสอย่างสุดกลั้น
เมื่อทอมใช้ความพยายามอย่างนุ่มนวล เขาก็สามารถยัดท่อนลึงค์ใหญ่เข้าไปจนแทบหมต เมื่อเขาก้มลงไปดู เนินสวาทของแองฯอมท่อนลึงค์เขาไว้แทบแตกปริ บวมเป่ง ปากแคมนอกลู่ตามเข้าไป
ความหวาดหวั่นเริ่มคลายเมื่อเห็นทอมรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา ทอมขอให้เธอช้อนใต้ขาพับของเธอไว้ เมื่อแองฯปฏิบัติตาม คราวนี้มือเขาก็ว่าง เขาเริ่มขยำเต้านมสองข้าง ปากก็ประกบกับริมฝีปากเธอ มันทำให้เธอลืมเจ็บปวด
เด็กเพิ่งจะเข้าวัยสาว ไม่เคยมีชายใดมาแตะต้อง เมื่อมาถูกหนุ่มฉกรรจ์แถมมีท่อนลำลึงค์ใหญ่กว่าธรรมดา รูจึงฟิตทั้งขมิบรัดท่อนเนื้อระหว่างแหย่แยง แองฯจึงต้องกัดฟัน เมื่อทอมเริ่มขยับถี่ขื้น เธอรู้สึกรูเล็กๆแทบปริฉีก แต่มันก็เสียวซ่านรัญจวนใจจนลืมความเจ็บปวดรวตร้าว ก้นส่ายแอ่นอก เสียวจนสุดกลั้น แองฯก็หลั่งน้ำเมือกออกมาอีก   1
ทอมเองก็สุดที่จะกลั้นอย่แล้วเ เพราะความสดใหม่บริสุทธิ์ผุดผ่องของแองฯ ทำให้เขาก็พยายามสะกดกลั้นไม่ยอมหลั่งน้ำอสุจิออกมา แต่รูข้างในที่ขมิบรัดท่อนเนื้อของเขาเต้นตุ๊บๆ แล้วเต้านมที่เขาเคล้าเคล้นแข็งหยุ่นมือ ทำให้เขาสิ้นความอดกลั้น. เขาเริ่มชักลึงค์เข้าๆออกๆ ซอยถี่ขึ้นๆ อาศัยนํ้าเมือกเหนียวๆในรูสังวาสของแองฯ ช่วยให้เกิดความหล่อลื่นทำให้รูขยายออก เขาเร่งสตีม ยิ่งแองฯครวญซี้ดซ้าดลั่น ร่างพริ้วไปทั้งตัว เขาก็ระดมพลังกระเด้าถี่เต็มที่ แล้วในที่สุดเมื่อ เขาจะบรรลุถึงจุดสุดขีด เขาก็กระแทกท่อนลึงค์มหึมาพรวดเข้าไปในรูจนมิดท่อนเนื้อ พร้อมกับพุ่งน้ำอสุจิเข้าไปในมดลูกแรงยังกับสูบน้ำดับเพลิง แองฯถึงกับกรีดร้องอย่างลืมตัว  
“โอ๊ย....อู๊ยส์...ทอม....ทอม....หนู.....”  
แองฯกอดรัดทอมแน่น ทอมยิ่งกระแทกถี่ยิบ ไม่มีน้ำอสุจิซึมออกมาเลย เพราะแคมของแองฯรัดท่อนเนื้อยังกับสาหินของเขาไว้แน่นจนไม่มีช่องทางให้ซึมออกมาแม้แต่น้อย ทอมยังซอยด้วยความกระสัน ขาสองข้างของแองฯกอดกระหวัดรัดเอวทอมไว้ ตัวเธอถูกกระแทกจนโยนขึ้นโยนลง ร้องครวญครางไม่หยุดปาก  
สักครู่ ทอมก็เพลาการกระเด้าลงจนหยุดนิ่ง แล้วซบตัวทาบทับกับแองฯเป็นเนื้อเดียวกัน เขา ทอม แอนดรูส์ เป็นผู้ถล่มพรหมจรรย์แองเจล่า เด็กเพิ่งจะเข้าสู่วัยสาว
ทอมแช่ท่อนลึงค์ใหญ่ของเขาไว้ จนมันเริ่มจะอ่อนตัว แต่เมื่อหัวของมันถูกกล้ามเนื้อในส่วนลึกของรูสังวาสบีบรัดเต้นตุ๊บๆ มันก็ทำท่าไม่ยอมแพ้ ทอมยังหนุ่มฉกรรจ์ (ฉะกัน)   จิตใจเป็นนักกีพา ไม่รู้จักกับคำว่าแพ้ ก็เริ่มบทบาทเกมต่อไป ถึงแองฯจะร้องอุทธรณ์ว่าภายในช่องคลอดของเธอ ปวดระบม ขอทุเลาก่อนก็ตาม แต่ทอมก็ค่อยๆเติมเชื้อไฟราคะที่คุกรุ่นยังไม่ทันดับให้ลุกโชนขึ้นอีก
คราวนี้เขาพลิกดัวอีหนูใจถึงให้ลองปฏิบัติกามกิจอย่างเขาบ้าง ถึงจะเขินอายอย่างไร แต่เพื่อรสสวาทบาดใจที่ไม่ยอมอิ่ม ทำให้แองฯต้องทำตัวเป็นจ๊อกกี้หัดใหม่ ขึ้นขยับขับขี่ม้า โดยอ้ารูสวาทคาบท่อนเนื้อกำยำใหญ่ไว้ แล้วค่อยๆเหยาะย่างอย่างเกร็งๆ แต่พอทอมบีบเคล้นเต้านมบ้าง เอานิ้วเขี่ยไชปุ่มกระสันที่ผลุบๆโผล่ออกจากแคมมาบ้าง
แองฯก็เริ่มขยับตัวขย่มช้าๆ จนกระทั่งแรงขึ้น อาศัยทอมยักย้ายส่ายก้นแถมเอื้อมมือมาโอบรอบเอวแองฯไว้ เลื่อนมาจับสองก้อนเนื้อที่ก้น ช่วยกระแทกกระทั้น แองฯก็เริ่มใจกล้าควบขี่อย่างทะยานใจ ถึงจะปวดร้าวระบมไปทั่วภายในรูสาาทบ้าง ก็มีน้ำอดน้ำทน เร่งขย่มอย่างใจสู้ ขาอ้ากว้างตั้งฉากกับลำตัว ทอมก็ช่วยแอ่นก้นขึ้น เมื่อรูมันขยายออก แองฯก็เกิดความสนุก คึกคักที่จะกดโยนีลงไปต่อสู้กับความใหญ่ของท่อนลึงค์มหึมา แต่เพราะความไม่ชำนาญ
ชั่วเดี๋ยวเดียว แองฯก็อ่อนกำลังเพราะหลังน้ำเมือกออกมา ท่าทางหอบเหนื่อย จนทอมสงสัย ต้องลุกขึ้นนั่ง คอยจับก้นกระแทกเข้าหาเขา แองฯช่วยขยับตัวบ้าง ส่ายบ้าง กอดกวัดรัดร่างทอมไว้แน่น คงจะเป็นเพราะกลัวตกม้าตาย ทอมถล่มทะลวงอย่างรุนแรงทวีขึ้นเป็นลำดับ พอถึงจุดหมายปลายทาง เขาก็พุ่งน้ำกามเข้าไปในมดลูกเด็กสาวจนสั่นสะท้านแทบจะขาดใจตาย
ทอมยังมีพลังที่จะสอนกามศาสตร์ต่อไปอีกสักเกม   แต่แองฯขอทุเลา บอกว่าช่องคลอดของเธอระบมข้ำไปหมดแล้ว ทอมก็ได้แต่กอดรัดจูบปากแองฯอย่างดูดดื่มโดยไม่ยอมถอนท่อนเนื้อของเขาออกจากช่องสังวาสของแองฯ ปล่อยให้เธอหนีบคารูไว้อย่างนั้น ทอมขอสัญญาว่าแองฯจะต้องเป็นของเขาตลอดไป  
แองฯรับปากอย่างมั่นใจ เพราะเขาเป็นชายคนแรกที่ “ถล่มพรหมจรรย์" ของเธอ

แม่ค้าขายตัว




เริ่มขาย...
อดีตย้อนถอยหลังไปประมาณ 30 กว่าปี ก่อนรัฐบาลจอมพล ป. จะออกกฎห้ามกินหมาก ห้ามผู้หญิงนุ่งโจงกระเบน และห้ามอีกหลาย ๆ ข้อ เพื่อพัฒนาให้คนไทยเจริญก้าวหน้าในการแต่งกายตามสมัยนิยม
ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ ตำบลท่าคล้อ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ชง ล้อมไปด้วยแควใหญ่ สองฝั่งเป็น เนินเขา สูงต่ำสลับๆซับซ้อนกันไป บางแห่งเป็นเนินดินร่มรื่น แต่บางแห่งก็เป็นป่ารกชัฎ ผู้ชายก็ยังนิยมนุ่งโสร่ง แต่ถ้าอยู่กับบ้านหรือเพ่นพ่านในละแวกบ้าน  ก็นุ่งผ้าขาวม้าตัวเดียว ส่วนผู้หญิงก็นุ่งโจงกระ­เบน สำหรับส่วนบนก็มักจะใช้ผ้าแถบผืนเดียวปกปิดของสงวน แต่ถ้าทำงานก็จะเปลี่ยนเป็นตะเบงมาน เพื่อให้ดูทะมัดทะแมง หากจะเดินทางไปไกลๆ หรือเข้าเมือง ถึงจะสวมเสื้อแขนกระบอก ซึ่งเก๋ไก๋สำหรับสมัยนั้น
เรือนขนาดย่อมหลังหนึ่งปลูกห่างจากหลังอื่น พ่อบ้านคือทิดธง ตกพุ่ม ม่ายตั้งแต่นังช้อยยังใช้ผ้าแถบไม่เป็น สองพ่อลูกก็ช่วยกันทำมาหากิน โดย ขุดเผือกมันมาต้มบ้าง ทำแกงบวดบ้าง ใส่กระจาดแบกไปส่งที่ตลาดเล็กๆแถวนั้น แล้วก็ให้นังลูกสาวนั่งขาย ตัวเองก็ออกไร่หรือไม่ก็เข้าเมืองไปซื้อของมาขายบ้าง จนกระทั่งนังช้อยเริ่มใช้ผ้าแถบ บางทีก็ตะเบงมานเมึ่อหน้าอกหน้าใจที่มันแบนราบเรียบมาแต่เกิดชักจะตูมเต่งขึ้นมาทุกวี่ทุกวัน   เริ่มมีไอ้หนุ่มมาขายขนมจีบ สาวช้อยก็เริ่มมีจริตจะก้านความเป็นสาวขึ้น อาศัยที่หน้าตามันเกลี้ยงเกลา   แก้มผ่องเป็นพวง เลือดฝาดสาวฉีดจนดูเป็นสีแดงเรื่อ รูปร่างอวบอัดยวนตา เผือกมันที่มันนำมาขายก็หมดไปก่อนแม่ค้าคนอื่น เดี๋ยวนี้มันไม่ต้องอาศัยพ่อแบกกระจาด กระบุงมาส่ง มันใช้หาบจากบ้านผ่านลำเนาไพรเปลี่ยวเลาะริมแควร่วมสองกิโลจนถึงตลาดลำพังคนเดียว แต่มันก็ไม่เคยนึกกสัว เมื่อหนทางที่มันผ่าน นั้นบางแห่งเปลี่ยวและเงียบ เพราะสาวช้อยมันเดินมาตั้งแต่แก้ผ้าจนชิน
ชาวบ้านละแวกนั้นพากันออกปากชม ทิดธงที่ทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อแม่ของสาวช้อยโดยไม่ข้องเกี่ยวกับผู้หญิงคน ไหนเลย แต่แล้วจู่ๆวันหนึ่ง เมื่อทิดธง เข้าไปในเมือง แต่พอกลับมา มีสาวใหญ่เดินเคียงคู่หิ้วกระเป๋าหนังใบย่อมกลับมาบ้านด้วย ชาวบ้านมองกันจนเหลียวหลัง คนแก่ถึงกับนินทาเมื่อทิดธงคล้อยหลังห่างไปแล้ว
“ไอ้ห่าธงเกิดตัณหากลับเสียแล้วว่ะ”
คอสองก็ออกโรงพลอยผสม
“มันทาหน้าทาตายังกะช็อกการี”
เมื่อสาวช้อยหาบกระจาดเปล่ากลับบ้าน พ่อก็เรียกให้เข้ามาไหว้สาวใหญ่
“ช้อยเอ๊ย เอ็งมารู้จักแม่ใหม่เขาหน่อย ชื่อแม่ศรี”
สาวช้อยถึงกับสะดุ้ง มันเหมือนฝนตกโดยไม่มีเค้า แต่มันก็ยกมือไหว้ สาวใหญ่ถึงกับออกปากชมว่าหน้าตามันสวย
คืนนั้นอีสาวบ้านนอกนอนไม่หลับ พ่อไปรู้จักมักจี่ติดต่อกับแม่เลี้ยงคนนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ พ่อไม่เคยแย้มพรายให้มัน;รู้เลย มันพลิกไปพลิกมาจนกระทั่งหลับ
หน้าที่ที่มันปฏิบัติเป็นประจำแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ก็คือตื่นแต่มืด พอล้างหน้าล้างตาเสร็จ ก็เข้าครัวติดไฟตั้งข้าว ล้างเผือกมันที่พ่อขุดมาจากไร่เอาขื้ดินออก ถ้าทำแกงบวดก็ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่เข้ามืดวันนี้ เกิดอัศจรรย์ ขณะมันล้างเผือก อีสาวช้อยมันรู้สึกบ้านไหวสั่นคล้ายปลาอานนท์ที่นอนใต้พื้นดินมันพลิกตัว   แต่ที่มันฉงนก็เพราะสั่นเป็นจังหวะ อีสาววัยรุ่นชักฉงนลุกจากครัวมองหาสาเหตุ แล้วมันก็เดินไปดูที่ประตูห้องนอนของพ่อ ข้างประตูมีรอยฝาแตกเพราะความชราของไม้ ซึ่งพ่อตั้งใจว่าจะหาไม้มาเปลี่ยนหลายวันแล้ว มันก้มมองสอดสายตาเข้าไป มันทำท่าผงะเหมือนเห็นผี
“ตายห่ะ...." มันร้องอุทานในใจ
เพราะว่าพ่อไม่ได้นุ่งโสร่งหรือผ้าขาวม้า แก้เปลือยกายทั้งตัว กำลังควํ่าทับร่างแม่เลี้ยงๆซึ่งนอนหงายขาถ่างอ้า ผ้าผ่อนก็ไม่มีเหมือนกัน มันเห็นพ่อขยับก้นซอยยิกๆ ตรงหว่างขาแม่ศรี อีสาวช้อยถึงกับละสายตามายืนคิดว่า...นั่นพ่อกับแม่เลี้ยงเขาทำอะไรกัน ทำไมถึงสัปดนผ้าผ่อนไม่นุ่ง  
เพื่อให้หายสงสัย มันก็ก้มดูใหม่ พยายามแนบสายตาเข้าจนติดฝา คราวนี้มันเห็นชัดขึ้น ทั้งๆที่พระอาทิตย์ยังไม่โผล่จากทิวเขา แต่แสงจันทร์ที่สว่างสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างทำให้สาวช้อยเห็นถนัดถนี่ เมื่อตอนพ่อยกก้นขึ้น มันเห็นท่อนเนื้อที่ผู้ชายเขามีไว้เยี่ยวของพ่อ กดแทงเข้าไปในหว่างขาแม่เลี้ยง ซึ่งรกรุงรังด้วยขนดกดำเต็มพรืดไปหมด
อีช้อยมองให้สิ้นกังขา จนเห็นพ่อมันซอยก้นยิก ครู่เดียวก็ทำท่าเหมือนหมดแรง ทาบตัวอยู่กับร่างแม่เลี้ยง อีสาวช้อยถึงกับใจเต้นตูมตามไม่รู้ตัว ผละจากรอยฝาแตก เดินใจลอยเข้าครัว มือก็ท่างานไป ใจก็คิด ...นี่หรือการกระทำที่เรียกว่าผัวเมีย หัวใจสาววัยรุ่นเริ่มเกิดความกำหนัดตามธรรมชาติ
พอพระอาทิตย์โผล่จากทิวเขาขึ้นมาเต็มที่ อีสาววัยกำดัดก็พร้อมที่จะหาบของออกไปขาย แม่เลื้ยงเดินออกมาจากห้องนอน   หน้าตาดูไม่ได้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง รอยฉาบที่ใบหน้าที่มีสีแดงเป็นหลักสดุดตาหายไปหมด แม่ศรีเดินยิ้มเข้ามาหามัน
“พ่อยังไม่ตื่นเลย นั่นจะไปขายที่ไหนนังหนู”
“ตลาดท่าสีโพธิ์นี่เองจ้ะ”
“โอ้โฮ ไกลเหมือนกันนี่”
“ฉันเดินจนชินแล้วจ้ะ”
สาวช้อยพูดจบขยับจะไป แม่ศรียังติดใจที่จะคุยกับมันต่อ
“วันๆ ขายไต้สักเท่าไหร่”
“ถ้าขายหมดก้อ...20 กว่าบาทแหละจ้ะ”
“โอ๊ย ไม่คุ้มค่าเหนื่อย ทั้งวันได้แค่นี้เอง แบบนี้ขายอย่างอื่นดีกว่า ไม่ต้องลงทุนให้เหนื่อยด้วย สบ๊ายสบาย แพล็บเดียวก็ได้แล้ว 20 ครึ่งค่อนวันก็เหยียบร้อยแล้ว”
ถึงจะสงสัยอีสาวมันก็ยังไม่กล้าถาม เพราะเพิ่งรู้จักกันชั่วเมื่อเย็นวานนี้เอง กะว่าไว้ให้สนิทสนมกันมากกว่านี้ มันจะลองเลียบเคียงถาม มันยิ้มให้แม่ศรี แล้วยกหาบใส่บ่าลงเรือนไป มันเดินใจลอยคิดถึงภาพเมื่อเช้ามืดและคำพูดของแม่เลี้ยงประโยคหลัง จนไม่ได้ยินเสียงลุงมั่นเรียกมัน จนแกตะโกนซ้ำเสียงลั่นจนมันสะดุ้ง ถึงได้หยุดหันไป ลุงมั่นเดินมาหามันพร้อมด้วยชามใบหนึ่ง
“กูเรียกเอ็งจนลูกกระเดือกแทบระเบิดไหงเสือกหูตึงเสียล่ะวะ เอ้า เอาแกงบวดให้กูห้าสิบ”
แกส่งชามมา อีสาวนั่งลงรับชามมาตักแกงบวด
“กูประเดิมเป็นคนแรกต้องให้มันมากหน่อยวิโว้ยอีช้อย”
"จ้ะๆ"
เมึ่อส่งชามรับสตางค์มาแล้ว ลุงมั่นถามมัน
“อีผู้หญิงที่ทาปากทาแก้มแดงๆ ควงไปกะพ่อเอ็งน่ะ   แม่เลื้ยงเอ็งหรือ?”
“จ้ะ ลุงรู้จักเหรอ?”
“เปล่า กูนึกว่าพวกยี่เกว่ะ” ลุงมั่นหัวเราะชอบใจแล้วก็ผละไป
วันนั้น เฮงเป็นบ้า สาวบ้านป่า ขายขนมหมดแต่วัน มันนับเงินที่ขายได้ เกือบสามสิบ มันเหน็บใส่ชายพก คว้าหาบขื้นบ่ากลับบ้าน พอถึงทางที่ลับตาคน มันก็วางหาบ ปลดผ้าแถบออก นมสองเต้าเต่งก็ปรากฏแก่สายตาผีสางนางไม้ มันเตรียมคาดผ้าแบบตะเบงมาน กำลังผูกปมขางหลัง มันก็ตกใจสุดขีด ไอ้หนุ่มหุ่นขี้ยาคนหนึ่ง พรวดมาจากทางไหนมัน'ไม่ทันเห็น พุ่งเข้าหามัน ขณะมือทั้งสองกำลังจะขมวดผ้าที่ต้นคอ มันเข้ามาจับชายพกเพื่อแย่งชิงสตางค์ อีช้อยปล่อยมือทั้งทีผ้ายังไม่ทันผูก กุมชายพกแน่นปากก็ร้องเสียงลั่น
“ช่วยด้วยๆ คนมันตีชิงฉัน"
ไอ้แห้งตัวนั้นเลยสกัดการเงียบ ด้วยหมัดชกไปที่ท้องอีช้อย จนมันตัวงอ แทบจะหมดกำลัง แต่มือกุมชายพกแน่น คนร้ายกระชากชายพกจนผ้านุ่งโจงกระเบนหลุด สตางส์หล่นเกลื่อนกลาด มันรีบเก็บอย่างรวดเร็ว นังช้อยไม่มีปัญญาจะขัดขวาง เพราะมันรู้สึกจุกที่ท้อง ได้แต่กุมขอบผ้าที่กำลังหลุดลุ่ย เสียงคนตะโกนมาแต่ไกล
"เฮ้ย...อะไรกันโว้ย"
คนร้ายจึงวิ่งผละจากนังช้อยไปทันที มันมองตามด้วยความเสียดาย แล้วหันมาทางเสียงที่ร้องทิดฮงกับไอ้ฝน ไอ้หนุ่มลูกค้าประจำของมันนั่นเอง ไอ้ฝนให้ทิดฮงไล่กวดคนร้าย ส่วนตัวมันเข้าประคองร่างนังช้อย ซึ่งทรุดตัวเพราะความจุกเสียดก่อนจะล้มฟาดกับพื้นดิน ไอ้ฝนถามอย่างระล่ำ ระลัก
“ช้อย เอ็งเป็นอะไรมั่ง? เจ็บปวดตรงไหน?”
“มันต่อยท้องฉัน พี่ฝน มันจุกน่ะ”
ไอ้ฝนกลับตกใจหนักขึ้นไปอีก มันเพิ่งสังเกต   ผ้าแถบที่หลุดจากตัวนังช้อยทำให้บัวตูมกลมขาวนวลเต่งดระหง่านปรากฎแก่สายตามัน มันจ้องอย่างตะลึงลาน ใจเริ่มสั่น ไอ้ฝนไล้สายตาเลื่อนลงไปที่ท้อง มือของสาวช้อยที่กุมชายพกผ้านุ่งตกลงข้างตัว ชายผ้าก็ถ่างออก มองเห็นเนื้อขาวๆในร่มผ้า   ไอ้ฝนเอามือป่ายผ้าออกไป เนินสวาทอวบนูนกว้างขนาดฝ่ามือเด็ก มีขนดำประปรายบริเวณโคก มันจ้องตาไม่กระพริบ เสียงอีสาวครวญคราง โดยไม่ได้มองหน้ามัน
“มันเอาสตางค์ฉันไปหมด พ่อคงด่าฉัน”
“เท่าไหร่วะอีช้อย” ไอ้ฝนถาม เสียงสั่นสะท้าน ตายังจ้องเป้งตรงโคกนูนนั่้น
“เกือบ 30 แน่ะ”
“ข้าจะให้เอ็ง ช้อย” เสียงมันสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ว่าเพราะอะไร
ความดีใจ นังช้อยมันหันกลับมามองไอ้ฝน มันถึงได้เห็นว่าไอ้ฝนกำลังจ้องอะไรอยู่ มันรีบคว้าผ้าจะปิด แต่ไอ้ฝนมันไวกว่า จับข้อมืออีสาวไว้
“ข้าอายนะ พี่ฝนดูอะไร"
ไอ้ฝนมันหันมามองหน้าอีสาว สายตาที่ประสพกัน มันบ่งบอกถึงความต้องการ
“ช้อยเอ๊ย ข้าให้เงินเอ็งแน่”
แล้วไอ้ฝนก็เอาหน้าทิ่มไปที่นมนังช้อย ซุกไซร้ระดมจูบแทบไม่หายใจ ครั้งแรกอีสาววัยกำดัดตกใจ ทำท่าจะร้อง แต่ความเสียวสยิวมันวิ่งมาจุกที่ลำคอ มันจึงร้องไม่ออก ได้แต่คราง
ไอ้ฝนค่อยๆวางร่างนังช้อยลงกับพื้นซึ่งมีผ้าแถบรองรับ จมูกยังฟอนเฟ้นไปทั่วสองเต้านมที่แข็งหยุ่น หัวนมชูขันจนมันต้องดูด อีช้อยสะท้านจนตัวสั่น เสียงมันครวญน่าสงสาร
‘‘โอย....พี่ฝน...ทำอะไรฉัน”
ไอ้ฝนไม่ตอบเพราะปากมันไม่ว่าง มือที่ประคองหลังมาจับบีบเคล้นเต้านม ส่วนอีกมือที่จับข้อมืออีช้อยไว้ เลื่อนมาลูบตรงโคกนูนมีขนดำขนประปราย บีบขยำเบาๆ อีช้อยสั่นเป็นเจ้าเข้า หลับตาปี๋ อายผีสางนางไม้ที่มานอนแก้ผ้าให้ผู้ชายขยี้ขยำไปทั้งตัว ไอ้ฝนสลัดโสร่งเหวี่ยงไปอย่างไม่แยแส ไอ้จ้อนของมันแข็งเขม็งแทบระเบิด มือที่ลูบคลำขยำเนินสวาทป่ายผ้าที่โจงกระเบนขมวดเป็นท่อนออก คลายจนหมด มือมันเลื่อนลูบบีบคลำท่อนขาที่อัดแน่นสมบูรณ์ไปด้วยเนื้อหนังที่เต่งดึง
นังสาววัยกำดัดรู้สึกว่า หัวใจมันกำลังเต้นระริก   ภาพที่พ่อกำลังขย่มแม่เลี้ยงเกิดขึ้นในมโนภาพ พอรู้สึกว่ามือไอ้ฝนที่ลูบไล้โคนขามาขยำโคกนูน แถมนิ้วมือไอ้ฝนยังสอดแทรกแหวกเข้าไปในช่องหว่างขามันเข้าอีก อีข้อยถึงกับตัวสั่นเร่าๆ ขามันขยับถ่างอ้าออกเองโดยธรรมชาติเมื่ออารมณ์เกิดความต้องการทางเพศ
ไอ้ฝนแทบเหลืออด  นิ้วมือที่เริ่มชอนไชเข้าไปปะทะกับปุ่มกระสันต์ ซึ่งแต่แรกมันอ่อนนิ่มนั้นเกิดแข็งตัวขึ้น มา มันก็เขี่ยคุ้ยเบา ๆ จนรู้สึกว่านังช้อยยกก้นส่าย เสียงนังช้อยครางเบาๆ
“พี่ฝน ฉัน...ปวดท้องเยี่ยว เอานิ้วออกก่อนพี่"
คนอย่างไอ้ฝนก็กรำศึกไอ้เรื่องพรรค์นี้มาไม่น้อยหน้าใคร ก็รู้ดีทรี่นังสาวน้อยพูดนี้หมายความว่ากระไร
"เยี่ยวออกมาเถอะช้อย ปล่อยให้มันไหลออกมาเลย"
เมื่อเห็นไอ้ฝนดื้อ นังสาวน้อยไม่เคยมือชายมาก่อนซึ่งขมิบน้ำไว้ ก็หลั่งออกมา มันไม่ใช่เยี่ยวอย่างที่มันเข้าใจ แต่มันเป็นน้ำเมือกเหนียวซึมออกมา ยิ่งไอ้ฝนใข้นิ้วแยงเข้าไป อีสาวบ้านนอกก็แทบหัวใจวายเพราะความเสียวสุดกลั้น
ไอ้ฝนไม่รอช้า เพราะมันก็แทบกลั้นไม่ไหว มันขยับตัวคร่อมร่างอีสาว หย่งท่อนล่างไว้ ถอนนิ้วมือออกจากรูสังวาสซึ่งมีน้ำซึมฉํ่าออกมาเปียกแคม ก้มลงประคองไอ้จ้อนลำเขื่องหัวบาน ทิ่มยัดเข้าไปในรู สองเข่ามันดันขาอีสาวให้ถ่างกว้างออกไปอีก   พอหัวหนอกของมันลื่นไถลเข้าไป ร่างฺนังช้อยถึงกับผวา
“โอ๊ย...พี่จ๋า...พี่"
รูสาวที่ยังไม่เคยถูกทลวงเสียพรหมจรรย์ มันฟิต เล็ก คับ อาศัยที่นังช้อยมันหลั่งน้ำเหนียวๆออกมา จึงช่วยเกิดการหล่อลื่น ไอ้ฝนพยายามระงับใจไม่หักโหมรุนแรง ค่อยๆแหย่แยงดันเข้าไปทีละน้อย สองมือบีบเคล้น ขยำเต้านมที่เต้นระริก พอมันรู้สืกว่าท่อนเนื้อของไอ้จ้อนล่วงล้ำเข้าไปในรู สังวาสได้สักครึ่งลำแล้ว คราวนี้ไอ้ฝนมันก็เริ่มซอย ขักเข้าชักออกพร้อมกับดันไอ้จ้อนเข้าไปอีก
ตัวอีสาววัยกำดัดตกอยู่ในอารมณ์ใคร่สุดขีด ลืมตัวลืมอายผีสางนางไม้ มันยกก้นช่วย สองแขนกอดกระวัดรัดร่างไอ้ฝนอย่างเหนียวแน่น
สุดที่ไอ้ฝนจะยับยั้งได้อีกแล้ว เมื่อมันรู้ตัวว่าความรู้สึกของมันกำลังจะถึงจุดสุดขีด มันขย่มซอยถี่ยิบ เสียงอีสาวร้องซี้ดซ้าดไม่เป็นภาษามนุษย์เมื่อไอ้ฝนกระแทกท่อนเนื้อที่แข็งแกร่ง พรวดเข้าไปจนมิดท่อนเนื้อพร้อมกับพุ่งกระฉูดน้ำกามเข้าไป ร้อนแรงจนอีช้อยร้องโอดโอย
ไม่ใช่ไอ้ฝนกับนังสาวน้อยเท่านั้น ที่มีความต้องการทางเพศอย่างรุนแรง ทิดธงซึ่งร่งไล่ตามคนร้ายไปไกลจนเหนื่อยหอบ เมื่อคนร้ายหายสับไปทางหนึ่ง ก็หยุดพักเหนื่อยแล้วก็เดินเรื่อยๆกลับมาที่นังช้อยพอมันเห็นอะไรต่ออะไรเช้า หัวใจมันก็ตื่นเต้น ก้มหมอบคลานเข้ามาดูอย่างใกล้ชิดทางปลายตีน โดยที่หนุ่มสาวกำลังตั้งหน้าตั้งตาร่วมสังวาสกันโดยไม่สนใจใครทั้งโลก
ความ ใคร่ความอยากก็เกิดขึ้นกับทิดธง ท่อนลึงค์ในโสร่งของมันแข็งเด่แทบทิ่มดิน ใจมันสั่นระริกอยากกระโดดเข้าร่วมวงด้วยซ้ำ แต่ยังหาโอกาสเหมาะไม่ได้ เมื่อเห็นไอ้ฝนเพื่อนเกลอสงบนิ่งทับอยู่บนร่างนังช้อย มันก็คืบคลานเข้าไปสกิดขาไอ้ฝน ขณะที่นังช้อยมันหลับตาปี๋ แต่แคมยังบีบรัดไอ้จ้อนของไอ้ฝนไว้อย่างไม่ยอมปล่อย พอไอ้ฝนหันมาก็เห็นไอ้เพื่อนรักส่งสายตามา ด้วยความสงสาร พยักหน้าขอความเห็นใจ ไอ้ฝนยิ้มให้พยักหน้าเป็นการตกลง แล้วไอ้ฝนก็หันกลับมาถอนไอ้จ้อนออกจากรูสังวาสช้าๆ เมื่อมันก้มดูก็เห็นแคมในสีแดงคาบคีบไอ้จ้อนของมันตามออกมาด้วย พอมือนังช้อยคลายหลุดจากคอมัน แต่ตายังหลับ มันก็พลิกตัวออกไปข้างหนึ่ง
ทิดธงตื่นเต้นดีใจเหมือนได้แก้ว ตาจ้องเป๋งที่ปากถ้ำซึ่งอ้าอยู่ โสร่งของมันหลุดจากตัวในพริบตาคลานเข้าคร่อมนังช้อยอย่างกระหายหิว มือขยำสองเต้านมอย่างตระกราม ลำลึงค์ที่แข็งโด่ค่อนข้างเขื่องกว่าของไอ้ฝนเริ่มสอดส่ายหารูสังวาส ทั้งๆที่มันมีตาเดียว แต่มันก็สามารกเข้าถ้ำได้ถูก ทั้งๆที่รูสวาทนั้นฟิต อาศัยที่มีน้ำหล่อลื่นอยู่แล้ว และเพิ่งถูกบุกทลวงมาสดๆร้อนๆ แต่ความใหญ่ของลึงค์ทิดธงเป็นต่อกว่าไอ้ฝน มันจึงเคลื่อนเข้าไปอย่างลำบาก ทิดธงจึงต้องโยกย้ายส่ายก้น เพื่อควานรูสังวาสให้กว้าง พร้อมกับก้มหน้าแนบกับผมนังช้อย เกรงว่านังช้อยมันจะเห็นหน้าว่าไม่ใช่เจ้าฝน อาจเกิดเอะอะโวยวายไม่ยอมขื้นมา บังเอิญเป็นจังหวะที่นังช้อยมันกอดรัดคอไว้ด้วย จึงหมดปัญหา เสียงนังช้อยกระซิบข้างหู
"ทำไมตอนนี้ถึงได้ใหญ่ขึ้นมาอีกล่ะ ค่อยๆนะพี่"
ทิดธงเลยต้องหยุดแค่มุดหัวเข้าไปเท่านั้น แต่พอมือทิดธงบีบเคล้นเต้านม แถมขยี้ด้วยฝ่ามือ อีช้อยก็ครางอ๋อยกระซิบอีก
“หยุดทำไมล่ะพี่ ทำต่อไปซิ ฉันเสียวเหลือเกิน"
ทิดธงรู้ดีทั้งทางธรรมทางโลกก็รู้จุดอ่อนอีนังช้อย เขาใช้ฝ่ามือทั้งคลึงเต้านมทั้งบีบขยำจนนังช้อยมันแอ่นอก ก้นเริ่มขยับ ทิดธงก็หย่งตัวไม่ให้ทับร่างอีสาวไว้ ปล่อยให้มันดิ้นกระแต่วเสียวกระสันต์เพราะพิษกาม แล้วทิดธงก็เริ่มเสือกท่อนลึงค์เข้าไปทีละน้อย ช้าๆ แล้วชักออก ก้นนังช้อยตามติดขึ้นมา ทิดธงก็เสือกพรวดเข้าไป มันล่วงล้ำลึกกว่าเก่า
อีช้อยร้องโอ๊ยก็จริง แต่ใจมันถึง มันไม่ยอมถอยหนีเสียแล้ว เมื่อรู้รสชาติ พยายามอดทนต่อความเจ็บปวด ขณะเดียวกันนังช้อยก็เกิดฉุกคิดขึ้นมาทันทีว่า คนที่กำลังให้ทั้งความสุขและความเจ็บแสบนี้คงไม่ใช่ไอ้ฝน ท่อนลึงค์คับผิดขนาดกัน ต้องเป็นทิดธงเพื่อนเกลอไอ้ฝนนั่นเอง แต่นังช้อยกำลังมันส์ต่อรสชาติของการเสพกาม มันยังไม่อิ่ม ก็ลองกระซิบข้างหูทิดธงเบาๆเป็นการดักคอ
“พี่ทิดอย่ารุนแรงนักนะ”
พอทิดธงรู้ว่าอีเด็กสาวใจแตกรู้ทัน หน้าที่ซบข้างหูอีสาวก็เงยขื้น ระดมจูบทั่วใบหน้านังช้อยอย่างแผ่วเบา เคล้าเคลียจนอีนังช้อยสยิว ช่วยยกก้นรับท่อนลึงค์ใหญ่ของทิดธงด้วยความอดทน
เมื่อได้ลูกคู่ที่มีน้ำอดน้ำทนแบบนี้ ทิดธงก็เริ่มซอย ขยับก้นชักออกชักเข้าเป็นจังหวะจะโคน สองฝ่ามือละเลงไปบนเต้านมอีนังช้อย   จมูกก็สูดดมพวงแก้มซอกคอจนอีสาวถึงกับหลั่งนํ้ารักออกมา ทิดธงมีลีลาเหนือชั้นกว่าไอ้ฝน จึงโยกย้ายส่ายก้นพร้อมกับดันท่อนลึงค์เข้าไปจนจมมิดหายเข้าไปในรูสังวาสของนังช้อย  
โดยนังช้อยก็แบะอ้าขาถ่างอย่างเต็มที่ จนอวัยวะเพศแทบจะฉีก ทิดธงกดโหนกเบียดเสียด ส่ายกับโคกนูนของนังช้อยอีก นังช้อยถึงกับเอื้อมมือมากดตูดทิดธงไว้ คล้ายกลัวว่าเขาจะถอนท่อนลึงค์ออกไป อีช้อยจำไม่ได้ว่ามันหลั่งน้ำสวาทออกมากี่ครั้งกี่หน รู้แต่ว่าท่อนลึงค์ของทิดธงที่จมหายเข้าไปในรูสวาทของมันนั้น แสบไปถึงใส้แต่มันก็แสนจะดื่มดํ่าในรสชาติที่ทำให้มันลืมความปวดร้าวระบม ยิ่งขนดกดำของเขาเสียดสีกับขนอุยบางที่โคกมันด้วยแล้ว อีสาวมันถึงกับครวญครางไม่ได้ศัพท์
พอทิดธงรู้ตัวว่าอารมณ์ใคร่ใกล้จะถึงที่สุด เขาก็ตั้งท่าใหม่ ลองขาเหยียดตรงชิดกัน สองแขนเหยียดตรงยันพื้น ขย่มท่อนลึงค์จากช้าๆ เนิบๆ จนทวีความเร็วขื้นทุกที นังช้อยยกก้นส่ายร้องซี้ดซ้าด ทิดธงเร่งสตีมกระเด้าถี่ยิบ จนกระทั่งน้ำกามของเขาพุ่งพรวดเข้ามดลูกนังช้อยจนมันร้อง
“โอ๊ย ”
ทั้งๆที่ทิดธงหลั่งน้ำกามเข้าไปแล้ว เขาก็ยังซอยถี่เรื่อยไปอีกสักครู่ แล้วจึงชลอความเร็วจนกระทั่งสงบนิ่ง ทาบตัวทับร่างสาววัยกำดัดใจถึง ทั้งสองร่างกอดรัดแทบเป็นร่างเดียวกัน ทิดธงก็แช่ท่อนลึงค์ไว้ปล่อยให้ส่วนลึกในรูสังวาสเต้นตุ๊บๆดูดน้ำกามเขาจนหยุดไหล
ทิดธงมีพลังกายที่เข้มแข็งทรหด เพียงเขาทอดแช่ท่อนลึงค์พักเหนื่อยเพียงชั่วครู่ พอมือเขาลูบไล้ร่างกายนังช้อยไปทั่วตัวอย่างแผ่วเบา แล้วก็มาเคล้าคลึงเต้านม อีช้อยก็พลอยตื่นตัวขื้นมาด้วย เมื่อทิดธงรู้สึกว่าปลายท่อนลึงค์ของเขาซึ่งเริ่มอ่อนตัวจมหายอยู่ในรูลังวาสถูกกล้ามเนื้อข้างในขมิบตรงหัว ความรู้สืกมันก็เกิดคึกคึกขื้นมาอีก พอมันแข็งตัวเหมือนเดิม ทิดธงก็บรรเลงเพลงกามติดต่อกันเป็นครั้งที่สอง แต่คราวนี้เขาเริ่มออกลวดลาย
“พี่กลัวว่าหลังแม่ช้อยจะเจ็บ ที่นอนกับพื้นดินนานๆ เอายังงี้ดีกว่า...”
เขาลุกขึ้นถอนท่อนลึงค์ออกจากถ้ำสวาท จับอีนังช้อยพลิกคว่ำ ข้อนส่วนล่างให้อีสาวใจเด็ดอยู่ในท่าโก้งโค้ง เข่าคู้ถ่างแยกจากกัน หลังแอ่นลงไป คราวนี้โคกนูนนังช้อยก็ห้อยอยู่ใต้ตูด ทิดธงแหวกแคมให้กว้างออก ประคองท่อนลึงค์ยัดเข้าไปในรูสังวาส ค่อยๆดันมันเข้าไป มือเอื้อมไปบีบเคล้นเต้านมทั้งสองข้างซึ่งห้อยแกว่ง ก้นทิดธงเริ่มกระเด้า อีช้อยได้แต่ครางลูกเดียว มันซาบซ่าส์ไปทั้งตัว ทิดธงเปลี่ยนมารั้งเอวนังช้อยไว้ คราวนื้จับกระแทกเข้ามาหาตัวเขาพร้อมกับเขากระเด้าซ้ำ
ไอ้ฝนมันนั่งกอดเข่าดูเกลอรุ่นเซียน ถึงกับส่ายหัว ยอมยกหัวแม่มือให้ เพราะเพียงยกเดียว มันยังไม่ค่อยจะ'หายเหนื่อย แต่ความใคร่ยังไม่จางไปจากตัวมัน
ใช้เวลานานพอสมควรที่ทิดธงกระแทกกระทั้น จนไอ้ฝนมันอดรนทนไม่ได้ ก็ขยับเข้ามาใกล้ ลูบก้นขาวๆอีช้อย อีกมือหนึ่งเอื้อมไปบีบเคล้นเต้านมที่แข็งหยุ่นอย่างมันมือ มือที่ลูบบีบก้นอีช้อยเปลี่ยนมาเอานิ้วมือเขี่ยรูตูด อีช้อยถึงกับสะดุ้ง ก้นส่ายเสียสยิว พอทิดธงเร่งกระเด้าถี่ขื้น อีช้อยก็ร้องซี้ด จนกระทั่งทิดธงพุ่งน้ำกามเข้าไปเต็มรัก
 อีช้อยก็แทบขาดใจ ทั้งๆที่มันโดนรุมสองตอหนึ่ง แต่มันก็แสนจะใจเด็ด กัดฟัน อดทนสารพัด จนเมื่อทิดธงถอนท่อนลึงค์ออกจากรูสังวาส ทิ้งตัวหงายเพราะหมดแรง ไอ้ฝนก็ขยับเข้าที่ พอมันจับไอ้จ้อนยัดเข้าไปในรู ดันพรวดอย่างสะดวกสบาย เพราะไอ้จ้อนมันย่อมกว่าทิดธง มันจึงเปลี่ยนกลยุทธถอนไอ้จ้อนออกมา ซึ่งมีน้ำกามผสมน้ำเมือกเหนียวของอีนังช้อย  จับไอ้จ้อนถูที่รูตูดอีช้อย เสียงอีช้อยร้องเบาๆ
“นั่นพี่ทำอะไร?"
ฯหอะน่า ข้าสมนาคุณเอ็งถึงใจแหละ”
ไอ้ฝนแหกก้อนเนื้อใหญ่สองก้อน จนรูตูดเปิด มันอาศัยไอ้จ้อนซึ่งมีนํ้าเหนียวเปรอะอยู่แล้ว ช่วยให้ความฝืดของรูคลายไป แต่ถึงยังไงรูที่ไอ้ฝนให้ไอ้จ้อนทิ่มทลวงมันฟิตแน่น อีช้อย ก็กัดฟันทน พอลำตัวไอ้จ้อนเข้าไปได้ ไอ้ฝนก็เริ่มกระเด้าเพราะความฟิตที่หนีบบีบไอ้จ้อนมันแน่น ทั้งๆที่เป็นยกสอง แต่ไอ้ฝนก็หมดความอดกลั้น เพียงไม่กี่นาที มันก็ทุ่งน้ำกามเข้ารูตูด อีข้อยจนอีช้อยร้องโอย
เมื่อการเสพทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังจบเกมแล้ว ก็เป็นเวลาที่อีช้อยกลับบ้านเป็นปกติพอดี มันรู้สึกว่าตัวเองเดินขาถ่างเหมือนมีอะไรมายัดทิ่มไว้ ตรงหว่างขาข้างหน้าก็ระบมแถม ตูดก็แสบ แต่เงินจากทิดธงและไอ้ฝน รวมกันเกือบ 100 บาท มันเป็นงานที่ไม่หนัก ไม่เหน็ดเหนื่อยกาย แถมยังมีความเสียวสนุก เงินก็ดี มันเป็นแม่ค้า ที่ขายขนมทั้งวันได้เงินยี่สิบกว่าบาท แต่มันนอนหงายคว่ำ เสพกามแค่ชั่วโมงเดียว กลับไค้เงินมากกว่า 3-4 เท่า มันเลยกลายเป็นแม่ค้าขาย......

เซ็กส์คนเขา







ไกลออกไปจากกความเจริญในเมืองหลวง ยังมีจังหวัดถึงเจ็ดสิบเอ็ดจังหวัดที่ถ่ายทอดความศิวิไลซ์ไปยังประชาชนอย่างทั่วถึง
การกินอยู่-หลับนอน และเรื่องของเซ็กส์ เราเห็นและรับรู้กันอย่างกว้างขวาง จนเราๆท่านๆมองเห็นเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ห่างไกลไปกว่านั้น...ไกลออกไปจากตัวจังหวัด ข้ามดินแดนของความ งามที่คนทั้งหลายชอบเลยขึ้นไปยังขุนเขาทมึนเสียดฟ้า ปกคลุมด้วยป่ารกชัฎ เต็มไปด้วยส่ำสัตว์นาๆชนิด เรายังมีชนอีกพวกหนึ่งซึ่งชอบอาศัยอยู่ตามป่าเขาเราขอเรียกคนพวกนี้ว่า
“คนเขา" ครับท่าน.....
คนเขามีหลายเผ่า อาทิเช่น แม้ว•เย้า•อีก้อ•มูเซอ•ยาง•ลีซอฯลฯ '
แต่ละเผ่าสืบเชื้อสายมาจากคนละตระกูลคนละเผ่าพันธุ์ ต่างคนต่างถือศักดิ์ศรีของตัวเอง ทั้งที่เขาเหล่านั้นก็อาศัยป่าเขาลำเนาไพรอยู่เหมือนๆกัน มีความเป็นอยู่เหมือนจะตัดฃาดจากโลกภายนอก ความเจริญของบ้านเมืองหรืออิทธิพลของชาวโลกตะวันตกตะวันออกไม่สามารถเข้าไปครอบงำจิตใจ “คนเขา" เหล่านี้ได้
ความเจริญทางวิทยาการ-เทคโนโลยี่สมัยใหม่ไม่มีโอกาสแพร่หลาย พวกเขายังนิยมนับถือ ผีสางนางไม้ อยู่เหมือนเดิม
หมอผี ดูเหมือนจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา ฉะนั้น“คนเขา" พวกนี้จึงดูเสมือนความลี้ลับที่ไม่มีวันจะเปิดเผยให้ชาวโลกเห็นความเป็นอยู่ภายในอย่างลึกซึ้งได้ แต่เราชาวคณะผู้จัดทำมองเห็นคุณค่าของความแปลกใหม่ จึงบุกป่าฝ่าดงค้นหาภาพแห่งความตื่นตาตื่นใจ เสนอเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงแก่ท่านผู้อ่าน
ถ้าท่านอยากรู้ว่าเราเป็นใคร โปรตพลิกไปดูที่หน้าปกมุมบนทางด้านซ้ายมือ จะเห็นรูปนิ้วโป้งสองนิ้วชูติดกัน นั่นคือสัญญลักษณ์ของความสุข สุตยอด-ยอดเสียวและยอดมันส์ จะซื้อความสุขทุกครั้งกรุณากระซิบถามคนขายให้ดี....โปรดติดตามเราต่อไป
มาถึงตอนนี้ก่อนจะเข้าเรื่อง เรามาทำความรู้จักความเป็นอยู่ทั่วๆไปของคนเขาเหล่านี้สักหน่อยเป็นไร ว่ากันสั้นๆเฉพาะบางเผ่า ไม่ต้องสาธยายวิชาการมากท่านจะเบื่อเสียก่อน
เผ่าที่เราจะยกมาเอ่ยอ้างและเดินเรื่องเผ่าแรกก็คือ “อีก้อ"
อีก้อชอบปลูกที่พักอยู่ในที่สูง ตั้งแต่พันฟิตขื้นไป อาชีพทำไร่....ปลูกข้าว...ข้าวโพด พืชผักต่างๆ และที่ปลูกกันมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ก็คือฝิ่น อีก้อเป็นเผ่าที่ชอบหาความสุขทางเพศ สาวและหนุ่มหากพอใจกันอยากจะชวนไปหาความสุขเมื่อใดก็ได้ แต่จะต้องไม่ใช่บนบ้าน เพราะถ้าทำเช่นนั้นถือว่าผิดผี
หนุ่มสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน หากชอบพอก็จะชวนกันไปตามสุมทุมพุ่มไม้ ริมลำธาร แล้วแต่บรรยากาศจะพาไป ในหมู่บ้านของอีก้อจะมีลานสาวกอด(กะลาล่าเขอะ) ไว้สำหรับให้สาวๆที่ยังไม่มีคู่ไปนั่งหาหนุ่มที่ตนพอใจ ฉะนั้นตอนเย็นหรือพลบค่ำที่ลานนี้จะมีสาวๆไปนั่งจับกลุ่มคุยคอยหนุ่มมาขอความรัก โตยเฉพาะตอนหน้าหนาว สายลมเย็นจากตอนใต้ของประเทศจีนพัดผ่าน อากาศเย็นเฉียบความหนาวก็จะเกาะกินหัวใจสาวและหนุ่มให้เร่งหาคู่....
หนุ่มสาวอีก้อเห็นการได้เสียเป็นเรื่องธรรมดา ท่าให้นึกไปถึงประเพณีอันนี้ซึ่งไปเหมือนกันกับของชาวตะวันตก...ทางประเทศสวีเดนโน่น
ถ้าจะมองกันให้ดี ชาวเขามิใช่ล้าหลังหรือไม่ทันสมัยเหมือนอย่างที่“ชาวเรา"คิดหรือมองเขาอย่างต่ำค่า... เราน่าจะมองดูตัวเราเองเสียมากกว่า
จากอีก้อ...ขอนำท่านมายังเผ่าเย้า....เย้าชอบอาศัยอยู่ในที่สูงเกินกว่าห้าพันฟุตขึ้นไป
เย้าแต่งตัวด้วยผ้าชุดดำมีพู่ห้อยรอบคอยาวมาจรดผ่าถุง พู่นี้จะมีสีแดงสดตัดกับเสื้อสีดำ เผ่าเย้าเป็นเผ่าที่รักความสะอาดและถือตัวว่าเจริญกว่าเผ่าอื่น
เย้ามีอักษรของตัวเอง ความภาคภูมิใจอันนี้กระมังที่ทำให้เย้าถือว่าเหนือกว่าเผ่าอื่น อาหารของเย้าได้แก่ ไก่,หมู...ผักกาดดอง ฟักแฟง ฯลฯ ....เย้าชอบจํบน้ำาชาเหมือนคนจีน และชอบสูบฝิ่น กัญชา ผ่านบ้องไม้ไผ่ใส่น้ำ คนเย้าเกลียดอีก้อหาว่าเป็นคนขี้เกียจ และชอบกินหมา!
เราบรรยายความเป็นอยู่ อุปนิสัยใจคอของคนสองเผ่ามาพอสมควร ต่อไปนี้ขอท่านติดตาม "เซ็กส์คนเขา" ไปให้ถึงแก่นแท้....

ณ สถานที่แห่งนี้เราขอนำท่านสู่ความลี้ลับที่ไม่มีใครกล้าเปิดเผยมาก่อน....บนยอดดอยสูงเสียดฟ้า อันเป็นหมู่บ้านเผ่าเย้า ขณะนี้แสงแดดอ่อนยามเช้าเริ่มไล่ความชื้น-หมอก ละอองไอน้ำบนยอดหญ้าที่ลอยอ้อยอิ่งให้เหือดหายไปทีละน้อย
ไอดินจากหุบผา มองเป็นสีขาวบดบังต้นไม้ให้กลืนหายไปกับความสลึมสลือ เสียงไก่ป่าขันเจื้อยแจ้วมาจากป่าลึก ไม่นานนักก็มีเสียงชะนีกู่แว่วมาอีก
ความเงียบสงบอันเป็นธรรมชาติของป่าในยามเช้า เป็นบรรยากาศที่ชวนไหลหลงยิ่งนัก เสืยงฝีเท้าที่ย่ำไปบนพื้นดินลัดเลาะไปตามไหล่ดอยสู่สันเขาที่มองดูเขียวขจีเบื้องหน้า ไร่ฝิ่นของเหมยฟินกำลังออกตอกสีสตใส
เหมยฟิน เป็นหญิงสาววัย 19 ที่สวยสุดคนหนึ่งของหมู่บ้าน เป็นคนขยันและรักงาน
เย้าสาวมุ่งหน้าสู่ไร่ฝิ่นที่ก่าสังจะเก็บผลประโยชน์ หลังจากลัดเลาะไต่ดอยเพียงครู่ เสียงหนึ่งที่ดังมาจากหลังกอไผ่เบื้องหน้า ทำให้เหมยฟินหยุดชะงัก
‘‘พลั่ก!”
“ตุ้บ”
มีเสียงเหมือนของหนักๆทุบใส่ใครสักคนหนึ่ง เงาของคนสามคนวูบวาบไปมา เธอเบี่ยงตัวเข้าหลบกับต้นไม้ใหญ่ สองตาจ้องมองแอบดูอย่างตื่นตระหนก
คนกำลังถูกทำร้าย!
“เอามาให้กูไอ้หมาน้อย!”
“ไม่...ของของเฮา สูเอาไปบ่ได้”
“ได้ซีวะ...ของมึงหรือของใคร ถูจะเอาชะอย่างใครจะทำไมกู”
“ผั้วะ”
“โอ๊ย”
เหมยฟินหลับตานึกสยดสยองในใจ เธอไม่เห็นภาพชัดเจนนักแต่ก็พอรู้ว่าพวกสองคนนั้นทำร้ายเอากับคนเขาเหมือนกับเธอ
“เอามานี่ไอ้เวร พูดกันดีๆไม่รู้เรื่อง ชอบให้ลงมือลงตีน ยิงมันทิ้งซะเลยดีไหม?"
ไอ้คนหนึ่งพูดพร้อมกับยกปืนขึ้น เพื่อนอีกคนหนึ่งรีบปัดปากกระบอกปืน
“อย่าไอ้โต เสียงปืนจะทำให้พวกเย้าแห่กันมาที่นี่”
เสียงเตือนจากเพื่อนทำให้ไอ้โตคิดได้ ลดปืนยาวลง
“ไปกันเถอะ เราได้ฝิ่นของมันแล้ว”
“อย่า...ฝิ่นของเฮา...เฮามีอยู่แค่นั้น สูเอาไปบ่ได้...ไผก็เอาไปบ่ได้ เฮาจะเอาไปขาย ฟอ-แม่เฮากำาลังไม่สบาย ต้องการยา”
หนุ่มซาวเขาผวาตามกอดแข้งของไอ้โต..มันห้นมามองแล้วถ่มน้ำลาย ปรี๊ด
“ถุย....ไอ้อีก้อคนนี้กวนตีนฉิบหาย ....มึงอยากได้นักเรอะ เอ้าเอาไป กูให้”
แทนที่มันจะโยนฝิ่นหลายสิบจ้อย ซึ่งแย่งจากอีก้อหนุ่มไป กลับหวดพานท้ายปืนเข้าแสกหน้าอย่างแรง
“ฉาด!”
เสียงดังหนักแน่น ร่างของอีก้อหนุ่มกระดอนหวือออกมาพ้นหลังกอไผ่ จนเหมยฟินมองเห็นถนัด
เธอเปิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเลือดสีแดงทะลักจากห้วของอีก้อหนุ่ม เธอถลาเข้าไปแต่แล้วก็ชะงัก เมื่อนึกได้ว่าควรจะให้สองคนใจโหดนั่นไปลับตาเสียก่อน มิฉะนั้นเธอก็อาจลำบากไปด้วยอีกคน
อึดใจต่อมาเย้าสาวก็พาร่างบอบช้ำของอีก้อหนุ่มลงสู่ตีนเขามาที่ลำธาร น้ำใสสะอาด อีก้อหนุ่มไม่ได้สลบ จึงพยุงร่างตัวเองโดยได้ความช่วยเหลือ จากเย้าสาวประคองปีกอย่างเห็นอกเห็นใจ
“สูมาแต่ใด?"
เหมยฟินถาม ขณะวักน้ำล้างแผลให้
“ภูหลวง....จะไปขายฝิ่น เดินตัดทางมาเจอไอ้สองคนมันดักเล่นงาน”
เขาพูดด้วยความคับแค้น
“ทำไมสูไม่สู้มัน?”
“เฮาสู้บ่ได้...มันมีปืน มีมีด มันตั้งสองคน...เฮาคนเดียว”
“ช่างมันเตอะ เสืยแล้วก็เสียไป สูชื่อไร?” เหมยฟินถาม
“เลาเยอ....แล้วสูล่ะ?” หนุ่มอีก้อย้อนถาม
“เรียกเฮาว่าเหมยฟิน”
“สูมีน้ำใจต่อเฮาเหลือเกิน"
เย้าสาวหลบสายตาหนุ่มอีก้อ ใบหน้าคมสัน....
“ไม่เป็นไรหรอก เย้าเห็นใจคนบาตเจ็บเสมอ แล้วนี่สูจะทำยังไงต่อไป?”
“เฮากลับไปภูหลวงบ่ได้แล้ว.... ฝิ่นที่เขาฝากเอามาขาย รวมทั้งฝิ่นของเฮาถูกมันแย่งไป บ่มีเงินเอาไปให้เขา.. นี่เฮาจะทำจ้ะใดดี”
เลาเยอเองก็คิดไม่ออกว่าจะเริ่มต้นใหม่อย่างไร ถ้าเขากสับไปภูหลวงโดยไม่มีเงินคนฝากขายฝิ่นจะหาว่าเขาโกงเงิน ในขณะนั้นเหมยฟิน' ก็เอ่ยขึ้น
“อยู่ก้บเฮาก็ได้ เลาเยอ!"
“เหมยฟิน?!”
เลาเยออุทานแผ่วเบามองหน้าสาวเย้า สายตาเปรียบเหมือนไฟร้อนแรงระอุอยู่ในหัวใจหนุ่มสาวทั้งสอง
อา...ควารักแรกพบกำลังคุกคามหัวใจเลายอและเหมยฟินเข้าแล้ว เหมยฟินสงสารในโชคชะตาชีวิตที่เขามาโดนทำร้ายต่อหน้า ประกอบกับเลาเยอมีท่วงทีท่าทางและการพูดจาสุภาพ
เงียบกันไปสักครู่ ต่างก็เริ่มรู้สึกในหัวใจที่ร่ำหา
“แด่เฮาเป็นอีก้อนะ เหมยฟิน"
“อีก้อก็เป็นคนเหมือนกันไม่ใช่เหรอ....แล้วจะมาดูถูกกันทำไม?”
“เหมยฟินไม่ดูถูก แต่พ่อแม่และหมอผีจะรังเกียจ”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น เลาเยอก็ปลูกบ้านอยู่ข้างนอก หาทำไร่เอา ตอนแรกเฮาจะช่วยเรื่องข้าวปลาอาหาร ไม่นานเลาเยอก็ตั้ตัวได้”
หนุ่มอีก้อดีใจจนน้ำตาซึม เหมือนชีววิตที่ตายแล้วเกิดใหม่ เขากุมมือของเหมยฟินไว้แน่น ดวงตาบ่งบอกความขอบใจอย่างลึกซึ้ง ความงามจากเรือนร่างและใบหน้าเกลี้ยงเกลาผ่องพรรณของเย้าสาว ทำให้หนุ่มอีก้ออดใจไม่อยู่ โน้มกายเข้าหาจะหอมแก้ม เหมยฟินเอียงอาย เอียงไหล่ให้แล้วกันใบหน้าเขาไว้
“อย่าเลาเยอ เราเพิ่งรู้จักกัน” พูดแล้วลุกขึ้นยืน “ไปดูที่กัน เลาเยอชอบใจตรงไหน ก็ปลูกได้เลย”
ทั้งสองมุ่งหน้าสู่ไหล่ดอยที่ปลูกฝิ่นของเหมยฟิน ในระหว่างทางเลาเยอถามว่า
“เหมยฟินให้เราปลูกบ้าน พ่อแม่ของเหมยฟินไม่ว่าหรือ?”
“ที่ของเหมยฟินมี 10 ไร่ สูไม่ต้องกลัวไผ”
หนุ่มอีก้อผู้โชคดี เดินเคียงมาอย่างสงบ พอถึงไร่ฝิ่นเหมยฟินก็ชี้ให้ดู
“ตั้งแต่สันดอยนั้นลงมาจนถึงกระท่อมโน้นเป็นที่ของเหมยฟิน...และถัดไปเป็นป่า เลาเยอมาถางเอาเองก็แล้วกัน”
หนุ่มคนเขาเปิดรอยยิ้ม
“เฮาจะเปิดป่าติดกับไร่ของเหมยฟิน เผื่อวันหน้าไร่เฮาอาจเป็นผืนเดียวกัน”
สาวเย้าค้อนให้ทีหนึ่ง...แล้ววิ่งลงสู่ที่ลุ่มด้วยหัวใจอิ่มเอิบ เลาเยอวิ่งตามไป
“เหมยฟิน รอด้วย”
“เก่งจริงวิ่งตามมาให้ทัน”
หญิงสาวตะโกนตอบ หนุ่มอีก้อยิ้มแย้มร่าเริง ลืมความเจ็บปวดจากบาดแผลบนใบหน้าเสียสิ้น
นี่หรือความรัก?! นี่หรือคืออำนาจที่จะแปรผันสิ่งใดๆในโลกให้เปลี่ยนแปลงไปได้ทุกสถานภาพ ร่างของคนทั้งสองวิ่งตามกันและไปที่ริมลำธารตื้นเขิน มีโขดหินผุดระเกะระกะอยู่ดาษดื่น
“เฮาจับตัวสูได้แล้ว”
เลาเยอคว้าร่างเหมยฟินไว้ได้ ความแรงจากการกอดรัดท่าให้ทั้งสองล้มลงบนพื้นหญ้าสีเขียวชอุ่มริมฝั่ง จมูกของเลาเยอจรดลงบนลำคอขาวผ่องของสาวเย้า พร้อมกับคลอเคลียไปมาอย่างนิ่มนวล เหมยฟินเบือนหน้าหลบ แต่ก็หาพ้นไม่
“อย่าเลาเยอ...อย่ารังแกเรา”
“เลาเยอรักเหมยฟิน บ่ได้รังแก”
“รักเราก็ต้องแต่งงานกัน บ่ใจ้ทำจะอื้ สาวเย้าบ่เหมือนสาวอีก้อเน้อ”
“เหมยฟินเฮาซิอยากแต่งงานกับสู แต่พ่อแม่พี่น้องของสูคงไม่ยอม เราจะทำยังไง”
หญิงสาวเงียบไป จริงดังที่เลาเยอพูด หากอายะพ่อของเธอรู้เข้าก็คงไม่ยอม เธอรู้ว่าทั้งพ่อและแม่เกลียดคนอีก้อ...และไม่ใช่พ่อแม่ของเธอเท่านั้น คนเย้าทั้งหมู่บ้านเธอก็คงไม่ต้อนรับเขา
มีอยู่หนทางเดียวคือแอบรักอยู่กับเขา หากมีเรื่องขึ้นมา เธอก็พร้อมที่จะไปอยู่กับเขาได้ทุกเวลา เธอสมควรที่จะตัดสินใจเองสำหรับคู่ครองในชีวิต
เหมยฟินเผลอตัวไปนิดเดียว เลาเยอรุกรานเธอหน้ก เขาระดมจูบเรือนร่างงดงามจนหญิงสาวอ่อนระทวย ความพอใจผสมผสานกับความสาวทำให้เหมยฟินปัดป้องมือซุกซนเขาเพียงเป็นพิธี เลาเยอก้มลงจูบที่พวงแก้ม แล้วเลื่อนลงมาที่หน้าอกพุ่งตระหง่านสองเด้าเต่งตูม หยุบหยุ่นอยู่ภายใต้ผ้าสีดำ พู่สีแดงสะท้อนแสงอาทิตย์แผ่รัศมีสีทาบเนื้อขาวเป็นสีชมพู
โดยเฉพาะตรงร่องอกที่แง้มออก จนเห็นฐานนม!
หญิงสาวเย้าบนยอดดอยสูงไม่ใส่ยกทรง ฉะนั้นฐานนมที่โผล่ออกมา จึงเผยตัวประกาศศักดิ์ศรีของความงามอย่างเด่นชัด
ขาวนวลย้งกะนมสด...! อีก้อหนุ่มตะลึงลาน พอได้สติรีบฟุบหน้าลงสูดความหอมหวาน
เหมยฟินดิ้นอกแอ่น เผลอครางออกมาอย่างไม่รู้สึกตัว
“ชู๊ดส์....เลาเยอ...”
มือซ้ายของหนุ่มชาวเขาแหวกคอเสื้อให้กว้างออก ทางด้านซ้ายหลุดก่อน นมตั้งเต้าขาวจั๊วะชูยอดสีชมพูเรึ่อ อาบแดดท้าทายสายตาและมือไม้ของหนุ่มอีก้อเสียนี่กระไร เลาเยอระงับใจไม่ให้ตื่นเต้น ซบหน้าลงจูบพร้อมทั้งอ้าปากงับหัวนมสาวเย้าเล่นเบาๆ
“อุ๊ย...เลาเยอ เหมยฟินเสียว"
เหมยฟินครางกระเส่าใบหน้าสวยพลิกกลับไปกลับมา สองขาสดถีบหญ้าสีเขียวเหมือนคนทุรนทุราย ลมหายใจทั้งคู่หอบสะท้าน....และแรงพอๆกัน ผ้าถุงของเหมยฟินเริ่มถลกขื้นมาอยู่บนหัวเข่า และถอยร่นสูงขึ้นเรื่อยๆ ความขาวของลำขาอวบอัด ดูดังหยวกกล้วยไร้ไฝฝีราคีให้หม่นหมอง
ผิวสาวของเหมยฟินช่างผุดผ่องเสียจริงๆ อีกทั้งความสมบูรณ์ของร่างกายในว้ยสาวรุ่นเติบโตเจริญเต็มที่ จึงดูเปล่งปลั่งน่าจับต้องทนุถนอมไขว่คว้ามาเป็นสมบัติยิ่งนัก
ฝ่ามือของเลาเยอที่ลูบไล้จากเนินอกแล้วลาดลงสู่เบื้องล่างจนมากระทบกับเนื้อแท้โคนขาเข้านี่ซิทำให้ไฟรักและความต้องการกระพือโหม ด้งไฟลามป่าขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
สิ่งต่างๆที่บ่งบอกสัญญลักษณ์ของความเป็นชายผงาดงํ้า โชนเด่นอยู่ภายใต้กางเกงสีดำตัวใหญ่ และมันได้ถือโอกาสถูไถไปบนเนินเนื้อส่วนกลางของเหมยฟินอย่างไม่ตั้งใจ
ทั้งสองกอดรัดคลุกเคล้า แลกจูบกันดูดดื่ม เป็นการตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวของเหมยฟินสาวเผ่าเย้าที่จะมอบกายใจให้เลาเยอหนุ่มอีก้ออย่างหมดสิ้น เธอไม่ใช่ใจง่าย...หนุ่มเย้าหลายคนในหมู่บ้านอย่างเช่น อาโย๊ะ,เล่าผาหรืออาโล ซึ่งล้วนแต่เป็นคนดีมาหลงรักเธอ... .เธอก็มิได้สนใจใยดี ทว่ามาเจอเลาเยอหนุ่มอีก้อคนนื้เข้า เธอเหมือนต้องมนต์รักเขาอย่างจับใจขื้นมาทันที
เมื่อมีความรัก....หัวใจเรียกหา...ทำไมจะต้องไปยับยั้งมันด้วย ปล่อยไปตามความต้องการของหัวใจเถอะ... เถิดนะเหมยฟิน
ความรู้สึกต่างๆทับถมเข้าหาหญิงสาว และอนุสติก็บอกให้ปล่อยไปตามหัวใจต้องการ
พอคิดได้แค่นั้นเธอก็ต้องสะดุ้ง เมื่อรู้สึกว่าท่อนล่างเย็นวาบจากสายลมตอนเข้า รีบเอามือปิดแต่ก็ช้าเกินกว่า เลาเยอซึ่งเบียดตัวลงหว่างกลาง สองขาเหมยฟินจึงต้องแยกออก หนุ่มอีก้อเลื่อนกายลงต่ำจนใบหน้าพอดีกับเนินเนื้อสามเหลี่ยม มือขวาจ้บผ้าถุง เลิกขื้นไปคลุมท้องน้อย พอผ้าถลกขื้นไปอีกนิด เนื้อแท้ๆตรงหว่างขาของสาวเผ่าเย้าผู้เลอโฉมก็ผุดเด่นต่อสายตา
บา....มันช่างงดงามอะไรอย่างนั้น โคกเนื้อโหนกงานูนเด่นออกมา ขาวผ่อง อวบอัดคับเต็มหว่างขา ขนอุยสีเทาขื้นประปรายอยู่เหนือชะโงกรอยผ่า สีชมพูสดประกบกันมิดชิดสนิทแน่น ย้่วให้เลาเยอฟุบหน้าลงจูบอย่างหื่นกระหาย ชายหนุ่มส่ายจมูกรูดดะไปตามจุดต่างๆ พร้อมกันนั้นลิ้นอุ่นๆก็ช่วยประคบดูดดุนยังจุดเสียวไม่ขาดระยะ
เหมยฟินบิดตัวดังพิษไข้ ครางกระเส่า หน้างามผ่องไปด้วยเลือดแห่งความกำหนัดส่ายไปมา เลาเยอใช้มือคลำแผ่วเรียกความสยิวจากโคนขาขึ้นไปถึงนม แล้วบีบขยำก้อนเนื้ออูมอั๋นแรกผลิอย่างมันเขี้ยว
“อูยส์ เหมยฟินจะขาดใจแล้วเลาเยอ อย่าทรมานเรานักเลย สูจะทำจ้ะใดก็ทำเถอะ”
อา....เมื่อหญิงสาวอดทนต่อไปไม่ไหว ถึงขนาดออกปากยินยอมให้อย่างนี้แล้ว ก็เหมือนผลไม้ที่บ่มมาแล้ว กำล้งสุกงอม ขืนไม่กินตอนนื้ก็คงไม่อร่อยลิ้น
อีก้อหนุ่มสะบ้ดกางเกงออกท้นใด ลำลึงค์อันเขื่องดีดผางลุกโขน มันแข็งแกร่งสิ้นดี ดูลำหักลำโค่นบึกบึนและอดทน
เลาเยอขยับขาของสาวเย้าให้อ้าออกไปอีก แล้วเขยิบตัวแอ่นเอวเข้าหา จรดท่อนเนื้อมู่ทู่หัวบานผลึ่งดังดอกเห็ดเข้าที่รอยผ่า ซึ่งบัดนื้มีน้ำหล่อลื่นใสหยาดเยิ้มชุ่มจนล้นแคม
หัวลึงค์ถูกจับจ่อตรงปากรูแดงอร่าม แล้วกดลงไปหน้กๆ
“ว้าย ตายแล้วเลาเยอ เฮาเจ็บ โอ๊ย....”
เหมยฟินหวีดผวาเมื่อโดนท่อนลึงค์ลำเขื่องเข้าไปถึงครึ่ง สองแคมอ้าออกอมท่อนเนื้อไว้แน่น สองมือของหญิงสาวจิกเกร็งบนหัวไหล่ของชายหนุ่มต่างเผ่า สะโพกอวบขาวบิดไปมาด้วยความแสบเสียวแน่นตึงตรงปากรู ง่ามขาตึงเปรี๊ยะแทบขยับไม่ได้
เลาเยอเองก็ขบฟันกรอดข่มความเสียวซ่านในหัวใจเมื่อเจอเอาช่องสวาทแน่นดีของเหมยฟิน เขาไม่เร่งดันท่อนเนื้อให้จมลง เพราะจะทำให้สาวคนรักเจ็บระบม หมดความสุข เขาปล่อยแช่คาไว้เช่นนั้น หันไปรุกเร้าโลมเนื้อบริเวณอกสาวต่อไป ก้มลงจูบแล้วดูดหัวนมดังจ๊วบ หญิงสาวผวาเฮือก สองแขนโอบรัดเอาไว้แน่น
ครู่เดียวเท่านั้น....ความเจ็บก็เริ่มจะคลายหายไป ความเสียวสยิวโผล่มาแทนที่ สาวเย้าเริ่มตอบสนองด้วยการยกด้านล่างขื้นส่ายน้อยๆ อีก้อหนุ่มเห็นเธอเตือนเช่นนั้นจึงค่อยกดท่อนเนื้อกระดืบเข้าไปทีละน้อยจนมิดด้าม
“ซี๊ดส์... ”
เหมยฟินหลับตาปี๋รู้สึกตัวเบาหวิว ล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ โลกทั้งโลกกลายเป็นสีสรรหลากสี แพรวพราวสวยงามเป็นที่ยิ่ง ขณะเดียวกันนั้นเลาเยอก็บรรเลงเพลงกามารมณ์อย่างร้อนแรง ท่อนเนื้อใหญ่ยาวปานบวบงู ที่เขาปลูกทิ้งไว้ในไร่ก็ชักเข้าชักออกไม่หยุดหย่อน แคมเนื้อแดงอร่ามปลิ้นพยักเพยิด ผลุบเข้าผลุบออกอย่างน่าดู
ต่างคนต่างไม่เคยด้วยกันทั้งคู่ ชั่วแผล็บเดียว...เหมยฟินก็ผวาเฮือก หัวใจเตลิดเพลิดไปกับความสุข พุ่งขื้นสู่สรวงสวรรส์ ร่างทั้งร่างเกร็งพร้อมกับบิดสะโพกไปมาไม่หยุดหย่อน อาการของสาวเย้ากระตุกให้ม้าหนุ่มเลาเยอห้อแน่บวิ่งซอยไม่คิดชีวิต ท่อนลึงค์ยาวใหญ่ตอกใส่โคกสวาทถี่ยิบ
และในบ้ดดลน้ำกามร้อนระอุก็พ่นทะล้ก ดังทำนบแตก ใส่โพรงสวาทเหมยฟิน ท่วมท้น ลมหายใจของทั้งสองหอบฟิตฟาดดังแข่งกัน และค่อยๆผ่อนเบาลงทีละน้อย ทั้งสองกอดกันแน่นดังร่างเดียวกัน
ลมชายเขาพัดผ่านมาวูบนึงพาเอาความเย็นจากต้นไม้ใหญ่มาชะโลมความรู้สึกของคนเย้าและอีก้อให้ตื่นจากความสุขสม เหมยฟินลืมตาดูหน้าเลาเยอ ซึ่งเธอเพิ่งรู้ตัวว่าถูกหนุ่มคนรักมองอยู่ก่อนแล้ว จึงเบือนสายตาไปบนไหล่ดอย ซึ่งบัดนี้ดอกฝิ่นกำลังบานสะพรั่ง
“สูเอาเฮาเป็นเมียแล้ว อย่าทิ้งเฮาไปนะ”
เลาเยอก้มลงจูบแก้ม
“เหมยฟินเป็นเมียเฮา....เฮาไปที่ใด เหมยฟินไปด้วย”
เย้าสาวยิ้มอิ่มเอมเบิกบานใจ
“แล้วเลาเยอจะพาเฮาไปที่ใดล่ะ”
“ไปสวรรค์ไงล่ะ เฮาอยากเอาเหมยฟินเป็นเมียอีกครั้ง”
เหมยฟินขวยเขินจนหน้าแดง
“บ่ได้...เฮาไปบ่ได้ เดี๋ยวผิดผี" สาวเย้าพูดแล้วยิ้มล้อเลียน
“ช่างเตอะ ผิดก็ผิดไป เสร็จแล้วเฮาขอขมาก็ได้”