วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2566

[Side Story] เรื่องเล่าของนายโจ้ยอดชาย : พี่เป้ #5 END


=======================================

ท่อนควยเปลือยเปล่าของผมตอนนี้ถูกกดแช่คาไว้ในร่องหีของพี่เป้แบบมิดด้ามมิดโคน ความรู้สึกเวลาที่ท่อนเนื้อของตัวเองรูดเสียดสีไปกับโพรงเนื้อด้านในของเธอโดยตรง มันโคตรจะฟินซะจนผมเองก็อธิบายไม่ถูกเลยล่ะครับ เพราะที่ผ่านมาพี่เป้เธอไม่เคยยอมให้ผมเย็ดสดๆ แบบนี้มาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว

“คิดถึงหีเมียที่สุดเลยรู้มั้ย อิอิ” ผมแกล้งกระซิบเสียงหื่นๆ ยั่วเธอเล่น
“น่าเกลียด! ใครเป็นเมียแกยะอีบ้า?” พี่เป้ใช้มือตีแขนผมแรงๆ เพราะความเขิน
“อ้าว... ก็พี่ไงครับ ควยทิ่มเข้าไปขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่เรียกเมียก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วเนี่ย” ผมยิ่งพูดแซวหนักขึ้น
“ไอ้บ้าๆๆๆ” พี่เป้ยิ่งออกอาการเขินอาย รีบก้มหน้างุดๆ หนีผมใหญ่เลย... หนีได้ก็หนีไปครับ เพราะว่าผมกำลังจะเริ่มต้นติดเครื่องเย็ดหีเธอในอีกไม่ช้านี้แล้ว

“อุ๊...! อู๊ยยย..... ซี้ดดดดดส์” พี่เป้ซี้ดปากครางกระเส่าเมื่อโดนผมออกแรงโม่ควยบดหีเธอเป็นวงกลม ท่อนเนื้อสีน้ำตาลเข้มคล้ำมุดผลุบเข้าผลุบออกร่องรูของเธอดังซวบๆ เต้านมคู่อวบของเธอต่างก็ถูกผมบีบขยำแบบเต็มไม้เต็มมือ จนมันกลายเป็นรอยแดงจ้ำตัดกับผิวขาวๆ ของเธอ
“พี่เป้คิดถึงผ.... คิดถึงควยผมมั้ยครับ?” ผมเอ่ยปากร้องถามเธอด้วยเสียงกระเส่า
“อื้ออออ..... อื้มมมมม” เธอเม้มปากเอาไว้แน่น ปล่อยเสียงครางหลุดลอดออกมาเบาๆ ไม่รู้ว่ากำลังพยายามกลั้นเสียงเอาไว้หรือว่ากำลังร้องครางตอบผมกันแน่ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเอาคำตอบอะไรจริงจังอยู่แล้ว เพราะแค่อยากพูดกระตุ้นอารมณ์ของเธอเท่านั้น

ผมจับขาเธอถ่างอ้าออกกว้าง ใช้สองมือจับยึดข้อเท้าเธอยกค้างลอยกลางอากาศ กระดกบั้นเอวสอยควยมุดเข้าไปในรูหีเธออย่างเป็นจังหวะ ทั้งตอก ทั้งรูดแบบเน้นๆ เสียงดัง ปั้บ!....บบบบ ปั้บบ!.... บบบบ ปั้บบบบ! ดังสนั่นสะใจ พี่เป้ที่โดนดอกนี้เข้าไปก็เริ่มจะฝืนข่มใจเอาไว้ไม่ไหว ค่อยๆ หลุดปากร้องครางออกมาให้ผมได้ยินดังขึ้นเรื่อยๆ เธอพยายามใช้สองมือดันหน้าท้องของผมเอาไว้เพื่อช่วยชะลอความเสียวที่กำลังเกิดขึ้น แต่ก็ดูจะไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าไหร่ เพราะในที่สุดแล้ว เธอก็ต้องยอมแหกปากร้องซี้ดส์ๆ ออกมาดังๆ อยู่ดี

“อ๊ะ! อ๋าาา....! สสสสซี้ดดดดดดส์ อ๊าาาาาา โอ๊ยโจ้..... มันเสียววว” พี่เป้ครวญครางไม่ได้ศัพท์ สะบัดหน้าไปมาอย่างร้อนร่าน สองขาถ่างอ้าแบบสุดๆ สองมือที่เคยผลักดันตัวผมออก ตอนนี้กลับหงายจิกขยุ้มผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น
“อืมมม.... ชอบมั้ยพี่ โดนควยผมเย็ด... แบบนี้” ผมร้องครางถามเธอเสียงสั่นเครือ เนื่องจากกำลังโดนร่องหีด้านในขมิบตอดรัวๆ ตลอดเวลาที่กระเด้าเย็ดเธอ
“ชะ.... ชอบบ ชอบมากเลย โจ้ทำพี่... เสียวตลอดเลย โอ๊ยย” พี่เป้ละล่ำลักตอบกลับมา น้ำเสียงสั่นสะท้านพอกัน
“ผมก็ชอบเย็ดพี่เหมือนกันครับ หีพี่... ตอดควยผมไม่หยุดเลย อูยยย” ผมทิ่มควยงัดเสยเข้ารูหีเธอจนมิดโคน ก่อนจะขยับเอวถอนมันออกมาจนเกือบจะสุดลำ พี่เป้รีบแอ่นสะโพกประคองตามเหมือนกลัวว่ามันจะหลุดออก ผมมองหน้าเธอยิ้มๆ แล้วก็กดควยสวนกลับเข้าไปพรวดเดียวมิดด้าม เล่นเอาพี่เป้ถึงกับหลังแอ่น ร้องซี้ดซ้าดเสียงดังอย่างอร่อยรูหี

พี่เป้สุดที่รักตอนนี้ได้แต่นอนถ่างขาหมดสภาพ ปล่อยตัวปล่อยใจให้ผมกระหน่ำเย็ดหีเธอจนกลีบแคมปลิ้นเข้าปลิ้นออก ปากร่องทั้งสองข้างทั้งอ้าทั้งอมท่อนเนื้ออวบใหญ่ของผมเอาไว้สุดคอหอย เอ้ย! สุดคอหี ทุกครั้งที่ลำควยผมบดเบียดเสียดสีกับร่องหลืบด้านใน พี่เป้ก็จะออกอาการเงี่ยนง่าน สะบัดตัวดิ้นเร่าๆ ราวกับว่ากำลังโดนผมใช้สว่านมุดคว้านหีเธออยู่ก็มิปาน ผมเย็ดเธอแบบนี้อีกพักนึงก็เริ่มเบื่อ เลยจับเธอพลิกตัวขึ้นมานอนทาบทับผมบ้าง พี่เป้ที่กำลังติดลมรีบตะกายปีนขึ้นมานั่งคร่อมตัวผมไว้อย่างเร่งรีบ แล้วก็ค่อยๆ ขยับตัวออกแรงบดอัดสะโพกขย่มหีขยี้ควยผมอย่างเมามัน สูดปากร้องครวญครางอย่างห้ามอกห้ามใจไม่ได้ ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้นอนอู้กินแรงเธอข้างเดียว สอดมือล้วงเข้าไปขยำขยี้เต้านมของเธอด้านในเสื้อเล่นไปพร้อมๆ กัน...

พี่เป้เร่งขย่มควยผมดังปั้บๆๆ ได้ไม่ทันถึง 10 นาที ก็ทำท่าว่าจะไม่ไหวเอาเสียแล้ว

“อ๊าาาา.... โจ้.... พี่... พี่เสียวว.... ฮืออออ” พี่เป้คร่ำครวญเสียงเหมือนคนจะร้องไห้ จนผมต้องแอบเงยหน้าขึ้นมาดูอาการของเธอ พี่เป้หลับตากัดปาก คิ้วขมวดยู่ยี่ชนกัน แหงนหน้าเริ่ดๆ เร่งขย่มตอผมยิกๆ เร็วขึ้นเรื่อยๆ
“พี่เป้เสียวหีมั้ยครับ?” ผมถามกระตุ้นอารมณ์เธอ
“โอ๊ยย... เสียววว...วววว” พี่เป้ครางตอบเบาๆ
“พี่ต้องตอบด้วยสิครับว่าเสียวตรงไหน.... เสียวหีมั้ยครับคนดี?” ผมถามจี้เธอไปอีก
“อ๊าาา เสียว... พี่เสียวหี” คราวนี้เธอครางตอบมาเสียงดังฟังชัดอย่างลืมตัว ด้วยว่าอารมณ์เสียวนั้นกำลังพุ่งขึ้นสูงได้ที่
“อ๊ะ.... อ๋าาา อาาาาห์ โจ้.... พี่จะถึง... โอ๊ย...! พี่จะถึงแล้ว.....วววว” พี่เป้ร้องได้แค่นั้นก็น้ำแตก น้ำหีไหลทะลักพรวดๆ ออกมาจากร่องรูด้านใน จนอาบลำควยผมซะเปียกชุ่ม เธอผวาตัวโผเข้ากอดซบอกผมไว้แน่น กระดกสะโพกบดเบียดหน้าขาผมยิกๆ เพื่อคลายความเสียวที่เกิดขึ้นกลางตัว

ผมโน้มใบหน้าเธอเข้ามาจูบปาก บดริมฝีปากเข้าหากันอย่างเร่าร้อน ในจังหวะที่ร่างกายของเธอกำลังฟื้นตัวจากอาการถึงจุดสุดยอด ลิ้นของเราสองคนพัวพันไปมาเหมือนงูที่เกี่ยวกระหวัดกัน พี่เป้หลับตาจูบปากผมอยู่อย่างนั้นอีกครู่นึง ก่อนจะค่อยๆ ถอนปากออก โหย่งก้นยกตัวลอยขึ้นช้าๆ จนท่อนเนื้อของผมหลุดผั้วะออกมา แล้วเธอก็ขยับตัวลงไปนอนสลบอยู่ข้างๆ อย่างอ่อนแรง แต่ถึงยังไงก็ไม่มีทางที่ผมจะยอมปล่อยให้เธอได้พักง่ายๆ หรอกครับ ในเมื่อตัวผมเองยังไม่ทันเสร็จกิจเลยนี่

ผมรีบขยับตัวตามไปประกบเธออย่างรวดเร็ว สองมือก็จับถลกเสื้อยืดของเธอรูดออกเหนือหัว พี่เป้ที่แม้จะยังหมดแรงอยู่ แต่ก็ดูจะยอมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ รีบชูแขนขึ้นค้างไว้เพื่อให้ผมรูดมันออกได้ง่ายดายยิ่งกว่าเดิม ยกทรงสีครีมที่เกาะรั้งอยู่หลวมๆ เหนือเนินอก คือปราการชิ้นสุดท้ายที่พยายามจะปกป้องเธอให้รอดพ้นจากการเปลือยเปล่า ซึ่งตัวมันเองก็ดูเหมือนเจียนอยู่เจียนไปเต็มทีแล้ว พอผมออกแรงดึงเพียงนิดเดียว มันก็รีบลอยหวือหลุดตามฝ่ามือของผมออกมาอย่างง่ายดาย คล้ายๆ กับว่าจะสมยอมด้วยซ้ำ และแล้ว... เรือนร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนของพี่เป้ จึงได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าของผมอีกครั้งอย่างชัดเจน เธอรีบตะแคงข้างหันตัวหลบทันทีด้วยความเขินอาย

ไฟหน้าขนาดคัพซีของเธอยังดูเต่งตึงเต็มไม้เต็มมือ แม้ว่าจะมีท่าทีหย่อนคล้อยลงไปบ้างเนื่องจากผ่านการมีลูกมาแล้ว แต่ก็ยังดูอวบอิ่มน่าบีบคลึงอยู่ดี ผิวกายที่ขาวเนียนไร้รอยสิวฝ้าดูสะอาดสะอ้านไม่แพ้พวกดาราสาวๆ ที่เราเคยเห็นกันตามหน้าจอโทรทัศน์ หน้าท้องขาวๆ แอบมีพุงนิดๆ กำลังเซ็กซี่ น่าขยำเล่นเป็นที่สุด และแน่นอนว่าทีเด็ดของเธอที่ใครได้เห็นเป็นต้องเหลียวหลังกลับมามองตามอย่างบั้นท้ายดินระเบิด ซึ่งก็ยังคงเด็ดดวงแจ่มแจ๋ว และน่าหลงใหลอยู่เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง สะโพกงามงอนตลอดจนถึงแก้มก้นที่โค้งเว้าและกลมกลึงได้รูป ดึงดูดให้ผมต้องรีบขยับใบหน้าเข้าไปซุกไซร้เคล้าคลอไปมาราวกับว่ามันคือหมอนนิ่มๆ ใบนึง ที่ผมใช้หนุนนอนในยามอ่อนล้า

“อย่าซี่... มันจั๊กจี้” พี่เป้ร้องปรามเบาๆ ผมได้ยินก็ยิ่งถูไถใบหน้าซุกก้นเธอหนักเข้าไปอีก ค่อยๆ ขยับเข้าไปดอมดมลึกเข้าไปถึงร่องก้น พยายามใช้จมูกดุนๆ ไปที่บริเวณประตูหลังของเธอ
“ว้าย! ทำอะไรเนี่ยโจ้!?” พี่เป้สะดุ้งเฮือก รีบพลิกตัวหนีด้วยความตกใจจนกลับมาอยู่ในท่านอนหงายอีกครั้ง ทำให้ผมได้เห็นร่องหีของเธอแบบเต็มๆ ตาชัดๆ สภาพของมันตอนนี้กำลังเบิกบานน่าดูชม เนื่องจากว่าพึ่งจะโดนท่อนเนื้อหนาๆ กระทุ้งกระแทกจนปากทางเข้าแหกอ้าเป็นรูโบ๋ คราบน้ำรักของเธอยังเหนอะนองติดอยู่ทั่วหน้าขา พอผมเห็นแบบนั้นแล้วจึงค่อยๆ พลิกร่างของเธอให้กลับไปอยู่ในท่าคุกเข่านอนคว่ำอีกครั้ง ใช้มือจรดปลายควยจ่อเข้าไปทักทายที่หน้าประตูทางเข้า แล้วค่อยๆ ดุนหัวมันให้มุดเข้าไปข้างในอย่างนุ่มนวล

“อุ๊..! ซี้ดดดดดดดส์” พี่เป้สูดปากครางเมื่อดุ้นเอ็นของผมมุดกลับเข้าไปแช่อยู่ในหีเธออีกครั้ง
“เอนลงนิดนึงครับพี่” ผมบอกพลางใช้มือช่วยดันตัวเธอให้เอนลงไปด้านหน้า เพื่อให้สะโพกของเธอแอ่นสูงขึ้นกว่าเดิม เนินก้นกลมกลึงของเธอตอนนี้ลอยเด่นเป็นสง่าจนผมต้องรีบเอื้อมมือลงไปขยำขยี้ บีบคลึงเคล้นก้อนเนื้ออวบอิ่มนุ่มนิ่มแบบเต็มกำมือ สองมือผมจับยึดสะโพกเธอไว้มั่น ขณะที่บั้นเอวก็ออกแรงเร่งกระเด้าควยใส่หีเธอจากด้านหลัง เนื้อตัวของพี่เป้ปลิวแอ่นกระเด็นกระดอนไปมาเมื่อโดนผมกระแทกหนักๆ เน้นๆ ปั้บบบ....!  ปั้บบ!... ปั้บบ!...
“อ๊ะ อาาาห์.... อ๊ะ...! อ๊ะ....! อ๋าาาาา!” เสียงครางของพี่เป้ ดังลั่นไม่แพ้เสียงเนื้อของเราสองคนที่กำลังกระทบกัน

เนื้อตัวของเราทั้งคู่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด ซึ่งพอมีการเคลื่อนไหวหนักๆ เข้าก็ไหลนองมารวมกันเป็นสาย เสียงครางกระเส่าดังตัดสลับกับเสียงหอบ เต้านมคู่งามแกว่งสะท้านไปมาราวกับลูกตุ้มขนาดใหญ่ เนินอกขาวๆ มีรอยจ้ำแดงจากการสัมผัสอย่างหนักมืออยู่เต็มไปหมด ขณะที่ด้านล่างนั้นก็กำลังดุเดือดไม่แพ้กัน ท่อนควยลำเขื่องของผมกำลังกระทุ้งร่องหลืบของเธออย่างต่อเนื่อง กระดกบั้นเอวสาวเข้าสาวออกยาวๆ ทีเดียวเกือบสุดโคน อันเป็นผลมาจากความเปียกชื้นและลื่นไหลภายในที่สั่งสมมาตั้งแต่ต้น สองมือของผมคว้ายึดเอวเธอไว้เป็นหลัก ออกแรงกระแทกกระทั้นเอวเข้ากับสะโพกของเธอเสียงดังสนั่นลั่นห้อง

ผมเย็ดเธอในท่าด็อกกี้ได้อีก 10 กว่านาทีก็ใกล้ที่จะถึงจุดสุดยอด แหกปากร้องบอกพี่เป้ให้เตรียมตัวเตรียมใจรับการถาโถมที่กำลังจะมาถึง

“ซี้ดดดดส์.... พี่เป้ ผมเสียวควยจะแตกแล้ว อู๊ยยย...” ผมร้องครางบอกเธอขณะกำลังเร่งกระดกเอวเย็ดหีเธอไม่ยั้ง
“อ่ะ... อือ พี่ก็.... จะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน” คำตอบของเธอยิ่งเรียกร้องให้ผมต้องกระเด้าหีเธอแรงขึ้นอีก
“อ๊ายยยยยยยสสสส.....ซี้ดดดดส์ อ๋าาาาา” พี่เป้แหกปากสะบัดหน้าร้องครางกลับมาอย่างถึงอกถึงใจ สะโพกขาวอวบเต่งตึงของเธอแอ่นกระแทกบดสู้กับท่อนควยของผมแบบไม่มีใครยอมใคร
“อุ๊.... อูยยยย ผมจะแตกแล้วนะพี่” ผมละล่ำละลักบอกเธอ เตรียมจะถอนควยออกเพื่อเอามาแตกรดก้นเธอตามปกติ แต่พี่เป้กลับเอื้อมมือมาดึงรั้งข้อมือผมไว้ไม่ยอมปล่อย
“มะ... ไม่ต้องเอาออกนะ.... ปล่อยข้างในได้เลย.... อ... อ๊ะ...! อืมมมม...” คำพูดของพี่เป้ทำเอาผมหูผึ่ง เกือบนึกว่าฟังผิด รีบร้องถามเธอทันทีเพราะใกล้จะถึงเต็มทนแล้ว

“จริงนะพี่?” ผมถามย้ำเพื่อความชัวร์
“อื้อ.... อื้อออ! มะ... เมนส์พี่... พึ่งหมดเมื่อวาน โอ๊ยยยยสสสส ซี้ดดดดส์...” ในเมื่อพี่เป้ร้องตอบกลับมาอย่างนั้น ผมจึงถือว่าเธอตอบตกลง และเร่งกระเด้าควยมุดหีเธอยิกๆ ก่อนที่จะทนเสียวไม่ไหว กระฉูดน้ำเงี่ยนขาวขุ่นพุ่งเข้าไปเลอะเต็มท้องเธอด้านใน
“อ๊ะ....! อ๊าาาา.... อ๋าาาาาาาายยยยยยยย.....สสสส์ ” พี่เป้ร้องกรี๊ดๆ เสียงดัง ร่องหีเกร็งกระตุกตอดลำควยตุบๆ แอ่นตัวสะบัดหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ในจังหวะเดียวกับที่ผมปล่อยน้ำเงี่ยนชุดสุดท้ายพุ่งเข้าหีเธอจนมันไหลนองเยิ้มออกมา บั้นท้ายผมก็ยังซอยยิกๆ สาวท่อนลำไปเรื่อยๆ ในขณะที่กำลังรีดน้ำตัวเองออกมาจนหมดไม่ให้เหลือซักหยด

พอสำเร็จเสร็จสบายตัวแล้วผมก็เริ่มรู้สึกแข้งขาอ่อนขึ้นมา ค่อยๆ หมดแรงล้มตัวลงนอนหงายแผ่บนเตียงทันที ส่วนพี่เป้เองก็เหน็ดเหนื่อยไม่แพ้กัน ได้แต่นอนคว่ำหน้าฟุบลงกับเตียง สองขาแหกอ้ากว้างแทบหุบไม่ลง ผมจึงดึงเธอเข้ามานอนหนุนแขนซ้ายตัวเองเอาไว้ ใช้มันโอบกอดเธอไว้แนบตัว พร้อมกับก้มลงไปหอมหน้าผากเธอเบาๆ เป็นการขอบคุณ

“เหนื่อยมั้ยครับคนดี?” ผมกระซิบถามเธอแผ่วเบา
“อือ.... เหนื่อยสิ แทบสลบเลยเนี่ย... ไม่ได้ทำตั้งนาน.... พอมาทำที ก็โดนเบิ้ลจนเข่าอ่อนเลย” เธอบ่นตอบพลางหอบไปด้วย หน้าอกหน้าใจกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ
“ก็แหม.... พี่เล่นปล่อยให้ผมคิดถึงตั้งนานนี่นา” ผมพูดอ้อน พลางซุกหน้าลงไปแนบกับเต้านมของเธอเหมือนเด็กๆ พี่เป้ใช้มือลูบหัวผมเบาๆ อย่างเอ็นดู
“คิดถึงจังเลยเนาะ... ไม่ได้นอนกอดกันแบบนี้ตั้งนานแน่ะ” ผมเอ่ยปากชวนเธอรำลึกถึงความหลัง
“นานเหรอ... แค่เดือนเดียวเอง” เธอแกล้งพูดกลับมาเหมือนไม่รู้สึกอะไร
“โหยนานดิ... เกือบสองเดือนด้วย ไม่ใช่แค่เดือนเดียว” ผมตัดพ้อเสียงน้อยใจ
“อ่ะๆ นานก็นานๆ คิดถึงก็ได้” พี่เป้ตอบเอาใจพร้อมกับอมยิ้มน่ารัก

“ผมนึกว่า จะไม่ได้มานอนกอดพี่แบบนี้อีกซะแล้ว” ผมยังชวนเล่นบทดราม่าไม่หยุด
“ทำไมอ่ะ... โจ้ก็มีสาวๆ ให้กอดตั้งเยอะแยะ ไม่เห็นต้องมาคอยพี่เลย” พี่เป้ก็ยังคงไม่ยอมอินกับบทซึ้งของผมง่ายๆ
“โธ่... เดี๋ยวนี้ผมไม่ได้ไปยุ่งกับผู้หญิงที่ไหนแล้วนะครับ พี่เชื่อผมสิ ผมคิดถึงแต่พี่เป้คนเดียวจริงๆ นะ” ผมพยายามยืนกรานด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้ว่าจริงๆ แล้วตัวเองจะพึ่งไปเย่อน้องนักศึกษาฝึกงานมาเมื่อไม่กี่วันก่อนก็ตาม
“จ้าๆ เชื่อแล้วจ้า แหม.... สงสัยจะคิดถึงจริงๆ เล่นเอาซะนองเต็มขาเลยนะ” พี่เป้พูดแซวพลางชี้ไม้ชี้มือให้ดูสภาพน้องสาวของเธอที่ผมเล่นไว้ซะเละเทะ แล้วก็ล้มตัวลงนอนหลับตาพิงแขนผมเอาไว้อย่างเหนื่อยๆ
“แฮะๆๆ” ผมได้แต่ยิ้มหัวเราะเจื่อนๆ สายตาก็จับจ้องไปยังเนินเนื้อเบื้องล่าง

ผมจ้องมองสภาพแคมหีของเธอที่ถูกทะลวงอ้าอยู่อย่างนั้นราวกับกำลังโดนมนต์สะกด มันเป็นภาพที่สวยงามที่สุดภาพนึงเท่าที่ผมเคยได้เห็นมา แคมหีของเธอแหกปลิ้นอ้าโบ๋เป็นรูกลวงๆ  เนื้อแคมยู่ยี่เป็นสีแดงแจ๋จากการเสียดสี ตรงบริเวณปากทางเข้ามีคราบน้ำรักของเธอเกาะเหนียวเป็นทางยาว และที่บาดตาบาดใจที่สุดก็คือภาพน้ำรักเหนียวหนืด สีขาวขุ่น ซึ่งกำลังไหลนองย้อยออกมาเลอะตามง่ามขา นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เราสองคนได้ร่วมรักกันแบบสดๆ เนื้อแนบเนื้อ โดยที่ไม่ต้องมีถุงยางมาคอยขวางกั้นให้รำคาญใจ จนผมเองก็อดแปลกใจไม่ได้ ว่าทำไมพี่เป้ถึงใจอ่อนยอมให้ผมทำแบบนี้กับเธอ

“พี่เป้ ผมถามอะไรหน่อยได้มั้ย?” ผมหันไปเอ่ยถามพี่เป้ที่กำลังนอนหนุนแขนผมอยู่
“หืม?” เธอครางตอบกลับมาเบาๆ โดยไม่ยอมลืมตาขึ้นมา
“ทำไมคราวนี้พี่ถึงยอมให้ผมไม่ต้องใส่ถุงอ่ะ?” ผมเอ่ยถามถึงสิ่งที่ยังค้างคาใจอยู่
“ก็.. ก็.... ไม่รู้ดิ.. ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน.. อารมณ์มันพาไปว่ะ ” เธอลืมตาขึ้นมองหน้าผม พร้อมกับคำตอบ
“ไม่ทันนึกเหรอ?” ผมถามชี้นำไปอีก
“ไม่เชิง... คือมัน.... มันเหมือนเก็บกดว่ะแก ก่อนหน้านี้มันไม่ได้เจอกันนานๆ ไม่ได้ทำมานานแล้วใช่ป่ะ พอมาวันนี้มันเลย.... เหมือนบิวท์มาถึงจุดแล้วอ่ะ จะมาเบรคมารอใส่ถุงยางมันก็อารมณ์สะดุดไง... ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ก็เลยขอปล่อยอารมณ์สุดๆ ไปเลยวันนึง อะไรแบบนี้อ่ะ พอเข้าใจป่ะ?” คำพูดของพี่เป้แม้จะฟังดูงงๆ แต่ผมก็เหมือนจะเข้าใจเธออยู่บ้าง แอบนึกดีใจที่เธอยอมไว้ใจให้ผมได้เย็ดสดๆ แบบนี้

“อืม พอเข้าใจแระ... แต่ผมก็ยังตกใจไม่หายอยู่ดีว่ะ ตอนที่พี่บอกให้แตกในได้ตะกี้ เย็ดๆ อยู่เกือบหัวทิ่มตกเตียงแน่ะ ไม่คิดว่าพี่จะก๋ากั่นได้ขนาดนี้” ผมแกล้งพูดทะเล้นใส่เธอ
“เว่อร์ๆ อีนี่ อะไรจะขนาดนั้น” พี่เป้ทำหน้าค้อนๆ เขินๆ ดูน่ารักสุดๆ
“งั้นคราวหน้า ผมขอแตกในแบบนี้อีกนะครับที่รัก” ผมรีบเนียนขอเธอล่วงหน้า พร้อมกับก้มลงไปหอมแก้มเธอ
“พอเลย ไม่เอา... ให้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวย่ะ คราวหน้าใส่ถุงด้วยนะ ไม่งั้นอด!” พี่เป้รีบปฏิเสธทันควัน
“โห! ทำไมอ้ะ?” ผมแกล้งร้องโวยวายขึ้นมา

“มันเสี่ยงอ่ะดิ! ลืมไปว่าแกแม่งเจ้าชู้ชิบหาย ไม่รู้ไปเอากับใครมาบ้างก่อนหน้านี้ นี่เดี๋ยวก็ต้องรีบไปตรวจเลือดแล้วเนี่ย ไม่รู้ติดโรคอะไรมาบ้าง” คำพูดของพี่เป้ดูทีเล่นทีจริง แต่ก็แอบจี้ใจดำของผมอยู่ไม่น้อย
“น่า นะๆ ผมสะอาดจะตายพี่ก็เห็นอยู่” ผมยังไม่ละความพยายาม ลองอ้อนขอเธออีก
“ไม่เอาย่ะ! พอๆ ชั้นจะไปล้างตัวแล้ว ดูดิ๊ เลอะเทอะเต็มไปหมดเลย” พี่เป้พูดตัดบทแล้วก็ใช้ทิชชู่เช็ดทำความสะอาดร่องหลืบของตัวเองอีก 2-3ที ก่อนจะรีบลุกขึ้นคว้าเสื้อผ้าแล้วหายเข้าห้องน้ำไป พอเราสองคนต่างอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินลงมาส่งเธอขึ้นรถกลับบ้านเหมือนเดิม

และด้วยเหตุนี้เอง... เราสองคนจึงเริ่มต้นกลับมาสานสัมพันธ์กันใหม่อีกครั้ง ซึ่งก็ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของเราในครั้งนี้ มันจะแนบแน่นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก... เรานัดเจอกันอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งที่คอนโดของผม และทุกๆ ครั้งที่เจอกัน เราก็มักจะปลดปล่อยอารมณ์ร่วมออกมาแบบไม่มียั้ง เราร่วมรักกันราวกับสัตว์ป่าที่กำลังหิวกระหาย หิวโหยต่อรสชาติเซ็กส์ของกันและกัน ผมอยากเย็ดท่าไหน เธออยากลองอะไร เราทั้งคู่ต่างก็สนองให้กันและกันได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าเธอจะยังไม่ยอมให้ผมได้เย็ดสดๆ แบบครั้งนั้นอีกแล้วก็ตาม

ทุกๆ อย่างดูเหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดี ถ้าไม่ติดว่ามันมีมารมาผจญซะก่อน.....

“เฮ้ย เมื่อไหร่มึงจะให้กูเย็ดพี่เป้อีกวะ?” ไอ้แมนเอ่ยถามขึ้นมาผ่านโทรศัพท์... ไอ้นี่แม่งไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้มานานจนผมนึกว่ามันจะยอมตัดใจหรือลืมไปแล้วนะเนี่ย เฮ้อ...
“ห่า... ก็พี่บอยเค้าไม่ยอม มึงจะให้กูทำยังไงวะ กูไม่ใช่ผัวเค้านะโว้ย มึงจะมาขอกูทำไม” ผมตอบไปแบบเลี่ยงๆ
“โห่... อะไรวะ ทีมึงยังได้กลับมาเย็ดพี่เค้าเลย ทั้งๆ ที่กูน่ะ ใหญ่กว่า แถมลีลาดีกว่าแท้ๆ” ไอ้แมนยังโวยไม่หยุด
“ตะกี้มึงว่าไงนะ?” ผมรีบถามมันเพราะคาใจกับสิ่งที่พึ่งจะได้ยิน

“กูบอกว่ากูน่ะทั้งใหญ่กว่า ลีลาก็ดีกว่ามึง” ไอ้แมนพูดทวนคำ
“ไม่ใช่ก่อนหน้านั้นดิ...” ผมเร่งเร้าถามถึงประโยคก่อนหน้า
“ที่ว่ามึงได้เย็ดพี่เค้าอีกน่ะเหรอ?”
“เออ... แล้วมึงรู้ได้ไง?” ผมถามย้ำ
“กูกับมึงคบกันมาตั้งกี่ปี เรื่องแค่นี้ทำไมกูจะไม่รู้วะ” ไอ้แมนอมยิ้มกวนตีนแล้วตอบกลับมา
“เสือกรู้ดีนักนะมึง เรื่องแบบนี้... เออ นั่นแหละ ไม่ได้ก็คือไม่ได้โว้ย พี่บอยเค้าไม่ยอมแล้ว กูก็ช่วยอะไรมึงไม่ได้” ผมพยายามยืนกราน ไอ้แมนฟังแล้วก็ทำหน้าไม่พอใจเหมือนมันยังตักตวงความสุขจากเรือนร่างของพี่เป้ได้ไม่อิ่ม แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยอมเลิกล้มความตั้งใจในที่สุด

“เออ จำไว้เลยนะมึงแม่ง... แล้วอย่ามาร้องให้กูช่วยอะไรคราวหลังแล้วกัน แม่ง....” ไอ้แมนพูดงอนๆ
“โห่... โตเป็นควายแล้วยังมางอนไม่เข้าเรื่อง ไปๆๆ แค่นี้นะ กูจะหาไรกินแล้ว” ผมพูดตัดบทแล้วกดวางสาย เสร็จแล้วก็ไม่ได้นึกกังวลอะไรเรื่องไอ้แมนอีกเท่าไหร่ เพราะเข้าใจไปว่ามันคงยอมตัดใจไปแล้ว แต่ที่ไหนได้... ไอ้แมนแม่งดื้อด้านกว่าที่ผมคิดแฮะ เพราะระหว่างที่ผมกับพี่เป้แอบลักลอบได้เสียกันอยู่ในสายตาของพี่บอย ไอ้แมนตัวแสบก็แอบปฏิบัติการณ์ลักลอบไปเจอกับพี่เป้ลับหลังผมอีกที และกว่าที่ผมจะทันรู้ตัว... ไอ้แมนมันก็แอบยัดเยียดความเป็นผัวให้กับพี่เป้ไปแล้วถึง 3 ครั้ง 3 ครา...

ซึ่งหลังจากที่ผมได้สานสัมพันธ์กับพี่เป้ใหม่อีกครั้งเป็นระยะเวลานานเกือบ 3 เดือน ผมก็เริ่มที่จะจับสังเกตถึงความผิดปกติบางอย่างขึ้นมาได้ ซึ่งต้นตอก็ไม่ใช่มาจากใครที่ไหน แต่เป็นพี่เป้คนสวยของเรานี่เอง...

“อูยย พี่เป้ขย่มแบบนั้นแหละครับ ซี้ดดดส์” ผมร้องครางกระเส่าขณะที่กำลังนอนหงายให้พี่เป้ขย่มหีบดควยอย่างเมามัน สองมือของผมตะปบหมับดึงรั้งแก้มก้นของเธอเข้าหาตัว เรือนร่างขาวโพลนของพี่เป้ส่ายระริกไปมาอย่างร้อนร่าน ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเก ร้องครวญครางออกมาเสียงดังลั่น
“อ๊าาายยย ซี้ดดดดส์... โอ๊ย โจ้ พี่เสียวว....วววว โอ๊ยย...ยยย มันแน่นไปหมด” พี่เป้ใช้สองมือดันอกผมเพื่อตั้งหลัก พร้อมกับบดสะโพกร่อนบดลงมาแบบหนักๆ
“พี่เป้ครับ.... อืมมมม” ผมเอ่ยปากร้องเรียกชื่อพี่เป้ขณะที่เธอกำลังเสียวซ่านสุดขีด
“อ๊ะ! อาาห์... อ... อะไรเหรอโจ้” เธอถามเสียงสั่น ท่อนล่างยังคงขย่มผมอยู่อย่างนั้น

“พี่เป้ยังจำวันนั้นได้มั้ยครับ...? ที่เราเคยสนุกกันสามคนบนเตียงนี้” ผมเกริ่นถามเธอถึงตอนที่เราเคยสวิงกันที่นี่ พี่เป้ได้ยินแล้วถึงกับสะดุดกึ้ก หยุดขย่มขึ้นมาทันที พร้อมก้มลงมองหน้าผมอย่างแปลกใจ
“ทำไมเหรอ...?” เธอตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหวั่นๆ สีหน้าคาใจอยู่ไม่น้อย
“ผมอยากรู้ว่าจริงๆ แล้ววันนั้น... พี่เป้ชอบรึเปล่า?” ผมถามถึงสิ่งที่ยังค้างคาใจอยู่ลึกๆ โดยกะจังหวะให้เธอกำลังเงี่ยนง่านสุดๆ เพื่อที่จะได้คาดคั้นคำตอบออกมาจากใจจริง แม้ว่าปากผมจะคอยปฏิเสธคำขอของไอ้แมน แต่ในใจลึกๆ ก็ยังอดนึกถึงช่วงเวลาที่ได้รุมสวิงพี่เป้แบบถึงพริกถึงขิงคราวนั้นไม่ได้ ถ้าได้ลองอีกครั้งนี่มันคงจะเสียวควยไม่เบานะเนี่ย อูยยยย.....

“อุ๊ย....! โจ้ อย่ายุกยิกซี่...” พี่เป้อุทานออกมา ในจังหวะที่ผมเริ่มกระดกควยให้แทงเสยหีเธอจากด้านล่าง
“บอกผมหน่อยสิครับ ผมอยากรู้” ผมเรียกร้องจะเอาคำตอบจากปากเธอให้ได้ บั้นเอวก็ยังโยกส่ายไปมาไม่ยอมหยุด
“ฮือออ.... อ๊ะ... อ๋าาาาา โจ้อย่าทำแบบนั้น.... มันเสียวววว” เธอพยายามข่มอารมณ์ต้านความเงี่ยนเอาไว้ แต่เมื่อโดนผมกระเด้าหนักๆ เข้าก็ทนฝืนไว้ไม่ไหว
“อือออ โอ๊ยยยย... ซี้ดดดดส์.. ชะ...ชอบ ชอบบบ” พี่เป้ครวญครางเสียงกระเส่า หลุดปากสารภาพความรู้สึกออกมาจนได้ ผมฟังแล้วยิ่งได้ใจสุดขีด ออกแรงเร่งเร้ากระตุ้นอารมณ์ของเธออย่างต่อเนื่อง
“ถ้าผมชวนเพื่อนคนนั้นมาอีก พี่จะโอเคมั้ย?” ผมคาดคั้นถามเธอในขณะที่กำลังกระดกกระเด้าอัดหีเธอถี่ยิบเสียงดัง ปั้บ...! ปั้บ...บ! ปั้บบ...บบ!  ปั้บบบ..บบบบ!! ในใจกะว่าเธอคงต้องยอมตอบตกลงแน่ๆ แต่ผิดคาดครับ...

“ม.... ไม่เอานะ พี่ไม่อยากเจอเค้า” พี่เป้รีบร้องปฏิเสธ ขณะที่ท่อนล่างยังคงออกแรงบดสะโพกสู้กับผมอยู่
“ทำไมล่ะครับ พี่เป้เองก็ชอบไม่ใช่เหรอ...?” ผมอดสงสัยกับท่าทีของเธอไม่ได้
“อืออออ... อ๊ะ... อาาา ก็พี่... พี่ไม่อยากเจอนี่นา” เธอตอบบ่ายเบี่ยง
“โธ่... ลองดูหน่อยนะครับพี่ แค่สนุกกันเฉยๆ เอง” ผมพยายามตื้อขอเธออีก
“ฮือออ พอแล้วนะ พี่ไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว... โอ๊ยโจ้! พี่จะไม่ไหวแล้ว...” พี่เป้สะบัดหน้าไปมา บ่งบอกอาการว่าใกล้จะถึงจุดสุดยอดอยู่รอมร่อแล้ว ผมเองพอเห็นเธอบ่ายเบี่ยงแบบนี้ก็ไม่อยากไปเซ้าซี้เธอ เพราะเคยตกลงกันแล้วว่าจะไม่ไปบังคับฝืนใจอะไรเธออีก ก็เลยหันมาเร่งเครื่องดึงรั้งสะโพกพี่เป้เข้าหา ใช้ปากดูดเม้มหัวนมเธอด้วยความหื่นกระหาย พร้อมกับออกแรงกดกระเด้าควยเย็ดหีเธอจนกลีบแคมปลิ้นน้ำกระฉอก

“อูยยย พี่เป้ผมครับ... ผมเสียวควยน้ำจะแตกแล้วนะ” ผมละล่ำละลักเสียงสั่น กระดกก้นยิกๆ ราวกับกระบอกลูกสูบ รู้สึกได้ถึงการบีบรัดจากโพรงเนื้อด้านในที่กำลังตอดควยตุบๆ อยู่แบบถี่ยิบ
“อ๊ะ... อ๋าาาาาาา โอ๊ยยย ซี้ดดดด....ส์ โจ้ ไม่ไหวแล้วววว พี่.... พี่ถึงแล้ววว....!” พี่เป้แหกปากร้องลั่น ตัวกระตุกเกร็งเฮือกๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงมาฟุบกับหน้าอกผมอย่างหมดแรง จังหวะที่เธอกำลังถึงจุดนั้น ผมเองก็รีบเร่งสาวควยมุดเข้าออกร่องหีเธอแรงๆ รัวๆ เพื่อหวังที่จะทะยานตามเธอไปติดๆ
“โอ๊ะ! โอ๊ยพี่.... ผมแตกแล้ว อู๊ยยยยยย... ซี้ดดดส์” ผมสูดปากร้องซี้ด ขมิบก้นกระตุกหงึกๆ พร้อมกับกระฉูดน้ำว่าวออกมาเลอะเต็มถุงยาง แล้วเราสองคนก็ล้มตัวลงนอนหอบหายใจอยู่ข้างๆ กัน

“หิวมั้ยครับพี่?” ผมเอ่ยถามพี่เป้ที่นอนพักเหนื่อยอยู่ข้างๆ หลังจากที่พึ่งเสร็จสิ้นภารกิจความเสียวที่ทำร่วมกันไปหมาดๆ พี่เป้เหลือบตามองแล้วส่ายหน้าเบาๆ เป็นการปฏิเสธ เนื้อตัวเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมา
“ไม่ค่อยอ่ะ โจ้หิวแล้วเหรอ?” เธอถามย้อนกลับมา
“ไม่หิวเหมือนกัน แค่ถามดูเฉยๆ ถ้าพี่หิวผมจะได้ไปอุ่นอะไรให้กินไง” ผมตอบไป
“ไม่เป็นไรจ้ะ เดี๋ยวพี่ค่อยแวะซื้อกับข้าวปากซอยก็ได้” พี่เป้ว่าแล้วก็ขยับตัวลุกเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างตัว โดยมีผมเดินตามไปด้วยติดๆ
“อ้าว... จะฉี่เหรอ เข้าก่อนมั้ย?” เธอหันมาถามอย่างแปลกใจ
“เปล่าครับ... ผมแค่อยากเข้ามาอาบน้ำกับพี่ด้วยอ่ะ” ผมยิ้มตอบเธอไป พี่เป้ได้ฟังก็อดทำหน้าหัวเราะขำๆ ไม่ได้
“ทะลึ่งนะเรา” แม้ว่าเธอจะบ่นอุบ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากห้ามปรามอะไร ผมจึงเดินคว้าผ้าเช็ดตัวติดมือเข้าไปพร้อมเธอ

เรือนร่างขาวเนียนอวบอิ่มของพี่เป้ ถูกสองมือเปื้อนฟองสบู่ของผมขัดถูจนมันเงาวับไปทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณเนินเนื้อที่เต่งตึงโค้งเว้าได้รูป ไม่ว่าจะเป็นทรวงอกอวบอัดทั้งสองเต้า ตลอดจนถึงเนินสะโพกผายงามงอน ไล่ลงมาถึงกลีบสาวด้านล่างของเธอ ซึ่งโดนผมลูบไล้ เอ้ย! ฟอกทำความสะอาดให้แบบเน้นๆ จนพี่เป้อดบ่นไม่ได้

“โจ้อ่ะ... เอาแต่เล่นแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่พี่จะอาบน้ำเสร็จซักที อืม.......” เธอร้องครางออกมาเหมือนไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ยังคงยืนหลับตาแหงนหน้า สองขาเขย่งแหกกว้างพร้อมกับแอ่นกายให้ผมล้วงควักอยู่อย่างนั้น
“ก็พี่เป้เล่นเซ็กซี่ขนาดนี้... จะให้ผมยืนเฉยๆ อยู่ได้ยังไงล่ะครับ?” ผมกระซิบตอบพลางซุกไซร้ลำคอขาวๆ ของเธอ
“โธ่เอ๊ย.... ทำไมถึงได้หื่นกามกันนักนะพวกนี้” พี่เป้ครางเสียงอ่อยอย่างจำนน แต่หูผมกลับสะดุดกึ้กเมื่อได้ยินถ้อยคำที่เธอพึ่งพูดออกมา.... ไอ้คำว่า 'พวกนี้' ที่เธอว่านี่มันหมายถึงใครกันเนี่ย?

“พี่เป้หมายถึงพวกไหนเหรอครับ หมายถึงผมเหรอ? แล้วคนอื่นนี่คือ?” ผมถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ก็... ก็โจ้กับแมนสองคนนั่นแหละ” คำพูดของพี่เป้ซัดเปรี้ยงเข้าเต็มกบาลผมเลยครับ คราวนี้แหละชัดแจ๋วเลยว่า พี่เป้เธอต้องเคยไปติดต่อกับไอ้แมนลับหลังผมมาแล้วแน่ๆ เพราะที่ผ่านมา... ผมไม่เคยพูดชื่อไอ้แมนให้เธอได้ยินเลยซักครั้งนี่หว่า! แล้วเธอจะไปรู้จักชื่อมันได้ยังไง? แต่ผมก็ยังทำทีเป็นว่าไม่ทันนึกเอะใจสงสัยอะไร แกล้งพูดเออออเนียนๆ ไปกับเธอ โดยที่ในหัวก็นึกคาใจอยู่เรื่องเดียวว่าเธอแอบไปคุยกับมันตั้งแต่ตอนไหน? พอผมส่งพี่เป้กลับบ้านเสร็จก็เลยรีบโทรหาไอ้แมนเพื่อไขข้อข้องใจทันที

“ว่าไงวะ?” เสียงไอ้แมนตอบกลับมาจากปลายสาย
“ไม่ต้องมาไงวะเลยมึง ไอ้ห่า... นี่มึงแอบไปคุยกับพี่เป้ลับหลังกูเหรอ?” ผมรีบถามเข้าประเด็นทันที ไอ้แมนเหมือนจะตกใจนิดหน่อย ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“หา!? อะไรของมึงวะ? มึงหมายความว่าไง?” ไอ้แมนยังแกล้งทำเป็นไขสือ
“กูถามว่ามึงอ่ะ แอบไปคุย หรือไปเจอกับพี่เป้มาเหรอ?” ผมถามย้ำด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ
“เพ้อเจ้ออะไรของมึงวะ? ก็มึงบอกไม่ให้ยุ่ง กูก็ไม่ยุ่งแล้วไง จะมาเอาอะไรกับกูอีก?” ไอ้แมนตอบเสียงแข็ง
“มึงไม่ต้องมาแบ๊วไอ้สัด กูพึ่งแยกกับพี่เป้เมื่อกี้ พี่เค้าเล่าให้กูฟังหมดแล้ว” ผมแกล้งลักไก่ พยายามต้อนมันให้จนมุม

“เค้า.... เล่าให้มึงฟังแล้วเหรอ?” คราวนี้แหละครับ ไอ้แมนเสียงอ่อย เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย
“เออดิ! มึงจะยอมรับได้ยัง ทำอะไรลับหลังคนอื่นแล้วยังไม่กล้ารับความจริง ลูกผู้ชายป่าววะ? ห๊ะไอ้แมน?” ผมไล่บี้มันทั้งขึ้นทั้งร่อง สุดท้ายไอ้แมนก็ต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน(ที่ผมกุขึ้นมามั่วๆ)จนได้
“เออๆ กูยอมรับก็ได้ ว่ากูนัดเจอกับพี่เค้า 2-3 ครั้ง” ไอ้แมนสารภาพมาตรงๆ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?” ผมพยายามถามมันด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แม้ว่าจะตกใจอยู่เหมือนกัน
“ก็ช่วงต้นเดือน...” มันตอบกลับมาสั้นๆ
“แล้วนี่ตกลงมึงได้มีอะไรกับพี่เค้าไปแล้วใช่มั้ย?” ผมถามจี้อีก
“อ้าว ไหนมึงบอกว่าพี่เค้าเล่าให้ฟังแล้วไง?” ไอ้แมนชักเอะใจ

“เออน่า! กูอยากฟังจากปากมึงตรงๆ นี่หว่า มาถึงขนาดนี้แล้วมึงยังจะปิดบังเพื่อนมึงอีกเหรอ!?” ผมทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจจนไอ้แมนต้องยอมเล่าต่อ
“เออๆ มึงอย่าพึ่งโมโหดิวะ กูพึ่งไปเจอพี่เค้ามาแค่ 2-3 ครั้งเอง”
“แล้วไอ้ 2-3 ครั้งที่มึงว่าเนี่ย ตกลงได้มีอะไรกันมั้ย?” ผมถามย้ำคำถามเดิม
“ก็เออ...” ไอ้แมนรับคำเสียงอ่อย
“เหี้ยแมน.... กูอุตส่าห์ขอมึงตรงๆ แล้วนะว่าอย่าไปยุ่งกับพี่เค้า นี่มันเมียรุ่นพี่กู แล้วดูดิ๊ คราวนี้กูจะเข้าหน้าพี่เค้ายังไงเนี่ย ไอ้ห่า ทำอะไรไม่รู้จักคิด” ผมก่นด่ามันเป็นชุด

“มึงก็... ไม่เห็นต้องบอกพี่บอยเค้าเลยนี่หว่า... ถ้าพี่เค้าไม่รู้ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง พี่เป้เองเค้ายังสนุกกับกูเลย” คำพูดของไอ้แมนทำให้ผมยิ่งโมโห ตะคอกใส่มันเสียงดัง
“ไอ้เหี้ย! มึงก็พูดง่ายนี่หว่า มึงลองมาเป็นคนกลางอย่างกูมั้ย!? แม่ง แอบตีท้ายครัวเมียชาวบ้านแล้วพอถึงเวลาโดนจับได้เสือกไม่กล้ารับ” ผมด่ามันออกไปอย่างมีอารมณ์
“ทีมึง... ยังไปเย่อเมียชาวบ้านเค้าได้เลยนี่หว่า...” ไอ้แมนพูดกระซิบสวนกลับมาเบาๆ แต่แทบจะกลายเป็นหมัดเด็ดที่ฮุคเข้าปลายคางผมเต็มๆ จนหน้าหงาย
“สัด! นั่นมันคนละเรื่องเลยมึง พอๆ กูขี้เกียจเถียงกับมึงแล้ว แค่นี้นะ เดี๋ยวกูจะโทรหาพี่บอยแล้ว” ผมพูดตัดบทเพราะเริ่มจะเถียงมันไม่ออก โดยไม่ลืมที่จะหย่อนคำขู่เรื่องพี่บอยทิ้งไว้ให้มันกังวลใจเล่นๆ

ผมว่าแล้ววววว... ว่าหลังๆ ไอ้แมนมันหายต๋อมไปเลย ไม่มาตอแยร้องชะเง้อหาพี่เป้กับผมอีก ไอ้เราก็นึกว่ามันตัดใจ หรือไปติดพันสาวที่ไหนซะอีก ที่ไหนได้... แม่งแอบดอดไปเย็ดกับพี่เค้าลับหลังนี่เอง ไอ้ห่า... ดันสร้างปัญหาให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนไปด้วย แล้วทีนี้ผมจะบอกกับพี่บอยยังไงดีวะเนี่ย....

ผมนั่งคิดอยู่พักใหญ่ๆ สุดท้ายก็ตัดสินใจโทรไปเล่าความจริงให้พี่บอยฟังทั้งหมด ซึ่งก็แน่นอนล่ะครับว่าพี่แกแทบปรี๊ดแตก ออกอาการไม่พอใจเต็มที่ น้ำเสียงโมโหอย่างเห็นได้ชัด จนผมเองก็ไม่กล้าพูดอะไรขัดใจแกอีก เลยเอ่ยปากนัดแนะให้พี่บอยกับไอ้แมนมาเคลียร์กันให้รู้เรื่องไปเลยที่ห้อง พอพี่แกตอบตกลงผมจึงรีบโทรกลับไปนัดไอ้แมนให้เข้ามาเจอกันพรุ่งนี้ ไอ้เพื่อนตัวแสบพอได้ยินว่าพี่บอยได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แถมยังออกปากนัดให้มันมาเจอหน้าด้วย ก็ถึงกับเสียงแหบเสียงแห้งแก้ตัวอะไรไม่ถูก

“พี่เค้า... ว่าไงมั่งวะมึง?” มันรีบถามถึงอาการของพี่บอยเสียงอ่อย
“เค้าจะว่าไงล่ะ เค้าก็จะด่ามึงให้น่ะสิ เสือกไปยุ่งกับเมียเค้าลับหลัง” ผมได้ทียิ่งขู่มันให้กลัวเข้าไปอีก
“ไอ้โจ้มึงช่วยพูดให้กูหน่อยไม่ได้เหรอ...?” มันพยายามร้องขอความเห็นใจจากผม เหอะๆ ไม่มีทางซะละ!
“ควยเหอะ ขืนกูไปช่วยมึง เผลอๆ กูจะได้กลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด จะได้ซวยติดร่างแหไปด้วยน่ะสิ ไม่เอาโว้ย! กล้าทำก็ต้องกล้ารับ มึงก็ขอโทษพี่เค้าไปตรงๆ แล้วกัน อย่าลืมนะมึง พรุ่งนี้ตอนเย็นมาเจอที่ห้องกูด้วย พี่เค้ารออยู่”
“โห่... มึง” ไอ้แมนยังครวญครางไม่เลิก ผมเริ่มรำคาญเลยกดตัดสายทิ้งไปซะดื้อๆ

และแล้วเวลานัดหมายก็มาถึง พวกเราสามหนุ่มสามมุมได้กลับมาเจอหน้ากันอีกครั้ง ภายในห้องเดิมที่เคยมีความทรงจำบางอย่างร่วมกัน พี่บอยมาถึงเร็วกว่าเวลานัดนิดหน่อย ขณะที่ไอ้แมนพยายามเตะถ่วงและมาถึงเป็นคนสุดท้ายในเวลาต่อมา ทั้งสองคนมองหน้ากันอยู่เงียบๆ โดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา คนนึงหน้าบึ้งกำหมัดแน่น อีกคนนึงหน้าเสียเหมือนจะร้องไห้ สถานการณ์ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ พี่บอยจะสาวหมัดชกหน้าไอ้แมนมั้ย หรือไอ้แมนแม่งจะสวนกลับแล้วกระทืบพี่บอยซะยับแทน แต่สุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็เอาแต่ยืนจ้องหน้ากันอยู่แบบนั้นนานเป็นนาทีๆ จนผมเองที่เป็นคนกลางอดรนทนไม่ไหว ต้องยอมเอ่ยปากขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบเสียเอง

“ไอ้แมน มึงมาแล้วมึงก็ขอโทษพี่เค้าไปดิวะ สารภาพไปตรงๆ เลยว่ามึงแอบไปทำอะไรมา” ผมบุ้ยใบ้โยนขี้ให้ไอ้แมนก่อนเพื่อน โทษฐานที่แม่งสร้างเรื่องสร้างราวดีนัก
“ผม... ผมขอโทษครับพี่ ผมอดใจไม่ไหวจริงๆ” ไอ้แมนรีบยกมือไหว้ก้มหน้า ไม่กล้าสบตาพี่บอย
“ถามจริงๆ นะ นี่มึงไปเจอเมียกูมากี่ครั้งแล้วเนี่ย?” พี่บอยเริ่มเปิดปากขึ้นมาบ้าง
“ก็... 3 ครั้งครับ” ไอ้แมนตอบกลับมาเบาๆ
“มึงไปนัดเจอเค้าได้ยังไง ทำไมเค้าถึงยอมไปเจอมึงสองต่อสอง?” พี่บอยถามจี้
“คือผม....” ไอ้แมนอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ยอมตอบ จนพี่บอยชักจะรำคาญ

“คืออะไรวะ? อ้ำอึ้งอยู่ได้ มึงก็ตอบพี่เค้าไปดิ้” ผมรีบเอ่ยปากกดดันมัน
“คือผมแชทไปหาพี่เค้าทางเฟสบุ๊ค... แล้วก็พูดๆ เกริ่นๆ ถึงเรื่องที่เคยมีอะไรกันเมื่อเดือนก่อน... แล้วก็เลยขอนัดเธอมาคุยกันสองคน” ไอ้แมนยอมสารภาพความผิดออกมาจนได้
“ไอ้เหี้ย! นี่มึงแบล็คเมล์พี่เป้เหรอ!?” ผมอุทานออกมาเมื่อได้ยินคำตอบจากปากมัน ไม่คิดว่าไอ้เพื่อนสนิทของผมมันจะกล้าทำอะไรห่ามๆ ลับหลังผมแบบนี้

“กู.. กูอดใจไม่ไหวจริงๆ นี่หว่า... ก็มึงอ่ะไอ้โจ้ ไม่ยอมดึงให้กูกลับไปร่วมวงด้วยซักที” มันพยายามหาทางแก้ตัว
“เฮ้ย มึงอย่ามามั่วดิวะ! เกี่ยวเหี้ยอะไรกับกู นี่มึงทำผิดแล้วยังมีหน้ามาโทษคนอื่นอีกเหรอ?” ผมรีบปฏิเสธทันควัน พี่บอยที่ยืนนิ่งฟังอยู่ตอนนี้ ใบหน้าที่เคยดูสุภาพและใจดี ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีหน้าของคนที่กำลังโมโหเต็มที่แล้ว แต่พี่บอยก็ยังคงไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาซักคำ จนทำให้ผมเริ่มกลัว
“พี่บอย... แล้วแบบนี้เอาไงดีพี่...?” ผมเอ่ยถามเลียบๆ เคียงๆ พี่บอยถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้นมา
“เล่ามาให้หมดดิ๊ เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมึงคุยอะไรยังไงกับเมียกู แล้วก็ทำอะไรลงไปบ้าง”
“ก็ครั้งแรกที่เจอกัน ก็... ประมาณวันที่ 2 อ่ะครับพี่... พอผมบอกว่าจะเอาเรื่องที่มีอะไรกันไปเล่าให้พี่ฟัง พี่เป้เค้าก็เลยยอมมาเจอกับผมสองต่อสอง เพราะไม่อยากให้เรื่องมันแดงขึ้นมา... ก็คุยๆ ต่อรองกันอยู่พักนึง แล้วจากนั้นผมก็ชวนพี่เค้าไปต่อกันที่โรงแรม แล้วก็เลยมีอะไรกัน...”

“แล้วทำไมเค้าต้องยอมมึงง่ายๆ ด้วยวะ หลักฐานอะไรก็ไม่มี” พี่บอยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“คือ... ตอนที่เราสวิงกันครั้งแรก... ผมแอบกดถ่ายวิดีโอในมือถือไว้ด้วย ก็เลย....” คำพูดของไอ้แมนพอจะทำให้ผมปะติดปะต่อภาพเหตุการณ์ต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น ใช่จริงๆ ด้วย ตอนที่เรากำลังรุมกินโต๊ะพี่เป้อยู่นั้น ผมเห็นมันเดินไปหยุดยืนที่โต๊ะข้างเตียงอยู่แป๊บนึง แต่ตอนนั้นก็ไม่ทันได้นึกสนใจอะไรมากมาย เพราะมัวแต่เมามันกับการตะบันเย็ดพี่เป้อยู่ ไม่นึกว่ามันจะแอบตั้งกล้องถ่ายเอาไว้ด้วย สรุปแล้วไอ้แมนก็คงจะเอาคลิปที่ถ่ายไว้ ไปบีบบังคับต่อรองให้พี่เป้ยอมมีอะไรกับมันนี่เอง...

“คลิปยังอยู่ในเครื่องมั้ย?” พี่บอยถามน้ำเสียงเรียบๆ
“ครับพี่...” พอไอ้แมนกดเปิดแล้วยื่นมือถือให้ดู พอพี่บอยดูจบแล้วแกก็กดลบวิดีโอทิ้งทันที
“หมดแล้วใช่ป่ะ? ไม่ได้เซฟเก็บไว้ในคอมที่ไหนแล้วนะ” พี่บอยถามย้ำอีกครั้ง ส่วนไอ้แมนก็รีบพยักหน้าตอบ
“สรุปว่ามึงก็ใช้คลิปนี่... คอยแบล็คเมล์พี่เค้ามาตลอดเลยใช่มั้ย?” ผมพูดกดดันมันบ้าง ในใจก็นึกโกรธอยู่เหมือนกัน ที่มันกล้าทำเรื่องเหี้ยๆ แบบนี้ข้ามหัวผม ซึ่งตัวผมเองก็ถือเป็นคนนึงที่ต้องรับผิดชอบกับความผิดพลาดทั้งหมดที่เกิดขึ้น เนื่องจากว่าเป็นคนตัดสินใจยอมดึงมันเข้ามายุ่งในเรื่องนี้เอง

“แต่ครั้งล่าสุด... พี่เค้าก็ยอมมาหาง่ายๆ นะเว่ย กูไม่ได้บีบบังคับอะไรเค้าด้วยซ้ำ” ไอ้แมนยังพยายามจะแก้ตัว โดยหารู้ไม่ว่าคำพูดของมันนั้นมีแต่จะทำให้พี่บอยยิ่งโมโหขึ้นไปอีก เพราะมันฟังดูเหมือนกับว่าพี่เป้เธอจะยอมหนีไปเล่นชู้กับมันสองคนด้วยความเต็มใจ
“พอเหอะ มึงไม่ต้องแก้ตัวแล้ว” ผมพูดปรามๆ ตัดบทมัน เพราะไม่อยากให้พี่บอยปรี๊ดแตกซะก่อน
“กูขอตรงๆ เลยได้มั้ยวะแมน นี่ถือว่าขอดีๆ นะ พยายามจะไม่ใช้อารมณ์แล้ว เลิกติดต่อกับเป้เค้าได้มั้ย อย่าให้เรื่องแม่งวุ่นวายไปมากกว่านี้เลย” ในที่สุด พี่บอยที่นิ่งเงียบอยู่นานก็เป็นฝ่ายเปิดปากพูดขึ้นมาจนได้
“ผมขอโทษครับพี่... ผมจะเลิกยุ่งกับพี่เค้าแล้ว พี่อย่าโกรธผมนะครับ” ไอ้แมนรีบรับคำทันทีด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ ก้มหน้ามองพื้น ไม่กล้าสบตาใคร
“ไอ้ห่า! มึงแอบไปเอาเมียเค้า จะมาบอกให้เค้าไม่โกรธมึง มันใช่เรื่องเหรอวะ? เลิกยุ่งกับพี่เป้เลยนะมึง ถ้ากูเห็นว่ามึงยังไปเจ๊าะแจ๊ะกับเค้าทีหลังอีก กูนี่แหละจะกระทืบมึงเอง แล้วเราสองคนขาดกัน มึงไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก” ผมได้ทีรีบตามน้ำระบายอารมณ์ใส่มันไปด้วย แต่เหมือนพี่บอยจะไม่ได้พอใจแค่นั้น

“ไอ้โจ้ มึงเองก็เหมือนกัน กูอยากให้มึงถอยห่างจากเป้ด้วยอีกคน มึงทำให้กูได้มั้ยวะ?” คำพูดของพี่บอยทำให้ผมถึงกับนิ่งอึ้งไปเลย ส่วนไอ้แมนเองก็ดูจะตกใจไม่แพ้กัน ถึงจะรู้อยู่ในใจลึกๆ ว่าตัวผมเองก็มีส่วนต้องร่วมรับผิดชอบด้วย แต่ก็ไม่คิดว่าพี่บอยแกจะเอ่ยปากขึ้นมาแบบนี้ ซึ่งนั่นก็แปลว่า ต่อจากนี้ไป.... ผมกับพี่เป้ก็คงจะต้องตัดขาดกันไปอีกครั้ง หลังจากที่พึ่งจะกลับมาสานสัมพันธ์กันได้ไม่นานเท่าไหร่

แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็พอจะเข้าใจเหตุผลของพี่แกดี และจำใจยอมรับการตัดสินใจของพี่บอยไปในท้ายที่สุด แม้ว่าในใจจะนึกเสียดายเพียงไรก็ตาม

“ได้พี่ ถ้าพี่ขอยังไงผมก็ตามใจพี่อยู่แล้ว ไว้ถ้าพี่อยากให้ช่วยอะไรก็บอกมาแล้วกัน ยังไงนี่มันก็ชีวิตคู่พี่ คนที่จะตัดสินว่าอะไรมันดีไม่ดีก็มีแต่พี่กับพี่เป้นั่นแหละ” ผมรับปากแกไปง่ายๆ
“เออ ถือว่าเราเข้าใจตรงกันหมดแล้วนะ... ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็แค่นี้แล้วกัน กูไปละ” พี่บอยพูดจบก็เตรียมตัวกลับ ผมจึงหยิบคีย์การ์ดเดินลงไปส่งพี่แกข้างล่าง ก่อนที่ไอ้แมนจะขอตัวกลับไปเหมือนกัน เพราะไม่กล้าสู้หน้าผมเท่าไหร่ จริงๆ แล้วผมก็ยังแอบเคืองมันอยู่พอสมควรที่ทำให้ผมต้องตัดขาดกับพี่เป้ไปด้วย แต่พอได้เห็นสีหน้าของมันในตอนนี้แล้วก็อดที่จะนึกสงสารมันไม่ได้ เพราะยังไงสุดท้ายแล้ว ไอ้แมนก็ถือเป็นเพื่อนซี้คนนึงที่คอยอยู่เคียงข้างผมมาโดยตลอด ทั้งเวลาสนุก แล้วก็เวลาลำบาก ถ้าจู่ๆ จะให้มาเลิกคบกับมันด้วยเรื่องผู้หญิงแบบนี้ก็คงจะดูไม่ดีเท่าไหร่

สุดท้ายแล้วตอนนี้ก็เลยเหลือผมที่ยืนหัวโด่อยู่เพียงคนเดียวในห้อง ไม่มีทั้งพี่บอย ทั้งไอ้แมน แล้วก็แน่นอนว่ารวมไปถึงพี่เป้สุดที่รักอีกด้วย เฮ้อ.... พอนึกแบบนี้แล้วมันก็อดใจหายไม่ได้จริงๆ

และด้วยความที่รับปากกับพี่บอยเอาไว้ซะดิบดี พอถึงเวลาที่พี่เป้ทักไลน์มาหา ผมจึงได้แต่พยายามพูดจาบ่ายเบี่ยง ถามคำตอบคำ อ้างไปว่ากำลังติดพันงานด่วน และไม่ค่อยมีเวลาว่างคุยหรือว่างไปเจอเท่าไหร่ จนเหมือนพี่เป้จะแอบงอนนิดๆ ที่ผมพยายามหนีหน้าเธอ จนกลายเป็นว่าเราสองคนก็เลยต่างเงียบใส่กันในที่สุด

จนกระทั่ง 3 วันหลังจากนั้น... พี่บอยจึงโทรมาระบายให้ฟังว่าแกตัดสินใจเล่าความจริงทั้งหมดให้พี่เป้ฟังไปเรียบร้อยแล้ว และเหมือนว่าทั้งคู่จะมีปัญหาทะเลาะกันหนักพอสมควร เนื่องจากพี่เป้รับไม่ได้ที่โดนพี่บอยวางแผนหลอกเธอมาโดยตลอด จนตอนนี้ทั้งสองคนก็แทบจะเข้าหน้ากันไม่ติด ออกอาการเย็นชาบึ้งตึงใส่กัน แม้ว่าจะยังคงนอนร่วมเตียง และยังต้องเจอหน้ากันอยู่ทุกวันก็ตาม

พอผมได้ยินแบบนี้แล้วก็แอบอดรู้สึกผิดไม่ได้ ที่กลายมาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพี่ๆ ทั้งสองคนต้องมาร้าวฉาน จึงแอบตัดสินใจโดยพลการว่าคงต้องหาโอกาสพูดคุยกับพี่เป้สองต่อสอง เพื่อช่วยปรับความเข้าใจให้เธออีกทางหนึ่ง พอคิดได้แบบนี้แล้วผมจึงลองไลน์ไปหาพี่เป้ทันที

“ขอคุยด้วยได้มั้ยครับพี่” ผมส่งข้อความทักทายไปหาเธอ คู่สนทนาปลายทางขึ้นแจ้งสถานะว่ามีการอ่านข้อความแล้ว แต่ยังไม่มีคำตอบใดๆ ตอบกลับมา
“พี่เป้ครับ คุยกันหน่อยนะ ผมขอร้อง” ผมส่งข้อความซ้ำอีกรอบ คราวนี้ได้ผลครับ พี่เป้ยอมตอบกลับมาสั้นๆ
“มีอะไร” คำตอบของเธอทั้งสั้น ทั้งห้วน แถมยังบ่งบอกถึงความเย็นชาที่แฝงมากับตัวหนังสือ
“พี่เป้คุยกับพี่บอยแล้วใช่มั้ย” ผมถามเข้าประเด็นทันที
“อืม” เธอตอบกลับมาสั้นๆ เหมือนเดิม
“พี่อย่าโกรธพี่บอยเลยนะ ถ้าจะโกรธก็มาลงที่ผมเหอะ ผมเป็นคนต้นคิดทั้งหมดเอง” ผมรีบพิมพ์สารภาพความผิด เพื่อหวังว่าเธอจะยอมยกโทษให้พี่บอยบ้าง แต่ก็ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผลอะไรเท่าไหร่

“มีเรื่องคุยแค่นี้ใช่ป่ะ” เธอถามกลับมาห้วนๆ ทื่อๆ
“พี่อย่าพึ่งโมโหสิครับ คุยกันก่อน” ผมพยายามรั้งเธอไว้
“พี่ไม่อยากคุยกับโจ้แล้ว เข้าใจมั้ย ไม่อยากเจอหน้า ไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรทั้งนั้น” คำตอบของเธอทำเอาผมแทบใจสลาย แต่ยังพยายามฝืนแข็งใจพิมพ์โต้ตอบกลับไป
“พี่เป้จะโกรธผมก็ได้ ผมเข้าใจ แต่ยังไงก็อย่าไปลงที่พี่บอยเค้าเลยนะครับ ถือว่าผมขอเถอะ”
“ตลกดีนะ จนถึงตอนนี้โจ้ก็ยังพูดจาเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลย ต้องมาคอยตามง้อตามขอโทษ หลังจากที่ทำเรื่องแย่ๆ ให้พี่ต้องเสียใจตลอด” เธอพูดประชดประชันอย่างเจ็บแสบจนผมเถียงอะไรไม่ออก

“จำได้ใช่ป่ะ ที่พี่เคยบอกว่าพี่รู้สึกผิดหวังมากกว่าโมโหโจ้อ่ะ ขอบอกให้รู้เลยนะ ว่าครั้งนี้พี่โคตรจะผิดหวังเลยว่ะ ผิดหวังที่โจ้กับพี่บอยร่วมมือกันทำเรื่องบ้าๆ ผิดหวังที่โจ้ไม่กล้าพอที่จะพูดกับพี่ตรงๆ ดีแต่ทำอะไรลับๆ ล่อๆ เห็นพี่เป็นวัวเป็นควาย ผิดหวังที่นึกไปเชื่อใจ ไว้ใจคนผิดซ้ำซาก แล้วก็ที่สำคัญที่สุดนะโจ้ พี่ผิดหวังกับตัวเองที่ครั้งนึงเคยหลงผิด เผลอคิดไปว่าเรื่องทั้งหมดระหว่างเรา มันจะมีความหมายกับโจ้มากเท่าๆ กับที่พี่มีให้” พี่เป้ร่ายยาวเป็นชุด แต่ละประโยคเหมือนใบมีดที่กรีดลึกลงมาบนหน้าผมจนเจ็บแสบไปหมด
“หวังว่าเราสองคนคงสิ้นสุดเวรกรรมกันแค่นี้นะโจ้” พี่เป้พิมพ์ทิ้งท้ายก่อนจะเงียบหายไป แม้ว่าผมจะพยายามพิมพ์ข้อความเรียกเธอเท่าไหร่ พี่เป้ก็ไม่ยอมตอบกลับมาแม้แต่คำเดียว สงสัยว่าเธอคงจะกดบล็อคผมไปแล้ว.....

ผมรู้ทันทีเลยว่านั่นคือครั้งสุดท้ายจริงๆ ที่จะได้คุยกับเธอ ในหัวของผมตอนนี้มันหนักอึ้งไปหมด ภาพความทรงจำต่างๆ ระหว่างเราที่ผ่านมาลอยวูบขึ้นมาในหัวไม่หยุดหย่อน แม้ว่าจริงๆ แล้วความสัมพันธ์ของเราสองคนนั้นจะเป็นเพียงเพื่อนคู่เคียงร่วมเตียงกันเท่านั้น แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มันกลับค่อยๆ ฟูมฟักความรู้สึกดีๆ บางอย่างให้เกิดขึ้นมาในใจผมตลอด และแม้ว่าเราทั้งคู่จะรู้ดีว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นนี้ มันไม่มีทางยั่งยืนไปได้ตลอดรอดฝั่ง แต่สุดท้ายแล้วพอถึงเวลาที่ต้องยุติมันลงจริงๆ ก็อดที่จะเสียดายความผูกพันที่เกิดขึ้นไม่ได้.....

=======================================

ผมไม่ได้ติดต่อทั้งพี่บอยกับพี่เป้อีกเลยหลังจากนั้น ค่อยๆ เฟดตัวออกมาจากชีวิตของรุ่นพี่ทั้งสองคนอย่างช้าๆ แม้ว่าในใจจะยังคงเก็บงำความรู้สึกผิดนี้ไว้ข้างในอยู่ตลอด จนกระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านไปนานเป็นเดือนๆ จู่ๆ พี่บอยก็เป็นฝ่ายโทรมาหาผมซะเอง

“ฮัลโหล” เสียงนุ่มๆ อันคุ้นเคยกล่าวทักทายขึ้นมาในสาย
“ครับพี่ เป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย” ผมตอบกลับไป
“เออ สบายดี มึงล่ะ หายเงียบไปเลยนะ” พี่บอยตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี
“ก็เรื่อยๆ ฮะ ช่วงนี้ก็ยุ่งๆ นิดหน่อย พี่มีไรเปล่าเนี่ย? อุตส่าห์โทรมา” ผมถามเข้าประเด็นแบบไม่อ้อมค้อม
“เออ ถ้าไม่มีไรแล้วโทรหาไม่ได้รึไงวะมึงนี่ หยิ่งนักนะ” พี่บอยพูดแซว
“ไม่ใช่อย่างง้านนน ก็เห็นพี่ไม่ได้โทรมานานแล้ว” ผมแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ
“ไม่ต้องเลย มึงต่างหาก หนีหน้ากู ไอ้ห่า กูแค่บอกให้ห่างๆ จากเป้ ไม่ได้บอกให้รวมกูไปด้วยซักหน่อย”

“เอ้า... ก็เห็นพี่เองก็เงียบไปเหมือนกันนี่นา ผมก็นึกว่ายังเคืองผมไม่เลิก แล้วตกลงพี่มีไรเนี่ย อย่าให้ผมถามซ้ำหลายรอบดิ้ มันเมื่อยปาก” ผมพูดบ่นๆ
“เออๆ ไอ้ห่า งอแงจังมึง ก็ไม่มีอะไรมากหรอก กูแค่อยากโทรมาเล่าให้มึงสบายใจว่า ช่วงนี้กูเริ่มจะกลับมาดีกับเป้แล้ว ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าควรจะโทรมาบอกมึงไว้ซักหน่อย เผื่อว่ามึงจะได้เลิกคิดมากซักที” พี่บอยพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง พอได้ยินแกพูดแบบนี้แล้วผมก็อดยินดีไปด้วยไม่ได้
“เอ้ย ดีใจด้วยพี่ แล้วไปทำอีท่าไหนพี่เป้เค้าถึงยอมกลับมาคืนดีด้วยอ่ะ พี่ไปปล้ำขืนใจเค้ามาเหรอ?” ผมตอบติดตลก

“ไอ้ห่า! พอหายซึมแล้วก็ปากดีเลยนะมึง ไม่ใช่โว้ย! กูแค่ลองไปปรึกษากับแม่เค้ามา แล้วเหมือนว่าเค้าจะไปคุยกันอีท่าไหนก็ไม่รู้ อยู่ดีๆ ก็เหมือนเป้จะใจอ่อนแล้วยอมกลับมาคุยกับกูดีๆ สุดท้ายก็เลยเคลียร์ปรับความเข้าใจกันได้ จริงๆ นี่ก็ผ่านมา 3-4 อาทิตย์แล้วเนี่ย ก็คิดว่าคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วมั้ง” พี่บอยอธิบายให้ผมเข้าใจ
“โหพี่ ผ่านไปตั้งเป็นอาทิตย์แล้วพี่พึ่งจะมาบอกให้ผมรู้เนี่ยนะ! ไม่รอให้ถึงปีหน้าไปเลยล่ะ” ผมโวยไปเบาๆ
“เออน่า ก็บอกแล้วนี่ไง ก็หลักๆ ก็แค่นี้แหละ แค่อยากโทรมาบอกมึงให้สบายใจเฉยๆ จะได้เลิกคิดมากฟุ้งซ่านซักที เออๆ เดี๋ยวกูเข้างานต่อแล้วนะ ไว้ว่างๆ ค่อยคุยกันอีกที” พี่บอยพูดตัดบท
“ครับพี่ ไว้คุยกันๆ” ผมพูดแล้วกดวางสาย

แล้วจู่ๆ ผมก็นึกอยากคุยกับพี่เป้ขึ้นมา ลองเลื่อนหารายชื่อเธอในไลน์ พอเจอรูปภาพสาวแว่นหน้าหมวยที่กำลังยิ้มยิงฟันตาหยี ก็รีบกดส่งสติกเกอร์หน้ายิ้มพร้อมกับพิมพ์ข้อความทักทายไปหาเธอทันที นั่งรออยู่พักใหญ่ๆ แต่จนแล้วจนรอดทางโน้นก็ยังไม่ขึ้นสถานะใดๆ แจ้งกลับมา.... ดูท่าว่าเธอจะยังกดบล็อคผมไว้เหมือนเดิม อืม.... ก็พอเข้าใจได้นะว่าเธอคงยังเกลียดขี้หน้าผมอยู่ไม่หาย ใจนึงผมก็นึกโล่งใจอยู่ไม่น้อย ที่พี่ๆ ทั้งสองคนได้กลับมาคืนดีกันในที่สุด แต่อีกใจนึงก็อดนึกเหงาใจลึกๆ ไม่ได้ ที่ตอนนี้ตัวเองได้กลายมาเป็นส่วนเกินของพวกเค้าอย่างสมบูรณ์แล้ว....

ผมนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเรา มีผู้หญิงมากมายที่เคยแวะเวียนผ่านเข้ามาในชีวิตของผม ก่อนที่พวกเธอเหล่านั้นจะค่อยๆ เลือนรางและห่างหายออกไป แต่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา... ก็มีเพียงพี่เป้คนนี้นี่แหละ ที่ผมรู้สึกผูกพัน และอยากที่จะใช้เวลาใกล้ชิดกับเธอให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถึงตอนนี้ก็คงจะต้องยอมรับความจริงแล้วว่า เส้นทางชีวิตของผมกับเธอ มันคงจะกลายเป็นเส้นขนานที่ไม่มีทางกลับมาบรรจบกันได้อีก... จากคนที่เคยเป็นคู่กัด แปรเปลี่ยนมาเป็นคู่นอน คล้ายจะเกินเลยไปสู่คำว่าคู่รัก ก่อนที่สุดท้ายแล้วมันจะกลับกลายมาเป็นคู่แค้นที่เธอไม่อยากแม้แต่จะมองเห็นหน้า....

ผมกดปิดหน้าจอไลน์ ถอนหายใจลึกๆ อยู่ๆ 2-3 ที กดจิ้มหาเบอร์ไอ้แมนในเครื่องแล้วกดโทรออก รอสัญญาณอยู่ครู่นึงก่อนจะมีเสียงตอบกลับมา


“ฮัลโหลไอ้แมนเหรอ.... วันนี้ว่างป่ะ ไปแดกเหล้ากัน กูอยากเมาว่ะ....”



THE END    



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น