วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

หนูอายจังค่ะ 2

หนูมีความรู้สึกอาย รู้สึกหวง ไม่อยากให้ใครได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของหนู อีกอย่างเวลาหลังเลิกเรียนหนูก็กลับบ้านช้ากว่าเดิมบ้าง ทั้งอยู่เล่นที่โรงเรียนทั้งอยู่เล่นบ้านเพื่อนระหว่างทางอะไรหลายอย่าง ตอนเช้าก็อาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน เรียกว่าจันทร์ถึงศุกร์ก็ไม่ค่อยมีเวลา ยิ่งเสาร์อาทิตย์ก็มักออกเล่นบ้านเพื่อนบ้าง เพื่อนมาบ้านบ้าง ตามประสาเด็กสาวที่กำลังรักสวยรักงาม

ส่วนที่บ้านนั้นก็คล้าย ๆ เดิม หนูยังเห็นอยู่เรื่อย ๆ เริ่มโตมาก็พอนึกคิดได้บ้าง รู้สึกว่าพ่อกับแม่จะชอบแนวนี้เป็นพิเศษ หนูไม่ได้เห็นพ่อกับแม่แค่อาบน้ำพร้อม ๆ กันแค่กับหนูกับน้องชายแค่นั้น แม้ตอนนี้หนูจะไม่ได้อาบน้ำพร้อม ๆ กัน แต่น้องชายที่ดูโตแล้วก็ยังอาบน้ำพร้อม ๆ กันอยู่ เท่านั้นไม่พอ หนูยังเห็นแต่ละคนเดินโทง ๆ กันออกมาจากห้องน้ำ ออกมายืนเช็ดตัวแต่งตัวแบบล่อนจ้อนอยู่นอกห้องน้ำ ซึ่งถามว่าแปลกมั้ยก็คงตอบว่าไม่แปลกหรอกเพราะแต่ก่อนสมัยหนูอาบน้ำด้วยกันก็แบบนี้แหละ แต่หนูว่าตอนนี้ไม่เหมือนตอนนั้นแล้วนะ หนูเองก็โตแล้ว น้องชายก็เริ่มโตแล้ว ไม่รู้สิบอกไม่ถูก

เท่านั้นยังไม่พอ หลายครั้งที่เห็นพ่อหรือแม่เดินออกมาจากห้องแบบที่แก้ผ้าเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการออกมาเข้าห้องน้ำก่อนเข้านอน ไม่ว่าจะเป็นการตื่นกลางดึกมาเข้าห้องน้ำหรือกินน้ำ หรือตอนเช้าที่ตื่นขึ้นมา หลายครั้งหรือแทบจะเรียกว่าเป็นประจำก็ยังได้ที่ทั้งพ่อและแม่เดินเปลือยกายล่อนจ้อนออกมาจากห้อง ทั้งออกมายืนชงกาแฟ ทั้งนั่งจิบกาแฟที่โซฟา ทั้งเดินไปเดินมา หนูเห็นแทบจนชินสายตาทั้งพ่อและแม่ แต่ก็อดนึกไม่ได้ เพราะมันรู้สึกแปลกถ้าต้องเทียบกับครอบครัวอื่น จริง ๆ หนูไม่รู้หรอกว่าของคนอื่นเป็นยังไงบ้าง แต่เท่าที่เคยคุยกันกับเพื่อน ๆ หรือจากสื่อต่าง ๆ ก็ไม่เห็นเค้าทำกันอย่างนี้

แล้วก็เคยเห็นนะไม่ใช่ไม่เคยเห็น ไอ้จู๋ของพ่อเลี้ยงน่ะ บางครั้งมันก็แข็งตัว ใหญ่กว่าเดิมตั้งหลายเท่า บางครั้งก็เหี่ยวหดหัวห้อยเดินโตงเตง ๆ ไปมา แม่เองก็ชอบซะเหลือเกินที่จะหยอกล้อกันกับพ่อ จับโน่นจับนี่ หยอกเย้ากระเซ้าแหย่ บางครั้งเหมือนหนูกับน้องชายไม่ได้อยู่ด้วยกันในบ้านหลังนี้เลย ก็เรียกว่าทำเอาหนูเขินไปบ้างก็มีเหมือนกัน แต่ก็อย่างว่า เห็นแม่มีความสุขดีก็ดีไปด้วย แล้วน้องชายหนูก็ชักติดนะ แม้จะยังไม่โตเท่าไหร่นัก เห็นเสาร์อาทิตย์นั่งดูการ์ตูนดูหนังอยู่หน้าทีวีก็แก้ผ้านั่งดูอยู่อย่างนั้นแทบทั้งวัน ไม่รู้สึกหนูเห็นแต่ละคนแก้ผ้าอยู่ในบ้านซะชินตาแล้ว บางครั้งก็ต้องเรียกว่าเอียนก็มีเหมือนกัน

หนูเองก็ถูกชักชวนทั้งจากแม่และพ่อ รวมถึงน้องชายด้วยเหมือนกัน แต่หนูเองก็ปฏิเสธอยู่เรื่อยไปโดยทำตัวเป็นเร่งรีบที่จะออกไปข้างนอกตามนัดกับเพื่อน ๆ ที่นัดกันไว้แล้ว อะไรประมาณนั้น หรือเสาร์อาทิตย์ก็จะรีบตื่นมาเข้าห้องน้ำก่อน รีบอาบน้ำก่อน ซึ่งก็มีเหมือนกันในจังหวะที่หนูกำลังนั่งส้วมอยู่ แล้วแต่ว่าใครเร่งรีบ ก็จะมายืนอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำซึ่งเป็นประตูเดียวกัน แม้น้ำที่อาบจะไม่กระเด็นก็ตามทีแต่หนูก็รู้สึกมันขัด ๆ กัน อึไม่ออก ไม่เหมือนคนอื่น ๆ หนูกำลังอาบน้ำอยู่คนเดียว ด้วยความปวดจนทนไม่ไหวโดยเฉพาะน้องชาย เค้ารีบแจ้นมานั่งส้วมเลย หลายครั้งที่หนูเองก็ยังไม่เรียบร้อย แต่ก็ต้องถอนตัวจากการอาบน้ำออกไป เนื่องจากอายน่ะนะ

แล้วอีกอย่างที่เห็นออกบ่อย คือทั้งพ่อและแม่เค้าชอบแต่งขนตรงนั้นกัน บางครั้งก็เล็มขนซะบางติดเนื้อเลย บางครั้งก็โกนออกเลยก็มีให้เห็น หนูล่ะอ๊ายอาย อายแทนเลย ก็เวลาที่เค้าโกนออกแบบเกลี้ยงเกลาเลยน่ะนะ มันเหมือนของเด็กเลย เห็นของแม่หนูก็นึกถึงตัวหนู เห็นของพ่อก็นึกถึงของน้องชาย แรก ๆ ที่เห็นหนูก็รู้สึกขัด ๆ ในตา รู้สึกไม่กล้ามอง ทำเป็นไม่เห็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่หลัง ๆ มานี่เห็นจนบ่อย เห็นอยู่เรื่อย จนค่อยข้างเป็นเรื่องปกติ บางครั้งก็เห็นเวลาอาบน้ำพร้อมกันทั้งสามคน ซึ่งประตูห้องน้ำก็ไม่ค่อยปิดกันแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว เดินผ่านก็ต้องเห็น นั่นเลยทั้งสามคนช่วยกันโกนช่วยกันเล็มกันยกใหญ่ ก็ชินตาแล้วล่ะ นี่ยังดีนะที่เวลาเพื่อนหนูมาเที่ยวเล่นที่บ้าน พ่อกับแม่ยังสวมใส่เสื้อผ้ากันบ้าง ไม่มีแก้ผ้าล่อนจ้อนโฉบไปโฉบมาให้หนูต้องอายเพื่อน ๆ จะมีบ้างก็น้องชายของหนูที่ไม่สนไม่อายสายตาใคร ซึ่งเพื่อน ๆ ก็มองว่าน้องชายหนูก็ยังเป็นเด็กอยู่ ก็ไม่ได้คิดอะไร

แต่สิ่งที่ทะลึ่งสุด ๆ คือ ไม่ว่าหนูกับน้องชายจะอยู่หรือไม่อยู่ คือถ้าอยู่พ่อกับแม่ก็เล่นหยอกกันเหมือนกับว่าหนูกับน้องไม่ได้อยู่ด้วยตรงนั้น ไม่แคร์สายตาไม่แคร์ความรู้สึกที่หนูกับน้องจะได้เห็น คือเรือนร่างอันเปลือยเปล่านั้นน่ะเห็นกันมานักต่อนักแล้ว แต่ลึกซึ้งกว่านั้นคือการหยอกล้อเล่นกันระหว่างพ่อกับแม่ เล่นกันไปเล่นมา ไอ้จู๋ของพ่อมันแข็งตัวขึ้นมา แม่ก็ยังจับเล่นต่อ บางครั้งก็บอกให้พ่อจับไอ้จู๋ให้แม่เค้าดู อะไรประมาณเนี้ย ซึ่งหนูกับน้องก็อยู่แถว ๆ นั้น โดยเฉพาะน้องชายหนูที่เห็นเวลาเล่นอะไรกันอย่างนั้น ก็มักที่จะเข้าไปนั่งดูใกล้ เข้าไปถามไปซัก ตามประสาเด็กวัยกำลังเรียนรู้ หนูเองที่ไม่ได้แค่เห็น แต่กลับได้ยินได้ฟังคำอธิบายที่พ่อและแม่พูดบอกให้น้องชายได้ฟังด้วยความเป็นธรรมชาติ สอนให้รู้จักตัวเอง ให้รู้จักความเป็นธรรมชาติ

ซึ่งเจตนานี้ไม่ใช่แค่สอนกับน้องชายเพียงอย่างเดียว กับหนูด้วยเหมือนกัน ที่หนูรู้จักอะไร ๆ เกี่ยวกับอวัยวะ ความรู้สึก ความต้องการ การจัดการ ก็มาจากปากพ่อกับแม่เนี่ยแหละ แรก ๆ ที่หนูได้ยินได้ฟังนะ หนูอายหน้าแดงเลย แต่ก็ดีเป็นความรู้ดี แต่หนูรู้สึกว่าหนูจะแก่แดดกว่าเพื่อน แต่หนูก็ไม่ได้แสดงออกอะไรนะ หนูรู้อยู่แก่ใจตัวหนูดี แค่กวาดสายตาไปทางไหนก็พอรู้ไปหมด มองไปทางเพื่อนสาวก็รู้ว่าข้างในเป็นยังไง มองไปทางเพื่อนชายทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่ ก็รู้ดีว่าสิ่งที่อยู่ข้างในมันเป็นยังไง รู้ว่าเค้าจะเป็นยังไงถ้ามีความต้องการอะไรอย่างนั้นขึ้นมา อะไรประมาณเนี้ย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น