วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สาวใหญ่ร่านสวาทตอนที่ 3





สามีถามฉันเรื่องสันช่างในร้านที่มาจีบฉัน
"คิดยังไงกับไอ้สัน"

ฉันตอบ
"ก็ดี"

สิงห์นิ่งครู่นึง เริ่มยิ้มนิดๆ แล้วพูดว่า
"ถ้าอยากเอากับมันก็เอาได้นะ ไม่ห้าม"
 
          ฉันฟังแล้วก็ได้แต่นิ่ง... จริงๆถ้าพูดถึงสัน รูปร่างหน้าตาเขาสเป็คฉันก็จริง เป็นครั้งแรกที่เจอถูกใจขนาดนี้ แถมยังชอบเอาใจฉันอีก เอาจริงๆก็แอบหวั่นไหวอยู่เหมือนกัน เวลาเครียดๆมีปัญหาที่ทำงาน มีคนมาคุย มีคนมาคอยช่วยเหลือ แต่ใครจะยอมสวิงจริงๆ มันจะเป็นไปได้เหรอ ให้ฉันเอากับคนอื่นในขณะที่สามีนั้งดู แค่คิดก็ผิดแล้ว หรือต่อให้แอบไปเอากันก็เถอะ มันจะทำให้ชีวิตยุ่งเหยิง เวลาทำงานจะมองหน้ากันยังไง ให้มีผัวสองคนในเวลาเดียวกัน แล้วเราสามคนจะอยู่ในสภาพแบบไหน แล้วถ้าคนอื่นรู้จะเป็นยังไง ถึงฉันจะรู้สึกดีกับสัน แต่จะให้ไปเอากันเลย มันเป็นไปไม่ได้หรอก ฉันก็ยังคงตั้งกำแพงกับสัน จะไม่ยอมพูดคุยแบบสนิทเด็ดขาด เพราะฉันก็ยังไม่รู้จักเขาดี ไม่รู้เขาหวังผลอะไรรึเปล่า ที่สำคัญฉันกลัวจะแพ้ใจตัวเอง

          ไม่นานก็ผ่านไป จนถึงอาทิตย์ที่สองของการทำงาน ฉันเริ่มทำงานคล่องขึ้น ก็เลยเครียดน้อยลง มีเวลาคิดอะไรๆมากขึ้น พอมีเวลามากขึ้น ก็เงี่ยนขึ้นมาทันที ที่ผ่านมาเครียดเลยลืมเรื่องพวกนี้ไป

พอดีนึกเรื่องแม่บ้านคนเก่าขึ้นมาได้ ฉันเลยถามสิงห์ว่า
"เอ่อ คือวันนี้พี่วุดเขามาพูดเรื่องแปลกๆน่ะพี่ เรื่องแม่บ้านคนเก่าที่ลาออกไป"
"พี่รู้เรื่องอะไรบ้างไหม พี่วุฒิพูดเรื่องนี้แล้วดูเขากังวล"

สิงตอบกลับมาว่า
"ไม่รู้เหมือนกัน ได้ข่าวว่าลาออกไปกระทันหัน"

"ทำไมเขาถึงออก"

"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่วุฒิเขาก็เคยเปรยๆเรื่องนี้ตอนกินเหล้ากัน บอกให้ระวังเมียเอาไว้ด้วย ดูแลเมียให้ดี"

"ฉันพูดออกไปด้วยความแปลกใจ"

"เขาก็บอกพี่แบบนี้เหมือนกันเหรอเนี่ย"

สิงห์บอก
"อย่าไปสนใจเลย เขาก็กังวลไร้สาระไปงั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอก คนกันเองทั้งนั้น"

          ฉันฟังแบบนั้นก็เก็บความกังวลเอาไว้ในใจ ไม่รู้พี่วุฒิเขาบอกให้ฉันระวังอะไร หรือจะให้ระวังนายสันคนที่จีบฉันออกนอกหน้า แต่สันกับพี่วุฒินอนห้องเดียวกันที่ห้องพักคนงาน ดูท่าทางสนิทกัน ส่วนนายทศช่างอีกคนก็มีลูกมีเมียแล้ว สามีเจ๊เอ๋ก็ไม่อยู่ร้าน รัตคนงานพม่าก็พูดกันไม่รู้เรื่อง ที่ฉันควรระวังที่สุดคงเป็นเจ๊เอ๋นี่แหละ ใช้งานฉันหนักยังกับอะไรดี คนอื่นๆในร้านก็ดูปกติดี ไม่น่าจะมีอะไร

          คืนนั้นฉันหากางเกงในตัวลูกไม้สีดำของฉันไม่เจอ ฉันถามสิงห์ว่าพอจะเห็นไหม เขาบอกไม่รู้ แต่มันจะหายไปไหนได้ ฉันเลยคะยั้นคะยอถามเขาไปเรื่อยๆ เขาจึงยอมบอกในที่สุด ว่าเขาเอาไปเองล่ะ เดี๋ยวจะเอามาคืน เอาไปดมเล่นเฉยๆ ตอนคิดถึงเมีย เขาแก้ตัวข้างๆคูๆมาก ใครเชื่อก็บ้าแล้ว ฉันเองก็อยู่กับเขา ขอแค่เอ่ยปากว่าอยากดมหรืออยากเลีย ฉันก็แทบจะแบะจิ๋มให้อยู่แล้ว แต่นี่มาขอฉกกางเกงในฉันไป ไม่รู้ว่าแอบเอาไปทำอะไร ปกติเขาก็ขอดมจิ๋ม เลียจิ๋มฉันประจำ เขาก็บอกว่าไม่ต้องห่วงไม่เอาไปให้ใครหรอก

          มาทำงานวันถัดมา วันนี้ก็เหมือนอย่างเคย ฉันมีอารมณ์เงี่ยนอย่าระงับไม่ได้ เริ่มคิดเรื่องอย่างว่าทั้งวัน ปกติก็เป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะทำอะไร ก็หมกมุ่นคิดแต่เรื่องนี้ ทำอะไรก็หงุดหงิดไปหมด เวลาสามีไม่ทำการบ้าน ซึ่งฉันอดมาหลายสัปดาห์แล้ว พักหลังรู้สึกเหมือนตัวเองเก็บกฏเรื่องอย่างว่ามาก... คิดถึงดิลโด้อันนั้น ฉันยังเก็บเอาไว้ ยังไม่ได้ทิ้ง ฉันยังไม่รู้เลยว่าใครส่งมา... น่าจะเป็นคนในร้านนี้แหละ ฉันเคยรู้มาบ้าง ว่าดิลโด้เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้หญิง แต่การที่เอาดิลโด้จากคนแปลกหน้ามาใช้ ฉันยังตัดสินใจใช้มันไม่ลง

          ช่วงหลังนายสัน คนที่ชอบมาพูดจาจีบฉัน ยังคงจีบฉันต่อไป นี่ก็ผ่านมาสองอาทิตย์แล้ว ไม่เกรงใจสามีฉันเลย แถมพักหลังๆยังมาแตะเนื้อต้องตัวแบบเนียนๆ ชอบมานั้งไกล้ๆ สัมผัสเนื้อตัวฉันแบบเนียน ซื้อข้าวมาเลี้ยงบ้างล่ะ เอาอกเอาใจบ้างล่ะ แซวบ้างล่ะ เขาก็ไม่ละความพยายามจริงๆ แต่ฉันไม่สนใจเขาหรอก ฉันมองว่าเขาเป็นแค่เด็ก และฉันไม่คิดจะนอกใจสามีอีกแล้ว แค่นี้ชีวิตก็วุ่นวายพอแล้ว

          ระหว่างทำความสะอาดหน้าร้าน นายวุฒิช่างใหญ่ของร้าน ที่มักจะชวนฉันคุยอยู่เสมอ ท่าทางเขาเป็นคนดีทีเดียว เขามาพูดกับฉันอีกครั้ง

"ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม"
พี่วุฒิถามฉันด้วยความเป็นห่วงอย่างเคย

"หมายถึงเรื่องสันน่ะเหรอคะ"

พี่วุฒิตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"ไอ้สัน มันก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร มันเป็นคนเจ้าชู้แบบนี้แหละ"

        แสดงว่าสันเคยเป็นหน้าม่อ ชอบหยอดไปเรื่อย ไม่ได้จีบฉันคนเดียวแน่ๆ พอพี่วุฒิพูดแบบนี้ ฉันเลยรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ ไม่รู้ว่าทำไม ยังกับว่าฉันหึงเขายังงั้นแหละ

พี่วุฒิพูดต่อ
"แต่ยังไงอยู่ร้านนี้ก็ระวังเนื้อระวังตัวเอาไว้ ถ้ามีอะไรก็มาบอกพี่"

          ฉันถามพยายามถามต่อไป แต่ดูเหมือนเขากั๊กๆ กระอักกระอ่วน ฉันจึงไม่ถามต่อ กะว่าจะถามเรื่องแม่บ้านคนเก่าซักหน่อย แต่เอาเป็นว่าฉันจะระวังตัว วันนี้สิงห์สามีฉันไม่อยู่ บอกว่าจะไปต่างจังหวัดสักวันสองวัน เพราะหลานทำเรื่อง ฟันผู้หญิงแล้วทิ้ง ญาติรับมือไม่ไหว ต้องให้สิงห์ไปช่วยเคลียร์ ฉันก็ไม่แปลกใจที่หลานมันจะเป็นแบบนั้น เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ

         ถึงเวลาเที่ยงวัน ระหว่างฉันกำลังทำกินข้าวเที่ยงอยู่คนเดียว ฉันชอบมานั้งกินคนเดียวเวลาสิงห์ไม่อยู่ ไม่อยากไปสุงสิงกับพนักงานผู้ชายคนอื่น จะกินกับพนักงานหญิงก็ไม่ได้ เพราะพนักงานหญิงกินข้าวกับเจ๊เอ๋ ฉันเลยอึดอัด ไม่อยากไปร่วมวงด้วย เพราะเจอหน้าฉันเมื่อไหร่ เป็นต้องบ่น ต้องดูถูกตลอด

สันก็เข้ามาทักฉัน มาขอนั้งกินข้าวด้วย แล้วก็เริ่มพูด

"ไงพี่หญิง หิวเหรอ"

"แล้วที่กินอยู่นี่ไม่เรียกว่าหิวเหรอ" ฉันตอบ

"แล้วพี่สิงห์ไปไหนเนี่ย ปล่อยให้พี่นั้งกินคนเดียว"

"พี่กินคนเดียวได้" ฉันพูดไม่มองหน้าเขา

อยู่ดีๆเขาก็พูดประโยคนี้ขึ้นมา ทำให้ฉันชะงัก
"ผมเป็นห่วงพี่หญิงไม่มีคนดูแล"

เขาพูดประโยคนี้ ฉันรู้สึกอบอุ่นเล็กๆ บอกไม่ถูก ทุกครั้งที่เขาพูดทำนองนี้ ฉันไม่ไว้ใจตัวเองเลย ฉันจึงตั้งใจคุยกับเขาแบบตั้งกำแพง
"แค่นี้ไม่เห็นต้องมาดูแลเลย พี่โตแล้วนะ" ฉันพูด

"คนน่ารักแบบพึ่หญิง ใครๆก็อยากดูแล"
เขาพูดประโยคนี้ ฉันพูดไม่ออก ก้มหน้าเขินทำอะไรไม่ถูก

เขาเห็นฉันเงียบ เขาพูดต่อทันที
"ผมเห็นพี่แล้วอยากกอดจัง อิจฉาพี่สิงห์"
"ได้ข่าวมีลูกค้าที่เป็นตำรวจมาชอบพี่หญิง ผมหวงนะ"

"เธอมีสิทธิ์อะไรมาหวง เป็นผัวพี่ก็ไม่ใช่"

"ผมห่วงพี่หญิงมากกว่าพี่สิงห์อีก"
"ถ้าตำรวจนั่นจีบพี่หญฺิงจริงๆ สงสัยคงเป็นรักสี่เส้า"

เขาปากกล้ามาก เพิ่งเคยโดนจีบแบบนี้ แต่ด้วยความที่เป็นผู้ใหญ่กว่า ฉันต้องวางตัวให้ดี จะให้อดีตซ้ำรอยไม่ได้
"สี่เส้าอะไร เขามีแต่สามเส้า แล้วพี่ก็มีผัวแล้วค่ะ เลิกพูดแบบนี้ได้แล้ว"
"นี่พอเลยๆ ไปทำงานเลย"

"พี่หญิงสำคัญกว่างาน"
"พี่มีงานอะไรไหม เดี๋ยวผมช่วยทำ"

"ไม่ต้องหรอกงานของพี่ แค่นี้พี่ทำเองได้"

"ผมไม่อยากให้พี่หญิงทำงานเลย เก็บแรงไว้คิดถึงผมดีกว่า"

เขาปากหวานจริงๆ
ฉันยอมรับนะว่าแอบหวั่นไหวกับคำพูดของเขา ลึกๆฉันเขินไม่รู้จะพูดอะไร ต้องรีบหาทางตัดบท
"แล้วอู้งานแบบนี้เจ๊เอ๋ไม่ว่าเหรอ"

"ก็คงว่าแหละ ดันแอบมาจีบสาว"

"พอๆ พอแล้ว เลิกจีบพี่ได้แล้ว"

เขาหัวเราะ

          เขาไหลไปได้เรื่อย ฉันทั้งตื่นเต้นทั้งชอบทั้งกลัว เพราะคำพูดของเขากระตุ้นฉันถูกจุดเสมอ เขารู้ว่าผู้หญิงแบบฉัน ต้องใช้วิธีจีบแบบไหน เหมือนเขาอ่านใจอ่านสีหน้าอ่านท่าทางฉันออก แถมยังจีบฉันไม่ให้ฉันอึดอัดด้วย และยิ้มให้ฉันเสมอ ฉันจึงตัดบทสนทนา เลิกกินข้าว บอกเขาว่าต้องรีบไปทำความสะอาดห้องคมลูกสาวเจ๊เอ๋ ฉันจึงรีบเดินหนีไปเลย ลึกๆฉันกลัวจะเผลอใจ แล้วมีอะไรๆเลยเถิด ก็เพราะเจอเขากระตุ้นทุกวัน

ช่วงบ่ายวันนั้น น้องภา พนักงานบัญชีหญิงในร้านเริ่มมีท่าทางแปลกๆ เขาพูดกับฉันว่าอยากจะลาออกจากที่นี่...

"พี่หญิง ภากะว่าจะลาออกจากที่นี่แล้ว"

"อาวทำไมล่ะภา เกิดอะไรขึ้น"

"แค่อยากออกไปหางานใหม่ๆทำดูบ้างน่ะค่ะ"

"เห็นภาทำที่นี่ก็ดูมีความสุขดีไม่ใช่เหรอ แล้วจะออกไปทำไมล่ะ แล้วเจ๊เอ๋รู้รึยัง"

"แค่ไม่สบายใจน่ะค่ะ เลยกะว่าจะลาออก ยังไม่ได้บอกเจ๊เลย"

"ทำไมล่ะเกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะเจ๊เอ๋รึเปล่า"

"ไม่ใช่หรอกพี่ นู๋อยู่กับเจ๊มานานจนชินแล้ว"
   

          งั้นทำไมอยู่ดีๆเธอถึงอยากออกกระทันหันล่ะ หรือจะเป็นเพราะสัน ฉันเลยตัดสินใจถาม "เพราะสันหรือเปล่า" ภามองหน้าฉันแล้วหัวเราะ "อย่างพี่สันหนูไม่เอาหรอก เขาชอบพี่ไม่ใช่เหรอ" ภาแซวฉัน ฉันเลยบอกนี่ไม่ต้องมาแซวเลย แล้วก็พูดหยอกเล่นกัน แต่เธอดูเครียด และอิดโรยมาก ผิดจากวันแรกๆที่ฉันมาทำงาน ตอนนั้นเธอดูร่าเริงดี ฉันสงสัย ว่าสาเหตุที่เธออยากลาออกกระทันหันคืออะไร จะเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องแม่บ้านคนเก่ารึเปล่า เพราะรายนั้นก็ออกกระทันหัน ก่อนฉันเข้าทำงาน

ฉันไปถามนิด แม่บ้านผู้หญิงอีกคน ว่ารู้เรื่องที่น้องภาจะลาออกรึเปล่า
"นิดรู้เรื่องที่ภาจะลาออกรึยัง" นิดพูดสวนกลับมากระทันหัน "แค่พี่พิมพ์ยังไม่พออีกเหรอ"

ฉันถามต่อ "พิมพ์อะไรเหรอคะ"
นิดรีบตอบขึ้นมาทันที "เปล่าๆชื่อคนน่ะ ไม่มีอะไร ว่าแต่ภามันจะออกทำไม"
แล้วเราก็คุยกันต่อสัพเพเหระ แต่นิดพูดถึงคนชื่อพิมพ์ ใครคือพิมพ์... อยู่ดีๆเขาก็พูดขึ้นมาซะยังงั้น

          จากนั้นนิดบอกให้ฉันระวังตัวเอาไว้ นิดบอกว่าตัวเขาเองไม่เป็นไร เพราะเขาไม่ได้สวยอะไร แต่หญิงน่ะต้องระวังเอาไว้ ฉันถามว่าระวังใคร เขาก็อิดออด ไม่ยอมพูด อาการเหมือนพี่วุฒิเลย หรือจะเป็นคนที่เขาพูดถึงไม่ได้ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ฉันไม่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ร้านนี้มีอะไรแปลกๆจริงๆด้วย เมื่อสองเดือนก่อนแม่บ้านลาออกไป มาตอนนี้พนักงานบัญชีก็จะออกอีกคน แถมเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเฉพาะพนักงานหญิง... แถมหลายๆคนในร้าน ทั้งพี่วุฒิกับนิด ก็ดูเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง พอพี่วุฒิรู้ว่าภาจะลาออก เขาดูกังวลอย่างเห็นได้ชัด... ไม่พูดไม่จาอะไร

          ฉันเดาไปต่างๆนาๆ เรื่องนี้มันเกิดขึ้นจากอะไร จากใคร มีนต้องมีใครสักคนในร้านที่เป็นสาเหตุของเรื่องนี้ แต่จะเป็นใครล่ะ... แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับดิลโด้ที่ส่งมาให้ฉัน ร้านที่ดูสงบแบบนี้ เบื้องหลังมีอะไรอยู่กันแน่ อะไรคือสาเหตุ... ฉันเอาเรื่องที่ภาจะลาออกไปเล่าให้สิงห์ฟัง ถามว่าพอจะรู้อะไรบ้างมั้ย สิงห์ก็บอกว่า พักนี้เห็นภามีท่าทางแปลกๆ อาการเหมือนคนเพิ่งโดนปี้มา สามีฉันเวลาพูดเรื่องอะไรกัน มักจะลากเข้าเรื่องแบบนี้ได้ตลอด ฉันบอกเขาว่าอย่าล้อเล่น เอาดีๆสิ เขาก็บอกว่าจริงๆนะ เขาเอาผู้หญิงมาเยอะ ดูท่าทางน้องภาแว๊บเดียวก็รู้แล้ว ว่าท่าทางเหมือนคนอิดโรยจากการมีเซ็กส์... ฉันว่าไร้สาระ อะไรมันจะช่ำชองขนาดนั้น เห็นหน้าผู้หญิงก็รู้เลยเหรอเนี่ย ไม่ใช่ว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้องนะ แต่ก็ไม่น่าจะมี เพราะฉันก็อยู่ด้วยตลอดทั้งที่บ้านที่ทำงาน ไม่น่ามีเวลาไปอะไรแบบนั้น จนถึงขั้นต้องลาออก

          ฉันคิดว่าสันอาจจะเป็นต้นเหตุ เพราะเขาดูหื่นหน้าม่อที่สุด ฉันก็ไว้ใจสันนะ แต่ก็ลังเลอยู่เหมือนกัน เพราะพวกผู้ชายมักจะไว้ใจไม่ได้ ฉันไม่อยากตกเป็นเครื่องมือของใคร แต่แค่โดนสันเอา ก็ไม่น่าถึงขั้นต้องลาออกเลยนี่ คิดถึงคำพูดหลายๆคนที่บอกให้ฉันระวังตัวมากขึ้น ตอนนี้ฉันไม่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ได้แค่อยู่เฉยๆเท่านั้นเอง

          ระหว่างที่ทุกคนกำลังทำงาน ประมาณบ่ายโมง สิงห์มาถามฉันว่าบ่ายวันนี้ต้องไปทำความสะอาดห้องไหนบ้าง ฉันแปลกใจเล็กๆ ปกติไม่เห็นมาถาม อยู่ดีๆวันนี้เกิดอยากทำหน้าที่สามีที่ดีขึ้นมาเหรอ ฉันบอกว่าเดี๋ยวจะไปทำความสะอาดห้องพี่วุฒิ จะเอาเสื้อผ้าพวกเขาไปซักด้วย สิงห์ก็บอกว่าพอดีเลย ช่วยหาเสื้อยืดตัวสีเทาที่อยู่ในห้องพี่วุฒิแล้วเอามาให้หน่อย ไปถอดทิ้งไว้ห้องพี่เขาแล้วลืมเอาคืน ฉันถามว่าทำไมไม่ไปเอาเอง สิงห์บอกว่าตอนนี้กำลังยุ่งลูกค้าเพียบเลย ยังเหลืออีกสามคันยังทำไม่เสร็จเลยไม่รู้จะเสร็จทันภายในวันนี้เปล่า ฉันชะเง้อหน้าไปดูลูกค้าก็ไม่ได้เยอะอะไรเลย แต่หาก็หา แล้วเขาก็ไปทำงานต่อ

          ฉันเข้าไปทำความสะอาดห้องคนงานด้านหลังร้าน ซึ่งตั้งเรียงกันเป็นห้อง ตั้งแต่ห้องพักคนงานหญิง ห้องพักคนงานพม่า ฉันเดินมาจนถึงห้องพักของพี่วุฒิกับนายสัน ซึ่งสองคนนี้พักห้องเดียวกัน ภายในเป็นเตียงคู่ ของพี่วุฒิกับนายสัน ฉันหาเสื้อสีเทาที่สิงห์บอกให้หา แต่ก็หาไม่เจอ เอาไปซุกไปตรงไหนนะ ฉันเลยเริ่มค้นห้อง แล้วฉันก็นึกขึ้นมาได้ ว่าในห้องนี้จะมีเบาะแสอะไรเกี่ยวกับดิลโด้นั่นรึเปล่านะ ฉันเลยมองไปรอบๆห้อง เริ่มค้นไปเรื่อยๆ เผื่ออาจจะเจออะไรบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ระหว่างที่เก็บ กกน ของพวกเขาขึ้นมาใส่ตะกร้า อื้อหือ กลิ่นแรงจริงๆ พวกนี้ได้อาบน้ำกันบ้างหรือเปล่า กลิ่นแรงกว่าสามีฉันอีก กลิ่นของพวกเขาทำให้รู้สึกแปลกๆ แม้จะเหม็น แต่เป็นกลิ่นเหม็นที่กระตุ้นอารมณ์แบบแปลกๆ สักพักฉันได้สติ เลยรีบเอา กกน พวกเขาใส่ตะกร้า ก่อนที่ความคิดจะเตลิดไปมากกว่านี้ ต้องรีบหาเสื้อของสิงห์ แต่ฉันดันปวดฉี่ขึ้นมา เลยเข้าห้องน้ำในห้องนั้นซะหน่อย แล้วค่อยหาเสื้อต่อ

          เป็นครั้งแรกที่เข้ามาในนี้ โอ้โห มีกางเกงในกองอยู่ในห้องน้ำด้วย พวกนี้ท่าทางจะสะกดคำว่าวินัยไม่เป็น ฉันรีบไปนั้งถอดกางเกงออก ค่อยๆดึงกางเกงในลงแล้วนั้งฉี่ พลันหันไปมองบนเพดาน รู้สึกเหมือนมีรูบนเพดาน ฉันไม่รู้ว่ามันคือรูอะไร แต่ฉันเห็นแล้วรู้สึกกังวลใจนิดหน่อย แต่ช่างเถอะ เพราะตอนนี้ขอฉี่ก่อน ฉันฉี่แรงไปหน่อย ฉี่เลยพุ่งไปสัมผัสกับติ่งเข้า อูยย เสียวววว พอฉี่เสร็จ กะจะเช็ดซักหน่อย คือฉันเป็นคนที่ขนตรงนั้นดก แถมยังมีขนขึ้นบริเวณกลีบแคมอีก เวลาฉี่ก็ก็เลยต้องฉี่ผ่านหมอย มันเลยเลอะและติดอยู่ตรงขนหมอย ทุกครั้งฉันจึงต้องรีบเอาทิชชู่เช็ดก่อนใส่กางเกงใน แต่คราวนี้มองไปทางไหนก็ไม่มีทิชชู่ จะเอายังไงดี จะใส่กางเกงในซึ่งต้องเลอะแน่ หรือจะไม่ใส่ แต่คิดดูอีกที ขี้เกียจวุ่นวาย เลยกลั้นใจดึงกางเกงในขึ้นมาทั้งอย่างนั้น โอย แฉะจริง ไม่อยากคิดถึงกลิ่นเลยเวลาถอด จากนั้นจะเดินออกจากห้องน้ำ

          แต่ทันใดนั้น เหมือนมีคนเดินเข้ามาในห้อง ฉันแง้มไปดู เห็นสันเดินเข้ามาในห้อง แล้วรีบปิดประตูทันที นี่เขาเข้ามาทำอะไร ฉันก็เลยกำลังจะเดินออกไปจากห้องน้ำ แต่เห็นเขารีบดึงกางเกงลง ฉันผงะ รีบถอยเข้าห้องน้ำ ฉันแอบมองไปที่เขา เห็นเขาควักท่อนเอ็นออกมา เริ่มชักเบาๆ นี่แหละเรื่องที่ฉันไม่อยากเจอมากที่สุด ดันมาเจอจนได้ ตายแล้ว เพิ่งเข้ามาทำงานไม่ทันไร เจอดีซะแล้ว

           ท่อนเอ็นของเขาเท่าที่ฉันเห็นขนาดไม่ธรรมดาเลย แต่มองไกลๆมองไม่ถนัด ว่าขนาดแค่ไหน แต่ท่อนเอ็นดำมาก มันแข็งตั้งตระหง่าน หัวบาน แถมเอียงด้วย เขาครางดังมาก ปกติผู้ชายเวลาช่วยตัวเองครางดังขนาดนี้เลยหรือ เพราะตอนสิงห์ช่วยตัวเองโชว์ฉันเวลาอยู่ด้วยกัน ก็แค่อู๊ยซี๊ด ไม่กระเส่าขนาดนี้

          แต่ฉันจะมัวอึ้งไม่ได้ ตายจริง จะทำไงดี จะออกไปตอนนี้คงไม่ดีแน่ ออกไปจะพูดว่าอะไร ทำหน้ายังไง เลยคิดว่า เอาน่ะ แอบในห้องน้ำรอให้เขาเสร็จ ถ้าเขาเห็นฉัน คงแย่แน่ๆ เพราะเขาก็ชอบฉันอยู่ อยู่กันในห้องสองต่อสองแบบนี้ เขาอาจทำอะไรไม่ดีกับฉันก็ได้ ถึงจะเป็นตอนกลางวันก็เถอะ แล้วค่อยออกไปทีหลัง เขาค่อยๆรูดท่อนเอ็นของเขาขึ้นลงช้าๆ เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ยืนชักว่าวแบบนั้นไม่เมื่อยหรือไงเนี่ย ฉันเลิกดู แล้วมาแอบในห้องน้ำ ตั้งใจรอให้เขาออกไป ระหว่างรอฉันก็เอะใจ ตอนเขาเข้าห้องมา น่าจะเห็นรองเท้าฉันที่ถอดวางไว้หน้าห้อง หรือเขาเงี่ยนจนลืมดู หรือรู้ว่าเป็นรองเท้าฉัน รู้ว่าฉันอยู่ในห้องเลยตั้งใจเข้ามาเล่นอะไรพิเรน... ฉันสับสนทำอะไรไม่ถูก

          ผ่านไปสักพักเขาเริ่มหยุดคราง เขาน่าจะเสร็จแล้ว ฉันหวังว่าเขาจะเดินออกไป อย่าได้เข้ามาในห้องน้ำเลย ฉันนั่งในห้องน้ำภาวนาให้เขาออกไป แต่แล้วสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้น เขาเดินเข้ามาในห้องน้ำ พร้อมสภาพล่อนจ้อน ไอ้นั่นของเขาห้อยโทงเทง และมีคราบน้ำเงี่ยนไหลเยิ้ม

"เอ้าพี่หญิงมาทำอะไรในนี้"
เขาถามฉันด้วยคำถามแบบนี้ แต่สีหน้าเขากลับดูไม่แปลกใจเลย

          แต่ฉันน่ะอึ้งเลย ทำอะไรไม่ถูก มองไปที่ท้องเอ็นดำเมื่อมที่กำลังห้อยโทงเทงของเขา ฉันทำสีหน้าไม่ถูก ก้มหน้าไม่มองเขา ฉันพูดเร็วจนเสียงสั่นไปหมด

ฉันรีบตอบเขาไปแบบเสียงสั่นๆว่า
"เข้ามาทำความสะอาด" แล้วรีบเดินออกจากห้องน้ำ ขณะกำลังจะออกจากห้อง...

"เดี๋ยวก่อนพี่หญิง
สันเรียกฉัน ฉันหยุด แต่ฉันไม่ได้หันหน้าไป

          สันตามฉันมาแล้วบอกว่า พี่ๆลืมของ ฉันหันไปดู ฉันลืมตระกร้าผ้าที่จะเอาไปทำความสะอาด ดันลืมตัวรีบเดินออกมา ฉันเลยกลับเข้าไปเอา สันมองฉันไม่ละสายตาเลย ฉันละโคตรอาย ทำตัวไม่ถูก ฉันหยิบตะกร้า กำลังจะเดินออกไป นายสันบอกให้ฉันหยุดอีกครั้ง ฉันหันมาถามว่ามีอะไรอีก เขาเดินเข้ามา แล้วหยิบกางเกงในที่อยู่ในตระกร้าออกไปเช็ดน้ำเงี่ยนที่ไหลเยิ้มอยู่ พอเช็ดเสร็จก็เอากลับมาวางไว้ในตระกร้า พอเห็นเขาเช็ดเสร็จ ฉันจึงเชิดใส่ แล้วเดินออกจากห้องไป

          ฉันกำลังเดินไปห้องซักผ้า เจอลูกชายเจ๊หญิงที่ชื่อคมเดินสวนกันระหว่างทาง เราไม่เคยคุยกันเลย ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรด้วย แต่วันนี้เขาไม่ไปเรียน เลยได้โอกาศถาม

"น้องคมไม่ไปเรียนเหรอคะ"

เขาตอบกลับมาแค่
"อือ"

          แล้วเดินไปเลย แถมไม่เหลือบมองฉันอีกต่างหาก โชคดีนะที่มาเจอแค่เด็ก เพราะตอนนี้ฉันตัวสั่น หน้าชาไปหมดด้วยความอาย ถ้าเจอคนอื่นฉันอาจจะโดนสงสัยได้ เดี๋ยวเขาจะดูออกมองว่าฉันมีพิรุจหรือไปทำอะไรไม่ดีมา ทั้งที่ฉันแค่บังเอิญไปเจอผู้ชายช่วยตัวเองต่อหน้าเท่านั้นเอง ฉันชอบเซ็กส์ก็จริง แต่ในตอนนี้ถ้าฉันเจออะไรที่เกี่ยวกับเซ็กส์ฉันยอมรับว่ามันทำให้ฉันสับสนและเป็นกังวล เพราะทั้งเหตุการณ์ในอดีต ทั้งเรื่องดิลโด้ปริศนา มันทำให้ฉันสับสน กังวลวางตัวไม่ถูก ความคิดเตลิดไปหมด ฉันเลยรีบเดินไปห้องซักผ้าต่อ อยากรีบทำให้มันเสร็จๆ เพราะนี่ก็บ่ายแล้ว มาถึงห้องซักผ้าคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ฉันโคตรอายจริงๆ ต้องมาเห็นผู้ชายล่อนจ้อนแบบนั้น เป็นครั้งแรกที่ฉันผู้ชายอายุ 20 ปลายๆเปลือย เพราะสิงห์สามีฉันก็ไม่ได้หุ่นดีแบบนั้น แถมยังเห็นเขาช่วยตัวเองอีก หรือก็คือชักว่าว... ท่าทางที่เขาสาวท่อนเอ็นของตัวเองไปมามันช่าง... เฮ้อ ทั้งสับสนทั้งน่าอาย ต่อไปจะมองหน้ากันยังไง แต่ก็ดีที่ไม่ได้มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น ฉันกำลังจะซักผ้า ก่อนจะเอาลงเครื่อง เห็นกางเกงในตัวที่เขาเอาไปเช็ดน้ำว่าว อื้อหือ กลิ่นแรงจริงๆ กลิ่นน้ำเงี่ยนเขาฉุนกว่าสามีฉันเยอะเลย ฉันคลี่กางเกงในออก

ฉันจะโยนกางเกงในลงเครื่อง ทันใดนั้นเจ๊เอ๋เดินเข้ามา ฉันรีบกำกางเกงในใส่เมือ เจ๊เอ๋ก็ชักสีหน้าโวยใส่ฉันทันที

"แค่ไปเอาเสื้อผ้าไปซัก ทำไมไปนานจัง"
"กว่าจะซักเสร็จ กว่าจะได้เอาไปตาก แล้วมันจะแห้งทันมั้ยเนี่ย"
ฉันโดนอิเจ๊ดุเอาอีกแล้ว ฉันก็ก้มหน้ารับ ค่ะๆ ขอโทษค่ะ

"นี่แอบอู้ระหว่างงานใช่มั้ยเนี่ย ทำไมพวกแม่บ้านต้องมีปัญหาตลอด"
ฉันได้โอกาศจึงถามว่า
"แม่บ้านคนเก่ามีปัญหาอะไรเหรอคะ"

เจ๊เอ๋เปลี่ยนสีหน้าทันที เขานิ่งไปครู่นึงแล้วพูดต่อว่า
"ไม่มีอะไรหรอก รีบๆซักไปเถอะ เดี๋ยวจะแห้งไม่ทัน"

"ค่ะ" ฉันตอบรับ

เจ๊เดินมองดูเสื้อผ้าในตะกร้า แล้วเริ่มบ่น
"โหดูซิเนี่ย เสื้อผ้าเยอะแยะเลย พวกไอ้สันนี่มันจะใส่อะไรเยอะแยะ"

ฉันคิดในใจ ใครจะเหมือนอีเจ๊ล่ะ ชุดชั้นในก็ไม่ใส่ นมงี้ห้อยโทงเทงเลย แต่เรื่องเจ๊เขาบ่นน่ะไม่เท่าไหร่ ฉันกลัวเขาจะเห็นว่าในมือฉันถือกางเกงในเปื้อนน้ำเงี่ยนของนายสัน ฉันเลยเอาซ่อนไว้ข้างหลัง พอเขาหันหน้าไปทางอื่นฉันเลยรีบยัดใส่เครื่อง

อีเจ๊ ยังคงบ่นต่อไป สักพักหันมาหาเรื่องฉันต่อ
"เออนี่หญิง วันนี้มัวแต่แอบไปอู้ใช่มั้ย แล้วงานอื่นจะทำทันไหมเนี่ย ยังไม่ได้ทำความสะอาดห้องฉันเลยนะ"
"อุตส่าห์ให้ค่าแรงไม่ใช่ถูกๆ ทำไมขี้เกียจแบบนี้ คนนิสัยแบบเธอคงทำได้ไม่นานหรอก"
"แล้วอายุตั้งขนาดนี้หางานทำยากจะตาย ถ้างานแค่นี้ยังไม่ตั้งใจทำ แล้วจะไปทำมาหากินอะไรได้"

          โอ้โห อีเจ๊ร่ายยาวเลย สักพักสันเดินตามเข้ามา ฉันรีบหันหน้าหนีด้วยความอาย เพราะยังช็อคกับเรื่องในห้องเขา แต่ทันใดนั้น เขากลับมองหน้าฉันเหมือนเป็นห่วง แล้วบอกว่าเจ๊ว่า ที่ฉันมาช้าเพราะฉันไปช่วยเขาหาของ อีเจ๊เลยเริ่มด่าสันด้วย แถมด่าแรงอีก สันก็ก้มหน้ารับไป เขาโดนด่าเพราะเขามาช่วยพูดให้ฉัน อีเจ๊บ่นเสร็จแล้วเจ๊ก็เดินออกไป

          สันเข้ามาถามฉันว่า ซักผ้าอยู่เหรอ แล้วมองมาที่มือฉัน ตายล่ะ ฉันถือกางเกงในสีน้ำเงินของเขาอยู่ แอบถือไว้ตั้งแต่เจ๊เอ๋เดินเข้ามา ฉันโยนกางเกงในสันลงเครื่องซักผ้า แต่คราบน้ำเงี่ยนเขานี่เลอะเต็มมือไปหมด หวังว่าเขาคงไม่เห็น อายไม่จบไม่สิ้นจริงๆ เห็นเขาชักว่าวแล้ว ยังต้องมาโดนเห็นตอนถือกางเกงในเขาอีก กลัวจะเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าฉันทำไรกางเกงในเขา แล้วสันก็เริ่มพูด...

          แต่ผิดคาดเขามาพูดขอโทษฉัน ที่ทำให้ฉันโดนด่า ฉันก็บอกว่าไม่ใช่ความผิดเขาหรอก แล้วเขาพูดปลอบใจฉันว่าอย่าไปสนใจอีเจ๊ เขาขี้บ่นแบบนี้แหละ ทนๆเอาหน่อย คุยกันสัพเพเหระ เขาเดินออกไป สร้างความประทับใจให้ฉันไม่น้อย ฉันยกมือขึ้นมาดม อื้อหือ กลัวใครจะได้กลิ่นจริงๆ หลังจากวันนั้นทั้งวัน ฉันก็หลบหน้าสัน พยายามไม่คุยอะไร แต่ในใจก็แอบดีใจแหละ ที่เขามาพูดช่วยฉันไว้วันนี้ ตอนเย็นก่อนกลับบ้าน สิงห์สามีฉันเพิ่งจะโผล่หน้ามา ถามฉันว่าสีหน้าดูแปลกๆนะ เป็นอะไรเหรอ ฉันก็บอกว่าเปล่าๆ ไม่สบายนิดหน่อย เอ่อแล้วเสื้อสีเทาที่พี่ให้ฉันไปหาในห้องนั้นฉันหาไม่เจอนะ ค้นทั่วแล้ว พี่เอาไปทิ้งไว้ในห้องนั้นแน่เหรอ พี่ไปหาเองแล้วกัน สิงห์ก็บอกไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวค่อยไปเอาเองก็ได้ ถึงเวลาเลิกงาน ฉันซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์กับสิงห์ ระหว่างทางที่นั้งรถกลับบ้านฉันเริ่มคิดทบทวนสิ่งต่างๆ ไล่ทีละเรื่อง ทีละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น คำพูดของทุกๆคน... จนมาถึงสิ่งนึงที่มันขัดใจฉัน และทันใดนั้นฉันก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้... นี่มันชักแปลกๆ... เสื้อสีเทาเหรอ... ฉันที่ซ้อนท้ายสิงห์พร้อมกับโอบเอวเขาอยู่ ทันใดนั้นมือฉันหลุดจากเอวเขา... พร้อมๆกับเรื่องราวที่ฉันเริ่มประติดประต่อมันขึ้นมาได้ เสื้อสีเทา...

สิงห์ไม่มีเสื้อสีเทา... แล้วฉัน... ก็ไม่เคยเห็นเขาใส่เสื้อสีเทา...
ที่ฉันหาเสื้อไม่เจอ... หรือจะเป็นเพราะ... ไม่มีเสื้อตัวนั้นอยู่ในโลกนี้แต่แรก...
สิงห์ให้ฉันไปหาเสื้อสีเทาในห้องนั้น... ไม่นาน... สันบังเอิญเข้ามาช่วยตัวเองในห้องนั้นพอดี...
....หรือว่า...

*ต่อตอนหน้า*

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น