วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อ้อม แฟนผม ตอนที่ 1

 

               
สวัสดีครับผมมีเรื่องของแฟนผมมาเล่าให้ฟังจะทยอยพิมส่งมาทีละตอนนะครับ เริ่มตั้งแต่ยังไม่รู้จักกันเลยนะครับ  เรื่องมันมีอยู่ว่าผมต้องไปทำงานโดยต้องเดินทางไปกับเรือเมล์ทุกวัน(คลองใน กรุงเทพอ่ะครับ)  แล้วผมก็ได้เจอกับสาวคนหนึ่ง รูปร่างตัวเล็กครับสูงสัก 155 ได้ หน้าใสกิ๊กเลยครับ คิ้วเข้มกำลังดีผมตรงยาวเกือบถึงเอว ตาโต ริมฝีปากชมพูเลยครับ แต่ที่ถูกใจที่สุดก็คือเธอใส่ฟันเหล็กครับ(ผมชอบสาวดัดฟัน...55) ส่วนผมก็เป็นคนตัวเล็กครับสูง 165 เท่านั้น ก็เลยชอบสาวที่ตัวเล็กๆ คนนี้เลยโดนใจทุกอย่างเลยครับ  ผมแอบมองเธออยู่หลายวันแต่ไม่กล้าคุยด้วย จนวันหนึ่งที่ท่าเรือคนเยอะมาก(ความจริงก็เยอะทุกวันแหละครับ...เฮ้อ) ผมกลัวไปทำงานสายเลยลงไปยืนเบียดกับคนอื่นๆ เธอก็ลงมาด้วยครับ ขยับไปขยับมา เธอดันมายืนอยู่ด้านหน้าผมครับ ผมงี้ยืนตัวเกร็งเลย เรือมาถึงท่าต่อไปคนยิ่งลงมาอีกทำให้ผมตัวติดกับเธอเลยครับจังหวะนั้นผม รู้สึกว่าไอ้นั่นของผมไปโดนด้านหลังของเธอ ขยับถอยก็ติดคนก็ปล่อยเลยตามเลย เธอก็ไม่ได้ขยับหนี ผมจึงถือโอกาสดมผมเธอ อืม.. หอมดีน่าจะเป็นคนสะอาดสะอ้าน แต่อยู่ดีๆเรือก็กระแทกกับท่าอย่างแรงผมมัวสนใจแต่เธอจนตัวเซไปด้านหน้า โถมน้ำหนักเข้าด้านหลังเธอ มือก็จับเอวเธอไว้เพราะเธอเองก็จะล้มไปด้านหน้าเหมือนกันพอเรือเริ่มนิ่งผม ก็ปล่อยมือลง แต่พอมือลงไอ้นั้นของผมกลับขึ้นแทนครับเพราะมันถูอยู่กับร่องก้นเธอพอดี เธอใส่กางเกงค่อนห้างหนาแต่ผมก็รู้สึกว่าก้นเธอเต่งตึงน่าจับชะมัดเลย ผมยืนถูร่องก้นเธออยู่พักนึง ใจก็จินตนาการไปต่างๆนาๆจนถึงอีกท่าคนก็พยามยามเบียดกันลงมาอีกจนผมถูกเบียด ถอยไปอีก แล้วก็มีคนมายืนหลังเธอแทนที่ผมครับ ผมละเสียดายแต่ก็ต้องทำใจ แต่ไอ้คนที่มายืนแทนที่ผมนี่สิครับ มันเป็นนักเรียนเทคนิคหรือนักศึกษาช่างอะไรนี่แหละครับ(เดาเอานะจากชุด)ผมก็ เพิ่งสังเกตว่าตอนนี้ด้านข้างและด้านหลังเธอมีแต่พวกเด็กช่าง 3 คนครับ  ผมขยับมองว่ามันใกล้ชิดเธอขนาดไหนเลยเห็นไอ้คนด้านซ้ายมือของเธอศอกของมัน เหมือนจงใจจะให้โดนนมเธอแต่เธอเอามือกันหน้าอกไว้ตลอด แต่คนด้านหลังเธอนี่สิครับ ตอนแรกๆก็ยืนเอาไอ้นั่นชนก้นเธอเฉยๆ แต่หลังๆเริ่มขยับถูไปมาผมมองเห็นที่กางเกงมันโด่ขึ้นมาเลยครับ ผมมองไปอีกด้านคนที่อยู่ด้านขวาของเธอ มันเอื้อมมือซ้ายมาด้านหลังเธอที่โดนเพื่อนมันถูแล้วก็จับก้นเธอหมับเลยครับ เห็นเธอสะดุ้งแต่ไม่กล้าโวยวายจะขยับหนีก็ไม่ได้คนแน่นไปหมด ไอ้คนด้านขวานี่ร้ายมากครับมาขยับมือขึ้นบนสอดมือเข้าใต้เสื้อเธอลูบขึ้นลง แถวๆเอวและขึ้นไปทีละนิด แล้วไอ้คนด้านซ้ายที่พยายามจะโดนนมเธอก็กระซิบข้างๆหูเธอ ไม่รู้ว่าพูดอะไรแต่เธอเอามือที่กันหน้าอกลงเป็นจังหวะที่เรือโคลงเคลงพอดี ผมสียหลักนิดหน่อย แต่พอกลับมามองอีกทีไอ้คนด้านซ้ายกำลังจับมือเธออยู่แนบลำตัว แล้วมันก็ดึงมือของเธอไปถูกับไอ้นั่นของมัน เธอก้มลงคงจะกลัวคนเห็น ผมยิ่งช็อคครับเมื่อเห็นมันจับมือเธอยัดลงไปในกางเกงมันครับ แต่โชคยังเข้าข้างครับเมื่อถึงท่าที่เธอต้องลงและมีคนลงเยอะด้วย พวกนั้นรีบเอามือออกทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ส่วนเธอเดินก้มหน้ารีบแทรกตัวลงเรือไปอย่างรวดเร็ว  ผมเองยังอึ้งไม่หาย ทำไมพวกมันจึงกล้าขนาดนี้
               
หลังจากวันนั้นผมก็พยายามห่างๆเธอครับกลัวเธอหาว่าเป็นพวกโรคจิตแบบพวกนั้น แต่ก็ต้องขึ้นเรือท่าเดียวกันทุกวัน คุ้นหน้ากันดี เย็นวันนึงผมลงเรือมาก็รีบกลับห้องพัก บังเอิญเธอคงมาเรือลำก่อนหน้าผม เห็นถือของพะรุงพะรังไปหมด ผมเดินตามห่างๆ พอดีมีคนเดินมาชนเธออย่างจัง! เธอล้มลงของตกกระจายพอสมควร แต่ไอ้คนนั้นนี่สิครับมันเดินต่อไปเลยไม่ได้หันกลับมาดูเป็นผู้หญิงซะด้วย ผมเลยไปช่วยเธอเก็บของ เธอยิ้มและขอบใจผม เพราะเธอจำผมได้ ลึกๆผมก็ดีใจนะครับที่จำผมได้แต่ก็ไม่กล้าคิดอะไรมาก พอเก็บของเสร็จผมก็ชวนเธอคุยนิดหน่อยแล้วบอกเธอว่าของเยอะแยะให้ผมช่วยถือไป ส่งไหม  เธอทำท่าทางลังเลแต่ก็ตอบตกลง ผมนี่อยากจะตะโกนขึ้นฟ้าดังๆจริงๆเลย เดินไปคุยไปแต่เธอชวนคุยเสียมากกว่า ผมนี่มันไม่ได้เรื่องเลย(ปกติเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว) เดินมาจนถึงคอนโดที่เธออยู่ อือ..หรูใช้ได้เลย ไอ้เราอยู่อพาร์ทเม้นเดือนละสองพัน   (ฝันสูงไปป่าวว่ะกรู) เธอชวนเข้าไปกินน้ำกินหนมในห้องแต่ผมขอกลับก่อนเพราะว่าวันนั้นผมรีบจริงๆ แล้วผมก็บอกลาเธอกลับไปห้อง






อ้อมแฟนผม ตอนที่ 2
หลัง จากวันที่ผมได้ไปส่งเธอ เราก็เจอกันแทบทุกเช้าผมจึงได้รู้ว่าเธอชื่ออ้อม ตอนนี้อายุ 21 เพิ่งเรียนจบทำงานพาร์ททามอยู่ครับกำลังรอจะรับปริญญาแล้วค่อยหางานจริงๆ จังๆทำ ส่วนผมตอนนี้ 23 แล้วทำงานบริษัทหนึ่งค่อนข้างมั่นคงพอสมควร แต่เงินเดือนน้อย เศร้าจริงๆเลย ที่ว่ามั่นคงนี่คือคงไม่โดนไล่ออกแน่ๆอ่ะครับ ก็มีเงินพอใช้เดือนต่อเดือนเอง เวลาผ่านไปสักเดือนนึงที่เราเจอกันคุยโทรศัพท์กัน เธอก็ชวนผมไปทำอะไรกินกันที่ห้องเธอ มีเหรอที่ผมจะพลาด พอผมไปถึงเห็นเธอตอนเปิดประตูมารับ วันนี้เธอแต่งตัวดูสบายๆกว่าทุกวันเพราะปกติเธอจะใส่กางเกงขายาว เสื้อยืดบ้าง หรือเสื้ออะไรที่ดะมัดทะแมง แต่วันนี้เธอใส่กางเกงขาสั้นแบบผ้ายืดสีขาว เสื้อกล้ามพอดีตัวสีฟ้า+ขาว ทำให้ผิวเธอยิ่งขาวแสบตาไปกว่าเดิมอีก พอเข้ามาในห้องก็นั่งคุย นั่งโทรทัศน์สักพักเธอก็ไปทำข้าวผัดในครัว ตอนเธอเดินไปแอบผมมองด้านหลังของเธอ ก้นงอนกำลังดี เอวเป็นเอว เรียวขาถึงจะดูมีเนื้อไม่เรียวเหมือนนางแบบแต่ก็ไม่ใหญ่ ดูดีเหมาะสมกับรูปร่างทำเอาผมต้องเอามือปลอบท่อนเอ็นของตัวเองไม่ให้ ฟุ้งซ่าน ไม่นานเธอก็ยกข้าวผัดมานั่งกินกับผมสองคน ตอนนั้นผมเลยถือโอกาสถามเธอว่ามีแฟนหรือยัง เธอชะงักเหมือนคิดอะไรอยู่แล้วเธอจึงถามกลับว่า ‘ชอบเธอเหรอ’ ผมมองหน้าเธอแล้วตอบแบบไม่ลังเลว่าใช่ ชอบมากๆ แล้วเธอก็พูดต่อ... รับได้ไหมถ้าเธอไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์... ผมอึ้งเลยครับ ไม่คิดว่าเธอจะบอกมาตรงๆแบบนี้ ผมเลยบอกไปว่าไม่แคร์หรอก “สมัยนี้มันเป็นเรื่องปกติแค่ผมชอบเธอ ก็พอแล้ว ตกลงเรามาลองคบกันดูมั้ยละ “ เธอตอบตกลงผมนี่ดีใจจนแทบคลั่งเลยแต่แล้วก็มีเสียงโทรศัพท์มือถืออ้อมดัง ขึ้น เธอเดินไปคุยที่ระเบียง พอคุยเสร็จเธอเดินมาบอกให้ผมกลับไปก่อนพอดีเธอมีธุระข้างนอก เธอจะขอแต่งตัวผมก็เลยลาเธอ เดินออกมาได้ไกลพอสมควรจึงรู้ตัวว่าลืมมือถือไว้ในห้องเธอจึงเดินกลับไปที่ ห้องระหว่างขึ้นลิฟท์ผมขึ้นไปพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งดูเหมือนเสี่ย อายุประมาณ 50 กว่าๆได้ตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่เราออกจากลิฟท์ชั้นเดียวกันเขาเดินออกไปก่อนแล้วเดินตรงไปทางห้องอ้อม ผมเดินตามห่างๆ แล้วเขาก็หยุดหน้าห้องอ้อมแล้วเคาะประตู ผมหยุดแล้วหลบดูทีท่า เห็นประตูห้องเปิดแล้วเขาก็เข้าไปได้โดยเจ้าของห้องไม่ขัดขืนแล้วประตูห้อง ก็ปิดลง ผมรีบไปที่ประตูห้องอ้อมทันที เอาหูแนบประตูพยายามฟังเสียงคนในห้อง “มีอะไรหรอน้องอ้อม มีอะไรจะบอกเสี่ยเหรอ” ... “อ้อมมีแฟนแล้วขอให้เรื่องชองเราจบลงแค่นี้นะ อ้อมจะย้ายออกจากที่นี่เสี่ยจะได้ไม่เปลืองเงินเสี่ยด้วย” เงียบไปสักแปปได้ยินเสียงเสี่ยคนนั้นพูด “ก็ได้ ส่วนเรื่องเงินที่พี่สาวเธอยืมไปเสี่ยจะยกหนี้ทั้งหมดให้แล้วกัน แต่เสี่ยขออย่างเดียว ... ขอเสี่ยมีความสุขกับหนูอ้อมอีกสักวันได้มั้ย “อย่า เสี่ยอย่าค่ะ ไม่เอา “ แล้วเสียงพูดกันก็เงียบไป ผมฟังอยู่สักพักได้ยินเสียงกุกกักๆ แต่ไม่ดังนัก ตอนนั้นใจผมแทบจะสลายเป็นเสี่ยงๆ สับสนเอามากๆ เวลาผ่านไปสัก 10 นาที ผมจึงลงไปข้างล่างหยอดตู้โทรศัพท์โทรไปหาเธอ นานเหมือนกันกว่าจะรับ “ฮัลโหล อ้อมคือว่าผมลืมมือถือไว้ที่ห้องอ้อม ฝากเก็บไว้ให้ด้วยนะวันหลังค่อยมาเอาคืน” “จ๊ะ อ๊ะ....เธอเผลอออกมานิดนึงแต่เธอก็พยายามคุยเสียงปกติที่สุด แต่เสียงจากการกระแทกผมได้ยินชัดพอสมควรแต่ไม่อยากถามให้ช้ำใจตัวเอง แล้วผมก็รีบวาง แล้วเดินกลับบ้านแบบซังกะตาย หลังจากนั้นอีกเป็นสัปดาห์ผมก็พยายามหลบหน้าเธอรีบไปทำงานเร็วไม่ไปหาเธอที่ ห้อง ทั้งที่มือถือผมอยู่ที่เธอ ช่วงนั้นผมใช้เวลาอยู่กับเพื่อนที่ห้อง ผมอยู่กับเพื่อนอีกสองคนครับระหว่างนี้ก็คิดถึงเรื่องของอ้อมตลอด สัปดาห์เดียวแต่เหมือนนานมากผมคิดถึงอ้อมจริงๆ จึงตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะไปเจอหน้าเธอสักที แล้วจะเอาไงค่อยว่ากัน ไว้ต่อตอนต่อไปนะครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น