วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เพื่อนหญิงคนพิเศษ




 ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมกำลังเซ็งแฟนคนโตนิดหน่อยครับ    หลังจากออกรอบวันนั้นเธอก็ขอพักเรื่องสวิงใว้ก่อน ไม่คุยโต้ตอบอะไรทั้งนั้น  เซ็กซ์ของเราก็เลยกลับเข้าสู่โหมดเดิมๆ อีกครั้ง  เซ็กซ์ที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เรื่อยๆ เอื่อยๆ  ทำให้ผมรู้สึกจำเจและภาพตัวเองกำลังมีเซ็กซ์กับแฟนคนเล็กและกิ๊กคนอื่นๆ ก็กลับเข้ามาในหัวผมอีกครั้ง   สำหรับเซ็กซ์กับระหว่างผมกับกิ๊กที่ผ่านมานั้น  มักเป็นเซ็กซ์แบบฉาบฉวย ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปไม่มีอะไรผูกมัด  ผมจึงไม่ได้เขียนถึงเท่าไร  แต่บล็อกนี้ผมอยากเล่าเรื่องราวของกิ๊กผมคนนึง  เธอชื่ออ้อครับ   อ้อ เป็นเพื่อนหญิงต่างห้องที่ผมเคยจีบสมัย ม.ปลายครับ   เธอเป็นคนที่สวยอันดับต้นๆ ของโรงเรียนในสมัยนั้นเลยนะ  เราสนิทกันพอสมควรครับ  ผมตามจีบตั้งแต่ ม.4 จนถึง ม.6 แต่ก็ไม่ได้แอ้มซักที  (ตอนนั้นประสบการณ์ยังน้อยครับ )  พอเรียนมหาลัยเราก็ค่อยๆ ห่างกัน จะมีเจอกันบ้างแต่ต่างฝ่ายต่างก็มีแฟน เลยจะเป็นประมาณเพื่อนกันมากกว่า      พอถึงวัยทำงานเราก็ห่างหายกันไปตามวิถีของตัวเอง  กระทั่งปี 2556 เราก็ได้เจอกันอีกครั้ง  ต้องขอขอบคุณ Facebook ครับ  ที่ทำให้เรามาเจอกันในวัยสามสิบกว่า หลังจากไม่ได้เจอกันมาเป็นสิบปี     การนัดเจอพูดคุยกันครั้งที่ 2 ของเรา  จบลงด้วยความประทับใจบนเตียง   และผมก็รู้สึกว่าผมได้ทำสิ่งที่ค้างคามาสิบกว่าปีได้สำเร็จเสียที      
อ้อเป็นคนเชื่อเรื่องดวงเหมือนผู้หญิงไทยหลายๆ คนครับ    ก่อนที่เราจะได้นัดเจอกันครั้งแรก  มีหมอดูทำนายว่าเธอจะมีเพื่อนต่างเพศที่เกิดปีนักษัตรเดียวกันเข้ามาในชีวิต  เขาไม่ใช่คู่ชีวิตแต่จะเป็นมิตรแท้ที่คอยเกื้อหนุน   แล้วเผอิญเพื่อนผมมันตั้งกลุ่มเพื่อนม.ปลายขึ้น  ก็เลยได้เจอและส่งข้อความสั้นๆ ทักทายกัน   แต่พอได้คุยกันต่างฝ่ายก็ต่างรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกครับ  ผมโชคดีที่มาถูกเวลาและเธอก็เชื่อว่าผมคือคนที่หมอดูพูดถึง    และหลังจากนั้นถ้ามีโอกาสไปทำงานแถวๆ โซนจังหวัดที่เธออยู่ผมก็จะแวะไปหาเธอ   ถ้าสะดวกและว่างตรงกันความมันส์ก็เกิดขึ้นเสมอครับ  เราคุยกันตรงไปตรงมาแบบคนโตๆ กันแล้วคุยกัน  เข้าใจและรู้ทันกันหมด  แต่เราก็ใว้ใจและให้เกียรติกัน รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาที่ดีต่อกันในหลายๆ เรื่อง   ผมจึงค่อนข้างสบายใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ระหว่างเราสองคน
เธอเคยบอกผมว่าคุยกับผมแล้วสบายใจ  ได้นอนกับผมก็สบายตัว (ผมนวดให้เธอด้วยครับ)  เธอสนิทและใว้ใจผมมาก  เธออยากมีใครซักคนที่คุยได้ทุกเรื่องแบบนี้  เวลาดื่มด้วยกันเธอก็มักเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตเธอให้ฟัง ซึ่งก็มีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับตัวเธอมากมาย     แม้อ้อจะเป็นผู้หญิงประสบความสำเร็จทั้งเรื่องเงินเรื่องงาน  แต่ในเรื่องของความรักเธอล้มเหลวครับ  แต่งงานไป 3 ครั้งก็ได้เลิกทั้ง 3 ครั้ง  ซึ่งตอนนี้เธอแฮปปี้กับความโสดครับจึงไม่คิดคบหาใครจริงจังอีกแล้ว   ส่วนเรื่องเซ็กซ์ถ้าไม่มีใครจริงๆ อย่างมากก็ซื้อกินเอา  รูปหล่อกล้ามใหญ่อยากได้ก็จ่ายเงิน เอากันเสร็จก็จบกันไป เธอบอกว่าแบบนี้สบายใจกว่า   เธออาจด้านชาเรื่องความรักครับแต่เรื่องเซ็กซ์นี่เธอร้อนแรงพอตัวเลย   เธอไม่หลงเหลือคราบของเด็กสาวที่ขะมักเขม้นเตรียมสอบเอ็นทร้านท์ในสมัยนั้นแม้แต่น้อย    เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยนครับ  จากดาวโรงเรียนที่จริงจังกับการสอบเข้ามหาลัยที่ไม่เคยเห็นค่าในตัวผม    กลายมาเป็นผู้หญิงขี้เหงาที่ดีใจทุกครั้งที่ผมบอกว่าจะแวะเวียนไปหา     สาวกระดังงาลนไฟวัย 35 -36 ว่าไปแล้วประสบการณ์สูงพอตัวเลยนะครับ  ถ้าเมาได้ที่แล้วเรามักสลับกันเล่าเรื่องเซ็กซ์แบบดาร์กๆ ของตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง  ซึ่งเธอก็ชอบฟังมากครับโดยเฉพาะเรื่องระหว่างผมกับแฟนคนเล็ก   เรื่องที่เธอเล่าส่วนใหญ่จะเป็นประสบการณ์โดนจีบโดนหลอกฟัน  แอบสามีไปหากิ๊ก  เป็นกิ๊กกับแฟนคนอื่น  หรือแม้แต่วันไนท์แสตนด์ รวมทั้งซื้อบริการบาร์โฮส  ซึ่งเรื่องพื้นๆ พวกนี้ผมขอข้ามนะครับ
ที่ผมจะเล่าก็คือ  เรื่องที่เธอเสียทีหมอดู ซึ่งที่จริงเรื่องประมาณนี้ผมคิดว่าจะมีแค่ในหนังหรือเห็นตามข่าวมากกว่า เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไกลตัว และเป็นเรื่องของคนงมงายที่ขาดที่พึ่งทางใจ   หมอดูที่ว่าเธอกับเพื่อนชอบชวนกันไปดูดวงอยู่บ่อยๆ  เพราะทั้งคู่ก็มีปัญหาเรื่องสามีเหมือนกัน (เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อนครับตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้หย่ากับสามี )   หมอดูแนะนำให้ทำเสน่ห์เพื่อตามจิตคนรักให้คืนกลับมา  แต่เพื่อนของเธอไม่ค่อยโอเคก็เลยชวนเธอกลับ  แต่วันรุ่งขึ้นเธอกลับแอบไปหาหมอดูที่นั่นคนเดียว  บ้านหมอดูก็เป็นบ้านแบบทาวน์เฮาส์สองชั้นธรรมดาๆ นี่แหละครับ (ไม่ใช่บ้านไม้มีใต้ถุนแบบโบราณตามที่เคยดูในหนังนะครับ)  ชั้นล่างมีโต๊ะเก้าอี้ใว้ให้นั่งดูดวง มีไพ่ยิปซี รูปภาพเกี่ยวกับโหรดวง ราศีต่างๆ   ชั้นสองมี 2 ห้อง  ห้องนึงมีโต๊ะหมู่บูชา เครื่องสักการะ เครื่องรางของขลัง หุ่น สายสิญจน์  ธูปเทียน ด  ส่วนอีกห้องปิดใว้น่าจะเป็นห้องนอน
เธอเล่าว่าไอ้อาจารย์หมอดูมันทำตัวน่าเชื่อถือจนเธอคล้อยตาม และตามขึ้นบันไดไปแบบไม่ทันได้ระวังอะไรซักนิดเลย ทั้งที่อยู่ตามลำพังกันแค่สองคน    มันให้ไปเปลี่ยนใส่ผ้าถุงเธอก็ทำตาม (สมควรแล้วล่ะครับ ก็จิตใจเธออ่อนแอจนขาดสติซะขนาดนี้)   การทำพิธีเริ่มจากพรมน้ำมนต์ สวดคาถา จากนั้นก็ให้เธอนอนลงแล้วก็นำเครื่องรางอะไร ซักอย่างมาวางบนหน้าอก  และตรงจิ๊มิน้อยของเธอ   เธอก็นอนนิ่งหลับตาฟังเสียงท่องคาถาและเพลงบทสวดต่อ  พักนึงหมอดูหมอดูก็ให้เอาผ้าถุงออกจะลงอักขระน้ำมันให้  เธอบอกผมว่าตอนนั้นเธอเชื่อสิ่งที่มันทำให้เอามากๆ เพราะมันวางตัวเคร่งขรึมดุเสียงดังไม่มีอาการสนใจในเรือนร่างเธอแม้แต่น้อย  เธออยากให้สามีกลับมารักกันเหมือนเดิมจึงยอมถอดผ้าถุงออก  พอเอามือปิดจิ๋มปิดนมใว้ก็โดนดุเสียงดังอีกจึงจำใจนอนแผ่หราอยู่แบบนั้น    แล้วเครื่องรางถูกกลับนำมาวางที่เดิมอีกครั้ง จากนั้นก็เริ่มบทสวดและลงน้ำมันเขียนอักขระตามร่างกายไปจนถึงการใช้ปลัดขิกคลึงไปตามส่วนต่างๆ  ซึ่งก็เป็นเวลานานพอสมควร ทำเอาเธอเคลิ้มแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น  จนมาสะดุ้งเมื่อโดนแท่งปลัดขิกรุกล้ำเข้ามาในร่องหี  เธอก็ตกใจ จะให้หยุด  แต่มันไม่หยุด บอกว่ายังไม่เสร็จพิธี  พอจะลุกขึ้นถอย มันก็ตามมาขึ้นคร่อม  กอดจูบ ดูดคอ ดูดนม  จนเธอต้องยอมจำนนไปตามสภาพ
 “ จะเรียกว่าโดนข่มขืนได้มั้ยเนี่ย ”  
“ ก็ไม่เชิง ไม่ได้เต็มใจ   แต่ก็กลัว แถมสู้แรงไม่ไหวก็ต้องยอมมันไป ”  
“ เสร็จมั้ยล่ะวันนั้น ”(ผมก็ช่างถาม) 
“ อืม ” 
“ กี่ครั้ง ” 
“ ก็ครั้งเดียวสิ แค่นี้ก็ออกมาเกือบไม่ได้ ”
“ มันใส่ถุงมั้ย แตกนอกแตกใน ”  
“ ถามเยอะไปแล้วนะแก ” 
“ บอกหน่อยน่า คำถามสุดท้ายแล้ว ”  
“ กินยาคุมฉุกเฉิน ตรวจเลือดแล้วไม่เป็นไร พอใจหรือยัง!! ”
“.....คร๊าบบบบบ  พอใจแล้วจ้า..!!!!!!!!!!....”
ใว้ว่างๆ จะมาเล่าเรื่องของเธออีกครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น