วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559

อุ้มบุญ





  เดิมทีผมอยู่กับปู่ย่าที่ต่างจังหวัดตั้งแค่เล็กพ่อแม่ผมไปๆมาๆแวะเยี่ยมเยียนทุกสัปดหาห์ ผมอายุสิบขวบปู่ผมเสียย่าไปอยู่กับป้าพี่สาวพ่อผมมาอยู่กับพ่อแม่ในกรุงเทพฯ  ผมอายุสิบสามพ่อผมเสียทำให้แม่ผมเป็นม่ายตั้งแต่ยังไม่แก่ ผมอยู่กับแม่แค่สองคนแม่ไม่มีญาติส่วนญาติทางพ่อเราตัดขากันด้วยเหตุผลบางอย่าง แม่ผมเป็นคนสวยรูปร่างหน้าตาดียังไม่แก่ที่จะหาสามีใหม่คงไม่ยากผมเคยถามแม่แต่แม่ บอกไม่สนใจเรื่องมีแฟนใหม่มีคนมาชอบติดพันธ์แม่หลายคน รุ่นแม่ถ้าจะมีแฟนเริ่มต้นใหม่ก็แก่ๆหรือไม่ก็มือสองมันน่าเบื่อไม่เอาดีกว่า ชีวิตผมกับแม่ลำบากมากขึ้นเรียกว่าแทบไม่มีกิน แม่เป็นลูกจ้างทำงานในโรงพยาบาลเอกชนเล็กๆรายได้พอเลี้ยงตัวจ่ายค่าเช่าบ้านหลังเล็กๆที่มีสองห้องนอน ผมโตแล้วต้องหางานทำเป็นลูกจ้างช่วยขายของหลังเลิกเรียนพอได้ค่าขนม ผมอายุเข้าสิบเจ็ดแม่ต้องออกจากงานเพราะ รพ เขาปิดตัวไปร่วมกับ รพ ใหญ่เป็นปกติพนักงานก้ต้องถูกลอยแพบ้าง  แม่หางานใหม่จนได้งานทำในโรงงานทำงานรายได้แค่พอเลี้ยงตัวแม่ต้องทำOTจึงพอมีเหลือ ปกติผมไม่ค่อยเจอแม่อยู่แล้วพอแม่มาทำงานแบบนี้ยิ่งห่างเหินจากผมมากขึ้นอีก ผมคิดจะเลิกเรียนออกมาทำงานแต่แม่ไม่ยอมบอกต้องการให้ผมเรียนสูงๆจะได้ไม่ลำบาก แต่ผมบอกเราไม่มีเงินมีแต่หนี้เจ้าหนี้ก็ตามทวง เงินที่ได้ก็แทบไม่พอจ่ายค่าเช่าบ้าน แม่บอกรู้ดีแม่จะหาทางแก้ไขเองแต่ผมต้องเรียนต่อ แล้วอยู่ๆวันหนึ่งตอนเช้าผมเจอแม่ๆสีหน้าเหมือนคนไม่ได้นอนทั้งคืน ผมถามแม่ๆเป็นอะไรนอนไม่พอหรือไง แม่บอก เราพอมีทางได้เงินมาปลดหนี้มีเงินเหลือใช้แต่แม่กำลังคิดจะเอายังไงดีแต่แม่ต้องปรึกษาต้น(ชื่อผม) ผมถาม ทำยังไงแม่ได้งานใหม่หรือไง แม่บอก ก็ทำนองนั้นเพื่อนที่เคยทำงานโรงพยาบาลด้วยกันเขาหาให้ ผมว่าก็ดีเป็นงานอะไร แม่อึกอักส่ายหน้าเหมือนไม่อยากบอกแต่ก็พูด ต้นเคยได้ยินไมเรื่องการอุ้มบุญ ผมอึ้งไปขณะแต่ยิ้มๆบอก ผมรู้เคยได้ยิน แม่บอก นั้นหละที่เขาเสนอ ผมถาม มันยังไงกัน แม่บอก แม่ยังไม่แก่แค่สามสิบปลายๆพอทำได้ๆเงินมากด้วยไม่ต้องรับเลี้ยงรับผิดชอบอะไรแค่เก้าเดือน เขาบอกในระหว่างนั้นจะมีเงินเดือนๆละ...เพื่อดูแลท้องถ้าได้ผู้ชายเราจะได้...ถ้าเป็นผู้หญิงเราจะได้...ผมฟังแล้วแค่รายเดือนก็มากเกินพอ ผมถามแม่จะเอาเหรอ แม่ยิ้มถอนหายใจพูดว่า อยู่ที่ต้นจะรับได้ไม ผมนั่งคิด แม่บอก เงินขนาดนี้อย่าแค่ปลดหนี้เลยยังเหลืออีกมากพอทำอะไรได้หลายอย่างเราอาจย้ายไปอยู่ที่อื่นที่ดีกว่านี้ต้นก็ได้เรียนต่อ ผมขบคิดแล้วบอก เราก็ไม่รับผิดชอบอะไรแค่เก้าเดือนก็แล้วแต่แม่ถ้าแม่ทำใจได้แม่เป้นคนตั้งท้องอุ้มบุญผมไม่ว่าอะไร แม่ยิ้มว่า เอาหละแม่คิดจะบอกรับงานแต่ต้องดูก่อนว่าจะมีข้อตกลงอะไรอีก จากนั้นอีกสัปดาห์ แม่บอก มีสามีภรรยาที่ภรรยามีลูกไม่ได้แต่พวกเขาต้องการลูกจากสามีแท้ๆไว้สืบสกุลเขารวยมากจะให้มากกว่าที่เคยบอกคือ...ทำเอาผมตกใจในตัวเลขผมยิ้มว่า นี่เรียกว่าเราซื้อบ้านได้เลยนะ แม่พยักหน้า ผมถาม แล้วแม่ตกลงไมหละ แม่บอก ยังคิดอยู่ ผมถาม หลายวันก่อนแม่บอกรับได้ผมก็ไม่มีปัญหา แม่พยักหน้าว่า “ก็รับได้ถ้าแค่รับน้ำเชื้อ” ผมถาม แล้วนี้ยังไง? แม่บอก “เขารองผสมเทียมกับผู้หญิงอื่นที่รับอุ้มบุญก็ไม่ติดหมอบอกมันไม่สดไม่มีอารมณ์ร่วมเชื้อไม่แข็งแรงหรือยังไงก็ตามแม่ไม่รู้” ผมถาม “เขาคงเป็นหมัน” แม่บอก “หมอตรวจแล้วยืนยันเป็นที่ภรรยาเขาตัวสามีแข็งแรงเป็นปกติเขาหมดเงินไปหลายกับการตรวจทั้งทำผสมเทียมหาคนอุ้ม ครั้งนี้แม่ต้องเปลืองตัวนอนกับเขาด้วยจะได้เชื้อสด” ผมอ้าปากงงถาม “แม่ต้องนอนสมสู่กับเขาจริงๆเหรอแล้วถ้าไม่ติดหละ” แม่บอก “แม่ก็ได้ค่าตัว....ถ้าติดทุกอย่างก็เป็นไปตามที่ตกลง” ผมฟังแล้วถ้าไม่ติดลูกเงินที่ได้ก็มากพอเกินกว่าที่เราต้องการ ผมบอก “ที่รู้มาถ้าทำดีๆทีเดียวก็ติด” แม่พยักหน้าบอก “ถ้าไม่ติดก็ต้องซ้ำสองสามเดือนถึงตอนนั้นถ้าไม่ติดก็เลิกกันไป” ผมถาม เมียเขาจะยอมเหรอ? แม่พยักหน้า “ถ้าตกลงจะเจอเขาวันนี้คิดว่าเมียเขาเป็นคนจัดการให้มีหรือจะไม่ยอมแม่คิดว่าที่เขาไม่เอาสาวๆเพราะแม่มีอายุแล้วคงไม่ไปเป็นเมียน้อยเมียเก็บผัวเขาที่อายุอ่อนกว่าแม่เราจะทำข้อตกลงกัน” ผมถาม แล้วแม่จะเอายังไง? แม่พยักหน้า “เอาหละแม่อาจเปลืองตัวก็คิดว่าอาจรับดูข้อตกลงก่อนดูตัวผู้ชายด้วยแต่แม่กลัวต้นจะคิดมากว่าแม่..เออทำตัวเป็น..”ผมรีบบอก “ผมไม่คิดอะไรอย่างนั้น” แม่พยักหน้าว่า “ก็ดีแม่สบายใจแล้วคิดว่าทำบุญให้คนอยากมีลูกได้สมหวัง” ตกค่ำผมเข้าบ้านแม่รอคุยด้วยผมถามว่า “เป็นยังไงคนที่จะให้แม่อุ้มบุญ” แม่บอก “ก็ดีตกลงกันได้แม่บอกแม่มีต้นอีกคน เขาอยากมารู้จักเราๆไม่ต้องรู้จักเขา” ผมบอก ก็เอาสิ แม่บอกพรุ่งนี้เขาจะมาให้ผมกลับเร็วหน่อย ผมตกลง
   ในวันต่อมาผมกลับบ้านเร็วตามนัด มีรถหรูราคาแพงจอดหน้าบ้าน ผมเข้าบ้านเจอ แม่นั่งคุยกับสามีภรรยที่จะให้แม่อุ้มบุญ ผมเห็นแล้วแม่คงพอใจสามีเป็นคนรูปหล่อภรรยาก็ดูสวยไม่แพ้แม่ๆแนะนำตัวผม “นี่ต้นลูกชายดิฉันค่ะ”แน่นอนผมยกมือไหว้เขาก็ตอบรับยิ้มๆแต่ดูวางตัวแบบคนมีสตางค์ สามีชื่อคุณอุทัย ภรรยาชื่ออุไร ชื่อจริงหรือไม่ผมไม่รู้เขาไม่ต้องการให้เรารู้จักเขาคุณอุไรบอก “ดูต้นท่าทางดีถ้าได้แบบนี้จะดีมาก” ผมยิ้มๆแม่ยิ้มเขินๆเรานั่งคุยกันอยู่ครู่คุณอุไรถามผม “ต้นเธอรู้ไม่คุณแม่จะต้องทำอะไรบ้าง” ผมบอก “รู้ครับ” เธอถาม รับได้ไม? ผมบอก “ไม่มีปัญหา ก็แค่เก้าเดือนสิบเดือน” เธอมองพยักหน้ากับสามีแล้วคุณอุทัยบอกข้อตกลงให้ผมฟังคือเราจะไม่ตามหาหรือสืบว่าเขาเป็นใครผมเข้าใจเรื่องนี้ดี จากนั้นคุณอุไรบอกสามี “ไปสิเราเริ่มกันวันนี้เลยตามที่ตกลงหรือว่าไง” เธอมองมาที่แม่ๆยิ้มเขินๆว่า ได้ค่ะ แม่ลุกเดินเข้าห้องนอนคุณอุทัยเดินตามเข้าไปปิดประตูห้อง ผมทำหน้างง คุณอุไรบอก “สงสัยอะไรเหรอก็เขาต้องเข้าไปทำลูกกัน” ผมยิ้มแหยงว่า “ที่นี่วันนี้เลยเหรอ” เธอบอก “รีบทำจะได้รีบมีเรายินดีจ่ายเธอจะนั่งรอหรือออกไปเที่ยวก่อนก็ได้” เธอส่งเงินให้ผมจำนวนหนึ่งเพื่อออกไปเดินเที่ยวผมยกมือไหว้อย่างขัด ผมรู้ดีแม่เข้าห้องนอนกันคุณอุทัยเข้าไปทำอะไรกันใจผมหวิวๆคิดว่าควรออกไปเดินเล่น ผมออกไปเกือบสองชั่วโมงก็กลับมาสองผัวเมียกลับไปแล้วแม่เห็นผมก็ยิ้มเขินๆผมถามแม่ “เป็นไงบ้าง” แม่พูดอย่างอายๆว่า “ถามอะไรบ้าๆเรื่องแบบนี้ก็รู้ๆอยู่เขาก็โอเค” ผมก็ขำถาม “จะติดลูกไมต้องทำอีกกี่ที” แม่อายหน้าแดงหลบเข้าห้องไปผมก็เข้านอน จากวันนั้นผมไม่สนใจอะไรอีกแต่เรามีเงินใช้ปลดหนี้ บางวันผมกลับไม่ดึกมากผมเห็นรถหรูอีกคันจอดหน้าบ้านผมเข้าใจเขาคงมาซ้ำเพื่อให้แน่ใจว่าแม่จะติดลูกผมหลบๆไม่เข้าบ้านไปกวนพวกเขา แต่แอบรอแอบอยู่จนผัวเมียคู่นี้กลับออกไปผมจึงเข้าบ้านแต่ก็ไม่พูดถามอะไรแม่ ผมสังเกตุเห็นดูพวกเขาคงมีฐานะเพราะเปลี่ยนรถที่สองสามคันตอนมาบ้านเราเป็นแบบนี้ทุกครั้งพวกเขาจะมาหาแม่สัปดาห์ละครั้ง บางครั้งผมไม่ทนแอบรอให้เขากลับผมก็กลับเข้าบ้านจะเจอคุณอุไรนั่งอ่านหนังสือดูทีวีรอสามีเธอที่ทำกิจกับแม่ผมอยู่ในห้องจนทั้งคู่ออกมา คุณอุไรเป็นคนอัธยาศัยดีชอบนั่งคุยกับผมอย่างเป็นกันเองเป็นแบบนี้จนผมเคยชิน เวลาผ่านไปเดือนที่สองพวกเขามาเพิ่มเป็นสัปดาห์ละสองครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น