วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

 บนเส้นทางชีวิต --"ปฐมบท" ---

 

 

โลกมันเหวี่ยงเรามาให้เจอกัน แล้วทำให้เราจากกันเหลือแต่ความรู้สึกที่ระลึกถึงกัน จนวันหนึ่งมันเล่นตลกกับเราเหวี่ยงเรามาให้เจอกันอีกครั้ง
หลังจากที่ผมบอกเล่าในเว็บว่า "เราอย่าท้อและอย่าด้อยค่าชีวิตเราเอง" ตัวเรามีค่าและพัฒนาชีวิตตัวเองได้เสมอถ้าเราวางเป้าหมาย เข้าใจความสามารถของตัวเองจริงๆและยกตัวอย่างน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาทำงานกรุงเทพ เก็บเงินแล้วกลับไปทำเกษตรที่บ้านเกิดตัวเอง ได้กลับไปเรียนต่อจนจบและทำธุรกิจพึ่งพาตัวเองได้ มันช่างบังเอิญที่เขาเองก็เข้าเว็บนี้และเจอเรื่องราวของเธอเอง ผมจึงถามตัวผมเองว่าโลกมันกลมหรือสังคมที่สนใจเรื่องราวในเว็บนี้มันแคบคือมีคนอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้นที่เปิดใจคุยกันได้

เราโทรคุยกันบ่อยขึ้น ทั้งตัวเธอเองและแฟนของเธอพวกเขาทั้ง2คนไม่มีความลับอะไรกัน แฟนเธอเสียอีกที่มีความลับกับผมที่ผมรอโอกาสถามอยู่ ตอนที่แฟนผมไปติดต่องานต่างจังหวัด แฟนผมเขาขอให้แฟนเธอไปเป็นเพื่อนและขับรถให้โดยบอกว่าเบื่อลูกค้าขี้หลีชอบกะลิ้มกะเหลี่ยเวลาเข้าไปเสนองานแต่ถ้ามีผู้ชายไปด้วยลูกค้าก็ไม่กล้า ตลอด3วันที่แฟนผมอยู่กับแฟนเธอที่เป็นอดีตเอน-เนอร์หล่อๆ กลับมาผมถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง แฟนผมตอบยิ้มๆบอกว่าไม่มีอะไร ผมไม่เซ้าซี้เธออยากบอกเธอก็บอกเองมันเป็นรื่องที่ผมคิดเองเออเองได้ ส่วนน้องผู้ชายแฟนเธอก็ไม่เคยปริปากพูดถึงเรื่องนี้ เรื่องนี้มันเกิดขึ้นนานแล้ว ตรงนี้ผมขอเสริมกับผู้อ่านนิดหนึ่งว่าการที่เราได้เห็น ได้อ่านเรื่องของเซลล์ไปทำอย่างนั้นนี้กับลูกค้า มันอาจจริงบ้างไม่จริงบ้างนะครับ ปกติเซลล์เขาจะไม่ขายแบบ "ฮาร์ดเซลล์" ขนาดนั้น เขาขายสินค้ากำไรได้บริษัทถึงเราได้ค่าคอมกันก็ไม่คุ้มกัน แฟนผมเขาไม่เคยมีอะไรกับลูกค้า แฟนผมว่าบอกมันไม่ปลอดภัยทั้งทางด้านร่างกายและการเก็บเป็นความลับ ถ้าเขาไม่ต้องการสินค้าของเรา เราก็ไปหาขายคนอื่นไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้น ส่วนพวกลูกค้าที่มีทริคหน่อยก็ขอเบอร์ไว้ ถ่วงไว้ไม่ให้เซลล์ปิดการขาย หลังจากนั้นก็โทรกะลิ้มกะเหลี่ย อาจมีจริงๆที่ได้บ้างแต่ไม่มากนักหรอก ไม่เชื่อลองถามพวกจัดซื้อชายดูว่าเขาเคยได้เซลล์หญิงไหม บางคนเจอกันเพราะงานขายก็จริงแต่สานต่อเรื่องอื่นจึงชอบพอกัน

น้องผู้ชายแฟนเธอชวนผมไปพักที่โฮมสเตย์ของเขา "พาพี่ผู้หญิงมาพักผ่อนบ้างก็ได้" เขาบอกอย่างแฝงนัย ผมเองก็ไม่ว่างและระยะทางที่ไกลจึงรับปากว่าถ้าว่างเมื่อไหร่ก็จะหาโอกาสไปเที่ยว ผ่านไปไม่กี่วัน น้องผู้หญิงก็โทรมาถามว่า ถ้าคุยยาวผมพอมีเวลาไหมเธอจะขอคำปรึกษา เธอบอกว่ามีเจ๊คนที่แฟนเธอรู้จักตั้งแต่เป็นเอน-เนอร์ในงานปาร์ตี้ที่กรุงเทพ เขาจะพาราชการท้องถิ่นมาดูงานอยู่แบบพอเพียงอะไรประมาณนี้เพื่อจะได้เอาไปเผยแพร่ต่อแต่การดูงานของข้าราชการ เขาต้องทำรายงาน มีชื่อ-สกุลจริง สถานที่ที่ไปดูงานจริง เธอไม่สะดวกที่จะรับแต่ไม่รู้จะปฎิเสธเจ๊เขาอย่างไรเพราะเขามีบุญคุณกับแฟนเธออยู่มาก สรุปคือเธออยากให้โฮมสเตย์ของเธอไร้ตัวตน สืบค้นไม่ได้จากเอกสารหรืออินเทอร์เน็ตแต่ไม่รู้ว่าจะหาวิธีปฎิเสธอย่างไรให้รักษาน้ำใจผู้มีบุญคุณไว้

ผมถามเธอว่า เจ๊รู้มั้ยว่าโฮมสเตย์เรา (ไปลงทุนกับเขาเมื่อไหร่ว่ะ) มีคอนเซ็ปต์อย่างไร เธอตอบว่ารู้ เจ๊เคยมาพักแต่แฟนเธอเป็นคนต้อนรับเธอเคยคุยกันแต่ไม่สนิทกัน ผมบอกเธอว่า "บางทีเมื่อชีวิตเราโตขึ้น เราจะเจอกับบททดสอบที่ยากขึ้น" เราต้องเข้มแข็งพอที่จะรู้จักปฎิเสธ ถ้าสิ่งนั้นมันอาจทำให้เราลำบากในภายหลังได้ ถ้าเลือกปฎิเสธแฟนเธอต้องเจอกับความเจ็บปวดในใจไประยะหนึ่ง ขอให้ดูแลเอาใจใส่เขาให้ดี นี่คือวิธีแก้ตรงที่ปลายปัญหาสุดแต่คิดว่ามีวิธีอื่นอยู่นะ คือถ้าเจ๊เขารู้ว่ามีคอนเซ็ปต์อย่างไร เขาต้องไม่คิดให้คนอื่นมายุ่ง(โดยเฉพาะราชการ)แต่แรกแล้ว "ตรงนี้เจ๊มีสิ่งอื่นแฝงอยู่หรือเปล่า? ให้แฟนเธอคุยกันแบบเปิดใจบางทีเราอาจได้คำตอบที่ไม่ต้องปฏิเสธก็ได้" เช่น ถ้าเจ๊จะเล่นการเมืองท้องถิ่นจะสร้างการยอมรับ เราก็ให้พวกเขาพักในตัวเมืองแล้วไปติดต่อหาคนปลูกผักแบบเราแถวนั้น ขอใช้พื้นที่เขาให้เจ๊ดูงาน ใช้ชื่อสวนผักเขา เงินให้เขา เช้ามืดเราก็จัดรถไปรับ เย็นก็ไปส่งกลับ อาจมีค่าใช้จ่ายแต่มันจะรักษาความเป็นส่วนตัวและไม่ลำบากใจเราเอง เธอบอกว่าจะเอาไปปรึกษากับแฟน

วันถัดมาแฟนเธอโทรมาหาผม บอกว่าคุยกับเจ๊แล้ว จริงๆแล้วเจ๊อยากจัดแท้งคิวปาร์ตี้แบบเอ็กคลูซีฟ งานเลี้ยงขอบคุณมากๆสำหรับคนที่เกี่ยวข้อง เจ๊เขาเป็นเจ้าของสำนักงานบัญชี เป็นนายหน้าขายที่ดินและรับผิดชอบการโอนส่งมอบที่ดินและแคชเชียร์เช็ค รวมถึงการขออนุญาตท้องถิ่นปลูกสร้าง พึ่งทำงานใหญ่สำเร็จมา ค่าตอบแทนงามจึงจะชวนมือกฎหมาย เจ้าหน้าที่นโยบายท้องถิ่นและครูโรงเรียนสังกัดท้องถิ่นที่เป็นเพื่อนเจ้าหน้าที่นโยบาย รวมเจ๊ด้วย 4 คนเป็นผู้หญิงทั้งหมดมาปาร์ตี้เล็กๆแบบเอ็กคลูซีฟปาร์ตี้ห้องหญิง แล้วให้แฟนน้องผู้หญิงเป็นเอน-เนอร์ ผมถามย้ำว่าพวกเขารู้ใช่ไหม? แฟนน้องเขาตอบว่ารู้ เขาเองก็ถามย้ำเพราะมีมือกฎหมายมาด้วยจากปาร์ตี้มันจะติดคุกเอา จากข้อหาอนาจารแต่ถ้าทุกคนยินยอม นิดหน่อยไม่เป็นไรเพราะมันเป็นปาร์ตี้ ได้รายละเอียดครบครับ แฟนน้องเขาฉลาดหรืออาจเพราะเอน-เนอร์ต้องไหวพริบดีและจำชื่อ รายละเอียดผู้คนได้แม่น

ก่อนวางสายน้องผู้หญิงขอคุยกับผม อยากให้ผมมางานด้วย เธอรู้สึกกลัว เธอบอกว่าปกติแขกที่จะมาพักจะกลัวเธอแต่คราวนี้เธอกลับกลัวแขก ผมบอกว่าคีย์หลักคืออย่าหลอกเขา อย่าทำอะไรที่เขาไม่เต็มใจ อย่าคิดเองเออเองว่าทำอย่างนี้เขาต้องชอบและสมมุติให้ทุกคนมีเครื่องหมายห้ามเอน-เนอร์แตะเนื้อต้องตัว ไล่งานเอ็นเตอร์เทนจากเบาก่อน ดูถ้าไม่ไหวก็เป็นปาร์ตี้สายฮาธรรมดา ถ้าเอนเตอร์เทนหนักแบบเอ็กคลูซีฟจะต้องสร้างเงื่อนไขให้เขามี "ทางเลือกเดียว" คือจบปาร์ตี้แล้วเงียบไว้เพราะถ้าเขาไปเล่าใครเขาจะเสียหายมากกว่าเรา เธอบอกว่าตรงนี้รู้แล้ว แต่ยังกลัวอยากให้ผมไปอยู่ด้วย พี่เคยสอนหนูว่าเมื่อเราจวนตัวจริงๆ เราแก้ปัญหาเองแล้วแต่แก้ไม่ได้ "อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ" ผมเพิ่งสอนเธอไป สอนจบผมถูกลองของทันที "ผมเหลือทางเลือกเดียว" เพราะถ้าเธอขอช่วยแล้วผมวางเฉย ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นผมคงต้องเสียใจไปอีกนาน แต่ถ้าเธอหลอกต้อนผมให้ไม่มีทางเลือกอื่นเหมือนที่ผมสอน เธอฉลาดที่จะเรียนรู้เร็วมาก

เอ็กคลูซีฟปาร์ตี้ คืออะไร อย่างไร? ผมเล่าต่อตอนหน้าครับ (ในวันอาทิตย์หน้า) ปกติผมจะเขียนบล้อกไม่ค่อยจบมันขึ้นอยู่กับอารมณ์แต่เรื่องนี้ผมตั้งใจเขียนให้จบ
--ไว้พบกันใหม่ครับ--
-ข้อความข้างต้นทั้งหมดมันเป็นนิยายที่ผู้เขียนจินตนาการขึ้น สถานที่ เรื่องราว ชื่อบุคคลใดๆทั้งหมดที่เกี่ยวข้องถูกสมมุติขึ้น หากคล้ายหรือพ้องกับผู้ใดผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาและไม่ได้หมายถึงผู้ใด-

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น