วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559
ขุนช้างขุนแผน ตอนที่ 18 (ทีเด็ดพลายงาม)
ตอนที่ 18 (ทีเด็ดพลายงาม)
ท้องพระโรง เมืองพระนครศรีอยุธยา สมเด็จพระพันวษาทรงพระสรวลด้วยความยินดีในชัยชนะที่พลายงามและขุนแผนนำมาถวาย พร้อมด้วยตัวเจ้าเมืองเชียงใหม่ มเหสี และพระธิดาคือ สร้อยฟ้า ที่ยินดียิ่งกว่านั้นคือ ได้พระธิดาสร้อยทอง ซึ่งเป็นพระธิดาของเจ้าเมืองล้านช้างมาได้โดยไม่มีการบุบสลายใดๆ เลย
““มึงสองคนพ่อลูกเยี่ยมมาก กูชื่นชมพวกมึงจริงๆ เชื้อไม่ทิ้งแถว ไอ้พลายงามมันเก่งเหมือนกับพ่อมัน กูจะให้อะไรพวกมึงเป็นรางวัลดี อ้อ เอางี้ พวกมึงอยากได้อะไรบอกกูได้ ว่าไง””
ขุนแผนและพลายงาม กราบบังคมทูลตอบ ““แล้วแต่จะทรงโปรดเถิดพระเจ้าข้า””
สมเด็จพระพันวษานิ่งคิด พลางใช้พระหัตถ์ลูบคางเบาๆ อย่างใช้ความคิด
““อืมมม เอางี้ ไอ้ขุนแผนกูขอเลื่อนยศให้มึงเป็นพระสุรินทรฦาไชยไหสูรย์ภักดี ให้ไปดูแลเมืองกาญจนบุรีให้กับกู ส่วนไอ้พลายงาม กูขอตั้งให้มันเป็นจมื่นไวยวรนาถ ก็ละกัน สำหรับไอ้จมื่นไวยฯ กูขอแถมสร้อยฟ้าที่เป็นลูกสาวไอ้เจ้าเมืองเชียงใหม่ให้เป็นเมียมึงด้วยละกัน””
กับการได้รับพระราชทานอย่างมหาศาลนี้ สร้างความยินดีให้แก่ขุนแผนและพลายงาม สองพ่อลูกยิ่งนัก แต่รางวัลแถมท้ายตอนหลังทำให้พลายงามต้องลอบนิ่วหน้าด้วยความกังวล ด้วยนางสร้อยฟ้านั้นนิสัยไม่ใคร่จะดี เอาแต่ใจแถมพยศอย่างร้ายกาจ ขณะที่เดินทางมายังเมืองหลวงก็สร้างปัญหาให้แก่เขาไม่น้อย เขาจึงไม่ใคร่จะอยากได้นางมาเป็นเมียนัก แต่ขัดไม่ได้ด้วยเป็นพระราชโองการ จึงต้องน้อมรับไว้
“
“พระอาญามิพ้นเกล้า ข้าพระพุทธเจ้าขอกราบทูลว่า พลายงามบุตรชายของหม่อมฉัน ได้หมั้นหมายอยู่กับศรีมาลาซึ่งเป็นบุตรสาวของพระพิจิตรเรียบร้อยแล้วพระเจ้าข้า ถ้าทรงพระราชทานสร้อยฟ้ามาให้อีกเกรงว่า”…” ขุนแผนกราบทูลด้วยเกรงปัญหาที่จะมาถึงในภายหน้า
““อ้าว งั้นเหรอ อือม เอางี้ ให้ทหารพาตัวศรีมาลามาที่นี่เลย แต่งงานด้วยกันซะทีเดียว มีเมียสองคน มึงสู้ไหวไหม หา ไอ้จมื่นไวยฯ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอาตามนี้ กูจะไปนอนแล้วง่วงจริง””
สมเด็จพระพันวษาตัดบทพลางลุกขึ้น ออกเดินเข้าไปยังหลังห้องท้องพระโรงไป ทิ้งให้ขุนแผนที่ตอนนี้เป็นพระสุรินทรฯ และพลายงามที่ตอนนี้เป็นจมื่นไวยฯ มองหน้ากันอย่างอึดอัด
เวลาผ่านไป วันแต่งงานของจมื่นไวยวรนาถก็มาถึง วันนั้นที่เรือนสร้างใหม่ ที่ปลูกอย่างสวยงาม กว้างขวาง ประดับประดาอย่างหรูหรา ก็มีบ่าวไพร่วิ่งไปมา อย่างวุ่นวายตั้งแต่ตีสาม ด้วยเป็นการเตรียมงานแต่งงานให้แก่เจ้าของบ้านคือจมื่นไวยฯ และศรีมาลา กับสร้อยฟ้า นั่นเอง แต่ขณะที่งานกำลังจะเริ่มก็มีตัวนิวแซนด์เกิดขึ้นหนึ่งตัว (บอกให้หัวล้านๆ)
““เอ้อเฮอ งานแต่งห่าอะไร ใหญ่โตขนาดนี้ กูไม่เคยเห็น เอิ้ก แม่งเอ้ย ดวงดีฉิบหาย ไม่ตายตอนไปรบ แถมกลับมาได้รางวัลใหญ่อีก ถุย ได้เมียสองคน แม่งสู้ไหวเหรอ แบ่งให้กูบ้างดิ ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน”” ขุนช้างนั่นเอง วันนี้มางานเพียงคนเดียว แถมดื่มเสียเมาแประ ตอนนี้กำลังอาละวาดชี้หน้าด่า จมื่นไวยฯ ผู้เป็นเจ้าบ่าวที่กำลังรับคำอวยพรจากผู้ใหญ่ เล่นเอาบรรดาแขกเหรื่อที่มา มองกันเป็นตาเดียว
จมื่นไวยฯ นั้นไม่พอใจตั้งแต่ตอนที่ขุนช้างเดินมาที่เรือนตนแล้ว แต่ด้วยเป็นวันงานมงคลของตน จึงจำต้องหักห้ามใจไว้ ไม่หาเรื่องก่อน แต่เมื่อขุนช้างเมาแล้วล่วงเกินตนเองแถมไปถึงพ่อแม่ของตน ก็สุดที่จะหักห้ามใจได้ กอปรกับประสบการณ์ในวัยเด็กที่ตนเองเกือบถูกขุนช้างฆ่าหมกป่า เลยยิ่งทำให้ไฟแค้นลุกฮือโหม เขาจึงลุกขึ้นพลางวิ่งมาหาขุนช้างที่ยืนจังก้าอยู่กลางห้องรออยู่ด้วยสีหน้าที่ท้าทาย
พระสุรินทรฯ นั้นห้ามไม่ทัน จึงได้แต่นั่งดูอยู่เฉยๆ ด้วยความรู้สึกที่หมั่นไส้ขุนช้างที่อยากจะเจ็บตัว
““น้าเมาแล้ว ก็กลับไปนอนซะไป๊ วันนี้เป็นมงคลของฉัน ฉันขอสักทีเถอะ””
ขุนช้างมองหน้าจมื่นไวยฯ ด้วยความเกลียดชัง พลางถุยน้ำลายอย่างแรงใส่หน้าของจมื่นไวยฯ จมื่นไวยฯ หลบก้อนเสมหะทัน แต่ตัวน้ำลายก็ยังพร่างพรมลงบนหน้าของเขาอย่างถนัดถนี่ มันเกินสุดที่จะรับได้ จมื่นไวยฯ ซัดหมัดขวาเข้าที่หน้าของขุนช้าง โดนเข้าไปเต็มที่ครึ่งปากครึ่งจมูก เลือดสีแดงฉานไหลรินออกมาทันที พร้อมฟันบางซี่ก็กระเด็นออกมาด้วย
ขุนช้างผงะล้มหงายลงไปนอนกับพื้นพลางร้องโอดโอยทันที
““โอย ช่วยด้วยเจ้าข้า ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน มันทำร้ายฉัน มันจะฆ่าฉันแล้ว เห็นไหม”?”
บรรดาแขกเหรื่อไม่มีใครคิดที่จะมาช่วย ได้แต่เฝ้ามองอย่างสังเวช พลางกระซิบกระซาบกันหัวร่อขุนช้างที่ไร้ยางอาย ขุนช้างนอนรออยู่นานไม่เห็นมีใครคิดจะมาช่วย ก็เกิดความขลาดกลัวขึ้นมา รีบลุกขึ้นยืน โบกมือขวักไขว่ พลางกล่าว
“พ่อไวยจ๋า ฉันเมามากไป ยกโทษให้ฉันเถิดนะ ฉันจะกลับไปนอนละ ไปละ””
เมื่อเห็นจมื่นไวยฯ ยืนนิ่งไม่แสดงท่าทีอันใด เขาก็รีบลงจากเรือนไปอย่างทุลักทุเล ท่ามกลางเสียงโห่ไล่ตามหลังของบรรดาแขกเหรื่อที่เกลียดขี้หน้าของขุนช้างอย่างเหลือจะกล่าว
บรรยากาศในคืนวันแต่งงานของจมื่นไวยฯ ในสายตาของบุคคลทั่วไปแล้วช่างชื่นมื่นนัก ได้อยู่ร่วมกับหญิงงามสองนางในห้องเดียวกันมันน่าอิจฉาจริงๆ แต่สำหรับจมื่นไวยฯ แล้วมันช่างเป็นสิ่งที่ขมขื่นยิ่งนัก ด้วยสร้อยฟ้าเป็นธิดาของผู้ที่ถูกเขาโค่นล้ม และคุมตัวมาส่งมอบแก่พระเจ้าแผ่นดิน จะให้เขามอบความรักแก่หล่อนได้หรอกรึ แล้วหล่อนจะรักผู้ที่ทำร้ายบิดา และจับครอบครัวของตนมามอบเป็นนักโทษกระนั้นหรือ ยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
ศรีมาลาก็เข้าใจความรู้สึกเช่นนี้ด้วย นางจึงคอยดูแลปรนนิบัติจมื่นไวยฯ อย่างไม่ห่างหาย แต่การนี้กลับสร้างความขัดหูขัดตาแก่สร้อยฟ้าอย่างยิ่ง ท่านคงแปลกใจที่เหตุใดสร้อยฟ้าจึงมีความรู้สึกเช่นนี้ แน่ละ ถึงนางจะเป็นธิดาของเจ้าเมืองเชียงใหม่ และสตรีใดเล่าจะไม่รักบุรุษที่ทั้งงดงาม หล่อเหลา เก่งกาจ อย่างเช่น จมื่นไวยฯ แถมเขายังสามารถโค่นบิดาของนางที่นางเคยบูชาว่าเก่งกาจอย่างไร้ที่เปรียบลงได้อีก นางหลงรักจมื่นไวยฯ ตั้งแต่แรกที่ได้เห็นหน้าเขาแล้ว เพียงแต่นางไม่แสดงออกเท่านั้นเอง ด้วยอยู่ร่วมกับบิดาและมารดานางจะทำอย่างไรได้เล่า
““สร้อยฟ้า ถ้าเจ้าขัดสายตานักละก็ ทำไมไม่ไปนอนที่ห้องอื่นล่ะ”” จมื่นไวยฯ พูดเสียงไร้อารมณ์ แต่สร้างอารมณ์แก่สร้อยฟ้าอย่างยิ่ง
““ถ้าข้าไปที่อื่น พี่จะได้มีความสุขกับอีนังศรีมาลานี่ใช่ไหมล่ะ ฮึ”” สร้อยฟ้าสะบัดเสียงสะบัดหน้าเข้าใจศรีมาลา
““ถ้าเจ้าคิดอย่างนั้น ข้าก็จนใจ”” จมื่นไวยฯ ตอบอย่างไม่ไยดีเช่นเดิม ทำให้สร้อยฟ้าน้อยใจยิ่งนัก ลุกขึ้นสะบัดตูดออกนอกห้องไปโดยทันที ทิ้งให้จมื่นไวยฯ อยู่กับศรีมาลาเพียงสองคน
““น้องศรีมาลาอย่าไปสนใจเลยนะจ๊ะ พี่เองก็ไม่ต้องการ แต่โดยพระราชโองการ พี่ขัดไม่ได้หรอก ขอให้น้องศรีมาลาเข้าใจพี่ด้วยเถิดนะ””
จมื่นไวยฯ กล่าวพลางตระกองกอดร่างของศรีมาลาไว้แน่น พลางระดมจูบไปทั่วใบหน้าของนาง พลางไซร้มาที่ซอกคอและใบหู จนศรีมาลาเคลิบเคลิ้ม เอามือลูบที่ศีรษะของจมื่นไวยฯ แผ่วเบา พลางสบตาหยาดเยิ้มแล้วยิ้มหวานพร้อมทั้งเอามือข้างหนึ่งปลดเสื้อของจมื่นไวยฯ ออก แล้วใช้ปากขบดูดที่หัวนมทั้งสองข้างของเขาสลับกัน อีกมือก็ถอดกางเกงของเขาออก พลางใช้มือลูบไล้ไปที่พวงไข่ทั้งสองลูกของเขา
จมื่นไวยฯ ก็ไม่ยอมแพ้ ปลดเสื้อผ้าของศรีมาลาออกจนกระทั่งเปลือยเปล่าดุจเดียวกัน บัดนี้ร่างของทั้งสองเปลือยเปล่าศรีมาลาก็ขึ้นคร่อมร่างของจมื่นไวยฯ ไว้ ศรีมาลาละมือจากควยของจมื่นไวยฯ แล้วเลื่อนตัวขึ้นมาทาบทับร่างของชายหนุ่มไว้ ปล่อยให้ร่องหีของเธอเสียดสีกับควยของเขา ศรีมาลาก็พริ้มตาพร้อมกับครางออกมาเบาๆ เพราะร่องหีและเม็ดแตดของเธอเสียดสีโดนควยของจมื่นไวยฯ อย่างถนัดถนี่
“
“ศรีมาลาจ๊ะ อะไรจ๊ะนี่เปียกๆ”” จมื่นไวยฯ ถามล้อๆ
““แหม ก็พี่จูบไซร้ซะน้องมีอารมณ์ ยังจะมีอะไรอีกละจ๊ะ พี่ไวยฯนอนลงซิจ๊ะ เดี๋ยวศรีมาลาทำให้นะ””
จมื่นไวยฯ ก็นอนลงตามคำบอก ศรีมาลาก็ถดตัวลงไปหน่อยนึง แล้วจับควยของเขาถอกเบาๆ 2-3 ที แล้วกลืนมันเข้าไปในปากสวยของเธอ
““อือออออ โออยยยย พี่เสียวจัง น้องศรี อาววว์””
ศรีมาลาดูเหมือนกับรู้ รีบดูดควยของเขา เร่งจังหวะถี่เร็วขึ้น แถมยังยกตูดก้าวคร่อมหน้าของเขา กลายเป็นท่า 69 โคกหีงดงามของศรีมาลามาลอยเด่นอยู่ตรงหน้า ร่องที่ตีบปิดบัดนี้เยิ้มไปด้วยหยาดน้ำเสียวที่มันเยิ้มมันจนแทบจะหยดมาลงในปากของเขาแล้ว
““พี่ไวยขา เลียให้น้องหน่อยนะคะ น้องเสียวจังเลยค่ะ อูยยยย””
เขาไม่รอ จังหวะนี้ยกสองมือแหกแคมหีชมพูแดงออกน้อยๆ พลางแยงลิ้นเข้าไปควานเข้าออกในร่องหี ปากก็ดูดเม็ดแตดแดงที่สั่นระริกด้วยความง่าน ทำเอาศรีมาลาที่อมควยของเขาอยู่ครางเสียงอื๋ออออออออออ ในลำคอ แต่เธอก็ปล่อยให้เขาทำอยู่ได้ไม่นาน ศรีมาลาก็ลุกขึ้น
““ทนไม่ไหวแล้วค่ะ พี่ไวย ขอน้องทำก่อนนะคะครั้งนี้ น้องเสียวจะแย่อยู่แล้วค่ะ””
ศรีมาลาเอาโคกหีอันชุ่มด้วยน้ำลายปนกับน้ำเงี่ยนของเขาจนเส้นหมอยราบลู่เห็นเนินที่ร่องหีขมิบยวบๆ ไม่หยุด มาครอบที่ควยของเขาที่กระดกงึกๆ ด้วยความอยากที่ไม่แพ้กัน แล้วกดลงช้าๆ
““อูยยยยย เสียวววว ไหมจ๊ะพี่ น้องเสียวหีจังเลย อาววววว์””
““เสียวซีจ๊ะเมียจ๋า รูหีเมียดูดหัวควยผัวจนแทบหลุดไปแล้ว อูยยยยย”” ศรีมาลาก็ซู๊ดปาก หลับตาปี๋ ด้วยความเสียวซ่าน
ก็จะไม่ให้เสียวได้ยังไง ก่อนที่จะเข้าห้องหอไม่กี่วัน ขุนแผนก็เรียกเขาไปพบ พลางทำพิธีชุบควยของเขาให้กลายเป็นควยอาคม แถมขุนแผนยังได้ใช้วิธีพิสดารที่ได้มาจากในคุก ก็คือเขาได้จัดการฝังมุกให้แก่ลูกชายของเขา 7 ลูกด้วยกัน โดยการนี้ขุนแผนใช้สุดยอดอาคมแหวกเนื้อออก แล้วฝังเข้าไปโดยไม่เสียเลือดแม้แต่หยดเดียว และไม่มีแผลเมื่อทำเสร็จ
ศรีมาลาค่อยกดร่องหีให้กลืนควยอาคมผสมมุกของเขาไปทีละน้อย สูดปากหลับตาปี๋ด้วยความเสียวทุกครั้งที่มุกสะดุดเข้าไปในกลีบหีของเธอ เมื่อมันเข้าไปได้จนสุด เธอก็ค่อยๆ ยกหีขึ้นให้ควยอาคมครูดขึ้นช้าๆ น้ำเสียวไหลอาบควยอาคมเป็นมันเยิ้ม ศรีมาลาค่อยๆ ขย่มขึ้นลงจนร่องหีปรับรับกับควยอาคมแล้ว เธอก็ขย่มแรงขึ้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ เขาก็กระดกควยรับอย่างตรงจังหวะ สองมือก็บีบเค้นหน้าอกเป็นกระเปาะของเธออย่างเอาเป็นเอาตาย
ศรีมาลาหน้าเหยเก สูดปากร้องครางเบาๆ ขย่มจนมีเสียงดังเจาะแจะๆๆ แล้วเธอก็ยกหีขึ้นจนควยแทบจะหลุดออกมาจากร่องหี แล้วกดลงมามาอย่างแรง จนร่องหีฟาดกับโคนควยดังป้าบ ทำเอาจมื่นไวยฯ สะดุ้ง
““เมียจ๋า เสียวจังเลย อูยยยยย ทำอีกซิจ๊ะ นะจ๊ะ พี่ชอบจังเลย มันเสียววววว””
ศรีมาลายิ้มหวานแล้วทำตามที่ผัวรักต้องการ อีกครั้งและอีกครั้ง ทั้งบดหี ขยี้หีกับควยของเขาอย่างรุนแรงไม่กลัวควยจะหลุดออกมา
““โอยเมียจ๋า ผัวจะเสร็จแล้วน้า เมียจะถึงรึยังจ๊ะ”?”
ศรีมาลาไม่ตอบ ใบหน้างามนั้นบิดเบี้ยวไปด้วยความเสียวที่จวนถึงจุด พลางกดกระแทกดังป้าบๆ ๆ ไม่หยุดยั้ง เขาก็รู้จังหวะดี เอามือจับก้นของเธอ ดึงบดกับการกระแทกสวนกันอย่างไม่กลัวข้าวของจะพัง
““เมียจ๋า พี่จะ จะ เสร็จแล้ว นะ นะ นะ””
““ผัวขา รออีกนิดนะคะ เมียกำลังมาแล้ว โฮ้ โฮ้ โออออวว””
ศรีมาลาถึงจุดสุดยอดร่องหีตอดรัดควยอาคมตุบ ตุบ ตุบ เป็นจังหวะเดียวกับจมื่นไวยฯ ก็ถึงจุดเช่นกัน น้ำควยพุ่งกระฉูดเข้าไปโพรงหีของศรีมาลาจนร้อนวาบไปทั้งโพรงหี
““เป็นไงจ๊ะน้องศรีมาลา ชอบรึเปล่า”?”
ศรีมาลายิ้มอายๆ พลางค้อนน้อยๆ น่ารัก พลางยกมือขึ้นตีหน้าอกของจมื่นไวยฯ เบาๆ จมื่นไวยฯ จับมือของเธอไว้แล้วจูบมือนั้นด้วยความรักอย่างสุดซึ้ง ทั้งสองก็นอนกอดกันหลับใหลอย่างมีความสุข
จบ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น