วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สมมุติฐานที่ต้องพิสูจน์




สถานการณ์ในโรงแรมม่านรูดเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (20/06/58) เป็นอะไรที่อยู่เหนือการควบคุมจริงๆ ครับ   แต่ผมก็สามารถเคลียร์กับแฟนจนเข้าใจ   คืนนั้นเธออาจโกรธที่โดนบ๋อยมันพูดไม่ให้เกียร์ติ  ก็เลยพาลไม่ยอมมีอะไรกับผม  แต่ตอนเช้าพอปรับความเข้าใจกันได้  เธอก็โอเคขึ้น    ผมบอกแฟนว่า ถ้าเราเล่นบทบาทสมมุติ อย่าคิดว่าบทนั้นเป็นตัวเรา   ให้สังเกตุเวลานักแสดงสวมบทบาทอะไร เขาก็คิดว่าเขาเป็นคนๆ นั้นจริงๆ     จากนั้นเราก็ย้อนกับไปจินตนาการเรื่องให้เธอเป็นไซด์ไลน์อีกครั้ง  แล้วผมก็สมมุติตัวเองว่าเป็นบ๋อยหนุ่มรูปหล่อกล้ามใหญ่ เข้ามาคลึงเคล้านวดนม  นวดตัว โอยยย..เธอคราวนี้เขื่อนแตกเลยครับ น้ำเดินหนักมาก หอยนี่แฉะสุดๆ  ไหลย้อยลงไปถึงร่องตูด    ช่วงสายถึงเที่ยงวันผมนี่แทบไม่ได้ออกจากห้องนอนเลย    จากที่เคยบล็อกในบล็อก [46] , [48]  จนมาถึงตรงนี้  ก็พอจะรู้คร่าวๆ แล้วว่าที่แฟนเป็นอยู่มันคืออะไร  ตามที่ศึกษาเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเธอมาซักระยะ   ผมสงสัยว่าแฟนอาจอยู่ในข่ายของคนที่มีภาวะ  "นิมโฟมาเนีย"  (Nymphomania) ครับ
จากที่อ่านเจอมา  นิมโฟมาเนีย  คืออาการผิดปกติของพฤติกรรมในเรื่องเซ็กซ์   มีภาวะเสมือนไร้ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ในเรื่องเซ็กซ์  จนเกิดความอยากที่รุนแรงมากขึ้น  มีความต้องการที่เร็วและง่ายกว่าปกติ  ซึ่งอาการนี้ถือว่าเป็นการป่วยทางจิตอีกชนิดนึงครับ  สาเหตุมาจาก   1. พันธุกรรม     2.การได้รับยาอันตรายบางชนิดที่มากเกินไป (เช่น สารเสพติด แอมเฟตามีน ยาอี ยาไอซ์ ยาเลิฟ ยาเค ยาปลุกเซ็กซ์)  3.ความกดดัน-ความเครียดจากสภาพแวดล้อมและคนรอบข้าง    4.บาดแผลทางจิตใจจากเหตุการณ์ในชีวิตจนขาดความสมดุลระหว่างอารมณ์และจิตใจ  (ซึ่งข้อ 3 กับ ข้อ 4  โดนแฟนผมไปเต็มๆ ครับ )    โดยความผิดปกติจะเกิดขึ้นภายในกลีบสมอง จะมีการหลั่งสารสื่อนำประสาทในสมอง จำพวก Serotonin, Norepinephrine และ Dopamine ที่มากกว่าปกติ  จนเกิดความผิดปกติในส่วนการระงับอารมณ์ทางเพศ  (ตรงนี้ผมมองว่าแฟนผมอาจมีความผิดปกติไม่มาก  จึงยังพอควบคุมความต้องการของตัวเองได้   ในบุคลิคนึงเธอก็ยังพยายามวางตัวดีอยู่เหมือนเดิม  แต่เมื่ออยู่ในที่ๆ ส่วนตัวกับคนที่ใว้ใจ ก็จะกลายเป็นเป็นผู้หญิงอีกบุคลิคนึง  ที่มีความกล้า มีอารมณ์ทางเพศสูงและรุนแรงขึ้น)
สำหรับแผนการที่ผมจะเสิร์ฟชายอื่นให้แฟนก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ครับ    มีเพื่อนสมาชิกท่านนึงส่งข้อความส่วนตัวมาหาผมว่า  ผู้หญิงที่วางตัวดีมาตลอดอย่างแฟนผมไม่มีทางบอกสามีตัวเองหรอกว่าอยากเย็ดกับผู้ชายคนอื่น  ดูอย่างไอ้ ดร. ขนาดโดนมันปลุกปล้ำแบบนั้น ก็ยังกลับไปให้มันเย็ดซ้ำได้ตั้ง 5 ครั้ง  ทั้งที่ถ้าเธอไม่ยอมซะอย่าง มันจะทำอะไรได้   ผมว่าเขาช่วยผมวิเคราะห์ได้น่าสนใจดีครับ    ผู้หญิงเรียบร้อย เป็นภรรยาที่เคยอยู่แต่ในกรอบคงกระดากปากที่จะพูดอะไรแบบนี้ออกมา     จริงๆ ผู้หญิงก็เหมือนผู้ชายล่ะครับ บางครั้งก็คิดถึงหน้าคนอื่นเวลาเย็ดกับแฟนตัวเอง   ผู้หญิงบางคนอยากลองกับหล่อๆ   อยากลองกับคนนั้น-คนนี้ดูซักครั้ง  แต่ด้วยอะไรๆ ที่มันไม่สมควรหลายอย่างทำให้ต้องสะกดความรู้สึกและความต้องการเอาใว้    ซึ่งถ้าแฟนผมจะเป็นแบบนั้นบ้างมันก็ไม่แปลก  เซ็กซ์ของเธอในตอนนี้ต่างจากเมื่อก่อนเยอะครับ   จนผมเองก็อยากพิสูจน์  ผมจะทำลายกำแพงของเธอ ให้เธอกล้าเปิดสิ่งที่เธอต้องการออกมา เพราะถ้าสิ่งที่ผมคิดมัน ใช่  เราก็จะได้หาความสุขแบบแปลกใหม่   ตามที่ผมหวังใว้ได้ซักที



Yesss !!! ปิดจ็อบสักทีหน่อยเถอะ

ก่อนที่ผมจะเขียนบล็อกนี้  ผมต้องขอบคุณ “คุณอ้อ” เพื่อนสาวคนพิเศษที่ส่งหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีมาให้     ที่ผมต้องเสียเงินจ้างมืออาชีพมาประเดิมให้แฟนก็เพื่อความชัวร์และความสบายใจครับ   ครั้งนี้ผมต้องการให้แฟนเกิดความประทับใจ  เพราะถ้าลองแล้วไม่เวิร์คอีกเธอคงไม่เอาด้วยอีกแน่     วันนั้นผมย้ำเแฟนอีกครั้งว่าเธอต้องแกล้งเป็นสิงคโปร์ให้มันสมจริง  และต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเท่านั้น   ซึ่งเธอก็รับรู้ด้วยท่าทีเรียบเฉย  ดูเธอเลี่ยงไม่อยากพูดถึงเรื่องที่กำลังจะทำครับ       ...วันเสาร์ที่ผ่านมาผมนัดน้องผู้ชายใว้ตอนทุ่มนึง  แต่เราไปถึงกรุงเทพตั้งแต่ช่วงบ่าย  เช็ค-อินเสร็จก็ออกไปเดินห้าง กลับมาถึงโรงแรมอีกทีตอนห้าโมง   แฟนผมก็อาบน้ำแต่งตัวรอแบบพร้อมสุดๆ  ผมจึงเปิด Spy Classic ให้กิน  พอหมดไป 2 ขวด เธอก็ออกอาการเมาแบบเล็กน้อยถึงปานกลาง      เกือบทุ่มนึงน้องผู้ชายก็โทรมาบอกผมว่าใกล้มาถึงแล้ว อาจเลทซัก 15 นาที  แฟนผมก็ออกอาการประหม่าให้เห็นชัดเจนเลยครับ จิตใจเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มือสั่น หน้าแดง หูแดง พอล้วงเข้าไปข้างในนี่ลื่นแฉะหมดเลย   ผมจึงถามว่าอยากแล้วใช่มั้ย  ซึ่งเธอก็ไม่ได้ยอมรับว่าตัวเองเงี่ยนหรอกครับ  เธอบอกเพียงว่าอย่าเพิ่ง ให้เธอทำใจนิดนึงก่อน  ผมจึงพาเธอเข้าไปรอในห้องนอนเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม


ผมเลือกห้องเป็นแบบ Suit 1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขกครับ ไม่ได้เลือกห้องแบบ Connecting Room อย่างที่เคยบอกนะครับ   พอเข้าไปก็ได้ไปเปิด-ปิดไฟปรับความสว่างของห้องอีกรอบ  แฟนผมอยากให้มันสลัวๆ ลงกว่านี้ครับ  ผมก็เลยต้องตามใจ  สีหน้าแฟนผมเริ่มไม่ค่อยดีเลยครับ  ผมถามเธอว่า   "ไหวนะ"  เธอก็พยักหน้า  ผมจึงหอมแก้มกอดให้กำลังครั้งสุดท้ายก่อนจะปล่อยให้เธออยู่ทำใจคนเดียวตามลำพังตามที่เธอร้องขอ  พักนึง น้องผู้ชายมาถึงประมาณ 19.10 น.ได้   เขาก็งงนิดหน่อยครับที่ต้องมาหาผมก่อน กึ่งๆ ระแวงผมด้วย   นี่คือบทสนทนาคร่าวๆ ของเรา เอาที่พอจำได้นะครับ


“ เห็นพี่อ้อ บอกว่าลูกค้าเป็นผู้หญิงมาจากสิงคโปร์เหรอครับ ”
“ ใช่ครับ ”
“ ลูกค้า มาหรือยังครับ ”
“ มาแล้วครับ  เข้าประตูนี้เลย ติดขัดอะไรบอกพี่นะ พี่อยู่นี่ตลอด”  (พูดเสร็จผมก็เอาเงินค่าตัวให้)
“ อ่อ! ครับผม  ขอบคุณครับ ”  (ทำหน้างงๆ แต่ก็ยิ้ม ยกมือไหว้ แล้วก็เปิดประตูเข้าไป )
จากนั้นเงียบไปเลยพักใหญ่เลยครับ  ผมนี่เดินไปเดินมา คือมันอยู่ไม่สุขแล้วครับ  ปิดทีวีเอาหูไปแนบประตูแอบฟังก็ไม่ได้ยินอะไร   ผ่านไปประมาณ 20 นาทีถึงเสียงครางที่ผมคุ้นเคยก็ดังขึ้นมาเบาๆ และค่อยๆ ดังแรงขึ้นเรื่อยๆ   ผมเนี่ยแทบคลั่งเลยครับ  คิดมโนภาพไปต่างๆ นานา  เสียงคราง “ อ๊า....ๆ ๆ ” ที่เล็ดลอดประตูออกมา  ทำให้อารมณ์อยากของผมมันพุ่งขึ้นมาเป็นทวีคูณ  ดุ้นผมแข็งแทบจะระเบิด  แต่ผมฝืนกลั้นมันเอาใว้  ไม่ชัก ไม่ช่วยตัวเอง ผมจะรอเย็ดแฟนทีเดียว   แต่เวลาผ่านไปช้ามากครับ  มองนาฬิกาล่วงเลยจะครบชั่วโมงแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าเสร็จซักที   ผมเริ่มหงุดหงิด คิดในใจว่า “มึงจะเย็ดเมียกูนานไปแล้วนะ”  แต่ก็ต้องทน และกลับมานั่งจิบเบียร์รอต่อไป
 เสียงเนื้อกระทบเนื้อ และเสียงคราง  ขาดๆ หายๆ แต่ก็มีเล็ดลอดมาให้ได้ยินเป็นระยะ   ในขณะที่ดุ้นของผมแข็งแล้วแข็งอีก  แข็งแล้วอ่อน/อ่อนแล้วแข็ง  สลับไปมาอยู่หลายรอบ    จนมันเบื่อที่จะรอ เหนื่อยที่จะแอบฟัง  ก็เลยหยิบรีโมทมาเปิดทีวีดูด้วยอารมณ์ที่ไม่รู้จะบรรยายยังไง   แต่สุดท้ายประตูบานนั้นก็เปิดออกมา   ผมจับเวลาได้ 2 ชั่วโมงกับ 35 นาที  น้องผู้ชายเดินออกมาด้วยสีหน้าอมยิ้มเล็กน้อย   ยกมือใหว้ผมผมแล้วก็กลับออกไป  ซึ่งต่อจากนี้แหละครับ คือเวลาที่ผมรอคอย   ผมเข้าไปหาแฟนในห้องนอน  แต่เธออาบน้ำอยู่ ผมจึงสำรวจภายในห้อง พอเห็นที่นอนที่มันยับยู่ยี่ใจก็เบาหวิวขึ้นมาทันที  แต่ที่ทำเอาผมแทบหยุดหายใจไปเลยก็คือในถังขยะมีถุงยางใช้แล้ว 2 อัน บนโต๊ะมีกล่องถุงยางเปล่าบอกขนาด 54 มิล ผิวไม่เรียบ  (ของผมใช้ขนาด 49 มิล)      ช่วงที่รอแฟนอาบน้ำ ซึ่งก็นานมาก นานกว่าปกติ  ในห้วงเวลาที่รอนั้นผมไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกออกมาเป็นตัวหนังสือให้อ่านยังไงดี  มันทั้งสมหวัง สับสน ทั้งเครียด ร้อนรุ่ม ปะปนกันอธิบายไม่ถูกครับ   พักใหญ่ๆ เธอถึงเปิดประตูห้องน้ำออกมา แต่ก็ไม่กล้าสบตาผม ผมจึงเข้าไปกอดเธอจากด้านหลัง เธอเอามือมาตบแขนผมเบาๆ แล้วก็พูดว่า

" อย่าเพิ่งทำนะ "
" หือ.."
" ?? กำลังสับสน "
" เอาน่า.. ไม่ต้องคิดไรมาก มันก็แค่ช่วงเวลานึงที่ได้ปลดปล่อย "
" อืมมมมม   มันแปลกๆ อ่ะ รู้สึกเกลียดตัวเองยังไงไม่รู้ "
" น้องเค้าโอเคมั้ยล่ะ "
" โอเคมาก สุภาพมาก เรียก Madam (คุณผู้หญิง) ทุกคำ"
" พี่หมายถึง Sex น่ะ "
" ......." (ไม่พูด หันกลับมามองหน้า)
" เสร็จกี่ครั้งเอ่ย "  (ผมพยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้น ไม่อยากให้เธอคิดมาก)
" ......." (เธอไม่ตอบ พร้อมกับเบี่ยงตัวออกไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง)
 ในตอนนั้นผมไม่อยากคาดคั้นให้เสียบรรยากาศ จึงมานอนรอบนเตียง มองดูเธอทาพวกโลชั่น ครีมบำรุงผิว  ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะพาผู้หญิงอย่างเธอก้าวมาถึงจุดๆ นี้ได้  เราสบตากันผ่านกระจก 3 - 4 ครั้ง และทุกครั้งเธอก็จะหลบสายตาแบบอายๆ   ซึ่งนั่นก็พอจะรู้แล้วว่า แฟนผมน่าจะยังไม่สะดวกใจที่จะเล่าในสิ่งที่ผมอยากรู้   ที่เธอรีบอาบน้ำก็คงอยากชำระล้างอะไรให้มันออกไปจากความรู้สึกของเธอ     ..จริงๆ แล้ว  ผมอยากสัมผัสกลิ่นอายแบบเรียลทามมากกว่าครับ   แต่ก็เอาเถอะ ตามใจเธอ เอาแบบที่เธอสบายใจก่อน  คืนนั้นผมปล่อยเธอให้งีบหลับไป  กลางดึกเธอถึงตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ แต่มันก็ไม่ใช่อารมณ์ที่เคยได้สวิงอยู่ดีครับ   คืนนั้นผมค้นหาคำตอบอีกครั้งว่าวิธีที่ทำอยู่นี้มันตอบโจทย์มั้ย  สำหรับแฟนผมเธอน่าจะโอเคกับมันนะครับ  แต่กับผม ผมว่ามันยังไม่ใช่...
ประสบการณ์ที่เล่าในบล็อกที่แล้ว  แฟนผมอาจความประทับใจเซ็กซ์ที่มีรสชาติแปลกใหม่จากชายหนุ่มที่ผมจัดให้   แต่พอความเสียวจางไปความสับสนก็เข้ามาแทนที่   ถ้ามองในมุมของเธอก็น่าเห็นใจเธออยู่นะครับ  เพราะในรอบปีที่ผ่านมา มีหลายเหตุการณ์ที่เข้ามาวุ่นวายชีวิตที่ราบเรียบของเธอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผมกับอดีตแฟนคนเล็ก  เรื่องของเธอกับไอ้ด็อกเตอร์  และเรื่องที่ผมพยายามยามยัดเยียดชายอื่นให้เธอเรื่อยมา ตั้งแต่กับหมอนวดชาย (บล็อก 17)  ชายเดี่ยวคนแรก (บล็อก 21)  บ๋อยม่านรูด (บล็อก 50)   และบล็อกที่แล้ว (บล็อก 59) ที่ผมลองปล่อยเธอได้ทำอะไรกันแบบตัวต่อตัวกับหนุ่มรูปหล่อกล้ามโต  ผู้ชายขายน้ำที่ออกมาให้บริการนอกสถานที่      ภรรยาผมตัดพ้อกับผมว่า ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้หญิงมั่วเซ็กซ์ใจแตก มาเสียคนตอนแก่อายุสามสิบกว่าแบบนี้  คือเธอไม่แน่ใจตัวเองครับว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ปล่อยให้มันมาถึงจุดๆ นี้ได้  (จุดที่เธอเต็มใจเข้าไปสัมผัสมันเอง)   ครั้งนี้เธอไม่ได้โกรธผมเหมือนทุกครั้ง  เธอบอกเธอเป็นฝ่ายเลือกเอง เธอก็ต้องยอมรับสิ่งที่ทำลงไปให้ได้    จากคำพูดของเธอทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกของเธอดี   แฟนผมเป็นผู้หญิงเรียบร้อยที่อยู่ในกรอบมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นเด็กวัยรุ่นจนโตเป็นสาว เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว  ซึ่งเมื่อได้ทำอะไรแบบนี้ไปแล้วก็คงรู้สึกแย่เป็นธรรมดา
ผ่านมาหลายวันเธอดูเข้มแข็งมากขึ้นกว่าเดิมครับ  ผมจึงถือโอกาสกล่อมเธอไปว่า  เซ็กซ์แบบฉาบฉวยมันก็เหมือนการชิมอาหารรสชาติใหม่ๆ  ส่วนแฟนก็คืออาหารหลักที่ขาดไม่ได้  แต่บางครั้งเมื่อกินบ่อยๆ มันก็ได้แค่รสชาติเดียว   ผู้หญิงก็ไม่ต่างจากผู้ชายหรอก  ได้มีอะไรกับสามีคนเดียวมันก็จำเจ   ผู้หญิงบางคนถึงแอบไปมีกิ๊กนั่นไง  ได้เลิกกับแฟนเลยก็มี   ซึ่งมันก็แย่ยิ่งกว่าสิ่งที่เราทำอีก  เพราะที่เราทำเรารับรู้มันด้วยกัน   ..ผมยังยืนยืนกับแฟนเสมอครับว่า สิ่งที่เธอได้ทำไม่ไช่การ “มั่วเซ็กซ์”    ผู้หญิงมั่วเซ็กซ์คือ ผู้หญิงที่สามารถเอากับใครก็ได้โดยไม่มีขอบเขตและเงื่อนไข โดยเฉพาะผู้หญิงที่แอบมีอะไรกับชายอื่นลับหลังสามี  ผ่านผู้ชายคนแล้วคนเล่าหลายต่อหลายคนโดยไม่มีขีดจำกัด และไม่สนใจถึงผลกระทบที่จะได้รับ     แต่ทุกอย่างที่เราสองคนทำลงไป เรารู้และยอมรับมันได้ด้วยกัน  และเราก็โตพอที่จะรู้ขอบเขตในตัวเรา  แค่เราเลือกคน เลือกสถานที่ ที่ปลอดภัยและเหมาะสมก็พอแล้ว  
หลังจากที่เราเคลียร์กันจนเข้าใจ ผมว่าผมกับแฟน รักและเข้าใจกันมากขึ้นนะครับ ผมถามอะไรเธอก็บอกโดยไม่ปิดบัง   กับหนุ่มที่มาให้บริการความเสียวในคืนนั้นเธอเล่าว่าทีแรกก็สั่นๆ กลัวๆ เอาผมมาปิดหน้า ไม่กล้าสบตา ก้มหน้าตลอด  เธอบอกว่าอายมาก ทั้งที่ในห้องก็เปิดไฟแค่สลัวๆ   แต่สุดท้ายเมื่อความต้องการนำพาอารมณ์ไปถึงจุดๆ นึง  ความเกร็งความกลัวก็หมดไป  ปล่อยให้ร่างกายและความคิดลอยล่องไป   ยอมให้เขาทำทุกอย่าง ทั้งถอดเสื้อผ้า ดูดนม เลียหอย  ซึ่งตอนโดนควยเสียบเข้ามา ใจมันก็หายว๊าบ เพราะครั้งนี้เธอตัดสินใจเลือกมันเอง   แล้วหลังจากนั้นก็เป็นไปตามฟิลลิ่ง   ก็จะมีพูดมีถามกันบ้างก็ตอนยกขาเปลี่ยนท่า แต่โดยรวมแล้วโอเคมาก น้องเขาดูดี สุภาพ อ่อนโยน เนื้อตัวก็ดูแลรักษาความสะอาดดี พอผมถามถึงขนาดว่า  "ใหญ่มั้ย"    เธอก็หน้าแดง พยักหน้าให้ ผมจึงแซวว่า  "มิน่าล่ะถึงเบิ้ลซะสองรอบ ไอ้เราก็รออยู่ตั้งนาน เสร็จไปกี่ครั้งล่ะ"    เธอไม่ตอบครับตีแขนผมดังเปี๊ยะ! ด้วยความอาย      ผมต้องคะยั้นคะยอหลายครั้งถึงยอมบอกว่าเธอเสร็จไป 5 ครั้ง    จากนั้นผมลองถามแฟนอีกว่า คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงสองบุคลิกมั้ย คือ..บุคลิกนึงเป็นคนเรียบร้อยปกติทั่วไป  แต่ตอนที่อยู่บนเตียงกับผู้ชายก็กลายเป็นคนอีกบุคลิคนึง  เธอบอกไม่รู้  ในนาทีนั้น เธอแค่อยากปลดปล่อยออกมาเต็มที่  ไม่ได้คิดเรื่องถูกเรื่องผิด หรืออะไรควรไม่ควร   ความอยากมันพรั่งพรูเข้ามาจนไม่ทันได้คิดอะไรแล้ว  เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้ไปได้ 
หลังจากกลับมาแฟนผมร้อนแรงขึ้นมากเลยครับ   ผมว่าเส้นทางของผมเริ่มสะดวกแล้วล่ะ..

1 ความคิดเห็น:

  1. หัวข้อข่าวดังหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
    หัวข้อข่าวดังหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ของวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 2546 แม่เอาลูกแท้ๆเป็นผัว แม่ค้าวัย 62 ได้เสียกับลูกชาย แท้ๆวัย41 ปี เป็นสามีภรรยาอยู่กินกัน มา 15 ปี
    เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 24 พ.ย. ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ บุญพันธ์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจาก รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช ว่ามีคนถูกยิงมารักษาตัว ไปตรวจสอบ ทราบชื่อ นายสุรเชษฐ์สโมสร อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96/2 ถนนพัฒนาการ-คูขวาง ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืน .38 ที่กกหูขวา กระสุนฝังใน อาการสาหัส สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายสุรเชษฐ์ขี่รถ จยย.ผ่านทางแยกหน้าตลาดทวดทอง ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ ถูกคนร้าย 2 คนขี่รถ จยย.ตามประกบยิงก่อนเร่งเครื่องหลบหนีไป ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนจนมีพยานหลักฐานยืนยันว่า ผู้บงการสังหารนายสุรเชษฐ์ คือนางถวิลย์ พะหะละ อายุ 62 ปี มารดาบังเกิดเกล้าของนายสุรเชษฐ์นั่นเอง จึงขออนุมัติหมายจับจากศาล ก่อนนำกำลังบุกเข้าจับกุม นางถวิลย์ได้ที่บ้านเลขที่ 85/4 หมู่ 2 ต.โพธิ์เสด็จ นางถวิลย์ รับสารภาพว่า แต่งงานอยู่กินกับสามีคนแรกตั้งแต่อายุ 19 ปี มีลูกชาย 1 คน คือนายสุรเชษฐ์ ต่อมาได้แยกทางกับสามี แล้วไปมีสามีใหม่ มีบุตรอีก 3 คนจนกระทั่งสามีคนที่สองเป็นมะเร็งเสียชีวิตไปเมื่อ 15 ปีก่อน ตนต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูลูกๆทั้ง 4 คน โดยเปิดแผงขายส่งผักและผลไม้อยู่ในตลาดหัวอิฐ ฐานะดีพอสมควร เนื่องจากกิจการค้าเจริญก้าวหน้า มีเงินฝากในธนาคารจำนวนมาก แต่ด้วยความเหงาใจ ประกอบกับความใกล้ชิดกับลูกชายที่อยู่ในวัยหนุ่มแน่น จนเผลอตัวเผลอใจได้เสียกับนายสุรเชษฐ์ ลูกชายแท้ๆ และอยู่กินกันเรื่อยมาเป็นที่รับรู้ของเพื่อนบ้าน ต่อมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา นายสุรเชษฐ์ไปได้ผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นเมียน้อย เอาใจออกห่าง แยกตัวออกไปอยู่กับหญิงสาวคนใหม่ และขนเงินทองไปปรนเปรอให้ความสุขกันเต็มที่ หนำซ้ำในช่วงหลังเมียน้อยได้บุกเข้ามาด่าตนถึงในตลาด ว่าเป็นอีแก่บ้าง คนสารเลวเอาลูกทำผัวบ้าง ส่วนลูกชายก็กลายเป็นคนเหลวแหลก ดื่มเหล้าเมายา เที่ยวเตร่และเล่นการพนัน รีดไถเงินตนจนแทบหมดตัว ล่าสุดพาพวกบุกปล้นกวาดทรัพย์สินในบ้านไปเกือบหมด ทั้งที่ตนยังรักและห่วงใย กลับถูกทอดทิ้ง จนกระทั่งหมดความอดทนเมื่อเมียน้อย ของลูกชายบุกมาหาเรื่องอีกจนมีการลงไม้ลงมือกัน ต่อมานายสุรเชษฐ์ก็มาตบตีตนเพื่อแก้แค้นให้เมียน้อย ด้วยความโกรธแค้นสุดขีด จึงตัดสินใจว่าจ้างมือปืนให้สังหารนายสุรเชษฐ์ในราคา 50,000 บาท จ่ายเงินมัดจำให้มือปืนไปแล้ว 5,000 บาท ที่เหลือนัดจ่ายเมื่องานสำเร็จ แต่กลับมาถูกตำรวจจับกุมก่อน
    ปีที่ 54 ฉบับที่ 16754 วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 2546

    ตอบลบ