วันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2566

เส้นทางเจ้าสาว #5

 

ท่อนเนื้อของนายอั๋นค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้กับหน้ากุ๊กมากขึ้นทุกที ระยะห่างตอนนี้เหลือเพียงแค่ไม่ถึงคืบเท่านั้น เนื้อเค้กที่ติดอยู่ตามแท่งลำเลอะติดมือกุ๊กไปทั่ว รู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวนิดๆ ที่ลอยมาแตะจมูก จนเผลอกลืนน้ำลายเข้าไปอึกใหญ่ อาวุธประจำกายของอั๋นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเพื่อนๆ ทั้งสองคนเลย แม้ว่าความยาวจะไม่ได้ยาวเท่ากับของชิน และไม่ได้อวบหนาน่ากลัวเหมือนอย่างเดเร็ก แต่ขนาดของมันที่ดูกำลังพอดีๆ ออกจะดูใหญ่โตด้วยซ้ำเมื่อวัดจากมาตรฐานของคนไทยด้วยกัน กลับยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของกุ๊กให้เตลิดเปิดเปิง ใช้มือรูดท่อนลำตรงหน้าอย่างช้าๆ จนหัวบานสีแดงโร่ของมันค่อยๆ ปรากฏสู่สายตา อืมมม กุ๊กแลบลิ้นเลียริมฝีปาก พยายามข่มใจเอาไว้ไม่ให้เกินเลยไปมากกว่านี้ แต่เหมือนอั๋นเองก็อ่านความคิดของกุ๊กออกเช่นกัน

“ไม่ต้องคิดมากนะครับคุณกุ๊ก คิดซะว่าเป็นคืนสุดท้ายที่จะได้ทำอะไรสนุกๆ แบบนี้” อั๋นพูดแล้วก็พยายามโยกเอว บดน้องชายให้รูดเข้าออกอยู่บนฝ่ามือกุ๊ก ท่อนเนื้ออุ่นๆ บดเบียดไปมาจนรับรู้ได้ถึงความอวบแน่น สารภาพตามตรงนะคะ ตั้งแต่เริ่มไดเอ็ทกับฟิตหุ่นเพื่อเป็นเจ้าสาวเนี่ย รู้สึกได้เลยว่าตัวเองหื่นมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ มันเหมือนเราพยายามไปกดความอยากเอาไว้ด้านนึงมากๆ จนพอมันเริ่มที่จะรับไม่ไหวก็เลยต้องหาที่ระบายความอยากในด้านอื่นๆ แทน ยิ่งช่วงหลังๆ ที่โดนไม้โดนมือจากน้องๆ หมอนวดด้วยแล้ว ยิ่งพาให้ใจเตลิดง่ายดายขึ้นไปอีก

กุ๊กสูดลมหายใจลึกๆ ชั่งใจอยู่ครู่นึง แล้วก็ตัดสินใจว่าเอาไงเอากัน ค่อยๆ โน้มหน้าลงไปจนติดกับหน้าขาของอั๋น จับรูดท่อนลำช้าๆ แล้วก็หลับตา แลบลิ้นแตะเข้าไปที่บริเวณปลายหัวเพื่อชิมรสชาติของมัน รสออกเค็มปะแล่มๆ กุ๊กค่อยๆ ห่อปากเม้มรูดเอาท่อนเนื้อเข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมันไปหยุดอยู่ครึ่งค่อนลำ ความยาวของมันเกือบทำให้สำลักออกมา รสชาติของมันแตกต่างจากของพี่โจ้นิดหน่อย มันออกเค็มๆ คาวๆ ผสมผสานกับรสหวานมันหอมๆ ของวิปครีมและวานิลลา อืม รสหวานที่ได้รับทำให้กุ๊กยิ่งห่อปาก รูดเอาท่อนเนื้อลึกเข้าไปอีกจนเกือบสุดโคน เม้มปากรูดเข้ารูดออกแรงๆ พยายามดูดซับรสหวานจากแท่งเนื้อออกมาให้หมด

กุ๊กอมท่อนเนื้อเอาไว้ในปาก พยายามใช้ลิ้นเลียไล่ไปมารอบๆ บริเวณปลายหัวของมัน จนนายอั๋นต้องสูดปากร้องอู้ด้วยความเสียวซ่าน ใช้สองมือคอยประคองหัวกุ๊กเพื่อเร่งจังหวะ อั๋นค่อยๆ ออกแรงโยกเอว แทงเข้าแทงออกเร็วขึ้นเร็วขึ้นจนกุ๊กเริ่มอึดอัด จังหวะที่กำลังคิดว่าจะทำยังไงอยู่นั้นเอง ก็ได้ยินเสียงชินร้องครางยาวๆ ออกมาเสียงดัง ดึงความสนใจจนกุ๊กต้องหยุดชะงัก ถอนปากจากท่อนลำของอั๋นเพื่อหันไปมองที่มาของเสียง พร่วด! พร่วด! พร่วด! น้ำเหนียวสีขาวขุ่นพุ่งกระฉูดออกมาจากท่อนลำแข็งยาว ซึ่งกำลังกระตุกหงึกๆ อยู่ห่างจากใบหน้าของเจ๊แก้วเพียงไม่กี่เซ็นฯ มันพุ่งเข้ากระทบใบหน้าของเจ๊แก้วแบบเต็มๆ เลอะติดเป็นคราวเหนียวไปทั่วบริเวณสันจมูก ไหลยาวลงมาถึงบริเวณแก้มและริมฝีปากบางเฉียบ น้ำเหนียวบางส่วนกระเด็นสูงขึ้นไปติดเลอะตรงหน้าผาก เจ๊แก้วใช้ปลายนิ้วค่อยๆ เช็ดคราบเลอะออกจากใบหน้าของตัวเอง โอ้โห! ไม่อยากเชื่อว่าเจ๊แกจะกล้าใช้ปากให้ผู้ชายจนเสร็จ แถมยังยอมให้เค้าปล่อยใส่หน้าแบบนี้อีกด้วย นี่ถ้าพี่ปูแฟนเจ๊แกรู้เข้าจะว่าไงเนี่ย?

ภาพช็อคอารมณ์ตรงหน้าทำให้กุ๊กเหมือนตื่นจากภวังค์ เหมือนทุกคนจะเตลิดจนควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว กุ๊กรู้เลยว่าพวกเรากำลังโดนยาอะไรบางอย่างอยู่แน่ๆ จากประสบการณ์ที่เคยโดนมากับตัว หันไปมองอีกทางก็เหลือเพียงยัยเอ๋ที่นั่งฟุบหลับอยู่กับโต๊ะ ไม่เห็นตัวยัยมินกับเดเร็กซะแล้ว

“เอ๋ๆ ตื่นสิเอ๋ ยัยมินหายไปไหนแล้ว?” กุ๊กร้องถามด้วยความตกใจ
“เพื่อนคุณกุ๊ก จูงมือเดเร็กเข้าไปทางห้องน้ำนู่นแหละครับ” หนุ่มชินเป็นคนตอบแทน ขณะกำลังพันผ้าขนหนูคลุมท่อนล่างตัวเองเอาไว้ กุ๊กได้ยินก็ตั้งท่าจะลุกขึ้นไปตามหาตัวยัยมิน แต่อั๋นก็คว้าข้อมือเอาไว้ซะก่อน
“อย่าพึ่งไปขัดความสนุกของสองคนนั้นเลยครับคุณกุ๊ก”
“แต่ว่า...” กุ๊กพยายามจะพูดแย้ง อั๋นก็ดันจูงมือกุ๊กไปจับเข้าที่กลางเป้าดังหมับ
“อูยยยย คุณกุ๊กครับ ผมแข็งจนปวดไปหมดแล้ว คุณกุ๊กช่วยผมนะครับ” พูดไม่พูดเปล่า กลับกระดกท่อนเอ็นไปมาเบียดกับมือกุ๊กซะอีก แม้จะยังเป็นห่วงยัยมินอยู่ไม่น้อย แต่ความต้องการที่ถูกจุดติดแล้วก็ยากที่จะดับมันลงไปได้ง่ายๆ

“ก็... ก็ได้ค่ะ.... แต่กุ๊กขอใช้แค่มือช่วยนะ” กุ๊กตัดสินใจจะจบเกมให้เร็วที่สุด จะได้รีบลุกไปตามหายัยมินแล้วกลับบ้านกันเสียที ใช้มือซ้ายค่อยๆ รูดกระตุกท่อนลำไปมาเป็นจังหวะ มือขวาที่ว่างก็บี้คลึงบริเวณหัวไปมาย้ำๆ เพื่อช่วยกระตุ้นอีกทาง อืมมมม รูดอยู่ตั้งนาน ทำไมไม่ยอมเสร็จซักทีนะตานี่ ยิ่งเร่งก็ยิ่งช้า พอเงยหน้าไปมองก็เห็นนายอั๋มอมยิ้มเหมือนตั้งใจแกล้ง
“ฮือออ ทำไม... ไม่ยอมเสร็จล่ะเนี่ยย” กุ๊กครางเสียงอ่อน
“อืมมม คุณกุ๊ก... คุณกุ๊กใช้ปากช่วยผมสิครับ จะได้เสร็จไวขึ้น” คำพูดของนายอั๋นฟังดูแล้วรู้เลยว่าจงใจฝืนเอาไว้ไม่ยอมเสร็จ เพื่อบีบให้กุ๊กต้องยอมใช้ปากให้ เฮ้อออ มาถึงขั้นนี้แล้วไม่มีอะไรจะเสียแล้วค่ะ กุ๊กตัดสินใจก้มลงไป อ้าปากกว้างแล้วอมท่อนเนื้อเข้าไปจนหมดลำ มันเข้าไปลึกจนทิ่มคอหอยเบาๆ เกือบจะสำลักและอาเจียนออกมา พอตั้งหลักได้ก็ทั้งรูด ทั้งเร่งแรงๆ เพื่อกระตุ้นให้อั๋นเสร็จให้ได้ กลิ่นคาวจากท่อนเนื้อชวนให้รู้สึกพะอืดพะอม แต่ก็พยายามข่มใจทำให้มันจบๆ ได้ผลค่ะ อมได้ไม่ถึง 5 นาที นายอั๋นก็เริ่มมีอาการตัวเกร็ง ส่งเสียงครางออกมาเบาๆ พอกุ๊กเห็นท่าไม่ดีก็เลยรีบถอนปากออกดังบ๊อบ! ใช้มือซ้ายกระตุกรูดท่อนลำแรงๆ เป็นจังหวะต่อเนื่องจนอั๋นฝืนไว้ไม่ไหว ต้องนั่งตัวเกร็ง กระฉูดน้ำรักสีขาวจนเปียกเลอะเต็มสองมือกุ๊กที่ประกบปิดหัวมันไว้พอดี ฮึ! อย่าหวังเลยว่ากุ๊กจะยอมให้เสร็จในปากย่ะ

พอจบเรื่องนายอั๋นได้ กุ๊กเลยรีบชวนพี่แก้วเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวในห้องน้ำและตามหายัยมินทันที บรรยากาศในร้านตอนนี้แทบจะกลายเป็นปาร์ตี้เซ็กส์สวิงไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งหนุ่มๆ รูปหล่อที่กำลังเปลือยเปล่า กับบรรดาลูกค้าสาวๆ ที่กำลังหื่นขึ้นหน้า เสื้อผ้าอาภรณ์หลุดลุ่ยกันเป็นแถว บางคนก็กำลังเล้าโลม ใช้ปากใช้มือตักตวงความสุขให้แก่กัน บางโต๊ะก็แทบจะเอากันโชว์คนรอบข้างอยู่แล้ว กุ๊กรีบจูงมือเจ๊แก้วเดินทะลุเข้าไปที่ห้องน้ำด้านใน พอเปิดประตูปั๊บ เสียงครางก็ดังสวนออกมาทันที

“อ๊ะะะ.... โอ้ววววส....... ซี้ดดดด.. อาาาาห์  อ๊าาาาาาาา!” เสียงยัยมินร้องครวญครางสุดเสียง ขณะกำลังก้มหน้าโก้งโค้งเกาะผนังด้านในสุด โดยมีนักเต้นหนุ่มลูกครึ่งกระแทกบั้นเอวอยู่ด้านหลัง ชุดกระโปรงแซ็กสั้นถูกถลกไปกองคาไว้กลางตัว ยกทรงถูกถลกอยู่ด้านบน หน้าอกแกว่งไปมาด้วยแรงกระแทกเหมือนลูกตุ้ม ร้องครางออกมาอย่างไม่อายใคร ดีที่ว่าเสียงเพลงในร้านมันดังกระหึ่มจนกลับเสียงที่ลอยทะลุห้องน้ำออกไปได้พอสมควร ไม่งั้นล่ะได้อายเขาตายเลย พอทั้งคู่เห็นเราเดินเข้ามาก็หยุดกึ้กด้วยความตกใจ เกิดมาก็พึ่งจะเคยได้ดูหนังสดแบบต่อหน้าต่อตาก็คราวนี้ล่ะค่ะ โอ้โห หน้างี้ร้อนผ่าวๆ แทบจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นตึ้กๆๆ! อีตาเดเร็กเองน่ะไม่ค่อยอายเท่าไหร่หรอกค่ะ พยักหน้าแล้วยิ้มให้เราแบบเขินๆ เดาะเอวเบาๆ ไปด้วยช้าๆ ส่วนยัยมินนี่สิ ออกอาการอายสุดๆ ได้แต่ก้มหน้าร้องทักเราโดยที่ไม่ยอมหันมามอง

“วะ....ว่าไงมึง มาฉี่เหรอ...?”
“เปล่าย่ะ.... กูว่าจะกลับกันแล้ว... มึงจะกลับยังเนี่ย?” กุ๊กตอบระหว่างพยายามล้างมือแบบลวก
“เออ....อะ....อุ๊ยย... เดี๋ยว....กูตามไป ขออีก 5 นาทีนะ อู๊ยยย.... เบาๆ ค่ะ” เดเร็กเหมือนตั้งใจจะโชว์ พยายามโยกเอวกระแทกเป็นจังหวะต่อหน้าต่อของเราสองพี่น้อง ใช้มือบีบขยำหน้าอกยัยมินไปด้วยอย่างเมามัน ส่วนมืออีกข้างที่ว่างอยู่ก็จับช้อนขาซ้ายยัยมินขึ้นมาอ้ากว้าง เผยให้เห็นสภาพจิ๊มิ๊ที่ฉีกอ้าเพราะมีท่อนเนื้อบานอวบอัดมุดเข้ามุดออกอยู่ตรงกลาง กลีบเนื้อด้านข้างปลิ้นเข้าปลิ้นออกดูน่ากลัวพิลึก เราสองพี่น้องได้แต่ยืนน้ำลายเหนียวอยู่กับที่เหมือนไม่รู้จะทำยังไงต่อ
“เออ..... กู... กูไปรอข้างนอกนะ เร็วๆ อะ” กุ๊กพูดจบก็รีบจูงเจ๊แก้วเดินออกมาทัน พอพ้นประตูห้องน้ำแล้วเราสองคนก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมๆ กัน

เรา 4 คนสั่งเช็คบิลแล้วนั่งรอยัยมินอยู่ประมาณ 10 นาที ก็เห็นมันเดินเซๆ ออกมาจากห้องน้ำ ผมเพ้ายุ่งเหยิงไปหมด เดรสกระโปรงด้านล่างยับยู่ยี่ มันเดินยิ้มแหยๆ ออกมาโบกมือทักทาย เราเดินออกมาเรียกแท็กซี่ปากซอย พอรอส่งสามสาวขึ้นรถกันเรียบร้อย เราสองพี่น้องก็โบกแท็กซี่คันต่อมาเพื่อกลับคอนโด รู้สึกง่วงจนเผลองีบไปเป็นพักๆ พอมาถึงที่หมายก็รีบจ้ำเข้าห้อง ต่างคนต่างทิ้งตัวนอนสลบไปบนเตียงทันที ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ ก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงไลน์เด้งตื่อดึ๊งๆ ควานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเกือบตี 4 แล้ว เป็นข้อความแชทจากพี่โจ้นั่นเอง “ถึงห้องแล้วนะจ๊ะฝันดี” พี่โจ้พิมพ์ส่งมาแค่ประโยคเดียวสั้นๆ บ่งบอกให้รู้ว่าสภาพคงเมาเละไม่ต่างกันเท่าไหร่ กุ๊กพยายามปรือตาอ่านให้จบแล้วก็ทนฝืนง่วงไม่ไหว ล้มตัวลงนอนต่อแล้วหลับยาวไปเลยจนถึงสายๆ

กว่าที่กุ๊กจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็ปาเข้าไป 11 โมงครึ่งแล้ว หันซ้ายหันขวาก็ไม่เจอตัวเจ๊แก้ว พอลองฟังดีๆ ถึงได้ยินเสียงฝักบัวดังออกมาจากในห้องน้ำ สงสัยเจ๊แก้วคงจะตื่นก่อนกุ๊กแค่ไม่นานล่ะมั้งเนี่ย ถึงได้พึ่งจะมาอาบน้ำเอาป่านนี้ ซักพักเจ๊แก้วก็เปิดประตูนุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกมา ใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมแบบลวกๆ เราสองคนสบตากันแบบไม่ได้นัดหมาย ต่างคนต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไรออกมาซักคำ จนกระทั่งกุ๊กนึกไปถึงภาพเมื่อคืนขึ้นมา นั่นแหละค่ะ เลยหลุดยิ้มออกไปจนได้ เจ๊แก้วเห็นก็เผลอยิ้มออกมาเหมือนกัน

“อะไร ห๊ะ? ยิ้มอะไรของแก” เจ๊แก้วทำเสียงดุๆ ปนขำไปด้วย
“เจ๊เค้านี่.... ไม่เบาเลยน๊าาา” กุ๊กแกล้งพูดลากเสียงยานๆ ทำเอาแกหน้าแดงแป๊ด
“ห่า! ไม่ต้องเลยนะ ไม่ต้องพูดเลย เรื่องเมื่อคืนห้ามบอกใครนะเว่ย!” เจ๊พูดแล้วก็เอานิ้วชี้มาทำท่าจุ๊ปาก ใครๆ ที่ว่าก็คงไม่พ้นป๊ากับม๊า รวมไปถึงพี่ปูแฟนแกนั่นแหละ กุ๊กเองก็ยังมึนๆ หัวอยู่ เลยไม่มีแรงจะไปแกล้งแซวอะไรแกอีก ยกนิ้วทำสัญญาณว่าโอเคแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปอาบน้ำบ้าง พอบ่าย 2 กว่าๆ ก็เลยโทรนัดพี่โจ้ออกมาเจอกันที่ร้านกาแฟ ไม่ไกลจากคอนโดนัก กุ๊กสั่งลาเต้เย็นมานั่งดื่มที่โต๊ะด้านในสุด รอพี่โจ้อยู่ราวๆ 10 นาที พี่แกก็มาถึง พี่โจ้สั่งเอสเพรสโซ่ร้อนแล้วเดินมานั่งรอออเดอร์ที่โต๊ะ

“ว่าไง หายแฮงก์ยัง?” พี่โจ้เอ่ยทักขึ้นยิ้มๆ
“ยังปวดตึ้บอยู่เนี่ย ถึงให้พี่มาหาแถวคอนโดนี่ไง เป็นไงมั่งเมื่อคืน สุดเหวี่ยงเลยดิ?”
“เละเทะ ไอ้ดอนแม่งไปเรียกเด็กดริ๊งก์มานั่งเป็นโหลเลย โดนไปไม่รู้กี่ช็อต ตอนเช็คบิลล่ะหายเมาเลย”
“สมน้ำหน้า แล้วนี่แอบไปนัวกับน้องๆ เค้ามาป่ะเนี่ย?”
“ก็.... นิดๆ หน่อยๆ ตามมารยาท ไม่ได้ถึงขั้นป๊ะเท่งหรอกน่า แต่น้องเค้าก็ นมใหญ่ดีนะ จับแล้วล้นมือดี แฮะๆ” พี่โจ้ตอบยิ้มๆ พลางทำไม้ทำมือประกอบยั่วกุ๊กเล่น
“นิ่.. ตอบมาหน้าตาเฉยเลยนะ ไม่กลัวกุ๊กโกรธแล้วล้มเลิกงานแต่งงานรึไง?”
“โอ๊ย คบกันมาขนาดนี้แล้ว กุ๊กก็รู้สันดานพี่ดี จะมาปิดๆ เม้มๆ ไปทำไมกัน ก็พูดกันตรงๆ นั่นแหละ แถมพี่ก็ไม่ได้ไปซั่มใครมาซะหน่อย แค่จับๆ ลูบๆ นิดๆ หน่อยๆ ตามประสา แล้วเราล่ะว่าไง ไปสนุกกับหนุ่มๆ ที่ไหนมารึเปล่า บอกมาเลย” พี่โจ้ถามกลับ เล่นเอากุ๊กสะดุดกึกเลย ได้แต่อมยิ้มเขินๆ

“ม่าย-บอก...” พี่โจ้ได้ยินแล้วหูผึ่งเลยค่ะ
“อะไรๆๆ? บอกมาด่วนเลย อย่ามาปิดบัง”
“ไม่เอาๆๆๆ ไม่บอกๆๆ ไม่บอกเด็ดขาด” กุ๊กหลับตาปี๋ ส่ายหน้ารัวๆ
“โหย ขี้โกงว่ะ ทีพี่ยังไม่ปิดบังกุ๊กเลยนะ บอกมาเลย เร็วๆ” พี่โจ้ยังคงตื๊อไม่เลิก ยิ่งแกเล่าเรื่องตัวเองเมื่อคืนออกมาตรงๆ แบบนี้ ก็ยิ่งทำให้กุ๊กไม่กล้าปิดบังแก เพราะก่อนหน้านี้เราก็เคยทะเลาะกันจนเกือบจะเลิกกันไปแล้ว จากเรื่องที่พี่โจ้ปิดบังความจริงจากกุ๊กนี่แหละ
“ก็ได้ๆ... แต่พี่โจ้ห้ามโกรธนะบอกก่อน สัญญาป่าว” กุ๊กพูดเสียงอ่อน
“อ่ะ แล้วพี่จะรู้ได้ไงว่าเราแอบไปทำอะไรมาเล่า”
“เออน่า! สัญญาก่อนดิ”
“อะ สัญญาๆ” พี่โจ้ตอบแบบลวกๆ กุ๊กสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เฮือกนึง แล้วก็ค่อยๆ เล่าเหตุการณ์เมื่อคืนทั้งหมดให้แกฟังอย่างหมดเปลือก รวมถึงเรื่องที่ยัยมินแอบไปกุ๊กกิ๊กกับหนุ่มนักเต้นในห้องน้ำก่อนกลับบ้านด้วย พี่โจ้ฟังแล้วก็ทำหน้าตาตื่น แต่ยังพยายามเก็บอาการเอาไว้ ทำเป็นเฉยๆ เหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่กุ๊กน่ะรู้ดีเลยว่าในหัวพี่แกตอนนี้ มีคำถามมากมายที่ผุดขึ้นมาไม่หยุด

“แล้ว..... พี่คิดว่าไง?” กุ๊กถามหลังจากพี่โจ้นิ่งเงียบไปพักใหญ่
“อืมมมม..... มมมมม” พี่โจ้ลากเสียงยาวๆ เหมือนคิดอะไรค้างอยู่ ใช้ช้อนคนกาแฟในแก้วไปมา
“ตอบเร็วๆ ซี่ อย่าทำเงียบ มันอึดอัด” กุ๊กรบเร้าอีก
“กุ๊ก... พี่ถามหน่อยดิ” ในที่สุดพี่โจ้ก็เอ่ยถามขึ้นมา หน้าตาดูเคร่งเครียดกว่าปกติ
“ว่า... ว่าไงพี่?”
“อั๋น..... ควยใหญ่มั้ย?”

“อีพี่โจ้! โอ๊ยยยยย ถามอะไรทุเรศว่ะ โห่! ทำหนูใจสั่นหมด นึกว่าจะโดนด่า”
“เอ๊า ก็พี่อยากรู้นี่นา หรืออยากให้พี่ด่าแทนคะอ้วน?”
“ไม่เอาๆๆ อย่าด่ากุ๊กเลยนะ นะๆๆ ป๊ะป๋า” กุ๊กพูดพลางเอามือไปถูกับมือพี่โจ้บนโต๊ะ
“หึหึหึ ทำมาป๊ะป๋ง-ป๊ะป๋า แล้วเมื่อคืนล่ะ จ๊วบๆๆ ป๊ะป๋าไปกี่คนจ๊ะ” พี่โจ้ดึงมือออกแล้วก็เอาไปทำท่าดูดไอติมล้อเลียน ทำแก้มตุ่ยน่าเกลียดเชียว
“โหยยยย ไม่เอา ไม่พูดเรื่องนี้ดิ อายเค้า ไว้ค่อยคุยที่ห้องพี่นะ นะๆ พอแล้ว”
“เออๆ ไม่พูดก็ได้ แล้วกลับถึงห้องล่ะตอบมาให้หมดเลยนะเวลาพี่ถาม อย่ามาบ่ายเบี่ยง ทะลึ่งนัก แอบไปทำอะไรซนๆ ลับหลังพี่”
“ง่าาาาา ก็พี่ก็ไปเหมือนกันนี่นา....”
“ยัยตัวดี พี่น่ะแค่จับๆ ลูบๆ เฟ้ย แต่แกน่ะเล่นซะเต็มปากเต็มคำเลย ไหนอ้าปากเด๊ะ ยังมีเค้กกับขนติดอยู่ป่ะเนี่ย”
“โอ๊ย ไม่เอ๊า พอๆๆ กลับห้องๆๆ” กุ๊กลุกขึ้นดึงแขนลากพี่โจ้ออกจากร้าน
“เฮ้ย! ใจเย็นยังกินกาแฟไม่หมดเลย”
“ไม่ต้องกินแล้วย่ะ เหลือแค่นั้นแล้ว ไปจ่ายตังค์” เราเช็คบิลเสร็จแล้วก็พากันขึ้นรถกลับไปที่คอนโดพี่โจ้ พอเราถึงห้อง พี่โจ้ก็รีบล็อคประตูแล้วจูงกุ๊กไปที่เตียงทันที

“เฮ้ยๆ ใจเย็นดิลุง เดี๋ยวๆ ไปหื่นอะไรมาจากไหนเนี่ย” กุ๊กร้องลั่นเมื่อโดนพี่โจ้ผลักล้มลงบนเตียงอันคุ้นเคย
“มามะ เล่ามาซะดีๆ ไหน เมื่อคืนโดนไปกี่ควย?” พี่โจ้พูดไปก็ซุกไซร้ต้นคอกุ๊กไปด้วย
“บ้า! พูดอะไรน่าเกลียดว่ะ แค่จับๆ เฉยๆ ป่ะ?” กุ๊กตีแขนพี่โจ้ดังเพี๊ยะ อดจั๊กกะจี้กับคำพูดแกไม่ได้
“อ้าวก็ไหนบอกใช้ปากโม้กให้เค้าด้วยไง?”
“นั่นมันแค่คนเดียว แป๊บเดียวเท่านั้นแหละ คนอื่นก็แค่แตะๆ จับๆ เฉยยย เฉยยยยย” กุ๊กตอบหลบตา
“เหรอ แล้วเค้าควยใหญ่เหมือนพี่มั้ย” พี่โจ้จับมือกุ๊กไปกุมไว้ที่เป้ากางเกง กุ๊กใช้มือลูบคลำสำรวจขนาดอย่างถี่ถ้วน
“อืมมมม ก็.... พอๆ กันแหละ”
“โอ้โห งั้นก็ใหญ่ไม่เบาเลยนะเนี่ย อิอิ” พี่โจ้ยิ้มยิงฟันชวนหมั่นไส้

“ใหญ่สิ แต่ละคนนะ ทั้งยาวทั้งใหญ่กว่าพี่โจ้ทั้งนั้นแหละ คนที่เล็กที่สุดก็ยังยาวกว่าของพี่โจ้นิดๆ นึงเลยอ้ะ” นี่แน่ะ ขี้โม้ดีนัก ต้องเอาให้เจ็บใจเล่น ว่าแล้วก็บีบเป้าพี่แกไปซะทีนึงแรงๆ
“ฮึ คนโกหก พี่ไม่เชื่อหรอก ถ้ามันใหญ่ขนาดนั้นจริง ป่านนี้กุ๊กกรามล็อคไปแล้ว ฮ่าๆๆ”
“ไอ้บ้าาา! ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นเฟ้ย แต่มันใหญ่จริงๆ นะพี่ ยิ่งของคนชื่อเดเร็กนะ โห อวบอ้วนน่ากลัวมากอ้ะ ไม่รู้ว่ายัยมินมันกล้าไปลองได้ยังไง” กุ๊กทำมือเป็นวงๆ ให้พี่โจ้ดูชัดๆ
“มินเนี่ย เค้าก็แซ่บไม่เบาเลยนะ” พี่โจ้พูดตาเป็นประกาย ในหัวคงไม่พ้นนึกภาพยัยมินตอนมีอะไรกับเดเร็กชัวร์ ใช่ซี้สาวเปรี้ยวๆ เอ็กซ์ๆ แบบมันเนี่ย สเป็คพี่โจ้ชัดๆ เลย
“มันก็ซ่าแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ดีนะกุ๊กไม่ใจแตกตามมันไปตั้งกะเด็ก ไม่งั้นป่านนี้ไม่ตกมาถึงท้องพี่หรอกนะจะบอกให้” พูดเสร็จก็ใช้มือหยิกพุงพี่โจ้ไปอีกที

“อืม นั่นสินะ แต่จะว่าไปทุกวันนี้กุ๊กก็เริ่มจะใจแตกแล้วนะจ๊ะ ดูสิ คุยเรื่องทะลึ่งกันนิดๆ หน่อยๆ หีก็แฉะแบบนี้ซะแล้ว” พี่โจ้พูดพลางมือก็เขี่ยนิ้วเข้ากับร่องสาวกุ๊กไปด้วย แง ไม่น่าพลาดใส่เดรสกระโปรงมาเลย
“กุ๊กจ๋า.... กุ๊กคิดถึงควยเดเร็กแล้วเงี่ยนเหรอ?” พี่โจ้ถามเสียงเพ้อ ใช้นิ้วค่อยๆ สอดเข้าไปตามขอบกางเกงในของกุ๊กจนมุดหายเข้าไปด้านใน
“บ้าแล่ว.... ใครจะไปลามกแบบพี่โจ้กัน...” พยายามหนีบสองขาไว้แน่นเพื่อไม่ให้พี่โจ้สอดนิ้วเข้าไปได้ลึกกว่าเดิม ใบหน้ากุ๊กร้อนผ่านๆ ถ้าลุกไปส่องกระจกดูตอนนี้ก็คงจะเห็นเป็นสีแดงจัดแน่ๆ แต่อีตาโจ้คงจะยอมให้ลุกหรอกค่ะ
“หูยย ข้างในนี่เยิ้มเต็มเลยอ่ะกุ๊ก” พี่โจ้ถอนนิ้วออกมาให้ดูเห็นเป็นคราบเมือกเหนียวหนืดเกาะติดนิ้วอยู่ อูยยยย มันเปียกจริงๆ ด้วยอ่ะ ทำไมมันเสียวแบบนี้นะ อีตานี่มาชวนกุ๊กพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ลามกจกเปรตที่สุด ฮืออออ

“อืมมม แล้วมีใครได้จับได้ล้วงกุ๊กมั่งรึเปล่าเนี่ย?” พี่โจ้ค่อยๆ มุดลงไปหยุดอยู่ตรงหน้าขากุ๊ก ใช้สองมือรูดกางเกงในเปียกเยิ้มของกุ๊กออกไปจนหลุดพ้นจากข้อเท้า
“ไหน ขอพี่ดูสภาพหีคนดีหน่อยสิคะ” พี่โจ้จับสองขาของกุ๊กแบะอ้าออก ยื่นหน้าเข้าไปจ้องตรงน้องสาวกุ๊กแบบเต็มๆ เจอแบบนี้ก็อายสุดๆ น่ะสิคะ พยายามหุบขาเข้าหากันแต่ก็สู้แรงหื่นพี่แกไม่ได้
“แง๊ พี่โจ้ อย่าจ้องแบบนั้นดิ กุ๊กเขิน ไม่เอ๊า”
“หูยยยย กุ๊ก ทำไมพี่รู้สึกว่าหีกุ๊กมันอ้ากว่าเดิมยังไงไม่รู้” เอาเข้าไป อีพี่โจ้เริ่มมโนไปเองซะละ
“ตลกเหอะ ก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรกับใครไง เอ๊ะอีตานี่ พูดไม่รู้เรื่... ว๊ายยยย!” กุ๊กยังพูดไม่ทันจบก็ต้องร้องลั่น เพราะถูกพี่โจ้ใช้ปากจู่โจมเข้าไปเต็มๆ

“อึ๋ยยยยยย พี่โจ้ อึ่ก.... โอ๊ยยย พี่...” กุ๊กทำได้เพียงส่งเสียงครวญครางร้องไม่เป็นภาษา แค่จะพูดให้จบประโยคก็ยากเต็มทีแล้ว พี่โจ้ยิ่งตวัดเลียร่องเสียวของกุ๊กไปมาจนมันเปียกเยิ้มไปทั่วหน้า พักนึงพี่แกก็พลิกตัวลงไปนอนหงายที่เตียง ฉุดดึงตัวกุ๊กขึ้นไปนอนคว่ำคร่อมตัวแกไว้ ค่อยๆ รูดซิปปลดกางเกงยีนส์ออกไปกองไว้ที่หน้าขาตัวเอง มองเห็นท่อนเนื้อแข็งปั๋งกระตุกอยู่ใต้กางเกงในผ้าฝ้ายของแก
“กุ๊กจ๋า... กุ๊กทำแบบเมื่อคืนให้พี่ดูนะคะ พี่อยากเห็น” พี่โจ้พูดอ้อน ใช้สองมือค่อยๆ โน้มหัวกุ๊กลงมาแนบเข้ากับท่อนลำของแกเบาๆ กุ๊กได้แต่ถอนหายใจ แอบเซ็งกับความหื่นของพ่อตัวดี แล้วก็รูดกางเกงในของพี่โจ้ออกไปกองไว้กับกางเกงยีนส์ตรงหน้าขาแก ค่อยๆ ใช้ลิ้นแตะๆ สัมผัสชิมรสของมันตรงปลายหัวเบาๆ สอง-สามที
“หวานมั้ยกุ๊ก รสชาติเหมือนกับเมื่อวานมั้ย?” พี่โจ้ถามเสียงตื่นเต้น ทำให้กุ๊กยิ่งหมั่นไส้ขึ้นไปอีก เลยออกแรงขบที่หัวมันไปทีนึงจนแกร้องจ๊าก สม! พูดมากนัก
“อู๊ยยยย เบาๆ หน่อยกุ๊ก อูยยยย....” ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว กุ๊กเลยบดสะโพกอัดเข้ากับหน้าแกซะเลย ในเมื่อขัดขืนไปก็ไร้ผล ก็ขอมีความสุขเต็มที่เลยละกัน พี่โจ้ใช้สองมือจับยึดสะโพกกุ๊กไว้เพื่อตั้งหลัก แล้วค่อยๆ ขยับศีรษะใช้ลิ้นเลียไปมาตรงปากร่องของกุ๊กจนถึงเม็ดเสียวด้านบน จนกุ๊กต้องแหงนหน้าครางด้วยความเสียวสะท้าน

“อูยยยยย.....ยยยย พี่โจ้ขา... กุ๊กเสียว พี่โจ้ฟังแล้วก็ยิ่งออกแรงเลียหนักข้อขึ้นไปอีก บางจังหวะก็ลากลิ้นยาวๆ เลยไปถึงช่องประตูหลังของกุ๊กจนเสียวแว้บไปถึงลำไส้ พี่โจ้ใช้ปากเม้มดูดตรงบริเวณเม็ดทับทิม พร้อมกับสอดนิ้วชี้กับนิ้วกลางเข้าไปสำรวจร่องภายในของกุ๊กจนสุดลำข้อ ชักนิ้วเข้าออกไปมา ปากก็ทั้งดูดทั้งขยี้จนกุ๊กข่มเสียงครางไว้ไม่ไหว เลยพยายามก้มลงไปใช้ปากเข้ากับท่อนลำพี่โจ้เพื่อช่วยกลบเสียงตัวเองอีกที อูมมมมมมม อืมมมมมมมม แต่พี่โจ้ดันไม่ยอมหยุดแค่นั้นค่ะ พี่แกชักนิ้วชี้ที่เปียกเยิ้มออกมา ค่อยๆ ถูไถไปมาที่ช่องรูหลังของกุ๊ก จังหวะนั้นกุ๊กมัวแต่เสียวจนลืมคิดไปว่ากำลังโดนอะไรอยู่ จนกระทั่งพี่แกกดพร่วดทีเดียวเข้ามาในก้นนี่แหละ ถึงได้ปล่อยท่อนลำหลุดจากปาก ร้องจ๊ากออกมาเลย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น