วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

แม่ยายคร้าบ

 




ผมจบโรงเรียนนายสิบทหารแล้วประจำการชายแดน ออกลาดตระเวน 5 ครั้งเท่านั้นก็โดนกับระเบิด ยังดีที่อวัยวะทุกส่วนอยู่ครบ ระหว่างนอนโรงพยาบาลสองเดือนได้เจอน้องอ้อยเพิ่งจบพยาบาลหมาดๆ ฝึกงานสัปดาห์แรกก็เจอคนไข้อย่างผม
เราสานสัมพันธ์ทุกวันแม้ผมกลับไปชายแดนยังโทร.คุยไม่เว้น ครบปีผมรักจริงขอแต่ง น้องอ้อยปฏิเสธ ''อ้อยไม่รักพี่'' ผมตัดพ้อ ''รัก..แต่กลัวลูกกำพร้า'' ผมรักอ้อยมากกว่าเครื่องแบบจึงออกมาแต่งงาน ปีกว่าก็ได้ลูกชายชื่อองอาจ อ้อยรอจนลูกขวบครึ่งจึงพาผมล่องใต้ไปไหว้ ''แม่กลิ่น''
วันแต่งงานไม่มีญาติอ้อยมาร่วม ''อ้อยเป็นลูกคนเดียว พ่อ-แม่ตายหมด'' อ้อยพูดแค่นั้นแล้วไม่พูดถึงตลอดสามปี เมื่อถึง ''วันแม่'' ปีก่อนเรานั่งรถไฟไปลงที่สุราษฎร์ฯ ต่อสองแถวไปลงหน้าบ้านใหญ่ ''บ้านแม่อ้อย'' เธอบอกแล้วจูงมือลูกเดินเข้าไป
หญิงกลางคนเปิดประตูบ้านออกมา ''หวัดดีพี่ศรี'' ''น้องอ้อย'' พี่ศรีครางก่อนตะโกนเป็นภาษาใต้ ''แม่กลิ่น..น้องอ้อยกลับบ้านแล้ว...มีหลานชายมาด้วย'' อ้อยจูงมือผมกับลูกเข้าบ้านแล้วปล่อยวิ่งไปกอดหญิงนุ่งผ้าปาเต๊ะเหมือนสาวมาเลย์ จนผมเดินเข้าใกล้จึงหันมาแนะนำ
''แม่กลิ่น แม่ของอ้อย'' แม่ยายเป็นสาวใต้แต่ผิวขาวตาคมอายุ 40 แต่หากไม่บอกจะนึกว่าแค่ 30 รูปร่างอวบกว่าอ้อย แต่ตอนนั้นนุ่งผ้าถุงคลุมยาวถึงปลายเท้าดูผอมเพรียวไม่อวบอ้วนมีหน้าท้องตามอายุ
''แม่จะไปธุระ'' อ้อยเอ่ยหลังพาลูกเข้าไปกราบตักยาย ''ไม่ไปแล้ว...แม่ไม่ไปไหนทั้งนั้น แม่จะอยู่กับหลานอยู่กับลูก'' แม่กลิ่นปล้ำฟัดลูกอาจตาเป็นประกายด้วยความสุข
คืนนั้นอ้อยพาลูกไปนอนคุยกับแม่กลิ่นในห้องติดกัน ละครหลังข่าวจบจึงอุ้มลูกที่หลับสนิทกลับมาห้อง อ้อยเล่าว่า แม่กลิ่นเป็นคนปัตตานี พ่อเป็นคนนคร ถูกเกณฑ์ทหารไปอยู่ค่ายไกลบ้านแม่ คบกันไม่นาน พ่อพ้นเกณฑ์ทหารไปบอกลาแม่พร้อมสัญญาจะมาสู่ขอ แต่แม่ให้พาหนีไปวันนั้นด้วยเหตุผลกลับมาขอที่บ้านแม่ก็ไม่ให้
พี่กับอาของแม่มีอิทธิพลมาก แม่ไม่ให้พ่อกลับบ้านเกรงสองคนตามมาทำร้ายจึงหลบไปเป็นลูกจ้างสวนยางที่สุราษฎร์ฯ แม่มีอ้อยตอนย่าง 18 อ้อยสี่ขวบพ่อคิดถึงบ้านพาแม่ไปเยี่ยม แต่อยู่วันเดียวก็ต้องรีบกลับมีคนมาถามหาพ่อ เราสามคนจึงหลบซ่อนตามสวน เมื่ออ้อย 6 ขวบต้องเรียนหนังสือแม่ตัดสินใจปักหลักที่บ้านสวนแห่งนี้
ส่วนพ่อแอบกลับไปเยี่ยมบ้านที่นคร แม่รู้ก็โกรธห้ามเด็ดขาด แต่พ่อไม่เชื่อยังหลบไป อ้อยอยู่ชั้น ป.2 พ่อถูกยิงระหว่างออกจากบ้านที่นคร เป็นอัมพาตครึ่งตัวเดินไม่ได้ แม่พาพ่อมารักษาที่นี่ให้พี่ศรีดูแล ส่วนแม่หายไปเดือนกว่ากลับมามีเงินรักษาพ่อ 3 ปีเงินหมด พ่อจากไปตอนอ้อยอยู่ ป.5 พ่อตายปีเดียวแม่มีแฟนใหม่
อ้อยโกรธมากหนีเข้ากรุงเทพฯ แม่ตามง้อไม่ยอมกลับ แม่จึงส่งพี่ศรีมาอยู่เป็นเพื่อน โรงเรียนปิดอ้อยหางานทำในกรุงไม่กลับสุราษฎร์ฯ แม่ตามง้ออ้อยยืนยันจะกลับเมื่อแม่เลิกกับแฟนใหม่ พอขึ้น ม.4 แม่บอกว่าเลิกแฟนใหม่แล้วอ้อยลงมาหาแต่พบว่ายังคบกันอยู่ อ้อยกลับกรุงเทพฯ ไม่ลงมาหาแม่อีกเลย วันนี้มาเยี่ยมเพราะแม่เลิกกับแฟนครบห้าปีตามสัญญา
ผมนอนก่ายอ้อยฟังเรื่องแม่กลิ่นจบก็ผงกหัวจูบปากเมียรัก ''พักนะคืนนี้อ้อยเหนื่อย'' ''พี่ก็เหนื่อยแต่น้องชายไม่ยอม'' ผมจับมืออ้อยกดเป้ากางเกง มืออีกข้างลูบเต่าเมียรัก อ้อยไม่ต้องอุ่นเครื่องแตะนิดเดียวก็น้ำเยิ้ม ผมจับหงายโย้ขาขึ้นสูง ''ไม่เอาท่านี้ อ้อยเจ็บ 5 วันแล้วยังไม่หาย เข้าข้างหลังดีกว่า'' อ้อยนอนคว่ำยกก้นขึ้นให้ผมเสียบน้องชายเข้าไปแล้วซอยเล่นอย่างมีความสุข
''อูยยย..ซี้ดดด'' อ้อยครางแผ่วส่งสัญญาณให้รู้เธอกำลังมีความสุขเกือบถึงสวรรค์ ผมจึงซอยกระแทกถี่ยิบเสียงป้าบๆๆ ดังติดต่อกัน ''เบาหน่อยเดี๋ยวลูกตื่น'' ''กำลังเสียว..'' ''อ้อยก็เสียว..เสียวจนขนชัน..ซี้ดดด..ไม่ไหว...อ้อยออกแล้ว..ออกแล้ว''
ผมอัดน้องชายฝังแน่นคาเต่าจนเมียรักหยุดครางหันมาถามเสียงหวิว ''พี่ยังไม่เสร็จ?'' ''รออ้อยอีกรอบ'' ''ไม่ไหว..อ้อยไม่ไหวแล้ว ออกในปากอ้อยได้ไหมพี่'' เมียรักคว้าน้องชายผมใส่ปากทั้งดูดทั้งเลียจนความรักพุ่งพรวด อ้อยดูดกลืนความรักของผมจนหมดเกลี้ยงแล้วพลิกตัวกลับไปนอนหลับสนิทเหมือนปิดกุญแจ


รุ่งขึ้นแม่กลิ่นขับรถพาพ่อ-แม่-ลูก 3 คนไปดูสวนยาง แล้วแวะกินอาหารทะเลแสนอร่อยริมแม่น้ำ บ่ายแก่กลับถึงบ้าน แม่กลิ่นบ่นร้อน วิ่งไปอาบน้ำประแป้งขาวทั้งตัวเหมือนตกกระป๋องแป้ง เห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้ แม่ยายผมขี้เล่นเหมือนเด็กแท้ๆ
''แม่เริ่มซื้อสิบยี่สิบห้าไร่..เก็บไว้ให้อ้อย..ใครมาขายห้าไร่สิบไร่แม่รับไว้..แต่ตอนนี้มีเกือบร้อยไร่ได้น้ำหมดแล้ว'' แม่กลิ่นชวนนั่งคุยที่ระเบียงแล้วหันมาถาม ''ทำไมพ่อนวยลาทหาร'' ''ผมรักอ้อยครับ'' ''ดี..ใจนักเลงเหมือนพ่อแบบนี้..แม่ชอบ''
อ้อยพาองอาจไปเล่นในห้องแม่กลิ่นไม่นานก็กลับมา ''ลูกนอนฟังนิทานกับยาย'' ''ฮือ...'' อ้อยอาบน้ำเสร็จเปลี่ยนชุดนอนเห็นผมหลับก็ปิดไฟก้าวขึ้นเตียงก้มลงจูบหน้าผาก ผมฉวยจังหวะดึงอ้อยเข้าหาไซ้เต้าน่ารัก
''ขี้โกง..ขี้โกง..พี่ขี้โกง'' อ้อยบิดตัวผมยิ่งเม้มหัวนมจนอ้อยตัวอ่อนครวญเสียงละห้อย ''พี่นวยขาหยุดสักวันนะคะ'' ผมฟอนเฟ้นเต้าเมียรักจนหมดแรงโอนอ่อนยอมเล่นเกมซุกเต่า ผมกระแทกแรงกว่าคืนแรกเธอจึงร้องเสียงดังกว่าเดิม
ผมชอบเซ็กซ์มาก อยู่ชายแดนใช้นางทั้งห้าเล่นตัวเองทุกวัน แต่งงานแล้วไม่เคยลืมทำการบ้าน ต้องได้วันละครั้งส่วนอ้อยเสร็จกี่ครั้งแล้วแต่เธอแม่กลิ่นขับรถไปส่งเราสามคนที่สถานีรถไฟ ผมมารอยกกระเป๋าที่กระโปรงท้ายรถ แม่กลิ่นลงมาไขกุญแจเปิดกระโปรงท้ายแล้วจับมือมองหน้าผมพูดขึ้น ''เก่งนะพ่อนวย ไม่เว้นสักคืน เอาแบบนี้ระวังอ้อยมดลูกแตกตายก่อนลูกโต''


คำพูดแม่กลิ่นบอกนัยว่าแกได้ยินเสียงเราสองคนทำอะไรกันทั้งสองคืนชัดแจ้งแน่ๆ ผมพยายามเงียบที่สุด อ้อยก็เช่นกัน ที่บ้านอ้อยร้องดังกว่านี้ และผมไม่นึกว่าแม่กลิ่นจะพูดตรงๆ แถมตบท้ายว่า ''เป็นไงลูกแม่เก่งไหม?''
กลับกรุงเทพฯ ผมก็มีความสุขกับอ้อยเมียรักตามปกติทุกคืน ระยะหลังอ้อยเจ็บไม่รับผมเต็มที่ ''อ้อยกลัวมะเร็ง'' เมียรักวิตกแต่อายจึงไปเสียเงินตรวจโรงพยาบาลอื่น ''ภรรยาคุณมดลูกอยู่ต่ำมากของคุณเข้าไปกระทบแรงๆ ทำให้อักเสบต้องระวังอย่าให้เข้าไปกระแทกตรงๆ แล้วจะดีขึ้น ช่วงนี้ใช้ท่าตะแคงไปก่อนนะคะ'' หมอหญิงอายุเลยกลางคนแนะนำโดยไม่มองผม
ผมทำตามคำแนะนำของหมอด้วยรักเป็นห่วงสุขภาพของอ้อยเมียรัก จึงได้เสพสุขไม่หนักแน่นเต็มที่เช่นเดิม อ้อยรู้ว่าผมทำเพราะรักเธอ บางคราจึงให้ไปเที่ยวกับเพื่อน ''นอนกอดอ้อยมีความสุขกว่า'' ยิ่งทำกับเธอเท่าใดอ้อยยิ่งรักผมมากขึ้นกว่าเดิม
เวลาผ่านไปถึงปีใหม่เรามัวแต่ทำงานไม่มีเวลาไปเยี่ยมแม่กลิ่นตามนัด คืนหนึ่งหลังเกี่ยวก้อยกันขึ้นสวรรค์ไปเรียบร้อยอ้อยก็เอ่ยขึ้น ''แม่จะขึ้นมาข้างกับเราเสาร์นี้'' ''เปิดห้องใหม่ให้แม่ก็แล้วกัน'' ''อ้อยบอกแล้วแกไม่ยอมว่าจะค้างรวมกับเรา''
ตอนนั้นเช่าอะพาร์ตเมนต์อยู่ใกล้โรงพยาบาลที่อ้อยทำงาน เช้าอ้อยเอาลูกไปให้แผนกเด็กของโรงพยาบาลดูแล อ้อยเลิกงานรับกลับห้อง วันไหนอ้อยมีเวรเฝ้าไข้ผมจะไปรับลูกมานอนกอดกันทั้งคืน ''ยังงั้นดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยแก้ไข'' ผมสรุป
แม่กลิ่นมีกระเป๋าเสื้อมาใบเดียว ผมไปรับที่ท่ารถ ''นึกว่าไม่มีใครมารับ'' ''อ้อยติดงานครับ ผมมาแทน''
''กลับห้องเลยนะครับ'' ''ไม่กลับห้องแล้วจะไปไหน..พาแม่ไปนอนโรงแรม'' แม่กลิ่นหยอกคว้าแขนไปกอดเดินตามถึงรถ
''มันจะวิ่งถึงห้องมั้ยพ่อนวย'' แม่กลิ่นเรียกตัวเองแม่ ส่วนผมเรียกพ่อฟังแปร่งเหมือนผัวเมียตจว.ชอบเรียกกัน ''สบายครับ'' ''ใกล้หลุดเป็นชิ้นแล้ว..เมื่อไหร่พ่อนวยจะเปลี่ยน'' ''ไม่มีตังค์ครับ'' ผมมีรถญี่ปุ่นเก่าๆ ขับมารับแม่ยายเลยโดนบ่น
วันอาทิตย์แม่กลิ่นให้ผมขับเศษเหล็กที่ใกล้หลุดเป็นชิ้นพาไปหาซื้อเสื้อผ้ากับอุปกรณ์จำเป็นสำหรับแก เสร็จแล้วพากันไปดูหนังกินข้าวถึงบ้านมืดแล้ว แกอาบน้ำเช็ดตัวแห้งเอาแป้งฝุ่นมาโรยตัวแกและองอาจสนุกกันยายหลาน แต่ทำผมน้ำลายหกต้องหนีออกไปเดินข้างนอก
อย่างที่ผมบอกไว้ แม่กลิ่นตอนนี้อายุ 41 แต่หน้าตารูปร่างปานสาวสามสิบกำลังแจ๋ว ผิวขาว ไม่มีพุง ตาคมซ่อนสิ่งลี้ลับไว้ข้างใน หน้าท้องแบนทำให้เห็นนมลอยออกมาอวบอิ่ม ส่วนสะโพกนั้นกลมกลึงแน่นกว่าอ้อยเมียรักอย่างเด่นชัด
แกอาบน้ำเช็ดตัวแห้งเดินมาอุ้มลูกอาจมาวางตรงหน้าผมหยิบกระป๋องแป้งเทใส่มือลูบแขนขาลูกชายผมช้าๆ ยายประแป้งหลานแต่ดันก้มๆ เงยๆ เบื้องหน้าให้นมสองเต้าในเสื้อคอกว้างติดระบายลูกไม้แกว่งไปมายั่วอารมณ์ผมลุกโพลง
โชว์นมสวยให้ผมเห็นแล้วแต่คงไม่สะใจ แม่กลิ่นอุ้มลูกอาจมาส่งผม เดินไปหน้ากระจกเทแป้งใส่มือล้วงใต้ชายเสื้อลูบนมซ้าย-ขวา ฐานเต้าอวบๆ อวดให้เห็นในกระจกระหว่างทาแป้งและผมได้เห็นหัวนมเกือบเท่าเม็ดบัว แต่ไม่ดำน่าเกลียดด้วยนมแม่ยายอายุ 41 มองมุมไหนก็เด้งดึ๋งยั่วอารมณ์จนต้องเลี่ยงออกจากห้องก่อนอ้อยเมียรักอาบน้ำเสร็จ นึกถึงตัวเอง ถ้าแม่กลิ่นร่วมห้องอีก 2 วันผมตบะแตกปล้ำเอาทำเมียแน่...ทำไมถึงเป็นแม่ของอ้อย ไม่เป็นแม่คนอื่น...ผมตัดพ้อน้อยใจวาสนาผมไม่ทำให้แม่ยายผู้แสนน่ารักคนนี้ผิดหวัง กระเด้งเอวกระทุ้งเนื้อท่อนยาวๆ ใส่แกจนเกิดเสียง ''อื้ออื้อ..ฮือฮือ..แน่นดีจริงๆ พ่อนวยของแม่'' ผมไม่เคยสู่สมสาวสี่สิบมาก่อนเลย ได้สมสู่ครั้งแรกถูกแจ็กพอต แม่กลิ่นทั้งเด้งทั้งร่อนท้าทายความหนุ่มของผมแบบไม่กลัวเครื่องพัง
แพ้คนแก่ก็เสียชื่อ ผมอยากเอาชนะจึงใช้จุดเด่นคือความยาวกับพลังหนุ่มสอยแม่กลิ่นรุนแรงพอเหนื่อยก็เปลี่ยนลีลาเป็นยักเยื้องเชื่องช้ามุ่งมั่นให้แกมีความสุข พอได้ยินเสียง...ซี้ดดด...อื้อฮือ...โอ้ววว..เสียว...พ่อนวยของแม่ ออกมาผมจึงเร่งสปีดมีความสุขพร้อมกันแล้วหมดแรงนอนนิ่ง
''ทีเดียวหมดน้ำยาแล้วนึกว่าแน่..แค่ยาวหน่อยเท่านั้น ทำไมอ้อยมันถึงบ่นว่าทนไม่ไหว..'' แม่กลิ่นพึมพำเบาๆ แต่ผมได้ยินดูแคลนกันอย่างนี้ต้องเด้งให้ดิ้นอ้อนวอนให้หยุด ติดใจจนลืมดุ้นอื่นหมด รู้จักพ่อนวย..อวยใหญ่น้อยไปซะแล้วแม่กลิ่น
ผมรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว แกเข้าไปอาบบ้าง แต่เมื่อเสร็จออกมาผมแยกขึ้นเตียงก่ายหมอนข้างทำท่าหลับไปแล้ว เพราะเชื่อว่าแกอดมานานครั้งเดียวไม่สมอยาก เดี๋ยวมาสะกิดชวนผมเล่นอีกแน่ แล้วก็จริง แม่กลิ่นนอนสักพักก็ขยับมานั่งบนเตียง
''พ่อนวย..พ่อนวย..หลับหรือยัง'' ''หลับแล้วครับ..'' ''นี่แหนะ หลับแล้ว..'' แกตีแขนก่อนชวนคุย ''พรุ่งนี้แม่กลับแล้วคิดถึงมั้ย'' ''คิดถึงครับ..แม่ทำให้ผมติดใจ..ติดใจมากด้วย..แม่กลับผมเหงาแน่..นอนกับอ้อยแต่ใจลอยไปถึงแม่'' ''พ่อนวย...'' แม่กลิ่นเสียงเครือ ผมลูบแขนแก
''แม่เหงาไหม'' ''เหงา..พ่อนวยล่ะ'' ''เวลาอ้อยอยู่เวรผมเหงามาก..'' ผมดึงมือแกมาจูบแล้วไซ้จนขนลุกเกรียว ''พ่อนวย...แม่ไปนอนนะ'' ''เดี๋ยวครับ ผมขอหนุนตักแม่ก่อน'' ผมซุกหน้าบนตักแม่ยายสองแขนกอดเอว ซุกจนได้กลิ่นความสุขของแม่กลิ่นโชยออกมาจากซอกขาหนีบ
''พ่อนวย..ของแม่'' เสียงแม่กลิ่นเบาแทบไม่ได้ยิน ''พ่อนวยของแม่'' แกเรียกซ้ำเอนตัวหงายไปด้านหลังหน้าผมฟุบกลางสะโพก ถ้าไฟสว่างคงได้เห็นโหนกอูมของแก แต่ห้องปิดไฟ มือจึงใช้สัมผัสแทนตา ผมลูบโหนกอูมล้นมือของแกแผ่วๆ
''พ่อนวยจ๋า..อย่าแกล้งแม่'' แกครางฮือฮือแผ่วๆ ผมซุกหน้าจมกลางโหนกอูมจมูกสัมผัสกลางโหนกนั้นฉ่ำแฉะพร้อมสูดลมเข้าเต็มปอด ''ของแม่หอมเหลือเกิน..ผมอยากดูดของแม่'' ''อย่านะ มันสกปรก'' แม่กลิ่นบอกเหม็น ร้องห้าม แต่ผมหอม ดึงผ้านุ่งออก แหย่ตวัดลิ้นแตะเนื้อชิ้นบางๆ


''อย่าทรมานแม่..พ่อนวยจ๋า'' ครางเหมือนกำลังใจจะขาด ถ้าขาดใจจริงแม่กลิ่นคงไม่แอ่นร่อนสะโพกสู้ลิ้นผมขนาดนั้น ''แม่..แม่..เสียว..จะขาดใจ..เสียวนักพ่อนวยของแม่..แม่..เสียว..เสร็จ..เสียว..'' แม่กลิ่นครางดังจนกลัวลูกตื่นบางครั้งเบาแทบไม่ได้ยิน แม่กลิ่นหยุดครางกดหัวผมจมโหนกจมูกฝั่งร่องน้ำฉ่ำแฉะนิ่งนาน ผมหายใจไม่ออกแทบขาดใจจริงๆ ดิ้นมุดหัวโผล่ออกสูดลมเข้าปอดแรงๆ แม่กลิ่นหัวเราะ ผลักผมนอนหงายขยับขาขึ้นมาคล่อมมือจับเนื้อท่อนตั้งตรงหย่อนบั้นท้ายลงมา
โหนกอูมของแกครอบท่อนเนื้อผม พอมันมุดเข้าไปใต้โหนกครึ่งอันแกก็คราง ''..คับแน่นดีเหลือเกินพ่อนวยของแม่'' บั้นท้ายแม่กลิ่นต่ำลงดูดกลืนท่อนเนื้อของผมหายเข้าไปช้าๆ จนจมหมดสิ้น.. ''สวรรค์..แม่ได้ขึ้นสวรรค์จริงๆ..ซี้ดดดด''
''บุญของแม่จริงๆ..ที่ได้เจอพ่อนวย...อย่าทิ้งอ้อย อย่าทิ้งแม่นะพ่อนวย..ให้แม่ได้กินบุญอันใหญ่ขนาดนี้บ่อยๆ นะพ่อนวย'' แม่กลิ่นครางครวญนอนทับผมนิ่งไม่ขยับตัวพักใหญ่จึงเอ่ย ''แม่ทำแบบนี้พ่อนวยเสียวไหม..'' ผมงงคำถามแก แต่พอรู้สึกว่าใต้โหนกของแม่กลิ่นเหมือนมีมือพิเศษช่วยกันบีบนวดท่อนเนื้อของผม แม้ไม่แรงเท่าปากดูดแต่ให้ความรู้สึกคับแน่นอบอุ่นดี
''แม่ทำอะไรครับ'' ''ขมิบ..แม่หัดมาตั้งแต่เป็นสาว..อร่อยดีไหมพ่อนวย'' ''อร่อยดีเหมือนมีมือนวดเลย'' ''เวลาหมดแรงแม่จะทำแบบนี้พอได้พัก..นวยอยากลองให้เสร็จ'' ''แม่หมดแรงแล้ว?'' ''ยัง..แม่สู้ได้ทั้งคืน'' ''งั้นแม่เด้าเถอะผมจะเด้งรับ''
แม่กลิ่นคิดว่าผมคงจูงผมถึงสวรรค์ได้รวดเร็วเหมือนรอบแรกจึงกระแทกใส่ไม่ออมแรง แต่ผมควบคุมตัวเองไว้เหมือนที่ทำกับเมียเสมอมา แม่กลิ่นรีดพิษผมไม่สำเร็จ แต่แกแสนสุขสมหวัง เพราะผมเด้งรับส่งแกขึ้นสวรรค์ไปสองรอบ
''ไม่ไหวกว่าจะเสร็จพร้อมกันแทบขาดใจ'' แกร้องหมดเมื่อผมเร่งจังหวะทำว่าถึงสวรรค์พร้อมกัน แต่พอแกนอนพัก ผมก็พลิกตัวหนี แม่กลิ่นหายเหนื่อยแล้วหันมากอดคลำเนื้อท่อนนั้นเห็นมันพร้อมสู้ยกต่อไปแกก็โวยออกมา
''พ่อนวยหลอกแม่..ไม่ยอมเสร็จพร้อมกัน'' ''ผมรอแม่..'' ''เมื่อกี้ก็ว่ารอ นี่แม่เรียบร้อยไปสามเที่ยวแล้ว มารออีกทำไม..จะให้แม่เหนื่อยตาย'' ''รอแม่ยอมแพ้'' ''พ่อนวยขี้โกงแกล้งแม่..แม่ไม่ยอมนะ'' ''แม่พูดอย่างนี้ยังไม่ยอมแพ้ใช่ไหม'' ''ใช่..เก่งจริงเอาเลยเอาให้ถึงเช้า..ฟ้าไม่สว่างห้ามเลิก''
ผมเล่นซ่อนเนื้อกับแม่กลิ่นอีกเกือบชั่วโมง วันนั้นผมพยายามอดทนจนถึงที่สุดเพื่อให้แม่กลิ่นหลงใหลติดใจ ก่อนยอมปล่อยความสุขออกมาเนืองนองจนแกเดินไม่ไหว ผมต้องอุ้มลงไปนอนกับลูก
แม่กลิ่นเดินขากางเหมือนย่องในตอนเช้าก่อนขึ้นรถกลับสุราษฎร์ ''รีบกลับกรุงเทพฯ เร็วๆ นะ แม่อย่าให้ผมคิดถึงนานเกินไป'' ''เดี๋ยวจะฟ้องอ้อย พ่อนวยปล้ำแม่'' ''อย่านะแม่ผมกลัว..อย่าฟ้องอ้อยนะแม่ยายที่รัก'' ผมตามขึ้นไปอ้อนแม่กลิ่นบนรถ
รอสิบวันแม่กลิ่นขึ้นมากรุงเทพฯ ยอมแยกไปห้องพักใหม่ เผื่อ ''กลางวันแม่นอนไม่หลับแวะมากล่อมหน่อยนะ'' ผมแวบมากล่อมแม่กลิ่นสามวันซ้อนเกรงคนร่วมตึกจะสงสัยจึงปรึกษาแก ''แม่..ผมอยากกล่อมแม่ทุกวัน แต่คนในตึกมันสงสัย'' ''แม่เตรียมไว้แล้ว''
ถึงวันอาทิตย์แม่กลิ่นพาเราสามคนไปหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ''แม่เลือกแล้วที่นี่ใกล้โรงเรียนหลานที่สุด..ส่วนอ้อยกับพ่อนวยแม่จะให้รถคนละคัน..แม่กำลังขายบ้านที่สุราษฎร์ฯ ย้ายมาเลี้ยงหลาน..อ้อยว่ายังไงลูก'' ''แม่จ๋า..อ้อยรักแม่ที่สุด'' ''ถ้ารักแม่จริงต้องมีหลานให้อีกคน''
อ้อยเอาใจแม่กลิ่นปรึกษาแพทย์กินยาบำรุงจนเป็นผลสำเร็จ ปจด.ขาด ''สงสัยอ้อยจะมีน้อง หมอแนะนำให้หยุดกิจกรรมบนเตียงกับผัวชั่วคราว'' ''แล้วพี่ล่ะอ้อย'' ''อดทนหน่อยซีคะ 8 เดือนเท่านั้น..'' ''จ๊ะๆ..มันจุกอกตายแน่''
''ชีวิตเราสั้นนักพ่อนวย..อีกไม่นานแม่ก็หมดสนุกเรื่องนี้แล้ว ตอนนี้สนุก..พ่อนวยก็ช่วยให้แม่สมหวังเถอะนะ'' ผมเสพสุขกับแม่กลิ่นทุกจังหวะค่ำคืนหรือกลางวันเมื่อมีโอกาส อ้อยท้องสี่เดือนเศษบ้านใหม่เสร็จเราย้ายไปอยู่คนละห้อง
''ถ้าพี่นอนห้องเดียวกะอ้อยวันหนึ่งพี่คงอดใจไม่ได้..เข้าใจพี่นะ'' ''อีกสี่เดือนเท่านั้นพี่อดทนหน่อย'' อ้อยให้กำลังใจผม อยู่บ้านใหม่สักเดือนแม่กลิ่นเรียกพี่ศรีจากสุราษฎร์ฯ มาอยู่ด้วย ''พ่อนวย..ศรีมันเพิ่งสามสิบต้นๆ ยังไม่เคยผู้ชาย..แม่จะสอนมันก่อนแล้วพ่อนวยช่วยสงเคราะห์ทำบุญให้หน่อย รับใช้แม่มานานแล้ว แม่สงสารมัน อยากให้มันได้รู้จักสวรรค์''
ผมช่วยส่งแม่กลิ่นกับพี่ศรีขึ้นสวรรค์ทุกวัน ส่วนอ้อยคลอดแล้วกลัวเจ็บภายในอีก จึงให้ผมแยกห้องนอนต่อไป ผมจึงเหมือนได้มาอยู่บนสวรรค์สุดแล้ว แต่ว่านางฟ้าคนไหนจะเรียกเข้าไปเคียงเขนย แม่กลิ่น แม่ยายที่แสนดีคนนี้คือผู้สร้างสวรรค์ให้ผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น