หลังจากที่ได้ตุ๊กตามหาเสน่ห์จากหมอเทิ้มมาแล้ว
ผมนำมันไปฝังไว้ตรงทิศหัว
นอนของสร้อยตามคำสั่งของหมอผีที่ผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
แต่ชั่วโมงนี้ ผมไม่มีทางเลือก
เพราะใช้มาแล้วทุกกลยุทธแต่ก็ปางตายมาตลอด
โบราณว่า"ไม่ได้ด้วยเล่ย์ก็ต้องเอาด้วยกล
ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเล่นด้วย
คาถา"ผมลองเชื่อโบราณ
และภาวนาขออย่าบานบุรีเหมือนที่เจอมาละกัน
สาธุ..หลังคืนนั้นผ่านไปเข้าสู่เช้าวันใหม่
ผมกับโสภาตื่นเช้าอาบน้ำแต่ง
ตัวไปทำงานกันตามปรกติ
แต่ที่โต๊ะอาหารสิ
ผมพบความไม่ปรกติเล็กน้อย
คงไม่ใช่การเข้าข้างตัวเองหรอก
ผมสังเกตุเห็นสร้อยลอบมองผมด้วยตาแปลกๆมัน
เหมือนสายตาครั้งที่สร้อยมองผมเมื่อ19ปีก่อน
สายตาชื่นชมหลงใหลนั้นผมไม่
เคยลืม แต่ผมก็ยังขยาดไม่กล้าหวังมากเหมือนครั้งก่อนๆ
สลัดหัวเตือนตัวเองว่าคิดไปเองหรือ..เสน่ห์หมอเทิ้มออกฤทธ์แล้ว
เร็วไปหรือ เปล่าเพิ่งข้ามวันเอง
ไม่น่าเค้าว่าแกเก่งน๊ะ
แต่รอให้แน่ใจก่อนดีกว่ารอ3วันดู7วันก่อน
ผมรู้สึกเหมือนกับตัวผมเองแบ่งภาคออกมา3-4ตัวเล็กๆยืยคุยกันบนโต๊ะอาหาร
เถียงกันคุยกันปรึกษากันอยู่เรื่องนี้
ตัวหนึ่งว่าได้ผลแล้วต้องรีบลง
มือ อีกตัวว่าช้าๆดูให้แน่ใจ
อีกตัวก็ว่ามั่นใจไปเดี๋ยวเจอสอยและอีกตัวก็
ว่าสงบๆอย่าไปยุ่งดีกว่าและสุดท้ายก็ทะเลาะเข้าตีกันว่าความคิดตัวเองถูกจน
ผมรำคาญตวาดว่า พอแล้วพวกมันจึงหายไป
พออะไรรึพี่ ตวาดลั่นเลย
โสภาถามงงๆขณะสร้อยและเจ๊เดือนก็จ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว
ผมเงยหน้าเกาหัว
ยิ้มแหะๆบอกว่าอาหารพอแล้ว
ก่อนจะขอตัวลุกขึ้นออกไปรอโสภาที่รถก่อน
โสภาดึงแขนผมไว้และลุกขึ้นมาแหกตาผมดูไปมาสองข้างแล้วบอกว่า
ไปกรุงเทพคราวหน้า
หนูต้องเอาพี่ไปด้วยให้ได้
หนูไม่ไว้ใจแล้ว
ผมสะดุ้งเหงื่อซึมกับคำว่าไม่ไว้ใจหรือเธอระแคะระคายเรื่องเราคิดฟันสร้อย
แต่ถูกสร้อยฟันปางตายมาตลอด
หนูว่าสมองพี่ต้องกระทบกระเทือนหนักแน่ระยะ
หลังๆถึงดูเพี้ยนๆแปลกๆ
ผมโล่งอกกอดเมียคนสวยบอกว่าผมไม่เป็นไรหรอกแต่
เพื่อความสบายใจจะไปตรวจก็ได้
แล้วผมก็ประคองโสภาเดินออกมาแต่เมื่อหันไปสบ
ตาสร้อยก็ยังรู้สึกถึงสายตาของเธอยามนี้ที่มองผมเหมือนเมื่อ19ปีที่แล้ว
จริงๆและสายตาคู่นั้นก็ตามไปรบกวนใจผมถึงที่ทำงาน
ผมครุ่นคิดตลอดเวลาจน
หม่อแม้นเวลาโสภาเรียกก็ต้องทวนหรือไม่ก็ตะโกนใส่
ถึงตอนเที่ยงผมมานั่งกิน
กาแฟหน้าออฟฟิตลำพังแต่วูบหนึ่ง
ความรู้สึกถึงกระแสพลังแห่งความชั่วร้าย
แผ่คลุมพื้นที่ ไอ้คมมึงมาหากูทำไม
ผมทักสมุนผู้พาผมเฉียดโลงหลายรอบ
แหมพี่นี่ทำไมรู้ตัวทุกทีว่าผมมาทั้งที่ยังไม่เห็น
ผมไม่บอกแต่ถามมันมาทำไม
เจ้าคมว่ามันมาถามถึงความคืบหน้าผมดักคอว่า
มาถามกูหรือจะมาหลอกเด็กบัวไปจิ้ม
เจ้าคมก้มหน้าอายแหมพี่รู้ทัน
แต่ถ้าพี่ไม่เอาก็ปล่อยผมแจ้งเกิดม้างผมอ้อน
ก็แล้วแต่ตัวเด็กโว้ยกูบังคับไม่ได้
มันยอมก็แล้วไป
มันไม่ยอมมึงคุกนา..ผมขู่แต่ไม่ห้ามเพราะผมเองก็เกรงเด็กบัวจะทำผมตายไม่รู้
ตัวเจ้าคมมาแยกไปก็เข้าท่าดี
น่าพี่ไม่รู้ยังไงผมเกิดชอบเด็กนี่ซะงั้น
เจ้าคมเผยความในใจ รู้สึกเอ็นดู
ผมแค่นหัวเราะ เลยให้ดูเอ็น
ผมต่อให้ โธ่พี่เป็นการเป็นงานหน่อย
ดูหน้าผมล้อเล่นรึป่าว
เจ้าคมถลึงตาจ้องหน้าผม
เออๆๆตามใจมึงกูไม่ใช่หมาหวงก้างมึงอยากได้ใช้ฝีมือเอาแต่อย่าดึงกูไปเกี่ยว
และอย่าให้เรื่องกูกะเด็กบัวรู้ถึงหูเมียกูเชียวนะมึง
รับรองตายไม่เหงาแน่3คนได้ตายห่าหมู่พร้อมกันเผลอๆได้ไปสวิ้งกิ้งกันในนรก
ด้วย..ผมกำชับเจ้าคม...
ตกเย็นเลิกงานกลับมาบ้านผมต้องแปลกใจเมื่อสร้อยนำถาดใส่แก้วน้ำมารับผมด้วย
ตาหวานเชื่อม ไถถามว่าผมเหนื่อยไหม
เมื่อผมรับมาดื่มเธอก็ถอดรองเท้าให้จนผมต้องร้องห้าม
สร้อยทำหน้าเสียบอกว่าผมรังเกลียดเธอหรือถึงไม่ยอมให้เธอรับใช้และสะบับหน้า
น้ำตาซึมเดินหนีไป
ผมว่าเปล่าขยับตัวจะตามไปแต่ก็ชงัก
กลัวมีหักมุมเลยขอรอดูอาการสร้อยอีกสักระยะไปก่อน
และนับจากเวลานั้นยามผม
อยู่ลำพังลับหลังโสภาแล้ว
สร้อยมักแอบมาหาผมพูดจาเอาอกเอาใจอ้อดอ้อนสารพัด
บางครั้งก็กอดผมคุยถึงวัน
เก่าๆ
ตัดพ้อต่อว่าผมที่ไม่เคยตามข่าวเธอปล่อยให้เหงาอยู่อย่างหว้าเหว่จนต้องส่ง
ลูกสาวมาสืบข่าวผม
ลูกตัวดีก็ดันเอาผมไว้เป็นผัวเสียเอง
แย่งคนรักแม่ได้ลงคอ
แม้นเธอจะพูดขนาดนั้นผมยังหวั่นๆได้แต่กอดปลอบใจลูบหัวลูบหลังบอกให้เธอทำใจ
เพราะตอนนี้ผมเป็นลูกเขยเธอแล้ว
เรื่องของเราเป็นเพียงความหลังอูย..พูดไป
ได้ทั้งที่ใจอยากจะล่อใจจะขาด
แต่ครั้งนี้ต้องให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดเหตุ
พลาดพรั้งปางตายอีก
จน3วันผ่านไปสร้อยดูซูบไปจนผมสังเกตุได้
เมื่ออยู่
ลำพังสร้อยก็เข้ามากอดผมคร่ำครวญว่าน้อยใจที่ผมไม่ใส่ใจเธอจึงกินไม่ได้นอน
ไม่หลับและคงจะตายไม่ช้า
ผมใจหายว้าบกอดสร้อยบอกว่าจริงผมยังรักเธอเสมอมา
แต่เธอเองที่ผลักไสทำร้ายผมมาตลอด
สร้อยบอกว่าคืนนี้เที่ยงคืนให้มาหาเธอ
ที่ห้องถ้าไม่มาพรุ้งนี้จะมีแต่ศพเธอ
ผมตกใจบอกเธออย่าทำอย่างนั้นคืนนี้ผม
จะไปหาและเราจะนำพาคืนสวรรค์เมื่อ19ปีที่แล้วของสองเรากลับมาด้วยกัน
สร้อย
กำชับผมแล้วย้ำผมอีกและผมสัญญาเที่ยงคืนไม่เกินสักนาทีเลย...โอ้เวลาแห่ง
ความฝันและคืนมหัศจรรย์ของผม
ความพยายามและความอดทนของผมที่ไม่เคยยอมแพ้ได้ประสบผลแล้ว
สร้อยนัดผมไปหา
หมอเทิ้มท่านคือพระเจ้าที่มาปลดปล่อยชีวิตผมจากความมืดมน
เดชแม่ยายที่มาก เหลือล้น
ยังสยบต่อมนต์ดำของท่าน
ผ่านคืนนี้ไปผมจะไปตอบแทนท่านอย่างถึงขนาดแน่และจะฝากตัวเป็นศิษย์ผู้ซื่อ
สัตย์จนชีวิตหาไม่..อิอิอิ...เวลาของตูมาถึงแล้ว...
ผมเฝ้ารอตะวันตกดินอย่างใจจดจ่อเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า
ผมนอนลืมตาโพล่ง
จับจ้องนาฬิกาเร่งให้ถึงเที่ยงคืนไวๆ
โสภาหลับสนิทเนื่องจากวันนี้ต้องไปสาธิตเครื่องมือเกษตรต่างอำเภอท่ามกลาง
อากาศอบอ้าวทั้งวันจึงเพลียไม่ชวนผมเล่นรักตัดกำลังก่อน
จิตใจผมหวาบหวิว
นึกถึงบทรักที่จะเกิดขึ้น
จนกระทั่งเวลาที่ผมรอคอยมาถึงมันนานราวครึ่งชีวิต
ผมเช็คดูว่าโสภาหลับสนิท
หรือยังแล้วค่อยๆย่องลงจากเตียงอย่างแผ่วเบา
ไปที่เรือนเล็กสวรรค์ของผมคืนนี้
สร้อยไม่ล็อคประตูตามสัญญาผมเดินเข้าไป
ถึงห้องนอนของสร้อยอย่างง่ายดาย
เรือนเล็กที่ครั้งหนึ่งเป็นดั่งป้อมทองแดง
กำแพงเหล็กบัดนี้ต้อนรับผมให้เข้ามาถึง...เจ้าของ
ผมมายืนอยู่ที่ปลายเตียง
ของสร้อย ร่างอดีตสาวตนรักนอนราบหายใจเบาๆ
ใจผมเต้นระทึกรัวเมื่อนึกถึงการร่วมรักอันเร่าร้อนที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่
อึดใจ
แต่เพื่อให้แน่ใจผมเปิดไฟหัวเตียงก่อนเพื่อมีความผิดพลาดบางอย่างที่
คาดไม่ถึง
แต่เมื่อไฟสว่างร่างที่นอนอยู่คือสร้อยแน่แท้
ผมจัยไหล่สองข้าง
สร้อยเขย่าเรียกเบาๆสร้อยลืมตาผงกตัวขึ้นมาผมเถิบตัวถอยไปอยู่ปลายเตียงด้วย
อาการหวาดระแวง พี่เองผมบอกเธอ
สร้อยงัวเงียมองผมแล้วบอกว่าให้รอนานเชียว
แล้วเอื้อมไปที่หัวเตียงผมเตรียมตัวเผ่นถ้าเธอคว้าอะไรมา
แต่ผมคงคิดมากไป
เมื่อเธอปิดไฟหัวนอนแล้วครานมากอดผม
ช้าทำไมพี่อยากทำอะไรก็เอาสิ
โอ้ความรู้สึกของผมยามนี้ดั่งผมเป็นนักกีฬา
ที่ผ่านการฝึกฝนฝึกซ้อมจิตใจอันยาวนาน
ผ่านการแข่งขันอันหฤโหดกับคู่ต่อสู้
ฝีมือฉกรรท์และคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งทั้งปวงผงาดชูถ้วยแชมป์ประกาศ
ชัย ร่างสาวที่ผมเฝ้ารอเสพสมบัดนี้อ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนผม
ร่างสาวที่
เคยแสดงเดชทำผมแทบล้มประดาตายด้วยพิษสงเหลือคณา
บัดนี้อ่อนระทวยยอมให้ผม
ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกอย่างง่ายดาย
และนอนแผ่หราให้ผมกกกอดสูดดมอย่างเต็มใจ...แต่คงต้องขอความกรุณาทุกท่านโปรด
ติดตามตอนต่อไป.....อีกหนึ่งตอน...ผมรับรองคราวนี้...จบแน่ไม่มีการต่อเวลา
เกิดขึ้นอย่างแน่นอน...ครับท่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น