วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559

คำสารภาพของแฟนผม ตอนที่18



ผมออกจากห้องนอนเดินลงด้านล่าง ทั้งที่เสื้อผ้ายังคงอยู่ในชุดแต่งงานเมื่อคืน ได้กลิ่นหอมของเบคอนลอยออกมาจากครัว พอลงบันไดเลี้ยวไปยังห้องครัวนั้น ก้เห็นน้องนิดภรรยาสาวสวยของผมยืนหันหลังให้อยู่หน้าเตาแก๊ส เธอคงกำลังทอดเบคอนอยู่แน่ๆ เพราะกลิ่นหอมของมันลอยโชยออกมา ผมเดินไปถึงร่างของน้องนิดก็โอบกอดเธอไว้ด้ายหลัง ก้มหน้าลงไปหอมแก้มด้านข้างของเธอ อย่างรักใคร่ น้องนิดพูดออกมาทั้งที่ไม่ได้หันกลับ
"พี่ไปอาบน้ำก่อนดีมั๊ยคะ..แล้วค่อยทานมื้อเช้ากัน" เสียงของน้องนิดภรรยาของผมดูแปลกๆไป มันแฝงความเศร้าจนผมรู้สึก จึงจับร่างของเธอหันกลับมาเผชิญหน้า จริงเสียด้วยครับ ผมจ้องมองไปที่ดวงตาที่เคยสดใสร่าเริงของเธอ ก็เห็นได้ชัดว่าขอบตาเธอแดงๆ เหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้มา ดวงตาที่เคยสดใสก็ดูลอยๆ

"เป็นอะไรที่รัก..." ผมพูดพร้อมดึงร่างเธอมากอด จูบเบาๆที่เรือนผมซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอาหาร ลุบหลังน้องนิดแผ่วๆ
"เปล่าค่ะ...." น้องนิดตอบสั้นๆ แล้วเบือนหน้าหลบสายตาผม ในขณะนั้นผมคิดว่าเธอคงเสียใจร้องไห้ที่ญาติๆของเธอไม่มีใครมาร่วมแสดงยินดีในงานแต่งของเธอเลยสักคน จึงไม่อยากซักถามให้เธอเสทือนใจมากไปกว่านี้ ผมถามถึงเพื่อนๆของผมว่ายังอยู่กันมั๊ย เพราะจำได้ว่ามีหลายคนมันบอกจะนอนค้างที่นี่ ถ้ามันขับรถกลับไม่ไหว น้องนิดก็ส่ายหน้าตอบว่ากลับกันไปสักครู่ใหญ่แล้ว พร้อมกับเร่งให้ผมขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่เพื่อลงมาทานอาหารเช้ากัน

ผมเดินจากไปพร้อมฮัมเพลงด้วยความสุข ไม่นึกฝันเหมือนกันว่าจะมีวันนี้ วันที่ผมได้ครอบครองตัวน้องนิดอย่างถูกต้อง เปิดเผย ผมใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวใหม่ไม่นานนักก็ลงทานอาหารกับน้องนิด จากนั้นเราก็พักผ่อนกันต่อจนบ่าย ผมเสนอแผนการไปฮันนิมูนให้น้องนิดฟัง แต่ดุเหมือนเธอยังคงเหน็ดเหนื่อยมาจากการเตรียมงานแต่งของเรา เธอจึงไม่ใส่ใจเรื่องที่ผมพูดมากนัก ตอบเพียงแต่ว่า
"แล้วแต่พี่ค่ะ...อยากไปไหนนิดก็ไปด้วย มีพี่อยู่ใกล้ๆ นิดก็มีความสุขแล้ว" ท้ายเสียงเธอแปร่งๆไปจนผมรู้สึกถึงความเหงาความกังวลที่ซ่อนอยู่

ผมคาดการว่าเหตุที่น้องนิดมีความกังวลคงเป็นเรื่องของอนาคต ด้วยวัยของเราสองคนที่แตกต่างกันมาก เมื่อก่อนที่ยังลักลอบรักกันก็คงไม่ได้คิดอะไรมากนัก แต่พอมาเป็นครอบครัวกันแล้วก็ต้องคิดถึงเรื่องอนาคตบ้างละ ผมก็เคยคิดบ่อยๆว่า อีก10ปีข้างหน้า ผมอายุ60กว่าเรียกว่าเข้าวัยชราเนื้อหนังคงเริ่มเหี่ยวหย่อนยาน ส่วนน้องนิดเพิ่ง30ต้นๆ ยังสาวยังสวยสะพรั่งเนื้อหนังยังเต่งตึง ถึงตอนนั้นผมกับน้องนิดจะรุ้สึกกันอย่างไร ผมยังให้ความสุขทางด้านเซ็กส์กับน้องเขาได้แค่ไหน แล้วต่อไปถ้าอีก10ปีล่ะชายชราวัย70กว่า คงไร้น้ำยาเสียแล้วเป็นแน่ หรือผมอาจตายก่อน แล้วน้องนิดจะอยุ่อย่างไร นี่แหละคือความคิดที่เคยแว๊บเข้ามาในหัวของผมบ่อยๆ ทำใจเศร้าหมองได้เหมือนกัน ผมคิดว่าที่เช้านี้ที่น้องนิดดูเศร้าๆ กังวล คงเป็นเหตุผลเดียวกับที่ผมเคยคิด แต่เมื่อวันนั้นมันยังมาไม่ถึง ผมก็สลัดความคิดนั้นออกไปจากหัว ขอเพียงวันนี้ผมมีภรรยาสุดสวยเคียงข้าง ผมจะตักตวงพร้อมมอบความสุขให้กับเธอเต็มที่ เท่าที่จะสามารถทำให้สาวอันเป็นที่รักของผมได้รับ

เราไปฮันนี่มูนกันที่เชียงใหม่เป็นรีสอร์ตที่ผมออกแบบตกแต่งเองกับมือทุกส่วน ทั้งบ้านพัก ทั้งแลนด์สเขป ทั้งเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ช่วงฮันนิมูนที่เต็มไปด้วยความสุข ความรัก และกามารมณ์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมกับน้องนิดก็กลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่เรือนหอ คอนโดของผมขึ้นป้ายบอกขาย ส่วนของน้องนิดก็ปล่อยให้คนเช่า ผมไม่อยากให้น้องนิดเหน็ดเหนื่อยมากนักจากงานบ้าน จึงให้ช่างสมหาแม่บ้านที่ไว้ใจได้มาอยู่เป็นเพื่อน ช่วยงานบ้านน้องนิดอีกคน ช่างสมเลยพาหลานสาวที่มีอายุ40กว่าๆ มาทำงานเป็นแม่บ้านให้กับผมแบบทำงานจันทร์ถึงศุกร์ พักที่บ้านผม ส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ผมอยากอยู่กันเพียงสองคนตามประสาผัวเมีย จึงให้แม่บ้านหลานช่างสมออกไปอยู่ข้างนอก ซึ่งก็คงพักกับครอบครัวของช่างสมนั่นแหละครับ

แม้น้องนิดจะเคยบอกกับผมเสมอๆว่าไม่อยากให้ผมทำงานหนัก เงินทองทรัพย์สินที่มีอยู่ในขณะนี้ก็สามารถทำให้ชีวิตของเราสองคนมีความสุขไปได้ชั่วชีวิตแล้ว แต่ยิ่งผมได้ยินเช่นนั้น ผมกลับยิ่งมุมานะทำงานหนักขึ้น ผมห่วงอนาคตไม่ใช่เฉพาะตัวของผมกับน้องนิดเท่านั้น ผมยังมีอนาคตลูกหลานของลูกน้องผมเกือบร้อยชีวิตฝากอยู่ ซึ่งในความเป็นจริง แม้ผมจะเลิกทำงาน พวกลูกน้องผมก็คงไม่อดตาย ต่างก็คงหางานใหม่ทำกันได้ แต่ในเมื่อผมยังพอมีแรงอยู่ผมกลับคิดว่าผมน่าจะสร้างอนาคตของพวกเค้าได้ดีกว่านายจ้างคนอื่นๆแน่

เวลาผ่านไปปีกว่าๆ บริษัทก่อสร้างและออกแบบของผมเริ่มเป็นที่รู้จักดีในวงการอสังหาริมทรัพย์ ผมจึงเริ่มขยายงานจากการหากินในเขตุกรุงเทพและจังหวัดปริมณฑล ไปไกลขึ้น ภาคเหนือทั้งเชียงใหม่ แพร่ ลำปาง ต่างก็มีงานการก่อสร้างและออกแบบจากบริษัทของผม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มจากขอนแก่น อุดร เลย หนองคาย ภาคกลางทั้งโคราช สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อยุธยา ภาคใต้ทั้งหาดใหญ่สงขลา ทั้งภูเก็ต กระบี่ พังงา ผมล้วนเคยลงไปทำงานมาแล้วทั้งสิ้น เงินทองทรัพย์สมบัติของผมเริ่มงอกเงยขึ้นมาตามลำดับ จนเข้าขั้นเศรษฐีหลักร้อยล้าน แต่ผมก็แลกมันด้วยสุขภาพของตัวเองที่เริ่มอ่อนแอ โดยเฉพาะสมรรถนะทางเพศของผม พอแต่งงานได้สองปี ผมกับน้องนิดก้แทบจะไม่สามารถสนองตอบทางเพศกันได้ อวัยวะเพศของผมแข็งตัวลำบาก บางครั้งพอแข็งได้ใช้งานก็กลับอ่อนยวบจนทำให้น้องนิดค้างคาแทบทุกหน แต่ภรรยาของผมเธอก็อดทนดี เธอไม่เคยบ่นหรือทำท่าเสียใจให้ผมเห็นแม้สักครั้งเดียว แต่
ผมก็รุ้จากดวงตาที่เคยชุ่มฉ่ำสดใสนั้น บัดนี้มันกลับแห้งผาก ไร้แววขี้เล่นซุกซนเหมือนก่อนทั้งๆที่เวลามันผ่านมายังไม่ถึง3ปีด้วยซ้ำ

หลังจากการแต่งงานกันได้เกือบปี บ้านเช่าข้างๆบ้านผมก็ถูกรื้อทิ้งพร้อมสร้างใหม่ เพื่อนบ้านที่มาอยู่ใหม่นั้นเป็นชายหนุ่มวัยสามสิบต้นๆหรืออาจะไม่ถึงด้วยซ้ำ เพราะผมไม่เคยสอบถาม การเป็นเพื่อนบ้านติดกันย่อมต้องมีการทำความรุ้จักกันในฐานะเพื่อนบ้าน ผมกับหนุ่มคนนั้นที่ชื่อเอกรัฐ ก็ดูสนิทกันด้วยชอบอัธยาศัย ทัศนคติต่อชีวิตต่อโลก นายเอกมาเยี่ยมเยือนผมประจำเมื่อเห้นผมอยู่บ้าน ซึ่งชีวิตส่วนใหญ่ในแต่ละเดือนผมจะอยุ่บ้านไม่ถึง5วัน นอกนั้นใช้ชีวิตอยู่ตามต่างจังหวัดตลอด พอคุยกันถูกคอถูกอัธยาศัยกันนานขึ้น ผมก็เริ่มกล้าที่จะพูดถึงความไร้สมรรถภาพของตนเองให้นายเอกฟังเป็นการปรับทุกข์ แล้วก็เลยมาจนถึงเหตุการณ์ที่ให้นายเอกมาเป็นผู้ช่วยให้ความสุขกับน้องนิดโดยที่วางแผนการกันไว้เป็นอย่างดี

ในจุดประสงค์ของที่ทำไปในครั้งนี้ หวังเพียงอยากให้น้องนิดได้รับความสุขจากการมีเพศสัมพัธ์ เพราะผมรุ้ว่าเธอห่างเหินมันมานานนับปี ผมมีความสุขเมื่อเห็นภรรยาได้รับความสุข ผมหาได้มีความสุขเมื่อเห็นภรรยาโดนชายอื่นร่วมรัก นั่นคือความรู้สึกที่แท้จริงของผม ในครั้งแรกที่ริมสระน้ำ ผมเห็น ผมได้ยินชัดเจนเต็มสองหูว่าภรรยามีความสุขแค่ไหนเพียงใด แจะรุ้ว่าเธอทำไปแบบนั้น ได้รับความสุขแบบนั้น เป้นเพราะฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดก็ตามที ผมยินดีที่เห็นว่าน้องนิดมีความสุขสมจากการร่วมรัก แต่ในครั้งสุดท้ายที่บ้านนายเอกนั้น ผมเห็นน้องนิดทำไปด้วยความรู้สึกโกรธ เคียดแค้น ชิงชังที่ส่งผ่านมาทางสายตาอย่างชัดเจน แม้ร่างกายเธอจะตอบสนองกับความสุข แต่ใจเธอนั้นผมรู้เลยว่าเธอรุ้สึกเช่นใด ผมจึงได้รุ้ว่าสิ่งที่ผมทำลงไปในครั้ง มันคือความผิดพลาดของผม ในความคิดอันแสนตื้นเขินของตัวเองจนลืมคำสัญญาที่เคยบอกกับน้องนิดว่าอย่างไร และน้องนิดเคยบอกกับผมไว้อย่างไร ตอนนี้ผมจำได้มั่น แต่ไม่รุ้ว่ามันจะสายเกินไปหรือเปล่า

ผมจึงร้องไห้ออกมากับความผิดพลาดในครั้งนี้ พร้อมรอให้เธอกลับมาเพื่อคุยปรับความเข้าใจกันให้รู้เรื่อง แต่เธอกลับไม่มานอนที่บ้านผมทั้งคืน และเมื่อผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้ากลับไม่เห็นทั้งน้องนิดและนายเอก ทั้งที่บ้านของผม และบ้านของนายนั่น ผมนั่งรอน้องนิดด้วยความกระวนกระวาย รอเธอกลับมาจวบจนกระทั่งได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น...



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น