วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์นางฟ้า( คัมภีร์มังกรหยก ) 9 ตอนพิเศษ ก็วยเซี้ยงรู้เสียว





    ทุกคนในใต้หล้ามักชอบสอดรู้สอดเห็น เรื่องของผู้อื่น แม้ไม่รู้จริงก็ยังวิจารย์นินทามั่วไป โดยไม่คำนึงว่าสิ่งที่ตนนินทาจะเป็นการให้ร้ายผู้อื่นหรือไม่ และชอบไปกำหนดชี้ชะตาผู้อื่น ว่าควรทำเช่นไรโดยไม่เคยมองมาที่ตนเองว่าควรทำเช่นไรมากกว่า และเอาแต่ร่ำร้องเรียก หาคนดีมาช่วยเหลือตน แต่ไม่เคยนึกและกระทำตัวเป็นคนดีเพื่อไปช่วยคนอื่น

   เช่นคำกล่าวที่ว่า ทำไมคนดีจึงหายาก ที่เป็นเช่นนี้เพราะทุกคนมัวแต่หา แต่ไม่มีใครยอมเป็นต่างหาก ก๊วยเซี้ยงก็ไม่วายถูกผู้คนกระทำต่อนางเช่นนี้เหมือนกัน วันที่เซี้ยงเอี้ยงแตกทุกคนในครอบครัวนางล้วนพลีชีพหมด แม้แต่ก๊วยพั่วลั้วก๊ไม่รอดเช่นกัน เหลือแต่เพียงนางที่หนีรอดออกมาวันก่อนทีเซี้ยงเอี้ยงแตก เหมือนทุกคนต้องการกำหนดว่า นางสมควรตายไปพร้อมครอบครัวในวันนั้น ไม่สมควรรอดมาได้

   จึงเกิดการวิจารณ์ไปมั่วว่า ที่นางรอดเพราะหนีออกมาเพื่อไปหาผู้ชายไม่สนใจบ้านเมือง เพราะตั้งแต่วันนั้น ก๊วยเซี้ยงมุ่งแต่จะตามหาเอี้ยก๊วย จึงว่านางเป็นเด็กสาวใจแตกเที่ยวเร่หาแต่ผู้ชายที่รู้ทั้งรู้ว่าเขามีเมียแล้ว ยังตามหาอยู่ได้ ไม่มีใครจะล่วงรู้ถึงความจริงว่านางได้หวนกลับมา และพบความลับของอึ้งย้ง จึงต้องการไขปริศนาให้ได้เพื่อมากอบกู้บ้านเมืองภายหลัง

   กีวยเซี้ยงเองก็รู้สึกป่วยการที่ต้องไปชี้แจงใคร เพราะความลับของอึ้งย้งย่อมสำคัญกว่าชื่อเสียงนางมากที่จะให้ใครล่วงรู้ไม่ได้ จึงต้องให้คนปากมากพูดกันไป บางทีฝ่ายมารหรืออธรรมก็อาจมาจากผู้คนที่อุปโลกน์ตนว่าตัวเองเป็นคนดี แล้วไปผลักดันผู้อื่นที่ไม่ได้ทำตามอย่างที่ตัวนึกหรือต้องการให้เป็นไปคือฝ่ายอธรรม

   ก๊วยเซี้ยงเอาศพอี้งย้งไปซ่อนไว้ แล้วดั้นด้นไปถึงสุสานโบราณที่ทางเข้าถูกปิดด้วยหินมังกร ต้องเข้าไปทางลับใต้น้ำตามที่อึ้งย้งบอกไว้แต่ไม่พบไม่รู้เอี้ยก้วยกับเสียงเล้งนึ่ง ไปหลบซ่อนที่ใด จึงเขียนจดหมายทิ้งไว้ก่อนกลับออกมา นึกขึ้นได้ว่าเอี้ยก๊วยมีสหายคนหนึ่งซึ่งเป็นหลวงจีนอยู่ ที่เส้าหลิน ซึ่งนำของขวัญเป็นตุ๊กตาดินเผา รูปอรหันต์ที่มีกลไกแสดงท่าหมัดอรหันต์มาให้นาง

   เป็นของขวัญวันเกิดตอนนางอายุ 16( ตามเนื้อความใน มังกรหยกภาค 2 เอี้ยก๊วยจอมยุทธอินทรีย์ ) ณ.ที่เส้าหลินนี้เองจึงทำให้ก๊วยเซียงได้พบกับ เตียกุนป้อ ซึ่งในเวลาต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น เตียซำคง ปรมาจารย์ผู้ก่อตั้ง สำนักบู๊ตึ้งอันโด่งดังเทียบเท่าเสี้ยวลิ้ม


( ดารารับเชิญ แสดงเป็นก๊วยเซียง ในตอนนี้ )

    ก็วยเซียงตอนนั้นอายุประมาณ 18 ปี ได้เห็นเตียกุนป้อเป็นเด็กเฉลียวฉลาด อายุ ประมาณ 11-12( ตามจินตนาการผู้เขียน )แต่ด้วยเตียกุนป้อเป็นคนขี้โรคมาแต่เล็ก จึงทำให้ร่างกายดูเล็กเหมือนเด็กอายุ 7-8 ขวบ ก๊วยเซียงจึงนึกเอ็นดูเหมือนน้องชายตัวเล็ก แต่เตียกุนป้อกลับไม่ได้นึกต่อก๊วยเซียงเช่นเดียวกับที่ก๊วยเซียงคิด เพราะก๊วยเซียงทั้งสวย ทั้งน่ารัก แม้ว่าอาจไม่สวยเท่าอึ้งย้งหรือเสียวเล้งนึ่ง แต่ก๊วยซึยงก็จัดได้ว่าเป็นโฉมสคราญคนหนึ่ง

   ซึ่งเตียกุนป้อไม่เคยพบหญิงใดที่สวยราวเทพธิดานางฟ้ามาก่อน จึงเกิดหลงรักก๊วยเซียงตั้งแต่แรกพบทันที เช่นเดียวกับบุรุษที่มีต่อหญิงสาว ยิ่งก็วยเซียงไม่ถือตัวมาโอบกอดตนด้วยดั่งเช่นเจ๊เจ๊แสดงต่อตี๋ตี๋ ยิ่งทำให้เตียกุนป้อหวาบหวิว ปากเรียกเจ๊เจ๊ทุกค่ำ แต่ใจตี๋ตี๋อยากฟาดเจ๊เจ็เสียแล้ว บังเอิญเสียวลิ้มเกิดเรื่อง หลวงจีนกักเลี้ยง อาจารย์ของเตียกุนป้อ

   จึงต้องพาทั้งคู่หนึลงมา พร้อมกับท่องบทสวดซึ่งมีวิชาคัมภีร์เก้าเอี้ยงจินเก็งปนอยู่ด้วย( ตามเรื่องว่าเป็นคนละ คัมภีร์กับเก้าอิมจินเก็ง )ทั้งคู่เป็นอัจฉริยะสามารถจดจำเนื้อความได้ 3- 4 ส่วน บ้างว่าเตียกุนป้อ อัจริยะกว่าก๊วยเซียงจึงจดจำได้ 5 – 6 ส่วน เมื่อหนีลงจากวัดเสียวลิ้มแล้ว หลวงจีนกักเลี้ยงจึงมรณะภาพไป( เนื้อความโดยย่อ รายละเอียดต้องอ่านใน กระบี่มังกรหยกตอนต้นเรื่อง )

  ก๊วยเซียงและเตียกุนป้อหนีลงมาเจอกับบ้านพักชาวนาใจดีหลังหนึ่งจึงขอพักสักคืน ฝ่ายเลอฉีและภรรยา เห็นทั้งคู่เป็นดั่งพี่น้องกันประกอบกับเห็นเตียกุนป้อเป็นเด็กน้อยเลยจัดที่พักให้นอนด้วยกันในยุ้งข้าว ฝ่ายก๊วยเซียงบอกกับเตียกุนป้อว่าคงพักด้วยกันคืนหนึ่งแล้วรุ่งขึ้นค่อยแยกกัน

   เตียกุนป้อ รู้สึกอาลัยก๊วยเซียงมากว่าพบกันไม่ทันไรก็ต้องจากกันแล้วเลยผวาเข้ากอดก๊วยเซึยง
   “ ข้าไม่อยากให้เจ๊เจ๊ต้องไปเลย อยากอยู่กัยท่านตลอดไป ”
   “ เด็กน้อยข้ามีภาระจำเป็นต้องไป อย่างอแงเลย ”

   ก๊วยเซียงบอกพร้อมกับก้มลงนั่งสวมกอดกับเตียกุนป้อด้วยความรักดั่งพี่สาวมีต่อน้องชาย เตียกุนป้อได้กอดก็วยเซียงเต็มมือรู้สึกกายก๊วยเซียงช่างอ่อนนุ่ม มีกลิ่นหอมชวนให้รัญจวนยิ่ง ต้องลอบสุดกลิ่นแก้มก๊วยเซียงที่สัมผัส ใจปันป่วนฟุ้งซ่านยิ่ง

   “ เจ๊เจ็จะไปที่ใด ”
   “ ข้าต้องไปตามหาพี่เอี้ยก๊วยด้วยมีธุระต้องพบให้ได้ ”

   เตียกุนป้อพอฟังว่านางต้องไปหาชายอื่นกลับรู้สึกหึงหวง จึงกอดก๊วยเซียงแน่น
   “ ดูซิเจ้ากอดข้าแรงยิ่ง เนื้อตัวเหนียวหมดแล้ว ”

   ก๊วยเซียงกับเตียกุนป้อหนีลงจากเขา ต่างเหงื่อออกเต๋มไปหมด ก๊วยเซียงเป็นคนรักสะอาด อยากอาบน้ำให้สะอาดเพื่อจะได้นอนหลับสบายเลยบอกเตียกุนป้อว่า นางต้องขอไปอาบน้ำก่อนเนื้อตัวสกปรกหมดแล้ว มีห้องน้ำอยู่ใกล้นี้เอง เตียกุนป้อเลยตามนางไปเพื่ออาบน้ำ

   “ เจ๊เจ๊ อาบก่อนเจ้าคอยข้างนอกแล้วเจ้าค่อยอาบทีหลังแล้วกัน ”

   เตียกุนป้อ ใช้สมองคบคิดเร็วปรื้อ กล่าวตอบ
   “ จะดีหรือเจ๊เจ๊ ”
   “ ไม่ดีอย่างไร ”
   “ ก็  ...ข้ากลัวผีนี่นา ที่นี้มันเปลี่ยวยิ่ง ”
   “ เด็กโง่ มีผีที่ไหนกัน เจ้าเองก็อยู่วัดเคยพบเจอหรือ ”

   เตียกุนป้อเอามือลูบศรีษะอันล้านเลี่ยนของตน กล่าวว่า
   “ เคยซิ ตกกลางคืนมีเสียงเดินกรากแกรก แม้ไม่เคยเห็นตัวข้าก็รู้ว่าเป็นเสียงเดินปีศาจแน่ “

   กํวยเซี้ยงหัวเราะขบขัน ว่าเตียกุนป้อคงโดนหลวงจีนหลอก แต่นึกถึงตอนเด็กตัวเองก็เคยกลัวผีเช่นเดียวกัน
   “ ก็ได้งั้นเจ้าอาบก่อน ข้าเฝ้าให้ข้าอาบทีหลัง "
   “ ไม่เอาเหมือนกันเผื่อมีปีศาจอยู่ในนั้น เจ๊เจ๊ก็ช่วยข้าไม่ทัน ”
   “ อ้าวตอนอยู่เส้าหลินเจ้าอาบน้ำยังไง "
   “ เราก็อาบกันหลายคน บางทีอาจารย์กักเลี้ยงก็เข้ามาอาบให้ข้า ว่าข้าอาบน้ำไม่เป็นไม่รู้จักถูตัวให้สะอาด "

   ก๊วยเซียงตรึกตรองดูโดยไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าเตียกุนป้อเป็นเด็กเล็กที่ต้องให้คนคอยช่วยเหลืออยู่ อีกทั้งเตียกุนป้อก็กำพร้าไม่มีคนดูแลตั้งแต่เด็กจึงสงสารเอ็นดู

   “ ก็ได้ งั้นเราเข้าไปอาบพร้อมกัน "

   เตียกุนป้อแทบส่งเสียงไชโยโห่ร้องออกมาดังๆ ที่คำมุสาตัวเองประสบผลให้ก๊วยเซียงหลงเชื่อได้ เราต้องจากกันในพรุ่งนี้ ไม่รู้จะเจอเมื่อไร ขอข้ามีโอกาสได้เห็นของดีเจ๊ก็วยเซียงสักครั้งก็ยังดี เตียกุนบ้อคิดในใจอย่างเจ้าเล่ห์ยิ่ง


   ภายในห้องน้ำมีถังน้ำใบใหญ่ เตียกุนป้อกุลีกุจอไปเอาน้ำในบ่อมาใส่จนเต็มถัง( ดูจากหนังหลายเรื่องเห็นว่าตัวละครอาบน้ำในถังไม่มีใครตักอาบ )ถังน้ำแม้ไม่ใหญ่มากแต่ก็มีเนื้อที่พอให้ลงไปอาบได้สองคน ยิ่งเตียกุนป้อเป็นเด็กตัวเล็กจึงมีเนื้อที่เหลือเฟือ

   เตียกุนป้อรีบแก้ผ้าลงในรอในถังน้ำก่อน
   “ เจ๊เจ๊รีบถอดผ้า มาอาบน้ำด้วยกันเถอะอุณหภูมิกำลังดีไม่ร้อนไม่เย็นเกินไป ”

   เตียกุนป้อเร่งก๊วยเซียงที่มัวอ้อยสร้อยไม่ยอมแก้ผ้าสักที ก๊วยเซียงคล้ายขวยเขินเล็กน้อยหันหลังถอดเสื้อผ้าออก เตียกุนป้อลุ้นใจระทึกเห็นหลังขาวสะอาดของก๊วยเซียงค่อยปรากฎขึ้น ต่อมาจึงเห็นก้นขาวๆของก็วยเซียง เมื่อนางแก้ผ้าจนหมดค่อยเอาผ้าวางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ แล้วกลับก้าวตะแคงข้างลงมาในบ่อ

   เตียกุนป้อ มองเห็นนมทีด้านข้างของก๊วยเซียงอย่างไม่ถนัดตาเท่าไร แต่แค่นี้ก็ทำให้กระเจี้ยวของมันกลับลุกเด่ในน้ำ
   “ เจ๊เจ๊เป็นไง น้ำเย็นสบายดีไหม ”

   เตียกุนป้อแกล้งถามเมื่อก๊วยเซียงลงมาในถังเรียบร้อยแต่กลับนั่งหันหลังให้
   “ เจ๊เจ็ทำไมไม่หันหน้ามาทางเดียวกันจะได้คุยกันได้ถนัด ”

   ก๊วยเซียงเป็นสาวแรกรุ่นย่อมเขินอายเป็นครั้งแรกตั้งแต่แตกเนื้อสาวมาที่นางมาอาบน้ำร่วมกับคนอื่นแถมเป็นผู้ชายถึงแม้จะเป็นเด็กก็ตาม

   “ เจ๊เจ็ กุนป้อช่วยถูหลังให้นะ ”
   “ ชะอุ้ย...อาส์ ”
   " เจ๊เจ็กุนป้อทำแรงไปหรือ "
   “ ไม่ใช่หรอก แต่รู้สึกเหมือนจั๊กจัพิกล ”

   ก๊วยเซียงพูดตามความรู้สึกที่แปลกๆ แต่ปล่อยให้เตียกุนป้อถูหลังให้นาง จริงๆแล้วก็วยเซียงตั้งแต่พบเอี้ยก๊วยนางก็ก่อเกิดอารมณ์ประหลาด ตั้งแต่ตอนนั้นยิ่งต่อมา ก๊วยพู้และศิษย์ผู้พี่คือบู๊ตงยู้กับบู๊ซิ่วบุ้นต่างแต่งงานออกเรือนกันหมด บางทีมาค้างที่บ้าน เห็นทุกคนมีความสุขบางครั้งเผลอไผกอดจูบกันให้ก๊วยเซียงเห็นที่แรกนางไม่คิดอะไรเพราะยังเด็ก

   แต่พอพบเอี้ยก๊วยก็มีความรู้สึกประหลาด พอพบเห็นคนในบ้านพรอดรักกันก็ทำให้เกิดอารมณ์หวาบหวิว ตกค่ำคืนยามนอนคิดถึงเอี้ยก๊วยขึ้นมากลับมีอารมณ์ใคร่( ความเสี้ยน )ขึ้นมาโดยธรรมชาติ เผลอเอามือไปจับของตัวเองเล่นแล้วเกิดความสบาย ตอนหลังเลยเอานิ้วแหย่เข้าๆออกจนน้ำแตกจึงหายได้ ทุกครั้งยามคิดถึงเอี้ยก๊วยนางจึงใช้วิธีนี้ทุกกครั้ง


   ยามนี้ถูกเตียกุนป้อถูหลังแภมแกล้งทำเผลอไผลอบเอามือมาโดนนมด้านข้างนางบ่อยๆ จนเต้านมที่เป็นกระเปาะกลับคัดเต่งขึ้นมาเป็นลูก หัวนมชูชันขึ้นเกิดอารมณ์เหมือนคราที่คิดถึงเอี้ยก๊วยอย่างไม่รู้ตัว เตียกุนป้อที่ถูหลังพยายามมองเลยไปข้างหน้าใจหมายจะจับนมก๊วยเซียงแต่ไม่กล้า แต่ยิ่งคิดยิ่งอยากสัมผัสให้มากกว่านี้เกิดอารมณ์เงี่ยนไม่แพ้กัน

  “...... ”

   เตียกุนป้อแม้เป็นเด็กแต่ก็รู้จักชักว่าวเป็นตั้งแต่เก้าขวบเร็วกว่ากํวยเซี่ยงที่เริ่มตกเบ็ดเป็นตอน 17 ด้วยซ้ำ เตียกุนป้อเกิดอารมณ์เผลอไผเอากระเจี้ยวมันไปดุนดันโดนง่ามก้นก๊วยเซี้ยงเข้าโดนไม่ตั้งใจ ก๊วยเซี้ยงตกใจคล้ายมีอะไรแข็งๆมาโดนตูดต้องร้อง

   “ อุ้ย..มีอะไรแข็งๆมาดันตูดเจ๊เจ๊ในน้ำ ”

   เตียกุนป้อตกใจเช่นกัน รีบถอยออก จังหวะนั้นก๊วยเซี้ยง หันหน้ากลับมาดู เห็นกระเจี้ยวของเตียกุนป้อชี้เด่ขึ้น ก๊วยเซี้ยงเกิดมาเพิ่งเคยเห็นของผู้ชายเป็นครั้งแรก แม้เป็นของเด็กที่ไม่ใหญ่นัก ที่โคนเริ่มมีขนหมอยหยิกหยอยมาแล้ว ก๊วยเซี้ยงทั้งตกใจทั้งประหลาดใจระคนกัน เช่นเดียวกับเตียกุนป้อที่จ้องมองดูเต้านมที่ขึ้นเป็นลูกขนาดผลส้มอวดหัวนมแหลมสีแดงราวทับทิมสดดูสวยงาม

   เตียกุนป้อมองทะลุไปในน้ำแลเห็นเส้นหมอยบางลอยฟ่องในน้ำคล้ายสาหร่ายดำ ต่างตลึงดูกันพักหนึ่ง ค่อยได้สติ
   “ ว้าย ตายแล้วเตียกุนป้อ นั้นอะไร ”
   “ กระเจี้ยวของกุนป้อเอง "
   “ ทำไมมันลุกโด่อย่างนั้นละ "
   “ ไม่รู้เหมือนกัน เจ๊เจ๋สวยยิ่ง..”
   “ อย่ามองของเจ๊เจ๊อย่างนั้นซิ ข้าก็อาย ”
   “ ไม่เห็นต้องอายเลย สวยออก ขอกุนป้อช่วยถูข้างหน้าให้เจ๊เจ๊ด้วยนะ ”

   เตียกุนป้อพุดจบไม่ต้องรอคำตอบใดๆ เอื้อมมือมาจับนมก๊วยเซี้ยงทันที
   “ อย่าทะลึ่งนะ จับอย่างนี้เจ๊เจ๊เสียว ”

   ก๊วยเซี้ยงพูดพร้อมเผลอเอามือมาจับกระเจี้ยวเตียกุนป้อด้วยความอยากรู้เหมือนกัน พบเห็นว่าแข็งโป๊กขนาดพอดีกำพ้นมือขึ้นมาหน่อย
   “ อูยส์ กุนป้อก็รู้สึกดีเหมือนกันอยากให้เจ๊เจ๊จับไว้อย่างนั้น "

   ก๊วยเซี้ยงรู้สึกตัวรีบหดมือ
   “ กุนป้อคิดอะไรกับเจ๊เจ๊หรือเปล่า ถึงเป็นอย่างนี้ "
   “ ข้าเหรอ เออ ”

   ก๊วยเซี้ยงถามเพราะรู้มาว่าเวลาที่ผู้ชายมีอารมณ์อยากกับผู้หญิงจะแข็งโด่ขึ้นมา เพิ่งมาเห็นกับตาเลยพูดไป
   “ ข้าก็รู้สึกว่า เจ็เจ็ข่างสวยสคราญ ราวนางฟ้า ”

   ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะกล่าวอะไรต่อ ก็ปรากฎเสียงที่หน้าประตูห้องน้ำดัง ก๊อกแกร็ก ดังขึ้นมา
   “ ใครนะ “

   ก๊วยเซี้ยงรีบลดตัวลงในน้ำ ทำให้เตียกุนป้อต้องรีบลุกขึ้นไปสังเกตุการณ์ที่หน้าประตูค่อยแง้มไปดู เห็นร่างคนเดินหนึไปไวๆ คล้ายกับเลอฉีเจ้าของโรงนา เตียกุนป้อมองจนเห็นคนนั้นลับหายเข้าบ้านไปจึงหันมาหาก๊วยซึ้ยงซึ่งบัดนี้ลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าจวนจะเสร็จแล้ว

   “ ไม่รู้แน่ว่าใคร อ้าวเจ๊เจ๊ไม่อาบน้ำแล้วเหรอ ”
   “ ข้าว่าท่าไม่ดี พวกเราเลิกอาบน้ำเถอะ ”

   เตียกุนป้อรู้สึกเสียดายโอกาสกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มแท้ ๆ ถูกทำลายโอกาสไปแล้วจะหาแบบนี้อีกได้เมื่อไรกัน เตียกุนป้อแม้เป็นเด็กแต่ก็คิดเป็น ฝ่ายก๊วยเซี้ยงก็รู้สึกว่าตนเผลอไผไปได้อย่างใด ที่มาอาบน้ำกับเตียกุนป้อที่คิดว่าเป็นเด็ก แต่ดูเหมือนกระเจี้ยวขักจะไม่ค่อยเด็ก แถมยังคิดอะไรกับนางด้วยหรือเปล่าไม่รู้ จึงเริ่มไม่แน่ใจในเตียกุนป้อเสียแล้ว

   พอถึงห้องนอนก็มองดูที่นอนซึ่งมีอยู่ชุดเดียวจำกัดแค่ให้ต้องนอนบนเตียงร่วมกันเท่านั้น ก๊วยเซี้ยงเริ่มไม่แน่ใจว่าจะนอนกับเตียกุนป้อดีหรือไม่ จึงคิดว่าไปขอที่นอนเพิ่มจากเจ้าของบ้านดูดีกว่าเผื่ออาจแยกมานอนข้างๆได้ จึงสั่งให้เตียกุนป้อนอนไปก่อน นางจะไปขอผ้าห่มเพิ่มเผื่ออากาศหนาวเย็น ต้องห่มผ้าผืนเดียวกันจะไม่พอ

   ก๊วยเซี้ยงเดินมาที่บ้านของเลอฉีและภรรยาทีแรกว่าจะส้งเสียงเรียกเพื่อขอผ้าห่มเพิ่มจะได้หรือไม่ ก็ได้ยินเสียงออกมาจากห้องนอน

   “ อูยส์ พี่ฉีวันนี้คึกมาจากไหน ทำไมวันนี้ถึงใหญ่และแข็งจังเลย ”
   “ เจ้าลองดูดดูซิ ”

   ก๊วยเซี้ยงได้ยินลับหน้าแดงร้อนผ่าว ทั้งๆที่ไม่แน่ใจว่าทั้งคู่พูดเรื่องอะไร จึงเข้าไปใกล้ กลับพบฝาห้องแตกเป็นทางยาว พอเอาหน้าแนบไปดูก็เห็นภายในห้องชัดเจนเพราะเจ้าของห้องจุดตะเกียงไว้สว่างแถมเตียงก็ไม่ปิดผ้าคลุมและอยู่ใกล้ฝาอีกต่างหาก ภายในห้องก๊วยเซี้ยงพบเห็นทั้งคู่กลับแก้ผ้าล่อนจ้อน เลอฉียืนอวดท่อนเนื้อที่อยู่ตรงหว่างขาเหมือนดั่งของเตียกุนป้อแต่ขนาดใหญ่โตสมบูรณ์กว่ามาก

   มองเห็นภรรยาของเลอฉีนางกลับเอาลิ้นแล่บออกมาโลมเลียตรงหัวบักแดงโร่ปูนโตราวดวงตายักษ์ดูน่ากลัว แต่เหมือนเมียเลอฉีกำลังชื่นชอบจึงเลียราวมันเป็นของอร่อยน่ากินซะอย่งนั้น ก่อนนางอ้าปากอมผลุบเข้าไปในปาก ดูดโยกเข้าโยกออกจนน้ำลายไหลยืด ก๊วยเซี้ยงแปลกใจระคนกันเกิดอารมณ์กระสันต์ซ่านไม่รู้ตัวว่าของผู้ชายมันอร่อยอย่างนี้หรือ เมียเลอฉีถึงดูดเอาๆ อย่างเมามันส์เช่นนี้

   สักพักเลอฉีจึงจัดให้เมียนอนหงายกลางขาอ้าซ่าส์ แล้วเอาของมันเสียบเข้ากลางหว่างขา ก๊วยเซี้ยงถึงกับตาโตเกิอบร้องออกมาอย่างตกใจเพราะของเลอฉีออกใหญ่อย่างนั้นกลับเอาเข้าไปในรูหีของเมียได้อย่างง่ายดาย นึกเทียบว่าหากมันเสียบเข้ามาในรูจิ๊มิ๊ของนางคงเจ็บตายแน่

   แต่เมียของเลอฉีกลับชื่นชอบร้องบอกว่าเลอฉีทำได้ดี เสียวอร่อยดียิ่ง
   “ พี่ฉี เย็ดแรงๆเลย ข้าชอบวันนี้ไฉนท่านถึงแข็งกว่าทุกวัน ”
   “ รูหีเจ้าก็เย็ดมันส์ควยดีจริงๆ “

   ก๊วยเซี้ยงหน้าแดงก่ำยิ่งทั้งคู่พูดคำหยาบคายขณะร่วมรักยิ่งทำให้ก๊วยเซี้ยงเกิดตวามเสี้ยนจัดมากกว่าปกติ เพราะมารดาสอนไม่ให้พูดคำหยาบ เช่นคำว่าเย็ดนางก็เพิ่งรู้ความหมายในวันนี้จากการกระทำที่เห็น สาเหตุที่เลอฉีคึกเป็นพิเศษเพราะตอนที่ก๊วยเซียงอาบน้ำเลอฉีเป็นผู้ไปแอบดู เห็นนางกำลังอาบน้ำกับตี๋ตี๋

   ลุ้นว่านางกับตี๋ตี๋จะเย็ดกันหรือไม่ จนเกร็งมากไปทำให้เกิดเสียงดังจนทั้งคู่รู้ตัว เลยหนีออกมาจับเมียเย็ดแก้เงี่ยน คิดในใจว่า เจ๊เจ๊ ตี๋ตี๋คู่นี้คงต้องเย็ดกันแน่ เจ๋เจ๋สวยออกอย่างนี้หากตัวเองเป็นตี๋ตี๋คงได้จับเจ๊เจ็เย็ดเหมือนกัน

   ฝ่ายก๊วยเซี้ยงเพิ่งเตยเห็นคนเย็ดกันเป็นครั้งแรกเกิดความเสี้ยนจัดจนทนไม่ไหว ต้องเอาปากกัดชายเสื้อกันไม่ให้เกิดเสียง ในใจอยากให้ใครมาทำกับตัวเองแบบนี้บ้าง จนเลอฉีรัวเอวกระเด้าเย็ดเร็วปรื้อ ก่อนร้องราวควายถูกเชือดล้มฟุบกอดกับเมียบนเตียง ทั้งคู่ต่างเสร็จสมอารมณ์หมาย แต่ก๊วยเซี้ยงกลับงุ่นง่านด้วยความเสี้ยนอยากเต็มที่ จึงเดินกลับมาที่ห้องเห็นเตียกุนป้อนอนหันหลังคลุมผ้าห่มหลับสนิทไปแล้ว

   ก๊วยเซี้ยงเข้าใจว่าเตียกุนป้อคงอ่อนเพลียหลับง่ายตามประสาเด็กเลยนอนลงข้างๆเตียกุนป้อ เอาผ้าห่มอีกข้างที่เตียกุนป้อเหลือไว้ดึงมาห่มนอน แต่นางนอนยังไงก็นอนไม่หลับ เพราะเกิดอารมณ์กระสันต์เสี้ยนอย่างรุนแรง ตามปกติหากเวลาอยู่บ้านเกิดอารมณ์เช่นนี้ นางเป็นนึกถึงเอี้ยก๊วยใช้นิ้วเป็นตาขอเกี่ยวรูจิ๊มิ๊ตัวเองผ่อนคลายไปแล้ว แต่ตอนนี้อยู่นอกบ้านไม่กล้าทำ

   แต่ด้วยความเสี้ยนซึ่งมีมากกว่าตอนอยู่ในบ้านเสียอีกเพราะทั้งจากตอนที่อาบน้ำกับเตียกุนป้อ และยังมาเห็นเลอฉีกับเมียเย็ดกันอีก จึงสุดจะห้ามใจไว้ มองเห็นเตียกุนป้อพลิกมานอนหงายแต่ยังหลับอยู่แถมส่งเสียงคล้ายกรนเบาเลยคลายกังวล นอนตะแคงข้างหันหลังให้เตีบกุนป้อ ลอบดึงกางเกงนอนตัวเองออกใต้ผ้าห่มล้วงมือไปลูบกลีบดอกไม้นางตัวเองเขี่ยรูจิ๊มื๊เบาๆก่อนค่อยแยงเข้าไป

   ด้านเตียกุนป้อกลับลอบหรี่่ตาขึ้นมามอง ความจริงตอนก๊วยเซี้ยงไปแอบดูเลอฉีกับเมียเย็ดกัน เตียกุนป้อก็ลอบตามไป ก๊วยเซี้ยงกำลังเสี้ยนจัดจนหูอื้อไม่รู้ว่ามีคนมา เตียกุนป้อก็ลอบแอบดูอีกทางหนึ่งจนทั้งคู่เสร็จ เตียกุนป้อจึงรีบกลับมานอนแกล้งหลับไป ก๊วยเซี้ยงกำลังแตกวัยสาวซึ่งธรรมชาติเรียกร้องให้ต้องการผสมพันธ์เต็มที่ ไข่แดงกำลังสุกปลั่ง ยิ่งมาพบเจอคนกำลังเย็ดกันเลยปลุกตวามเสี้ยนอยากให้ใครมาเย็ดบ้างเต็มที่จึงเอานิ้วแยงหีแก้เงี่ยน เอาปากกัดผ้าห่มกันเสียงดังยังไม่วายมีเสียงกระเส่ารอดออกมาให้เตียกุนป้อได้ยิน

   ขณะกำลังจะจวนอยู่แล้วดันได้ยินเตียกุนป้อมากระซิบข้างหู
   “ เจ๊เจ๊ให้กุนป้อช่วยไหม ”

   ก๊วยเซี้ยงตกใจหัยไปเห็นกุนป้อเข้ามานอนใกล้ๆตั้งแต่เมื่อไร
   “ กุนป้อเจ้าพูดอะไรนะ จะช่วยเรื่องอะไร ”
   “ ก็เจ๊เจ็ กำลังเสี้ยนใช่ไหม ถึงตกเบ็ดจนผ้าห่มเผยิบผยาบอย่างนั้น ”
   “ บ้าแล้ว เจ้าพูดทลึ่งอะไร ”

   ก๊วยเซี้ยงหน้าแดงด้วยความโมโหและอายยิ่งที่ถูกเด็กพบเห็นคล้ายคนทำผิดแล้วรีบกลบเกลื่อน
   “ ก็ที่เจ๊เจ๊ทำอยู่ตอนนี้แหละเค้าเรียกตกเบ็ด ลองเอามือมาให้กุนป้อมาดูหน่อยซิ ”

   ก๊วยเซี้ยงเสียท่าเด็กสุดอับอาย กลบเกลื่อน
   “ ตกเบ็ดอะไรกันเจ้ามันแก่แดดใหญ่แล้ว ”
   “ ไม่ต้องอายหรอกเวลาผู้หญิงมีอารมณ์ก็ทำกันอย่างนี้ กุนป้อเองเวลามีอารมณ์ก็ชักว่าวช่วยตัวเองเหมือนกัน ”
   “ นะให้กุนป้อช่วยนะไม่งั้นนอนไม่หลับ งุ่นง่านทั้งคืนแน่ ”

   ก๊วยเซี้ยงนึกฉิวปนขำที่อยู่มาเจอเด็กแก่แดดสู่รู้ ออกปากเหมือนรู้มากมาสั่งสอนนาง
   “ ช่วย ๆ เจ้าจะช่วยอะไร ยังเป็นเด็กไม่รู้ความ ริมาทำเรื่องของผู้ใหญ่ได้ไง ”

   เตียกุนป้อไม่พูดมากยกมือดึงผ้าห่มออกพ้นร่างก๊วยเซี้ยง ทำให้นางต้องตกใจร้องว้าย ดึงกางเกงใส่ไม่ทัน
   “ นี้เจ้า...”
   “ เห็นไหมเจ๊เจ็กำลังตกเบ็ดอยู่จริงๆ “

   กุนป้อโถมต้วลงกอดก๊วยเซียงซึ่งทำทีปัดป้องเป็นพิธี แต่ก็ยอมปล่อยให้กุนป้อนอนกอดฟัดนาง ด้วยก๊วยเซียงกำลังเสี้ยนจัดเต็มทน และอยากรู้ว่ากุนป้อจะช่วยนางได้จริงหรือไม่

   “ อ้า เจ๊เจ็ นมสวยจังขอกุนป้อจับหน่อยนะ ”

   กุนป้อว่าแล้วเอามือจับเต้านมขนาดพอเหมาะบีบเล่นเบาๆ( ตอนอาบน้ำจับได้นิดเดียวเอง )อา..นมเจ๊ก๊วยเซียงช่างเต่งตึงเต๋มมือดีจริง หัวนมแดงแจ๋แถมชูชัน คล้ายเชิญชวนให้เตียกุนป้อต้องเอาปากไปเลียดูดดู ก็วยซึยงโดนกุนป้อจับดูดนม รู้สึกมันช่างแตกต่างจากการที่เคยบีบนมตัวเองเท่านั้น ยิ่งเพิ่มความกำหนัดให้ตัวเองจนน้ำเยิ้มเต็มรูจิมิ๊นางแล้ว

   พอกุนบ้อถอนปากออกมาตะแคงตัวก๊วยเซี้ยงจึงมองเห็นกระเจี้ยวกุนป้อตอนนี้กลับลุกชี้โด่ ปลายหุ้มเปิดหัวบานแต่ไม่น่ากลัวเท่าของเลอฉี กุนป้อความจริงก็ยังไม่เคยแต่ที่ทำไปโดยธรรมชาติ ไม่รู้ว่าต้องทำไงต่อ เพิ่งเคยเห็นจากที่เลอฉีเย็ดกับเมียสักครู่เหมือนกัน แต่ดูเหมือนก๊วยเซี้ยงจะคิดเช่นเดียวกันถึงขั้นตอนว่าต้องทำไงต่อ

   นางจึงก้มลงยื่นลิ้นออกโลมเลียไปที่รอบๆหัวหยักกุนป้อตามแบบเมียเลอฉี ก่อนอ้าปากอมท่อนหัวเข้าไปในปาก
   “ อูยส์ เจ๊เจ็ อย่าเพิ่งดูดแรงต้องค่อยๆก่อน อย่าให้ฟันโดนของกุนป้อ ”



   มิน่าเมียเลอฉีถึงบอกว่าดีเป็นอย่างนี้เอง ก๊วยซึ้ยงเลยร้องออกมาแบบเมียเลอฉีบ้าง
   “ โอย กุนป้อ เย็ดเจ๊เจ๊ แรงๆ เจ๊เจ๊...๐”

   เตียกุนป้อก็รู้สึกเสียวสนุกไม่แพ้ก๊วยเซี้ยงเช่นกัน กระเด้าเย็ดเร็วปรื้อเหมือนเลอฉีไม่หยุด จนในที่สุดทั้งคู่ก็ต้องทนไม่ไหวต่างปล่อยน้ำกระสันต์ออกมาอย่างมีความสุขด้วยกันทั้งคู่ กุนป้อแสนอิ่มเอิบใจที่ได้เย็ดเจ๊เจ็ก๊วยเซี้ยงที่สวยราวนางฟ้าสมปรารถนา นอนกอดก๊วยซึ้ยงหลับไปอย่างมีความสุจด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการหลบหนีมาและประกอบกับการร่วมรักกับดํวยเซี้ยง

   ก๊วยซึ้ยงตื่นขึ้นมาตอนเกือบย่ำรุ่ง กลับเห็นตนนอนกอดกับเด็กน้อยกุนป้อ มองเห็นหว่างขาตนมีทั้งคราบน้ำรักและเลือดที่แห้งกรัง เกิดความสำนึกเสียใจว่าทำไมตนได้เผลอปล่อยตนให้เลวทรามเช่นนี้ ดังคนที่นินทาว่าต้องการผู้ชาย กุนป้อเป็นเด็กแท้ๆ ยังไม่ไว้ไม่ได้ ทำให้ตนก่อเรื่องบัดสีได้ นึกถึงเอี้ยก๊วยก็รู้สึกเสียใจว่าอยากจะเก็บความสาวไว้ให้เอี้ยก๊วยแต่ก็ทำไม่ได้จะมีหน้าไปพบเอี้ยก๊วยได้อย่างไร


   สำนึกแห่งความเสียใจเมื่อกามารมณ์ผ่านพ้นไปทำให้นางต้องหลั่งน้ำตาออกมาเงียบๆ นึกถึงอึ้งย้งผู้เป็นมารดาได้

   “ ลูกเซึ้ยง แม่ได้พบวิชาแขนงหนึ่ง แม่ตั้งชื่อว่า วิชาสาวพรหมจรรย์ เจ้าอาจดูว่ามันลามกในตอนนี้เพราะเจ้ายังเยาว์วัย และบริสุทธิ์ แต่ในบู๊ลิ้มมีผู้คนโฉดชั่วร้ายมากมายที่เจ้านึกไม่ถึง หากวันหนึ่งเจ้าอาจโชคร้ายพบคนเหล่านี้ มารังแกย่ำยีทำให้พลาดท่าเสียทีไป วิชานี้จะช่วยฟื้นฟูให้เจ้าได้ แม้ว่าไม่สามารถเรียกพรมจรรย์คืนมาได้เต็มร้อย แต่ก็ใกล้เคียงมาก แต่ทุกสิ่งมีคุณก็ย่อมมีโทษเช่นกัน เจ้าต้องเก็บเป็นความลับอย่านำไปแพร่หลาย ใช้พร่ำเพื่อ เพราะอาจทำให้เป็นหญิงมากกตัณหาได้ และหญิงที่ร่านสวาทหากนำไปใช้ในทางที่ผิด อาจใช้สยบผู้ชายไว้แทบเท้าได้ยิ่งกว่าวิชาฝีมือใดๆ ”

   ก๊วยเซี้ยงนึกถึงคำสอนของอึ้งย้ง จึงดำเนินโคจรลมปราณตามเคล็บวิขาลับที่อึ้งย้งให้ไว้ สิ่งที่อัศจรรย์ก็เกิดขึ้นกับก๊วยเซี้ยง เมื่อรูหีของก๊วยเซี้ยงที่บานเผยิบออกมาเพราะโดนกุนป้อชำเราเอาเมื่อสักครู่ กลับคืนสภาพเป็นดั่งเดิม แม้ไม่สามารถเรียกเยื่อพรมจรรย์ที่เสียไปให้กลับมา แต่ก็รู้สึกว่ามันเป็นเหมือนจิ๊มิ๊น่ารักที่นางเรียกเช่นเดิม แถมยังรู้สึกกระชับ มีกำลังเช่นเดิมไม่เหมือนตอนถูกร่วมรักที่อ่อนเพลียเมื่อสักครู่


   ก๊วยเซี้ยงดีใจที่ได้อึ้งย้งสอนวิชาลับนี้ขึ้น มองดูเตียกุนป้อซึ่งกำลังหลับ พลางลุกขึ้นแต่งตัว คิดในใจว่าไม่ใช่ความผิดของเตียกุนป้อแต่อย่างใดเป็นเพราะอารมณ์ชักนำพาไปต่างหาก นางจึงถอดกำไลที่ก๊วยเจ๋งให้ไว้ออก แล้วเขียนหนังสือทิ้งไว้ความว่า

    หากกุนป้อไร้ที่พึ่งพา จงนำกำไลนี้ไปแสดงต่อพวกพ้องของก๊วยเจ๋ง จะได้รับความช่วยเหลือ อุปการะเลี้ยงดู และสอนวิขาให้

   ความรีบร้อนของก๊วยเซี้ยงจึงทำให้ข้อความตกหล่นเป็น ให้นำกำไลนี้ไปแสดงต่อก๊วยเจ๋ง เสร็จแล้วก๊วยซึ้ยงจึงออกเดินทางไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาเตียกุนป้อตื่นขึ้นพบข้อความที่ก๊วยซึ้ยงเขียนทิ้งไว้จึงรู้ว่านางไปแล้ว เตียกุนป้อรู้สึกติดใจในรสสวาทในคืนนั้น ตอนหลังพบก๊วยเซี้ยงพยายามขอรื้อฟื้นความหลัง แต่ก๊วยเซี้ยงกลับตัดรอนเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

   เตียกุนป้อรู้สึกเหมือนโดนผู้หญิงฟันแล้วทิ้ง ทั้งๆที่ตัวเองเป็นฝ่ายได้ก๊วยเซี้ยง แค่ไม่รู้จะพูดอย่างไรให้อับอาย คิดถึงก๊วยเซี้ยงคราใด ได้แต่ดูกำไลที่ก๊วยเซี้ยงให้ไว้ดั่งเป็นของดูต่างหน้า ต่อมาก๊วยเซี้ยงกลับบวชเป็นชีและตั้ง สำนักง่อไบ๋ขึ้น เตียกุนป้อจึงไปบวชเป็นนักพรตก่อตั้ง สำนักบู๊ตึ้งขึ้นเช่นกัน

   เลยเข้าทำนองที่ว่า อีกคนบวชชีเพราะหนีรัก อีกคนอกหักเพราะรักชี คงเป็นเช่นนี้กระมั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น