วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

หอมกลิ่นโลกีย์ ตอนที่ 5

 
 

          แล้วอาแปะก็มาจริงๆ กดกริ่งเรียกให้มะลิเปิดประตูรับ มันเป็นเวลาบ่าย แถวย่านบ้านนี้ก็เงียบเสียด้วย คนเขาไปทํางานกันหมด ตามธรรมดาแล้วหล่อนจะต้องเข็นรถไปขายส้มตําไก่ย่างที่หน้าถนนเมนต์ใหญ่ใกล้ตลาดสดของหมู่บ้าน และอาแปะก็เคยไปเก็บดอกที่นั่น แต่วันนี้หล่อนไม่ไปขาย อาแปะก็จึงตามมาถึงบ้านอย่างนี้แหละ
          หนีไปไหน ก็ไม่พ้นอาแปะหรอก มะลิบอกตัวเอง แล้วก็ออกไปเปิดประตูรั้วรับอาแปะเข้ามาในบ้าน อย่างไรก็ชวนเขาคุยก่อน เขาคงไม่ใจไม้ไส้ระกำอะไรนัก อาแปะเป็นคนพูดไม่ยาก
          มะลิปลอบใจตัวเอง พลางออกไปรับอาแปะเข้าบ้าน แต่ก็ไม่วายนึกถึงกิตติศัพท์ของอาแปะที่คนเขาร่ำลือกัน อีกทั้งสายตาของอาแปะที่เคยมองหล่อนอยู่ ก็บ่งบอกชัดแจ้งว่าอาแปะนั้น ...ปรารถนาอย่างเหลือเกิน ที่จะเอาหล่อนไปขัดดอก

          “อุ้ย...อาแปะ ทําไมเพิ่งมาล่ะจ๊ะ นึกว่าจะมาตอนสายเสียได้ มัวไปทําอะไรอยู่ หรือหาฉันไม่เจอ”
          อาแปะหน้าแดงจอดมอเตอร์ไซค์เอาไว้แล้วเข้ามาในบ้าน เขาส่ายหน้ายิ้มแย้มหัวเราะหึๆ ในลําคอ
          “ไม่ใช่ยังงั้น ไม่ใช่หาไม่เจอ ไปธุระมาน่ะ เมื่อกี้ไปที่ตลาด ไม่เจอเป็นอะไร ทําไมไม่ขายของล่ะ”
          “อ๋อ...ก็ไม่ได้เป็นอะไรหรอก  หยุดสักวัน อาแปะเข้ามานั่งในบ้านก่อน นั่งที่เก้าอี้นั่นแหละจ้ะ”
          มะลิเคลื่อนไหวเรือนร่างอวบอัดไปยังตู้เย็น ...เอาน้ำเย็นมาต้อนรับอาแปะ แล้วนั่งลงคุยกัน อย่างไรก็ตาม หล่อนยิ้มไว้ก่อน ตัวหล่อนเองก็ใช่ว่าจะกลัวอาแปะหนักหนาอะไร คิดว่าอาแปะเอายังไง ก็เอายังงั้นแหละ ผัวก็ไม่มา อยากๆ อยู่เหมือนกัน ลองกับอาแปะสักทีก็คงจะแก้อยากได้ไปหลายวัน

          “วันนี้ไม่ขาย แล้วจะเอาดอกที่ไหนมาส่งล่ะ ไม่มีใช่ไหมล่ะนี่”
          อาแปะมองไปทั่วร่าง จ้องหน้าอกหน้าใจที่อวบใหญ่อยู่ในเสื้อ ลดสายตาต่ำลงไปที่บริเวณหน้าขา หล่อนก็นุ่งกางเกงขาสั้น เป้ารัดรึงอยู่ สิ่งที่ซ่อนเอาไว้นูนใหญ่บ่งบอกความโคก หล่อนขยับตัว เมื่อโดนอาแปะจ้องตรงนั้น ก็ยิ่งทําให้อาแปะเบิกตากว้าง กลืนน้ำลาย

          ขาก็ขาวอวบดีจัง อาแปะคิดสักทีก็ดีน่ะซี หน้าอกหน้าใจเบ้อเร่อ เนื้อหนังมังสาเต่งตึงไปหมด ขาวผ่องน่าถอดเสื้อกางเกงออก แล้วเลียเสียให้ทั่ว โคกนั้นก็คงใหญ่ไม่น้อย คะเนดูมันเหมือนกับหลังเต่า อื้อฮือ...มันน่าเลียจริงเชียวสักที่ไม่ลืมพระคุณ จะเลียเสียให้มันส์ยกร่อง เต่าใหญ่ๆ เลียมันส์ดี ท่าทางสะอาด ไม่ใช่คนสกปรก อีกทั้งยังสาวอายุเพิ่งจะยี่สิบกว่าๆ แม่เจ้าประคุณเอ๋ย จะจับเล่นท่าเสียให้หุบขาไม่ลง

          “อาแปะจ๊ะ ดูพูดเข้าซี มาถึงก็พูดแต่เรื่องดอกนั่นแหละ คนอะไรก็ไม่รู้ หายใจเข้าเป็นดอก หายใจออกเป็นดอก”
          อาแปะหัวเราะ หน้าแดงก่ำ จมูกโตของเขาก็แดงไปด้วย ร่างใหญ่ขยับอยู่บนเก้าอี้ แล้วก็ยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย มองมะลิอย่างมี ความหมาย
          “ไม่พูดเรื่องดอก แล้วจะให้อั๊วพูดเรื่องอะไรล่ะ ความจริงก็ไม่อยากพูดหรอกเดี๋ยวเขาจะหาว่าหน้าเงิน ขนาดยังงี้มะลิยังว่าอั๊วเลย เออ... ไม่มีก็ไม่ได้ว่าอะไร วันนี้อั๊วก็ว่างๆ อยู่เหมือนกัน จะออกไปหาอะไรกินกันข้างนอกก็ได้นี่”

          มะลิรู้สึกเสียวซ่านเข้าไปถึงก้นบึงของช่องสวาท ทั้งสายตา ทั้งคําพูดของอาแปะทําให้หล่อนรู้แน่ชัดแล้ว อาแปะต้องการคิดดอกแบบพิเศษ อาแปะมีท่าทีที่ชัดเจนอย่างนี้ทําให้หล่อนรู้สึกว่าในหลืบลับเกิดความชื้นขึ้นมาทันที สรรพคุณของอาแปะที่เคยได้ยินมา ...ก็ทยอยกันเข้ามาสู่สมอง นึกเห็นภาพไปหมดว่าอาแปะจะทําอย่างไรกับหล่อน

          “อุ้ย...อาแปะจ๊ะ จะมาชวนฉันไปกินอะไรล่ะจ๊ะ”
          “กินอะไรก็ได้ที่มะลิอยากกิน ไม่ว่าเบียร์ ไม่ว่าเหล้า หรือจะกินอย่างอื่น ก็ไม่ว่ากันหรอก ขอเพียงกินกันแล้ว ก็ให้มันเมาไปเลย กินไม่เมา อย่าไปกินมัน เมาให้มันมันส์ไปเลยน่ะจ้ะ ตกลงไหม”
          มะลิหัวเราะคิกคัก ใบหน้าหล่อนแดง อาแปะเห็นแล้วท่าทางมะลิก็อยากจะไปกับเขาอยู่ไม่น้อย
          “ฉันไม่อยากทําให้อาแปะเดือดร้อนหรอกจ้ะ”
          “เดือดร้อนเรื่องอะไร พามะลิไปเลี้ยงสักมื้อจะเดือดร้อนอะไร ตรงกันข้ามจะทําให้อั๊วรู้สึกมีความสุขน่ะไม่ว่าที่ได้ไปกินอาหารกับสาวๆ สวยๆ อย่างมะลิ นี่รู้หรือเปล่า มะลิน่ะสวยกว่าใครๆ ในหมู่บ้านเลยนะ เท่าที่เคยเห็นมานี่ ไม่ได้พูดโกหก ไม่ได้แกล้งชมแต่พูดจริงๆ”

          มะลิค้อนขวับ ทิ้งจริตจะก้าน ดวงตาวาววาม เต็มไปด้วยความรู้สึกอันรุนแรง
          “จะสู้เจ๊นงค์เค้าได้หรือจ๊ะ เห็นแปะไม่ยอมห่างเค้าเลยนี่ ตามกันเป็นเงาตามตัว คนเขาลือกันไปทั้งหมู่บ้านแล้วจ้ะ ใครๆ เขาก็เห็นกันทั้งนั้น”
          อาแปะหัวเราะ เมื่อมะลิเอ่ยถึงอนงค์ แม่ม่ายผัวตาย โคกใหญ่เบ้อเร่อ แม่ของเด็กสาวสองคน หนึ่งกับนุช
          “คนเขาก็ชอบพูดกันยังงั้นแหละมะลิ มีปากก็พูดกันไป เรามาพูดเรื่องของเราสองคนดีกว่า ไปกินอะไรกันเถอะ เดี๋ยวอั๊วไปเอารถออกมารับมะลิที่หน้าบ้าน ตกลงไหมล่ะ ร้านอาหารแถวนี้ถมเถ อร่อยๆ ทั้งนั้นแหละ”

          มะลิไม่ตอบ แต่ยิ้มละไม บอกชัดว่าหล่อนนั้นยินดีไปกับอาแปะแล้ว แต่หล่อนก็ไม่วายเอ่ยขึ้นมาเหมือนกังวล
          “ฉันกลัวคนเขาพูดกันน่ะซีอาแปะ คนแถวนี้ปากอยู่ไม่สุขด้วย เรื่องของชาวบ้านชอบปากยื่นปากยาวกันนัก ถ้าคนเขาพูดกันแล้วไปเข้าหูแฟนฉันเข้า จะทํายังไงล่ะจ๊ะ ฉันไม่อยากให้เขาคิดมากคิดมายไป”
          “วันนี้มีคนอยู่ที่ไหน ไม่มีเลย อั๊วขับรถมา เห็นเงียบกันไปหมดทุกบ้าน”
          “เอางี้ดีกว่านะจ๊ะ แปะไปรอฉันอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน แถวๆสะพานลอยโน่นแล้วเดี๋ยวฉันไปเอง นั่งมอเตอร์ไซค์ไปสะดวกกว่า ไม่มีใครรู้ใครเห็นด้วย”
          “เออ...ดีเหมือนกัน ตกลง ตกลง”

          อาแปะออกจากบ้านไปแล้ว มะลิอาบน้ำแต่งตัว นุ่งกระโปรงสวมเสื้อผ้าสวย หล่อนสวยอยู่แล้ว สวมชุดไหนก็แลดูงามไปหมด อีกทั้งยังสาว แต่หล่อนก็ถามตัวเองอยู่หลายครั้ง ว่าจะสนุกกับอาแปะจริงๆ หรือ ก็ได้รับคําตอบว่า ก็อยากลองดูเหมือนกันเพราะห่างผัว อยากอยู่ทุกคืนเลย ได้ของอาแปะช่วยเกาแก้คัน ก็คงจะช่วยให้ดีขึ้น

          หล่อนออกจากบ้าน น้ำหอมส่งกลิ่น ไม่บอกก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าหล่อนเป็นแม่ค้าส้มตํา อาแปะเร็วจริง หล่อนเรียกมอเตอร์ไซค์ให้ไปส่งหน้าหมู่บ้าน ลงจากรถก็พบว่าอาแปะจอดรถคันงามรออยู่แล้ว หล่อนจ่ายค่ามอเตอร์ไซค์แล้วก็รีบเดินตรงไป อาแปะเปิดประตูรอ หล่อนเข้าไปนั่ง อาแปะเหลือบมองประตูรถที่ปิดสนิท แล้วก็ออกรถทันที

          “คงไม่มีใครสังเกตเห็นนะ
          “ใครเขาจะมาสนใจเรา ไม่มีหรอกอย่าคิดมากเลยมะลิ คนเราน่ะจริงๆ แล้วก็มัวแต่สนใจเรื่องของตัวเองมากกว่า”
          มะลิเหลือบมองอาแปะ เขาแต่งตัวธรรมดา แต่แลดูดี มีราศีเสี่ยให้เห็นเด่นชัด นาฬิกาข้อมือ สร้อยคอทองคําเส้นโตที่คอ แถมยังมีสร้อยเลสข้อมือทองคําเส้นเขื่องอีกด้วย แหวนวงเขื่องๆ นั่นก็เหมือนกัน ช่วยทําให้อาแปะดูมีสง่าราศีเสี่ย จับเด่นชัด

          อาแปะพามะลิเข้าร้านอาหาร ย่านถนนรัตนาธิเบศร์ บ่อยเห็นก็จําได้รีบเข้ามาต้อนรับ โค้งให้อย่างนอบน้อม แต่ไม่วายเหลือบมองผู้หญิงที่อาแปะพาไปด้วย อาแปะคนนี้ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า มาแต่ละคนล้วนแต่รูปร่างหน้าตาใช้ได้ มีทั้งสาวน้อยและสาวมาก คือเป็นสาวใหญ่

          มะลิอยากดื่มเบียร์ อาแปะก็สั่งมา เย็นเฉียบแทบเป็นวุ้น ดื่มเข้าไปมะลิรู้สึกสดชื่นขึ้นทันที ความคิดกังวลเล็กๆ น้อยๆ ก็พลอยมลายไปด้วยเหลือเอาไว้แต่อารมณ์รื่นเริงและรื่นรมย์
          อาแปะคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ ล้วนแต่ชวนหัวเราะขําได้ทั้งนั้น แท้จริงแล้วอาแปะเป็นคนคุยสนุก สอดแทรกเรื่องทะลึ่งๆ เอาไว้ไม่ขาด ทําให้มะลิร้อนซู่ซ่าไปด้วย พูดไปพูดมาก็มักไม่พ้นเรื่องบนเตียง
          อาแปะมองดูก็รู้ว่ามะลินั้นมึนเมาแล้ว เมาทั้งเบียร์ และเมาทั้งอารมณ์ เขารู้ดีว่าผัวของหล่อนไม่ค่อยมาหา นานๆ จะโผล่มาสักที อย่างนี้แน่นอน ต้องเหงาเปล่าเปลี่ยวใจ เขาจึงแกล้งเอื้อมมือไปกุมมือของหล่อนไว้ ทีแรกหล่อนจะชักกลับเหมือนกัน แต่พออาแปะบีบมือของหล่อน หล่อนก็ยิ้มสบตากับอาแปะ อย่างมีความหมาย

          นั่งอยู่ที่ร้านอยู่หลายชั่วโมง มะลิมึนเมา ครองสติแทบไม่อยู่ แต่หล่อนก็รู้ตอนอาแปะประคองขึ้นรถ ขับออกจากร้านอาหาร ...ครู่หนึ่งก็เลี้ยวเข้าโรงแรม หล่อนหลับตาเสีย ปล่อยให้อาแปะพาไป
          อาแปะจอดรถ ประคองลง แล้วพาหล่อนเข้าไปในห้องที่เย็นฉ่ำ หล่อนเอนร่างนอนบนเตียง ทําเป็นไม่ได้สติ แท้จริงแล้ว หล่อนรู้ว่าอา แปะจะทําอะไร
          เขาเข้ามาหา กอดจูบลูบไล้ อย่างไรเสียก่อนได้สนุกกัน ก็ต้องให้มันมีผลประโยชน์คุ้มค่า หล่อนจะต้องทําอะไรสักอย่าง เรื่องหนี้สินทั้งปวงนั้น แม้มันเพียงห้าพันบาท แต่เรื่องอะไรจะให้มันผูกพันต่อไป
          “แปะจะทําอะไรนี่ ไม่เอานะแปะ ไม่เอานะ”
          หล่อนปัดป้องผลักไส อาแปะก็ระดมจูบไม่เลือกที่ ไม่ว่าตรงไหนอาแปะก็ไซ้จมูกไปทั่ว
          “แปะจะทําอะไรไม่ได้นะ ฉันเป็นผู้หญิงมีผัวแล้ว”
          “ไม่ถือหรอกจ้ะ”
          เสียงอาแปะบอกความหื่นที่มีอยู่เปี่ยมล้น มือไม้ของเขาไล้ไปทั่ว มือที่ร้อนผะผ่าวละลูบไปตรงไหนก็รู้สึกเหมือนปลุกอารมณ์สวาทให้ตื่นตรงนั้น
          มะลิรู้ว่าอาแปะกําลังอยากมากจึงพูดกับเขาเรื่องหนี้สิน อาแปะก็บอกว่าเอาไว้พูดกันทีหลัง หล่อนก็บอกว่าไม่ได้หรอก พูดกันทีหลังได้ยังไง ต้องพูดกันก่อน
          “ถ้าอาแปะลืมมันเสียทั้งหมด ฉันก็ยอมแปะทุกอย่างนั่นแหละ แต่ถ้าแปะไม่โอเค ก็พาฉันกลับออกไป เถอะ”
          อาแปะรู้ว่ามะลิมีสิทธิ์ต่อรอง เพราะหล่อนยังสาวยังสวย ถึงมีสามีแล้วแต่ก็ยังดีกว่าผู้หญิงหลายต่อหลายคนที่เขาเคยพามาขัดดอก ...ความอวบอิ่ม ความสาวสด มีมากกว่าใครๆ แต่ห้าพันบาทมันออกจะแพงไปหน่อย ต้องต่อรองกัน

          “ห้าพันมันมากไปนะมะลิ”
          “ไม่รู้ละ อาแปะก็ทั้งกอดทั้งจูบฉันหมดแล้ว นี่ก็คือว่าเป็นค่าดอก ถ้าไม่ยังงั้นฉันก็ไม่ยอม”
          อาแปะอยากจนหน้ามืด เขาถลกเลิกชายกระโปรงขึ้น ก็เห็นขาอ่อนอวบขาวเห็นเนินโคกอยู่หน่อยๆ ฝ่ามือจึงตะปบลงไปตรงนั้นก็ทําให้เขาเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อ ทําไมมันนูนใหญ่อย่างนี้ นมก็อวบนุ่ม อย่างนี้ห้าพันก็ห้าพัน

          “ตกลง อั๊วตกลง” อาแปะละล่ำละลักออกไป
          เขาเองก็ผ่านผู้หญิงมาไม่ใช่น้อย แต่ไม่เคยเจอที่นูนใหญ่อย่างนี้ ห้าพันไม่แพง เขาไม่ใช่พวกนกกระจอก แป๊บเดียวจอด เขาเล่นจนคุ้มนั่นแหละ และไม่ใช่ครั้งเดียวอย่างน้อยก็ต้องสามยก ถ้าเด็ดสะระตี่ก็จะถึงสี่และห้าได้โดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น
          แม้อายุของเขาจะมาก แต่พลังมีอยู่เหลือเฟือเหมือนกับว่าวันๆ เขาไม่ได้คิดเรื่องอะไร นอกจากเรื่องเก็บดอก และเรื่องหักดอกกันแบบนี้

          ...เมื่ออาแปะตกลง มะลิก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับลีลารักของอาแปะสมดังคําเล่าลือจริงๆ มะลิได้รับรู้อยู่ตลอดเวลา แม้ว่าหล่อนจะหลับตาก็ตาม เสื้อกระโปรงถอดออกไปแล้ว เนื้อตัวเปลือยเปล่า อาแปะไล้เลียทั่วถึงไม่ละเว้นตรงไหนเอาไว้เลย หล่อนได้พบกับความสุข แค่การเล้าโลมอย่างถึงพริกถึงขิงของอาแปะก็คุ้มค่าแล้ว ทําให้หล่อน นึกสาปแช่งผัวอยู่ไม่ขาด ทําอะไรไม่ได้ครึ่งของอาแปะเลย น่าจะตายโหงตายห่าไปได้แล้ว

          ดีแล้วที่หายเงียบไป มาก็ไม่มีความหมาย อาแปะนี่ต่างหากที่สุดยอดของผู้ชาย หล่อนจึงได้นอนแอ่นร่อนให้อาแปะเลียโคกเนื้อ แอ่นและกระเด้งขึ้นไปโคกเนื้อก็จึงอัดกับปากจมูกของอาแปะเข้าเต็มๆ แต่อาแปะก็ไม่ระย่อท้อถอย ยังคงสะบัดเรียวลิ้นอย่างชํานาญสืบต่อไป

          เลียใครก็ไม่มันส์เท่าเลียโคกเนื้อ นูนใหญ่อล่างฉ่างของสาววัยยี่สิบกว่าๆ แม่ค้าส้มตำคนนี้ ครกเนื้อของหล่อนมันน่าเอาสากใหญ่หัวแดงของเขาทิ่มตําลงไปจริง อย่างนี้กระแทกเข้าไปทีเดียวรับรองว่าสะใจที่สุด ดันเข้าไปให้ลึกล้ำ แล้วคว้าน อู๊ยย์ สะเด็ดยาดไปเลย

          อาแปะคิดอย่างงุ่นง่าน แต่เขาก็ไม่ผลีผลาม อย่างไรเสีย ต้องเลียให้สะอกสะใจก่อนต้องเลียให้หล่อนง่านจัด ง่านจนทนไม่ไหว จนร้องออกมาให้เอาสากตําลงในครกนั่นแหละจึงจะลงมือ

          เขาถอดเสื้อผ้าไม่เหลือแล้ว มะลิปรือตาขึ้นมามอง เพราะอยากรู้ว่าสากเนื้อของอาแปะจะมีขนาดเท่าใด
          หล่อนเห็นเข้าก็เลยลืมตาโพลง โอ๊ย...นั่นมันของคนหรือ ทําไมมันยาวใหญ่อย่างนั้น ที่เขาลือกันว่าของอาแปะทั้งยาวทั้งใหญ่ หล่อนยังนึกไม่ถึงว่ามันจะใหญ่ยาวขนาดนี้ นึกว่าก็แค่ใหญ่ธรรมดา มันเกินกว่าคําร่ำลือไปเสียอีก อย่างนี้จะรับไหวหรือนี่ โอย....สงสัยจะฉีกแน่เลย

          “แปะจ๋า นั่นอะไรจ๊ะ ทําไมมันน่ากลัว ฉันรับไม่ไหวหรอก พอเถอะแปะ พอแล้ว ฉันกลัว”
          มะลิละล่ำละลักออกไป อาแปะยิ้ม ภูมิใจในเครื่องเคราของตัวเอง ปลอบไม่ให้หญิงสาวตระหนก
          “ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ มันก็ขนาดธรรมดาๆ เท่านั้น ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เดี๋ยวเข้าไปแล้ว ก็สนุกไปเอง”
          “ไม่เอา....สากแปะมันยาวใหญ่น่ากลัวมากๆ ฉันกลัวจ้ะ ฉันกลัว เกิดมาไม่เคยเจอะเคยเจอยาวๆ ใหญ่ๆ ยังงี้มาก่อน แปะจ๋าสงสารฉันเถอะจ้ะ”
          “ของแฟนไม่ยาวใหญ่ยังงี้หรอกหรือมะลิ”
          “ของเขาเหรอ ไม่ได้ครึ่งของแปะหรอก ของแปะนี่แหละมันยังกับไม่ใช่ของคน มันเหมือนของม้ามากกว่า ฉันเคยเห็นของม้ามาแล้ว มันน่ากลัวที่สุด เหมือนกับของแปะนี่แหละจ้ะ”
          อาแปะก็ปลอบ ไม่ให้มะลิหวั่นเกรงมากไป ไม่ว่าเล็กว่าใหญ่ก็เข้าได้หมด เข้าไปแล้วก็มีแต่เสียว สนุกทั้งนั้น ไม่ทําให้เจ็บปวดอะไรหรอก
          “แต่ฉันกลัวนี่จ๊ะ”
          มะลิรู้สึกกลัวจริงๆ ไม่ได้เสแสร้งแกล้งกลัว ถึงหล่อนจะมีผัวแล้วแต่ของผัวไม่ใช่อย่างนี้ ของอาแปะมันน่ากลัว มันเป็นของม้า อาแปะ ไปขโมยของม้ามาใช้ หล่อนไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยแล้ว แม้ว่าจะง่านสุดง่านก็ตาม แต่กลัวฉีก มันไม่คุ้มกัน เดี๋ยวผัวกลับมาก็จะถามว่าเป็นอะไรไป ทําไมมันหลวมนัก
          ใช่แล้ว โดนของอาแปะเข้าไป คนที่มาใส่ตามหลัง ก็เชื่อได้เลยว่าต้องเวิ้งว้าง ก็จะมีใครยาวใหญ่เท่าของอาแปะอีกเล่า

          อาแปะนึกขําอยู่ในใจ ขนาดเมาหน้าแดงก่ำแล้วมะลิยังกลัว เขาอยากบอกให้หล่อนเข้าใจหายกลัว แต่หล่อนก็ไม่ยอมฟัง
          “เอายังงี้ก็ได้มะลิ กลัวก็ใส่แค่หน่อยเดียวนะ ไม่ใช่ใส่ไปทั้งหมดหรอก แค่จุ่มๆ เข้าไปหน่อยเดียว”
          “แล้วแปะจะเสร็จหรือ แค่จุ่มๆ น่ะ  แต่แค่หัวแดงของมันนั่น ฉันก็กลัวแล้ว ดูซีแปะ บานทะโร่เหมือนกับดอกเห็ด”
          “เอ้อ...ไม่เป็นไร เอาแค่ถูๆ ก็ได้ ไม่ใส่ก็ได้ กลัวเจ็บก็จะไม่ใส่ แค่ถูไถเท่านั้น ไม่ต้องกลัวหรอก ไม่ทําให้เจ็บเป็นอันขาด”
          อาแปะโอ้โลมปฏิโลมพักใหญ่มะลิก็ยอมให้ถูไถได้ภายนอก ห้ามสอดใส่เข้าไปภายใน แต่จุ่มนิดไม่เป็นไรอนุญาต
          อาแปะยิ้มซ่อนเร้นในหน้า แล้วเขาก็เล้าโลมต่อไป สองเต้านั้นดูดเลียมันส์ปากมันลิ้นมาก เขาเลียเสียทั่ว ...ดูดเสียหัวนมแทบหลุด มะลิเสียวซ่านไปหมด ระหว่างดูดสองเต้า แล้วไล้เลียปลุกอารมณ์ไปทั่วเรือนร่างผุดผาดของมะลิ มือของเขาก็ไล้ลูบไปทั่วสรรพางค์ อีกทั้งเคล้าคลึงที่นูนโคกไปด้วย

          อาแปะเล้าโลมทั่วแล้วก็วกกลับที่โคกเนื้ออีกครั้ง ไล้เลียจนฉ่ำ กลีบอ้าซ่าอย่างนี้ ของเขาเข้าไปทั้งลําสบายมาก แต่มันอาจจะคับหน่อย แต่เขาก็ชอบคับๆ หลวมๆ ไม่ค่อยสนุกหรอก
เขาขยับตัว หลังจากเลียจนเมื่อยลิ้น ปากจมูกเลอะเปื้อนน้ำเยิ้มไปหมด เขาเอาหลังมือเช็ด จากนั้นก็ประคองขณะคุกเข่า ลําเนื้อยาวเหมือนสากอยู่ในมือ เริ่มใช้ส่วนหัวที่แดงก่ำ เถือกไถไปมากับร่องสาวฉ่ำของมะลิ
          “อู๊ยย์ แปะจ๋า” เมื่อมันโดนเอายอดติ่ง มะลิก็เปล่งเสียงออกมาอย่างลืมตัว  “โอยยย์ แปะ เสียวจ้ะ เสียวจ้ะ แปะทําอะไรน่ะ ผัวไม่เคยทําให้มั่งเลย แปะเข้าใจทํานะ ดีจัง อูยย์ ดีจัง เสียวดีจ้ะ แปะทําต่อไปนะจ๊ะ”
          ไม่ต้องบอก อาแปะก็ปฏิบัติอยู่แล้ว เขาไถหัวสากกับร่องสาวของมะลิ จนหล่อนแอ่นร่อนขึ้นมารับ ด้วยความง่านจัด ครู่หนึ่งก็เลยทําเป็นถลํา จุ่มหัวลงไปในร่องก็เรียกเสียงซี้ดซ้าดออกมาจากปากของมะลิได้อย่างระรัว หล่อนแอ่นกระเด้งขึ้น ส่วนหัวที่จุ่มเข้าไปหน่อยเดียวก็กลับลึกลงไปอีกตั้งสองนิ้ว ทําให้มะลิร้องลั่น ผวาสุดตัว
          “โอวว์...แปะ...เข้าไปแล้ว แปะ...เข้าไปแล้ว อย่า อูยย์ อย่า”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น