วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เดชแม่ยาย ตอนที่ 45







.ผม นั่งรอเวลาตายด้วยใจห่อเหี่ยว มีทั้งคนอยากให้ผมตายและคนอยากให้ผมรอด แต่ตอนนี้ฝ่ายอยากให้ผมตายกำลังกุมชะตาชีวิตของผมอยู่ เสือหาญ ผู้ผูกพยาบาทอาฆาติผมมาถึง 20 ปี มันจะแค้นอะไรขนาดนั้นคนเรา ไม่ยอมปลงเลย ฟ้ามืดสนิท แสงไฟรอบๆชุมโจรจากเครื่องปั่นไฟส่องให้แสงสว่างไปทั่ว โลกก้าวหน้าไปถึงยุคอินเตอร์เน๊ตแล้ว แต่เสือหาญยังพาคนนับร้อยมาอยู่ป่าตั้งชุมโจรได้ แปลกแต่จริง ยิ่งสังเกตุบ้านบางหลังติดจานดาวเทียม ทรู-วิชั่นด้วย ผมยิ่งงไปใหญ่ ความเจริญบางอย่างมันขัดกับความคิดของคนที่นี่จริงๆ พิกุลยังนั่งนิ่งสาวเคาบอยไม่เคยพูดหรือแทบขยับเลย จิตใจของเธอแข็งแกร่งจริงๆ สาวผิวเข้มหลับตาราวอยู่ในภวังค์อันลึกล้ำ “แด๊ดดี้ ...มี่มี๊...นูกลัวจังเลย..มาช่วยนูด้วย อย่าปล่อยนูตายที่นี่น้า......”เสียงไอ้ปลัดสติแตกคร่ำครวญน่ารำคาญ อยากให้ สร้อย กับ โสภา มาเห็นสภาพยามนี้ของมันจริงๆ ดูซิยังจะหลับหูหลับตาชื่นชมมันอีกไหม ประตูถูกเปิด ชายหน้าเหี้ยมร่างกำยำ 4 – 5 คนก้าวเข้ามา ได้เวลาแล้วละสิ ผมคอตกรู้สึกตัวเหมือนวัวเหมือนควายที่เขาจะเอาไปเชือด.....


....”เอา ตัวเชลยออกมา ได้เวลาแขวนคอมันแล้ว...”สิ้นเสียงประตูก็ถูกเปิดออก ชายสองคนเดินเข้ามาจับแขนผมคนล่ะข้างให้ลุกเดินตาม โดยพิกุลและปลัดก็ถูกลากตามมาด้วย เราสามคนถูกพาตัวมายังลานหน้าเรือนที่ใช้เล่นไพ่ชี้ชะตาเมื่อช่วงบ่าย ยามนี้สว่างไสวด้วยแสงไฟนานา มีการเลี้ยงอาหารและเล้ายาปลาปิ้งกันสนุสนาน เสือหาญและเสี่ยศรชัยนั่งอยู่บนปะลำยกพื้นสูงเมตรกว่าๆ ผมถูกพาไปบนเวทีสูงเพียงลำพังส่วนปลัดและพิกุลถูกพาไปหน้าปะลำ เมื่อผมถูกนำขึ้นไปยืนบนเวทีที่มีเสาไม้ทำเป็นที่แขวนคอ เสียงเฮฮาสนุกสนานและการดื่มกินก็พลันเงียบ ทุกคนหันมามองผมเป็นตาเดียว แล้วเสือหาญก็เดินตามขึ้นมายืนข้างๆผม แล้วมันพยักหน้าให้เอาตัวผมขึ้นไปยืนบนโต๊ะไม้เอาเชือกคร้องคอไว้ เสือหาญยิ้มอย่างมีชัย มองผมด้วยสายตาสมหวังเปรี่ยมสุข....
.
....แล้ว มันก็หันไปทางผู้คนที่ยืนเงียบดูภาพชะตากรรมของผมอยู่”พี่น้องชาวชุมชนผาหิน หยกทั้งหลาย....”เสือหาญกล่าทราวนักการเมืองหาเสียง”บัดนี้เวลา 20 ปีที่เรารอคอยได้มาถึงแล้ว ทุกคนจงดูหน้าแก่ๆของไอ้คน..คนนี้ มันคือผู้สร้างความเจ็บช้ำยาวนานให้แก่ข้าและชาวชุมชนในอดีต ใช่แล้วมันคือ ไอ้ผู้ใหญ่ คนที่เผาชุมชนเก่าของเราจนวอดวาย ทำให้พวกเราต้องกระสานซ่านเซ็นกว่าจะมารวมตัวกันได้อีกก็ลำบากเลือดตาแทบกระ เด็น....”เสียงโห่ไล่ผมดังระงมสลับเสียงร้องด่าและเสียงร้องว่า ฆ่ามันๆๆๆๆดังเส็งแซ่...”บัดนี้....มันได้ตกมาอยู่ในมือของเราแล้ว โทษของมันที่ทำกับเราสถานเดียวคือต้องตายโดยถูกแขวนคอ....ใช่ไหม....”แล้ว เสือหาญก็ชูกำปั้นราวนักร้องเพลงร็อค ขณะชาวชุมโจรก็ยกมือตามร้องเฮลั่นยาวนาน....เสือหาญเดินมาหาผมแล้วมองหน้า มันยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า”ว่าไง....ไอ้ผู้ใหญ่ มีอะไรจะสั่งเสียไหม”ผมมองหน้ามันแล้วส่ายหน้า”เอา...เหอะพูดเสียหน่อยก่อน จะตายนะ”แล้วมันยกนาฬิกาขึ้นดู”ตอนนี้เพิ่งสองทุ่มพอดี ยังเหลืออีกสิบนาทีถึงจะแขวนคอมึงตามฤกษ์ได้”แหมมึงนี่มันโจรคราสสิคจริงๆ เพราะออกลีลาอย่างงี้ไง 20 ปีที่แล้วกูถึงเผาชุมโจรของมึงได้น่ะ....


....”ไม่ พูดจริงๆนะ...”มันเหล่มองผมอย่างกวนๆ ผมถอนหายใจเบือนหน้าไปมองทางอื่น”กูไม่เข้าใจเลยว่ะ...มึงมีดีอะไร ถึงทำให้หลานสาวของกูทรยศกูได้ และลูกสาวของกูถึงอยากช่วยมึงจนออกนอกหน้า ขนาดผัวคนก่อนๆของมันโดนลากไปฝังมันยังไม่มองเลย...” ผมหันมามองหน้าเสือหาญแล้วยิ้มหยันๆ”เพราะข้าเป็นพระเอกของเรื่องนี้ไง... สาวๆทุกคนเจอข้าต้องเสร็จข้าหมด(ยกเว้นสร้อย)ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอย่างไง ข้าต้องรอดเสมอ และเก่งเสมอ...”เสือหาญหน้าเปลี่ยนอารมณ์ทันที”มึงนี่เพ้อเจ้อไปเรื่อย พระเอกที่ไหนว่ะรูปร่างอย่างมึง ตัวใหญ่แถมลงพุง แก่ก็แก่ ซ้ำหัวก็หงอกอย่างนี้”ผมกัดฟันด้วยโมโห”มึงอิจฉากูล่ะสิ ที่หน้าตาอย่างกูก็เป็นพระเอกได้ ถึงพูดให้ร้ายกูอย่างงี้ ไอ้เสือหาญ มึงนี่หยาบคายและดูถูกกูมาก” เสือหาญหยุดพูดแล้วตั้งสติ”เฮ้ย...อย่านอกเรื่อง เอาล่ะได้เวลาแล้ว”มันหันไปพยักหน้าให้คนที่คอยทำหน้าที่ประหารผมเข้าประจำ ที่”ถ้ามึงเป็นพระเอกจริงๆ มึงต้องรอดไปนานแล้ว และไม่ต้องมาตายอย่างนี้ มีอะไรจะพูดก่อนตายไหม”ผมหันไปมองหน้าเสือหาญแล้วตะโกนก้อง”บอร์ดเรื่อง เสียวจงเจริญ...ญญญญญ.......ญญญ.”แล้วเสือหาญก็ยกมือขึ้น”เตรียมตัวได้ .....” โต๊ะเตี้ยๆที่ผมยืนอยู่ก็กำลังจะถูกเตะออกจากเท้าของผมเพื่อให้ร่างของผม ตกลงมาแล้วถูกเชือกรัดคอ แต่ทว่า...ทันใดนั้นเอง.....


....ด้าน หนึ่งของกำแพงมีลูกไฟคร้ายๆพลุขนาดใหญ่พุ่งแหวกอากาศเสียงดังหวีดแสบหูตรงไป ยังกระท่อมหลังหนึ่ง เมื่อลูกไฟปะทะหลังคาที่มุงด้วยแฝกก็เกิดการระเบิดขึ้นสนั่นหวั่นไหว เปลวไฟลอยม้วนขึ้นสว่างวาบเป็นรูปดอกเห็ด เสือหาญตกตะลึงร้องขึ้นว่าอะไรกันว่ะ ขณะเบื้องล่างชาวชุมโจรก็ตกใจแตกตื่นทุกตัวคน เมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นบ่งบอกถึงการโจมตีจากกองกำลังไม่ทราบฝ่าย เสียงหวีดร้องของผู้หญิงและเด็กดังระงม ทุกคนวิ่งหนีหลบกันจ้าระหวัน เพราะมันไม่ได้มาลูกเดียว หลังจากนั้นพลุลักษณะนั้นก็พุ่งข้ามกำแพงไม้มาดั่งห่าฝนจากทุกทิศทุกทาง มันตกใส่บ้านและเรือนก็เกิดระเบิดสร้างความเสีนหายไปทั่ว ยามนี้ชุมโจรกลายเป็นทะเลเพลิงไปแล้ว เสือหาญมองอย่างตื่นตระหนกและไม่อยากจะเชื่อในภาพตรงหน้าของตนเอง ชุมโจรที่มันสร้างมากับมือยามนี้กำลังจะถูกเผาให้วอดวายอีกครั้ง ต่อหน้าต่อตาของตนเอง โดยการโจมตีของใครก็ไม่อาจรู้ได้....


....ลูก ไฟยังคงพุ่งเข้ามาไม่ขาดสาย เมื่อหล่นลงกระทบสิ่งใดก็เกิดระเบิดเปลวไฟกระเด็นติดลุกไหม้ทุกอย่างที่เป็น เชื้อได้ ผมก็ตื่นตะลึงไม่แพ้เสือหาญ มุมจากที่ผมเห็นนั้นแจ่มชัดยิ่งนัก ตรงปะลำยามนี้ถูระเบิดลูกไฟเผาไหม้จนเสี่ยศรชัยและลูกน้องต้องวิ่งหนีตาย พิกุลยามนี้ฉวยโอกาศที่ทุกคนแตกตื่นแก้มัดตัวเองและปลัด และพากันวิ่งมาบนเวทีเพื่อช่วยผมที่ยามนี้เหลืออยู่แค่เสือหาญที่กำลังช็อค ยืนตัวแข็งทื่อ ส่วนคนอื่นมันเผ่นไปตั้งแต่ตูมแรกแล้ว”ใครว่ะ...”ไอ้หน้ามันมาโจมตีชุมของกู ว่ะ ออกมาสิ ออกมาเจอกับกู ออกมา....”เสือหาญตะโกนร้องท้า และลูกไฟลูกหนึ่งก็พุ่งตรงมาตามคำเรียกร้องของเสือหาญที่เวที มึงไปร้องเรียกมันมาทำไม เสือหาญกระโดดหลบไปตั้งแต่มันอยู่ห่างเป็นร้อยเมตร แต่ผมถูกมัดอยู่หลบไปไหนไม่ได้ ไอ้เสือหาญ ไอ้บ้ามึงไปเรียกร้องหามันแล้วพอมันมามึงทำไมไม่อยู่เจอมัน หนีไปทำไม แล้วกูเล่า ไปที่อื่นไปกูไม่ได้เรียกมึง....แต่โชคดีที่วิถีของลูกไฟมันพุ่งไปชนที่ด้าน ล่างของเวที และเกิดการระเบิดที่ใต้เวทีสนั่นที่ผมยืนอยู่ ประกายไฟร้อนวูบแผ่กระจายจน พิกุลและปลัดที่กำวิ่งเข้ามาใกล้หงายท้องกระเด็น ส่วนเสือหาญปลิวไกลไปหลายวา พอลุกขึ้นมาได้พวกเสือสี่แควและลูกน้องก็วิ่งมาล้อมป้องกันราวองครักษ์ พิทักษ์เสือหาญ...


....ส่วนผมได้รับผลจากแรงระเบิดเต็มๆ พื้นเวทีละเอียดยับไฟไหม้ด้านล่าง เวทีล้มเอียงลงโต๊ะหลุดจากเท้าแต่เชือกยังคาคอ มันกระตุกรัดจนผมตาเหลือกหายใจไม่ออก เวทีเอียงจะล้มก็จริงแต่เสามันยังตั้งตรงเด่ ขณะผมดิ้นกระแด่วๆหายใจไม่ออกใก้ลตายอยู่นั้น พิกุลก็ฝ่าเปลวไฟขึ้นมาพร้อมปลัด ทั้งสองช่วยกันแก้มัดแก้เชือกให้ผมอย่างทุลักทุเล จนเมื่อปลดพันธนาการของผมหมดแล้ว เราทั้งสามก็หาทางลงจากเวทีไปหลบวิถีลูกไฟที่ยังพุ่งมาไม่ขาดสาย”ใครมันโจม ตีชุมนี้หรอครับผู้ใหญ่”ปลัดหนุ่มถามผม “เอ่อ...ผมไม่รู้ถ้าเจอแล้วจะถามให้”โธ่...อยู่ด้วยกันแท้ๆใครจะไปรู้เล่า ”จะใครก็แล้วแต่ มันเป็นผลดีกับเราทั้งนั้นพวกเรารีบหนีกันเถอะ ตอนนี้ในชุมกำลังวุ่นวายเรารีบหนีกันไปดีกว่า”พิกุลออกความเห็น และผมกับปลัดก็เห็นด้วย แต่ทว่าในความวุ่นวาย เราดันวิ่งไปเจอพวกเสือหาญที่กำลัง หลบหลีกลูกไฟระเบิดอยู่เหมือนกัน”เฮ้ย....นั่น ไอ้พวกผู้ใหญ่ ไอ้ตัวซวย ไอ้ตัวหายนะ ฆ่ามันเลย...”เสือหาญสั่งโดยไม่ลังเล”ถึงวันนี้ชุมกูจะพินาจอีก แต่กูขอฆ่ามึงให้ได้ ไอ้ผู้ใหญ่ แล้วพวกมันก็เปิดฉากยิงใส่พวกผมทันที เราทั้งสามคนต้องหมอบหลบลูกปืนและลูกระเบิดไฟไปพร้อมๆกันชุลมุน”อาวุธของเรา ก็ไม่มี แล้วเจอทั้งลูกระเบิดทั้งลูกกระสุนอย่างนี้มีหวังตายแน่”ปลัดบ่น โวยวาย”แด๊ดดี๊ มี่มี๊อยู่ไหนมาช่วยนูด้วย” ผมล่ะเบื่อไอ้ปลัดสติแตกนี่จริงๆ พอดีพวกเสี่ยศรชัยที่กระเซอะกระเซิงหนีลูกระเบิดไฟมาจากไหนไม่รู้วิ่งมาสมทบ พวกเสือหาญ มันคุยกันครู่หนึ่งก็ร่วมด้วนช่วยกันยิงใส่มาทางที่พวกเราหมอบอยู่ชนิดโงหัว ไม่ขึ้น....


....สภาพชุมโจรยามนี้วุ่นวาย ไฟไหม้ไปทั่ว ลูกระเบิดไฟไม่ทราบแหล่งที่มายังคงพุ่งลงมาจากทุกทิศทุกทาง เสียงระเบิดกึกก้องดังอยู่ไม่ขาด ผู้คนวิ่งหนีบ้าง ดับไฟบ้าง แบกผู้บาดเจ็บบ้าง โกลาหลอลหม่านเป็นที่สุด และไม่กี่อึดใจลูกไฟที่ระดมยิงมาทุกทิศก็หยุด แต่ความสับสนลดลงไปแค่ระดับหนึ่ง แต่ยังคงมีเสียงโวยวายของคนในชุมโจรอยู่ สักครู่ก็มีเสียงประกาศออกจากลำโพงขนาดใหญ่ดังมาให้ได้ยินทั่วทั้งชุมโจร “เสือหาญ...เสือหาญ...จงฟัง...ขณะเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจได้ทำการปิดล้อมชุมด จรแห่งนี้ไว้ทุกทิศทางแล้ว...ขอเสือหาญและลูกน้องจงวางอาวุธ และยอมให้เราจับกุมเสียแต่โดยดี การโจมตีเมื่อครู่เป็นการเตือนเท่านั้น และส่งตัวลูกชายของท่านรองนายกรัฐมนตรี คุณ สุทัศน์ เทพสุวรรณ ออกมาด้วย หากไม่ทำต่ามเราจะบุกเข้าจู่โจมปราบปรามขั้นเด็ดขาด ขอย้ำ...หากไม่ทำตามเราจะจู่โจมเข้าทำการปราบปรามขั้นเด็ดขาด โดยไม่มีการต่อรองเจรจาใดๆทั้งสิ้น ทางเราจะให้เวลาตัดสินใจ 5 นาทีว่าจะยอมทำตามข้อเสนอของเราหรือเปล่า เริ่มจับเวลา.......”สิ้นเสียงประกาศ ปลัดลุกขึ้นยืนดีใจตะโกนว่า”แด๊ดดี๊กับมี่มี๊มาช่วยนูแล้ว”เราต้องดึงตัวลง มานอนหมอบเพราะไอ้เสือหาญกับเสี่ยศรชัยยังสั่งลูกน้อง รุมยิงเราอยู่ แต่เมื่อฟังเสียงประกาศดูเหมือนพวกมันจะหยุดยิงไปด้วย.


....เราหมอบ รอเวลาด้วยใจระทึก เสียงเสือหาญประกาศลั่น “พี่น้องชาวชุมทุกคน ข้าเสือหาญเจ้าของชุมแห่งนี้ เกิดมาเป็นชาติเสือ เราจะไม่ยอมจำนนเด็ดขาด หากใครจะสู้ให้มารวมกลุ่มกันที่นี่ แต่ถ้าใครตาขาวยอมจำนน ไปรวมรอมอบตัวที่ประตูใหญ่”สิ้นเสียงประกาศ ทุกคนในชุมก็ตรงไปรวมกันที่ประตูทางออกกันจนหมด ไม่เว้นแม้นแต่พวกเสี่ยศรชัยที่เดินตามไปด้วย”อ้าวเสี่ย ไปกับเขาด้วยรึ”เสือหาญร้องถามเมื่อเห็นเสี่ยเดินแยกตัวออกไปพร้อมลูก น้อง”จะบ้าเรอะ เขายกกำลังมาเป็นกองทัพ อาวุธสงครามเต็มรูปแบบ มึงแค่โจรป่าธรรมดาจะเอาอะไรไปสู้เขา”เสี่ย ศรชัยบ่นกับเสือหาญและพาลูกน้องเดินไปรวมรอมอบตัวพร้อมๆกับพวกที่หน้าประตู ตอนนี้เสือหาญเหลือเพียงแค่ เสือสี่แควเท่านั้น ที่ยังจงรักพักดีไม่หนีไปกับคนอื่น”กูซาบซึ้งน้ำใจพวกมึงมาก ที่พวกมึงไม่ทิ้งกูเหมือนคนอื่น ไม่เสียแรงที่กูเลี้ยงดูและฝึกปลือพวกมึงมา เอาล่ะในเมื่อตอนนี้กูก็ไม่เหลืออะไรแล้ว เป้าหมายของกูที่ต้องทำให้ได้ตอนนี้คือ ไปฆ่าไอ้ผู้ใหญ่กัน” เสือหาญพูดจบก็พาเสือสี่แควเดินมาล้อมยิงผมต่อ จนป่านนี้มันยังบ้าไม่เลิกลาอีก จะแค้นอะไรกันหนักหนา.....


....”พิกุล ฝากดูแลปลัดด้วย ผมจะล่อพวกเสือหาญไปทางอื่น พวกนั้นต้องการฆ่าผมคนเดียว ถ้าคนอื่นไม่อยู่ใกล้ผมแล้วทุกคนจะปลอดภัย” ผมพยักหน้าให้พิกุลและออกวิ่งหนีไปทางด้านหลังของชุมโจร พวกเสือสี่แควไล่ตามมาติดๆแต่เสือหาญดันถูกหลังคากระท่อมหล่นใส่และขาถูกเสา ไม้ล้มทับ”ตามไปฆ่ามันให้ได้ ไม่ต้องห่วงกู...ไปๆๆๆๆ...”เสือหาญยังสั่งให้ไอ้เสือทั้งสี่ไล่ล่าผมต่อ ทั้งที่มันกำลังแย่ และไอ้สี่คนนี่ก็เหลือเกิน วิ่งตามมาติดๆตามคำสั่ง แม้นลูกปืนของพวกมันจะหมด แต่มันยังกระชับอาวุธประจำตัวมั่น ผมวิ่งจนหมดแรงมาหยุดหอบให้พวกมันทั้งสี่เดินล้อมเข้ามารุมสับด้วยอาวุธทั้ง หลายของพวกมัน.....


....”เฮ้ย...ชุมโจรของพวกมึงก็ไม่เหลือแล้ว เสือหาญก็หมดสภาพแล้ว พวกมึงพอเหอะ ปล่อยกูไปดีกว่าจะมาบ้าไล่ฆ่ากูอยู่ทำไม กูไม่เคยมีเรื่องมีราวโกทธเคืองกับพวกมึงเลยนี่หว่า” ชายผมทรงมหาดไทยเดินมาใก้ลแล้วกำดาบในมือชี้มาที่ผม”พวกกูเป็นหนี้บุญคุณ เสือหาญ เขาเลี้ยงดูฝึกปรือพวกกูมาเพื่อเป้าหมายเดียวคือฆ่ามึง ชีวิตของพวกกูอยู่เพื่อฆ่ามึงเท่านั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูต้องฆ่ามึงตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากเสือหาญ....”ผมส่ายหน้า”พวกมึง นี่.. มันบ้าๆๆ....บ้ากันจริงๆ..” แต่ก่อนที่พวกมันจะลงมือ รถมอร์เตอร์ไซร์วิบากคันใหญ่ก็วิ่งมาตัดตรงกลางระหว่างที่พวกมันกับผมยืน อยู่ พิกุลนั่นเอง”ขึ้นมาเลย...ผู้ใหญ่” ไม่ต้องรอเรียกซ้ำ ผมกระโดดขึ้นซ้อนทันที และพิกุลก็ใส่เกีร์ยออกตัวยกล้อพาผมหนี ทว่าไอ้มือขวานมันยังขวางขวานตามมาแต่ถูกตรงถังน้ำมัน พิกุลดึงออกแล้วโยนทิ้ง ทว่าถังน้ำมันรั่วและเป็นเชื้อให้ไฟที่กำไหม้สิ่งต่างๆในชุมโจร ไหม้ตามรอยน้ำมันมาจนถึงถัง พิกุลดึงตัวผมกระโดดลงจากรถก่อนที่รถจะเกิดการระเบิด เรากลิ้งตกลงไปที่คูของค่าย ไอ้เสือสี่แควยังไม่ลดล่ะ มันยังวิ่งไล่ตามเราทั้งสองคนมาอีก พิกุลพาผมคลานหนีออกไปทางระบายน้ำ แต่ผมดันเหยียบไม้รื่นพวกมันจึงเห็นและควงอาวุธไล่ตามจนพวกเราเตลิดเข้าไป ยังป่าด้านหลังของชุมโจร ผมเหนื่อยแทบขาดใจแต่ความกลัวตายพาผมไปได้ไกลอย่างเหลือเชื่อ.....


....แต่ ผมก็ไปไม่ไหวต้องหยุดหอบเพราะความเหนื่อย”ผมไม่ไหวแล้วพิกุล หนีไปก่อนเหอะไม่ต้องห่วงผมหรอก”ผมหอบแฮ่กๆบอกพิกุลไปตามความจริงตอน นั้น”แข็งใจหน่อย ผู้ใหญ่ เรามาตั้งไกลแล้วจะยอมแพ้ได้ยังไง”แล้วสาวเคาบอยพิกุลก็ทั้งลากทั้งจูงให้ผม ตามไปต่อ แต่เมื่อจวนตัวก็พาผมหลบเข้าตรงพุ่มไม้ มันทั้งสี่ตามมาและหยุดอยู่ไม่ห่างตรงที่เราแอบอยู่ มันทั้งสี่กวาดตาหาพวกเราไปรอบๆ”ตะกี้กูเห็นมันหลบกันอยู่แถวนี้ มันคงหนีกันไปไม่ไหวแล้ว แยกกันหาดีกว่า”พวกมันเห็นด้วยกับความคิดนั้น จึงเดินแยกกันออกเป็นสี่ทิศออกค้นหาผมกับพิกุล เมื่อมันเดินห่างกันออกไปแล้ว พิกุลลากผมให้ออกเดิน”ไหวไหม...ผู้ใหญ่ ท่าทางแย่จังเลย”ผมเองเหนื่อยแทบขาดใจ แต่แข็งใจตอบว่าไหว”งั้นไปกันต่อเลยเขาข้างหน้าเราก็จะปลอดภัยแล้ว”พิกุลชี้ ให้ดูภูเขาลูกที่เราจะต้องเดินข้าม ผมถึงอ้าปากค้าง แม้นจะอยู่ในความมืด แต่ก็เห็นได้ว่ายังอีกยาวไกลเหลือเกิน แต่ตอนนี้ต้องหนีก่อนแล้วไหวไม่ไหวค่อยว่ากันอีกที....


....พิกุลพา ผมเดินลัดเลาะอย่างระแวดระวังมาเรื่อยๆจนกระทั่งมาเจอ ไอ้มือมีดที่ชื่อ ปิง นั่งรออยู่ด้วยมาดเท่ส์ๆบนก้อนหินใหญ่ พิกุลหยุดชะงัก อุทานชื่อมันว่า ปิง... เสือร้ายนาม ปิงกระโดดควงมีดปังตอคู่ของมันลงมาจากโขดหินตรงเข้ามาขวางทางพวกเรา มันยิ้มเหี้ยมๆ”ไงล่ะ...หนีไม่พ้นแล้ว พิกุลหลบไป พี่จะฆ่าไอ้ผู้ใหญ่ตามหน้าที่ พี่ไม่อยากทำร้ายพิกุล” แต่สาวเคาบอยเอาตัวมาบังผมไว้และพูดด้วยเสียงแข็งกร้าว”ถ้าจะฆ่า ผูใหญ่ พี่ต้องข้ามศพของฉันไปก่อน”เสือ ปิงมีแววตาที่แสดงความปวดร้าวในบัดดล”ทำไม พิกุล พูดอย่างนั้น พิกุลก็รู้ว่าพี่....”มันหยุดพูดและสะบับหน้าหลับตา”พูดอย่างนี้พี่เจ็บใน หัวใจมาก”แล้วมันก็ลืมตาหันกลับมามองอย่างเคียดแค้น”ไอ้ผู้ใหญ่ ไอ้ศัตรูหัวใจ นอกจากฆ่ามึงตามหน้าที่แล้ว กูจะต้องฆ่ามึงในฐานะที่มึงแย่งหัวใจของกูไปด้วย”เออ...เอากันเข้าไป กูมาอยู่ที่ไหนว่ะเนี๋ย คนคิดจะฆ่ากูก็เยอะ คนคิดจะช่วยกูก็แยะ แล้วไอ้เสือ ปิง ก็ควงมีดร้องจ้ากกกก....วิ่งเข้ามา....


....เสือปิง ควงมีดปังตอคู่ของมันหมายเข้าฟาดฟันร่างของผมแต่พิกุลก็ดึงตัวผมหลบคมมีดของ มันไปมาอย่างน่าหวาดเสียว หลังจากถูกฟันเฉี่ยวๆอยู่หลายครั้งในที่สุดพิกุลก็พลาด ถูกเสือปิงถีบกระเด็นไปนอนจุกแอ้ก”พี่ขอโทษ พิกุลพี่จำใจต้องทำ อย่ามาขวางอีกนะ.. “เสือปิงพูดเสียงสั่นครือ แล้วมันก็เดินควงมีดเข้ามาหาผม”เอาล่ะ ไม่มีใครช่วยมึงได้แล้ว ไอ้ผู้ใหญ่” ผมเดินถอยหลังหนีเสือปิงที่ย่างเท้าเข้ามาใก้ล”เฮ้ย...อย่าเข้ามานะ กูสู้นะ กูสู้จริงๆนะ”ผมพยายามขู่มัน แต่มันไม่กลัว กลับยิ้มเยาะแล้ววิ่งเงื้อมีดร้องจ้ากกกกก...หมายไล่ฟันผม แต่ผมก็วิ่งหลบหลีกมันไปรอบๆ ไม่ได้แดกกูหรอก เพราะที่บ้าน สร้อยไล่ฟันกูโหดกว่านี้ “มึงอย่าหลบซิว่ะไอ้ผู้ใหญ่ อยู่เฉยๆให้กูฟันเสียดีๆ จะได้ตายไม่ทรมาน” เสือปิงที่ตอนนี้ชักเหนื่อยแล้วหลังไล่ฟันผมอยู่นาน บอกให้ผมเลิกหนีเลิกหลบมัน ใครเชื่อมึงก็ควายกลับชาติมาเกิดแล้ว...


....แต่ ในที่สุดผมก็พลาดหกล้ม ไอ้เสือปิง เดินหัวเราะเข้ามาหาผมที่พยายามคลานหนี”ไงคลานเป็นหมาเลยมึง หนีเก่งนักใช่ไหม หนีไป หนีไปซิ หนีอีกซิ” ผมคลานหนีจนมาติดก้อนหิน ไอ้เสือปิงตามมาอย่างใจเย็น”คราวนี้สิ้นฤทธ์แล้วใช่ไหม ไอ้ผู้ใหญ่”มันเดินมาหยุดตรงหน้าของผม”เอาล่ะ เตรียมตัวสวดมนต์ได้ ไอ้ผู้ใหญ่...”แต่เมื่อมันเงื้อมีด เสียงร้องห้ามของพิกุลก็ดังขึ้น”เดี๋ยวก่อนพี่ปิง...” เสือปิงหันไปมอง แต่เมื่อผมขยับตัวมันก็เอามีดด้ามหนึ่งมาจ่อที่คอผมไว้ ทำนองมึงห้ามขยับ ผมยกมือทำท่าบอกว่ายอมไม่ขยับแล้ว ขอแค่อย่ามึงอย่าขยับมีดอีกก็พอ


....”พี่ ปิง อย่าทำอะไรผู้ใหญ่นะ..ฉันขอร้อง ปล่อยเขาไปเถอะ นึกว่าเห็นแก่ฉัน...” ไอ้เสือปิงสะบับหน้ากัดฟันหลับตา ทำราวพระเอกหนังจีนกำลังภายในที่ต้องฝืนทนต่อความเจ็บช้ำใจหนักหนา เมื่อคนรักมีใจให้ศัตรู”ทำไมๆๆๆๆๆๆ..พิกุล...พี่เฝ้ารักพิกุลมาตั้งแต่เรา เป็นล่ะอ่อน แต่แค่พิกุลเจอไอ้ผู้ใหญ่แค่ไม่กี่วัน ทำไมไปมีใจให้และปกป้องมันถึงขนาดนี้ พี่ไม่เข้าใจ”พิกุล ก้มหน้าไม่กล้าสบตา เสือปิงละคมมีดจากคอของผม ที่ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก มันเดินเข้าไปหาพิกุล และควักปืนของพิกุลออกมาจากเอวของมัน”ปืนกระบอกนี้ เป็นของพิกุล พี่ขอมาจาก เสี่ยศรชัย พิกุลรับไป มันเป็นปืนประจำตัวเธอใช่ไหม พี่รู้..พี่ถึงขอมาเพื่อมอบคืนให้พิกุล”พิกุลก้มหน้านิ่งอยู่พัก แล้วเอื้อมมือมารับไป “ถ้าอยากให้พี่เลิกคิดที่จะฆ่าผู้ใหญ่ พิกุล ต้องหยุดพี่ด้วยปืนกระบอกนั้น ถ้าเธอยิงพี่ได้ลงคอก็ยิงเลย ยิงมาได้เลย...” เสียงปืนดังเปรี้ยง....ร่างไอ้เสือปิงล้มลงไปนอนดิ้น เพราะมันถูกพิกุลยิงไปที่ขา มันล้มลงนอนร้องครวญคราง”โอ้ย...พิกุลยิงพี่ทำไม ยิงพี่ทำไม...”พิกุลเดินเข้ามาใก้ลๆ แล้ว ยืนมองเสือปิงด้วยแววตาสมเพธ”โธ่...ไอ้ควาย...มึงนี่มันไม่มีสมองจดจำเลยรึ ไง ว่ากูเกลียดมึงขนาดไหน ตามตื้อกูอยู่ได้ กูรำคาญมึงจนไม่อยากอยู่ในชุมก็เพราะมึง แต่มึงไม่เคยเข้าใจไม่เคยรู้ตัว จำใส่กระบาลหนาๆของมึงไว้ กูไม่เคยรักไม่เคยชอบมึงเลย”ไอ้เสือปิงนอนกุมแผลที่ขามองหน้าพิกุลด้วยแววตา ปวดร้าว”พิกุลยิงพี่ที่ขา แต่ทะลุถึงกลางหัวใจ ....พิกุล......ดู...ดู้....ดู่..ดู...เธอ.ทำ..ทำไมถึงทำกับฉันได้...” แต่ก่อนที่มันจะพูดอะไรต่อ พิกุลก็สะบับเท้าส่งปรายรองเท้าบู้ทเข้าไปที่ปลายคางเสียงดังสนั่น เสือปิงก็หน้าหงายไปตามแรงเท้าและฟุบสลบเหมือดไป น่าสงสารว่ะอุตส่าห์ทำดราม่าตั้งนาน พิกุลก็ไม่ได้ซึ้งไปกับมึงเลย แถมยังโดนเขายิงเขาเตะหน้าเข้าให้อีกอีก ฟื้นมามึงยังจะรักเขาอยู่อีกไหนเนี่ย....


....พิกุลถอนหายใจเฮือก เดินเข้ามาหาผมและส่งมือมาเพื่อฉุดผมให้ลุกขึ้น ผมมอง เสือปิงที่นอนสลบเหมือดอย่างเวทนาและมองสาวเคาบอยพิกุลอย่างงงๆ นี่ผมจะบาปไหมเนี๋ย แต่ผมไม่มีเวลาคิดอะไรมาก เดินตามพิกุลที่จูงผมหนีต่อไป เพราะเสียงปืนเมื่อสักครู่ คงจะเรียกไอ้ สามเสือที่เหลือให้ตามมาในไม่ช้า”เอ่อ...พิกุล...ฉัน...”พิกุลหันมาทำหน้า ซื่อ”มีอะไรหรือผู้ใหญ่”ผมอึกอักแล้วทำมือทำไม้พันไปมา”ตะกี้...นี่...ไอ้ นั่น..มัน..เป็น...แฟน...พิกุลรึ”พิกุลยิ้มอย่างขบขัน”ไอ้ควายนั่นนะหรอ มันโง่ที่สุดในสี่คนเลย พิกุลทั้งเบื่อทั้งเซ็งมันจะตาย แม่งผู้ชายอะไร ห่วยแตก ไม่มีความเด็ดขาด ไม่มีความเป็นผู้นำ อวดเก่งอวดฉลาดทั้งที่โง่แสนโง่ พิกุลชอบแบมีอายุและน่าอบอุ่นแบบ..แบบ..”แล้วพิกุลก็มองตาหวานฉ่ำมาที่ผม แต่ตอนนี้เป็นผมที่ต้องกลืนน้ำลายและหวั่นๆหวาดๆในตัวแม่สาวคนนี้เหลือ เกิน...


....เราเดินกันมาเรื่อยๆ ผมเองก็เหนื่อยและร้าเหลือเกินอายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว ยิ่งต้องมา วิ่งสู้ฟัด อย่างนี้ด้วยแล้วพาลจะเป็นลมเอาดื้อๆ”รีบไปเถอะ ผู้ใหญ่ ถ้าไอ้พวกที่เหลือมันเจอเรา มันเอาเราตายแน่ ไอ้ปิงนี่มันอ่อนที่สุดแล้ว ในพวก เสือสี่แคว” โอ้ย...จะแข็งจะอ่อนก็ช่างมันเถอะ เจอใครตอนนี้ก็ไม่เบาทั้งนั้น”ขอพักเดี๋ยวไม่ได้หรอ ผมเหนื่อยจริงๆนะ”พิกุลมองผมแล้วทำท่าเห็นใจ”งั้นนั่งพักสักเดี๋ยวก็ได้”ผม นั่งลงหอบแฮ่กๆ พิกุลมานั่งข้างๆแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้ผม ทำเอาผมรู้สึกหวั่นไหวในใจแปลกๆ และเห็นใจในความจริงใจของเธอที่มีต่อผม ยามนี้เธอเป็นที่พึ่งในทุกสิ่งทุกอย่างของผมจริงๆ แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์คืนนี้ไปแล้วเล่า ผมจะให้เธออยู่ตรงไหนสำหรับผม”หวานกันเหลือเกินนะ หวานกันจนเลี่ยนแทนเลยว่ะ”เราหันไปมองตามเสียง แล้วพิกุลก็อุทานขึ้นมา” พี่วัง...พี่ยม...” เมื่อตรงหน้าของเราตอนนี้มีสองเสือที่คนหนึ่งกุมขวานคมเงาวับกับคนร่างใหญ่ ถือพลองยาวยืนอยู่...


....”ปล่อยพวกเราไปเหอะ อย่าขวางทางของเราเลยพี่วัง..พี่ยม..”พิกุลพยายามขอร้องดีๆ แต่ไอ้สองคนกลับหัวเราะ”มันพาพวกมาถล่มชุมของเราจนเละ และเป็นศัตรูของเสือหาญมาแต่ปางก่อน พิกุลไปปกป้องมันทำไม”เจ้าคนถือขวานพูดเสียงดุ”ใช่...พิกุล เธอเห็นไอ้ผู้ใหญ่ที่รู้จักเมื่อวานซืนนี่ดีกว่าเสือหาญที่เลี้ยงดูเธอมา ตั้ง 20 กว่าปีเลยรึ หลบไปให้พวกเราฆ่ามันเสียดีๆ”พิกุลยืดอกเดินมาบังร่างของผม”ไม่ว่าจะยังไง พิกุลก็ปล่อยให้พวกพี่ๆทำอย่างงั้นไม่ได้”สองเสือคำรามเข้าจู่โจมทันที”งั้น ก็คงไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว”และสองเสือก็รุมอัดจนพิกุลสาวเคาบอยแทบไม่มีทาง สู้ เพียงแต่ดูแล้วมันไม่อยากทำร้ายเธอรุนแรงด้วยเหตุผลที่เป็นพวกเดียวกันและ เติบโตมาด้วยกัน เพียงอึดใจพิกุลก็ถูกอัดเบาๆแต่แน่นด้วยประสิทธิภาพลงไปนอนกองหมดสภาพ ผมวิ่งเข้าไปประคองเธอ”เป็นไงบ้างพิกุล”สาวเคาบอยตอนนี้บอบช้ำหน้าตาบวมปูด ร้องอู้ย..ๆๆหันมามองผมตาดุๆ”ก็เจ็บนะสิถามได้...อูย...”ผมหันรีหันขวางทำ อะไรไม่ถูก”รีบหนีไป ไม่ต้องห่วงพิกุล”สองเสือหัวเราะ”หนีสิ..หนีไปเลย..ไอ้ผู้ใหญ่ หนีให้เหมือนหมาเลย..บางทีพวกกูอาจสงสาร หมาอย่างมึงแล้วปล่อยไปก็ได้...”สองเสือหัวเราะแล้วดูถูกผมอย่างร้ายกาจ ผมละจากร่างสาวเคาบอย ค่อยๆลุกขึ้นยืน มองพวกมันแบบหนังฝรั่งประเภทแอกชั่นฮีโร่ที่ตอนแรกจะสู้ศัตรูไม่ได้ แต่ต้องมีบางอย่างไปกระตุ้นต่อมเก่งก่อนจึงจะฮึดและสู้ได้”กูไม่หนีแล้ว เข้ามาเลยไอ้หมาสี่แคว พวกมึงอย่าดีแต่เห่า”พูดไปได้อย่างไงเล่ากูเอ้ย..เก่งๆอย่างพิกุลยังแย่ แล้วคนเก่งแต่ล่อสาวๆอย่างกูจะเอาอะไรไปสู้ ไม่น่าปากไวไปท้ามันเลย ตายแล้วกู...


....”แหม..มันมีเถียงมีสู้ว่ะไอ้ยม เดี๋ยวกูเอง กูจะเอาขวานเฉาะปากมันเอง..”เจ้าเสือวังที่ใช้ขวานเป็นอาวุธอาสาออกมาเจอผม” เฮ้ย..อย่าสับจนจำศพไม่ได้นะโว้ย”ไอ้เสือยมที่ใช้พลองเหล็กแหลมตะโกนบอกแบบ ดูถูกผม และมันก็ไม่ได้ดูผิดด้วย สู้กับยอดฝีมืออย่างนี้ จะเอาอะไรไปสู้กับมันได้ว่ะเนี๋ย เคยต่อยตีแต่กับพวกมวยวัด งูๆ ปลาๆ ไอ่สือวังควงขวานเดินเข้ามาหาผม มันกวัดแกว่งขวานหลอกล่อผมไปมา ทำท่าหยอกล้อจะฟันไม่ฟันแล้วเยาะเย้ยเป็นที่สนุกสนาน จนจังหวะหนึ่งที่มันฟันมาแล้วยั้งมือคมขวานห่างหน้าของผมไม่กี่นิ้ว แล้วมันก็ยื่นหน้ามาหลอกผม แต่กลับถูกผมต่อยสวนไปเต็มๆหมัด ผมเซไปยืนมึนอยู่พัก พอเช็ดจมูกแล้วมีเลือดออกมา มันก็โมโหร้องว้าก เงื้อขวานเข้าไล่ฟันผมแบบเอาจริงทันที แล้วใครจะอยู่รอให้มันจามกระบาลเล่าครับ ผมก็ต้องวิ่งหนีนะสิ....


....ไอ้ เสือวังมือขวานวิ่งไล่ฟันผมที่วิ่งหนีมันมาติดๆคมขวานเฉี่ยวหัวเฉี่ยว ท้ายทอยผมหวุดหวิดไปอย่างน่าหวาดเสียวไปมาหลายหน”มึงอย่าหนีสิว่ะ มาให้กูจามด้วยขวานเสียดีๆ”ไอ้เสือวังตะโกนบอกผม “ไปสั่งควายบ้านอาม่ามึงล่ะกัน เรื่องอะไรจะไปยืนให้มึงจามหัวเล่า มีปัญญาก็ตามมาสิ”ผมวิ่งหนีมันเข้าไปในป่ารกด้วยต้นไม้สูงเลยหัว แต่ระเกะระกะรกทึบ ผมซุ่มเงียบอยู่ไม่เครื่อนไหว เสือวังตามเข้ามาเมื่อไม่เห็นผมมันก็ใช้ขวามจามหาว่าผมซ่อนตัวอยู่ตรงไหน ผมรอเสือวังอย่างอดทนจนมันมาใก้ลก็ใช้ไม้ที่เตรียมไว้หวดใส่กระบาลของมัน ทันที ไม้หักเป็นสองท่อน ไอ้เสือวังยืนเฉยหันมามองผมแล้วมันก็หัวเราะ แม่งหัวแข็งขนาดนี้เลยเรอะ มันส่งเท้าถีบผมกระเด็นออกมาจากป่าพุ่มไม้ พิกลที่นอนเจ็บอยู่ถึงผวาตกใจ ไอ้เสือยมหัวเราะร่าชอบอกชอบใจ ผมนอกจุกเสียดพยายามขยับตัวลุกขึ้นให้ได้แต่ลำบากเหลือเกิน ไอ้เสือวังควงขวานเดินตามออกมา มันหัวเราะร่าอย่างบ้าคลั่ง ผมพยายามกระเถิบตัวหนี แต่มันก็เดินใก้ลเข้ามา...ใก้ลเข้ามาเรื่อยๆ....


....”ถึง เวลาตายของมึงแล้วไอ้ผู้ใหญ่ “ผมล่ะเบื่อฟังคำนี้จริงๆพูดกันได้ทุกคนสิน่า”เขาว่ามึงเก่งกาจฉกาจยิ่งนัก ที่แท้ก็มีแต่คำลือ ดูสภาพของมึงสิ”แล้วไอ้เสือวังก็หัวเราะลั่น แต่ขณะมันเดินเข้ามาได้ระยะจะเงื้อขวานทำท่าจะฟันใส่ผมที่ไม่มีทางหนีแล้ว อยู่ๆมันก็ยืนค้างในท่านั้นและตาเหลือก มืออ่อนตีนอ่อนปล่อยขวานหลุดจากมือ แล้วล้มลงนอนแน่นิ่ง ท่ามกลางความงุนงงของผม พิกุลและไอ้ยมที่ยืนหน้าเปลี่ยนสีอยู่ ผมเอาเท้าเขี่ยร่างของมันดู แต่ร่างไอ้เสือวังก็ไม่ขยับ ที่แท้เพราะไอ้นี่ความรู้สึกช้า โดนตีหัวตั้งนานกว่าจะสลบ ผมค่อยๆยันกายลุกขึ้นอย่างลำบาก ยืนได้แล้วก็หันไปเห็นไอ้เสือยมกำกระบองขยับตัวเดินเข้ามาหาผมทำท่าบอกให้ผม รู้ว่ากูคือคู่ต่อสู้คนต่อไปของมึง มันเข้ามายืนใกล้ทำมองตาขวางกัดฟันกรอดๆ”เดี๋ยวสิ...ให้กูพักหายใจก่อนได้ ไหม”ผมยกมือห้าม ขอโอกาศมันพักบ้างขณะเห็นมันเดินเข้ามาเพื่อสู้กับผมเป็นลำดับต่อไป”ไม่ ได้...มึงทำร้ายเพื่อนกู กูต้องเอาคืนให้เป็นสิบเท่า..”และมันก็ควงกระบองวิ่งร้องจ้ากกกก...เข้ามาหา ผม..


....พิกุลซึ่งดูอยู่ชักปืนมาเล็งใส่มัน เสือยมหมุนตัวเอาพลองตีไปที่ข้อมือของพิกุล ปืนกระเด็นหลุดจากมือของพิกุลลอยมาทางผมที่กำลังยืนดูอยู่ ผมเอื้อมมือจะไปคว้า แต่ไอ้เสือยมโชว์ความไวเอาปลายพลองพุ่งมาเสียบตรงโก่งไกปืน แล้วตวัดไป มันเอาปืนไปคาไว้กับปลายพลองมันแล้วยืนหัวเราะ”กูไม่เซ่อเหมือนอย่างไอ้ปิง กับไอ้วังหรอก เรื่องพลาดง่ายๆกูไม่มี”แล้วมันก็เอาพลองควงปืนกระบอกนั้นให้หมุนอยู่บนปลาย พลอง เสียงปืนลั่นเปรี้ยง ผมสะดุ้งเฮือก มองหาที่มาของเสียง แต่ไม่เห็นใครยิง แต่พอมองไปทางไอ้เสือยมเห็นมันยืนตาค้างตัวแข็ง อ้าวมันโดนปืนที่อยู่ตรงปลายพลองของมันลั่นใส่ เสือวังเอามือจับตรงอกที่ทีเลือดใหลซึมออกมา แล้วก็ตาเหลือกหงายท้องล้มลงนอนแน่นิ่งไป ผมทรุดตัวลงนั่งถอนหายใจ โชคดีไป ที่มันมีฝีมือแต่ไม่มีสมอง...


....ตอนนี้ไอ้เสือสี่แคว เหลือแค่คนเดียวแล้ว แต่มันอยู่ไหนผมไม่รู้และไม่อยากจะเจอ ผมเดินโซเซไปหาพิกุล ประคองเธอลุกขึ้นมา “รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวพวกมันโผ่ลมากันอีก”พิกุลเดินเกาะแขนผมอย่างลำบาก”พี่น่านนี่ เป็นคนที่มีฝีมือสูงสุดในกลุ่มเลยนะผู้ใหญ่ ถ้าเจอเราคงไม่รอดแน่”พิกุลเล่าถึง เสือน่าน ที่ผมคาดว่าน่าจะเป็นชายไว้หนวดสะพายดาบคู่คนนั้น รูปร่างของมันก็น่าเกรงขามอยู่แล้ว นี่ถ้าต้องเจอต้องสู้กันคงลำบากแน่ หันมองกลับไปไกลๆ ชุมโจรของเสือหาญมีไฟลุกไหม้สว่างจ้า พิกุลมองแล้วถอนหายใจ”พิกุลคาดอยู่แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึงสักวัน และก็เตือนทุกคนอยู่เสมอ แต่ไม่มีใครนำพา”แววตาของพิกุลฉายแววปวดร้าว ผมประคองเธอนั่งลงเพื่อพักเพราะดูเธอจะเจ็บไม่น้อย”เดี๋ยวพอพิกุลค่อยยัง ชั่วเราจะกลับไปที่ชุมกัน”พิกุลทำหน้าสงสัย”กลับไปทำไมที่นั่น...มันอันตราย นะ”ผมยิ้มอย่างสบายใจ”ไม่มีแล้วอันตราย ป่านนี้เจ้าหน้าที่คงเข้าเคีร์ยพื้นที่และจับกุมพวกวายร้ายได้หมดแล้ว ที่เราหนีมานี่เพราะพวกเสือสี่แควบ้าบออะไรนั่นมันตามฆ่าเราต่างหาก ตอนนี้เราก็จัดการไปสามแล้ว อีกคนคงไม่ยากหรอก...”


....ผมพยายาม ปลอบใจตัวเอง เมื่อพิกุลหายจากอาการจุกเสียดผมก็จูงมือของเธอ และพาเธอเดินหาทางกลับชุมโจรท่ำกลังไหม้ไฟ แต่เราก็ต้องชะงักเมื่อมีดาบสองเล่มพุ่งมาปักพื้นดินตรงหน้าขวางทางเอาไว้ เมื่อผมมองไกลออกไปอีกหน่อย มีร่างของไอ้เสือน่านนั่งคุกเข่าข้างหนึ่งแล้วชันเข่าอีกข้าง สองมือกุมดาบข้างล่ะเล่มเอาปลายปักพื้น ก้มหน้ามองพื้นราวกำลังทำสมาธิ แอกชั่นมึงนี่เหลือร้ายเลย มันค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามอง แววตาดุดันและมุ่งมั่น เสือสี่แควผู้มีฝีมือร้ายกาจที่สุดตอนนี้ มันกำลังค่อยๆยันกายขึ้นมายืดตัวตรงอยู่เบื้องหน้าของผม แล้วมันเอาดาบสองเล่มมาปักขวางทางของผมทำไม มันมีเจตนาอะไร คาดเดาความคิดของไอ้สี่คนนี่ลำบากจริงๆ....


....สายตาของมันยังจ้อง หน้าผมอย่างดุดันไม่ลดล่ะ แล้วมันก็ชี้ปลายดาบมาที่ผม”อ้ายผู้ใหญ่ มึงแน่สมคำเล่าลือที่จัดการพวกของกูไปได้ตั้งสามคน แต่มึงอย่าหวังว่ากูจะง่ายดายเหมือนไอ้สามคนนั้น”อยากจะบอกมันจัง กูแทบไม่ได้ทำอะไรเลย มันโง่แพ้ภัยตัวเองกันหมด”เสือน่าน หลีกทางให้เราเหอะ ทุกอย่างมันจบหมดแล้ว ชุมโจรของแกก็คงถูกเผาทำลายและถูกกวาดจับด้วยฝีมือเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว เสือหาญก็คงไม่พ้นตารางแน่ ไปช่วยเพื่อนๆของแกแล้วรีบหนีไปดีกว่า อย่ามาเสียเลือดเสียเนื้อกันอยู่เลย” เสือน่านผู้ใส่โจงกระเบนเหน็บ ตัดผมคร้ายนักรบไทยโบราณตวัดปลายดาบชี้มาแล้วตวาด”อย่าบังอาดมาชี้แนะ กู ถ้าหน้าที่ยังไม่ลุล่วงกูก็ยังหาเลิกลาไม่ หยิบดาบขึ้นมาไอ้ผู้ใหญ่ มาปะดาบกันเยี่ยงชายชาญ” ผมมองดูดาบแล้วมองหน้ามัน นี่ถ้าต้องปะดาบกับมันล่ะก้อ ผมมีหวังโดนมันฟันขาดสองท่อนเป็นมั่นคง อย่ากระนั้นเลย จำที่ผมจะต้องหาทางเอาตัวรอดโดยไม่ช้าที อ้าวเคริ้มตามไอ้เสือน่านไปได้อย่างไง....


....”เตรียมตัวได้...อ้าย ผู้ใหญ่ “แล้วมันก็วางดาบลงข้างตัว จะทำอะไรอีกล่ะ อ้อ...รำดาบไหว้ครู เสือน่านทำกานรำดาบได้อย่างสวยงามน่าดู ทุกท่าถูกต้องตามตำรา ผมยืนดูมันรำดาบอยู่พักใหญ่ๆจนกระทั่งมันสิ้นสุดกระบวนท่า มันยืดตัวและสูดลมหายใจเรียกปราณ ตามแบบประเพณีโบราณก่อนจะรบหรือต่อสู้ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการของมัน เสือน่านก็กระชับดาบคู่มั่นแล้ววาดดาบตั้งท่าจู่โจม ผมยืนรอจนเหน็บชาเกือบกินขา ส่วนพิกุลเดินไปนั่งรอที่ก้อนหินขนาดใหญ่ข้างๆ“หยิบดาบมาอ้ายผู้ใหญ่ แล้วมึงไม่ไห้วครูก่อนเรอะ”ผมส่ายหน้า แทนคำตอบ “งั้นหยิบดาบมา อ้ายศิษยย์ไร้สำนัก”พูดจบมันก็กางแขนตวัดดาบร้องคำรามลั่นแล้ววิ่งเข้ามาหา ผมที่ยังยืนนิ่งอยู่......


....เสือน่านวิ่งอ้าปากร้องย้าก..... เข้ามาหาผม แต่ผมไม่หลบและไม่ขยับส่วนใดของร่างกายนอกจากมือที่ถือปืนอยู่ ผมยกปืนเล็งและลั่นไกยิงไปที่ขาข้างหนึ่งของเสือน่าน ร่างกำยำที่วิ่งมาสะดุ้งล้มฟุบไปในทันทีพร้อมเสียงร้องโอ้ดโอ้ย...อ้าย ผู้ใหญ่ อ้ายคนขลาดเขลา มึงยิงกูทำไม กูบอกให้ปะดาบกัน ไม่ใช่หรือ โอ้ย....”ผมลดปืนลงแล้วมองหน้าที่ตอนนี้แสดงความเจ็บปวดจากบาดแผล”กูก็ไม่ ได้รับคำท้าฟันดาบกับมึงนี่หว่า มาด่ากูทำไม” เสือน่านกระเสือกกระสนยืนขึ้น”มึง..มึง..มันร้ายกาจยิ่งนัก ปดไปเรื่อย หาใช่ชายชาตรีอันใดเลย กูบอกให้หยิบดาบมาปะฝีมือกับกู เสือกใช้ปืนยิงกูได้ อ้ายฉิ....หาย...”ผมส่ายหัว มองมันยิ้มๆ”อ้าว...มึงด่ากูทำไม กูก็บอกอยู่ว่ากูไม่ได้รับปากจะฟันดาบกับมึงเลย มึงพูดเองเออเอง มึงมีฝีมือดาบขนาดนั้นใครจะกล้าไปสู้มึง กูไม่ใช่พระเอกหนังอินเดียนะ จะเก่งไปหมดทุกอย่าง”เสือน่านยังไม่ลดล่ะ มันพยายามเดินกระเพกๆ ยกดาบจะเข้ามาฟันผมอีก ผมจึงยิงใส่มันไปอีกนัดที่หน้าขาอีกข้าง”โอ้ย....มึงยิงกูอีกแล้ว..”เสือ น่านล้มลงนอนร้องครวญคราง”อ้ายชาติชั่ว...อ้ายอัปรีย์...มึง...มัน...ระยำ แท้...”ผมปล่อยให้เสือน่านนอนร้องโอ้ดโอ้ยสลับด่าสรรค์เสริญผมไปตามสบาย เพราะตอนนี้มันทำได้แค่นั้นแล้ว ผมเดินมาหาพิกุล เอื้อมมือให้เธอจับแล้วยันกายลุกขึ้นยืน”กลับกันเถอะ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”ผมบอกเธอด้วยน้ำเสียงที่สิ้นกังวล ในที่สุด เสือสี่แควก็สิ้นฤทธ์ลงแค่นั้น....


....”จะกลับชุมจริงๆหรือ ...”เสียงหวานๆของพิกุลถามผม”ใช่นะสิ ตอนนี้ไม่มีอะให้ต้องหนีหรือต้องกลัวแล้วนี่” พิกุลนั่งลงที่เดิมแล้วมองไปที่ชุม”พิกุลไม่กลับไปหรอก”ผมงงกลับคำตอบของ เธอ”แล้วจะไปไหนล่ะ เธอไม่มีอะไรต้องกลัวนี่ เดี๋ยวผมจะคุยกับเจ้าหน้าที่เอง และจะบอกให้กันเธอไว้เป็นพยานก็ได้”สาวเคาบอยยังนั่งนิ่ง สักครู่จึงพูดขึ้นว่า”พิกุลไม่กลับไปที่นั่นเด็ดขาด พิกุลจะไปตามทางของพิกุล”ผมแปลกใจในคำพูดของเธอยิ่งนัก”พิกุลจะไปไหน และจะไปอย่างไงคนเดียวได้ล่ะ กลับไปกับผมเหอะ”ผมพยายามชวน”ใครบอกว่าพิกุลจะไปคนเดียว”ผมยิ่งแปลกใจไป ใหญ่”ไม่ไปคนเดียวแล้วจะไปกับใครเล่า”คำพูดของพิกุลทำผมสงสัย เพราะเธอจะไปกับใครในตอนนี้ พิกุลปรายตามองผม”พิกุลจะไปพร้อมกับผู้ใหญ่...”ผมถึงอึ้งเมื่อเธอบอกถึงผู้ ร่วมทางกับเธอคือผม”ล้อเล่นน่า...ผมไปกับพิกุลไม่ได้หรอก..”ผมพยายามปฎิเส ธอย่างนิ่มนวลที่สุด”ผมไปไม่ได้จริงๆ พิกุล...”


....”ทำไมล่ะ..ทำไม ผู้ใหญ่ไปกับพิกุลไม่ได้เล่า”สาวมาดเคาบอยลุกขึ้นยืนจ้องหน้าและถามผม” คือผม...ผมมีเมียแล้ว และมีภาระมากมายที่รอให้ผมไปเป็นคนดูแล”สาวเคาบอยเดินเข้ามาใก้ล”ก็ทิ้ง ทุกอย่างเหมือนที่พิกุลทำสิ แล้วเราไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน” อ้าว...ไปกันใหญ่ เกิดมาไม่เคยเจอใครตื้ออย่างแม่สาวนี่เลย”ไม่ได้หรอกครับ ผมไปด้วยไม่ได้จริงๆ ยังไงผมก็ทิ้ง โสกับสร้อยไปไม่ได้ ผมไม่ได้รู้สึกลึกซึ้งกับพิกุลถึงขนาดนั้น”สาวพิกุลน้ำตาหล่นทันที ตายแล้ว บู้สะบั้บหั่นแหลกตะกี้กลายเป็นดราม่าฉับพรันอย่างไม่ทันตั้งตัวเลย เปลี่ยนอารมณ์ตามไม่ทันเลย.....


....ผมเดินเข้าไปจับไหล่ของเธอปลอบ ใจ”พิกุล เราถือว่าโชคดีที่ได้มารู้จักกัน แต่เราไม่ใช่คู่กัน เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ สักวันพิกุลอาจได้เจอคนที่เขารักพิกุล และเขาอาจเหมาะสมกับพิกุลมากกว่าผม เรามาด้วยกันได้แค่นี้แหละ ถ้าพิกุลไม่กลับไปที่ชุม เราคงต้องแยกทางกันตรงนี้ โชคดีนะ...พิกุล...ลาก่อน...ผมจะไม่ลืมคุณเลย...”ผมเอาปืนใส่ในมือของเคาบอย สาวที่กำลังยืนตัวสั่น น้ำตาตกอยู่”ไม่นานเราคงได้เจอกันอีก”ผมค่อยๆหันหลังเดินจากผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ทุ่มให้ทั้งตัวและทั้งชีวิตช่วยผมให้รอดปลอดภัย และผมตอบแทนเธอด้วยการทอดทิ้งเธออย่างไม่ใยดี แต่ผมก็มีเหตุผลของผม และหวังว่าเธอคงจะเข้าใจในเหตุผลของผมเช่นกันว่าผมจำเป็นจริงๆ....


....”เดี๋ยว ก่อน...อย่าเพิ่งไป...”เสียงพิกุลร้องเรียกผมให้หยุด”มีอะไรหรอ..”ผมหันกลับ ไปแล้วถาม พิกุลยามนี้ยืดตัวตรงแต่น้ำตายังคลอเบ้า”ในเมื่อ พิกุลเอาผู้ใหญ่ไปเป็นๆไม่ได้ พิกุลก็จะไม่ปล่อยผู้ใหญ่กลับไปเป็นๆเหมือนกัน” ผมสะดุ้งเมื่อเห็นสาวพิกุลเล็งปืนมาที่ผม”..........อื่ม.....อะ...อะ... อะ....ไอ้เหี้ย..มึงพูดมาๆอย่างงี้ได้ไง..กูอุตส่าห์ทรยศลุงกูที่เลี้ยงกูมา ตั้งแต่เด็กเพื่อช่วยมึง ทำร้ายเพื่อนพ้อง ทิ้งคนที่เขารักกูแทบตายก็เพื่อจะมาอยู่กับมึง แต่มึงกลับมาทิ้งกูอย่างงี้นะหรอ กูไม่ยอมหรอก ไหนๆก็ไหนๆ ในเมื่อกูไม่ได้มึง ใครก็อย่าหวังว่าจะได้มึงด้วยเลย”สาวพิกุลตอนนี้จากนางฟ้าผิวเข้มผู้เป็นที่ พึ่งของผมตลอดมากลายร่างมาเป็นนางมารที่พร้อมทำลายชีวิตของผมได้ตลอดเวลา พิกุลร้องด่าผมอย่างชิงชัง สิ้นสภาพ ชายคนที่เธอเคยช่วยอย่างถวายชีวิตและยอมนอนถ่างขาให้ล่อเมื่อคืนที่ผ่านมา ปืนในมือของเธอกระชับมั่นและพร้อมยิงใส่ผมตลอดเวลา....


....”ว่าไง ไอ้ผู้ใหญ่ชั่ว กูช่วยมึงแทบตายแต่ดันจะทิ้งกู มึงกลอกกู มึงทำลายชีวิตกูทุกอย่าง”โธ่...พิกุลคิดอะไรอย่างนั้นไม่เข้าใจโลกแห่งความ เป็นจริงบ้างเลย ตอนนี้ความรักความห่วงใยของ พิกุล แปลงเปลี่ยนเป็นความแค้นเสียแล้ว และไม่มีแค้นใด จะน่ากลัวและยิ่งใหญ่เท่าแค้นของสตรี รอดมาได้ตั้งหลายครั้งเพื่อจะมาตายตรงนี้ อย่างนี้เองหรือ “พิกุลคิดให้ดีๆ ยิงผมตายตรงนี้ก็ไม่ได้อะไร ผมยังมีคนที่รักและต้องดูแลนะ”ผมพยายามเตือนสติของ พิกุล “กูไม่สนใจ ถ้ามึงไม่เปลี่ยนใจมาอยู่กับกู มึงก็ต้องตายเป็นผีเฝ้าป่าอยู่ตรงนี้แหละ” พิกุลไปไกลเกินจะกู่กลับเสียแล้ว.....
...”หยุดเอาปืนจ่อหัวผัวของกูน่ะ”เสียงแปร้นๆของ โสภาดังขึ้น ผมและพิกุลหันไปดูก็เห็นสาวร่างเล็กโสภาที่มาในชุดเสื้อแจ็กเก๊ตลายพรางพอดี หุ่นที่ใส่ทับเสื้อกร้ามสีเขียวอ่อน สวมกางเกงขาสั้นรัดติ้วและใส่รองเท้าบู้ทครึ่งน่อง ผมยาวถูกถักเปียไว้ และสวมหมวกแก็ปสีลายพรางด้วย ที่เอวคาดปืนพกสองกระบอก ตามตัวและหน้าตามีรอยฟกช้ำบางแห่งต้องปิดพลาสเตอร์ไว้ด้วย แล้วเธอมาได้อย่างไง ยังไม่ทันจะถามสาวร่างเล็กชิงถามเสียก่อน”มีอะไรกัน ถึงได้เอาปืนจ่อหัวผัวกูอย่างนี้”สาวพิกุลมองโสภาตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วแค่น หัวเราะ”อีเตี้ยนี่นะหรอ เมียมึง ไอ้แก่”พิกุลถามแล้วใช้สรรพนามเสียผมกับโสภา หมดหล่อหมดสวย”ใช่แล้ว...กูนี่แหละเมียของผู้ใหญ่...เมียตบเมียแต่งด้วย... อีดำ..”โสภาตอบแบบไม่ยอมแพ้ พิกุลถูกเรียกจี้ใจดำถึงโมโห”อีเตี้ยมึงว่าใครดำ กูผิวเข้มโว้ย เรียกกูดีๆเดี๋ยวกูตบปากฉีก”โสภากัดฟันตอบ”กูแค่ไซร์เล็กโว้ย...ไม่ใช่เตี้ย อีดำ มึงก็เรียกกูดีๆด้วย..”ผมเห็นว่าเดี๋ยวเรื่องจะกลายเป็นการด่าแล้วตบกันของ สาวๆในละครหลังข่าวจึงต้องห้าม”ใจเย็นนะ..น้องเตี้ย น้องดำ..เอ้ย..ไม่ใช่..โส..พิกุล อย่าทะเลาะกันเลย...” สองสาวจ้องมองกันอย่างไม่ลดล่ะสายตาเกลียดชัง”มีเรื่องอะไรกัน อีดำนี่ถึงได้เอาปืนจ่อจะยิงพี่”เมียสาวร่างเล็กเค้นเสียงถามผมที่อึกอักตอบ ไม่ถูก”ก็ผัวมึงมันมาหลอกฟันกูแล้วก็จะทิ้งนะสิ”อ้าว..ไหงพูดอย่างงั้นล่ะ พิกุล ผมหันไปมองเมียร่างเล็กถึงขนลุก โสภาตอนนี้ตาโตแทบถลนออกนอกเบ้า มองผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ”คือ...คือ...คือ...ว่า...ว่า... เอ่อ...สถานการณ์มันบังคับพี่นะ..เลยต้องเลยตามเลย........”ผมพยายามแก้ตัว แต่ดีกรีความโกทธของโสภาวัดจากอาการตอนนี้มันเลยขีดการควบคุมไปแล้ว และอาการนี้เพิ่งเคยเห็นสาวร่างเล็กเป็นครั้งแรก”เดี๋ยวโสเคีร์ยก่อนแล้ว ค่อยคุยกันทีหลัง...”


....โสภาเดินเข้าไปหาสาวผิวเข้มแล้วยืดตัวอก แอ่น เพราะตัวเธอนั้นสูงแค่อกของพิกุล “ผัวกูไปฟันมึงแล้วทิ้ง กูรู้ว่ามันผิด แต่มึงก็ผิด ที่เสือกยอมให้มันฟันโดยไม่สืบดูว่ามันมีเมียรึยัง พอเขาจะกลับไปหาเมียมึงจะฆ่าเขาทำไม ทำไมมึงไม่คิดว่ามึงเองก็ผิดด้วย และเมื่อผิดคนล่ะครึ่งก็หายกัน แล้วกูจะกลับไปจัดการส่วนที่เหลือกับมันเองที่บ้าน พอใจไหม”แหมสุดยอดเลยเมียพี่แก้ปัญหาได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เอ..จะไปจัดการกูอย่างไง”ง่ายไปม้าง...อีเตี้ย...ของกูมันมีเสียหายนะ กูไม่ยอมให้ใครกินกูฟรีๆแล้วลอยนวลไปได้หรอก กูต้องเอามันให้ตายถึงจะหายแค้น”โสภาเท้าเอวมองอย่างไม่ล่ะสายตา”แล้วมึงจะ เอาอย่างไงอีดำ ว่ามา...”สาวเคาบอยมองโสภาหยันๆ”เอางี้...อีเตี้ย...ถ้ามึงรักผัวมึงและไม่ อยากให้มันตาย มึงมาสู้กับกู ถ้ามึงชนะมึงกับผัวมึงกลับไปได้เลย แล้ว กูจะหายไปจากชีวิตของพวกมึงเลย แต่ถ้ามึงแพ้ มึงสองคนต้องตายพร้อมกันด้วยมือของกู ตกลงไหม...”ข้อเสนอของพิกุลฟังดูง่ายแต่ทำยากชะมัด รูปร่างของพิกุลสูงยาวเอาดี..เอย..เข่าดี ส่วนโสภาตัวป้อมๆเตี้ยๆตามประสาวัยรุ่นกำลังโต ถ้าสู้กันจริงๆ โสภาจะเสียเปรียบด้านความยาวมาก”ตกลง อีดำ กูรับข้อเสนอของมึง”สาวร่างเล็กตกลงรับคำท้า ผมแอบยิ้มภูมิใจที่เมียรักกล้าสู้เพื่อรักษาชีวิตของผัวเลวๆที่แอบนอกใจเมีย อย่างผมไว้ ...


....”กติกาคือ..ไม่มีกติกา ใช้ทุกส่วนได้ ไม่จำกัด ทุ่ม ทับ จับ หัก ทุบ ถอง ถีบ ถุย ด่า กัด จิก ตบ ได้ทุกอย่าง สู้จนกว่าจะหมอบหรือตายกันไปข้าง”พิกุลบอกกติกากับโสภาที่พยักหน้ารับ โสภาปลดเข็ดขัดสะพายปืนลงวางพร้อมๆกับที่พิกุลวางปืนลงกับพื้น ทั้งคู่เดินถอยห่างจากปืนของตัวเองในระยะเท่าๆกัน แล้วสองสาวต่างสีต่างไซร์ก็ตั้งท่าสู้กัน โสภาขยับวนช้าๆไปรอบๆตัวพิกุลที่อาศัยความยาวของขาและแขนที่เหนือกว่าคอย ต่อย เตะ ถีบรบกวน ไม่ให้โสภาเข้าวงในได้เพราะถ้าเข้าวงในได้โสภาจะได้เปรียบทันที โสภายังวนหาช่องจู่โจมอย่างใจเย็น แต่ก็พลาดถูกปลายเท้าเตะเข้าเต็มปาก โสภากระโดดหลบไปแล้วถุยเอาเลือดในปากทิ้ง พิกุลยกเท้าค้างยิ้มเยาะเย้ย โสภาวิ่งเข้าหาทำท่าเตะตัดขาพิกุลหลบ แต่จังหวะทิ้งตัวลงมาโสภาสวนหมัดจากด้านล่างชกเข้าไปเต็มกรามของพิกุล ที่ต้องกระโดดถอยออกไป เลือดแดงๆใหลออกจากจมูก พิกุลเช็ดเลือดแล้วทำท่าหงุดหงิดขณะโสภาผายมือและยิ้มยั่วเรียกพิกุลเดิน เข้ามาหา....


....ไม่เบาอีเตี้ย..กูประมาทไปหน่อย” พิกุลวนหาช่องโจมตี”มึงมีดีก็แค่ขายาวกว่ากูเท่านั้นแหละอีดำ”โสภายังวนตาม ปิดป้องการโจมตีด้วยเท้าของพิกุล ที่เป็นอาวุธหลัก”ขายาวอย่างนี้แหละเมื่อคืนผัวมึงบอกเวลายกล้อกูแล้วโคตร สะใจ”พิกุลก้มหลอกไปมาหวังให้โสภาเปิดช่องแต่สาวร่างเล็กตั้งกาดร์มั่น”มึง มันก็แค่ของแปลก แต่กินบ่อยๆก็เอียนล่ะว้า..จะสู้อาหารหลักอย่างกูได้ไง กินไม่มีเบื่อ คุณค่าอาหารสูงด้วย”พิกุลหลอกเตะแล้วต่อยหมัดสลับซ้ายขวา โสภาย่อตัวหลบแล้วหมุนตัวหักศอกใส่เข้าท้องอย่างจะแจ้ง พิกุลถอยฉากไปไกลแล้วทำท่าจุก”ทำแต่งเคาบอย ท้องอ่อนขนาดนี้เอวมึงจะดีพอควบม้าไหวรึ...อีดำ” พิกุลลูบท้องและตั้งท่าสืบเท้าเข้าหา”ไหวไม่ไหว ลองไปถามผัวมึงดูอีเตี้ยว่าเมื่อคืนก่อนถูกกูควบน้ำแตกไปกี่ที”แล้วพิกุลก็ เตะแบบหมุนตัว โสภาเอาแขนไข้วรับแต่ถูกเท้าอีกข้างถีบเข้าเต็มๆอก”แหม..อีเตี้ย ของมึงนี่มันไม่มีเลยน่ะ แม่ท่าจะไม่รักตีนกูแทบไม่โดนเนื้ออกมึงเลย”โสภาจับหน้าอกตัวเองขยับให้เข้า ที่ และไล่อาการเจ็บกับจุก”ของกูขนาดพกพาโว้ย...อีดำ ไม่ใช่มีไว้โชว์พล่ำเพื่อ หรือไว้ล่อพวกหื่น” ทั้งคู่ฝีมือสูสีกันมากจนดูไม่ออกว่าใครจะชนะ...


....ผมเห็นว่าขืน ปล่อยทั้งคู่สู้กันต่อไปจะช้ำจนเสียของกันเปล่าๆจึงเข้าขวางตรงกลางวง”เอา งี้น้องทั้งสอง พี่ขอร้องอย่าสู้กันเลย เรามาคุยกันดีๆ ดีไหม สู้กันอย่างนี้มีแต่เจ็บตัวเปล่าๆ”แต่สองสาวกลับไม่ฟัง ยังคงออกอาวุธ มือ เท้า เข่า ศอก ใส่กันชนิดผมต้องห้ามไปหลบไปและโดนลูกหลงจากสองสาวไปหลายดอก จนสุดท้ายเจอหมัดของโสภาและแข้งของพิกุลลงไปนอนมึนงง “ร้ายไม่ใช่เล่นเลยนะอีเตี้ย กูประมาทมึงไปหน่อย กูเลยออมมือให้”สาวพิกุลหอบน้อยๆ และลูบรอยฟกช้ำจากฝีมือของโสภา “กูเห็นว่ามึงโตกว่าเลยไม่ได้ออกแรงเต็มที่ เพราะกลัวมึงเสียหน้าต่างหากอีดำ” โสภาลูบสีข้างตัวเองที่ถูกขายาวๆเตะใส่หลายดอก ผมพยายามลุกขึ้นไปขวางห้ามทั้งสองอีกครั้ง”พอเหอะ...อย่าสู้กันอีกเลย พี่ขอ...”และผมก็ได้แข้งของพิกุลและหมัดของโสภามาพร้อมๆกัน แม้นจะเป็นของผู้หญิงแต่แรงก็หนักแน่นและเน้นๆจนผมลงไปนอนเจ็บจุกลุกขึ้นมา ห้ามไม่ไหว สงสัยงานนี้คงได้อัดกันยันแจ้งแน่.....


....สองสาวเริ่ม ออกอาการเหนื่อยอ่อนเพราะฝีมือสูสีกันเหลือกำลัง พิกุลอ่อนร้ามาจากการร่วมต่อสู้กับสี่เสือ ส่วนโสภาก้ยังบอบช้ำจาการถูกจับตัวไปก่อนหน้านี้ ยามนี้ทั้งคู่ได้แต่จดๆจ้องๆนานๆทีจึงจะลุยใส่กันสักที แล้วโสภาก็ตัดสินใจสไลด์ตัวเข้าเตะตัดขาพิกุลจนล้ม เมื่อได้โอกาศสาวร่างเล็กถีเข้าเต็มหน้าของพิกุล ทำเอาสาวเคาบอยมึนหงายกลิ้งไปหลายตลบ โสภา ลุกขึ้นตามไปจับตัวลากขึ้นมากำหมัดจะชกหมายเผด็ดศึก ทว่าเธอต้องชะงัก เมื่อสาวเคาบอยคว้าเอาปืนขึ้มาจ่อมาที่หน้าของโสภา”หมดเวลาเล่นสนุกแล้วอี เตี้ย” โสภาถอยหลังเดินขณะสาวเคาบอยพิกุลเอาปืนจ่อไล่เดินตามมาช้าๆ”มึงโกงนี่หว่า อีดำ ไหนว่าจะไม่ใช่ปืนไง”พิกุลหัวเราะเสียงน่ากลัว”กูบอกมึงตอนไหนอีเตี้ย... กูบอกกติกาคือไม่มีกติกา จะทำยังไงก็ได้ ให้อีกฝ่ายยอมแพ้หรือตายไปข้าง ไม่ได้ห้ามใช้ปืนเสียหน่อย”โสภาขบกรามแค้มที่เสียรู้ ผมรีบวิ่งไปขวางทางปืนเอาไว้”ผมขอล่ะอย่าทำอะไร โส เลย หากโกทธหากแค้นก็มาลงที่ผมนี่...”พิกุลกัดฟันจนกรามเป็นสันตัวสั่น”ทำไม ผู้ใหญ่ไม่รักพิกุลจนตายแทนอย่างนี้บ้าง อีเตี้ยนี่มันมีดีกว่าพิกุลตรงไหน”ผมได้แต่นิ่งและหาคำตอบ”เมื่อไหร่มึงจะ เลิกเรียกกูว่าอีเตี้ยเสียทีอีดำ”โสภายังยั๊วะที่ถูกเรียกปมด้อยเป็น ชื่อ”ถ้าอยากให้เลิกเรียกงั้นมึงตายไปเกิดใหม่ก็แล้วกัน”ผมเข้าขวางกระบอก ปืนอีกครั้ง”อย่า...พิกุล...”


....พิกุลก้นหน้าน้ำตายังใหลอาบแก้ม มือที่ถือปืนสั่น”ยังไงๆผู้ใหญ่คงไม่เปลี่ยนใจแน่ใช่ไหม”ผมพยักหน้า”เพราะผม รักผู้หญิงคนนี้มาก ผมรักตั้งแต่เจอครั้งแรก”ผมเอื้อมมือไปกอดร่างน้อยๆของโสภาดึงกอดไว้กับ อก”เธอคือทุกอย่างของผมที่ขาดไห 19 ปี เธอมาเติมเต็มทุกอย่างให้ผม ขอร้องล่ะ ถ้าอยากจะฆ่ากัน ผมขอให้ปล่อยเธอไปเถอะ ที่ผมทำกับพิกุลผมขอโทษ....”พิกุลลดปืนลง น้ำตาใหลไม่หยุดจนต้องยกมือปิดหน้าและปาดน้ำตา เอ้อเนาะตะกี้บู้จะตายกลายเป็นดราม่าแบบไม่ทันตั้งตัวอีกแล้ว ปรับอารมณ์ไม่ทันเลย พิกุลส่ายหน้าจนน้ำตากระเซ็น”ไม่ได้...จบอย่างนี้ไม่ได้...พิกุลไม่ยอม... พิกุลจะผิดหวังคนเดียวได้อย่างไง”พิกุลยกปืนเล็งมาที่ผม น้ำตาพิกุลใหลยังไม่ขาดสายนองหน้า”เอาเลยพิกุล ระบวยความโกทธของคุณมาที่ผมแต่อย่าทำร้ายดสนะ”ผมหลับตายืดอกเตรียมรับคม กระสุน โสภาพลักผมให้หลบ”ไม่เอานะพี่..โสไม่ยอมให้พี่ตายถ้าจะตายเราต้องตายด้วยกัน ”แล้วโสภาก็หมุนตัวมาบังร่างผม เราต่างยื้อกันไปมาจนพิกุลตวาด”พอแล้ว ถ้ารักกันมากก็ตายห่าพร้อมกันเลย”แล้วพิกุลก็ลั่นไก เสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัด..........


....ไม่มีใคนโดนพิกุลยิง เพราะเธอยิงขึ้นฟ้า ผมกับโสภาครายกอดจากกันเมื่อลืมตาก็เห็นพิกุลเดินจากไปสู่เงามืดของป่ารกทึบ ข้างหน้า เธอไปแล้วไปอย่างผู้แพ้ ความทระนงองอาดและมาดเท่ส์ของเธอยังคงอยู่แม้นตอนจะจากไป ร่างของสาวเคาบอยนามพิกุลค่อยๆหายกลืนไปกับความมืดจากสายตาของเรา ผมกับโสภากอดกันอีกครั้งแล้วถอนหายใจเกือบจะพร้อมๆกัน.....


....แต่ หลังจากสาวเคาบอยจากไปแล้ว และอารมณ์ของเราก็คืนสู่ปรกติ โสภาสะบัดร่างออกจากอ้อมกอดของผม”เอาล่ะ...มาคุยกันหน่อยดิ พี่..เรายังต้องเคีร์ยกัน อย่านึกว่าจะรอดตัวน่ะ เรื่องไหนโสก็ยอมได้ แต่เรื่องนี้โสไม่ยอมจริงๆ”อ้าวนี่ยังจำได้อีกหรือ”เรื่องอะไรล่ะ”ผมแกล้งทำ เป็นไม่รู้”ก็เรื่องแอบไปล่อกับอีดำก้านยาวนี่แหละ เราเกือบตายทั้งคู่เพราะพี่ไปล่อมันแล้วทิ้งใช่ไหม ทำเป็นไม่รู้”ผมทำเป็นไขสือ”ล่ออะไร...พี่ไม่เคยนอกใจโสเลย เห็นไหม เขาบังคับพี่ขนาดไหนพี่ยังไม่ไปด้วยเลย โสก็เห็น” โสภามองเหล่ผมเหมือนจะล้วงลึกมาในใจของผม”จริงแน่นะ..”ผมกอดเมียรักร่างเล็ก แล้วหอมแก้ม”จริงสิจ๊ะ แล้วเจ็บตรงไหนบ้างล่ะ”โสภาทำหน้าอ้อน”โสเจ็บไปหมด..เจ็บไปทั้งตัวเลย..”ผม กอดแน่นขึ้น”งั้นคืนนี้กลับบ้านแล้วพี่จะนวดจะทายาให้นะ..”สาวร่างเล็กยิ้ม อย่างพอใจแล้วผมก็ประคองกอดเธอเดินกลับไปยังชุมโจรของเสือหาญที่ยังติดไฟ อยู่สว่างโร่ไกลๆ เมียร่างเล็กของผมนี่ฉลาดเก่งไปหมดทุกอย่างเสียอย่างเดียว ไม่ค่อยทันผมในเรื่องผู้หญิงนี่แหละ....


....เราเดินกันมาสักพักก็ เจอปลัดและหน่ยวสวาทจำนวนหนึ่งที่ออกมาตามหาเรา “โส...เป็นไงบ้าง ปลอดภัยดีหรือเปล่า”ปลัดขิกร้องถามเมียของผมโดยไม่ห่วงผมเลย”มีผมอยู่ โสต้องปลอดภัยสิ เมียผม ผมก็ต้องดูแลสิ”ผมตอบแทนโสภา ปลัดมองหน้าผมแล้วหันไปสั่งหน่ยวสวาท”เอาล่ะตรงนี้เคีร์ยแล้ว กลับไปที่ชุมโจรได้”ปลัดหันไปสั่งหน่ยวสวาท แหมทำเท่ส์ตอนถูกขังคร่ำครวญเสียจนน้ำตาใหล ตอนนี้ทำเก่ง “แล้วโสมาได้ยังไงนี่” ผมถามเมียรักร่างเล็ก “ตอนที่โสแยกหนีไป เราไปเจอรถตำรวจพอดี แต่พอย้อนไป พี่กับปลัดและพวกเสี่ยศรชัยก็หายไปหมดแล้ว เราเลยต้องกลับไปที่บ้าน และโสแจ้งไปบอกท่าน สุทัศน์ คุณพ่อของ ปลัดธนู ท่านสุทัศน์ สั่งเจ้าหน้าที่ ระดมกำลังเต็มพิกัด ส่งกองทัพมาช่วยค้นหาทันที และเบาะแสที่นี่ก็มาจาก ไอ้สองคนที่พี่จับไปไว้ที่บ้านนั่นแหละ” เมียสาวเล่าให้ผมฟังจบ ปลัดก็แทรกขึ้นมา”เราลำบากมากเลย เกือบตายตั้งหลายครั้ง ตอนที่เขาจู่โจม ผู้ใหญ่กำลังจะถูกแขวนคอพอดี ถ้าพี่ไม่ได้ไปช่วยไว้ป่านนี้ผู้ใหญ่ล่วงหน้าไปแล้ว”ผมขยับจะพูดขัดแต่โสภา พูดก่อน”ขอบคุณปลัดน่ะที่ช่วยพี่เขาไว้ โสเป็นหนี้บุญคุณพี่นูอีกแล้ว”เป็นหนี้บุญคุณอะไร ผมไม่อยากสาวความต่อไป เพราะยังมีเรื่องของ พิกุลและชบา ร่วมอยู่ด้วย ให้โสภารู้แค่นี้ก็พอแล้ว ปล่อยไอ้ปลัดขิกมันไปเหอะ อยากโม้อะไรอย่างไงก็ปล่อยมันไป......


....เมื่อ ผม โสภาและไอ้ปลัดขิกกลับมาถึงชุมโจรที่ตอนนี้เหลือแต่ซากเถ้าถ่าน ร่างของเสือสี่แควถูกลากมารวมกับเสือหาญที่ถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไว้ มันมองผมด้วยสายตาของผู้แพ้”ทำไมว่ะไอ้ผู้ใหญ่ เสือสี่แควของกูแพ้มึงได้ยังไง กูฝึกมันมาตั้งสิบกว่าปี จนฝีมือขนาดนี้ มันยังแพ้มึงอีกหรือ”ผมยืนมองหน้าเสือหาญ”แกฝึกแต่ฝีมือของมัน แต่ไม่เคยฝึกสมองไงมันถึงแพ้”แล้วเจ้าหน้าที่ก็พาตัวเสือหาญกับพวก กุมตัวไปขึ้นท้ายรถยีเอ็มซีและพาไปยังที่คุมขัง ผมมองตามแล้วถอนหายใจ หมดเรื่องกันไปเสียที แต่เมื่อหันไปเห็นชบาถูกคุมตัวไปกับพวกผู้หญิง ผมขยับจะไปคุยด้วยปลัดก็ฉุดเอาไว้ และแอบกระซิบ”ผมบอกกับเจ้าหน้าที่แล้ว เขาจะกันเธอไว้เป็นพยาน อย่าไปยุ่งให้โสไม่สบายใจเลย” เอ้อ....ไอ้ปลัดกูเพิ่งเห็นมึงพูดมึงทำทำเข้าท่าก็คราวนี้เอง.....


....ผม โสภาและปลัดนั่งที่ท้ายรถยีเอ็มซีของเจ้าหน้าที่ไปด้วยกัน รถวิ่งฝ่าความมืดนำพวกเราลัดเลาะออกจากป่าที่ผมและปลัดเข้ามาผจญการไล่ล่า และการถูกจองจำของพวกวายร้ายทั้งอคีตและปัจจุบันของผม เมื่อรถวิ่งพ้นป่าและเข้าสู่ถนนหลวง ปลัดถึงกับลุกขึ้นชูมือกู่ร้องก้องดัง...วู้..วู้..วู้... ผมก็อยากจะร้องระบายความอัดอั้นในใจกับมันเหมือนกัน อาการและความรู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่มันเป็นอย่างนี้นี่เอง แม้นเป็นเพียงแค่เวลาหนึ่งวันกับหนึ่งคืนในการผจญภัยครั้งนี้ แต่มันดูอึดอัดทรมานและยาวนานเหลือเกินในความรู้สึก และเมื่อรถแล่นมาถึงบ้านของผม กำนันเม้ง สร้อย เจ้าคม เจ้าชมและเหมยลี่ที่รออยู่ต่างยิ้มรับดีใจที่ผมกลับมาอย่างปลอดภัย ผมลงจากท้ายรถยีเอ็มซี เจ้าคม เจ้าชมและกำนันเม้งรีบเข้ามาประคองรับผม แต่ผมห้ามมัน”ไม่ต้องหรอกไอ้เม้ง ไอ้คม ไอ้ชม กูขอบใจแต่ กูยังเดินไหว กูไม่ได้เจ็บหนักหนาสาหัสอะไร”ผมบอกมันแต่มันก็ยังไม่วายเหน็บ”กูจะมาดูว่า มึงยังไหวหรือเปล่า ถ้าไม่ไหวกูจะชื้อรถเข็นมาให้มึง”แล้วเสียงหัวเราะก็ดังลั่นบ้านของผม”กูนะ ไม่ยอมตายง่ายๆหรอกไอ้เม้ง ถ้ากูตาย มึงจะมีใครคอยเป็นคู่กัดมึงล่ะ”กำนันเม้งตบบ่าผม”ใช่แล้ว ไม่งั้นกูจะเหงาแย่เลย” แม้นจะเกลียดชังแข่งขันกันมาทุกเรื่องทุกอย่าง แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะไปกับไอ้เม้ง แม้นจะเป็นการหัวเราะแบบไม่มีเหตุผลก็ตาม “แหมเตี๋ยกับผู้ใหญ่ดีกันอีกแล้ว...แต่จะดีกันนานไหมนี่”สาวหมวยตอนนี้มองผม กับกำนันแบบไม่กล้าแสดงอาการ ผมกับกำนันมองหน้ากันแล้วหัวเราะ”วันนี้งดกัดกันหนึ่งวัน ไอ้ผู้ใหญ่มันเหนื่อยมาเยอะแล้ว เตี่ยให้มันพักก่อน เดี๋ยวจะหางว่าเตี่ยซ้ำเติมมัน”สาวหมวย เหมยลี่มองเราสองคนยิ้มๆ “ถ้าดีกันอย่างนี้ทุกวันล่ะก้อ ลี่ชอบนะ”


....ไม่เคยมีครั้งไหนเลย ที่ผมอยากกลับบ้านเท่าครั้งนี้ และไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ผมรู้สึกว่าบ้านนี้จะให้ความสุขและมีความหมายกับ ผมถึงขนาดนี้ ผมเดินเข้าบริเวณบ้านอย่างเหนื่อล้า มองเห็นสร้อยที่น้ำตาคลอลอบมองมาทางผม แต่เธอกลับเดินผ่านผมไปลูบหัวลูบหลังโสภาลูกสาวถามอาการฟกช้ำอย่าง ห่วงใย”แม่บอกแล้วใช่ไหม ว่าให้ไปดูเฉยๆ ดูสิได้แผลเพิ่มมาอีกแล้ว”สาวร่างเล็กกอดแม่ท่าทางออดอ้อนน่ารัก”ก็โสไปช่วย พี่จากชุมโจรนะ ไม่ได้ไปทอดผ้าป่า มันก็ต้องมีแผลกลับมากันบ้าง”สร้อยยิ้มทั้งน้ำตาแต่ไม่วายหันมามองผมที่ยืน ดูอยู่”เอาละ ปลอดภัยกลับมาก็ดีแล้ว นี่ก็ดึกมากไปพักผ่อนกันเถอะ” แล้วสร้อยก็ประคองร่างลูกสาวคนเก่งเดินเข้าบ้านไป...


....สองแม่ลูก เข้าบ้านไปแล้วผมยังยืนมองบริเวณบ้านดีใจที่ได้กลับมาเหยียบ หลังผ่านห้วงความเป็นความตายมากมายจนเกือบคิดว่าจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว แต่เสียงของกำนันเม้งก็ปลุกเรียกผมออกจากภวังค์”ไอ้ผู้ใหญ่ มึงปลอดภัยแล้วกูจะกลับแล้วนะ แต่ไม่ต้องห่วงกูจะทิ้งคนไว้เฝ้าบ้านของมึงตอนมึงนอนสัก สี่ – ห้าคน อย่าเพิ่งประมาทล่ะ ถึงไอ้เสี่ยกับเสือหาญมันจะถูกจับไปแล้ว แต่ลูกน้องมันคงยังเหลือยู่บ้าง ระวังมันจะลอบมาล้างแค้นมึงได้”ผมหันไปยิ้มให้กำนันเม้ง”ขอบใจมึงมาก ถ้ามีโอกาศกูจะตอบแทนมึงให้ถึงขนาดเลย...”เหมยลี่ที่เดินตามมา มองผมยิ้มๆ”ลี่ดีใจที่พี่ปลอดภัย ท่าทางพี่จะบาดเจ็บและเหนื่อยมากเลย ให้ลี่อยู่ช่วยดูแลไหม”กำเม้งกระแอม”อาลี่เอ้ย...เมียเขามีไม่ต้องไปแย่ง หน้าที่หรอก รู้ฐานะตัวเองบ้าง และถึงลื้อจะอยู่ก็คงไม่มีอะไรให้เฮหรอก ไอ้ผู้ใหญ่มันเหนื่อยมากวันนี้ มันคงไม่มีแรง โจ๊ะพรึมๆหรอก”แหมดูถูกกูนะไอ้เม้ง พลังของกูยังเหลือเฝือ”เอาล่ะกูกลับล่ะนะ อาลี่ไป”กำนันเม้งลาไปดื้อๆ เหมยลี่เดินตามพ่อไปแล้วหันมามอง”ดูแลตัวเองดีๆนะพี่ พรุ้งนี้ลี่จะมาใหม่ อาบน้ำให้สะอาดทำแผลดีๆแล้วอย่างลืมกินยาด้วยล่ะ”สาวหมวยเดินขึ้นรถตามกำนัน เม้งไป ผมยืนมองจนรถแล่นหายไปจากสายตา ขอบใจมากว่ะไอ้เม้ง.....


....เดิน เข้ามาในบ้าน โสภากับสร้อยยังนั่งคุยกันอยู่ “พวกกำนันกลับไปแล้วรึ”สร้อยถามผม”กลับไปแล้ว จะว่าไปไอ้เม้งมันก็ไม่ใช่คนเลว เพียงแต่ความเห็นของพี่กับมันไปคนล่ะทางเท่านั้น”สร้อยลุกขึ้นยืนทำท่าจะ เข้าไปนอน”รู้อย่างนั้นก็ดีแล้ว สองวันมานี่ ได้พี่เม้งกับลูกน้องช่วยดูแลบ้านพี่ ถึงอุ่นใจอยู่ได้ พี่พาโสไปอาบน้ำและพักผ่อนเถอะ สะบักสะบอมมาพอกันเลยทั้งผัวทั้งเมีย”ผมมองสร้อยเดินเข้าห้องไป แล้วได้มองเมียรักร่างเล็กชัดๆ ก็เห็นตามร่างกายของเธอมีรอยบอบช้ำหลายแห่ง และบางแห่งเป็นแผลลึก”โอ้ย...นี่โสช้ำขนาดนี้เชียวหรือ”ผมนั่งลงลูบแผลเมีย สาวร่างเล็ก”ก็ใช่นะดิ ยอมเจ็บขนาดนี้ ผัวยังนอกใจเลย”สาวร่างเล็กพูดแบบน้อยใจปนงอนๆ”งั้นไปในห้องกันเถอะพี่จะ ช่วยทำแผลดูแลให้”....


....ผมกอดร่างของโสภาเมียรักเข้ามาในห้อง เธอยังงอนเรื่องพิกุลไม่หาย สะบับร่างออกจากอ้อมแขนของผมทันทีเมื่อถึงข้างใน”เป็นไงล่ะยังอาลัยอาวรณ์ ถึงอีดำนั่นอยู่หรือ กลับมาไม่เห็นพูดอะไรกับใครเลย ทำเงียบๆไปเลย”ผมยิ้มขันๆในท่าทีที่แสนงอนของเมียร่างน้อย ”ก็พี่ดีใจที่ได้กลับบ้านนะ รู้ไหมตั้งแต่แยกกับโส พี่เกือบตายตั้งหลายครั้ง แต่เพราะพี่เชื่อโสว่าห้ามตาย พี่เลยรอดมาได้” แล้วยกทรงขนาดเล็กและเสื้อกร้ามก็ลอยข้ามหัวผมที่นั่งข้างเตียงไปลงตะกล้า อย่างแม่นยำ”ให้มันจริงเหอะ ไม่ใช่ติดใจของดำหรอกนะ”แล้วโสก็ผลัดเสื้อผ้าเป็นผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ ไป ผมก็ไม่รอช้าถอดเสื้อผ้าวิ่งโทงๆตามโสเข้าห้องน้ำไป ผมพยายามกอดจูบเมียร่างเล็กสร้างอารมณ์แต่เธอไม่ยอม”ถูกเตะถูกถีบเจ็บมาทั้ง ตัวไม่มีอารมณ์หรอก แล้วเธอก็ห่มผ้าเช็ดตัวเดินออกจากห้องน้ำมาก่อน ผมอาบน้ำต่อลำพังอย่างชื่นฉ่ำใจ แหมสบายเนื้อสบายตัวจริงๆ ผมแช่น้ำในอ่างอยู่นานจนหายเหนื่อยล้าแล้วจึงออกมาจาห้องน้ำ เจอโสยังนั่งอยู่ที่หน้ากระจกเธอยังนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่ เพราะยังต้องทายานวดยาตามบริเวณลำตัวที่ฟกช้ำ ผมจึงไปช่วยนวดให้”แล้วพี่ไม่นวดบ้างหรอ”โสภาถาม เพราะผมเองก็โดนมาไม่น้อย”ไม่หรอกถ้าได้นาบโสสักทีก็หาย”โสภาหน้าแดง” บ้า..พี่นี่พูดอะไรก็ไม่รู้ ว่าแต่ลุยมาขนาดนี้ยังมีแรงเหลืออยู่อีกรึ”ผมยิ้มแล้วกระซิบบอกว่า”จะให้พี่ ทำแฮกทริกก็ยังไหวเลย พี่นะแรงเหลือเฝือกว่าแต่ก่อนอีก”โสภากอดคอผมโน้นใบหน้าลงไปจูบ”ก่อนจะทำแฮ กทริกนะประเดิมลูกแรกให้ได้ก่อนเถอะพี่”......




ผมก้มลงพร้อมกับ จูบไปตามท้องน้อย และขาอ่อนอันขาวๆ ของโสภา ผมจจูบวนไปรอบๆ เนินนูนของโสภาแต่ไม่ให้โดนร่องรูของเธอ จนโสภาบิดกายบอกว่า"แฉะไปหมดแล้วพี่ ทำอย่างอื่นบ้างสิ” ผมจึงเริ่มรากสิ้นไปที่แคมทั้งสอบข้างของเธอ เลียเบาๆ เธอยิ่งร่อนและเด้งรับ โสภาจับหัวของผมกดอยู่แนบร่องรูของเธอและกลับตัวลงมาควานหาท่อนเอ็น พร้อมกับรูดขึ้นลงช้าๆ ผมยิ่งโล้มลิ้นลงร่องรูเธอแรงขึ้น” โอว์ ... อ๋า...โอว....ซี๊ด... พี่”โสภาผวาหลับตาตัวแอ่น แล้วเธอก็เริ่มอมท่อนเอ็นของผมเข้าไป ลีลาเธอเริ่มร้ายกาจมากขึ้นหลังจากได้อมบ่อยๆ เธอเริ่มจูบที่หัวเอ็นก่อน แล้วจูบไปรอบท่อนเอ็นของผม ตอนนี้ผมเริ่มหยุดการโลมไล้เธอด้วยลิ้นแล้วเพื่อให้เธออร่อยกับท่อนเอ็นของ ผม สาวร่างเล็กอ้าปากดูดท่อนเอ็นอันเขื่องจนถึงโคนแล้วก็ลากลิ้นกลับมาที่หัว เธอเริ่มเน้นเลียไปที่รอบๆ หัวบาน ตรงรอยหยักและรัวลิ้นไปตรงรอยแยก ผมเสียวจนกลัวจะแตกซะให้ได้ แล้วเธอก็อมมันเข้าไปทั้งหัวรูดขึ้นลงอยู่เฉพาะส่วนหัว สักพักเธอก็อมลงไปถึงโคน ผมเสียวมากเลยเอื้อมมือไปบีบนมเธอ เธอก็รู้ว่าผมเสียวจึงรูดปากขึ้นลง ยาวๆ พร้อมกับรัวลิ้นกับท่อนเอ็นผม ผมจะทนไม่ไหวแล้ว จึงบอกเธอว่า "โสพี่ไม่ไหวแล้วน่ะ...จะออกแล้ว...” สาวร่าเล็กล่ะปากพูดกระเซ้า”แหมคุยจะแฮกทริก ยังไม่ทันไรเลยประตูแรกจะมาแล้ว....”


ผมขยับตัวลุกขึ้นมานั่งที่ขอบ เตียง เธอจึงลงไปนั่งคุกเข่าที่พื้น แล้วสาวเอ็นของผมไปดูดอย่างไม่รอช้า เธอบอกว่า "แตกใส่ปากโสเลยนะ วันนี้อยากได้วิตามิน บำรุงที่เสียไปหน่อย" โสภาทั้งดูดทั้งรูดชนิดมองแทบไม่ทัน สักพักผมก็ต้องบอกโสภาอีกว่าไม่ไหวแล้ว สาวร่างเล็กจึงยิ่งรัวลิ้นที่หัวผม และรูดเร็วขึ้นจนผมพ่นน้ำ ใส่ปากเธอเธอดูดมันไว้และอีกมือเธอจับไปที่ไข่ผมพร้อมคลึงเบาๆ เธอยังรูดที่โคนอยู่และอ้าปาก น้ำผมที่ยังเหลือพ่นใส่หน้าของโสภาเต็มไปหมด สาวร่างเล็กเอามือป้ายน้ำที่หน้าเธอ ปาดด้วยนิ้วและดูดใส่ปากเหมือนมันเป็นขนมอร่อยมาก ผมเห็นแล้วจึงถามเธอ "น้ำนี่มันมีวิตามินอะไรล่ะ" โสภาตอบว่า น้ำผู้ชายนี่วิตามินทั้งนั้น กินแล้วเปล่งปลั่งผิวสวย”


ผมจับถ่างขาของโสภาออก หลังจากพักเหนื่อยไปได้สักครู่ ผมลุกขึ้นนั่งคุกเข่าเอาท่อนเอ็นจ่อเข้าร่องรูของเธอ แล้วก้มลงไปบดจูบที่ปากเธอ ส่วนมือก็บีบนมเธอและบี้หัวนมทั้งสองข้าง โสภาตอนนี้อารมณ์คงขึ้นมาก เธอเลยเอื้อมมือมาจับท่อนเอ็นของผมจ่อของไปที่ร่องรูของเธอ และเด้งใส่ท่อนเอ็นของผมเองเลย และแค่ทีเดียวมันก็มิดเลยเพราะน้ำเธอมันเต็มร่องไปหมดแล้ว จากนั้นเธอก็ร่อนเอวเอง ผมจึงสนองด้วยการกระแทกเข้าออกแบบยาวๆ เธอร้อง ด้วยความซ่านเสียวลั่น"โอว์ ...ซี๋ด... พี่.... อ๋า....โอว์ อ๋าา...โอ้ย..” พร้อมกับจิกหลังผมแน่น และเกร็งไปทั้งตัว "โอว์...ๆๆๆพะ..พี่...โส...จะ..ออก..แล้ว...”ผมกระแทกแรงเข้าไปแล้วก็บดคลึง ท่อนเอ็นไปมา แต่ดูท่าจะไม่สะใจสาวร่างเล็กหรือมันช้าไม่ทันใจก็ไม่รู้ได้ เธอผลักผมให้นอนลงและขึ้นมานั่งสวมตอของผมแล้วขย่มต่อทันทีเธอหันหลังให้ผม ผมจึงเอื้อมมือไปจับนมเธอบีบทั้งสองข้างดูเธอร่อนเอวไปมา แล้วผมก็แทบทนไม่ไหว เธอขย่มขึ้นลงยาวๆ แล้วก็บี้บดร่องเนินเธอกับโคนผมพร้อมร่อนเอวเป็นจังหวะสลับกันไป เธอหมุนตัวกลับมา หันหน้าหาผม เอามือท้าวไปข้างหลัง แอ่นอกขึ้นและ ขย่มสุดแรงเกิด ผมจะตาย จะแตกอยู่แล้วแต่ก็ยังทนเพราะอยากเสียวกับเธอนานๆ ตั้งแต่ล่อมาไม่เคยล่อใครมันเท่าเด็กคนนี้มาก่อน เธอยังร่อนอยู่ตลอดเวลา ผมจึงบีบรีบขย่มต่อเพราะผมจะแตกแล้ว มือก็บีบนมเธอข้างนึงอย่างแรง อีกข้างบีบที่ก้นอันข้าวและแน่นของเธอ ผมเด้าเร็วมากขึ้นอีกเพราะจะเสร็จแล้ว เธอร้อง"โอว์ โอว์.. ซี๊ด.. เสียว จัง โส อูวว์ โส จะออกอีกแล้ว โอ้ย..ๆๆ ซี้ด พี่ออกใส่หน้าของโสนะ อย่าแตกในนะ" ผมจะแตกแล้วเลยรีบชักออกมา เธอรีบจับท่อนเอ็นของผมพร้อมกับอ้าปากรอ เหมือนในหนังโป๊เลย ผมก็พ่นใส่หน้าเธอในไม่ช้า เธอจับที่กลางลำเอ็นชักบ้างรูดบ้างต่อให้ผมน้ำที่พุ่งเข้าปากเธอบ้างและโดน หน้าบ้าง เธอกลืนมันอีกแล้วพร้องกับเอามือมาปาดน้ำบนหน้าแล้วลูบกับหน้าอกเธอ สาวร่างเล็นอนทิ้งตัวลงข้างๆตัวผม หอบหายใจ “เฮ้อเหนื่อยกว่าตอนสู้กับอีดำอีก.....”ผมปล่อยให้เธอนอนพัก ขณะผมเองก็หลับตาเอาแรง แต่สักพักก็ได้ยินเสียงกรนเบาๆ อ้าวหลับไปแล้ว ผมก็ไม่อยากกวนเธอแล้วผมหลับตาเพียงครู่ผมก็หลับตามเธอไปด้วยความอ่อน เพลีย....


....เช้าวันใหม่มาเยือน ผมตื่นขึ้นมารู้สึกเจ็บตามตัวไปหมด โสภายังไม่ตื่น ร่าง เล็กๆนอนหลับราวเด็กน้อยที่ไม่รู้เดียงสา โสภาไม่เคยตื่นสายหรือตื่นหลังผมเลยตั้งแต่อยู่กันมา ท่าจะเหนื่อยมาก ผมจึงปล่อยให้เธอนอนไปให้พอ ผมลุกเดินมาล้างหน้าและออกจากห้อง จึงรู้ว่ามันสายน่าดูแล้ว ผมเดินผ่านห้องครัวเห็นสร้อยกำลังสาระวนทำกับข้าวอยู่กับเจ๊เดือน พอดีสร้อยหันมาเจอผมเดินผ่าน ผมยิ้มให้เธอแล้วเดินเลยออกไปหน้าบ้าน


....ที่ หน้าบ้านผมเดินมาที่ศาลา และลูบเก้าอี้โยกไม้มะค่า แหมนึกว่าจะไม่ได้กลับมาเจอกันแล้ว ผมนั่งลงเอนกายปล่อยอารมณ์ไปเรื่อยเปลื่อย กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นลอยมาเมื่อผมหันไปเห็นเป็นสร้อยนั่นเอง ผมรับกาแฟมายกละเลียดดื่ม สร้อยยังยืนอยู่ข้างๆ”ยัยโสยังไม่ตื่นรึ” สร้อยถามผม”ยัง...ท่าจะเหนื่อยและระบมมาก ปล่อยให้ดสนอนพักไปเหอะ”ผมหันไปมองสร้อย แม่ยายคนสวยแล้วถอนใจ”ถอนใจอะไรหรือพี่..”ผมมองไปเบื้องหน้า แล้ววางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะ ล้วงสิ่งหนึ่งออกจากกระเป๋า มันเป็นพวงกุญแจมีลูกโลกอันเล็กห้อยอยู่”สร้อยจำนี่ได้ไหม” ผมชูให้เธอดู สร้อยขมวดคิ้วราวจะทบทวนความทรงจำ”จำได้สิ พี่เคยชื้อให้ฉันเป็นพวงกุญแจจักรยานตอนเรายังวัยรุ่นอยู่นะ แต่มันหายไปแล้ว นี่พี่ชื้อใหม่หรอ แต่ทำไมเก่าจัง”ผมยังจ้องดูพวงกุญแจลูกโลก”ไม่ได้ชื้อใหม่หรอก ของเก่านั่นแหละ แต่พี่ยังเก็บไว้ตลอด”สร้อยทำหน้าฉงน”พี่เก็บได้ที่ไหน เมื่อไหร่ล่ะ”ผมยังครึงลูกโลกเล่น”ตอนที่พี่ตามไปช่วยเธอจากเสือพายและเสือ หาญไง”.......


....สร้อยยังคงมองพวงกุญแจใมมือของผม”ตอนเสือพายกับ เสือหาญฉุดเธอไป พวกเราตามไปช่วย แต่เมื่อถึงป่าลึกทุกคนกลับหมด แต่พี่ไม่ยอมกลับ เพราะพี่เจอ พวงกุญแจนี่ตกอยู่ พี่จึงตามไปจนช่วยเธออกมาได้ แม้นสุดท้ายเธอจะแต่งงานไป แต่พี่ก็ยังเก็บไว้เสมอ ตอนที่พี่ตามไปช่วยโส พี่ก็พกติดตัวไปด้วย และใช้มันเตือนใจเสมอว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่ต้องรอดกลับมา เพื่อเอามันมาให้เจ้าของที่ทำตกไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว”ผมยื่นพวงกุญแจคืนให้สร้อย แต่เธอหันหน้าไปมองทางอื่น ทำท่าสะอื้นเล็กน้อย”เก็บไว้เถอะพี่ ตอนนี้โลกใบนั้นไม่ใช่ของฉันแล้ว โลกของพี่มีคนอื่นมาอยู่แล้ว ฉันมันแค่คนเคยอยู่เท่านั้น พี่ดูแลคนที่อยู่ตอนนี้ให้ดี อย่าให้ต้องสูญเสียไปเหมือนครั้งก่อนล่ะกัน...”ผมมองสร้อยด้วยสายตาจริงจัง แต่สร้อยหันหลังและเดินหนีเข้าบ้านไป ผมมองตามจนเธอเดินหายเข้าตัวบ้านไป ใช่โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว เวลาล่วงเลยทำหลายสิ่งเปลี่ยนตามไม่เว้นแม้นแต่ใจคน แต่ความรักของผมยังมีต่อเธอไม่เคยเปลี่ยน แว่วเสียงเพลงจากงานตลาดนัดล่องลอยมาตามสายลม ผมยังจำได้เพลงนี้ แม้นมันจะเนิ่นนาน และความหมายของมันก็ยังคงอยู่ในใจของผมเสมอ เนื้อหาของเพลงราวคนแต่งนั้นจะแต่งให้ผมฟัง...โลกทั้งใบ ให้เธอคนเดียว...




ต่างคนเข้าใจ ต่างก็เรียนรู้ทุกอย่าง ด้วยสองเรา
แค่มองสายตา ก็พอรู้ใจ มีเธอมีฉัน
ก่อเป็นความหมาย ให้ใจผูกพัน ให้เรารักกัน ทุกๆนาที


สิ่งเดียวที่มี นั่นก็คือรักยิ่งใหญ่ ที่ให้เธอ
แต่วันนี้เรา ไม่ควรพบกัน เพราะฉันไม่ดี
*เหตุการณ์วันนั้น ต่างจากวันนี้ และเรารู้ดี ว่าต้องทำใจ


** ต่างคนต่างพูดไม่ออก ได้แต่มองตาเท่านั้น
รักที่ให้กัน เหมือนโดนกั้นขวางทางไป
อย่าเลยอย่ารู้ว่าฉัน ขาดเธอจะเป็นอย่างไร
แค่รู้ไว้ว่าโลกทั้งใบ จะให้เธอคนเดียว


*เหตุการณ์วันนั้น ต่างจากวันนี้ และเรารู้ดี ว่าต้องทำใจ


** ต่างคนต่างพูดไม่ออก ได้แต่มองตาเท่านั้น
รักที่ให้กัน เหมือนโดนกั้นขวางทางไป
อย่าเลยอย่ารู้ว่าฉัน ขาดเธอจะเป็นอย่างไร
แค่รู้ไว้ว่าโลกทั้งใบ จะให้เธอคนเดียว




....ผม นั่งฟังเพลงจนจบ เนื้อหาของเพลงยังคงความหมายเดิม ผมยังอยู่จากวันนั้นจนถึงวันนี้ หัวใจที่แหลกสลายในวันนั้นกลับมามีความหมายในวันนี้ ผมจะอยู่ต่อไปเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย สุดท้าย สร้อย โลกทั้งใบจริงๆของฉันนะ มันมีให้เธอเพียงคนเดียวจริงๆ ผ่านเหตุการณ์เฉียดตายมาทำให้ผมสำนึกว่าชีวิตคนเราแสนสั้นจะตายเมื่อไรก็ไม่ รู้ ฉะนั้นอยากทำอะไรก็รีบทำ และผมหยุดพักเรื่องจัดการสร้อยไปวุ่นวายเรื่องอื่นนานเกินไปแล้ว และนับแต่นี้ไป ผมจะกลับมาเพื่อทวงหัวใจของเธอคืนมาให้ได้ แต่จะสำเร็จหรือล้มเหลวนั้น ก็ต้องติดตามตอนต่อไป....







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น