วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559

วิมานสวาทสาวหม้าย 1




ที่ใดมีสาวงาม...ที่นั่นคือแดนสวรรค์ นั่นคือความจริงที่ใคร ๆ ก็คัดค้านไม่ได้ ไม่ว่าหนุ่มหรือแก่มีความเห็นสอดคล้องต้องกันทั้งนั้น
สาวงามคนที่ว่านี้ งามจริง ๆ งามทั้งใบหน้าและส่วนสัดในเรือนร่าง ใครได้พบเห็นแล้วจะต้องเก็บเอามาคิดมาฝันถึงเธอไปอีกนาน
ชุมศรีคือสาวงามผู้มีเสน่ห์ชอบให้ใฝ่ฝัน เธอมีอายุได้ 27 ปีเศษ แต่ถ้าใครไม่ทราบความจริงแล้ว จะคิดว่าเธอมีอายุเพียง 20 กว่าปีเท่านั้นเอง
เป็นที่น่าเสียดายที่เธอเป็นหม้าย สามีตายตั้งแต่วัยนี้ ทิ้งให้เธอผจญกับความว้าเหว่กับลูกชายวัย 5 ขวบเศษ มันเป็นของแน่ที่เธอจะต้องคร่ำครวญถึงชีวิตรักอันหวานชื่นของเธอซึ่งได้สลายตัวไปอย่างปัจจุบันทันด่วน วัยของเธอเป็นวัยที่กำลังต้องการความรักความทะนุถนอมอย่างแท้จริง เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ท่านลองคิดดูสิว่า ชุมศรีจะปวดร้าวและว้าเหว่เพียงไร เธอโศกสลดรันทดกับการตายของสามีได้ถึงปีกว่า เจ้าความเศร้าก็บินไปจากเธอทีละน้อย ๆ จนบัดนี้ เธอร่าเริงแจ่มใสมีชีวิตชีวาเหมือนผีเสื้อแสนสวยที่บินโฉบไปมาเพื่อหาความหวานชื่นจากเกสรดอกไม้
เธอเริ่มทำตนเป็นนักสังคมสงเคราะห์ เริ่มออกงานสังคมต่าง ๆ ยิ่งเธอเป็นคนสวยมีเสน่ห์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเยื้องกรายไปที่ใด ก็งามเด่นสะดุดตาอยู่เสมอ ถ้าใครไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน จะมิทราบเป็นอันขาดว่าเธอเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว
ด้วยความหงอยเหงาตั้งแต่แรก เธอจึงชวนน้องสาวร่วมบิดามารดามาอยู่เป็นเพื่อนถึงสองคน โดยการส่งเสียให้เรียนเสริมสวย คือคนพี่ชื่อชวนชื่นเรียนตัดเสื้อ คนหนึ่งชื่อชวนชมเรียนตัดผม
อันอุปนิสัยของสองพี่น้องนี้ ก็แตกต่างกันยิ่งนัก ชวนชื่นคนพี่นั้นมีนิสัยเยือกเย็นสุขุมละเอียดอ่อน เหมาะแก่วิชาที่เรียนอยู่แล้ว ส่วนชวนชมคนน้องนั้นมีนิสัยสนุก เจ้าอารมณ์ เปรี้ยวปรูดปราด เหมาะแก่สมัยนิยมปัจจุบัน แต่พี่น้องก็มีความรักใคร่กันเป็นอย่างดี
ชุมศรีจัดให้น้องทั้งสองขึ้นไปพักบนชั้นบนใกล้ ๆ กับห้องของเธอและลูกชาย ไม่ปะปนกับคนใช้ซึ่งอยู่เรือนแถวข้างล่าง อาศัยที่สามีที่ตายเป็นคนมีสมบัติมรดกมหาศาลจากบรรพบุรุษ สมบัติอันนั้นจึงตกทอดมาถึงเธอและบุตร อาศัยที่เธอเป็นคนฉลาด รู้จักสะสมและหารายได้จากสิ่งที่มีอยู่แล้วมาใช้จ่ายประจำเดือน ค่าเช่าบ้านและค่าเช่าที่ และรายได้อื่น ๆ เมื่อรวมกันเข้าแล้ว เธอก็มีพอที่จะใช้จ่ายได้อย่างสบาย เธอจึงไม่มีทุกข์มีร้อน ดิ้นรนหากินเหมือนแม่หม้ายเป็นส่วนมาก
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ทุกคนอยู่บ้านกันอย่างพร้อมเพรียง นาฬิกาตีบอกเวลา 10 นาฬิกาพอดี เด็กรับใช้คลานเข้ามาบอกว่ามีแขกต้องการพบคุณชุมศรีพร้อมกับยื่นนามบัตรให้
ไพศาล กาญจนเดช เป็นชื่อสกุลของเขา ชุมศรีรับมาอ่านอย่างงง ๆ ด้วยเธอไม่รู้จักชื่อนี้มาก่อนเลย สั่งให้เด็กรับใช้เชิญเขาเข้าไปยังห้องรับแขก แล้วเธอก็ตรงไปยังกระจกเงาเพื่อสำรวจความงามของใบหน้าและเครื่องแต่งกายอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเห็นว่าพร้อมแล้ว เธอจึงตรงไปยังห้องรับแขกทันที
ชายผู้นั้นลุกขึ้นต้อนรับเธออย่างอ่อนน้อม พร้อมกับยกมือคารวะเธอก่อนทั้ง ๆ ที่รู้สึกว่าวัยของเขาจะไม่น้อยนัก
"เอ้อ สวัสดีครับคุณชุมศรี"
"ค่ะ สวัสดีคุณไพศาล เชิญนั่งสิคะ ตามสบายเถอะค่ะ ถือเป็นกันเอง"
เธอหยุดเว้นระยะเมื่อเด็กรับใช้นำเครื่องดื่มเข้ามาให้
"เชิญดื่มสิคะ วันนี้อากาศค่อนข้างอบอ้าวซะด้วย"
"คุณมีธุระอะไรที่จะให้ดิฉันรับใช้คุณหรือคะ คุณไพศาล"
"ครับ ผมมีธุระที่ต้องการจะปรึกษาและขอคำแนะนำจากคุณ"
"เชิญเลยค่ะ ดิฉันยินดีจะช่วยเหลือและขอบคุณที่ให้เกียรติดิฉันค่ะ"
"คือยังงี้ครับ ผมขอแนะนำตัวของผมก่อนว่าผมเป็นชาวปักษ์ใต้ เป็นเจ้าของเหมืองแร่ที่มีรายได้พอประมาณ ขณะนี้ภรรยาของผมต้องการจะหย่าร้างกับผม แต่ผมรักเธอมากและคิดว่าจะอยู่โดยปราศจากเธอไม่ได้ ผมจึงมาขอความกรุณาคุณ ด้วยมีผู้แนะนำว่า คุณเป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง โปรดให้คำแนะนำผมด้วยจะเป็นพระคุณที่สุด"
ชุมศรีนั่งฟังปัญหาชีวิตของเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ เมื่อเขาเล่าจบ เธอก็พูดชมเขาอย่างอ่อนหวาน
"ขอประทานโทษนะคะ ถ้าหากว่าดิฉันจะถามซอกแซกไปหน่อย แต่ก็จำเป็น เพราะบางทีสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราไม่คิดว่าจะเป็นสิ่งก่อความแตกร้าว แต่มันก็เป็น"
"ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีตอบคำถามของคุณทุกประโยค เชิญถามได้เลยครับ"
"ภรรยาของคุณอายุเท่าไรไม่ทราบคะ แก่หรืออ่อนกว่าคุณกี่ปี"
เขาทำท่านิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบว่า
"จงจิต ภรรยาของผมอายุ 35 ปีครับ อ่อนกว่าผม 4 ปี ผม 39"
"อ้อ วัยก็สมกันดีนี่คะ มีการทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยรึเปล่าคะ"
"ไม่เคยทะเลาะกันเลยครับ เป็นความจริง"
"เอ น่าแปลก"
"มาระยะประมาณเดือนเศษ ๆ นี่แหละครับ ดูเธอเฉย ๆ ขรึม ๆ ไม่ค่อยช่างพูดและยิ้มหัวเราะเหมือนก่อน ๆ"
"ขอโทษคะ มีบุตรกี่คนคะ"
"คนเดียวครับ ผู้ชายอายุได้ 18 ปีพอดี"
เธอทำท่าอย่างใช้ความคิด เขานิ่งด้วยอาการอันสงบราวกับจำเลยกำลังรอฟังคำพิพากษาจากศาล
"จะรังเกียจมั้ยคะ ถ้าดิฉันจะขอเป็นแขกไปพักที่บ้านสัก 2-3 วัน เพื่อจะดูเหตุการณ์อะไรบางอย่าง"
"โอ ด้วยความยินดียิ่งเชียวครับ จะไปกับผมเลยรึไงครับ จะได้สะดวก"
"ไม่ดีหรอกค่ะ คุณกลับไปก่อน และอีกสองวัน ดิฉันจะตามไป ขอตำบลที่อยู่ให้ดิฉันด้วย"
เขาจัดการตามที่เธอบอกด้วยใบหน้าแช่มชื่นขึ้น และบอกแก่เธอว่า เขาจะมารับเธอที่สถานีรถไฟ แล้วเธอก็นัดหมายกับเขาให้บอกแก่ภรรยาว่า เธอเป็นญาติผู้น้อง ต้องการจะไปพักผ่อนตากอากาศสักหนึ่งอาทิตย์
แล้วไพศาลก็ลาเธอกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
อีกสองวันต่อมา ชุมศรีก็ได้ไปปรากฏตัวที่ปัตตานีอันเป็นที่อยู่ของไพศาล เขามารับเธอตรงตามที่นัดไว้ และได้แนะนำแก่ภริยาของเขาว่าเธอเป็นญาติผู้น้องตามที่ตกลงกันไว้ ชุมศรีเรียกเขาว่าพี่อย่างสนิทสนม ทำให้มีความเป็นกันเองมากขึ้น
จงจิตเป็นคนสวยคมซึ้ง แววตาของเธอแสดงว่ามีอารมณ์ร้อนแรงอยู่มิใช่น้อย แต่ขณะนี้เธอดูเศร้าซึมไปเล็กน้อย เพราะเธอพยายามปกปิดอารมณ์ของเธอไว้มิแสดงออกมาโดยมารยาทของเจ้าของบ้าน
ชุมศรีกระซิบสั่งไพศาลว่า ขอให้เธอมีเวลาอยู่กับจงจิตให้มากที่สุดเพื่อเธอจะได้ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้ภริยาของเขาต้องการจะหย่าร้าง
ดังนั้นไพศาลจึงออกไปทำงานในเหมืองเสียทั้งวัน จะกลับมาก็เฉพาะเวลารับประทานอาหารเท่านั้น และกลางคืนจงจิตก็จัดให้ชุมศรีได้นอนร่วมกับตนตามที่เธอต้องการ
ในห้องนอนอันรโหฐาน บนเตียงอันกว้างใหญ่ซึ่งรองรับฟูกอันอ่อนนุ่ม สองหญิงต่างก็ซ่อนร่างอยู่ในชุดนอนอันพราวพริ้ง นอนคุยกันอย่างถูกคอกัน ชุมศรีชวนสนทนาตามจุดที่ตนต้องการ เป็นการดีอยู่อย่างหนึ่งที่จงจิตเป็นคนเปิดเผย เธอถามอะไรก็เล่าให้ฟังตามตรงไม่ปิดบังอำพรางแม้แต่น้อย
ในที่สุด เธอก็จับจุดได้ว่า เป็นเพราะไพศาลรักงานมากเกินไปจนลืมเอาใจใส่ภรรยาของตน แม้กระทั่งเวลานอน ความเหน็ดเหนื่อยทำให้เขาหลับอย่างสนิท ซึ่งตรงข้ามกับเมียซึ่งแสนจะว้าเหว่นอนลืมตาโพลงเพื่อจะรอรับความรักความอบอุ่นจากเขาเหมือนเมื่อแต่งงานใหม่ ๆ แต่เขาก็มิได้รู้สึกถึงความต้องการของเมียเลยสักนิด บางคราวเป็นเวลาถึงเดือนเศษที่เขามิได้ยุ่งเกี่ยวหลับนอนฉันท์ผัวเมียทั้งหลาย ทั้ง ๆ ที่ก็นอนอยู่ด้วยกันทุกคืน อกเธอแทบจะระเบิดตายเสียให้ได้ แต่ความเป็นผู้หญิง ให้เร่าร้อนร่านระริกเพียงไร ก็สุดที่จะบอกให้ใครรู้ได้ แม้ว่าคนนั้นจะเป็นผัวของตนก็ตาม
"อือม์ ดู ๆ พี่ศาลไม่น่าจะเป็นถึงขนาดนี้เลยนะคะ เห็นออกเป็นสุภาพบุรุษ ดี๊ ดี พี่จิตก็ยังสาวและสวยด้วย ทำไมถึงไม่มีอารมณ์เอาซะเลยน้อ"
เธอเปรยขึ้นอย่างสงสัย พร้อมทั้งลูบไล้ช่วงแขนของเธอไปมาอย่างแผ่ว ๆ
"ค่ะ มอง ๆ ดูคุณศาลก็เป็นคนน่ารักอยู่มาก แต่น่าแปลก ทำไมไม่มีอารมณ์เอาซะเลย พี่ก็เจ็บใจตัวพี่เหลือเกินนะน้องชุม ทำไมถึงเกิดอารมณ์เมื่อเข้าใกล้เขาทุกที"
"มันเป็นของธรรมดาค่ะ พี่จิต ผัวกันเมียกันมันก็ต้องยังงั้นแหละ"
"รึคุณศาลจะนอกใจพี่ก็ไม่รู้"
"เคยไปค้างที่อื่นเสมอรึคะ"
"ไม่เคยเลยค่ะ"
"งั้นก็ไม่ใช่ แหม เนื้อพี่จิตเย้นเย็น นิ่มมือจังเลย ยังงี้ถ้าชุมเป็นพี่ศาลล่ะก้อ ฮึ รับรองได้ ทุกคืนเลย"
"อุ๊ย พูดเข้าซี่ อูย น้องชุมจ๋า ซี๊ด"
"เป็นอะไรคะ พี่จิต"
"อูย เล่นลูบ...คลำ..ยังงี้ พี่เสียว อูย ปล่อยเถอะ นอนกันดีกว่า"
"นอนไม่หลับหรอกค่ะ ชุมรู้ มาเถอะ ชุมจะช่วยทำให้พี่จิตมีความสุขในคืนนี้เอง"
"ตายแล้ว น้องชุม พูดอะไรยังงั้นคะ แล้วน้องชุมก็เป็นผู้หญิง"
"ทำไมคะพี่จิต ผู้หญิงก็ทำให้ผู้หญิงมีความสุขได้ ถอดเสื้อออกดีกว่า ชุมอยากเห็นเนื้อแท้ ๆ ของพี่จิตจังเลย"
"ว้าย อย่าค่ะ ซี๊ด น้องชุม อี๊ย์ อย่า อูย ดูซิ มาเล่นนมพี่ยังงี้ ซี๊ด ซี๊ด พี่เสียว"
"นมพี่จิตยังกะสาว ๆ แน่ะ ยังเต่งตึงฟิตเปรี๊ยะอยู่เลย หัวนมก็น่ารัก ขอชุมเล่นให้สนุกหน่อยเถอะ"
เธอพูดพลางเคล้าคลึงสองเต้าเต่งของจงจิตเล่นอย่างเพลิดเพลิน เธอดิ้นเบา ๆ ผวากายส่ายอกยะเยือกด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยได้รับมาเดือนกว่าแล้ว
"อูย น้องชุมขา อย่าถึงกะดูดเลยค่ะ เท่านี้พี่ก็เสียว...ซี๊ด...ใจจะขาดอยู่แล้ว"
ไม่มีเสียงตอบ แต่มีเสียงดูดจ๊วบ ๆ ๆ มือของชุมศรีก็เลื่อนปราด ๆ ผ่านช่องท้องของเธอไปอย่างรวดเร็ว คว้าหมับเข้าที่โคกมหาเสน่ห์อันใหญ่โตแต่เนื้อน้อย ซึ่งอุดมไปด้วยเส้นหมอยอันดกดำ
"ว้ายน้อยชุม ซี๊ด น้องชุมขา ทำอะไรยังงั้น พี่..อูย..ซี๊ด...พี่"
"เป็นไงคะ ชุมบี้แตดให้พี่ยังงี้ เสียวดีมั้ย"
"อูยย ถามได้ อุ๊ย อี๊ย์ ตายแล้ว ดูซี่ แยงนิ้วเข้าไปในรูหีพี่ทำไม"
"ให้พี่เสียวนะซี ขอให้ชุมได้สำรวจช่องสวรรค์ของพี่หน่อยเถอะ แหม อุ่นดีจังพี่ นิ่ม น้ำเงี่ยนออกมาแฉะเชียว"
"อูย ซี๊ด น้องชุม ทำพี่ยังงี้แล้วจะช่วยอะไรพี่ได้คะ โธ่ ทำให้พี่อารมณ์กระเจิง ซี๊ด เปล่า ๆ"
เธอคร่ำครวญ ด้วยคิดว่าต่างเป็นผู้หญิงด้วยกัน ชุมศรีคงจะให้ความสุขแก่เธอไม่ได้แน่
"แน่ะ ดูถูกชุม เดี๋ยวเถอะ ชุมจะเย็ดให้พี่ร้องอู้เชียว"
"อูย ชุมน่ะเหรอ ซี๊ด จะเย็ดพี่ อูย จะเอาอะไรมาเย็ดคะ ไหน ลองถอดเสื้อให้พี่ดูซิ แหม เอาเปรียบพี่จัง"
ชุมศรีถอดเสื้อนอนของเธอออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นส่วนสัดในตัวเธออย่างชัดเจน
"โอ น้องชุม ของเธอก็งามไม่หยอก งามกว่าของพี่ซะอีก ถึงแม้หน้าอกจะเล็กกว่าพี่แต่ก็งอนเชิดเต่งตึงดีจัง อุ๊ย แน่ะ ดูซิ โคกหีก็ทั้งใหญ่ทั้งโคก ขนหมอยบ๊างบางน่ารักเหลือเกิน"
เธอมองทรวดทรงของชุมศรีอย่างตื่นเต้น อา...โคกสวาทของเธอช่างใหญ่ขนาดฝ่ามือกางยังปิดไม่มิด แล้วยังโคกนูนขึ้นมายังกะหลังเต่า เข้าตำราหีเจ้าเสน่ห์แท้ ๆ เชียว เมื่อเธอพิจารณาดูจนทั่วพร้อมทั้งลูบไล้เล่นบ้างเป็นการแก้ตัว ก็ไปพบเอาไฝแดงเม็ดใหญ่อยู่ที่โคนแตดของเธอพอดีก็อุทานเสียงดังลั่น
"อุ๊ยตาย น้องชุม น้องชุมมีไฝเม็ดเบ้อเร่อเชียว อูย ยังงี้เมื่อสามีน้องชุมมีชีวิตอยู่มิหลงน้องชุมแย่รึคะ"
"อูย ซี๊ด ก็...ก็..หลงน้องชุมน่ะซิคะ อูย พี่จิต ชุมเสียว ซี๊ด"
คราวนี้ถึงทีจงจิตแก้ตัวกับเธอเอาบ้าง เธอก็ถึงแก่เสียวสยิว ครางอู้ไม่ขาดระยะ
"โอ ดีจัง ถ้างั้นน้องชุมก็ต้องถูกเย็ดทุกคืนน่ะซิคะไ
"ค่ะ ทุกคืน อูย บางคืนก็ 2-3 หนยังมีเลยค่ะ พี่จิตขา ไชนิ้วเข้าไปในรู ยังงั้น ชุมเสียวนะคะ อูย อูย"
"ร้องไปเถอะ ถึงตาพี่มั่งแล้งนี่นา อุ๊ย แคมหีน้องชุมแด๊งแดง เป็นสีกุหลาบเชียว อือ มาเจอเอาหีเจ้าเสน่ห์เข้าแล้ว"
ต่างคนต่างก็ผลัดกันลูบคลำล้วงควักรูหีของกันและกัน ในที่สุดชุมศรีก็บอกแก่จงจิตเสียงกระเส่าว่า
"อูย พอเถอะค่ะพี่จิต เดี๋ยวน้ำแตกซะก่อนหมดสนุก"
"อ้าว ดีซีคะน้ำแตกจะได้สบาย จะกักเอาไว้ทำไมล่ะ"
"โธ่ ชุมยังไม่ได้เย็ดพี่จิตสักที"
"ดู๊ ดู พูดเข้า น้องชุมจะเย็ดพี่ได้ยังไงคะ"
"ได้ซีคะ พี่จิตรอชุมเดี๋ยวซิ"
เธอบอกจงจิตพร้อมกับก้าวฉับ ๆ ไปยังกระเป๋าเดินทางทันที และหยิบเอาเจ้าลึงค์จำลองขนาดเขื่องขึ้นมาท่อนหนึ่งแล้วชูให้จงจิตดู
"นี่ไงคะ พี่จิต เห็นมั้ย เหมือนยังกะของจริง"
"ต๊าย ตาย น้องชุมใช้อ้ายนี่เหรอคะ"
เธอตกใจ ตาเบิกโพลงด้วยความตื่นเต้นด้วยความไม่เคยเห็นและไม่เคยคิดที่จะใช้มาก่อน
"โธ่ ถามได้ ผัวชุมตาย ก็ได้อ้ายนี่แหละ บรรเทาได้เรื่อยมา"
"วิธีใช้ลึงค์เทียมอันนี้ ใช้ได้สองวิธีคือ ใช้ด้วยการกดสวิทช์ให้เครื่องมันเดิน ลึงค์ก็จะค่อย ๆ สั่นจากค่อยเป็นแรง ๆ เข้าทุกที และกระแสไฟฟ้าทำให้ท่อนลึงค์นั้นมีไออุ่นเหมือนของจริง ถ้าต้องการรุนแรงเพียงไรเขาก็มีที่เร่งให้เพียงพอแก่ความต้องการ วิธีนี้ใช้เมื่อเวลาอยู่คนเดียวและเกิดอารมณ์ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
อีกวิธีหนึ่ง ก็คือวิธีที่ชุมศรีกำลังจะใช้กับจงจิตอยู่ขณะนี้ โดยเธอสวมมันไว้แค่เอว ท่อนลึงค์นั้นก็มาอยู่ตรงหน้าเธอพอดี มองมันโด่ออกมาเหมือนของจริง จงจิตถึงแก่กลืนน้ำลายลงคอเอื๊อก เพิ่มแรงสยิวขึ้นอีก
"โอ เหมือนของจริง ๆ จัง น้องชุม ไหนขอพี่จับหน่อยซิ"
แล้วเธอก็เอื้อมมือมาจับอย่างขลาด ๆ และอุทานว่า
"อุ๊ยตาย นิ่ม ๆ หยุ่น ๆ ด้วย น้องชุมขา"
"นั่นซีคะ พี่จิต นอนหงาย ขวางแง่เตียงเข้าเถอะ ชุมจะเย็ดให้"
เธอรีบทำตามอย่างรวดเร็วด้วยความเงี่ยนขนาดหนัก พอเธอแอ่นโคกสวาทที่แง่เตียง โคกหีของเธอก็แอ่นสูงขึ้นกว่าเดิม ขาทั้งสองถ่างอ้าออก ทำให้เห็นรอยผ่าลึกได้ถนัด ชุมศรีใช้ลึงค์เทียมเขี่ยเม็ดแตดของเธอจนเอนไปมา จนเธอครางระริกและเร่งเร้าให้เย็ดเธอโดยเร็ว พอขาดคำ นักสังคมสงเคราะห์คนเก่งก็จ่อลึงค์ปราดเข้าที่รอยผ่านั้นทันที
"อูย ซี๊ด น้องชุมขา"
"เป็นไง พี่จิต เสียวมากนักรึ"
"อูย ค่ะ เสียว ซี๊ด อูย กดเข้าไปซีคะ น้องชุม อูย กดแรง ๆ ลึก ๆ เถอะ ซี๊ด"
เธอเร่งเร้าให้ชุมศรีกดเจ้าลึงค์ปลอมเข้าไปให้เต็มที่ และเธอเองก็เห็นเต้านมของชุมศรีไหวยะเยือกด้วยแรกกระแทกกระทั้นก็อดไม่ได้ที่จะใช้มือทั้งสองบีบบี้เม็ดหัวนมน้อย ๆ นั้นเล่นไปมาอย่างนึกสนุก ทำให้เธอเสียวสยิวขึ้นมา
"อูย พี่จิต ซี๊ด ชุมเสียว อย่าเพิ่งทำให้ชุมตอนนี้เลย ให้ของพี่เสร็จก่อนดีกว่า ชุมจะทำให้พี่จิตเอง"
แล้วเธอก็กดควยเสียบเข้าไปจนลึกถึงปากมดลูก พร้อมกับโน้มตัวลงดูดและเล่นหัวนมของเธออย่างสนุก เอวก็กระเด้าควยเข้าไปอย่างแรงและถี่ตามความต้องการของจงจิต
"อูย น้องชุม ซี๊ด เก่งอะไรยังงี้ อูย พี่เสียว ซี๊ด เต็มที่แล้ว น้ำจะแตก อูย แรง ๆ เถอะ น้องชุมจ๋า อูย ซี๊ด ว้าย น้ำหี...แตก น้องชุม น้องชุม กดควยไว้ก่อน อูย ๆ"
จงจิตฉีดน้ำเงี่ยนออกมามากมาย พอชุมศรีดึงท่อนควยออกมาน้ำเงี่ยนก็ไหลเอ่อ ย้อยตามออกมาไหลเต็มไปหมด
"อูย สบายจังค่ะ โล้งโล่ง ดูแจ่มใสขึ้นตั้งแยะ แปลกนะคะ อารมณ์พิศวาสนี่"
"มันเป็นธรรมดาของธรรมชาติแท้ ๆ เมื่อเราฝืนธรรมชาติไม่ไหวก็ต้องหาวิธีช่วย อุ๊ย นั่น พี่จิตจะทำให้ชุมเหรอคะ อย่าดีกว่า ชุมจะสอนวิธีใช้คนเดียวให้ เผื่อเวลาที่พี่จิตจะต้องการใช้จะได้ใช้เป็น ชุมจะทิ้งอันนี้ไว้ให้พี่จิต แล้วชุมจะไปหาเอาใหม่ในกรุงเทพฯ"
เธอพูดพลาง จัดการชำระล้างเจ้าลึงค์ท่อนนั้นให้สะอาดเช็ดแห้งดีแล้ว ก็เอาน้ำมันมาชโลมเล็กน้อย เธออธิบายว่า มันจะได้ลื่น แล้วเธอก็นั่งถ่างขาออกจนกว่าจ่อท่อนลึงค์เข้าไปในรูสวาทของตัวเองอย่างคล่องแคล่ว พร้อมกับกดสวิทช์ให้เครื่องทำงาน
"เอาล่ะค่ะ ซี๊ด ชักได้เรื่องแล้ว พี่จิต ดูดนมให้ชุมทีสิคะ อูย เห็นมั้ย มันกระดืบเข้าไปเอง ซี๊ด ลึกเข้าไปทุกที ๆ อุ๊ย ชนมดลูกแล้ว พี่จิต ซี๊ด ๆ"
แล้วเธอก็เร่งเครื่องให้เดินแรงขึ้นอีกหน่อย พร้อมกันนั้นเธอก็เด้งเอว แอ่นหี ส่ายเดี๊ยะ สูดปากครางอ๋อยอย่างสุดเสียง จงจิตมองอย่างตะลึง ไม่คิดเลยว่าจะมีเครื่องมือที่ทันสมัยถึงขนาดนี้ มันกระเด้าได้ยังกระคนจริง ๆ ชุมศรีก็ทั้งส่าย ทั้งเด้งรับอย่างเอร็ดอร่อย เพียงครู่เดียวเท่านั้น เธอก็ร้องบอกว่า น้ำของเธอแตกออกมาแล้ว พร้อมกับดับเครื่องเสียงดังกริ๊ก
"อูย สบายจัง เป็นไงคะ พี่จิต อยากลองดูมั่งมั้ย"
เธอพยักหน้ารับคำอย่างขวยเขิน เจ้าท่อนลึงค์ท่อนนั้นจึงถูกนำมาชำระล้างอีกครั้งหนึ่ง ชุมศรีสอนให้เธอกระทำการด้วยตนเองได้โดยไม่ยากนัก
จงจิตสนุกสนานเพลิดเพลินกับเครื่องเล่นอันนั้น จนน้ำทะลักออกมาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งสองหญิงจึงพากันหลับอย่างสบาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น