วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เดชแม่ยาย ตอนที่25 แม่ยายข้า..ใครอย่าเอาไป





ผมกอดจูบร่างของชิดชมที่อ่อนระทวยในวงแขนของผม สาวกรุงหลับตาด้วยความรัณ จวนยามผมซุกไซร้เข้าส่วนเร้นลับ แดดก็สวย สาวเจ้าก็ใส ลำธารใหลเย็นกำลังจะเป็นสวรรค์แห่งสองเรา ร่างขาวผุดผ่อง สัดส่วนที่เหมาะเจาะเต็มวัย โอ้ว...จะมีอะไรสุขไปกว่านี้ ผมจูบปากแลกลิ้นดูดดื่ม ชิดชมเสียวซ่านตัว สั่นกอดรัดคอผมแน่น สองขาเรียวงามเกร็งหนีบกันแน่น ผมพาเธอเข้าใกล้ฝั่ง พลิกร่างเธอให้นอนราบ ละปากจากการจูบ โลมไล้ลิ้นไปตามร่างกายสาวกรุงที่นอนแช่น้ำ ชิดชมกัดฟันด้วยความเสียวสุข นิ้วมือผมแหย่ไปในรูสวรรค์ สาวกรุงอ้าขาแอ่นกายรับสู้นิ้วผม สาวกรุงหายใจติดขัด เสียงครางครืดๆในลำคอ ผมพลิกร่างเธอให้นอนคว่ำลง จูบไซร้แผ่นหลังขาวเนียน อาวุธโด่เด่พร้อมรบพร้อมทะลวงสร้างความหฤหรรษ์ให้เธอและผม ร่างสาวกรุงแช่ น้ำโผล่พ้นน้ำเพียงคอ ผมค่อยๆบรรจงสอดใส่ใต้น้ำ แรงอัดจากน้ำทำให้เข้าได้ลำบาก แต่ก็ไม่เกินความพยายามของผมและเธอที่จะค่อยๆช่วยกันขยับและดันให้เข้าจน ได้ ผมเริ่มกระแทกช้าๆ สาวกรุงเจอบทสวาทในน้ำก็ร้องโอ้ย..คอตั้ง เร่งให้ผมทิ่มแทงเร็วๆ เพราะแรงอัดของน้ำทำให้ไม่สามารถทำได้ถนัด ผมลาก เธอขึ้มมาบนฝั่ง จับเธอนอนหงาย ขณะที่สาวกรุงเองก็กำลังติดลม ขยับตัวอำนวยความสะดวกเต็มที่ เพื่อให้ภาระกิจนี้ลุล่วง ผมสอดใส่อีกครั้ง คราวนี้ไม่มีอุปสรรค์ใดๆ ท่ามกลางธรรมชาติ แมกไม้และสายธาร ริ่มฝั่งน้ำ ผมกำลังกระแทกสาวชาวกรุงที่ร้องลั่นไม่มีเก็บอาการ ชิดชมส่ายหัวไปมายาม ถูกกระแทก ร้องเรียกชื่อผม สองมือจิกพื้น สองขากางกว้างบ้าง หนีบเอวผมบ้าง ตามแรงเสียว ผมเองก็ฮึกเหิม เมื่อทำให้สาวกรุงเสียวซ่านได้ มีแรงเท่าไหร่ก็อัดใส่ไม่ยั้ง ลืมเหนื่อย ลืมตัวและลืมกระทั่งตาย เหงื่อผมใหลดั่งน้ำราด แต่ก็ยังทำหน้าที่ไม่หยุด เอวยังซอยเป็นจังหวะแรงและเร็ว เสียงดังพรั๊บๆผสมเสียงเสียงน้ำถูกกระแทกดังฉับๆ เหมือนนักเดินทางมาถึงจุดหมาย ในที่สุดผมก็สุดจะกลั้น น้ำรักของผมก็พรั้ง พลูพุ่งเข้าหลืบลับสาวกรุงคนสวย เธอกอดผมไว้แน่นราวกลัวผมจะหนีหายไปยามนี้ แอ่นโคกรับแรงอัดฉีดจนหยดสุดท้าย ผมฟุบตัวทาบทับร่างสาวกรุง แช่กายอยู่อย่างนั้น สัมผัสแรงตอดรัด ตุบๆจากภายใน หอบหายใจครายความเหนื่อยร้า สาวกรุงกอดผมเบาๆ ยิ้มที่ได้สุขสมในอารมณ์ "ผู้ใหญ่ เด็ดขนาดนี้ น่าอิจฉาเมีย ผู้ใหญ่นะ ที่มีคนทำอย่างนี้ ให้ทุกวัน" สาวกรุงกระเซ้าผม "ถ้าชิดชม ต้องการใช้บริการผม อีกล่ะก้อ ช่วงนี้เรียกใช้ ได้ทุกเวลา ผมเป็นผู้ใหญ่บ้าน เป็นคนของประชาชนอยู่แล้ว" ชิดชมยิ้ม"โดยเฉพาะสาวไช่ไหม คงรับใช้แทบหมดหมู่บ้านเลยม้าง..." เมื่อสมควรแก่เวลา เรา2คนก็ล่ะกายจากกัน ล้างตัวและแต่งกายเดินกลับมาที่รถ "กลับกันเถอะ วันนี้ผู้ใหญ่พาชิดชม เที่ยวพอแล้ว เก็บแรงไว้คืนนี้ ชิดชมจะขอใช้บริการผู้ใหญ่อีก.."สาวชาวกรุงพูดจบก็หัวเราะเสียงใส ผมก็พา เธอบึ่งรถกลับบ้านตามประสงค์..
แต่เมื่อถึงบ้าน ผมต้องหงุดหงิด เมื่อได้รับรายงานจากเจ๊เดือนว่า เจ้าโชคพาสร้อยไปชื้อของที่ตลาด เพื่อมาทำกับข้าวตอนเย็น ผมออกมานั่งรอการกลับมาของทั้งสองอย่างกระวนกระวาย ยิ่งนานยิ่งหงุดหงิด กระสับกระส่ายเดินวนไปวนมาเหมือนคนบ้า ยกนาฬิกาดู เอ..2ชั่วโมงแล้ว มึงพาสร้อยหายไปนานขนาดนี้ มึงพาไปไหน ไปทำอะไร ไอ้โชค ทำเหมือนกูทำกับน้องมึงหรือเปล่า แต่สร้อยไม่ใช่คนแบบนั้น คงไม่ยอมไอ้โชคง่ายๆ แต่เอ เผื่อเธอชอบของคนกรุงล่ะ โอ้ย 2ชั่วโมงกว่าแล้ว ทำไมไม่มาสักที จนตะวันจะลาฟ้า รถเจ้าโชคจึงแล่นมาจอด สร้อยก้าวลงมาอย่างยิ้มแย้ม เจ้าโชคลงมาเปิดท้ายมีสร้อยเข้าไปช่วยหิ้วของพะรุงพะรัง ทั้งคู่หัวเราะต่อกระซิบ สนิทสนมกันราวรู้จักมาแรมปี บาดใจผมยิ่งนักภาพนี้ "ทำไมไปกันนานจัง..ไปไหนมา..ไปทำอะไรกัน.."ผมถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ สร้อย เดินเลี่ยงหลบไป เจ้าโชคหัวเราะอย่างอารมณ์ดี "กูพาสร้อยไปตลาดและให้พาไปเที่ยวดูทั่วหมูบ้าน..แหมหมู่บ้านมึงนี่พัฒนาไว นะ...กูไม่ได้มา4-5ปีเจริญขึ้นเยอะเลย"เจ้าโชคร่ายยาวเป็นชุด"ดูแค่ความ เจริญของหมู่บ้านกูอย่างเดียวจริงหรือเปล่า"เจ้าโชคทำหน้างงๆไหมายความว่าไง แต่ผมไม่พูดต่อความ มันหงุดหงิดบอกไม่ถูก ที่เห็นสร้อยดีกับคนอื่น ผมเดินเข้าบ้าน เห็นสร้อยกำลังเตรียมทำกับข้าว "พอเจอคนกรุงรูปหล่อ รู้สึกระริกระรี้ผิดปรกติ เจออะไรเข้าไปล่ะ หายไปตั้งนาน" สร้อยเอามีดปังตอสับเขียงดังปัง "พูดงี้หมายความว่าไง นึกว่าใครๆจะชั่วเหมือนตัวเองหมดรึ"ผมตัวลีบไม่กล้าสบตา"ก็เห็นสร้อยหายไป กับมันนาน..นานมากก็เป็นห่วง กลัวจะเกิดอะไรไม่ดี"ผมพูดเสียงอ่อยๆ"อยู่ที่นี่ น่ากลัวกว่าข้างนอกอีก ไม่รู้จะมีคนชั่วๆวางแผนบ้าๆมาให้ปวดหัว"สร้อยด่าไม่เอ่ยชื่อ ผมเห็นท่าไม่ดีเลยเดินหนีออกมา แต่เจ้าโชคยิ้มกริ่มจะเดินสวนเข้าไป ผมรั้งคอลากมันตามมาที่หลังบ้าน ชวนมันดื่มเบียร์ เจ้าโชคไม่ยอมกินจะขอเข้าไปช่วยสร้อยทำกับข้าว ผมไม่ยอมปล่อย ลากมันมาขอลองขับรถหรูของมัน จนในที่สุด มันก็ต้องไปกับผม และผมพามันตระเวณจนใกล้ค่ำจึงพามันกลับมาบ้าน แผนกีดกันผมสำเร็จ และมื้อค่ำวันนั้นก็ผ่านไป และเจ้าโชคก็ดูจะรู้ว่าผมกันท่ามัน มันจึงบึงตึงกับผม หลังเสร็จมื้อค่ำเจ้าโชคขอคุยกับผม ที่ระเบียงหลังผมไปตามเจ้าโชคบอก "กู ขอเปิดอกพูดกับมึง"เจ้าโชคเริ่ม"เกิดมากูไม่เคยเตะตาใครเท่าสร้อย กูขอได้ ไหม มึงอย่าขวางกูเลย หรือที่มึงขวางเพราะมึงมีอะไรกับเขาแล้ว"ผมอึ้งในความหน้าด้านของมัน มึงขอกูง่ายๆอย่างนี้เลยหรือ"กูไม่มีสิทธ์ที่จะยกเขาให้ใคร มึงอยากได้ไปขอเจ้าตัวเขาเอง"แต่ผมต้องสะดุ้งในคำตอบตัวเอง ตายแล้วดันเผลอพูดออกไปได้ เจ้าโชคยิ้ม"ขอบใจไอ้เพื่อนรัก แสดงว่าต่อไปนี้มึงไม่ขวางทางกูแล้ว กูจะไปขอเจ้าตัวเอง ในคืนนี้..ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า"เจ้าโชคหัวเราะร่าเดินจากไป ผมถึงทรุด โธ่ ไม่น่าปากไวเลยกู....
ผมเดินซึมมาที่ห้องนอน นึกเจ็บใจที่ตัวเองปากไวเปิดทางให้เจ้าโชค นี่ถ้าสร้อยตกลงปลงใจกับเจ้าโชคผมจะทำอย่างไร ที่ผมทุ่มเทมาคงสูญ เปล่า แล้วผมต้องเสียสร้อยไปเป็นครั้งที่2อีกหรือ ผมคงทนอีกไม่ได้แล้ว...แต่เมื่อผมเปิดประตูห้องก็เจอ ชิดชมนอนรออยู่บนเตียงใต้ชุดชั้นในบางจิ๋ว อื่มเธอส่งยิ้มหวานบาดใจมาให้ ผมปิดประตู คิดในใจว่า"อย่างน้อยคืนนี้ก็ยังมีอะไร ปลอบใจให้ครายเหงาไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านมาก ผมเดินไปที่เตียงปลดเปื้องเสื้อผ้าตัวเองออกจนหมด ผมพร้อมรับใช้ลูกบ้านและแขกบ้านทุกคนอยู่แล้วโดยเฉพราะสาวๆ ผมพร้อมรับใช้ชนิดถึงกึ่นเลยล่ะ รับประกันความผิดหวัง "เมื่อกลางวันตื่นเต้นดีค่ะผู้ใหญ่ แต่ยังไม่ที่สุด หนูอยาได้แบบ...ที่มันครบชุดหน่อยได้ไหม" จัดให้ตามขอ ผมโผเข้าหาร่างสาวชาวกรุง ดึงยกทรงถอดกางเกงในออก เธอนอนหงายเปลือยเปล่า ถ่างขากว้าง มีผมนั่งแทรกอยู่ ตาหวานหยาดเยิ้มคู่นั้นยั่วยวนท้าทายผมอยู่ในที ผมยกขาข้างหนึ่งของเธอขึ้น มา จูบไล่ลงมาถึงหัวเข่า ไล่ไปเรื่อยๆแต่สาวกรุงรั้งคอผมขึ้นมาจูบปาก แลกลิ้น ผมบีบคลึงนมอวบ เบาๆสลับบีบหัวนม ผมล่ะปากมาจูบไซร้ทรวงอก ดูดหัวนมขาวอมพูราวทารกดูดนมแม่ สาวกรุงกอดคอผมเกร็ยงครางฮือๆๆ...ขาสองข้างถ่างกางกว้าง ชื้นชุ่มไปด้วยน้ำแห่งความเสียว ผมเห็นว่าถึงแก่เวลาการลงเสาเอก ผมจับเธอนอนหงาย แต่เธอไม่ยอมพลิกตัวคว่ำ ยกก้นลอยโด่ง และส่ายไปมา ส่งสายตาเชิญชวน ผมก็ทำตามคำขอ คลานไปประกบด้านหลังสอดใส่โดยไม่ช้า ผมกระแทกพรวด สาวกรุงผงกหัวอ้าปากร้องอ้าก..เบาๆ ผมจับตัวเธอขึ้นมาบีบนมสองข้างจากด้านหลัง พลางเริ่มกระแทก สาวกรุงนอกจากยืนหยัดรับแรงกระแทกแล้วยังกระแทกก้นสวนกลับรับการจู่โจมจากผม ผมกระเด้าใส่เธอจากด้านหลังอย่างเมามัน2มือบีบเค้น2เต้าไม่หยุด สาวกรุงส่ายหัวไปมาผมยาวสวลหอมระรื่นพริ้วไปมา จนเธอหมดแรงรับแรงกระแทกทิ้งตัวนอนคว่ำลง ผมไม่รอช้านอนประกบจากด้านหลัง สอดใส่อาวุธที่หลุดตอนเธอทรุดตัว และบรรเลงเพลงกระเด้า กระแทก จนก้นขาวงามกระเพื่อมไหวตามแรงกระหน่ำ สาวกรุงร้องลั่นไม่เป็นภาษา มือไม้เปะปะ ผงกหัวขึ้นลง ผมยิ่งมันยิ่งกระแทกไม่ยั้ง ไม่กลัวว่าก้นจะพัง สาวกรุงก็ไม่ถอย นอนคว่ำให้ผมกระแทก โดยไม่ร้องขอความปราฌีจากผม จนในที่สุดผมก็พ่นน้ำพรางพรูออกมาอย่างสุขสมและสุดเสียว ซ้ำเหนื่อยใจแทบขาด เพราะไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ที่อึดและทนเช่นนี้มาก่อน ผม นอนหอบหายใจแฮ่กๆ สาวกรุงเองก็ อิดโรยไม่แพ้กัน เธอลุกขึ้นแต่งตัว และบอกว่า"วันนี้รบกวนผู้ใหญ่แค่นี้นะค่ะ...หวังว่ารับแขกอย่างหนูผู้ใหญ่คง ไม่เหนื่อยมาก และพรุ้งนี้หนูจะมาใช้บริการผู้ใหญ่อีก ขอบคุณค่ะ "แล้วเธอก็เดินจากไป ปล่อยผมนอนหอบและเผลอหลับไป ......
ผมมาสะดุ้งตื่นตอนไหนไม่รู้ แต่กระหายน้ำเป็นกำลัง จึงเดินไปที่ครัวหาน้ำกิน แต่จากประตูห้องครัวมองไปที่ลานหินอ่อนในสวน ผมเห็นเจ้าโชคเดินอยู่และมีสร้อยเดินอยู่ข้างๆ ใต้แสงจันทร์สว่างฟ้า เจ้าโชคเดินแทบชิดตัวสร้อย และแม่ยายผมก็ดูจะไม่ขัดขืนเลี่ยงหลบ เอาแล้วกูถ้าจะแห้วแม่ยายง่ายๆล่ะม้าง ดึกป่านนี้ไม่นอนดันมาเดินเล่นกับไอ้โชค อือทีกูล่ะก้อใกล้นิดชิดหน่อยทั้ง หยิกทั้งข่วนทั้งฟาดสารพัด..เอ..หรือสร้อยชอบแบบนี้ แบบสุภาพนุ่มนวล ออกหรูๆ ไม่ใช่ฮาร์ดคอร์ เดินหน้าฆ่าอย่างเดียวอย่างผม เธอเคยมีผัวเป็นครูคงซึมซับปัญญาชนมา ประเภทตบ จูบ ถีบ คงไม่เอา ผมย่องอย่างเงียบๆมาซ่อนตัวหลังพุ่มไม้ เพื่อหาทางขัดขวางทาง สวรรค์ของทั้งคู่ ไอ้โชค ไหนๆก็ไหนๆแล้ว กูไม่ได้ ใครก็อย่าหวังจะได้ เรื่องอะไรกูจะปล่อยมึงได้งาบสร้อยสบายๆสะดวกปาก กูจะ ขัดขวางมึงให้ถึงที่สุดคอยดู "บรรยายยมค่ำคืนที่นี่สงบและสวยงามจริงๆนะ ครับโดยเฉพาะเมื่อมีสร้อยอยู่ข้างๆอย่างนี้ทุกอย่างดูสวยงามรื่นรมณ์ไป หมด"อูยเลี่ยนฟังแล้วผมอยากจะคายของเก่าออกมา "แหม พูดเอาใจเกินไปหรือเปล่าคะ สร้อยหรือจะสวยสู้สาวชาวกรุงได้ คุณโชคคงพูดกับสาวชาวกรุงอย่างนี้ทุกคนเลยซิ"อูยเน่าพอกัน กูฟังแล้วอยากจะดิ้นตาย เจ้าโชคเดินเข้ามาใกล้ อ้าว..มึงโอบไหล่สร้อยด้วย"หญิงในกรุงผมพบเจอมาเยอะแต่ไม่เคยมีใคร ถูกใจและมีค่าเท่าสร้อยเลย...สร้อยหากคุณไม่รังเกียด ผมอยากจะขอ....ขะ..ขะ..ขะ..."ผมต้องตกใจจู่ๆเจ้าโชคยืนตัวสั่นสองแขนล่ะจาก ไหล่สร้อย พูดติดอ่างและล้มตึงลงชักแง่กๆควันขาวๆลอยขึ้นมาจากร่างของมัน สร้อยยืนมองอย่างเย็นชา "เหมือนกันหมด เป็นเพื่อนกันมันก็คิดอย่างเดียวกัน ผู้ชายดีๆมันตายห่าหมดแล้วหรือไง" สร้อยเอาเท้าเขี่ยร่างเจ้าโชค"คงไม่ถึงตายน๊ะ"แล้วเธอก็เดินจากซากร่างเจ้า โชคอย่างไมใยดี ในมือเธอถือเครื่องช๊อดไฟฟ้าซึ่งเป็นสาเหตุให้เจ้าโชคนอนสิ้นสภาพอยู่ ผมรอ จนได้ยินเสียงปิดประตูจากห้องของสร้อย แล้วออกจากที่ซ่อนไปดูอาการเจ้า โชค ผมเขย่าตัวถามมันว่าตายหรือยัง มันสะดุ้งลุกขึ้นนั่งยิ้มให้ผม "โอ้ยแม่ยายมึงร้ายว่ะ แต่อย่างนี้แหละสะเป็กกูเลย"แล้วมันก็หงายท้องตึง นอนสลบต่อ ผมต้องหามร่างมันไปนอนเรือนเล็กอย่างทุลักทุเล แค่นี้ยังน้อยไอ้โชค เดชแม่ยาย กูยังมีอีกเยอะ ถ้ามึงจะแข่งกะกูล่ะก้อ มึงเพิ่งเริ่มต้น หนทางยังอีกยาวไกล......โปรดติดตามตอนต่อไป.....


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น