วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560

พรหมลิขิต ผิดคิว 2

เมื่องานเลี้ยงเล็กจบลง ธนธรณ์ก็อาสาพาแพรวาไปส่งที่พัก แล้วก็โบ้ยให้วีรพลไปส่งวิภาวรรณ แล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป ในระหว่างทางที่ธนธรณ์ขับรถไปส่งแพรวา เขาก็เฝ้าลอบมองปลีขาเนียนของแพรวาที่พ้นขอบกระโปรงอยู่เป็นระยะ ซึ่งตอนนี้มันก็แค่ร่นมาเลยหัวเข่าหน่อยเดียว คนอย่างธนธรณ์ก็มองแล้วจินตนาไปไกลแล้ว แพรวาเอง ก็อดเขินประหม่าไม่ได้ที่มีคนจ้องมองอย่างนั้น
“คุณหมอคะ มองทางเถอะคะ เด๋วจะไปไม่ถึงบ้าน” คำพูดดักคอ ทำให้เอาธนธรณ์สะดุ้งนิดๆ แต่เสืออย่างเค้ารึจะเสียเหลี่ยมเสียลาย
“ก็ แหะๆ มีอย่างอื่นชวนมองมากกว่าถนนนี่ครับ ยอมรับนะครับ ว่าคุณแพรสวยมาก จนผมอดมองไม่ได้ ยิ่งคุณใส่ชุดนี้ด้วย ใครไม่มองก็บ้าล่ะ” ดูมัน ขนาดชุดทำงานพนักงานธนาคาร มันพูดไปได้..
“แค่ยูนิฟอร์มนี่นะคะ สวยตรงไหน คุณหมอปากหวานมากกว่า” พูดพลางเขินพลาง แต่ในใจก็กระหยิ่มที่มีคนชมความสวยของตน ทำให้รู้สึกหวิวๆ ไปบ้าง อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอล์ฮอล์ด้วยก็ไม่รู้ สักพักก็รู้สึกว่ามือข้างนึงวางแหมะลงบริเวณต้นขา
“อุ้ย คุณหมอ อะไรคะนี่” “อ่า ขอโทษครับคว้าผิด ว่าจะเข้าเกียร์ครับ” ฟอร์มไปนั่น..
“คุณแพรครับ ขาคุณสวยจัง เอ่อ ขอผม....” พูดไม่ทันจบ ไอ้เสือก็วางมือลูบไล้ไปแล้ว แพรวาสะดุ้ง แล้วก็คว้ามือเค้าออก แล้วนั่งตัวลีบ
“เลี้ยวซ้ายข้างหน้า คะ จะถึงบ้านแพรแล้วคะ” ธนธรณ์ชักสีหน้า เหมือนว่าเสียดายไม่น่าถึงเร็วเลย
“ขอบคุณนะคะ ที่มาส่ง ไว้โอกาสหน้าค่อยเจอกันนะคะ”
“เรายังมีโอกาสได้เจอกันอีกเหรอครับ คุณแพรไม่โกหกผมนะ”
“คะ ก็คุณรู้จักบ้านแพรแล้วนิคะ ที่ทำงานก็หาไม่ยากซักหน่อย ราตรีสวัสดิ์นะคะ” แล้วแพรวาก็เปิดประตูลงรถไป ถึงธนธรณ์จะไม่ค่อยสมหวัง แต่เธอก็ไม่ได้ทิ้งโอกาสกับเขาเสียทีเดียวนี่นา ว่าแล้วเค้าก็ยิ้มระรื่น มองส่งแพรวาเข้าบ้านไปแล้วจึง ขับรถออกไป
แพรวา เข้าบ้านรู้สึกผิดสังเกตที่วันนี้บ้านเงียบผิดปกติ แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก ไขกุญแจเข้าบ้านไปแล้วเดินขึ้นห้อง แต่พอจะเดินผ่านห้อง พ่อแม่ ก็ได้ยินเสียงครางกระเส่า เหมือนกันเจ็บปวดอะไรสักอย่าง
“อุ้ยย คุณนี่ วันนี้คึกอะไรมาคะ อุยยยยย ทั้งเลีย ทั้งแยงหี เสียวไปหมดแล้ว ผัวขาาาา”
“อืมมมม ก็วันนี้อยากเย็ดเมียนี่นา ลูกก็ยังไม่กลับ เราก็มาหาความสุขกันให้เต็มที่หน่อยสิ”
“อึ้ยยยยยยยย ไม่รู้เบื่อบ้างหรือไง หัวค่ำก็ทีหนึ่งแล้วนะ ผัวววขาาาา อูยยย ซี้ดดดดด ลิ้นตวัดเม็ดแตดเมียอีกแล้ว อ๊าาาา”
ทุกศัพท์สำเนียง ทำให้แพรวาถึงกับตะลึง อะไรกันนี่ คุณพ่อคุณแม่เล่นบทรักกันแบบหยาบโลนขนาดนี้เหรอ แถมไม่ปิดประตูอีกต่างหาก ว่าจะเข้าห้องนอน แต่แล้วเธอก็ตัดสินใจ แอบมองที่ประตู ภาพที่เห็นนั้น เอกภพ บิดาของเธอ กำลังก้มเลียหีพราวตาผู้เป็นมารดา ยังกับมันเอร็ดอร่อยเกินประมาณ ฝ่ายมารดา ก็หลับตาพริ้ม ฝ่ามือก็ขยุ้มหัวสามีเบาๆ อีกข้างก็บดบี้ปลายถันของตัวเอง ขาแบะอ้าจนมองเห็นหี มีเส้นดำประปราย
“โอยยยย พอแล้วผัวจ๋าาาา เลียต่อไปเมียใจขาดแน่ๆ มาเย็ดหีเมียเถอะ เมียเงี่ยนแล้วววว ภพขาาาา”
“อาาาา หีพราวนี่ เลียอร่อยไม่รู้เบื่อเลย อีกนิดนะจ๊ะ เมียจ๋า ยังไงผัวก็เย็ดอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง”
“เร็วๆ เถอะคะ เด๋วแพรมา จะอดเย็ดกันพอดี อูยยยยย”
“อ่ะ เมียตะแคงข้างนะ ผัวจะนอนตะแคง แทงข้างหลัง อ๊าาาาาาา อย่างง้าน”
“อูยยยย ซี้ดดดด คุณเนี่ย เย็ดเก่งมากเลยย อุ้ยยยย กระเด้าแรงๆ เลย ค่ะ อึ้ยยย มีบี้แตดเมียด้วย อ๊ายยยยยยยย เสียวหีมากเลย ผัวขาาาา”
เอกภพเร่งตะบันบั้นเอวใส่เมียอย่างคึก หันปลายเท้ามาทางประตู เอียงนิดหน่อย ภาพนี้ทำให้แพรวา มองเห็นแม่นอนตะแคงถ่างขาข้างหนึ่งขึ้น หลับตา ซี้ดปากกกก ครางกระเส่า ตรงหว่างขา ก็เห็นสันควยของพ่อ เข้าๆ ออกๆ ในรูสวาทของพราวตา มือข้างหนึ่งตะปบที่หน้าอก เฟ้นบดบี้ปลายติ่งถัน อีกข้างคว้าหมับตรงกลุ่มใยไหมดำบางๆ ตวัดเขี่ย บางครั้งก็คลึงนิ้วบี้
“พราวจ๋าาาา พี่เมื่อยบั้นเอวแล้วนะ ทำให้พี่หน่อยสิ อาาาาาาา ขึ้นขย่มให้ผัวหน่อย”
“เมื่อยเหรอคะ ได้คะที่รัก อื้ออ หูยยย วันนี้พี่แข็งมากเลย ยังกับควยสมัยหนุ่มๆ เลย เป็นอะไรคะนี่”
“ขย่มมาเลย จ๊ะ โอ้วววว เสียวควยสุดกั่นเลย อูยยยย ตอนนี้อย่าเพิ่งถามเลย พี่เสียวไปหมดแล้ว โอวว”
“เมียก็เหมือนกันคะ นี่ เมียแตกไปสองทีแล้วนะ อูยยย ยังเสียวไม่หายเลย อึ้บบบ นี่แนะๆๆ คึกมากนักนะ”
“โอ้วววว เมียจ๋าาาาาาาาาา น้ำจะแตกแล้ว อะๆๆๆ อู้วววววววว”
“แตกมาเลยคะ ผัวขาาาาาาา ผัวมีความสุข เมียก็สุขไปด้วย อูยยยยย เมียก็จะแตกเหมือนกัน อ๊ายยยยย แตกแล้วววววววววววววววว” พราวตา เร่งขย่ม สามสี่ทีก็ฟุบร่างกระตุก ส่วนเอกภพก็ยันก้นไม่ติดที่นอน เกร็งค้างสักพักกทิ้งตัวลงเหมือนเดิม ทั้งสองต่างก่ายกอดจูบกันเสียงดังจ้วบจ้าบ ส่วนแพรวที่มองจากหน้าประตู ได้เห็นร่องหีพราวตา มีหยาดน้ำขาวข้นไหลเยิ้มออกจากรู จากอาการที่โดนลูบต้นขา หน้าบ้าน ยังหวิวๆ นี่เห็นภาพเต็มตา แพรวาถึงกับต้องมนต์ ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่า มือตัวเองถลกประโปรงร่นขึ้นมาแล้วลูบเนินหีตัวเองแต่เมื่อไหร่ รู้สึกตัวอีกทีเมื่อพ่อแม่เสร็จกามกิจ ตัวเองก็พลอยมีอาการเกร็งกระตุก มีน้ำเอ่อแฉะที่รูสวาท กลัวที่ทั้งสองจะรู้ตัว จึงค่อยแอบเข้าห้องตัวเองอย่างแผ่วเบา เมื่อไปถึงห้องถึงทิ้งตัวนอนหอบ ภาพที่เห็นยังติดตา ทำให้กระสันต์รัญจวนใจอย่างมาก ตั้งแต่แตกเนื้อสาว จนจะเป็นสาวใหญ่แล้ว อายุก็ 25 แล้ว ก็เพิ่งเคยเห็นภาพคนเย็ดกันจะๆ ก็คราวนี้ แพรวา ต้องเอามือลองลูบเนินโหนกของตัวเองอีกที รู้สึกเสียวแปลบๆ ใจหวิว ยิ่งภาพนั้นยังติดตา ทำให้นิ้วกรีดตามร่องเสียวไปด้วย ไม่รู้ว่าทำไปได้อย่างไร อาจจะเป็นเพราะสัญชาตญาณ ร่างบิดพลิ้ว ไปมา จนสุดท้ายเกร็งกระตุก นิ้วมือที่แหย่เข้าไปก็บี้ ควักหนักกว่าเดิม เมื่อสมอารมณ์หมาย เธอจึงยกนิ้วขึ้นมาดู เห็นเป็นเมือกเหนียวใส เอามาแตะลิ้นลองดู ก็รู้ถึงรสชาติคาวๆ ปะแล่มๆ จากนั้นก็ถึงกับหมดแรง หลับไป..

ฝ่ายวีรพล ก็ขับรถไปส่งวิภาวรรณ ตลอดทางที่ไปส่ง ต้องวิ่งจากตัวเมืองออกไปประมาณ 30 กิโลเมตร เนื่องจากสองข้างทาง เป็นบ้านสวน เป็นป่าเขา ทำให้เขาขับรถไม่เร็วนัก อีกทั้งไม่ชำนาญทาง เขาจึงพอมีเวลาพูดคุยกับวิภาวรรณ ซึ่งโดยส่วนมากก็เกี่ยวกับความเป็นมาของแต่ละคน
“มิน่าละครับ ผมยังคิดว่าพี่วิภา ไม่ใช่คนภาคตะวันออกแน่ๆ ดูผิวพรรณน่าจะเป็นคนเมืองกรุง”
“คะ พี่เป็นคนกรุงเทพฯ แต่ว่าย้ายมาอยู่ที่จันทบุรีนี่ ก็ประมาณ 15 16 ปีแล้วละคะ”
“ทำไมละครับ “
“เอ่อ !! พี่แยกทางกับครอบครัวค่ะ” ตอบแล้วก็ทำสีหน้าเศร้า ถึงแม้จะมืด แต่วีรพลก็พอจับได้ เพราะน้ำเสียงเริ่มเบาและสั่นเครือ
“ขอโทษครับพี่ ผมเสียใจด้วย เฮ้อ ใครช่างใจร้ายน้า ทิ้งพี่ภาได้ สวยออกขนาดนี้” พยายามพูดเพื่อให้เธอรู้สึกดี อีกอย่างกึ่งเล่นกึ่งจริง เขาไม่อยากให้บรรยากาศระหว่างทางอึมครึมเหมือนบริเวณข้างถนนเลย
“แม้แต่ลูกชายพี่ เค้ายังไม่ให้พี่ได้เห็นหน้าเลย ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างไม่รู้ แต่ช่างเถอะคะ พูดไปก็เท่านั้น พี่มาอยู่ที่นี่ก็สุขสบายดีนะคะ ไม่มีเรื่องเดือดร้อนอะไร งานการก็ถือว่าพออยู่ได้สบายๆ” น้ำเสียงเริ่มจะพยายามปรับให้แจ่มใสขึ้น หล่อนคงกลัวเค้าเครียดไปด้วย
“แล้วคุณหมอละคะ ทำไมย้ายมาที่จันทบุรีคะ ที่โรงพยาบาลเมืองกรุงออกเยอะแยะไป พี่ภาว่านะ อย่างคุณหมอเนี่ย เค้าแย่งจองตัวกันให้ควั่กละคะ”
“หึ หึ ผมก็คล้ายกับพี่นะครับ ไม่ค่อยลงรอยกับแม่เลี้ยงสักเท่าไหร่ ผมเลยอยากมาสร้างตัว ด้วยตัวของผมเอง ไม่ต้องพึ่งพาใคร อาศัยความรู้ความสามารถตัวเอง”
“อ่าว เป็นงั้นไป ว่าแต่คุณหมอ อายุเท่าไหร่นะคะ ขอโทษเถอะคะ อย่าว่างั้นงี้เลย”
“ 26 ครับ แล้วพี่ละครับ”
“45 คะ” “หาาาาาาาาาา” เอี้ยดดดดด...... เสียงเบรกรถดังลั่น วีรพลตกใจ ถึงกับเหยียบเบรก ทันควัน “อุ้ยยยย คุณหมอ ทำไมคะ ตกใจอะไร มีอะไรตัดหน้ารถเหรอคะ”
“ป่าวครับ ไม่น่าเชื่อนะ ผมนึกว่าพี่ประมาณสัก 30-35 เสียอีก ถ้าพี่ไม่บอก ผมไม่เชื่อนะนี่ บอกตามตรงพี่สวยมาก”
“คิคิคิคิ นี่ คุณหมอคะ อย่ามาปากหวานกับคนแก่เลยค่าาาาาาา คิคิคิคิ” เหมือนเธอเริ่มอารมดี ขำเขาใหญ่เลย
“ผมพูดจริงครับ บอกตามตรง ผมไม่เคยมองหญิงคนไหนแล้วผมตะลึง เหมือนพี่เลยครับ” วิภาวรรณนิ่งสนิท เจอคำนี้เข้า เธอรู้เลย ว่าเค้าไม่พูดเล่นแน่ๆ อะไรกันนี่ เพิ่งเจอกัน เค้าแสดงอาการจะจีบเธอแล้วเหรอนี่ วิภาวรรณมีความรู้สึกแปลกๆ ทั้งๆ ที่เคยเจอผู้ชายมาก้อร้อก้อติก พูดจาเลียบเคียงก็เยอะ เธอเองก็ผ่านการมีสามีมาแล้ว เรื่องอย่างนี้ทำไมจะไม่รู้ แต่ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไร มีแต่ขำ แล้วก็พูดดักคอ หรือไม่ก็รับมุขสนุกๆ ไป แต่คราวนี้ทำไม เธอกลับจะพูดอะไรไม่ออกเสียเลย
“ไปเถอะคะ เด๋วจะดึก อีกไม่ไกลแล้วคะ จะถึงบ้านพี่แล้ว” รีบตัดบท
เมื่อถึงบ้านวิภาวรรณ วีรพลก็ได้เห็นบ้านเรือนไทยขนาดย่อม ดูมีฐานะ แต่เป็นแบบบ้านสวน ตกแต่งได้สวยงาม ดูเรียบง่าย วิภาวรรณบอกว่า เธอจะมาบ้านหลังเฉพาะวันหยุด ปกติแล้วจะพักอยู่ที่ร้านขายของฝาก ที่ตัวเมือง เพราะทำงานที่ธนาคารด้วย เป็นเจ้าของร้านของฝากด้วย เมื่อส่งถึงบ้าน พูดคุยกันนิดหน่อย วีรพล ก็ขอตัวกลับ เพราะต้องขับรถอีกนาน เพราะยังไม่คุ้นทาง
“ผมกลับก่อนครับ พี่ภา ขอบคุณอีกครั้งนะครับที่ให้เกียรติผม บ้านพี่นี่ น่าอยู่มากๆ เลยครับ ถ้าผมจะหาที่ดินสักแปลง ก็กะว่าจะสร้างบ้านประมาณแบบพี่นี่แหละ”
“คะ แม๋ ไม่น่าเชื่อ วัยรุ่นอย่างคุณหมอ ชอบแนวโอเรี่ยน โบราณๆ กับเค้าด้วย คุณหมอ พี่ก็ขอบคุณด้วยเช่นกันที่อุตส่าห์มาส่ง มีโอกาสก็แวะที่ร้านได้นะคะ จะถือว่าเป็นลูกค้าพิเศษคะ ขับรถดีๆ นะคะ ราตรีสวัสดิ์คะ” เธอพูดส่งยิ้มหวาน อย่างเป็นกันเอง
ตลอดระยะทางที่กลับ วีรพล คิดไม่ออกว่าตัวเองเป็นอะไร ทำไมรูปหน้าไข่ขาวนวล ตาคมเข้ม ผมดำสลวย เกล้ารวมไว้ มีปอยผมบางพริ้ว ยังลอยติดเหมือนยังกับหน้ากระจกรถ เป็นจอทีวี แล้วมีรูปหน้าเธอลอยเด่น อย่างนั้น ทุกอย่างที่เป็นเธอ ดูเหมือนจะฝังลึกอยู่ในภวังค์ของวีรพล ตั้งแต่โตมา เขาก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้ก็หญิงคนใดเลย นี่เขากลับมาชอบสาวแก่คราวแม่เลยเหรอนี่ พยายามสะบัดศีรษะหลายที ก็ยังอาการเดิม
ตื่นเช้ามา เป็นวันเสาร์ วีรพล ลุกอาบน้ำแบบลวกๆ ตามประสาหนุ่มโสด ไม่ค่อยพิถีพิถัน วันนี้เขามีนัดที่จะซื้อบ้านที่ดิน หลังจากตัดสินใจที่จะมาปักหลักอยู่ที่นี่ ทิ้งความสับสนวุ่นวาย และชีวิตที่คับแคบไว้ที่กรุงเทพฯ คนที่จะพาไปดูที่ดินก็เป็นคนที่ธนธรณ์แนะนำมา วันนี้ถ้าไปดูที่ดินแล้วถูกใจ ก็จะจัดการทำสัญญาซื้อขาย เขาเองก็ได้รับมรดกที่ได้จากพ่อหลังจากที่พ่อตัดสินใจ จะอยู่กับภรรยาใหม่ ซึ่งเขาเองไม่ค่อยมีความสุข เพราะเป็นลูกติด พ่อเขาก็ไม่ใช่ว่ารังเกียจเขาหรอกแต่ก็ต้องทำใจ จึงตัดสินใจ มอบทรัพย์สินมูลค่ามากพอสมควร พอที่เขาจะสามารถตั้งตัวได้ไม่ลำบากนัก หากเขาตัดสินใจจะซื้อบ้านที่ดิน ก็จะโอนเงินให้เลย เมื่อไปพบนายหน้าที่ได้นัดไว้ ก็ออกรถไปนอกเมือง ประมาณ 30 กม. ได้ แต่ที่ทำให้แปลกใจก็คือ มันเป็นทางที่เขา เพิ่งขับผ่านมาเมื่อคืนนี่เอง แล้วที่ทำให้วีรพลใจเต้นแรงขึ้นก็คือ เมื่อถึงที่หมายนั้น เขามองเห็นบ้านเรือนไทย ที่คุ้นตา อยู่ถัดจากรั้วอีกแปลงหนึ่งไป
คราวนี้วีรพลได้เห็นชัดๆ เต็มตาว่าบ้านเรือนไทยที่ว่านั้น เป็นบ้านที่สวย สงบ ร่มรื่นน่าอยู่มากทีเดียว เขามองเหม่อจนไม่รู้ว่านายหน้าและเจ้าของที่ดินพูดอะไรไปบ้าง
“ทำไมเหรอพ่อหนุ่ม อยากได้บ้านหลังนั้นเหรอ อย่าเลย เค้าไม่ขายหรอก เจ้าของก็เป็นคนกรุงเหมือนพ่อหนุ่มนี่แหละ เป็นแม่ม่าย วันนี้ท่าทางจะอยู่บ้านนะเพราะเป็นวันหยุด” เสียงเจ้าของที่ดินพูดขึ้นมา
“อ่อ ปล่าวหรอกครับลุง ไม่มีอะไร แต่ผมชอบเรือนไทย ถ้าผมจะซื้อที่ดินปลูกบ้าน ก็อยากได้แบบนั้นบ้าง เป็นบ้านสวนอย่างที่ผมฝันอยากได้พอดี เอาเป็นว่า ผมชอบที่ดินผืนนี้ ยังไงลุงก็อย่าคิดราคาผมแพงมาก ก็พอรับไหวนะครับ ส่วนเรื่องเงิน เดี๋ยวอาทิตย์หน้า ผมจะจัดการโอน และทำสัญญาซื้อขายให้เรียบร้อยละกัน”
“อืมมม แม๊ วัยรุ่นนี่ใจร้อนนะ จะไม่มีอะไรติบ้างเลยหรือ ยังไงก็ลองเดินสำรวจให้ทั่วก่อนก็ดีนะพ่อหนุ่ม เรามีเวลาทั้งวันน่ะ วันนี้ หรือว่าถ้าตกลงละก้อ ลุงว่าเราน่าจะไปทำความรู้จักเพื่อนบ้านไว้บ้างก็ดี คนกรุงด้วยกัน น่าจะเข้ากันได้นะ ประเดี๋ยวลุงจะลองไปเรียกดู เผื่อคุณวิภาวรรณจะอยู่” เจ้าของที่ดินบอกพลาง เดินไปที่ประตูรั้วบ้านเรือนไทยหลังนั้น ชื่อนี้ รู้สึกปล้าบเข้าหัวใจวีรพล ถึงกับแสดงอาการตื่นเต้น แต่ว่านายหน้า กับเจ้าของที่ดินไม่ทันสังเกต
“เอ่อ ครับ ก็น่าจะดีครับ”
ผลปรากฏว่า วิภาวรรณแสดงสีหน้าแปลกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าวีรพลจะมาซื้อที่ดินแปลงติดกันกับหล่อน
“แหม เพิ่งคุยกันมะคืนเอง ไม่น่าเชื่อคุณหมอจะมาซื้อที่ดินแปลงนี้ ถ้าหากว่าจะย้ายมาสร้างบ้านที่นี่จริงๆ ก็ดีเลยคะ พี่จะได้มีเพื่อนบ้านเพิ่มอีก อบอุ่นดี”
“เอ่อ พี่ครับ พี่ทำงานธนาคารใช่มั้ย งั้นถ้าไม่เป็นการรบกวน ผมอยากให้พี่ช่วยเหลือเรื่องบัญชีการเงินให้ผมด้วยนะครับ ผมเองไม่ค่อยถนัดเรื่องเงินทองเท่าไหร่ ถือว่าได้ลูกค้าใหม่นะครับ” แหม อะไรจะหัวไวขนาดน้านนน มีช่องโอกาสหน่อยไม่ได้ วีรพลรีบคะยั้นคะยอให้วิภาวรรณรับหน้าที่ผู้จัดการบัญชีธนาคาร
“เอางั้นเลยเหรอคะ เอ่อ....”
“อ่าว ทำไมละครับ หรือว่าผมรบกวนพี่เกินไป”
“ไม่ใช่คะ พี่เป็นผู้จัดการ จะรับเองตรงๆ ก็ยังไงๆ อยู่น๊า พี่จะให้แพรวาเค้าจัดการให้ละกัน โอเคมั้ย” เธอเลี่ยงๆ เพราะเธอดูตาวีรพลออกว่าคิดอะไร
“ผมว่า ผมเชื่อใจพี่นะ ให้พี่รับหน้าที่เถอะ นะครับ เงินไม่น้อยนะครับพี่ ตอนนี้ผมก็เห็นพี่นี่แหละ เหมาะสมแล้ว”
“ก็ได้คะ พี่จะจัดการให้ละกัน ขอบคุณนะคะที่เชื่อใจ ไว้ใจพี่”
วิภาวรรณพาวีรพลเดินดูรอบๆ บ้าน และก็สวนของเธอบางส่วน ทีแรกเค้าก็สงสัยเหมือนกันว่าบ้านใหญ่โตมาก ถ้าเทียบว่าเธออยู่คนเดียว ทำไมถึงดูแลบ้านได้สะอาด เป็นระเบียบ มาได้รับคำเฉลยว่า เธอจ้างคนสวนกับแม่บ้านให้มาดูแล ทุกสัปดาห์ๆละ 2-3 วัน ยกเว้นวันหยุดที่เธออยู่บ้าน เธอจะดูแลเอง วันนี้วิภาวรรณแต่งตัวเรียบๆ แต่ดูหวานไปซะหมดสำหรับวีรพล เสื้อแพรเนื้อนิ่ม แขนกุดสีเหลืองอ่อน คอกว้างนิด เผยต้นแขน หน้าอกนิดหน่อย ต้นคอขาวสะอาด กระโปรงกลีบยาวปิดเข่าสีขาว เวลาเดินนวยนาดเหมือนนางแบบ เพราะหุ่นเธอก็ถือว่าสูงเพรียวกว่าบรรดาหญิงท้องถิ่น ทำให้วีรพลนึกถึงกิริยานี้ เหมือนเค้าเคยเห็น แต่จำไม่ได้ว่าจากไหน เธอดูผิดไปจากตอนงานกินเลี้ยงซึ่งดูขรึม เนี๊ยบ เป็นทางการกว่า ตอนนี้รู้สึกเธอจะมีแววสดใส กว่าเดิม ช่างยิ้ม ช่างพูดกว่าตอนแรก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น