วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2565

น้องแหม่มของผม ตอนที่ 1

 
 

เมื่อเปิดประตูห้องเช่า ผมก็ร้องเอ๊ะเมื่อเจอน้องแหม่มโดยบังเอิญ
“น้องแหม่มใช่ไหมครับ” ผมถามอย่างลังเล เพราะในความทรงจำของผม น้องแหม่มจะออกแนวใส ๆ ไม่ค่อยแต่งเนื้อแต่งตัว แต่ที่อยู่ตรงหน้าผม เรียกว่าเป็นสาวเฉี่ยวเปรี้ยวเซ็กส์เอ๊กซ์ระเบิดทีเดียว
“ใช่ค่า พี่พงษ์” เธอยิ้มหวานจนใจผมแทบละลาย พอผละสายตาจากหน้าสวย ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบลงต่ำไปที่หน้าอกหน้าใจพุ่งตระหง่านใต้เสื้อบางสายเดี่ยวตัวเล็ก เผยเห็นสะดือบุ๋มน่ารัก และกางเกงยีนส์ขาสั้นจู๋อวดท่อนขาขาว โห สมัยก่อนไม่ต๊าชแบบนี้แฮะ
“แหม่มสบายดีมั้ย ไม่ได้เจอกันนานเลยนะตั้งแต่พี่จบ”
“สบายดีค่ะ พี่พงษ์ล่ะ เพิ่งมาอยู่เหรอคะ” น้องแหม่มถามยิ้ม ๆ
“ครับ พี่ได้งานที่อู่ตรงหัวมุมถนน เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่วันนี้เอง โชคดีจัง ได้เจอน้องแหม่ม” ผมชวนน้องแหม่มเข้าไปคุยต่อในห้อง
สมัยเรียนปวช. ผมเป็นกัปตันชมรมบาส ส่วนน้องแหม่มเป็นผู้จัดการทีม ตอนนั้นทีมบาสของเราดังมาก แข่งกันระหว่างวิทยาลัย เราชนะตลอด
 พอรำลึกถึงความหลัง ผมกับน้องแหม่มก็หัวเราะด้วยกัน ระยะห่างก็เหมือนร่นหายไปเยอะ ดูเธอจะดีใจมากที่ได้เจอผมอีกครั้ง
“ว่าแต่หลังจบ แหม่มทำอะไรเหรอ” ผมนั่งจ้องหน้าหวาน
“แหม่มได้งานที่ห้าง เป็นพนักงานเชียร์เครื่องสำอางอ่ะค่ะ” พอเห็นผมทำท่าอึ้ง ๆ เธอก็เสริมว่า “จริง ๆ ตอนแรกแหม่มก็ไม่ได้อยากทำงานนี้ค่ะ แต่ตำแหน่งอื่นเต็มหมดแล้ว ก็เลยต้องลองทำดู”
แล้วเธอก็หัวเราะ “โห ตอนแรก ๆ แทบตายเลยค่ะ ตอนเรียนไม่เคยแต่งหน้าเลย ไอ้โน่นก็ไม่รู้จัก ไอ้นี่ก็ไม่รู้จัก โดนส่งไปอบรมตั้งหลายเดือนกว่าจะเก็ท”
“พี่ว่างานนี้เหมาะกับแหม่มมากเลยนะ สวยขึ้นจนพี่แทบจำไม่ได้เลย” ผมหยอดยิ้ม ๆ จนน้องแหม่มทำท่าเขินนิด ๆ

นับจากวันนั้น ผมกับแหม่มก็ใกล้ชิดกันมากขึ้น น้องแหม่มพักอยู่ชั้นเดียวกับผม ห่างไปแค่ 2-3 ห้อง บางทีผมก็ซื้อขนมซื้อผลไม้มาฝากน้องเขา ชวนน้องแหม่มคุยบ่อย ๆ ทำให้เราสนิทกันอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเขยิบขึ้นเป็นคนรู้ใจในเวลาเพียงไม่นาน
ผ่านไป 6 เดือน งานที่อู่ก็เริ่มอยู่ตัว ผมเป็นช่างเคาะพ่นสี หลัก ๆ ก็ซ่อมพวกรถที่เกิดเฉี่ยวชน บางทีก็มีพวกคนชอบแต่งรถมาให้เปลี่ยนสีรถ รายได้ดีพอสมควร เพราะนอกจากงานหลักแล้ว ถ้ารับจ๊อบเพิ่ม เฮียก็แบ่งเปอร์เซนต์ให้ ทำให้ผมมีเงินเก็บต่อเดือนพอตัว
ผมจึงไปดาวน์รถมอเตอร์ไซค์มาคันนึง หลัก ๆ ก็ตั้งใจเอาไว้รับส่งน้องแหม่มล่ะครับ
ตอนผมขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับเธอที่ห้าง น้องแหม่มทำท่าดีใจมาก เธอขึ้นนั่งซ้อนท้ายอย่างเรียบร้อย กอดเอวผมแน่น คืนนั้นผมพาเธอไปกินก๋วยเตี๋ยวโต้รุ่ง ก๋วยเตี๋ยวแค่ชามเดียวเรากินกันนานตั้งชั่วโมง ก็กินไปจีบกันไปตามประสาหนุ่มสาวที่เป็นแฟนกันอ่ะครับ
วันไหนที่อู่ปิด ผมก็ชวนน้องแหม่มไปเดินเที่ยวห้างบ้าง ดูหนังบ้าง จนเราสองคนจับมือกันเดินได้อย่างสนิทใจ บางครั้งเวลาไม่มีคนเห็น เราก็มีกอดจูบกันบ้างตามประสาคนรัก แต่ยังไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้น เพราะน้องแหม่มยังไม่พร้อมและผมก็ไม่อยากฝืนใจน้องเขา แค่ได้อยู่ใกล้กัน ได้พูดคุยหยอกล้อกันอย่างนี้ทุกวันก็ชื่นใจแล้วครับ

ช่วงวันหยุดยาวติดต่อกัน 4 วัน ผมพาน้องแหม่มไปเที่ยวชายหาดใกล้ ๆ ผมจองที่พักไว้แล้ว เป็นบ้านพักเดี่ยวแต่มี 2 ห้องนอน
ตอนช่วงเช้า ผมพาน้องแหม่มซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปตามถนนหลวง ใช้เวลาเพียงชั่วโมงเดียวก็ถึงที่หมาย ตอนนั้นแดดยังร้อนอยู่ ผมกับน้องแหม่มขนสัมภาระไปเก็บไว้ในบ้านพัก พอใกล้เที่ยง ก็พากันไปที่ร้านอาหารชายหาด สั่งอาหารทะเลมากินกันไป จู๋จี๋กันไป บรรยากาศดีมาก ลมทะเลพัดมาตลอด ได้กลิ่นเค็มของน้ำทะเล ได้เห็นหน้าหวาน ๆ ได้ยินเสียงหัวเราะใส ๆ เรียกว่า ชื่นมื่นมากครับ
พออิ่มแปร้ เราต่างคนก็เข้าห้อง งีบเอาแรง จะได้ลงเล่นน้ำทะเลที่ชายหาดกันตอนเย็น
ห้าโมงเย็น ผมเปลี่ยนเป็นชุดเสื้อชายหาดกางเกงขาสั้นหลวม ๆ มองซ้ายมองขวาสำรวจตัวเองในกระจกรอบนึงก็เดินออกไปนั่งดูทีวีรอน้องแหม่มที่ห้องรับแขก
“พี่พงษ์คะ” ผมหันไปตามเสียง เห็นน้องแหม่มโผล่หน้ามาจากประตู มองมาทางผม หน้าตาเขินอาย ผมลุกเดินไปหาด้วยความสงสัย ถามว่า “มีอะไรเหรอครับ”
“เอ่อ แหม่มอยากขอความช่วยเหลือหน่อยน่ะค่ะ พี่พงษ์เข้ามาข้างในก่อน” พูดจบ น้องแหม่มก็เปิดประตู ผมเดินเข้าไปแบบงง ๆ แต่แล้วก็ตาลุกโพลงเมื่อเห็นน้องแหม่มอยู่ในชุดว่ายน้ำบิกินี่ รูปร่างน้องแหม่มสูงได้สัดส่วนอยู่แล้ว พอใส่ชุดว่ายน้ำ ก็ยิ่งเน้นผิวกายขาวผุดผ่องและหน้าอกอวบได้ชัดเจน ด้านล่างนั้น ผ้าผืนน้อยที่ปิดเนินสามเหลี่ยมก็ถูกดันนูนขึ้นมา
พอเห็นผมเอาแต่มอง น้องแหม่มคงอาย หน้าเธอแดง รีบพูดว่า “พี่พงษ์เนี่ย เอาแต่จ้องอยู่นั่นแหละ ไม่มีอะไรน่าดูหรอกค่ะ”
เรื่องนี้ ผมค้านหัวชนฝาเลยแหละ มันน่าดูมากถึงมากที่สุด ดูเท่าไหร่ก็ไม่พอเสียด้วยซ้ำ น้องแหม่มอายม้วนต้วน สุดท้ายบอกว่าอยากให้ผมช่วยทาครีมกันแดดตรงด้านหลังให้หน่อย เธอเอื้อมไม่ถึง
ผมถึงบางอ้อ เข้าใจล่ะ ในฐานะที่เป็นพนักงานเชียร์ น้องแหม่มต้องดูแลความงามต้วเองมาก ๆ จะให้กระดำกระด่างเพราะแดดคงไม่ได้
น้องแหม่มเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งที่มีกระจกบานใหญ่ เธอหยิบกระปุกครีมกันแดดยื่นให้ผม ผมเห็นภาพสะท้อนของน้องแหม่มก็เผลอกลืนน้ำลายเอื๊อก ดุ้นลำผมเริ่มเต้นกระดุ๊๋๋บ ๆ
น้องแหม่มยืนกอดอกอยู่หน้ากระจก ผมควักเนื้อครีมออกมา ค่อย ๆ ละเลงบนแผ่นหลังขาวเนียน น้องแหม่มสะดุ้งนิดหน่อยตอนที่มือผมสัมผัสผิวกายเธอ ผมพยายามสงบสติอารมณ์ป้ายครีมจากใต้ต้นคอ สะบัก แผ่นหลังและค่อย ๆ ต่ำลงมาที่บั้นเอว
ความใกล้ชิดจนได้กลิ่นกายสาวประกอบกับการลูบไล้สัมผัสเนื้อขาว ๆ ทำเอาอารมณ์ผมกระเจิดกระเจิง ผมแอบมองไปที่กระจก ก็เห็นใบหน้าน้องแหม่มแดงแป๊ด ตาเยิ้ม หายใจแรงขึ้นจนหน้าอกสะท้อนขึ้นลง
ผมกลืนน้ำลาย ปาดครีมกันแดดลงต่ำที่สะเอวคอดและด้านบนของลอนตะโพกงอนงาม ทันใดนั้น น้องแหม่มก็ครางเสียงแผ่วโหยออกมา ตัวเธอสั่นระริก
เสียงนั้นทำเอาสติผมขาดผึง ไม่สนใจทาครีมกันแดดอีกต่อไป ผมสวมกอดน้องแหม่มจากด้านหลัง จมูกซุกไซ้ดอมดมกลิ่นกายสาวตรงซอกคอ
“น้องแหม่มครับ พี่ทนไม่ไหวแล้ว” ผมเผลอครางแผ่วข้างหูน้องแหม่ม
มือไม้ผมปะป่ายไปทั่วร่างน้องแหม่ม น้องแหม่มหลับตาพริ้ม หายใจแรง มือไม้ที่กอดอกอยู่ทิ้งห้อยลง เปิดโอกาสให้มือผมรุกรานลูบคลำ
“อือ พี่พงษ์ขา แหม่ม….แหม่มรู้สึกหวิว ๆ ค่ะ” น้องแหม่มครางเหมือนกระซิบ ผมไม่ตอบ แต่จูบไซ้ไปตามซอกคอและใบหู ลมหายใจร้อน ๆ เป่ารดผิวกายขาวผ่อง
ผมสอดมือเข้าไปใต้บิกินี่ตัวบนจนเข้าถึงเนื้อแท้สองเต้าขาวอวบแล้วเคล้าคลึงเบา ๆ ความนุ่มเด้งเต่งตึงของเนินภูเขาเหลือจะบรรยาย นิ้วผมกระดืบขึ้นไปคีบเขี่ยกับปลายยอดที่เริ่มแข็งตัว
“ซี๊ดดดด อูยยย แหม่มเสียวค่ะพี่พงษ์ อูยย” น้องแหม่มบิดตัวเร่าแต่ผมกอดร่างเธอไว้แนบอกไม่ให้ไปไหน มือผมยังคงซึมซับกับความสุขที่ได้สัมผัสเคล้นคลึงสองเต้าขาวอวบของน้องแหม่ม
ด้านล่าง เจ้าน้องชายผมแข็งจนดันกางเกงว่ายน้ำปูดออกมา ผมอัดมันเข้ากับร่องก้นน้องแหม่มแน่นจนแทบจมมิดหายไปในตะโพกอวบ ผมส่ายเอวบดขยี้ความแข็งแกร่งกับความอ่อนนุ่มด้านล่างของน้องแหม่มตลอดเวลา เรียกเสียงครางจากเธอไม่ขาดปาก
ใจผมเต้นรัว หายใจหอบเหนื่อย นี่ขนาดยังไม่ได้สอดใส่ยังตื่นเต้นขนาดนี้ ผมกลืนน้ำลาย ปล่อยมือจากปทุมถันคู่งามเลื่อนลงมาตามหน้าท้องแบนราบ ลอดผ่านขอบบิกินี่ตัวล่างเข้าไปสู่เป้าหมายหลัก
น้องแหม่มร้องอุ๊ย เธอพยายามรั้งมือผมเอาไว้ แต่ณ.นาทีนี้ อะไรก็ฉุดผมไว้ไม่อยู่ มือผมเกาะกุมเนินอวบอูมที่ซ่อนอยู่ สัมผัสที่ได้รับช่างเนียนละเอียดมือ มีไรขนพองาม
พอนิ้วผมเริ่มกรีดตรงร่องที่เปียกชื้น น้องแหม่มก็ร้องซี๊ด ตัวอ่อนระทวยจนแทบยืนไม่อยู่ ดีว่าผมประคองเธอไว้อย่างมั่นคง
นิ้วผมเกลี่ยวนจนเจอกับเม็ดละมุดที่แข็งเป็นไต แล้วก็เริ่มเขี่ยเริ่มขยี้เบา ๆ น้องแหม่มตัวสั่น แหงนหน้าสูดปากซี๊ดซ้าด
เห็นอย่างนั้น ผมก็ได้ใจ แหย่อีกนิ้วนึงลงไปในรูสวรรค์ แค่ถึงปากทางเข้า ก็คับตีบเสียแล้ว น้องแหม่มร้องอุ๊ย ทำท่าจะดึงมือผมออกอีก ผมรีบเขี่ยเม็ดละมุดถี่เร็ว พร้อมซุกไซ้ลำคอขาวผ่องต่อ แป๊บเดียวเธอก็อ่อนลงอีก
นิ้วมือผมค่อย ๆ สอดเข้าไปในร่องสวาททีละน้อย ๆ มันช่างคับติ้วเสียจริงทำให้ผมเชื่อว่ายังไม่เคยมีอะไรล่วงล้ำเข้าไป ผมปลุกสวาทน้องแหม่มไปเรื่อย ๆ จนน้ำหล่อลื่นถะถั่งออกมาเพิ่ม นิ้วผมค่อย ๆ กระดืบฝ่าความหนืดเข้าไปได้จนมิดในที่สุด
น้องแหม่มร้องอูย ๆ ตลอดเวลา เธอสะบัดหน้าน้อย ๆ เมื่อผมชักนิ้วเข้าออกรูสวาทช้า ๆ พร้อมกับบดบี้ติ่งเสียวของเธอไปด้วย
ผมบดควงดุ้นแกร่งเข้ากับแก้มก้นเธอพร้อม ๆ กับที่ล่วงล้ำความเป็นสาวด้วยนิ้วมือ เสียงดังเจ๊าะแจ๊ะไพเราะเสนาะหูยามที่นิ้วผมสอดเข้าสอดออก
น้องแหม่มก็บิดส่ายตะโพก หอบหายใจแรง ครางซี๊ด ๆ ตลอดเวลา
ดุ้นผมแข็งจนแทบปวด กำลังตัดสินใจว่าจะปลดมันออกมาปฏิบัติการเลยมั้ย ก็พอดีกับที่น้องแหม่มถึงจุดสุดยอด เธอตัวสั่นระริกในอ้อมกอดผม แล้วก็ตัวแข็งเกร็ง ร้องว้ายเสียงยาว นิ้วมือผมถูกขมิบตอดถี่ยิบ
น้องแหม่มอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงจนเกือบทรุดลงกับพื้น ด้วยอารามตกใจ ผมรีบพยุงร่างเธอให้นอนบนเตียง ความหื่นกระหายโดนความตกใจเข้าแทนที่ ผมมองสำรวจใบหน้าสวยด้วยความเป็นห่วง แล้วก็โล่งอก เมื่อน้องแหม่มปรือตาขึ้น
ใบหน้าน้องแหม่มแดงซ่าน มีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดพราย ลมหายใจยังหอบถี่จนทรวงอกสะท้อนขึ้นลง แต่ตอนนั้นผมไม่ได้สนใจด้วยความกังวลว่าน้องแหม่มเป็นอะไรหรือเปล่า
“แหม่มไม่เป็นอะไรค่ะ แค่เหนื่อยนิดหน่อย” น้องแหม่มพูดเบา ๆ คงเห็นสีหน้าผม
ผมยกมือขึ้นลูบหน้าผากและแก้มใส ตาจ้องมองใบหน้าเธอ
“พี่ขอโทษนะที่ทำให้แหม่มเป็นแบบนี้”
น้องแหม่มส่ายหน้าน้อย ๆ ยิ้มให้ผม “ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ เราสองคนเป็นแฟนกัน วันนึงก็ต้องทำแบบนี้กันอยู่ดี แหม่มแค่….”
“แค่อะไรจ๊ะ” ผมโล่งอกที่น้องแหม่มไม่โทษผม เลยแหย่เธอต่อ
น้องแหม่มหน้าแดงแป๊ด ตีแขนผมดังเพี๊ยะ ผมหมั่นเขี้ยวเลยก้มหน้าลงประกบจูบเสีย น้องแหม่มคงไม่ได้ตั้งตัว เธอลืมตาโพลง ร้องอู้อี้ แล้วก็ตาหลับพริ้มเมื่อผมสอดลิ้นเข้าไปควานหาความหวานฉ่ำในปากเธอ
เราสองคนแลกลิ้นอย่างหวานฉ่ำ พอผมเห็นน้องแหม่มหน้าแดง หายใจหอบ ก็ถอนปากออก
น้องแหม่มตาเยิ้ม เธอลุกขึ้นนั่งห้อยขาบนเตียง แล้วบอกให้ผมยืนขึ้น ผมก็ทำตามแบบงง ๆ
พอผมยืนขึ้น เจ้าน้องชายที่แข็งโด่ใต้กางเกงก็อยู่ตรงหน้าน้องแหม่มพอดี น้องแหม่มเลิกชายเสื้อผมขึ้น เธอลูบไล้ไปตามแผงอกผม ทำเอาผมสยิวจนขนลุก ลำกายเต้นดุบ ๆ
แล้วน้องแหม่มก็ทำสิ่งที่ผมคาดไม่ถึง เธอรูดกางเกงว่ายน้ำผมพรืดเดียว เจ้าน้องชายผมก็เด้งผึงขึ้นมาผงาดง้ำเบื้องหน้าเธอ
ผมตกใจตัวแข็ง น้องแหม่มก็ดูเหมือนจะตกใจเหมือนกัน ต่างคนต่างนิ่งอึ้ง แล้วน้องแหม่มก็ใช้มือนิ่ม ๆ กำรอบโคนอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ผมสูดปากซี๊ด ใจเต้นรัว พอจะรู้แล้วว่าน้องแหม่มจะทำอะไร
ผมยืนนิ่ง น้องแหม่มค่อย ๆ กระตุกมือขึ้นลงน้อย ๆ จนหนังหุ้มโคนย่นยู่ พอได้ยินเสียงสูดปากของผม เธอก็เหมือนสนุก ค่อย ๆ เพิ่มความเร็วและยาวของการสาวมือ
ผมก้มลงมองด้านล่าง มือขาว ๆ ของน้องแหม่มกำรอบลำ จังหวะที่เธอโน้มตัวไปชักลำนั้น ทำให้สองเต้าที่ซ่อนอยู่ในบิกินี่สั่นกระเพื่อมไปด้วย ผมแหงนหน้าร้องซี๊ดแบบไม่อายใคร กำมือแน่นด้วยความเสียวซ่าน
ผมได้ยินเสียงหายใจแรง ๆ ของน้องแหม่ม และแล้วก็เหมือนโลกแตกสลายเมื่อรู้สึกอุ่นวาบลึกล้ำที่ปลายลำ ก้มลงดูก็เห็นแต่เรือนผมน้องแหม่มที่ก้มลงต่ำ
“อูยยย พี่เสียวจังครับแหม่ม” ผมครางออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ตื่นเต้นไปหมด ไม่คิดว่าน้องแหม่มคนสวยจะทำออรัลให้
“จ๊วบ ๆ อือ ๆ ๆ” เสียงดังจากด้านล่าง พร้อมกับความอุ่นแน่นฟิตรัดที่ได้รับจากริมฝีปากน้องแหม่ม ผมตัวสั่น สูดปากกระเส่า เผลอยกมือขึ้นกุมศีรษะน้องแหม่มแล้วกดลงจนน้องแหม่มทำท่าสำลักสะบัดหนี ผมจึงได้สติ ยกมือออก พร้อมขอโทษขอโพย เตรียมจะดึงกางเกงขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังเสียดายรสสัมผัสจากปากสวย
น้องแหม่มรั้งมือผมไว้ ตาคู่งามยังรื้นน้ำตาจากการสำลักอยู่ แต่ก็ก้มลงทำรักด้วยปากต่อ
ผมสอนให้น้องแหม่มรู้จักใช้ลิ้นไล้วนรอบส่วนหัวแล้วลากไปตามท่อนลำ น้องแหม่มหัวไวมาก เธอนำไปประยุกต์ได้อย่างคล่องแคล่วจนผมสูดปากเสียวกระเส่าลั่นห้อง
โดยเฉพาะตอนที่เธอไล้ลิ้นน้อย ๆ ลงไปตามพวงสวรรค์นั้น ผมถึงกับซี๊ดปากแขม่วท้องทีเดียว
พอทำเป็น เหมือนน้องแหม่มจะสนุกสนานเอามาก ๆ เธอลงจากเตียงมาคุกเข่า มือน้อย ๆ กำดุ้นผมกระตุกยาว ๆ เป็นจังหวะ ปากก็ละเลียดปลายหัวแดงไปด้วย ร่างงามของเธอส่ายโยกไปตามจังหวะ
ผมได้แต่สูดปากกลั้นความเสียวซ่านที่ทบทวีมากยิ่งขึ้น แต่แล้ว เมื่อน้องแหม่มอ้าปากครอบปลายกลมแล้วดูดรั้งแรง ๆ ถี่ ๆ แล้วโยกหัวเข้า ๆ ออก ๆ ผมก็ทนแรงดูดรั้งในโพรงปากเธอต่อไปไม่ไหว
น้ำกามพุ่งปร๊ด ๆ จนเส้นเอ็นผมกระตุกเร่า ผมครางด้วยความหฤหรรษ์ มือกุมศีรษะน้องแหม่มไว้แน่น เธอพยายามสะบัดหัวหนี แต่คราวนี้ผมเกร็งไปทั้งตัว เธอจีงได้แต่พยายามกลืนน้ำคาวในปากลงไปเสียงดังอึ๊ก ๆ จนกระทั่งหยดสุดท้ายนั่นแหละ ผมถึงได้หายเกร็ง หอบหายใจแรง
น้องแหม่มคายดุ้นกายแล้วแหงนหน้ามอง ผมดึงร่างเธอขึ้นมากอดแน่น เธอซบหน้าบนไหล่ผม เราสองคนยืนกอดซบกันเนิ่นนาน…



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น