วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2560

ตำนานสวิงกิ้ง




เสียงขลุ่ยแผ่วผิว ดังแว่วไปทั่วท้องทุ่งบางกะปิ ณ.โคนต้นไทรใหญ่กลางทุ่งกว้าง ไอ้ขวัญหนุ่มลูกทุ่งผิวคล้ำร่างใหญ่บึกบึน นั่งเอนกายพิงโคนไทรพลางเป่าขลุ่ยฆ่าเวลา หลายวันมาแล้วในงานวัด ไอ้ขวัญได้พบพบกับอีเรียม ซึ่งในอดีตพ่อของทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน แต่ต้องมาแตกคอกันชนิดไม่เผาผี เพราะพ่อของอีเรียมใช้อำนาจและอิทธิพลโกงที่นาของพ่อไอ้ขวัญ แต่ไอ้ขวัญกับอีเรียมนั้นเคยวิ่งเล่นด้วยกันมา ถึงจะโดนกีดกันก็ยังมีมิตรจิตมิตรใจให้กันอยู่ ในงานวัดนั้นตาทั้งสองที่สบกันมันช่างสร้างความรู้สึกผิดแปลกให้กับไอ้ขวัญ และอีเรียมยิ่งนัก อีเรียมมันพึ่งย่างเข้า 14 ไอ้ขวัญเองก็ยังไม่ถึงวัยเกณฑ์ทหาร ด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ที่พึ่งพานพบ ไอ้ขวัญหาทางติดต่อกับอีเรียมจนได้การ มันใช้ไอ้จ้อยเด็กวัดแอบไปกระซิบสั่งความให้อีเรียมแอบมาพบมันที่โคนไทรแห่ง นี้ เสียค่าจ้างไปด้วยส้นตีนหนึ่งพลั่กเพราะไอ้จ้อยอิดออด แต่ที่สุดการนัดหมายก็เรียบร้อยดี อีเรียมสั่งไอ้จ้อยให้กลับมาบอกว่าจะแอบมาหามันตามนัด
..... แดดบ่ายเริ่มหลบ ไอ้ขวัญได้ยินเสียงสวบสาบเข้ามาใกล้ มันชะโงกไปมองก็ให้ขนลุกซู่ อีเรียมนั่นเอง สาวน้อยร่างกลมกลึงผิวคล้ำลมแดด ไอ้ขวัญพิศมองหน้าอกหน้าใจอีเรียมก็ต้องกลืนน้ำลายดังเอื๊อก นมแม่ช่างเต่งตึงกลมเกลี้ยงอยู่ในเสื้อคอกระเช้า ตูดเล่าก็บานได้เท่ากระด้งฝัดข้าวกระมัง มันบานเบ่งจนดันผ้าถุงออกเห็นชัดเจน ยามอีเรียมเดินก็กระเพื่อมราวกับวุ่นกระเพื่อม อีเรียมเดินเอียงอายเข้ามาใกล้ ก่อนทรุดกายลงนั่งแล้วเอ่ยปากถามว่า "พี่ขวัญนัดฉันมามีอะไรหรือ" "ข้าคิดถึงเอ็งเรียมเอ๋ย นับแต่พ่อเราผิดใจกัน ข้ากับเอ็งก็ไม่ได้พบปะกันเลย เอ็งสบายดีอยู่หรือ" อีเรียมเงยหน้ามองไอ้ขวัญด้วยสายตาใสซื่อ ก่อนตอบด้วยเสียงใสว่า "ฉันสบายดี พี่ขวัญเล่า สบายดีหรือ ฉันเองก็คิดถึงพี่ขวัญ" ไอ้ขวัญยิ้มกว้างเมื่อได้ยินน้ำคำจากปากสาวน้อยว่าคิดถึงตน ก่อนถามอีเรียมถึงความหลังครั้งยังวิ่งเล่นด้วยกันว่า "ข้าสบายตัวดี แต่ใจน่ะมันไม่สบาย คิดถึงเอ็งเหลือเกิน ยังจำได้ไหม แต่ก่อนเราเคยเล่นด้วยกัน ตอนนี้ข้าไม่มีเพื่อนเล่นเลย ขาดเอ็งไปข้าแทบขาดใจ" อีเรียมสะเทิ้นอายเมื่อไอ้ขวัญท้าวความไปถึงอดีตที่เคยเล่นด้วยกัน ภาพนั้นเหมือนจะลอยมาอยู่ตรงหน้า
..... ตอนนั้นเรียมพึ่งจะอายุย่าง 12 ก่อนหน้านั้นก็มักจะเล่นขายข้าวขายแกงกับหมู่เพื่อน แต่มาวันหนึ่งเพื่อนก็หายหน้ากันไปหมด เพราะอีจันทร์มันเป็นอีสุกอีใส พ่อแม่จึงต่างเก็บลูกไว้ในบ้านไม่ให้มาเล่นด้วยกันต่างก็กลัวติดโรค เรียมนั่งหงอยอยู่คนเดียวขณะที่ผู้ใหญ่ออกทุ่งนากันหมด ไอ้ขวัญย่องมาจากบ้านมาหาเพื่อนเล่น แต่ก็เช่นเดียวกับเรียมคือหาใครไม่ได้ ทั้งสองมองตากันอย่างอายๆ ไอ้ขวัญไม่เคยเล่นกับเด็กผู้หญิง อีเรียมเล่าก็ไม่เคยเล่นกับเด็กผู้ชาย แต่วันนี้หมดหนทางเหลือกันอยู่สองคน ไอ้ขวัญจึงชวนอีเรียมเล่นลูกหิน ข้างอีเรียมก็ชวนไอ้ขวัญเล่นขายข้างขายแกง ลงท้ายเลยตกลงเล่นอย่างใหม่ คือจะลองเล่นผัวเล่นเมียกันดู
..... มันก็เล่นไม่เป็นกันทั้งสองคนนั่นแหละ อีเรียมถามไอ้ขวัญว่าผัวเมียเล่นกันอย่างไรหรือ ไอ้ขวัญเองก็เพียงแต่เคยแอบดูทิดมั่นกับนังอิ่มเย่อกันที่โคนประดู่กลางทุ่ง ฟากขะโน้นมาหนสองหน เห็นไม่ค่อยชัดนักเพราะต้องแอบดูอยู่แต่ไกล รู้ก็แต่ว่าทิดมั่นแก้ผ้าขะม้า ข้างนังอิ่มก็ถลกผ้าถุง เมื่อเล่าให้อีเรียมฟังมันก็ดีใจหาย รีบถลกผ้าถุงขึ้นไปถึงเอว ไอ้ขวัญถึงกับตาเหลือกเมื่อเห็นอีปิ๊ของอีเรียมเข้าเต็มลูกกะตา มันขาวนวลอวบเป็นโคก ดูเหมือนมีรอยแยกตรงกลาง แต่มีเนื้อมาก่ายกันปิดสนิท อีเรียมถลกผ้าถุงเสร็จสรรพก็ถามไอ้ขวัญว่าไม่ถอดผ้าขะม้าหรือ ไอ้ขวัญก็ต้องยอมทำตามเพราะมันเองที่เป็นคนบอกวิธีการ อีเรียมเองก็ตาเบิกโพลงมองหว่างขาไอ้ขวัญ กระจู๋ขนาดเหมาะกับตัวชี้โด่พุ่ง ไอ้ขวัญเองก็อายๆปกติกระจู๋มันจะโด่ในยามเช้า เยี่ยวแล้วก็หดหายไปทั้งวัน นี่มันตะวันบ่ายแล้วกระจู๋ไม่รักหน้าเจ้าของ ชี้โดเด่ให้ได้อาย อีเรียมตาก็มองกระจู๋เป๋งแต่ปากถามว่าแล้วเล่นอย่างไรกันต่อ ไอ้ขวัญก็บอกต้องนอนทับกัน มันจึงให้อีเรียมนอนลงบนกองฟางในคอกควายที่เจ้าของไม่อยู่ เพราะไปไถนาอยู่กลางทุ่งไกลโน่น อีเรียมลงนอนแต่โดยดี ไอ้ขวัญจึงจัดการแหกแข้งขาอีเรียมให้ถ่างกว้าง อีปี๊ก็ลอยเด่น แล้วทำยังไงต่อวะ ไอ้ขวัญก็ชักงง คิดไปมือมันก็ลองยื่นไปจับอีปี๊ของเรียมเล่น พอลูบเข้าเท่านั้นเจ้าของอีปี๊ถึงกับร้อย อี๊ย์ย์ เพราะมันเสียวปล๊าบเข้าไปถึงหัวใจ ไอ้ขวัญตกใจถึงกับหดมือหนี แต่อีเรียมชักติดใจปากจึงบอกให้ไอ้ขวัญลูบใหม่ ไอ้ขวัญก็ลองซ้ำสองซ้ำสาม ลูบหนักมือขึ้นจนมันค้นพบว่า รอยแยกที่เห็นนั้นมันมีรู เพียงแต่แหวกกลีบเนื้อที่ก่ายกันจนปิดแน่นออก ก็พอจะมองเห็นรูตีบๆตันๆสีแดงสด ที่เปียกชื้นฉ่ำด้วยน้ำอะไรไม่รู้ มันเหนียวๆลื่นๆพิกล อีกทั้งเนื้ออีปี๊มันช่างละมุนละมัยมือยิ่งนัก เกิดมาไม่เคยจับเนื้อส่วนไหนแล้วรูสึกใจเต้นระรัวเช่นนี้มาก่อน ขณะที่ไอ้ขวัญลูบไปพิจารณาไปอย่างสนอกสนใจนั้น อีเรียมก็นอนครางอือๆบิดเอวไปมา นิ้วไอ้ขวัญแตะลงตรงไหนก็ให้เสียงสะท้านไปตรงนั้น ยิ่งตอนไอ้ขวัญใช้สองมือแหวะกลีบเนื้อแบะไปมา อีเรียมถึงสะดุ้งสะท้านขนลุกเกรียว นิ้วไอ้ขวัญก็เปะปะไปเรื่อย จนไปบดเบียดเม็ดละมุดอีเรียมเข้า ตอนนั้นเองที่อีเรียมถึงกับเกร็งไปทั้งตัวจนตัวงอ ไอ้ขวัญเห็นว่าท่าจะเป็นของสำคัญจึงลองบดลองบี้ติ่งเนื้อนั้นใหญ่ เล่นเอาอีเรียมกัดฟันครางอือๆในคอไม่หยุด น้ำเหนียวๆก็ไหลออกมามากเข้าจนชุ่มเปียกไปทั้งอีปิ๊ ยิ่งลูบอีเรียมกระจู๋ของไอ้ขวัญก็ยิ่งแข็งเป๊ก มืออีเรียมก็ป่ายปัดมาโดนเข้าโดยบังเอิญ ไอ้ขวัญถึงกับสะท้านบ้าง มันโดนกระจู๋ตัวเองอยู่ทุกวัน มีเสียวบ้างก็ยามไปถอกมันเล่น หากถอกมากๆเร็วๆก็ได้น้ำขุ่นขาวพุ่งออกมาพร้อมกับเสียวซ่าน แต่มาโดนมืออีเรียมเพียงป่ายปัด มันเสียวสยองมากกว่าหลายเท่า ไอ้ขวัญจึงทิ่มกระจู๋ลงในมืออีเรียม ปากก็บอกให้อีเรียมจับไว้ๆ เรียมเองก็เสียวจนหูอื้อตาลาย ไอ้ขวัญสั่งอันใดก็ทำให้ เรียมจับกระจู๋ไอ้ขวัญที่กระดกหงึกหงักไปมา คอยจะหนีมืออยู่เรื่อย เรียมคร้านที่จะลืมตามองเพราะกำลังเสียวเพลินๆ จึงพยายามกำกระจู๋ไว้ให้แน่น ไอ้ขวัญก็กระเด้ามืออีเรียมด้วยสัญชาติญาณ ยิ่งกระเด้ายิ่งเสียว น้ำเหนียวๆไหลซึมออกมาจากปลายกระจู๋ไอ้ขวัญ ทำให้หัวมันเริ่มลื่นเพิ่มความเสียวขึ้น มือไอ้ขวัญก็บี้บดเม็ดละมุดอีเรียมเอวก็กระเด้ามือเร็วขึ้นๆ อีเรียมนั้นเสร็จไปก่อน เสียวสะท้ายซ่านซ่าไปทั้งกาย ตัวเบาหวิวสุขสมอย่างที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน มือบีบเกร็งจับกระจู๋ไอ้ขวัญไว้แน่น ข้างไอ้ขวัญก็เสียวซ่าสุดขีด ยิ่งกว่าถอกกระจู่ตัวเองเล่นมากนัก มันพ่นน้ำขาวขุ่นออกมาหลายพรืด กระเด็นไปติดสีข้างอีเรียม ก่อนทิ้งตัวลงนอนหอบด้วยความเหน็ดเหนื่อยที่ไม่รู้จักมาก่อน
ตะวันบ่าย มากเมื่อไอ้ขวัญรีบวิ่งกลับบ้าน อีเรียมเองก็ต้องไปซักผ้าถุงกับเสื้อที่เลอะขี้ควายปนกับน้ำกระจู๋ไอ้ขวัญ คืนนั้นทั้งไอ้ขวัญและอีเรียมต่างก็นอนคิดถึงรสชาติการเล่นผัวเมีย และนึกระทึกใจกับบ่ายวันพรุ่งที่นัดกันมาเล่นซ้ำอีก
.... เช้าวันถัดมาเหมือนฟ้าถล่ม เมื่อพ่ออีเรียมพาพวกมาทวงเงินกู้ที่พ่อไอ้ขวัญเอานาไปจำนองไว้ สัญญาที่เขียนไว้กลับถูกต่อเติมจนพ่อไอ้ขวัญต้องจำนนเสียที่นาผืนใหญ่ไป เพื่อนกันเผาเรือนกันเอาดื้อๆ โกงกันอย่างเจ็บแสบ สองพ่อลูกต้องอพยพไปอยู่ยังนาผืนเล็กบนโคกกันดาร พ่อไอ้ขวัญประกาศไม่เผาผีกับพ่ออีเรียม ทำให้อีเรียมกับไอ้ขวัญต้องจากกันไม่ได้พบพานตั้งแต่วันนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น