วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

คนอ้วนมันดีแบบนี้นี่เอง บทที่ 2



ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ก็ไม่อะไรเปลี่ยนแปลงอีกเลย ผมก็ยังคงทำงานให้กับพี่ยุ้ยตามปกติ แต่ไม่มีอะไรพิเศษมากไปกว่านั้น ที่สำคัญ พี่ยุ้ยไม่ได้เรียกผมให้เข้าไปรับใช้แกเกินกว่างานของบริษัทอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นการเช็ดรองเท้า นวดเท้า ดังนั้นอย่าได้ฝันไปว่าแกจะมาบีบควยผมให้อีกเหมือนวันนั้น ส่วนเรื่องโทรหาแกก่อนนอนนั้น ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าโทรบอกแกว่า ผมจะเข้านอนแล้วนะ แล้วพี่ยุ้ยก็รับคำ เท่านั้นเอง ผมเลยเข้าใจเอาเองว่า ผมคงคิดไปเองฝ่ายเดียวเท่านั้น จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง เป็นวันเสาร์อาทิตย์ ผมไม่โทรไปรายงานพี่ยุ้ยซะดื้อๆ อย่างเคย เท่านั้นแหละครับ วันจันทร์ตอนเช้า พี่ยุ้ยเรียกให้ผมเข้าไปหาแกในห้องทำงาน พอผมเดินเข้าห้องแล้วปิดประตูเท่านั้นแหละครับ พี่ยุ้ยเดินถลึงเข้ามาหาผมแล้วตบหน้าผมไปฉาดนึงทันที ผมงงไปหมด หน้าชา ว่าผมทำอะไรผิด


“มองหน้าชั้นอีก ไม่รู้เหรอว่าแกทำผิดอะไร” พี่ยุ้ยพูดกับผมช้าๆ ย้ำทีละคำอย่างคนโกรธจัด


“เอ่อ...ที่ผมไม่ได้โทรหาพี่ยุ้ยน่ะเหรอครับ”


“ใช่” แล้วพี่ยุ้ยก็ตบผมอีกครั้ง คราวนี้ด้วยมืออีกข้าง


“ผะ...ผมขอโทษครับพี่ยุ้ย ผมนึกว่า พี่ไม่อยากให้ผมโทร”


“ชั้นบอกแกเหรอ” พี่ยุ้ยพูดเกือบจะตะโกน แต่ติดว่ายังมีพนักงานคนอื่นอยู่ข้างนอกอีก แกเลยพยายามควบคุมอารมณ์ไว้ แต่พี่ยุ้ยโกรธมากจริงๆ โกรธอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่คิดว่า พี่ยุ้ยจะโกรธผมได้ขนาดนี้


“ผมขอโทษครับ ผมคิดไปเองว่าพี่ไม่ต้องการผมอีกแล้ว”


“พี่ไม่ได้พูดอย่างนั้นซักคำ ทำไมพลคิดแบบนั้น”


ผมดีใจมากที่พี่ยุ้ยตอบแบบนี้ แกไม่ปฏิเสธว่าแกไม่ต้องการผม ผมมีรอยยิ้มขึ้นมาและรู้สึกดีใจที่เห็นพี่ยุ้ยโกรธผมในเรื่องที่ผมไม่ได้โทรหาพี่ยุ้ย ผมเลยพูดต่ออีกว่า

“ก็...เวลาผมโทรหาพี่ยุ้ยพี่ยุ้ยก็ตอบรับผมคำสองคำแล้วก็วาง แถมตั้งแต่วันนั้นพี่ยุ้ยก็ไม่ได้เรียกใช้พลอีก”


“พี่ก็ใช้เธออยู่ทุกวันไง ติดต่อลูกค้า จัดคิวงานให้พี่ แค่สองอย่างนี้พลก็ทำเต็มที่แล้วไม่ใช่เหรอ”


“ไม่ใช่เรื่องนั้นครับ ผม...ผมอยากให้พี่ใช้ผมเช็ดรองเท้าให้พี่....บีบนวดขาให้พี่...แล้วก็....แบบวันนั้น” คำหลังผมไม่ค่อยกล้าพูดเต็มเสียงนัก พอผมพูดจบพี่ยุ้ยก็หัวเราะหึๆ ในลำคอแล้วก็บอกว่า


“พี่ไม่เคยถามพลเลยนี่ ว่าพลชอบรึเปล่า พลเคยถามพี่แบบนี้ไม่ใช่เหรอ”


“ตะ...ตอนไหนครับพี่” ผมถามพี่ยุ้ย


“อ้าว...ก็วันนั้นไง วันที่พี่ให้พลทำหน้าที่เลขาให้พี่อีก พลพูดว่าอะไรพลลืมแล้วเหรอ”


ผมย้อนคิดกลับไป...ใช่ เป็นอย่างนั้นจริงๆ วันนั้นผมโกรธพี่ยุ้ยมากแล้วผมก็โพล่งไปว่าผมไม่ใช่ทาสพี่ยุ้ย พี่ยุ้ยจะให้ผมทำอะไรเคยถามผมบ้างมั้ย? ใช่ ผมพูดคำนั้นขึ้นมาจริงๆ ผมพยักหน้ารับ พร้อมกับเอ่ยปากขอโทษ


“ใช่ครับพี่ วันนั้นผมผิดเองครับ ที่ผมโวยวายกับพี่ว่าพี่จะให้ผมทำอะไร พี่เคยถามผมบ้างรึเปล่า ผมขอโทษครับ”


“ไม่ใช่แค่คำนั้น พลพูดอีกคำนึงด้วย จำไม่ได้เหรอ พลพูดอีกคำด้วย”


“ผมบอกว่าผมไม่ใช่ทาสของพี่”


“อื้ม แล้วพี่จะสิทธิ์อะไรล่ะ เกิดพลไม่ชอบขึ้นมา พี่ไม่โดนพลโกรธแย่เหรอ?”


“พี่ยุ้ย...พลยอมแล้วครับ พลเป็นทาสพี่....นะครับพี่ พลเป็นทาสพี่” ผมพูดออกมาโดยไม่ต้องคิด น้ำตาผมไหลออกมาโดยไม่รู้สึกตัว ผมยอมทำทุกอย่าง ขอให้พี่ยุ้ยทำกับผมมากกว่าความเป็นลูกจ้างนายจ้าง


พี่ยุ้ยนั่งเอนหลัง กอดอก แล้วยิ้มให้ผมอย่างพอใจ แกพยักหน้ารับ แล้วแกก็พูดว่า “ดี....ดี...พลคือทาสของพี่ พลจำเอาไว้นะ พลคือทาสของพี่”


“ครับ พลยอมเป็นทาสพี่ครับ นะครับพี่ยุ้ย ให้พลเป็นทาสพี่นะครับ”


“ดีมาก แล้วคุกเข่าเดี๋ยวนี้”


ผมคุกเข่าตามที่พี่ยุ้ยสั่ง พี่ยุ้ยเดินมาหาผมแล้วก็มายืนคร่อมหน้าให้ชายกระโปรงของพี่ยุ้ยคลุมหัวผมพอดี หว่างคาอันมหีมาของพี่ยุ้ยครอบทั้งใบหน้าผมจนสนิท ควยที่อยู่ใต้กางเกงผมแข็งปั๋ง ผมสูดดมกลิ่นชื้นของหว่างขาพี่ยุ้ยเต็มปอด เสียงผมหายใจสูดดมกลิ่นผู้หญิงของพี่ยุ้ยดังฟืดฟาด ผมร้องครวญครางไม่ขาดปากว่าพี่ยุ้ยครับๆๆๆๆ

“อื้มมมมมม ต่อไปพี่จะให้พลดมของพี่ทุกๆ วันแบบนี้ พลชอบมั้ย”


ผมรีบพยักหน้ารับใต้หว่างขา พยายามเอาจมูกทิ่มเข้าไปที่เป้ากางเกงในของพี่ยุ้ยให้ลึกที่สุด มือทั้งสองข้างของผมจับก้นของพี่ยุ้ยไปมา แกส่ายเอวให้หีของแกบดกับใบหน้าผมไปด้วย พลางพูดว่า


“ฮึๆๆ พลนี่น่ารักจริงๆ ดมเยอะสิพล ถ้าพลชอบ ดมเยอะๆ”


ผมสูดกลิ่นผู้หญิงของพี่ยุ้ยอย่างเต็มรัก ผมนึกไม่ถึงเหมือนกันว่าผมจะคลั่งกับผู้หญิงที่ทั้งตัวใหญ่ ทั้งอายุมากเกือบเท่าแม่ผมอย่างพี่ยุ้ย ตอนนี้ผมสูดดมกลิ่นหีของพี่ยุ้ยอย่างตะกละตระกรามให้สมกับที่ผมอดอยากมาตลอด พี่ยุ้ยเองก็ส่ายเอวร่อนรับจมูกผมอย่างเมามันส์ แกถอนหายใจเป็นระยะ และผมก็เริ่มรู้สึกถึงความเปียกชื้นใต้กางเกงในพี่ยุ้ย ผมยิ่งพยายามใช้ลิ้นเลียไปด้วย แต่ความสุขของผมก็มีไม่นาน พี่ยุ้ยก็บอกให้ผมหยุด แล้วพี่ยุ้ยก็ปล่อยผมจากใต้กระโปรงแก


“พลไปทำงานเถอะ นี่มันเวลางาน รีบๆ เคลียร์งานให้เสร็จก่อนบ่ายสองนะ วันนี้เดี๋ยวพลต้องไปหาลูกค้าที่สมุทรปราการกับพี่อีก” พี่ยุ้ยก้มลงมาลูบหัวผม


“ครับๆ พี่ยุ้ย”


พี่ยุ้ยเช็ดคราบที่มีทั้งน้ำตาและน้ำหีของพี่ยุ้ยผสมปนเปบนใบหน้าผม แล้วก็จัดทรงผมของผมให้เรียบร้อย พอออกมาจากห้องผมโล่งใจขึ้นมาทันที พี่ยุ้ยต้องการผม พี่ยุ้ยอยากให้ผมเป็นทาส ผมจะทำเพื่อพี่ยุ้ยทุกอย่าง วันนี้ผมเลยทำงานจนเสร็จก่อนบ่ายโมงครึ่งซะอีก พอถึงเวลาบ่ายสองแล้ว แกออกมาจากห้อง ผมหิ้วกระเป๋าให้พี่ยุ้ยอย่างเคย เดินกุลีกุจอตามพี่ยุ้ย ผมเห็นก้นที่อวบใหญ่ยักย้ายไปมาใต้กระโปรงของพี่ยุ้ยแล้วผมยิ่งรู้สึกกระหายที่จะเอาหน้าซุกเข้าไปในก้อนพี่ยุ้ยอีก แต่ผมรู้ดีว่าผมขออะไรไม่ได้แล้วนอกจากต้องรอพี่ยุ้ยก่อนเท่านั้น


ระหว่างที่อยู่ในลิฟท์ มีคนเข้ามาในลิฟท์จนเต็ม ผมกับพี่ยุ้ยเข้ามาในลิฟท์ก่อน เราก็เขยิบถอยเข้ามาเรื่อยๆ จนผมติดกับผนังลิฟท์ พี่ยุ้ยที่ยืนหันหลังให้ผมก็เบียดเข้ามาอีก จนกระทั่งก้นของพี่ยุ้ยมาเบียดชิดกับลำควยผมพอดี ผมดีใจมาก ผมแอ่นควยผมบดกับก้นพี่ยุ้ย ผมก้มลงมองดูก้นอับอวบอัดของพี่ยุ้ยที่นาบแนบชิดกับลำตัวท่อนล่างผมอย่างตื่นเต้น เหมือนกับว่าบั้นท้ายแกจะดูดเอาส่วนล่างผมไปหมดยังไงยังงั้น แต่พี่ยุ้ยก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน แถมยังเบียดเข้ามาหนักกว่าเดิม แล้วไหนจะมีคนรู้จักพี่ยุ้ยอยู่ในลิฟท์อีก พี่ยุ้ยหันไปคุยกับเค้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ควยผมนี่สิ มันพองตัวตุบๆ ภายใต้บั้นท้ายพี่ยุ้ย


ผมพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด แต่บางครั้งพี่ยุ้ยกลับแกล้งส่ายก้นเบาๆ ซึ่งมันแทบจะทำให้ผมอยากจะกอดพี่ยุ้ยตรงนั้นเอาเลย จนลิฟท์ลงไปถึงชั้นจอดรถพี่ยุ้ยยื่นกุญแจให้ผม ผมเปิดประตูให้พี่ยุ้ยลงไปนั่งก่อน พอพี่ยุ้ยนั่งในรถเสร็จแกก็บอกว่า


“เอ้า เช็ดรองเท้าพี่ซิ”


ผมยิ้มรับ บรรจงใช้ผ้าชามัวร์เช็ดรองเท้าพี่ยุ้ยจนเงาวับ พี่ยุ้ยนั่งยิ้มแล้วบอกว่า


“เด็กดีของพี่...ถ้าพลทำตัวน่ารักมากๆ พี่จะทำแบบในลิฟท์ให้บ่อยๆ นะ”


ผมยิ้มรับ แล้วบอกว่า “ขอบคุณครับพี่ยุ้ย” พอพูดจบผมก้มลงจูบปลายเท้าพี่ยุ้ยเบาๆ พี่ยุ้ยหัวเราะคิกคักชอบใจ ผมมีความสุขมากที่ผมทำให้พี่ยุ้ยมีความสุขได้แบบนี้


พอผมขึ้นรถ พี่ยุ้ยก็ถามผมต่อว่า


“พล...วันนั้นที่พลดูใต้กระโปรงพี่ พลตื่นเต้นมากเลยเหรอ”


“ใช่ครับพี่....พลชอบครับ”


“ฮื้ม???? พี่ทั้งแก่ ทั้งอ้วน พลชอบลงไปได้ยังไง”


“พี่ยังไม่แก่นะครับ แล้วหุ่นแบบพี่ผมชอบออกครับ มันใหญ่มาก ผมชอบดูก้นพี่ที่สุดเลยครับ”


“ฮะๆๆ จริงเหรอ เอ้าแล้วตรงนี้ล่ะชอบมั้ย” พี่ยุ้ยพูดพลางแบะเสื้อสูทออก เผยให้เห็นถึงชุดซับในที่รัดแน่นภายใต้หน้าอกที่ผมว่าใหญ่กว่า 40 นิ้วซะอีก ที่สำคัญ พี่ยุ้ยไม่ใส่ชั้นในซะด้วย หัวนมของพี่ยุ้ยมันดันนูนแทบจะทะลุซับในบางๆ ออกมา ผมมองทรวงอกอันใหญ่โตของพี่ยุ้ยอย่างหื่นกระหาย


“ชะ ชอบครับพี่ยุ้ย”


“เอ้าๆ ดูของพี่อยู่นั่นแหละ มองข้างหน้าสิ เดี๋ยวเอารถพี่ไปชนใครเข้า ไม่ทันไปเจอลูกค้าพอดี” พี่ยุ้ยพูดเสร็จแล้วก็เอื้อมมือมาจับเป้ากางเกงผม ลูบเบาๆ แล้วก็อุทานว่า “ต๊ายยยย แข็งจริงๆ ด้วย ดูของพี่แค่นี้ก็แข็งแล้วเหรอ”


“ครับพี่ พี่ยุ้ยสวยมากนะครับ ผมอยากบีบอยากจับ อยากเลียพี่ทั้งตัวเลย”


“โถ...เด็กน้อย....เราไม่ชอบเด็กสาวๆ ตัวเล็กๆ น่ารักๆ หรอกเหรอ แบบพี่จะมีดีอะรั้ย”


“ไม่ครับ ผมทั้งรักทั้งเคารพพี่ยุ้ย แล้วทุกวันนี้เวลาผมทำอะไรกับตัวเอง ผมคิดถึงพี่ยุ้ยตลอดเลยครับ”


“ฮะๆๆๆ ดี...ดีมาก พล พลเป็นทาสพี่ใช่มั้ย”


“ครับ..ใช่ครับ พลเป็นทาสของพี่ยุ้ย”


พี่ยุ้ยแบะอกเสื้ออยู่ในรถตลอดทาง พร้อมๆ กันพี่ยุ้ยก็ยังเอื้อมมือมาลูบเป้ากางเองผมไปด้วย “พี่ชอบจับของพลน่ะ มันสบายมือพี่ดี” ผมยิ้มรับจนกระทั่งผมขับรถถึงโรงงานของลูกค้า พวกเราคุยกันได้พักนึง จนเป็นที่พอใจแก่ลูกค้าแล้ว เสร็จงานเป็นเวลาเกือบๆ หกโมงเย็น พอเข้าไปในรถ พี่ยุ้ยถามว่า


“พลเอาที่พลจดของวันนี้ให้พี่ดูหน่อยซิ”


ผมยื่นให้พี่ยุ้ยดู พี่ยุ้ยพลิกๆ ไป แล้วผมก็บอกว่า


“เรื่องที่ลูกค้ารายนี้เค้าขอให้เราลดให้แกอีก 10% ถ้าเราสั่งจากจีนภายในอาทิตย์นี้ก็น่าจะทำได้โดยที่เราไม่เสียกำไรที่เคยได้ครับ เมื่อกี๊ผมโทรไปถามที่เมืองจีนแล้วแกบอกว่าแปดโมงเช้าพรุ่งนี้ก็น่าจะเปิดออร์เดอร์ได้ แล้วก็ของจะเข้าจันทร์หน้าครับ”


“เราเตรียมเอกสารสั่งซื้อรึยัง”


“ผมทำเผื่อไว้ตั้งแต่ก่อนออกมาแล้วครับ” ผมยิ้มตอบ


พี่ยุ้ยยิ้มแก้มปริ แล้วถามว่า “แล้วพลถามเจ้าอ๋องรึยัง ไม่ใช่ว่าพอวันของเข้ามาแล้วหารถไปขนไม่ได้อีกนะ”


“พี่อ๋องแกบอกว่ารถเทรลเลอร์ที่เรานัดไว้เค้ามีที่ใส่พออยู่ครับ นั่นแปลว่า พี่ยุ้ยเสียค่าส่งสำหรับลูกค้าเจ้านี้มันถูกกว่าเดิมตั้งห้าหมื่น คือเสียแค่ค่าจ้างวิ่งเลี้ยวมาที่นี่เท่านั้นเอง นั่นแปลว่าพี่ยุ้ยไม่ได้มีกำไรน้อยลงสำหรับลูกค้ารายนี้เลยนะครับ”


“ดีนี่...นี่แปลว่าพวกเราไม่ต้องไปเคลียร์อะไรต่อที่ออฟฟิสอีกแล้วใช่มั้ย” พี่ยุ้ยถามผมอย่างรู้ทัน


“ครับพี่” ผมตอบพี่ยุ้ยด้วยความหวังอย่างเต็มเปี่ยม


“เอ้าขับรถไปที่ออฟฟิสเถอะ ยังไงรถพลก็จอดที่นั่น”


ความหวังผมพังครืนลงมา แถมพี่ยุ้ยยังนั่งหลับอยู่บนรถ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมลงจากรถแล้วปลุกพี่ยุ้ย แกลุกมานั่งฝั่งคนขับแล้วออกรถไปเหมือนไม่เห็นผมอยู่ตรงนั้น ผมกลับเข้าไปออฟฟิสอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก พี่ยุ้ยเค้ามีความสุขนักรึไงที่ปั่นหัวผมเล่นแบบนี้ ผมเก็บของออกจากออฟฟิสแล้วเดินขึ้นรถ ระหว่างนั้นเองมือถือก็ดัง ผมรับสายอย่างอารมณ์เสีย


“ฮัลโหล”


“พลออกมารึยัง”


“พี่ยุ้ย!!! ออกมาแล้วครับ”


“อื้มมมม มาหาพี่แถวๆ สุขุมวิทนะ พี่เปิดห้องเอาไว้ มาหาพี่เร็วๆ นะ”


“คะ ครับพี่ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”


พอพี่ยุ้ยบอกชื่อโรงแรมหรูแห่งหนึ่งในสุขุมวิท ผมก็นึกออกทันที ผมรีบขึ้นรถไฟฟ้าไปสุขุมวิทแทนที่จะขับรถเพราะมันเร็วกว่าเยอะ ใจผมตื่นเต้นตลอดเวลา ผมกดลิฟท์ขึ้นไปชั้นที่สิบแปด เดินไปยังห้องที่พี่ยุ้ยบอกเอาไว้ เคาะประตู 4-5 ครั้งเสียงของพี่ยุ้ยก็ดังออกมาว่า


“เข้ามาเลยพล”


ผมเปิดห้องเข้าไป พอโผล่พ้นช่องประตู ผมเห็นพี่ยุ้ยนั่งอยู่ที่ขอบเตียง พี่ยุ้ยใส่ชุดสูทตัวเดิม แต่ว่าช่วงล่างของพี่ยุ้ยเหลือแค่บิกินี่สีม่วงที่พี่ยุ้ยเคยใช้ผมไปซื้อ ผมกลืนน้ำลายดูพี่ยุ้ยที่กำลังนั่งไขว่ห้างจิบไวน์อย่างสบายอารมณ์


“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ อย่าเพิ่งเข้ามา”


ผมหยุดตามที่พี่ยุ้ยบอก


พี่ยุ้ยลุกขึ้นถอดชุดสูทออก แต่ข้างในชุดสูทมันไม่ใช่ซับในที่พี่ยุ้ยใส่เมื่อตอนไปหาลูกค้า มันเป็นบอดี้สูทสีม่วงอันเดียวกับบิกินี่ของพี่ยุ้ย ที่มันฟิตเปรี้ยะพอดีกับตัวพี่ยุ้ยยกเว้นแค่ตรงส่วนหน้าอกที่ดูเหมือนกับว่าบอดี้สูทของพี่ยุ้ยจะโอบอุ้มมันไว้ไม่อยู่ ดูเหมือนกับว่ามันล้นทะลักออกมานอกชุดแนบเนื้อให้ได้


ผมมองดูพี่ยุ้ยในชุดเซ็กซี่อย่างหื่นกระหาย ความรู้สึกผมเหมือนกับที่เจ้าชายปารีสได้เห็นนางเฮเลนก็ไม่ปาน สะโพกกลมกลึงเหนือต้นขาที่อวบอัดของพี่ยุ้ยแทบทำให้สติผมแตกกระเจิง ผมภาวนาอยากให้พี่ยุ้ยเรียกผมเข้าไปกอดรัดแกเดี๋ยวนั้น แต่พี่ยุ้ยก็ทำเหมือนกับไม่มีผมอยู่ พี่ยุ้ยหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบพลางจิบไวน์ไปด้วยอย่างสบายอารมณ์ แล้วพี่ยุ้ยก็บอกว่า


“พลคงไม่ว่าพี่นะที่พี่แต่งตัวสบายๆ แบบนี้”


“มะ...ไม่ครับพี่ยุ้ย ผมชอบครับพี่”


“ใครถามว่าเธอชอบรึเปล่า”

ผมก้มหน้าเงียบ

“อันที่จริงชั้นจะแต่งตัวแบบไหนมันก็เรื่องของชั้นนี่นะ ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับเธอเลยนี่”


“ครับพี่ยุ้ย”


“คลานมานี่ซิ”


ผมคลานเข้าไปแทบเท้าพี่ยุ้ย พี่ยุ้ยยื่นเท้ามาที่หน้าผม แล้วใช้ปลายนิ้วโป้งคลึงบี้ที่ริมฝีปากผมเบาๆ


“เอ้า ทำความสะอาดให้หน่อยซิ”   


ผมยิ้มรับพลางแลบลิ้นเลียเท้าพี่ยุ้ยอย่างยินดี มันช่างเป็นช่วงเวลามีความสุขอะไรอย่างนี้ที่ผมได้มีโอกาสเลียปลายเท้าให้กับพี่ยุ้ยในห้องสองต่อสอง แถมยังเป็นพี่ยุ้ยในชุดชั้นในรัดรูปอันแสนเซ็กซี่ซะด้วย ผมบรรจงจูบนิ้วเท้าพี่ยุ้ยทีละนิ้ว..ทีละนิ้ว พี่ยุ้ยหัวเราะคิกคัก พลางบอกว่า


“วันนี้พี่จะให้พลรับใช้พี่ทั้งคืนเลย เป็นรางวัลที่พลทำงานให้พี่ดีไงล่ะ”


ผมไม่ตอบอะไรพี่ยุ้ยนอกจากมองหน้าพี่ยุ้ยแล้วเลียฝ่าเท่าของพี่ยุ้ยอย่างหื่นกระหาย ผมอยากให้พี่ยุ้ยรู้ว่าผมเทอดทูนบูชาตัวพี่ยุ้ยมาก ผมไม่รังเกียจเท้าพี่ยุ้ยเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ผมกลับยิ่งมีความสุขที่ได้แสดงความรักใคร่ต่อเท้าของพี่ยุ้ย พี่ยุ้ยยิ้มร่าอย่างมีความสุข นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าผมได้ทำดีแล้ว ผมทั้งจูบพรม หอมฝ่าเท้าของพี่ยุ้ยด้วยความรักและเทอดทูนยิ่งขึ้นไปอีก พี่ยุ้ยคงจะรู้สึกจั๊กจี้ แกหัวเราะคิกคักไม่ขาดปาก อาจจะด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ในไวน์ที่พี่ยุ้ยดื่มด้วย พี่ยุ้ยสลับเท้าอีกข้างหนึ่งมาให้ผมดื่มด่ำรสชาติของพี่ยุ้ย ผมทั้งจูบทั้งเลียอย่างไม่เหนื่อยหน่ายเลยแม้แต่นิดเดียว


“ฮึๆๆ พลเลียใหญ่เลย มีความสุขมากรึไงน่ะเรา” พี่ยุ้ยยิ้มถาม


“มะ มีความสุขครับพี่ยุ้ย”


“เอ๊....พลเนี่ยประหลาดคนจัง เลียเท้าพี่แล้วมีความสุขได้ยังไง”


“ผมทั้งรัก ทั้งเคารพพี่ครับ ผมได้จูบเท้าพี่ เลียเท้าพี่แบบนี้เป็นความสุขของผมแล้วครับ”


“โถ....เด็กน้อยของพี่.....พลน่ารักแบบนี้พี่หลงพลแย่เลยเนี่ย คิกๆๆ”


“งั้นพลจะทำตัวน่ารักแบบนี้เยอะๆ นะครับ” ผมพูดแล้วผมก็เลียฝ่าเท้าของพี่ยุ้ยอย่างหลงใหล


ผมเลียเท้าทั้งคู่ของพี่ยุ้ยอย่างมีความสุข ผมรับใช้พี่ยุ้ยอย่างนั้นอยู่นานมาก น้ำลายของผมเปียกชุ่มไหหมดบนเท้าของพี่ยุ้ย พี่ยุ้ยนั่งยิ้มกริ่มอยู่บนเตียงมองผมตลอดเวลา ผมยิ้มให้พี่ยุ้ย ผมดูดนิ้วเท้าพี่ยุ้ยแล้วมองหน้าพี่ยุ้ยเพื่ให้แกรู้ว่าผมมีความสุขแค่ไหนที่ได้ทำแบบนี้


จนกระทั่งพี่ยุ้ยดึงเท้ากลับ แกจับที่เนคไทที่ยังไม่ถอดของผมเข้าไปหาแก พี่ยุ้ยโน้มตัวลงมาลูบหัวผมอย่างเอ็นดูแล้วบอกว่า


“พลจ๋า พลมีความสุขใช่มั้ยที่ได้รับใช้พี่ ตอบพี่มาซิ”


ผมพยักหน้ารับ แล้วบอกว่า “ครับพี่ ผมมีความสุขที่สุดเลยครับ”


“งั้นพลขึ้นมาบนเตียงมา มาอยู่บนนี้ พี่จะทำสิ่งที่พลชอบให้นะ ถอดเสื้อผ้าพลออกก่อนนะจ๊ะ”


ผมยิ้มดีใจ พี่ยุ้ยคงจะมอบร่างกายของพี่ยุ้ยให้ผมแล้ว ผมลุกขึ้นถอดเสื้อออกจนหมด ไม่เหลือแม้กระทั่งกางเกงใน ควยแข็งปั๋งของผมแข็งโด่ขนานไปกับพื้น ชี้ตรงเด่ไปยังพี่ยุ้ยอย่างแข็งขัน พี่ยุ้ยล้วงมือเข้าไปหยิบของในกระเป๋า พี่ยุ้ยโยนมาให้ผม ผมจึงรู้ว่ามันคือกางเกงในขนาดจิ๋ว พอใส่ดูแล้วผมค่อยรู้ว่ามันเป็นจีสตริงของผู้ชาย ที่มีแค่ผ้าชิ้นเล็กๆ หุ้มเป้าอันแข็งตุงของผมไว้เท่านั้น ส่วนด้านหลังมันเผยให้เห็นถึงแก้มก้นของผม พอผมใส่เรียบร้อยแล้ว ผมปีนขึ้นไปนอนหงายอยู่บนเตียงตามที่พี่ยุ้ยสั่ง แล้วพี่ยุ้ยก็ลุกขึ้น นั่งยองๆ เอาซอกขาของพี่ยุ้ยวางนาบไว้บนหน้าผม พี่ยุ้ยเป็นคนร่างใหญ่อยู่แล้ว รวมกับสะโพกของพี่ยุ้ยที่ใหญ่โต เวลามันทับบนหน้าผมเหมือนกับว่าผมโดนหว่างขาของพี่ยุ้ยกลืนกินไปยังไงยังงั้น


“ดมสิพล ดมกลิ่นของพี่เยอะๆ พี่รู้ว่าพลชอบ” พี่ยุ้ยนั่งทับหน้าผมพลางลูบหัวผมไปด้วย


ผมไม่ได้แค่ดมน่ะสิครับ ผมทั้งจูบทั้งเลียสิ่งที่อยู่ใต้บิกินี่ของพี่ยุ้ย พี่ยุ้ยโยกสะโพกไปมากดลงบหน้าผม หลายๆ ครั้งทำเอาผมเกือบหายใจไม่ออก แต่มันทำให้ผมมีความสุขมาก ที่ผมได้มีโอกาสสอดหน้ามาอยู่ใต้หว่างขาของผู้หญิงที่ผมทั้งรักและเทอดทูนอย่าพี่ยุ้ย พี่ยุ้ยยกก้นตัวเองขึ้นหน่อยนึง แกถามผมว่า


“เด็กน้อย ดมใหญ่เลยดูซิ....พี่รู้ว่าพลชอบให้พี่ทำแบบนี้ จริงมั้ย?”


“จริงครับพี่ ผมชอบดมตรงนี้ของพี่ที่สุดเลยครับ”


“ฮิๆๆๆ งั้นต่อไปพี่จะให้พลดมมันทุกวันเลย ที่ออฟฟิสด้วยเหมือนอย่างวันนี้ไง แล้วพี่จะให้พลเอากางเกงในพี่กลับไปดมที่บ้านด้วย”


“ขอบคุณครับพี่ยุ้ย” ผมยื่นหน้าขึ้นไปดมหอมที่หว่างขาของพี่ยุ้ยอย่างอดใจไม่อยู่


“พลมาชอบอะไรกับคนแบบพี่เนี่ย...พี่อ้วนจะตายไป”


“พลชอบครับ ผลชอบรูปร่างของพี่ เวลาพี่ทับพลแบบนี้ พลมีความสุขครับ”


“พี่แก่แล้วนะ อายุตั้งสี่สิบหกแน่ะ”


“นั่นทำให้พลเคารพพี่ พลไม่มีทางมีความรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงรุ่นๆ เดียวกับพลเลย พลภูมิใจและมีความสุขที่พลได้รับใช้พี่ครับ”


“แถมพี่มีสามีแล้ว พี่มีลูกแล้ว พลแน่ใจแล้วเหรอ?”


“อาหห์ ไม่ๆๆ ครับ พี่จะให้พลอยู่ในฐานะอะไรก็ได้ พลยินดีเป็นทาสพี่ ขอให้พลได้มีโอกาสรับใช้พี่ยุ้ยบ่อยๆ นะครับ พลจะขออยู่กับพี่ตลอดไป นะครับ” ผมพูดอย่างที่ผมรู้สึกจริงๆ ผมย้ำคำพูดผมด้วยการทั้งหอมทั้งจูบหว่างขาของพี่ยุ้ย พี่ยุ้ยเงียบไปพักหนึ่ง แล้วก็เอาหว่างขาของแกบดอัดบนใบหน้าผมต่อ แล้วผมได้ยินพี่ยุ้ยพูดขึ้นมาว่า


“อ๊าาาาาห์ ดมเยอะๆ พล จูบให้เต็มที่เลยพล พี่ให้เราเป็นทาสพี่แล้ว ซี้ดสสสสสสสสสส”


ผมได้ยินพี่ยุ้ยพูดอย่างนั้น ผมยิ่งมีความสุข ทั้งจูบทั้งเลีย แถมมือพี่ยุ้ยยังมาแหวกเป้ากางเกงในของตัวเอง เปิดทางให้ผมได้มีโอกาสสัมผัสกับเนื้อหนังแท้ๆ ที่อยู่ภายใต้บิกินี่ หีของพี่ยุ้ยบดเบียดและถูไถไปกับใบหน้าของผม น้ำหีพี่ยุ้ยละเลงออกมาเปียกชุ่มเต็มไปหมดทั้งหน้า ผมพยายามดื่มดินน้ำจากรูพี่ยุ้ยให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ พี่ยุ้ยลุกขึ้นแล้วถอดกางเกงในออก ผมดูหีของพี่ยุ้ยที่อยู่บนเหนือหัวผมอย่างตื่นตะลึง มันอวบใหญ่มาก แคมทั้งสองข้างอวบพูเหมือนกับพูทุเรียนลูกใหญ่ไม่มีผิด ผมสาบานได้ว่าผมไม่เคยเห็นของใครใหญ่อย่างนี้ พอพี่ยุ้ยสลัดบิกินี่ออก แกก็ย่อตัวลงมาแล้วเอาพูหีของแกบดเบียดกับใบหน้าผมอีกครั้ง ซึ่งผมก็รองรับมันด้วยความยินดีปรีดา


วันนั้นผมนอนให้พี่ยุ้ยนั่งทับหน้าของผมอยู่ทั้งคืน พี่ยุ้ยเสร็จบนหน้าผมไปสามครั้ง แต่พี่ยุ้ยไม่ได้ลุกไปไหนเลย พี่ยุ้ยเสร็จแล้วก็นั่งบดหีของพี่ยุ้ยบนหน้าผมต่อ พี่ยุ้ยอยู่กับผมในสภาพนั้นทั้งคืน จนครั้งสุดท้ายพี่ยุ้ยพลิกตัวแล้วบีบขยำควยผมที่อยู่ใต้กางเกงในจนผมเสร็จไปครั้งนึง แล้วพี่ยุ้ยก็หลับโดยพี่ยุ้ยกอดผมไว้ในอ้อมอกอันใหญ่โตของพี่ยุ้ยอย่างนั้นทั้งคืน คืนนั้นผมมีความสุขมากที่สุดในชีวิตเลยทีเดียวครับ เพราะผมได้หลับโดยมีร่างกายของพี่ยุ้ยห่อหุ้มผมไว้ โดยเฉพาะหน้าอกของพี่ยุ้ยที่ผมได้ซุกหน้าหลับกับมันทั้งคืนนั่นเอง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น