วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2564

หอมกลิ่นโลกีย์ ตอนที่ 10



          อนงค์ไม่อยากจะขัดใจอาแปะ เขาอยากจะนอนกับหล่อนที่บ้านทาวน์เฮ้าส์ ลูกเต้าอยู่ตั้งสองคน เขาก็ยังบอกไม่เป็นไรหรอกน่า
          “มันจะเป็นไรไป ลูกก็อยู่ส่วนลูก แม่ก็อยู่ส่วนแม่ คนละห้องกัน  ...ไม่ได้นอนห้องเดียวกันสักหน่อย”
          อนงค์ถอนหายใจยาว ส่ายหน้าระหว่างนั่งอยู่ในรถเก๋งของอาแปะ กําลังมุ่งหน้ากลับบ้าน หลังจากไปเที่ยวหาอาหารดีๆ ดื่มเบียร์กันมาแล้ว จนใบหน้าตึงๆ
          “รู้แหละว่านอนคนละห้อง แต่ที่บ้านอาแปะน่ะสะดวกกว่าเป็นไหน ๆ ไม่ต้องคอยระวังกลัวใครจะได้ยิน ห้องหับก็ดี ติดแอร์ ใครไม่ได้ยิน แต่ที่บ้านทาวน์เฮ้าส์ แปะก็รู้อยู่แล้วนี่ว่ามันเป็นยังไง”
          “ไม่เป็นไรหรอกน่า ทําเบาๆ นุ่มๆ อย่ากลัวโน่นกลัวนี่ไป พาเป็นกังวลเปล่าๆ เด็กๆ กําลังกินกําลังนอน ไม่มีมาได้ยินอะไรหรอก พอหัวถึงหมอนก็หลับอุตุ แล้วนี่ตอนนี้มันก็ดึกแล้วไม่ใช่หัวค่ำ เผลอไม่รู้กันเสียด้วยซ้ำว่าเรากลับถึงบ้านแล้ว จริงไหมล่ะ”
          อนงค์พยักหน้าช้าๆ จริงของอาแปะ ป่านนี้ลูกๆคงหลับกันหมดแล้ว แต่ขนาดยังไม่หลับ หล่อนกับอาแปะก็เคยเล่นสนุกกันมาแล้วจนเตียงแทบพัง เสียงดังสนั่นลั่นห้อง คงไม่เป็นไรหรอกน่า อย่างอาแปะว่านั่นแหละ เอาก็เอา ที่บ้านก็ดี เปลี่ยนบรรยากาศเสียบ้าง เพราะส่วนใหญ่ก็เล่นกันที่บ้านของอาแปะ

          จอดรถที่หน้าบ้าน แล้วพากันเข้าไป เด็กๆนอนกันแล้วจริงๆ อาบน้ำแล้วเข้าห้องนอน หัวเราะกันเบาๆ เพราะตอนอยู่ในห้องน้ำ อาแปะก็เกือบจะเปิดฉาก เนื่องด้วยเข้าไปอาบด้วยกัน
          คึกมาจากห้องน้ำแล้ว พอเข้าห้องนอน ก็ไม่รอช้ากันแต่อย่างใด อาแปะเป็นผู้เริ่มก่อน ด้วยการกอดจูบลูบไล้ไปทั่วเนื้อตัวของอนงค์ ทั้งที่ไฟก็ยังไม่ได้ปิด อนงค์ต้องบอกให้อาแปะปิดก่อน
          อาแปะกลับบอกว่า  “ปล่อยเอาไว้ยังงั้นแหละจ้ะ ปิดทําไม มืดมองไม่เห็นอะไรก็ไม่สนุกน่ะซี”
          “อายแสงไฟนี่จ๊ะแปะ”
          “ไม่ต้องอายหรอกจ้ะ ยิ่งสว่างยิ่งดี เห็นดีว่าอะไรมันอยู่ตรงไหน แทงถนัดดีนะจ๊ะ”
          “...พูดอะไร น่าเกลี๊ยดน่าเกลียด ทงแทง พูดยังงี้เดี๋ยวหยิกให้เนื้อหลุดเลย แปะเนี่ยะ เอาเสียดี ไหม”
          อนงค์ทําท่าจะหยอกด้วยการหยิกเนื้อตัวของอาแปะ เขาก็หลีกหลบ กอดข้างหลัง เบียดตัวเข้าหา มือกระตุกชายผ้าเช็ดตัวออก ผ้านั้นก็หลุดผัวะ สองเต้าอวบอร่ามสล้างอล่างฉ่างให้เห็น มือของอาแปะเร่งตระโบมนวดเคล้นทันท่วงที ทั้งบีบ ทั้งขยําจนอนงค์ส่งเสียงคราง

          “แปะ  ทําอะไรก็ไม่รู้ ไม่เอา”
          “เธอไม่เอา แต่แปะจะเอา”
          “บ้าแล้ว  แปะนี่  บ้าจัง อุ๊ย แปะ อย่าล้วงเข้าไป”
          อนงค์ดึงมืออาแปะที่ตะปบตรงเนินเนื้อ แต่อาแปะไม่ยอมถอนมือออก ยังคงดื้อดึงอยู่อย่างนั้น จนอนงค์เองก็สุดจะห้าม เพราะนิ้วของเขามันซนเหลือเกิน ชําแรกลงไปในกลีบเรียบร้อยแล้ว
          เสียงอาแปะพึมพำออกมาด้วยความงุ่นง่านว่า   “อูยย์  ฉ่ำไปหมดแล้วนี่จ๊ะ ยังมาห้ามกันอีก ยังงี้ห้ามยังไงก็ไม่ไหวแล้วจ้ะ ขอเลียหน่อยเถอะ ซู้ด อยากเลีย น้ำลายสอเลยจ้ะ”

          อาแปะขยับตัว หันเข้าหาหน้าขาที่มีโคกเนื้อนูนของอนงค์ สองมือแหวกหน้าขาของหล่อนออกจากกัน ก้มหน้าลง และเริ่มบรรเลงเรียวลิ้นที่แลบออกมาฉก  ...พอปลายลิ้นแตะต้องร่องเนื้อฉ่ำ โคกก็แอ่นกระเด้งขึ้นมา เหมือนดังว่ามันติดสปริงเอาไว้
          อนงค์ลืมตัวไปแล้ว ควานมือหาลําเนื้อของอาแปะ หล่อนอยากจะลิ้มลองรสชาติของมันบ้าง ปากอยู่ว่างๆ ลิ้นก็อยู่เฉยๆ มันอยู่ที่ไหนนะ อ้อ...อยู่นี่เอง
          อาแปะรู้ว่าอนงค์ต้องการอะไร จึงขยับตัวหันเข้าหา เพื่อที่ว่าหล่อนจะได้ดูดเลียของเขาอย่างถนัดถนี่

          อนงค์ซู้ดปาก แล้วเริ่มชิมรสไอติมแท่งโตของอาแปะ ก็เลยทําให้อาแปะต้องละลิ้นมาส่งเสียงซี้ดปากด้วยความมันส์
          หลังจากนั้นต่างก็ตอบสนองอารมณ์สวาทของกันและกันอย่างสุดเหวี่ยง กลับหัวกันอยู่อย่างนั้นตั้งนาน เหมือนตัวเลข 69 อย่างไงก็ยังงั้น ปากและลิ้นทําหน้าที่ไปอย่างสุดๆ เลือดลมฉีดซ่านกันทั้งสองคน ต่างงุ่นง่านกันหนักหน่วง หนักเข้าก็ทนไม่ไหว หันเข้าเล่นสวาทกันอย่างถึงพริกถึงขิง
          เมาเบียร์กันมาหน้าตึงๆ มันก็ด้านพอ สําหรับจะเล่นรักกันอย่างไม่กังวล ทีแรกอนงค์เกรงลูกสาวสองคนจะได้ยิน แต่ตอนนี้ก็ลืมไปเสียแล้ว ความง่านมันเข้าครอบงําจนหูอื้อตาลาย มีอารมณ์เท่าไรก็ปล่อยไปหมด สนุกเต็มๆ ไม่มีอะไร ในโลกนี้อีกแล้ว ที่จะสนุกเท่า
          อาแปะโรมรันพันตูอย่างเมามันส์ แทงสะบั้นหั่นแหลก สวบสาบ จนลํายาวใหญ่ของเขาเปียกลื่นชุ่มเยิ้ม ยิ่งเขากระแทกกระทั้นหนักมากเท่าไร อนงค์ก็ส่งเสียงครวญครางดังมากขึ้นเท่านั้น


          เสียงที่ดังมาจากห้องนอนของแม่ ทําให้หนึ่งนอนตัวเกร็ง แต่ใจนั้นเต้นโครมคราม เลือดอุ่นฉีดซ่าน เป็นเลือดสาวที่อยากรู้อยากลอง อยากรู้ว่าแท้จริงแล้วความสุขอย่างนั้นมันเป็นอย่างไร
          กลีบสาวชื้นฉ่ำ ขยับหน้าขาอย่างระมัดระวัง ไม่อยากให้นุชรู้ว่าหล่อนตื่น เพราะรู้สึกว่าน้องสาวก็ไม่ได้หลับเช่นกัน คงได้ยินเสียงนั้นแล้ว เสียงที่เร้าใจนัก มารดาของหล่อนนั่นแหละ ที่เปล่งเสียงอย่างลืมตัว
          หนึ่งนอนไม่ค่อยหลับเลย กว่าเสียงจากห้องแม่จะสงบ มันกินเวลาเนิ่นนานมาก มากเสียจนซอกขาของหล่อนฉ่ำเยิ้มเต็มไปด้วยเมือกน้ำลื่นๆ

          เช้าวันใหม่มาเยือน หนึ่งลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ ดูเหมือนน้ำยังไม่หายชื้นฉ่ำไปจากซอกหลืบ และความรู้สึกร้อนซ่านยังคงอยู่
          ...ไม่เป็นอันทํางาน คอยแต่จะคิด คิดแล้วก็มีอารมณ์ ความรู้สึกเหล่านั้นมันกระตุ้นให้มีความปรารถนา ตั้มก็มาชวนว่า เย็นๆไปหาอะไรกินกับเขา คําพูดของตั้มมีความหมายมากกว่านั้น ไม่ได้ไปกินอะไรกันธรรมดา เขาชอบพาหล่อนไปกอดจูบลูบล้วงอย่างลึกล้ำจนหล่อนเกือบจะทนทานต่ออารมณ์ตัวเองไม่ไหว
          “ไม่ไปได้หรือเปล่าจ๊ะ”
          หนึ่งถามทีเล่นทีจริง แฟนหนุ่มก็ยิ้มส่ายหน้า ใบหน้าหล่อๆของเขา มองเห็นก็รู้สึกรักใคร่และชวนให้ใจอ่อน
          “ไม่ไปไม่ได้หรอกจ้ะ ถ้าไปล่ะก้อได้”
          “ได้อะไรจ๊ะ”
          “ได้อะไรน่ะเหรอ เอ...จะตอบยังไงดี ไม่ตอบดีกว่า บอกใบ้ให้ว่ามีแต่ได้ก็แล้วกันจ้ะ ส่วนจะได้อะไรนั้น ไปแล้วรู้เอง”
          หนึ่งอยากบอกเขาว่า ไม่ไปก็รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่จะได้คืออะไร แล้ววันนี้รู้สึกว่าอยากได้ยังไงๆชอบกลอยู่
          “ตกลงนะจ๊ะ เดี๋ยวเลิกงานแล้วไปกัน”
          หนึ่งไม่ตอบ ได้แต่ยิ้ม ยิ้มนั้นเป็นคําตอบได้ดีกว่าคําพูด แฟนหนุ่มก็รู้ได้ว่าหล่อนไม่ขัดข้องแต่อย่างใดเลย ท่าทางหล่อนเต็มใจเสียด้วยซ้ำ แววตาของหล่อนในวันนี้มันแปลกพิลึก ตั้มคิดว่าเป็นอย่างนั้น แต่เขายังไม่เข้าใจนัก ว่าทําไมหล่อนจึงส่งสายตาเช่นนั้นมองหน้าเขา

          พองานเลิกเย็นวันนั้น ตั้มก็ขับรถพาหนึ่งไปนั่งทานอาหารกันที่ร้านซึ่งเขาพาหนึ่งไปหาอะไรกินกันบ่อยๆ มันอยู่ริมทางผ่านที่จะไปส่งหนึ่งกลับบ้าน
          เข้าไปข้างในเป็นห้องปรับอากาศ บรรยากาศสลัวมัวซัวดีจริง ตั้มชอบแบบนี้ เขาจะใช้มือให้เป็นประโยชน์ แถมที่นั่งเป็นเบาะนวมยาว พนักพิงสูงอยู่กันที่โต๊ะก็เหมือนอยู่ในโลกส่วนตัว
          ดูเหมือนว่าไม่มีใครสนใจใคร แต่ละคู่ก็อยู่กับคู่ของตน อยู่ในโลกส่วนตัวของตนเท่านั้น นั่งคุยกันกระจู๋กระจี๋มีความสุข ตั้มกับหนึ่งก็เช่นกัน ดื่มเบียร์ และมีกับแกล้ม
          “พี่ตั้มคงจะชอบที่นี่นะ”
          “ชอบที่สุดเลยจ้ะ”
          “ชอบมันตรงไหน”
          เขาหัวเราะหึๆ แล้วกวาดตามองทั่วๆ ตอบหนึ่งไปว่า เขาชอบที่มันมัวซัว และเหมือนกับเป็นอีกโลกหนึ่ง โลกที่มีแต่เขาและหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่นอกเหนือกว่านั้น เขาไม่ยอมบอก หากแต่เอื้อมมือไปลูบไล้ช่วงขาอันเพรียวงามของหนึ่ง ก็ทําให้หญิงสาวสั่นสะท้าน ใจเต้นระรัว เหลือบมองโต๊ะอื่น ปรากฏว่าไม่มีใครสนใจหล่อนกับตั้มเลย

          มือของเขาซุกซนขึ้นเป็นลําดับ และใบหน้าของหนึ่งก็ตึงเพราะฤทธิ์เบียร์มากขึ้นด้วย แต่มันก็ยังไม่ด้านเสียทีเดียว ยางอายยังมีอยู่ จึงปัดป้องผลักมือเขาออกบ้าง แต่แล้วมือนั้นก็รบกวนอีก
          “พี่ตั้มจ๊ะ ชอบจังเลยนะ ทํายังงี้น่ะ เมื่อไรจะเบื่อเสียทีก็ไม่รู้”
          “ไม่มีเบื่อหรอกจ้ะ อยากทํามากกว่านี้เสียอีก แต่หนึ่งไม่ยอมนี่จ๊ะ เมื่อไรหนึ่งจะยอมเสียทีล่ะ จะทรมานพี่ไปถึงไหน”
          หนึ่งไม่ตอบ ตอบไม่ได้ พูดไม่ออก เพราะตอนนี้ก็แทบว่าจะทนไม่ไหวแล้ว เมื่อคืนโดนกระตุ้นเร่งเร้าจากเสียงที่มารดากับอาแปะเล่นรักกัน มาตอนนี้ก็มาเจอตั้มปลุกเร้าเข้าอีก
          “ทําไมไม่ตอบพี่ล่ะจ๊ะหนึ่ง พี่รักหนึ่งมากนะจ๊ะ พี่อยากจะบอกว่าพี่รักหนึ่งมากแค่ไหน  นะจ๊ะ เป็นของพี่นะจ๊ะ เราออกจากร้านนี้เถอะ แล้วไปหาความสุขกันตามประสาอย่างที่ใจของเราต้องการ”
          หนึ่งไม่พูดอะไรเลย ใบหน้าของหล่อนแดงก่ำ เลือดลมฉีดแรง หัวใจเต้นแรงระทึกระรัว เรี่ยวแรงอ่อนล้า ไม่มีจะขัดขืน

          ตั้มเรียกพนักงานมาเก็บเงิน แล้วเขาก็พาหนึ่งออกจากห้องอาหาร ไปขึ้นรถของเขา โดยประคองหล่อนไป แม้ว่าหล่อนเมาเบียร์ไม่มาก แต่ทว่าหล่อนกําลังเมาอารมณ์อย่างหนัก ไม่ว่าเขาจะพาไปไหน หล่อนไม่มีเรี่ยวแรงจะห้ามปรามขัดขืนแล้ว
          ไม่นานนัก ก็เข้าไปนั่งกันอยู่ในรถ ตั้มไม่ปล่อยโอกาสทองให้ผ่านไปเลย ระหว่างนั่งมาในรถ มือของเขาก็ล้วงลึกเข้าไปในกระโปรงของหญิงสาว หน้าอกอวบก็โดนมือซุกซนของเขาล่วงละเมิด จนรถยนต์ส่ายไปส่ายมา แทบว่าจะชนกับคันอื่น เขาไม่รู้หรอกว่า เจ้าของรถที่เกือบชนกับเขา แช่งชักหักกระดูกเขาอย่างไรบ้าง
          ตอนนี้หน้ามืด ไม่สนอะไร เหลือบเห็นป้ายโรงแรมม่านรูดก็เลี้ยวเข้าไปเลย เข้าไปจอดแล้วมีเสียงรูดม่านดังกราวใหญ่

          เขาประคองหนึ่งเข้าห้องไป จ่ายเงินจ่ายทองแล้ว เขากับหล่อนก็เหมือนอยู่ในวิมานส่วนตัว หรือโลกส่วนตัว จะทําอะไรกัน ก็ไม่มีใครมองเห็น
          ทีแรกหนึ่งก็คิดว่ายอมเขาทุกอย่าง ไม่ว่าเขาจะทําอะไร แต่เมื่อเขาเข้ามากอดจูบ สัญชาตญาณความหวงตัวของหญิงสาวก็บังเกิดขึ้น เมื่อเขาล่วงเกิน ดิ้นรสผลักไส แต่ตั้มก็ไม่ฟังเสียง มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาเองก็หูอื้อ เหมือนคนใกล้คลั่ง คลั่งสวาท ไอ้นั่นของเขามันอยากจะมุดลงไปในร่องลึกอย่างเดียว มันกําลังเหมือนงูเห่า แผ่แม่เบี้ยโพนหัวขึ้นมาอย่างน่ากลัวนัก
          เขาถอดเสื้อกางเกง เอามันออกมา หนึ่งเหลือบไปเห็น หล่อนชะงัก มัวแต่ตะลึง ตั้มจึงเปลื้องเสื้อกระโปรงของหล่อนออกไป จนหล่อนเหลือแต่ชั้นใน ทีนี้ก็ไม่ยากแล้ว ตั้มบอกกับตัวเอง  เสื้อชั้นในหลุดไปก่อน สองเต้าอวบสล้างขาวอล่องฉ่องปรากฏตัวออกมา และเขาก็ก้มหน้าลงไปฟัดฟอนอย่างหิวกระหาย ทั้งดูด ทั้งเลียอย่างเมามันส์

          หนึ่งเสียวสยิวหน้าอกอวบของตัวเอง เขาเคล้นก็เลยแอ่นรับ เขาดูดเลีย ก็ส่ายนมไปมา มือของเขาอีกข้างเลื่อนไปลูบคลึงที่นูนสวรรค์ ล้วงเข้าไปในกางเกงในตัวสวย เนื้อผ้าบาง มีลูกไม้สวยงาม แต่สิ่งที่กางเกงในปกปิดเอาไว้ เบ้อเร่อเท่อ เลย ตั้มครางในลําคอ แล้วไล้เลีย เล้าโลมต่ำลงไปยังเนินใหญ่ กางเกงในตัวสวยโดนถอดออกรูดไปทางปลายเท้าของหญิงสาว

          กางเกงในหลุดไปแล้ว โคกสวรรค์ก็เปิดเผยตัวออกมาอย่างน่าตื่นตะลึง ตั้มเบิกตากว้าง แม่ม่ายที่เขาเคยร่วมอภิรมย์สมสู่ด้วยยังไม่ใหญ่เท่านี้ แม่เจ้าประคุณเอ๋ย ไปเอามาจากไหน ...จึงได้บานตะไทอย่างนี้หนอ
          นี่มันอะไรกัน  โอ๊วว์ ทนไม่ไหวแล้วละ เห็นยังงี้แล้ว ไม่เลียไม่ได้ ต้องเลียเสียแล้ว มันคันลิ้นอยู่ยิบๆ ไอ้นั่นของเขาก็อยากจะลงไปหยั่งดูความลึกตื้น แต่ยังก่อน ขอลิ้นก่อนเถอะตอนนี้ เดี๋ยวไอ้นั่นค่อยลงไป

          หนึ่งผวาเยือกไปทั้งร่าง เมื่อปลายลิ้นของตั้มแตะต้องสัมผัสแผล็บๆ หล่อนครางบิดตัวเกือบจะเป็นเกลียว ใบหน้าบิดเบ้ เสียงที่ร้องออกมาก็สั่นระรัว
          “โอ๊วว์  พี่ตั้มจ๋า ทําอะไรหนึ่งยังงั้น  พี่ตั้ม  ทําไมต้องทํายังงั้นด้วย...อย่าจ้ะ...พี่ตั้ม...อย่าจ้ะ... หนึ่ง  โอ๊วว์  หนึ่ง ไม่ไหว ฮื้อ! หนึ่งไม่ไหว”
          หล่อนทําท่าเหมือนจะขัดขืน อยากจะหนีให้พ้น แต่ปรากฏว่า ขัดขืนก็ไม่ได้ หนีก็ไม่ได้ ไปทางไหนเนื้อนูนที่ยกย้ายส่ายขึ้นมานั้น ก็กลายเป็นว่าไปรับเรียวลิ้นของตั้ม เขาจึงระรัวเลียอย่างไม่ยั้ง

          เขาเล่นชิวหาพาเพลินอย่างถึงพริกถึงขิง เขาทําให้หนึ่งครางอ๋อยๆไม่ขาดสาย เขาเลียไล้ไปทั้งเนื้อทั้งตัวทั่วถึงหมด ไม่ละเว้นตรงไหนเลย แต่ที่เขาชอบที่สุด มีอยู่สองช่วงคือช่วงบนและช่วงล่าง เนินใหญ่กับนมใหญ่นั่นแหละ เขาไม่ละ เว้นมันเลย แต่เขารู้สึกว่าตรงเนินใหญ่นั้น จะให้ผลทางด้านกระตุ้นอารมณ์ของหญิงสาวได้อย่างรุนแรง หล่อนง่านจัดครางไม่เป็นส่ำ บอกให้เขาทําอะไรเสียที อย่างนี้มันทรมานนัก
          “เร็วๆเข้าซีจ๊ะพี่ตั้ม เร็วๆเข้าจ้ะ หนึ่งกําลังจะขาดใจตายอยู่แล้ว อย่าช้าซีจ๊ะพี่ตั้ม  โอ๊ววว์ จะทําอะไรก็ทําให้มันเสร็จไปเลยพี่ตั้มจ๋า”
ตั้มเองก็ใช่ว่าจะไม่อยากทํา แต่เขาอยากปลุกเร้าให้หนึ่งมีอารมณ์อย่างเต็มที่เสียก่อน และตอนนี้ก็รู้สึกว่าหล่อนจะทนไม่ไหวแล้ว เขาเองก็ไล้เลียมานานพอดู จนเนินเนื้อของแฟนสาวฉ่ำไปหมดแล้ว

          ตั้มขยับตัว เขาเริ่มบุกรุกเข้าไปในกลีบอูมอิ่ม มันเผยอแย้มก็จริงแต่คับแคบเหลือเกิน ท่ามกลางเสียงร้องครวญครางของหนึ่ง เขาพยายามที่จะผ่านเข้าไป เล่นเอาหอบไปเหมือนกัน กว่าจะเข้าไปได้เพียงสองนิ้ว
          “พี่ตั้มจ๋า  โอ๊วว์  พี่ตั้ม หนึ่งเจ็บ  อู๊ยย์  หนึ่งเจ็บ”
          แต่บางครั้งหล่อนก็ซี้ด  ซี้ดนั้นหมายถึงเจ็บหรือเสียวกันแน่ ตั้มไม่เชื่อว่าหนึ่งจะเจ็บเพียงอย่างเดียว คงจะต้องมีเสียวซ่านผสมผสานกันบ้าง ไม่ยังงั้นคงไม่ซี้ดซ้าด
          ปิ่มว่าจะขาดใจ หนึ่งหลับตาปี๋ ไม่มองอะไรทั้งสิ้น ทั้งที่อยากจะมองดู ว่าของเขามันเข้าไปอย่างไร

          ตั้มพยายามอย่างหนัก เขาขะยิก กลัวว่าหนึ่งจะเจ็บ เขาสงสารหล่อนที่จะต้องเจ็บปวด เขาอยากให้หล่อนเสียวเพียงอย่างเดียว ตอนที่เขาได้เสียกับแม่ม่ายวนิดาคนนั้น มันไม่ยากเย็นอย่างนี้ นั่นก็เพราะม่ายผัวเผลอผ่านมาแล้ว มันไม่ เหมือนกัน หญิงสาวที่ยังไม่เคยผ่านมาเลยอย่างหนึ่ง มันก็ย่อมต้องขลุกขลักยากเย็นเป็นธรรมดา มันเป็นของที่ยังไม่ได้ใช้ก็ต้องคับแคบ แน่นกระชับ ส่วนของที่ใช้มาแล้ว ก็หย่อนคลายไปบ้างไม่มากก็น้อย

          อย่างไรก็ตาม ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสําเร็จก็อยู่ที่นั่น มันเข้าไปแล้ว แน่นเอี้ยดอยู่ที่ข้างใน ช่องแคบนั้นให้ความสุขแก่เขาอย่างเหลือล้น มันต่างจากช่องสวรรค์ของแม่ม่าย มันให้ความรู้สึกที่ดีกว่า
          แม้เข้าไปแล้ว ก็แทบว่าจะเคลื่อนไหวไม่ได้ ชักออกไม่ได้ มันรัดเอาไว้มันบีบกระชับไม่ยอมให้ขยับ แต่เขาก็พยายามเคลื่อนมันออกมา และทําได้เป็นผลสําเร็จ แล้วส่งกลับไปที่เดิมอย่างนุ่มนวล
          ...ทีแรกหนึ่งก็เจ็บน้ำตาซึม แต่ตอนนี้น้ำตาเหือดแห้งไป เหลือเอาไว้เพียงความเสียวสุข ที่ค่อยๆทยอยกันมาอย่างต่อเนื่อง

          ตั้มเคลื่อนไหวได้คล่องตัวขึ้น มันรัดรึงอย่างรุนแรง แน่นกระชับ กอดรัดลําเนื้อของเขาเอาไว้ไม่ยอมคลาย อีกทั้งรู้สึกว่าตอดกระตุบดุ๊บๆ ดั๊บๆ อีกด้วย
          ...ตั้มครางในลําคอ เขายังเคลื่อนตัวต่อไป ไม่ว่าหนึ่งจะร้องครวญครางอย่างไรก็ตาม แต่เขาก็ยังขยับบั้นเอว เพื่อความสุขของแฟนสาว และเพื่อความมันส์ของตัวเอง
          มันปักลึกเข้าไปถึงข้างใน ลึกล้ำเหลือเกิน เขาประทับใจที่สุด
          นานเหลือเกิน เขายังไม่เสร็จเสียที หนึ่งรู้สึกว่าตัวเองล่องลอยขึ้นสรวงสวรรค์ มันเป็นสวรรค์ของคนเป็น มันเป็นความสุขที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต อย่างนี้นี่เองมารดาของหล่อนจึงได้ส่งเสียงครวญครางออกมาอย่างลืมตัวลืมตน ไม่สนใจว่าใครจะได้ยินเสียงครางนั้นบ้าง ไม่สนใจว่าลูกสาวสองคนนอนอยู่ในห้องติดกัน และไม่มีออมเสียงเล่นแม้แต่น้อย
          หล่อนเสียวซ่านเกร็งหลายหน แล้วก็บิดตัว ใบหน้าเหยเกด้วยความสุขเสียวระคนกัน ความมันส์ผสมผสาน ความสุขสุดยอดมาเยือนนับครั้งไม่ถ้วน หล่อนเคยช่วยตัวเอง แต่ความสุขที่ได้รับ เทียบกับความสุขสุดยอดครั้งนี้ไม่ได้เลย

          อย่างนี้นี่เอง คนจึงได้ชอบทํากันนัก ถึงกับเล่นชู้ผิดผัวผิดเมียเลยทีเดียว ฆ่ากันตายอย่างโหดเหี้ยมก็เพราะเรื่องนี้!
                                               
                                            *****************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น