วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ผมถูกเลี้ยง ต้อย ภาค1 ตอนที่2

ปกติแล้วเราทั้งสามคนจะตื่นนอนกันแต่เช้าแม้ในวันหยุด เพื่อที่จะออกไปวิ่งออกกำลังกายกันทุกๆเช้าก่อนที่พ่อและแม่จะไปทำงานผมจะไป โรงเรียน พ่อบอกว่าคนเราต้องมีร่างกายที่แข็งแรง สุขภาพดีสุขภาพจิตก็จะดีตามไปด้วย พ่อผมเป็นทหารมีร่างกายล่ำสันแข็งแรงแม่เองทำงานบริษัทเอกชนในตำแหน่งที่ ค่อนข้างสูง การออกกำลังกายของเราอย่างสม่ำเสมอทำให้แม่มีรูปร่างทรวดทรงที่ผมเห็นว่าดี กว่าเพื่อ นๆหลายคนของแม่ ความเป็นทหารของพ่อทำให้พ่อเป็นคนที่เข้มแข็งเชื่อมั่นในตนเองสูง ความคิดความอ่านทันสมัยเปิดกว้างและรับฟังได้ทุกๆเรื่องจะพูดได้ว่าพ่อเป็น คนสมัยใหม ่ก็ไม่ผิดนักเช่นเดียวกับแม่เติบโตมาจากครอบครัวที่ไม่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ และถูกเลี้ ยงดูแบบคนรุ่นใหม่จึงเป็นคนมั่นใจในความคิดอ่านของตนเองเปิดกว้างในทุกๆ เรื่อง สิ่งเหล่านนี้จึงตกทอดมาสู่ผมโดยไม่รู้ตัว แม่จัดเตรียมอาหารมื้อเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว กำลังทำความสะอาดในห้องครัวอยู่ พ่ออยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านและเล็มกิ่งไม้ไปตามเรื่องตามราว บนโต๊ะอาหาร แม่ทักผมว่า “เป็นไงบ้างนอนหลับสบายไหมลูก” ผมไม่กล้าสบตาแม่ได้แต่ตอบว่า “ครับ” ในวันเวลาปกติที่อยู่บ้านแม่จะแต่งตัวอยู่กับบ้านอย่างรัดกุมแต่ดูสบายๆผิด กับตอนกลา งคืนที่เป็นเวลาส่วนตัวสำหรับครอบครัว ส่วนผมในตอนนั้นก็แต่งกันตามประสาเด็ก แม่อาจจะเข้าใจว่าผมรู้สึกเขินๆหรือแปลกใจจากภาพที่เห็นเมื่อคืนนี้แต่แม่ก็ ไม่แสดงใ ห้ผมเห็นว่าผมเห็นท่าทางของแม่เมื่อคืนนี้ ครอบครัวเราเป็นปกติสุขอย่างนั้นตลอดมากิจวัตรประจำวันก็ไม่มีอะไรพิเศษภาพ ที่ผมเห็น ในคืนวันนั้นก็ไม่ทำให้ผมหมกมุ่นอยู่กับมันมากมายนักนานครั้งจึงจะแวบเข้ามา ในอารมณ์ บ้าง การเรียนของผมยังเป็นที่น่าพอใจของพ่อและแม่ กิจกรรมจากการเรียนและการเป็นนักกีฬาของโรงเรียนทำให้วันคืนของผมผ่านไป อย่างไม่เหงา หงอย มีบ้างบางคืนในช่วงกลางของอายุสิบเอ็ดขวบที่ผมต้องตื่นขึ้นมาแล้วพบกับความ เปียกแฉะเ ปรอะเปื้อนที่กางเกงนอน ครั้งแรกที่พบก็ได้พ่อและแม่บอกให้รู้ว่านั่นคือฝันเปียก และทั้งพ่อและแม่ก็พูดให้ฟังว่าอะไรคือฝันเปียก จนอายุย่างเข้าสิบสองขวบเศษผมก็รู้จักกับการช่วยตัวเองเป็นครั้งแรกเย็นวัน นั้นก็ปกต ิเหมือนเช่นทุกวันหลังจากกลับจากเล่นกีฬาที่สโมรสรใกล้ๆบ้านกับเพื่อนร่วม รุ่นกันแล้ ว พ่อยังไม่กลับบ้าน แม่กลับมาแล้วแต่คงอยู่ในห้องนอน ผมเปลือยกายเดินจากห้องนอนผมเปิดประตูที่ไม่ได้ล็อคเข้าไปในห้องน้ำ ที่ผมไม่คิดว่าแม่จะอยู่ในนั้น แม่นอนหลับตาพริ้มเปลือยเปล่าอยู่ในอ่างอาบน้ำ มีเพียงฟองสบู่ปกคลุมร่างเอาไว้เท่านั้น ผมผลักประตูเข้าไป ตกใจเพราะผมเปลือยและไม่ได้เห็นแม่เปลือยในอ่างอาบน้ำมานานแล้ว แม่ลืมตาเห็นผมพร้อมกับพูดว่า “อาบน้ำเหรอลูก เข้ามาซิ ไม่ได้อาบน้ำกับแม่มานานแล้ว” แม่ลุกขึ้นยืนในอ่างอาบน้ำเปลือยเปล่า ยังไม่ทันที่ผมจะคิด จะตัดสินใจอย่างไร น้องชายของผมแข็งตัวชูชันขึ้น และแม่ก็มองอยู่ที่จุดนั้น แม่เดินไปปิดประตูและจูงมือผมไปไต้ฝักบัว ภาพจากคืนที่ผมเห็นเมื่อสองปีที่แล้วผุดขึ้นมาในมโนภาพ ในตอนนั้นผมพูดได้แต่เพียงว่า“แม่ครับ” ร่างกายส่วนอื่นดูเหมือนจะแข็งชา ผมหลับตาไม่กล้าลืมตาดูร่างเปลือยของแม่ แม่ไม่พูดอะไร เปิดน้ำฝักบัว ฟอกสบู่ถูทาไปทั่วตัวผมไม่เว้นแม้กระทั่งน้องชายของผมที่ดูเหมือนว่าแม่จะพิ ถึพิถันเ ป็นพิเศษผมรู้แต่ว่าผมยืนนิ่งเฉยมีเพียงเสียงหายใจเท่านั้นที่หอบกระชั้นแรง ขึ้นผมได ้ยินเสียงงึมงัมจากปากแม่ว่าโตขึ้นมากแล้วนะ จนเมื่อแม่ล้างคลาบไคลและฟองสบู่เสร็จเรียบร้อยแล้วแม่ก็บอกผม “อาบต่อไปเองนะลูก” แล้วแม่ก็ออกไป วันนั้นดูเหมือนจะเป็นวันที่ผมอาบน้ำยาวนานที่สุดในชีวิต ผมเปิดน้ำเย็นจัดสลับกับน้ำร้อนจัดจนน้องชายของผมลดความเดือดดาลแข็งกร้าวลง มาอยู่ใน ภาวะปกติ ผมเองสมองเริ่มแจ่มใสคลายความตึงเครียด ผมอ้อยอิ่งกับการแต่งตัวในห้องนอนจนแม่ต้องส่งเสียงเรียกให้ลงไปกินข้าว เพราะทุกคนรอ อยู่ ไม่มีใครมีพิรุธอะไรทั้งบนโต๊ะอาหารและในห้องพักผ่อนนอกจากผมที่ดูขัดเขินๆ ไม่อยากที ่จะสบตาทั้งแม่และพ่อ ผมเข้านอนคืนนั้นตามปกติ พยามจะให้หลับแต่หลับตาครั้งไรภาพเปลือยของแม่ในห้องอาบน้ำ ภาพที่แม่บดขยี้ร่างกายท่อนบนของพ่อที่ผมเกือบจะลืมไปแล้วกลับมาวนเวียนอยู่ ในสมองใน จิตใจตลอดเวลา น้องชายของผมชูชันขึ้นมาผมเอื้อมมือไปลุบคลำ ความรู้สึกที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อนแล่นวาบเข้าสู่ทุกองคาพยพของผมจากลูบคลำ แผ่วเบามื อผมเริ่มกำแน่นสั่นระรัวรุนแรงมากขึ้นรวดเร็วมากขึ้น ความรู้สึกที่บอกไม่ถูกบรรยายไม่ได้ซึมซาบอย่างรวดเร็วไปทุกขุมขน จนท้ายที่สุดร่างกายผมเกร็งแน่นจับกุมน้องชายของผมใว้จนแน่นและแล้วความรู้ สึกเสียวซ ่านเสียวซ่านจนสุดบรรยายก็เกิดขึ้นกับผมพร้อมๆกับน้องชายผมหลั่งน้ำออกมากระ ฉูดใหญ่เ ปรอะเปื้อนจนเปียกแฉะไปหมดมีเสียงหายใจหอบแรงเท่านั้นในความเงียบ ผมยังเกาะกุมน้องชายของผมอยู่ไม่อยากปล่อยหรือไม่มีแรงแม้แต่จะคลายมือก็ไม่ ทราบได้แ ละก็ผล็อยหลับไปเมื่อไรไม่รู้เลย ผมหลับสนิทจนไม่มีโอกาสที่จะรู้ ได้เลยว่ากลางดึกคืนนั้นแม่ผมเข้ามาเห็นผมอีกครั้งใน สภาพที่ผมยังเกาะกุมอยู่กับน้องชายของผมที่เปรอะเปื้อนกับของเหลวที่ถูก ปล่อยออกมา เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุดขึ้นมาหลังอาหารเช้าพ่อออกไปพบปะเยี่ยมเยีนญาติ พี่น้องตา มปกติ แม่เป็นคนที่ตามเก็บเสื้อผ้าเพื่อที่จะคัดเลือกใส่เครื่องซักผ้า รวมทั้งในห้องนอนของผมที่แม่บอกอยู่ตลอดเวลาว่าแม่อยากจะทำให้ด้วยตนเอง ผมนั่งจมอยู่กับโต๊ะกินข้าวได้ยินเพียงเสียงเคลื่อนไหวของแม่และเสียงคราง เบาๆจากเคร ื่องซักผ้า คงจะนานโขที่ผมนั่งเงียบโดยไม่ขยับร่างกาย แม่เข้ามานั่งเคียงข้างผม ถามผมว่า ”กินข้าวอร่อยไหมลูก” ผมบอกแต่เพียงว่าครับ ไม่กล้าสบตาแม่ แม่ดูเหมือนจะรู้ใจเอื้อมมือมาจับมือผมข้างหนึ่งพร้อมกับพูดว่า “ลูกแม่อย่าคิดมาก การช่วยเหลือตนเองเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องของธรรมชาติ เป็นเรื่องของร่างกายและอารมณ์เรียกร้องเรา ไม่มีใครไม่เคยทำ แม่ก็เคย พ่อก็เคย อย่าไปคิดว่าเป็นความผิดเมื่อมีความต้องการลูกสามารถที่จะทำได้ตลอดเวลา เพียงแต่อยู่ ในสังคมของมนุษย์ต้องเลือกสถานที่ที่เหมาะสม” “เมื่อลูกรู้จักช่วยตัวเองแล้วลูกจะเห็นว่าลูกมีความสุขเสียวซ่านผ่อนคลาย หลับอย่างส นิท อยากทำก็ทำได้อีก แต่อย่าหมกมุ่นหลงอยู่กับมันทุกอย่างต้องมีความพอดี” ผมยังคงนิ่งเงียบแต่พร้อมที่จะหันมาสบตาที่มีแต่ความรักของแม่ ผมยกมือของแม่ที่เกาะกุมอยู่บนมือของผมเข้ามาสูดดม ความเขินอายหมดไป ไม่หลบตาแม่ บอกแม่ไปว่า “ครับแม่ ขอบคุณครับ” แม่ยิ้มแย้ม แววตาเป็นประกายสดใส พูดต่อว่า “ลูกเริ่มโตแล้ว เรื่องพวกนี้เขาเริ่มมีสอนกันในโรงเรียนแล้วและแม่ก็พร้อมที่จะสอนให้ในสิ่ง ที่ลูกอย ากจะรู้ แต่ลูกต้องเข้าใจก่อนว่า เรื่องนี้แม้มีความสำคัญกับชีวิตแต่ไม่ใช่ทั้งหมดกับชีวิต แม่กับพ่อจะค่อยๆบอกลูกว่าจะแบ่งแยกเรื่องเหล่านี้กับเรื่องอื่นๆได้อย่างไร ” หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา แม่ผมดูเหมือนว่าจะต้องเก็บผ้าปูที่นอนของผมไปซักบ่อยครั้งขึ้นจนแม่สัพยอก ว่า “ทำไมบ่อยจังละลูก” ผมยิ้มกอดแม่พร้อมกับตอบว่า “โธ่แม่ ผมโตแล้วนะ” ผมเลิกขัดเขินเหนียมอายกับการที่แม่ต้องมาเก็บคราบไคลเปื้อนเปรอะจากการ กระทำของผม แต่เมื่อบ่อยขึ้นถี่ขึ้น เช้าของวันหยุดสบายๆวันหนึ่งหลังจากเราทั้งสามคนกลับจากการออกกำลังกายบน โต๊ะอาหารมื ้อเช้าที่พร้อมหน้าพร้อมตากันหลังจากคุยเรื่องสัพเพเหระไปหลายเรื่อง พ่อเป็นคนเริ่มต้นเรื่องของผมว่า “เป็นไงบ้างลูก หมู่นี้นอนหลับสนิทดีไหม เรื่องการเรียน เห็นแม่บอกว่าเกรดยังดีเยี่ยมเหมือนเดิม พ่อก็ดีใจด้วย” “แม่เขาคุยกับพ่อบ่อยนะเรื่องการช่วยตนเองของลูกว่าหมู่นี้ชักจะถี่ไป แม่เขากลัวว่าลูกจะหมกมุ่นกับเรื่องนี้จะทำให้เสียสุขภาพเสียการเรียน” ผมมองหน้าพ่อแล้วหันไปสบตาแม่ยังไม่ตอบอะไร “ก็ไม่เป็นไรนะลูกเรื่องการช่วยเหลือตนเองเรื่องอารมณ์ทางเพศเป็นเรื่องของ ธรรมชาติ ตอนพ่ออายุเท่าๆลูกตอนนี้พ่อก็ทำ แม่ก็ทำอย่าไปคิดว่าเป็นสิ่งที่ผิด เพียงแต่ต้องรู้จักควบคุมเรื่องเวลาสถานที่และฝึกที่จะอดกลั้นเบี่ยงเบนไป เรื่องอื่น อย่าไปหมกมุ่นอยู่เรื่องเดียว” แม่ยังยิ้มอยู่เอื้อมมือมาตบมือผมเบาๆด้วยความรัก “ครับพ่อ ผมก็ไม่ได้หมกมุ่นอะไรครับพยามที่จะไม่ให้บ่อยนักแต่ มันเกิดขึ้นเอง แต่ทุกครั้งที่ผมทำมันลงไปผมมีความสุขฮะ นอนหลับสนืท ตื่นมาด้วยความกระปรี้กระเปร่า สมองโปร่งโล่ง ครูสอนหรืออ่านตำราก็จำได้แม่นเหมือนเดิมครับ” “ลูกเพิ่งจะสิบสองเต็มๆ ยังเติบโตและยังต้องเรียนรู้อีกมาก ที่ลูกทำไปแล้วมีความสุขแม่ก็ดีใจด้วย ว่าแต่ว่าไปโรงเรียนแล้วไปแอบทำในห้องน้ำบ้างไหมนี่” “อ๋อไม่เลยครับผมทำตามที่แม่และพ่อบอกมีสติอยู่ตลอดเวลาแยกได้ครับว่าที่ไหน เมื่อไรค วรเป็นเรื่องอะไร” ผมระล่ำระลักตอบแม่ “ดีมากลูก แม่ก็จะได้เลิกกังวล ลูกมีความสุขพ่อกับแม่ก็มีความสุข” “ใช่ลูกเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องที่คู่กับมนุษย์ถ้าเราจัดการได้ดีก็ไม่มี ปัญหา สงสัยอะไรก็ถามพ่อหรือแม่เขาได้ เอาเป็นว่าเรื่องพวกนี้เราจะเปิดใจคุยกันได้ตลอดเวลาพ่ออยากให้เป็นวันหยุด แต่ต้องหลังจากคุยกันเรื่องอื่นๆโดยเฉพาะเรื่องเรียนต้องไม่ทิ้ง ตกลงมั๊ย” แม่มองหน้าพ่อทำนองสงสัยในขณะที่ผมตอบรับ “ครับ” “แม่ ที่พ่อบอกให้คุยกันวันหยุดไม่ใช่คุยกันทุกวันก็เพื่อจะได้ไม่หมกมุ่นอยู่กับ มันและใน วันหยุดก็ควรจะคุยกันเรื่องสบายๆคลายเครียดที่สะสมมาตลอดห้าหกวันทำงานหรือ แม่อยากให ้มีกันทุกวัน” แม่ยิ้มตีแขนพ่อด้วยความรักไปเพียะหนึ่ง “เซี้ยว มีแต่พ่อนั่นแหละที่อยากทุกวัน” แม่หน้าแดงกล่ำแต่ส่งสายตายิ้มอย่างมีความสุขมาที่ผม ก่อนที่จะพูดคุยกันต่อเสียงกริ่งประตูหน้าบ้านดังขึ้น พ่อชะโงกไปมองผ่านหน้าต่าง “มาตรงเวลาดีจัง ทส.พ่อ วันนี้ต้องออกรอบกับเพื่อนๆ พ่อคงต้องไปละ” แม่มองหน้าพ่อยิ้มๆพร้อมกับกระเซ้าว่า “ทส.พ่อท่าทางเป็นเกย์นะ เสร็จพ่อหรือยัง” พ่อลุกขึ้น “ยัง เพราะพ่อยังไม่แน่ใจว่าถ้าพ่อมีอะไรกับเขาแล้วผลอะไรจะตามมา ยังไม่รู้ว่าเขาต้องการเพียงมีเซ็กซ์เพียงอย่างเดียวหรือเอาเรื่องเซ็กซ์ เป็นใบเบิกท าง เอาน่าแล้วจะเล่าให้ฟังทีหลัง” พ่อหันมามองหน้าผมพร้อมๆกับลุกขึ้น พ่อออกจากบ้านไปแล้วแต่ผมยังนั่งอ้อยอิ่งอยู่ที่เดิม แม่ยังคงเก็บถ้วยล้างชามอยู่ไกล้ ๆ “แม่ฮะ พ่อเป็นเกย์ด้วยหรือครับ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น