ผมนำมอเตอร์ไซด์เวฟ
125i
รุ่นใหม่เข้าจอดที่หน้าห้องหมายเลข
103 ของม่านรูดราคา
300 บาท
สำหรับชั่วคราว โดยล๊อคล้อเสียเป็นอย่างดี
แถมล๊อคคอรถตามนิสัยปกติเมื่อยามจอดรถทุกครั้ง
มิใช่อะไรหรอกเพราะเพิ่งผ่อนไปได้ไม่กี่เดือนเอง
หลังจากนั้นผมก็ไขกุญแจห้องซึ่งวาบแรกที่เข้าไปกลิ่นค่อนข้างอับอาจด้วยเหตุ
ที่กลางวันอากาศร้อนมากของเดือนมีนาคมและเจ้าของไม่ได้เปิดหน้าต่างเพื่อให้
อากาศระบายผมจึงต้องคอยให้อากาศในห้องเย็นลงตามการทำงานของแอร์ซึ่งขณะนี้
เสียงคอมเพรสเซ่อร์ซึ่งเริ่มทำงานครางกระหึ่ม
“เข้ามาสิจ๊ะ
คอยแป๊บนึงคงเย็นหรอก
เดี๋ยวดื่มเป๊บซี่เย็นๆ
ก่อนก็ได้”
ผมเชื้อเชิญให้น้องอุ๊เข้ามาในห้องหลังจากที่หล่อนทำสีหน้าไม่
ค่อยดีอยู่นอกห้องหลังจากลงจากอานมอไซด์เมื่อครุ่
ผมนึกอยู่ตั้งนานว่าจะมาเปิด
“ซิง” น้องอุ๊ที่ใหนดี
หลังจากที่เที่ยวกันมาครึ่งวันบ่ายแล้วหาอะไรกินกันที่ตลาดโต้รุ่งในตัว
อำเภอเมื่อตอนค่ำ
แล้วก็พบว่ามีม่านรูดเพิ่งเปิดให้บริการใหม่อยู่ห่างจาก
ถนนหลวงเข้าไปในซอยส่วนตัวของเจ้าของห้องเช่าประมาณ
300 เมตร
ซึ่งเข้าใจว่าไม่ประเจิดประเจ้อจนเกินไป
อีกอย่างม่านรูดแห่งนี้เขียนชื่อให้ทันสมัยว่าเป็น.....รีสอร์ท
จึงได้เห็น
ต้นไม้ประเภทโตเร็วอยู่มากมายอย่างน้อยก็เป็นที่กำบังสายตาผู้คนที่สัญจรไป
มาได้บ้าง ผมสังเกตคร่าวๆ
ก่อนจะไขกุญแจเปิดประตูเข้าไป
แม้ว่าขณะนั้นแค่สามทุ่มเองแต่ก็มีคนใช้บริการเป็นจำนวนมากส่วนใหญ่คนที่มา
จะใช้รถยนต์กัน เช่นรถเก๋ง
หรือรถกระบะ
คงมีผมคนเดียวมั้งที่ขับมอไซด์เข้าม่านรูดคืนนี้
ก็มันไม่มี รถยนต์นี่นา
เมื่ออากาศเริ่มเย็นลงก็ค่อยยังชั่วหน่อย
เพราะข้างนอกร้อนมากคิดเล่นๆ
ว่าถ้าไม่กลัวแม่ของน้องอุ๊จะตามหาลูกสาวน่าจะนอนห้องแอร์เย็นๆ
เสียซักคืนหรือต่ออีกวันก็น่าจะสบาย
แต่แม้ว่าความคิดจะโลดแล่นไปไกลแค่ใหน
ความเหนียวตัวเหนอะหนะก็ไม่ได้ลดหายไปเพราะความสบายจากเครื่องปรับอากาศที่
กำลังครางกระหึ่มนี่หรอก
ผมเลยคิดว่าใหนๆ
ก็จ่ายค่าเช่าแล้วน่าจะใช้บริการเสียให้คุ้ม
จึงเอ่ยปากให้น้องอุ๊เข้าไปอาบน้ำคลายร้อนก่อนแต่เธอไม่ยอมผมจึงต้องเป็นคน
ไปอาบก่อนหลังจากนั้นเธอจึงต่อหลังจากที่ผมออกมาจากห้องน้ำแล้ว
ด้วยเหตุ
ที่มีชุดใส่อยู่ชุดเดียวก็คือชุดที่เที่ยวทั้งวันในวันนี้เมื่ออาบน้ำเสร็จ
ผมก็เลยนุ่งเฉพาะผ้าขนหนูของม่านรูดนั่งคอยโดยดื่มเป๊บซี่ที่ซื้อมาจากเซ
เว่นในตลาดสองกระป๋องเมื่อซักครู่
ไม่นานน้องอุ๊ก็ออกมาจากห้องน้ำใน
ชุดกระโจมอกที่ค่อนข้างโป๋เพราะผ้าขนหนูผืนไม่ได้ใหญ่โตเหมือนที่บ้าน
โดยตามไหล่เธอยังมีหยดน้ำเหลืออยู่บ้างจากการที่เช็ดไม่หมดทำให้ดูเป็น
ธรรมชาติดีเมื่อเธอเดินเฉียดตัวผมยังได้กลิ่นสบู่กรุ่นๆ
อยู่เลย
ด้วยเหตุที่คืนนี้และครั้งนี้เป็นครั้งแรกระหว่างผมกับเธอหลังจากที่คบกันมา
เกือบครึ่งปีจึงอาจจะเขินๆ
กันอยู่บ้างเพราะที่ผ่านมาคงไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่าการจูบและสัมผัสภายนอก
กันเท่านั้น
แต่ก็นับว่าสนิทกันพอสมควรถึงอย่างไรกว่าจะอ้อนวอนให้เธอเข้ามาในม่านรูดกับ
ผมได้ก็เป็นงานหนักไม่ใช่เล่นต้องเว้าวอนกันสารพัดจนเธอบอกว่ายอมให้แค่
ครั้งนี้ครั้งเดียวนะหลังจากนี้จะไม่ให้จนกว่าจะได้แต่งงานกัน
ผมก็สัญญาไปงั้นๆ
แหละทำไงได้อยากฟันน้องเค้านี่
หลังจากที่ดื่มเป๊บซี่กันไปเกือบครึ่ง
กระป๋อง
เราก็มีเรื่องราวคุยกันบ้างหยอกล้อกันบ้างซักครู่ทั้งผมและเธอก็นอนกอดรัด
ฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนเตียง
ก็แหมผู้หญิงกับผู้ชายที่ไม่ใช่ญาติโกโหติกา
อย่างนี้อยู่ใกล้กันก็เหมือนเชื้อไฟดีๆ
นี่เองไม่นานก็ลุกพรึ่บ
ไม่ว่าจะแน่ซักแค่ใหนเว้นแต่ผู้ชายจะประเภทอ่อนเชิงสอนขัน
(และซื่อบื้อ)
จริงๆ
เท่านั้นที่จะปล่อยให้คนที่นอนกอดอยู่เช่นนี้หลุดมือไป
ผมชื่ออ๊อด
(ชื่อสมมตินะครับขืนบอกชื่อจริงไปขายขี้หน้าสุดๆ)
อายุเกือบสามสิบแล้ว
สูงประมาณ 180
เซน.
ร่างกายแข็งแรง
รวมทั้งน้องชายผมก็มากมายตามตัวผมด้วยขนาดกลมๆ
ไม่รู้กี่เซน.แต่ลองเอาซองบุหรี่สมัยก่อนที่มันเป็นกระดาษบางๆ
ของกรองทิพย์ทำให้กลมแล้วสอดน้องชายผมเข้าค่อนข้างลำบากและความยาวอาจจะมาก
ไปหน่อยเคยวัดเล่นๆ
กับเพื่อนตอนติดทหารก็ประมาณ
8 นิ้ว
ซึ่งเพื่อนๆ
แนะนำว่าอย่างมึงหากตกงานให้ไปขายอย่างว่ารับรองไม่อดตาย
ผมก็ไม่รู้ว่าเพื่อนมันพูดเล่นหรือพูดจริงแต่ผมไม่เคยรับรู้เรื่องทำนองนี้
มาก่อน
ขณะนี้ผมทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยางพารา
หรือจะเรียกให้ตรงๆ คือโรงงานยาง
ซึ่งมีอยู่ค่อนข้างมากในอำเภอชายแดนที่ติดมาเลเซียอย่างนี้เนื่องจากเป็น
อำเภอที่ประชาชนมีอาชีพทำสวนยางพารามาก
(แต่ที่มากจริงๆ
ก็ของเถ้าแก่คนจีนทั้งในอำเภอนี้และอำเภอหาดใหญ่เพียงไม่กี่เจ้าเท่านั้นนอก
นั้นเป็นรายย่อยที่มี 10-20
ไร่)
แต่ทั้งคนที่กรีดยางและพนักงานโรงยางส่วนมากเป็นแรงงานต่างถิ่นมาจาก
อีสานมีบางส่วนเป็นแรงงานพม่า
ผมไม่ได้เป็นคนงานในกลุ่มพวกนี้หรอกนะแต่
เป็นลักษณะโฟแมนอีกทีหากเทียบกับการก่อสร้างคือคุมพวกนี้อีกทีหนึ่ง
ก่อนที่จะมาทำที่โรงงานนี้ผมเคยทำงานอื่นๆ
มาแล้วหลายอย่างแต่ไม่เคยทำงานราชการนะ
ผมอาจไม่มีดวงเรืองทำราชการก็ได้
ส่วนเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงนั้นผมก็ผ่านมาบ้างแม้จะไม่โชกโชนนัก
เพราะเวลาส่วนใหญ่ผมหมดไปกับการต้องทำงานทั้งเลี้ยงตัวเองและพ่อแม่อาจจะจัด
อยู่ในประเภทคนเรียบร้อยหรือปกติทั่วๆ
ไปก็ว่าได้ ดังนั้น
แม้จะอายุค่อนข้างเยอะแล้วแต่ก็ไม่มีวี่แววจะได้แต่งง
งานเสียที
“อูย...เสียวนะ.....พี่อ๊อด....เล่นอะไรก็ไม่รุ”
อุ๊ทำทีเป็นผลักผมออก
จากอกเธอขณะที่ผมกำลังไซร้ซอกคอเธออยู่
“มันจั๊กจี๋นะคะ....โอย.ย.ย....ซี๋ดสส..สส.....”
แล้วเสียงก็ลอดไรฟันหล่อนออกมา
หลังจากที่ต้านแรงผมไม่อยู่เมื่อผมทับตัวลงไปใหม่
ขณะที่หล่อนหลับตาปี๋
ทั้งๆที่กำลังนุ่งกระโจมอกด้วยผ้าขนหนูผืนสั้นอยู่อย่างนั้น
“พี่อ๊อดขา.....อุ๊เสียวนะ..อือมม....อูวว..วววว....”
เธอครางเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอเมื่อผมเริ่มจูบปากพร้อมแลกลิ้นกันนัวเนีย
โดยเธอก็สนองตอบโดยดีด้วยการแลบลิ้นออกมาพันลิ้นผมเช่นกัน
ผมนั้นขณะนื้อ
ยู่ในชุดวันเกิดแล้วส่วนเธอนั้นผมเริ่มใช้มือข้างหนึงแก้ผ้าขนหนูที่พันหน้า
อกไว้อย่างหลวมๆ
ออกอย่างง่ายดายส่วนอีกมือหนึ่งนั้นก็คว้าหมับเข้าให้ตรงเต้านมข้างขวา
เป็นครั้งแรกที่มือผมได้สัมผัสกับผิวกายของน้องอุ๊อย่างเปลือยเปล่าเช่นนี้
เพราะก่อนหน้านี้แม้จะมีเกินเลยไปบ้างก็แค่จับๆ
คลำๆ
นอกเสี้อผ้าทั้งนั้นมีเพียงการกอดและจูบมั้งที่ได้สัมผัสผิวกายของกันและกัน
บ้างในยามที่ไปเที่ยวในที่ปลอดคนไม่ว่าจะแถวสวนสาธารณะหรือในโรงหนัง
สิ่งแรกที่ผมทึ่งคือ
การแปลกใจที่ทำไมน้องอุ๊ซึ่งมีอายุแค่
26 ย่าง
27 ปี
หน้าอกหน้าใจของเธอไม่ล้อตามอายุเลยมันไปไกลกว่ามาก
เธอเองดูเหมือนพยายามจะพลิกตัวหนีการจับหน้าอกเป็นอย่างมากหรือไม่ก็ทำเป็น
อายโดยเอามือเธอมาจับไว้ทำนองปัดป้อง
ผมแค่คิดช่วงสั้นๆ
แค่นั้นในขณะที่กำลังเล้าโลมเธอจริงๆ
เพราะคงไม่มีผู้ชายคนใหนมาระแวงคู่รักในคืนแรกและครั้งแรกที่จะเข้าได้เข้า
เข็มอย่างนี้
เพียงแต่สังเกตอาการของเธอออกถึงการตอบสนองที่ได้พบมาและนำมา
เขียนเป็นเรื่องราวให้ได้อ่านกันเท่านั้น
ความจริง ณ เวลานั้นผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ
อาจเป็นเพราะเธอเองคิดไปเองก็ได้เลยต้องแสดงอาการอย่างนั้นออกมา
ถ้าเธอไม่มีพิรุธผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเวลาอย่างนั้นที่เจ้าจ้อนของผม
อ้วนกลมแล้วมันก็อยากกินอาหารของมันเต็มที่เช่นกัน
ผมดูดนมเธอซ้ายขวา
สลับกับการจับขยำด้วยมือสำหรับข้างที่ว่างจากการดูดนั้นอยู่ครู่หนึ่งเห็น
เธอครางกระเส่าและผมคิดว่าเธอไม่ได้แกล้งแสดงจากการที่ขนของเธอตั้งเด่ลุกชู
ชันไปทั่ว
“อูย...ย.....เสียวจังเลย.....อุ๊เสียวมากค่ะ....พี่อ๊อดขา....พี่อ๊อดช่วย
อุ๊หน่อย...นะคะ...”
หล่อนครางเสียงกระเส่าทำท่าอยากออกมามากจริงๆ
ดูจากการโน้มคอผมเข้าไป
จูบอย่างดูดดื่มเสียเองตั้งหลายครั้ง
ผมเองก็เจ็บเจ้าน้องชายมานานเพราะแข็งโป๊กรออยู่แล้ว
พอไซร้ลงมาถึงสะดือจะต่ำลงมานิดเธอก็ต้องดึงหัวผมขึ้นไปจูบปากอีกจนผมคิดว่า
อย่างนี้ต้องรีบทำงานให้เสร็จซะแล้ว
ผมเลยจับตอปิโดบกเข้าจ่อที่ร่องของน้องอุ๊ซึ่งผมใช้มือตะปบลงมาเมื่อซัก
ครู่ปรากฏว่าทางน่าจะสะดวกเพราะมืเมือกเหนียวๆ
ติดมือผมขึ้นมาด้วย
ผมถอกตอปิโดหัวบานแดงโร่จ่อหมับเข้าปากช่องพอดี
ขณะที่น้องอุ๊ก็นอนตัวตรงบีบขาให้ชิดกันเหมือนคนยืนเคารพธงชาติผมพยายามใช้
ช่วงเข่าเข้าไปแยกให้ขาเธอถ่างออกเพื่อจะได้สะดวกแต่เธอไม่ยอมบอกไม่เอาๆ
ท่าเดียว
ขณะเดียวกันก็ไม่เห็นเธอจะปัดป้องหรือขัดขืนแต่อย่างใด
ผมก็เลยจำใจต้องใช้
แรงกายกดให้เจ้าหัวถอกของผมเข้าไปทั้งๆ
ที่เธอนอนขาชิดกันอยู่อย่างนั้น
มันเข้าค่อนข้างลำบากแต่อาศัยที่น้ำเมือก
เธอออกมาค่อนข้างมากหัวถอกจึงหลุดเข้าไปได้
ผมก็พยายามดันแป๊บเดียวหัวถอกขนาดใหญ่กว่าข้อมือน้องอุ๊ที่มีความยาว
8
นิ้วก็เข้าไปโลดแต่มันเข้าไปได้ไม่หมด
ก็มีเสียงดังกึกแล้วน้องอุ๊ก็ใช้มือ
ทั้งสองข้างดันตัวผมไว้
“เบาๆ
ก่อนนะพี่อ๊อด..อุ๊เจ็บค่ะ....มันเข้าลึกมากจัง....อูย...ยยย.....
ซีดส์ส์...”
เธอร้องออกมาทั้งเสียวและน่าจะเจ็บจริงๆ
เพราะบางครั้งสีหน้าเหยเก
ผมก็ซอยถี่ๆ
สลับเร็วและช้างัดขึ้นและซ้ายขวาบ้างในบางครั้งตามแต่ผมจะจินตนาการได้
ครั้นผมจะจับเข่าเธอให้งอขึ้นเพื่อจะให้แนบหน้าอกเธอเหมือนคนอื่นๆ
ที่ผมเคยทำมาเธอก็ไม่ยอมพยายามให้ผมทำท่านี้อยู่ท่าเดียวผมก็คิดว่าเอาไงก็
เอาแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาซอยพักใหญ่แต่เมื่อจรวดผมเข้าไปได้ในครั้งแรกพอตอน
ต่อมามันโล่งสบายเหลือเกินแค่เสียดสีผนังช่องคลอดเธอเล็กน้อย
อาจเป็นเพราะ
น้ำหล่อลื่นมากไปก็ได้ผู้หญิงอาจจะไม่เหมือนกันทุกคนแต่ผู้หญิงที่ผ่าน
มากว่าผมจะสำเร็จโทษหล่อนได้มันช่างเอาเข้าลำบากเมื่อเสร็จกิจเจ้าจ้อนของผม
ก็แสบไปหลายวันแต่กับของน้องอุ๊ผมสบายมากไม่แสบจรวดเลยเพียงแต่ลื่นมากไป
หน่อย
ด้วยความอัดอั้นเพราะไม่ได้ชักว่าวมาหลายวัน
วันนี้มาเจอของจริงจึงไมค่อย
ทนผมจึงรีบสปีดเสียสุดๆกะว่าจะปล่อยเข้าไปให้ท้องน้องอุ๊อุ่นไปเลยแต่เอา
เข้าจริงๆ
ไม่เป็นอย่างนั้นเหมือนเธอจะรู้ว่าผมกำลังจะออก
“พี่อ๊อดเอาออกข้างนอกนะ
....อย่าแตกในอุ๊ไม่ยอม”
เธอสั่งแกมบังคับแถมรีบผลักผมออกจากตัวเธอ
ผมเองไม่อยากให้เธอโกรธเลยต้องยอมเอาจรวดออกมาจากช่องสงวนของเธอแล้วสาวว่าว
ต่อน้ำก็พุ่งออกมาเหมือนเขื่อนแตกรดใส่ตัวเธอและผ้าปูที่นอนเป็นสายยาว
เฟื้อย
ผมนับเวลาตั้งแต่เริ่มเข้ามาใช้บริการม่านรูดแห่งนี้เมื่อเวลาประมาณสามทุ่ม
ขณะนี้ผ่านไปแค่สามสิบนาทีเองผมก็ได้น้องอุ๊ไปแล้วหนึ่งประตู
ยังเหลือเวลา
อีกตั้งชั่วโมงครึ่งกว่าจะหมดตามที่เขากำหนดให้ใช้ชั่วคราวครั้งละไม่เกิน
สองชั่วโมง
ผมจึงคิดว่าเวลาที่เหลือคงเกินพอสำหรับอีกหนึ่งประตูเพราะบอก
จริงๆ
ผมยังไม่หายอยากเลยอีกอย่างผมอยากรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับน้องอุ๊ให้
มากกว่านี้
จึงรีบเข้าห้องน้ำทำความสะอาดร่างกายตรงส่วนนั้นอย่างรีบเร่งส่วนตัวน้องอุ๊
เองก็ขอเข้าห้องน้ำไปก่อนแล้วขณะนี้กำลังกลับมานอนใต้ผ้าห่มในชุดวันเกิดและ
ทำท่าจะหลับเอาจริงๆ
ผมกลับมาที่เตียงโดยครั้งนี้ไม่ได้ปิดไฟในห้องที่เรานอนจึงทำให้แสงนีออน
ตะเกียบหลอดยาวสองหลอดเปลือยสว่างจ้าไปทั่วห้องโดยน้องอุ๊ก็ไม่ได้สนใจเท่า
ไหร่นักคงเป็นเพราะความเหนื่อยและอ่อนเพลียมาตลอดทั้งวันนั้นเอง
ผมรีบแทรก
ตัวเข้าใต้ผ้าห่มเอามือไปกอดทีแรกน้องตกใจทำท่าบ่ายเบี่ยงแต่คงนึกขึ้นได้
ว่าเป็นผมจึงปล่อยตามใจผมแต่เธอคงง่วงนอนอยู่เหมือนเดิมโดยผมกระซิบเธอว่าขอ
อีกครั้งนะ เธอพยักหน้าแต่บอกว่าขอให้เร็วๆ
นะจะได้รีบกลับบ้านไปนอนเพราะว่าง่วงมากแล้วผมจึงโอเคทันที
เริ่มต้นด้วยการเล้าโลมเบสิคเหมือนทั่วๆ
ไป
จนมาถึงจูบปากและแลกลิ้นกันคราวนี้แปลกที่เธอสนองตอบอย่างเร่าร้อนมากกว่า
เก่าบางครั้งเธอเปลี่ยนมาอยู่ข้างบนผมจึงเป็นอันว่าผ้าห่มที่คลุมสองเราอยู่
เมื่อซักครู่หลุดหายไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
ต่อมาผมก็ได้อยู่บนเธออีก
ครั้งดูดนมเธอสลับกันทั้งสองข้างจนเธอสยิวกอดผมเสียแน่นชนิดไม่ยอมปล่อยจนผม
ลากหน้าผ่านหน้าท้องเธอมาถึงเนินสวรรค์นั่นแหละเธอถึงได้ปล่อยให้ผมทำได้
เต็มที่
“อูย..ยยย....ซี๊ดสสส.....เสียวจังเลยค่ะ.....แรงๆ...เลยนะคะ....อย่าหยุดนะ
คะ...ยังงั้นแหละค่ะ...อูย...อาวว.”
เธอพูดเหมือนคนเพ้อเจ้อ
“ได้จะน้องอุ๊จ๋า...พี่อ๊อดจะทำให้เธอเสียวกว่านี้นะจ๊ะ”
ว่าแล้วผมก็เอาหน้าทั้งปากจมูกมาจ่อตรงเนินสวรรค์ของเธอ
ขณะที่ผมกำลังใช้สองมือแหวกขาน้องอุ๊ให้ถ่างออกคราวนี้ดูเหมือนเธอไม่ได้
สนใจจะหนีบขาให้ชิดกันเหมือนกับครั้งก่อนเลยกลับเอามือมาจิกที่ศีรษะของผม
แล้วขยี้จนผมบนหัวของผมยุ่งไปหมด
อา...เธอกำลังเงี่ยนเต็มที่แล้วผม
สันนิษฐาน
ก่อนผมจะลงลิ้นก็สังเกตเห็นว่าเนินสวรรค์ของน้องอุ๊ช่างใหญ่โตเสียเหลือ
เกินมีหญ้าสีดำปกคลุมตั้งแต่หัวเหน่าเลยลงไปถึงก้นแม้ว่าเธอจะตกแต่งไว้ไม่
ให้หนาทึบเกินไปก็ตามแต่ก็ดูออกว่าขนของเธอช่างดกเสียจริงๆ
ผมแลบลิ้นเข้า
ไปในร่องเสียวซึ่งขณะนี้เยิ้มไปด้วยน้ำเมือกเหนียวๆ
ใช้มือสองข้างแหวกแคมให้กว้างออกเพราะรู้สึกว่าขณะลากลิ้นผ่านสองแคมนั้น
เหมือนลิ้นจะไปถูกแคมสองข้างเป็นเนื้อแข็งๆ
ด้านๆผมเชิดหน้าขึ้นมาในบางครั้งเพื่อเช็ดน้ำเมือกที่เปื้อนทั้งปากจมูกออก
เสียบ้างในบางคร้งก็พบว่าส่วนที่เป็นไตแข็งๆ
สากลิ้นผมเมื่อครู่คือแคมนอกของน้องอุ๊นี่เองมันเป็นปีกสีดำยื่นออกมาข้างละ
ประมาณ 1
เซน.ยาวตั้งแต่ด้านบนสุดจนถึงด้านล่างประมาณ
2 นิ้ว
โดยขณะที่ผมกำลังลากลิ้นขึ้นลงระหว่างสองแคมอยู่นั้นความกว้างของรูดูเหมือน
จะขยายตัวเพิ่มขึ้น
จากแสงไฟที่สว่างจ้าผมเห็นด้วยตาว่าตรงส่วนนั้นของน้อง
อุ๊กว้างและบานมากผิดกับของผู้หญิงที่ผมเคยผ่านมาหรือแม้แต่ของผู้หญิงอย่าง
ว่าที่ผมเคยเที่ยวก็ไม่กว้างและบานขนาดนี้หรือจะเป็นเพราะสรีระทางร่างกาย
ของแต่ละคนก็ไม่รู้
“พี่อ๊อดอย่าลากลิ้นผ่านอย่างนั้นสิ
เดี๋ยวของอุ๊ก็บานหมดกันพอดี”
เธอขอร้องแกมบังคับ
“อูย....เสียวมากเลยนะคะ....พี่รีบทำให้อุ๊สิ.....ว้าย....ยังไม่ได้ปิดไฟ
หรือนี่ ไม่เอาๆ
อุ๊อาย....ปิดไฟก่อนสิพี่”
เธอเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าขณะกำลังบรรเลงกันอยู่นั้นไฟยังสว่างจ้าอยู่เลย
“ปิดทำไมล่ะ
ไม่เห็นต้องอายกันเลย
เห็นกันหมดแล้วนี่”
ผมรีบสรุปซึ่งเธอก็ยินยอม
“งั้นพี่อ๊อดรีบๆ
เข้าสิ จะได้เสร็จเสียที
มันดึกแล้วนะพี่” เธอคะยั้นคะยอผมอีก
ผมนั้นกำลังเพลินอยู่กับโคกที่โหนกนูนและใหญ่โตมโหฬารนั้น
จึงใช้ลิ้นห่อเรียวแหย่ลงไปในรูลึกสุดๆ
น้องอุ๊ก็เสียวสุดๆ
จนต้องบิดกายตัวเกร็ง
จนในที่สุดผมก็มาหยุดตรงเม็ดเสียวที่อยู่บนแคมซึ่งขณะนี้เม็ดเบ้อเร่อเลยและ
ดูเหมือนว่าน้องอุ๊จะมีเม็ดเสียวที่โผล่อยู่ข้างนอกด้วยนะก็เม็ดใหญ่
ออกอย่างนั้นซึ่งมันสั่นระริกได้ด้วยเวลาผมดูดเข้าไปในปากและใช้ปลายลิ้น
เขี่ยเล่น
“โอย...อย่าเล่นมากเลยพี่.....อุ๊เสียวจะแย่อยู่แล้วเดี๋ยวเวลาหมดเสียก่อน
นะ...รีบๆ
เข้าเถอะ..ซี๊ด..สสส.”
เมื่อคิดว่าคงจะได้เวลาพอสมควรแล้วผมรีบจับขาอ่อนของเธอทั้งสองข้างพับขึ้น
ไปที่หน้าอกแล้วสอดจรวดเข้าไปใต้ขานั้นทันทีเรียกว่าดันทีเดียวสุดแรงซึ่งก็
ไม่ผิดหวังแม้ว่าจรวดผมใหญ่ไม่อายใครแล้วแต่ก็ต้องยอมแพ้แก่รูของน้องอุ๊
เพราะว่าผมดันทีเดียวสุดลำเลยคราวนี้มันเข้าไปหมดเลยนะครับแต่เสียงดังกึกๆ
คราวนี้ก็ดังสะเทือนเหมือนกัน
ผมสงสัยเหมือนกันว่ามันเข้าไปอยู่ตรงใหนก็ใน
เมื่อน้องอุ๊แม้จะสะโพกใหญ่แต่ก็บอบบางระหงอย่างนั้นรู้แต่ว่าน้องอุ๊ขนลุก
ซู่และน้ำตาร่วงเผาะ
“ไอบ้า...กูเจ็บนะ...บอกว่าไม่เอาท่านี้และอย่าทำแรง....โอย.ๆๆ...
ฮือๆๆๆ...”
เสียงน้องอุ๊คำราม
ด้วยความตกใจผมทำอะไรไม่ถูกกำลังมีอารมณ์อยู่ดีๆ
ไม่นึกว่าน้องเค้าจะโกรธ
คงจะเจ็บจริงๆ เห็นสีหน้าบ่งบอกความเจ็บปวด
ผมตัดสินใจแช่จรวดไว้อย่างนั้น
และดูดเหมือนเมื่อเวลาผ่านไปความเจ็บปวดได้ทุเลาลงน้องเค้าพูดออกมา
“ต้องขอโทษด้วยนะพี่อ๊อด....ขอโทษ....เมื่อซักครู่น้องเจ็บมากจริงๆ....หัว
จรวดพี่มันไปชนผนังมดลูกของอุ๊ซึ่งเข้าใจว่ามันอักเสบอยู่ก่อนแล้วจึงลืมตัว
น่ะพี่....ขอโทษอีกที”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ..พี่เข้าใจ...”
ผมพูดไปอย่างนั้นทั้งๆ
ที่ยังงงๆ อยู่กับเหตุการณ์เมื่อครู่
เหลือบไปมองนาฬิกาเหลือเวลาไม่ถึงชั่วโมงก็จะถึงกำหนด
ผมคิดว่าใหนๆ ก็มาแล้วเสียตังค์ก็แล้ว
โดนด่าก็แล้วอย่าให้เสียไปฟรีๆ
จึงเริ่มซอยต่อในท่าเบสิคแล้วก็พลิกกายให้
น้องอุ๊อยู่ในท่าคลานแล้วผมก็เสียบข้างหลังคราวนี้มันเข้าทั้งลึกหมดลำโดย
น้องอุ๊ไม่บ่นซักคำพร้อมทั้งดูเหมือนว่าจะถูกใจเธอเสียด้วยซ้ำ
“อย่างนั้นเลยพี่....แรงๆอีกก็ได้...อุ๊ชอบ....โอย.ยยย....เสียว.วววว...อู
ย...ยยย
ซี๊ด.ส.ส.....อืมมมม”
เธอครวญครางไม่เป็นภาษาคนแต่รู้ว่าเธอกำลังสุดๆ
เหมือนกันสังเกตจากเธอใช้ส่วนสะโพกโยกเข้าหาท่อนจรวดผมตลอดและสองมือก็ขยำ
ผ้าปูที่นอนเสียจนยับยู่ยี่
“อุ๊จ๋า......พี่เสียว....จังเลย....อูว...วววว....ซี๊ดสสสส....”
ผมระบาย ออกมาบ้าง
“พี่อย่าแตกในนะ...ถ้าจะออก....ออกข้างนอก”
เธอสั่งอีก
ผมนั้นหลังจากที่แตกมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อชั่วโมงก่อนจึงค่อนข้างอึดในครั้ง
หลัง แม้ว่าขณะนี้ท่อนจรวดจะพองตัวเต็มที่พร้อมที่จะพ่นพิษก็ตาม
ใจหนึ่งก็อยากลองให้น้องอุ๊ดูดให้บ้างแต่ก็เสี่ยงนะไม่รู้จะโดนด่าอีกหรือ
เปล่าจึงถอดเอาจรวดออกจากเนินสวรรค์ของน้องเค้าแล้วจับไปจ่อเข้าที่ปากของ
น้องอุ๊
ผิดคาดครับน้องอุ๊เค้าคว้าหมับเข้าที่ส่วนลำของมันแล้วจัดการโลม
เลียตรงส่วนปลายจากนั้นจึงอมเข้าไปแค่ส่วนหัวแล้วทำเสียงอู้อี้ๆ
“อุ๊ชอบค่ะท่อนใหญ่ๆ
อย่างนี้ดูดโคตรมันเลยล่ะ....สวรรค์ของน้องแท้ๆ
ที่ได้ใหญ่ๆ อย่างนี้...อืมมม...อูวววว”
เธอบ่นไปพลางดูดไปพลาง
ซักครู่พอผมหลับตาปี๋
เพราะมันสุดเสียวจริงๆ
ปรากฎว่าจรวดขนาดแปดนิ้วของผมรู้สึกว่าตรงส่วนหัว
ผ่านช่องที่แคบมากๆ
แล้วขนตรงส่วนโคนกระทบใบหน้าน้องเค้าผมเลยลืมตาขึ้นมา
มอง แทบไม่น่าเชื่อว่าเธอจะดูดของผมจนหายเข้าไปหมดในปากบางๆ
เช่นนั้น
ผมกลัวน้องเค้าหายใจไม่ออกเพราะดูสีหน้าดูตาแล้วเหลือกพอสมควร
แต่เค้าก็ ส่ายหน้าขณะที่ผมกำลังจะชักออกจากปากเธอ
เมื่อถึงเวลาที่เค้าจะหายใจก็คาย
มันออกมาทั้งหมด
แล้วเค้าก็ดูดเข้าไปใหม่เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้งจนในที่สุดเส้นขนทั้งตัว
ของผมก็ชูชันจำใจต้องปล่อยน้ำทั้งหมดที่มีในท่อจรวดเข้าปากเธอไปจะเอามาออก
ข้างนอกก็ไม่ทันแล้วแม้จะโดนด่าก็ยอม
แต่ก็ผิดคาดอีกนั่นแหละนอกจากไม่โดนด่าแล้วเธอยังกลืนน้ำของผมลงไปจนหมดและ
ยังมาเลียตรงส่วนหัวหยักของผมจนสะอาดอีกต่างหาก
“อุ๊ยอดมั๊ยพี่..
พี่ชอบแบบนี้มั๊ย....ท่อนใหญ่ดูดโคตรมันส์เลยพี่....เป็นบุญจริงๆ....
โอย..สบาย”แล้วหล่อนก็ดูเหมือนได้ปลดปล่อยออกมาจริงๆ
เสร็จเกมส์หลังเล่นเอาผมเดินตัวปลิวแบบหมดแรงจริงๆ
นี่ถ้าเช่าเป็นคืนหากล่ออีกสองสามดอกผมคงคางเหลืองแน่ๆ
ว่าแล้วเมื่อต่างคน
ต่างจัดแจงแต่งตัวเสร็จก็รีบเช็คเอาท์
เอากุญแจไปคืนโดยตอนเอากุญแจไปคืนน้องอุ๊เป็นฝ่ายไปคืนเองกับพนักงานและพูด
คุยกับคนรับกุญแจอยู่พักนึงพร้อมทั้งหัวเราะและยิ้มให้กันเหมือนเคยรู้จัก
กัน ผมรีบไปส่งน้องอุ๊ที่หน้าบ้านห้าทุ่มกว่าๆ
ขณะนั้นคนที่บ้านคงนอนกันหมด
แล้วแต่น้องอุ๊มีกุญแจผมรอให้น้องเค้าเข้าบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงกลับ
บ้านผมต่อไป
หลังจากคืนนั้นแล้วผมก็เทียวไล้เทียวขื่อกับน้องอุ๊อยู่เป็นประจำจนพ่อแม่
ญาติพี่น้องของน้องอุ๊เป็นอันรับรู้ว่าเราเป็นแฟนกัน
โดยปลายปี 52
ผมก็ได้เข้าบ้านน้องอุ๊อย่างเป็นเรื่องเป็นราวทุกคนก็ดีกับผมนะพร้อมทั้งพูด
เปรยๆ ว่าทั้งสองคนก็อายุมากแล้วคงไม่ดูใจกันนานเกินไป
ความหมายก็คือเมื่อ
ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้แล้วก็ควรจะเข้าตามประตูออกตามประตูกล่าวคือต้องมา
สู่ขอตามประเพณี
ผมเลยคิดว่าคราวนี้คงได้เมียแล้วจริงๆ
จนเมื่อปลายเดือนเมษายน
53 ผมทนรบเร้าจากน้องอุ๊ไม่ไหว
บอกว่าผู้ใหญ่กำหนดวันไว้แล้วให้มาสู่ขอทุกท่านก็รู้ว่าการไปสู่ขอเมียนั้น
มันต้องพร้อมพอสมควรไม่ว่าจะรวยจะจนแต่ที่แน่ๆ
ต้องใช้เงิน
ผมก็เช่นกันถูกเรียกสินสอดเป็นหลักแสน
ภายภาคหน้าจะว่ากันอย่างไรนั้นอีกเรื่องหนึ่งแต่เบื้องต้นต้องจัดการให้
เรียบร้อยอย่างน้อยก็เป็นการรักษาหน้าตาฝ่ายผู้หญิงที่เลี้ยงลูกส่งเสียให้
เรียนจนจบปริญญา อะไรประมาณนั้น
ผมก็จัดการให้ทุกอย่างถูกต้องตามประเพณี
ทุกคนก็แฮปปี้ โดยกำหนดแต่งงานกันปลายปี
53 นี้
ซึ่งกว่าที่งานช้างชิ้นนี้จะลุล่วงไปได้ผมคงอานพอสมควรแต่ทำไงได้มาถึงขั้น
นี้แล้วเอาไงเอากัน
ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีจนผมไม่ต้องเขียนเรื่องราวให้ท่านได้อ่านอยู่อย่าง
นี้หากไม่มีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้นเมื่อหลังจากพิธีการสู่ขอของผมผ่านพ้นไป
สองวันเอง เ รื่องมันมีอยู่ว่า
น้องที่ทำงานบางคนที่สนิทและไว้ใจกันได้มาบอกว่าในฐานะ
ที่สนิทกันหากไม่บอกโดยปล่อยให้รู้ทีหลังอาจจะสายเกินไปก็ได้
ผมก็ถามว่า เรื่องอะไรหรือจึงต้องรีบร้อนเช่นนั้น
น้องที่ทำงานบอกว่าเป็นเรื่อง
ระหว่างพี่และแฟนพี่ซึ่งสำคัญมากแล้วเค้าถามผมว่าแฟนพี่ชื่ออุ๊ที่ทำงาน
เทศบาล......ใช่หรือเปล่า
ผมบอกว่าใช่พร้อมทั้งเร่งเค้าให้รีบบอกมาเร็วๆ
ว่าเป็นเรื่องอะไร
เค้าก็จับให้ผมนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ทำงานที่เขารับ
ผิดชอบอยู่ตอนเลิกงานแล้ว
แล้วเปิดเว็ปไซด์ต่างๆ
ที่เกี่ยวกับเรื่องทำนองเสียวๆ
หรือเรืองอย่างว่า
ปรากฏว่ามีการโพสต์เรื่องราวของแฟนพี่ไว้มากมาย
ซึ่งทีแรกผมก็ไม่ค่อยเชื่อเพราะคนมันอาจจะแกล้งหรือแต่งเรื่องราวขึ้นมาก็
ได้
แต่ก็พยายามนั่งอ่านอยู่ชั่วโมงกว่าเรื่องราวที่ประติดประต่อกันมัน
ปฏิเสธไม่ออก
จากนั้นผมก็ให้พรรคพวกไปสืบสาวเรื่องราวแล้วเพื่อนในตัวอำเภอ
ก็หัวเราะกันยกใหญ่ว่า
มึงไปอยู่ที่ใหนมา โผล่ๆ
มาจะแต่งงานเลยไม่เคยคบเพื่อนฝูงอย่างน้อยถามเขาซักคำก็ยังดี
ผมยอมรับว่า มัวแต่ทำงานจึงละเลยส่วนนี้ไป
หลายคนจึงเล่าความจริงให้ฟังซึ่งมันก็เป็น
เรื่องเดียวกันกับที่โพสต์ในเวปไซต์นั่นแหละ
มิน่ามีอยู่ครั้งตอนที่ผมไป
รับเธอที่ทำงานโดยไม่ได้บอกล่วงหน้าเธอถึงกับหน้าถอดสี
และกำชับผมว่าต่อไป
ไม่ต้องไปอีกหากจำเป็นต้องธุระให้โทร.มาก่อนจะออกไปพบเอง
วันเดียววันนั้น ที่ผมไปรับเธอ
คนที่ทำงานที่เดียวกับเธอถามว่ามารอใครผมก็บอกไปตามความจริงเค้าก็ยิ้มให้ผม
และหันไปยิ้มและหัวเราะกัน
ต่อมาผมก็ถามน้องอุ๊ว่าเค้าหัวเราะกันทำไมผมทำ
อะไรเปิ่นๆ หรือ
นี่จึงเป็นที่มาของการไม่ให้ผมไปที่ทำงานเธอ
นอกจากนี้ดังที่ได้เล่าคุณผู้อ่านแล้วว่า
เธอจะให้ผมแค่คืนนั้นคืนเดียวและจะไม่ให้อีกจนกว่าจะได้แต่งงานกัน
มาประติดประต่อเข้ากับการที่เธออายไม่ให้เปิดไฟในคืนนั้นแต่เธอก็พลาดจนได้
เมื่อเสียวจนลืมตัวแล้วผมสันนิษฐานเอาว่าเธอคงผ่านมาไม่น้อยเพราะสรีระโดย
เฉพาะตรงส่วนนั้นมันเกินวัยของผู้หญิงธรรมดาๆ
ไปมาก ความจริงสมัยนี้คนอื่นหรือคนทั่วๆ
ไปเขาคงหัวเราะกันหากเอาเรื่องแบบนี้มาคิดในการที่จะแต่งงานกับใครซักคนแต่
บ้านผมยังค่อนข้างโบราณและรับไม่ได้
และจะรับไม่ได้ยิ่งขึ้นไปอีกหากรู้ว่า
เป็นผู้หญิง “อย่างว่า”
ผมเป็นทุกข์จริงๆ
ครับจะจัดการกับชีวิตต่อไปอย่างไรดี
ในใจผมก่อนที่จะรับรู้เรื่องเหล่านี้คิดว่าจะเริ่มต้นชีวิตคู่เสียทีก็มีวัน
หนึ่งญาติห่างๆ
ที่บ้านบอกจะแนะนำคนรู้จักให้
แล้วต่อมาก็ได้รู้จักกับน้องอุ๊
ทีแรกผมก็รู้สึกเฉยๆ
เพราะอย่างว่าแหละน้องเขาไม่สวยแถมตัวดำอีกต่างหาก
แต่พอคบไปเค้าก็เก่ง
หลายเรื่องมีความเป็นผู้ใหญ่มาก
โดยเฉพาะเรื่องการเข้ากับผู้ใหญ่
การบ้านการเรือนนับว่าผ่านหากให้
คะแนน ที่สำคัญมีงานทำเป็นหลักแหล่ง
แต่ทุกอย่างมลายไปในพริบตา
อย่างน้อยก็มีความรู้สึกไม่ดีเอามากๆ
ทำอย่างไรดีครับถ้าผมเลิกเงินเป็นแสนที่อุตส่าห์เก็บสะสมมาก็หายไปในพริบตา
เหมือนกัน
แต่หากดันทุรังฝืนความรู้สึกไปก็คิดว่าน่าจะไม่รอด
ต้องเลิกอยู่ดี ไม่รู้จะปรึกษาใคร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น