วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2565

Sweet II (Carry On)

 

 
 
               เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่ออ่านเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบในเรื่องแนวนี้ ชื่อตัวละครถูกสมมติขึ้นทั้งสิ้นมิได้มีตัวตนอยู่จริง กรุณาอย่านำไปโพสต์ต่อข้างนอก อันนี้ไม่ได้หวงแต่เพราะผมไม่อยากให้ผู้ที่ไม่ได้มีความชื่นชอบตรงกันขุดโคตรผู้แต่งนั่นก็คือผมขึ้นมาด่า และผมหวังว่าจะใช้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้ต้องการให้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติแต่อย่างใด ขอบคุณครับ...jam

               พวกคุณยังจำผมได้รึป่าว ผมชื่อ จอม ขณะนี้ปลายเดือนมิถุนายน 2563 แล้ว วิกฤติกาลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 บนโลกใบนี้ยังคงน่าเป็นห่วง ยังมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับบ้านเรานั้นผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์มาหลายวัน มาตรการหลาย ๆ อย่างได้ผ่อนปรนลงพรุ่งนี้วันที่ 26 มิถุนายน 2563 เป็นวันคล้ายวันเกิดของผม ซึ่งทุก ๆ ปีผมจะลาพักร้อนเพื่อให้รางวัลกับตัวเอง ส่วนวันนี้ก็เหมือนทุกวัน ผมยังคงนั่งดื่มเหล้าในช่วงหัวค่ำ ดูทีวีบ้าง ฟังเพลงบ้างเป็นกิจวัตร และทุกครั้งที่ผมหยิบล็อคเก็ตผลึกน้ำตาลขึ้นมามอง มันก็ทำให้ผมคิดถึงเธอ ถูกต้องแล้ว เธอคือ หวาน น้องสาวผมเอง แม้เราจะมี line กัน แต่ก็ไม่เคยได้คุย ถึงผมจะคิดถึงหวานมากแค่ไหนแต่ผมก็เป็นพี่ชายของเธอ ผมยอมรับว่าสิ่งที่ผมคิดมันผิดบาป หากผมพูดคุยอะไรออกไปมันอาจทำให้ครอบครัวของหวานต้องแตกแยก

               < -------- >

               “อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง” ผมนั่งลงประนมมือรับพรพระขณะใส่บาตรวันเกิดในยามเช้า พร้อมตั้งจิตอธิฐานแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลที่ได้ทำอุทิศให้บรรดาญาติ และเจ้ากรรมนายเวร โดยไม่ลืมจะขอพรให้น้องสาวผมจงประสพแต่ความสุขในชีวิต ได้ใส่บาตรแล้วก็รู้สึกสบายใจ แต่ถึงจะเป็นวันเกิด มันก็ไม่ต่างอะไรกับวันหยุดอื่น ๆ ที่ผมก็ได้แต่นั่งดูทีวี ทำงานบ้านซักผ้าจนหมดวัน จะมีที่ต่างก็แค่มีข้อความอวยพรส่งทาง line ประปราย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ หวาน เธอจะส่งสติ๊กเกอร์ Happy Birthday ให้ผมทุกปี ซึ่งเพียงแค่นั้นก็ทำให้ผมมีความสุขมากแล้วที่เธอยังไม่ลืมวันเกิดพี่ชายคนนี้ แต่แปลกที่ว่านี่ก็เกือบเที่ยงวันแล้วกลับไม่มีข้อความของหวาน
               “ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง” เสียงกริ่งดังรัว ๆ ขณะผมกำลังนั่งไล่ดูข้อความในโทรศัพท์มือถือ ทันทีที่ได้ยินผมขมวดคิ้วพูดกับตัวเองทันที
               “ยัยหวาน...” ผมเหวี่ยงโทรศัพท์ลงบนโซฟาแล้วรีบวิ่งไปเปิดประตู ผมก้าวเท้าเดินออกไปพลางกวาดสายตามอง หญิงสาวผมสั้นประบ่าใส่แมสผ้ากำลังหิ้วของออกจากรถ โดยมีผู้ชายกำลังเร่งช่วยยกกระเป๋า ข้าง ๆ รถยังมีเด็กน้อย 2 คนซึ่งก็ใส่แมสยืนอยู่ ข้าวของที่วางกองไว้มีมากมายราวกับจะย้ายบ้าน เมื่อเสร็จสรรพชายคนนั้นก็มองมาทางผมก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป อะไรวะ... คือสิ่งที่ผมคิดแว๊บแรก
               “พี่จอม ช่วยขนของหน่อย” หญิงสาวถอดแมสออกแล้วพูดกับผม
               “ยัยหวาน” ผมรีบเปิดประตูรั้ว ช่วยเธอยกของเข้าบ้านพร้อมกับหลานทั้ง 2 แอร์ถูกเปิดโดยหวานไม่ต้องบ่นว่าร้อนก่อน
               “สวัสดีค่ะลุงจอม” หนูวิวเด็กน้อยวัยเกือบ 8 ขวบยกมือไหว้ผมอย่างน่าเอ็นดู ก่อนจะไปนั่งที่โซฟาพร้อมกับเล่นโทรศัพท์มือถือ ส่วนอีกคน กรานต์ เด็กชายวัย 4 ขวบมองหน้าผมแล้ววิ่งไปนั่งที่โซฟาเช่นกันต่างที่ในมือคือลูกรูบิค 4x4
               “กรานต์ยังไม่พูดอีกเหรอหวาน” ผมหันไปถามหวานที่กำลังจัดเรียงกระเป๋า
               “พูดแล้วพี่จอม แต่ก็ไม่ค่อยพูดกับใครเท่าไหร่” เธอตอบโดยไม่ได้หันมามองราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติ
               “ทำไมของเยอะจังหวาน แล้วแมนมันไปไหน” ผมซักด้วยความแปลกใจ
               “..........” หวานไม่พูดอะไร แต่หันมายกมือซ้ายขึ้นแล้วบิดหลังมือให้ผมดู สิ่งที่ต่างไปจากทุกครั้งคือแหวนที่นิ้วนางเธอหายไป
               “อ้าว เฮ่ย !!!” ผมตกใจเมื่อเห็นว่าเธอเลิกกับไอ้แมน แต่อีกใจกลับรู้สึกดีใจอยู่ลึก ๆ
               “ใช่... หวานหย่ากับพี่แมนแล้ว”
               “มัน... มันเกิดอะไรขึ้นหวาน”
               “หวานว่าเราพาเด็ก ๆ ไปสวัสดีตายายก่อนดีกว่า” ผมว่าหวานคงไม่อยากเล่าอะไรต่อหน้าลูก ๆ เธอ แล้วพวกเราก็ไปบ้านแม่ พอไปถึงเด็ก ๆ ก็รีบไปเล่นยังห้องที่พ่อผมจัดไว้ให้เพราะหลาน ๆ จะมาหาทุกปี หวานเล่าเรื่องให้แม่ฟังเกี่ยวกับการหย่าร้างของเธอ ซึ่งแม่ก็ไม่มีทีท่าอะไร เพราะถึงอย่างไรหวานก็เป็นลูกท่าน หวานได้เงินมา 4 แสนกับการหย่ากับแมน ส่วนค่าเลี้ยงดูบุตรนั้นไม่มี ซึ่งหวานเองก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรและยืนยันว่าจะเลี้ยงดูลูกทั้ง 2 ด้วยตัวเอง ทั้งวันเรายุ่งอยู่กับการเก็บข้าวของเข้าที่ กว่าจะเสร็จก็เย็นย่ำได้เวลาอาหารพอดี บนโต๊ะอาหารบ้านแม่ วันนี้เราได้ทานข้าวด้วยกันเหมือนครอบครัวใหญ่พูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนผมลืมไปเลยว่ามันคือวันคล้ายวันเกิดที่แสนเงียบเหงาในทุกปี คืนนี้หนูวิวขอนอนกับคุณยาย ส่วนกรานต์นอนกับหวาน แล้วก็มาถึงเวลาอันเป็นกิจวัตรของผม
               “เราจะดีหรือเสียใจ” ผมพูดกับตัวเองพลางมองล็อคเก็ตในมือ เหล้าถูกยกขึ้นดื่มพาให้สมองคิดไปเรื่อยเปื่อย แล้วจู่ ๆ แสงไฟก็ดับลง ผมรีบเก็บล็อคเก็ตเข้ากระเป๋ากางเกงทันที
               “Happy birthday to you , Happy birthday to you” ยัยหวานนั่นเอง เสียงเพลงอวยพรวันเกิดกับแสงเทียนบนเค้กก้อนเล็ก ๆ ในมือหวานที่ค่อย ๆ ประคองไม่ให้เปลวเทียนดับเดินมาทางผม
               “อธิฐานสิพี่จอม” เมื่อสิ้นเสียงเพลง น้องสาวก็ยื่นเค้กให้ผมอธิฐาน ผมหลับตาขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะเป่าเทียน แล้วเธอก็รีบไปเปิดไฟ และด้วยแสงสว่างทำให้รู้ว่าหญิงสาวเดินกลับมาในชุดนอนกระโปรงผ้ายืดยาวประมาณหน้าขาแขนสั้นสีเทาอ่อนสกรีนเลข 14 สีดำ
               “พี่นึกว่าหวานจะลืมวันเกิดพี่ซะแล้ว”
               “วันเกิดพี่ชาย หวานจะลืมได้ยังไง” เธอนั่งลงตอบพร้อมดึงเทียนออกจากเค้ก
               “ดื่มมั๊ย...” ผมเอ่ยถามพร้อมเอื้อมไปหยิบแก้ว เพราะหลังจากวันที่เกิดเรื่องนั้นเราก็ไม่ได้ดื่มด้วยกันอีกเลย
               “หวานเลิกแล้วพี่ ตั้งแต่ท้องกรานต์ หวานก็เลิกเหล้าเบียร์”
               “อื่ม” ผมพยักหน้ารับเล็กน้อย และตั้งใจจะละมือที่กำลังจับแก้ว
               “แต่ดื่มเป็นเพื่อนพี่จอมก็ได้นะ วันเกิดทั้งที” คำตอบหลังนี้ทำเอาใจผมเบิกบานอย่างบอกไม่ถูก ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องดีเลยที่ชวนกันดื่มเหล้า แก้วถูกวางไว้ตรงหน้าเธอ ครั้งนี้หวานรินมันบาง ๆ เหมือนแค่ดื่มพอเป็นพิธี แล้วเรื่องสัพเพเหระก็ถูกยกขึ้นมาคุยกันตามประสาพี่น้อง แต่บางเรื่องมันก็ทำให้เกิดประเด็นขึ้นจนได้
               “บอกได้มั๊ย... ทำไมหวานถึงหย่ากับไอ้แมน”
               “..........” หวานไม่ตอบแต่กลับรินเหล้าลงแก้ว ครั้งนี้มันไม่ได้บางเหมือนแก้วก่อน ๆ นี่ผมไปถามสะกิดอะไรเธอรึป่าว
               “ไม่เป็นไรหวาน พี่ขอโทษ” ผมเริ่มรู้ตัวว่าบางอย่างก็ไม่น่าละลาบละล้วงถาม
               “มันเป็นเกย์” คำตอบทำเอาผมสำลัก เหล้าพุ่งออกจากจมูก จนหวานถึงกลับหัวเราะออกมา
               “เฮ่ย... ไอ้แมนเนี่ยนะ” ผมถามย้ำพร้อมยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดจมูก
               “อื่ม... เกย์ควีนด้วย ถูกเสียบว่างั้น” หวานตอบด้วยท่าทางเรียบเฉยเหมือนชินชา
               “แล้วหวานไปรู้ได้ไงว่าแมนมันเป็นเกย์” ผมถามซักเข้าไปอีกทั้ง ๆ ที่เพิ่งสำนึกได้ว่าไม่ควรถาม
               “ก็พฤติกรรมของมันตลอดที่ผ่านมานั่นแหละ หลังจากที่คลอดกรานต์ เราก็ไม่ได้มีอะไรกันอีกเลย แรก ๆ หวานก็สะกิด พี่แมนมันก็บอกว่าเหนื่อยอยากนอน พอบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ หวานก็เลยไม่หน้าด้านไปขอให้เค้าเอาหรอก”
               “แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าแมนมันเป็นเกย์ไม่ใช่เหรอ”
               “มันก็จริง ประมาณ 2 เดือนก่อน หวานตัดสินใจแอบดูโทรศัพท์ของพี่แมน เท่านั้นแหละ มีทั้งรูป มีทั้งคลิป มีทั้งแชทคุยสารพัด จนหวานตัดสินใจขอหย่า” หวานเริ่มกระดกเหล้าเร็วขึ้น
               “แล้วทางบ้านพ่อแม่แมนเค้าไม่ทักท้วงเอาหนูวิว กับกรานต์ไว้เหรอ ยิ่งหลานชายด้วย”
               “เอาสิ หวานกับพี่แมนทะเลาะกัน เพราะพี่เค้าบอกว่าจะหย่าก็หย่าไป แต่ลูกต้องเป็นของเค้า”
               “อ้าว... ก็เมื่อกลางวันยังเห็นมาส่งแบบไม่ไยดี” ยิ่งฟังผมก็ยิ่งงง
               “หวานไม่ให้วิวอยู่บ้านนั้นหรอก พ่อเค้าเป็นเกย์หากแฟนพ่อเค้าเกิดคิดอะไรไม่ดีกับวิวขึ้นมาจะทำยังไง”
               “อื่ม... มันก็จริง” ผมพยักหน้ารับฟังในเหตุผลของเธอ
               “ส่วนกรานต์...”
               “นั่นสิ หลานชายด้วยยังไงก็ต้องเอาไว้”
               “หวานคุยกับพี่แมน ว่าหวานจะไม่บอกพ่อกับแม่พี่แมนเรื่องที่พี่แมนเป็นแบบนี้ แต่พี่แมนต้องเคลียร์กับพ่อแม่พี่แมนว่าลูกทั้ง 2 จะให้หวาน ซึ่งพี่แมนก็ไม่ยอม”
               “ใช่... ใครจะไปยอม”
               “หวานเลยบอกความจริงไป... ว่ากรานต์ไม่ใช่ลูกพี่แมน”
               “..........” ผมอึ้งกับสิ่งที่หวานพูด ชีวิตนี้ผมรอแต่หวาน แต่เธอกลับตอบแทนผมด้วยอะไร โกรธก็โกรธที่เธอไปมีใครคนอื่น ผมลุกขึ้นยืนทันทีจนล็อคเก็ตผลึกน้ำตาลที่รีบใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงตกลงพื้น
               “ทำไมหวานทำแบบนี้...” ผมโกรธจนตะคอกเธอออกไป ทั้ง ๆ ที่ผมไม่มีสิทธิ์ว่าอะไรเธอเลยด้วยซ้ำ หวานก้มลงเก็บล็อคเก็ตขึ้นมาดู แล้วเงยหน้าขึ้นมองผม
               “พี่จอมยังเก็บมันไว้ตลอด...”
               “ใช่... พี่คิดถึงแต่หวาน... รอแต่หวาน... แต่ดูสิ่งที่หวานทำ...” น้ำตาผมเริ่มไหลซึมออกมา มันทั้งโกรธทั้งน้อยใจ 5 ปีที่ผมเฝ้าคิดถึงเธอมันคือสิ่งที่ผมคิดไปฝ่ายเดียว ผมตัดสินใจเดินออกจากโต๊ะเพราะไม่มีอารมณ์จะดื่มอะไรอีกแล้ว แต่โดยพลันข้อมือผมก็ถูกหวานจับไว้
               “พี่จอม... กรานต์เป็นลูกพี่” เพียงได้ยินผมก็หน้าชาหันกลับไปมองเธอทันที หวานนั่งก้มหน้านิ่งทั้ง ๆ ที่มือยังจับข้อมือผมอยู่ ผมถอยหลังทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้
               “นี่มันอะไรหวาน”
               “ใช่... กรานต์เป็นลูกพี่จอม” หวานพูดพร้อมเงยหน้าขึ้นสบตาผม
               “..........” ผมได้แต่เงียบ
               “หวานไม่เคยมีใครอื่นนอกจากพี่จอม และหวานเองก็รู้ว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกพี่แมน หวานพยายามเลี้ยงดูเค้าโดยไม่ปริปากบ่นกับครอบครัวที่ไม่มีความรักให้หวานเลย เพียงเพื่อให้หวานได้เลี้ยงดูกรานต์ให้เติบใหญ่ขึ้นมาก็พอ” หวานพูดทั้งน้ำตา
               “พี่ขอโทษ พี่เข้าใจหวานผิด”
               “หวานดีใจที่เห็นล็อคเก็ต พี่จอมยังเก็บมันไว้ตลอด หวานดีใจที่พี่ไม่เคยลืมหวาน” เธอวางล็อคเก็ตในมือลงบนโต๊ะ แล้วหยิบทิชชูมาซับน้ำตา
               “ต่อไปพี่จะไม่ถามเรื่องไอ้แมน หรือเรื่องอะไรที่จะทำให้หวานไม่สบายใจอีก” ผมสบตาหวาน ซึ่งเธอก็ยิ้มแล้วพยักหน้ารับ เราจึงกลับสู่โหมดพูดคุยปกติจนเหล้าหมดไปครึ่งกลม
               “อื่ม... แล้วหวานตัดผมทำไม ไม่เสียดายเหรอ” ผมชี้นิ้วมือที่จับแก้วเหล้าไปที่ผมของเธอ
               “หลังจากวันที่หย่ากัน หวานก็ตัดผมเลย หวานอยากทิ้งทุกอย่าง แล้วทำไม... ไม่สวยเหรอ”
               “สวยสิ น้องสาวพี่สวยเสมอแหละ”
               “เอ่อ... เมื่อกี้ตอนเป่าเค้กพี่จอมอธิฐานขออะไรเหรอ” เธอถามพลางใช้นิ้วจิ้มครีมบนเค้กมาดูดเหมือนเด็ก ๆ
               “ไม่บอกได้ป่าว” ผมยกเหล้าขึ้นดื่มแก้เขิน
               “ไม่ได้... ถ้าไม่บอกหวานจะโกรธพี่จอม” ยัยหวานหันมาขมวดคิ้วทำจมูกย่นใส่ผม แล้วขยับเก้าอี้เฉียงมาทางผมรอนั่งฟังคำตอบ
               “ก็ได้ ๆ พี่ขอ @#$%@$%!&^%$” ผมตอบเสียงอ่อย ๆ อ้อมแอ้มในลำคอ
               “อะไรพี่ หวานฟังไม่ได้ยิน”
               “พี่ขอให้เวลาย้อนกลับ แล้วได้มีอะไรกับหวานอีกซักครั้ง” ผมอายจนแทบจะแทรกแผ่นดิน ต้องเมินหน้าไปทางอื่นไม่กล้าสบตาเธอ หวานเอามือจับหน้าผมบิดให้หันมามองเธอ
               “พี่จอม ฟังหวานนะ... เวลามันย้อนกลับไม่ได้หรอก” จิตใจผมห่อเหี่ยวลงทันทีกับน้ำเสียงเรียบเฉยของหวาน
               “แล้วส่วนที่จะมีอะไรกับหวานอีกซักครั้ง...” ผมรอฟังคำตอบด้วยใจระทึก
               “มันก็ไม่ได้เหมือนกัน” หัวใจผมแตกสลายในทันที พร้อมกับล็อคเก็ตผลึกน้ำตาลที่ตกลงพื้น ผมได้แต่พยักหน้ารับคำพิพากษาในคำอธิฐานของตัวเอง ก่อนจะทรุดตัวลงเก็บล็อคเก็ต แต่สวรรค์ก็ไม่ได้ใจร้ายกับผมซะทีเดียว สิ่งที่ผมถวิลหามาตลอด 5 ปี มันถูกมอบให้ผมเป็นของขวัญวันเกิด
               “เพราะหวานจะไม่ให้พี่จอมแค่ครั้งเดียว” หวานแยกขาออกเผยให้เห็นชั้นในสีเนื้อที่ปิดบังเนินนูนไว้ ผมกลืนน้ำลายเหนียวลงคอทันทีก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเธอ
               “หวานไม่มีของขวัญอะไรจะให้พี่จอม หวานมีแค่ตัวและหัวใจของหวานที่จะให้พี่ได้” หวานดึงชายเสื้อขึ้นพร้อมเอนหลังขยับบั้นท้ายให้อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนจนเนินหีเด่นอยู่ตรงหน้าผม ขาหวานขาวและเนียนมาก โหนกนูนก็ยังคงมีมนต์สะกดผมได้เช่นเดิม ผมเก็บล็อคเก็ตใส่กระเป๋าทั้ง ๆ ที่สายตายังมองที่เนินของเธอ ก่อนจะค่อย ๆ พรมจูบไล่จากหัวเข่าเข้าไปยังหว่างขา กลิ่นกายของหวานหอมรัญจวน สัมผัสก็นุ่มนวล ผมสอด 2 มือเข้าไปรั้งขอบกางเกงชั้นในเธอ ซึ่งหวานก็กระดกยกตัวให้ชั้นในตัวจิ๋วได้หลุดออกไปอย่างง่ายดาย หัวเข่า 2 ข้างถูกจับแยกออกอีกครั้ง เนินนูนขาวอวบกับเส้นไหมบาง ๆ แคมทั้ง 2 ข้างแยกออกเล็กน้อย เผยให้เห็นปากถ้ำที่ทางเข้าช่างเล็กเหลือเกิน
               “เลียสิพี่จอม เลียของหวานสิ...”
               “ซี๊ดดดดดส์...” หวานร้องครางแอ่นตัวทันทีเมื่อผมซุกใบหน้าเข้ากับเนินหีเธอ ปลายลิ้นผมตวัดเข้ากับติ่งแตดตักตวงสิ่งที่ผมรอคอยมานาน
               “พี่จอม... หวานเสียว... ลิ้นพี่จอมมันโดนจุดเสียว... ซี๊ดดดดส์” เธอพูดไปขมิบหีไป น้ำเสียวก็ยิ่งไหลออกมาให้ผมดูดกิน ผมเลียไปพลางใช้นิ้วชี้ขวาถูวนปากถ้ำที่ฉ่ำลื่นเบา ๆ ก่อนจะบิดหงายมือสอดมันเข้าไปช้า ๆ
               “ซี๊ดดดดดส์...” หวานขมิบร่องรับนิ้วผมทันที เรียวลิ้นผมยังคงตวัดสลับดูดเลียติ่งแตด กับนิ้วชี้ที่สอดเข้าออกช้า ๆ อย่างนุ่มนวล
               “ไม่ไหวแล้วพี่จอม... พี่จอมเอาหวานเถอะ...” หวานคงเงี่ยนอยากได้ควยผมเข้าไปแทนนิ้ว แต่ผมยังไม่อิ่มกับเนินหีนี้ ยิ่งเธอพยายามดึงตัวผมขึ้นไปเท่าไหร่ผมก็ยิ่งเลียเน้นตรงจุดเสียว
               “พี่จอม... หวาน... หวาน... โอยยยย... ซี๊ดดดส์” ร่างของหญิงสาวบิดเกร็งกระตุกเล็กน้อย รูหีบีบรัดนิ้วของผมเป็นจังหวะ ก่อนจะค่อย ๆ คลายตัวลง
               “พี่จอมเนี่ย... แกล้งน้อง” หวานตีแขนผมเบา ๆ พูดด้วยน้ำเสียงเง้างอน
               “อะไร พี่แกล้งอะไรหวาน” ผมยันตัวลุกขึ้นยืน
               “เดี๋ยวหวานก็ไม่ให้พี่เอาซะเลย” หวานพยุงตัวขึ้น จัดแจงเสื้อผ้าที่ใส่ให้เข้าที่แล้วเดินไปยังห้องน้ำ
               “ไม่ให้เอาพี่จะปล้ำเลย” ผมพูดหยอกไล่หลังเธอไป
               “พี่บ้า... แบร่” หวานหันมาปลิ้นตาแลบลิ้นทำหน้าทะเล้นก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปชำระล้าง ซึ่งผมเองก็เข้าครัวไปล้างหน้าเหมือนกัน ผมกลับมานั่งดื่มต่อ ไม่นานหวานก็ออกจากห้องน้ำ เธอกลับมาที่โต๊ะแต่กลับไม่นั่งเก้าอี้ตัวเอง หวานมานั่งที่ตักผมจนผมต้องแยกขาให้เธอนั่งตรงหว่างขา
               “พี่จอมรักหวานมั๊ย” เธอเอี้ยวตัวหันมาพูดกับผม
               “รักสิ พี่รักน้องสาวคนนี้ที่สุด” 2 มือผมยกขึ้นโอบเอวที่คอดกิ่วของเธอ
               “เราจะรักกันได้จริง ๆ เหรอพี่จอม เราเป็นพี่น้องกันนะ” น้ำเสียงไต่ถามของหวานเหมือนเป็นกังวล
               “แค่หวานกับพี่รู้ก็พอว่าเราเป็นอะไรกัน ส่วนเวลาอยู่นอกบ้าน เราก็เป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม”
               “หวานรักพี่จอมนะ ต่อไปพี่จอมจะทำให้หวานเสียใจรึป่าว พอพี่จอมเบื่อน้อง พี่จอมจะไปมีคนอื่นรึป่าว”
               “ไม่มีวันนั้นหรอกหวาน พี่ไม่มีวันทำให้หวานเสียใจ หวานวางใจได้เลย เราจะสร้างครอบครัวในแบบของเรา พี่จะเลี้ยงดูกรานต์ลูกของเรา กับหนูวิวเป็นอย่างดี” ผมให้สัญญาเธออย่างหนักแน่น
               “พี่จอม...” สีหน้าหวานคลายกังวลไปอย่างเห็นได้ชัด เธอหลับตายื่นหน้ามาหาผม แล้วจูบแรกหลังจากที่รอคอยมา 5 ปีก็มาถึง สัมผัสอันนุ่มละมุนของริมฝีปากเธอ กลิ่นหอมจากปอยผมและกายของหวานชวนกระตุ้นกำหนัด เรียวลิ้นของเรา 2 พี่น้องเริ่มแลกกันไปมา 2 มือของผมลูบไล้ขึ้นโอบเข้าที่เต้าอวบของเธอ หวานยังคงไม่ใส่บรานอนเหมือนเดิม
               “อืมมมมม...” เพียงบีบมันเบา ๆ หวานก็ครางในลำคอทันที หน้าอกที่เต็มไม้เต็มมือของเธอยังคงนุ่มหยุ่น ผมใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งทั้ง 2 ข้างค่อย ๆ บี้เข้ากับหัวนมเบา ๆ
               “อื่มมมมม... พี่จอม หวานขนลุกไปหมดแล้ว” เธอละปากออกร้องบิดตัวด้วยความเสียว หวานเป็นผู้หญิงที่มีความไวต่อสัมผัสหน้าอกมาก แต่ผมไม่สนใจยังคงบี้คลึงมันเบา ๆ
               “ซี๊ดดดดส์... พี่จอม... พี่จอมแกล้งหวานเหรอ” หวานครางพูดเสียงกระเส่าแอ่นอกรับอุ้มมือผม แล้วเธอก็สอดมือขวามาด้านหลังกุมเข้ากับเป้ากางเกงที่บัดนี้ดุ้นเนื้อซึ่งซ่อนอยู่ภายในแข็งเป็นลำ
               “ของพี่จอมแข็งแล้ว” เธอสอดมือผ่านขอบกางเกงเตะบอลพร้อมกางเกงในไปจับลำควยผมแล้วถอกมันเบา ๆ สร้างความเสียวได้ไม่น้อย
               “ซี๊ดดดดส์... หวานเสียว” หวานครางมือหยุดถอกชักควยผม เมื่อมือขวาผมเลื่อนลงมาล้วงเข้าในหว่างขาเธอ แล้วใช้ปลายนิ้วกลางรูดจากร่องเสียวขึ้นมายังติ่งแตดแล้วคลึงอย่างแผ่วเบา
               “ของหวานก็แฉะแล้วนะ” ผมกระซิบข้างหูเธอพลางดอมดมความหอม   
               “พี่จอมอยากเอาหวานรึยัง”
               “อยากสิหวาน... พี่อยากเอาหวานทุกวัน” เธอดึงมือออกจากกางเกงผม แล้วเบี่ยงตัวลงไปคุกเข่าตรงหน้า ผมเองก็ยืนขึ้นดันเก้าอี้ไปด้านหลังเล็กน้อยก่อนจะถอดกางเกงตัวเองลงไปกองที่พื้นแล้วกลับนั่งลง ลำควยผมตั้งโด่ท้าทายน้องสาวเบื้องหน้า หวานรู้งานทันที เธอจับควยผมถอกเบา ๆ พร้อมเลียพวงไข่สร้างความสยิว แล้วก็เหมือนหวานนึกอะไรขึ้นได้ เธอเอื้อมมือขึ้นไปบนโต๊ะใช้นิ้วปาดหน้าเค้กเอาครีมขาว ๆ มาป้ายที่ท่อนเอ็นโดยรอบ
               “ขอหวานกินของพี่จอมบ้างนะ” เธอพูดยิ้ม ๆ ก่อนจะค่อย ๆ โลมเลียลำควยผมไม่ต่างจากเลียแท่งไอติม ผมนั่งมองน้องสาวดูดเลียควยตัวเองด้วยความตื่นเต้น หวานช่างเร่าร้อน ลีลาการโมกของเธอช่างวิเศษ แต่ถ้าผมปล่อยไปอย่างนี้ไม่นานผมคงน้ำแตกคาปากเธอเป็นแน่ ผมก้มลงพยุงหวานลุกขึ้น ถอดเสื้อเธอออกแล้วเคลียร์แก้วเหล้าก่อนจะประคองเธอนอนลงกับโต๊ะ หวานร่วมมือทำตามทุกอย่าง ๆ ว่าง่าย ตอนนี้น้องสาวที่เปลือยเปล่าเป็นเสมือนของขวัญวันเกิดกำลังนอนรอให้พี่ชายเอาดุ้นเนื้อสอดใส่เข้าไปในร่องเสียวของเธอ เวลาไม่สามารถทำร้ายหวานได้แม้แต่น้อยทุกอย่างบนร่างกายนี้ยังคงสวยเหมือนเดิม เต้าอวบปลายยอดสีน้ำตาลอ่อนน่าโลมเลีย หน้าท้องยังแบนราบไร้รอยแตกลายใด ๆ ผมถอดเสื้อออกแล้วขยับแทรกตัวเข้าไปอยู่กลางหว่างขาเธอแล้วประคองเอาปลายควยจ่อเข้ากับปากรูหีที่ตอนนี้เยิ้มไปด้วยน้ำเงี่ยนของหวาน
               “หวาน... พี่จะใส่เข้าไปแล้วนะ” ผมพูดไปพร้อม ๆ กับขยับดุ้นไปมาให้ปลายควยถูกคลึงเข้ากับรูหี
               “พี่จอมเบา ๆ ก่อนนะ หวานกลัวเจ็บ”
               “..........” แทนคำตอบใด ๆ ผมค่อย ๆ ดันหัวควยให้แทรกเข้าไปในรูหีหวานช้า ๆ ถึงแม้จะฉ่ำไปด้วยน้ำรักของเธอแต่มันกลับเข้าไปได้ยาก ความรู้สึกทั้งฟิตทั้งเสียว ผมแทงเข้าไปได้แค่ครึ่งลำก็ต้องถอนออกมาแล้วค่อย ๆ ดันเข้าไปใหม่
               “ซี๊ดดดดส์... หวานเสียวจังเลยพี่จอม” ผมอยากจะบอกหวานเช่นกันว่าผมก็เสียวควยไม่ต่างจากเธอ ผมสอดเข้าออกอยู่หลายครั้งจนน้ำรักที่ถูกขมิบออกมาชโลมดุ้นเนื้อ และสุดท้ายมันก็แทรกตัวเข้าไปได้ทั้งลำ ผมบดหนอกควยเข้ากับโคกหีของหวานเหมือนเป็นการประกาศชัยชนะ มันทั้งเสียวทั้งฟิต
               “อื่มมมมมม... ของหวานแน่นจังเลย นี่เอาแค่แป๊บเดียวพี่เสียวน้ำแทบแตกแล้ว” ผมพูดไปพลางซอยควยเข้าออกเบา ๆ ไปพลาง
               “ซี๊ดดดส์... หวานก็เสียว พี่จอมเอาเลยหวานไม่เจ็บ” เหมือนเป็นคำสั่งเบิกทาง ผมจับสะโพกหวานกระเด้าเอวเย็ดหีจากเบา ๆ จนเพิ่มความหนักหน่วงขึ้น
               “อ้า... อ้า... อ้า...” เสียงครางระงมของเธอยิ่งสร้างความเงี่ยน หน้าอกหวานกระเพื่อมตามแรงดันเข้าออก ผมจับเต้าอวบเคล้นคลึงอย่างเมามันส์ โดยไม่ลืมที่จะสะกิดที่หัวนมของเธอเป็นครั้งคราว
               “ซี๊ดดดดส์... พี่จอม... หวานใกล้แล้ว...” หวานยกมือขึ้นมาจับแขนผมบีบแน่น แต่ผมยังไม่ยอมให้เธอเสร็จ ผมช้อนตัวหวานขึ้นทั้ง ๆ ที่ดุ้นเอ็นยังคาอยู่ในท่าลิงอุ้มแตงแล้วขยับถอยมานั่งที่เก้าอี้ แล้วเรา 2 ที่เปลือยเปล่าก็กอดจูบแลกลิ้นกัน หวานค่อย ๆ เริ่มขยับเอวเย็ดควยผมอีกครั้ง
               “เสียวมั๊ยหวาน...” ผมยกมือขึ้นกุมเต้าอวบคลึงหัวนมวนเบา ๆ
               “เสียวมากพี่จอม หวานไม่ได้โดนเอามาตั้งนานแล้ว” เธอตอบไปโยกเอวไป
               “เวลาเอากับพี่ชายแล้วรู้สึกยังไง”
               “มันตื่นเต้นพี่จอม... ซี๊ดดดดส์... พี่น้องเอากันเอง”
               “แล้วพี่จอมล่ะ เอาน้องสาวแล้วเป็นยังไง อื่มมม...”
               “มันเสียวมากหวาน เสียวกว่าตอนพี่เอาเมียพี่อีก”
               “เหรอ... พี่จอมเอาน้องสาวแล้วเสียวกว่าเหรอ ตอนนี้โดนน้องสาวเย็ดอยู่เสียวควยมั๊ย”
               “เสียวสิ... แล้วหวานล่ะ โดนพี่ชายจับนม โดนพี่ชายเอาควยเสียบใส่รูหี โดนควยพี่ชายเย็ดเป็นไงบ้าง”
               “ซี๊ดดดดดส์...” ยังไม่ทันที่หวานจะได้ตอบอะไรเธอก็ร้องคราง เมื่อผมก้มลงดูดเต้าอวบของเธอ
               “พี่จอม... พี่ชายดูดนมน้องสาวอีกแล้ว น้องเสียว... ซี๊ดดดดดส์” หวานเริ่มโยกเย็ดเร็วขึ้นพร้อมกับเรียวลิ้นผมที่ตวัดหัวนมเธอไปมา
               “ไม่ไหวแล้วพี่จอม... หวานใกล้แล้ว...” หวานพูดพร้อมเร่งบดเย็ดควยอย่างเร็ว
               “พี่ก็จะเสร็จแล้วหวาน” แต่ผมพยายามกลั้นตัวเองไม่ให้เสร็จก่อนหวาน
               “เสร็จเลยพี่จอม... ปล่อยน้ำเงี่ยนใส่หีหวานเลย”
               “ซี๊ดดดดดดส์.... / อ้า..........” เสียงครางระงมของ 2 เรามาพร้อมกับน้ำควยที่พวยพุ่งกระฉูดใส่รูหีน้องสาวอย่างแรง ภายในโพรงหีของหวานบีบรัดลำควยผมแน่น ร่างเธอเกร็งกระตุกกอดรัดผมเหมือนงูเหลือมรัดเหยื่อ
               “อูยยยยย...” หวานสะดุ้งอีกครั้งเมื่อน้ำควยระลอก 2 พุ่งเข้าใส่โพรงสวรรค์เธอ เสียงหายใจเหนื่อยหอบของ 2 เราเข้ามาแทนที่บทสนทนา เรานั่งนิ่งกันอยู่อย่างนั้นเกือบนาที
               “มันจะไม่เป็นไรเหรอหวาน” ผมเอ่ยถามขึ้นมาในความเงียบ
               “อะไรเหรอ” หวานที่ซบไหล่ผมอยู่เอนหลังมาคุย
               “ก็เสร็จข้างในแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอ”
               “พี่จอมวางใจได้ หวานทำหมันแล้ว” เธอพูดแล้วก้มลงมาจูบปากผม 1 ครั้ง
               “แบบนี้ก็เย็ดกันได้แบบไม่ต้องกลัวท้องเลยสิ” ผมแกล้งหยอกเธอ
               “บ้า... ทะลึ่ง” หวานพูดยิ้ม ๆ แล้วผละออกจากตัวผม น้ำควยที่อยู่ในกายเธอไหลย้อนลงมาเป็นทางที่หว่างขา หวานก้มเก็บเสื้อผ้าก่อนจะขึ้นบ้านไปชำระล้างร่างกาย ผมเองก็ใส่กางเกงจัดแจงเก็บข้าวของแล้วขึ้นบ้านอาบน้ำเช่นกัน

               < -------- >

               4 ทุ่มกว่าแล้ว ผมกดดูเวลาบนโทรศัพท์มือถือ ป่านนี้ผมยังนอนไม่หลับทั้ง ๆ ทุกอย่างในวันนี้มันสมบูรณ์แบบ ผมควรจะหลับฝันดีไปแล้วแท้ ๆ หรือว่าในใจผมยังเป็นกังวลอะไร ไม่มี... เพราะผมยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่สิ... ผมพร้อมที่จะรับมันมานานแล้วมากกว่า เพียงแค่มีเซอร์ไพรส์เรื่องลูกกรานต์เข้ามาเท่านั้น
               “แต่งงานในเครือญาติ... ปัญญาอ่อนงั้นเหรอ” อยู่ ๆ ปากก็พูดมันออกมา ผมลุกขึ้นนั่งบนเตียงในความมืดแล้วนึกถึงกรานต์ ตลอดมาที่ผมเจอกรานต์เค้าไม่เคยพูดเลย มาถึงจุดนี้ผมเริ่มเครียด
               “ก๊อก... ก๊อก...” เสียงเคาะประตูเบา ๆ 2 ครั้งดังขึ้นในความเงียบ ผมลงจากเตียงไปเปิดแง้มประตูโดยที่ยังสลัดความคิดเรื่องลูกไม่ออก
               “อ้าว... นึกว่านอนแล้ว”
               “มีอะไรเหรอหวาน”
               “เคาะเบา ๆ นึกว่าจะไม่ตื่นซะอีก” หวานคุยเยิ่นเย้อ ยืนมือขวากำนิ้วชี้ซ้ายบิดตัวไปมา
               “พี่ยังไม่หลับน่ะ”
               “หวาน... หวานนอนกับพี่จอมได้มั๊ย” เธอพูดเขิน ๆ หน้าแดงดูน่ารัก
               “ได้สิ... เข้ามา ยัยตัวแสบ”
               “เปิดไฟหรี่นะ” หวานจัดแจงเปิดไฟก่อนจะวิ่งนำขึ้นเตียง ในสายตาผมเธอยังคงเหมือนเด็กซน ๆ คนนึง ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันผมนอนมือขวาก่ายหน้าผากคิดเรื่องลูก หวานขยับตัวจับแขนซ้ายผมมาหนุนแล้วหันตะแคงมาซบอก
               “คิดอะไรเหรอพี่จอม ทำไมยังไม่หลับ” หวานเอ่ยปากขึ้นถามเมื่อเห็นผมมองเหม่อ
               “กรานต์เป็นยังไงบ้าง”
               “ลูกหลับแล้วพี่”
               “ไม่ใช่เรื่องนั้น... เราเป็นพี่น้องกัน แล้วมีลูกด้วยกัน กรานต์จะเป็นอะไรรึป่าว” ผมยกมือซ้ายที่เธอหนุนอยู่ลูบหัวเธอเบา ๆ
               “อ๋อ... เรื่องนั้นเหรอ หมอก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ ตอนตรวจก็บอกว่าปกติดี” หญิงสาวในอ้อมกอดพูดพลางเอานิ้วเขี่ยไล้ที่กลางอกผม
               “แล้วลูกมีอาการอะไรแปลก ๆ มั๊ย พี่กลัวลูกจะปัญญาอ่อน”
               “ก็มีแค่เรื่องไม่พูด จนถึง 3 ขวบกว่าก็เริ่มพูด แต่ก็ไม่ค่อยพูดกับคนแปลกหน้า ส่วนพัฒนาการทางร่างกายก็ปกติดีนะพี่”
               “อื่ม...” ผมเริ่มคลายกังวลลงหน่อย
               “แต่จะมีที่แปลกกว่าเด็กคนอื่น”
               “อะไรเหรอ” ผมรีบหันไปมองหวานที่ยังพูดนิ่ง ๆ ไม่ได้มองขึ้นมาทางผม
               “กรานต์ไม่เล่นของเล่นอะไรเลยนอกจากรูบิค ธรรมดาแล้วเด็กจะเล่นเกม ดูทีวี อย่างหนูวิวก็ติดโทรศัพท์มือถือ แต่กรานต์สนใจแต่รูบิค” คิ้วผมเริ่มขมวดคิดตาม
               “ก็แปลกอยู่นะอายุแค่ 4 ขวบ ทำไมหวานไม่ซื้อแบบง่าย ๆ ให้ลูกเล่นก่อนล่ะ” ผมถามด้วยความสงสัยเพราะจำได้ว่าที่กรานต์เล่นอยู่คือแบบ 4x4
               “ซื้อแล้วพี่จอม ตอนแรกประมาณ 3 ขวบก็เล่นแบบ 2x2 แต่แค่ไม่ถึงเดือนก็เล่นได้ครบทุกหน้า ก็เลยซื้อแบบ 3x3 ให้ ก็เล่นได้อีก คราวนี้เลยซื้อแบบ 4x4 เลยเล่นอยู่หลายเดือนแล้ว”
               “มีคนสอนลูกเล่นเหรอ”
               “ไม่มีนะพี่จอม” หวานเงยหน้าขึ้นมาพูดกับผม ตกลงมันยังไงกันนะแต่ก็เอาเถอะผมทำให้กรานต์เกิดมาแล้วก็ต้องเลี้ยงดูกรานต์ให้ดีที่สุด ไม่รู้จะกังวลไปทำไม เมื่อคิดได้แบบนี้ผมก็เบาใจลง
               “เอ่อ... แล้วทำไมหวานต้องเปิดไฟหรี่นอนด้วยล่ะ” จำได้ว่าคืนแรกที่เกิดเรื่องเธอก็ให้ผมเปิด Down light
               “หวานกลัวผี”
               “จริงดิ... ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ผมอดขำน้องสาวไม่ได้
               “ก็มันมืดน่ากลัวจะตาย อย่างน้อยก็ให้มีไฟบ้างนิดหน่อย ไม่ใช่มืดตื๋อจนมองอะไรไม่เห็นเลย”
               “แล้วหวานกลัว ผีจับหัว รึป่าว”
               “ไอ้พี่บ้า... ทะลึ่ง” หวานตบหน้าอกผมเบา ๆ
               “ว่าพี่บ้าเหรอ เดี๋ยวพี่ก็ปล้ำน้องซะหรอก” ผมตะแคงตัวหันไปกอดฟัดหยอกเธอ จนพอรู้สึกตัวอีกทีเราก็อยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน
               “พี่จอมอยากเอาน้องสาวอีกมั๊ย” เธอมองสบตาผมด้วยสายตาหยาดเยิ้ม เรียวปากช่างชวนให้ประทับรอยจูบ ผมรู้สึกว่าหวานคงรู้สึกเช่นเดียวกับผม ว่าบทสนทนาการร่วมรักกันระหว่างพี่ชายกับน้องสาวมันกระตุ้นอารมณ์ของ 2 เรา
               “อยากสิหวาน พี่ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เอาควยเสียบเข้าไปในตัวของน้องหวาน” ผมพูดพร้อมกับมือขวาที่ลูบขึ้นไปจับหน้าอกเธอ
               “พี่จอมจับนมน้องอีกแล้ว...”
               “น้องสาวเสียวใช่รึป่าว” ปลายนิ้วเริ่มไล้ไปยังจุดเสียวบนปลายยอดอกเธอ
               “ซี๊ดดดส์... พี่จอมก็รู้ ว่าหวานเสียวเวลาโดนหัวนม ทำไมยังแกล้งหวานอีก” เสียงน้องสาวผมกระเส่าแอ่นอกรับการบดคลึง หวานเริ่มล้วงมือลงไปในบ๊อกเซอร์ผ้านิ่ม ๆ ของผม
               “ควยพี่จอมแข็งอีกแล้วนะ เงี่ยนหีน้องสาวอีกแล้วเหรอพี่” เธอพูดพลางถอกหนังควยเบา ๆ ระหว่างเราไม่ต้องเอียงอายอะไรกันอีกแล้ว ผมละมือลงมาถอดบ๊อกเซอร์ออก ส่วนเธอก็ดึงเสื้อนอนออกทางหัวจน 2 เราเปลือยเปล่า ผมกับหวานกอดจูบลูบไล้กันราวกับว่าเป็นผัวเมียที่ห่างหายกันไปนาน
               “ขอหวานอมควยพี่จอมหน่อย” เธอทำท่าจะลงไปดูดท่อนเอ็นของผมแต่ผมรั้งเธอไว้
               “พี่ขอเลียหีน้องสาวไปพร้อม ๆ กันได้มั๊ยหวาน” หวานไม่ตอบแต่ขยับตัวขึ้นคร่อมหน้าผมแล้วก้มลงดูดอมลำควยที่กำลังแข็งเข้าไปในปากทันที เธอทั้งดูดทั้งเลียมันราวกับเป็นของอร่อย
               “หีหวานสวยจัง” ตรงหน้าผมคือแคมหีที่อ้าออกท้าทายเรียวลิ้น บั้นทางเธอก็กลมกลึงได้รูป
               “อื่มมมม...” หวานครางในลำคอจนควยผมรู้สึกได้ เมื่อผมจับสะโพกเธอแล้วฉกปลายลิ้นเข้ากับติ่งแตดเบื้องหน้า 2 มือผมดึงรั้งให้พูหีเข้าหาเรียวลิ้นแล้วละเลงดูดเลียติ่งเสียว ก้นหวานนุ่มมือยิ่งบีบก็ยิ่งได้อารมณ์ ผมตวัดเลียจนน้ำรักเธอไหลบ่า รสชาติมันทั้งหวานทั้งหอม
               “พี่จอมพอก่อน หวานเสียว...” ผมเองก็อยากเอาควยแทงเข้าไปในร่องเสียวนี้แล้วเช่นกัน เลยขยับดึงตัวขึ้นมาอยู่ที่ด้านหลังของเธอ หวานเองก็คงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ผมประคองดุ้นเนื้อเอาปลายควยจ่อเข้ากับรูหีด้านหลัง
               “พี่จอมจะเย็ดน้องสาวอีกแล้วเหรอ” เธอเอี้ยวหันมามองแบบกวางเหลียวหลัง
               “ซี๊ดดดดส์...” แทนคำตอบผมรั้งสะโพกยัดหัวควยเข้าไป แล้วแทงทีเดียวมิดด้ามจนกระแทกบันท้ายนุ่ม ๆ ของเธอ ผมไม่เคยเอาหวานในท่านี้มาก่อน มันทั้งเสียวทั้งแน่น ภายในโอบรัดลำควยจนสุดบรรยาย ท่อนเนื้อแทรกเข้าไปลึกจนเหมือนปลายควยจะชนเข้ากับอะไรบางอย่างแต่มันก็ยิ่งสร้างความเสียว ผมค่อย ๆ ขยับซอยโยกเข้าออกจากช้าเป็นเร็ว ยิ่งเย็ดยิ่งมันส์ แก้มก้นเธอกระแทกกับผมเสียงดังตับ ๆ ดังไปทั่วห้อง
               “อ้า... อ้า... อ้า... พี่จอม... ควยพี่มันเข้าลึกจัง... อ้า... หวานเสียวรูหีไปหมดแล้ว” ผมรั้งร่างหวานขึ้นมากอดรัดโดยที่ยังคงโยกเย็ดหีเธออยู่ 2 มือผมบีบเคล้นเต้าอวบของหวานจากด้านหลัง กายสัมผัสของเราแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกัน
               “พี่จอม... หวานไม่ไหวแล้วน้า... หวานเสียว...” เธอหันมาบอกผมหน้าตาเหยเก ผมไม่ตอบอะไร แต่เข้าประกบดูดปากหวานพร้อมการกระหน่ำแทงควยเข้าในร่องเสียว กับนิ้วมือที่สร้างความกระสันที่หัวนมหวาน แล้วก็ถึงจุดที่ทุกอย่างระเบิดออก น้ำควยผมพุ่งเข้าในหลืบสวรรค์ของน้องสาวอีกครั้ง หวานเองก็บีบมือผมแน่นร่างเกร็งร่องเสียวบีบรัดเป็นจังหวะ เนื้อตัวของเรามีแต่เหงื่อชโลมกายทั้ง ๆ เปิดแอร์ ผมถอยหลังถอนควยออกทิ้งตัวลงนอนแผ่หราด้วยความเหนื่อย ซึ่งหวานก็เช่นกัน
               “พี่จอม...” หวานพูดทั้ง ๆ ที่หอบเหนื่อย
               “หือ”
               “หวานมีความสุขจัง” หญิงสาวร่างเปลือยหันมาพูดกับผม
               “พี่ก็มีความสุข แล้วพี่จะทำให้หวานมีความสุขแบบนี้ตลอดไป...” ผมหันไปตอบพลางยื่นมือไปจับมือเธอไว้ เราได้แต่ยิ้มให้กัน จนหลับไปในความเหนื่อยอ่อน   

               < -------- >

               และแล้ว รุ่งอรุณของวันใหม่ก็ผ่านเข้ามา ตั้งแต่วันนี้ไปชีวิตของผมจะไม่เหมือนเดิม ผมมีคนมาร่วมใส่บาตรด้วย หวาน น้องสาวสุดที่รักของผม เราตกลงกันว่าจะอยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไป เราจะเป็นพี่น้องที่ดูแลกันและกัน และช่วยกันดูแลพ่อแม่ ส่วนเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 เราจะเป็นคู่ผัวตัวเมียที่รู้ใจกันมากที่สุด หวานจะใช้ทุนที่ได้มาจากการหย่าร้างหาของมาขายทางเน็ต ซึ่งด้วยหน้าตาและรูปร่างของเธอก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะขายได้ ส่วนผมก็จะพยายามเติบโตในหน้าที่การงานเพื่อนำเงินมาส่งเสียลูก ๆ ทั้ง 2 ให้ได้เรียนสูง ๆ และจะดื่มเหล้าให้น้อยลง สุดท้ายนี้ ผมขอฝากเตือนสำหรับท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของผมว่า เรื่อง Incest มันไม่ได้จบสวยหรูแบบเรื่องของผมกันทุกคนนะครับ ติดคุกติดตะรางก็มีให้เห็น ถ้าไม่มีครั้งแรกก็อย่าไปริเลยครับ แล้วอีกอย่างถ้าพลาดพลั้งท้องขึ้นมาแล้วเด็กมีปัญหามันจะยุ่ง ผม จอม ขอจบเรื่องไว้แต่เพียงแค่นี้ ขอให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤติกาลไวรัส COVID-19 ไปด้วยกันนะครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านเรื่องของผมจนจบ ขอบคุณครับ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น