วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559

จินตนาการ 2

ตอน 2

ไปถึงที่บ้านพักตากอากาศของคุณลุงพิธานและคุณป้าวรรณวิไลเอาหลังอาหารเที่ยง ไปแล้ว เราแวะรับประทานอาหารกลางวันกันที่ตลาดฉัตรชัยที่หัวหิน พร้อมทั้งซื้อของกินเล่นติดมือไปด้วย พอไปถึงบ้านพัก คุณลุงพิธานกับพี่วุฒิออกมาต้อนรับ คุณพ่อกับผมก็ช่วยกันขนของเข้าที่พัก คุณแม่จูงมือน้องเข้าบ้านไปทักทายกับคุณป้าวรรณวิไลกับพี่ประไพ ผมขนของเสร็จก็มาไหว้สวัสดีคุณป้าวรรณวิไล และ ทักทายพี่ประไพ ทั้งสองกำลังนอนรับลมทะเลกันอย่างสบายใจ ผมสังเกตเห็นคุณป้าวรรณวิไลมีฝ้าป่านบางๆ คลุมตัวอยู่ผืนเดียว พอลมพัดแรง หน่อย ผ้าก็ปลิวเผยอให้เห็นวับๆ แวมๆ ว่าคุณป้าวรรณวิไลไม่ได้นุ่งอะไรเลย ตัวเปลือยเปล่าอยู่ไต้ผ้าป่านนั้นผืนเดียว ตาปรือ จะหลับมิหลับแหล่ เพราะลมทะเลเย็นสบายจริงๆ คงนอนรับลมอย่างจริงจัง ส่วนพี่ประไพ ใส่เสื้อกล้ามเป็นผ้ายืดและกางเกงก็เป็นผ้ายืดเหมือนกัน ขาสั้นจู๋ โชว์แก้มก้นทั้งองข้าง ช่วงบนคงไม่ได้ใส่อะไรข้างไต้เสื้อกล้ามผ้ายืดนั่นแน่ๆ ส่วนข้างล่างเดาไม่ออก แต่กางเกงนั้นตัวเล็กจริงๆ มองไม่เห็นขอบเห็นรอยของชั้นในเลย หรือจะเป็นไอ้แบบประเภทเป็นเส้นเป็นสายมีสามเหลี่ยมบางๆ แปะข้างหน้าอยู่นิดเดียวก็ได้ เลยทำให้มองไม่เห็นร่องรอยอะไรเสียเลย แว่วเสียงคุณพ่อกับคุณลุงพิธานคุยกัน หาเครื่องดื่มมาปรนเปรอให้กันและกันอยู่ด้านในของที่พัก บ้านพักอยู่ติดทะเลก็จริง แต่ปลูกบนที่สูง ต้องเดินลงกระใดไปสู่หาดทราย คนเดินผ่านไปมา ไม่สามารถมองเห็นคนในบ้านได้ ฝาห้องก็ทึบ ระเบียงกว้าง แต่ก็มีไม้ระแนงออกแบบสวยงามกั้นไว้แน่นหนา แข็งแรง จะเห็นได้ก็แต่เมื่อคนในบ้านเป็นใจมายืนให้ดูเต็มๆ เพราะงั้น คุณป้าวรรณวิไลจึงได้แต่งตัว (หรือไม่ได้สวมใส่อะไร) ได้ตามสบาย พี่วุฒิใส่กางเกงขาสั้นสปอร์ตเพียงตัวเดียว ไม่ใส่เสื้อ เช่นเดียวกับคุณลุงพิธาน คุณพ่อก็เลยรีบเข้าห้องไปเปลี่ยเครื่องแต่งตัวตามอย่างเจ้าของบ้าน ผมยังเหนียมอยู่ ใส่เสื้อคอกลม กับกางเกงกีฬาขาสั้น น้องก็เลยแต่งตัวแบบผมบ้าง แต่ใส่ชั้นในครบชุด มีกันพวกเราแค่นี้เหรอ เสียงคุณพ่อถามคุณลุงพิธาน ฮื่อ เสียงตอบ ก็จะมีอีกก็พี่จินต์ กับพี่เชาว์ เท่านั้น ผมกับน้องเลยเรียกป้าจินต์กับลุงเชาว์ตามพี่วุฒิและพี่ประไพ เพราะทั้งสองเป็นคนดูแลบ้าน คุณป้าจินตนาเป็นญาติกับคุณป้าวรรณวิไลเป็นภรรยาคุณลุงเชาว์ ทั้งสองคนเป็นคนแถบนี้ ป้าจินต์เป็นครูสอนหนังสือ ส่วนลุงเชาว์เป็นข้าราชการอยู่ที่อำเภอ ทั้งสองคนไม่ทราบใครเป็นหมัน ไม่มีลูก ก็เลยได้รับการร้องขอของคุณลุงพิธานและคุณป้าวรรณวิไลให้มาช่วยดูแลบ้านให้ แล้วเลยใช้เป็นที่อยู่อาศัยไปในตัว ป้าจินต์ก็มาช่วยเป็นแม่บ้าน ทำอาหาร เวลาที่ครอบครัวคุณลุงพิธานและคุณป้าวรรณวิไลมาพัก ป้าจินต์ผิวคล้ำแต่รูปร่างดีมาก คงได้อากาศดี งานดี จิตใจปลอดโปร่ง ลุงเชาว์ก็ร่ากายล่ำสัน ท่าทางดีสมเป็นข้าราชการเก่าแก่อยู่ในระดับสูงพอสมควรที่อำเภอ คุณแม่ตามมานอนบนเตียงข้างๆ คุณป้าวรรณวิไล เปลี่ยนจากชุดเดินทางมาเป็นกางเกงขาสั้น และใส่เสื้อยืดคอกลมของคุณพ่อ ชั้นในคงไม่ได้สวมอะไรไว้ เพราะเห็นปุ่มหน้าอกเป็นปมทิ่มเสื้อยืดคอกลมเป็นรอยชัด คุณแม่คงเตรียมตัว เตรียมใจ มานอนพักตามคุณป้าวรรณวิไลเช่นกัน ผมกับน้องพาเจ้าดำลงไปวิ่งที่ชายหาด ให้มันได้ยืดเส้นยืดสายหลังจากที่นั่งในรถมานาน ผมบอกให้น้องไปเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำ เผื่อนึกสนุกเดินเล่นในน้ำทะเล ส่วนผมก็ถอดเสื้อใส่กางเกงอาบน้ำตัวเดียวเช่นกัน พี่วุฒิกับพี่ประไพ ทำท่าจะตามเรามาแต่ก็เปลี่ยนใจ บ่นว่าอยู่ในบ้านสบายกว่า

เราสองคนพากันเดินเรื่อยๆ สักพักจึงได้รู้สึกตัวว่ากำลังมุ่งหน้าไปทางเขาตะเกียบ หาดทรายช่วงนี้ต่างก็เป็นบ้านชายหาดซึ่งมีตลิ่งสูง มีรั้วรอบขอบชิด เป็นแบบคล้ายๆ กัน เหมือนบ้านพักของคุณลุงพิธาน ดูเหมือนมีคนพักทุกบ้านแต่ก็มองเข้าไปไม่เห็นใครเลย นอกจากเราจะเสี่ยงปีนขึ้นขั้นบันไดแล้วเข้าไปในบริเวณรั้วบ้าน จึงจะสามารถเห็นอะไรในบ้านได้ วิเศษดีแท้ แต่ละบ้านมีไพรเวซี่ เกือบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

เราเดินกันไป คุยกันไป คอยเรียกเจ้าดำไม่ให้มันไปวุ่นวายกับปูตัวเล็กๆ ที่วิ่งกันขวักไขว่ เราเดินห่างบ้านพักมาไกลโข แดดร่มลมตก ก็เลยชวนกันหันหลังกลับ มาทางเก่าเพื่อกลับบ้านพัก เพราะเกรงว่าคุณพ่อ-คุณแม่ และ คนอื่นๆ จะเป็นห่วง เพราะเพิ่งจะมาถึงวันแรก

พอกลับมาถึงที่บ้านพัก เราก็ปีนบันไดเปิดประตูเพื่อเข้าสู่บริเวณบ้าน น่าแปลกประหลาด ไม่เห็นมีใครซักคน หายเงียบกันไปหมด ผมพาเจ้าดำไปทางลานหลังบ้านเพื่อใช้น้ำล้างขาล้างทรายออกจากตัวของมันก่อนจะ จูงเดินขึ้นบันใดของตัวบ้าน ไต้ถุนข้างล่างโล่ง ลาดพื้นคอนกรีตไว้อย่างดี แถมยังปูกระเบื้องพื้นด้วย ใช้จอดรถได้หลายคัน แต่ก็ไม่มีรถจอดสักคัน ปล่อยว่างไว้ มีตั่งไม้ลวดลายสวยงามวางอยู่ ห่างๆ กัน 2 3 ตัว

ป้าจินต์และลุงเชาวน์ก็พลอยหายกันไปหมด เราค่อยๆ ย่องกันขึ้นไปบนบ้าน แล้วจึงได้เห็นว่าทุกคนมารวมตัวกันอยู่ในห้องโถงใหญ่ เป็นห้องสารพัดประโยชน์ เป็นทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอนเล่น ห้องนั่งดูโทรทัศน์ ทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ ตอนนี้ทุกคนอยู่ในชุดบางๆ เบาๆ สบายๆ คุณลุงพิธาน คุณพ่อ ลุงเชาว์ และ พี่วุฒิ ต่างก็นุ่งกางเกงกีฬาสั้นๆ เปลือยอกเช่นเดิมเหมือนกันหมด ทุกคนกำลังดื่ม กินของว่าง กันอย่างสบายใจ ตอนนี้ทุกคนต่างก็นั่งรวมตัวอยู่ใกล้ๆ กันแล้ว มีผมกับน้อง ซึ่งเปรียบเสมือนน้องใหม่ ที่ยังแต่งตัวอยู่ในชุดว่ายน้ำ ผมและน้องก็เลยเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้น เสื้อคอกลมเหมือนเมื่อตอนบ่าย ก่อนออกจากห้องโถงใหญ่นั้น ผมทิ้งเจ้าดำให้มันนอนเงียบอยู่ที่มุมห้อง พี่วุฒิโยนอะไรให้มันกิน ตามันมองคนโน้นที คนนี้ที

คุณป้าวรรณวิไลเรียกให้น้องมานั่งข้างๆ พร้อมกับบอกให้มานั่งใกล้ๆ ไม่ต้องอาย ไม่ต้องกลัว พวกเรากันเองทั้งนั้นนะ อยากทำอะไรก็ทำ ไม่อยากทำ ไม่สะดวกใจก็กระซิบบอกให้รู้กันเสียก่อน ทุกๆ คน ตามสบาย เราต้องใช้ชีวิตสนุกสนานให้เต็มที่ อุตส่าห์มากันถึงที่นี่แล้วนี่ พี่วุฒิตะโกนถามผมและน้องว่าจะดื่มอะไร คุณพ่อก็เลยช่วยบอกแทน
เอาเบียรให้น้องชาย เอาสไปร์ ให้น้องสาวเถอะ ค่อยเบาๆ หน่อย ถ้าไม่ชอบอย่างไรก็เปลี่ยนได้นะ

คุณลุงพิธานออกเสียงดังชมรูปร่างน้องว่าอ้อนแอ้นดีจริง หลานชายก็ดูจะเอาของพ่อมาไว้แยะเหมือนกันนิ ว่าแล้ว ทั้งคุณลุงพิธานกับคุณพ่อต่างก็หัวเราะกันอย่างครื้นเครง บรรยากาศตอนนี้ก็เลยค่อยคลายความอึดอัดลงไปมากๆ สำหรับผมและ น้อง ป้าจินต์ถามถึงเจ้าดำ พร้อมทั้งพยายามจัดหาสิ่งต่างๆ มาให้มันกิน คุณแม่ก็เลยแหย่ มาว่า
ดูแลให้ดีๆ นะ เห็นถามหาอยากเจอกับมันนักนี่ ป้าจินต์หัวเราะ

แหมก็ฟังแม่วรรณเขาสาธยาย เราก็เลยอยากจะลองดูบ้างน่าซี ยิ่งไม่เคยอยู่ พี่เชาว์งี้ พอรู้เข้าก็ลุ้นใหญ่ อยากเห็นเอามากๆ ผมหันมามองหน้าน้องคล้ายๆ กับจะบอกว่า ที่นี้ก็รู้แล้วละซีว่า ใครเป็นคนอยากให้พาไอ้เจ้าดำตัวเก่งของเรามาตากอากาศครั้งนี้ ด้วย

สำหรับ คุณลุงพิธาน คุณป้าวรรณวิไล พี่ประไพ พี่วุฒิ คุณพ่อ คุณแม่ น้อง ก็ดูคุ้นๆ ตากับผมดี เพราะเคยเห็นทุกคนซึ่งอยู่ในสภาพต่างจากนี้มากในวีดีโอมาแล้ว ลุงเชาวน์ดูท่าทางทะมัดทะแมง ไม่ปล่อยตัวลงพุงเหมือนคุณลุงพิธาน ผิวคล้ำ ตัวเกร็งด้วยกล้ามเนื้อ ส่วนป้าจินต์ ผิวพรรณคล้ำๆ เช่นกัน คงจะเนื่องจากอยู่ท่ามกลางลมทะเลและแสงแดด รูปร่างดีมาก หน้าอกสวย เคลื่อนคล้อยมาหน่อยตามวัย ต้องน่าชมอย่างยิ่ง ที่คุณป้ารักษาเนื้อรักษาตัวได้ดีมากๆ หน้าท้องเกือบไม่มี ดูแบนเรียบ เห็นจะเป็นเพราะยังไม่เคยมีลูกด้วยกันนั่นแหละ ไม่เหมือนคุณป้าวิไลวรรณและคุณแม่ อากาศเย็นสบาย ไม่จำต้องอาศัยเครื่องปรับอากาศเลย ทั้งๆ ที่ทุกห้องก็มีเครื่องปรับอากาศติดครบ อากาศข้างนอกเริ่มมืดสลัว ทุกคนต่างก็ได้กิน ได้ดื่ม ได้คุยกันมาพอสมควร คุณลุงพิธานขยับตัวหยิบรีโหมท เปิดโฮมเธียร์เตอร์ จอใหญ่เสียงกระหึ่ม เหมืนว่าทุกคนจะเตรียมตัว เตรียมใจไว้เรียบร้อยแล้ว ต่างก็ขยับตัว บ้างก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำที่มีประตูติดต่อถึงกัน ภาพที่ปรากฏบนจอเป็นภาพคลิปสั้นๆ ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นสาวๆ ชาวญี่ปุ่นสวยๆ งามทั้งนั้น รูปร่างดีมาก ผิวขาวผ่อง ตัดกับดงขนปื้นเบ้อเร่อที่โหนกนูนของแต่ละคุณเธอ ญี่ปุ่นนี่ช่างเป็นชาติที่มีขนดกเสียจริงๆ และเขาไม่นิยมการโกน หรือ ขลิบ กันบ้างเลย บางคนดกมาก หนุ่มไหนไปประลองเข้าคงได้โดนเส้นขนยุ่บยั่บเหล่านั้นพอให้ เสียวๆ คงมันดีพิลึก ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจกับภาพบนจอยักษ์และเสียงกระหึ่ม แสงไฟในห้องหรี่ให้พอมองเห็นอะไรเป็นอะไร อยู่ที่ไหนเท่านั้น การกินแทบจะหยุด มีแต่การดื่ม แต่สายตาก็จ้องจับอยู่บนจอทั้งนั้น สำหรับผมเองภาพเหล่านี้ก็ชักชิน เพราะแอบไปดูซีดีของเพื่อนที่บ้านของมันเสมอๆ ไอ้พวกเพื่อนๆ ผมแต่ละคน ความจำมันดีจริงๆ มันโหดกับผมครับ เพราะมันกลัวว่าให้ผมยืมมแล้วจะโดนริบแบบหนังสือนั่นอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น