วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2564

นาคินีราคะเทวี ตอนที่ 09 (จบตอน)



                             คณะของเชษฐาออกเดินทางหลังจากทานอาหารเช้ากันแล้ว โดยรพินทร์มุ่งหน้าไปทางทิศ
เหนือ มุ่งสู่เนินเขา ก็องก็อย เส้นทางลาดชันลงไปเรื่อยๆ รอบๆเต็มไปด้วยป่าหญ้าสลับกับป่าโปร่งที่ขึ้นอยู่เป็น
ย่อมๆ ถึงพวกเขายังเดินทางไม่พ้นดงมรณะ แต่ก็มีความหวังที่จะพบกับความชุ่มชื้นบ้าง เพราะมองเห็นเป็นทิว
เขียวอยู่ข้างหน้า ซึ่งรพินทร์บอกว่าจะต้องใช้เวลาเดินอีกครึ่งวันก็จะถึง
                            แม้จะเหนื่อยและร้อน แต่ก็ไม่ขาดน้ำ เพราะพวกเขาได้ตวงน้ำที่หนองน้ำมาเต็มพิกัดที่จะพก
กันไปได้ และด้านหน้าก็เขียวสะพรั่งไปหมด จึงหวังได้ว่าจะไม่ขาดแคลนทั้งน้ำและอาหาร การเดินทางจึงไม่
เครียด บุญคำร้องเพลงยี่เกไปตลอดทาง บางครั้งมาเรียเองก็ร้องผสมไปด้วย แต่เป็นเพลงสากล เสียงเลยตีกัน
อิลุงตุงนัง
                            แต่แล้วทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด
                            " รพินทร์ยิงอะไรเข้า ไปพวกเรารีบไปดูกัน " เชษฐาตะโกนบอก จากนั้นก็วิ่งไปข้างหน้า โดย
มีกลุ่มที่เหลือวิ่งตามไปเป็นขบวน
                             เมื่อไปถึงก็เห็นรพินทร์ยืนรออยู่ที่ใต้ร่มไม้ เขาจึงถามขึ้นว่า
                             " ได้ตัวมั้ย "
                             " เพื่อนเก่าเราครับ ไอ้เสือดำตัวที่จะขย่ำคุณหญิง ผมเห็นมันหมอบอยู่ที่หลังก้อนหินใหญ่
ก้อนนั้น " รพินทร์ชี้ไปที่ก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งที่อยู่ด้านข้าง แล้วก็พูดต่อว่า
                            " ผมเห็นหัวมันแว๊บนึง มันหดหัวหลบ ผมจึงแกล้งเดินเลยออกไป แล้วย่องกลับมา เห็นก้น
มันโผ่ลออกมา ผมเลยยิงเข้าไปโดนอย่างจัง มันดิ้นตีแปลง ผมจะเข้าไปซ้ำ แต่ก็เหมือนครั้งก่อน ไม่ทันทีผมจะ
ได้ยิงซ้ำ มันลุกขึ้นแล้วก็วิ่งหรีไปหน้าตาเฉย พวกคุณลองไปดูร่องรอยที่มันทิ้งไว้สิครับ "
                             ไชยยันนำหน้าทุกคนไปดูทันที เมื่อไปถึง ก็เห็นแต่รอยที่มัตีแปลงไว้ ทั้งหญ้า ต้นไม้เล็กๆ
หักราบเป็นแปลงเลย ไชยยันเข้าไปตรวจดูอย่างละเอียด แล้วร้องออกมาว่า
                         " ไม่มีรอยเลือดแม้แต่หยดเดียว มันยังไงกันว่ะ "
                         " นายใหญ่มาดูรอยเท้าที่มันทิ้งไว้สิครับ มันใหญ่มาก ผมไม่เคยเจอรอยเท้าเสือดำที่ใหญ่โต
ขนาดนี้เลย " จันตะโกนบอก
                         ทุกคนรีบเข้าไปดูรอยเท้าที่มันทิ้งไว้แถวข้างก้อนหิน ซึ่งดินแถวนี้เป็นดินอ่อนซุ่ย รอยเท้าจึง
ชัดเจนมาก
                       " โห จากรอยที่เห็นนี่ ถ้ามันตบหัวใครคงคอหักตายในทีเดียวเลย แม่เจ้า นี่มันจ้องตามล่าพวก
เราเลยนะนี่ " ไชยยันพูดขึ้นเสียงสั่นๆ
                       " ไม่ได้การแล้วรพินทร์ ผมว่านี่ไม่ใช่การบังเอิญที่เรามาพบมันเข้าแล้ว แต่เป็นการมาดักทำร้าย
คนหนึ่งคนใดในพวกเราแน่นอน เพราะเราส่งเสียงดังกันมาตลอดทาง ถ้าเป็นเสือตัวอื่นก็เตลิดหนีไปไกลแล้ว
ไม่หมอบอยู่อย่างนี้หรอก " เชษฐาพูด
                       " เจอช้างผียังทันหายขวัญเสีย นี่ต้องมาเจอเสืออีกแล้วหรือนี่ โอ้ยจะบ้าตาย มามะเรี่ยงหน้าเข้า
มาเลย พ่อจะล่อมันด้วนปืนกระบอกนี้ล่ะว่ะ " ไชยยันตะโกนโวกเวก
                      " โฮก หึมม.... "
                       เสียงเสือดังขึ้นอย่างกระทันหัน ทุกคนประทับปืนเตรียมพร้อม หันปลายกระบอกไปรอบๆ บุญคำ
เพียงคนเดียวที่ไม่ได้ประทับปืน แต่แกกลับนอนลงกับพื้นเอาหูแนบติดดิน แล้วแกก็เงยหน้าขึ้นมาบอกทุกคนว่า
                      " มันไปแล้วครับ ตอนที่พรานใหญ่ยิงมัน มันคงเจ็บแล้วก็ตกใจเลยวิ่งหนีไป พอหายเจ็บก็ย่องวก
กลับมาอีก ไอ้นี่ร้ายจริงๆ "
                      " เป็นไงไชยยัน ขี้จุกตูดเลยมั้ย ท้ามันดีนัก นี่มันส่งเสียงรับคำท้าแล้วเห็นมั้ย " ดารินว่าเข้าให้
                      " ผมว่ามันเอาเราแน่ เห็นทีจะต้องระวังกันอย่างเต็มที่ พวกเรามีใครบ้างที่ใช้กระสุนหัวอ่อน ก็ขอ
ให้เปลี่ยนมาใช้ชนิดหัวแข็ง ถ้าไม่มี คืนนี้เบิกได้ที่ไชยยัน เอาให้เต็มอัตรา เราคงจะต้องพบศึกใหญ่กันอีกครั้ง
แล้ว ยังไม่รู้ว่าไอ้พวกช้างผีนั่น จะวกกลับมาเล่นงานเราอีกมั้ย " เชษฐาสั่งการ
                      " ผมว่ามันแปลกๆ เหมือนกับมีอะไรรอเราอยู่ มันจ้องที่จะทำร้ายพวกเรา และมันยังมีอำนาจบง
การสัตว์ที่ดุร้ายมาทำร้ายเรา " บุญคำพูดขึ้น
                      " แล้วอะไรล่ะ รพินทร์ คุณจะไม่แสดงความคิดเห็นอะไรเลยหรือคะ " ดารินถาม
                      " ผมเองก็ไม่ทราบ เลยไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ก็อย่างที่บอกไว้ คือเราจะต้องระวังและเตรียมพร้อมอยู่
ตลอดเวลา ปืนอย่าให้ห่างกาย เราก็ทำได้ดีที่สุดแค่นั้น นี่แหละคือคำแนะนำของผม " รพินทร์พูดยิ้มๆ
                      " รพินทร์คุณอย่ายิ้มแบบนี้ คุณยิ้มแบบนี้ที่ไร พวกผมแย่ทุกที " ไชยยันพูดขึ้น
                      " ก็ ' ยิ้มได้เมื่อภัยมา ' ไงครับ " รพินทร์ตอบ เขาคิดต่อไปว่า ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเบื้องหลังมันคือ
อะไร ใครที่อยู่เบื้องหลัง นาคินีได้เตือนเขาไว้แล้ว ศัตรูผู้รอคอยเป็นผู้เบื้องหลัง ' มันตรัย ' ชื่อนี้เขาจำได้ นาคิ
นีบอกเขาไว้ แต่จะให้เขาบอกนายจ้างของเขาได้อย่างไร มันเหลือเชื่อเกินไป
                      " เอาล่ะยืนกันตรงนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา เราออกเดินทางกันต่อดีกว่า " เชษฐาสั่งการ
                      ทั้งคณะจึงเริ่มเดินทางต่อ แต่เต็มไปด้วยความระแวดระวัง เดินไปด้วยความเงียบ ส่งสายตาสอด
ส่องไปทั่ว ทุกคนจัดปืนอยู่ในท่าที่จะยกขึ้นมาประทับยิงได้ทันที
                      แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตลอดเส้นทาง มีเพียงหมูป่าโทนตัวหนึ่ง เดินเซ่อเข้ามาขวางทางปีนของ
ไชยยัน มันเลยเป็นอาหารค่ำอันโอชะของคณะไปโดยปริยาย
                      รพินทร์เลือกที่ราบกลางหมู่หินที่งอกโผ่ลขึ้นมาบนพื้นดินระเกะระกะมากมาย เป็นที่ตั้งแค้มป์สำ
หรับคืนนี้ โดยให้เหตุผลว่า ก้อนหินน้อยใหญ่นี้ จะเป็นเสมือนกำแพงธรรมชาติที่จะป้องกันภัยจากสัตว์ป่า จำ
พวกช้างได้เป็นอย่างดี และเขายังสั่งให้จัดเวรยามตั้งแต่หัวค่ำจนถึงรุ่งเช้าโดยเข้าเวรผลัดละสองคน สำหรับ
ผลัดแรกเป็นของเชษฐากับแงซาย ซี่งก็ผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีสื่งใดผิดปกติ
                       ผลัดที่สองเป็นไชยยันกับบุญคำ ก็ยังเงียบเชียบจนทั้งสองคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในช่วง
ผลัดของเขา
                      " นายทหารงีบก่อนก็ได้นะครับ คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก ผมอยู่คนเดียวได้ " บุญคำพูดขึ้นเมื่อ
เห็นไชยยันนั่งหาว
                      " ฉันไม่เป็นไรหรอกทนได้ อยู่สองคนดีกว่าอยู่คนเดียว " ไชยยันตอบ
                      บุญคำเลยหาเรื่องคุย เพื่อแก้ง่วงไปในตัว ทั้งสองพูดคุยกันหลายเรื่อง แต่ในที่สุดก็วกมาเรื่อง
ที่ผู้ชายทุกคนชอบพูดถึงที่สุดก็คือเรื่องของสาวๆนั้นเอง
                      " นายทหารว่า ระหว่างแหม่มมาเรียกับแหม่มคริสใครสวยกว่ากันครับ "
                      " ถ้าพูดถึงความสวย ฉันว่าคริสมีภาษีกว่าเมย์นะ " ไชยยันคิดแล้วตอบ
                      " แล้วถ้าเรื่องความเซ็กซี่ล่ะครับ ใครเหนือกว่าใคร " บุญคำถามต่อ
                        " อืม ฉันว่าพอๆกัน แต่ดูคริสจะดูเครียดแล้วก็ระวังท่าทีอยู่ ส่วนเมย์จะไม่ค่อยแคร์อะไรมาก "
                        " นายทหารรู้ได้ยังไงว่านายแหม่มไม่ค่อยแคร์อะไร สงสัยว่านายทหารเคยกับเธอแล้วใช่มั้ยถึง
ได้รู้ "
                        " เฮ้ย พูดเป็นเล่นไป ของแบบนี้เขาไม่เอามาพูดกันหรอก "
                        " ก็นายทหารเป็นซะแบบนี้แหละ เลยชวดของดี บางครั้งเราก็ไม่ควรจะเป็นสุภาพบุรุษนะครับ "
                        " พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง "
                        " ก็หมายความว่า ถ้าผู้หญิงเค้าไม่ว่าอะไร เราก็ไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเราเป็นควาย
น่ะครับ นายทหารวันนี้เราพูดแบบผู้ชายต่อผู้ชาย ผมบอกนายทหารตรงๆว่า พวกผมไม่มีใครได้เป็นควายซัก
คนเลย "
                        " หมายความว่า....."
                        " ครับ นายแหม่ม เซ็ก ซี่มาก ครับ พวกผมพิสูจน์กันแล้วทุกคน นายทหารเองก็เถอะ ได้พิสูจน์
แล้วเหมือนกัน อย่ามาอำผมให้ยากเลย สายตาความรู้สึกของผม สำหรับในป่าแล้วยั่งกับเรด้าร์ คืนวันที่หลบ
หมาป่า บังเอิญผมอยู่บนต้นไม้ใกล้ๆนายทหารกับนายแหม่ม ผมเห็นต้นไม้มันไหว ผมก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น "
                         " ได้ยินบุญคำพูดแบบนี้ ฉันอึ้งเลย หมายความว่าพวกบุญคำได้....เมย์กันทุกคน "
                         " ครับ พวกผมได้เย็ดเธอกันทุกคนแล้ว หิหิ ลีลาแหม่มแกเด็ดสะระตี่เลย ไอ้คะหยิ่นนี่ติดใจเลย
บนต้นไม้คืนนั้นมันส์มั้ยครับ "
                         " อีนี่ร่านจริงๆ "
                         " ครับ เธอร่านมาก ไอ้เกิดมันเล่าให้ผมฟังว่า คืนที่รอกันอยู่ในถ้ำ นายแหม่มทนเงี่ยนไม่ไหวจน
ต้องชวนมันกับไอ้เส่ยออกไปแอบเย็ดกันเลย พวกมันบอกว่ามันน่าดู คืนนั้นนายแหม่มเสร็จพวกมันทั้งรูหีรูตูด "
                        " เหรอ ฉันไม่รู้เรื่องเลย คราวหลังชวนฉันด้วยสิ "
                        " นายทหารไม่รังเกลียดที่จะร่วมกับพวกผมเหรอครับ "
                        " จะรังกงรังเกลียดอะไร เราผู้ชายเหมือนกัน ผู้หญิงเค้ายังไม่รังเกลียดเลย ของแบบนี้ชอบๆกัน
ทุกคนแหละ คราวหน้าอย่าลืมบอกฉันไปร่วมด้วยนะ มีของเด็ดๆต้องแบ่งกันสิ " ไชยยันพูดด้วยน้ำเสียงหื่น
                         " ครับ ผมไม่ลืมแน่นอนครับ " บุญคำตอบอย่างดีใจ เพราะแกสามารถหาแนวร่วมได้อีกคน
นึงแล้ว แถมยังเป็นนายจ้างเสียด้วย
                        " เอ้อ ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ ฉันสังเกตุมานานแล้วว่า น้อยกับรพินทร์พวกเขาชอบๆกันอยู่
ใช่มั้ย "
                       " อ้าวนี่นายทหารไม่รู้หรือครับ ผมนึกว่ารู้แล้วเสียอีก ครับ เจ้านายของผมกันายหญิงเค้าใจตรง
กันครับ "
                      " แล้วพวกเค้ามีอะไรกันรึยัง " ไชยยันถามลึกลงไปอีก
                      " ผมจะตอบดีมั้ยนี่ เดี๋ยวเจ้านายผมจะแย่เอา "
                     " ตอบมาเลย ผมไม่ว่าอะไรหรอก ถึงจะมีอะไรกัน ก็ไม่เห็นแปลก เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว "
                    " ผมค่อยโล่งอกหน่อย คือพวกเขามีอะไรกันมานานแล้วครับ แต่ยังไม่ยอมรับ คงเพราะกลัวว่าจะ
ถูกขัดขวาง "
                     " ไม่มีการขัดขวางหรอก ฉันกับเชษฐาให้อิสระเต็มที่ในการที่น้อยจะเลือกคู่ครอง รพินทร์เองก็ยัง
เป็นคนที่ดีมากอีกด้วย "
                     " แล้วนายทหารไม่หึงหวงหรือเสียดายหรือครับ นายหญิงออกจะสวยอย่างนั้น "
                     " โอ้ย ฉันจะหึงจะหวงทำไม น้อยเองเปรียบเสมือนน้องสาวของฉัน "
                     " แต่นายหญิงเหมาะสมกับนายทหารนะครับ แถมยังสวยเสียด้วย หุ่นดีมาก ใครๆเห็นก็อยากทั้ง
นั้นแหละ ผมว่านายทหารต้องคิดว่อกแว่กบ้างล่ะ " บุญคำพูกลองเชิง
                     " มันก็มีบ้างในบางครั้งนะที่วอกแวกตามภาษาผู้ชายเรา ที่เห็นของสวยๆงามอยู่ตรงหน้า แต่เธอก็
เหมือนน้องก็ได้แต่เสียดาย นี่ถ้าไม่รักกันจริงฉันไม่บอกนะนี่ อย่างไงคืนนี้เราก็พูดเปิดอกกันแล้ว แต่บุญคำอย่า
เอาไปพูดต่อนะ "
                     " ครับวางใจผมได้ ผมล่ะนับถือนายทหารจริงๆ ที่อดใจได้ ถ้าเป็นผมนะ มีโอกาสใกล้ชิดขนาดนี้
น้องก็น้องเถอะ ไม่เหลือ เดี๋ยวนี้เขาไม่ถือสากันแล้วเรื่องแบบนี้ ขนาดพี่น้องท้องเดียวกันเขายังฟันกันเล้ย นับ
ประสาอะไรกับเรื่องของนายทหาร ที่ไม่ได้เป็นพี่น้องกันแท้ๆ เพียงแต่นับถือกันเท่านั้น " บุญคำพูด
                         " เอ้ะ บุญคำพูดเหมือนจะยุให้ฉันทำอะไรน้อยเขาใช่มั้ย ไม่ล่ะ ยิ่งตอนนี้เธอมีแฟนแล้ว ฉันยิ่ง
ไม่ควรทำใหญ่ เดี๋ยวรพินทร์จะได้ยิงฉันเข้าให้ บอกตรงๆยังไม่อยากตาย "
                         " โอ้ย อย่าเข้าใจผมผิดครับ ที่ผมพูดนี่ หมายความถึงถ้าเป็นคนอื่นๆ ที่เป็นพี่น้องกันครับ เขา
ยังมั่วกันเลย เขาไม่ยอมให้ประเพณีความเชื่อมาขวางความสุขของเขาหรอก เห็นมั้ย ผมไม่ได้หมายถึงนาย
ทหารกับนายหญิงซักกะหน่อย หรือถ้ามันจะเป็นจริงๆ นายรพินทร์คงไม่ว่าอะไรหรอก เพราะเมื่อมาอยู่ในป่า
ที่ไม่รู้อนาคต ไม่รู้จะมีวันพรุ่งนี้สำหรับเราหรือเปล่าแบบนี้ มันเป็นความเครียดอย่างยิ่ง แล้วก็ไม่มีการระบาย
อะไรที่จะดีไปกว่าการเอากันอีกแล้ว ในป่าเองก็ขาดแคลนเพศตรงข้าม ฉะนั้นการที่ต้องยืมกันใช้บ้าง มันก็น่า
ให้อภัยครับ ในป่าเค้าไม่มาหวงกันหรอกครับ ฉะนั้นถ้ามันจำเป็น หรือมีเหตุการณ์ที่ต้องตกกะไดพลอยโจน
ก็กระโจนไปเถอะครับ ไม่ว่าผู้หญิงที่เรากระโจนใส่นั้น จะเป็นนายหญิงหรือใครก็ตาม " บุญคำพยายามหว่าน
ล้อม
                        " แต่..... " ไชยยันยังลังเลและสับสนต่อมุมมองใหม่ ของบุญคำ
                        " ไม่ต้องมีแต่เลยครับ ใครๆเค้าก็ทำกัน " บุญคำตอกย้ำไม่ให้ไชยยันลังเลอีกต่อไป
                        " อย่างงั้น แสดงว่า ถ้าบุญคำมีโอกาสที่จะทำอะไรกับน้อย บุญคำจะทำเลยใช่มั้ย " ไชยยันถาม
เสียงเครียด
                        บุญคำได้ยินคำถามนี้ ก็รู้แล้วว่า ต้องตอบให้ดี ไม่งั้นคงมีการผิดใจกัน
                        " ก่อนอื่น นายทหารต้องยอมรับก่อนนะครับว่า นายหญิงเป็นผู้หญิงที่สวยมาก จะว่าสวยที่สุด
กว่าผู้หญิงทุกคนที่ไอ้คำเจอมาเลยก็ได้ นายหญิงยังมาพร้อมกับทรวดทรงที่แทบไม่มีผู้ชายคนไหนจะต้านทาน
เธอได้ ถ้าไอ้คำไปเจอเธอที่อื่น ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ไอ้คำคงจะต้องหาทุกวิถีทางที่จะจัดการกับเธอแน่ๆ และ
นายทหารหรือใครๆก็คงเป็นเหมือนไอ้คำเหมือนกัน สำหรับที่นี่ นายหญิงเป็นที่เคารพรักของไอ้คำ แต่เธอก็ยัง
เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ที่ไม่มีผู้ชายคนใดต้านทานได้เช่นเดิม ถ้าถามไอ้คำว่า จะทำอะไรเธอมั้ย ก็ขอตอบว่า ถ้าสม
มติว่าเหตุการณ์มันเป็นใจ แล้วเธอก็ยินยอม ไอ้คำคงไม่ทำให้เธอผิดหวังครับ นายทหารอย่าโกรธผมนะ นาย
ทหารถามผมอย่างลูกผู้ชาย ผมก็ตอบแบบลูกผู้ชายเหมือนกัน " บุญคำสาธยายยาวยืด
                          "เอาล่ะ เมื่อบุญคำกล้าตอบฉันตรงๆ ฉันก็ไม่โกรธบุญคำหรอก อีกอย่าง น้อยก็สวยมากจริงๆ
ถ้าไม่ใช่พี่น้องกัน ก็คงจะไม่มีใครต้านทานเธอได้อย่างที่บุญคำบอก "
                        " ยิ่งพวกผมได้เห็น ขอโทษอีกครั้งนะครับที่ผมจะพูดเรื่องต่อไปนี้ ถ้าใครได้เห็นภาพตอนที่พวก
เธอ คือ นายหญิงกับนายแหม่ม โดนไอ้พวกสางเขียวมันรุมข่มขืนล่ะก็ คงต้องหวนคิดไม่ได้ว่า ถ้าเป็นเรา ก็คง
ทำแบบพวกมันเหมือนกัน ตอนนั้นพวกผมแม้จะโกรธแสนโกรธ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดอารมณ์ร่วม ขอโทษอีก
ครั้งนะครับ ตอนนั้นพวกผมทุกคนเอ็นแข็งกันหมด นายหญิงกับนายแหม่มในสภาพเปลือยเปล่าไร้้สิ่งใดมาปก
ปิด ผมได้เห็นทุกซอกทุกมุมของพวกเธอ มันเป็นภาพผู้หญิงที่เย้ายวนที่สุด ผมได้เห็นภาพที่พวกเธอถูกท่อน
เอ็นท่อนมหึมา สอดแทรกเข้าไปในร่างพวกเธอจนมิด พวกเธอหวีดร้อง แต่พวกมันก็ไม่ปรานี ยังคงตะบันท่อน
ของมันเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงหวีดร้องของพวกเธอแผ่วเบาลง กลายเป็นเสียงครวญครางปรนเปไปกับ
เสียงกระทบกันระหว่างโหนกกับหนอกดัง ป้าบๆๆๆๆ เสียงหอบหายใจด้วยความสุขเสียว ภาพการบิดเกร็งยาม
ยามถึงจุดสุดยอด สายตาเชิญชวนยามสติแตกของพวกเธอ พวกมันเข้าไปคนแล้วคนเล่า บ้างครั้งพวกมันรุม
เธอที่ละสองสามคน พวกเธอก็รับได้ไม่เพลี้ยงพล้ำ พวกมันอุ้มเธอมาเอาตรงหน้าพวกผม ภาพท่อนเอ็นวิ่งเข้า
วิ่งออก เสียงครวญครางด้วยความเสียว เสียงการกระแทกกระทั้น มันอยู่ต่อหน้าห่างไม่ถึงคืบ ละอองน้ำยาม
มันกระแทก ยังปลิวมาโดนหน้าพวกผมที่จ้องมองอยู่เลย ผมถามนายทหาร ถ้าท่านเจอแบบพวกผมจะคิดยังไง
ไม่คิดเข้าไปแทนที่พวกมันบ้างเหรอ " บุญคำถาม
                           ไชยยันที่นั่งฟังบุญคำเล่าจนอดจินตนาการตามไม่ได้ เขายอมรับว่า ถ้าเขาได้เห็นภาพแบบ
นั้น เขาก็คงจะอดใจไม่ไหว ภาพคงค้างคาใจเขาไปจนวันตาย
                           " เล่าจนเห็นภาพเลย ฉันเห็นใจนะ แต่เราควรนึกเห็นใจพวกเธอนะ ที่พบเจอกับเหตุการณ์
แบบนั้น บุญคำพูดจนฉันไม่กล้ายืนเลยนะนี่ มันแข็งจนปวดไปหมดแล้ว สงสัยต้องอาศัยนางทั้งห้าช่วยเสียล่ะ
กระมังคืนนี้ " ไชยยันพูด
                            " ถ้านายทหารไม่อยากใช้นางทั้งห้า โน่นตัวช่วยออกมาแล้ว คงจะออกมาล่าเหยือตามเคย
ไปซิครับ เดี๋ยวไอ้คะหยิ่นมันจะคว้าไปซะก่อน มันยิ่งด่าพวกไอ้เกิดด้วยว่าคืนนั้นไม่ยอมชวนมัน " บุญคำบอก
พร้อมกับบุ้ยปากไปทางเต็นท์
                             ไชยยันหันมองตาม เขาเห็นมาเรียเดินออกมา กำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขา
                             " จะดีเหรอ เธออาจจะมาหาบุญคำก็ได้นะ "
                             " นายแหม่มแกไม่เลือกหรอก ขอให้มีไอ้นั้นก็พอ คุณก็วัวเคยขาม้าเคยขี่กันอยู่แล้วนี่ ไม่จำ
เป็นต้องเกรงใจผมหรอก เดี๋ยวผมจะลุกออกไป นายทหารนั่งรอเธออยู่ที่นี่แหละ ก้อนหินใหญ่ๆแถวนี้เยอะแยะ
เลือกเอา ว่าจะใช้ก้อนไหน แต่ระวังเรื่องเสียงนะครับ พรานใหญ่แกนอนไว ผมจะเฝ้าเป็นยามให้เอง " พูดจบแก
ก็ขยิบตาให้แล้วลุกเดินออกไป
                         ความจริงมาเรียไม่ได้ออกมาเพื่อหาท่อนเอ็นมาดับความใคร่อะไรเลย เพียงแต่เธอปวดฉี่จนทน
ไม่ไหว จึงออกมาเพื่อไปหาที่ไปฉี่ พอเธอเห็นไชยยันกับบุญคำนั่งยามอยู่ที่กองไฟ จึงคิดจะชวนใครคนใดคน
ไปเป็นเพื่อน เธอจึงเดินไปที่คนทั้งสองนั่งอยู่ แต่พอไปถึงก็เห็นบุญคำลุกออกไปเสียแล้ว
                         " ทำไมคุณลุกขึ้นมาตอนดึกๆแบบนี้ เป็นอะไรหรือเปล่า มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ "ไชยยันทัก
ขึ้นเมื่อมาเรียเดินมาถึง
                          "คือว่าฉันปวดฉี่น่ะ เลยออกมา ว่าจะชวนบุญคำไปเป็นเพื่อนซักหน่อย แล้วนี่แกไปไหนเสียล่ะ
เห็นแว่บๆ "
                          " ให้ผมไปแทนก็ได้ครับ " พูดจบเขาก็ลุกขึ้นเดินนำไปที่หลังก้อนหินใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปจาก
แค้มป์พอสมควร
                           มาเรียที่ปวดจนแทบทนไม่ไหว เธอก็ปลดขอกางเกงรูดซิปถกกางเกงลงพร้อมกับกางเกงชั้น
ใน โชว์สะโพกขาววอก แล้วนั่งยองๆลงฉี่ โดยลืมไปว่ามีไชยยันยืนมองตาแทบถล่นอยู่
                           ภาพก้นขาววอกที่อยู่ตรงหน้า ทำให้ท่อนควยของไชยยันที่เพิ่งอ่อนตัวลง กลับแข็งขึ้นมาอีก
จนเขาต้องคล่อมตัวลงเพื่อบรรเเทาอาการเจ็บ เพราะปลายหัวถอกดันเป้ากางเกงจนแทบช้ำ
                           พอเสร็จธุระ มาเรียก็ยืนพร้อมกับดึงกางเกงขึ้น แต่ยังไม่ทันจะติดตะขอ เธอก็ต้องตกใจจนอุ
ทานออกมา เมื่อไชยยันเข้ามาสวมกอดพร้อมกับเอาเป้าสีกับร่องก้นของเธอ
                           " อุ้ย คุณทำอะไรของคุณคะไชยยัน "
                           " ก้นคุณขาวเหลือเกิน ผมทนไม่ไหวแล้ว หลังจากวันนั้น เราก็ไม่ได้พบกันแบบส่วนตัวอีกเลย
คืนนี้เรามาทบทวนความหลังกันเถอะนะ " พูดจบเขาก็เอามือบีบไปที่นมของมาเรีย
                            " โถ้ คงอยากมากสินะ ถึงได้เอาท่อนมาสีก้นฉันยังกับหมาตัวผู้แน่ะ "
                            " ก็คุณน่าอึ้บขนาดนี้ ใครจะไปทนไหว มาเราไปที่ก้อนหินกันดีกว่า เร็วสิผมปวดไปหมดแล้ว "
                             ไชยยันดันร่างของมาเรียไปจนหลังเธอพิงกับก้อนหินใหญ่ แล้วแกะกระดุมเสื้อของเธอออก
แหวะเสื้อแล้วซุกหน้าเข้าไปที่ร่องอกอวบของเธอทันที มือก็ล้วงผ่านกางเกงในเข้ากุมโหนกหี แล้วใช้นิ้วถูแตด
ไปมา เขาอมหัวนม ใช้ลิ้นดุนและเลียอย่างมูมมาม ส่วนมือก็ทำงานไม่หยุด
                          มาเรียโดนรุกขนาดนี้ เธอก็เสียวจนต้องซื้ดปาก เธอปล่อยให้กางเกงล่วงลงไปที่เท้าพร้อมกับ
สะบัดให้หลุดออกไป จากนั้นก็เอามือข้างนึงกุุมไปที่ท่อนควยของไชยยัน แล้วขย่ำเบาๆ
                          " ซื้ดสสส เสียวจัง คุณไม่ให้ฉันตั้งตัวเลยนะ เร็วๆสิ เดี๋ยวมีคนสงสัย ถอดกางเกงของคุณได้
แล้ว ซื้ดสส ฉันคันหีมาก เร็วๆ "
                          ไชยยันไม่รอช้า เขาถอดทั้งกางเกงนอกกางเกงในออกที่เดียวกันเลย จากนั้นก็ยกขามาเรีย
ขึ้นข้างหนึ่ง เอาท่อนควยยัดเข้ารูหีทันที พร้อมกับสูดปากด้วยความเสียวหัวถอก
                          " ซื้ดสสส เสียวหัวควย อึ้บ อื้อ " เขากระเด้าพร้อมกับส่งเสียงด้วยความคับแน่น
                          " ซื้ดสส กระเด้าเข้ามาลึกๆ ฉันคันไปหมดแล้ว อ่า ซื้ดสส มันส์รูจัง ดูดนมฉันด้วย น่านยังนั้น
อึ้บ ซื้ดสส ฉันเด้งรับอย่างนี้ดีมั้ยคะ อ่า อ่า อะ ซื้ดสส " มาเรียเด้งเอวแอ่นหีรับการกระทุ้งควยเป็นการใหญ่
                          " อึมมม อึ้บๆๆๆ ซื้ดสสส หีคุณนี่เย็ดมันส์เป็นบ้า ซื้ดสส เด้งหีแรงๆ อึ้บๆๆๆ โอ้ย หีคุณตอดหัว
ควยดีจริงๆ "
                          " อื้อ ซื้ดสส ฉันว่าเราเปลี่ยนเป็นท่าหมากันดีกว่า ซื้ดสส ฉันอยากให้ควยคุณพุงทะลุปากมด
ลูกฉันไปเลย ซื้ดสส "
                           " ได้ท่าไหนก็ได้ ซื้ดสสส "
                           ไชยยันดึงท่อนควยออก จากนั้นก็ให้มาเรียหันหลังโก้งโค้ง ส่วนเขาก็นั่งลงใช้ลิ้นเลียไปที่
ร่องหีอันฉ่ำเยิ้มแผล้บๆ มาเรียเสียวจนบิดก้นไปมา ปากก็ครวญครางเบาๆไม่หยุด
                            " ซื้ดสส คุณพอได้แล้ว ซื้ดสส ฉันอยากได้ท่อนควยของคุณมากกว่า เร็วกระแทกให้หีฉัน
แหกไปเลย ซื้ดสส เร็วๆสิ "
                            " ได้เลย จัดให้ นี่แน่ะ ซื้ดสส ถึงใจมั้ย อึ้บๆๆๆ " ไชยยันกระเด้าถี่ยิบ
                            " อูยยยย ซื้ดสส อ่าาาว อึ้ อึ้ อึ้ ซื้ดสส กระแทกแรงๆ  อุ้บ อะ อะ อะ อู้ยยยย เสียว เสียว รูหี
จัง ควยคุณเข้าลึกมาก โอ้ย ฉันเสียว ซื้ดสส เอานิ้วคุณแหย่รูตูดฉันด้วย ซื้ดสส ฉันชอบ ซื้ดสส นี่ถ้ามีควยอีก
สักท่อนก็ดีน่ะสิ ซื้ดสสส จะให้เย็ดตูดฉันอีกรูหนี่ง อูยยย เด้าแรงๆ เร็วๆด้วย ซื้ดสสส "
                          บุญคำที่แอบดูอยู่ ได้ยินดังนั้น ก็แทบกระโดดลงไปร่วมสนามกามด้วย แต่ก็ต้องหักห้ามใจไว้
เพราะต้องดูลาดราวให้กับไชยยัน
                           ไชยยันกระเด้าไม่หยุด เขาเสียวหัวควยจนเกร็งไปหมด รูหีมาเรียตอดหัวควยเขาตุบๆ เขาใช้
มือทั้งสองข้างรั้งสะโพกของมาเรียเข้าหาตัว สวนกับท่อนควยที่ดันออกไป หัวถอกของเขาทะลวงสีผนังรูหีเข้า
ไปกระแทกกับปากมดลูกครั้งแล้วครั้งเล่า จนมาเรียเสียวเข่าแทบทรุด
                            การเย็ดดำเนินไปอีกพักใหญ่ มาเรียก็บอกให้ไชยยันนอนลง เธอจะเป็นคนขย่มเอง ซึ่งไชย
ยันก็ทำตาม พอหีสวมควยลงไปเท่านั้น มาเรียซึ่งเอามือทั้งสองท้าวไปที่เข่าของไชยยัน เธอแอ่นยกหี แล้วทิ้ง
ตัวลงอย่างแรงจนหีกลืนท่อนควยมิด แล้วเธอก็ยกตัวสาวหีออกจากควยช้าๆ ปล่อยให้หัวควยสีกับโพร่งหีแล้ว
ซื้ดปากอย่างสะใจด้วยความเสียว จากนั้นก็เริ่มขย่มเร็วขึ้นแรงขึ้นอย่างชำนาญ
                             ไชยยันที่พักเหนื่อยไปด้วยเสียวไปด้วย ได้แต่ขยับควยหยุกหยิก เพราะหัวเข่าของเขาขยับ
ไม่ได้เนื่องจากถูกมาเรียใช้มือกดเอาไว้ เขาจึงปล่อยให้มาเรียแสดงฝีมือเองอย่างเต็มที่ ซึ่งเธอก็ไม่ได้ทำให้
เขาผิดหวังเลย เธอทั้งขย่มทั้งส่ายจนไชยยันเสียวหัวควยมากต้องสูดซื้ดปากระงมไปหมด
                              " ซื้ดสส เสียวหัวควยเป็นบ้า เมย์คุณสุดยอดจริงๆ ซื้ดสส ผมว่าคุณเอามือมาท้าวที่บ่าผมดี
กว่า ผมจะได้ช่วยเด้งเอวด้วย จะได้มันส์ขึ้นไปอีก ซื้ดสส "
                              พอมาเรียเอามือมาท้าวที่บ่าไชยยันแล้ว เขาก็ยกเข่าชันขึ้น จากนั้นก็กระเด้งควยสวนกับ
เธอทันที ทั้งสองครวญครางด้วยความเสียวที่มอบให้แก่กันอย่าถึงพริกถึงขิง
                               " อึ้บๆๆ ซื้ดสส เด้งควยแรงกว่านี้อีกไชยยัน โอ้ย ฉันเสียวรูเหลือเกิน หัวควยคุณกระแทก
ปากมดลูกฉันจนบู้บี้ไปหมดแล้ว ซื้ดสส น่านเด้งเร็วแบบนั้นแหละ ฉันชอบคุณจังไชยยัน "
                               " อื้ม ซื้ดส ผมรักคุณเลยล่ะเมย์ คุณนี่ถึงใจผมจริงๆ อึ้บๆๆๆ ซื้ดสส คุณเหนื่อยยัง เราเปลี่ยน
ท่ากันมั้ย ให้ผมเป็นฝ่ายเย็ดคุณดีมั้ย "
                                มาเรียไม่ตอบ แต่เธอถอนหีออกจากท่อนควย แล้วลงไปนอนแบอ้าขาถ่างหีรออยู่ข้างตัว
ไชยยัน ซึ่งเขาก็ลุกขึ้นจับขาทั้งสองข้างของเธอพาดบ่า กดท่อนควยยัดลงไปในรู แล้วเด้าต่อทันที ไม่ให้ขาด
ช่วง ท่านี้กระโปกของเขาฟาดเข้าไปที่บริเวณรูตูดของมาเรียดังป้าบๆๆๆ
                                " ซื้ดสส อ้าาาาว อื้อออโอ้ะ โอ้ะๆๆ อูยยยย สะๆๆ เสียวเหลือเกิน อูยยย ควยคุณคว้านรูฉัน
จนเสียวไปหมดแล้ว ร ร ร เร็วๆ โอ้ะ อู้ยย ซื้ดสสส " มาเรียครางสะท้าน
                         " อึ้บๆๆๆๆ ซื้ดสส เสียว ตอดๆๆ อู้ยยย หีคุณขมิบตอด จนหัวควยผมสะท้านเลย ซื้ดสส อึ้บๆๆ นี่
แน่ะตอดดีนัก ซื้ดสสส "
                         ไชยยันโยกตูดกระแทกท่อนควยถี่และหนักหน่วง แต่ละดอกเล่นเอาน้ำเงี่ยนแตกกระเซ็นกระ
จัดกระจาย มาเรียเสียวจนเกร็งกระตุก มือทั้งสองฟาดไปกับพื้นยังกับไม่กลัวเจ็บ ส่วนไชยยันเร่งอัดควยถี่ยิบ
เชิดหน้าหอบหายใจ สูดซื้ดปากด้วยความเสียว ทั้งสองอาการล่อแล่ใกล้ถึงจุดสุดยอด เสียงกระแทกที่ตอนแรก
พยายามให้เกิดเสียงเบาที่สุด ตอนนี้กลับไม่สามารถควบคุมได่อีกต่อไป มันดังป้าบๆๆๆ สนั่น แต่ยังดีว่าจุดนี้อยู่
ห่างจากเต็นท์พอสมควร จึงไม่มีใครได้ยิน นอกจากบุญคำที่เฝ้าระวังให้อยู่
                         " ซื้ดสส อู้ยยย เสียว ช ช ชไชย ยัน ฉันเสียวจนน้ำจะแตกอยู่แล้ว อ้าาาาา อู้ยยย เสียงหีเหลือ
เกิน ซื้ดสสส เร็วๆ อย่าหยุดนะ โอ้ยยยย น้ำ น้ำหี ฉ ฉ ฉ ฉัน ต ต ต แต แตก แล้ว ซื้ดสสส " มาเรียถึงจุดไปก่อน
เท้าเกร็งเหยียด กระตุกไปทั้งร่าง
                         " ผมก็จะแตกแล้ว ซื้ดสสส อึ้บๆๆๆๆๆ อู้ยยยยย แต แต แตกแล้ว อื้ยยยย โอ้ยยย " และแล้วไชย
ยันก็เกร็งน้ำแตกไปอีกคน
                         ทั้งสองเกร็งกระตุก ปล่อยน้ำแห่งความสุขราดรดซึ่งกันและกัน จนสงบในที่สุด ทั้งสองจึงแยก
ออกจากกัน ไชยยันนอนจนบรรเทาจากอาการเหนื่อย ก็ลุกขึ้นยื่นมือไปฉุดให้มาเรียลุกขึ้นตามมา เขาสวมกอด
แล้วหอมไปที่แก้มของมาเรียฟอดใหญ่
                          " ผมมีความสุขมาก คุณนี่เยี่ยมยอดที่สุด "
                          " ฉันก็สนุกมาก คุณก็เป็นนักรักชั้นแนวหน้าเหมือนกัน ฉันไม่ผิดหวังเลย แต่ว่าตอนนี้คุณปล่อย
ให้ฉันใส่เสื้อผ้าเถอะ ฉันออกมานานแล้ว เดี๋ยวใครตื่นขึ้นมาไม่เจอฉันจะสงสัยเสียเปล่า
                          ทั้งสองใส่เสื้อผ้าแล้วออกเดินไปยังเต็นท์ด้วยกัน ไชยยันส่งมาเรียที่เต็นท์ แล้วจึงเดินไปนั่ง
ลงที่กองไฟอย่างมีความสุข
                          ส่วนมาเรียก็เดินไปล้มตัวลงนอนข้างๆดาริน
                          " ไปไหนมาตั้งนาน อย่าบอกนะว่าไปฉี่ เพราะนานขนาดนี่ ต้องฉี่เป็นสิบยี่สิบรอบแน่ๆ " ดาริน
ถาม
                           " อ้าว นี่ฉันทำให้เธอตื่นหรือน้อย ฉันไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษด้วย "
                           " ฉันตื่นตั้งแต่เธอลุกออกไปแล้ว เธอยังไม่ได้ตอบฉันเลยว่าออกไปทำอะไรมา "
                           " แล้วเธอคิดว่าฉันไปทำอะไรมาล่ะ "
                           " เธออย่าบอกฉันนะว่าเธอไปทำอย่างว่ามา "
                           " น้อย เธอนี่หัวไว รู้ทันฉันหมดเลยนะ ใช่ฉันไปหาความมันส์มา "
                           " กับใคร บอกมานะ "
                           " ไม่ต้องห่วง ไม่ใช่ยอดชายของเธอหรอก แต่ตอนแรกก็ว่าจะไปลองสรรพคุณกับคนของเธอ
สักหน่อย ก็เธอคุยเสียจนฉันอยากลอง แตไชยยันมาอาสาเสียก่อน ก็เลยให้โอกาสเขาเสียหน่อย "
                           " ไชยยันน่ะนะ ตานี่เป็นไปกับเขาด้วยเหรอ "
                           " ใช่ แถมไม่เลวซะด้วย ควยใหญ่ขยันเด้า น้ำเขาเยอะมากนี่ก็ยังไหลออกมาจากของฉันไม่
หมดเลย สงสัยจะอั้นไว้นาน เธอก็ไม่สงเคราะห์เพื่อนเธอเลย ฉันเลยต้องทำหน้าที่แทนไง "
                          " บ้า ไชยยันเปรียบเหมือนพี่ชายฉันนะ แล้วฉันก็ไม่เหมือนเธอด้วย "
                          " พี่น้องแท้ๆ เขายังเอากันได้เลย เธอกับไชยยันไม่ได้คลานตามกันมาสักหน่อย อย่าซีเรียส
ไปนักเลยน้อย บางครั้งเราก็ต้องช่วยระบายให้เขาบ้าง มีความสุขทั้งสองฝ่าย เสมอกันแล้วก็จบ "
                         " ฉันไม่พูดกับเธอแล้ว นอนดีกว่า "
                         " นี่ฉันพูดจริงๆนะ ผู้ชายน่ะเขามีความต้องการบ่อยกว่าผู้หญิงเรา ฉะนั้นพวกเขาจะเครียดมาก
ถ้าไม่มีที่ระบาย เธอเป็นหมอ เธอน่าจะรู้้นะว่า เวลาที่เสปิมส์มันครั่งอยูในลูกกระโปกของเขา ความอัดแน่นจะ
ทำให้พวกเขาปวดและจุก ยิ่งต้องมาเดินอย่างหนักแบบนี้ จะยิ่งเจ็บปวดขึ้นเป็นทวีคูณ เธอลองคิดดูสิว่า มันทร
มานขนาดไหน ฉันเคยเห็นพวกเกิดกับเส่ยแอบมองก้นเธอเวลาเธอเดิน พวกนั้นแอบกลื่นน้ำลาย ที่เป้าพวกนั้น
นูนขึ้นเป็นลำเลย แสดงว่าทนไม่ได้ที่เห็นสะโพกสุดเซ็กส์ของเธอบิดไปมา เราเป็นผู้หญิง ก็ต้องช่วยให้เขาได้
ผ่อนคลายกันบ้าง "
                         " งั้นก็เชิญเธอปฏิบัติหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ไปคนเดียวเถอะ ฉันขอตัว ของๆฉันมีไว้ให้คนที่ฉัน
พอใจเท่านั้น เอาล่ะทีนี้นอนกันได้แล้ว " ดารินเอาผ้าห่มคลุมโปง แต่มาเรียก็ไม่ยอม เธอชะโงกไปพูดเบาๆผ่าน
ผ้าห่มว่า
                         " ก็นี่ยังไง เธอก็คิดแบบนี้แหละ แล้วก็มานั่งเสียใจ เพราะเธอไม่เคยจะปฏิเสธพวกนั้นได้เลยถ้า
พวกเขาจะเอาเธอซะอย่าง หรือเธอชอบแบบถูกบังคับขืนใจ มันตื่นเต้นดีใช่มั้ยน้อย เฮ้อ ไม่รู้จะไปขัดขืนทำไม
เย็ดกันมันส์ดีออก ราตรีสวัสดิ์อีกครั้ง " พูดจบมาเรียก็ยื่นมือไปตระปบเบาๆที่เนินกลางลำตัวของดาริน แล้วก็หัน
หลังดึงผ้าห่มนอนหลับไปอีกคน
                           ที่นอกเต็นท์ บุญคำกับไชยยันคุยกันอย่างได้รสชาติ เรื่องราวล้วนเกี่ยวข้องกับผู้หญิงในคณะ
พูดถึงคนนั้นวกไปคนนี้ จนใกล้จะถึงเวลาที่จะต้องปลุกคู่ต่อไปมาเป็นยามต่อ
                            เมื่อส่งยามกันเป็นที่เรียบร้อย ไชยยันกับบุญคำต่างก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนยังที่นอนของตน
เอง โดยเฉพาะไชยยันที่เบาเนื้อเบาตัวเพราะมีมาเรียมาสงเคราะห์ให้ พอหัวถึงหมอนเขาก็หลับไปในทันที
                            เหตุการณ์ทุกอย่างในคืนนั้นดูเหมือนปกติดี จนกระทั่งเวลาประมาณตีสามกว่าๆ ซึ่งอยู่ในช่วง
เวลาที่เกิดกับเส่ยเป็นเวรยาม ทั้งสองออกเดินดูความเรียบร้อยทั่วบริเวณแค้มป์ เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ก็
เข้าไปนั่งคุยกันเบาๆที่กองไฟที่ก่อเอาไว้ตลอดทั้งคืน บรรยากาศช่างเงียบสงบ ไม่มีแม้กระทั่งเสียงของจิ้งหรีด
เรไร ดูเหมือนหนอนแมลงต่างๆพร้อมใจกันเข้าพักผ่อนไม่ออกมาส่งเสียงหากินเหมือนเช่นเคย ทั้งเกิดและเส่ย
ต่างนั่งคุยกันอย่างสบายใจ โดยพวกเขาไม่ได้สำเหนียกถึงอันตรายที่กำลังย่างกรายเข้ามาเลย
                             ที่บริเวณหลังเต็นท์พักของพวกนายจ้าง ที่กางติดกับก้อนหินใหญ่ บัดนี้ปรากฎอสูรกายภูตผี
ขึ้นตนหนึ่ง  มันคืบคลานมาที่ผนังผ้าใบของเต็นท์จากนั้นก็ยืดตัวลุกขึ้น  มันช่างเป็นภาพที่น่าเกลียดน่าสะพรึง
กลัวกระไรเช่นนี้ ร่างขอมันไม่ใหญ่โตเท่าไร ขนาดสูงเพียงฟุตกว่าๆเท่านั้น ศีรษะโตตัวเล็ก ไม่มีขนหรือผมงอก
เงยออกมาเลย เนื้อตัวเหี่ยวย่น ตาทั้งสองปูดกลมโต แขนยาวจนละพื้น มีน้วมือและเท้าเพียงข้างละสามนิ้ว แต่
เล็บที่งอกออกมาจากนิ้วเท้านั้นช่างยาวและแหลมคมมาก ที่กลางลำตัวของมันมองเผินๆก็นึกว่ามันมีหางท่อน
ใหญ่ยาวไปทางด้านหลัง แต่พอมองชัดๆ กลับไม่ใชหาง แต่เป็นอวัยวะที่บางบอกเพศของมัน ใช่แล้วมันคือลำ
ควยของมันเอง แต่ว่ามันช่างใหญ่โตอะไรเช่นนี้ ขนาดยังไม่แข็งตัว ยังมีขนาดเท่าแขนเด็ก ถ้ามันแข็งตัวล่ะ
                         มันค่อยย่องไปจนจะชิดผนังผ้าใบ ทันใดนั้น มันก็ยกเท้าขึ้นมา มันเอาเล็บเท้าที่แหลมคม กรีด
เบาๆไปที่ผนัง ผ้าใบฉีกขาดตามขนาดที่มันกรีด ไม่มีสำเหนียกใดๆที่บ่งบอกว่าคณะนายจ้างที่นอนอยู่ข้างใน จะ
รับรู้ถึงการมาของมัน ทุกสิ่งทุกอย่างในเต็นท์ยังสงบเป็นอย่างยิ่ง จะมีก็เป็นเพียงกรนของของคนที่กำลังหลับ
ลึก คงจะไม่มีใครที่จะตื่นขึ้นมาง่ายๆแน่
                         เจ้าอสูรกายตนนั้นเอื้อมมือไปแหวะผ้าใบให้กว้างออก แล้วมันก็พลุบตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว
และเงียบกริบ มันเดินเข้าไปมอง และใช้จมูกดมสำรวจไปทั่ว จนไปถึงดารินที่กำลังนอนหงายอยู่ มันจ้องไปที่
วงหน้าอันงามพริ้ม ดวงตามันเบิกโพรง มันมองต่อไปตลอดลำตัวที่โผ่ลนูนดันผ้าห่มขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่าง มัน
เคลื่อนตัวเข้าไปสูดดมตามร่างของเธออย่างละเอียด ดวงตามันลุกวาวใหญ่ขึ้น ดั่งจะมองทะลุผ้าห่มและเสื้อ
ของเธอเข้าไปถึงเนื้อในอันขาวผ่อง มันก้มจนชิดผ้าห่ม สูดดมไปจนถึงหว่างขาของเธอที่อ้าออกเล็กน้อย มัน
ผงะยืดตัวขึ้น ท่อนเอ็นกลางลำตัวมันพองใหญ่ขึ้น แล้วงัดตัวเด้งมาผงาดที่ด้านหน้า หัวบักเขียวคล้ำบานใหญ่
พาดไปบนร่างของดารินชนตำแหน่งสำคัญของเธอพอดี
                          มันก้มตัวจับลำควยงัดกับไปด้านหลัง แล้วเอื้อมมือลงไปเผยอชายผ้าห่มขึ้น จากนั้นก็มุดตัว
เข้าไปซุกอยู่ที่หว่างขาของดาริน
                          มันใช้จมูกสูดดมไปที่บริเวณเนินสวรรค์ของเธอ ที่มีเพียงกางเกงในคลุมอยู่ เพราะก่อนนอน
เธอเปลี่ยนมาเป็นชุดนอนแบบคลุมตัว และบัดนี้ชายชุดคลุมมันได้ถลกรั้งขึ้นมากองอยู่ที่บริเวณท้องน้อยของ
เธอ
                          มันแลบลิ้นออกมายาวเหยียด เลียแพร่บไปที่ร่องกลางรอยนูน มันเลียอยู่สองสามครั้ง จากนั้น
ก็ใช้ฟันอันคมกริบ ขบรั้งเป้ากางเกงในให้สูงขึ้น แล้วกัดฉับ เป้ากางเกงในก็ขาดอย่างง่ายดายโดยที่ดารินไม่รู้
สึกตัวเลย
                          หลังจากนั้นมันก็ใช้ลิ้นเลียและฉกไปที่เม็ดแตดของดารินอย่างแผ่วเบา จนเธอเริ่มบิดตัวไปมา
แล้วพูดเบาคล้ายละเมอออกมาว่า
                          " ไม่เอานะคะรพินทร์ น้อยง่วงจัง " ที่แท้เธอกำลังฝันว่า ถูกรพินทร์เลียหีอยู่
                          ตัวประหลาดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของดาริน แต่เมื่อรอสักพัก ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆเกิดขึ้นอีกมัน
จึงงานของมันอีกครั้ง  คราวนี้มันโยงตัวลุกขึ้น แล้วงัดท่อนควยของมันออกมาข้างหน้า เอาหัวบักเขี่ยไปตาม
ร่องแคมที่มีน้ำลายของมัน และน้ำเงี่ยนของดารินชุ่มปนเปกันอยู่ ดารินขยับขาอ้าออกด้วยความเสียง เธอคราง
ออกมาเบาๆด้วย ตัวประหลาดมันยังเอาปลายถอกเขี่ยที่เม็ดแตดใหญ่ของเธอที่ลุกชูชันอยู่ไปมา เธอเสียวจน
ละเมอแอ่นกระดกหีขึ้นสู้
                          ปลายหัวถอกของไอ้ตัวประหลาดบัดนี้มีน้ำเหนียวเขียวขุ่นไหลหยดออกมาเปรอะไปทั่วเนิน
สวรรค์ ขาของดารินอ้ากว้างออกอีกดั่งจะเชิญชวน เธอแอ่นหีขึ้นสู้กับปลายถอก จนบางครั้งมันผลุบเข้าในระ
หว่างเนื้อแคม ซึ่งเธอก็ต้องซื้ดปากเบาๆทุกครั้ง
                           ไอ้อสูรกายเองก็เริ่มทนไม่ไหว มันตัดสินใจเอามือจับยึดที่บั้นเอวของดาริน จากนั้นก็โก่งตูด
ขึ้น เอาปลายถอกจิ้มที่ปากแคม แล้วกดควยยักษ์ลงไปอย่างแรง จนท่อนควยจมหายไปจนมิดหัวบัก มันเชิด
หน้าขึ้นครวญครางออกมาเบาๆด้วยความเสียว
                           ขณะนั้นเอง ดารินก็รู้เจ็บและเสียวจนงัวเงียตื่นขึ้น เธอรู้สึกตึงแน่นที่โหนกหี เธอจึงเอามือไป
คลำดู เธอก็ต้องตกใจ เพราะสิ่งที่มือเธอคลำถูก คล้ายท่อนเนื้อของผู้ชายซึ่งบัดนี้มันปักอยู่ในรูหีเธอ แล้วมันก็
ไม่อยู่นิ่งเสียด้วย ตัวท่อนเหมือนถูกกดลงไปอีก เธอต้องสูดปากด้วยความเสียว
                           ดารินมองลงไปที่กลางลำตัว เธอเห็นอะไรไม่รู้อยู่ในผ้าห่มของเธอ มันพยายามจะดันท่อนอะ
ไรของมันเข้าไปในรูเธออีก เธอตกใจมากจนร้องออกไป
                           " กรี๊ด ๆๆๆ "
                           ทุกอย่างดูชุลมุนไปหมด ก่อนอื่นไอ้ตัวประหลาดมันตกใจ ชักท่อนควยออกจากรูหีดารินอย่าง
กระทันหัน แล้วรีบมุดออกจากผ้าห่มเผ่นหนีออกไปทางช่องที่มันเข้ามา
                           ดารินรีบลุกขึ้นยืนตะลึงมองตัวประหลาดหนีออกไป
                           คนอื่นๆในเต็นท์ต่างตกใจตื่น มองมาที่ดาริน
                          เกิดกับเส่ยพอได้ยินเสียงกรีดร้องของดาริน ก็วิ่งมายังเต็นท์ของนายจ้าง
                           ทุกคนที่เหลือ ต่างตกใจตื่น หันไปมองหน้ากัน แล้วก็ลุกขึ้นวิ่งตามเกิดกับเส่ยไป ซึ่งก็รวมถึง
รพินทร์ด้วย
                          " มีอะไรเกิดขึ้นน้อย " เชษฐาถามด้วยความตกใจ
                          " มีตัวประหลาด มันมุดเข้ามาในผ้าห่มของน้อยคะ น้อยตกใจเลยร้องแล้วลุกขึ้น " ดารินตอบ
เสียงสั่น แต่เธอก็มีสติพอที่จะไม่บอกว่าเธอโดนไอ้ตัวประหลาดมันลักหลับ
                          " ไหน ไหน มันอยู่ไหน " ไชยยันถาม
                          " มันหนีหายออกไปทางนั้นคะ " ดารินตอบพร้อมกับชี้บอกไปทางผนังด้านหลังของเต็นท์
                          รพินทร์ซึ่งเข้าเต็นท์มาพอดีได้ยินเสียงตอบของดาริน เขารีบเข้าไปดูที่ผนังเต็นท์ด้านนั้นทันที
                         " มีรอยฉีกขาดของผ้าใบอยู่ครับ " รพินทร์พูดขึ้น แล้วหันไปสั่งคนของเขาว่า ทุกคนออกไปค้น
หาดู อาจจะเจอตัวมันซุกซ่อนอยู่ตามซอกหินด้านหลังเต็นท์ก็ได้ "
                         " น้อย เธอได้รับอันตรายอะไรหรือเปล่า " คริสติน่าถาม แล้วเข้ามาสำรวจไปตามตัวของดาริน
                         " ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอก ขอบใจมากคริส "
                         " มันเป็นตัวอะไรน้อย เห็นชัดมั้ย " เชิดวุธถามขึ้น
                         "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เห็นไม่ถนัดนัก รูปร่างคล้ายเด็กอายุสองขวบ แต่เนื้อตัวดำคล้ำเหี่ยวย่น
หัวโต เห็นแค่นี้แหละ มันรวดเร็วมาก "
                         " ไอ้ห่าเอ้ย ดันเข้ามาถึงในเต็นท์ พวกเราต้องระวังให้มากกว่านี้แล้ว "
                         " เดี๋ยวน้อย พี่ฟังจากลักษณะที่เธอบรรยายแล้ว จะเป็นไปได้มั้ยว่า มันเป็นเพียงลิงตัวนึง ไม่ใช่
ตัวประหลาดอะไร " เชษฐาสันนิฐาน
                         " น้อยก็ไม่ทราบเหมือนกันคะ แต่เท่าที่น้อยสัมผัสถูกตัวมัน รู้สึกว่ามันจะไม่มีขนนะคะ จะเป็น
ลิงพันธุ์ที่ไม่มีขนหรือเปล่า " ดารินตอบออกไป แต่ในใจเธอมั่นใจว่าไม่ใช่ลิงแน่นอน เพราะถ้าเป็นลิงคงจะไม่มี
ควยท่อนใหญ่ขนาดนั้น เมื่อคิดถึงตรงนี้เธออดใช้มือคลำไปที่หว่างขาเธอไม่ได้ เธอยังรู้สึกตึงๆรูหีอยู่เลย มัน
ใหญ่มาก ขนาดเข้าไปแค่นิดเดียวยังขนาดนี้ ถ้าเข้าไปทั้งท่อน รูหีของเธอไม่รู้จะฉีกยับไปถึงไหน คิดแล้วอด
สยิวจนขนลุกไม่ได้
                           " ไม่ใช้ลิงหรอกครับ " เสียงรพินทร์ดังขึ้นที่แถวผนังเต็นท์
                           " ทำไมคุณถึงแน่ใจว่าไม่ใช่ลิงล่ะรพินทร์ "เชษฐาถาม
                           " มีรอยเท้าที่มันทิ้งไว้ที่ตรงนี้ครับ มันมีเพียงสามนิ้วครับ ถ้าเป็นลิงก็ต้องเป็นลิงที่ไม่เคยปรา
กฎในที่ใดในโลก เพราะเท่าที่ผมรู้ ลิงทุกสายพันธุ์เท่าที่เคยสำรวจเจอ ล้วนแล้วแต่มีนิ้วเท้าห้านิ้วเหมือนกัน
หมด แต่ขอให้ทุกท่านรอสักครู่ คนของผมออกค้นหาแล้ว อาจจะมีคำตอบก็เป็นได้ "
                            ทุกคนในเต็นท์ ทะยอยเดินไปดูรอยเท้าที่ตัวประหลาดทิ้งเอาไว้หลายรอย แต่ทุกคนก็จนปัญ
ญา ที่จะสรุปว่าเป็นรอยเท้าของสัตว์ป่าชนิดใด
                            ทันใดนั้น แงซายก็เข้าเต็นท์มาพร้อมๆกับทุกคนที่ออกติดตาม แงซายรายงานว่า
                            " พวกผมตามมันไม่ทันครับ ดูจากรอยเท้าของมันแล้ว น่าจะเป็นสัตว์คล้ายลิง ตัวเล็กน้ำหนัก
เบา เดินวิ่งด้วยสองเท้า มีหางที่หนักและใหญ่ เพราะมีรอยลากไปกับพื้นเป็นทาง มันหายไปทางด้านหลังเต็นท์
ที่เต็มไปด้วยก่อนหินครับ การตามรอยคงยาก เพราะเป็นพื้นหิน รอยเท้าจึงเห็นเป็นช่วงๆเท่านั้น "
                           " มันมีมากันกี่ตัวแงซาย " เชิดวุธถามขึ้น
                           " เท่าที่เห็นจากร่องรอย น่าจะมีเพียงตัวเดียวครับ รอยเท้าที่เห็นเป็นรอยเท้าของสัตว์ ที่ผมไม่
เคยพบเห็นมาก่อนเลย จึงไม่รู้ว่ามันเป็นสัตว์ชนิดไหน แต่มีข้อสังเกตุว่า มันเดินด้วยสองเท้าครับ " แงซายราย
งาน
                          " เอาล่ะ ตอนนี้พวกเราคงจะยังสรุปไม่ได้ ว่ามันเป็นตัวอะไร ฉะนั้นเราก็ไม่ต้องไปกังวลกับมัน
มากนัก เอาเป็นว่าพวกเราไปพักผ่อนต่อกันได้ ขอบใจทุกคนที่เป็นห่วง เอาล่ะแยกย้ายกันไปนอนต่อได้ " เชษ
ฐาสั่ง
                           พรานทุกคนจึงออกไปจากเต็นท์ โดยเฉพาะรพินทร์ เขาอดมองไปที่แม่ดอกฟ้าของเขาด้วย
ความเป็นห่วงไม่ได้
                           ทุกคนในเต็นท์ต่างก็แยกย้ายกันไปนอนในที่ของตัวเอง ดารินและมาเรียก็เช่นเดียวกัน เธอ
ทั้งสองมุดผ้าห่มนอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน
                          " มันมุดเข้าผ้าห่มไปทำอะไรเธอเหรอน้อย " มาเรียกระซิบถามแผ่วเบา
                          " ฉันไม่รู้ พอมันกระทบตัว ฉันก็ตกใจตื่น เลยไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรฉัน " ดารินโกหกหน้าตาเฉย
                          " ฉันว่ามันต้องเป็นตัวผู้แน่ๆ พอมันเห็นเธอ เลยเกิดอารมณ์อยากผสมพันธ์ มันทำอะไรเธอไป
บ้างหรือยัง บอกฉันมาเถอะ "
                          " บ้า เธอนี่บ้าจริงๆ ในสมองของเธอคงจะมีแต่เรื่องนั้นสินะ ถึงคิดได้ขนาดนี้ นอนได้แล้ว " ดา
รินหน้าแดงจนร้อนไปหมด ที่มาเรียพูดเข้ากลางใจดำของเธอเลย ` เฮ้อ นี่เธอจะต้องพบเจอกับเรื่องแบบนี้อีก
เท่าไหรนะนี่ ´ ดารินคิดจนหลับไปอีกครั้ง
                          ส่วนรพินทร์ที่ออกไปนอนยังที่ของตน ก็อดเป็นห่วงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ การเดินทาง
ในวันต่อๆไป คณะที่มีเขาเป็นพรานนำนี้ จะต้องพบเจอกับอะไรอีกนะ
                          รพินทร์คิดจนเคลิ้มหลับไป ไม่รู้ว่าเขารับรู้ทางอนุสติ หรือเขาฝันไป เขาได้ยินเสียงของนาคินี
แว่วมาในโสตประสาทของเขาว่า
                          " รพินทร์คะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ `มหานครหลับ´ ที่บัดนี้มันตื่นขึ้น เพื่อต้อนรับคุณและคณะ โดย
เฉพาะ `จิตรางคนาง´ ที่ `มันผู้รอคอย´ เฝ้ารอด้วยจิตจดจ่อมาเป็นพันๆปีแล้ว ระวังนะคะ ระวัง "
*********************************************************
จบตอนนาคินีราคะเทวี



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น