วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เดชแม่ยาย ตอนที่ 42 ตามหาโสภาที่หายไป




....หลังจากอดทนเฝ้ารอมานาน วันที่ทุกคนรอก็มาถึง ระดับน้ำลดลงจนเข้าสู่ภาวะปรกติ ชาวบ้านเริ่มทยอยกลับกันตั้งแต่น้ำเริ่มลดระดับแต่แรกแล้ว ทุกคนต่างดีใจที่จะได้กลับไปอยู่บ้านของตัวเอง หลังจากมาอาศัยอยู่บ้านของผมกว่า 10 วัน รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของชาวบ้านได้กลับมาแล้ว ผมยืนดูชาวบ้านพากันขนข้าวของเดินออกจากบริเวณบ้านที่เข้ามาพักอาศัยชั่ว คราวของผมอย่างโล่งอก หมดเคราะห์หมดโศกกันไปที ชาวบ้านกลับไปยังบ้านของตน ที่บางหลังก็ไม่เหลือซาก บางหลังก็พังเกินซ่อมแซม บางหลังก็พอซ่อมอยู่ได้ แล้วแต่ใครจะเจอหนักเจอเบา แต่สภาพถนนนั้นพังไม่มีเหลือ ต้องเร่งซ่อมแซมกันขนานใหญ่ และเงินช่วยเหลือจากหลวงก็ตกลงมา เหล่าผู้ประสบภัยไปเข้าชื่อเพื่อขอความช่วยเหลือกันล้นหลาม ปลัดหนุ่มเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยเหลือชาวบ้านให้ได้รับความช่วยเหลือกัน ถ้วนทั่ว เรียกคะแนนนิยมได้อย่างล้นเหลือ ส่วนไอ้กำนันเม้งคราวนี้มาแปลก มันไม่อมเงินยังไม่พอ วัสดุก่อสร้างของร้านมันนั้นลดราคาชนิดชื้อแล้วเหมือนได้เปล่า เห็นแล้วก็ชื่นใจ ที่คนไทยไม่ทอดทิ้งกันในยามยาก และไม่ถึงเดือนหมู่บ้านของเราก็กลับคืนสู่ภาวะปรกติทุกคนได้ทำมาหากินกัน เหมือนเดิม ชาวบ้านต่างสุขใจกันถ้วนหน้า ในบรรยากาศของฟ้าหลังฝน ช่วงเวลาเลวร้ายได้ผ่านพ้นไปแล้ว และผมภาวนาอย่าให้มันได้กลับมาอีกเลย.......


....ส่วนกิจการของผมที่เสียหายยับเยินหลายอย่างนั้น โชคดีที่มีประกัน แต่ถึงจะได้ค่าชดเชยกลับมาไม่เท่าที่เสียหายไป แต่ก็ยังดีกว่า เสียหายไปโดยไม่ได้อะไรเลย โรงสีข้าว โรงแรม และร้านขายอุปกรณ์การเกษตรนั้นเสียหายหนักสุด และที่สำคัญมันเป็นกิจการหลักของเราด้วย ส่วนตลาดของผมมันเป็นแค่ลานโล่งๆมีหลังคาคลุม แค่ติดตั้งใส่หลังคาใหม่ก็กลับมาใช้ได้ดั่งเดิม แต่บรรดาพ่อค้าและแม่ค้าก็หายไปกว่าครึ่ง อีกนานกว่าจะคืนสภาพความมั่นใจ ผมและโสภาก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร เราค่อยๆฟื้นฟูและซ่อมแซมกันไป หวังว่าในอีกไม่ช้า ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ส่วนเงินทองเราก็ยังมีใช้จ่ายได้ไม่เดือดร้อน...


....หลังชาวบ้านพากันขนย้ายกลับไป บริเวณบ้านของผมก็สกปรก รกรุงรังต้องทำการเก็บกวาดทำความสะอาดกันขนานใหญ่ ก็คนตั้งหลายร้อยคนมาอาศัยอยู่รวมกัน เรื่องขยะสิ่งปฎิกูลไม่ต้องพูดถึง ทิ้งกันไว้เพียบ ต้องใช้เวลาเกือบๆ 10 กว่าวัน สภาพบ้านของผมจึงคืนกลับมาน่าอยู่ดังเดิม และเสียค่าใช้จ่ายไปไม่น้อย เรื่องร้ายๆผ่านพ้นไป ผมหวังว่าเรื่องดีๆคงจะเข้ามาบ้าง โดยเฉพราะเรื่องของไอ้ปลัดขิกที่หมู่นี้มันหายหน้าไปเลย เพราะต้องไปคอยช่วยเหลือชาวบ้านในด้านการฟื้นฟูสภาพบ้านเรือน ไม่เห็นหน้ามันค่อยสบายใจหน่อย...


....ผมนั่งกินกาแฟสบายใจอยู่ที่ศาลาหน้าบ้าน บนเก้าอี้โยกไม้มะค่าตัวเดิม นั่งจิบไปมองทิวทัศน์ไป โสภายังคงอยู่ที่ออฟฟิต ทำงานตามปรกติ ส่วนผมไม่มีเอกสารให้เซ็นก็ไม่ต้องไป และผมก็ไม่ได้อยากไป เพราะเกรงไปเจอพนักงาน 6 อมนุษย์ ได้เห็นแล้วมันไม่จำเริญรื่นเริงหัวใจเลย ตอนน้ำท่วมทำไมน้ำไม่พัดเอาไปด้วยว่ะ โสภาจะได้หาพนักงานใหม่ที่สวยๆใสๆมาทำงานแทน คราวนี้แหละผมจะอยู่ทำงานชนิดติดออฟฟิตเชียว ผมนั่งจิบกาแฟทอดอารมณ์ไปเรื่อยเปลื่อย ยามบ่ายๆลมร้อนพัดมาปะทะใบหน้าและตัววูบๆ รู้สึกสบายดีเหมือนกัน สร้อยทำขนมมาให้ผมเหมือนเคย แต่จะได้กินหรือไม่กินก็ต้องลุ้นเอาจากการพูดคุยกันในแต่ล่ะวันว่าจะออกมา รูปไหน...


....กลิ่นขนมปังสังขยาหอมน่ากินลอยมาจากจานที่สร้อยทำมาให้ใหม่ๆจากเตา ร่างอวบอัดขาวนวลเดินส่ายสะโพกเข้ามาวางจานขนมบนโต๊ะข้างๆผม “เอ้า....กินซะ ทำมาเผื่อเดี๋ยวจะหาว่าทำแล้วเก็บไว้กินคนเดียว ไม่มีน้ำใจ” ผมขยับตัววางแก้วกาแฟ แล้วหยิบมากินชิ้นหนึ่ง”อื่ม...อร่อยเหมือนเดิม แล้วนั่นจะไปไหนล่ะ” ผมถามเมื่อเห็นสร้อยเอาถุงใส่ห่อขนมถุงใหญ่ ทำท่าจะเดินออกจากบ้านไป”เอาขนมไปให้ปลัดธนูนะ นี่เขากินนอนอยู่กับชาวบ้านเลยนะ แหม...คนอะไรช่างเสียสละจริงๆ เกิดในตระกูลใหญ่โตแท้ๆ แต่ทำตัวติดดินมีน้ำใจ ช่วยเหลือคนได้ไม่ถือตัว”ผมหัวเราะเยาะ และรู้ทันมันว่าไอ้ปลัดขิกนี่วางแผนอะไร แผนมันช่างลึกล้ำลงทุนจริงๆ”แหม มันสร้างภาพนะสิ แสร้งทำเป็นดี ฉันว่ามันต้องมีแผนอะไรในใจสักอย่างแน่เลย และต้องเป็นแผลร้ายๆเกี่ยวกับเธอและโสภาแน่นอนด้วย”สร้อยหยุดเดินกึกและหัน กลับมามองผมด้วยสายตาไม่พอใจ”ทำไมพี่ชอบว่าคนอื่นเขาคิดชั่วๆเหมือนกับพี่ กันหมด หา... คนคิดดีตั้งใจทำดี พี่กลับไปว่าเขาคิดไม่ดีทำไม่ดี ตัวเองวันๆทำอะไรบ้างล่ะ คิดแต่เรื่องเลว ทำแต่เรื่องชั่วๆจนฉันอยากจะหนีไปบวชเป็นชีแล้ว” ผมต้องรีบร้องห้ามไม่ให้สร้อยคิดอย่างนั้น”โอ้ย...อย่านะสร้อย อย่าทิ้งฉันไปบวชเป็นชีนะ ฉันเสียดายของ”สร้อยส่ายหัวเดินหนีไปบ่นไป “ถ้าไม่กลัวมันไปรบกวนให้พระให้เจ้าที่วัดเดือดร้อนละก้อ อยากจะหนีมันไปบวชชีจริงๆ....” แหมอยากด่าอะไรก็ด่าไปเหอะสร้อย สำหรับเธอแล้วจะทำอะไรผมจะชิงชังผมยังไงผมก็โกทธเธอไม่ลง ก็ใจมันรักนี่....


....เย็นวันนั้นโสภาดูร่าเริงมาก เหตุเพราะว่าไอ้ปลัดขิกชวนไปฉลองเนื่องในโอกาศที่มันได้รับโล่ประกาศ เกียรติคุณด้านช่วยเหลือสังคม แหมตอนผัวได้รางวัลผู้ใหญ่บ้านตัวอย่างไม่เห็นดีใจขนาดนี้ “จะไปอย่างไงล่ะ และไปฉลองกันที่ไหน”ผมถามเมียรักอย่างเซ็งๆ”ไปที่ร้าน ครัวไทย ถ้าพี่ไม่อยากไป โสจะให้ ปลัดธนูมารับไปก็ได้น่ะ”เรื่องอะไรจะปล่อยเมียผมไปกับมันลำพัง ทำอย่างนั้นโง่ชัดๆ”แล้วมีใครไปบ้างล่ะ” ผมถามเพื่อดูสถานการณ์“ก็มีแต่คนที่รู้จักกันไม่กี่คน มีโส แม่ และลุงกำนัน บางทีพี่ลี่อาจไปด้วยก็ได้”เมียสาวคนสวยร่างเล็กสาธยายให้ผมฟัง แต่ยังไงผมก็ต้องไป งานนี่ปล่อย 2 แม่ลูกไปโดยไม่มีผมไปคุม รับรองกลับมาเหลือไม่เท่าเดิมแน่....


....สองแม่ลูกแต่งตัวออกแนวเอ็กซ์กันสุดฤทธ์ สร้อยใส่เสื้อแขนกุด คอกว้าง เต้าอวบล้นออกมาเกือบๆ 1 ใน 3 ส่วน แถมเสื้อยังฉลุลายโชว์เนื้อนวลขาวๆทั้งด้านล่างด้านข้างและด้านหลังชนิด เซอร์ราวด์เลย กางเกงยีนส์เอวต่ำรัดติ้ว เห็นแล้วน่าอึดอัดแทน สร้อยแต่งหน้าดูสวยเนียน จนดูราวอายุลดลงน่าจะอยู่แถวๆ 20 ปลายๆ ผมยาวสลวยถูกปล่อยสยาย จัดทรงอย่างเหมาะสม ส่วนโสภาอยู่ในชุดกระโปรงสั้นเกาะอกดูน่ารัก และพยายามจะดันโชว์เนินอกบ้าง แม้นจะได้จากแม่มาน้อย”แม่นี่ ท่าจะไม่รักโสเลยน่ะ”สาวร่างเล็กตัดพ้อคุณแม่ยังสาวขณะพยายามดันหน้าอกให้ยก ขึ้น”ทำไมแม่จะไม่รักเล่ายัยโส อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน เลี้ยงมาตั้ง 17-18 ปี จนตอนนี้ก็มีผัวแล้ว และอีกไม่นานก็จะมีหลานมาให้แม่เลี้ยงแล้ว จะมาหาว่าแม่ไม่รักได้อย่างไง”สาวน้อยมองหน้าอกของแม่และของตัวเอง”ก็ดูสิ ให้โสมาแค่นี้เอง ส่วนแม่เก็บไว้ซะเยอะเลย อย่างนี้โสจะเอาอะไรไปสู้กับยัยสาวหมวยลูกลุงเม้งได้”โสภาบ่นอย่างกังวล สร้อยลูบหัวลูกสาวอย่างเอ็นดู”น่าใจเย็นๆน่าโสรออีกหน่อย โสยังเด็กอยู่ถ้าโตขึ้นมันก็จะใหญ่ขึ้นตามตัว ยิ่งตอนนี้ไม่น่ากังวลเลย โสก็มีผัวแล้ว ให้ผัวจับผัวบีบบ่อยๆเดี๋ยวมันก็ใหญ่ขึ้นมาเอง ตอนแม่อายุเท่าโสแม่ยังมีน้อยกว่าโสเลย”พอดีผมผ่านมาได้ยินสร้อยพยายามพูด ปลอบใจลูกสาวคนเก่ง เรื่องหน้าอกที่เธอกังวลว่าเล็กไป ผมจึงช่วยพูดปลอบใจให้โสภาด้วย”ใช่แล้ว..พี่ยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริง ตอนสร้อยอายุ 18 น่ะเล็กกว่าของโสอีก...” โสภาฟังผมจบแล้วจึงยิ้มได้ แต่สร้อยเดินมายืนใกล้ๆผมแล้วยกส้นของเธอกระทืบลงที่เท้าของผมอย่างแรง ผมเจ็บจนร้องลั่น โกทธฉันเรื่องอะไรถึงทำกับฉันอย่างนี้เล่าสร้อย......


....แล้วเราก็ออกเดินทางไปยังร้านครัวไทยสถานที่ฉลองของไอ้ปลัดขิก เมื่อโฟร์-วีลย์คันเก่งผมมาจอดที่หน้าร้านครัวไทย ก็พบว่าปลัด กำนันเม้งและเหมยลี่มารอแล้ว ร้านครัวไทยเป็นร้านขายอาหารตามสั่งอย่างหรูหราขนาดใหญ่ เจ้าของคือ เสี่ย ศรชัย เกียรติกำจาย นักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งมีกิจการหลายอย่างทั้งค้าที่ดิน เป็นตัวแทนสินค้าต่างๆของภูมิภาคนี้ ซ้ำยังกว้าขวางในแวดวงการเมืองระดับประเทศอีกด้วย พวกเราเดินไปที่โต๊ะซึ่งไอ้ปลัดสั่งอาหารและเครื่องดื่มรอไว้แล้ว พอผมและสองสาวนั่งลง ไอ้กำนันเม้งก็เริ่มเปิดฉากการกวนเท้าทันที่”มัวแต่ขับหลงอยู่รึไงถึงได้มา ช้าจัง”ผมไม่สนใจนั่งเฉย มันจึงรุกต่อ”ก็อย่างว่าคนมันไม่ค่อยออกสังคม เพราะไม่ค่อยมีใครคบเลยหูตาไม่กว้าง นานๆไปไหนทีก็ไปไม่ค่อยจะถูก”ผมมองมันอย่างหยามๆ แล้วตอกกลับมันไป”ที่อโคจรน่ะ กูไม่ค่อยรู้จักเพราะกูไม่ค่อยได้ไป แต่ไอ้พวกที่รู้ดีน่ะแสดงว่ามันชอบคบคนเที่ยวสำส่อนบ่อยๆนะสิ”แต่ก่อนเราจะ ต่อปากต่อคำกันไปมากกว่านั้น ปลัดขิกก็ห้ามผมกับมันไว้เสียก่อน”เอ่อ...ผมว่าเราอย่าเพิ่งคุยกันเลย เราทานอาหารกันก่อนเถอะ ผมสั่งมานานแล้วเดี๋ยวเราค่อยคุยกันนะครับ”แล้วไอ้ปลัดก็ยิ้ม มันยิ้มอีกแล้ว ไอ้บ้ายิ้ม ยิ้มได้ตลอด ยิ้มได้ทั้งวัน....


....หลังจากจักการกับอาหารกันจนอิ่มหน่ำสำราญกันแล้ว ปลัดหนุ่มเจ้าภาพของอาหารมื้อนี้ก็สั่งเครื่องดื่ม”ไม่ทราบว่าผู้ใหญ่ ชอบดื่มอะไรครับ”ปลัดจอมยิ้มถามผม แต่ไอ้กำนันเม้งกลับแทรกขึ้นมาว่า”เหล้าขาวไง หน้าอย่างงี้ความรู้แค่นี้ มันจะกินเหล้าหรูราคาแพงเป็นที่ไหน แต่เสียดายที่ร้านนี้ไม่มีขาย เขาขายแต่เหล้ายี่ห้อ”ผมมองหน้ามันเคืองๆ”ท่ามึงจะกินบ่อยถึงรู้ กูไม่ค่อยกินเหล้าเมายานะซิ ถึงไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเหล้า เอาล่ะปลัด สั่งรีเจนซี่มาล่ะกัน รู้จักไหม รีเจนซี่น่ะ ไม่ใช่ เหล้าขาวยี่ห้อตราไก่ที่บ้านมึงต้มขายหลอกชาวบ้านน่ะ”ผมตอกกลับไอ้กำนันไป จนมันนั่งเงียบ พอเครื่องดื่มมาวางเราก็เริ่มสนธนากัน โสภายกแก้วใส่วายบางๆชูขึ้น”ยินดีกับพี่นูด้วยนะคะ ที่ได้โล่ดีเด่น”เมียรักของผมกล่าทอย่างชื่นชมไอ้ปลัดขิก”แหมพี่นูนี่อยู่ ที่ไหนก็ได้รับการยกย่องตลอดเลย”สาวหมวยวันนี้ที่มาในชุดกระโปรงสั้นสาย เดี่ยว ผ่าตรงอกลงมาสุดเต้ามหึมาโชว์ร่องนมทั้งเต้าพูดชื่นชมเสริมต่อ “เพชรอยู่ที่ไหนก็ย่อมเป็นเพชร จะส่องแสงประกายเจิดจ้าบอกคุณค่าเสมอแหละ”สร้อยก็ไม่วายช่วยพูดยกยอไอ้ ปลัดขิกคนนี้ด้วย “คนเราน่ะทำดีต้องไม่หวังสิ่งตอบแทน หรือเพื่อให้คนยกย่อง แต่รางวัลที่ได้มาก็ถือว่าสังคมเขาเห็นคุณค่านะครับ”แหม...โคตรน้ำเน่าเลย ไอ้ปลัดขิก ผมฟังมันพูดแล้วแทบอ้วก ไอ้กำนันเม้งตบบ่าไอ้ปลัดแล้วหัวเราะร่วน”เยี่ยมมากๆ คนอย่างนี้ซิ คนดีศรีสังคม ใครได้เป็นคู่ครองมีความสุขตลอดชาติแน่ ใช่ไหมอาลี่ อั๊วอยากให้ลื้อได้ปลัดอีเป็นผัวลื้อจริงๆ..”สาวหมวยถึงสำรักน้ำพ่นออกมาขณะ ยกดื่ม เธอรีบเอาผ้าเช็ดและตอบว่า..ใช่ๆๆ..ใช่จ๊ะเตี๋ย...เอ้อ..ป้อยอยกหางกันเข้า ไป...


....”อื่ม...ว่าแต่มึงเหอะไอ้เม้ง กูเห็นมึงเป็นกำนันมาสิบปีแล้ว มึงเคยได้รางวัลอะไรมาบ้างล่ะ”ผมถามไอ้เม้งจี้จุดเจ็บของมัน กำนันสายเลือดมังกรทำท่าอึดอัด”กูทำงานเพื่อมวลชนโว้ย ไม่หวังกล่องหรือรางวัลเชิดชู กูไม่ใช่นักล่ารางวัล”ผมยิ้มเยาะมัน”แต่เป็นนักล่างาบงบหลวงใช่ไหม...”ไอ้ เม้งถลึงตามองผม”ไอ้ผู้ใหญ่ มึงนี่ชักจะปากมากไปแล้วน่ะ ความเห็นของมึงแต่ละอย่างมันน่าลากไปหมกป่าจริงๆ”ผมผุดลุกขึ้นท้า”ก็เอาดิ ใจถึงมึงก็เข้ามาเลย”ปลัดหนุ่มต้องลุกขึ้นห้าม”อย่าเลยครับเรามาสนุกกันนะ ครับอย่ามีเรื่องกันเองเลย ผมขอร้อง” โสภาลุกขึ้นดึงแขนผมให้นั่งลง”เป็นอะไร หัดใจเย็นหน่อยสิ”โสภาทำเสียงดุตาดุใส่ผม แหมไม่เกรงกลัวเอ้ย...เกรงใจเมียล่ะมีเรื่องจริงๆด้วย ส่วนไอ้เม้ง ก็ถูกเหมยลี่ดึงลงให้นั่ง”ถ้าไม่เกรงใจปลัดล่ะก้อเมิง...แหลก..”มันยังขู่ผม สร้อยนั่งมองผมกับไอ้เม้งและส่ายหน้าอย่างระอา”ทีหลังอยากไปไหนหรือกินอะไร แบบสบายใจล่ะก้อ อย่าไปชวนสองคนนี่มาพร้อมกันเด็ดขาด แต่ถ้าจะให้ดี ไม่ต้องชวนใครมาสักคนเลยจะดีกว่า...” สร้อยสรุปสั้นๆ แต่ได้ใจความชะมัด...


....ระหว่างที่โต๊ะของเรากำลังระอุด้วยสงครามศักดิ์ศรีที่เอาแต่ขู่กันฝ่อๆ และพ่นน้ำลายใส่กันอยู่นั้น ก็มีเสียงทักจากชายวัยใกล้เคียงกัน ดังขึ้น”อ้าว..ผู้ใหญ่ กำนัน มาได้อย่างไร แล้วนี่ปลัดธนูด้วยหรือครับ” ชายคนนี้คือนายศรชัย เจ้าของร้านนี้นี่เอง “แหมนับว่าเป็นเกียรติจริงๆครับ ที่ร้านของผมได้มีโอกาศต้อนรับ กำนันเม้ง ผู้ใหญ่ และคุณปลัดธนูทายายของท่านสุทัศน์ ร้านของผมยินดีต้อนรับนะครับ ขาดเหลืออะไรสั่งได้เลยครับ” เสี่ยศรชัยเดินเข้ามาจับไม้จับมือกับทุกคน แต่พอถึงผมต้องชะงักเพราะผมไม่ยื่นมือไปจับด้วย “ผมไม่จับมือใคร ซ้ำรอยมือไอ้เม้ง” เหตุผลของผมทำเอาทุกคนตะลึงนิ่งเงียบไปพักใหญ่ จนเสี่ยศรชัยเอ่ยทำลายความเงียบ”แหม...มุขผู้ใหญ่นี่ฮากระจายเลย อ้าผมขอตัวก่อนนะครับ หากจะเรียกผมมาให้รับใช้อะไรก็เรียกได้ทันทีเลย” แล้วเสี่ยศรชัยก็เดินหายเข้าหลังร้านไป การสนทนาของโต๊ะเราเริ่มขึ้น และแน่นอนไม่มีใครเอ่ยถึงผม ดังนั้นผมจึงปรีกตัวออกมาโดยอ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ใจจริงจะไปเดินเล่นรอบๆร้านหาอาหารตาดูแก้เซ็ง ดีกว่านั่งทนเห็นหน้าไอ้ปลัดและเถียงกับไอ้เม้ง นั่นไงอาหารตาท่าทางน่าสนใจเสียด้วย....
...สาวร่างสูงยาวนั่งไขว่ห้างเอนกายพิงพนักเก้าอี้ สองแขนยาวเรียววางอยู่บนที่ท้าวแขนสองข้าง บนศรีษะสวมหมวกปีกแบบเคาบอย ปีกหมวกปิดหน้าเห็นแค่จมูก ผมยาวสลวยปะบ่า เธอสวมรองเท้าบู้ทหนังยาวเกือบถึงเข่า กางเกงยีนส์เอวต่ำรัดเปี้ยะ สวมเสื้อเชิ้ตสีแดงตาหมากรุงตัวพอดีหุ่นพับแขนเสื้อถึงข้อศอก แบะกระดุมเสื้อลงมาเลยร่องอก โชว์ขอบบราสีดำที่รองรับสองเต้ากลมกรึง สาวผู้นี้มีผิวสีแทนไม่ขาว แต่ช่างน่าเร้าใจยิ่งนัก ผมยืนมองเธอราวต้องมนต์สะกด อยากจะเห็นหน้าชัดๆจัง บุคลิคลึกลับน่าค้นหาจริงๆ....


....ผมเดินไปยืนตรงขอบโต๊ะของเธอ และสาวในมาดเคาบอยหลงถิ่นก็ทำท่าขยับรู้ตัวว่ามีผู้มาสนใจ เธอมองลอดเงามืดของหมวกที่ทาบทับปิดบังใบหน้าส่วนบนไว้”สวัสดีครับมาคนเดียว หรือครับ...”ผมถามแต่เธอยังนิ่ง “เอ่อ...ไม่ทราบว่าผมจะนั่งร่วมโต๊ะของคุณได้ไหมครับ” เธอยังนิ่งและเงียบ ผมเลยเดินเข้าไปใกล้ๆเพราะชักไม่แน่ใจว่าเธอเมาแล้วหลับหรือเปล่า “คุณครับ..เอ่อ...คุณครับ” ผมลองพยายามหาทางคุยกับเธอ เมื่อเรียกดีๆไม่สนลองแบบนี้ดูบ้าง“เอ่อ...พูดภาษามนุษย์ได้ไหมครับ ฟังภาษาคนออกไหมครับ”แต่เธอก็ยังนิ่งและดูท่าทางเธอเหมือนจะขำเพราะมีอาการ ตัวสั่นและปากเรียวงามเผยอเห็นไรฟันขาว...แต่เธอก็นิ่งเหมือนเดิม ไม่โต้ตอบอะไร ผมดูท่าเธอคงไม่อยากคุยกับคนแปลกหน้า และคงเสียเวลาเปล่าที่จะอยู่ตอแย จึงเดินไปเข้าห้องน้ำเพราะรู้สึกปวดขึ้นมาแล้ว....


....ระหว่างผมยืนฉี่อยู่ ก็มีชายวัยท่าทางเป็นนักเที่ยวตัวฉกาจสามคนเดินเข้ามาพร้อมๆกัน ทั้งสามคุยกันเสียงดังท่าทางใหญ่โตพอตัว”เฮ้ย..มึงเห็นโต๊ะนั้นไหม ไอ้โต๊ะที่มีสาวๆนั่งอยู่ 3 คนน๊ะ แม่งน่าเอาทุกคนเลยว่ะ”อ้าวโต๊ะที่มันว่านั่นมันโต๊ะสาวๆที่ของเรานั่งอยู่ นี่หว่า ไอ้พวกนี้ล่วงเกินบรรดาเมียๆของกูซะแล้ว”ใช่แล้วพี่....แหมแต่ล่ะคน น่าล่อจริงๆ ยิ่งอีคนหมวยๆนั่นด้วย นมแม่งใหญ่ชิป..ข้างเดียวใหญ่จะเท่าหัวไอ้เหมเลย”แน้...ล่วงเกินทางวาจา อย่างหยาบคายมาก”ใช่ว่ะ...อีคนเสื้อขาวนั่นก็โฮ้...อวบขาวน่าจับยกล้อจริงๆ” เจ้าหนุ่มคนแรกหันมามองผมวูบหนึ่ง แต่ก็ไม่สนใจผมหันกลับไปคุยกับพวกมันต่อ”แต่กูว่า อีคนที่เด็กที่สุดนั่นน่าสนว่ะ ดูไร้เดียงสาดี เวลาตอนโดนเอานี่กูอยากรู้ว่าแม่ง มันจะร้องเสียงยังไง”แล้วมันทั้ง 3 ก็หัวเราะสนุกสนาน เดินออกไปหลังเสร็จกิจ ผมมองตามไปอย่างไม่พอใจ แม่งมาพูดล่วงเกินจาบจ้วงเมียๆของกูต่อหน้าเลย มันน่าจริงๆไอ้เด็กเมื่อวานซืน....


....ผมเดินออกจากห้องน้ำมาเจอไอ้สามคนนั้นกำลังหาเรื่องชายร่างผอมหน้าตา จืดๆ ท่าทางไม่สู้คนอยู่ ชายหน้าจืดพยายามยกมือไหว้ขอร้องให้ปล่อยมันไป ขณะไอ้สามคนทั้งตบทั้งต่อย ผมเดินเข้าไปใกล้ๆและบอกพวกมันว่า”พอแล้ว ปล่อยมันไปเหอะ อย่ารังแกคนอ่อนแอกว่าเลย” มันทั้งสามล่ะจากชายหน้าจืดที่ได้จังหวะวิ่งหนีไปชนิดไม่หันหลัง”มึงเสือก อะไรด้วยว่ะ ไอ้แก่ มึงรู้ไหมกูเป็นใคร กูนี่ แสน ราชดำเนิน นะโว้ย อยาโดนตีนตายไม่อยากแก่ตายใช่ไหม มาเลย..เดี๋ยวกูจัดให้ก็ได้..”หนึ่งในสามท่าทางมันก๋าเอาเรื่อง มันประกาศชื่อให้ผมรู้แล้วเดินปรี่เข้ามาหาผม พอมันทำท่าเงื้อหมัดจะพุ่งเข้ามาต่อยผมมันก็ชะงักร้องโอ้ย ผมจึงต่อยสวนไปที่ปากครึ่งจมูกครึ่งของมันดังพลั่ก มันหงายตึงลงไป ไอ้สองคนพวกมันรีบเข้าไปประคองถาม”เป็นไงบ้างพี่แสน เจ็บตรงไงบ้าง” ไอ้คนถูกต่อยโมโห ทั้งด่าและทั้งสั่งไอ้สองคนพวกของมันทีท่าทางเป็นลูกน้อง”เจ็บซิว่ะถามได้ เอาเลยมึงสองคนรุมแม่งเลยไอ้แก่นี่ร้าย..”ไอ้สองคนท่าจะเป็นลูกน้องลุกขึ้น กำหมัดวิ่งเข้าใส่ผมพร้อมกันแต่มันก็ต้องชะงักร้องโอ้ยแล้วเอามือกุมหัว จึงเปิดโอกาศให้ผมต่อยมันคนล่ะทีสองทีล้มกลิ้งไป “ไอ้หนุ่มคนหัวหน้ามองลูกน้องของมันเสียท่า ทำหน้าเดือดดานสุดขีด ร้องตะโกนไปทางโต๊ะยาวว่า”เฮ้ย...พวกมึงมานี่งานเข้าแล้วโว้ย มาจัดการไอ้แก่คนนี้ที ยำแม่งเลย...”เท่านั้นเองชายฉกรรจ์กว่าสิบคนรูปร่างใหญ่กำยำก็กรูเข้ามาล้อม ผม เสียงคนในร้านแตกฮือ ร้องกันกรี๊ดกราดวี๊ดว้าย วิ่งหนีกันอลหม่าน “เร็วหลบเร็วพวกเราตีกันแล้ว เร็วอย่าขวางน่ะ เดี๋ยวหมาจะกัดกัน”ท่ามกลางความวุ่นวายของแขกในร้านที่วิ่งหนีกันชุลมุน ผมตกอยู่ในวงล้อมของชายฉกรรจ์คู่อริ มองหาทางรอดแทบไม่มี ท่าทางคืนนี้ผมจะน่วมแน่...


....”หยุดน่ะ”เสียงใสๆแต่แฝงแววดุของโสภาดังขึ้น”ห้ามใครแตะต้องตัวผัวของ ฉันน่ะ”โสภาเดินฝ่ากลุ่มชายร่างใหญ่เดินแทรกเข้ามายืนขวางข้างหน้าผมอย่าง ไม่หวั่นเกรง ใจถึงมากน้องตัวเท่าลูกหมาเอง แต่ตอนนี้ กล้าอย่างเดียวคงจะไม่พอหรอกน้อง ผมเหลือบมองดูรอบตัว งานนี้ท่าจะเกินกำลังของผมเสียแล้ว ชายคนที่เป็นหัวหน้าของพวกมันเดินมายืนเผชิญหน้ากับโสภาแล้วก้มมองร่างสาว น้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้าที่ร่างสูงไม่ถึงบ่าของมัน”อีหนู ไอ้แก่นี่เรอะผัวเธอ”แล้วมันกับพรรคพวกก็หัวเราะกันลั่น “แหมๆๆๆมีเมียเด็กซะด้วย ไอ้แก่ หลบไปอีหนู”โสภายังเชิดหน้าท้าทายไม่ล่ะสายตา ไอ้ตัวหัวหน้ายิ้มเหี้ยมๆ” เห็นแก่หน้าหนูคืนนี้พวกพี่ๆจะไม่ทำมันถึงตายหรอก แต่ถ้าไม่อยากให้พี่ทำอะไรมันล่ะก้อ หนูน่าจะทำอะไรให้พี่พอใจนิดๆหน่อยๆ พี่ก้อจะปล่อยหนูและไอ้ผัวแก่นี้กลับบ้านอย่างปลอดภัย”มันพูดแล้วชำเลือง ชำแระสายตาดูรูปร่างของโสภาราวกับเครื่องเอ็กซเรย์ ผมฮึดฮัดชี้หน้ามันเพราะมันกล้าลบหลู่เมียที่เคารพของผม โสภายกมือห้ามเอาไว้ ผมเลยต้องหยุด พอมันเห็นทีท่าผมมันก็ทำยั๊วะ และเปลี่ยนข้อเสนอใหม่“กระทืบแม่งเลยดีกว่า แล้วลากอีเด็กนี่ไปลงแขกก็แล้วกัน ง่ายดี ถอยไปอีหนู กูจะกระทืบผัวแก่ของมึงก่อน แล้วจะพามึงไปขึ้นสวรรค์กับพวกกู”ไอ้หนุ่มนั่นเอื้อมมือมาหมายจะจับไหล่ของ โสภาเพื่อพลักให้เธอหลบไป


... แต่ภาพต่อมาที่เห็นผมดูแทบไม่ทัน โสภาจับข้อมือของมันบิดและเอี้ยวตัวเตะตัดขาจนมันล้มทั้งยืน และสาวน้อยร่างเล็กก็พลิกร่างของมันกดลงพื้นบังคับให้นอนคว่ำหน้า ขณะแขนอีกข้างถูกมือเล็กๆจับบิดไว้ เท้าที่สวมส้นสูงของเธอกดเหยียบอยู่ตรงท้ายทอยของมัน และมืออีกข้างก็ถลกกระโปงสั้นขึ้นไปตรงโคนขาอ่อนเกือบถึงขอบกางเกงใน ที่รัดด้วยสายคาดสีดำแล้วชักปืนพกขนาดฝ่ามือที่เหน็บซองเล็กๆออกมาจ่อที่ กลางกระบาลของมัน”อย่าขยับน่ะ ไม่งั้นไอ้นี่มีกระสุนฝังในกระโหลกแน่”สาวโสภาตอนนี้เสียงกร้าวดุดัน หมดสิ้นซึ่งท่าทีไร้เดียงสาและน่ารักทั้งปวง”ไม่แรงไปหน่อยหรอเมียจ๋า..”ผม เดินเข้าไปใกล้ๆกระซิบถาม สาวโสภาหันมาบอกผม”พอมันหลบแล้วพี่รีบวิ่งไปเลยน่ะ ไม่ต้องห่วงโส”อ้าวเมียกูทำไมพูดอย่างงั้น ถ้าผมหนีก็หมาดีๆนี่เอง”พี่ไม่ไปถ้าจะไปเราต้องไปด้วยกัน”ผมมองหน้าเมียสาว ทำตาซึ้งๆ แต่ไอ้ปลัดขิกก็เดินทะเล่อทะล่าเข้ามาพร้อมสร้อยและเหมยลี่ “มีอะไรกันเล่าครับ ผู้ใหญ่ น้องโส”ปลัดขิกแหวกวงล้อมเดินเข้ามา พอพวกมันรู้ว่าทั้งสามเป็นพวกผมก็จับตัวไว้และเอาปืนออกมาจี้จับตัวไว้ บ้าง”ปล่อยตัวพี่แสนน่ะ ไม่งั้นไอ้-อีสามคนนี่ตาย”พวกมันต่อรอง และสถานการณ์เริ่มเขม็งเกียวขึ้นเรื่อยๆ จนมีเสียงตวาดออกมาว่า”เฮ้ย...นี่มันอะไรกัน หยุดน่ะ” เป็นเสี่ย ศรชัยเจ้าของร้านนั่นเอง เสี่ยศรชัยเดินเข้ามาท่ามกลางสายตาของทุกคนที่จับจ้อง....


....”นี่ทำอะไรกัน...อ้าวไอ้แสน มึงหาเรื่องอีกแล้วเรอะไอ้ลูกระยำ..”เสี่ยศรชัยด่าชายที่ถูกโสภากดตัวนอน คว่ำเอาส้นเท้าเหยียบหัวจับแขนบิดแล้วจ่อหัวไว้ด้วยปืนอยู่”มึงนี่มันจะหา เรื่องให้กูเดือดร้อนไปถึงไหน นี่มันร้านของกูน่ะ ไอ้...ๆๆๆๆ....”เสี่ยศรชัยชี้นิ้วใส่แต่ท่าคงจะไม่รู้ว่าจะสรรค์หาคำใดมาด่า และเมื่อมองเห็นผม ปลัด โสภา สร้อยและเหมยลี่ เสี่ยศรชัยถึงกับหน้าถอดสี “ไอ้แสน มึงมีเรื่องกับใครรู้ไหมเนี๋ย...ปล่อยๆๆๆๆปล่อยทุกคนเดี๋ยวนี้ “พวกลูกน้องมันจึงปล่อยตัวปลัด สร้อย และเหมยลี่ แต่โสภายังกดตัวไอ้ลูกชายของเสี่ยศรชัยที่ชื่อแสนเอาไว้กับพื้น”ปล่อยมัน เถอะหนู ผมรับรองว่าทุกคนจะปลอดภัย ผมต้องขอโทษแทนพวกมันด้วย”โสภายังลังเล หันมามองผมและผมก็พยักหน้าให้ เธอจึงล่ะมือปล่อยตัวไอ้แสนไป และขยับมายืนข้างผม ไอ้แสนเดินไปหาเสี่ยศรชัย มันอ้าปาก..เรียกป๋าก็ถูกตบผั๊วะ...”เงียบไปเลย มึงรู้ไหมว่าพวกมึงมีเรื่องกับใคร หาความเดือดร้อนใส่ตัวแท้ๆ นั่นนะ ผู้ใหญ่ บ้านนางรอง นะโว้ย...และอีกคน ปลัดธนู ลูกชาย ท่านสุทัศน์ เทพสุวรรณพวกมึงรู้จักไหม ท่านเทพทัศน์ น่ะ”เสียงทุกคนครางฮือ...โฮ้……


...คนดังทั้งคู่เลย...แต่ผู้ใหญ่นี่แก่กว่าที่คิดเยอะเลย...นั่นดิแต่ปลัด นั่นก้อยังหนุ่มและหล่อกว่าที่คาดอีก....โฮ้ขนาดเมียยังเก่งขนาดนี้ แล้วผู้ใหญ่จะเก่งขนาดไหน....ดีน๊ะเรื่องยุติก่อน ไม่งั้น ผู้ใหญ่คงถล่มที่นี่แหลกแน่...ใช่ แกเก่งจะตาย เขาลือกันมาเป็นสิบๆปีว่าแกเก่งจริงๆ...แล้วแกเก่งเรื่องอะไรล่ะ...ไม่รู้ ว่ะ แต่เขาลือแต่ว่าแกเก่ง.....แล้วนั่นลูกชายท่านเทพทัศน์หรอ......โห่ย หล่อจังเลย.......


....เสียงซุบซิบดังขึ้นไม่ขาด เสี่ยศรชัยยกมือไหว้ขอโทษพวกเราอย่างไม่ถือตัวว่าตัวเป็นใคร และโด่งดังยิ่งใหญ่แค่ไหน”ผมต้องขอโทษทุกคนแทนลูกชายของผมด้วย ไอ้แสนมันยังเด็ก มันคึกคะนองผมพยายามสอนสั่งมันก็ไม่ฟัง พวกมึงด้วย”เสี่ยศรชัยหันไปทางพวกลูกน้อง”ชอบยุยงมันให้เหลิงหาเรื่องหาราว ไปทั่ว เดือดร้อนมากี่หนแล้วก็ไม่จำ”ผมเองหลังหายจากอาการตื่นเต้นแล้วก็ยิ้มบอก เสี่ยศรชัย”ไม่เป็นไรครับผมไม่ถือ เรื่องแค่นี้ลูกผู้ชายไม่ถือ เราขอกันกินมากกว่านี้ เอาล่ะพวกเราขอตัวกลับล่ะกันครับเสี่ย”พวกเราก็ยกมือไหว้ลาเสี่ยศรชัย ที่พินอบพิเทาตามมาส่ง ขณะไอ้แสนจ้องมองผมและโสภาตาไม่กระพริบ แววตาของมันอาฆาติแค้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่ผมเอะใจคือลูกเหล็กเล็กกลมๆขนาดลูกปืนรถมอร์เตอร์ไซร์ที่ตกอยู่บนพื้น ตอนพวกมันสะดุ้งชะงักตอนที่จะวิ่งเข้ามาต่อยผมคงมีใครยิงลูกเหล็กนี่ใส่มัน แล้วเป็นฝีมือของใคร มีเหตุผลอะไรที่ต้องมาลอบช่วยผม เมื่อกวาดตาหาทั่วร้าก็ไม่เห็นมีวี่แววว่าจะรูได้ว่าเป็นฝีมือของใคร และเมื่อผมคิดไม่ออกว่าใครก็เดินตามทุกคนออกมายังที่ลานจอดรถ แต่เอ...เราลืมใครไปนี่ ไอ้เม้งไงมันหายไปไหน....นั่นไงมันอยู่ที่นี่เอง...


....”ไงไอ้ห้าร้อยละลายน้ำเม้ง มึงมาทำอะไรที่นี่ไม่ทราบ พอมีเรื่องมึงหายหัวก่อนเลย ทิ้งหมดแม้นกระทั่งลูกสาว”พอเห็นว่าปลอดภัยแล้ว ไอ้เม้งก็ยืดอก เดินออกจากซอกรถมืดๆเข้ามา “กูมาดูทางหนีให้มึงนะสิ มึงนี่มีเรื่องไม่ดูกำลังตัวเองเลย พลาดพรั้งตายลูกเดียว มีอย่างที่ไหน มีคนมาแค่นี้ ทะลึ่งไปมีเรื่องกับคนเป็นสิบ”ผมส่ายหน้าระอาในข้ออ้างของมัน “คราวหน้าถ้ากูจะไปกินอาหารที่ร้านไหนต้องเอาพวกไปเยอะๆเสียแล้ว แม่งเดี๋ยวนี้อันตรายชิป..”ไอ้เม้งยังบ่น แต่ผมก็เหลือบไปเห็นสาวใส่หมวกเคาบอยที่เจอในร้านกำลังจูงรถมอร์เตอร์ไซร์ วิบากคันใหญ่ออกมาสตาทด์ ผมยืนดูจนเธอติดเครื่องนั่งคล่อมและใส่เกียร์ แต่ขณะรถของเธอจะวิ่งทะยานออกไป ผมก็เห็นง่ามไม้ยิงหนังสติ๊กเหน็บที่กระเป๋าหลังของเธอ อ้อ.....คนที่แอบยิงลูกเหล็กช่วยเราคือเคาบอยสาวลึกลับคนนี้นี่เอง ผมมองตามเธอไปจนลับตา แต่สักวันผมคงได้เจอเธออีก และต้องได้ตอบแทนบุญคุณของเธอแน่แม่สาวเคาบอย....


....เราแยกย้ายกันกลับบ้านเสียงสร้อยบ่นมาตลอดทาง”ผัวเมียคู่นี้น้า...มัน พอๆกัน ทำอะไรไม่เคยใช้หัวคิด ไอ้ผัวก็เที่ยวหาเรื่อง ฝ่ายเมียก็ตามช่วยไม่คิดชีวิตเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย โอ้ย...ฉันจะเป็นลม”ผมหัวเราะหึๆ แต่สร้อยก็แว้ดใส่”ทำเป็นล้อเล่นไปได้อันตรายแท้ๆ นั่งกินข้าวอยู่ดีๆเผลอแผล่ดไปหาเรื่องเด็กๆมัน ทำไมพี่ชอบสร้างเรื่องเดือดร้อนจังเลย ฉันไม่เข้าใจจริงๆ”ผมก็อยากจะบอกเธอตามที่พวกมันพูด แต่เกรงเธอจะไม่ฟังและฟังดูหยาบคายเกินกว่าจะให้พวกเธอได้รับรู้ ดังนั้นจึงทนๆนั่งฟังสร้อยบ่นไปจนถึงบ้าน และต่างแยกย้ายกันเข้าห้องนอน....


....จากเหตุการณ์ในวันนี้ ทำให้ผมต้องทบทวนในตัวของเมียรักร่างเล็กคนนี้ เธอมีมากกว่าที่เห็น ชายฉกรรจ์นับสิบไม่อาจทำให้เธอหวั่นเกรง และมีหลายเรื่องที่เธอทำได้เหนือความคาดหมาย โสภานั่งถอดเครื่องประดับอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ผ่านเหตุการณ์ระทึกมาด้วยกัน เธออยู่เคียงข้างผมอย่างกล้าหาญ ต้องให้รางวัลสักหน่อย โสภาถอดต่างหู สร้อยคอและเครื่องประดับต่างๆ และเมื่อเห็นผมเดินไปข้างหลังจากกระจกเงา เธอยิ้มให้หวานจับใจ ผมเดินมายืนอยู่ข้างหลังเธอจับที่ไหล่และก้มลงหอมไปที่ซอกคอของเธอ แล้วผมก็อุ้มร่างของเมียสาวตัวน้อยมาวางที่เตียง”ไม่อาบน้ำกันก่อนหรอ”สาว ร่างเล็กถามเสียงออดอ้อน”ไม่ต้องหรอก กลิ่นนี้แหละได้ใจดี”….


....ผมซุกที่ซอกคอขาวนวล”วันนี้ไอ้พวกนั้นมันด่าว่าโสมีผัวแก่ ไม่อายมันหรอ” ผมถามเมียสาวคราวลูก เธอมองมาที่ผม ตากลมโตเป็นประกายฉายแววใสซื่อ”ไม่หรอก โสชอบพี่ ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน พี่ยังจำได้ไหม วันนั้น ที่งานเลี้ยงบ้านอาชม”ผมรำลึกเหตุการณ์ ใช่บ้านของเจ้า ชม ผมจำได้ ที่ศาลาท่าน้ำ ผมได้คุยกับเธอครั้งแรก และคิดไม่ถึงเลยว่าอีกไม่ถึงเดือนผมก็ถูกเธอจับทำผัว ให้สงสัยเธอเก่งรอบตัวขนาดนี้ก็สามารถขัดขืนผมได้ไม่ยาก แต่ทำไมวันนั้นเธอจึงยอมผมง่ายๆ แต่ก็ถูกเธอถ่ายคลิบและต้องเป็นผัวเธอมาจนถึงวันนี้ “วันนี้ โส เก่งและ กล้าหาญ มาก ช่วยชีวิตพี่ไว้แท้ๆเลย” โสภาเอื้อมมือมาโอบกอดคอผมแล้วถามว่า”มีแค่คำชมอย่างเดียวหรอ”ผมกระซิบที่ ข้างหูของเธอ”มีอย่างอื่นให้ด้วย จะเอาไหม”สาวร่างเล็กพยักหน้า และบดจูบปากกับผม ผมใช้มือลูบไล้ไปทั่วร่างและเมื่อมาถึงซอกขาก็สะดุดกับสายหนังที่เหน็บปืน อันเล็ก”คิดว่าโสเป็นสายลับแล้วถูกพี่จับได้ พี่จะทำอะไรกับสายลับสาวๆสวยๆอย่างโสล่ะ” แหมขี้เล่นเข้าใจช่วยบิ้วอารมณ์จัง” ถ้าสายลับถูกจับได้...พี่ก็จะ ทั้ง สอบ และ ทั้ง สวนเลยน่ะสิ............”


/...โสภาในยามนี้ดูน่ารักสำหรับผมเสียเหลือเกิน แววตาแห่งความปรารถนาฉายแววอย่างเด่นชัด ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ผมก้มลงจูบริมฝีปากน้อยได้รูป โสภาเผยอรับอย่างเต็มใจ เราแลกจูบกันอย่างเร่าร้อน ลิ้นเกี่ยวกระหวัดดูดดื่มตามอารมณ์ปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในใจของเรา เราจูบกันอย่างดูดดื่ม เนิ่นนาน เรียวลิ้นพันเกี่ยวคลอเคลียอย่างแสนรัก มือผมเคล้าคลึงอยู่ที่เต้าเต่งขนาดพอมือของโสภา เต้ากระเปาะของโสภาแม้ไม่ใหญ่โตเท่าเหมยลี่ แต่หยุ่นมือน่าหลงใหล โสภาเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของผมออกทีละเม็ด ทีละเม็ดจนหมด ผมรูดมันออกจากตัว โชว์แผงอกกว้างเปล่าเปลือย อวดความบึกบึน แข็งแรง แม้นมันจะเหี่ยวย่นไปบ้างตามวัยที่ล่วงเลย


....ผมดึงชุดเกาะอกของโสภาขึ้น โสภายกแขนให้ผมรูดมันออกทางศีรษะอย่างง่ายดาย เต้าอวบซ่อนอยู่ในยกทรงไร้สายสีขาว ผมอ้อมไปปลดตะขอด้านหลังและดึงยกทรงตัวน้อยออกจากตัวเธอ เต้ากระเปาะของเธอไม่มีอะไรปกปิดอีกแล้ว ผมจ้องมองอย่างหลงใหล แม่นางฟ้าของผม.....ผมก้มลงลิ้มเลียยอดปทุมถันสีชมพู ผมดูดดุนอ้าอม ไล้เลีย ให้สมรัก โสภาร้องครวญคราง… อย่างเสียวสยิวในอารมณ์ แอ่นอกให้ผมดูดเลียอย่างเต็มใจ มือเธอเกาะกุมอยู่ที่ศีรษะผม ผมไล้เลียจากเต้าซ้าย ย้ายไปยังเต้าขวา สลับกับการนวดคลึงด้วยสองมือของผม บางครั้งก็รัวลิ้นที่เม็ดเสียวปลายถันของโสภา เมื่อเธอเจออย่างนี้เข้าท่าจะเสียวมาก ร้อง "พะ..พี่..อืม..ดี อูยย เสียว" น้ำลายผมเปื้อนเปรอะอยู่ที่สองเต้าของโสภา มือที่ว่างของผมก็วนอยู่ที่หัวนมอีกเต้า อารมณ์ของโสภากระเจิดกระเจิง ฉุดไม่อยู่แล้ว เธอครางดังขึ้น ดังขึ้น "อูยย โส เสียวเหลือเกินค่ะ..โอ้ว อูยยย"


....เมื่อผมดันร่างเล็กๆเพียงเบาๆ โสภาก็ล้มลงนอนแผ่หราอยู่บนเตียง ผมตามประกบจูบอย่างไม่ยอมให้คลาดกันแม้แต่วินาทีเดียว มือผมเริ่มรูดกางเกงในลายสวยสีขาวออก โสภาก็ขยับก้นให้มันหลุดพ้นแก้มก้นของเธอ ด้วยความช่วยเหลือของโสภาในที่สุดมันก็ถอดออกและถูกผมโยนลงไปกองอยู่ที่พื้น อย่างไม่ใยดี ร่างขาวผ่องของโสภาเหยียดเกร็งด้วยความเสียวกระสันในขณะที่ผมลูบเล่นที่หน้า ท้องแบนราบของเธออย่างเบามือ โสภาแขม่วท้องหลบเลี่ยงปลายนิ้วของผม ทันทีที่มือผมสัมผัสเข้ากับเต่านาตัวนั้น มันอวบใหญ่ไม่น้อย มีใยไหมสากมือขึ้นหนาแน่นพอควร นิ้วซุกซนของผมลูบไล้ไปมาบริเวณเม็ดสวาทของเธอ โสภาสะดุ้งขนลุกซู่เมื่อผมวนนิ้วอยู่กับติ่งเสียวที่ลุกชูชันของเธอ โสภาครางอูยยย…เสียงลากยาวอย่างสะใจ อกแอ่นอย่างสุดเสียว ปลายนิ้วผมกลายเป็นอาวุธสำคัญในการโจมตีกลีบสวาทของโสภาในตอนนี้


....นิ้วผมแตะเข้ากับยอดติ่งเสียวกลางแอ่งน้ำรักของเธอ โสภาขับเมือกสวาทออกมาอย่างมากมาย ท่าทางเธอจะสุดทนกับรสสัมผัสจากเรียวนิ้วที่บดขยี้อยู่กับเม็ดเสียวของเธอ มือผมคลึงไปมาบริเวณโคกสวาท รับรู้ถึงความเปียกชื้นจากน้ำเมือกของเธอที่ไหลเยิ้มออกมา "อืม อูว์ อาว" ... ผมลูบ บดขยี้ บางครั้งก็แหย่แยงลึกเข้าไปในกลีบเนื้ออวบอูมของเธอ เกาะเกี่ยวกระตุก เธอร้อง "โอ๊ย พะ พี่ ดีเหลือเกิน อูยย ซี๊ดดด อาววววว" ผมทำไปกระซิบถามเธอไป"โส ชอบมั๊ย"เสียงของเธอตอบกระเส่า "อูยย ชอบที่สุดเลยพี่จ๋า..... อูยยย"


... โสภาตอนนี้เปล่าเปลือยขาวโพลนอย่างท่ามกลางแสงไฟดาวน์ไลท์และสายตาหื่นๆของ ผม ผมเองก็เสียวจนปวดท่อนเอ็นเหมือนกัน ผมลุกขึ้นยืนข้างเตียงปลดตะขอ รูดกางเกงนอก กางเกงในออกจากตัวทันที รวดเดียวร่างของผมก็ล้อนจ้อน... หัวเงี่ยงบานร่าราวกับดอกเห็ดออกเต้นตุ๊บๆด้วยความเงี่ยนง่านโชว์ส่วนสัด เต็มๆ โสภาจ้องมองท่อนเอ็นของผมแทบไม่กระพริบตา ด้วยสีหน้าระทึกใจ ตื่นเต้นเมื่อได้รู้ว่าจะได้เจออะไรในไม่กี่อึกใจ


....ผมล้มลงนอนเคียงข้างโสภาอีกครั้ง ผมจูบโสภาอย่างดูดดื่ม เมื่อละจากปากสู่หัวนมสีชมพูของเธอ ก็บรรจงใช้ริมฝีปากเม้มตรงบริเวณส่วนยอดของมัน โสภาทำท่าขนลุกซู่ทั้งตัวบิดกายไปมาอย่างส่งเสียงเสียวซ่านรัญจวนใจ ยามที่ผมอ้าปากอมหัวนมเม็ดน้อยใช้ลิ้นดูดดุนเบาๆ เธอแอ่นอกยกลอยขึ้นให้ผมดูดอย่างลืมตัว " อูย.... พี่จ๋า... โส ...เสียวจัง... ซี๊ดดด.... ใจจะขาดแล้ว..... ซี๊ดดด"


....โสภาร้องครางเสียงสั่นสะท้านเมื่อผมขบหัวนมสีชมพูของเธอแล้วดูดดุนอย่าง แรง มือผมก็เคล้นคลึงเต้านมขาวอีกข้างอย่างเมามัน โสภาเสียวจนแขม่วเกร็งหน้าท้องเป็นระลอก เรียวขาอวบแข็งแรงของเธอเหยียดเกร็งตวัดก่ายกันไปมา ตาหลับพริ้มห่อปากครางอย่างเสียวกระสัน ผมลากลิ้นต่ำลงไปที่หน้าท้องขาวนวลเนียนหอมกรุ่นซุกไซ้ไปมาอย่างย่ามใจ เนินโคกของโสภาอวบใหญ่ไม่แพ้ของเหมยลี่ มีขนละเอียดนุ่มมือปกคลุมอยู่ กลีบแคมยังปิดสนิทชิดแต่เอ่อเยิ้มไปด้วยเมือกสวาทปริ่ม เม็ดเสียวสีชมพูระเรื่อ ผมซบหน้าลงไปยังเนินโคกของเธอดูดเลียอย่างชอบใจ


.... โสภาสะดุ้งเกร็งทั้งร่างเมื่อผมอ้าอมเม็ดเสียวของเธอแล้วดูดเลีย เธอแอ่นอกยกสะโพกกระดกสู้ลิ้นของผมอย่างเงี่ยนง่าน เธอส่ายตูดร่อนกลีบรักอัดเข้ากับหน้าของผมอย่างลืมตัว น้ำเงี่ยนเปรอะเป็นคราบตามริมฝีปากของผม "อูย... พี่จ๋า... ซี๊ด..... มันเสียวจนทนไม่ไหวแล้ว... อูย..... พะ..พี่...ช่วยโส...ด้วยนะ..เบา....ม่าย...ไหวแล้ว... ซี๊ดดด" ผมฝังหน้าลงกับกลีบเนื้อ เลียกลีบแคม ติ่งเสียว อย่างรุนแรง อยากส่งโสภาไปสู่สรวงสรรค์ชั้นเจ็ด โสภาครางสะอื้นฮักๆ กับความเสียวที่เธอได้รับ ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหว "โอ๊ย..อูว.. เสียวเหลือเกิน โสไม่ไหวแล้ว โอ๊ย…โสขอ..ออก...กะ...ก่อนแล้ว…อูยย"


...ร่างน้อยๆของโสภากระตุกเกร็ง แอ่นอก เเอ่นเอว กดหัวผมบดหอยเธอแน่นสะอื้น หอบ เนื้อตัว กระปรก กระเปรี้ย อ่อนแรง ผมก้าวขึ้นนอนเคียงข้างเธอ แล้วก้มลงประกบปากจูบ ปากเราบดกันอย่างดูดดื่ม โสภายิ้มให้ผมอย่างอ่อนหวาน เธอสุขสมอารมณ์หมายแล้ว "พี่ใช้ปากเก่งจัง โสมีความสุขที่สุดเลยรู้ไหม”


แล้วพี่ไม่ทำอะไรต่ออีกรึ”


อยากให้ทำอะไรอีกล่ะ บอกมาสิจะให้ทำอะไร”


อื่ม..ไม่รู้จริงๆอ่ะนะ งั้นโสจะนอนแล้วนะ”


....ผมนอนชันแขน คุยกับโสภา มือก็ลูบไล้ไปตามเรียวแขนกลมกลึงของโสภา บางครั้งก็ละเลงเล่นแถวๆ นมสองเต้าของเธอ จูบกันเบาๆ แน่นอนว่าผมยังอยากปลุกโสภาให้มีอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง ผมโลมไล้กอดจูบลูบร่างกายของเธอ สักพักโสภาก็เริ่มมีอาการหอบหายใจแรงขึ้น เธอเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาใหม่สำหรับเกมสอง มือที่ลูบเล่นในตอนแรกก็เริ่มบีบเคล้นหนักขึ้น ผมบี้หัวนมสีชมพูเรื่อของเธออย่างมันเขี้ยว


.... โสภาหลับตาพริ้มครวญครางแผ่วอยู่ในลำคอ ผมจับมือของโสภามาเกาะกุมท่อนเนื้อที่แข็งโด่ของผม โสภารูดมือเบาๆกับท่อนเนื้ออย่างทนุถนอม ผมละมือจากสองเต้าเต่งมาลูบล้วงที่เนินนูนของโสภาอีกครั้ง โสภาเผลอครางฮื้อ... ตามอารมณ์ปรารถนาที่คุโชนขึ้นมาใหม่ ตอนนี้มันฉ่ำแฉะอย่างมากผสมกับที่ออกมาเมื่อครู่ ถึงเวลาบทรักที่แท้จริงแล้ว


....ผมพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างของโสภา ผมจูบปากเธออย่างดูดดื่มอีกครั้ง ในที่สุดผมถอนปากออก ยกก้นขึ้น โสภาถ่างขาออกขยับให้ผมแทรกตัวลงได้ถนัด ผมจับลำเนื้อหัวบานค่อยๆ จดจ่อลงกลางกลีบแคมของโสภา ที่ฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำเงี่ยน โสภาตาปรือเยิ้มจ้องมองหัวถอกบานใหญ่ที่ค่อยๆ ชำแรกกลีบสวาทของเธออย่างเสียวสยิวใจ โสภาทำท่าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อหัวถอกมุดเข้าไป แต่เธอก็ถ่างขาอ้าออกจนสุด ทำให้แคมแบะอ้าออกกว้างขึ้น เพื่อให้ผมแทรกตัวได้สะดวกที่สุด


....ผมกดท่อนเอ็นค่อยๆเข้ารูของเธออย่างช้าๆ จนหัวถอกจมเข้าไปในรูสวาทของเธอมิดเงี่ยง ผมกระเด้าเบาๆ น้ำรักที่คั่งคาอยู่ช่วยให้มันเลื่อนไหลเข้าออกสะดวกยิ่งขึ้น ปากก็ประกบกับปากจิ้มลิ้มของเธอสอดลิ้นเข้าไปดุนตามไรฟันขาวสะอาด โสภาเผยอริมฝีปากสอดลิ้นเข้าไปพันกับกับลิ้นของผม พอโสภาเริ่มยกเอว ส่ายเอวร่อน ผมเริ่มกระเด้าทันที ช้าๆ แต่หนักหน่วง


" ซี๊ดดด.... เสียวดีจัง....อูย.... เสียวอะไรอย่างนี้.... อูย..... พี่จ๋า... กระเด้า... เบาๆก่อนนะจ๊ะ"


....โสภาร้องครวญครางไม่หยุด... เธอครางซี๊ดออกมาเมื่อผมกระเด้าท่อนเอ็นเข้าร่องรูของเธอ หน้าสวยสะบัดไปมาตาปรือเยิ้มด้วยฤทธิ์สวาท อกอวบแอ่นเชิดให้ผมดูดขยำ สะโพกกลมกลึงส่ายไหวระริก น้ำเมือกขมิบออกมาเอ่อล้นช่องสวรรค์ ผมชักท่อนเอ็นออกมาจนเกือบสุดแล้วกระเด้าอัดเข้าไปใหม่ หนอกต่อหนอกกระทบกันดังผับๆๆๆ ยามนี้กลีบรักของเธออ้าอมท่อนเอ็นของผมบวมตุ่ยปากแคมทั้งสองอ้าแบะปลิ้น ผมมองดูอย่างเงี่ยนง่านขณะที่ท่อนเอ็นเป็นมันกระแทกสวบๆในรูของเธอ ผมทั้งงัดทั้งควานในรูเงี่ยนของเธอ เต้านมทั้งสองข้างของเธอไหวระริก ห่อปากครางอย่างมีความสุข สะโพกกลมไหวส่ายร่อนเด้งรับการกระเด้า


"อูย...พี่จ๋า...มะ..มัน...เสียว...อะไร...อย่างนี้ ... ซี๊ด... พี่ขอกระแทกแรงๆอีกค่ะ...ซี๊ดดด.....อูย....เสียวอะไรอย่างนี้...ซี๊ดดด"


ผมกระเด้าไปเรื่อยๆเข้ากลีบเนื้อของเธอ ปากก็งับดูดเม็ดเสียวบนยอดเต้าช่วยเพิ่มความกระสันเสียว สายตาที่เฝ้ามองท่อนเอ็นวิ่งเข้าออกในกลีบเนื้อของโสภา ภาพกลีบเนื้อที่ยู่เข้าออกตามจังหวะกระเด้าของผม มันเร้าอารมณ์ผมอย่างมาก ผมกระเด้าแรงขึ้น แรงขึ้น


"อูยยย....โส...ทนไม่ไหวแล้ว มันเสียว…อูย..ใจจะขาดแล้ว...อุ๊ย


อุ๊ย...ว้าย....โสจะออกอีกแล้วนะ"


โสภาร้องบอกผมในขณะที่ช่องสวาทของเธอบีบท่อนเอ็นของผมแน่น ตอดตุ๊บๆ เธอแอ่นร่างเกร็งทั้งตัว สูดปากครางอย่างเงี่ยนง่านทะยานใจในรสชาติของกามารมณ์


"อูย... พี่ก็จะออกแล้ว... ซี๊ดดด...โอ้ยยยย...เสียวววว....อะไรอย่างนี้ ทนไม่ไหวแล้ว... ซี๊ด.... น้ำออกแล้ว"


ผมปล่อยให้น้ำแตกทะลัก อัดท่อนเอ็นเข้ากับโหนกนูนของโสภา ใจสั่นระริกด้วยความเสียว ก่อนที่จะล้มลงนอนกอดก่ายกับเธอ หอบหายใจระรวยอย่างเหนื่อยอ่อน โสภาหลับตาพริ้มยิ้มอย่างมีความสุข ผมบรรจงจูบหน้าผากเธออย่างรักใคร่ ในขณะที่โสภาก็โอบกอดผมอย่างหลงใหลเช่นกัน เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เจนโลกีย์ แม้ไม่เชี่ยวชาญ ชำนาญกลกาม แต่เสน่ห์ของโสภาคือความอ่อนต่อโลกีย์ และความสนอกสนใจในบทบาท ลีลารัก โสภานับเป็นคนที่มีพรสวรรค์ เธอน่ารักและรู้จักเอาใจ ไม่เคยมีเสียงบ่น ไม่มีทีท่าเหนื่อยหน่ายต่อผมไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ วงจรความรัก ความผูกพันของเรา ค่อนข้างมีความสมดุลต่อกัน


.... ผมไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าอนาคตของผมจะเป็นเช่นใด แต่ในขณะเวลาเดียวกัน ผมรู้ว่าอดีตเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ผมก็ไม่อาจหวนคืนกลับไปแก้ไขอดีตใดๆของผมได้อีก เพราะฉะนั้นอดีตที่ต้องทุกข์ทนหรืออดีตที่หวานชื่นใดๆมันยังคงเป็นของผมอยู่ เสมอ และผมกำลังมีความสุขอยู่กับปัจจุบัน ซึ่งผมจะรักษามันไว้ ให้คงอยู่ต่อไปในอนาคต.
....เช้าวันใหม่มาเยือนวันนีผมตื่นมาพร้อมเมียรัก ช่วงนี้ผมต้องไปรับ-ส่งโสภาเป็นประจำ เพราะเกรงไอ้ปลัดขิกมันจะแอบมารับ-ส่งแทน เดี่ยวจะเสียท่ามัน หลังร่วมโต๊ะอาหารเช้าแล้ว เราก็ไปออฟฟิตพร้อมกัน เมื่อส่งโสภาถึงที่ทำงาน ผมก็กลับมาบ้านแต่ขณะจะขับรถเข้าบ้านก็เห็นชายแปลกหน้าสองคนมายืนด้อมๆมองๆ หน้าบ้าน ผมจอดรถดูมัน พอมันเห็นผมก็รีบขึ้นรถขับหนีไป ผมชักกังวล ท่าพวกไอ้แสนมันจะยังผูกใจเจ็บ แน่นอนโดนผู้หญิงตัวเล็กๆเอาตีนเหยียบคอเอาปืนจ่อหัวอย่างนั้น เป็นใครจะไม่แค้น มันต้องหาทางเอาคืนตามนิสัยนักเลงหมาๆแน่ ไอ้เสี่ยศรชัยนั่นก็อีก ทำไมผมจะไม่รู้สันดานของมัน จริงๆมันก็แกล้งทำไป แท้จริงที่ลูกมันเป็นอย่างนั้นเพราะพ่อมันให้ท้ายต่างหาก คิดๆให้หวั่นใจหากเผลอถูกพวกมันลอบกัดคงเดือดร้อนแน่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจะไม่เกรงกลัวอะไรเลย เพราะอยู่คนเดียวลำพัง ผมคุ้มครองตัวเองได้ แต่ตอนนี้ผมมีโสภาเป็นเมียและก็มีสร้อยอยู่ในความดูแล จึงเป็นจุดอ่อนให้โจมตีได้ง่าย ผมจอดรถในบ้านแล้วเดินมาที่ศาลา กับการที่ไปมีเรื่องกับไอ้แสนนี่คงจะไม่จบง่ายๆเสียแล้ว ฉะนั้นต้องระวังตัวเองและคนใกล้ชิดให้ดี....


....เวลาผ่านไปจนถึงเย็น ได้เวลาที่ผมต้องไปรับโสภาแต่เธอโทรมาบอกว่ากลับพร้อมเจ้าชมอาของเธอ ผมเลยมานั่งรอที่ศาลาหน้าบ้าน พอดีปลัดขิกดันแวะมา มันมาทำไมไม่รู้ “สวัสดีครับผู้ใหญ่”ปลัดหนุ่มยกมือไหว้ทักทายผม”โสยังไม่กลับรึครับ”มันถาม พร้อมกับรอยยิ้ม”ถ้ากลับมาก็คงเห็นแล้วละสิ”ผมตอบไปแบบกวนๆ พอดีสร้อยเดินออกมาเห็นจึงชวนมานั่งคุย ทำให้ผมหาโอกาศไล่มันกลับไม่ได้”มีธุระอะไรหรือ ธนู “สร้อยถามปลัดหนุ่มด้วยสีหน้าแช่มชื่น”ผมว่าจะมาชวนโสไปเที่ยวตลาดนัดอำเภอ นะครับ”ผมกระแอมเบาๆ”ผัวเขาก็มีอยู่ทั้งคน จะมาชวนทำไม”ทำเอาทั้งคู่หยุดคุยหันมามองผม”ก็ผัวมันไม่ค่อยอยู่พาเมียไป เที่ยวไหน มัวแต่จ้องพาพวกตัวเล็กตัวน้อยไปแอบกินกัน เมียมันเลยต้องวานคนอื่นนะสิ”สร้อยเหน็บแบบเจ็บจี้ดๆ”ว่าแต่ไม่รู้ว่าโสเขา จะว่างไปไหม” ไอ้ปลัดยังพูดอ้อนสร้อย โอ้ย...กูพูดประชดขนาดนี้ มึงยังจะหน้าด้านรอชวนเมียกูไปเที่ยวอีกหรือไอ้ปลัดขิกเอ้ย....


....สักพักรถเจ้าชมก็วิ่งมาจอดที่หน้าบ้านของผม พอเปิดประตูก้าวลงมาเราทุกคนต้องตกใจเพราะร่างเจ้าชมสะบักสะบอมมันเดินเซ เข้ามาหาพวกเรา”แย่แล้วพี่ โส...โส...ถูกใครก็ไม่รู้จับตัวไป ผมพยายามช่วยแล้วแต่ไม่ไหว..”ผมใจหายวูบ วิ่งเข้าไปจับไหล่เจ้าชมคาดคั้นถามมัน”ใครว่ะมันกล้าจับตัวเมียกู มันจับไปทำไม พวกไหนมันทำ มันจะเอาอะไรบอกกูมา”เจ้าชมถูกผมเขย่าตัวจนพูดไม่ออก ปลัดกับสร้อยต้องมาช่วยกันดึงตัวผมออกมาจากเจ้าชม”ใจเย็นครับผู้ใหญ่ ค่อยๆถาม อาชมก็เจ็บมาไม่ใช่น้อย”สร้อยรีบประคองเจ้าชมมานั่งพักและเอาผ้ามาเช็ดคราบ เลือดให้”มันมากันยังไงล่ะ เล่าให้ฟังหน่อย”เจ้าชมนั่งพักหายใจหืดๆ”ยัยโสขอกลับบ้านพร้อมผม แต่ก่อนกลับขอให้แวะชื้อดอกไม้มาไหว้พระ ระหว่างที่ยืนรอ มีรถตู้วิ่งมาจอดและมีคน5-6คนลงมาช่วยกันจับตัวยัยโส ผมเข้าไปช่วยก็ถูกเตะต่อย ผมสู้ไม่ไหวมันเยอะกว่าและมันก็ลากตัวยัยโสขึ้นรถไป เสียงยัยโสร้องด่ามันว่า อะไรหนา...อ้อ....ใช่..ยัยโสร้องว่า อ้อ...พวกมึงเองหรอ ปล่อยกู ปล่อยกู แต่พวกมันก็เอาตัวไปจนได้”ผมกัดฟันกรอด ไม่มีใครแน่ที่กล้าทำแบบนี้ มีแต่พวกมันเท่านั้น พวกไอ้แสน”ใช่พวกไอ้แสนแน่นอน ฮึ่มมันกล้ามากที่ทำกับกูอย่างนี้ กูไม่น่าปล่อยโสไปกับมึงเลย ถ้ากูอยู่ด้วยน่ะ...” เสียงสร้อยแทรกขึ้น”ก็คงถูกจับไปด้วยกันแล้วแหละ”แหม...สร้อยกำลังเข้าสู่ ช่วงแอกชั่นน่ะ ผมรีบไปที่รถ เสียงสร้อยร้องถามว่าผมจะไปไหน ผมตอบว่าจะไปช่วยโสภา “แล้วรู้เรอะว่ายัยโสถูกจับตัวไปที่ไหน”ผมหยุดคิดสักครู่ ใช่ต้องเป็นที่บ้านพักของมันบนเขาน้ำค้างแน่นอน...


....”ผมไปด้วยครับ..ผู้ใหญ่..”ไอ้ปลัดวิ่งตามมา”ผมขอไปช่วนโสด้วยคนนะ ครับ”ผมมองมันอย่างชั่งใจ ก่อนพยักหน้า เจ้าชมตามมาขอไปด้วยอีกคน แต่ขณะจะขับรถออกจากทางหน้าบ้านเจ้าคมก็มาจากไหนไม่รู้พอดี มันไม่ถามอะไรบอกขอไปด้วยคน เลยกระโดดขึ้นรถมาด้วยแต่ถ้ามันรู้ว่าจะไปไหน และจะไปเจออะไร รับรองคนอย่างมันจะต้องกระโดดลงทันที รถของผมพุ่งทะยานตรงไปยังบ้านพักบนเขาน้ำค้างด้วยความเร็วชนิดที่เรียกว่า ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยขับรถเร็วขนาดนี้ แต่มันกลับเชื่องช้าเสียเหลือเกินในความรู้สึกของผม จนกระทั่งถึงยังบ้านพักของเสี่ย ศรชัย ที่ตั้งอยู่บนไหล่เขาน้ำค้าง บ้านหรูขนาดใหญ่ที่มีรั้วล้อมรอบแหน่หนา....


....เมื่อไปถีงหน้าประตูมีคนยืนคุมอยู่สอง-สามคน ผมลงไปถามหาเสี่ยศรชัยและไอ้แสน พวกลูกน้องบอกว่าอยู่ผมจึงบอกมันไปว่า”รายงานเจ้านายเอ็งไปว่าข้า ผู้ใหญ่ มาขอพบ เสี่ยศรชัยและลูกชาย มีธุระที่พวกมันก็รู้อยู่แก่ใจ” เจ้าลูกน้องมันมองอย่างลังเลสักครู่ก็โทรมือถือเข้าไปหาเจ้านายของ คุยอยู่มันสักพักพวกมันก็ยอมเปิดประตูให้เราเข้าไปในบ้าน ผมขับรถตามทางมาจอดที่หน้าเรือยรับรองอันโอ่อ่าของบ้าน เสี่ย ศรชัย ไอ้แสนและลูกน้องนับสิบยืนรอผมอยู่ ผมเปิดประตูรถเดินปรี่เข้าไปหามัน”เอาโสภาเมียของกูไปไว้ที่ไหนเอาตัวโสภา เมียของกูคืนมาเดี๋ยวนี้”... เจ้าแสนทำท่าไม่รู้ไม่ชี้”อ้าวเมียผู้ใหญ่หาย มันเกี่ยวอะไรกับข้าล่ะวะ เออ..ดูแลยังไงปล่อยให้เมียหายแล้วมาเที่ยวถามคนอื่น บ้าเปล่า..”แล้วพวกมันก็ผสานเสียงหัวเราะขบขัน


....มีอะไรกันเล่า เสียงดังเอะอะ...อ้าวผู้ใหญ่เองหรือ มีธุระอะไรถึงมาหาผมถึงที่นี่” เสี่ยศรชัย เดินออกมาจากประตูบ้านบานใหญ่”ป๋า...เมียของผู้ใหญ่เขาหาย เขาเลยมาตามหาที่นี่ เขาบอกว่าผมไปจับตัวเมียของเขามาที่นี่นะ”เสี่ยศรชัยทำหน้านิ่วคิ้ว ขมวด”อ้าว...เรื่องมันเป็นอย่างไงกันล่ะ แล้วเอ็งไปจับตัวเมียของเขามาหรือเปล่า ใจเย็นๆค่อยๆคุยกัน”ผมสุดจะทน กัดฟันและบอกเสี่ยไป”เจ้าชมมันบอกว่าตอนที่โส ถูกจับนะ เธอตะโกนว่าพวกมึงเองหรอ แสดงว่าเธอต้องรู้ว่าเป็นพวกไหน และพวกที่มีเรื่องกับเราก็มีแค่ลูกชายของเสี่ย” ไอ้แสนทำหน้าเซ่อ”อ้าวผู้ใหญ่ ตัวเองก็เป็นผู้ใหญ่บ้านมานานก็มีศัตรูมาไม่น้อย มากล่าทหาว่าข้าเป็นคนร้ายได้ชุ่ยๆหยั่งงี้ได้ยังไง เดี๋ยวเจอฟ้องหมดตัวหรอก”ไอ้แสนยังทำท่ายียวนกวนประสาท เสี่ยศรชัยมองลูกชายและหันมามองผม”แล้วผู้ใหญ่มาที่นี่ต้องการอะไรจากพวกผม ล่ะ”ผมเชิดหน้าเดินเข้าไปหาเสี่ยศรชัย”ผมต้องการค้นบ้านหลังนี้ทุกซอกมุม ถ้าเสี่ยบริสุทธ์จริงต้องยอมให้ผมค้น”ไอ้แสนทำหน้าเสีย คำรามเดินเข้าหาผม”มันจะมากไปแล้วนะโว้ย...”ผมขยับเตรียมตั้งรับต่อสู้ สมุมนับสิบของมันขยับเดินตามมา ท่าจะต้องมีการลงไม้ลงมือแน่...


....”เฮ้ย..หยุด จัดให้ผู้ใหญ่ตามคำขอ”เสี่ยศรชัยยอมแต่ไอ้แสนชัยลูกชายเสี่ยไม่ยอม”มีสิทธ์ อะไรมาค้นบ้านข้า ข้าไม่ให้ค้นลองดูได้”แต่เสี่ยศรชัยตวาดให้ไอ้แสนถอยไป เมื่อได้สิทธ์ตรวจค้นบ้านจากปากเสี่ยศรชัย ผมจึงหันไปบอกพรรคพวกที่ตามมาด้วย“เอาล่ะ ไอ้คม ไอ้ชมและปลัด พวกเราช่วยกันแยกย้ายไปค้นบ้านหลังนี้ให้ทั่ว ไปดูว่ามันเอาตัวโสภาไปซ่อนไว้ที่ไหน ค้นให้ทุกซอกทุกมุมเลยนะ” แล้วเราสี่คนก็แยกย้ายกันออกค้นทั่วทั้งบ้านอยู่นานราวๆ 3 – 4ชั่วโมง แต่ไม่พบร่องรอยของโสภาเลย ในที่สุดพวกเราก็จำใจเลิกค้น แต่ผมคิดว่าพวกมันต้องจับตัวโสภาไปขังที่อื่นแน่ๆ...


...”ว่าไงผู้ใหญ่ ไม่เจอใช่ไหม บอกแล้วว่าไม่มี แล้วทีนี้จะกลับกันไปได้หรือยัง”ไอ้แสนพูดจาถากถางและไล่ผม แต่เมื่อผมเห็นตรงต้นคอของมันมีรอยเล็บตะกายเลือดใหลซิบๆผมจึงกระชากคอเสื้อ มัน”มึงรู้อยู่แก่ใจว่ามึงเอาเมียของกูไปซ่อนอยู่ที่ไหน บอกกูมาไม่งั้นกูเอามึงตาย”ผมคาดคั้นมันขณะที่ลูกน้องของมันประทับปืนสารพัด ชนิดและยี่ห้อนับสิบกระบอกจ่อมาที่ผม”ปล่อยพี่แสนเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นศพมึงพรุนแน่ ผู้ใหญ่” แต่ผมไม่สนใจในอันตรายใดๆแล้ว ตอนนี้ผมห่วงโสภายิ่งกว่าความเป็นความตายของตัวเอง”ปล่อยลูกชายผมนะผู้ใหญ่ ไม่งั้นผมจะไม่เกรงใจอีกแล้ว”ผมหันไปมองเสี่ยศรชัยหยามๆ”โผล่หางออกมาแล้วรึ ไอ้เสี่ย ลูกมึงจับตัวเมียกูมาดูรอยเล็บที่คอของมันยังใหม่ๆอยู่เลย ท่าจะปล้ำโสแล้วโสไม่ยอมล่ะสิ เอาล่ะเสี่ย บอกลูกชายเสี่ยให้ส่งตัวเมียของผมออกมาแล้วผมจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” เสี่ยศรชัยกัดฟันกรอดและบอกว่า”ผู้ใหญ่เองก็ค้นจนทั่วบ้านนี้แล้ว ก็ไม่พบเมียของผู้ใหญ่ แล้วจะมีที่ไหนอีก ปล่อยตัวลูกชายของผมเถอะแล้วก็กลับไปเสียทั้งยังมีลมหายใจ”เสี่ยศรชัยพูด เชิงขู่”เอาสิ กูไม่กลัวหรอกไอ้เสี่ยสองหน้า มึงไม่เกรงใจกูแล้วมึงจะทำไม” เสียงง้างนกปืนดังกริ้งแก๊ก สถานการณ์ต้องมีการลั่นกระสุนกันแน่


....แต่ก่อนจะเกิดอะไรขึ้น ปลัดหนุ่มก็เข้ามากันตัวผม”พอก่อนเถอะ ผู้ใหญ่ อย่ามาเสี่ยงตรงนี้เลย มันไม่คุ้ม เท่านี้เราก็ทำมากเกินไปแล้ว ทั้งบุกรุกทั้งข่มขู่ เขายิงเราตายตรงนี้เขาก็ไม่ผิดน่ะ กลับบ้านกันก่อนแล้วค่อยคิดหาทางกันใหม่ดีกว่า”ผมไม่ฟังยังไม่ละมือจากคอ เสื้อไอ้แสน จนเจ้าคมมาช่วยบอกอีกแรง”เอาน่าพี่ วัดกับมันตอนนี้เราเสียเปรียบ ถอยไปตั้งหลักก่อน แล้วย้อนกลับมาใหม่ จะดีกว่า”ในเมื่อมองดูเหตุการณ์แล้วผมเสียเปรียบทุกทาง ผมจึงตัดใจยอมปล่อยมือจากคอไอ้แสน”ถ้าโสภาเมียของกูเป็นอะไรแม้นแต่ปลายเล็บ พวกมึงจำไว้ว่า กูจะทำให้พวกมึงเสียใจที่กล้าทำร้ายเมียของกู”ผมชี้หน้าด่าและขู่มัน ไอ้แสนหัวเราะเยาะ ทำท่าไม่ยี่หระ”เฮอะ เฮอะ เฮอะ หาเมียตัวเองให้เจอก่อนเถอะ ค่อยมาคุย คำขู่ของหมาบ้าแก่ๆน๊ะ ไม่มีใครกลัวหรอก”แล้วพวกมันก็หัวเราะกันร่วน “เชิญผู้ใหญ่กลับไปได้แล้ว”เสี่ยศรชัยเอ่ยปากไล่อย่างสุภาพ พวกเราจึงกลับมาขึ้นรถและเจ้าคมเป็นขับ ได้แต่นึกเจ็บใจที่เสียเหลี่ยมมัน แล้วโสภาอยู่ไหนถ้าไม่อยู่ที่นี่ พลันสายตาผมเหลือบไปเห็น ห้องเล็กๆตรงท้ายบ้านของมัน”ไอ้คม มึงเข้าไปค้นห้องนั้นหรือเปล่า”ผมชี้ให้เจ้าคมดู”เปล่าพี่ มันบอกเป็นที่ทิ้งขยะ”ฟังเจ้าคมบอกผมอยากกระทืบมัน”ไอ้วรนุชเอ้ย...มึง จอด...จอดรถเดี๋ยวนี้ กูจะลงไปค้นห้องนั้น...”.... เจ้าคมเบรกรถกึก ผมเปิดประตูรถก้าวลงมาและวิ่งไปหลบที่ข้างรั้ว ตอนนี้เราอยู่นอกเขตบ้านของมันแล้ว...


....ผมบอกทุกคนให้รอที่นี่แล้วผมก็ปีนเข้าไป ฟ้าเริ่มมืดแล้วทำให้ผมย่องเข้าไปใกล้ห้องนั้นได้ง่ายๆ มีคนเฝ้าอยู่ 2 คน แน่นอนต้องมีโสภาถูกจับอยู่ในนั้นแน่นอน ไม่งั้นมันไม่ระวังขนาดนี้หรอก เจ็บใจเจ้าคมที่ไม่ค้นแต่แรก ไม่งั้นป่านนี้คงเจอเมียรักของผมแล้ว ผมพยายามมองลอดช่องว่ามีโสภาอยู่ข้างในหรือเปล่า พลันเสียงไอ้แสนก็ดังขึ้นจนผมต้องทิ้งตัวหมอบลงกับพื้น”ไอ้บ้าเอ้ย...มึงสอง คนเฝ้าอีเด็กนั่นอย่างไงว่ะให้มันหนีไปได้ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ”นั่นไงว่าแล้ว โสภาต้องถูกจับตัวไว้ที่นี่”มันหนีไปทางไหนว่ะ”ไอ้แสนถามลูกน้อง”ไปทางป่า ด้านหลังของเขาน้ำค้างนี่แหละพี่”ลูกน้องของมันรายงาน”อื่ม...ต้องไปตามว่ะ เดี๋ยวโดนเสือคาบไปแดกก่อนเสียดายของ อีเด็กคนนี้แม่ง...ใจกูจริงๆ ถ้าไม่ได้ล่อมันสักทีกูคงเสียดายไปทั้งชีวิต มึงไปบอกพวกเราเตรียมอาวุธให้พร้อม เราจะออกตามหาอีเด็กนั่น ป่านนี้คงไปได้ไม่ไกล นี่ก็มืดแล้ว คงกำลังหลงป่าอยู่แน่ เอาพวกเราไปเยอะๆน่ะ”ลูกน้องของมันรับปากและวิ่งไปตามพวก”ไอ้ผู้ใหญ่ เดี๋ยวกูจับเมียมึงได้กูจะลงแขกแล้วถ่ายคลิบส่งไปให้ดูซิมันจะทำหน้ายังไง เวลาได้เห็น ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า...เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับ แสน ราชดำเนิน” ผมต้องรีบหลบวิ่งออกไปเมื่อไอ้แสนดันหันมาเห็นเงาของผมแว้บๆ”เฮ้ย...นั่นใคร ว่ะ ไอ้เหม ไอ้ทรตามไปดูสิ” ไอ้แสนสั่งลูกน้องให้ตามมาดูตรงที่ผมหลบอยู่ ส่วนมันกำลังทำท่าตามมาแต่เสียงลูกน้องตะโกนเรียกมันบอกว่าพ่อของมันให้ไปหา มันเลยกำชับลูกน้องของมัน”มึงตามไปดูว่าใคร เผื่อเป็นไอ้ผู้ใหญ่ จับได้ล่ะก้อยิงทิ้งแม่งเลย...”แล้วมันก็ไป ส่วนลูกน้องสองคนตรงมายังที่ผมกำลังหมอบและกำลังครานหนีอยู่...


...”เฮ้ย..ใครว่ะ ออกมาเสียดีๆ ไม่งั้นกูยิงน่ะ”เจ้าสองคนตะโกนขู่ ตอนนี้ผมเสียเปรียบมันมากมือเปล่าไม่พอ ยังอยู่ในบริเวณบ้านของมันอีก ผมครานจนถึงรั้วและตัดสินใจปีน พวกมันสองคนเห็นตะโกนโหวกเหวกให้ผมหยุด ใครจะหยุดให้โง่เล่าไอ้ควายยิ้ม ผมวิ่งหนีเต็มฝีเท้า มันสองคนปีนรั้วตามมาไล่กวดผมมาติดๆ”หยุดไม่หยุดกูยิงนะ บอกให้หยุด”.มันวิ่งตามมาและตะโกนขู่ตลอด ผมยังไม่หยุดจนได้ยินเสียงปืนลั่นตามหลังจึงหมอบลงพื้น สำรวจตัวแล้วไม่ได้ถูกยิงจึงพลิกตัวเข้าหลบที่พุ่มไม้ ไอ้สองคนเดินมาจนถึงที่ผมหมอบอยู่ และมันพยายามมองหาผม”มันหายไปไหนว่ะ แล้วยิงโดนมันหรือเปล่า”มันถามกันเอง”ไม่มีรอยเลือดแสดงว่าไม่ มันคงอยู่แถวนี้แหละ แยกกันหามันดีกว่า เรามีปืน มันมือเปล่ายังไงๆเราก็ได้เปรียบ มันคงไม่เก่งเหมือนพระเอกในหนังหรอก”แล้วมันทั้งสองก็แยกกันออกหาตัวผม แหมว่ากูไม่เก่งเหมือนพระเอกหนังหรอ ใช่...กูไม่เก่งเหมือนพระเอกหนังโว้ย แต่กูน่ะโกงเก่งกว่าตัวโกงในหนังอีก....


....ผมลอบตามไอ้คนหนึ่งไปแล้วหยิบไม้เหมาะมือเดินย่องตามมันไป พอได้จังหวะก็หวดใส่เป้าหมายคือท้ายทอดของมัน ผมเงื้อหวดเต็มที่ แต่ดันไปติดกิ่งไม้ข้างบน มันตกใจเมื่อหันมาเห้นผมและผมก็ตกใจที่พลาด แต่ผมฉวยโอกาศถีบมันหงายท้อง และตามไปเอาไม้ทุบไม่ยั้งจนมันแน่นิ่งไป ผมหยุดมือนั่งลงหอบด้วยคว่มเหนื่อย แต่ขณะขยับตัวจะลุกขึ้น ไอ้อีกคนก็เอาปืนจ่อหัวผม มันคงได้ยินเสียงต่อสู้กันมันจึงมาเพื่อช่วยเพื่อนของมัน แต่ไม่ทันเพราะมันถูกผมอัดจนหมอบไปก่อน มันมองเพื่อนมันแล้วกัดฟัน”ไอ้ผู้ใหญ่ มึงทำเพื่อนกูเรอะ เพื่อนกูเจ็บกูก็เจ็บมึงรู้ไหม ฉะนั้นมึงตายเสียเถอะ”มันง้างนกเตรียมลั่นไก ผมหลับตารอรับความตาย เสียงปืนดังลั่นพร้อมเสียงร้องโอ้ย แต่ไม่ใช่เสียงผมเป็นเสียงมัน เมื่อมือของมันเหมือนถูกอะไรยิงใส่ทำให้กระสุนที่มันลั่นไกเฉี่ยวหัวผมไปแค่ คืบ ผมไม่รอช้า เตะไปที่ข้อมือของมันจนปืนกระเด็นหลุด จากนั้นก็คว้าไม้เข้าไปทุบไม่ยั้ง จนมันแน่นิ่งไปอีกคน ผมยังตีซ้ำจนแน่ใจว่ามันจะไม่ลุกขึ้นมา จึงทิ้งตัวลงนั่งหอบ และสงบใจที่เต้นรัวรางกลองตี...โฮ้ว...ไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนี้มานานแล้ว หัวใจจะวาย...


....ผมนั่งทบทวนหลังหายตื่นเต้น อะไรเป็นเหตุให้ไอ้นี่ยิงผมพลาด เมื่อมองไปที่พื้นก็เห็นลูกเหล็กแบบที่ตกอยู่บนพื้นร้านไอ้เสี่ยศรชัย แสดงว่าแม่สาวในชุดเคาบอยแอบมาช่วยเราอีกแล้ว และเธอเป็นใครทำไมมาอยู่ที่นี่และมาช่วยเราเพราะอะไร ผมหยิบลูกเหล็กมาดูและลุกขึ้นยืนหาเผื่อเธอยังอยู่แถวนี้ แต่กลายเป็นปลัด เจ้าคม และเจ้าชมวิ่งเข้ามา”เกิดอะไรขึ้นพี่ ผมได้ยินเสียงปืนเลยรีบตามมาดู กลัวเกิดเหตุไม่ดีกับพี่”ทั้งสามหอบ แฮ่กๆ ผมเลิกสนใจเรื่องสาวเคาบอยตอนนี้ผมต้องรีบออกตามหา โสภา ก่อน ตอนนี้ได้เบาะแสแล้ว โสภาหนีออกจากที่คุมขัง และกำลังหลบหนีการไล่ล่าของไอ้แสนอยู่ในป่า ผมต้องรีบไปช่วย “ไอ้สองคนนี่เป็นใคร แหมพี่นี่เยี่ยมจริงๆจัดการคนมีปืนได้ทีเดียวสองคนเลย”เจ้าคมถึงกับทึ่ง แต่ผมไม่มีเวลารับคำชื่นชม “เราต้องไปช่วยโสกันเดี๋ยวนี้ โสถูกจับมาที่นี่จริงๆ แต่ตอนนี้โสหนีไปได้แล้วและถูกพวกมันไล่จับอยู่ในป่าเขาน้ำค้างนี่แหละ รีบไปหากันเถอะ” ผมชวนแต่ปลัดหห้ามไว้”ผู้ใหญ่ครับ เราต้องกลับไปเตรียมอาวุธและอุปกรณ์ก่อน ตอนนี้พวกนั้นมีจำนวนเยอะกว่าเราและติดอาวุธพร้อม เกิดไปเจอกันเราจะเสียเปรียบ”เจ้าคมและเจ้าชมเห็นด้วย ผมยังลังเล แต่ในที่สุดก็ต้องตามทุกคนกลับไปก่อนและลากไอ้สองคนที่ถูกผมอัดหมอบไป ด้วย....


....รถของเรามาถึงบ้านผมต้องแปลกใจ เมื่อที่บ้านมีคนอยู่มากมาย เมื่อรถจอดสนิทและลงจากรถก็พบว่าเป็นไอ้กำนันเม้งและพรรคพวกมัน “เป็นไงบ้างไอ้ผู้ใหญ่ ช่วยยัยโสกลับมาได้ไหม”กำนันเม้งเดินนำ สร้อย เหมยลี่และลูกน้องนับสิบของมันเข้ามาหาผม “อ้าวมึงมาได้ยังไง แล้วรู้เรื่องของโสได้ยังไง”กำนันเม้งมองไปที่สร้อย”ฉันห่วงลูกและเห็นพี่ หายไปนาน เลยโทรบอกพี่เม้งให้พาคนมาช่วย และกำลังจะออกไปตามพี่นี่แหละ”ผมส่ายหน้าไม่พอใจ”เรื่องในครอบครัวของเรานะ สร้อย ทำไมต้องไปบอกคนอื่น ต้องไปขอให้คนอื่นมาช่วยด้วย”ผมดุจน สร้อยทำท่าจะร้องไห้”แล้วจะให้ฉันทำยังไง ยัยโสลูกของฉันนะ พี่ไปแล้วหายเงียบ ฉันไม่รู้จะทำไงนี่ ถ้าไปเองได้ฉันไปเองแล้ว”กำนันเม้งถอนหายใจ และมองหน้าผม”ไอ้ผู้ใหญ่ ศึกนี้มึงสู้คนเดียวไม่ไหวหรอก ให้กูช่วยเหอะ กูอยากช่วยมึง ถ้าไอ้เสี่ยศรชัยมันเก็บมึงได้ ชีวิตกูไม่มีมึงคงเหงาแย่ ไอ้เสี่ยนั่นมันไม่ได้เล่นกับมึงแฟร์ๆนะ”ผมมองหน้าไอ้เม้ง ซาบซึ้งในน้ำใจของมัน”ขอบใจว่ะ แต่กูไม่อยากให้มึงมาพัวพันในเรื่องนี้ มึงจะเดือดร้อนไปกับกูเปล่าๆ กูขอจัดการกับมันด้วยตัวของกูเอง”


....”แล้วไอ้สองตัวที่ท้ายรถของมึงนะใคร”กำนันเม้งถามถึงไอ้สมุนกระจอกสองคน ที่ถูกมัดดิ้นอยู่หลังรถ”ลูกน้องของไอ้แสน มันเป็นเบาะแสที่จะพาเราไปหาโสได้ มึงเอาตัวมันมามัดไว้ก่อน”สองคนถูกนำตัวลงมามัดไว้กลางลาน”แน่ใจนะว่ามึงไม่ อยากให้กูช่วย”กำนันเม้งถามย้ำผมอีกครั้ง”ถ้ามึงอยากช่วยกูจริงๆนะ มึงช่วยดูแล สร้อยและคนในบ้านของกูตอนกูไม่อยู่ให้ทีได้ไหม"”กำนันเม้งยิ้ม “ได้เลย กูจะคุ้มครองอย่างดี ไม่ให้พวกไอ้เสี่ยสองหน้านั่นมาทำอันตรายคนในบ้านของมึงได้อย่างเด็ดขาด”ผม ยิ้มให้มันอย่างจริงใจ”งั้นกูฝากทางนี้กับมึงด้วย แต่ตอนนี้กูต้องไปช่วยโสก่อน เมื่อโส ปลอดภัยกลับมา กูจะ ล้างบางพวกไอ้เสี่ยศรชัยให้ราบ ในฐานะที่มันกล้าคิดร้ายกับครอบครัวของกู”กำนันเม้งพยักหน้ายิ้ม”แต่ตอนนี้ มึงไปช่วยเมียมึงมาให้ได้ก่อนเหอะ มัวยืนโม้อยู่ได้”


.ผมหันไปสั่งเจ้าคมและเจ้าชมทันที “ไอ้คมมึงไปเอารถจี๊ปลุยป่าออกมาและเตรียมยางอะไหร่กับน้ำมันและอุปกรณ์เดิน ป่าให้เรียบร้อยไฟฉายและสปอตท์ไลท์ด้วย ไอ้ชมมึงไปเตรียมเสบียงและยาให้พร้อมส่วนน้ำเอาไปให้พอนะ เดี๋ยวกูมา” มันทั้งสองคนรับคำและรีบไปทำตามคำสั่งของผม ส่วนผมเดินเข้าไปในห้องเปิดข้างฝาซึ่งสร้างไว้เป็นที่เก็บปืนนับสิบกระบอก แขวนโชว์เรียงราย ผมชื้อมาสะสมไว้นานแล้วแต่ไม่เคยได้ใช้ และนึกไม่ถึงว่าจะได้ใช้ในวันนี้ ผมคว้าปืนไรเฟิลติดกล้องอินฟาเรตส์พร้อมปืนแม็กนั่มสองกระบอกมาเหน็บที่เอว และคว้าปืนลูกซองแฝดสองกระบองพร้อมตับกระสุนเพื่อไปฝากเจ้าชมและเจ้าคม เพื่อนร่วมทาง มันจะได้มีอาวุธไว้ป้องกันตัวเผื่อต้องไปปะทะกับพวกไอ้แสนกลางป่าและมีโอกา ศปะทะกันสูงเสียด้วย แต่เมื่อผมปิดข้างฝาและจะเดินออกจากห้อง พอหันหลังมาก็เจอ สร้อย ยืนอยู่”พี่...ทำไมเอาปืนไปเยอะจัง คราวนี้อันตรายขนาดนี้เชียวหรือ”ผมพยักหน้าทำนองว่าใช่”พี่...ฉันขอร้อง อย่างหนึ่งได้ไหม พอพี่เจอยัยโสแล้ว ให้หนีกลับมาเลยนะ อย่าไปไล่ล่าหรือต่อสู้กับพวกเสี่ยศรชัยนะ...นิสัยของพี่ฉันรู้ว่าไม่ยอมคน บางทีดันทุลัง พี่อาจไม่กลัวตาย แต่คนที่เขารักพี่เขากลัวพี่จะตายนะ”สร้อยพูดสั่งผมเสียงสั่นครือ”สัญญานะ พี่ พี่ต้องพายัยโสกลับมาและต้องปลอดภัยทุกคนนะ”ผมพยักหน้าทั้งที่ยังไม่รู้ว่า จะทำได้ไหม..แต่..”ได้สร้อยพี่สัญญาว่าจะพาโสกลับมาอย่างปลอดภัย แต่ถ้าพี่กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วพี่ขออะไรสร้อยสักอย่างได้ไหม”สร้อยมองหน้า ผมด้วยม่านน้ำตาที่กำลังจะเอ่อออกมา”พี่จะขออะไรฉันล่ะ อย่าบอกน่ะว่าจะให้ฉัน....”สร้อยก้มหน้าเงีบยไป ผมยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น”ขอแค่เธอดีกับฉันบ้างก็พอ”สร้อยเงยหน้ามองผม” พี่...”ผมพยักหน้ายิ้ม”ใช่พี่ต้องไปแล้ว....”ผมหันหลังเดินจากมาราวภาพสโลว์ ในหนังมาเฟียตอนที่พระเอกจะต้องไปดวลปืนกับผู้ร้าย โดยมีสร้อยมองตามหลังมา แหมโคตรเท่ส์เลยเรา...


....ผมเดินหิ้วปืนพะลุงพะลังมาส่งให้เจ้าคมกับเจ้าชม”โอโฮ้...มึงจะไปทำ สงครามรึไงว่ะขนไปซะเยอะเชียว ไอ้ผู้ใหญ่” ผมยิ้มหันมามองมัน ขนาดนี้มึงยังกล้าแซวกูอีกหรือนี่”เผื่อไว้โว้ย อย่างน้อยก็อุ่นใจในลมหนาว”เราหัวเราะให้กันเป็นครั้งแรก”เย้....เตี๋ยกับ พี่ หัวเราะให้กันแล้ว ดีกันแล้ว ไม่ทะเลาะกันแล้วใช่ไหม”เสียงของเหมยลี่ที่ยืนอยู่ข้างหลังดังขึ้นพร้อม เสียงปรบมือชอบใจ ผมกับมันรู้ตัวรีบผละออกจากกัน เปลี่ยนสีหน้าทันที “ไม่ให้กูขนปืนไปนี่กะให้กูถูกไอ้พวกนั้นรุมยิงตายรึไง มึงไม่ต้องมาแซวให้กูหลงกลขนปืนไปน้อยๆเลยไอ้เม้ง เจตนาของมึงนี่ล้ำลึก”กำนันเม้งกัดฟันกรอด กูอยากให้พวกมันเจอมึงแล้วไล่ยิงให้ตกเขาคอหักตายจริงๆ หรือไม่ก็หลงป่าหาทางออกไม่เจอไปเลย อย่าได้กลับออกมาอีก...”กำนันเม้งแช่งผมแล้วเราสองคนก็เดินหันหลังแยกกันไป ปล่อยสาวหมวยอ้าปากค้างยืนมองงงๆ...กับเหตุการณ์ที่พลิกผันเพียงชั่วเสี้ยว วินาทีเบื้องหน้า......


....เมื่อเจ้าชมกับเจ้าคมเตรียมทุกอย่างพร้อม ผมก็สั่งเจ้าคมคนขับเตรียมออกรถ”เดี๋ยวครับ...ผู้ใหญ่ผมไปด้วยคน”ไอ้ปลัด วิ่งกระหืดกระหอบมาเกาะรถแสดงเจตจำนงส์ขอร่วมทางไปด้วย”อย่าเลยครับปลัด ที่เราจะไปนี่มันอันตราย เราไปช่วยคน ไม่ได้ไปเที่ยวกันน่ะ”ผมบอกไอ้ปลัดไก่อ่อน”แต่ผมอยากไปช่วยโส ให้ผมไปเหอะ ผมจะไม่เป็นตัวถ่วงของผู้ใหญ่แน่”ปลัดหนุ่มยังยืนยันเจตนา”ผมมองหน้าเพื่อน ร่วมทาง ขอความเห็น “ถ้าเขาอยากไปก็ให้ไปเถอะพี่ ดีเสียอีกมีคนไปเพิ่ม จะได้ช่วยกันเวลามีปัญหา ท่านปลัดคงจะช่วยเราได้เยอะเลย”เจ้าคมออกความเห็น ส่วนเจ้าชมก็พยักหน้าเอาด้วย”งั้นก็ไปกันเลยคุณปลัดอย่าช้า โสกำลังรอให้เราไปช่วยอยู่”ปลัดหนุ่มสีหน้าดีใจ จะกระโดขึ้นรถ แต่กำนันเม้งก็ตะโกนมา”คุณปลัดรับปืนไปป้องกันตัวด้วย”แล้วมันก็โยนปืนมาให้ ปลัด แหมทำเหมือนหนังฮ่องกงเลย ส่งมาให้กันดีๆก็ได้ ปลัดหนุ่มเอื้อมมือไปรับปืนที่โยนมาด้วยมือข้างถนัด แล้วบอกขอบคุณครับ แต่ปืนก็ลั่นเปรี้ยง ทำเอาทุกคนหมอบหลบกันหมด ปลัดหัวเราะแหะๆ”ขอโทษที ปืนมันลั่นครับ”พอพวกเราจะลุกขึ้นปลัดก็ทำปืนลั่นอีก คราวนี้เราหมอบกันหมด ปลัดหนุ่มเกาหัวยิ้มจืดๆ”ขอโทษครับ มันลั่นอีกแล้ว” เจ้าคมเดินไปใกล้และกดล็อคเชฟไกปืนให้”เคยใช้ปืนหรือเปล่า”เจ้าคมถาม ปลัดหนุ่มส่ายหน้า”เคยใช้แต่ตอนซ้อมยิงแต่ไม่เคยใช้จริงๆสักที” เจ้าคมเดินไปสตาทร์รถและเรียกทุกคนขึ้นรถ”คราวนี้ปลัดจะได้เปิดซิงในเรื่อง ใช้ปืนแบบของจริงแน่ ภาวนาให้เราเจอโสก่อนพวกมันล่ะกัน ไม่งั้นได้ยิงกันสนั่นป่าแน่”แล้วพวกเราก็ขึ้นรถขับออกไป ผมแว่วเสียงเหมยลี่ตะโกนไล่หลังมา”พี่ระวังตัวด้วยน่ะ ลี่เป็นห่วง”ผมหันกลับไปเห็นกำนันเม้ง สร้อย เหมยลี่และสมุนของกำนันเม้งยืนมองมาด้วยสายตาห่วงใย แต่เอ.....ทำไมใจของผมเต้นแรงจัง ท่าจะตื่นเต้นจัดนะเนี๋ย


....เจ้าคมขับรถจี๊ปฝ่าความมืดพาเรามุ่งตรงไปยังภูเขาน้ำค้าง โสภากำลังหลบหนีการตามล่าจากพวกไอ้แสนอยู่ในนั้นท่ามกลางอันตรายนานับประการ และกำลังต้องการความช่วยเหลือจากผมอย่างเหลือกำลัง รอก่อนโสภาพี่กำลังจะไปช่วย อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ ถ้าเธอเป็นอะไรไปพี่คงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกไม่ได้เหมือนเดิมแน่...


...”พี่ ผมว่าเราอย่าไปช่วยโสภาเลยดีกว่า”เจ้าคมเอ่ยขณะขับรถอยู่ และทำลายสมาธิของเราจากการมุ่งมั่นจะไปช่วยโสภา ผมมองมันอย่างไม่พอใจ”เพราะอะไรวะ มึงถึงบอกว่าเราไม่ต้องไปช่วยโส”ผมถามมันเสียงเครียด”ก็ทุกครั้งที่พี่ไป ช่วยโสภาที่ไร ผมเห็นโสภาหนีกลับมาก่อนและต้องย้อนกลับไปช่วยพี่ทุกทีเลย ผมกลัวว่าคราวนี้จะเหมือนเดิมนะสิ”ผมอึ้งเมื่อฟังเหตุผลของมัน”แต่ครั้งนี้ มันไม่เหมือนครั้งก่อนๆนะโว้ย โสเจอพวกหื่นกามอาวุธตรบมือไล่ล่า ไม่ใช่โจรกระจอกอย่างทุกครั้งน่ะ”เจ้าคมถอนหายใจ”บางทีผมว่าเรารออยู่ที่ บ้านเฉยๆโสภาอาจหนีกลับไปได้เอง หรือบางทีตอนนี้อาจอยู่ที่บ้านพี่แล้วก็ได้”ผมตบหัวเจ้าคมผั๊วะ”ไอ้วรนุชกิน ซากหมา ทางจากเขามาบ้านกูไม่ใช่ใกล้ๆ แล้วป่านั่นขนาดนายพรานชำนาญป่ายังหลง โสไม่ใช่นางเอกหนังฝรั่ง ทูมเรเดอร์น่ะ ถึงจะกลับมาเองได้ มึงเลิกพูดแล้วขับไปเลยเร็วๆ” แล้วรถเราก็แล่นตะลุยความมืดเข้าสู่เขตภูเขาน้ำค้าง โสภารอหน่อยน่ะพี่ผู้ใหญ่มาช่วยแล้ว...แต่คงต้องติดตามตอนต่อไปนะครับ....






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น