อีสองคนนี้มันพูดมากกันจริงวุ้ย - -"
=======================================
ผมไปถึงที่ร้านตอนหกโมงครึ่ง พอไปถึงพี่บอยก็พิมพ์ทักมาบอกว่าแกนั่งรออยู่ด้านบนแล้ว ผมเงยหน้าขึ้นไปมองหาอยู่นาน ก่อนที่จะเจอแกนั่งยิ้มอยู่ในมุมมืด โบกมือทักทายให้แก 2-3 ที แล้วก็ไปนั่งประจำที่เพื่อรอให้พี่เป้มาถึง ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พี่เป้ก็โทรเข้ามาบอกว่าถึงแล้ว ผมบอกให้เธอเดินเข้ามาในร้านได้เลย พี่เป้เปิดประตูเข้ามา หันซ้ายหันขวามองหาผมอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเธอก็เดินลึกเข้ามาจนมาถึงที่โต๊ะ เอ่ยทักทายกันพอหอมปากหอมคอ แล้วเราก็สั่งเมนูของทานเล่นกับเบียร์ไฮเนเก้นมาดื่มสองขวด
“ดีใจจัง ที่พี่ยอมมากินมื้อเย็นกับผมด้วย ว่าแต่ว่า... วันนี้ไม่ได้ชวนพี่บอยมาด้วยเหรอครับ อิอิอิ” ผมแกล้งกระเซ้าแหย่เธอเล่นๆ
“ตลกแระ... ก็ใครล่ะที่เป็นคนกำชับไม่ให้ชั้นบอกพี่เค้าเนี่ย หา?” เธอพูดเคืองๆ ทำสีหน้าชิชะไม่พอใจใส่
“โอ๋ๆๆ ผมแค่ล้อเล่นเฉยๆ น่า... แบบนี้หละดีแล้ว ผมจะได้มีเวลากระหนุงกระหนิงกับพี่เป้แบบสองต่อสองซะที” ผมพูดแล้วยื่นมือไปกุมมือเธอไว้บนโต๊ะ พี่เป้ฟังแล้วก็หัวเราะเขินๆ
“แหวะ! ชั้นไม่ได้มาเดทกับแกซักหน่อย แค่หิวข้าวเฉยๆ ย่ะ” พี่เป้ยังคงทำปากแข็ง
“เอ้า หิวก็หิว งั้นสั่งอาหารเลยมั้ยครับ?” เราดูเมนูแล้วสั่งอาหารไป 2-3 อย่าง กะว่าเอาแค่ให้พอทานอิ่มเฉยๆ
เรานั่งคุยหยอกล้อกันระหว่างทานอาหารไปเรื่อยๆ ขณะที่มือผมก็อยู่ไม่สุข คอยยื่นไปลูบไปจับมือเธอบนโต๊ะบ่อยๆ สายตาของเราทั้งคู่ดูหยาดเหยิ้มคล้ายกับคนกำลังมีความรัก ทานไปได้ซักพักพี่เป้ก็เอ่ยปากขอตัวไปเข้าห้องน้ำซะก่อน ซึ่งก็ดีเลยครับ เพราะมันช่วยเปิดทางให้ผมได้มีโอกาสวางยาใส่แก้วเครื่องดื่มของเธอแบบสะดวก.. ใช่ครับ มันคือยาปลุกตัวเดียวกับที่ผมเคยใช้กับคุณหมอแจนมาก่อนนั่นเอง แพทเทิร์นการเข้าทำครั้งนี้ก็แทบจะถอดแบบมาจากคราวที่แล้วเป๊ะๆ เลย ซึ่งถ้าผลลัพธ์มันออกมาเหมือนกันล่ะก็ นั่นแปลว่าคืนนี้แหละที่ผมกับพี่เป้ จะได้มีโอกาสร่วมหอขย่มตอกันแบบสองต่อสองเสียที โดยที่พี่บอยไม่เกี่ยว อิอิอิ... อ้าว พูดยังไม่ทันขาดคำ เจ้าตัวก็พิมพ์ไลน์ส่งข้อความมาด่าผมแล้วนี่ไง
เพื่อนๆ บางคนอาจจะยังสงสัยว่าทำไมผมถึงต้องแอบมอมยาพี่เป้ด้วย ทั้งๆ ที่เธอก็ดูเหมือนมีใจให้ผมพอสมควรแล้วใช่มั้ยครับ คืออย่างนี้ครับ ผมตั้งใจมาตั้งแต่แรกแล้วว่าอยากจะเปิดโอกาสให้พี่บอยได้เห็นภาพเมียรักของตัวเอง ออกอาการเงี่ยนง่านจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ และยอมปล่อยตัวปล่อยใจให้ผมตักตวงความสุขจากเรือนร่างของเธอ ต่อหน้าต่อตาสามีของตัวเอง ซึ่งตัวช่วยเดียวที่จะทำให้เป็นแบบนั้นได้ ก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้ายาปลุกตัวนี้นี่แหละครับ... พี่บอยดูจะตกใจนิดหน่อยที่เห็นผมแอบวางยาเมียตัวเอง พี่แกจึงส่งข้อความมาบ่นที่ผมไม่ยอมบอกแกก่อน ผมพยายามพิมพ์บอกลวกๆ เพื่ออธิบายให้แกเข้าใจ เราสองคนยังคุยกันไม่ทันจบดี พี่เป้ก็เดินกลับมานั่งที่ตัวเองซะก่อน... แล้วโชว์ก็ดำเนินต่อไป ผมนั่งลุ้นให้เธอยกแก้วเบียร์ขึ้นมาดื่มอย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งพี่บอยเองก็คงจะลุ้นอยู่ไม่แพ้กัน
ก่อนที่พี่เป้จะต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปในที่สุด เธอยกแก้วตัวเองขึ้นมาดื่มอึกๆๆ อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ผมแอบนั่งยิ้มอยู่คนเดียวเงียบๆ ทีนี้ก็เหลือแค่รอให้ตัวยาออกฤทธิ์ และเปลี่ยนแม่สาวแว่นสุดห้าวที่นั่งอยู่ข้างหน้าผมตอนนี้ ให้กลายสภาพเป็นสาวร้อนร่านสวาท ที่พร้อมจะแหกแข้งแหกขาให้ผมได้ขึ้นขย่มอย่างสาสมใจ... พอเวลาผ่านไปราวๆ 40-50 นาที พี่เป้ตอนนี้ก็เริ่มออกอาการกระสับกระส่าย นั่งบิดไปบิดมาเหมือนไม่สบายตัว ตาเยิ้มหวานยั่วยวน ใบหน้าแดงซ่านจนเห็นได้ชัด
“อาหารอร่อยดีนะครับ” ผมพูดยิ้มๆ และชวนเธอคุย
“อือ แต่ว่าเสียงดังไปหน่อยอ่ะ คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องเลย...” พี่เป้บ่นถึงเรื่องเสียงดนตรีสดในร้าน
“พี่เป้มานั่งข้างๆ ผมมั้ย จะได้ไม่ต้องตะเบ็งเสียงแข่งกับเพลง” ผมพูดตะล่อมเธอ พร้อมกับเอามือตบเก้าอี้ข้างๆ เบาๆ พี่เป้มองด้วยสายตาเหม่อๆ แต่ก็ยอมขยับมานั่งข้างๆ ผมอย่างว่าง่าย พอเธอนั่งปุ๊บผมก็เนียนยกมือไปโอบไหล่เธอทันที ดึงให้เธอพิงเข้ามานั่งซบแนบกับไหล่ผม พี่เป้พยายามขืนตัวไว้นิดนึง พอเห็นว่าดิ้นไปก็ป่วยการ เธอก็เลยยอมนั่งเฉยๆ ปล่อยให้ผมใช้มือโอบไหล่เธอไว้อย่างนั้น
“วันนี้พี่ตัวหอมจังเลย” ผมพูดชมเธอ พร้อมกับแนบใบหน้าเข้าไปดอมดมไซร้ซอกคอจนพี่เป้แอบจั๊กจี้ พยายามใช้มือดันใบหน้าผมออก จนสายตาของเราเผลอสบตากันโดยบังเอิญ
เราสองคนสบตากันอยู่เกือบนาที ก่อนที่ผมจะค่อยๆ แนบหน้าชิดกับเธอมากขึ้น พี่เป้หลับตาก่อนจะเผยอปากเหมือนกำลังเตรียมพร้อม ผมเห็นแบบนั้นแล้วจึงโน้มหน้าลงไปประกบปากจูบกับเธออย่างดูดดื่มทันที ริมฝีปากของเราสองคนไล่งับกันไปมา ลิ้นของผมสอดตวัดเข้าไปทักทายกับลิ้นของเธออย่างซุกซน พี่เป้ยังคงหลับตาอยู่อย่างนั้น บดริมฝีปากจูบผมตอบ มือไม้ผมก็ไม่อยู่นิ่ง ค่อยๆไต่ยุกยิก ลูบไล้ไปเกาะกุมทรวงอกนุ่มๆ ของเธอไว้ พร้อมกับสอดลิ้นพัวพันลิ้นเธอไปด้วยหนักๆ น้ำลายของเราสองคนยืดเยิ้มเป็นทางไหลนองลงไปถึงปลายคาง ช่วงเวลาที่เราจูบกันมันสั้นเพียงนิดเดียว ซักพักพี่เป้ก็ออกอาการดิ้นขยุกๆ พร้อมกับออกแรงผลักผมออกมา
“พอแล้วนะ อายคนอื่นเค้า” เธอก้มหน้าบอกผมอย่างอายๆ โดยไม่ยอมสบตา ไม่รู้ว่าสายตาของเธอที่ซุกซ่อนอยู่ตอนนี้มันจะแอบเคลิบเคลิ้มลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้ว... เรานั่งพิงกันอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่งโดยไม่ได้พูดอะไรกันต่อ พี่เป้เอนหัวมาซบกับไหล่ผม หอบหายใจเหนื่อยๆ เสียงดนตรีในร้านตอนนี้กำลังดังกระหึ่มได้ที่ ลูกค้าเกือบทั้งหมดในร้าน ต่างพากันขับขานถ้อยทำนองเพลงฮิตที่แสนจะติดหู
“ไปต่อกันที่อื่นมั้ยครับ ในนี้คนเยอะ อึดอัดจังเลย” ผมกระซิบใส่หูเธอเบาๆ พี่เป้ฟังแล้วก็พยักหน้า ก่อนที่เราจะสั่งเช็คบิล... พอจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วผมก็จูงมือเธอเดินออกไปนอกร้านทันที มุ่งหน้าตรงเข้าไปที่ลานจอดรถมืดๆ ก่อนจะพาเธอเดินเลี้ยวเข้าไปในห้องน้ำพนักงานทางด้านหลัง ซึ่งผมเคยแวะมาฉี่อยู่ครั้งสองครั้งก่อนหน้านี้ โชคดีที่วันนี้ห้องน้ำค่อนข้างสะอาดพอสมควร พอปิดประตูล็อคกลอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มต้นนัวเนียกันต่อทันที ผมคว้าตัวพี่เป้เข้ามากอดไว้แนบกาย ท่อนเนื้อแข็งปั๋งของผมบดเบียดอยู่กับหน้าขาของเธอโดยตรง ริมฝีปากของเราสองคนบดเบียดดึงดูดเข้าหากันอย่างเร่าร้อน ราวกับคู่รักที่ถูกพลัดพรากจากกันไปนานแสนนาน
“อืมมมม” เสียงพี่เป้ร้องครางอยู่ในลำคอเบาๆ เมื่อโดนผมคลึงเคล้าเต้านมเบาๆ เสื้อยืดรัดรูปแขนยาวครึ่งศอกของเธอช่วยขับเด่นความโค้งเว้าของเนินอกได้อย่างชัดเจน จนผมอดใจไม่ไหว เร่งขยำขยี้ก้อนไขมันอวบๆ ตรงหน้าอย่างมันมือ อีกมือนึงก็บีบหมับเข้าที่บั้นท้ายของเธอผ่านเนื้อผ้ากระโปรงพลีทสีวานิลลา เราสองคนดูดปากกันเสียงดังจ๊วบจ๊าบ พี่เป้หลับตาพริ้มแหงนหน้าแลกลิ้นกับผมอย่างเพลิดเพลิน สติสตังของเธอตอนนี้เตลิดเปิดเปิงไปหมดแล้ว
ผมดึงเสื้อเธอถลกขึ้นมาเกยไว้บริเวณเหนือราวนม ตามด้วยยกทรงสีขาวสะอาดตา เต้านมตึงอวบขาวจั๊วะของพี่เป้เด้งผึงออกมาชี้หน้าชูชัน หัวนมของเธอยังเป็นสีน้ำตาลแดงอ่อนๆ ดูสวยน่าทาน ผมใช้มือบีบบี้คลึงเคล้นมันจนหนำใจ ก่อนจะสอดมือมุดเข้าไปใต้ชายกระโปรง ขยับเลื่อนมันไปวางแหมะลงกลางเป้ากางเกงใน ถูไถไปตามร่องหลืบจนรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นที่มันกำลังทะลักทลายออกมาด้านล่าง ผมก้มลงไปคุกเข่า ใช้สองมือจับรูดขอบกางเกงในผ้าลื่นของเธอไว้มั่น
“พี่เป้ กางขาหน่อยครับ” พี่เป้ได้ยินก็ทำตาม ค่อยๆ ถ่างขาออกกว้างเพื่อให้ผมใช้มือรูดกางเกงในของเธอจนหลุดออกจากข้อเท้า ตรงกลางเป้าของมันเปียกเลอะเป็นรอยคราบน้ำเงี่ยน ผมหยิบมันมาพาดไว้ที่อ่างล้างหน้า ถลกกระโปรงพลีทของเธอขึ้นเพื่อจะได้จ้องมองหีของเธอแบบชัดๆ กลีบอูฐตรงกลางของเธออวบอูมโค้งเป็นเนิน รอยแยกตรงกลางยังดูเป็นสีแดงสวย ผมเดาว่าตอนที่คลอดน้องโอมคงใช้วิธีผ่าออกแน่ๆ ไม่งั้นหีเธอคงไม่ได้มีสภาพปิดแนบชิดแบบนี้ พี่เป้พยายามกดกระโปรงลงมาปิดไว้ดังเดิม ผมจับยึดชายกระโปรงเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“หีพี่สวยน่าเลียจังเลยครับ ผมชอบ...” ผมชมเธอด้วยถ้อยคำดิบเถื่อนตรงๆ
“อืออ..... อย่าจ้องซี่ แกอ่ะ...” พี่เป้แหงนหน้าหลับตาด้วยความเขิน
“ขอผมชิมหน่อยนะครับ” ผมพูดจบก็แนบหน้าเข้าไปโดยไม่รอคำตอบรับจากเธอ ใช้ลิ้นตวัดเลียร่องแคมสีแดงแจ๋ดังแผล่บบบ... แผล่บบบ ทั้งปาดทั้งลากจู่โจมไปทั่วเนินเนื้อสาวของเธอจนเปียกชุ่ม
“ซี้ดดดดส์” พี่เป้ครางหงิงๆ ออกมาเมื่อโดนผมลงลิ้นให้อย่างช่ำชอง สองมือจิกหัวผมไว้แน่นเพื่อคลายความเสียวที่มีแต่จะยิ่งเพิ่มทวี ผมค่อยๆ สอดนิ้วชี้แยงหีเธอเข้าไปทีละน้อยๆ ความเปียกชื้นทำให้มันมุดเข้าไปได้อย่างง่ายดาย สลับกับการดูดเลียเม็ดแตดเธอไปด้วยจนพี่เป้เสียวตัวงอ ตลอดเวลาที่ผมกำลังรังแกพี่เป้อยู่นั้น โทรศัพท์มือถือที่ผมปิดเสียงเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นเตือนเข้ามาไม่หยุด ผมเดาได้ทันทีว่าคงเป็นพี่บอยที่กำลังโทรตามหาตัวเราสองคนอยู่แน่ๆ เออว่ะ! ผมลืมไปเลยว่าพี่บอยก็มาด้วย... และที่วางยาเธอนี่ก็เพื่อจะโชว์ให้พี่บอยได้ดูอะไรสนุกๆ นี่หว่า.... แต่จังหวะนั้นผมกำลังหน้ามืดเพราะความเงี่ยนแบบสุดๆ แล้วล่ะครับ จะให้มารับสายแกตอนนี้ก็คงจะไม่สะดวกแน่ๆ ก็เลยปล่อยให้โทรศัพท์มันสั่นๆ หยุดๆ อยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเงียบหายไปเอง... ผมสอดนิ้วนางเข้าไปแยงหีเธอเพิ่มอีกนิ้วนึง ส่วนนิ้วโป้งที่อยู่ด้านนอกก็คอยบดคลึงบี้เม็ดเสียวเธอเพื่อกระตุ้นอารมณ์ ทั้งบี้ทั้งดูดจนพี่เป้ตัวเกร็ง ต้องใช้มือขวาปิดปากตัวเองเอาไว้แน่นเพราะกลัวว่าเสียงครางจะหลุดลอดออกไปให้ใครได้ยิน
ผมตกเบ็ดให้เธออยู่ราวๆ ไม่ถึง 5 นาที พี่เป้ก็ตัวสั่นริกๆ ร่องหีกระตุกตอดยิบๆ บีบนิ้วมือผมตุบๆๆ เสียงเธอครางอ๋อยๆๆ ดังลอดออกมาจากฝ่ามือ ขณะที่มืออีกข้างก็จิกดึงรั้งเส้นผมของผมไปด้วยอย่างรุนแรง น้ำเงี่ยนใสๆ ของพี่เป้พุ่งปรี๊ดทะลักออกมาตามง่ามนิ้ว จนเปรอะเปื้อนไปทั่วหน้าขา ผมถอนนิ้วออกมา ดูดเลียคราบน้ำรักที่ติดอยู่ที่ปลายนิ้วจนหมด ปลดเข็มขัดกับกางเกงตัวเองลง ปล่อยท่อนควยแข็งปั๋งให้ผงาดออกมาสู่โลกภายนอก พี่เป้จดจ้องอาวุธประจำกายของผมอย่างไม่วางตา ในใจผมก็กำลังคิดอยู่ว่าจะเย็ดเธอที่นี่หรือไปต่อกันที่คอนโดดี พี่บอยก็ดันโทรกลับมาอีกรอบ แถมคราวนี้โทรนานไม่ยอมหยุดด้วย จนผมต้องยอมแพ้และตัดสินใจว่าพอแค่นี้ดีกว่า ไม่อยากให้พี่บอยแกอารมณ์เสียขึ้นมาซะก่อน พร้อมกับจัดแจงช่วยพี่เป้แต่งเนื้อแต่งตัวให้เรียบร้อย
“พี่เป้ครับ อันนี้ผมขอนะ” ผมหยิบกางเกงในเปื้อนคราบของเธอขึ้นมากางไว้ อมยิ้มยั่วเธอหน้าทะเล้น
“นี่... ไม่เอา เอาคืนมาเร็วๆ โจ้...” เธอพยายามจะยื้อยุดมันกลับคืนไป แต่ผมก็ไม่ยอมให้เธอไปง่ายๆ
“น่า นะครับ ถือว่าเป็นของขวัญแทนใจ เอาไว้เวลาที่ผมคิดถึงพี่ไง” ผมอ้อนขอหน้าด้านๆ
“บ้าเหรอ... จะเอากางเกงในชั้นไปทำไม น่าเกลียด” แต่จนแล้วจนรอดผมก็ไม่ยอมคืนให้เธออยู่ดี สุดท้ายพี่เป้ก็ต้องจำใจ ยอมให้ผมจูงมือเธอเดินออกมาโดยที่ท่อนล่างเปลือยเปล่าอยู่ข้างใน พี่เป้คงจะแอบหวิวๆ ไม่น้อย ฝ่ามือของเธอมีแต่เหงื่อซึมออกมาไม่หยุด เราเดินกันรีบๆ จนมาถึงที่รถของเธอ
“กลับดีๆ นะครับพี่” ผมยืนโบกมือยิ้มให้เธอ
“ตกลงจะไม่คืนใช่มั้ยเนี่ย” เธอเอ่ยทวงถึงเจ้ากางเกงในผ้าลื่นตัวจิ๋วที่ถูกขยำอยู่ในกระเป๋ากางเกงของผม ผมส่ายหน้ายิ้มๆ เป็นคำตอบ
“คนลามก!” พี่เป้พูดงึมงำๆ แล้วสตาร์ทรถขับออกไป
ผมยืนดูพี่เป้ขับไปจนลับสายตา แล้วก็เดินกลับมาขึ้นรถตัวเอง เป็นจังหวะที่เดินสวนกับเด็กเฝ้าลานจอดรถ ผมเห็นสายตาของมันมองผมยิ้มๆ แปลกๆ ไม่รู้ว่ามันจะแอบเห็นผมจูงพี่เป้เข้าห้องน้ำไปก่อนหน้านี้รึเปล่า แต่ก็ช่างแม่งครับ รู้ไปก็เท่านั้น ผมสตาร์ทรถเสร็จก็ขับรถกลับห้องทันที เปิดมือถือดูเห็นข้อความจากพี่บอยขึ้นเต็มไปหมด พี่แกค่อนข้างหงุดหงิดพอสมควรที่เห็นผมหายไปสองคนโดยไม่บอก และคะยั้นคะยอให้ผมเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ผมบอกปัดไปว่ากำลังขับรถอยู่ เล่าไม่สะดวก แล้วก็โยนมือถือลงเบาะข้างๆ พอกลับถึงห้องจึงค่อยพิมพ์เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้แกฟังทั้งหมด โดยไม่ลืมที่จะแสดงของขวัญที่พึ่งได้รับจากพี่เป้มาดหมาดๆ ให้แกดูด้วย เล่นเอาพี่บอยแทบคลั่งไปเลย... หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ความสัมพันธ์ของเราสองคนก็ยิ่งเลยเถิดหนักข้อขึ้นไปอีก ผมเริ่มชวนพี่เป้คุยเรื่องเซ็กส์กันแบบโจ่งแจ้งผ่านไลน์ ยิ่งคุยก็ยิ่งเงี่ยน ยิ่งเงี่ยนก็ยิ่งอยากหาทางปลดปล่อย...
“กลิ่นพี่ยังติดจมูกผมอยู่เลย” ผมเริ่มต้นด้วยการเอ่ยย้อนไปถึงเหตุการณ์ในคืนนั้น เพื่อกระตุ้นความทรงจำของเธอ
“เว่อร์แระๆ” พี่เป้ตอบกลับมาสั้นๆ
“จริงๆ นะครับ เนี่ย ผมยังหยิบเอามาดมอยู่ทุกคืนเลยก่อนนอน” พิมพ์เสร็จผมก็กดส่งรูปภาพตัวเองที่กำลังสูดดมกางเกงในของเธอไปให้ดูด้วย
“อีโจ้! ทุเรศ พอเลยนะ” พี่เป้พิมพ์ด่ากลับมาทันที
“อยากรู้จังว่าตอนนี้พี่ใส่ชุดอะไรอยู่น้า” ผมแกล้งพิมพ์เกริ่นๆ ไป
“ทำไม จะให้ถ่ายให้ดูอีกรึไง ทำเป็นพวกโรคจิตไปได้” เธอดักคอแบบรู้ทัน
“ถ้าได้ก็ดีน้าาา” ผมพิมพ์ตอบกลับไป พร้อมกับส่งภาพท่อนควยตุงกางเกงในไปให้ด้วย ไม่นาน พี่เป้ก็ยอมส่งภาพถ่ายครึ่งตัวของเธอมาให้ เรือนร่างขาวเนียนของเธอถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยชุดนอนแขนกุดสีเหลืองอ่อน ใบหน้าของเธอดูเขินอายนิดๆ ผมแอบสังเกตเห็นหัวนมของเธอที่ดันชูชันทะลุออกมานิดๆ
“หูยยย โนบราด้วยอ่า” ผมพิมพ์แซวไปเร็วเท่าใจคิด
“ก็แหงสิ อาบน้ำจะนอนแล้วนี่นา ไอ้ทะลึ่ง”
“ดูดิ นมพี่ทำผมแข็งเลยอ่ะ” ผมส่งรูปท่อนลำที่แข็งตุงอยู่ภายใต้กางเกงในไปให้เธอดูอีก ปลายหัวแทบจะโผล่พ้นขอบกางเกงอยู่รอมร่อ
“อุบาททททททททททว์” พี่เป้พิมพ์ด่ามายาวๆ แต่ผมรู้ดีว่าในใจเธอตอนนี้คงแอบตื่นเต้นอยู่พอสมควร
“ขอเค้าดูนมตัวเองหน่อยจิ อิอิอิ” ผมพิมพ์ออดอ้อนขอเธอดื้อๆ
“ลามกว่ะ” เธอพิมพ์ด่ามาอีกสั้นๆ แต่ก็ยอมส่งรูปร่องอกอวบๆ ที่นูนเด่นทะลุคอเสื้อออกมาให้ดูอยู่ดี
“อูย ผมแข็งสุดๆ แล้วเนี่ย” ผมส่งรูปลำควยเปลือยเปล่าไปให้เธอดูอีก 2-3 รูป พี่เป้เงียบหายไปครู่นึง ก่อนจะส่งภาพหน้าท้องขาวๆ ของตัวเองกลับมา มองขึ้นไปด้านบนแอบเห็นฐานนมของเธอโผล่พ้นขอบเสื้อที่ปิดเอาไว้ไม่มิด
“หูยยย พี่เป้เซ็กซี่ค่อดๆๆ” ผมพิมพ์แซวเธอทันที พร้อมกับใช้มือรูดควยเล่นไปด้วย
“แกอ่าาาาาาาาาาาาาา แม่งงง ว่าแล้วว่าแกต้องล้อ พอๆ ไม่ส่งแล้ว ไอ้บ้าๆๆๆๆ” เธอพิมพ์โวยวายกลับมาเพราะนึกว่าโดนผมล้อเลียน
“เฮ้ยยย นี่เค้าชมนะ อ่านยังไงเป็นล้อเนี่ย เอาอีกๆๆๆๆๆ”
ผมออดอ้อนเธอพลางส่งรูปท่อนหัวบานแดงโร่ กระตุ้นยั่วเธอไปเรื่อยๆ ก่อนที่สุดท้ายเธอจะยอมส่งรูปลำตัวท่อนบนที่กำลังเปลือยเปล่ามาให้ดูในที่สุด หน้าอกหน้าใจใหญ่เต็มไม้เต็มมือ มองเห็นหัวนมสีแดงอ่อนๆ กำลังชี้ชันอย่างคนมีอารมณ์ ผมเห็นอย่างนี้แล้วก็ทนไม่ไหว กดโฟนไปหาเธอทันที
“ทำอะไรอยู่คร้าบผม?” ผมเอ่ยทักเธอในสายด้วยน้ำเสียงทะเล้น
“พึ่งอาบน้ำเสร็จ มีอาราย?” เธอตอบเสียงยียวนกลับมา
“เอ้าเหรอ...? นึกว่ากำลังหื่นอยู่ซะอีก” ผมกระเซ้ากลับไป
“แกต่างหาก หื่นจนจู๋แข็งขนาดนั้น ยังมีหน้ามาว่าคนอื่นอีก ไอ้หื่น!” พี่เป้โวยเบาๆ
“ก็ผมเห็นนมพี่แล้ว มันก็หื่นขึ้นมาน่ะสิ... เนี่ย กำลังรูดควยอยู่เลยเนี่ย” ผมครางเสียงกระเส่า
“น่าเกลียด... พูดมาได้ไม่อายปาก ทุเรศอ่ะแก” เธอยังคงโวยไม่เลิก น้ำเสียงดูจะตื่นเต้นนิดหน่อย
“จริงๆ นะครับ ควยผมจะระเบิดอยู่แล้วเนี่ย” ผมพูดแล้วยื่นโทรศัพท์เข้าไปใกล้กับลำควยที่กำลังโดนรูดอยู่ กะให้เธอได้ยินเสียงท่อนเนื้อที่กำลังเสียดสีกันอย่างชัดเจน เพื่อกระตุ้นอารมณ์เงี่ยนของเธอ
“อูยยย... ผมเสียวหัวควยชะมัด... พี่เป้ช่วยผมที” ผมครางพร่ำเพ้อเรียกชื่อเธอ รูดควยแรงขึ้นๆ แอบได้ยินเสียงพี่เป้พ่นลมหายใจแรงๆ อย่างตื่นเต้น แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรกลับมา รูดไปได้ไม่ถึง 5 นาทีก็ทนเสียวไม่ไหว
“อู๊ยยยยย.... ซี้ดดดด.... ไม่ไหวแล้วครับพี่ ผมจะแตกแล้ว.... โอ๊ะ!” พอสิ้นคำผมก็กระตุกตัวเกร็ง ปลดปล่อยน้ำเชื้อสีขาวขุ่นพุ่งกระฉูดเลอะพื้นห้องน้ำเป็นดวงๆ
“ขอบคุณนะครับพี่... เล่นเอาผมตัวเบาเลย” ผมแกล้งพูดขอบคุณเธอเพื่อยั่วโมโห
“ไอ้บ้า! ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรเลยย่ะ แกอย่ามามั่ว ไอ้ลามก!” พี่เป้แว้ดๆ ทันทีเมื่อรู้ว่าโดนผมแกล้ง
“เออ... ผมง่วงแระ ขอตัวไปนอนก่อนนะครับ อิอิ” ผมพูดตัดบทแล้วรีบวางสายทันที ปล่อยให้เธอต้องค้างเติ่งกับอารมณ์ร้อนร่านที่กำลังพอกพูนมากขึ้นทุกที
เราพยายามจะหาเวลามาเจอหน้ากันให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งก็ดูจะยากเย็นอยู่พอสมควร เนื่องจากตัวพี่เป้เองก็มีครอบครัวแล้ว จู่ๆ จะให้มาเดินเล่นสวีทกับชายหนุ่มกันสองต่อสองบ่อยๆ ก็คงจะดูไม่ดีเท่าไหร่ หากมีใครมาเห็นเข้าจะกลายเป็นขี้ปากเค้าอีก ซึ่งช่วงหลังๆ นี้ พี่เป้เองก็ถึงขั้นใจแตก ยอมโกหกพี่บอยเพื่อหนีมาเถลไถลอยู่กับผมอย่างเต็มอกเต็มใจ ซึ่งผมก็จะแอบเอาไปเฉลยให้พี่บอยฟังทุกครั้งอยู่ดี อย่างวันนี้เองก็เช่นกัน ผมนัดพี่เป้มาดู Twilight ภาค Breaking Dawn 1 ที่พารากอนตอนหัวค่ำ กะว่าจะพาพี่เป้มาดูฉากเลิฟซีนอีโรติกของคู่พระนางให้ฉ่ำแฉะกันไปเลย เห็นเค้าว่าภาคนี้มันล่อกันจนเตียงพังซะด้วย โดยเลือกจองโรงอีนิกม่าสุดแพงเอาไว้ แม้ว่าค่าที่นั่งคู่นึงจะค่อนข้างแพงซักหน่อย ตกราคาเกือบ 3 พันบาท แต่ผมมองว่ายังไงก็คุ้ม เนื่องจากมันค่อนข้างเงียบ คนดูน้อย ที่นั่งแบ่งโซนห่างเป็นส่วนตัว แถมยังเป็นเบาะโซฟามีหมอนกับผ้าห่มผืนหนาคลุมปิดให้อย่างพร้อมสรรพ สะดวกแก่การล้วงควักกันอย่างถูกต้องตามกฏหมายยิ่งนัก อิอิ
“หูย ดูกล้ามพระเอกดิแก” พี่เป้สะกิดแขนร้องบอกผมเบาๆ ขณะที่เรากำลังนอนพิงอิงแอบซบกันอยู่ใต้ผ้าห่ม บนที่นั่งแถวบนสุด ผู้ชมวันนี้ นอกจากคู่ของเราแล้วก็มีเพียงคู่ของฝรั่งอีกสองคู่ที่นั่งอยู่แถวกลางๆ กับคู่ของคนญี่ปุ่นที่นั่งเยื้องถัดจากเราไปแถวริมสุดเท่านั้น
“กล้ามท้องผมก็มีนะครับ ลองจับดูมั้ยล่ะ” ผมกระซิบบอกแล้วดึงมือพี่เป้มาวางแหมะอยู่บนหน้าท้องตัวเอง พร้อมกับถลกชายเสื้อขึ้นไปด้วย
“ทะลึ่งแระ... ทำอารายๆ นี่มันโรงหนังนะแก” เธอทำเสียงดุผมเบาๆ พอที่คนอื่นจะไม่ได้ยิน
“แหม ทำเป็นปากแข็ง แต่ข้างล่างนี่แฉะไปหมดแล้วม้างป่านนี้” ผมพูดแซวแล้วเลื่อนมือลงไปมุดใต้ชายกระโปรงชุดเดรสของเธอทันที เลื้อยไต่ขึ้นไปแตะเข้าที่บริเวณกลีบร่องตรงเป้า ก็พบว่ามันมีร่องรอยของความเปียกชื้นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด
“นั่นแน่.... ใครน้อชอบทำตัวเป็นผู้ร้ายปากแข็ง” ผมมองหน้าเธอยิ้มๆ อย่างเจ้าเล่ห์ ใช้นิ้วเขี่ยเบาๆ ที่ปากร่อง
“บ้า... ไม่เอานะโจ้ มีคนอื่นอยู่ด้วย...” เธอร้องปรามเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ ไม่มีใครสนใจเราหรอก ผ้าห่มก็บังไว้มิดแล้ว ไม่เชื่อพี่ก็ลองดูอีญี่ปุ่นสองคนนั้นดูดิ” ผมสะกิดให้เธอหันไปมองคู่รักชาวญี่ปุ่นทางด้านขวามือของเรา ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งดูดปากกันอยู่อย่างไม่สนใจโลกภายนอก พี่เป้มองตาค้างเมื่อได้เห็นภาพหนังสดที่เกิดขึ้นตรงหน้า จังหวะที่เธอกำลังตะลึงอยู่นั้นเอง ผมก็แอบใช้มือดึงรูดกางเกงในของเธอออกมากองไว้ที่หน้าขา พร้อมกับใช้ปลายนิ้วจู่โจมเล่นงานเม็ดเสียวของเธออย่างสะดวก
“อุ๊ย..! ซี้ดดส์ ไม่เอา อะ.. อายเค้า” พี่เป้ร้องห้ามด้วยเสียงกระซิบ ยิ่งกระตุ้นยั่วให้ผมอยากแกล้งเธอมากขึ้นไปอีก ผมเอื้อมมืออีกข้างที่กำลังโอบเธออยู่ทางด้านหลัง เลื่อนลงมาบีบคลึงหน้าอกเธอเบาๆ เขี่ยสะกิดไปที่ปุ่มปทุมถันของเธอรัวๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์หงี่ให้ปะทุขึ้น ส่วนมือที่อยู่ข้างล่างก็ทั้งล้วงทั้งควักร่องหีของเธอที่เปียกเยิ้มไปด้วย พี่เป้ได้แต่นอนพิงเบาะหลับตา กัดฟันข่มความเสียวเอาไว้กรอดๆ พยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้มีเสียงครางเล็ดลอดออกมา... ผมตกเบ็ดให้เธออยู่ครู่นึง ก็แอบเห็นเจ้าคู่รักชาวญี่ปุ่นสองคนนั้น ลุกขึ้นจูงแขนเดินออกไปกันเงียบๆ ทั้งที่หนังยังฉายไม่จบซักหน่อย ไม่รู้ว่ามันจะไปเล่นบทเลิฟซีนกันต่อที่ไหนอีก แล้วนี่มันจะเข้ามาดูหนังในโรงแพงๆ ทำไมให้เปลืองเงินวะเนี่ย แต่.... จะไปว่ามันก็ไม่ถูกนะ เพราะเราสองคนตอนนี้ก็แทบจะไม่ได้สนใจเรื่องราวบนจอที่กำลังฉายอยู่เหมือนกันนั่นแหละ
พอเห็นว่าที่นั่งแถวเดียวกันตอนนี้ไม่มีคนอื่นเหลืออยู่แล้ว ผมจึงยิ่งได้ใจ ค่อยใช้มือรูดซิปกางเกงออก ล้วงเข้าไปด้านใน ก่อนจะควักลำควยอวบอ้วนของตัวเองให้มุดโผล่ออกมา ดึงมือนุ่มๆ ของพี่เป้ให้ขยับมาเกาะกุมปลายหัวของมันด้านบน พี่เป้ทำท่าทางสะดุ้งตกใจเล็กน้อย เมื่อได้สัมผัสเข้ากับท่อนลำของผมเต็มๆ มือเป็นครั้งแรก หลังจากที่แคล้วคลาดกันมาโดยตลอด ท่อนเอ็นอุ่นๆ กระตุกหงึกๆ ถูไถกับปลายนิ้วของเธออย่างสู้มือ
“ว้ายโจ้...! ทำไมมันทั้งใหญ่ ทั้งแข็งแบบนี้....” พี่เป้อุทานออกมาเบาๆ ด้วยความตกใจ ก็แหงล่ะครับ เพราะช่วงหลังๆ เธอได้เจอแต่ท่อนควยนุ่มๆ ของพี่บอยมาโดยตลอด พอได้มาเจอท่อนเหล็กแข็งโป๊กของผมนี่ ก็คงแอบเสียววาบๆ เวลาที่นึกภาพท่อนลำยาวใหญ่ มุดเข้ามุดออกคว้านร่องรูหีของเธอนั่นแหละ
“ใหญ่กว่าพี่บอยมั้ยครับ?” ผมแกล้งกระซิบถามย้ำเธอให้เห็นถึงความแตกต่าง
“โห... ใหญ่กว่าดิแก แบบนี้เข้าไม่ไหวหรอก... ตายพอดี” เธอกระซิบกระซาบกลับมาด้วยน้ำเสียงหวั่นๆ แต่มือเธอก็ไม่ได้อยู่นิ่งนะครับ จับรูดสัมผัสท่อนลำของผมไปทั่วด้วยความสงสัยใคร่รู้
“แหม.... พี่เป้นี่ ใจคอจะให้ผมอึ๊บพี่ในนี้เลยเหรอครับ ใจร้อนจัง” ผมแกล้งพูดยั่วเธอ
“บ้าๆๆ ไม่ได้บอกซะหน่อย แค่บอกว่ามันใหญ่เกินไปย่ะ” เธอรีบแก้ตัว
“ไม่บอกก็ไม่บอกครับ แต่.... พี่เป้ช่วยรูดให้ผมหน่อยนะครับ กำลังเสียวเลย อูยยย” ผมร้องครางออกมา ใช้ปลายนิ้วบี้คลึงเม็ดแตดสลับกับการชักนิ้วเข้าออกหีเธอเป็นการตอบโต้ พี่เป้ที่ได้ยินแบบนี้ก็คงแอบเงี่ยนไม่น้อยเหมือนกัน ใช้มือขวารูดถอกลำควยแรงๆ เป็นจังหวะ... เราผลัดกันใช้มือช่วยอยู่แบบนี้ ไม่นานพี่เป้ก็ชิงถึงจุดไปก่อนเป็นคนแรก ร่องหีของเธอตอดขมิบรัดนิ้วผมแรงๆ 4-5 ที หลับตาปี๋ทำคิ้วขมวดหน้าบึ้ง เนื้อตัวกระตุกสั่นเบาๆ โชคดีที่เธอยังพอข่มเสียงครางของตัวเองเอาไว้ได้ ก่อนที่เธอจะเอนหลังพิงเบาะอย่างเหนื่อยหอบ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เธอกำลังถึงจุดสุดยอดนั้น มือของพี่เป้ก็ยังเกาะกุมบีบควยผมแน่นไม่ยอมปล่อย
ยังไม่ทันที่ผมจะได้ทำอะไรต่อ หนังก็ดันจบซะก่อน พอไฟในโรงถูกเปิด เราสองคนก็รีบจัดแจงแต่งตัวให้เรียบร้อยเหมือนเดิม ผมรูดซิปเก็บควยเข้าที่ทั้งที่มันยังคงแข็งตัวอยู่แบบนั้น แอบหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะกำลังอารมณ์ค้างสุดๆ รีบจูงมือพี่เป้เดินออกจากโรงเร็วๆ เพื่อพาเธอไปที่ลานจอดรถให้เร็วที่สุด ผมพาเธอขึ้นมานั่งในรถตัวเองที่ติดฟิล์มดำสนิท พี่เป้นั่งลงที่เบาะข้างคนขับด้วยอาการงุนงง คงนึกแปลกใจว่าทำไมผมถึงลากเธอออกมาจากห้างอย่างกะทันหันแบบนี้
“พี่เป้ช่วยผมต่อนะครับ ผมเสียวจนทนไม่ไหวแล้ว” ผมควักท่อนควยออกมาจากกางเกงอีกครั้ง พี่เป้มองแล้วทำหน้ายี้ใส่เหมือนเหนื่อยใจกับความหื่นของผม
“หื่นว่ะ... ที่ลากชั้นมาถึงนี่เพื่อเรื่องนี้เรื่องเดียวเลยใช่มั้ยเนี่ย?” เธอถามด้วยน้ำเสียงงอนๆ เคืองๆ
“ก็แหม... พี่เป้เสร็จไปแล้วแต่ผมยังนี่นา ดูสิครับ มันแข็งจนจะระเบิดอยู่แล้วเนี่ย” ผมพูดอ้อนๆ
“ก็แล้วทำไมไม่ทำเองล่ะยะ จะเสร็จอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?” เธอยังแกล้งทำเป็นใจแข็งไม่ยอมทำให้
“นะครับๆ ช่วยผมนะคนดี นะๆๆ” ผมพูดพลางดึงมือเธอมาจับมันไว้แน่น พี่เป้ถอนหายใจก่อนจะขยับมือรูดช้าๆ ฝ่ามือนุ่มๆ ของเธอรูดถอกท่อนลำของผมยาวลงไปจนสุดโคน บางจังหวะเธอก็บี้คลึงหัวบานไปด้วยเพื่อช่วยเพิ่มความเสียว
“มีทิชชู่ป่ะ?” เธอเอ่ยถาม ผมจึงเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่ที่เบาะหลัง ฉีกมันออกมายาวๆ แล้วส่งให้เธอ พี่เป้ใช้มือรูดควยให้ผมได้ไม่ถึง 10 นาที น้ำเงี่ยนเหนียวหนืดสีขาวขุ่นก็พุ่งกระฉูดออกมาเลอะเต็มทิชชู่ที่กางรองอยู่
“อูยย... พี่เป้ สุดยอดเลยครับ” ผมครางชมเธอเบาๆ พี่เป้ดึงทิชชู่มาอีกแถบใหญ่ๆ ใช้มันขยำห่อม้วนกระดาษที่เปียกเยิ้มก่อนหน้านี้แล้วหย่อนลงไปในถังขยะเล็กๆ บนรถ
“พอใจยัง? ชั้นจะกลับบ้านแล้วนา” เธอใช้ทิชชู่ที่เหลือเช็ดมือตัวเองไปพลางๆ
“ครับพี่ สบายตัวแระ งั้นเดี๋ยวผมไปส่งที่รถนะ” ผมขับพาเธอไปส่งใกล้ๆ ตำแหน่งที่เธอจอดรถเอาไว้ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน โดยที่ผมยังคงส่งไลน์ไปรายงานผลให้พี่บอยฟังเหมือนเดิม
ความสัมพันธ์(เหมือนจะ)ลับๆ ของเรา ก็ยังคงดำเนินต่อไปในรูปแบบนี้อยู่ราวๆ 2 เดือน ถึงตอนนี้ผมกับเธอก็แทบจะกลายเป็นแฟนกันไปอยู่แล้ว สรรพนามที่เธอใช้เรียกแทนตัวผมก็ดูจะสนิทสนมกันมากกว่าแต่ก่อน จนในที่สุด ผมก็ตัดสินใจได้ว่า ความสัมพันธ์ของเรามันคงสุกงอมเพียงพอที่จะเด็ดกินได้แล้ว จึงส่งไลน์ไปขออนุญาตพี่บอย ว่าวันนี้จะขอปิดเกมพี่เป้ให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย และย้อนถามความสมัครใจของพี่บอยอีกทีว่าโอเคไหม พอพี่แกตอบตกลง ผมจึงเล่าแผนการคร่าวๆ ที่วางไว้ให้ฟัง โดยจะทำทีเป็นชวนเธอมาดูพื้นที่คอนโดเหมือนเดิมในช่วงบ่าย โดยที่เราสองคนจะลางานเพื่อนัดเจอกันที่นั่น ก่อนที่ผมจะหาโอกาสรวบหัวรวบหางเธอไปเลย พี่บอยฟังแล้วก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่กำชับเรื่องคลิปแอบถ่ายว่าห้ามให้หลุดไปข้างนอกเด็ดขาด ผมยืนยันรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ เสร็จแล้วก็โทรชวนพี่เป้สุดที่รักให้มาเจอกันทันที ซึ่งแน่นอนว่าเธอตอบตกลง
พอพี่เป้มาถึงห้อง ผมก็ทำทีเป็นปรึกษาเรื่องพื้นที่ห้องรับแขกที่จะวางเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติม นั่งพยักหน้าฟังเธออธิบายเรื่องเครื่องเรือนต่างๆ อยู่พักใหญ่ๆ ซักพักผมก็เริ่มเก็บอาการไม่ไหว มื้อไม้เริ่มเลื้อยซุกซนไปมา ลูบไล้หน้าขาเธอขึ้นลง พี่เป้ดูจะเขินๆ นิดหน่อย เอ่ยปากร้องห้ามปรามแบบอายๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการปัดป้องใดๆ ออกมา ผมเห็นว่าเธอคงปฏิเสธแค่พอให้ดูไม่น่าเกลียดเท่านั้น จึงออกแรงรวบตัวเธอมากอดเอาไว้แน่น ก่อนจะระดมจูบซุกไซร้ซอกคอขาวๆ ของเธอให้ชื่นใจ
“อย่าซี่... โจ้อ่ะ” เธอร้องเสียงสั่น เนื้อตัวอ่อนระทวยไปมาในอ้อมกอดของผม
“พี่เป้ ตัวหอมจังเลยครับ” ผมพูดแล้วก็ก้มลงไปดอมดมกลิ่นสาวของเธอจนชุ่มปอด ก่อนจะใช้มือเชิดคางเธอขึ้นมา แล้วก้มลงไปประกบปากจูบเธออย่างดูดดื่ม เราดูดปากกันอย่างเร่าร้อนและยาวนาน พี่เป้ถึงกับเคลิ้มจนแทบจะลืมหายใจไปเลย ได้แต่ใช้มือลูบแผ่นหลังของผมไปมาเบาๆ ปล่อยตัวปล่อยใจให้ผมสอดลิ้นคว้านเข้าไปในปากเธออย่างถึงพริกถึงขิง พอผมถอนปากออกมาเพื่อพักหายใจ พี่เป้ก็ตัวอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟไปหมดแล้ว ใบหน้าแดงซ่านด้วยอารมณ์เสียวสยิว หอบหายใจเหนื่อยๆ
ผมจ้องมองทรวงอกที่สั่นกระเพื่อมของเธอ ก่อนจะเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเธอออกอย่างเร่งรีบ ถลกเสื้อกล้ามสีขาวด้านในขึ้นไปกองไว้เหนืออก ใช้มือลูบคลึงเต้านมอวบของเธอผ่านเนื้อผ้ายกทรง สะกิดเขี่ยหัวนมไปมาจนพี่เป้ร้องครางอือๆ พอเล่นกับด้านบนจนหนำใจแล้ว ผมก็เลื่อนมือลงไปแกะกระดุมกางเกงยีนส์ของเธอที่ด้านล่างต่อจนมันหลุดออก เผยให้เห็นกางเกงในผ้ายืดสีดำแบบเต็มตัวที่ซ่อนอยู่ด้านใน
“อืมมม พี่เป้ครับ พี่เป้หุ่นดีจังเลย” ผมพร่ำเพ้อชื่นชมเรือนร่างของเธอในสภาพเกือบเปลือยเปล่า ท่อนบนถูกถลกอ้าจนมองเห็นยกทรงสีดำที่ปกปิดสองเต้าอวบ ขณะที่ท่อนล่างก็เหลือเพียงกางเกงในสีดำขลับตัดกับน่องขาขาวอวบของเธอ มือผมก็ลูบไล้ไปมาเพื่อคอยกระตุ้นอารมณ์เธอไปด้วย
“อืมมมมม... โจ้.... อ่ะ....” พี่เป้นอนหลับตาเอนหลังพิงกับโซฟา ใบหน้าแหงนเริ่ด ปล่อยให้ผมได้ฟอนเฟ้นเรือนร่างของเธออย่างสนุกมือ ผมใช้มือปลดตะขอยกทรงเธอออก เต้านมขาวอวบคู่งามดีดผึงออกมาปรากฏตรงหน้า ผมเห็นแล้วก็อดใจไม่ไหว ต้องก้มลงไปใช้ริมฝีปากงับเข้าที่ปลายหัวนมทันที
“อื๊ออออออ..... อื๊ออออ....” พี่เป้หลุดครางออกมาด้วยความเสียวที่ไม่ทันตั้งตัว ผมยิ่งได้ใจหนัก ใช้มือขวาบีบคลึงฐานเต้านมของเธอจนมันบุบบี้เหมือนกับลูกโป่งที่กำลังจะแตกในไม่ช้า ดูดเลียหัวนมสองข้างสลับกันไปมา พอชิมรสชาติสองเต้าของเธออย่างสาแก่ใจแล้วก็เปลี่ยนเป้าหมายลงมาเล่นงานด้านล่างต่อทันที
กางเกงในของเธอตอนนี้เปียกชื้นไปด้วยคราบน้ำเงี่ยนที่เลอะเยิ้มเป็นดวง ผมมุดลงไปใช้ลิ้นเลียเข้ากับติ่งเสียวของเธอผ่านเนื้อผ้ากางเกงใน ได้กลิ่นคาวๆ เค็มๆ ลอยติดจมูก อืมม กลิ่นหีของเธอยังคงกระตุ้นอารมณ์เงี่ยนได้ดีเช่นเคย สองขาของพี่เป้แบะเกร็งสั่นระริกจากความเสียวที่ได้รับ เธอแอ่นสะโพกบดอัดเข้ากับใบหน้าของผมอย่างสู้ไม่ถอย ผมใช้ลิ้นเลียจนหน้าขาของเธอเปียกเลอะไปด้วยคราบน้ำเงี่ยน ก่อนจะค่อยๆ จับรูดกางเกงในของเธอออก ใช้สองมือแหวกกลีบแคมแดงสวยให้อ้าออกอย่างชัดเจน พงหมอยด้านบนของเธอแอบเปียกเยิ้มนิดๆ เป็นคราบใส
“ว้าย!... โจ้ ไม่เอานะ มันน่าเกลียด!” พี่เป้ร้องอุทานเมื่อเห็นว่าผมกำลังเพ่งจ้องไปที่รูหีของเธอแบบชัดๆ เต็มสองตา
“หีพี่เป้สวยมากเลยครับ ผมเห็นแล้วอดใจไม่ได้จริงๆ” ผมพูดจบก็ตวัดลิ้นปาดเลียเข้าไปกลางร่องเสียวของเธอแบบเต็มๆ นิ้วโป้งบดบี้คลึงเม็ดแตดเธอไปด้วยอย่างมันมือ สอดแยงนิ้วกลางเข้าไปสัมผัสกับความเปียกชื้นและอบอุ่นที่อยู่ภายในร่างกายของเธอ พี่เป้โดนไม้นี้เข้าไปก็ได้แต่ดิ้นเร่าๆ แหกปากร้องครางออกมาแบบสุดเสียง อ๊ะะ.... อ๊ะ.... อาาา.... อาาาา.....!! ผมใช้มือเกี่ยวเบ็ดและลงลิ้นให้เธออยู่พักหนึ่ง ก็ค่อยๆ รูดกางเกงและกางเกงในของตัวเองออกมากองไว้ที่พื้น ท่อนควยบานเยิ้มแอ่นชี้หน้าพี่เป้อย่างท้าทาย พี่เป้จ้องมองมันอย่างกล้าๆ กลัวๆ ผมเห็นแล้วก็อมยิ้มก่อนจะเอ่ยปากอ้อนขอให้เธอทำอะไรบางอย่างให้
“พี่เป้ครับ ทำให้ผมหน่อยนะครับ...” พี่เป้ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ใช้มือจับรูดท่อนควยของผมถอกขึ้นลงช้าๆ พร้อมกับค่อยๆ เร่งจังหวะความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ
“อูยยยย... พี่เป้.... พี่เป้อมให้ผมนะ.... นะครับ นะ นะ....” คำออดอ้อนของผมเล่นเอาพี่เป้ถึงกับชะงักหยุดมือทันที
“ไม่เอานะโจ้... พี่ขอไม่ทำนะ... พี่ไม่กล้า...” พี่เป้รีบร้องปฏิเสธน้ำเสียงจริงจัง ผมเห็นแบบนี้แล้วก็ไม่อยากฝืนใจเธอหรอกครับ พยักหน้าให้เธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะก้มลงไปประกบปากจูบเธออีกครั้งด้วยความเร่าร้อน ลิ้นของเราสองคนเกี่ยวกระหวัดรัดกันราวกับเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด เอ้ย! มือของพี่เป้ยังคงรูดกระถอกท่อนควยของผมอย่างเมามัน ขณะที่ผมเองก็ไม่ยอมแพ้ ใช้นิ้วเกี่ยวเบ็ดคลึงแตดให้เธอไปด้วยพร้อมๆ กัน
เราดูดปากกันอยู่อีกพักใหญ่ๆ ผมก็ใช้มือดันตัวพี่เป้ออก ค่อยๆ ประคองให้เธอนอนหงายลงไปบนเบาะโซฟา ช้อนขาเธอให้กางแนบลำตัวผมไว้ เอื้อมมือไปหยิบถุงยางมาใส่ด้วยความเร่งรีบ ก่อนจะจรดท่อนควยหัวบานเขื่องไปจ่อไว้ที่ปากร่องอันเปียกเยิ้มของเธอ เราสบตากันครู่หนึ่งโดยที่ไม่ต้องมีคำพูดใดๆ ออกมา ต่างคนก็ต่างเข้าใจในความหมายที่ส่งผ่านนัยน์ตาของกันและกัน พี่เป้หลับตาก่อนจะพยักหน้าเบาๆ เป็นสัญญาณ บ่งบอกว่าเธอพร้อมแล้วที่จะรับผมเป็นผัวคนที่สอง ก่อนที่ผมจะค่อยๆ ออกแรงกดท่อนควยมุดเข้าโพรงหีของเธอช้าๆ มันค่อนข้างแน่นสนิทอยู่พอสมควร ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะพี่บอยแกไม่ค่อยได้ทำการบ้านเท่าไหร่ หรือเป็นเพราะว่าควยแกเล็กกว่าผมกันแน่
ผมนึกย้อนไปถึงครั้งแรกที่ได้รู้จักกับเธอเมื่อสมัยเรียน นึกภาพสาวแว่นหน้าหมวยคนนั้น ยัยจอมแสบที่เคยเป็นคู่กัดกันมาโดยตลอด นึกถึงคำพูดคำด่าที่เราเคยโต้เถียงกันเป็นร้อยๆ ครั้ง รวมไปถึงภาพรอยยิ้มยิงฟันตาหยีที่แสนจะคุ้นเคยของเธอ เมื่อครั้งกำลังยืนอยู่ในชุดเจ้าสาวเคียงข้างกับพี่บอยผู้เป็นเจ้าบ่าวบนเวที... ซึ่งดูจะตรงกันข้ามกับใบหน้าของเธอในตอนนี้ ที่กำลังบิดเบี้ยวเหยเกอย่างน่าสงสาร เมื่อโดนท่อนควยผมทะลวงคว้านรูหีของเธอจนมันบานอ้า กลีบแคมรอบข้างปลิ้นเข้าปลิ้นออกอย่างดูไม่จืด
“โอ๊ยยย...! โจ้ เบาๆ ก่อน พี่เจ็บ” พี่เป้ร้องกรี๊ดออกมา ทันทีที่ควยผมกดหายเข้าไปได้ครึ่งลำ
“อูยยย ทนนิดนึงนะครับพี่ จะสุดแล้ว” ผมพูดปลอบใจเธอ ค่อยๆ บดเอวดันควยมุดลึกเข้าไปอีก
“อื๊ออออ.... โอ๊ย มันแน่น....” พี่เป้ดิ้นตัวไปมาอยู่บนโซฟา พยายามเอามือดันตัวผมออกอย่างไร้ผล ผมค่อยๆ แดะบั้นเอวกระดกเบาๆ ส่งท่อนลำมุดลึกหายเข้าไปจนสุด พร้อมกับกอดเธอไว้แน่น เพื่อให้เธอได้พักจากความเจ็บปวด
“อืมม... สุดโคนแล้วครับพี่เป้” ผมกระซิบบอกเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พี่เป้มองผมด้วยสายตาเคลิบเคลิ้มผ่านกรอบแว่นตา ใบหน้าหมวยๆ ที่แสนจะเรียบร้อยของเธอตอนนี้ดูร้อนร่านผิดกันเป็นคนละคน... ผมค่อยๆ ออกแรงกระเด้าควยมุดเข้ามุดออกเป็นจังหวะเนิบๆ พี่เป้เสียวจนต้องใช้มือจิกแผ่นหลังของผมเอาไว้แน่น เสียงท่อนเนื้อที่รูดเข้าออก ตีกระทบกับหน้าขาดังเป็นจังหวะ ปั่บ......... ปั่บ..... ปั่บ..........ปั่บ... ปั่บ...ปั่บ...ปั่บ..ปั่บ..ปั่บ ยิ่งผมซอยเร็วขึ้นเท่าไหร่ เสียงพี่เป้ก็ยิ่งร้องโหยหวนดังตามมาเท่านั้น
“อ๊ะ.....อ๊ะ.... อ๊ะะะ.... อาาา..... โจ้..... อ๋าาาาา ซี้ดดดส์” พี่เป้หวีดร้องเสียงดัง ในทุกๆ ครั้งที่ท่อนควยของผมกดเบียดเสียดแคมหีของเธอจนปลิ้นเข้าปลิ้นออก ใบหน้าของเธอตอนนี้ขมวดยับยู่ยี่ด้วยอาการเสียวเกร็ง
“โอ๊ย... หีพี่นี่สุดๆ ไปเลย ฟิตสมใจผมมาก พี่เป้เสียวมั้ย?” ผมร้องครางชมเธออย่างสาแก่ใจ
“โอ๊ยย เสียวว.....ววว” พี่เป้ครางตอบกลับมาเสียงสั่น พร้อมกับสะบัดหน้าขึ้นลงอย่างเมามันในอารมณ์
ผมเย็ดเธอในท่าเบสิคอยู่ครู่ใหญ่ ก็นึกอยากลองเปลี่ยนท่าดูบ้าง ค่อยๆ ถอนลำควยออกมาจนมันหลุดดังผั๊วะ ขยับลงไปเป็นฝ่ายนั่งเอนพิงกับโซฟาไว้ แล้วดึงตัวพี่เป้ขึ้นมานั่งคร่อมทับผมโดยให้เธอหันหน้าเข้ามาหากัน เธอปีนขึ้นมากางขาคร่อมผมอย่างเก้ๆ กังๆ เหมือนไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ พอตั้งหลักได้ที่แล้ว ก็ค่อยๆ ออกแรงกดสะโพกทิ้งตัวลงมา อ้าอมท่อนควยของผมให้จมหายเข้าไปในร่องหลืบของเธอ ผมพยายามช่วยเธออีกแรงด้วยการกระดกก้นรัวๆ ส่งลำควยมุดเข้าหีเธอแบบเต็มๆ คำ พี่เป้ถึงกับร้องกรี๊ดๆ เมื่อโดนท่อนเนื้อกระแทกอัดจากด้านล่างอย่างต่อเนื่อง
“อ๊าาาา.... อ๊ะ.. อ๊ะ.... อ๊าาา อ๋าาาาาา อ๊ะ.....โจ้..... พี่เสียวววว.....” พี่เป้ปล่อยเสียงครางออกมาดังๆ อย่างสะใจ
“ผมก็เสียวควยเหมือนกันครับพี่เป้...” ผมจูบซุกไซร้เต้านมของเธอไปด้วย ดูดเม้มจนหัวนมเธอแทบจะหลุดตามมา เส้นผมของเธอปลิวสยายไปตางแรงกระแทกของเราสองคน เธอนั่งขย่มตอผมได้อีกราวๆ 10นาทีก็มีอาการบิดเกร็ง ใบหน้ายับยู่ยี่ทำท่าทางเหมือนจะร้องไห้ แหกปากร้องครางเสียงดัง เนื้อตัวสั่นริกๆ คล้ายกับกำลังจะระเบิด
“ฮือออ.... ฮืออ... โอ๊ยยย..... พี่.... จะไม่ไหวแล้วนะ....” พี่เป้ส่งสัญญาณแสดงท่าทีว่าใกล้จะถึงจุดกระสันต์เสียวสุดยอดแล้ว ผมเลยใช้สองมือจับยึดสะโพกเธอแนบเข้าหาตัวให้แน่นขึ้น ปากก็ดูดนมจ๊วบๆ เร่งกระเด้าควยใส่หีเธออย่างรุนแรง จนพี่เป้ตัวคลอนไปมาตามแรงกระแทก เธอร้องกรี๊ดๆ ออกมาอย่างสุดเสียง แข่งกับเสียงของท่อนเนื้อที่อัดกระทบกันดัง ปั่บบบ....... ปั่บบบ.... ปั่บบบบ.....!! ก่อนที่ร่างของเธอจะตอดกระตุกเฮือกๆ เมื่อถึงจุดสุดยอด
“โอ๊ยยยย.... ไม่ไหวแล้ว....วววววว.... ” พี่เป้ร้องออกมาเสียงดัง ใช้สองมือจิกข่วนแผ่นหลังของผมด้วยความเสียวซ่าน บดอัดหน้าขาหากันอย่างรุนแรง น้ำเงี่ยนของเธอไหลทะลักออกมาจนนองไปทั่วหน้าขาผม พี่เป้ผวากอดผมไว้แน่น พร้อมกับหอบหายใจหนักๆ อย่างเหนื่อยอ่อน
ผมรอจนเธอเริ่มที่จะคลายจากอาการเสียวเกร็ง แล้วจึงค่อยๆ จับเธอนอนหงายลงบนโซฟาอีกครั้ง กดท่อนควยมุดกลับเข้าไปในรูหีเธอ และเร่งกระเด้าอัดควยแบบหนัก พี่เป้ส่งเสียงครางระงมด้วยความเสียวซ่าน แม้ว่าจะพึ่งเสร็จสมอารมณ์หมายไปแล้วเมื่อกี้ ผมกระแทกหีเธอเน้นๆ ด้วยความรุนแรงอยู่ประมาณ 5 นาที ก็เริ่มเสียวควยจนชักจะทนไม่ไหว ขยับตัวชักควยออก พร้อมๆ กับรูดถุงยางที่ครอบอยู่ทิ้ง ใช้มือสาวรูดท่อนลำของตัวเองได้อีกไม่กี่ที ก็ปล่อยน้ำเชื้อพุ่งกระฉูดเลอะเต็มหน้าท้องขาวๆ ของพี่เป้ ก่อนที่ผมจะล้มตัวลงไปนอนกอดเธออย่างเหนื่อยอ่อน เราสองคนนอนสบตากันโดยไม่มีใครพูดอะไรออกมา ผมก้มหน้าลงไปจูบปากเธออย่างแผ่วเบา พี่เป้เองก็จูบตอบกลับมา รู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นแรงแปลกๆ... เราสองคนนอนกอดกันจนหายเหนื่อย จึงค่อยขยับตัวฉุดดึงร่างของอีกคนให้ลุกขึ้น ก่อนจะพากันเดินจูงมือเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวในห้องน้ำ
“ดีมั้ยครับ?” ผมเอ่ยถามเธอขึ้นมาขณะช่วยพี่เป้ถอดรูดเสื้อผ้าออกในห้องน้ำ เธอหันมามองแล้วก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เพียงแค่พยักหน้าเขินๆ เป็นคำตอบ
“แล้วพี่เสียใจรึเปล่า?” ผมถามเธอต่ออีก
“เรื่องนี้น่ะเหรอ?” พี่เป้ถามกลับเหมือนไม่แน่ใจ
“อื้อ... เรื่องที่มีอะไรกับผมน่ะ” ผมตอบเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ใช้มือลูบผมเธอไปเบาๆ พี่เป้นิ่งคิดอยู่ครู่นึงก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ถ้าพี่ตอบว่าไม่ได้เสียใจ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกผิด โจ้จะมองว่าพี่เป็นผู้หญิงไม่ดีป่ะ?”
“ไม่หรอกครับ...” ผมปลอบเธอให้หายกังวล
“ผมแค่กลัวว่าตัวเองจะทำให้พี่สองคนมีปัญหากัน” ผมเปิดประเด็นไปถึงเรื่องของพี่บอยบ้าง พี่เป้มองผมด้วยสายตาแฝงความนัยบางอย่าง มันเป็นสายตาในแบบที่ผมไม่เคยเห็นจากเธอมาก่อน
“พี่ยังรักพี่บอยอยู่เหมือนเดิม ยังอยากใช้ชีวิตคู่ร่วมกันกับพี่เค้าในฐานะของพ่อแม่ลูกเหมือนที่ผ่านมา แต่กับโจ้... เรื่องของพี่กับโจ้มันเป็นเรื่องความสัมพันธ์บนเตียง มันเป็นความสุขทางกายบางอย่างที่พี่บอยเค้าทำให้พี่ไม่ได้มาเป็นปีแล้ว....” พี่เป้ร่ายยาวให้ผมเข้าใจ ซึ่งก็แปลกดี ที่เธอมองเรื่องเซ็กส์กับความรักแยกออกจากกันอย่างชัดเจน เพราะโดยปกติแล้ว ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะมองว่าสองเรื่องนี้มันคือเรื่องเดียวกันเสมอ... อาจเพราะว่าพี่เป้เธอมีนิสัยห้าวๆ แมนๆ เหมือนผู้ชายด้วยล่ะมั้ง ถึงได้มีมุมมองความคิดแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ แบบนี้
“แล้วพี่.... พี่รักผมมั่งรึเปล่าครับ” ผมถามสิ่งที่ยังค้างคาใจอยู่ลึกๆ
“พี่รู้สึกดีกับโจ้นะ... แต่ถ้าพูดตรงๆ แล้ว จะให้พี่ไปเริ่มต้นความสัมพันธ์อะไรกับโจ้มากกว่านี้คงจะทำไม่ได้ ถ้าเกิดว่าพี่เลือกทำแบบนั้นลงไป พี่คงรู้สึกผิดกับพี่บอย... ผิดกับลูก... แล้วก็คงรู้สึกเกลียดตัวเองมากๆ ที่เลือกอะไรเห็นแก่ตัวแบบนั้น...” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด เสียงเธอเริ่มสั่นเหมือนกำลังจะร้องไห้อยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจดี พี่ไม่ต้องคิดมากนะ แค่พี่มีเวลาให้ผมบ้างแบบนี้ แค่เวลาที่พี่เหงาๆ หรืออยากหาใครเป็นเพื่อน แค่นี้ผมก็มีความสุขพอแล้ว” ผมพูดแล้วขยับไปจูบปากเธอเบาๆ น้ำตาพี่เป้ค่อยๆ ไหลออกมาช้าๆ เธอจูบปากผมตอบเหมือนอยากจะขอบคุณ
“โอ๋ๆๆ อย่าร้องสิคนดี ร้องไห้แบบนี้เดี๋ยวไม่สวยนะ” ผมแกล้งพูดกระเซ้าเธอให้หายเครียด
“ไอ้บ้า... ต่อให้ร้องไห้ขี้มูกโป่งชั้นก็ยังสวยย่ะ” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะทั้งน้ำตา
พอเราอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จก็เกือบจะ4 โมงครึ่งแล้ว ผมเลยชวนพี่เป้ลงไปหาอะไรทานข้างล่าง นั่งทานอาหารตามสั่งกันครู่หนึ่ง พออิ่มแล้วก็พากันขึ้นมานั่งดูทีวีซบไหล่กันที่โซฟาบนห้อง พี่เป้มัวแต่สนใจภาพจากหนังแอ็คชั่นบนจอทีวีตาแป๋ว ขณะที่ตัวผมเองกลับลุกลี้ลุกลนอยู่ไม่สุข เนื่องจากกลิ่นกายหอมๆ ของเธอมันไปกระตุ้นอารมณ์ของผมให้ตื่นขึ้นมาอีก จนผมทนความเงี่ยนไม่ไหว จึงโน้มหน้าลงไปซุกไซร้เข้าที่ทรวงอกของเธอ มือก็ลูบไล้หน้าขาของเธอสูงขึ้นเรื่อยๆ
“อือ.... โจ้ หื่นอีกแล้วเหรอ..?” เธอครางฮือเบาๆ
“พี่เป้ตัวหอมจัง.... ผมอยากหอมพี่เป้ไปทั้งตัวเลยครับ” ผมพูดแล้วก็ค่อยๆ มุดลงไปดอมดมกลิ่นกายของเธอต่ำลงเรื่อยๆ จนกระทั่งใบหน้าลดลงไปอยู่ในระดับเดียวกับเป้ากางเกง
“อึ่.... อืมมมมม พี่ขี้เกียจอาบน้ำแล้วน๊า....” เธอพยายามร้องห้าม น้ำเสียงออดอ้อนน่ารัก
“ถ้างั้น ขอผมจูบตรงนั้นของพี่เป้ก็พอนะครับ นะ...” ผมอ้อนขอจนเธอต้องยอมพยักหน้าให้จนได้ ผมจับสองขาเธอแบะอ้าออกจากกัน รูดกางเกงยีนส์พร้อมกับกางเกงในของเธอออกมากองไว้ที่ข้อเท้า ก่อนจะลงมือดูดกินกลีบสาวของเธออย่างหิวกระหาย
“อ๊ะะ....! อาาาาห์... อื้มมมม.... อาาาาห์” เสียงพี่เป้ครางกระเส่าไม่เป็นจังหวะ ผมทั้งเลีย ทั้งคว้าน ทั้งปาดจนก้นเธอแอ่นร่อนไม่ติดเบาะโซฟา
ผมลงลิ้นให้เธออยู่ราวๆ 6-7 นาที พี่เป้ก็ตัวกระตุกเกร็ง น้ำแตกพรวดๆ ออกมาเลอะเต็มปาก เธอนอนพิงกับโซฟาหลับตาอย่างหมดแรง ผมขยับไปหยิบทิชชู่มาเช็ดทำความสะอาดเนินเนื้อสาวของเธอจนมันเข้าที่ ช่วยเธอแต่งตัวจนเสร็จ แล้วก็กลับมานั่งซุกตัวกอดกันบนโซฟาเหมือนเดิมอย่างรักใคร่ จนกระทั่งเข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาเกือบๆ จะ 6 โมงนั่นแหละ พี่เป้จึงเอ่ยปากขอตัวกลับบ้าน เพราะไม่อยากให้พี่บอยสงสัย ผมอาสาเดินลงมาส่งเธอขึ้นรถ พี่เป้ลดกระจกลงมาหอมแก้มผมก่อนกลับอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ขับรถออกไป ผมยืนมองรถเธอค่อยๆ เคลื่อนตัวห่างออกไปจนลับตา พร้อมๆ กับสัมผัสได้ถึงก้อนความรู้สึกบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ
นี่ผมกำลังคิดอะไรเกินเลยกับเธอ เกินกว่าที่ตั้งใจเอาไว้ตอนแรกรึเปล่า....?
วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2566
[Side Story] เรื่องเล่าของนายโจ้ยอดชาย : พี่เป้ #2
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น