วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2561

บุพเพสันนิวาส ภาคพิสดาร ตอนที่ 14



ย้อนความกลับไปก่อนที่ขุนเรืองจะไปหาคุณหญิงนิ่มเพื่อเจรจาสู่ขอแม่หญิงจันทร์วาดแต่กลับเกิดเหตุไม่คาดฝันสักเล็กน้อย ในวันที่พ่อเดชกลับมาจากประเทศฝรั่งเศส ทุกคนในเรือนต่างมารอต้อนรับการกลับมาของเขากันพร้อมหน้าพร้อมตา ขาดก็แต่ท่านออกญาซึ่งนอนป่วยหนักไม่สามารถลุกออกมาจากหอนอนได้ ซึ่งเมื่อพ่อเดชทราบเรื่องจากคุณหญิงจำปา เขาก็รีบเข้าไปหาท่านออกญาพร้อมๆกับแม่การะเกดทันที
“พ่อเดช กลับมาแล้วกระนั้นหรือ ข้านึกว่าจะทนรอจนถึงวันที่เจ้ากลับมามิไหวเสียแล้ว”
ท่านออกญาเอ่ยทักลูกชายจบคำก็ไอโขลกๆอย่างหนัก ทั้งพ่อเดชและแม่การะเกดต่างก็รีบเข้าไปนั่งข้างๆเตียงท่านออกญาแลจับมือของเขาเอาไว้
“คุณพ่อขอรับ คุณพ่อจะต้องไม่เป็นกระไรขอรับ ประเดี๋ยวลูกจะไปขอยาจากพวกทหารที่มาจากฝรั่งเศสด้วยกัน คนพวกนี้มีหยูกยาที่ทันสมัยมากนัก อาจจะพอบรรเทาอาการของคุณพ่อให้ทุเลาลงได้”
“อย่าลำบากไปเลยพ่อเดช พ่อรู้ตัวเองดีว่าคงอยู่ได้อีกไม่นาน เจ้ากลับมาก็ดีแล้ว พ่อมีเรื่องที่ต้องสั่งเสียเจ้าไว้ก่อนที่พ่อจะต้องจากไป”
“คุณลุงเจ้าขา คุณอย่าเป็นอะไรนะเจ้าคะ คุณลุงแข็งแรงต้องหายแน่ๆนะเจ้าคะ”
ทั้งแม่การะเกดและพ่อเดชต่างพูดให้กำลังใจท่านออกญา แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าอาการของท่านนั้นหมอคนใดก็ไม่อาจจะรักษาเยียวยาได้อีก พ่อเดชมีสีหน้าเศร้าสลดอย่างเห็นได้ชัด ส่วนแม่การะเกดก็เริ่มสะอื้นไห้น้ำตาไหลอย่างสุดจะกลั้นแล้ว ท่านออกญาจึงเอ่ยปากเรียกแม่การะเกดเข้าไปสั่งเสีย โดยให้พ่อเดชออกไปรอข้างนอกก่อน พ่อเดชจึงถอยออกไปเงียบๆ ปล่อยให้แม่การะเกดได้คุยกับท่านออกญาตามลำพัง
“แม่การะเกด ก่อนที่ลุงจะตาย ลุงมีเรื่องอยากจะสารภาพกับหลาน และต้องขอโทษหลานเรื่องนึง”
ท่านออกญาพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาราวกับไร้สิ้นเรี่ยวแรงที่จะเอ่ยออกมา
“เรื่องอันใดเจ้าคะคุณลุง”
แม่การะเกดถามกลับ ใบหน้ามีคราบน้ำตาจนอาบไปทั้งสองแก้ม
“หลานจำวันที่เข้าไปอ่านหนังสือในหอหนังสือของลุงได้หรือเปล่า ลุงอยากจะขอโทษหลานเรื่องนี้แหละ วันนั้นด้วยความหลงผิดของลุง ลุงจึงล่อลวงหลานเข้าไปกระทำย่ำยี ฉุดพรากเอาความสาวไปจากตัวออเจ้า แลใช้อาคมปกปิดความชั่วร้ายของลุงเอาไว้ไม่ให้ออเจ้าจำสิ่งที่เกิดขึ้นวันนั้นได้ ลุงต้องขอโทษหลานจากใจจริงละนะ”
แม่การะเกดไม่ได้ตกใจกับความจริงจากปากของคุณลุงแต่อย่างใด นางยังคงกุมมือของคุณลุงเอาไว้และกล่าวกับคุณลุงด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือต่อไป
“ข้าจำได้เจ้าคะคุณลุง ข้าจำได้ทุกอย่างทุกการกระทำของคุณลุงในวันนั้น อาคมของคุณลุงไม่ได้ลบล้างความจำของข้าไปจนหมดหรอกเจ้าค่ะ แต่ข้าเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่ยอมบอกแก่ผู้ใด เพราะข้ารักและเคารพท่านจนเกินกว่าจะพูดจาให้ร้ายแก่ท่านได้ แม้ข้าจะต้องสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่ข้าก็ไม่เสียใจเลยเพราะว่าคนๆนั้นคือคุณลุงที่ให้ความเมตตากับข้ามาโดยตลอดยังไงละเจ้าคะ”
การะเกดพูดไปตามความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง อันที่จริงส่วนนึงที่ทำให้นางเลือกเก็บเงียบเอาไว้คงเป็นเพราะจิตใต้สำนึกของแม่การะเกดอีกคนที่ทำให้นางกลายเป็นคนแบบนี้ด้วยกระมัง แรงถวิลหากามราคะในจิตใจทำให้นางมีความสุขกับเรื่องอย่างว่าจนไม่อาจกล่าวโทษผู้ใดได้ เพราะนางเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายสมยอมเสียเอง
“ถ้าเช่นนั้น ลุงมีสิ่งสุดท้ายที่ลุงจะมอบให้กับหลาน อยู่ในกล่องบนหิ้งนั่นยังไงล่ะ ออเจ้าจงไปหยิบมาเถิด”
การะเกดเดินไปหยิบของที่คุณลุงบอก ข้างในกล่องมีถุงผ้าแพรสีขาวถุงหนึ่ง บรรจุสิ่งใดไม่รู้เอาไว้ข้างใน
“ลุงตรวจดวงชะตาของหลานเอาไว้ก่อนหน้านี้ หลานจะต้องเผชิญกับภัยร้ายครั้งใหญ่ในไม่ช้า ของสิ่งนี้จะช่วยให้หลานรอดพ้นจากภยันตรายที่จะเข้ามากล้ำกรายได้ เพียงแต่หากไม่ถึงคราวคับขันจริงๆ จงอย่าได้เปิดถุงออกดูเป็นอันขาด เข้าใจหรือไม่”
แม่การะเกดรับปากท่านออกญาแล้วเก็บถุงผ้านั้นติดตัวเป็นอย่างดี ก่อนที่ท่านออกญาจะเรียกพ่อเดชและคนอื่นๆเข้ามาสั่งเสียต่อทีละคน เมื่อครบแล้วท่านออกญาก็จากไปอย่างสงบท่ามกลางครอบครัวและบ่าวไพร่ในเรือนที่ร้องไห้เสียใจกันระงม
...
หลังจากงานศพของท่านออกญาผ่านพ้นไปแล้ว แม่การะเกดก็พาพ่อเดชไปพบแม่หญิงจันทร์วาด แม่หญิงจันทร์วาดเล่าให้นางฟังว่า ตั้งแต่ขุนเรืองเข้าไปพบคุณหญิงนิ่ม เขาก็ถูกแม่ของนางกักขังไว้แต่ในห้องไม่ยอมให้ออกมาพบเจอผู้ใดอีกนานนับเดือน จนวันหนึ่งที่คุณหญิงนิ่มเรียกให้นางไปพบในห้องที่ขังขุนเรืองเอาไว้ แล้วคุณหญิงนิ่มก็ได้บอกข่าวร้ายที่สุดในชีวิตของนางให้ฟัง
“แม่จันทร์วาด แม่ใคร่ครวญแล้วว่าแม่ไม่อาจรับขุนเรืองมาเป็นลูกเขยได้ดังที่เคยพูดไว้มาตลอด”
เพียงประโยคแรกก็ทำให้แม่จันทร์วาดถึงกับเสียใจจนน้ำตาไหลพราก แต่ประโยคที่ตามมายิ่งทำให้นางตกตะลึงยิ่งกว่า
“แต่แม่จะรับขุนเรืองมาเป็นผัวของแม่แทน และเขาจะได้เป็นพ่อเลี้ยงให้แก่เจ้าด้วย อีกทั้งเจ้ากำลังจะมีน้องอีกคนด้วยแล้วนะลูกเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเลย จริงมั้ยแม่จันทร์วาด”
แม่การะเกดฟังที่นางเล่าแล้ว แม้จะสงสารปนสมเพชขุนเรืองเพียงใดแต่ก็ไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีก จึงจำต้องปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้น
...
เรื่องของแม่หญิงจันทร์วาดผ่านไปได้ไม่นาน ก็มีเรื่องใหม่มาให้แม่การะเกดได้หนักใจเพิ่มขึ้นอีก เมื่อแม่มะลิหอบข้าวของหนีกลับมาอยู่กับพ่อที่ชุมชนโปรตุเกส สอบถามได้ความว่านางหนีกลับมาเพราะฟอลคอนสามีนางแอบไปมีอะไรกับคลาร่า ลูกเลี้ยงของแม่มะลิ จนนางทนรับไม่ได้จึงหนีมา แม่การะเกดจึงเดินทางไปหาแม่มะลิที่บ้านทันที
“แม่มะลิ เหตุใดออเจ้าจึงหุนหันพลันแล่นเช่นนี้ มีอะไรทำไมไม่คุยกันดีๆล่ะ คลาร่าเป็นลูกเลี้ยงของเจ้า หากเจ้าร่วมกับนางโล้สำเภากันสามคนแบบที่เจ้ากับข้าเคยทำ เจ้าจะได้ไม่ต้องผิดใจกับสามีของเจ้าไงล่ะแม่มะลิ”
แม่การะเกดเอ่ยถามอย่างสงสัย ว่าทำไมแม่มะลิต้องหึงหวงสามีขนาดนั้น เพราะนางควรจะรู้แก่ใจว่าสามีของนางเป็นคนเจ้าชู้เพียงใด
“มันมิใช่อย่างที่เจ้าคิดแม่การะเกด ข้ากลับมานี่เพราะมีเหตุผลอื่นแฝงอยู่ต่างหาก ข้าต้องการมาส่งข่าวให้ออเจ้ารู้ว่าสามีของข้ากำลังคิดการบางอย่างอยู่ ซึ่งมันคงจะร้ายแรงมาก เพราะเขากับนายพลเดส์ฟาร์จแอบมาปรึกษาหารือกันทุกวัน ข้าไม่รู้จะทำอย่างไรดีจึงถือโอกาสที่เขากับคลาร่าได้เสียกันมาเป็นข้ออ้างเพื่อลงมาอยุธยา และนำความนี้มาบอกกับออเจ้า”
“ถ้าเช่นนั้นข้าคงจะต้องไปสืบให้รู้ความให้แน่ชัดเสียก่อนจึงค่อยคิดการแก้ไขกันต่อไป”
แม่การะเกดจึงแสร้งทำเป็นพาตัวแม่มะลิมาคืนให้กับฟอลคอน แต่หลังจากพาแม่มะลิส่งขึ้นห้องแล้วนางก็ย้อนกลับมายืนแอบฟังที่นายพลเดส์ฟาร์จคุยกับฟอลคอนอยู่หลังฉากกั้น ด้วยความเข้าใจภาษาฝรั่งเศสของนาง จึงทำให้แม่การะเกดรู้แผนการนำทหารฝรั่งเศสจากบางกอกมาก่อการร้ายโค่นล้มอำนาจพระเพทราชาจนหมดสิ้น ซึ่งในระหว่างที่กำลังตั้งใจฟังอย่างจดจ่ออยู่นั้นเอง ฟอลคอนก็เดินพรวดเข้ามาถึงตัวของนางที่ยืนแอบอยู่อย่างไม่ทันรู้ตัว
“ข้าได้กลิ่นแป้งน้ำอบน้ำหอมของหญิงสยาม นึกไว้ไม่ผิดว่าเจ้าจะต้องมาสืบความของข้า ทหาร!!..จับตัวนางไว้”
แม่การะเกดคิดจะหันหลังวิ่งหนีก็ไม่ทันการเสียแล้ว เพราะทั้งทหารฝรั่งเศสและบ่าวไพร่ของฟอลคอนต่างล้อมหน้าล้อมหลังนางเอาไว้จนหมดทางหนี นางจึงถูกเขาจับกุมตัวในที่สุด สิ่งสุดท้ายที่นางสัมผัสได้คือฝ่ามืออันหยาบหนาของฟอลคอนที่ฟาดลงมาบนใบหน้าของนางอย่างแรงจนนางสิ้นสติไปในที่สุด
...
เมื่อลืมตาขึ้นมา แม่การะเกดก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า ตอนนี้นางกำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องใดห้องหนึ่งในเรือนของฟอลคอน อีกทั้งร่างกายของนางก็เปล่าเปลือยล่อนจ้อนไปหมดทั้งตัว มีบ่าวไพร่ผู้ชาย 7-8 คนยืนล้อมอยู่รอบเตียง สายตาที่แต่ละคนจ้องมองมาดูหื่นกระหายราวกับพร้อมจะเข้ามาขย้ำนางได้ทุกเมื่อ ที่ปลายเตียงมีโต๊ะเก้าอี้สองตัวโดยมีฟอลคอนและนายพลเดส์ฟาร์จนั่งจิบน้ำชาอยู่ เมื่อฟอลคอนเห็นนางฟื้นแล้วเขาจึงเอ่ยทักนางออกมา
“ฟื้นแล้วเหรอแม่การะเกด ข้าขอโทษด้วยที่ตบหน้าเจ้าแรงไปหน่อย แต่เรื่องที่เจ้าแอบมาสืบข่าวของข้า ข้าคงไม่อาจให้อภัยได้ ดังนั้นข้าจึงเตรียมบทลงโทษไว้ให้กับเจ้า มองไปรอบๆสิแม่การะเกด ข้าว่าคนฉลาดอย่างเจ้าคงพอจะรู้นะว่ากำลังจะโดนลงโทษอย่างไร”
ถึงไม่บอกก็รู้ ว่านางจะโดนอะไรบ้าง แม่การะเกดผุดลุกขึ้นมาหมายจะวิ่งออกไปจากห้องโดยเร็ว แต่ก็โดนเหล่าบ่าวไพร่ฉุดแขนแล้วเหวี่ยงนางกลับลงไปนอนบนเตียงอย่างแรงจนนางถึงกับจุก และเมื่อฟอลคอนพยักหน้าเป็นสัญญาณ บ่าวทั้งเจ็ดคนนั้นก็ถอดผ้านุ่งออกพร้อมๆกัน แล้วกรูกันเข้ามารุมทึ้งแม่การะเกดราวกับฝูงหมาป่าขย้ำเหยื่อ โดยมีหน้าอกคู่สวยทั้งสองข้างเป็นเป้าหมายแรกของการจู่โจม ทุกคนต่างรุมกันเข้ามาแย่งดูดเลียหน้าอกของนางราวกับไม่เคยพบเห็น พวกมันทั้งดูดทั้งขบหัวนมของนางอย่าไม่ปรานีปราศรัย คนที่เหลือที่พลาดไม่ได้เชยชมสองเต้างอนคู่นั้น ก็เปลี่ยนไปซุกไซร้ส่วนอื่นๆในร่างกายของนาง มีบ่าวสองคนยื่นควยมาถูไถไปตามใบหน้าของนางทั้งซ้ายและขวา ควยเหม็นๆสองอันเกลือกกลิ้งไปตามใบหน้า ทิ่มใส่แก้มบ้าง ไถไปโดนจมูกบ้าง หนักเข้าถึงขั้นเอามือมาบีบจมูกของนางจนนางต้องเผยออ้าปากออกเพื่อหายใจ แต่ก็โดนแทงควยสวนเข้ามาจนเต็มปากเต็มคำ แม่การะเกดได้แต่ส่งเสียงร้องอู้อี้จนฟังไม่ได้ศัพท์เพราะมีท่อนควยคาอยู่ในปาก
แม้แต่ท่อนล่างของนางก็โดนใครบางคนซุกไซร้ดูดเลียปาดลิ้นลากขึ้นลงไปตามแนวร่องเสียวของนางอย่างหื่นกระหาย เม็ดแตดของนางก็โดนดูดเม้มแลใช้ลิ้นบดบี้จนความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั้งร่างกาย มือที่ว่างอยู่ทั้งสองข้างก็โดนคว้าให้ไปเกาะกุมควยของคนที่เหลือแล้วบังคับให้กระทอกควยขึ้นลงให้พวกมันอย่างไม่เต็มใจนัก นางถูกพวกบ่าวผลัดเปลี่ยนตำแหน่งหมุนเวียนกันจู่โจมไปทุกส่วนในร่างกายของนางอย่างเข้าขารู้ใจยิ่งนัก จนนางแปลกใจว่าเหตุใดบ่าวไพร่พวกนี้จึงดูช่ำชองกับการรุมข่มขืนผู้อื่นเหลือเกิน ราวกับมิได้เพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก แต่ไม่นานนางก็ได้ยินเสียงฟอลคอนดังแว่วมา
“มิต้องแปลกใจอันใดหรอกหนาแม่การะเกด ข้าสั่งสอนบ่าวไพร่พวกนี้ด้วยตัวข้าเอง แลให้พวกมันรุมข่มขืนแม่ตองกีมาร์จนนับครั้งไม่ถ้วน เช่นเดียวกับที่ทำกับเจ้าในวันนี้ เพราะข้าชังนางที่นางสำส่อนไปนอนกับคู่หมายของเจ้าแล้วยังเอาบุตรมาให้ข้าเลี้ยง นางจึงต้องโดนแบบที่เจ้ากำลังจะโดนอยู่บัดเดี๋ยวนี้”
แม่การะเกดได้ฟังแล้วถึงกับสะดุ้ง นึกสงสารแม่มะลิขึ้นมาจับใจ ว่าระหว่างที่นางกำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ที่อยุธยา แต่กลับไม่รู้เลยว่าแม่มะลิจะต้องเผชิญชะตากรรมที่แสนเลวร้ายอยู่ที่ละโว้นี่ แต่ตอนนี้นางควรจะคิดถึงสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเสียก่อน ว่าจะเอาตัวรอดออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร
แม้จะมองท่อนล่างของตัวเองไม่เห็น แต่แม่การะเกดก็สัมผัสได้ว่าร่องหีของนางกำลังจะโดนดุ้นควยชำแรกแหวกกลีบเข้าไป ฉับพลันนางก็รู้สึกเสียววาบเมื่อแท่งควยอุ่นๆแทงพรวดเข้ามาในรูหีของนางจนมิดลำ แม้มันจะไม่ใหญ่โตดังเช่นควยท่อนอื่นๆที่นางเคยประสบมาก่อนหน้านี้ แต่ความเสียวสยิวที่เกิดขึ้นก็ยังมีมากมายยิ่งนัก แถมนี่ยังเป็นครั้งแรกที่นางจะต้องรับมือผู้ชายพร้อมๆกันทีเดียวหลายๆคน ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียวจนร่องรักขมิบเอาน้ำเมือกลื่นออกมามากยิ่งขึ้นไปอีก
บ่าวคนแรกกระเด้าสะโพกเย็ดนางอยู่ไม่ถึงห้านาทีก็ชักท่อนควยออกมาฉีดน้ำกามของมันราดรดไปบนหน้าท้อง จากนั้นคนที่สองที่รอคิวอยู่ก็เข้าแทนที่ เสียบควยเข้ามาทีเดียวมิดลำแล้วกระเด้าเอวอย่างไม่ลืมหูลืมตาต่อเช่นกัน แม่การะเกดทำได้เพียงนอนเด้งสะโพกรับการกระแทกกระทั้นไปตามสัญชาตญาณ ทั้งที่ปากยังคาบอมควยสองอันสลับกันไปมาไม่หยุด ส่วนหน้าอกก็โดนบีบคลึงสลับดูดเลียจนแดงช้ำไปทั้งสองข้าง
พลันสายตาของแม่การะเกดก็เหลือบไปเห็นกองเสื้อผ้าของนางที่โดนถอดออกไปก่อนหน้านี้วางอยู่ใกล้ๆมุมเตียง ห่างออกไปเพียงแค่เอื้อมมือเท่านั้น นางจึงเหยียดแขนออกไปหมายจะไปให้ถึงกองเสื้อผ้านั้น แต่ไม่คิดว่านางจะโดนพลิกตัวเปลี่ยนท่าเสียก่อน จึงเอื้อมมือคว้าไปไม่ถึง
บัดนี้นางถูกจับให้นอนคว่ำหน้าทาบทับอยู่บนตัวบ่าวคนที่สาม โดยท่อนควยของมันถูกสอดใส่เข้าไปรูหีของนางเรียบร้อยแล้ว บ่าวคนที่สี่และห้านั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆศีรษะของนาง คนนึงจับท่อนควยยัดใส่ปากนางแล้วจับศีรษะกระแทกเข้าออกกับท่อนควยของมัน ส่วนอีกคนก็จับมือนางไปสาวรูดท่อนควยที่ยังว่างอยู่ของมัน บางทีแม่การะเกดก็อมท่อนควยของคนทางซ้าย รูดชักให้คนทางขวา จากนั้นก็หันกลับมาอมให้คนทางขวาบ้างสลับกันไปตามจังหวะอารมณ์ สายตานางจ้องมองไปที่กองเสื้อผ้านั้นแต่ไม่อาจเอื้อมมือไปถึงได้เพราะต้องรูดชักควยในมือไม่ได้หยุดพัก
ทันใดนั้นแม่การะเกดก็ต้องตกใจจนหันหลังเอี้ยวคอกลับไปมอง เพราะบ่าวอีกคนกำลังจับสะโพกของนางแหวกออก จากนั้นมันก็ก้มลงไปเลียรูตูดของนางอย่างไม่มีทีท่ารังเกียจ
“อย่า..อย่าทำอย่างนั้น มันสกปรกนะ...อ๊า...ซี้ด...ข้าบอกว่าอย่าไงเล่า...โธ่...ซี้ด...”
แม่การะเกดร้องห้ามแต่ก็ไม่เป็นผล มันยังคงลงลิ้นเลียรูตูดของนางจนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลาย สร้างความเสียวซ่านอย่างไม่เคยมีมาก่อนกับกับนางเป็นอันมาก ทั้งรูหีก็ยังมีควยเสียบคาอยู่พลางกระเด้าเข้าๆออกๆ ทั้งรูตูดก็โดนดูดเลียจนเสียวไปทั้งด้านหน้าด้านหลัง
เพียงไม่นานหลังจากที่ประตูหลังของแม่การะเกดชุ่มชื้นดีแล้ว บ่าวคนที่เลียอยู่เมื่อครู่ก็ลุกขึ้นมาจ่อท่อนควยของมันเข้ากับรูตูดของแม่การะเกด แม่การะเกดดิ้นส่ายสะโพกเล็กน้อยเพราะความตื่นกลัว เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่นางต้องเสียความบริสุทธิ์ทางประตูหลัง แต่นางก็ดิ้นหนีได้เพียงชั่วครู่สะโพกของนางก็ถูกจับตรึงไว้ แล้วท่อนควยอันนั้นก็ค่อยๆชำแรกผ่านรูตูดของนางเข้ามาช้าๆ ความคับแน่นทั้งสองร่องรูทำเอาแม่การะเกดถึงกับตาเหลือกลิ้นจุกปากเลยทีเดียว
แล้วควยทั้งสองดุ้นที่เสียบเข้าไปในตัวนางทั้งหน้าและหลังก็ทำหน้าที่ของมันราวกับกระบอกสูบ เคลื่อนตัวขึ้นลงเข้าออกสอดคล้องกันเป็นจังหวะ แม่การะเกดเสียวซ่านจนสติแทบจะดับวูบไป ดวงตาเหม่อลอยจับจ้องออกไปที่ใดมิรู้ได้ บัดนี้ร่างกายของนางราวกับหุ่นกระบอกที่เชือกชักขาดสะบั้นลง ไม่ว่าพวกบ่าวที่รุมโทรมนางอยู่จะจัดแจงท่าทางไปทางไหนนางก็ไม่อาจขัดขืนได้อีกต่อไป นางถูกพลิกตัวหงายขึ้นมาโดยมีบ่าวคนหนึ่งนอนอยู่ข้างใต้ ท่อนควยปักเสียบคาอยู่ในรูตูด คนอื่นๆก็สลับกันเข้ามาเย็ดรูหีของนางผลัดเปลี่ยนกันจนครบถ้วนทั้งหกคน
แม่การะเกดอ่อนเพลียจากการถูกชายทั้งเจ็ดรุมข่มขืนนางจนเกือบจะหมดสติไปอยู่รอมร่อ หากเป็นเพราะจังหวะหนึ่งที่มือนางป่ายไปโดนเสื้อผ้าที่กองอยู่ตรงมุมเตียงนั้นโดยบังเอิญ นางล้วงคลำดูอยู่ซักพักก็เจอถุงผ้าแพรที่คุณลุงสั่งให้นางพกติดตัวไว้ปกป้องนางในยามมีภัย แม่การะเกดจึงกลั้นใจใช้เรี่ยวแรงสุดท้ายที่มีดึงเชือกที่รัดปากถุงออกก่อนจะล้วงมือเข้าไปด้านในนั้น แล้วนิ้วเรียวของนางก็สัมผัสเข้ากับกระดาษแข็งๆแผ่นหนึ่งด้านใน พลันสายตาของแม่การะเกดก็พร่ามัวด้วยแสงอันเจิดจ้า จากนั้นนางก็มองไม่เห็นสิ่งใดอีก และสติของนางก็ดับวูบไปทันที
...
เมื่อแม่การะเกดลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่า บัดนี้ตัวเองกำลังยืนอยู่ข้างเตียงที่นางเพิ่งนอนอยู่เมื่อครู่ หากแต่บนเตียงยังคงมีร่างของนางที่กำลังโดนรุมโทรมจากพวกบ่าวทั้งเจ็ดคนอยู่เช่นเดิม แม่การะเกดตกใจเป็นอย่างยิ่งเพราะนึกว่าตนเองตายแล้วจนวิญญาณหลุดออกจากร่างมาเช่นนี้ หากแต่มีเสียงหนึ่งทักขึ้นมาจากด้านหลัง
“เกศสุรางค์!!”
นางจึงหันกลับไปมองและพบว่าแม่การะเกดตัวจริงในชุดสไบสีแดงกำลังยืนจ้องมาทางนาง
“การะเกด...นั่นเธอจริงๆใช่ไหม เธอมาได้ยังไงเนี่ย”
“ข้ามิใช่ผู้ใด ข้าคือเศษเสี้ยวหนึ่งของดวงจิตที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่าง บัดนี้ข้าก็คือตัวเจ้า และเพราะข้านี่แหละที่ดลจิตใจของเจ้าให้เข้าสู่วังวนของกามราคะ จนกลายเป็นเจ้าในทุกวันนี้”
ร่างนั้นอธิบายออกมา แท้จริงแล้วนางก็คือแรงปรารถนาสุดท้ายของแม่การะเกดตัวจริงที่ตายไปโดยที่ยังไม่เคยสัมผัสรสชาติแห่งการเสพสังวาสกับผู้ชาย และนางก็คือตัวการที่ทำให้เกศสุรางค์ในร่างของการะเกดรู้สึกหงี่ร่านทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดกับชายอื่นตามลำพังจนเกิดเป็นเหตุการณ์โล้สำเภาในทุกคราว แต่พักหลังๆมานี้นางแทบไม่ได้มีบทบาทใดๆต่อจิตใจของเกศสุรางค์ในร่างนี้อีก เพราะนางเริ่มติดใจหลงใหลเรื่องกามารมณ์จนมันกลายเป็นนิสัยของนางไปแล้วนั่นเอง
“สิ่งที่เจ้าสัมผัสในถุงผ้านั้นคือเศษเสี้ยวหนึ่งของคัมภีร์มนต์กฤษณะกาลี ที่คุณลุงฉีกออกมาใส่ไว้ในถุงแลมอบให้เจ้า เมื่อเจ้าสัมผัสโดนมันเข้า จิตของเจ้าจึงหลุดออกจากกายและได้มาพบกับข้าที่นี้ยังไงล่ะ”
ดวงจิตของแม่การะเกดอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้นางฟัง
“แล้วมันจะช่วยข้าให้รอดไปจากตรงนี้ได้ยังไงล่ะ เจ้าดูสิ ตอนนี้ร่างของข้าโดนบ่าวของฟอลคอนรุมโทรมจนแทบดูไม่ได้แล้วหนา ร่างของข้าพังยับเยินไปหมดแล้วเจ้าเห็นหรือเปล่า”
เกศสุรางค์เริ่มโวยวาย เพราะตอนนี้ร่างของนางนั้นกระเด้งกระดอนไปมาตามแรงกระเด้าเย็ดจนดวงตาเหม่อลอยประดุจคนไร้ชีวิต ใบหน้าของนางนั้นไม่แสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกใดๆอีก ดูเรียบเฉยราวกับใบหน้าของตุ๊กตา แม้พวกบ่าวจะโหมกระแทกท่อนควยใส่ร่องรูของนางทั้งหน้าและหลังพร้อมกันอย่างรุนแรงแค่ไหนนางก็ไม่แสดงอาการใดๆออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
“ออเจ้าต้องให้ข้าได้ทำหน้าที่ของข้า เรื่องนี้หนักหนาเกินกว่ากำลังของเจ้าจะแก้ไขได้เอง คุณลุงของเจ้าและข้ารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นจึงวางแผนนี้เอาไว้เพื่อให้ข้าได้ช่วยเหลือเจ้า แต่เจ้าต้องปล่อยให้ข้าได้ควบคุมร่างกายของเจ้าทั้งหมด เจ้าจึงจะรอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้”
ดวงจิตของแม่การะเกดบอกวิธีแก้ไขสถานการณ์ให้เกศสุรางค์ฟัง ซึ่งนางก็ไม่มีทางเลือกอื่นจึงต้องยอมรับข้อเสนอนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

และในทันใดนั้นเอง ร่างของแม่การะเกดที่ดูราวกับไร้ชีวิต ก็กลับสะดุ้งรู้สึกตัวขึ้นมา แววตาของนางเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน มันทั้งดุดันและเกรี้ยวกราดจนพวกบ่าวที่กระเด้าควยเย็ดใส่รูหีของนางอยู่ถึงกับเสียวสะท้านจนขนลุกเกรียวไปทั้งตัว อีกทั้งร่องรูหีของนางก็บีบรัดท่อนควยของบ่าวผู้นั้นจนหน้าเขียว น้ำกามที่เก็บสะสมไว้ก็ทะลักพรวดออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ไหลนองท่วมร่องรูหีของแม่การะเกดจนล้นออกมาตามง่ามขา

‘เจ้าจะบ้าเหรอแม่การะเกด ปล่อยให้พวกมันน้ำแตกในร่างของข้าได้ยังไง ถ้าเกิดข้าท้องป่องขึ้นมาล่ะ ข้าจะเอาหน้าที่ไหนไปสู้หน้าคุณพี่กันเล่า’
ดวงจิตของเกศสุรางค์เอ่ยขึ้นมาในหัวสมองของแม่การะเกด
‘ออเจ้าเงียบแล้วดูต่อไปเถอะ ตราบใดที่ข้ายังควบคุมร่างของเจ้าอยู่ ข้าสามารถขับเอาน้ำกามของพวกมันออกมาได้ทั้งหมด ข้าไม่ปล่อยให้ร่างของเจ้าตั้งครรภ์กับคนชั้นต่ำพวกนี้หรอก เจ้าวางใจเถอะน่า’
แม่การะเกดนึกในใจแล้วพลิกตัวกลับมานั่งคร่อมบ่าวที่นอนอยู่ด้านล่าง ท่อนควยของมันหลุดออกจากรูตูดของนางดังผลุบ จากนั้นก็มุดกลับเข้าไปในช่องหีของนางที่กดสะโพกลงมากลืนกินมันลงไป มือทั้งสองข้างของแม่การะเกดก็คว้าท่อนควยจากบ่าวที่ยืนอยู่ใกล้ๆดึงมารูดเข้ารูดออกกระทอกสาวควยจนพวกมันแอ่นเอวครางอู้ด้วยความเสียว เพียงไม่กี่อึดใจน้ำกามของพวกมันก็กระฉูดออกมาพร้อมๆกันทั้งสามคน คนนึงแตกในรูหีของแม่การะเกด อีกสองคนฉีดพ่นเข้าไปที่ใบหน้าและเนินนมของนาง แม่การะเกดคว้าดุ้นควยอันนึงเข้าปากแล้วดูดกินน้ำกามที่คั่งค้างอยู่ในท่อนควยนั้นจนหมดสิ้น
บ่าวสี่คนที่น้ำแตกไปเรียบร้อยแล้วนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงอย่างสิ้นเรี่ยวแรง แม่การะเกดจึงก้าวลงจากเตียงมาจัดการกับอีกสามคนที่เหลือบนพื้น นางเอนหลังถ่างขาออกอวดเนินหีโหนกนูนกลีบแคมขาวอมชมพูของนางให้พวกมันเห็น จนคนหนึ่งอดใจไม่ไหว พุ่งเข้ามาเสียบท่อนควยใส่รูหีของนางทันที แม่การะเกดก็จัดการใช้เรียวขาโอบรอบสะโพกของมันไว้แน่นแล้วกระเด้งสะโพกอัดโหนกหีสวนท่อนควยของมันถี่ยิบ นัยน์ตาจ้องใบหน้าของมันเขม็งจนราวกับจะกลืนกินมันได้ทั้งตัว แรงตอดรัดจากช่องรูหีที่แสนกระชับแน่นของนางทำเอามันกระเด้าได้ไม่ถึงสิบทีก็น้ำแตกซ่าไปอีกคน
บ่าวสองคนที่เหลือต่างเกรงกลัวกับความร้อนร่านในตัวแม่หญิงผู้นี้ยิ่งนัก เพียงไม่นานนางสามารถจัดการกับชายฉกรรจ์ถึง 5 คนให้ลงไปนอนตาเหลือกลอยด้วยความเสียวอย่างสุดยอดได้ พวกมันสองคนมองหน้ากันแล้วตัดสินใจเข้าไปรุมแม่การะเกดพร้อมๆกัน คนหนึ่งจับนางลุกขึ้นยืนแล้วยกขานางขึ้นข้างหนึ่ง พร้อมสอดใส่ท่อนควยเข้าไปในรูหีของนางแล้วกระหน่ำเย็ดในท่ายืนนั้น ส่วนอีกคนเข้าประกบด้านหลัง สอดใส่ท่อนควยเข้าไปในรูตูดของนางที่ยังว่างอยู่ แล้วต่างคนต่างก็กระแทกหน้ากระแทกหลังจนร่างของแม่การะเกดกระเด้งกระดอนไปมา แต่นางก็หาได้สะทกสะท้านไม่ กลับโน้มคอพวกมันเข้ามาดูดปากแลกลิ้นอย่างไม่ยอมแพ้  จนสุดท้ายพวกมันเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายทนต่อความเสียวไม่ไหว ต้องกระฉูดน้ำเงี่ยนเข้าใส่ร่องรูเสียวและรูตูดของนางอย่างไม่อาจควบคุมได้ จากนั้นก็ทรุดตัวลงไปนอนกองกับพื้นเฉกเช่นพวกบ่าวคนอื่นๆ
“บทลงโทษของท่านเจ้าพระยาวิชเยนทร์มีเพียงแค่นี้เองงั้นหรือเจ้าคะ ข้าเกรงว่ามันยังน้อยไปไม่สาสมกับความผิดที่ข้าทำเลยนะเจ้าคะ ช่วยลงโทษข้าให้หนักกว่านี้อีกได้หรือไม่ ให้ข้าได้สำนึกผิดให้มากกว่านี้อีกหน่อยเถิดเจ้าค่ะ”
แม่การะเกดกล่าวท้าทายอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด จนฟอลคอนที่นั่งมองอยู่อย่างแสนสำราญในทีแรกกลับต้องเดือดดาลจนขบกรามแน่นในท่าทีหยิ่งยโสของแม่การะเกดผู้นี้
“อัลเฟรด ไปตามบ่าวไพร่ผู้ชายในเรือนมาอีก ดูท่านางคนนี้จะมีดีเกินกว่าที่เราคาดไว้”
“แต่บ่าวไพร่คนอื่น ท่านสั่งให้ไปช่วยสร้างป้อมหมดแล้วนะขอรับ ที่เหลืออยู่ก็มีแต่ผู้หญิงและเด็กแล้ว หามีผู้ชายคนอื่นไม่”
“งั้นก็คงต้องเป็นเจ้าแล้วล่ะอัลเฟรด ช่วยสั่งสอนนางคนนี้ให้สาสมกับความผิดของนางเสียหน่อย อย่าให้ข้าต้องโดนดูหมิ่นไปมากยิ่งกว่านี้”
ฟอลคอนออกคำสั่งให้ทหารคนสนิทลงไปร่วมเกมโล้สำเภากับแม่การะเกดอีกคน แล้วหันกลับไปถามนายพลเดส์ฟาร์จที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยภาษาฝรั่งเศส จับใจความได้ว่า
“ท่านนายพล อยากจะลองลิ้มรสแม่หญิงชาวอยุธยาหรือไม่ นางผู้นี้ดูท่าว่าจะเกินกำลังของพวกบ่าวไพร่ชั้นต่ำ หากเป็นท่านจะต้องมอบบทเรียนที่ไม่มีวันลืมให้กับนางได้เป็นแน่”
นายพลเดส์ฟาร์จเองก็ไม่ปฏิเสธ เขานั่งดูแม่การะเกดโชว์ลีลาเร่าร้อนอยู่นานจนควยแข็งโด่ค้ำกางเกงเป็นกระโจมสูง เมื่อฟอลคอนหยิบยื่นโอกาสให้เขาจึงลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าออกจนเปลือยเปล่าเช่นเดียวกับอัลเฟรดที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว
แม่การะเกดเมื่อเห็นอาวุธประจำกายของทั้งนายพลเดส์ฟาร์จและอัลเฟรดแล้วก็ถึงกับหวั่นไหวในใจอยู่ลึกๆจนต้องพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด เนื่องจากขนาดลำควยของทั้งสองคนนั้นใหญ่ยาวเกินมาตรฐานชาวอยุธยาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ของท่านนายพลนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าชาวฝรั่งปกติไปอีกเป็นเท่าตัว ความอวบอ้วนของลำควยนั้นเมื่อเทียบกับขนาดข้อมือของนางแล้วก็ยังถือว่าใหญ่กว่า แถมความยาวนั้นก็ยาวเสียจนน่ากลัวว่ามันจะทะลวงเข้าไปถึงไส้ถึงพุงของนางแน่ๆ
นายพลเดส์ฟาร์จไม่ปล่อยให้แม่การะเกดมีเวลาคิดนานนัก เขาประชิดตัวนางแล้วจับนางกดลงบนเตียง ส่วนพวกบ่าวไพร่คนอื่นๆถูกอัลเฟรดเขี่ยลงไปนอนกองกับพื้นจนหมด แม่การะเกดโดนอัลเฟรดโจมตีท่อนล่างทันที เขาลากลิ้นบี้เม็ดแตดของนางจนนางสะดุ้งเสียววาบแอ่นเอวยกสูงจนลอยไม่ติดเตียง แม้ว่าร่องหีของนางจะฉ่ำชุ่มไปด้วยน้ำเงี่ยนของบ่าวคนอื่นๆที่หลั่งใส่เอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่อัลเฟรดก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจเลยแม้แต่น้อย เขาเสียบนิ้วเข้าไปในรูหีของนางแล้วกวาดเอาน้ำเงี่ยนที่คั่งค้างอยู่ออกมาจนเกือบหมด แล้วจึงละเลงลิ้นใส่ร่องรูหีของนางอย่างหนักหน่วง
ส่วนทางด้านนายพลเดส์ฟาร์จก็จับท่อนควยมหึมาดุ้นนั้นจ่อมาที่ปากของแม่การะเกด ขนาดของมันใหญ่จนแม่การะเกดคิดว่าคงไม่สามารถอมมันเข้าไปได้ ขืนอมเข้าไปคงต้องปากฉีกถึงรูหูแน่นอน แต่นายพลก็บีบแก้มของนางอย่างแรงจนต้องยอมอ้าปากออก แล้วสอดควยดุ้นนั้นเข้าไปในปากนางอย่างยากลำบาก แม่การะเกดอ้าปากออกกว้างจนถึงที่สุดแล้วแต่ก็ยังครอบปากอมดุ้นควยของนายพลเข้าไปได้แค่เพียงส่วนหัวเท่านั้น นางพยายามรูดริมฝีปากเข้าออกจนส่วนคอหยักนั้นผลุบเข้าผลุบออกเสียดสีกับริมฝีปากนาง ส่วนท่อนลำที่เหลือแม่การะเกดต้องใช้สองมือจับพร้อมกันแล้วกระทอกขึ้นลง พลันเขาก็กดศีรษะของนางแล้วออกแรงดึงเข้าหาตัวจนท่อนควยพุ่งพรวดลึกลงไปในลำคอของแม่การะเกดถึงครึ่งท่อน แม่การะเกดถึงกับตาเหลือกหายใจไม่ออกพยายามทุบหน้าขาของท่านนายพลเพื่อร้องขอให้เขาชักท่อนควยออกไป จนนางเกือบจะหมดลมหายใจอยู่แล้วเขาจึงดึงท่อนควยออกไปให้แม่การะเกดได้มีโอกาสสูดลมเข้าปอดอีกครั้ง พลางสำลักท่อนควยจนน้ำหูน้ำตาไหลพราก พลันเสียงของเกศสุรางค์ก็ดังก้องขึ้นมาในสมองของนาง
‘แม่การะเกด ออเจ้าจะรับมือไหวไหมเนี่ย คนพวกนี้มีควยที่ใหญ่ยาวผิดกับชาวเรายิ่งนัก ข้าเกรงว่าแม้เจ้าจะช่ำชองในการสังวาสแค่ไหนก็ไม่อาจรับมือพวกมันได้’
‘เงียบไปเถอะเกศสุรางค์ หากข้ายังรับมือพวกมันไม่ไหว ก็คงไม่มีหญิงอยุธยาคนไหนรับมือไหวอีกแล้ว ข้าแค่ตกใจนิดหน่อยที่พวกมันมีของดีกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ แต่อีกประเดี๋ยวข้าก็คงชินกับมันไปเอง นี่แหละคือสิ่งที่ข้าใฝ่ฝันหามาตลอดชีวิต คนพวกนี้จะต้องเติมเต็มความต้องการของข้าได้อย่างแน่นอน เจ้าไม่ต้องกลัวไปหรอก เกศสุรางค์’
ซึ่งแม่การะเกดก็แสดงให้เกศสุรางค์ได้ประจักษ์ว่านางสามารถทำได้ตามที่พูดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน เพราะเพียงไม่นานนางก็สามารถอ้าอมท่อนควยของท่านนายพลเข้าไปลึกจนถึงลำคอได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แม้จะเข้าไปได้ไม่ตลอดความยาวของมัน แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ท่านนายพลถึงกับแหงนหน้าสูดปากครางอย่างพึงพอใจได้เช่นกัน
ส่วนอัลเฟรดที่ละเลงลิ้นเลียร่องเสียวของนางจนใบหน้าเปรอะเปื้อนน้ำกามไปทั่วทั้งปากและจมูก ก็ลุกขึ้นมาจ่อลำควยเข้ากับร่องรูหีของนาง แล้วออกแรงกดเข้าไปช้าๆ แม่การะเกดถึงกับหลับตาแน่น สะโพกแอ่นเกร็งด้วยความเสียวสยิว ท่อนควยของอัลเฟรดเองก็ใหญ่กว่าพวกบ่าวไพร่ก่อนหน้านี้อยู่พอสมควร แม้จะไม่ใหญ่เท่าของท่านนายพล แต่ก็สร้างความเสียวซ่านให้กับนางได้ไม่น้อย นางจึงยกสะโพกกระเด้งรับการกระแทกจากเขาเป็นจังหวะ จากช้าๆก่อนแล้วจึงค่อยเร่งความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ ส่วนปากของนางก็ยังทำหน้าที่ดูดอมท่อนควยของท่านนายพลไปพร้อมกันโดยไม่หยุดพัก
ลีลาเร่าร้อนของแม่การะเกดที่แสดงให้ฟอลคอนได้เห็นนั้นทำให้เขาแทบไม่เชื่อสายตา เขาไม่คิดว่าแม่หญิงที่ถูกเขาสอนเชิงในวันนั้นพร้อมๆกับแม่มะลิ จะเปลี่ยนไปเป็นแม่หญิงผู้ร้ายกาจในเชิงกามถึงเพียงนี้ นางทั้งส่ายร่อน ทั้งเด้งเอวแอ่นสะโพกอย่างร้อนร่านเสียจนไม่เหมือนคนที่กำลังโดนข่มขืนรุมโทรม แต่เหมือนกับว่านางกำลังระเริงรักอยู่กับคู่รักยังไงยังงั้น
เพียงไม่กี่อึดใจต่อมา อัลเฟรดก็ถึงจุดหมายจนได้ เขาชักท่อนควยออกมาในวินาทีสุดท้าย ก่อนจะกระฉูดน้ำกามจำนวนมากลงบนหน้าอกทั้งสองข้างของนาง แล้วใช้ท่อนควยละเลงน้ำกามของเขาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วนมคู่สวยนั้น
จากนั้นก็ถึงทีของท่านนายพลเดส์ฟาร์จ เขาเลื่อนตัวลงไปแทรกอยู่ระหว่างขาของแม่การะเกด จากนั้นก็จับข้อเท้าของนางขึ้นมาพาดบนบ่าของเขาแล้วโน้มตัวลง ท่านี้ทำให้โคกหีของนางยกลอยขึ้นสูง หัวเข่าโย้มาจนแทบจะชิดกับหน้าอกของนางเอง ภาพท่อนควยมหึมาที่กำลังจะแทงเข้าไปในรูหีจึงปรากฏชัดแก่สายตาของนางโดยไม่มีอะไรปิดบัง มันค่อยๆแหวกกลีบแคมของนางจนแหกออกจากกันช้าๆ จากนั้นก็ค่อยๆมุดลงไปในรูเสียวของนางที่ถูกถ่างจนบานอ้า แม่การะเกดรู้สึกเหมือนช่องหว่างขาของนางกำลังจะปริขาดยังไงยังงั้น แต่นางก็ยังกัดฟันรับความเสียวที่เกิดขึ้นด้วยความเต็มใจเป็นที่สุด
ในความรู้สึกของแม่การะเกดมันช่างเนิ่นนานเหลือเกินกว่าที่ท่อนควยของท่านนายพลจะหายเข้าไปในรูหีของนางจนหมดทั้งลำ ไม่น่าเชื่อว่าท่อนควยที่ยาวประหนึ่งควยช้างควยม้าของเขาจะสามารถเข้าไปอยู่ในร่องรูหีของนางได้ แม่การะเกดรู้สึกสาแก่ใจและพึงพอใจเป็นที่สุด ที่ความปรารถนาของนางได้ถูกเติมเต็มอย่างอิ่มเอมเช่นนี้
และเมื่อเห็นว่าท่านนายพลยังคงแช่ควยนิ่งค้างไว้ไม่ยอมขยับเสียที แม่การะเกดจึงพลิกตัวกลับมาเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมและเริ่มขย่มควยกระแทกโหนกหีของตัวเองเข้าใส่เขาแทน ทุกครั้งที่ยกสะโพกขึ้นจนเกือบสุดความยาวแล้วกดกลับลงไป นางรู้สึกเหมือนท่อนควยของเขาจะทะลุทะลวงไปถึงตับไตไส้พุงของนาง ยิ่งทำให้นางรู้สึกเสียวซ่านมากขึ้นไปอีก สองมือของนายพลเดส์ฟาร์จก็เอื้อมมาเกาะกุมและบีบขยำหน้าอกที่แดงช้ำจากการถูกรุมทึ้งอย่างหนักมาก่อนหน้านี้ แต่นางกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกแล้ว มีเพียงความเสียวซ่านเท่านั้นที่ก่อตัวขึ้นในจิตใจของนาง
แม่การะเกดขย่มท่อนควยของท่านนายพลได้ไม่นานก็โดนเขาจับอุ้มลุกขึ้นมา ร่างเล็กบางของนางไม่เป็นปัญหาเลยสำหรับชายร่างใหญ่บึกบึนเช่นเขา นางถูกเขากระเด้าเย็ดจากในท่ายืน สองมือนางโอบรอบคอของเขาไว้ ส่วนสองขาก็เกี่ยวกระหวัดรัดรอบเอวแล้วขย่มสะโพกใส่เขาอย่างไม่ลดละ ร่างของนางถูกกระแทกขึ้นลงจนกระเด้งกระดอนอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็ตกลงมาโดนควยที่เสียบคาอยู่สวนแทงเข้าไปจนนับครั้งไม่ถ้วน กลีบแคมที่เคยปิดสนิทสวยงามมาวันนี้โดนกระหน่ำเย็ดเข้าไปจนมันบานอ้าแหกออกอย่างหมดรูป แต่แม่การะเกดก็ไม่ได้ใส่ใจกับมัน ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเย็ดกับท่านนายพลอย่างเร่าร้อนต่อไปอีกเกือบครึ่งค่อนชั่วโมง นายพลเดส์ฟาร์จนอกจากมีท่อนควยที่ใหญ่ยาวที่สุดที่นางเคยเจอมาแล้ว เขายังมีน้ำอดน้ำทนมากอย่างเหลือเชื่อ หากเป็นคนอื่นโดนลีลาร่านสวาทของนางเล่นงานไปขนาดนี้คงหมอบกระแตน้ำแตกกระจายไปไม่รู้กี่รอบแล้ว แต่นี่เขากลับกระเด้าสวนคืนใส่นางอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จสมเสียที กลับเป็นนางเสียเองที่กำลังจะถึงสวรรค์อยู่รอมร่อ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแผนการเอาตัวรอดของนางคงล่มไม่เป็นท่า และคงต้องตายอนาถอยู่กลางเรือนของฟอลคอนเป็นแน่
จังหวะประจวบเหมาะพอดีที่นายพลเดส์ฟาร์จนั่งลงบนเก้าอี้ ส่วนแม่การะเกดนั่งคร่อมอยู่บนตักของเขา พอขานางแตะถึงพื้นได้นางก็มีหลักยึดให้พอจะตั้งตัวสวนกลับได้บ้าง แม่การะเกดจึงกดหัวไหล่ท่านนายพลเอาไว้แล้วออกแรงขย่มสะโพกอย่างเร็วจนนับไม่ทัน ท่านนายพลที่ถูกกระหน่ำสะโพกเข้าใส่ก็เริ่มมีสีหน้าใกล้จะถึงจุดหมายอย่างเห็นได้ชัด เหงื่อผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเขาเป็นเม็ดๆ กรามทั้งสองข้างขบกันแน่น จนกระทั่งเขาครวญครางเป็นภาษาฝรั่งเศสออกมา
“Ah!...Ne peut pas supporter...je viens”
แม่การะเกดฟังออกว่าเขากำลังจะทนไม่ไหว และน้ำกามกำลังจะแตกแล้ว นางจึงเร่งขย่มอย่างแรงจนไม่คิดชีวิต และในที่สุดน้ำกามจำนวนมากมายมหาศาลก็ถูกฉีดอัดเข้ามาจนเต็มร่องหีของนาง ซึ่งแทบจะไม่มีที่ว่างเหลือให้รองรับสิ่งใดได้อีก มันจึงไหลย้อนกลับออกมาทางปากรูหีและแตกกระจายอยู่เต็มหว่างขาของท่านนายพลและแม่การะเกด ท่านนายพลถึงกับหายใจหอบฮั่กๆแล้วสลบไปทันที

‘เกือบไปแล้วนะแม่การะเกด อีกนิดเดียวออเจ้าก็จะพ่ายแพ้ให้กับความเสียวจนถึงจุดสุดยอดแล้วเหมือนกัน นี่ถ้าหากว่าท่านนายพลไม่เมื่อยขาจนยอมนั่งลงเสียก่อน ออเจ้าคงถูกเย็ดจนน้ำแตกในท่ายืนเมื่อกี้อย่างแน่นอน’
‘ยังหรอกเกศสุรางค์ ข้ายังรับได้มากกว่านี้อีก แลยังเหลืออีกหนึ่งผู้ที่ข้าต้องการจัดเขาให้สิ้นเรื่องสิ้นราว แล้วเราค่อยออกไปจากที่นี่กัน’
แม่การะเกดหันไปมองฟอลคอนที่นั่งหน้าซีดตัวสั่นด้วยความตื่นกลัว จากนั้นนางก็เดินย่างสามขุมเข้าไปหาเขา จับเสื้อผ้าฉีกกระชากออกจนกระดุมขาดกระเด็น ก่อนจะประกบปากจูบแล้วกดเขาลงนอนกับพื้น จากนั้นก็เริ่มเกมสังวาสกับฟอลคอนต่อเป็นครั้งสุดท้าย
...
หนึ่งชั่วโมงให้หลัง แม่การะเกดแต่งตัวกลับคืนจนเรียบร้อยดังเดิม กำลังนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้รับแขกกลางห้องโถงรับรอง โดยมีฟอลคอนนอนหมอบอยู่กับพื้น พอแม่การะเกดจิบชาจนหมดแก้วแล้วก็เอ่ยขึ้นมา
“ข้าขอบใจนะฟอลคอนที่ให้ยืมห้องอาบน้ำแก่ข้า ข้าถึงได้ล้างเนื้อล้างตัว ประแป้งจนหอมฟุ้งเหมือนเดิม ไม่เหลือกลิ่นคาวน้ำกามของพวกเจ้าไว้บนร่างข้าอีกต่อไป”
ฟอลคอนยังคงหมอบนิ่งไม่พูดอะไร แม่การะเกดไม่พอใจจึงจิกผมของฟอลคอนขึ้นมาแล้วตบจนฟอลคอนหน้าหงาย จากนั้นก็ลงไปนั่งทับหน้าอกของเขา พลางจิกหัวเขาขึ้นมาแล้วพูดใส่หน้าฟอลคอนว่า
“คราวหน้าหากคิดจะรุมโทรมข้า เจ้าคงต้องเกณฑ์ทหารมาให้หมดทั้งกองทัพกระมัง มิเช่นนั้นอย่าคิดว่าจะทำอะไรข้าได้เลย เจ้าได้ยินหรือไม่...หา!!”
แล้วแม่การะเกดก็ตบตีใส่ฟอลคอนจนเขาต้องยกมือไหว้ร้องขอชีวิต จากนั้นนางก็สะบัดตัวเดินออกมาจากเรือนอย่างองอาจ ทิ้งให้ฟอลคอนและพรรคพวกที่เหลือนอนหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่เช่นนั้นนั่นเอง

แม่การะเกดเดินออกมาจนพ้นเรือนของฟอลคอนได้ซักระยะ นางก็ทรุดตัวลงนั่งเพราะแข้งขาไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะพยุงตัว นางผ่านการร่วมสังวาสกับผู้ชายถึงสิบคนมาอย่างต่อเนื่อง ย่อมต้องถึงจุดที่ร่างกายเกินจะทนไหว นางรำพึงรำพันกับตัวเองเบาๆ
“ไม่ไหวแล้ว ข้ามาได้แค่นี้เองหรือนี่”
จากนั้นนางก็สลบไปใต้ร่มไม้ต้นหนึ่งที่ข้างทางนั้นเอง
“แม่การะเกด!! แม่การะเกดฟื้นสิ”
แว่วเสียงเรียกของชายผู้หนึ่ง แม่การะเกดจึงลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบว่าเป็นคุณพี่เดชของนางนั่นเองที่เข้ามาปลุกนาง
“คุณพี่..คุณพี่มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ”
“ออเจ้าทำกระไรลงไป รู้ตัวหรือไม่”
“ข้าผิดไปแล้ว ขอโทษเจ้าค่ะ”
แม่การะเกดยกมือไหว้ขอโทษคุณพี่ แต่พลันเขาก็ชักกริชออกมาจากเอวแล้วจ่อใบมีดเข้าที่คอตัวเอง แล้วพูดออกมาด้วยท่าทีขึงขังเป็นที่สุด
“สัญญากับข้าว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีก ออเจ้ารู้หรือไม่ว่าแรกที่ข้าได้ยินว่าออเจ้าจะแฝงกายเข้าไป ข้าแทบขาดใจตายลงเดี๋ยวนั้น รู้หรือไม่ว่าถ้าหากพลาดพลั้งไปย่อมถึงแก่ชีวิต”
“สัญญาเจ้าค่ะสัญญา ข้าจะไม่ทำแบบนั้นอีก จะไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอีกเจ้าค่ะ เอามีดออกเถอะนะเจ้าคะ เลือดออกแล้วหนาเจ้าคะ”
แม่การะเกดพูดด้วยน้ำเสียงตกใจเพราะเกรงว่าคุณพี่จะแทงมีดใส่คอตัวเอง นางรีบรับปากให้สัญญากับเขาก่อนจะดึงมีดออกจากคอแล้วโยนทิ้งไปให้ห่างตัว แล้วดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเลือดที่คอของคุณพี่
“ออเจ้ากล้าหาญชาญชัย กระทำในสิ่งที่แม่หญิงคนอื่นไม่มีวันกระทำกัน ผู้ใดห้ามปรามออเจ้าก็ไม่เคยฟัง ลืมไปแล้วหรือว่าในอยุธยานี้ ออเจ้าเป็นเพียงคนที่มีชีวิตเดียว หากออเจ้าเป็นกระไรไป ข้าก็มิขออยู่เป็นผู้เป็นคน ให้ข้าตายก่อนเสียยังดีกว่า”
“ข้าขอโทษเจ้าค่ะ ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว”
แม่การะเกดยกมือไหว้พลางพูดเสียงสะอื้นทั้งน้ำตา นางรู้สึกเสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเป็นอย่างยิ่ง พลางโผเข้ากอดพ่อเดชอย่างสุดซึ้ง แล้วทั้งคู่ก็จูบปากกันเนิ่นนานจนเหมือนเวลารอบตัวจะหยุดลง เมื่อถอนปากออกจากกันแม่การะเกดก็ซบใบหน้าลงบนไหล่ของเขา แล้วลืมตาขึ้นมาด้วยแววตาที่เจ้าเล่ห์ราวกับเป็นอีกคน
‘ข้าขอรับคุณพี่ไปละนะ เกศสุรางค์’
แล้วแม่การะเกดก็ยิ้มที่มุมปากออกมาอย่างผู้ชนะในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น