วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

หอมกลิ่นโลกีย์ ตอนที่ 19




          อาแปะยังตักตวงความสุขกับแดงต่อไป ลูกหนี้คนนี้เนื้อหนังมังสาแน่นหนั่น นูนเนื้อแน่นกระชับใช้การได้ยอดเยี่ยม เสร็จไปแล้วก็เล่นครั้งใหม่ได้ไม่ยาก อารมณ์พรักพร้อมอยู่แล้ว อาแปะกระทั้นหนักหน่วง ชวนหล่อนเล่นท่าแปลกใหม่ ทีแรกหล่อนก็ไม่ค่อยยินยอม แต่ตอนหลังก็ตกลง
          ผู้หญิงส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนี้ แม้อยากลองมากเพียงใด แต่ความเป็นผู้หญิงก็ทําให้มีความรู้สึกเอียงอายติดตัว การเล่นท่าโลดโผน อาจทําให้ผู้ชายคิดว่าหล่อนเซ็กซ์จัดเอาได้ ผู้หญิงไม่อยากให้ผู้ชายตราหน้าว่าเป็นคนตัณหาจัด หรือ บ้าตัณหาหรอก จึงต้องขวยเขินเป็นธรรมดา
          แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็ราบรื่น แดงกระซ่านร่านร้อน สนองตอบโดยไม่มีเอียงอายอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นท่ายกขาหรือโก่งบั้นท้าย ให้อาแปะกระทั้นกระทุ้งทางเบื้องหลัง
          หล่อนบอกกับอาแปะว่าผัวไม่เคยทํายังงี้เลย กี่หนกี่ทีก็ท่าเดิม นอนหงายนอนคว่ำ ...ทิ่มตําแป๊บหนึ่งก็จอดป้ายนอนแผ่ส่งเสียงกรนครอกๆ ถ้าเป็นยังงั้นอาแปะก็คิดว่าน่าสงสาร นอกจากขี้เมาแล้วยังไม่อึด ยังงี้แย่หน่อย
          อาแปะจึงมอบความสุขให้หล่อนอย่างเต็มที่ ไม่มีออมฝีมือเลย กลั้นเอาไว้นานที่สุด โหมบั้นเอวกระหน่ำลําเนื้อเสือกใส่ต่อเนื่อง ไม่มีอ้อยอิ่ง จะมีบ้างก็ตอนชวนหล่อนเปลี่ยนท่วงท่าใหม่เท่านั้น
          แดงก็ชอบ ไม่ว่าอาแปะเสนอท่าไหนแดงก็โอเค รีบปฏิบัติตาม ไม่เหมือนตอนแรกที่อิดเอื้อนเพราะเอียงอาย

          ตอนนี้ความอายหายไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียงความอยากอย่างเดียว อาแปะชวนคว่ำก็คว่ำ ชวนหงายก็หงาย ชวนยืนโจ้กันก็ยังตกลงโดยดี ยืนก้มตัวโก้งโค้งที่ขอบเตียงหันบั้นท้ายให้อาแปะโซ้ยสวาททางด้านหลัง นมแกว่งไปแกว่งมาหล่อนส่งเสียงร้องบอกอาแปะว่ามันส์ถึงใจที่สุดเลย
          หล่อนอยากให้อาแปะทําอีกสองสามที อาแปะสะดุ้งนึกไม่ถึงว่าลูกหนี้คนนี้จะมีไฟร้อนแรง ดูเผินๆแล้วนึกว่าไม่เท่าไหร่ แต่ที่ไหนได้ เจอรสสวาทของเขาเข้าไปก็จะให้เล่นอีกสองสามที
          “พูดเล่นใช่ไหมจ๊ะ”
          “ไม่ ไม่พูดเล่นหรอกแปะ จริงๆนะ  ซี้ด... รับรองว่าเป็นความจริง อยากจัง อยากให้อาแปะเล่นให้กลีบหุบไม่ลงไปเลย”
          อาแปะเบิกตาโพลง นึกไม่ถึงว่าแดงจะพูด แต่แดงก็พูดไปแล้ว อย่างชัดถ้อยชัดคําเสียด้วย และหล่อนก็อยากให้เป็นไปอย่างที่พูดเสียด้วย จะได้มันส์ลืมโลกไปเลย ให้ผัวถามยิ่งดีใหญ่ว่าไปทําอะไรมา กลีบจึงเปิดโร่อย่างนั้น !
          อาแปะตอบว่า “ตกลง ได้เลยจ้ะ จะพยายาม”
          อาแปะใส่ไม่ยั้ง จับหล่อนเปลี่ยนท่า ข้างหน้าเล่นนานแล้ว ก็จะเปลี่ยนมาเป็นข้างหลังบ้าง ข้างหลังนานแล้ว ก็จะเปลี่ยนเป็นข้างหน้า และมีนอนตะแคงสลับไปบ้าง ยกขาพาดบ่าอีกด้วย แม้แต่พาดขอบเตียงอาแปะก็ชวนแดงทํากัน
          แดงก็ชอบนัก อยู่กับผัวไม่เป็นยังงี้ ไม่เห็นเขาชวนทํากันบ้าง หรือเขาไม่รู้โง่สิ้นดี สู้อาแปะไม่ได้ เล่นก็เก่ง อึดก็อึด แถมมีท่วงท่าที่แสนประทับใจ ไม่ว่าทางหน้าหรือทางหลัง ก็ทําได้เด็ดสะระตี่ทั้งสิ้น

          อาแปะพาเข้าไปในห้องน้ำ นึกว่าจะแค่ชําระล้าง แต่ไม่ยังงั้น อาแปะดันมีพลังขึ้นมา ก็เลยจับหล่อนก้มตัวลงไป ...เอามือเท้าขอบอ่าง แล้วหันบั้นท้ายให้อาแปะ หลังจากนั้นหล่อนเหลียวไปดู ก็เห็นอาแปะประคับประคองเครื่องทําเสียวของตัวเอง ขยับเข้ามาหาบั้นท้ายของหล่อน แป๊บเดียวเท่านั้นก็รู้สึกว่าหัวแดงบานเหมือนดอกเห็ดของมันจ่อที่ปากประตูสวรรค์ ความรู้สึกต่อมา อู๊ยยย...มันส์พะย่ะค่ะ ทําไมถึงใจ พระเดชพระคุณเช่นนั้น
          สิ่งที่มันน่ากลัวได้ล่วงล้ำถลำลึกเข้ามาอยู่ที่ข้างในจนหมดสิ้น ลองนึกดูเถอะว่าหล่อนจะเป็นยังไง ทั้งหมดนั่นคือความเสียวซ่านมันส์สะเด่าไปทั้งช่องเนื้อสวาท ร้องไม่เป็นภาษาอยู่ในห้องน้ำ
          อาแปะไม่ได้เพียงแต่สอดใส่เข้าไปไว้นิ่งๆ เฉยๆ เขายังเริ่มเคลื่อนขยับมันอีกด้วย ก็จึงส่งผลให้หล่อนแทบขาดใจตายเพราะความเสียวสุขที่ได้รับ
          แม้ว่าจะร้องไม่เป็นภาษาคนแล้วแต่ก็ร้อง และเจ้าบั้นท้ายแทนที่มันจะอยู่นิ่งๆได้ มันก็อยู่ไม่ได้เสียแล้ว ดันส่ายไปส่ายมาร่อนรับลําเนื้อของเขา ที่เฝ้าแต่กระแทกกระทั้น ครั้งแล้วครั้งเล่า
          อาแปะมอบความสุขให้แก่ลูกหนี้สาวของเขาอย่างถึงพริกถึงขิง และหล่อนก็ขอให้เขาทําอีกถึงสองครั้ง หล่อนจึงบอกเขาว่าพอแล้ว
          ...หลังจากนั้นอาแปะก็พาหล่อนกลับหมู่บ้าน หล่อนให้ส่งแค่หน้าหมู่บ้าน จะกลับเข้าไปข้างในหมู่บ้านเอง เนื่องจากไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าหล่อนไปไหนมากับอาแปะ เพราะคนที่ไปกับอาแปะ ก็มักจะไปโรงแรมคิดดอกเบี้ยกัน หล่อนยังไม่อยากให้คนเขาลือ

          อาแปะกลับถึงบ้าน ก็นึกถึงเรื่องที่หนึ่งมาเล่าให้ฟังว่าอนงค์มีผู้ชายคนใหม่ขึ้นมาได้ แต่เขาก็ไม่อยากจะไปบ้านหล่อนในตอนนี้ เอาไว้ค่อยว่ากัน อยากเห็นกับตาก่อนแล้วค่อยพูดคุย หรืออาจจะไม่ต้องพูดคุยก็ได้ อย่างไรก็ตามก็ต้องรอดูก่อนว่าทําอย่างไรจึงจะเหมาะสม เพราะพูดไปแล้วเขาเองก็ไม่ได้มีสิทธิ์อะไรในตัวหล่อนมากนัก เป็นเพียงคู่ขาที่หาความสนุกใส่ตัวร่วมกันเท่านั้น
          อาแปะคิดว่าค้นหาความจริงก่อน วันรุ่งขึ้นในตอนเย็น กะเวลาว่าอนงค์เลิกงาน เขาก็ขับรถไปดักดูว่าอนงค์จะไปกับใคร หรือใครมารับอนงค์ เขาเห็นหล่อนออกมายืนที่ป้ายรถเมล์ เขารู้สึกตกใจที่เห็นรถยนต์คันนั้น และเห็นคนที่นั่งอยู่ในรถ ซึ่งเปิดประตูลงมา เดินไปหาอนงค์ที่มัวแต่มองอะไรเพลินอยู่
          นั่นมันไอ้หนุ่มตั้ม แฟนของหนึ่ง เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า คอยดูต่อไป
          เขาพาอนงค์ขึ้นรถ แล้วขับออกไป อาแปะขับตามก็พบว่ารถคันนั้นเลี้ยวเข้าโรงแรมเอาดื้อๆเลย ตะวันยังไม่ทันตกดิน ก็พากันเข้าโรงแรมไปแล้ว
          อาแปะขับรถเลยมา เขาคิดไม่ออกว่าเรื่องนี้มันเป็นอย่างไร นั่นแฟนของหนึ่งแล้วพาว่าที่แม่ยายไปนอนในโรงแรม

          อาแปะกลับหมู่บ้าน แวะไปหาหนึ่งที่บ้าน แต่หนึ่งยังกลับไม่ถึงบ้าน จึงกดกริ่งแต่ไม่มีใครมาเปิด สงสัยว่าทั้งหนึ่งและนุชยังไม่กลับมาทั้งคู่เลย อาแปะจึงกลับบ้านก่อน แล้วใช้โทรศัพท์ติดต่อไปที่บ้านทาวน์เฮ้าส์หลังนั้นเป็นระยะ จนมีคนมารับสาย หนึ่งนั่นเอง
          อาแปะบอกว่าเขาเห็นอะไรมาบ้าง ...หนึ่งก็ไม่ได้แสดงความแปลกใจอะไรเลย อาแปะรู้ทันทีว่า หนึ่งรู้แล้วว่าแม่กับแฟนของตัวทําอะไรลงไป
          “แปะไม่นึกเลยนะหนู ว่ามันจะเป็นยังงี้ไปได้ แปะไม่เข้าใจจริงๆ”
          “หนึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันแหละจ้ะ”
          น้ำเสียงของหญิงสาวบ่งบอกความเสียใจอย่างสั่นเครือ อาแปะเข้าใจความรู้สึกของหนึ่งได้ดี และเขาบอกตัวเองว่า ดีแล้ว...ทุกอย่างจะได้เป็นไปอย่างที่เขาปรารถนา เขามีโอกาสแล้ว หลังจากคิดว่าจะหาโอกาสนี้ได้อย่างไร
          ความแตกแยกกันนี้แหละ จะมีผลเพียงพอที่เขาจะแทรกเข้าไปตรงกลาง แล้วจัดการกับหนึ่งเสีย อย่างที่เขาคิดเอาไว้แต่แรก

          “หนึ่งต้องใจเย็นๆนะจ๊ะ บางทีอาจเข้าใจผิดก็ได้”
          “ไม่ผิดหรอกค่ะแปะ ไม่ผิดหรอก หนึ่งมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ หนึ่งเคยเห็นมาแล้ว เห็นเขาพาแม่เข้าโรงแรม เห็นเขาพาแม่มาส่งที่หน้าบ้าน ไม่มีอะไรที่เรียกว่าเข้าใจผิดอีกแล้วล่ะค่ะ”
          “เอาไว้แปะจะสอบถามแม่ของหนูเองนะ”
          “ไม่ต้องหรอกค่ะ อย่าถามแม่ดีกว่า ถามทําไม ในเมื่อก็รู้ก็เห็นอยู่แล้ว ถามไปแม่ก็ไม่ยอมรับ ทางที่ดีไม่ต้องให้แม่รู้ก็ได้ว่าแปะรู้แล้ว”
          อาแปะนิ่งครู่หนึ่ง แล้วพยายามปลอบโยนหนึ่งอย่างนุ่มนวล เตือนสติให้คิดนึกแต่สิ่งที่จะไม่บั่นทอนความรู้สึก หนึ่งรับปากว่าจะไม่คิดมากในเรื่องนี้ หล่อนจะเชื่ออาแปะ
          อาแปะยิ้ม เขากระหยิ่ม ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับอนงค์อีกแล้ว ปล่อยหล่อนไป จะไปเสพสุขกับใครก็ช่างเถอะ

          อาแปะมักจะดักพบหนึ่ง แต่ทําทีเป็นบังเอิญอยู่เสมอ บางทีไปดักรอหน้าที่ทํางาน แกล้งบอกหล่อนว่าไปทําธุระ แวะรับหล่อนพากลับบ้าน หลายหนเข้าก็ชวนแวะทานอาหาร ทีแรกหนึ่งก็ปฏิเสธ แต่หนักเข้าก็ใจอ่อน ยอมเข้าร้านอาหารกับอาแปะ
          ...หนึ่งมีความไว้วางใจในตัวอาแปะเพิ่มมากขึ้น และนึกเกลียดชังตั้มมาเป็นทวีคูณขึ้นด้วย อยากจะประชดตั้มให้สุดๆ ไปเลย ความรู้สึกนี้กรุ่นอยู่ภายในตลอดเวลา ในที่ทํางานเขาชวนพูดคุยด้วยหนึ่งก็ทําเป็นตีสีหน้าไม่โกรธขึง ...อยากรู้เหมือนกันว่าเขากับแม่จะเตลิดเปิดเปิงกันไปไกลสักแค่ไหน
          อาแปะชวนเข้าร้านอาหาร สั่งเบียร์มา เขาไม่ได้ชวนให้หนึ่งดื่ม แต่หนึ่งนั่นแหละอยากจะจิบดับกลุ้ม เขายังเตือนว่าอย่าดื่มมากจะเมา ...ผู้หญิงเมาแล้วไม่ดีมีแต่เสียหาย
          แต่หนึ่งกลับรู้สึกว่าคําพูดของอาแปะยิ่งยุยั่วให้หล่อนดื่มหนักขึ้นไปอีก ไม่อยากเป็นคนดีมันอีกแล้ว อยากเป็นคนชั่วบ้าง ดูซิว่ามันจะเป็นยังไง
          ...คืนหนึ่ง หนึ่งจึงมึนเมาครองสติไม่ได้ อาแปะยิ้มให้ตัวเอง ถึงเวลาแล้วที่จะพาหนึ่งไปนอนเล่นบนเตียงในโรงแรมม่านรูด

          อาแปะเบิกตากว้างในเรือนร่างของหนึ่ง ที่เขาได้ปลดเปลื้องเสื้อกระโปรงออกไปอย่างง่ายดาย เพราะหล่อนไม่มีกําลังและสติจะมาขัดขืนอีกแล้ว ยิ่งเมื่อโดนเขาเล้าโลมด้วยเรียวลิ้น เพียงครู่เดียวก็กลับกอดรัดสนองตอบอย่างมีอารมณ์ เขาจึงระดมจูบไซ้อย่างทั่วถึง
          เขาตะลึงก็ที่นูนเนื้อของหนึ่งนั่นแหละ เบ้อเร่อเลย เด็กอะไรก็ไม่รู้ ใหญ่อย่างคาดไม่ถึง นมก็อวบตึงสวย หัวนมน่าดูดเป็นพิเศษ ความตึงเต่งและความนูนโหนกนั้นทําให้อาแปะน้ำลายเหนียวหนับด้วยความอยากจัด ผ่านผู้หญิงมาก็เยอะแล้ว แต่ไม่เคยเจอที่มีเรือนร่างสวยงามอย่างนี้มาก่อน เห็นจะมีก็คนเดียวเท่านั้น คืออาเหลี่ยนเมียของเขานั่นเอง ที่กลายเป็นอดีตไปแล้ว ตอนได้เสียกับอาเหลี่ยนใหม่ๆ อาเหลี่ยนก็มีเรือนร่างที่งดงาม เหมือนกับหนึ่งนี่แหละ ทุกส่วนก็ใหญ่ไปหมดอย่างเดียวกันเลย

          อาแปะโลมเลียด้วยเรียวลิ้น แต่มือลูบไล้ไปทั่วอย่างค่อยเป็นค่อยไป เจอตรงไหนที่นูนก็คลึงลงไป เจอตรงไหนที่อวบใหญ่ก็เคล้นขยํา ทําเอาหนึ่งครางไม่เป็นภาษาคน นัยน์ตาหลับปี๋ไม่ยอมลืมขึ้นมามองอะไรบ้างเลย
          พอโดนชําแรกกลีบเนื้อด้วยเรียวลิ้น หล่อนก็ร้องออกมาว่าทนไม่ไหวแล้ว อาแปะแหวกร่องกลางนูนโคกด้วยนิ้วมือ แล้วตวัดเรียวลิ้นเลียเสยขึ้นไปแผล็บแล้วแผล็บเล่า
          หล่อนสั่นระริกไปทั้งร่าง อาแปะรู้ดี แต่เขาก็ยังคงก้มหน้าบําเรอลิ้นสืบต่อไป ...หนึ่งบอกอาแปะว่าโปรดอย่าทรมานหล่อนต่อไปเลย
          อาแปะเห็นว่าอย่างไรก็ตาม หนึ่งก็มีอารมณ์เต็มที่ ตัวเขาเองก็แทบว่าจะกลั้นไม่อยู่เหมือนกัน ก้มมองของตัวเอง เห็นมันตั้งท่าผงาดก๋าเต็มอยาก หน้าตาหัวหูของมันก็มีสีสันแดงก่ำน่ากลัว ...ผงกหัวอยู่หงึกๆ อยากจะมุดเข้าไปในช่องหลืบที่มันชื่นชอบเสียนัก ทําไมไม่ยอมให้มันมุดเสียที
          เขาไล้เลียอย่างเมามันส์อีกครู่หนึ่งแล้วจึงคุกเข่าส่งมอบความสุขจากลําเนื้อให้กับสาวอกหัก แต่กว่าจะแหวกม่านอันคับแคบลงไปได้ ก็ทําให้อาแปะขะยิกอยู่ตั้งนานสองนาน ผ่านเข้าลึกได้ทีละเล็กละน้อย แต่ไม่ละความพยายาม จะผลีผลามก็ไม่ได้ จะเกิดความเจ็บปวดแล้วจะเสียแผนหมด
          อาแปะรอบคอบในเรื่องยังงี้เขาจึงสามารถพิชิตถ้ำสวาทของหนึ่งได้อย่างไม่เหลือบ่ากว่าแรง
          มันเข้าไปแล้ว แช่นิ่งอยู่ลึกล้ำนัก ชักออกมาไม่ค่อยจะได้ เนื่องจากความคับแคบของช่องสวรรค์นั่นแหละ แต่ก็พยายามที่จะเคลื่อนขยับทีละน้อย เคลื่อนไหวในช่วงสั้นๆก่อน ท่ามกลางเสียงครางอ๋อยๆ ของหนึ่ง ที่รู้สึกตัวบ้างอย่างครึ่งๆ กลางๆ
          อาแปะรู้สึกว่ามันช่างเหมือนตอนที่เขายังเป็นหนุ่มน้อย และเพิ่งจะได้เสียกับอาเหลี่ยน แม้ว่าหนึ่งไม่ใช่อาเหลี่ยน แต่เขาก็รู้สึกว่ามันช่างเป็นความรู้สึกที่คล้ายคลึงกันมาก
          ...ความแน่นกระชับรัดรึง การตอดรัดอย่างรุนแรง ราวกับช่องเนื้อนั้นมีปากเล็กๆ มากมาย ที่รุมตอดลําเนื้ออย่างไม่ยั้ง ตุ๊บแล้วตุ๊บเล่ามันตอดตุ๊บๆอยู่ท่าเดียว ลําเนื้อที่โดนตอดโดนรัดนั้น เกิดความเสียวซ่าน แทบว่าจะทนไม่ไหว ...แต่เขาก็พยายามทนจนได้ ทนต่อไป เพื่อเขาจะได้มอบความสุขให้หนึ่งได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย หล่อนกําลังบิดตัวไปมาด้วยความซ่านเสียว.... ปากส่งเสียงร้องครวญครางออกมา บ่งบอกถึงความรู้สึกภายในที่ได้รับจากการร่วมรักกับอาแปะ

          อาแปะคิดว่าตนเองปรนเปรอความสุขให้หนึ่งจนสุดฝีมือแล้ว เขาก็หมดความอดกลั้น หยาดเยิ้มทะลักหลั่งออกมาเนืองนอง อาแปะกอดรัดร่างเปลือยของหนึ่งเอาไว้แน่น แผงอกของเขาบดขยี้สองเต้าอวบของหญิงสาวแนบแน่น นุ่มดีเหลือเกิน
          หนึ่งรู้สึกตัวขึ้นมาแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น ...และหล่อนอยู่ที่ไหน จําบางสิ่งบางอย่างได้รางเลือนเหมือนความฝัน ...แต่พอ เหลือบเห็นอาแปะนอนอยู่ข้างๆ หล่อนก็รู้ทันทีว่าไม่ได้ฝันไปอย่างแน่นอน
          อาแปะเปลือยเปล่า เห็นเครื่องเคราของเขาแล้ว หนึ่งลุกนั่งอย่างรวดเร็วทันทีนั้น อาแปะก็ผงกร่างขึ้นมา เอาข้อศอกยันกับที่นอน
          “ว้าย...อาแปะ นี่...นี่มันอะไรกัน”
          อาแปะยิ้มปลอบโยน เหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นมันแสนจะธรรมดา เขาส่ายหน้าช้าๆ นั่งดิบดีแล้วเขาเอื้อมมือหมายรั้งร่างของหล่อนเข้ามาหา แต่หนึ่งผลุนผลันลงจากเตียง แล้วนึกได้ว่าตัวเองเปลือยตลอดร่าง ล่อนจ้อนขาวอล่องฉ่อง จึงคว้าผ้าเช็ดตัวมานุ่งกระโจมอก
          “แปะทําอะไรหนู”
          “อย่าตกใจไปเลยจ้ะหนึ่ง แปะน่ะรักหนูนะ เหมือนกับที่แปะเคยรักเมียของแปะ”
          น้ำตาไหลออกมาอย่างง่ายดาย หนึ่งรู้สึกเสียใจ ทรุดนั่งลงที่ขอบเตียง อาแปะก็เข้ามาโอบกอด ปลุกปลอบอย่างนุ่มนวล
          มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ทุกอย่างได้ผ่านไป อาแปะก็ยอมรับทุกอย่างที่ทําลงไป หล่อนเองในระหว่างที่เรือนร่างของอาแปะเคลื่อนไหวอยู่ ก็รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เพียงแต่ว่ามีสติเพียงครึ่งๆ กลางๆ เท่านั้น
          พลันนั้นแวบคิดไปถึงตั้ม อะไรอย่างหนึ่งบอกหล่อนว่า ดีแล้วที่หล่อนทํายังงี้ เขายังทําได้ แล้วทําไมหล่อนจะทําไม่ได้ล่ะ

          “หนูไม่ต้องห่วงอะไรเลยนะจ๊ะหนึ่ง แปะรับผิดชอบทุกอย่างที่ทําลงไป หนูต้องการอะไรก็บอกแปะได้จ้ะ”
          อาแปะเช็ดน้ำตาให้จนเหือดแห้ง แล้วพาหนึ่งกลับไปส่งที่บ้าน นุชเห็นเข้าสงสัยไม่น้อย ทําไมหนึ่งกลับบ้านโดยมีอาแปะขับรถมาส่ง แต่น้องสาวก็ไม่ได้ถาม เพราะเห็นสีหน้าของพี่สาวไม่เป็นปกติ นุชคิดว่าต้องมีเรื่องทําให้พี่สาวไม่สบายใจ
          ตอนเข้านอน นุชจึงถามพี่สาวซึ่งนอนหันหน้าเข้าหาข้างฝาว่า ไม่สบายไปหรือเปล่า หนึ่งส่ายหน้า ตอบว่าไม่เป็นไร
          “อาแปะมาส่งพี่หรือจ๊ะ”
          “เจอกันที่หน้าหมู่บ้าน เขาเลยมาส่ง”
          เป็นคําตอบที่นุชไม่กล้าถามอะไรอีกต่อไป รู้สึกว่าพี่สาวไม่อยากจะพูดคุยอะไรต่อไปอีกแล้ว หล่อนจึงดับไฟขึ้นเตียง
          แม่ก็ยังไม่กลับ แม่กลับดึก ทุกคืนเลย ไม่รู้ไปไหนกับใคร

          อาแปะนั้นรู้สึกติดใจหนึ่งมาก ทําให้เขานอนฝันถึงอาเหลี่ยน ฝันถึงวันคืนเก่าๆ ที่ผ่านมา เขารักอาเหลี่ยน อาเหลี่ยนเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขารัก ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้หญิงผ่านสังเวียนสวาทมาอย่างนานปี ช่องเนื้อสวรรค์จึงมักจะหละหลวม และก็เป็นสาวใหญ่
          หนึ่งเพิ่งจะเป็นสาว ทุกส่วนของเรือนร่างยังสดใหม่ แม้ว่าหล่อนจะผ่านการร่วมสวาทกับแฟนหนุ่มแล้ว แต่ก็เป็นช่วงสั้นๆ ยังไม่มีความบุบสลายที่ตรงไหน ไม่เหมือนกับผู้หญิงที่ผ่านการมีสามีมาเป็นปีๆ หรือหลายๆ ปี
          หนึ่งทําให้เขาคิดถึงอาเหลี่ยนมากที่สุด เขาคงจะรักหนึ่งหลงหนึ่ง เหมือนกับที่เขาเคยรักหลงอาเหลี่ยน ป่านนี้อาเหลี่ยนจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ แต่เมื่อได้เสียกับอาเหลี่ยนใหม่ๆนั้น อาเหลี่ยนยังเพิ่งจะแรกสาว ทุกส่วนของหล่อนยังไม่เคยต้องมือชายมาก่อน เขาเป็นคนแรกที่ได้ความสาวของหล่อน แน่นกระชับจนเขาแทบจะชําแรกเข้าไปไม่ได้ ต้องใช้ ความพยายามอย่างหนัก ...หล่อนร้องแต่ว่าเจ็บๆ พอร้องเจ็บเขาก็หยุด ในโรงแรมคืนนั้นมันช่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
          ...เทือกเถาเหล่ากอของอาเหลี่ยนค่อนข้างจะเป็นคนมีเงิน มีร้านขายของ อาเหลี่ยนช่วยเตี่ยและแม่ค้าขาย ส่วนเขามันเป็นเพียงหนุ่มจีนที่ยากจน หากินอยู่ในตลาด รับจ้างเข็นของ พบหน้าอาเหลี่ยนบ่อยๆ เกิดต้องชะตากัน จนถึงขั้นลักลอบได้เสีย เตี่ยของอาเหลี่ยนไม่ยอมรับ จึงต้องหนีตามกัน และไม่เคยหวนกลับไปที่นั่นอีก

          หนึ่งทําให้อาแปะต้องหวนคิดถึงเรื่องราวแห่งความหลัง เขารู้สึกร้อนรุ่มอยากหลับนอนกับหนึ่งอีกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด!







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น