วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เดชแม่ยาย ตอนที่34 ใครจะอยู่ใครจะไปเดี๋ยวก็รู้





ฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน เลยหายไปหลายวันหนีน้ำ อ่านแล้วคอมเม้มท์เยอะๆนะ ครับ รู้สึกคนอ่านจะลดลง จนน่าใจหาย แต่ตราบใด ยังมีคนอ่านเกิน1000 ท่าน ผมจะลงต่อไป....เรื่อยๆ
และแล้วยอดมวยเงินแสนที่ผมกับไอ้กำนันเม้งจ้างมาชกกัน ก็ไม่อาจดำเนิน การชกกันได้เนื่องจากมันดันไปชกกันนอกสังเวียน จนหัวแตกและบอบช้ำในวันแถลง ข่าวและกำหนดการชก ทำให้มวยคู่เอกไม่มีแต่...กลับกลายเป็นผนกับไอ้กำนัน เม้งมานัดชกกันแทน และกลายเป็นไฮไลท์ของงานกับ ทอร์ค ออฟ เดอะ คันทรี่ย์ไปเลย เมื่ออภิมหาคู่กัดนิรันดร์กาลดันมาชกกัน ข่าวแพร่สะพัดและ อยู่ในความสนใจของคนทั่วไป แม้นแต่ท่านผู้ว่าฯที่จะมาเป็นประธานในวันที่5 ธันวา เพื่อจุดพลุฉลองในงาน ยังลาป่วยหนีไปเที่ยวเมืองนอก และไม่ยอมรับการติดต่อใดๆ ท่านคงทนไม่ได้ ที่จะมารับรู้เรื่องราวใดๆ น่าเห็นใจ ท่านคงจะเชียร์ใครออกนอกหน้าไม่ได้เลยตัดสินใจอย่างนั้น...
แน่นอนเวลาที่เหลือเพียงน้อยนิดผมและไอ้กำนันเม้งเลยต้องฟิตซ้อมร่าง กาย ในวัยกลางคนที่ปัจจุบันมีแต่ไขมันมากกว่ากร้ามเนื้อ ครูยอดธง เสนา หอย และไอ้จุ๋มจิ๋ม เลยกลายมาเป็นเทรนเนอร์ผมแทน ผมเริ่มฟิตซ้อมออก วิ่ง ใน2-3วันแรกแทบขาดใจ แต่นึกถึงเกียรติและศักดิ์ศรี เหนื่อยแค่นี้ไม่เป็นไร จนวันที่4-5ร่างกายผมเริ่มอยู่ตัว รู้สึกอายุลดลงสัก10ปีเห็นจะได้ ออกกำลังกายมันดีตรงนี้เอง ยิ่งได้ข่าว ไอ้กำนันมันก็เร่งฟิตตัวเอง ผมก็ยิ่งเร่งฟิตแข่งกับมัน เพราะศึกนี้ผมต้องการชัยชนะเหนือมันขั้นเด็ดขาด พุงผมเริ่มยุบ กร้ามเนื้อที่เริ่มเหี่ยวกลับมาแข็งแน่นปึ๊ก
และซ้อมชกกระสอบหัดตีเข่า และลงนวมโดยมีคู่ลงนวมชั้นดี เจ้าคมสลับคนล่อ เป้าอย่างเจ้าจุ๋มจิ่ม ขณะนั้นก็ด้ข่าวข่าวไอ้กำนันจ้างเทรนเนอร์และขน อุปกรณ์ฟิตเนตมาจากกรุงเทพฯ มันลงทุนเต็มที่เพื่อมาสู้กับผม ดังนั้นผมก็ ต้องทุ่มสุดตัว เพื่อสู้มัน ผมมัวทุ่มเททางนี้จนลืมไปเลยว่ามีคู่ซ้อมสำคัญอย่างเหมยลี่อีก คน และคนที่ต้องหาทางน็อคหัวใจให้ได้อย่างสร้อย ลูกผู้ชายออกศึกย่อมนึก แต่รบ รอจบศึกก่อนค่อยมานึกถึงเรื่องรัก สร้อย...รอฉันจัดการไอ้หอกข้าง แคร่อย่างกำนันเสร็จก่อน แล้วฉันจะเปิดฉากจัดการเธอ ก่อนโสภาจะกลับมาใน อีกไม่กี่วันนี้....
อีก3วันก่อนการขึ้นชก...ผมมาวิ่งที่สนามของโรงเรียนมีครูยอดธง คอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด "ผู้ใหญ่ การชกครั้งล่าสุดของผู้ใหญ่กับกำนันนี่ พอจำได้ไหม"ครูยอดธงถามผมขณะนั่งพักเหนื่อย "ถามทำไมเล่าครู"ผมถามกลับ "ก็ข้าจะได้วิเคราะห์แล้ววางแผนการชกให้ผู้ใหญ่ได้ถูก สมัยนี้ฝีมืออย่าง เดียวไม่พอ มันต้องมีแผนการชกที่ดีด้วย ถึงจะชนะได้" ครูยอดธงอธิบายอย่างน่าเชื่อถือ"ผมจำไม่ได้ มันตั้ง15ปีมาแล้ว สมัยนั้นยังหนุ่มกันอยู่ แต่คนสนใจดูแทบไม่มี คนที่ดู ก็ว่าดูหมากัดกันมันส์กว่า..และผมกับมันเสมอกัน เพราะชกกันครบ5ยก แล้วไม่มีคะแนน"ครูยอดธงส่ายหัว "ชกกันอย่างไง5ยกไม่มีคะแนนเลย ท่าจะ เหมือนเขาว่ากัน ดูหมากัดกันมันกว่า...ชกคราวนี้น่าจะซ้ำรอยเดิมม้าง...." ผมออกวิ่งเอาเเรง ต่อ และก็เห็นสร้อยปั่นจักรยานเข้ามา แหมกำลังใจชั้นเยี่ยม ผมเลยวิ่งสปีดโชว์เสียเลย ให้รู้เสียบ้างยามนี้ผมฟิตขนาดไหน....
"แก่แล้วไม่เจียมสังขาร"สร้อยส่ายหัว มองดูผมที่ถูกเจ้าคมหิ้วปีกเข้ามานั่งพัก ไอ้จุ๋มจิ๋มและครูยอดธงช่วยกันบีบนวดและเอายาดมให้ดม สปีดเกินกำลังเลยหน้า มืดไปหน่อย ผมนั่งหายใจอย่างลำบาก พูดอะไรไม่ออก แต่ก็ได้ยินเสียงไอ้กำนันเม้งเยาะ เย้ยมาไกลๆ ขณะมันวิ่งโชวืมา"เฮอะ..เฮอะ..เฮอะ คนมันเอาแต่ กิน ขี้ ปี้ นอน ไม่เคยออกกำลังเลย มันมาฟิตอย่างไงก็คงไม่ทัน กูว่าจะตายก่อนวันชกล่ะม้าง ดูอย่างกูวิ่งทุกวัน พร้อมชกตลอด" ผมครายเหนื่อยได้ยินคำถางถาง ก็กัดฟันออกไปวิ่งคู่กับมัน ที่พานักฟิตเนสและคณะครูมวยมาเป็นฝูง เอแล้วมีฝรั่ง4-5คนคอยมีตัววัดอะไรเล็งมาที่มัน แล้วคอยวิเคราะห์ด้วย ผมวิ่งตีคู่กำนันเม้ง มันหันมายิ้มเยาะ "ไหวเรอะ ยอมแพ้ถอนตัวยังทันนะ" ผมหันไปตอบ"ถ้าวิ่งอย่างนี้ กูวิ่งได้ทั้งวัน ถ้าไม่ใช่สปีดระยะสั้นอย่างตะกี้ กูหายใจไม่ทัน และอีกอย่างสุขภาพกูแข็งแรง ไม่ใช่อย่างมึงที่หมอสั่งมา ถ้าไม่วิ่งจะตาย เลยต้องวิ่งหนีความตายทุกวัน" ไอ้กำนันเม้งเม้มปาก "ไงกูก็ได้เปรียบ ว่าแต่มึงเถอะเก็บชีวิตไว้เจอกับกูบนเวทีให้ได้ล่ะกัน อย่างเหนื่อยจนช็อคตายไปก่อนล่ะ"ผมยังวิ่งตีคู่ไปกับมัน "มึงด้วย อย่าด่วนตายห่าไปก่อนล่ะ กูอยากชนะมึงแบบตัวเป็นๆ" กำนันเม้งหยุดวิ่ง ผมก็หยุดตามมัน เรายืนจ้องตากัน "มึงแช่งกูเรอะ ไอ้ผู้ใหญ่" ผมทำหน้าตาย "มึงเข้าใจอย่างไงกูก็หมายความอย่างนั้น" ไอ้กำนันเม้งปรี่เข้ามา "กูไม่รอถึงวันที่5แล้วเอามันตรงนี้แหละ" ผมตั้งท่า "เอ้าใจถึงก็เข้ามาเลย" แต่ก่อนจะมีการชกเกิดขึ้น ผู้ช่วยทั้งสองฝ่ายก็เข้ามาช่วยกันแยก บอกไว้ ให้เจอกันบนเวทีดีกว่า เดี๋ยวจะเหมือน ไอ้นกน้อยและไอ้จุ๋มจิ่ม "กูไม่ได้กลัวมึงนะ ไอ้ผู้ใหญ่ แต่กูกลัวไม่มีใครได้รับรู้ความและได้เห็นความพ่ายแพ้ของมึงที่นี่" ผมอยากจะหัวเราะ "ถุย...พูดมาได้ไม่อายปาก ใครกันแน่ที่จะแพ้ กูจะระดมทั้งชีวิตล้มมึงใน วันนั้น และจะไม่ให้มึงมีโอกาศกลับมาท้าทายกูได้อีกเลย" ผมกับกำนันเม้งแยกจากกันโดยพวกทั้งสองฝ่ายคุ้มกัน ไอ้กำนันเอย ที่ทั้ง อำเภอทั้งจังหวัดกว้างใหญ่ ทำไมต้องมาวิ่งที่เดียวกับกู มึงตั้งใจมาหาเรื่องนี่หว่า....
ที่โต๊ะอาหาร สร้อยทำอาหารมาบำรุงผมเต็มที่ และแนะนำว่าควรกินอะไรถึงจะดีมีประโยชน์ "แหมห่วงพี่จัง กลัวพี่แพ้ไอ้เม้งเรอะ "สร้อยส่ายหัว"กลัวพี่หักโหมออกกำลังจนหัวใจวายและขาดสารอาหารต่างหาก ไม่ อยากให้ลูกสาวเป็นหม้ายเหมือนฉัน.." ผมแค่นหัวเราะ "ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก ฉันยังมีเรื่องสำคัญต้องทำก่อนตายอยู่" ผมจ้องหน้าสร้อย ด้วยตาหวานฉ่ำมีความหมาย และ...หื่นกระหาย "พี่อย่ามองฉันอย่างนั้น น่ากลัว ไปดูกระจกไป ว่าทุเรศแค่ไหน..." ผมลุกขึ้นมาเดินไปหาสร้อย เธอถอยไปจนติดข้างฝา "อย่าเข้ามาน๊ะ เดี๋ยวฉัน ช๊อท ด้วยเครื่องช๊อทนะ..." สร้อยขู่ แต่แปลก ผมไม่ยักกลัว "ก็เอาดิ ไหนๆก็ไหนๆ ต่อยกับไอ้เม้งอาจตายได้ ก่อนตายขอทำให้สมใจสักครั้งก็ยังดี.." สร้อย ยกเครื่องช๊อทมาขู่ ผมเดินเข้าใกล้ "บ้านนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว มีแค่เราสองคน มาเถอะสร้อยเข้ามา มาทำตามใจของเราสองคน " สร้อยหอบหายใจถี่ แววตาตื่นตระหนก ท่าทางเอเหมือนไม่มั่นใจอย่างครั้งแรกๆที่เคยตอบโต้ผม ผมคว้าข้อมือของเธอ ดึงเครื่องช๊อทออกจากมือมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วสวมกอดเธอ ที่อ่อนระทวยในอ้อมแขน "อย่า...พี่..เดี๋ยวไม่มีแรงชก...มวย..."แหมทำเป็น ห้ามไปได้ " ไม่ต้องห่วง ทั้งนอกทั้งในเวที แรงพี่เหลือเฝื่อ" ผมเชยคางสร้อยขึ้นมา โน้มหน้าลงไปหมายจูบปากเธอ...และสองมือคลึงเค้นแผ่น หลังของเธอ...หน้าอกอวบถูกับแผ่นอกของผม แหมโอกาศที่รอมานานบทจะได้ก็ง่าย เสียเหลือเกิน ปากต่อปากเราประกบกัน ลิ้นต่อลิ้นแลกกันอย่างดูดดื่ม ร่าง สาวคนรัก บัดนี้อ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของผม รอผมเสพสมให้หายอยากจากการ เฝ้ารอและหาหนทางเข้าถึง....แต่ทว่า...โอ้ย...อะไรว่ะ...ผมรู้สึกถึง แรงกระชากและแรงเขย่าจากบางอย่าง ทำให้ผมชาวูบไปทั้งตัว จนกระทั่งผมหมดแรงและหมดความรู้สึกไป....
ผมตื่นมาในตอนเช้ารู้สึกปวดตัวปวดกระดูกไปหมด เจ้าคมมาเคาะเรียกผมไปออก วิ่งตอนเช้าตรู่เหมือนทุกวันที่ผมเร่งฟิตตัว เอเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ผมบอกเจ้าคมให้รอแล้วไปอาบน้ำเรียกสติ สร้อยคงช๊อทผมจนสลบแล้วลากเข้ามา นอน เฮ้อเสียท่าอีกแล้ว แต่เอาไว้จัดการทีหลัง ตอนนี้เร่งจัดการเรื่อง ไอ้กำนันเม้งก่อน ผมแต่งชุดจ๊อกกิ้งออกมาจากห้องเจอสร้อยเดินผ่าน แหมทำ เนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนเดิม ร้ายจริงน๊ะ แม่ยายคนสวย...
ที่สนามโรงเรียน ผมมาวิ่งเอากำลังโดยมีเจ้าคม ครูยอดธง และไอ้จุ๋มจิ๋มคอยเทรน ผมจบการฝึกรอบเช้าและมาล้างหน้าล้างเหงื่อที่ก๊อก น้ำ เหมยลี่ก็ขี่มอร์เตอร์ไซร์มาจอดข้างๆ วันนี้เป็นวันเสาห์เลยไม่มีการส อน "ลี่มาหาพี่แล้วพ่อไม่ว่ารึ"ผมถามหลังชวนเธอมานั่งที่ม้าหินอ่อนหลังอาคาร สอน "ว่าก็จะมา ใครจะห้ามใจลี่ได้" โฮ้ะ...เล่นเสียซึมเลย "ทำไมพี่กับเตี๋ยมีอะไรกันหรอ ถึงอาฆาตจองเวณกันมายาวนานขนาดนี้ ตั้งแต่ ลี่จำความได้ พี่กับเตี๋ย ก็ทะเลาะกันมาตลอด" ผมอึ้งตอบไม่ถูก เอมันเริ่มตอนไหนหนา..."เรื่องมันยาว...ยาวมาก เล่า3วัน3คืนก็ไม่จบ เอาเป็นว่าพี่กับเตี่ยลี่ไม่มีวันญาติดีกันได้หรอก" สาวหมวยก้มหน้าท่าทางเศร้าซึม"แม้นแต่ความรักของลี่ ก็ไม่อาจหยุดความบาดหมางครั้งนี้ได้รึพี่..." อ้าวทำไมพูดอย่างงั้น "ลี่อย่าพูดอย่างนั้น ใครได้ยินมันไม่งามน๊ะ"สาวหมวยเงยหน้าตาแดงๆ"ได้ยิน แล้วไง ก็ลี่เป็นเมียคนนึงของพี่แล้วน๊ะ หรือพี่คิดเล่นๆกับลี่เพื่อล้าง แค้นเตี่ยลี่ พี่ไม่จริงจังกับลี่เลยใช่ไหม ถ้าจะทำอย่างงั้นก็ได้ แล้ว เตรียมตัวไปงานศพลี่ได้เลย ลี่ยอมเป็นเมียน้อยได้ แต่ไม่ยอมถูกทิ้งแล้ว ต้องไปมีผัวใหม่เป็นคนที่2หรอก" เอาแล้วไงเป็นเรื่องแล้วกู สาวหมวยเอาจริง กูไม่น่าหลงกลอารมณ์ตัวเอง เลย แล้วถ้าต้องรับสาวหมวยเป็นเมียอีกคน แล้วสร้อยล่ะ แล้วโสภาล่ะ แล้วไอ้กำนันเม้งล่ะ แล้ว...ตัวกูล่ะ ตายแล้วนี่แหละเขาเรียกว่าทำอะไรไม่ รู้จักคิด.หน้าคิดหลังให้รอบคอบก่อน.."เอ่อ..ลี่เดี๋ยวค่อยๆพูด คิดดีๆ ลี่ยังสาวยังสวย พี่นะ แก่ก็แก่ รุ่นเดียวกับพ่อลี่เลยน๊ะ ไม่อายรึถ้ามีผัวแก่น๊ะ แล้วเป็นเมียน้อยอีก ..คิดดีๆ เลิกกันตอนนี้ก็ยังทันและยังไม่สายน๊ะ.."สาวหมวยหน้าแดงด้วยความโกทธ" อ้าว...พี่พูดหมาๆแล้วไง ได้ลี่แล้วก็จะทิ้งหรอ เห็นลี่เป็นอะไรนึกอยากก็ มาหา พอหายอยากก็ทิ้งขว้าง ลี่ไม่ยอมให้ใครกินฟรีหรอก เรื่องนี้ยาว แน่ ลี่ไม่ได้ใครก็อย่าหวังว่าใครจะได้เลย"เอาแล้ว เรื่องยาวอีก แล้ว เหมือนตอนโสภาเลย นี่ชีวิตผมมันจะดำเนินต่อไปทางไหนอย่างไร โอ้ย... ยุ่งอีกแล้ว"ไว้หลังวันที่5เราค่อยมาคุยกัน ว่าจะเอาอย่างไง แต่อยากให้นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่พี่กับเตี๋ยจะทะเลาะกัน อีก ถ้าลี่ไปอยู่กับพี่ เตี๋ยคงไม่กล้ามาหาเรื่องพี่แน่ แต่พี่อย่าไปหา เรื่องเตี๋ยอีกล่ะกัน..." โถเด็กหมวยน้อย..เอย...นี่ไม่ใช่จุดจบแต่เป็นจุดเปลี่ยนของศึกจองเวณระหว่าง ผมกับไอ้กำนันเม้งเลยล่ะ ถ้ามันรู้ผมจิ้มลูกมัน รับรองมันต้องกลายเป็นอภิมหาสงครามและมีถล่มกันด้วยอาวุสงครามแน่ เลเวน ความรุนแรงจะเข้มข้นระดับเทพเลย...
ผมนั่งก้นหน้าหัวมึนตึบ "เอาอย่างนี้ ลี่ พี่ว่าเรื่องของเราพี่ขอเวลาหน่อยน๊ะ เพราะโสภาคงไม่ยอมง่ายๆแน่ พี่ จะค่อยๆพูด และไอ้เม้งเอ้ย..เตี๋ยของลี่ก็คงไม่ยอมและไม่ฟังอะไรง่ายๆเช่น กัน เอาไว้หลังการชก แล้วพี่จะค่อยๆพูดกับทั้งสองฝ่ายน๊ะ" ผมขอยืดเวลาไปก่อน สาวหมวยวิ่งมากอดผม"พี่ ลี่รักพี่จริงๆน๊ะ ตั้งแต่ลี่อายุ13แล้ว พี่เป็นคนเดียวที่ลี่เห็นว่าหล่อ และอยู่ในใจลี่มาตลอด แต่ติดที่เตี๋ยไม่ถูกกับพี่ ลี่รอจนลี่โตเป็น สาว บรรลุนิติภาวะแล้วแล้วจึงตัดสินใจยอมเป็นเมียพี่ แม้นจะเป็นเบอร์2ก็ ตาม และไม่สนว่าเตี๋ยจะว่าอย่างไงก็ตาม"ผมห่อเหี่ยว คอแห้ง รู้สึกตัวเองแก่ไปราวๆ60ปีเห็นจะได้...
ระหว่างนั่งหน้าแก่อยู่นั้น ผมก็กำชับสาวหมวย"อย่าเพิ่งให้ใครรู้เรื่องของเราน๊ะ เวลานี้ยังไม่เหมาะ ไม่ควรให้ใครรู้ ความสัมพันธ์ของเรา" สาวหมวยกอดผมแน่น ใบหน้าเปื้อนยิ้ม"รับรอง ลี่จะเก็บไว้ให้สนิท แล้วเมื่อถึงเวลา พี่อย่าทำให้ลี่ผิดหวังน๊ะ"ผมกุมมือเรียวขาว ตอบเสียงเหมือนจะร้องไห้"จ้า...พี่จะไม่ทำให้ลี่ผิดหวังถ้าไม่จำ เป็น..แล้วอย่าให้ใครได้รู้เด็ดขาดเลยน๊ะตอนนี้" แต่ผมต้องเย็นหลังวาบ เมื่อมีเสียงที่คุ้นเคยที่ไม่ใช่เสียงของสาวหมวยตอบ สวนมา"ขอโทษที่น๊ะที่บังเอิญ ฉันผ่านมาได้ยิน แล้วได้รู้ด้วย" โอ้วนรกแตกมาตอนไหนไม่มา ดันมาเอาตอนนี้แล้วมาทำไม...สร้อย....ผมอยากจะละลายหายตัวไปไหนก็ได้ในตอน นี้เลย เรื่องใหญ่และยาวล่ะครับงานนี้ ชีวิตของผมคงเหลือไม่เท่าเดิมเป็น แน่แท้....แต่ต้อง...โปรดติดตามตอนต่อไป....


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น