วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

 บนเส้นทางชีวิต ตอนที่4--after party--

 บนเส้นทางชีวิต ตอนที่4--after party--

ตื่นอีกทีเมื่อน้องผู้หญิงมาปลุก ปาร์ตี้เลิกแล้วเขาปิดไฟเหลือไม่กี่ดวง น้องเขาบอกให้ผมไปนอนห้องแอร์ชั้นล่าง ผมยังคาใจว่าเธอบอกกับเจ๊ว่าจองผมหรือ เธอบอกว่าไม่ได้บอกและคุยกับแฟนเธอเข้าใจแล้ว แฟนเขารู้นิสัยเจ๊ดี ผมบอกว่านอนบนนี้ก็ได้ไม่เป็นไร เธอบอกว่าลงมาเหอะ ผมเดินตามลงมาไม่คิดอะไรล่วงหน้าแล้วอะไรๆมันก็เปลี่ยนได้ทุกที ผมขอตัวเข้าห้องน้ำออกมาเธอยังยืนรอ ผมอดใจไม่ไหวจึงกอดเธอบอกเดี๋ยวให้กอดในห้อง เปิดประตูห้องเข้าไปห้องปิดไฟมืด ผมเห็นน้องกุ๊กไก่นั่งนุ่งผ้าขนหนูนั่งอยู่บนโซฟา เธอพาน้องกุ๊กไก่มานอนที่ห้องนี้ เธอเช็ดตัวน้องเขาสร่างเมาแล้ว กำลังนั่งดูกิจกรรมที่กำลังเกิดขึ้นในอีกห้องหนึ่งผ่านกระจก ผมเข้าไปดูใกล้ๆเห็นแสงจากอีกห้องสาดผ่านกระจกมาที่หน้าเธอ จำห้องเล็กที่ต่อจากห้องใหญ่ที่ผมบอกว่ามีเตียงคู่ 1เตียง มีโซฟาอยู่ปลายเตียงตั้งหันหน้าเข้ารูปที่ติดอยู่บนผนังได้มั้ยครับ ผมบอกว่าปลายเตียงมีรูปม้าวิ่งแขวนไว้ ใต้รูปมีกุญแจดอกเล็กๆล๊อคไว้ไม่ให้ปลดรูปออกได้ เธอไขกุญแจปลดรูปออก หลังกรอบรูปนั้นตรงกับกระจกที่อยู่ในห้องใหญ่ตามที่ผมเคยบอกว่า ผนังที่แบ่งห้องด้านในติดกระจกสลับกับปูนเป็นช่วงๆแบบในโรงแรมม่านรูด กระจกนั้นเป็นแบบแบบ One Way Mirror Film
ถ้าห้องเล็กมืดกว่าห้องใหญ่เมื่อปลดรูปที่ล๊อคกุญแจออกจะมันสามารถมองทะลุไปในห้องใหญ่ได้ เหมือนรถที่ติดฟิล์มทึบมองจาด้านนอกเข้าไปไม่เห็นนั่นแหละครับ

น้องผู้หญิงดันตัวผมไปนั่งบนโซฟาให้นั่งชิดกับตัวน้องกุ๊กไก่แล้วเธอนั่งขนาบผมไว้ ผมนั่งกลางระหว่างสองสาว ผมมองผ่านกระจกไปยังอีกห้อง เห็นกิจกรรมที่กำลังเกิดขึ้นในห้องใหญ่ หลังจากเลิกปาร์ตี้ข้างนอกเขาคงจะมาต่อกันที่ห้องนี้ ภาพที่ผมเห็นคือเจ๊กำลังเลสให้น้องพิม ส่วนน้องแว่นกำลังคลานท่าหมา มีน้องไพรปะกบหลัง น้องผู้ชายประกบหน้า เจ๊แกเลสได้เองบุคลิกจึงไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไป น้องกุ๊กไก่นั่งจ้องไม่วางตา สำหรับคนที่ไม่เคยเห็นหนังสดได้ดูสดว่าตื่นเต้นแล้ว ถ้าคนที่กำลังแสดงสดเป็นเพื่อนเรามันยิ่งตื่นเต้นขึ้นอีก ผมขอบรรยายเหตุการณ์ในห้องใหญ่แค่นี้ครับ

น้องผู้หญิงเริ่มรุกผม ผมก็ประกบปากแลกลิ้นมันนานแล้วไม่ได้เจอกัน ผมไม่หันไปทางน้องกุ๊กไก่เลย ต่อให้แก้ผ้าออกหมด สวยแค่ไหนแต่เจ๊แกชี้บอกว่ายกเว้นไว้แล้ว มันเหมือนอยู่ในน้องอยู่ในระดับ0คือเข้าร่วมอยู่ในเหตุการณ์ได้แต่แตะต้องตัวไม่ได้คนที่เป็นเอน-เนอร์จริงๆไม่มีคนไหนกล้าเสี่ยงหรอกครับ ยิ่งรุ่นใหญ่อย่างผมยิ่งต้องระวังแต่วันนี้ยอมรับว่าผมแพ้เกมส์ของเจ๊ เราอายุห่างกันไม่มาก กระดูกเบอร์เดียวกันผมโดนเจ๊โยนระเบิดใส่2ตู้มก็ตายครับ ถูกไล่ทางอ้อมออกนอกวงแล้วเจ๊ก็ยึดวงไป
(อย่าคิดว่าตัวเองแน่เพราะไม่ว่าวงการไหนจะต้องมีคนที่เก่งกว่า) ผมกับน้องผู้หญิงยังคงเล้าโลมกันข้างๆน้องกุ๊กไก่ เธอถอดกางเกงผมออกเหลือกางเกงบ็อคเซอร์ ผมนั่งบนโซฟาเธอคุกเข่าพอดึงบ็อคเซอร์ออกผมก็ไม่เหลืออะไร เธอก็ทำออรัล น้องกุ๊กไก่ขยับตัวออกหันมามอง พอมันได้ที่เธอก็ขึ้นคร่อมหน้าขา หันหน้าเข้าหากันแล้วโยก เธอโยกๆหยุดๆอยู่นานบนโซฟามันไม่ถนัดผมอุ้มแตงไปที่เตียง ผมเริ่มซุกไซ้ฟอนเฟ้นใหม่เธอบอกใจเย็นๆ ลุกขึ้นไปดึงมือน้องกุ๊กไก่มานอนบนเตียง ดึงผ้าขนหนูออกน้องกุ๊กไก่ก็ล่อนจ้อน เธอเอาหน้าฟอนเฟ้นปทุมถันน้องกุ๊กไก่แล้วจับมือผมไปกุมปทุมถันน้องกุ๊กไก่ ผมชักมือกลับถอยตัวออกห่าง เธอเอาผ้าขนหนูปิดปทุมถันน้องกุ๊กไก่ไว้

ผมคิดจะออกจากห้องเพราะมันถลำลึกแล้วเหมือนน้องผู้หญิงอ่านอาการผมออกจึงบอกว่าเธอคุยกับน้องกุ๊กไก่แล้วช่วงที่น้องเมาแล้วเธอประคองมานอน น้องเขาโอเคถ้าผู้ชายจากห้องใหญ่มาห้องนี้และเธอต้องอยู่กับเขาด้วยแต่น้องกุ๊กไก่ไม่ยอมไปที่ห้องใหญ่ แม้สาวๆเขาคุยกันมาในรถตอนเดินทางมาแล้วแต่อะไรก็เปลี่ยนอย่างที่ผมบอกว่าอย่าคาดเดาอะไรล่วงหน้า เราอย่าลืมอย่างหนึ่งนะครับว่าน้องผู้หญิงเขาเข้าใจในส่วนของ husband sharing เขามีกลุ่มและคุยกันจนมีสาวโสดบางคนขับรถมาพักกับที่โฮมสเตย์ได้ แล้วในสถานการณ์ที่เป็นใจแบบนี้ เธอคงคุยให้น้องกุ๊กไก่ลอง Free play นั่นแหละ

husband sharing มันไม่ใช่ "เธอเอาผัวฉันไปเลย" แต่มันอยู่บนพื้นฐานว่า "เรามาสนุกด้วยกันมั้ย" ส่วนมากภรรยาจะเข้าร่วมกับสามีด้วยเป็นทรีซั่มหรือโฟร์ซั่ม1-3 เป็นเซ็กส์ที่ผู้เข้าร่วมใหม่ถึงแม้รู้ว่าผู้ชายมีภรรยาแล้วแต่ก็ยินดีเข้าร่วมเพราะภรรยาเขาแบ่งปันให้ไม่ใช่แอบแซ่บ มันไม่ได้เกี่ยวกับหาผัวไม่ได้หงี่แล้วไปขอใช้ผัวชาวบ้าน ผู้หญิงที่เข้าร่วมด้วยเขาไม่ได้เป็นคนที่จะลดคุณค่าตัวเองขนาดนั้น เขามีตัวตนและเขายังต้องมีบทบทาทอื่นๆในสังคมเซ็กส์รูปแบบนี้บ้านเราน่าจะมีน้อยมาก สาเหตุเพราะผู้ชายมักจะไม่เข้าใจบทบาทตัวเองว่าเมื่อจบแล้วก็ต้องจบเลย แม้หญิงฝ่ายที่เข้าร่วมจะทอดสะพานสานต่อหรืออาจมาจากตัวผู้หญิงที่ก้าวข้ามความหึงหวงไม่พ้น รวมถึงเรื่องนี้มันปกปิดหรือทางกฎหมายอาจตีความว่ามีความผิดในข้อหาเป็นธุระจัดหา คนส่วนน้อยที่จะพบช่องทางการสื่อสารกันและกันได้

เธอไปปลุกผมจากที่นอนด้วยสาเหตุนี้ ไม่ใช่การจองไว้ตั้งแต่หัวค่ำดังคำเจ๊ เมื่อทุกอย่างเข้าใจตรงกัน มันจึงไม่ยากที่ทุกอย่าง "มันจะดำเนินต่อไป" ไม่ต้องบรรยายก็นึกออกว่าเกิดอะไรในห้องนี้ เวลาผ่านไปจนมันจบลงตรงที่ทุกคนถึงจุดหมายสมประสงค์ ส่วนอีกห้องยังไม่เลิก เขาสองคนจากเอน-เนอร์ กลายเป็นหมาบลูด็อกที่กัดแล้วเขี้ยวล๊อคถ้าไม่ฟัดเหยื่อจนขาดใจตายก็อ้าปากถอนเขี้ยวไม่ได้ ผมเห็นยังฟัดเหยื่อจนหัวเหวี่ยงหัวคลอนเหยื่อบางตัวก็โดนเขี้ยวสลบนิ่งไปแล้ว ก็ตอนแรกเหยื่อยังอยู่ข้างบน กดเอน-เนอร์ให้เป็น Under dog อยู่เลย คำว่า Under dog หมายถึงหมาตัวล่าง เรานึกถึงตอนหมากัดกัน หมาตัวที่นอนหงาย ม้วนหางจุกตูดแล้วมีหมาตัวบนแยกเขี้ยวคร่อมอยู่ ตัวที่คร่อมอยู่บนมักเป็นตัวชนะ ตัวล่างมักเป็นตัวแพ้แต่งานนี้ทำไมตัวบนจึงแพ้ ถูกฟัดเสียสลบเหมือดซะอย่างนั้น ผมย่องออกจากห้อง ปีนบันไดขาสั่นๆขึ้นไปนอนในเต็นส์หลังเดิม นึกในใจว่าเจ๊แน่ใจหรือว่าเป็นคนคุมเกมส์ หากเป็นคนคุมเกมส์จริงๆแล้วทำไมจึงปล่อยให้แมวหง่าวอย่างผมเข้าไปขโมยปลาย่างได้ --นอนครับพรุ่งนี้เขาจะออกไปเที่ยวข้างนอกกัน---

ในเวลาที่กำลังเขียนข้อความนี้ ผมไม่ตัดสินว่าน้องกุ๊กไก่ทำผิดหรือไม่ มันอยู่ที่มุมมองครับ บางคนอาจมองว่าพวกเรามันเลว มีวิธีแยบยล ผู้หญิงที่หลงเชื่อก็ตามไม่ทัน แต่เอาจริงๆแล้วเขาไม่ใช่ผู้เยาว์เขามีวุฒิภาวะและไม่ได้ถูกกระทำตอนไร้สติสัมปชัญญะ แม้ตอนน้องเปลีอยกายอีกคนจับมือของอีกคนไปจับปทุมถันเพราะคุยกันเข้าใจแล้วแต่อีกคนยังไม่รู้ ยังหดมือกลับเพราะคิดว่ากำลังล่วงละเมิดร่างกายเขาผมคิดว่าน้องกุ๊กไก่เธอมีสิทธิ์ในชีวิตและร่างกายของตัวเอง มีสิทธิ์เลือกว่าจะทำตามความต้องการตัวเองหรือเชื่อใครก็ไม่รู้ที่สอนต่อๆกันมาว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้  "ทั้งๆที่คนสอนบางครั้งทำในสิ่งที่ตัวเองสอนคนอื่นยังไม่ได้"

"น้องกุ๊กไก่" ในที่นี้ผมหมายถึงน้องที่ผมเจอและน้องคนอื่นที่เคยไปพักที่นั่นและผมไม่ได้เจอ พวกเขาต่างเป็นคนธรรมดา มีตัวตน มีหน้าที่ตำแหน่งการงาน เสียภาษีแต่พวกเขาเลือกที่จะทำตามความต้องการของตัวเองการตัดสินถูกผิดมันจึงไม่ใช่เรื่องของคนอื่น "ตัวเขาเองจะตัดสินว่ามันถูกหรือผิด" ใครไม่มีสิทธิ์ตัดสินใครในเรื่องส่วนตัวที่ไม่ได้กระทบคนอื่นให้เดือดร้อน บางคนอาจเถียงว่ามันสร้างความเสื่อมเสียต่อศีลธรรมบ้านเมือง บ้านเมืองเรามีศีลธรรมอันดี ผมขอถามว่าใครเป็นคนกำหนด ศีลธรรมและวัฒนธรรมคือสิ่งที่สังคมกำหนดซึ่งหมายถึงคนทั้งสังคมไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แล้วคนที่ถูกคิดว่าทำผิดศีลธรรมในสายตานักศีลธรรมมีจำนวนมากเท่าไหร่
มันน้อยนิดเมื่อเทียบกับทั้งคนหมด มันเหมือนผืนใหญ่สีขาวที่เปื้อนหมึกสีน้ำเงิน พวกนักศีลธรรมจะคิดว่าผ้าผืนนั้นมันสีขาวหรือสีน้ำเงิน? แล้วถ้าศีลธรรมถูกทำลายลงมันถูกทำลายลงทั้งหมดหรือมันแค่จุดเล็กๆจุดเดียว ถ้าตอบว่าผ้าสีขาวที่ถูกหมึกสีน้ำเงินกระเด็นใส่เป็นผ้าสีน้ำเงิน ยังั้นก่อนที่จะอ้างศีลธรรมช่วยกำจัดอคติและตัวตนอันเขื่องความดีในใจคุณออกเสียก่อนเถอะครับ ถ้าจะข่มคนที่ตัวเองคิดว่าไร้ศีลธรรม การคดโกงก็ผิดศีลธรรมแล้วทำไมยังยกมือไหว้ เพราะตัวเองได้ประโยชน์และสมประโยชน์กันใช่หรือไม่? --ตัวเองกำลังทำผิดศีลธรรมไหม?- บางครั้งกฎเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นก็เพื่อให้ตัวเองได้เปรียบและมันจะถูกยกเลิกทันทีที่ตัวเองเสียเปรียบจาการใช้กฎเกณฑ์นั้น

ผมพาผู้อ่านกลับมาที่โกดังนิรนามเล็กๆเหมือนจุดหมึกที่เปื้อนผ้าสีขาวอีกครั้ง เช้าวันต่อมาพวกเขาตื่นแต่เช้า จะไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยว2-3แห่งในจังหวัด ผมตื่นมาตอนพวกเขาแต่งตัวกันเสร็จแล้วเตรียมจะออกผมรู้ว่าพวกเขานอนกันไม่กี่ชั่วโมงหรอก แต่มันเป็นกลไกร่างกายถ้าไปในที่ใหม่ๆ มันตื่นได้มันจะบูสพลังออกมา หรืออาจเพราะร่างกายได้รับสารเอนดอร์ฟินและสารออกซิโทซิน (Oxytocin)เต็มเปี่ยมไปเมื่อคืนแม้หลับไม่กี่ชั่วโมงก็สดชื่นได้

ผมตื่นสายเพื่อให้ทุกคนรู้ว่าผมนอนในเต็นส์นะ (ผมนอนเต็นส์นะเจ๊ อิอิ)  ผมไม่ได้ไปกับพวกเขาหรอกตั้งใจว่าวันนี้จะถ่ายรูปทำรีวิว น้องผู้หญิงบอกผมว่ากาแฟกับขนมวางอยู่บนโต๊ะนะ เสียงเจ๊เรียกน้องกุ๊กไก่ถามว่าจะไปไหม ถ้าไปให้รีบๆ เธอเกาะติดน้องผู้หญิงแจ แล้วเขาทั้งหมดก็ออกเดินทาง เหลือผมอยู่โยงเฝ้าบ้านคนเดียว ผมเดินไปที่โต๊ะข้าวทุกอย่างถูกเก็บเรียบร้อย มีกาแฟวางไว้แก้วหนึ่ง ซดโฮกเดียวหมดไม่ละเลียดละ เดินเอาแก้วไปเก็บในครัว ได้ยินเสียงน้ำฟี้ๆด้วยความสงสัยจึงก้มไปดูเจอเครื่องล้างจานซ่อนอยู่ใต้ซิงค์ถ้าไม่สังเกตุก็มองไม่เห็น  เขาเก็บจานที่ใช้เมือคืนใส่เครื่องล้างอัตโนมัติ ชอบจริงๆคนรู้จักใช้ชีวิตนี่ งานบางอย่างมันใช้ให้เครื่องจักรทำแทนได้ แต่แก้วกาแฟผมนี่ผมล้างน้ำในอ่างล้างจานแล้วเอาไปคว่ำไว้ ผมใช้เครื่องล้างจานไม่เป็น บ้านผมไม่มี

ออกประตูหลังไปหยิบกล้องถ่ายรูปที่ห้อง2 ออกมาเดินถ่าย ถ่ายได้ไม่กี่จุดหรอกเพราะถ่ายได้เฉพาะด้านใน โซนรับแขก โซนจัดเลี้ยง ห้องพัก พื้นที่จอดรถ ประมาณนี้แหละ ริวดูภาพจากกล้องมันไม่เหมือนอยู่ในโกดังเพราะเป็นถ่ายเฉพาะจุดถ่ายมุมกว้างไม่ได้ ความรู้สึกมันเหมือนอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ผมเดินไปเปิดคอมกะจะเขียนรีวิวมันติดรหัสผ่านจึงโทรไปถามน้องผู้ชาย ผมย้ำว่ามีข้อมูลสำคัญความลับอะไรมั้ย น้องบอกไม่มีและให้รหัสมา ถ่ายรัวๆจึงต้องเลือกรูปตรงนี้สอนตัวเองหลายครั้งแต่ไม่เคยจำ ถ่ายเองเลือกเองจะถ่ายเผื่อทำไมมันเสียเวลาเลือก มันไม่ใช่งานสตรีทหรืออีเว้นท์ ผมเปิดม่านหลังคอมเห็นแปลงผัก ใกลๆมีคนสองคนกำลังตัดและขนไปใส่รถ แสดงว่ามีทางเข้าทางอื่นอีก มีอีกคนกำลังบังคับเรือพ่นน้ำ สูบน้ำจากคลองย่อยแล้วพ่นเป็นฝอยขึ้นฟ้าให้มันตกลงมาบนแปลงผักแบบฝนตก เขาคงจ้างคนงาน

เขียนรีวิวไปได้ครึ่งหนึ่งขอพักสักนิด ชั่งใจว่าจะเปิดดูไฟล์ในเครื่องเขามั้ย? -ตัดสินใจเปิด- ข้อมูลบัญชี แบบฟอร์มต่างๆ ดูผ่านๆไป มาสะดุดที่ไฟล์ภาพที่มองจากชื่อแต่ละรูปน่าจะเซฟจากสื่อโซเซียล มีรูปบุคคล รูปที่แคปหน้าจอตอนสนทนากัน เปิดไล่ๆดูไปจนหมดรูปเยอะอยู่เหมือนกัน ผมมองว่ารูปมันเชื่อมโยงกับบทสนทนาได้ ถึงแม้คอมจะใส่รหัสตอนเปิดแต่เอาจริงมันไม่ปลอดภัยหรอก จึงหยิบกระดาษมาเขียนโน๊ตบอกว่า "ให้ลบรูปทั้งหมดทิ้งไปหรือถ้าจำเป็นต้องเก็บพี่จะซื้อ SSD พร้อมสายพ่วง USB ส่งมาให้แล้วย้ายไฟล์พวกนี้ไปไว้ที่ SSDถอดแยกเก็บให้ดี จะใช้งานรูปเมื่อไหร่ก็เอามาเสียบ" อายุ SSD ประมาณ2-3ปี ทำแบคอัพไว้ ถ้ามันพังอย่าเอาไปซ่อม ให้ตัดใจทิ้งรูปทั้งหมด โดยการเอา SSD ไปกดน้ำฝังโคลน เมื่ออ่านจากบทสนทนาผมเข้าใจว่าน้องผู้ชายเก็บ Log เพื่อป้องกันการถูกกล่าวหาว่าล่อลวงเพื่อความปลอดภัย แต่มองอีกมุมหนึ่งมันอาจส่งผลเสียต่อคนในรูปได้ ถึงแม้ว่ารูปจะเซฟจากโซเชี่ยลที่เป็นรูปธรรมดาเจ้าของรูปโพสต์เองก็เถอะ ผมคลิกกลับไปดูรูปบางรูปและอ่านบทสนทนาแล้วเอามาเชื่อมโยงกัน "ผมขายกิจการทิ้งแล้วขอมาเป็นคนสวนที่นี่ได้หรือเปล่าครับ?" เอ็งเดินมาถูกทางแล้วไอ้ทิด

เกือบเที่ยงเสียงกริ่งหน้าโกดังดัง ผมออกไปดูฟู้ดเดลิเวอรี่มาส่งข้าว ไรเดอร์บอกว่าคนสั่งโอนเงินจ่ายแล้ว น้องผู้หญิงไม่ลืมที่จะดูเรื่องกินอยู่ของผม กินเสร็จก็มานั่งทำรีวิวต่อ จนเกือบมืดพวกเขาจึงกลับมา ผมสังเกตุว่าน้องพิมเดินเกาะแขนน้องไพรแสดงความเป็นเจ้าของ น้องกุ๊กไก่เดินตามหลังน้องผู้หญิง พวกเขาซื้อกับข้าวสำเร็จรูปกลับมาด้วย ผมช่วยขนไปวางบนโต๊ะ น้องผู้หญิงบอกทุกคนว่าไปพักอาบน้ำอาบท่ากันก่อน  2ทุ่มค่อยมากินข้าวด้วยกันมันจึงเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนหามุมเล่นโซเซี่ยลกัน นั่งพิมพ์นั่งไถเสียงเตือนดึ๋งดั๋งดังมาเป็นระยะ น้องผู้ชายเดินไปที่คอมหยิบโน๊ตอ่านแล้วหันมาพยักหน้ายกมือทำท่าโอเคกับผม

น้องพิมนุ่งผ้าถุงกระโจมอก บอกว่าจะไปเล่นน้ำแบบบ้านๆที่บันไดที่ยื่นลงไปในคูน้ำหน้าห้องสองที่ผมพัก ผมเห็นน้องไพรนุ่งกางเกงบ็อกเซอร์โชว์ซิกแพคหุ่นงามเอาผ้าขนหนูพาดบ่าเดินตามไปเงียบๆไม่บอกใคร ผมบอกน้องผู้ชายว่าผมจะเอากล้องถ่ายรูปไปเก็บและจะพักอาบน้ำเลย ใกล้ๆ2ทุ่มเดี๋ยวผมกลับมา

คูน้ำใหญ่เป็นคูหลักที่ใช้เก็บน้ำก่อนส่งไปตามคูแขนงเป็นน้ำเลี้ยงแปลงผัก นึกถึงสวนเกษตรที่มีสระเก็บน้ำครับ สระจะเป็นสีเหลี่ยมกว้างๆแต่ที่นี่เขาขุดทรงยาวแต่จุน้ำได้เท่ากัน ยาวกว่าสระว่ายน้ำตามคอนโดทั่วไปมากช่วงกลางคูน้ำมีบันไดลงไปในคูเหมือนบันไดสระว่ายน้ำแต่กว้างกว่า ผมมองผ่านหน้าต่างบานเกร็ดห้อง2ที่ผมพักเห็นหนุ่มไพร สาวพิมเขานั่งบนบันไดเคียงกัน สาวนุ่งกระโจมอกหนุ่มใส่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว หนุ่มไพรลงไปในคูว่ายน้ำไปไกลจากบันได ตะโกนบอกพิมให้ว่ายตามมา พิมน่าจะว่ายน้ำไม่เป็นเพราะเห็นหนุ่มไพรว่ายกลับมาแล้วประคองพิมหัดว่ายน้ำ แสงน้อยแล้วแต่พอเห็นได้ว่าหนุ่มไพรดึงมือพิมลงน้ำ พิมเกาะหมับเพราะกลัวจมน้ำ หนุ่มไพรประคองกลางตัวพิมสอนพิมให้หัดว่ายน้ำ

ผมคิดว่าสาวพิมปรับตัวเร็ว ชีวิตมือกฎหมายวันๆเจอแต่เรื่องราวความขัดแย้ง คนนั้นโกงคนนี้ คนโน้นตีกบาลคนนั้น ลักษณะงานมันไม่ได้มีความรื่นรมย์ในตัวงาน เพื่อนร่วมงานและคนที่เจอะเจอก็เคร่งเครียดเหมือนกัน มันไม่ได้เป็นหนุ่มหล่อเอาใจเก่งเหมือนตอนนี้ ก็มีเสียงวี้ดว้ายแบบผู้หญิงเมื่อโดนแกล้งจะให้จมน้ำ เธอเปลี่ยนไปจากพูดน้อย หน้าขรึมๆเหมือนตอนมาถึงที่นี่ใหม่ๆ พวกเขาเขายังเล่นน้ำกันอย่างสนุก ผมเปลี่ยนเสื้อเตรียมอาบน้ำแต่ยังมีเวลาจึงหยิบมือถือมาไถหน้าจอดูฟีดข่าวสารจากสื่อโซเชี่ยลคนเดียวเงียบๆ

ผมคิดว่าเซ็กส์มันใช้เชื่อมความสัมพันธ์ได้ เซ็กส์ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพศสัมพันธ์แต่หมายถึงความใกล้ชิดกัน การให้อีกฝ่ายตระกองกอดสัมผัสเนื้อตัว ไพรกับพิมรู้จักกันแล้วล่ะ เขาอาจสานต่อหลังจากกลับจากที่นี่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเหมือนที่ผมกับน้องผู้หญิงที่อยู่ในฐานะพี่กับน้อง ถึงแม้เธอจะมีสามีคู่ชีวิตแต่เราก็เซ็กส์กันได้ถ้าพอใจแต่ต้องดูสิ่งอื่นประกอบให้เหมาะสม ให้เกียรติกัน เหมือนน้องผู้ชายกับแฟนผมที่เมื่อก่อนตอนอยู่กรุงเทพ แฟนผมให้น้องผู้ชายไปเป็นเพื่อนขับรถให้เมื่อต้องติดต่องานต่างจังหวัดต่อกันหลายวัน ไปอยู่ด้วยกันอย่างนั้นถ้าจะมีเซ็กส์กันก็ไม่แปลก พอกลับมาถึงบ้านผมก็ยังเป็นสามีที่รู้สึกยังรักภรรยาเหมือนเดิม พิมเป็นมือกฎหมายหากวันใดวันหนึ่งไพรเกิดปัญหาที่ต้องใช้ความรู้ทางกฎหมายขึ้น ผมคิดว่าพิมคงไม่ลังเลที่จะช่วย ไม่ว่าเขาทั้งคู่จะสานต่อกันในรูปแบบไหนก็ตาม

ผมได้ยินเสียงเขาทั้งคู่เปิดประตูห้องที่3 ไม่รู้ว่าเขารู้ว่าผมยังอยู่ที่ห้อง2ติดกันหรือเปล่า ห้อง3คือห้องซักล้างและที่อาบน้ำเอ้าดอร์อย่างที่ผมบอกไว้ตอนแรกๆ ห้องมิดชิดแต่เอากระเบื้องบางสวนออกแล้วติดกระเบื้องโปร่งแสงแสงแดดส่องลงพื้นห้อง มีต้นไม้และห้องน้ำแบบเอ้าดอร์อยู่มุมหนึ่ง ผมทิ้งเวลาไว้ครู่หนึ่งแล้วเข้าไปในห้องน้ำอยากแอบดูเขานั่นแหละ พูดตรงๆไม่เหนียม ในห้องน้ำมีอิฐช่องลมแต่มีบังใบมองไม่เห็น เหมือนห้องน้ำทั่วไปครับที่มีช่องระบายอากาศแต่ข้างนอกมองข้างในไม่เห็น ส่วนข้างในก็มองออกมาข้างนอกไม่เห็น อิฐเขาทำบังใบกันฝนและกันสายตาไว้

จากภาพประดับห้องม้าวิ่งและOne Way Mirror Film เมื่อคืน ทำให้ผมคิดว่ามันน่าจะมองจากห้องน้ำห้อง2ไปที่ห้องน้ำแบบเอ้าดอร์ที่ห้อง3ได้ จึงมองหาสิ่งผิดปกติในห้องน้ำนี้ ใช้ปลายนิ้วเคาะกระเบื้องบุผนังทุกแผ่นหากมันเปิดได้เสียงมันจะหลวมโพรกเพราะไม่มีปูนอัดอยู่ข้างใน มันแน่นทุกแผ่นไม่มีแผ่นไหนเปิดได้ มาสะดุดตาที่ท่อPVC ที่ใช้แขวนผ้าเช็ดตัว มันไม่ได้เจาะแล้วขันนีอตยึดติดผนังแต่มันบิ้วอินเจาะฝังลงในผนังทุละปูนไปอีกด้านทั้งท่อนดูแล้วแข็งแรงไม่หลุดร่วง มีข้อต่อปิดปิดปลายท่อไว้ ท่อยื่นออกมาจากผนังเป็นที่แขวนผ้าเช็ดตัว ผมลองดึงฝาปิดปลายท่อออก มันแน่นดึงไม่ออกเหมือนเขาทากาวเชื่อมท่อปิดไว้จึงลองหมุนมันหมุนได้เหมือนตอนเราเปิดฝาขวดน้ำ ผมแนบตาส่องดูมันโป๊ะเชะ มุมมันตรงกับห้องน้ำเอ้าดอร์พอดี

ภาพที่เห็นคือทั้งคู่ตัวเปลีอยเปล่า น้องไพรยืนกอดน้องพิมจากด้านหลัง ด้านบนทั้งคู่มีฝักบัวแบบ rain shower สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ปล่อยน้ำลงมาเหมือนฝนตก ไพรสอดมือจากด้านหลังประสานมือไว้ใต้ปทุมถันปล่อยให้ปทุมถันงามงอนเป็นอิสระ พิมใช้มือสองข้างกุมมือไพรไว้ยืนนิ่งๆให้สายน้ำราดรดจากด้านบน เหมือนทั้งคู่กำลังแบ่งบันความสดชื่นให้กัน ผมเป็นคนชอบถ่ายภาพมองช๊อตนี้เป็น Sexart อย่างสวย สรีระที่กำยำของผู้ชายตระกองกอดผู้หญิงผมยาวลู่น้ำ รูปร่างค่อนข้างเฟอร์เฟ็ค มีจุดเด่นอยู่ที่หน้าอกใหญ่ มันสื่อถึงความสุขที่ทั้งคู่แบ่งปันให้กันและกัน

ผมมองเลยไปที่ห้อง4ในจุดเดียวกับห้อง2ที่ผมอยู่ เห็นมีท่อ PVC โผล่ออกมาเหมือนกัน ส่วนที่โผล่ออกจากผนังเขาใช้แขวนกระถางต้นเฟิร์นสไบนางประดับห้องน้ำแบบเอ้าดอร์กกใหญ่ ผมเอาฝาปิดปลายท่อ PVC ไว้เหมือนดิม ไม่ได้มองเขาทั้งสองต่อ เราสังเกตุว่าบ้านหลังนี้มันมองจากตรงจุดนั้นหาจุดนี้ได้ มันน่าจะเป็นพวกบ้านพวกโรคจิตแอบมอง แต่จริงแล้วมันทำขึ้นเพื่อรักษาความปลอดภัยที่เจ้าบ้านต้องดูแลผู้มาเข้าพัก ในโรงแรมรีสอร์ทต่างๆก็อาจมีเพียงแต่เขาไม่บอกและผู้ที่รู้จุดต่างๆที่มองได้มีความรับผิดชอบพอ ไม่ไปแอบมองมั่วซั่ว บางคนคิดว่ามันเป็นข้อแก้ตัวมันไม่สมเหตุสมผล แต่ถ้าเกิดกรณีทำร้ายร่างกายกันจนเสียชีวิตในรีสอร์ทหรือโรงแรมนั้นมันจะสร้างปัญหาให้เจ้าของรีสอร์ทเยอะมาก

เมื่อถึงเวลาสองทุ่ม  อาหารเย็นถูกจัดเป็นแบบบุฟเฟต์ดินเนอร์ อาหารช้อนจานวางบนโต๊ะ ใครจะกินอะไรก็ตักเอา น้องผู้หญิงเป็นแม่งานวันนี้พิเศษตรงที่มีน้องกุ๊กไก่เป็นผู้ช่วย ค่ำนี้ไม่มีค็อกเทล มีแต่ไวน์มะม่วงหาวมะนาวโห่ที่น้องผู้หญิงทำเองรสชาติอมเปรี้ยวอมหวานแบบไวน์เบอรี่ของฝรั่ง ผมแซวน้องผู้หญิงว่า "ว้าวันนี้ไม่มีเหล้าอยากเห็นคนเมาแล้วอ้วกอีก" เธอเอานิ้วชี้หน้าผมเชิงบอกว่าหยุดพูดเลยนะ น้องพิมกับน้องไพรถือไวน์ไปคนละแก้วเดินไปนั่งที่โซฟาโซนรับแขกหน้าทีวี นั่งชิดสนิทกันไถจอสมาร์ทโฟนคู่กัน ดูน้องพิมไม่ห่างออกจากน้องไพรเลย เจ๊กับน้องแว่นนั่งคุยกับน้องผู้ชาย ดูเหมือนเจ๊จะเล่าอะไรเกี่ยวกับน้องผู้ชายให้น้องแว่นฟัง หนุ่มคนนี้มีประสบการณ์ค่อนข้างโชกโชนอยู่ มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับตัวเขาได้เยอะ บรรยากาศมันไม่ใช่ปาร์ตี้สุดเหวี่ยงเหมือนเมื่อคืน

ผมมานั่งหน้าคอมเขียนรีวิวต่อ ทำไปสักพักน้องกุ๊กไก่เข้ามาดูแล้วถามว่าทำอะไร ผมตอบว่าทำรีวิวแล้วให้เธอลองอ่านดู เธอบอกว่าน่าจะแก้คำบางคำเพราะใช้แล้วมันสื่อได้ดีกว่าคำที่ผมใช้ เธอบอกว่าผมเรียงประโยคกลับหน้ากลับหลังเอากรรมมาเป็นประธาน (จ้าแม่คุณครู มันต้องดีกว่าอยู่แล้ว) ก็เลยให้เธอไล่ดูตั้งแต่ต้น น้องกุ๊กไก่บอกว่าผมถ่ายรูปสวย ถ่ายรูปให้เธอบ้าง ผมบอกว่าผมเป็นช่างภาพนะไม่เคยถ่ายให้ใครฟรีๆ มันต้องมีรางวัล ผมเว้นจังหวะนิดหนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า "แบบเมื่อคืน" เธอยกสองมือผลักไหล่ผม เราช่วยกันทำจนดึกมันน่าจะสมบูรณ์แล้ว น้องผู้หญิงเสร็จจากเก็บโต๊ะก็เข้ามาดู ผมคุยกรอบคร่าวๆว่าผมมีวิธีคิดอย่างไร มีมุมมองอย่างไรเมื่อเธอคุยกับแขกก็ต้องพูดชักนำให้เขาคิดและมองในมุมมองนั้น

จนหลังเที่ยงคืน น้องไพรกับน้องพิมหายไปตอนไหนไม่รู้ ที่นั่งที่โซฟาถูกแทนที่ด้วยน้องผู้ชาย น้องแว่นและเจ๊ที่นั่งคุยกัน ผมบอกทุกคนว่าขอตัวไปนอนก่อนแล้วเดินออกประตูหลังไปนอนที่ห้อง2 ห้องที่ผมเก็บเสื้อผ้าไว้ในวันแรกวันนี้ผมไม่นอนเต๊นส์นะ ก่อนเข้าห้องผมเดินเลยไปที่ห้อง4ห้องของน้องไพร ห้องล๊อคไฟปิดมืด ไม่มีรองเท้าหน้าห้อง ผมคิดว่าน้องไพรคงนอนที่ห้องเล็กที่ผมแอบลงไปนอนเมื่อคืน ตั้งหลังไม่นานก็หลับ

หลับไม่ลึก ตื่นขึ้นมาเพราะมีเสียงเคาะประตูเบาๆ เปิดออกมาเจอน้องผู้หญิงเธอบอกว่าเขาเข้านอนกันหมดแล้ว  น้องผู้ชาย น้องแว่นและเจ๊นอนห้องใหญ่ น้องพิมกับน้องไพรนอนห้องเล็กอย่างที่ผมคิดจริงๆเธอพาน้องกุ๊กไก่มานอนห้อง1 ที่เธอใช้นอนประจำทุกวัน วันนี่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอมาตามผมให้ย้ายห้อง กลายเป็นว่าคืนนี้น้องผู้หญิงทำให้น้องกุ๊กไก่ที่เป็นครูเปลี่ยนมาเป็นนักเรียน เธอสอนโน่นนี่ ส่วนผมถูกจับให้เป็นอาจารย์ใหญ่นอนนิ่งๆ เป็นหุ่นให้น้องผู้หญิงสอนภาคทษฎี จุดนั้นจุดนี้บนร่างการเหมือนนักศึกษาหมอเรียนผ่าตัด ด้วยหลักสูตรเร่งรัดพอเรียนทฤษฎีเสร็จก็สอบภาคปฎิบัติกันเลย เช้ามืดก็แอบกลับห้องตัวเองเหมือนเดิม

ชีวิตผมระลึกอยู่อย่างหนึ่งคือ "สิ่งที่เราไม่รู้ไม่ใช่ว่ามันไม่มี สิ่งต่างๆมันเกิดแล้วสลายตามสัจจะโดยที่มันไม่ได้สนใจว่าเราจะรับรู้การมีอยู่ของมันหรือไม่" บางอย่างมันเกิดและดับสลายไปโดยที่เราไม่รู้เลยว่ามันเคยมี ผมเลือกเชื่อสิ่งที่ผมรู้ใหม่ว่ามันจริงหรือไม่ โดยการพิจารณาจากปัจจัยสภาพแวดล้อม ความสมเหตุสมผลของการเกิดของสิ่งนั้นเพราะทุกอย่างเกิดจากเหตุ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเองลอยๆ

************

เช้าขึ้นมาเราตื่นกันแต่เช้า วันนี้เราจะไปสวนผลไม้ ผมเอากล้องถ่ายรูปไปด้วยกะจะถ่ายให้น้องกุ๊กไก่ตามที่เธอเมื่อคืน ขับรถกันออกมาไม่ไกลก็ถึง มีป้าญาติของน้องผู้หญิงรออยู่แล้ว สวนเนื้อที่ประมาณ5ไร่ปลูกทุกอย่าง เธอเล่าให้ทุกคนฟังว่าเป็นสวนเก่าสมัยแม่จึงมีต้นผลไม้ใหญ่ ตอนหลังเธอกับแฟนก็มาปลูกเพิ่มเติมเป็นสวนผสมผสาน เมื่อก่อนเธออาศัยอยู่ที่นี่ กินอยู่ไม่อดแต่ไม่มีเงินเรียน เพราะเมื่อก่อนมันห่างไกลแทบไม่มีใครเข้ามารับซื้อ

สวนผสมผสาน มีผลไม้หมุนเวียนกันให้เก็บติดท้ายรถกลับไปทั้งปีไม่ว่าแขกจะมาช่วงฤดูไหน ผมคิดว่ามันดีมากๆที่มีระดับของความต้องการของแขกที่มาพักเพราะบางคนออกมาต่างจังหวัดเพื่อการพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติ นุ่งผ้าถุงอาบน้ำคลองได้เข้าสวนปืนต้นไม้ทำในวิถีดั้งเดิมตอนเด็กๆของเขา มันเชื่อมโยงกับอดีตที่ให้ความรู้สึกที่ดี

"ชีวิตมันไม่มีอะไรมากหรอกถ้าเราไม่ไปยึดติดกฎเกณฑ์ที่ยุ่งยาก" บางครั้งกฎเกณฑ์ที่บอกกันว่าเพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคมมันกลับกดทับโอกาสของคนที่ด้อยกว่า การสลัดทิ้งในระดับที่ไม่เดือดร้อนใครมันจะทำให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้น พบเจอความสุขพื้นฐานอย่างเซ็กส์ที่ธรรมชาติให้มาได้ง่ายขึ้น เหมือนที่ผมกำลังถือกล้องยืนมองพวกเขาช่วยกันสอยผลไม้ตอนนี้ เสียงหัวเราะที่มาจากพวกเขามันบ่งบอกถึงความสุขใจ ความพึงพอใจ

เวลา 72ชั่วโมงที่ผ่านมา มันทำให้ผมได้รู้จักผู้คนเพิ่มขึ้นได้ทำได้เห็นอะไรมากขึ้น อีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็ลาจากกัน ยังไม่รู้เลยว่าเราจะได้พบเจอกันอีกหรือไม่ ที่ไหนอย่างไร มันเป็นเรื่องขออนาคตที่เราปล่อยให้อนาคตมันทำหน้าที่ของมัน เรากำหนดอนาคตไม่ได้ ถ้าทั้งหมดเป็นการแสดงตอนนี้ม่านเวทีก็คงจะเลื่อนลงปิดฉากช้าๆ นักแสดงทุกคนเดินออกมาหน้าเวทีแล้วโค้งคำนับแสดงความเคารพและขอบคุณผู้ชมทุกคน
 --สวัสดี--

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น