วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559

จินตนาการ


หลังจากที่แยกมาจากคุณพ่อและคุณแม่แล้ว ผมกับน้องต่างก็แยกกันเข้าห้องของตนเอง ก็อย่างที่คิดไว้นั่นแหละครับ ผมเองก็ยังหนุ่มยังแน่น จิตใจก็ยังหวลรำลึกถึงความหอมหวานของน้องอยู่ แม้ว่าวันนี้จะผ่านหลายเรื่องหลายราว ทั้งเรื่องน่าตื่นเต้น (โดนคุณพ่อ-คุณแม่จับได้คาหลังคาเขา) และที่น่าสมใจ ชื่นใจ (ความรักในรูปแบบใหม่ภายในครอบครัวของเรา) ผมเดินอย่างปวกเปียก หมดแรง เข้าห้องนอนตัวเอง อาบน้ำ ล้างเนื้อล้างตัว เช็ดตัวแห้งดีแล้ว ยังอดคิดถึงน้องอยู่ไม่ได้ อยากจะเดินไปห้องน้อง แต่ก็คิดว่าน้องคงเพลีย เพราะผ่านมาหนักพอกัน พรุ่งนี้ยังมีอยู่ ค่อยว่ากันใหม่ ผมก็เลยโผเข้าใส่เตียงนอน เสื้อผ้าไม่สวมไม่ใส่แล้ว นอนพลิกไป พลิกมา ผมเคลิ้มๆ ไป มีความรู้สึกคล้ายๆ กับมีคนเข้ามาในห้อง ยังไม่ทันจะทำอะไรต่อ ก็มาร่างเปือย นุ่มๆ กลิ่นตัว หอมๆ าเอนตัวนอนแอบอยู่แนกาย ไม่ทันหันไปดูแต่รู้แน่วา ร่างบางๆ อ้อนแอ้นอย่างนี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจากน้อง ผมรีบกลับตัวตระหวัดแขนมาโอบกอดน้องเสียแน่น ระล่ำระลักกระซิบที่ข้างหูน้องแสดงความยินดีที่ใจตรงกัน ผมบอกน้องว่าอยากไปหาน้องมากๆ แต่เกรงว่าน้องจะเพลีย ก็เลยไม่อยากไปกวน พยายามนอนให้หลับ คนสองคนนอนแนบกันอยู่ชิดกันอย่างนี้ รู้ใจกันหมดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดำเนินไปตามธรรมชาติ น้องไม่รอแล้ว พลิกตัวขึ้นมา คล่อมตัวผม ผมก็โอนอ่อนผ่อนปรน ตัวน้องแสนเบาเมื่อกดทับอยู่บนร่างของผม ไม่ต้องให้ออกแรงอะไร เพราะน้องรู้ใจจัดการเอง เราทั้งสองก็เคยกันอยู่แล้ว จนในที่สุดเราก็หลับพับอยู่ในอ้อมแขนของกันและกัน

ผมกับน้องก็ยังคงใช้ชีวิตประจำวันแบบเดิมๆ ตื่นแต่เช้า ไปโรงเรียน เย็นก็กลับบ้านตามปกติ ระยะนี้เราต่างก็พยายามสะกดกลั้นความเคยชิน ความต้องการ ที่เราเคยมีต่อกัน แต่เราก็ยังสนิทสนมกัน ทำการบ้านด้วยกัน ท่องหนังสือด้วยกัน แอบจับมือกัน ลูบแขน ลูบขากัน พยายามทำตัวทำตนให้อยู่ในระเบียบเรียบร้อย ไม่อยากให้คุณพ่อ-คุณแม่เห็นว่าเราทั้งสองคนฉวยโอกาส ระเริง เหลิง มั่วอยู่แต่ในเรื่อง เซ็กซ์ คุณพ่อ-คุณแม่เองก็ทำตนทำตัวปกติ เราพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เมื่อถึงเวลาที่เรารวมตัวกันในระหว่างรับประทานอาหารตอนค่ำด้วยกันทุกวัน สำหรับตัวผมเอง และน้อง ต่างก็นับวันรอคอยวันวีคเอ็นด์ที่คุณพ่อ-คุณแม่เคยได้แย้มๆ เอาไว้ว่า เราจะได้ไปเที่ยวในวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ที่บ้านพักตากอากาศตามคำเชิญชวนของคุณลุงพิธานและคุณป้วรรณวิไล ลับหลังคุณพ่อ-ณแม่ ผมกับน้องกระซิกระซาบคุยกัน ต่างคนต่างก็รูใจกันดีว่า เราทั้งสองกล้าๆ กลัวๆ ในการที่จะได้เข้าไปเป็นสมาชิกหน้าใหม่ของ กลุ่ม มีคำถามมากมายอยู่ในใจ ใครจะไปบ้าง ก็ไม่ทราบ จะเป็นเฉพาะครอบครัวของเราทั้งสอง หรือจะมี คนนอก เข้ามาด้วย ยิ่งใกล้วัน ก็ยิ่งตื่นเต้น แต่ก็ยังอุ่นใจว่า เรายังมีกันและกัน มีคุณพ่อ-คุณแม่อยู่ด้วย ท่านคงไม่ปล่อยให้เราทั้งสองคนต้องตกอยู่ในสภาวะของความไม่สบายใจ ตามลำพังเป็นแน่ เราเองก็คุ้นเคยกับทุกๆ คนในครอบครัวของคุณลุงพิธานและคุณป้าวรรณวิไล ยังเคยแอบได้ยิน คุณป้าวรรณวิไล ถามคุณพ่อ-คุณแม่ว่าเมื่อไหร่จะเอาเราสองคนเข้าร่วม กลุ่ม ด้วยซักที ทั้งๆ ที่พี่วุฒิและพี่ประไพเข้า กลุ่ม ตั้งแต่อายุยังน้อยกว่าเราทั้งสองคนเวลานี้ จะว่าไป ผมและน้อง ก็อยู่ในด้านได้เปรียบ เพราะได้เรียนรู้อะไรๆ หลายๆ อย่าง เกี่ยวกับทุกๆ คนในกลุ่มนี้ ม่ว่าจะเป็นคุณลุงพิธาน คณป้าวรรณวิไล แม้กระั่งพี่วุฒิ และ พี่ประไพ พวกั้นเสียอีก ไม่มีใครคนไหนที่ได้ล่วงรู้อะไรเกี่ยวกับตัวผมและน้องเลย นอกเหนือไปจากคำบอกเล่าของคุณพ่อ-คุณแม่ว่าเราทั้งสองจะไปเข้า กลุ่ม ในลองวีคเอ็นด์ครั้งนี้

คืนหนึ่งก่อน ที่จะถึงลองวีคเอ็นด์ คุณพ่อมีประชุมใหญ่ และมีการรับประทานอาหารค่ำต่อจากการประชุม หลังอาหารตอนเย็นที่บ้านวันนั้น มีแต่คุณแม่ ผมและน้อง 3 คนเท่านั้น เราก็ไปนั่งที่โซฟายาวนั่งดูโทรทัศน์กันตามปกติ ผมและน้องทำการบ้านเรียบร้อยแต่ตอนเย็น ก่อนอาหารค่ำ เราก็เลยสบายใจ จู่ๆ คุณแม่ก็ถามเราทั้งสองขึ้นมาว่าอยากจะเห็นอะไรแปลกๆ ไหม เราทั้งสองก็รีบรับคำ เพราะอะไรๆ มันก็คงตื่นเต้นน่าดูทั้งนั้น คุณแม่ก็เลยบอกให้ผมไปหยิบแผ่น ซีดี ที่โต๊ะวางเครื่องแต่งตัว ในห้องของท่าน พอกลับลงมาพร้อมกับแผ่น ซีดี ไส่เครื่องแล้วก็เปิด ผมกับน้องนั่งดูกันตาเป๋ง เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับการสมสู่ของคนและสุนัข และต่อจากนั้นก็เป็นการเข้าสู่วงกลุ่มคน เป็นญาติกันบ้าง เพื่อนร่วมทำงานด้วยกันบ้าง นัดกันมาพบ พอเริ่มเปิด ผมกับน้องก็จับมือกันจ้องมองดูภาพบนจอโทรทัศน์ เจ้าดำคงได้ยินเสียงจากในโทรทัน์ก็ยงโย่ยงหยก ขยับจากที่ที่มันนอนอยู่เป็นประจำ ค่อยๆ เดิน โบกหางช้าๆ ตรงมาหาคุณแม่ทันที คุณแม่ยังจ้องมองภาพบนโทรทัศน์แต่มือก็เอื้อมไปลูบหัวเจ้าดำ ดึงมันให้เข้ามาใกล้ๆ ตัว มันเอาคางของมันมาพาดไว้บนขาอ่อนของคุณแม่ คุณแม่ก็เลยอธิบายให้ผมและน้องฟังว่า ในต่างประเทศเป็นของธรรมดา แต่ที่เห็นนิยมกันมากที่สุดก็คือ คนกับสุนัข รองมาก็กับม้า ขณะนั้นบนจอโทรทัศน์ก็เป็นสุนัขตัวโตพอสมควร กำลังพยายามเอาท่อนลำที่เปียกเหมือนชโลมด้วยน้ำเมือกเสียบเข้าไปในโพรงหีของ ผู้หญิงผิวขาว คงเป็นคนยุโรป ที่นอนโก้งโค้ง ก้นโด่ง รอรับมันอยู่ แต่มันก็ทิ่มผิดทิ่มถูก ต้องมีผู้หญิงอีกคนเข้ามาช่วย จนมันสามารถใส่ดุ้นสีแดงๆ เข้าไปในร่องของผู้หญิงได้ ต่อจากนั้นมันก็ซอยยิก จนไปติดอยู่ที่ต่อมลูกหมากคาอยู่ แต่ในที่สุดไอ้เจ้าหมาบนจอโทรทัศน์ก็สามารถเคลื่อนต่อมลูกหมากของมันเลื่อน ไหลเข้าไปจนหมด สักครู่ใหญ่ เจ้าหมาในจอโทรทัศน์ก็หยุด ยืนใช้เท้าหน้าทั้งสองของมันเกาะเอวผู้หญิงไว้สักพักหนึ่ง ต่อมลูกหมากก็ค่อยๆ หลุดออกจากรูหี มีน้ำเมือกไหลตามมาเป็นสาย ท่อนลำของมันก็หลุดตามออกมา แล้วมันก็เดินไปนอนลงที่มุมห้องอีกด้านหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นก็เอนตัวลงนอนลงกับพื้นเงียบไป (คุณแม่ไม่เคยทราบเลยว่าผมและน้องได้เคยเห็นภาพในวีดีโอ ที่มีคุณแม่ และ คุณป้าวรรณวิไล กับเจ้าดำ)

ผมกับน้องดูแล้วเงี่ยน เราสองคนบีบมือกันแน่น ต่อมาเราก็ได้ชมภาพของผู้ชาย คงจะเป็นพวกยุโรป 4-5 คน กับผู้หญิงในจำนวนเท่าๆ กัน นั่งดื่มและกินอาหาร แล้วก็จบลงด้วยการสวิงกิ้ง จากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่ง บางคนก็ได้เปลี่ยนคู่จนครบ บางคนก็หยุดพักไปเสียก่อน แต่ทุกคนก็มีความสุขสนุกสนานกันอย่างเต็มที่ คุณแม่บอกให้ดูไว้เพื่อเป็นประสบการณ์ เราทั้งสองก็เลยนิ่งเงียบ แต่เราเงี่ยนกันมากทั้งคู่ คุณแม่ก็คงจะเข้าใจในความต้องการของเราทั้งสองคน คุณแม่ก็เลยให้ผมลุกขึ้นไปปิดโทรทัศน์ แล้วขึ้นไปนอนโก้งโค้งบนโซฟา ให้ผมเข้าทางด้านหลัง แล้วให้น้องมานั่งเอน หงายตัวอยู่ด้านหน้าคุณแม่ ผมก็เลยเข้าใจว่าจะต้องทำอย่างไร ผมรีบถอดเสื้อ ถอดกางเกง ควยโด่ เข้าประชิดบั้นท้ายของคุณแม่ เสียบเจ้าตัวน้อยของผมเข้าไปในโพรงหี ซึ่งตอนนี้ก็เยิ้มฉ่ำแล้ว เพียงดันเบาๆ เจ้าตัวน้อยของผมหายเข้าไปในร่องจนมิดด้าม คนม่ก้มศีรษะเลียหีน้อง พร้อมทั้งเอื้อมมือไปบีบเคล้นนมของน้องซ้ายที ขวาที เสียงน้องครางอ่อยๆ ผมเองก็ตั้งหน้าตั้งตากระแทก เพราะเงี่ยนเต็มที ผมบอกคุณแม่ว่า ผมจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว จะออกแล้ว คุณแม่ก็รีบหันหน้ามาบอกให้กระแทกแรงๆ เพราะคุณแม่ก็จวนเต็มที่แล้วเหมือนกัน เสียงน้องคราง แทบไม่ออมเสียงเลย ผมกับคุณแม่ถึงหลักชัยพร้อมๆ กัน คงจะเป็นเพราะไอ้เจ้าภาพจาก ซีดี ที่ไปปรากฏบนจอโทรทัศน์นั่นแหละ ผมฟุบตัวลงบนหลังของคุณแม่ คุณแม่ก็ตะแคงตัวลงบนตัวน้องครึ่งหนึ่ง อิงที่พนักโซฟาอีกครึ่งหนึ่ง คุณแม่คงกลัวว่าจะหนักเกินไป น้องจะรับน้ำหนักทั้งของผมและทั้งของคุณแม่ไม่ไหว เราทั้งสามคนพักกันอยู่ซักประเดี๋ยวก็ชวนกันเข้าห้องน้ำทำความสะอาด แต่ก็ไม่ลืมที่จะทำความสะอาดบนพื้นและ ที่บนโซฟาก่อน

คุณพ่อตัดสินใจขอยืมรถตรวจการแบบรถตู้จากโรงเรียน โดยทิ้งรถของคุณพ่อไว้ให้ทางโรงเรียนได้ใช้ในกรณีฉุกเฉินระหว่างวันหยุด ทั้งนี้เนื่องมาจากเสียงร่ำร้องของทางฝ่ายครอบครัวคุณลุงพิธานและคุณป้าวรรณ วิไล ให้เอาไอ้ดำตัวเก่งไปด้วย ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนเรียกร้อง เพราะคุยกันในโต๊ะอาหารตอนเย็น โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการไปเที่ยวลองวีคเอ็นด์ในครั้ง นี้ ผมและน้องต่างก็ทำตนเป็นผู้ฟังที่ดี ไม่กล้าจะไปซักโน่นซักนี่ คุณพ่อ-คุณแม่ว่าอะไร ก็ได้แต่ครับๆ ค่ะๆ ตามกันไป แต่ถึงอย่างไร เราจะทิ้งไอ้เจ้าดำเนี่ยไว้ที่บ้านตามลำพังโดยไม่มีคนดูแลไม่ได้อยู่ดี เพราะใครจะเอาตัวมันออกไปให้มันทำกิจธุระประจำวันในสนามนอกบ้าน ใครจะเป็นคนหาอาหาร ใครจะดูแลอาบน้ำ ทำความสะอาดให้ เวลาที่เราได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันตอนอาหารมื้อค่ำวันศุกร์ จึงเป็นเวลาที่ คุณพ่อ-คุณแม่ต่างก็พูดเกี่ยวกับเรื่องการไปลองวีคเ็นด์ครั้งนี้เป็นส่วน ใหญ่ คุณพ่อ-คุณแม่ ตกลงใจจะออกจากบ้านพรุ่งนี้เช้าวันเสาร์ ตอนสายๆ สถานที่ที่เราจะไปก็อยู่เลยหัวหินไปหน่อย ก่อนจะถึงเขาตะเกียบ เป็นบ้านอยู่ติดหาดเลย เห็นว่ามีบริเวณกว้างขวางพอสมควรทีเดียว คุณพ่อ-คุณแม่บอกให้ผมและน้องทราบแต่เพียงว่า จะออกเดินทางเวลาไหน และเราจะไปพบกับ ครอบครัวของคุณลุงพิธานและ คุณป้าวิไลวรรณ ณ บ้านพักตากอากาศเลย จะไปถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น กำหนดตามสบาย ไม่เร่งร้อน เพราะเป็นการไปพักผ่อนจริงๆ หลังอาหารคุณพ่อ-คุณแม่ก็เข้าประจำที่ดูโทรทัศน์ต่อ ผมกับน้องต่างก็แยกตัวเข้าห้องใครห้องมัน เตรียมจัดกระเป๋า ก่อนเข้านอน ระหว่างจัดกระเป๋า น้องอุตส่าห์วิ่งมาที่ห้องของผม เอาชุดอาบน้ำชุดใหม่เอี่ยม สำหรับไปเล่นน้ำทะเล มาให้ผมดู น้องอุตส่าห์เอาสตางค์ที่เก็บหอมรอบริบมาซื้อเองเพราะไม่อยากรบกวนคุณพ่อ -คุณแม่ เป็นชุดสมัยใหม่เชี๊ยบ เป็นวัสดุที่ยดจนแนบตัวเพื่อความคล่องตัวในการแหวกว่ายอยู่ในน้ำ สีขาวคงจะเข้ากับสีผิวของน้อง ผมอยากจะให้น้องลองไส่ให้ดูเสียตอนนั้นเลย แต่ก็คิดว่าอดใจไว้ก่อนดีกว่า ไว้ไปคอยดูเอาตอนน้องใส่ที่ชายหาด น้องหุ่นดีๆ อย่างนี้ เมื่อสวมชุดแล้วคงน่าดูเชียวแหละ คุณพ่อ คุณลุงพิธาน และ พี่ วุฒิ คงมองกันตาค้างกันเลยผมว่านะ แน่ละผมก็ต้องเข้าข้างน้องสาวผมอยู่ดี กว่าเราจะออกรถได้ก็สายมาก ระหว่างทางคุณพ่อก็ขับรถไปเรื่อยๆ แวะโน่น กินนี่ไปตลอดทาง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น