วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เดชแม่ยาย ตอนที่24 เมื่อมีคู่แข่งแบบไม่ตั้งใจ...


เช้า วันนี้ผมพักผ่อนอยู่บ้านเพราะเป็นวันหยุดยาวของทางราชการ ผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์จิบกาแฟอยู่หน้าบ้าน ส่วนข้างๆบ้านไม่ไกล สร้อยกับเจ๊เดือนกำลังช่วยกันปลูกต้นไม้ เปลี่ยนกระถางใหม่บ้าง โดยมีลูกมือมาช่วย2-3คน จริงๆผมก็อ่านหนังสือพิมพ์ไม่รู้เรื่อง เพราะตาคอยชำเหลืองดูแม่ยายสุดเอ็กซ์อยู่ แรกๆที่สร้อยมาใหม่ๆนั้นผิวพรรณหมองคร้ำ หน้าตาเรียบๆรูปร่างผอมบาง แต่ยิ่งอยู่นานไปผมยิ่งรู้สึกเธอ เปล่งปรั่งขึ้นรูปร่างหน้าตาดีขึ้น คงเพราะอยู่ดีกินดีมีความสบายใจจึงทำให้กายวิภาคดี แต่เอคอยระแวงลูกเขยอย่างผมนี้เธอสบายใจหรือเปล่าไม่รู้น๊ะ โสภาไปญี่ปุ่นได้5วันแล้ว เธอคอยโทรมาหาทุกวัน วันล่ะ3เวลา และเล่าให้ฟังหมดว่าวันๆไปทำอะไรมาบ้าง ผมจึงรู้สึกไม่เหงาเท่าไร มีแต่ตอนกลางคืนเท่านั้นที่มันหว้าเหว่ที่ต้องนอนคนเดียว อยากไปนอนห้องสร้อยก็กลัวไม่ตื่น เพราะตายแน่นอน แม้นคืนนั้นจะมีท่าทางแปลกๆเกือบจะให้ผมจูบ แต่ผมระวังตัวเหมือนกันกลัวเธอมีลูกเล่นที่คาดไม่ถึง หลังจากคืนนั้นผมเลยนิ่งๆตามตำราจีนใช้ความสงบสยบความเครื่อนไหว ผมลอบมอง ความอวบ ขาว สวยของสร้อย เฮ้อว่าจะไม่คิดอะไรแต่ดูแต่งตัวสิ กางเกงขาสั้นแทบถึงแก้มก้นตัวจิ๋ว เสื้อสายเดี่ยวเอวลอย ยามหันหลังก้ม ผมเห็นแก้มก้นแลบออกมาทักทายสายตา ด้านหน้าเวลายกกระถางหน้าท้องขาวแบนราบสะดือได้รูปก็มาเตะตา เวลาก้มรึสองเต้าใหญ่ก็ท้าทายให้ตบะแตก บอกว่าไม่คิดอะไรก็ต้องไปบวชเป็นพระแล้ว คนอะไรสวยได้งามได้ไม่เกรงใจลูกเขย ผมนั่งเพลิดเพลินกับสร้อยโชว์อยู่พักใหญ่ๆ ก็ต้องสะดุ้งเมื่อถูกเขย่าไหล่แรงๆ พี่เคริ้มมากไปอ่ะป่าว เรียกตั้งนานไม่รู้สึกตัว ไอ้คม ผมอุทาน ทำไมมามาใกล้กูขนาดนี้กูไม่รู้สึกตัว ผมพิศวง ญาณพิเศษเสื่อมนะสิ มัวแต่จ้องสร้อยอยู่ได้ เจ้าคมเฉลย ไอ้วรนุชคม มึงมาหากูทำไม เจ้าคมนั่งลงข้างๆก็มาหาพี่นั่นแหละ ไงเดือนนี้พี่จะปล่อยให้ผ่านๆไปเฉยๆรึ ผมยักไหล่ กูเจ็บมาเยอะแล้ว กูจะลองอยู่เฉยๆบ้าง ไม่แน่อาจดีกว่าลงมือทำอะไร เจ้าคมยังเอ่ยเตือน พี่..สร้อยยังสาวยังสวยอยู่นะพี่ทำเฉยแล้วคนอื่นจะเฉยด้วยรึ คนอื่นๆมันไม่ เกรงใจพี่หรอก มันจ้องจะมาคว้าทั้งงั้น ทำเป็นใจเย็นเดี๋ยวแม่ยายหลุดมือ ผมลุกขึ้นประกาศเสียงกร้าว ใครมาจีบสร้อยกูจะยิงให้ขาลาก คอยดู..เจ้าคมสายหัว พี่ห้ามเขาไม่ได้หรอก เขาไม่ใช่ลูกพี่แต่เขาเป็นแม่ยายพี่ มีสิทธ์อะไรไปห้ามเขามีผัว เออจริงผมมีสิทธ์อะไร และมันก็กลายเป็นสิ่งกังวลในใจผม ถ้าสร้อยถูกใจใครและย้ายเรือนออกไปผมจะทำอย่างไง และทนไหวไหม..เจ้าคมไถเงินผมตามเคยและลากลับไป ปล่อยผมกังวลกับอนาคตของสร้อย โอ้ยยิ่งมองยิ่งน่าเสียดาย 19ปีที่แล้วก็หลุดมือไปทีหนึ่งทั้งๆที่ได้เปิดซิงด้วย คราวนี้จะพลาดอีกรึ ไม่..ไม่..ไม่..ไม่ยอม..ไม่ยอมแล้วจะทำอย่างไงล่ะ คิด..คิด..คิด..คิดสิ ผมเอามือขยุ้มหัวคิดหาทางออก..
แต่ขณะผมนั่งตีอกชกหัวเหมือนคนบ้าอยู่คนเดียวก็มีรถสปอร์ตยี้ห้อดังราคาไม่ อาจคำนวนแล่นตรงมาจอดที่หน้าบ้านผม ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาบ่งบอกเป็นชาวกรุงท่าทางภูมิฐานเปิดประตูก้าวลงมา ผมเพ่งมองอยุ่นานจึงอุทานว่าไอ้โชค โอโฮ้มึงไม่ได้เจอกันนานมาได้ไง ชายคนนี้คือไอ้โชคหรือโชคชัย เพื่อนเก่าผมที่ตอนนี้โด่งดังอยู่ในวงการไฮโซ เจ้าของธุรกิจส่งออกผู้ร่ำรวย เจ้าโชคยิ้มมาดราวพระเอกละครหลังข่าว กูก็มาเที่ยวพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศนะสิ พอดีคิดถึงมึงเลยดิ่งมาหา มึงมีที่พักให้กูอยู่ที่นี่สักวันสองวันไหม ผมเดินเข้าไปโอบกอดยินดีต้อนรับเสมอเพื่อนรัก เพราะผมตั้งเนื้อตั้งตัวได้ส่วนหนึ่งก็เพราะมันช่วยส่งเสริม แล้วมึงมาคนเดียวรึผมถาม กูมากับชิดชมน้องสาวกูไง จำได้ไหม เจ้าโชคบอก และประตูรถด้านคนนั่งก็เปิดออก สาวหุ่นเพรียวบางในชุดเกาะอกอวบอิ่มก้าวออกมา ใบหน้างามของสาวชาวกรุงสวมแว่นดำมีหมวกปีกกว้างสวมกันแดด เธอก้าวขาเรียวยาวเดินมายกมือไหว้ผมและผมรับไหว้อย่างตกตะลึง ชิดชมผมคราง ไม่เจอกันนานโตเป็นสาวสวยขนาดนี้เลยรึ ทำไมโตไวจัง เจ้าโชคชิงตอบแทนแบบขำๆว่า เด็กไม่โตไวหรอก มึงแก่ไวต่างหาก ผมชวนทั้งสองมานั่งสนทนาที่โต๊ะหินอ่อน ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ เรื่องราวต่างๆอยู่พักใหญ่ เจ้าโชคก็อ้าปากค้างเมื่อมันมองข้ามหัวผมไปด้านหลังแล้วถามว่านั่นใคร ผมหันตามไปเห็นสร้อยก้มๆเงยๆล้างตัวอย่างสุดเซ็กส์ เมียมึงหรอ ผมบอกไม่ใช่เมียกูไม่อยู่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ผมเรียกสร้อยมาแนะนำตัวกับสองพี่น้อง และบอกเจ๊เดือนไปเตรียมเรือนเล็กไว้ รับรองแขกสำคัญทั้งสอง สร้อยขอตัวไปเตรียมอาหารกลางวันให้พวกเราและชิดชมขอ ตามไปช่วยเป็นลุกมือ ใคร่วะสร้อยน๊ะ เจ้าโชคถามผม เมียเก็บมึงหรอ แหมพอเมียไม่อยู่ มึงเอาตัวแทนมาอยู่ด้วยเลยน๊ะ เจ้าโชคไม่รู้จักสร้อยเพราะผมรู้จักมันหลังเลิกกับสร้อยและไม่เคยเล่าเรื่อง สร้อยให้มันฟัง ไม่ใช่อย่างที่มึงคิด ผมบอกมัน ไม่ใช่เมียเก็บ ไม่ใช่เมียน้อย แต่อยู่บ้านมึง เฉยๆ มึงเก็บไว้ทำอะไร เก็บไว้ทำแม่มึงเรอะ เจ้าโชคถามเป็นชุด เออกูเก็บไว้ทำแม่กู นั่นนะแม่ยายกู เจ้าโชคอ้าปากค้าง หา....นั่นแม่ยายมึง ผมสำทับใช่ห้ามมึงคิดอะไรไม่ดีเด็ดขาด เจ้าโชคลูบหลังผม เออ กูไม่คิดเรื่องไม่ดีหรอก แต่ตอนนี้กูคิดแค่..อยากเป็นพ่อตามึงว่ะ ผมแทบจะยกเท้าถีบมันทันทีแต่ห้ามใจไว้ทัน ไอ้วรนุชเดี๋ยวกูถีบให้..ทะลึ่งแล้วเล่นของสูงเลย..ผมด่า เจ้าโชคหัวเราะแหะๆ..
ตลอดเวลาบนโต๊ะอาหารมื้อเที่ยงเจ้าโชคที่ฉวยโอกาศนั่งข้างๆสร้อย คอยชวนคุยเอาใจและชมสร้อยสารพัด โดยไม่สะทบสะท้านสายตาที่จ้องราวจะกินเลือดกินเนื้อมันของผม ไม่น่ามาคิด ถึงกูตอนนี้เลยไอ้โชคผมคิดในใจ ผ่านมื้อเที่ยงไป ผมกับเจ้าโชคมานั่งคุยเรื่องเศษฐิจตลอดจนลมฟ้าอากาศไปตามเรื่อง ถามถึงคนที่เคยรู้จักที่ห่างหายกันไป แต่สุดท้ายมันก็วกมาที่สร้อย มันถามทุกข้อมูลตั้งแต่เล็บตีนยันเส้นผม นิสัยใจคอชอบเกลียดอะไร ผมตอบได้ก็ตอบบางอย่างก็เลี่ยงตอบ ถ้าขนาดนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันสนใจสร้อยและคิดจะจีบเธอ แน่นอนมีรึที่ผมจะยอมเสียแม่ยายของผมให้มันง่ายๆ และที่สำคัญกว่านั้นผมไม่อยากได้มันมาเป็นพ่อตาผม และผมต้องหาทางขับไล่มันไปไกลๆจากสร้อยโดยเร็ว แต่จะใช้วิธีไหน เมื่อชิดชมน้องสาวมันก็เอ็กซ์น่าดู ผมเคยเจอตอนอายุ10ขวบกว่าๆยังเด็กนักตอนนั้น แต่ตอนนี้ แฮ่...ขณะผมนั่งมองเจ้าโชคพูดคุยหยอกล้อกับสร้อยที่สวนข้างบ้านจากทาง หน้าต่าง ก็มีเสียงใสๆของชิดชมทักมา ดูอะไรค่ะผู้ใหญ่ ผมสะดุ้งหันมาตามเสียงสาวชาวกรุงสุดอึ๋ม เปล่าดูนกดูไม้ไปตามเรื่อง ผมตอบเลี่ยงๆทั้งที่เห็นอยู่ว่าแอบดูแม่ยายตัวเองคุยกับเจ้าโชค ชิดชมชวนผม คุยไถ่ถามถึงกิจการ และสภาพหมู่บ้านผม และอยากให้ผมพาไปเที่ยวดูสวนดูไร่ของผม แม้นจะเป็นห่วงสร้อยที่ต้องอยู่ลำพังกับเจ้าโชค แต่ทนเสียงเว้าวอนของสาวกรุงไม่ไหวจำใจต้องพาไป แต่ก่อนจะพาชิดชมออกไป ผมแอบมาสั่งกำชับให้คอยอยู่ใกล้ตามประกบสร้อยกับเจ้าโชคไม่ให้คาดสายตา ห้ามปล่อยทั้งสองอยู่ในที่ลับหูลับตาเด็ดขาด และเมื่อผมกลับมารายงานให้ละเอียดแล้วจะจ่ายพิเศษให้ เจ๊เดือนรับปาก งงๆ และผมก็ขับรถคู่ใจพาแม่เทพธิดาชาวกรุงมุ่งสู่สวนองุ่นนอกหมู่บ้านของผม สาวกรุงตื่นเต้นในทิวทัศน์ระหว่างทางจนออกอาการเว่อร์แต่ก็น่ารัก เมื่ออยู่ใกล้ๆกลิ่นน้ำปรุงแต่งและทรวดทรงองค์เอวตลอดจนหน้าตาของชิดชมก็ชัก ทำผมใจสั่น ผมชวนคุยถามถึงหน้าที่การงานตลอดจนคนรัก สาวกรุงว่าหัวใจยังว่าง ผมย้ำว่าว่าง ว่างได้ไงหน้าตาอย่างงี้ ฐานะอย่างนี้ มีคนปล่อยว่างได้อย่างไง เธอหัวเราะแทนคำตอบ เสียงหวานตรึงใจดีจัง....
เราทั้งสองมาถึงสวนองุ่น ผมพาสาวชาวกรุงเดินดูสวนอธิบายวิธีปลูก เก็บเกี่วและจำหน่าย การดูแลและการควบคุม สาวชาวกรุงฟังอย่างตั้งใจและตื่นตา พร้อมทั้งยังถามกิจการอื่นๆอีกมากมายของผม เมื่อเธอได้ฟังก็ทึ่งและยิ่งได้รู้ว่ากิจการทั้งหมดโสภาเมียรักของผมคอยดูแล และกำกับเธอยิ่งทึ่ง ชมว่าโสภาเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก และกระเซ้าว่าหากเธอจะมาช่วยโสภาดูแลจะได้ไหม ผมหัวเราะในมุกของเธอ แต่ขณะที่ชมสวนกันอยู่อย่างเพลิดเพลินชิดชมได้ยินเสียงน้ำตกท้ายไร่จึงขอให้ ผมพาไปดู ผมจึงพาเธอบุกป่าไปจนถึงน้ำตก ชิดชมบอกว่าอยากเล่นน้ำตกจังแต่ไม่ได้เอาชุดว่ายน้ำมา ผมพูดเล่นๆว่าน้ำตกที่นี่ไม่ค่อยมีใครมาจะแก้ผ้าเล่นก็ได้ สาวชาวกรุงถามว่าจริงหรอ ผมหัวเราะบอกจริงถ้ากล้าโดยไม่คิดว่าจะเกิดเรื่อง...ขฌะผมนั่งลงวักน้ำลูบ หน้าข้างๆตัวผมก็มีเสื้อผ้าของชิดชม ถูกวางลงใกล้ๆแม้นแต่ชุดชั้นในด้วย โอ้วแม่จ้าว ผมเงยหน้าขึ้นไปเห็นสาวชาวกรุงเปลือยเปล่าต่อหน้าต่อตากลางวันแสกๆ ผมอ้า ปากค้างในความกล้าของเธอ ชิดชมหันมายิ้มหวานเดินลุยลงน้ำใสใหลเย็นเห็นหอย เธอเอ้ย...เห็นปูปลา เธอวักน้ำลูบกายดื่มด่ำกับความฉ่ำเย็นโดยไม่แคร์สายตาผมที่จ้องมองอย่างตื่น ตะลึง ลงมาเล่นด้วยกันไหมผู้ใหญ่น้ำเย็นดีจัง พลางเธอก็แช่ตัวลงในน้ำ ไม่ต้องให้ชวนซ้ำสอง ผมแก้ผ้าทันทีและเดินลุยน้ำตามลงไป สาวกรุงเห็นดุ้น โด่เด่ผมก็ยิ้มตาเชื่อน แหมผู้ใหญ่นี่ใหญ่สมตำแหน่งเลยนะ ผมตอบว่านี่แค่เป็นผู้ใหญ่ถ้าเป็นกำนันจะใหญ่กว่านี้อีก ผมลงนั่งข้างตัวเธอดึงร่างขาวอวบอัดมากอดโดยไม่รอเจ้าของอนุญาติ มาถึงขั้นนี้ไม่ต้องคุยไม่ต้องถามอะไรกันแล้ว ใส่เกีร์ยเดินหน้าลุยลุกเดียว ผมกอดจูบลูบไล้เรือนกายสาวกรุงที่ลอยคอในน้ำใสอย่างนุ่มนวล นมกลมกรึงใหญ่ล้นมือถูกผมบีบคลึงใต้น้ำ สาวกรุงอ้าปากครางเสียว ยังมีเด็ดกว่านี้ เจ้าโชคมันคิดจะมาเป็นพ่อตาผม แต่ผมไม่ยอมหรอก แต่ตอนนี้ผมขอยัดเยียดความเป็นน้องเขยให้มันโดยที่มันไม่ รู้ตัวก่อนก็แล้วกัน แม้นจะหวั่นใจในท่าทีของสร้อยที่อาจเอนเอียงไปทางเจ้า โชค แต่ศึกนี้มันยิ่งกว่าศักดิ์ศรียอมกันไม่ได้ ถึงจะเป็นเพื่อนกันก็เถอะ เดี๋ยวก่อนตอนนี้กำลังทำหน้าที่น้องเขยต้องสาน ให้จบ..แต่....โปรดติดตามตอนต่อไป..น๊ะครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น