เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่ออ่านเฉพาะกลุ่ม ชื่อตัวละครถูกสมมติขึ้นทั้งสิ้นมิได้มีตัวตนอยู่จริง กรุณาอย่านำไปโพสต์ต่อข้างนอก อันนี้ไม่ได้หวงแต่เพราะผมไม่อยากให้ผู้ที่ไม่ได้มีความชื่นชอบตรงกันขุดโคตรผู้แต่งนั่นก็คือผมขึ้นมาด่า และผมหวังว่าจะใช้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้ต้องการให้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติแต่อย่างใด ขอบคุณครับ...jam
“โจ๊ก... โจ๊ก...” เสียงเรียกพร้อมกับแรงเขย่าที่หัวไหล่พาให้ผมตื่นลืมตา ภาพเบื้องหน้าที่เห็นคือพี่สาวผมนั่นเอง นี่ผมคงเผลอหลับอยู่บนม้านั่งนอกชานนี้ตั้งแต่เมื่อคืน
“กี่โมงแล้วพี่” ผมถามเสียงงัวเงียพลางขยี้ตา
“เกือบ 7 โมงแล้ว” พี่เจี๊ยบตอบพร้อมวางม้วนกระดาษทิชชูลงบนโต๊ะแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน
พอเห็นผมก็ระลึกได้ทันที เมื่อคืนผมปล่อยน้ำว่าวกระฉูดเลอะผนังบ้านนี่หว่า ผมรีบหันไปมองที่เกิดเหตุ แต่เพ่งดูดีแล้วกลับไม่มีร่องรอยของน้ำรักที่ฝากไว้แม้แต่น้อย ผมค่อย ๆ พาร่างกายที่แสนเมื่อยล้าจากการนอนผิดที่ผิดทางเดินไปยังห้อง แต่เมื่อบิดลูกบิดประตูมันกลับล็อค
“สงสัยคงเพลียหนัก... ยังไม่ตื่น...” ผมบ่นกับตัวเองแล้วหันหลังกลับไปเปิดประตูห้องเจ้าชัย
“อ้าวพี่... เมื่อคืนนอนไหน” เจ้าชัยซึ่งกำลังหยิบผ้าขนหนูเหมือนจะออกไปอาบน้ำทักขึ้นเมื่อผมก้าวเข้าห้อง
“นอนข้างนอกอะดิ... แม่งเมา” ผมพูดไปส่ายหัวไปเพราะยังมึน ๆ แต่แล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่กระเป๋าสัมภาระของตัวเองซึ่งวางอยู่มุมห้อง
“อ๋อ... กระเป๋า... แม็คมันขนมาพี่ มันบอกว่าพี่จะนอนห้องนี้” เจ้าชัยคงเห็นผมจ้องที่กระเป๋ามันจึงตอบโดยที่ผมยังไม่ได้ถาม
“เออ ๆ อาบเสร็จแล้วเรียกด้วยแล้วกัน จะอาบต่อ” ผมตอบส่ง ๆ ไปก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียง
<---------------->
ประมาณ 8 โมงกว่า ๆ พออาบน้ำแต่งตัวเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อย ผมจึงลงไปด้านล่าง ที่โต๊ะม้าหินมีเจ้าชัยกับใบปอกำลังนั่งกินโจ๊กพร้อมกับดูโทรศัพท์มือถือ
“พี่โจ๊ก... กินโจ๊ก” เจ้าชัยเอ่ยเรียก ซึ่งผิดกับเมื่อวานที่ใบปอจะดูกระตือรือร้นในการจัดแจงหาของกินมาให้ แต่วันนี้เธอกลับไม่พูดไม่ทักผมสักคำ ผมพยายามคิดหาสาเหตุ ซึ่งดูจากเหตุการณ์เมื่อคืนแล้ว ผมว่าใบปอต้องมีอะไรหมางใจกับพี่เจี๊ยบแน่ ๆ เวลาถัดจากที่ผมลงมาไม่เกินครึ่งชั่วโมง คู่พระนางหนังสดที่ผมกับพี่สาวแอบดูเมื่อคืนก็เดินเข้ามาที่โต๊ะ
“อ้าว... แก้ว... ขาไปโดนอะไรมา” เจ้าชัยถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นไอ้แม็คประคองแก้วที่เหมือนจะเดินขากะเผลก
“เมื่อคืนคงเมาหนัก เดินเตะอะไรไม่รู้” สาวทอมคงเตรียมคำตอบมาก่อนแล้ว จึงสวนกลับได้อย่างไม่เขินอาย ส่วนผมนั้นคิดในใจ ก็โดนดุ้นขนาดมหึมาของไอ้แม็คเข้าไป มันก็ต้องออกอาการกันบ้างแหละ
“พี่แก้วนั่ง เดี๋ยวผมเทโจ๊กให้” ไอ้แม็คค่อย ๆ ประคองแก้วนั่งลงอย่างระวัง ท่าทางของมันดูแลเทคแคร์สาวทอมอย่างเห็นได้ชัด
“อ้าว... สองคนนี้ดีกันแล้วเหรอ เห็นเวลากินเหล้าทีไรดวลกันจะเป็นจะตาย” ผมแกล้งพูดหยอกไปลอย ๆ
“โถ่พี่... ก็เพราะดวลเหล้ากับพี่แก้วนี่แหละ ถึงทำให้พี่เค้าขาเจ็บ” ไอ้แม็ครีบแก้ตัวพัลวัน
“ดีแล้ว ๆ ตัวเราใหญ่ คอยดูแลพี่เค้าด้วย” ผมพูดยิ้ม ๆ แล้วต่างคนก็กินโจ๊กไปคุยเล่นกันไป
<---------------->
เกือบ 10 โมง ทุกคนทยอยหิ้วกระเป๋าและข้าวของมาใส่ในรถเพื่อเตรียมพร้อมเดินทางกลับกรุงเทพ
“เดี๋ยวนะ... พี่เจี๊ยบล่ะ” ผมเอ่ยถามเมื่อหันไปรอบ ๆ แล้วไม่เจอพี่สาว
“ผมขึ้นไปเรียกให้” เจ้าชัยขันอาสาขึ้นไปตาม แต่เมื่อกลับลงมาก็ได้คำตอบว่าเธอไม่อยู่ พี่เจี๊ยบจะไปไหนได้ ก็เมื่อเช้าเธอยังเป็นคนปลุกผมอยู่เลย ผมเริ่มวิตกเล็ก ๆ
“เดี๋ยวพี่ออกไปดูที่ทะเล” ผมรีบวิ่งไปยังชายหาด เมฆหนาคอยบดบังแสงแดดยามสาย เสียงคลื่นและลมทะเลพัดเอื่อย ๆ บนชายหาดขาวสะอาด นอกจากผู้หญิงหนึ่งคนที่นั่งอยู่ก็ไม่มีใครอีก ผมค่อย ๆ เดินไปที่เธอซึ่งนั่งกอดเข่ามองทะเล ก่อนจะย่อตัวลงข้าง ๆ
“พี่เจี๊ยบ... เราจะกลับกันแล้ว”
“โจ๊กกลับกันก่อนเลย พี่อยากอยู่ต่ออีกสักวัน” พี่เจี๊ยบตอบทั้ง ๆ ที่ตายังเหม่อมองทอดไปในทะเลที่ว่างเปล่า
เท่าที่ผมจำได้หลังจากที่พี่สาวจบมหาวิทยาลัย ทุกวันวาเลนไทน์เธอจะเก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียว หรือถ้าตรงกับวันทำงานเธอก็จะขอลาหยุดพักผ่อน ซึ่งผมก็ไม่เคยหรือแม้แต่จะกล้าที่จะถามถึงมัน และครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมคงไม่สามารถเปลี่ยนใจพี่เจี๊ยบได้แน่นอน
ผมเดินกลับมาที่บ้านพักพร้อมบอกทุกคนว่าพวกเราจะกลับกรุงเทพกันโดยไม่มีพี่เจี๊ยบ และแล้วรถ SUV คันใหญ่ก็เคลื่อนตัวออกจากบ้านพัก บรรยากาศในรถเงียบสนิท ทั้งอาจจะด้วยความเพลียหรือสิ่งใดก็ช่าง แต่สำหรับผมแล้ว มันเหมือนผมกำลังทอดทิ้งญาติที่มีกันอยู่แค่สองคนไว้เพียงลำพัง พี่เจี๊ยบจะกลับยังไง เธออยู่คนเดียวจะมีอันตรายรึป่าว ผมคิดไปต่าง ๆ นานา
“พี่ขอโทษ...” แล้วผมก็ลั่นคำพูดตามที่ใจคิดออกมา
“ครับพี่” เจ้าชัยสารถีมองกระจกหลังมาทางผม
“พวกเรากลับรถตู้ได้มั้ย พี่ไม่อยากทิ้งพี่เจี๊ยบไว้คนเดียว” ผมรู้ว่ามันเป็นคำพูดที่ดูเห็นแก่ตัว แต่ในหัวผมก็คิดได้แค่ทางนี้ทางเดียว
“ได้พี่... พี่อยู่ดูพี่เจี๊ยบเถอะ” ไอ้แม็คที่นั่งเบาะหน้าหันมาตอบ น้ำเสียงของมันทำให้รู้สึกได้ถึงความจริงใจ
“ใช่ค่ะ วินรถตู้อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้แหละ แก้วรู้จัก”
“บอกทางมาเลย เดี๋ยวโชเฟอร์จัดให้” เจ้าชัยพูดพร้อมยักมือซ้ายขึ้นทำท่ากดไลค์
“ขอบใจนะแก้ว ขอบใจทุกคน...” ผมรู้สึกตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก อย่างน้อยผมก็มีลูกน้องในแผนกที่เข้าใจผม
<---------------->
เมื่อกลับมาถึงบ้านพัก ก่อนดับเครื่องยนต์ผมเหลือบมองเวลาเกือบ 11 โมง ผมรีบลงจากรถแล้วหยิบร่มติดมือไปยังชายหาด แต่ครั้งนี้กลับไม่เห็นใคร ทั้งหาดไม่มีผู้คนแม้แต่คนเดียว มันช่างเวิ้งว้าง ผมเดินลงบันไดในมือกำร่มไว้แน่น แสงแดดเริ่มแรงขึ้นจนรู้สึกร้อนที่ผิวหนัง แต่ผมกลับไม่มีกระใจจะกางร่มให้ตัวเอง ด้านซ้ายก็ไม่มี ด้านขวาก็ไม่มี นี่พี่สาวผมอยู่ที่ไหน
“ลืมของเหรอ” เสียงอันคุ้นเคยตะโกนมาจากด้านหลัง ผมรีบหันกลับไปมองทันที ภาพที่เห็นทำให้ผมโล่งใจ พี่เจี๊ยบนั่งหลบแดดอยู่ใต้เงาไม้ข้างบันไดทางลงหาด ผมจึงเดินไปหาแล้วนั่งลงข้าง ๆ เธอ
“ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ ผมนึกว่าพี่หายตัวไปไหนแล้ว”
“โจ๊กจะให้พี่นั่งตากแดดเหรอ ผิวเสียกันพอดี... ว่าแต่ลืมอะไรเหรอ” พี่เจี๊ยบที่ยังคงอยู่ในท่านั่งกอดเข่าหันหน้ามาถาม
“ผมลืมพี่สาวไว้” ผมตอบพร้อมกับจ้องนัยน์ตาเธอ
“บ้า... ไปได้แล้ว เด็ก ๆ รออยู่” พี่เจี๊ยบตีที่แขนผมแล้วผลักเบา ๆ
“เด็ก ๆ กลับรถตู้กันหมดแล้ว ผมตั้งใจกลับมาอยู่เป็นเพื่อนพี่” ผมวางร่มในมือแล้วเหยียดขาพร้อมเท้าแขนทั้งสองไปด้านหลัง
“โจ๊ก... พี่อยู่คนเดียวได้”
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าพี่มีอะไรกับวันวาเลนไทน์ ทุกปีผมจะเห็นพี่เงียบ ๆ เศร้า ๆ ผมเองก็ไม่กล้าถาม แต่มาสองสามวันนี้ ผมรู้สึกสนิทกับพี่มากขึ้น กล้าพูดคุย พูดเล่นกับพี่มากขึ้น พี่พอจะเล่าหรือแบ่งเบาให้ผมฟังบ้างได้รึป่าว” ผมพูดแบบเปิดใจกับพี่สาวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พี่เจี๊ยบได้ฟังก็นิ่งไปสักพักก่อนจะเอ่ยปาก
“มันก็แค่เรื่องฝังใจสมัยเด็ก ๆ แหละ” เธอพูดพลางก้มหน้าลงกับหัวเข่า
“เล่ามาเถอะพี่ เผื่อจะได้สบายใจ”
“ตอนเรียนมหาลัยโจ๊กก็รู้ พี่เอาแต่เรียน ใส่แว่นหนาเตอะ แต่งตัวทั้งเฉิ่มทั้งเชย พอถึงวันวาเลนไทน์ เพื่อน ๆ ในกลุ่มก็จะได้ของขวัญ ได้ดอกไม้จากผู้ชายแล้วเอามาอวดกัน บางคนไปออกเดทก็เอารูปมาโชว์ และทุกปีพี่ก็จะถูกล้อจากเพื่อน ๆ ว่าชาตินี้คงหาแฟนไม่ได้... มันทำให้พี่เกลียดวันวาเลนไทน์”
“ได้สิ... มา” ผมลุกขึ้นผายมือไปด้านหน้าพี่สาว
“อะไรเหรอ”
“ไปเดทไง... ผมยอมขาดทุนเป็นแฟนพี่เจี๊ยบให้วันนึง”
“บ้า...”
“งั้นเปลี่ยน... พี่สาวคนสวย โปรดให้เกียรติเป็นแฟนน้องชายสักวันนะครับ” ผมโค้งคำนับอย่างสุภาพโดยที่มือยังคงผายออก
“บ้า... แฟนกำมะลอ” ครั้งนี้พี่เจี๊ยบยิ้มอาย ๆ ซึ่งผมไม่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้มานานมากแล้ว เธอยกมือขึ้นจับมือผมเป็นการตอบตกลง
<---------------->
ผมนั่งรอพี่เจี๊ยบอาบน้ำแต่งตัวอยู่ที่โต๊ะม้าหิน ประมาณครึ่งชั่วโมงพี่สาวก็ลงมา ผู้หญิงที่กำลังเดินมาหาทำเอาใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ พี่เจี๊ยบอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสลิมฟิตพับแขนสีเหลืองอ่อน ด้วยความที่เป็นทรงสลิมฟิตมันจึงเน้นให้หน้าอกหน้าใจพี่เจี๊ยบยิ่งดูใหญ่และเซ็กซี่ กางเกงทรงกระบอกเล็กพอดีตัวขาแปดส่วนสีขาวเน้นให้สะโพกผายและก้นงอนงามเด่นสวย เป้ากางเกงรั้งตึงจนเห็นเป็นเนินนูน ผมยาวสลวยถูกมัดทรงหางม้ารวบดึงปล่อยปอยผมด้านหน้าเล็กน้อย ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่เจี๊ยบกำลังจะอายุสี่สิบถ้าใครไม่รู้จักเธอก็ต้องคิดว่าสามสิบต้น ๆ
“แฟนผมสวยจัง” ผมอดไม่ได้ที่จะเอยปากชมพี่สาว
“ทะลึ่ง... ไป... พี่หิวแล้ว”
ผมพาเธอไปร้านอาหารที่มีการตกแต่งแบบคลาสสิก บรรยากาศสบาย ๆ เปิดเพลงบรรเลงเบา ๆ ทุกอิริยาบถที่พี่เจี๊ยบพูด ยิ้ม หรือแม้กระทั่งตอนกิน มันช่างสะกดจนผมแทบจะละสายตาจากเธอไม่ได้
“หน้าพี่ติดอะไรเหรอ เห็นจ้องนานแล้ว”
“ป่าว... วันนี่พี่ดูสวยจัง ไม่เคยเห็นพี่แต่งตัวทำผมแบบนี้” ผมตอบไปตรง ๆ ตามที่ใจคิด
“ก็บริษัทเรามียูนิฟอร์ม โจ๊กก็เห็นพี่ใส่แต่ชุดทำงาน ส่วนทรงผมน่ะพี่ต้องรวบ นั่งตากลมทะเลจนเหนียวไปหมด ถ้ากลับไปถึงบ้านพักอย่างแรกเลยที่จะทำคือสระผม”
“เดี๋ยวอิ่มแล้วไปไหนต่อดี”
“จริง ๆ พี่ก็อยากไปเดินเที่ยว ไปถ่ายรูปนะ แต่ดูแล้วช่วงนี้ไปที่คนเยอะ ๆ น่าจะไม่ค่อยปลอดภัย อีกอย่าง ใส่แมสถ่ายรูปมันจะไปสวยอะไร”
“อื่ม... จริงด้วย” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่สาว
“เดี๋ยวนะ... ไปวัดที่เราไปกันเมื่อวาน พี่อยากไปหาซินแส” จู่ ๆ พี่เจี๊ยบก็พูดขึ้นมาเหมือนเธอนึกอะไรได้ แต่ไม่สำคัญหรอก พี่สาวจะไปไหนผมก็ตามใจเธออยู่แล้ว พออิ่มเราจึงมุ่งหน้าไปที่วัด
<---------------->
ประมาณบ่าย 3 โมง เราก็มาถึง สิ่งที่ทำก่อนคือไหว้พระประธาน พี่เจี๊ยบนั่งลงข้าง ๆ ผมพร้อมธูปที่จุดแล้ว เธอหลับตาประนมมือไว้ที่หว่างอก ถึงแม้จะเป็นในวัด แต่ด้วยความซกมกของผมมันกลับดึงสายตาให้โฟกัสไปที่เต้าอวบใหญ่ของพี่สาว มันล้นทะลักออกมาจนผมต้องรีบหันหน้ากลับแล้วลุกไปปักธูปทันที
“ไปหาซินแสกัน” เมื่อพี่เจี๊ยบไหว้พระเรียบร้อยก็รีบออกปากชวนไปหาชายแก่ทันที แต่เมื่อไปถึงเรากลับเจอชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบห้าปีนั่งอยู่แทน
“วันนี้ซินแสไม่มาเหรอคะ” พี่สาวผมไม่รีรอที่จะถาม
“ซินแส...” ชายวัยกลางคนทำหน้างง
“คุณตาที่มีเคราสีขาวยาว ๆ พูดออกสำเนียงจีน ๆ น่ะครับ” ผมช่วยอธิบายเสริมเพื่อให้เห็นภาพ
“อ๋อ... อากง”
“ใช่ ๆ อากง” ถึงแม้จะมีแมสปิดบังใบหน้า แต่ผมก็เห็นรอยยิ้มจากแววตาพี่เจี๊ยบเมื่อชายวัยกลางคนรู้จักซินแสที่เธอถามถึง ซึ่งผมก็ค่อนข้างแปลกใจว่าทำไมพี่สาวถึงมีท่าทางดีใจขนาดนั้น
“อากงท่านจะเข้ามาที่นี่ปีละครั้งครับ ส่วนจะเป็นวันไหนก็ไม่มีใครรู้”
“แล้วบ้านท่านอยู่ไหนคะ แถวนี้รึป่าว”
“อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะครับ แต่มีหลายคนแล้วที่มาถามหาท่าน” แววตาสดใสเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นความผิดหวังทันที พี่เจี๊ยบขยับตัวเล็กน้อยเพื่อมองเข้าไปยังแผงที่แขวนซองเซียมซี
“มองหาเลขศูนย์เหรอครับ” เหมือนชายวัยกลางคนจะรู้จุดประสงค์ของแต่ละคนที่มาหาอากง ซึ่งพี่เจี๊ยบก็พยักหน้ารับ
“เซียมซีเลขศูนย์อากงจะเป็นคนนำมาเองครับ ทั้งใบเซียมซี กระบอกไม้ไผ่ และติ้ว” พอได้ฟังผมก็หันไปมองที่กระบอกเซียมซี มันก็เป็นอย่างที่ชายวัยกลางคนพูดไว้ เพราะกระบอกมันไม่เหมือนของเมื่อวาน
“ขอบคุณค่ะ” พี่เจี๊ยบยกมือไหว้ก่อนจะออกมาโดยไม่ได้เสี่ยงเซียมซีอีกครั้ง
“มีอะไรจะคุยกับอากงเหรอพี่” ผมถามเธอเมื่อขึ้นรถ
“ก็จะขอบคุณแก เพราะเซียมซีของแกพี่ถึงทำงานสำเร็จ... เสียดายจัง”
“เซียมซีอากงแม่นขนาดนั้นเลยเหรอ”
“แม่นจริง ๆ ตรงเป๊ะเลยนะโจ๊ก” พี่เจี๊ยบพูดน้ำเสียงจริงจัง
“ไปไหนอีกมั้ย”
วันนี้พี่เจี๊ยบจะทำอะไร จะไปที่ไหน ผมตั้งใจจะทำให้เธอทั้งหมด ผมอยากจะให้เธอลืมวันวาเลนไทน์ที่ทำให้จิตใจปวดร้าวมาเป็นเวลานาน
“ไม่แล้วล่ะ กลับบ้านพักเถอะ อ่อ... แวะเซเว่นด้วยนะ ซื้อสปายสักหน่อย” ผมหันไปมองหน้าพี่เจี๊ยบทันที
“อารมณ์ไหนเนี่ยกินสปาย”
“ก็อารมณ์อยากกินไง” พี่เจี๊ยบพูดพลางยักคิ้วทำหน้าทะเล้น แต่เธอไม่รู้หรอกว่าท่าทางของเธอมันทำเอาน้องชายคนนี้ตกหลุมรักเข้าไปเต็มเปา ถ้าจะให้นับผมจำไม่ได้จริง ๆ ว่าผมเห็นเธอยิ้มเล่นร่าเริงแบบวันนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
<---------------->
เมื่อมาถึงบ้านพัก สปาย 8 ขวดของพี่เจี๊ยบกับเบียร์ลีโอ 3 แพครวม 9 ขวดของผมก็ถูกจัดแจงเข้าตู้เย็นซึ่งอยู่บริเวณชั้นสองของบ้าน มื้อเย็นของวันนี้ไม่มีอะไรมากนอกจากไส้กรอก ขนมจีบ และขนมขบเคี้ยวแกล้มเหล้าที่หาได้จากเซเว่น ผมซึ่งอาบน้ำก่อนพี่เจี๊ยบเมื่อแต่งตัวเรียบร้อยจึงจัดเตรียมสิ่งของที่โต๊ะนอกชานให้พร้อมก่อนที่พี่สาวจะออกมา
โดยสภาพของโต๊ะเป็นไม้รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าไม่สูงมาก ประกอบด้วยม้านั่งเดี่ยวมีพนักพิงและที่วางแขนสองตัว ม้านั่งยาวสำหรับนั่งสองคนสองตัว ซึ่งผมเลือกที่จะนั่งม้านั่งเดี่ยว เมื่อทุกอย่างถูกเตรียมไว้อย่างเรียบร้อยเบียร์ก็ถูกเปิด ผมนั่งดื่มพร้อมสูบบุหรี่อย่างผ่อนคลาย
ประมาณครึ่งชั่วโมง พี่เจี๊ยบในชุดนอนเสื้อเชิ้ตแขนสั้นเนื้อผาซาตินสีน้ำเงินเป็นเงา กับกางเกงขาสั้นเข้าชุดกันก็เดินเอียงคอหวีผมออกมา ผู้หญิงวัยย่างเข้าสี่สิบปี แต่เส้นผมเธอยังดำขลับเป็นเงางามไม่มีสีขาวแซมแม้แต่เส้นเดียว ผมคิดในใจนี่มันนางเอกหนัง AV หลุดออกจากจากแผ่นชัด ๆ
“สูบบุหรี่อีกแล้ว พี่ไม่ชอบเลย” พี่เจี๊ยบพูดคิ้วขมวดทำจมูกย่นใส่ก่อนจะนั่งลงที่ม้านั่งยาวด้านขวามือผม
“ไม่สูบแล้วครับคุณแฟน ไม่สูบแล้วคร๊าบ” ผมลากเสียงยาวแล้วรีบดับบุหรี่ทันที
“บ้า... ใครเป็นแฟนโจ๊ก”
“อ้าว... ก็พี่เจี๊ยบไง เมื่อเช้าเราตกลงแล้วนะ” ผมแหย่พี่สาวพร้อมกับล้วงเอาสปายในถังน้ำแข็งขึ้นมาเปิดให้เธอ
“ก็ได้ ๆ แฟนก็แฟน เฮ่อ... แฟนคนแรกในชีวิตกลับเป็นน้องชายตัวเอง” พี่สาวถอนหายใจส่ายหน้ายกสปายขึ้นดื่ม
“เอาจริง ๆ พี่ไม่เคยมีแฟนเลยเหรอ” เมื่อพี่เจี๊ยบได้ฟังคำถามก็วางขวดลงแล้วหันมาทำสีหน้าจริงจัง
“โจ๊ก... พ่อทิ้งพวกเราไปตั้งแต่เรายังเด็ก ๆ มีแต่แม่ที่ส่งเสียให้พวกเราเรียน โจ๊กคิดว่าพี่จะมีกะใจคิดเรื่องพวกนั้นเหรอ"
คำพูดของพี่เจี๊ยบทำเอาผมสลด พ่อทิ้งพวกเราไป ส่วนแม่จากเราไปตอนพี่เจี๊ยบใกล้จะรับปริญญา เธอเสียใจมากที่แม่ไม่ได้เห็นลูกสาวในชุดครุย จากที่เคยเป็นคนร่าเริงกลับกลายเป็นเงียบขรึม วัน ๆ ทำแต่งาน พี่เจี๊ยบหาเงินส่งผมเรียนจนจบ และให้ผมเข้าทำงานที่เดียวกับเธอ
เมื่อไม่มีภาระในการส่งเสียผม พี่สาวก็ค่อย ๆ เปลี่ยนตัวเอง จากผู้หญิงที่ไม่เคยแต่งหน้าก็หันมาใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว จากที่ใส่แว่นหนาเธอก็เปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์และไปทำเลสิกในที่สุด การเลือกกินแต่ของมีประโยชน์และออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ เพียงปีเดียวก็ทำให้พี่เจี๊ยบเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่ถึงพี่สาวจะสวยยังไง ผมก็ไม่เคยเห็นเธอมีแฟน หรือมีใครมาจีบเธอแม้แต่คนเดียว
“เออพี่... พรุ่งนี้วันทำงานเอาไงดี” เมื่อบรรยากาศเริ่มเสียผมจึงหันเหเปลี่ยนเรื่องคุย
“พี่โทรลาผู้จัดการตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ” พี่เจี๊ยบตอบพร้อมยักไหล่ท่าทีสบายอารมณ์
“อ้าวพี่... แล้วผมล่ะ”
“โจ๊กก็เขียนลาป่วยสิ”
“อย่างนี้ก็ได้เหรอพี่... โถ่...”
หลังจากนั้นเราก็คุยกันไปดื่มกันไป เมื่อได้ใกล้ชิดได้หยอกล้อกับพี่สาวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมก็ได้สัมผัสถึงอีกด้านหนึ่งของเธอ ด้านแห่งความอ่อนโยนและบอบบางที่มันซ่อนอยู่ภายใต้ความแข็งกร้าวที่ใคร ๆ เห็น ทั้งยังได้สัมผัสถึงความงดงามของรอยยิ้มที่สะกดหัวใจ หน้าอกอวบใหญ่ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดนอนชวนให้คิดจินตนาการ เรียวขาขาว ๆ ที่ผมแอบชำเลืองมองอยู่เป็นระยะ สิ่งสวยงามที่อยู่ตรงหน้าผสมผสานกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป ในความรู้สึกที่พยายามกดเอาไว้แต่ก็ไม่สามารถจะปฏิเสธได้อีกต่อไป ผมมีความคิดอยากจะลองมีอะไรกับพี่สาวดูสักครั้ง
เวลาล่วงเลยไปเกือบ 1 ทุ่ม บรรยากาศรอบ ๆ บ้านพักเริ่มเงียบสงัด ผมนับขวดสปายบนโต๊ะด้วยสายตา พี่เจี๊ยบดื่มไปแล้ว 7 ขวด เท่ากับว่าที่อยู่ในมือเธอคือขวดสุดท้าย ส่วนผมซัดเบียร์หมดไป 6 ขวดจนหน้าเริ่มตึง หันไปมองพี่เจี๊ยบ ใบหน้าที่เคยขาวใสตอนนี้แก้มเธอกลับแดงระเรื่อ แล้วจู่ ๆ ผมก็นึกเรื่องที่จะถามขึ้นได้
“เออ... ว่าแต่เซียมซีอากงแม่นยังไง ผมว่าจะถามพี่ตั้งแต่บนรถก็ลืม”
“มันก็ไม่เชิงว่าแม่นนะ แต่มันตรง”
“อ้าว แม่นกับตรงไม่เหมือนกันเหรอพี่”
“ก็เซียมซีอากงเป็นกระดาษเปล่า ๆ ให้เราเขียนเอาเองว่าจะกำหนดชะตะชีวิตยังไง ให้มันเป็นแบบไหน” พี่เจี๊ยบพูดไปพลางกระดกสปายไป
“แล้วพี่เขียนอะไรเหรอ”
“อยากรู้จริง ๆ อะ” พี่เจี๊ยบยื่นหน้ามาถามแบบมีเลศนัยโดยที่เธอไม่รู้หรอกว่าท่าทางที่เธอทำมันยั่วยวนผมขนาดไหน
“อื่ม...” ผมพยักหน้ารับ
“พี่เขียนว่า พี่สามารถย้ายใบปอไปสาขาจังหวัดลำพูนได้โดยเร็ว” จากคำตอบของพี่เจี๊ยบทำให้ผมเริ่มปะติดปะต่อเรื่อง
“เดี๋ยวนะ... แล้วอยู่ ๆ ทำไมพี่เจี๊ยบถึงอยากให้ใบปอย้ายกลับบ้านล่ะ” ผมถามต่อเพื่อให้เกิดความกระจ่าง
“ก็ได้ ๆ จะเล่าให้ฟัง” แล้วพี่เจี๊ยบก็เริ่มสาธยายอย่างออกรสออกชาติ
สรุปได้ความว่า ในคืนวันแรกที่ผมแอบเข้าไปในห้องของเธอ พี่เจี๊ยบรู้สึกตัวตื่นขึ้นตอนใบปอเรียกชื่อผม แต่เธอก็ยังแกล้งนอนนิ่ง พอใบปอเดินออกจากห้องพี่เจี๊ยบก็ตามไปห่าง ๆ จนมาเห็นทุกอย่างที่ชาดหาด โดยที่เธอได้ยินทุกอย่างที่ผมกับใบปอตกลงกันไว้ พี่เจี๊ยบรู้สึกไม่ชอบที่ใบปอมั่วผู้ชายและคิดจะหลอกเอาเงินผม
ในคืนนั้นเธอจึงยื่นคำขาดให้ใบปอเลิกยุ่งกับผม และแน่นอนใบปอไม่ยอม ทั้งคู่จึงมีปากเสียงกันเล็กน้อยก่อนจะลงเอยที่ข้อแลกเปลี่ยน คือใบปอขอให้ย้ายเธอไปสาขาจังหวัดลำพูน ถ้ายังไม่ได้ย้าย เธอก็ยังไม่ยอมเลิกกับผม พี่เจี๊ยบจึงโทรหาเพื่อนที่รู้จักให้วิ่งเต้น และนี่คือสาเหตุที่ผมเห็นพี่สาวคุยโทรศัพท์บ่อยมาก ซึ่งวิ่งเต้นยังไงก็ไม่มีวี่แววว่าจะย้ายได้ แต่พอหลังจากที่พี่เจี๊ยบเผาใบเซียมซีเพียงไม่นาน ก็ได้รับข่าวว่าสามารถออกคำสั่งย้ายได้ภายในวันจันทร์ ด้วยเหตุนี้พี่สาวจึงคิดว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ของเซียมซี
“ใบปอก็เลยไม่พอใจ พอมีโอกาสเลยจะแกล้งให้พี่เจี๊ยบกินเหล้า โดยสั่งให้จูบกับผม เพราะคิดว่ายังไง ๆ พี่ก็ไม่ทำแน่ ๆ”
“ใช่... แต่พี่ไม่ยอมแพ้ยัยเด็กบ้านั่นหรอก” พี่เจี๊ยบพูดเสียงแข็ง
“แต่ผมว่า... ที่พี่ไม่อยากให้ใบปอยุ่งกับผมไม่ใช่เพราะใบปอมั่วผู้ชายหรอกมั้ง” พอวกเข้ามาเรื่องที่ผมได้จูบกับพี่สาวเมื่อวานมันก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ ผมจึงแกล้งแหย่พี่สาว ซึ่งเธอก็ทำหน้างง ๆ
“ผมว่าพี่แอบดูผมมีอะไรกับใบปอแล้วหึงผมมากกว่า”
“แน๊ะ... พี่จะไปหึงโจ๊กทำไม”
“ก็ผมเป็นแฟนพี่เจี๊ยบไง”
“บ้า...”
“เอาจริง ๆ ตอนที่พี่แอบดูผมเอากับใบปอพี่มีอารมณ์จริง ๆ เหรอ” ผมเริ่มถามรุกเร้า
“ก็... ก็เห็นคนมีอะไรกัน... มันก็มีอารมณ์เป็นธรรมดาปะ” พี่เจี๊ยบตอบเสียงอ่อย ๆ เขิน ๆ
“แล้วตอนที่เราแอบดูไอ้แม็คล่ะพี่... อันนั้นเป็นไง” พี่สาวครุ่นคิดท่าทางเหมือนนึกภาพ ผมสังเกตเห็นเธอบีบหน้าขาเข้าหากัน
“มันก็มีอารมณ์นะโจ๊ก” ตอนนี้หน้าพี่เจี๊ยบแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“สมมุติถ้าตอนนั้นคนที่แอบดูพร้อมกับพี่ไม่ใช่ผมแต่เป็นแฟนพี่ล่ะ”
“พี่ก็คงชวนแฟนพี่ไปมีอะไรกันแล้วล่ะมั้ง”
“แล้ว... ถ้าเมื่อวานผมขอพี่มีอะไรด้วยล่ะ” ผมรวบรวมความกล้า ก่อนจะเอ่ยโยนหินถามทาง
“บ้าเหรอ... เราพี่น้องกัน”
“ก็เมื่อวานพี่สาวยังจูบปากน้องชายอยู่เลย” พี่เจี๊ยบเม้มปากทันทีที่ผมพูด ผมดูออกว่าเธอเริ่มจะมึน ๆ ตึง ๆ
“ผมถามพี่จริง ๆ ตอนพี่จูบผมพี่รู้สึกยังไง”
“มันก็... แปลก ๆ เกิดมาพี่ไม่เคยจูบกับใครมาก่อน” พี่เจี๊ยบพูดไปพลางใช้ปลายนิ้วแตะที่ริมฝีปาก
ผมเริ่มเพ่งพินิจใบหน้าของพี่สาว พี่เจี๊ยบสวยคมเข้มแบบไทย ๆ จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเข้มได้รูป ริมฝีปากอิ่ม แล้วภาพของดาราคนหนึ่งที่หน้าตาละม้ายคล้ายกันก็ผุดขึ้นมาในหัว ผมพยายามนึกชื่อเธอยังไงก็นึกไม่ออก จำได้แต่เพียงว่าเธอเล่นหนังเรื่อง คืนบาป พรหมพิราม สิ่งที่จะผิดกันก็แค่พี่เจี๊ยบผิวขาวกว่า
“แล้วพี่รู้สึกใจมันหวิว ๆ หรือตื่นเต้นบ้างรึป่าว” ผมโน้มตัวเข้าไปถามพี่สาว เธอนิ่งอยู่สักพักแล้วยกมือขึ้นทาบไปที่หน้าอก
“นึกถึงตอนนั้นใจมันก็หวิว ๆ เหมือนกันนะ ตั้งแต่เรียนจบมาก็มีสองสามวันนี้แหละ ที่พี่ได้ทำอะไรแปลก ๆ ได้เจอเรื่องตื่นเต้น ๆ ได้ปลดเปลื้องปมในใจ รวมถึงยังได้มาเป็นแฟนกำมะลอหนึ่งวันกับน้องชายตัวเอง... คิดแล้วก็ขำ...” พี่เจี๊ยบตอบไปยิ้มไปเหมือนได้ระบายความในใจ แต่แล้วจู่ ๆ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป
“มีอะไรรึป่าวพี่...” ผมถามเมื่อเห็นพี่สาวนิ่งเงียบ
“พรุ่งนี้ก็กลับสู่สภาพเดิม เช้าทำงาน เย็นกลับบ้านนอน เช้าทำงาน เย็นกลับมานอนอีก ทำวน ๆ ไป” พูดจบสปายขวดสุดท้ายก็ถูกยกขึ้นดื่มจนหมด เธอมองขวดเปล่าในมือเหมือนกำลังเหม่อลอย
คำพูดของพี่เจี๊ยบส่งกลับให้ผมคิดเช่นกัน วันเวลาที่จะสนิทสนมกับพี่สาวกำลังจะหมดลง แล้วภาพทุกอย่างของสองวันที่ผ่านมาก็ฉายขึ้นในหัวผม เบียร์ที่เต็มแก้วถูกยกดื่มขึ้นคราวเดียวหมด ผมเพ่งมองใบหน้าพี่สาว ปอยผมยาวสลวยปลิวเบา ๆ ตามแรงลม ความขาวเนียนของผิวพรรณชวนให้สัมผัส ใจผมเต้นแรงขึ้นจนรู้สึกได้ เบียร์ถูกรินใส่แก้วจนเต็มอีกครั้งโดยที่สมองก็ครุ่นคิด
“พี่รอผมแป๊บนะ” ผมตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปยังห้องนอน
กระเป๋าเสื้อผ้าที่ใส่แล้วถูกผมรื้อค้นจนกระจุยกระจายไปหมด และในที่สุดก็ได้เจอ ผมมองซองเซียมซีในมือพลางถอนหายใจยาวแล้วเดินกลับมาที่โต๊ะโดยไม่ลืมที่จะหยิบฉวยปากกามาด้วย ครั้งนี้ผมนั่งลงที่ม้านั่งเดี่ยวตรงกันข้ามกับตัวเดิม
“มีอะไรเหรอโจ๊ก...” สิ้นคำถามผมก็ยกซองในมือให้เธอดู
“เซียมซี... เออ... โจ๊กได้เลขอะไร ดีมั้ย” พี่สาวยังคงถามต่อโดยไม่รู้ว่าในหัวผมกำลังคิดจะทำเรื่องบัดซบที่สุดในชีวิต หัวใจผมเต้นรัวเหมือนกลองจนลนลานไปหมด ผมไม่ตอบแต่หยิบแผ่นกระดาษในซองออกมา มันเป็นกระดาษเปล่าแผ่นบาง ๆ เหมือนกระดาษไข
“เซียมซีเลขศูนย์...” พี่เจี๊ยบหลุดปากออกมาทันทีเมื่อได้เห็น ผมหยิบปากกาเขียนมันลงไปด้วยมือที่สั่นเทาก่อนจะวางแผ่นกระดาษลงบนโต๊ะให้เธออ่าน พี่เจี๊ยบโน้มตัวลงพูดอ่านข้อความในกระดาษเบา ๆ
“โจ๊กมีเพศสัมพันธ์กับพี่เจี๊ยบ” สิ้นประโยคพี่เจี๊ยบก็ดึงตัวขึ้นมองหน้าผมทันที
“โจ๊ะอย่าเล่นบ้า ๆ”
“ผมไม่ได้เล่น” ผมคว้ากระดาษพร้อมลุกขึ้นเอื้อมหยิบไฟแช็คแล้วจุดมัน
“อย่าโจ๊ก” พี่สาวพูดห้าม ลุกขึ้นพยายามคว้ากระดาษแต่ก็ช้าไป บัดนี้เซียมซีหมายเลขศูนย์กลายเป็นขี้เถ้าล่องลอยไปในอากาศ พี่เจี๊ยบทรุดตัวลงนั่ง ตาเหม่อมองซองเปล่าเซียมซีที่อยู่บนโต๊ะ
“รสจูบของพี่ผมยังจำมันได้ไม่ลืม พี่ไม่รู้สึกเหมือนที่ผมรู้สึกบ้างเหรอ พี่แอบดูผมมีอะไรกับใบปอ เราแอบดูไอ้แม็คมีอะไรกับแก้ว พี่ยังแอบมองผมชักว่าว พี่ไม่มีความรู้สึก พี่ไม่อยากบ้างเหรอ...” ผมพรั่งพรูความรู้สึกออกมาเหมือนคนบ้าเสียสติ
“พี่ยอมรับ พี่อยาก พี่มีอารมณ์ เกิดมาพี่ไม่เคยมีแฟน แต่มันต้องไปใช่โจ๊ก...” ทั้งกิริยาและน้ำเสียงที่ใช้ส่งให้รู้ว่าพี่เจี๊ยบไม่พอใจ เธอเอื้อมหยิบแก้วเบียร์ผมขึ้นมาดื่มเกือบหมดแล้ววางมันลง
“เพียงเพราะผมเป็นน้องชายพี่เจี๊ยบงั้นเหรอ... ก็วันนี้เราเป็นแฟนกันแล้วไง”
“โจ๊กก็รู้ว่ามันเป็นแฟนกันหลอก ๆ ยังไงโจ๊กก็เป็นน้องชายของพี่”
“พี่น้องมีอะไรกันเยอะแยะไป ทั้งหนังโป๊ ทั้งเรื่องเสียว” ผมยังเถียงข้าง ๆ คู ๆ เข้าข้างตัวเอง
“นั่นมันเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นมาโจ๊ก... มันไม่จริง โจ๊กเข้าใจมั้ย... มันไม่จริง”
“ก็ได้... มันไม่จริง... แต่พี่กับผมที่นั่งกันอยู่ตรงนี้เป็นของจริง เราสองพี่น้องเคยจูบกันจริง ๆ พี่ก็ยอมรับว่าพี่รู้สึกหวิว ๆ จริง มีความอยากจริง ผมก็อยากมีอะไรกับพี่จริง ๆ ทุกอย่างนี้คือเรื่องจริง และที่สำคัญถึงเราเป็นพี่น้องกัน แต่เราไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครเดือดร้อนไม่ใช่เหรอพี่”
พี่เจี๊ยบฟังแล้วเงียบไป เธอยกมือขวาเสยผมเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ เวลาแห่งความเงียบงันผ่านไปช้า ๆ อย่างน่าอึดอัด
“แค่จูบได้มั้ย...” พี่สาวหันมาพูดสีหน้าจริงจัง ซึ่งประโยคที่หลุดออกมานั้นทำเอาหัวใจผมพองโต ผมรีบลุกไปนั่งที่ม้านั่งตัวเดียวกับเธอทางด้านขวา พี่เจี๊ยบขยับตัวหันเอียงมาเล็กน้อยแล้วมองตามองผม
“แค่จูบนะโจ๊ก...” เสียงแผ่ว ๆ ออกจากริมฝีปากอิ่ม
ผมพยักหน้ารับคำแล้วค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้าหาเธอ พี่เจี๊ยบหลับตาพริ้มรอรสสัมผัสจากผม และแล้วริมฝีปากของเราสองพี่น้องก็ประทับเข้าหากัน ความรู้สึกวาบหวิวแล่นผ่านไปทุกอณูของร่างกาย แรก ๆ ดูพี่เจี๊ยบจะจูบไม่ค่อยเป็น แต่เพียงไม่นานเธอก็เริ่มบดปากกับผมได้อย่างไม่เคอะเขิน ผมแทรกปลายลิ้นผ่านริมฝีปากเธอเข้าไป พี่สาวตอบรับเป็นอย่างดี เราเริ่มแลกลิ้นกันอย่างเร้าอารมณ์ ผมยกมือขวาขึ้นประคองเต้าอวบพี่สาวเบา ๆ ความรู้สึกสัมผัสได้ถึงความใหญ่จนล้นฝ่ามือ แต่เมื่อพี่เจี๊ยบรับรู้เธอก็ยกมือซ้ายขึ้นมาจับไว้แล้วเบือนหน้าออกจากการจูบ
“โจ๊ก... แค่จูบไง...” พี่เจี๊ยบพูดเสียงกระเส่าเพราะผมยังคงระดมจูบไปที่แก้มพลางไซ้เลยไปที่ซอกคอของเธอ ส่วนมือก็เริ่มออกแรงบีบเต้าอวบเบา ๆ
“แค่ภายนอกนะพี่เจี๊ยบ... แค่ภายนอก...” ผมกระซิบข้างหูพี่สาวก่อนจะกลับมาจูบเธออีกครั้ง
พี่เจี๊ยบเผยอปากรับ มือที่เคยบีบมือผมไว้ค่อย ๆ คลายออก นมพี่เจี๊ยบใหญ่มาก ถึงแม้อายุเธอจะย่างเข้าเลขสี่แล้ว แต่เต้าอวบยังแน่นสู้มือไม่ต่างจากสาว ๆ เสื้อในที่เธอใส่คาดว่าจะเป็นผ้าบาง ๆ ไม่มีลูกไม้เพราะผมสัมผัสได้ถึงความนุ่มหยุ่นในมือแทบไม่ต่างจากได้สัมผัสเนื้อแท้ ผมค่อย ๆ เคล้าคลึงเต้าอวบแรงขึ้น ด้วยเสื้อนอนที่เธอใส่เป็นผ้าซาตินลื่น ๆ มันจึงถูกไถเนื้อผ้ากับเสื้อในเธอได้ไม่ยาก ระหว่างที่บีบนมพี่เจี๊ยบนั้นผมก็ใช้นิ้วโป้งขยับหาปลายยอด
“อื่มมมม...” พี่เจี๊ยบหลุดครางในลำคอ เมื่อปลายนิ้วผมสะกิดเข้ากับยอดปทุมถันของเธอ
ผมคลึงสลับลูบไล้นิ้วโป้งวนเข้ากับหัวนมพี่เจี๊ยบ ถึงแม้จะมีเสื้อในและชุดนอนขวางกั้นอยู่แต่ก็รู้สึกได้ถึงความแข็งเป็นไต ผมบีบคลึงเต้าอวบหนักขึ้นจนเธอร้องคราง ระหว่างนั้นภาพเนินนูนของพี่สาวในชุดต่าง ๆ ก็แทรกเข้ามา ผมค่อย ๆ ลูบมือจากเต้านมลงมายังหน้าท้องแบนราบก่อนจะลูบไล้ที่ต้นขาขวาของเธอ มันช่างเรียบเนียน ผมลูบไปมาไม่นานก็แทรกปลายนิ้วผ่านขอบขากางเกงนอนขาสั้นที่ค่อนข้างบานเข้าไป ซึ่งผมก็รู้ว่าพี่สาวต้องห้ามอย่างแน่นอน ทันทีที่ปลายนิ้วผมแตะเข้ากับชั้นในพี่เจี๊ยบก็เบือนหน้าออกและจับมือผมไว้แน่น
“โจ๊ก... อย่า...” พี่เจี๊ยบห้ามเสียงแผ่ว
“แค่ภายนอกจริง ๆ พี่เจี๊ยบ” ผมที่ยังไซ้ที่ซอกคอพี่สาวกระซิบบอกก่อนจะจูบเข้าที่ใบหูของเธอ ทั้งลมหายใจและรสสัมผัสส่งพี่เจี๊ยบขนลุกเอียงกายด้วยความสยิว ปลายนิ้วที่แทรกผ่านเข้าไปได้สัมผัสกับเนื้อผ้าบางเบาแบบซีทรู พูเนื้อพี่เจี๊ยบนุ่มและอวบอูมมาก เนินนูนเป็นหลังเต่า ผมใช้ปลายนิ้วกลางบิดไปมาเพื่อให้แทรกตัวผ่านพูเนื้อลงไป
“ซี๊ดดส์... โจ๊ก... พี่เสียว...” ในที่สุดปลายนิ้วผมก็ได้แตะเข้ากับปุ่มกระสันของพี่สาว
เสียงครางด้วยความเสียวของพี่เจี๊ยบยิ่งทำผมรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นชายคนแรกที่สัมผัสเข้ากับเม็ดละมุดของเธอ ความคิดผมยิ่งเตลิดไปไกลว่าถ้าได้เป็นชายคนแรกที่ส่งดุ้นเนื้อให้ถลำผ่านร่องเสียวนี้เข้าไปมันจะสุดยอดขนาดไหน ยิ่งคิดก็ยิ่งมีอารมณ์ ผมพรมจูบที่คอขาวของพี่เจี๊ยบ ปลายนิ้วขยับเขี่ยติ่งเสียวไม่ขาด ไม่นานน้ำที่แสดงถึงความเงี่ยนของพี่สาวก็ไหลออกมาจนปลายนิ้วผมรู้สึกได้
“พี่เจี๊ยบ... มีอารมณ์มั้ย...” ผมไซ้ซอกคอเธอไปพูดเสียงกระเส่าไป พี่เจี๊ยบไม่ตอบได้แต่พยักหน้า
“น้ำพี่ไหลออกมาแล้วนะ... พี่เจี๊ยบเงี่ยนรึป่าว” ผมขยับนิ้วบี้เม็ดละมุนที่เปียกลื่นเร็วขึ้น
“ซี๊ดดดดส์...” พี่สาวร้องครางแขม่วหน้าท้อง น้ำเงี่ยนก็ยิ่งขับออกมาชโลมปลายนิ้ว ถึงจะเป็นการสัมผัสเพียงภายนอก แต่ความรู้สึกก็ไม่ต่างอะไรกับได้แตะเข้ากับหีจริง ๆ เมื่อชั้นในซีทรูฉ่ำไปด้วยน้ำเมือกยู่เข้าไปในพูเนื้อด้วยแรงของปลายนิ้ว
“พี่เจี๊ยบ... พี่อยากมั้ย...” ผมพยายามถามเร้าอารมณ์พี่เจี๊ยบเผื่อว่าเธอจะเปลี่ยนใจ เพราะตอนนี้ควยผมนั้นแข็งจนรู้สึกได้ว่าน้ำว่าวขึ้นมาคาที่ปากท่อพร้อมจะปลดปล่อยใส่รูหีพี่สาวแล้ว
“อยากสิโจ๊ก... แต่เราเป็นพี่น้องกัน... ซี๊ดดดดส์...” เมื่อพี่เจี๊ยบยอมรับว่าอยากแต่ยังติดประเด็น ผมจึงเร่งบี้เม็ดแตดเธอให้เงี่ยนมากขึ้น
“พี่เจี๊ยบ... ผมก็อยาก... ควยผมแข็งไปหมดแล้ว...”
“พี่ก็อยากนะโจ๊ก... ซี๊ดดดดส์... แต่...”
“พี่ไม่อยากลองให้ควยเข้าไปในนี้บ้างเหรอ...” ผมกระซิบข้างหูพี่สาวโดยปลายนิ้วยังคงสร้างความกระสันหีให้เธอ
“ซี๊ดดดดดส์...” พี่เจี๊ยบไม่ตอบได้แต่ร้องคราง ผมไล้ใบหน้าที่จูบไซ้ซอกคอขึ้นไปประกบปากพี่สาวอีกครั้ง เธอจูบตอบทันทีอย่างดูดดื่ม ขาทั้งสองข้างของพี่เจี๊ยบเริ่มบีบเข้าหากัน ผมก็ยิ่งขยี้ติ่งเสียวเธอหนักหน่วงและเร็วขึ้น
“ซี๊ดดดส์... อู้ยยยยยยยยยยยย์...” พี่เจี๊ยบบิดหน้าหนีหันมาซบที่คอผมร้องครางยาว มือเธอบีบแขนผมแน่น หน้าขาเกร็ง ตัวกระตุกเป็นสัญญาณว่าพี่สาวคนสวยเสียวจนถึงจุดสุดยอด เธอหอบหายใจแรงและนิ่งอยู่อย่างนั้น ผมถอนมืออกจากขากางเกงเธอแล้วปล่อยให้เวลาผ่านไป
กลิ่นหอมจากปอยผมพี่สาวพาให้ผมทบทวนเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ถึงผมไม่ได้มีอะไรกับเธอ แต่อย่างน้อยผมก็ได้ทำให้พี่สาวมีความสุข แล้วพี่เจี๊ยบก็ค่อย ๆ ผละตัวออก เราสองพี่น้องมองตากัน ยิ่งได้เห็นแบบใกล้ ๆ ทำให้รู้ว่าพี่เจี๊ยบสวยมากจริง ๆ เธอยื่นหน้าเข้ามาจูบผมเบา ๆ อีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นขยับตัวเดินผ่านผมออกจากโต๊ะไปโดยไม่ได้พูดอะไร ผมได้แต่หายใจยาว ๆ ตาเหม่อมองออกไปนอกบ้านพักที่เงียบสงัด
เบียร์ที่ยังเหลืออยู่ถูกหยิบขึ้นมาดื่มอีกครั้งจนหมด ขณะที่ผมกำลังจะเอื้อมมือขวาไปล้วงน้ำแข็ง ผมก็ชะงักแล้วยกนิ้วขึ้นมอง นี่คือนิ้วที่ได้สัมผัสเข้ากับน้ำของพี่สาวซึ่งมันยังไม่ได้ล้าง แต่ก็แค่นั้น ผมยังคงล้วงมือลงไปหยิบน้ำแข็งใส่แก้วอย่างจงใจ ด้วยคิดว่าผมไม่เคยรังเกียจพี่เจี๊ยบ ยิ่งไปกว่านั้น ผมกลับอยากลองลิ้มรสน้ำรักของพี่สาวด้วยซ้ำ เบียร์ขวดสุดท้ายถูกเปิดรินอย่างบรรจงเพื่อไม่ให้เกิดฟอง ระหว่างนั้นพี่เจี๊ยบก็เดินออกมาจากบ้านพร้อมม้วนกระดาษทิชชู
“จะปล่อยก็ปล่อยให้ถูกที่ถูกทาง อย่าทำเลอะล่ะ... ตอนเช้าพี่ไม่อยากมาไล่เช็ดให้” พี่เจี๊ยบพูดยิ้ม ๆ พร้อมวางมันลงบนโต๊ะแล้วเดินเข้าบ้านไป
แสดงว่าน้ำว่าวที่ผมปล่อยไว้เธอเป็นคนเช็ดออกให้ ซึ่งผมเองก็อายอยู่ไม่น้อย ผมเอนหลังพิงพนักโดยมีแก้วเบียร์ในมือ พรุ่งนี้ทุกอย่างก็กลับสู่สภาพปกติ ผมคิดในใจแล้วดื่มด่ำกับรสหวานและขมอมเปรี้ยวนิด ๆ ของเบียร์ ความคิดจิตใจตอนนี้มันล่องลอยเหมือนไม่มีอะไรในสมอง ผมกับพี่สาวมันคงเป็นไปไม่ได้ เซียมซีเลขศูนย์มันก็แค่เศษกระดาษเปล่าธรรมดา ๆ แต่แล้วผมก็มาเอะใจกับคำพูดของพี่สาวที่พูดไว้ก่อนจะไป
“จะปล่อยก็ปล่อยให้ถูกที่ถูกทาง... จะปล่อยก็ปล่อยให้ถูกที่ถูกทาง...” ผมบ่นกับตัวเองซ้ำ ๆ กับคำพูดของเธอ หรือว่าพี่เจี๊ยบกำลังบอกเป็นนัยว่าให้ผมไปปล่อยน้ำรักในตัวของเธอ ไม่ใช่ชักว่าวจนเลอะเทอะ ผมไม่รู้หรอกว่ามันใช่รึเปล่า แต่มันก็เป็นโอกาสที่ผมจะต้องไขว่คว้าไว้ ผมรีบสาวเท้าเดินไปยังห้องพี่เจี๊ยบทันทีพร้อมบิดลูกบิดด้วยใจที่มีหวัง แต่แล้วมันกลับไม่ใช่อย่างที่คิด
“ล็อค” มันคือคำพูดที่เปล่งออกมาอย่างหมดหวัง ผมเดินกลับหมายจะไปนั่งดื่มเบียร์ที่เหลือครึ่งแก้วให้หมด แต่ความรู้สึกคือ กินไปให้มันได้อะไร ผมจึงเปลี่ยนใจเข้าห้องนอน
<---------------->
ผมซึ่งอยู่ในชุดกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียวเสื้อไม่ใส่ นอนก่ายหน้าผากมองขึ้นไปในความมืดของห้อง พยายามข่มใจไม่คิดเรื่องพี่เจี๊ยบเพื่อให้มันหลับ ๆ ไป แต่ทำยังไงมันก็ไม่หลับ ผมเปิดโทรศัพท์ดูเวลา เพิ่งจะ 4 ทุ่มกว่า ทำไมเวลามันผ่านไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกิน แล้วความคิดถึงพี่สาวก็วนกลับเข้ามาอีก ถ้าผ่านคืนนี้ไปทุกอย่างมันก็จะกลับไปเป็นเหมือนตอนก่อนจะมาเที่ยวทะเล ผมคงไม่มีสิทธิ์ใกล้ชิดกับพี่เจี๊ยบอีก ตอนนี้ผมยอมรับว่าหลงใหลในพี่สาวตัวเอง ผมอยากกอด อยากจูบ อยากจะเย็ดเธอ ถ้าผมปล้ำพี่เจี๊ยบล่ะ เพราะยังไงพี่สาวก็สู้แรงผมไม่ได้อยู่แล้ว ผมเริ่มมีความคิดเลว ๆ
“เหี้ย” ผมสบถพร้อมเอามือตบหัวตัวเอง ถ้าพี่เจี๊ยบไม่เต็มใจก็เท่ากับผมทำให้เธอเสียใจ ไม่ใช่ให้ความสุข ผมมันจะเป็นแค่ไอ้บ้ากามที่เห็นแก่ตัวคนนึง แต่สุดท้ายผมก็ทนต่อความคิดถึงรสสัมผัสของพี่เจี๊ยบไม่ไหว ผมลุกขึ้นพาตัวเองไปที่หน้าห้องพี่สาวอีกครั้ง ผมเคาะประตูเบา ๆ อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“มีอะไรเหรอโจ๊ก” เพียงไม่ถึงอึดใจพี่เจี๊ยบก็เปิดประตู ภายในห้องเปิดไฟมีส้มแบบสลัว ๆ เกือบมืด คำถามง่าย ๆ แต่ผมกลับตอบไม่ได้เพราะไม่ได้เตรียมมาว่าจะพูดอะไร
“เอ่อ... ผมขอนอนด้วยได้มั้ย” คำตอบง่าย ๆ อย่างที่ใจคิดก็ถูกพูดออกไป
“อ้าว... ห้องตัวเองก็มี”
“เป็นแฟนกัน ก็ต้องนอนด้วยกันสิ แฟนกันที่ไหนเค้านอนแยกห้องกันล่ะ” ผมไถไปน้ำขุ่น ๆ พี่เจี๊ยบได้ฟังก็เอียงคอทำหน้าเหมือนเซ็งในความแถของผม
“น้า... น้า... น้า ๆ ๆ ๆ” ผมอ้อนวอนพี่สาวเพราะถ้าประตูนี้ปิดลงโดยผมไม่ได้เข้าไป ทุกอย่างคือจบ
“เอา ๆ เข้ามา อายุเยอะแล้วทำตัวเป็นเด็ก ๆ ไปได้”
ขอบคุณพระเจ้า พี่เจี๊ยบหันกลับเดินไปนอนที่เตียงหลังเดิมซึ่งติดกำแพง เธอนอนตะแคงหันหลังให้ผมเหมือนครั้งที่ได้เห็นเมื่อวันแรก ผมไม่รอช้าขยับหมอนเข้าไปนอนข้าง ๆ พี่สาวทันที เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาทีโดยที่ผมไม่กล้าทำอะไรได้แต่เพียงนอนนิ่ง นี่มันก็ไม่ต่างอะไรกับการนอนที่ห้องคนเดียว ผมตัดสินใจเริ่มทำอะไรสักอย่าง
“พี่เจี๊ยบ ผมขอกอดหน่อย...” ผมหันตะแคงโอบแขนขวาเข้าที่เอวพี่สาวโดยไม่รอคำตอบ
พี่เจี๊ยบนิ่งเงียบไม่พูดอะไรแต่ไม่ได้ห้าม เมื่ออยู่ในท่านอนกอดพี่สาวจากด้านหลังก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นหอม ๆ ที่เย้ายวน ผมแกล้งใช้ปลายนิ้วกลางและนิ้วนางลูบไล้เนื้อผ้าบริเวณหน้าท้องเธอเบา ๆ เป็นการหยั่งเชิง พี่สาวยังคงเงียบไม่ได้ว่าอะไร ผมลูบไล้อยู่สักพักจึงค่อย ๆ เลื่อนมือขึ้นหมายจะเข้าเกาะกุมที่เต้าอวบ
“โจ๊ก... อย่าซน” พี่เจี๊ยบรู้ทันจึงเอ่ยปาก แต่ด้วยน้ำเสียงของเธอมันไม่ได้แสดงถึงความโกรธ หรือห้ามอย่างจริงจัง
“ผมขอจับหน่อยนะ... แค่จับเฉย ๆ” ผมกระซิบบริเวณหลังใบหูพี่สาว แล้วเลื่อนมือขึ้นกุมเข้าที่เต้านมเธอ ความรู้สึกของสิ่งที่อยู่ในอุ้งมือทำให้รู้ได้ทันทีว่าพี่เจี๊ยบโนบรา
“พี่ไม่ใส่เสื้อในเหรอ...” ผมถามเสียงแผ่ว ๆ
“ตอนนอนใครเค้าใส่กัน” พี่สาวตอบแต่ไม่ปัดป้อง ผมจึงลองบีบมันเบา ๆ ปทุมถันของเธอนั้นหยุ่นนุ่มที่สำคัญมันใหญ่จนล้นฝ่ามือ ผมค่อย ๆ ควานหาเม็ดมณีบนยอดอกพี่สาว และในที่สุดก็ได้เจอ
“อื่มมมม...” ปลายนิ้วผมสะกิดเข้ากับหัวนมพี่เจี๊ยบจนเธอร้องครางขยับบิดตัวเล็กน้อย อาการตอบสนองของพี่สาวทำให้ผมรู้สึกพึงใจ
ผมแกล้งลูบไล้เต้าอวบไปมาโดยให้บางครั้งนิ้วโป้งสะกิดโดนหัวนมเธอแบบไม่ตั้งใจ ปลายยอดเต้าอวบเริ่มเต่งรับการรุกเร้า อาการของพี่สาวที่แสดงออกทำให้รู้ว่าหากยังไม่ได้ทำอะไรที่เกินเลยไปกว่าการสัมผัสกันภายนอกเธอคงไม่ขัดขืน ผมจึงเปลี่ยนมาใช้ปลายนิ้วชี้และนิ้วโป้งคลึงเข้าที่หัวนมเธอเบา ๆ อย่างตั้งใจ
“อื่มมมมม... โจ๊ก...” เสียงครางร้องเรียกชื่อผมมันกระตุ้นให้ดุ้นเนื้อแก่นกลางลำตัวค่อย ๆ ขยาย ผมอยากจะขยับเอวให้ลำควยได้ถูไถกับบั้นท้ายเธอแต่ยังไม่กล้าพอ
ต้องทำให้พี่เจี๊ยบมีอารมณ์มากกว่านี้แต่ต้องไม่ให้เธอเสร็จสมไปก่อน ผมถึงจะมีโอกาสได้ทำอะไรที่มากกว่าตอนอยู่ที่ม้านั่งนอกชาน นั่นคือความคิดที่แวบเข้ามา ผมละจากเต้าอวบใหญ่ไล้มือลงมายังสะโพกผาย ปลายนิ้วค่อย ๆ แซะผ่านชายเสื้อเข้าไปหาขอบกางเกงยางยืด พี่เจี๊ยบคงเสียวจนแขม่วหน้าท้อง เมื่อมือได้สอดผ่านลงไปจึงรับรู้ว่ามันได้ลูบไล้เข้ากับเนื้อแท้ที่ไม่มีชั้นในขวางกั้น ผมค่อย ๆ สอดมือลงไปด้วยใจที่เต้นรัว ความรู้สึกของเส้นไหมบนเนินหลังเต่าที่โหนกนูนไม่ได้อ่อนอุยแบบของเด็กสาวแต่น่าจะแต่งทรงมาเป็นอย่างดี เพียงเมื่อปลายนิ้วกลางสอดผ่านพูเนื้อลงไปยังร่องเสียวก็รู้สึกได้ถึงความฉ่ำลื่นไปด้วยน้ำรักของพี่สาว
“ซี๊ดดดดส์... เสียว...” ผมจูบไปที่ต้นคอด้านหลัง พลางขยับนิ้ววนหาเม็ดแตด
“โจ๊ก... พี่เสียว... ซี๊ดดดดส์...”
“เสียวกว่าตอนที่อยู่ข้างนอกมั้ย...” ผมกระซิบถามพี่สาว
“เสียว... ซี๊ดดดดส์... เสียวกว่า...”
“ทำไมล่ะพี่” ผมแกล้งถามเธอพร้อมเร่งจังหวะเขี่ยติ่งเสียว
“อู้ยยยยย... ก็นิ้วโจ๊กมันโดนของพี่จริง ๆ... มันไม่ผ่านชั้นใน... ซี๊ดดดดส์...” พี่เจี๊ยบตอบด้วยความเสียว ขาเธอเริ่มบีบเข้าหากัน
แต่เพื่อไม่ให้พี่สาวถึงจุดสุดยอดไปก่อน ผมจึงค่อย ๆ ผ่อนความเร็วแล้วเปลี่ยนมารูดนิ้วขึ้นลงให้ผ่านรูหีเธอพลางหักข้อนิ้วทำทีเหมือนจะแทรกมันเข้าไปแต่ก็เพียงแค่ตื้น ๆ หน้าปากถ้ำ และคงเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายที่รู้ว่าจะมีสิ่งแปลกปลอมผ่านเข้าไป มันก็ยิ่งขมิบขับน้ำเมือกออกมาจนแฉะไปหมด
“อย่านะโจ๊ก... ซี๊ดดดดส์... อย่า...” ต่างจากร่างกายที่พร้อมรับ พี่สาวคงรู้ว่าผมกำลังจะส่งนิ้วผ่านเข้าไปในร่องหี เธอจึงร้องห้ามแต่ก็เป็นเสียงที่แสนกระเส่า
“แค่นิ้วเองพี่... น้ำเงี่ยนออกจนลื่นไปหมดแล้ว” ผมตอบพลางวนเวียนปลายนิ้วที่ปากทาง
“ซี๊ดดดดส์... แบบนี้ยังถือเป็นทำกันแค่ภายนอกใช่มั้ยโจ๊ก...”
“ผมใช่แค่นิ้ว ผมไม่ได้สอดควยเข้าไป... เรายังไม่ได้เย็ดกัน...” ผมขยับเข้าไปพูดข้าง ๆ หูพี่สาวก่อนจะค่อย ๆ กดแทรกปลายนิ้วเข้าไปในรูหีเธอ
“อู้วววววววว์...” พี่เจี๊ยบร้องพร้อมยกมือขึ้นคว้าจับแขนผมแน่น ภายในถ้ำของเธอมันนุ่มโอบกระชับ ถ้าเปลี่ยนจากนิ้วเป็นดุ้นควยมันคงสุขสุดยอดเลยทีเดียว ผมค่อย ๆ ขยับข้อนิ้วเข้าออกช้า ๆ อย่างทะนุถนอม เพราะถ้าทำอะไรรุนแรงเกมสวาทนี้คงจบก่อนเวลาอันควร
“เสียวมั้ย...”
“เสียว... โจ๊ก... พี่เสียว... ซี๊ดดดดส์”
“พี่เจี๊ยบ...”
“อะไรเหรอ... ซี๊ดดดส์...”
“ถ้าเปลี่ยนนิ้วเป็นควย พี่เจี๊ยบจะเสียวกว่านี้อีก...”
“อย่าเลยโจ๊ก... เราเป็นพี่น้องกัน... ซี๊ดดดส์...” ดูแล้วพี่สาวยังคงใจแข็งไม่ยอมง่าย ๆ
“พี่เจี๊ยบ... ขอจูบหน่อย...” พี่เจี๊ยบค่อย ๆ ขยับตัวหันมาโดยที่ยังมีนิ้วผมคาอยู่ในรูหีที่ฉ่ำแฉะ
เราสองคนเริ่มบรรเลงเพลงจูบกันอย่างดูดดื่ม ผมถอนมือออกจากกางเกงพี่สาวแล้วเกี่ยวนิ้วเข้ากับขอบยางยืดรั้งมันลงไป พี่สาวที่แลกลิ้นกันอยู่ขยับยกสะโพกให้ผมใช้ปลายเท้าช่วยเขี่ยมันหลุดออกไปได้อย่างไม่ยากนัก บัดนี้ท่อนล่างของพี่สาวคนสวยเปลือยเปล่า ผมใช้มือบีบคลึงเต้าอวบพี่เจี๊ยบอีกครั้งพลางค่อย ๆ ปลดกระดุมออกแล้วสอดมือผ่านสาบเสื้อเข้าไปหาเนื้อแท้ของเต้านมเธอ
“อื่มมมมมม...” เมื่อปทุมถันของพี่สาวถูกเคล้าคลึง เธอก็แอ่นอกร้องคราง เต้าอวบพี่เจี๊ยบเนียนนุ่มมือหัวนมแข็งเป็นไต ไวเท่าความคิด ผมค่อย ๆ ขยับให้พี่สาวนอนหงายโน้มตัวขึ้นคร่อมร่างเธอแล้วพรมจูบผ่านลำคอขาวลงมาจนถึงเนินนม
“ซี๊ดดดดส์... โจ๊ก...” ปลายลิ้นฉ่ำ ๆ เลียเข้ากับยอดปทุมของพี่เจี๊ยบพร้อม ๆ กับมือที่ปลดกระดุมเม็ดที่เหลือออกจนหมด ในที่สุดผมก็ได้ดื่มด่ำกับเต้าอวบคู่งาม ผมทั้งดูดทั้งเลียสร้างความกระสันให้พี่สาวสลับไปมาทั้งสองข้าง
“โจ๊ก... พี่เสียวใจจะขาดแล้ว... ซี๊ดดดดส์...” พี่เจี๊ยบบิดตัวไปมาปากร้องแต่ว่าเสียว ผมคิดในใจนี่ยังไม่เสียวเท่าไหร่หรอก ผมค่อย ๆ จูบผ่านลงมายังสะดือบนหน้าท้องที่แบนราบ
“โจ๊ก... อย่า... อู้ยยยยยยยย์...” คำค้านตกไป ปลายลิ้นผมแทรกผ่านพูหีอวบอิ่มไปตวัดเข้ากับติ่งแตดจนพี่สาวครางระงม
“ซี๊ดดดส์... โจ๊ก... อย่าเลียตรงนั้น...” พี่เจี๊ยบจับหัวผมพยายามผลักออก แต่ดูจากความแรงแล้วก็เป็นเพียงแค่การห้ามเป็นพิธี ผมยังคงตั้งหน้าตั้งตาโลมเลียร่องหีที่แสนจะอวบอูม น้ำเงี่ยนของพี่เจี๊ยบไหลบ่าออกมาให้ผมได้ลิ้มรสความหวานอย่างน่าประหลาด
“อู้ยยยย์... ซี๊ดดดดดส์...” พี่สาวเริ่มแอ่นเนินหีสู้ลิ้นร้องครางดังขึ้นเรื่อย ๆ ถ้านี่เป็นเมื่อวานข้างห้องคงได้ยินกันหมด ผมค่อย ๆ ใช้นิ้ววนไล้ที่ปากรูเสียว ปลายลิ้นก็ยังกระดกเลียติ่งแตดไม่ขาด
“ซี๊ดดดดส์... เสียว...” รูหีพี่เจี๊ยบขมิบรับเมื่อผมสอดนิ้วกลางข้าไปช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับเข้าออกจนมันลื่นแต่ก็ยังคับแน่น หากจะเทียบกับท่อนควยแล้วรูหีนี้คงยังรับไม่ไหว ผมถอนนิ้วออกจนถึงข้อสุดท้ายแล้วค่อย ๆ แทรกมันเข้าไปใหม่โดยใช้นิ้วชี้สอดเข้าไปด้วย
“โจ๊ก... อู้ยยยยยยยย์...” พี่สาวร้องทันทีเมื่อร่องสวรรค์ของเธอโดนสอดเข้าไปถึงสองนิ้ว
แต่ด้วยสรีระทั้งเนินโคกที่โหนกนูน พูเนื้ออันอวบอูม และน้ำรักที่ขับออกมาไม่ขาดสาย ไม่นานรูหีพี่สาวก็ปรับรับกับสิ่งแปลกปลอมที่แทรกเข้าไปในตัวเธอได้ พี่เจี๊ยบเริ่มแอ่นสะโพกรับนิ้วผมเป็นระยะ มือที่เคยพยายามผลักไสตอนนี้ดึงรั้งหัวผมไว้แน่นเหมือนว่าเธอกำลังปลดปล่อยอารมณ์ไปกับตัณหาที่เก็บกดมานาน ซึ่งมันก็พาให้ผมคิดไปว่าถ้าผมร้องขอเย็ดเธอตอนนี้พี่สาวอาจจะตอบตกลงก็เป็นได้
“โจ๊ก... ซี๊ดดดดส์... ไม่ไหวแล้ว...” พี่เจี๊ยบเกร็งตัวแอ่นโคกร้องคราง เป็นอาการที่บ่งบอกว่าเธอพร้อมที่จะขึ้นสวรรค์อีกครั้ง
ผมจึงรีบถอนนิ้วออกจากร่องเสียวพร้อมหยุดเรียวลิ้นที่โลมเลียติ่งแตดเธอทันที พี่เจี๊ยบค่อย ๆ ทิ้งสะโพกลงหอบหายใจแรง ผมขยับขึ้นพรมจูบไปที่หน้าท้องโดยไม่ลืมที่จะปาดน้ำรักที่ติดอยู่ที่ปากออกก่อน ระหว่างที่กำลังคืบคลานขึ้นไปนั้นผมก็แอบควักท่อนควยออกมาทางช่องผ่าด้านหน้าของบ๊อกเซอร์ จนในที่สุดผมก็อยู่ในท่าแทรกตัวอยู่หว่างขาประกบปากจูบพี่สาวแล้วค่อย ๆ ปรับระดับให้ท่อนเอ็นอยู่บริเวณร่องเสียว ระหว่างที่เราจูบกันอย่างดูดดื่มนั้น ผมลองเสยลำควยให้ถูเข้ากับพูหีพี่เจี๊ยบเบา ๆ เพียงด้านล่างของหัวควยได้แฉลบผ่านกลางพูเนื้อความรู้สึกซาบซ่านก็แผ่ไปทั่วร่างกาย
“ยะ... อย่าโจ๊ก...” เมื่อพี่เจี๊ยบรู้สึกได้ถึงบางอย่างเสยผ่านร่องหี เธอจึงรีบยกมือขึ้นจับใบหน้าผมดันออกทันที
“พี่... ผมขอนะ...” ในความสลัวที่ยังพอมองเห็นได้ ผมเอ่ยปากขอร้องพี่สาวด้วยน้ำเสียงเว้าวอน โดยที่ดุ้นเอ็นก็ยังทาบอยู่บนหัวเหน่าเธอ
“แค่นี้มันก็มากพอแล้วนะโจ๊ก... อย่าลืมสิว่าเราเป็นพี่น้องกัน...”
“ผมขอแค่ถู ๆ อยู่ภายนอกได้มั้ย...”
“..........” ไม่มีเสียงตอบใด ๆ จากพี่สาว
“นะพี่เจี๊ยบ...” ผมอ้อนวอนพี่สาวอีกครั้งพร้อมวิสาสะโยกเอวให้ด้านล่างของลำควยถูเข้ากับติ่งแตดเธอ
“ซี๊ดดดส์... โจ๊ก...” พี่เจี๊ยบเผลอครางมือที่จับไหล่ผมอยู่บีบเกร็งด้วยความสยิว
“นะพี่... ผมขอถูควยกับร่องพี่เจี๊ยบนะ” ผมสบโอกาสร้องขอพี่สาวอีกครั้ง พร้อมสอดมือขวาลงไปจับให้ท่อนเอ็นถูไถไปมาในพูพีที่อวบอูม
“ซี๊ดดดดดดดดส์... โจ๊ก... เสียว... แค่ถูข้างนอกนะโจ๊ก... อย่าเอาเข้าไปนะ... อู้ยยยยยยย์...” ถึงแม้พี่เจี๊ยบจะครางด้วยความเสียวหีเพียงใด แต่ก็ยังคงห้ามไม่ให้ดุ้นเนื้อนี้ผ่านเข้าไปในกายเธอ
ในตอนนี้ผมเองก็เสียวควยไม่ต่างจากพี่สาว ความรู้สึกของการได้เอาหัวควยถูไถกับหีพี่สาวตัวเองมันเสียวและตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ไม่นานหัวควยที่บดบี้กับเม็ดแตดก็ถูกเมือกแห่งราคะของพี่เจี๊ยบชโลมจนฉ่ำลื่น
“โจ๊ก... พี่เสียวไปหมดแล้ว... ซี๊ดดดดดส์... เสียว...” พี่สาวเริ่มแอ่นสะโพกรับดุ้นเนื้อที่กำลังสร้างความเสียวซ่านเม็ดแตดให้เธอ
ความเร่าร้อนของพี่เจี๊ยบมันยิ่งกระตุ้นให้ผมอยากจะทิ่มหัวควยเข้าไปในรูหีใจแทบขาด ผมยันตัวขึ้นให้อยู่ในท่านั่ง มือขวายังคงจับดุ้นเอ็นให้แนบอยู่ในพูเนื้อแล้วขยับกระเด้าเอวพาลำควยถูขึ้นลงกับติ่งเสียว
“อู้ยยยยยย์... เสียว... เวลาเค้าเอากันเสียวอย่างนี้ใช่มั้ยโจ๊ก... ซี๊ดดดดส์...”
“ถ้าเย็ดควยเข้าไปจะเสียวกว่านี้อีก...”
“เสียวกกว่านี้อีกเหรอโจ๊ก... ซี๊ดดดดดส์...” ในคำพูดของพี่เจี๊ยบ ผมนึกเอาเองว่าพี่สาวเริ่มจะใจอ่อนอยากลองให้ควยผมมุดเข้าไปในรูหีเธอ
“ใช่... ถ้ามันได้เข้าไปเย็ดในรูหี พี่จะเสียวกกว่านี้... พี่ลองดูมั้ย...” ผมส่งมือซ้ายลงบีบคลึงเต้าอวบพี่สาวเพื่อเพิ่มความกระสันอยาก พร้อมกับเร่งกระเด้าเย็ดเม็ดแตด
“เราเป็นพี่น้องกันนะโจ๊ก... ซี๊ดดดดดส์...” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาค่อนข้างลังเล ผมเขี่ยที่หัวนมเธอแล้วโยกเอวให้ดุ้นควยถูไถกับเม็ดเสียวเร็วขึ้น ๆ ยิ่งพี่เจี๊ยบเสียวหีเธอก็ยิ่งแอ่นสะโพกรับ
“ไม่ไหวแล้วโจ๊ก... ซี๊ดดดส์... พี่ไม่ไหวแล้ว” อาการของพี่เจี๊ยบบอกให้รู้ว่าทุกอย่างมันกำลังจะจบ
ด้วยบทสนทนาที่คาดว่าพี่สาวน่าจะยอมประกอบกับนี่คงโอกาสสุดท้ายที่ใกล้ความจริงที่สุด ผมถอยเอวจ่อหัวควยเข้ากับปากรูหีที่ฉ่ำเยิ้มแล้วกลั้นใจดันมันเข้าไป ด้วยความลื่นของน้ำเงี่ยนและอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของพี่เจี๊ยบ เอ็นทั้งดุ้นจึงแทรกตัวผ่านรูหีเข้าไปจนมิด มันเป็นความรู้สึกที่สุดจะตื่นเต้นเมื่อผมได้ยัดควยเข้าไปอยู่ในรูหีของพี่สาวแท้ ๆ ของตัวเอง รูหีพี่เจี๊ยบทั้งแน่นทั้งนุ่มภายในร้อนและโอบรัด
“โจ๊ก... อย่า... โจ๊ก...” พี่เจี๊ยบตะโกนร้องพยายามดิ้นทันทีที่หนอกควยผมบดเข้ากับเนินหีเธอ แล้วผมก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างกระแทกมาที่แก้มซ้าย
พี่เจี๊ยบเหวี่ยงฝ่ามือตบผมเข้าเต็มแรง เธอผลักผมแล้วยกเท้าขึ้นยันที่ลิ้นปี่จนผมหงายท้องตกจากที่นอน หัวผมกระแทกพื้นไม้อย่างจัง ในที่สุดผมก็รู้ว่าผมคิดไปเองว่าพี่สาวจะยอม ผมค่อย ๆ ยันตัวเองขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำใด ๆ กับพี่เจี๊ยบ
<---------------->
หลังจากที่ผมล้างคราบเหนียวออกจากไอ้ตัวการที่ทำให้ผมโดนทั้งตบทั้งถีบจนสะอาดก็เดินคอตกออกมานั่งที่ม้านั่งยาวนอกชาน ผมหันไปมองเบียร์ครึ่งแก้วสุดท้าย บัดนี้น้ำแข็งละลายหมดจนสีอำพันจืดจางลง ผมเอื้อมมือคว้ามันขึ้นมาดื่ม รสชาติที่แสนห่วย ซึ่งมันก็ห่วยพอ ๆ กับชีวิตผมในตอนนี้ แก้วเปล่าถูกวางลงพร้อมกับแววตาที่ก้มมองพื้นอย่างหมองหม่น
ผมทำงานที่เดียวกับพี่เจี๊ยบ อยู่บ้านเดียวกับพี่เจี๊ยบ จากนี้ไปผมคงไม่กล้าสู้หน้าพี่สาว มันเป็นเพราะความไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจของผมเองที่ตัดสินใจทำมันลงไปแบบนั้น แต่แล้วความทรงจำของความรู้สึกที่ได้สอดใส่แก่นกายเข้าไปในร่องสวาทของพี่เจี๊ยบก็แทรกเข้ามาในความคิด ผมยกมือซ้ายขึ้นตบหน้าตัวเองทันทีเพื่อให้ความเจ็บดึงผมขึ้นมาจากก้นบึ้งแห่งกามตัณหาที่มีต่อพี่สาวตัวเอง ซึ่งมันก็ซ้ำกับรอยที่เธอฝากไว้ก่อนหน้า
พลันผมก็ได้ยินเสียงพื้นไม้ดังทำให้รู้ว่ามีคนเดินออกมาจากในบ้าน ผมหันไปมองพร้อมกับพี่เจี๊ยบที่เดินออกมาในชุดคลุมอาบน้ำผ้ารังผึ้งสีน้ำตาล เธอคงไปชำระเอาสิ่งสกปรกที่น้องชายเลว ๆ อย่างผมฝากไว้บนเรือนร่างออก ผมหันกลับมามองพื้นไม่กล้าแม้จะสบตาพี่สาว ฝีเท้าเธอเดินมาหยุดยืนที่ข้างม้านั่งผม
“ไปนอนเถอะ...” พี่เจี๊ยบพูดน้ำเสียงราบเรียบ
“เดี๋ยวผมนอนห้องตัวเองก็ได้” ผมก้มหน้าตอบไปอย่างนั้น แล้วฝีเท้าพี่สาวก็เดินออกห่างไปจนเธอเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“พี่ให้โอกาสโจ๊กแล้วนะ...” แทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ผมรีบหันไปมองพี่เจี๊ยบทันที
“ดะ.. ดะ.. ได้... ได้เหรอพี่” หัวใจผมพองโตจนพูดจาติดอ่าง
“เฮ่อ... ก็มันล้ำเส้นไปแล้วหนิ” พี่เจี๊ยบมองบนถอนหายใจเบา ๆ ก่อนก็จะตอบ แล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน ส่วนผมนี่โคตรดีใจรีบลุกตามพี่สาวไปทันที
ผมแทรกตัวผ่านประตูที่พี่เจี๊ยบกำลังจะปิด ภายในห้องจากเดิมที่เปิดไฟสีส้มสลัว ๆ ตอนนี้เปิดไฟแสงขาวสว่าง เมื่อพี่สาวกดล็อคประตูเธอก็ยกมือขึ้นหมายจะปิดสวิตช์ไฟ ผมก็รีบจับมือพี่เจี๊ยบไว้ทันที
“ไม่ปิดได้มั้ย...” ผมพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาขอร้อง ใจผมอยากเห็นเรือนร่างพี่สาวแบบที่ไม่ต้องจินตนาการเอาเอง
“แดงเลย... พี่ขอโทษ...” พี่เจี๊ยบไม่ตอบเรื่องไฟ แต่เมื่อพี่สาวเห็นรอยแดงที่แก้มผมเธอก็ยกมือขึ้นแตะที่มันเบา ๆ ซึ่งจริง ๆ พี่เจี๊ยบก็ตบผมแรงมาก แต่ที่แดงน่าจะเกิดจากที่ผมตบซ้ำตัวเองไปอีกที
“พี่ตบผม ๆ ก็เจ็บนะ... แต่มันก็เพราะผมไม่ดีเอง แต่ถ้าพี่อยากขอโทษ พี่ทำอะไรให้ผมสักอย่างได้มั้ย...”
“อะไรเหรอ” พี่เจี๊ยบถามขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ดูดควยให้ผมหน่อย” ผมพูดไปตรง ๆ เพราะไหน ๆ พี่สาวก็ยอมเรื่องเย็ดกันแล้วก็เอาให้มันสุดไปเลย
“บ้า...” พี่เจี๊ยบหน้าแดงตีเข้าที่หน้าอกผมแต่ไม่แรงมาก
“นะพี่...”
“บ้าเหรอ... พี่ทำไม่เป็น” พี่สาวพูดอาย ๆ
“เป็น... พี่สาวผมเก่งจะตาย ทำได้ทุกอย่าง”
“..........” พี่เจี๊ยบก้มหน้าเงียบไปสักพัก และแล้วเธอก็เงยขึ้นมองหน้าผมก่อนจะค่อย ๆ ทรุดตัวลงคุกเข่า ในที่สุดพี่สาวก็ยอม
เธอจับขอบเอวบ๊อกเซอร์แล้วค่อย ๆ ดึงมันลงจนไปกองที่พื้น ดุ้นเนื้อที่ยังไม่แข็งตัวสักเท่าไหร่ก็ปรากฏแก่สายตาพี่เจี๊ยบ เธอเงยหน้าขึ้นมองผมพลางจะเอามือขวาจับเข้าที่ควยผมอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เพียงมือพี่สาวสัมผัสเข้ากับแก่นกายผม มันก็ค่อย ๆ พองขึ้นมา ผมสังเกตพี่เจี๊ยบจ้องมองที่ควยผมอย่างตื่นเต้นแล้วแอบกลืนน้ำลาย
“อื่มมมม...” เธอรูดหนังควยเบา ๆ เหมือนกำลังทำความคุ้มชินกับดุ้นเนื้อที่อยู่ในมือ แต่หารู้ไม่ว่ามันทำให้ผมเสียวจนเผลอครางในลำคอ พี่เจี๊ยบเม้มปากเล็กน้อยเหมือนกำลังชั่งใจ เธอเงยหน้าขึ้นมองผมอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจเปิดปากเพื่อรับเอาท่อนเอ็นเข้าไป
“อื่มมมมม...” ผมรู้สึกได้ถึงความอุ่นของปากพี่สาวกับลิ้นนุ่ม ๆ ที่รองใต้ควย ผมเดาว่าพี่เจี๊ยบอาจจะเคยเห็นผ่านตามาบ้างจากคลิป หรืออะไรช่องทางอื่น แต่เมื่อต้องมาทำเองก็ดูเธอจะเก้ ๆ กัง ๆ
“เสียวควยมากเลยพี่... ค่อย ๆ โยกเข้าออกนะเบา ๆ ก่อนอย่าให้ฟันโดน” ผมชมแกมสอนเพื่อไม่ให้พี่สาวรู้สึกเสียความมั่นใจกับการอมควยครั้งแรกของเธอ ด้วยความเป็นพี่เจี๊ยบ ไม่นานดุ้นเนื้อผมก็กลายเป็นของหวานที่เธอดูดเล่นอย่างเพลินปาก
“ซี๊ดดดดส์...” พี่เจี๊ยบเร่าร้อนมาก เธอทั้งเลียทั้งโมกจนผมเสียวควยไปหมด
ถ้านี่ไม่ใช่พี่สาว ยังไงผมก็ต้องมองว่าเธอผ่านผู้ชายมาแล้วแน่ ๆ พี่เจี๊ยบตวัดลิ้นเข้าใต้หัวควยบริเวณเส้นสองสลึงสร้างความเสียวเป็นอย่างมาก เมื่อมองดูผู้หญิงที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าก็พาให้รู้สึกภูมิใจ ผู้ช่วยผู้จัดการที่ใคร ๆ ต่างก็เกรงกลัวกำลังประเคนความสุขให้ผมอยู่ ยิ่งคิดไปไกลกว่านั้น เธอยังเป็นพี่สาวที่กำลังนั่งดูดควยน้องชายแท้ ๆ คิดแล้วก็ยิ่งเสียวปนตื่นเต้น ถ้าได้ปล่อยน้ำว่าวใส่ปากพี่เจี๊ยบมันจะฟินแค่ไหน แต่อีกใจก็คิด ถ้าจะเป็นน้ำแรกกับพี่สาวมันต้องปล่อยในตัวเธอถึงจะถูก
“พอก่อนพี่... ผมเสียว... เดี๋ยวน้ำแตกกันพอดี” ผมก้มลงช้อนร่างพี่สาวที่กำลังเร่งโม้กควยขึ้น หลังจากที่เธอใช้หลังมือปาดคราบน้ำลายที่ติดริมฝีกปากผมก็โน้มตัวเข้าจูบเธอ
“ขอบคุณครับ...” พูดจบผมก็จูงมือพี่เจี๊ยบมานั่งที่เตียง
“โจ๊ก... ไม่ปิดไฟเหรอ” ผมมองตาพี่สาวพลางส่ายหน้า
เรือนร่างที่ถูกห่อหุ้มด้วยชุดคลุมอาบน้ำกำลังจะเผยให้ผมได้เห็น ผมกำมือไล่ความตื่นเต้นก่อนจะจับเชือกที่มัดเอวเธอแล้วดึงมันช้า ๆ ชุดคลุมสีน้ำตาลคลายตัวออกเผยให้เห็นผิวสีขาวที่ซ่อนอยู่ภายใน ผมสอดสองมือผ่านสาบเสื้อแล้วเปลื้องมันออกทั้งสองข้าง ร่างพี่เจี๊ยบขาวเนียนเป็นหยวก เต้าอวบขนาด 36 คัพ F ที่เคยได้สัมผัสในความมืดประจักษ์แก่สายตา มันใหญ่และทรงสวยได้รูป หัวนมสีชมพูอ่อนกับลานนมขนาดประมาณเหรียญสิบ
“นมพี่เจี๊ยบสวยจัง” สองมือผมกุมเข้ากับเต้าอวบพี่สาวแล้วค่อย ๆ คลึงเบา ๆ
“โจ๊ก...” ผมประกบจูบพี่เจี๊ยบโดยที่เธอยังพูดไม่จบ แล้วเราสองพี่น้องที่เปลือยเปล่าทั้งคู่ก็บรรเลงเพลงรักกับการลูบไล้เนื้อหนังภายนอกกันอีกครั้งอย่างดูดดื่ม
“อื่มมมมม...” ผมสยิวควยทันทีเมื่อเธอจับแก่นเนื้อผมชักเบา ๆ โดยไม่ต้องร้องขอ
พี่สาวเริ่มช่ำชองกับเรื่องเซ็กส์ขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ยังเหลือสิ่งเดียวที่เธอยังต้องเรียนรู้ ผมขยับตัวขึ้นไปบนที่นอนแล้วค่อย ๆ ประคองให้พี่เจี๊ยบนอนหงาย หมอนนุ่ม ๆ ถูกจัดวางรองต้นคอเธอเพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย ผมคร่อมร่างพี่สาวแล้วพรมจูบไซ้ซอกคอขาว ๆ ลงมาจนถึงเต้าอวบ
“อู้ยยยยย์... ซี๊ดดดส์...” ผมดูดเลียที่หัวนมพี่เจี๊ยบจนมันเต่งสู้ลิ้น ปทุมถันของพี่สาวทั้งหอมและนุ่มทำให้ผมหลงใหลได้อย่างโงหัวไม่ขึ้น ผมเคล้าคลึงมันอย่างถนอมแต่แฝงไปด้วยความหนักหน่วงในบางครั้ง
“ซี๊ดดดดส์... โจ๊ก...” พี่เจี๊ยบกดหัวไหล่ผมเบา ๆ ผมว่าพี่สาวคงเงี่ยนแต่ไม่กล้าพูด เธอคงอยากให้ผมลงไปจัดการกับร่องสวาทเป็นแน่
ผมขยับจูบไล้ลงมาพลางใช้หัวเข่าแซะเรียวขาพี่สาวให้แยกออกเพื่อแทรกตัวเข้าไปอยู่หว่างขาเธอ ผมยันร่างขึ้นมองพี่เจี๊ยบที่เอียงหน้าหลับตานอนเปลือยเปล่า ผิวพรรณเธอช่างขาวนวล เอวคอดรับกับสะโพกผาย โคกนูนประดับด้วยเส้นหมอยที่ถูกตัดแต่งอย่างสวยงามเป็นระเบียบ แต่ขาที่แยกออกเพียงแค่ให้ผมคุกเข่าอยู่ได้มันไม่กว้างพอให้พูสวรรค์แย้มออก ผมลูบไล้ไปที่ปลีน่องของเธอทั้งสองข้างแล้วค่อย ๆ จับมันแยก พี่เจี๊ยบเกร็งขืนกำผ้าปูที่นอนเล็กน้อย อาจจะเป็นด้วยความอาย แต่แล้วเธอก็ปล่อยให้เรียวขาแยกออกจากกันจนพูเนื้อสองข้างที่ทั้งขาวทั้งอวบแย้มออกเผยร่องรอยของความชุ่มฉ่ำภายในให้เห็น ผมลูบไล้มือขวาจากต้นขาขาวของพี่เจี๊ยบเข้าไปจนวางอยู่บนที่นาผืนน้อย
“ซี๊ดดดดดส์...” เพียงนิ้วโป้งรูดเขี่ยในร่องเสียวจากด้านล่างขึ้นบนพี่เจี๊ยบก็ครางกระเส่าแอ่นโคกรับ
ปลายนิ้วที่แทรกผ่านพูเนื้อลื่นเหนียวเข้าไปสะกิดโดนติ่งแตดของเธอ ความเอียงอายมันคงหมดไปแล้วสำหรับพี่เจี๊ยบ เธอแยกขาออกอีกเพื่อให้ผมได้สัมผัสกับร่องหีเธอได้อย่างถนัดถนี่ เมื่อพี่สาวต้องการผมก็ต้องสนอง ผมขยับถอยหลังก้มลงใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางมือซ้ายทาบเข้ากับพูเนื้ออวบที่สองข้างแล้วแหวกมันออกจนปากร่องเสียวเปิด แล้วใช้ปลายโป้งมือขวาคลึงเข้ากับเม็ดมณีที่ซ่อนอยู่ภายใน
“ซี๊ดดดดส์... เสียว...” พี่เจี๊ยบครางพร้อมขมิบรูหีจนน้ำรักไหลเยิ้มออกมา ความหอมหวานเชิญชวนให้ผมยื่นหน้าเข้าไปใช้ลิ้นเลียเม็ดแตดแทนปลายนิ้ว
“อู้ยยยยยยยยย์... โจ๊ก... ซี๊ดดดดดดส์... โจ๊กเลียของพี่อีกแล้ว...” ผมดูดกินน้ำเงี่ยนของพี่เจี๊ยบพร้อมประเคนความเสียวด้วยลิ้นระรัว
ระหว่างนั้นก็จับขาทั้งสองข้างให้อยู่ในท่าชันเข่า จากอาการของพี่สาวที่บางครั้งเรียวลิ้นสะกิดเน้นปุ่มกระสันหน้าท้องเธอถึงกับแขม่วเกร็งกระตุกเบา ๆ ผมจึงละจากร่องเสียวที่ฉ่ำเยิ้ม ผมยันตัวขึ้นสายตาพินิจมองเรือนร่างอันงดงามของผู้หญิงที่ผมเรียกว่าพี่สาว เธออยู่ในท่าแหกขาชันเข่าโชว์เนินหีพร้อมให้ผมซึ่งเป็นน้องชายแท้ ๆ ปักสิ่งที่เรียกว่าควยลงไป
“พี่เจี๊ยบ...” พี่สาวลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเรียก เธอมองมาที่ผมซึ่งบัดนี้ท่อนเอ็นแข็งชี้พร้อมจะเย็ดหีอูม ๆ ของเธอ
“ผมทำได้ใช่มั้ย...” คำถามเพื่อความแน่ใจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ความสัมพันธ์ของเราสองพี่น้องจะเปลี่ยนไป
“...........” พี่เจี๊ยบไม่ตอบ แต่ยกสองมือขึ้นมาจับที่หมอนพยักหน้าแล้วหลับตา เมื่อเธออนุญาตผมจึงประคองดุ้นเนื้อแล้วจับให้หัวควยถูไถเข้ากับติ่งแตดพี่สาว
“พี่เสียวมั้ย... ควยผมกำลังถูหีพี่อยู่...”
“ซี๊ดดดดดส์... เสียว...” พี่เจี๊ยบครางพร้อมแอ่นโคกให้เม็ดมณีรับสัมผัสจากท่อนเอ็น
น้ำเมือกเริ่มชโลมควยที่ซุกไซ้ไปมาในพูหีจนลื่น เมื่อเห็นว่าทุกอย่างพร้อมผมจึงจับให้ส่วนปลายจ่อเข้ากับปากถ้ำ ผมหายใจลึกเพื่อระงับความตื่นเต้นแล้วค่อย ๆ แอ่นเอวเพื่อให้หัวควยแทรกผ่านร่องหลืบที่คับแคบเข้าไป แต่เพียงมันผ่านเข้าไปได้แค่คอหยักรูหีก็ขมิบรับพร้อมด้วยเสียงเรียก
“โจ๊ก...” พี่เจี๊ยบลืมตาใช้มือขวายันที่ท้องน้อยผมไว้พร้อมบีบขาทั้งสองเข้าหากัน
“พี่น้องกันทำกันได้ใช่มั้ย...” พี่สาวถามเสียงกังวล ทั้ง ๆ หัวควยผมก็เสียบคาอยู่ในรูหีเธอ
“จะมีใครรู้เรื่องเรามั้ยโจ๊ก...” ยิ่งพี่เจี๊ยบเปิดประเด็นผมก็ยิ่งตื่นเต้น เพราะความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างพี่น้องมันเป็นเรื่องต้องห้าม
“ไม่มีใครรู้หรอก... มีแต่เรา...” ผมไม่พูดเปล่าแต่ออกแรงดันเบา ๆ ให้ดุ้นเนื้อค่อย ๆ แทรกผ่านเข้าไปอีกเล็กน้อย
“อู้ยยยยย์... โจ๊ก... ไม่มีใครรู้แน่นะ...” ร่องหีพี่เจี๊ยบขมิบรัดลำควย มือที่เคยดันไว้ที่หน้าท้องผมยกขึ้นไปจับที่หมอนพร้อมหรี่เปลือกตาลง
“พี่จะบอกใครเรื่องเรารึป่าวล่ะ...” ผมพูดกับเธอแต่ตากลับก้มมองดุ้นเนื้อที่ผมค่อย ๆ ดันให้มันมุดเข้าไปในหีขาว ๆ ของพี่สาวทีละน้อยอย่างช้า ๆ ด้วยความตื่นเต้น
“ไม่... ซี๊ดดดดส์...พี่ไม่บอกใคร...” ยิ่งท่อนเอ็นแทรกลึกเข้าไปพี่สาวก็ยิ่งครางมือทั้งสองข้างจิกหมอนแน่น
“ผมก็ไม่บอกใคร...” เพียงสิ้นคำ ลำควยทั้งดุ้นก็ผ่านเข้าไปอยู่ในรูหีพี่เจี๊ยบจนมิด โพรงหีพี่สาวทั้งร้อนทั้งนุ่ม มันโอบกระชับลำควยยิ่งกว่าของสาว ๆ ที่ผมเคยได้เย็ดมา ผมบดส่วนกลางเข้ากับเนินนูนของพี่สาวให้แก่นเนื้อยิ่งแทรกลึกเข้าไป
“อู้ยยยยยยย์... เสียว...” พี่เจี๊ยบร้องครางพลางเอื้อมมือมาดึงแขนให้ผมโน้มตัวลงไปหาเธอ ผมใช้ข้อศอกยันร่างไม่ให้ทับพร้อมมองตาพี่เจี๊ยบด้วยความรักใคร่
“พี่อย่ากังวลนะ... มันจะเป็นความลับของเราสองคน... ผมสัญญา”
“..........” ไม่มีเสียงตอบใด ๆ มีเพียงรอยยิ้มที่อ่อนโยน และการพยักหน้ารับ
“ผมอยากให้พี่เจี๊ยบปลดปล่อยนะ... อยากให้พี่มีความสุข...” พี่สาวตอบรับด้วยแววตาที่ผมสามารถรู้สึกได้ พี่เจี๊ยบค่อย ๆ หลับตาก่อนที่ผมจะจูบเข้าที่ริมฝีปากเธอ เอวเริ่มขยับให้ท่อนเอ็นที่ฝังตัวอยู่เลื่อนตัวเข้าออกช้า ๆ
“อื่มมมมมมม...” เสียงครางในลำคอของผมกับพี่เจี๊ยบประสานกัน ความรู้สึกลึก ๆ ที่ได้เย็ดควยเข้าในหีพี่สาวแท้ ๆ มันตื่นเต้นยิ่งกว่าความเสียวที่ได้รับ พี่เจี๊ยบแทรกเรียวลิ้นผ่านริมฝีปากผมเข้ามาอย่างเร่าร้อน พี่สาวคงปลดปล่อยความเงี่ยนที่ถูกเก็บกดไว้นานปีออกมา ผมเริ่มสาวดุ้นเนื้อเย็ดร่องเสียวเธอเร็วขึ้น
“อ้า... ซี๊ดดดส์...” พี่สาวเบือนหน้าออก จับต้นคอผมให้ใบหน้าซุกเข้ากับซอกคอเธอ ผมจึงระดมจูบไซ้สร้างความสยิว พร้อมกับเร่งซอยควย
“อู้ยยยยยย์... พี่เสียว... ซี๊ดดดดส์...” ยิ่งเธอร้องครางผมก็ยิ่งกระเด้าเย็ดจนแทบลืมหายใจ
“ไม่ไหวแล้วโจ๊ก... พี่... พี่... โอ้ววววววววว์...” พี่เจี๊ยบกอดผมไว้แน่น ร่างเธอเกร็งกระตุกอย่างแรง ภายในร่องสวาทขมิบรัดดุ้นเนื้อผมเป็นจังหวะ
พี่สาวหอบหายใจด้วยความเหนื่อย ส่วนผมที่ใกล้เสร็จเต็มทนเหมือนกันช้อนร่างพี่สาวขึ้นจนเธออยู่ในท่านั่ง ถึงจะเหนื่อยแต่พี่เจี๊ยบก็รู้งาน เธอโยกเอวเย็ดควยน้องชายที่ยังคาอยู่ในรูหีโดยไม่ต้องเอ่ยปากบอก พี่เจี๊ยบเสยปอยผมยาวสลวยที่ไหวไปมาตามแรงโยก หน้าอกอวบก็ยิ่งลอยเด่นท้าให้ดูดเลีย
“อู้ยยยย์... ซี๊ดดดดส์...” เสียงครางพี่เจี๊ยบดังขึ้นอีกครั้งเมื่อผมซุกใบหน้าเข้ากับเต้านมพลางดูดที่ปลายยอด ยิ่งดูดคลึงปทุมถันพี่สาวก็ยิ่งแอ่นอกรับช่วงล่างก็โยกไม่หยุด ทั้งความเงี่ยนและความเร่าร้อนของพี่เจี๊ยบผมรู้สึกได้ทันทีว่าน้ำว่าวกำลังเคลื่อนตัว และแล้ว
“พี่... อื่มมมมมมมม...” ผมฝังใบหน้าเข้ากับเต้านมที่แสนนุ่ม พร้อมโอบกอดเอวพี่สาวไว้แน่น แล้วฉีดน้ำควยเข้าในรูหีเธออย่างแรง
“อู้ยยยยยยยยยย์...” พี่เจี๊ยบผวากอดตอบ เธอคงรู้สึกได้ถึงน้ำอุ่น ๆ ที่พุ่งเข้าไปในรูสวาท ควยผมกระตุกฉีดน้ำเชื้ออีกสามสี่ครั้งพร้อมกับอาการเกร็งเสียว ในที่สุดผมก็ได้เย็ดพี่สาว
เรากอดกันโดยไม่พูดอะไรนานกว่านาที แต่แปลกที่แก่นกลางลำตัวผมมันกลับไม่มีทีท่าจะอ่อนตัวลง มันยังคงแข็งคาในรูหีเธออยู่อย่างนั้น แล้วพี่เจี๊ยบก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อน เธอโยกเอวอีกครั้งเป็นการเชื้อเชิญ จู่ ๆ ภาพของพี่สาวที่โก้งโค้งแอบดูไอ้แม็คกับแก้วก็ฉายขึ้นมา ผมไม่รอช้าจูบปากพี่เจี๊ยบก่อนจะขยับเปลี่ยนอิริยาบถให้เธออยู่ในท่าโก้งโค้ง บั้นท้ายขาวเนียนลอยเด่นอยู่เบื้องหน้า ผมกำลังจะทำตามความฝันตัวเองอีกครั้งกับการได้เย็ดหีพี่สาวในท่านี้ ผมจับท่อนควยจ่อที่ปากรูหีจากด้านหลัง แล้วค่อย ๆ ดันมันเข้าไปช้า ๆ
“ซี๊ดดดดดดส์...” พี่เจี๊ยบครางพร้อมแอ่นก้นงอนรับ ภาพจากมุมที่ผมเห็นนี้ช่างสวยงามเอวพี่สาวคอดกิ่วรับกับสะโพกผาย บั้นท้ายที่แสนกลมกลึงชวนให้กระแทกเย็ด ผมจับสะโพกพี่เจี๊ยบแล้วเริ่มโยกซอยพร้อมก้มมองดุ้นควยของน้องชายอย่างผมแทรกเข้าออกรูหีพี่สาว แรงกระแทกส่งให้แก้มก้นที่สะเทือนยิ่งน่าบีบ
“อู้ยยยยยย์... เข้าลึกจังโจ๊ก... พี่เสียว...”
“ผมก็เสียว... หีพี่เจี๊ยบทั้งฟิตทั้งแน่น...”
“ซี๊ดดดดดส์... ควยโจ๊กก็แข็ง... เย็ดจนพี่เสียวไปหมดแล้ว...” ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง พี่เจี๊ยบพูดคำว่าควยออกมา แต่มันก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ผมเมื่อรู้ว่าพี่สาวปล่อยอารมณ์ถึงขีดสุด
“ผมเย็ดท่านี้พี่เสียวมั้ย...” ผมถามพลางกระเด้าเอวเร็วขึ้น น้ำควยที่ปล่อยในอยู่เก่าผสมผสานกับน้ำเงี่ยนของพี่สาวจนลื่นไปหมด
“เสียว... พี่เสียวหีใจจะขาดแล้วโจ๊ก...”
“ผมจะไม่ไหวแล้วพี่...”
“พี่ก็จะเสร็จแล้วโจ๊ก... สะ... เสร็จแล้ว...” โพรงหีพี่เจี๊ยบบีบรัดแน่น แล้วความซ่านเสียวแผ่ไปทั้งร่างผมจนเสร็จสมตามพี่สาวไปติด ๆ
“อู้ววววววววววว์....” ผมรั้งสะโพกพี่เจี๊ยบเข้าหาตัวปล่อยน้ำควยพุ่งเข้าไปในรูหีเธอเป็นครั้งที่สอง
มือพี่เจี๊ยบกำผ้าปูที่นอนแน่นร่องเสียวขมิบรับน้ำเงี่ยนก่อนจะทิ้งตัวลงนอนคว่ำปล่อยให้ดุ้นเนื้อที่ค่อย ๆ อ่อนตัวหลุดออกมา ผมหอบหายใจอย่างอ่อนแรงมองไปที่ร่องสวาทของพี่สาว น้ำรักของน้องชายที่ฝากเอาไว้ค่อย ๆ ไหลย้อนออกมา ผมที่เหนื่อยไม่ต่างจากพี่เจี๊ยบล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ไม่มีเสียงใด ๆ นอกจากเสียงหายใจด้วยความเหนื่อยของเราทั้งคู่ สักพักพี่เจี๊ยบก็พลิกตัวหันมานอนในอ้อมแขนของผม เธอวางมือไว้บนหน้าอกเพื่อสัมผัสถึงหัวใจผมที่กำลังเต้น
“โจ๊ก... หลังจากนี้มันจะเป็นยังไง...” พี่เจี๊ยบถามสายตามมองเหม่อ
“ผมก็เอากับพี่บ่อย ๆ ไง”
“บ้า... ไม่ใช่.. อย่าเล่นสิ พี่ซีเรียส” พี่สาวตีที่หน้าอกผมเบา ๆ
“ผมก็จะตั้งใจทำงาน จะเป็นน้องชายที่ดี ไม่สร้างปัญหาให้พี่ต้องปวดหัวอีก” พี่เจี๊ยบทำเพื่อผมมามาก มันคงถึงเวลาแล้วที่ผมจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่
“พี่กลัวคนอื่นรู้...” พี่เจี๊ยบเงยหน้ามองผม แววตาเธอดูเป็นกังวลกับเรื่องนี้มาก
“มันจะเป็นความลับของเราสองคน ต่อจากนี้ไปผมจะมีแต่พี่เจี๊ยบ แต่ถ้าหากวันนึงพี่เจอคนที่ดี พี่อยากมีครอบครัว ผมจะไม่ดึงพี่ไว้”
“แล้วถ้าตลอดชีวิตพี่ไม่มีแฟนล่ะ”
“ผมก็จะอยู่กับพี่ไปจนแก่ ดูแลกันไปเรื่อย ๆ”
“จริงนะ”
“จริง” สิ้นคำผม พี่เจี๊ยบก็เงียบไป เธอคงเพลียจนผล็อยหลับ ผมลูบปอยผมพี่สาวพลางนึกดีใจที่ได้เกิดมาเป็นน้องพี่เจี๊ยบ พี่สาวที่แสนดี
<---------------->
เพียงไม่กี่วันหลังจากเหตุการณ์ที่ทะเล ใบปอก็ย้ายไปทำงานที่สาขาบ้านเกิดและได้ข่าวว่าจะแต่งงานเร็ว ๆ นี้
ส่วนไอ้แม็คกับทอมแก้วก็กลายเป็นคู่ซี้คู่ใหม่ ภายนอกที่ใคร ๆ ได้เห็นมันยังเป็นเพื่อนสนิท แต่ลึก ๆ ผมว่าคู่นี้คงฟีเจอริ่งกันบ่อย ซึ่งผมก็ไม่ได้คาดคั้นถามอะไร และยังระลึกเสมอว่าถ้าไม่ได้ไอ้แม็คคิดแผนไปเที่ยวทะเลในหยุดสุดสัปดาห์นั้น ผมก็คงไม่มีความสุขเหมือนทุกวันนี้
กลับมาที่เจ้าชัยผู้เคารพเมีย มันเพิ่งบอกข่าวดีว่าเมียตั้งท้อง จากที่รักและเคารพเมียอยู่แล้ว ก็ยิ่งทะนุถนอมเพิ่มทวีคูณเข้าไปอีก
มาถึงบุคคลสำคัญ พี่เจี๊ยบ ผู้ช่วยผู้จัดการสาขา เธอยังคงเป็นผู้หญิงแข็งกร้าวและ ดุ ที่ใคร ๆ ในที่ทำงานต่างเกรงกลัว หากแต่เวลาอยู่ที่บ้าน พี่สาวจะอ่อนโยนเหมือนเป็นคนละคน และก็เป็นเธอนี่แหละที่มักจะเป็นฝ่ายเริ่มกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องจนพากันขึ้นสวรรค์
แต่จะด้วยเหตุอะไรก็ตามที่ทำให้ผมกับพี่เจี๊ยบมีวันนี้ ส่วนหนึ่งที่ยังเป็นปริศนาสำหรับผมคือเซียมซีหมายเลขศูนย์
วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2565
Weekend Chapter III - Gray area
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น