คำสารภาพของแฟนผม ตอนที่1

ก่อนจะเล่าให้ฟังว่าแฟนผมสารภาพเรื่องของเธอกับนายเอกคนข้างบ้านมีความสัมพันธ์เป็นมาอย่างไร ผมขอเล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปก่อนนะครับ

ผมกับแฟนผมคือนิดนั้นรู้จักกันมานานแล้วตั้งแต่สมัยที่นิดยังเรียนอยู่มัธยมปลายประมาณปีพศ.2548 เรารู้จักกันจากเวบหาเพื่อนคุยที่มีอยู่ดาษดื่นตามยุคสมัยนั้นแหละครับ ในครั้งแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับนิดแม้สักนิดเดียวจริงๆครับ แค่อยากหาเพื่อนคุยตอนเครียดๆจากงานที่ทำอยู่ อ่อลืมบอกไปว่าตอนโน้นผมเป็นสถาปนิคทำงานฟรีแลนซ์ให้บริษัทรับออกแบบบ้านแห่งหนึ่ง ผมชอบเอางานออกแบบมาทำที่บ้าน พอเครียดๆตันๆ ผมก็เข้าเวบแชทหาเพื่อนคุยแก้เครียด จึงได้เจอนิดแฟนผมคนนี้

บ้านนิดนั้นอยู่จังหวัดนนท์บุรี เป็นคนพื้นเพดั่งเดิมตั้งแต่ปู่ย่าตายาย จึงพอมีที่ทางอยู่บ้างพอสมควร ที่บ้านนิดเลี้ยงดูลูกแบบไทยแท้พ่อแม่จึงค่อนข้างเข้มงวดกับเธอ ประกอบกับนิดเป็นลูกเพียงคนเดียวไม่มีพี่น้อง เธอจึงค่อนข้างเก็บตัวเงียบขรึมไว้ตัวถือตัวกับคนแปลกหน้าโดยเฉพาะผู้ชาย นิดนั้นไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก ชีวิตในวัยเรียนของเธอจึงมีแต่เรียนกับเรียนไม่ค่อยได้เที่ยวเตร่เหมือนเด็กวัยรุ่นในสมัยนั้น ฉนั้นเพื่อนแก้เหงาของนิดจึงมีเพียงคอม มีเพียงเพื่อนตามเวบแชท จนกระทั่งเธอมาเจอผมครั้งแรกที่คุยกันนั้นเธอเรียกผมว่าลุง เนื่องจากอายุของผมนั้นเท่ากันกับพ่อของนิด แล้วก็แก่กว่าแม่ของนิดสองสามปี

ช่วงปีแรกที่คุยกัน อย่างที่บอกว่าผมแค่คุยแก้เหงาเท่านั้น เหมือนผู้ใหญ่คุยกับเด็ก แล้วก็ไม่ได้คุยกันถี่นัก อาทิตย์หนึ่งเจอกันในเวบสักครั้งสองครั้ง แต่พอเธอเจอผมเธอก็จะคุยอยู่กับผมคนเดียวจนเข้านอน ไม่มีอะไรหวือหวาสยิวกิ้วเลยครับ จนช่วงปิดเทอมมอหกสอบเข้ามหาวิทยาลัย นิดก็หายไปพักใหญ่สองสามเดือน ตอนนั้นผมคิดว่าเธอคงเบื่อที่จะคุยกับคนอายุแก่กว่าแบบผมเสียแล้ว แต่วันหนึ่งเธอก็เข้ามาทักผมก่อนแล้วเราก็คุยกันจึงรู้ว่าที่เธอหายไปนั้นเพราะคร่ำเคร่งกับการดูหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัย แล้วก็ได้ผลครับเธอสามารถสอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่งที่อยู่แถวรังสิตโน่น ซึ่งเธอจำเป็นจะต้องไปอยู่หอพักเพียงลำพัง ช่วงนี้แหละนิดติดผมแจต้องมาคุยกับผมในเวบแชททุกคืนก็ว่าได้

ผมก็โอเคนะตอนนั้นบอกกันตามตรงว่าไม่ได้คิดอะไรกับนิดในทางชู้สาวเลย จนกระทั่งนิดขึ้นปีสอง มาคืนหนึ่งนิดถามผมว่า ถ้าไม่เรียกผมว่าลุงจะได้มั๊ย ผมก็งงนะว่าถ้าไม่เรียกลุงแบบเดิมแล้วนิดจะเรียกผมว่าอะไร เธอก็บอกมาเหมือนตัดสินใจไว้แล้วว่าจะเรียกผมว่าพี่ ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมหัวเราะขำเลยที่เด็กอายุคราวลูกหลานจะมาเรียกตัวเองว่าพี่แบบนี้ แต่ก็ตอบตกลงกับเธอไป ตั้งแต่นั้นผมจึงต้องเปลี่ยนคำนำหน้าใหม่เรียกตัวเองว่าพี่ แล้วเรียกเธอว่าน้องนิดมาจนติดปาก

แต่เราสองคนก็ยังคุยเล่นกันแบบพี่ๆน้องๆ ผมให้คำปรึกษาแทบทุกเรื่องที่น้องสาวในเวบคนนี้จะมาถามหรือขอคำปรึกษา ทั้งเรื่องเรียนเรื่องชีวิตส่วนตัวกระทั่งเรื่องเพื่อนผู้ชาย ทั้งในมหาวิทยาลัยของเธอกับในเวบแชท จึงทำให้ผมทราบว่านอกจากผมแล้วน้องนิดยังมีเพื่อนผู้ชายคุยด้วยอีกหลายคน

ลืมเล่าไปว่าในตอนนั้นผมกับนิดไม่ได้คุยกันในเวบแชทแล้ว เรามาคุยกันผ่านฮอตเมลMsn.มีการโพสรูปหน้าตาให้เห็นกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งตอนนั้นบอกตามตรงเลยว่าถ้ารูปที่น้องนิดโพสหน้าดิสเพลย์เป็นรุปของเธอจริงๆ ก็นับได้เลยว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยน่ารักมากคนหนึ่งทีเดียว แต่อย่างว่าละครับจากประสพการณ์ของผมหาน้อยรายมากที่จะเอารุปตัวตนที่แท้จริงมาโพส แต่ตัวผมน่ะเอารุปตัวจริงมาโพสให้น้องนิดเห็น ซึ่งเธอก็ชมว่าผมดูหล่อเข้มสมวัย(อันนี้ขอชมตัวเองหน่อย)

อยู่มาคืนหนึ่งท่าทางน้องนิดจะอารมณ์เสีย ตอนนั้นผมก็ไม่ทราบว่าเธออารมณ์เสียด้วยเรื่องอะไร พยามซักถามชวนสนทนาเธอก็เอาแต่นิ่งเงียบส่งมาแต่อีโมชั่นรูปทำหน้าบึ้ง จนกระทั่งเวลาผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมงน้องนิดจึงพิมพ์มาถามผมว่า
"พี่คะ....ทำไมพวกผู้ชายชอบอวดพิกกาจู่กันคะ" ตอนนั้ผมยอมรับเลยว่างงเป็นไก่ตาแตก พิกกาจู่นี่มันคือตัวอะไรของมันวะ จึงใจเย็นๆตะล่อมถามจนในที่สุดก็ได้ความว่าเธอถูกผู้หญิงคนหนึ่งเป็นรุ่นพี่หลอกให้ดูอวัยวะเพศของแฟนผ่าน
กล้องเวบแคม โดยหลอกว่ามีตุ๊กตาบลายด์จะให้ชื่อพิกกาจู่ให้น้องนิดรับเวบแคมที่เธอส่งมา พอน้องนิดเปิดดูกลับกลายเป็นผุ้หญิงคนนั้นกำลังจับอวัยวะเพศของแฟนเธอชักเว่าให้ดูไปเสียฉิบ

ผมก็พยามยามคุยขำๆให้น้องนิดหายตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมปรอบให้เธอรับทราบว่าเหตุการณ์แบบนี้มีเยอะแยะในโลกออนไลน์ ไม่เจอวันนี้สักวันก็ต้องเจอ แล้วน้องนิดก็ย้อนคำถามมาให้ผมตกใจเล่นงั้นแหละว่า
"แล้วพี่เก่งเคยโชร์พิกกาจู่ให้สาวไหนดูมั่งป่าว" ผมรีบปฎิเสธทันควัน ทั้งๆที่ความจริงก็เคยแหละตอนแอบเล่นเสียวๆกับสาวบางคนผ่านMsn.น้องนิดตอบกลับมาว่า"ห้ามพี่เก่งโชร์พิกกาจู่ให้คนอื่นดูนะคะ ...ถ้าจะโชร์ โชร์ให้นิดดูคนเดียว.."
ตอนนั้นผมถึงกับอึ้งไปเลยเมื่อน้องนิดพิมพ์ต่อมาว่า เพราะนิดชอบพี่ จากนั้นเธอก็รีบออฟไลน์ไปเลย คงเพราะอายที่พูดออกมาแบบนั้น แต่มันกลับทำให้ผมคิดมากว่า เวรแล้วไงไอ้แก่คบกับเด็กสร้างบ้านจริงๆ

หลังจากคืนนั้นผ่านไปด้วยหัวใจว้าวุ่นกับคำพูดของน้องนิด คืนต่อมาน้องนิดก็ออนไลน์รอผม ผมจึงพูดคุยสอบถามเรื่องที่น้องนิดพูดเมื่อคืนว่าหมายความว่าอย่างไร เธอก็ตอบมาแบบซื่อๆตรงๆว่าเธอชอบผมแบบผู้หญิงกะผู้ชายชอบกันรักกัน แล้วย้อนถามว่าผมล่ะรุ้สึกเช่นใดกับตัวเธอ ตอนนั้นผมพูดไม่ออกครับ คิดอยู่นานหลายนาทีจนน้องนิดเริ่มออกอาการงอน น้อยใจ ผมเลยตอบไปว่าผมก็ชอบเธอ แท้จริงในใจตอนนั้นก็เอ็นดูเธออยู่หลายส่วนครับ ชอบที่เธอเป็นเธอดูน่ารักสดใส ไร้เดียงสา เป็นเด็กดี เพราะตั้งแต่คุยกันผ่านมาเกือบสามปี ผมไม่เคยเห็นเธอทำตัวเหลวไหลแทบทุกคืนเห็นเธอออนไลน์ แสดงว่าเธออยุ่ติดหอพักไม่ได้ไปเที่ยวไปดื่มเหมือนสาวสมัยใหม่ในยุคนั้น อีกทั้งคำพูดจามันก็แสดงว่าน้องนิดยังบริทธิ์ไร้เดียงสาในเรื่องเพศจริงๆ

หลังจากคืนนั้นการพูดคุยแบบพี่ๆน้องๆ ก็เปลี่ยนไป กลับกลายเป็นการสนทนากันแบบหนุ่มสาวจีบกัน ผมเคยหลอกถามน้องนิดว่าเธอมาคุยกับผมที่อายุต่างกับเธอมากขนาดนี้แบบแฟน ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจบ้างหรือที่มีแฟนแก่ เธอก็ตอบมาให้ผมชื่นใจว่า ไม่เคยคิดเลยว่าผมแก่ คุยกับผมแล้วอบอุ่นเป็นสุขใจ รักสุดๆเลยค่า....คำนี้น้องนิดชอบทิ้งท้ายประโยคก่อนจะไปนอนเสมอ

ช่วงเวลานั้นผมจำได้ว่าชีวิตผมดูสดใสงานการก็คล่องลื่นไม่ติดขัด มองโลกเป็นสีชมพูไปหมดทุกคืนก็พูดคุยกับแฟนเด็กออดอ้อนคำหวานให้แก่กัน จนแทบจะไม่ได้ออกไปสังสรรนอกบ้านตามประสาหนุ่มใหญ่วัยโสดเลย ผมนึกเอ็นดูน้องนิดแบบจริงจังจนแทบอยากจะให้เธอดูเอ็นน้องพิกกาจู่ตามที่น้องนิดเคยบอกไว้เลยละครับ แต่ผมก็ไม่บุ่มบ่ามกลัวจะเสียผู้ใหญ่กลัวเด็กมันจะว่าเอาว่าเป็นไอ้แก่ลามก

จนมาคืนหนึ่งผมตัดสินใจที่จะเริ่มก้าวข้ามไปอีกขั้นโดยการหาความสุขกับตัวน้องนิดผ่านทางเวบแคมแบบที่เคยทำกับสาวคนอื่นมาบ้าง ผมจึงตะล่อมๆหลอกถามน้องนิดถึงเหตุการณ์ในคืนวันที่น้องนิดเห็นพิกกาจู่เป็นครั้งแรก ให้เธอเล่าว่ารู้สึกอย่างไร น้องนิดก็เล่าให้ผมฟังว่าตอนเห้นครั้งแรกเธอตกใจตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าแม้แต่จะลุกหนีหรือปิดเวบแคม ได้เพียงนั่งดูเพื่อนสาวคนนั้นชักพิกกาจู่ของแฟนเธอเล่น ผมถามถึงขนาดพิกกาจู่ที่น้องนิดเห็นว่ามันใหญ่ขนาดไหน น้องนิดก็ตอบไม่ได้เพราะมันเป็นพิกกาจู่ท่อนแรกที่เธอเคยเห็นจริงๆ ในชีวิต ผมเลยได้ทีย้อนถามไปว่าแล้วน้องนิดไม่เคยเข้าไปดูภาพโป๊ๆของผุ้ชายบ้างหรือ เธอยืนยันว่าไม่เคยเลยสักครั้งกลัวสิ่งที่เห็นจะทำให้ใจไม่ดี

ผมถามต่อว่า"ดูแล้วรู้สึกยังไงล่ะ" น้องนิดก็ตอบกลับมาว่า"ใจสั่นแล้วก็ตื่นเต้นผสมกับกลัว" ถามยิงคำถามต่อเนื่องว่า"แล้วเสียวมั๊ย" น้องนิดตอบกลับมาว่าก็"เสียวนิดหน่อย""เสียวตรงส่วนไหนครับ""เอ่อ....เสียวตรงน้องหมวยค่ะ"
น้องนิดตอบมาแบบนี้จริงๆครับ ผมนั่งนึกสักครู่ก็พอคาดเดาได้ว่าน้องนิดคงเรียกอวัยวะส่วนนั้นของเธอว่าน้องหมวย เพราะผมเคยบอกน้องนิดไปว่า หน้าตาน้องนิดดูหมวยๆนะ สงสัยจะเป็นลูกครึ่งจีน ซึ่งเธอก็ตอบกลับมาว่าจริง พ่อเธอเป็นลูกจีนแม่ไทย หน้าตาเธอเลยออกหมวยๆตามที่ผมพูด

"เสียวน้องหมวย แล้วน้องนิดเสร็จมั๊ย..."ผมยิงคำถามกลับไป"เสร็จเป็นยังไงคะพี่....."น้องนิดตอบกลับมาทำให้ผมถึงกับงุนงง นี่เธอไม่รุ้จริงๆว่าเสร้จ..ตามความหมายนี้มันคืออะไรหรือ ผมเลยต้องอธบายให้เธอเข้าใจในความหมายว่าเสร็จนั้นมันคืออะไรมีอาการแบบไหน น้องนิดก็นิ่งเงียบไปชั่วครู่แล้วตอบกลับมาว่า.."งั้นนิดก็คงเสร็จตามที่พี่บอกค่ะ ตอนแรกไม่รู้ตัวจนกระทั่งไปห้องน้ำ ถอดกกน.ออกมาเลยเห็นมีน้ำเหนียวๆลื่นๆตรงเป้า"

ตอนนั้นผมอยากจะบ้าตาย นี่แฟนเด็กของผมเธอยังแยกไม่ออกเลยหรือนี่ว่าแบบนั้นเขาเรียกว่าน้ำหล่อลื่น ไม่ใช่อาการเสร็จ...แต่ก็ไม่อยากจะสอนให้เธอรุ้เร็วไปนัก จึงรีบจบบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้