วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

คำสารภาพของแฟนผม ตอนที่9



แทนที่น้องนิดจะรีบลุกขึ้นแต่งตัวให้เรียบร้อยตามที่ผมบอก เธอกลับทำเพียงแค่โผล่หัวขึ้นมาเหนือขอบกระจก มองไปทางรถเด็กซิ่งคันนั้น พอเห็นว่าตอนนี้มันจอดนิ่งห่างจากรถผมไปสัก20กว่าเมตร หนุ่มสาวสองคู่ลงมาจากรถ ช่วงที่พวกเด็กซิ่งเปิดประตูออกมานั้น เสียงเพลงตื๊ดๆๆๆก็ดังลอดเข้าถึงในรถของผมเลย พวกเด็กซิ่งกลุ่มนั้นมันยังคงอยู่อยู่ที่รถของพวกเค้าไม่ได้ไปไหน น้องนิดก็ซุกหน้าลงมาที่อกผมอีกครั้ง ท่อนล่างเริ่มกดบดเบียดกับท่อนลำของผมยึกๆ แต่เธอก็ทำหน้าเหมือนผิดหวัง เพราะบัดนี้ท่อนลำของผมมันสงบนิ่งอ่อนพาดคอหลับอยู่บนพวงไข่ใบกลมอย่างไร้พิษสง

เธอยังคงไม่ละความพยายามในการปลุกเร้า สะโพกสวยบิดส่ายไปมาบ้าง กดเน้นย้ำที่ท่อนลำของผมบ้าง ส่วนมือก็สอดเข้าลูบไล้แผงอกของผม ปากรูปสวยจูบเล็มตามแก้ม ใบหู ลำคอ พูดงึมงำเสียงกระเส่าเบาๆซ้ำๆว่า
"นะคะพี่ ๆ ๆ.... " น้องนิดถลกดึงเสื้อยืดของผมขึ้นมาเหนืออก ก้มหน้าจูบแผงอกของผมจนทั่วแล้วค่อยๆแลบลิ้นเลีย
ไปมาตรงฐานนมก่อนจะใช้ฟันซี่เล็กๆขาวๆ งั้บหัวนมของผมแล้วดูดดังจ๊วบๆ จนผมสะดุ้งทั้งเจ็บจิ๊ดทั้งเสียวสยิว แต่
ก็ดูเหมือนว่ามันยังไม่ได้ผล

"พี่..ทำไมแบบนี้."น้องนิดลากเสียงยาวเรียกผม พร้อมเงยจ้องหน้าผมเขม็ง ผมดูแววตาของเธอออกครับว่าเธอผิดหวังเสียใจจนอยากจะร้องไห้ออกมา ใจผมก็อ่อนวูบรู้สึกสงสารเธอจับใจ ผมตัดสินใจในวินาทีนั้นว่าจะยอมละเมิดคำพูดของตัวเอง พร้อมกับนึกต่อไปว่า กรูพูดกับตัวเองไม่มีใครได้ยินสักหน่อย ยอมละเมิดไปเพื่อทำให้คนรักสมหวังสักครั้งจะเป็นไรไป แต่ผมดูสถานการณ์ขณะนั้นแล้วว่ามันเสี่ยงเกินไปที่จะเล่นรักกันต่อในรถ เพราะเริ่มมีรถทยอยขับขึ้นมาจอดอยุ่เรื่อยๆ สันนิษฐานว่าลานจอดรถชั้นล่างๆ คงเริ่มเต็ม

"ไปที่อื่นกันเถอะที่รัก...ป่ะแต่งตัวให้เรียบร้อย ไปรถพี่ รถน้องจอดทิ้งไว้ที่นี่ก่อน" พอผมพูดจบ เห็นรอยยิ้มสมหวังที่ริมฝีปาก คราวนี้น้องนิดไม่อ้อยอิ่งอีกต่อไปรีบลูกขึ้นจากที่คล่อมทับตัวผม ปีนเบาะนั่งกลับมายังด้านหน้า ใช้สองมือตบๆแต่งทรงผมที่ยุ่งเหยิงให้เข้าที่ ดึงกระจกที่ติดอยู่ตรงหลังคารถด้านหน้าลงมาส่องดูหน้าตัวเองว่าเลอะเทอะเปลอะ
เปลื้อนตรงไหนบ้าง ในขณะที่ดึงกางเกงขึ้นมาสวมให้เรียบร้อย ดูร่องรอยตรงเป้ากางเกง พอเห็นว่าแม้จะยับยู่ยี่แต่ก็
ไม่มีคราบเปลื้อนพอให้คนมองรุ้ว่าเป็นคราบอะไร จากนั้นเปิดประตูรถลงไปยืนยืดเส้นยืดสายบิดตัวไปมาด้วยความเมื่อยขบ กลุ่มเด็กซิ่งหันมามอง ผมก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วกลับขึ้นรถประจำหน้าที่คนขับอีกครั้ง

"ไปคอนโดพี่นะครับ.." ผมถามน้องนิดขณะที่ค่อยๆเคลื่อนรถงมาจากอาคารจอด
"มันไกลนี่คะ....ไปคอนโดนิดดีกว่า ใกล้ๆนี้เอง...."
"ก็ได้ครับ...นิดคอยบอกทางละกัน...." ผมขับรถออกจากห้างแล้วไปทางถนนจรัลสนิทวงศ์ตามที่น้องนิดบอก พอถึงซอยน้องนิดก็บอกให้เลี้ยวเข้าไป ขับรถเข้าซอยค่อนข้างกว้างไม่ถึง2นาที ก็เห็นคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นตึกสูง10กว่าชั้น ด้านหน้าตกแต่งสวยหรู ผมขับรถผ่านป้อมรปภ. น้องนิดบอกว่าให้อ้อมไปด้านหน้าตึก เพราะช่วงเวลาประมาณนี้ไม่ค่อยมีรถจอดมากนัก พอรถเริ่มเลี้ยวไปทางด้านหน้าตึก จู่ๆน้องนิดที่นั่งตัวตรงอยู่ดีๆ ก็รีบก้มหัววูบซุกหน้าลงกับคอนโซลรถ พร้อมบอกให้ผมหยุดรถทันทีด้วยเสียงสั่นกลัวตื่นตระหนกตกใจ

"พี่จอดเร็วๆ....นั่นรถป๊า..." ผมมองตามที่มือน้องนิดชี้ไปก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งวัยประมาณเท่า ๆ กับผม แต่งตัวแบบชาวบ้านทั่วๆไปยืนอยู่ข้างๆรถปิคอัพสี่ประตูสีดำ ค่อนข้างใหม่ ผมรีบเหยียกเบรคพรืด ดีที่ว่าค่อนข้างช้า แต่พอรถหยุดสนิท มันก็ห่างจากพ่อแม่ของน้องนิดเพียงแค่10เมตรได้ การเหยียบเบรคกระทันหันแบบนั้นทำให้ทั้งคู่หันมามองรถพร้อมด้วยความตกใจ ผมได้แต่ส่งยิ้มพร้อมยกมือทำนองขอโทษไปให้ทั้งคู่ แล้วรีบถอยรถกลับออกมาโดยไว แม้รถผมจะออกมาพ้นประตุทางเข้าคอนโดแล้ว น้องนิดก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากแผงคอนโซล ผมเหลือบตามองเห็นตัวเธอสั่นระริกคงทั้งตกใจและทั้งกลัวเป็นแน่  ผมค่อยๆเอื้อมมือไปลูบผมเธอหมายปลอบปรธะโลมให้เธอหายตกใจ พร้อมกระซิบบอกเธอเบาๆว่า
"พ่อแม่น้องไม่เห็นน้องหรอก ไม่ต้องกลัวน๊า..." ผมขับรถออกมายังไม่พ้นปากซอยโทรศัพท์น้องนิดก็ดังขึ้น

น้องนิดปล่อยให้เสียงเรียกดังสามสี่ครั้งเหมือนเรียกสติกลับคืนก่อนที่จะรับสาย แล้วกระซิบบอกผมว่า..ป๊าโทรมา แม้ว่าเธอจะพยามควบคุมเสียงไว้อย่างเต็มที่ แต่ผมก็สังเกตุได้ว่าเสียงพูดคุยตอบโต้กับป๊าของเธอนั้น มันยังสั่นพริ้วไม่หายตกใจอยู่ดี ผมพอจับใจความได้ว่า ป๊าน้องนิดมาหาที่คอนโด เพราะมีคนติดนัดหมายว่าจะมาซื้อห้องหรือเช่าห้องที่พ่อแม่เธอซื้อเอาไว้เก็งทำกำไรนั่นเอง ผมอมยิ้มกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะรู้ว่าผมรอดแล้วไม่ต้องผิดคำพูด ส่วนน้องนิดนั้นหลังจากหายตกใจที่รอดตัวมาหวุดหวิดจากการเผชิญหน้ากับพ่อแม่เธอ โดยที่ทั้งสองก็ยังไม่รู้ว่าลูกสาวคนสวยไปไหนมากับผู้ชายวัยพ่อ หน้าเธอก็นิ่งปากสวยเม้มน้อยๆ ไม่พูดจาอะไรกับผมตลอดทางขากลับไปยังห้าง

ผมนำรถขึ้นไปจอดใกล้ๆรถน้องนิด ก่อนที่เธอจะก้าวขาลงจากรถผม ผมดึงร่างบอบบางแต่มีทรวดทรงเต็มอิ่มของเธอเข้ามากอด จูบแก้มเบาๆ ตัวเธอนั่งนิ่งแม้ไม่แข็งขืน แต่ก็ไม่ตอบสนองการสัมผัสของผม พอเธอลงรถไปได้ก่อนจะปิดประตูรถ เธอบอกกับผมว่า คืนนี้ค่อยคุยกัน ผมได้ยินเสียงแล้วรู้สึกใจหายวาบ เพราะเสียงน้องนิดนั้นทั้งแข็งทั้งเย็นเฉียบ โอ๊ยยยย...กรูตายแน่ ผมลำพึงกับตัวเองหลังจากที่เคลื่อนรถตามหลังรถของน้องนิดออกมาจากห้าง แล้วแยกทางกันไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น